รู้จัก“คลองภักดีรำไพ”แลนด์มาร์คสำคัญ นอกจากกู้วิกฤติเมืองจันท์จมน้ำ
รู้จัก“คลองภักดีรำไพ จันทบุรี นอกจากช่วย กู้วิกฤติเมืองจันท์จมน้ำ ตามโครงการขุดคลองผันน้ำตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่9 ยังสร้างความเจริญ ในชุมชน เป็น ”แลนด์มาร์คสำคัญ ทุนใหญ่ เช็นทรัลปักหมุดขึ้นห้างยักษ์ 80ไร่ ใหญ่สุดในภาคตะวันออก ใกล้ ร.พ. สิริเวช หมอบุญ
นอกจาก “คลองภักดีรำไพ” จะช่วยชาวอำเภอเมืองจันทบุรีให้รอดพ้นจากวิกฤติการณ์น้ำท่วมใหญ่ ในปี2564 แล้ว ตลอดแนวคลอง ยังเป็นแลนด์มาร์คใหม่ ที่สองฝากฝั่งเต็มไปด้วย ร้านอาหาร โครงการบ้านจัดสรร เพราะมีถนนขนาด2ช่องจราจร เปิดหน้าดิน ตัดคู่ขนานไปกับแนวคลอง เชื่อมการสัญจรใช้เป็นเส้นทางลัดไปยังพื้นที่อื่นได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญ มีกลุ่มทุนขนาดใหญ่อย่างกลุ่มเซ็นทรัลเข้ามาปักหมุด ซื้อที่ดิน80ไร่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างศูนย์การค้าแห่งแรกของจันทบุรี ย่านช็อปปิ้งขนาดใหญ่ที่น่าจับตายิ่งในภาคตะวันออก ใกล้กันยังมี โรงพยาบาลสิริเวชของนายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ THG เปิดให้บริการ สร้างความเจริญอย่างมากให้กับพื้นที่
“คลองภักดีรำไพ” โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองจันทบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2546 โครงการสุดท้ายในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่9(5 ธันวาคม ปี2470 – 13 ตุลาคม ปี 2559) ภายหลัง จากจันทบุรี ทั้งจังหวัด เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อ ปี2544 หรือ 20ปีก่อน สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนราษฎร์ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างโดยเฉพาะสวนผลไม้ แหล่งผลผลิตใหญ่ของประเทศเพื่อการส่งออก เพราะปัญหาเกิดจาก ถนน3เส้นทางกีดขวางทางน้ำ
โครงการขุดคลองผันน้ำ ตามแนวพระราชดำริ ฯหรือ คลองภักดีรำไพ เริ่มต้นศึกษา ออกแบบ ขุดคลองขึ้นเมื่อปี2554 พร้อมก่อสร้างประตูระบายน้ำและอาคารประกอบ ที่ความลึก 4.50 – 5 เมตร เพื่อให้สามารถผันน้ำที่มีปริมาณสูงกว่า 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นศักยภาพในการรองรับน้ำได้สูงสุดของแม่น้ำจันทบุรี เมื่อไหลผ่านพื้นที่เมืองจันทบุรีก่อนลงสู่ทะเล โดยคลองผันน้ำสามารถช่วยในการระบายน้ำของพื้นที่ได้เพิ่มขึ้น 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
แนวเส้นทางของคลองเริ่มตั้งแต่แม่น้ำจันทบุรี บริเวณหน้าฝายยางทุ่งลาซาล เทศบาลเมืองจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี ตัดผ่านทุ่งสระบาปเชื่อมคลองอ่าง ก่อนไหลลงสู่อ่าวไทยที่บ้านหนองบัว เทศบาลตำบลหนองบัว อำเภอเมืองจันทบุรี รวมความยาว 11.661 กิโลเมตร ลักษณะเป็นคลองดินขุด มีสถานีสูบน้ำ มีคลองระบายน้ำ และประตูระบายน้ำ 11 แห่ง และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ วันที่ 19 พฤษภาคม ปี 2560 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดคลองภักดีรำไพ ณ ประตูระบายน้ำปากคลองภักดีรำไพ เทศบาลเมืองจันทนิมิต จังหวัดจันทบุรี
ปี2564 จันทบุรี เกิดน้ำท่วมในเขตอำเภอเมือง อีกครั้ง เพราะความรุนแรงของพายุเกิดน้ำฝน น้ำป่า น้ำทะเลหนุน น้ำเขื่อน เข้ามาสมทบ ทำให้ช่วงค่ำของวันที่ 13ตุลาคม 2564 หรือประมาณ19.00น. ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี คำสั่งให้ประชาชนริมน้ำ จันทบุรีอพยพด่วน สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนในระแวก เป็นอย่างมากเนื่องจากเขื่อนท่าระม้า มีปริมาณน้ำเกินกว่าขีดความสามารถที่จะรองรับได้ แต่ในที่สุด จันทบุรีก็ยอดพ้นจากวิกฤติในครั้งนี้มาได้ สะท้อนจากปริมาณน้ำบนถนนแต่ละสายในชุมชน ลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะ โครงการประตูระบายน้ำคลองภักดีรำไพเป็นส่วนสำคัญในโครงการบรรเทาอุทกภัย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของชาวจันทบุรีได้อย่างแท้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เครือซีพีผนึก 200 องค์กร ประกาศเจตนารมณ์สู้วิกฤติโลกร้อน
ซีพีจับมือกลุ่มธุรกิจในเครือ และ 200 องค์กร ร่วม “ประกาศเจตนารมณ์สู้วิกฤติโลกร้อน” บนเวทีประชุมสุดยอดระดับผู้นำของไทย มุ่งเป้า สู่ยุค Net Zero “ศุภชัย”เผยสมาชิก GCNT ดันลดโลกร้อนแล้วกว่า 510 โครงการ ค่ากว่า 4.2 แสนล้านบาท
รายงานข่าวจากสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) เผยว่า ได้ร่วมกับสหประชาชาติ (UN) จัดงานการประชุมสุดยอดระดับผู้นำของประเทศไทย “GCNT Forum 2021: Thailand’s Climate Leadership Summit 2021” ภายใต้แนวคิด “A New Era of Accelerated Actions” รวมพลังองค์กรสมาชิกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กฯ ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ จัดเสวนาพร้อมร่วมประกาศเจตนารมณ์ว่าด้วย “การป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ผ่านรูปแบบออนไลน์ มีผู้นำจากภาครัฐ ประชาสังคม และภาคเอกชนจากหลากหลายองค์กรเข้าร่วม
โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนางสาวกีต้า ซับบระวาล (Gita Sabharwal) ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย เป็นสักขีพยานในพิธีประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันของภาคเอกชนและองค์กรต่างๆ กว่า 200 องค์กรทั่วประเทศ
ในการนี้ บริษัทและกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี ได้เข้าร่วมพิธีประกาศเจตนารมณ์ครั้งสำคัญในการร่วมยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศด้วย ประกอบด้วย บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด(ซีพี) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (โลตัส) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด และ บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด เพื่อร่วมเดินหน้าเร่งลงมือทำอย่างจริงจังและวัดผลได้ในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีนายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้แทนเครือซีพีร่วมประกาศเจตนารมณ์ครั้งนี้
นายศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย และประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี กล่าวแสดงความมุ่งมั่นและความตั้งใจจริงของ GCNT ในการให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วนต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศที่ภาคธุรกิจจะต้องเป็นผู้นำและร่วมสนับสนุนภาครัฐในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ โดยเฉพาะการขยายผลยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ BCG หรือ Bio-based, Circular และ Green Economy อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการสนับสนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ พลังงานสะอาด อุตสาหกรรมพื้นฐาน ชีวภาพ และธุรกิจมูลค่าสูงที่สร้างมลพิษต่ำ โดยขณะนี้สมาชิกของ GCNT ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ และที่กำลังจะมีขึ้นเพื่อช่วยขับเคลื่อนลดภาวะโลกร้อนและช่วยด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้ประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมแล้วจำนวน 510 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 420,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ หัวใจสำคัญของการปฏิรูปที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันและแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือ การส่งเสริมความโปร่งใสผ่านตัวชี้วัดด้วยการจัดทำรายงานการจัดการความยั่งยืนขององค์กรธุรกิจต่างๆในทุกปีด้วย ตลอดจนการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อความเปลี่ยนแปลงที่จะมีขึ้นในอนาคต
“เราต้องเร่งมือ เร่งการปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจไทย สู่ยุค Net Zero ให้เร็วที่สุด ให้เป็น Race to Zero อย่างแท้จริง ด้วยระบบเศรษฐกิจและสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด ต้องเร่งมือเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจสีเขียวที่เป็นธรรมแก่คนทุกกลุ่ม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ”นายศุภชัยกล่าว
ในงานเสวนาและประกาศเจตนารมณ์สู้วิกฤติโลกร้อน “GCNT Forum 2021: Thailand’s Climate Leadership Summit 2021” ครั้งนี้ เครือซีพี โดยนายสมเจตนา ภาสกานนท์ ผู้อำนวยการด้านพัฒนาความยั่งยืน สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร ได้เป็นผู้แทนเครือฯ เข้าร่วมเสวนาหัวข้อ “บทบาทของนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ร่วมกับนายอาเบล เติ้ง (Abel Deng) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด นางนาถฤดี โฆสิตาภัย. รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน) นายยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่การบริหารกลาง เอสซีจี และนายเบอร์นาร์โด คาลซาดิยา – ซาร์เมียนโต้ (Bernardo Calzadilla- Sarmiento) ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าการลงทุนและนวัตกรรม องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO)
นายสมเจตนา กล่าวว่า เครือซีพีได้แสดงความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจคาร์บอนต่ำและยั่งยืน โดยกลุ่มธุรกิจของซีพีทั้งในตลาดหลักทรัพย์ และนอกตลาดหลักทรัพย์ได้ตั้งเป้าในการนำธุรกิจทั้งหมดบรรลุสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2573 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยที่ผ่านมาเครือซีพีได้ร่วมปฏิบัติการแข่งขันเพื่อคาร์บอนเป็นศูนย์ หรือ Race to Zero ของสหประชาชาติ
โดยมีการดำเนินการ อาทิ การใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น การชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกส่วนที่เหลือ ด้วยการสนับสนุนส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าเพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจกในระยะยาว รวมทั้งนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาทำงานร่วมกับคู่ค้า เกษตรกร และผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริหารจัดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้มากขึ้นในกระบวนการการจัดซื้อวัตถุดิบทางการเกษตรเข้ามาผลิตสินค้าของซีพี
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 33.16 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่า
เงินบาทเปิดตลาด 33.16 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากปัจจัยในประเทศ จับตาสถานการณ์โควิด-ทิศทาง Flow
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.16 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.17 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์มีทิศทางผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักต่างๆ หลังความกังวลเรื่องเงินเฟ้อลดลงชั่วคราว แต่ยังมีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
“บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้เล็กน้อย จากปัจจัยภายในประเทศจากข่าวการเตรียมเปิดประเทศ โดยมีโฟล์วไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตร 3 พันล้านบาท และตลาดหุ้นอีก 1 พันล้านบาท” นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.10 – 33.25 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยภายในประเทศที่ต้องติดตามดูคือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตยังทรงตัวในระดับสูง
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ฟอร์ด ไทยแลนด์ เรซซิ่ง พร้อมลงสนามไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2021
ทีมแข่งรถฟอร์ด ไทยแลนด์ เรซซิ่ง พร้อมส่งรถแข่งใหม่ถึง 3 คัน พร้อมเผยสมาชิกใหม่ของทีมในสนามแรกรายการไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ ปี 2021 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 29 – 31 ตุลาคม นี้
กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 14 ตุลาคม 2564 – ฟอร์ด ประเทศไทย เดินหน้าสร้างความตื่นเต้นให้วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอีกครั้ง ด้วยการส่งทีมแข่งรถฟอร์ด ไทยแลนด์ เรซซิ่ง (Ford Thailand Racing – FTR) ลงสนามการแข่งขันไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ ปี 2021 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 29 – 31 ตุลาคม 2564
ในปีนี้ฟอร์ดได้เปิดตัวรถแข่งใหม่ของทีมถึง 3 คัน ได้แก่ รถแข่งในตระกูลฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ ฟอร์ด มัสแตง TA2 เครื่องยนต์โคโยตี้ อลูมิเนเตอร์ 5.2 ลิตร สองคันแรกของโลก ในหมายเลข 64 และ 88 สำหรับลงสนามครั้งแรกในรุ่นไทยแลนด์ ซูเปอร์คาร์ จีทีเอ็ม รวมไปถึงฟอร์ด เรนเจอร์ เครื่องยนต์ดูราทอร์ค 3.2 ลิตร หมายเลข 03 ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ทั้งหมดให้เหนือชั้นไปอีกขั้น สำหรับลงแข่งในรุ่นไทยแลนด์ ซูเปอร์ ปิกอัพ
มร. เคล เคิร์นส ประธานโรงงาน ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) หัวหน้าทีม FTR และนักขับอิสระ หรือ Gentleman Driver ผู้คว้ารางวัลการแข่งขันในรุ่น TAV8 เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา พร้อมลงแข่งอีกครั้งในรถฟอร์ด มัสแตง หมายเลข 64 ในปีนี้ “จากที่ได้ฟังเสียงของเครื่องยนต์ครั้งแรกก็มั่นใจได้เลยว่ารถคันนี้ต้องยอดเยี่ยมมาก ผมตั้งตารอที่จะได้ขับฟอร์ด มัสแตง ในสนามแข่งครั้งนี้” เคล กล่าว
“เราต้องขอขอบคุณทางทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ ทีมวิศวกรคอร์ลิสส์ เรซ เอ็นจิเนียริง และทีมมอสเทค เรซ เอนจินส์ ที่ทำให้ฟอร์ด ไทยแลนด์ เรซซิ่ง สามารถนำเครื่องยนต์ที่ล้ำสมัยของฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ มาประกอบกับแชสซีรถแข่งระดับโลกในรุ่นทรานส์แอม (HOWE TA2) และพัฒนาปรับแต่งให้ทำงานคู่กับระบบการเปลี่ยนเกียร์ด้วยแป้นแพดเดิลชิฟท์ แบบซีควินเชียล 6 สปีดได้” มร. เครก คอร์ลิสส์ หัวหน้าทีมวิศวกรคอร์ลิสส์ เรซ เอ็นจิเนียริง (CRE) กล่าว โดยนอกจากการนำทีมผู้เชี่ยวชาญมาทำงานร่วมกับวิศวกรฟอร์ดอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างสรรค์รถแข่งให้ทีม FTR แล้ว เครกยังพร้อมลงสนามแข่งในรถฟอร์ด มัสแตง หมายเลข 88 ในการแข่งขันซูเปอร์คาร์ จีทีเอ็ม อีกด้วย
ในปีนี้ ทีม FTR ยังดึงตัว แจ็ค เลมวาร์ดนักแข่งมืออาชีพสัญชาติไทย-เดนิช วัย 36 ปี ผู้กวาดรางวัลชนะเลิศมากกว่า 20 ครั้งจากการแข่งขันทั่วเอเชียตลอดระยะเวลา 23 ปีในวงการ มาขับฟอร์ด มัสแตงในการลงสนามครั้งแรกนี้เช่นกัน
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม FTR เพราะฟอร์ดมีชื่อเสียงระดับตำนานในประวัติศาสตร์ของมอเตอร์สปอร์ต โดยเฉพาะฟอร์ด มัสแตง” แจ็ค กล่าว “นอกจากรถฟอร์ดจะเป็นรถในดวงใจของคนไทยมาเป็นเวลาถึง 25 ปีแล้ว ฟอร์ด มัสแตงคันนี้ยังสร้างขึ้นจากดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ โดยทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญมาก ผมจึงมั่นใจว่าเราจะทำได้ยอดเยี่ยมในการแข่งขันครั้งนี้”
หลังจากได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จากการแข่งขันในปี 2563 แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค จะพาฟอร์ด เรนเจอร์ หมายเลข 03 รถกระบะดับเบิ้ลแค็บ เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค 3.2 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้น ลงแข่งในสนามไทยแลนด์ ซูเปอร์ ปิกอัพอีกครั้ง โดยรถคันนี้จะมาพร้อมระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นพิเศษ น้ำหนักตัวถังที่เบา และติดอุปกรณ์เพิ่มอากาศพลศาสตร์สำหรับสนามแข่งโดยเฉพาะ
“ผมรู้สึกขอบคุณ และดีใจเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมแข่งกับทีมฟอร์ดอีกครั้งในปีนี้” แซนดี้ กล่าว “เนื่องจากผมคุ้นเคยกับการได้ขับฟอร์ด เรนเจอร์ มากขึ้นจากการแข่งปีที่แล้ว ผมรู้สึกมั่นใจและท้าทายที่จะได้สู้ศึกในปีนี้อีกครั้งเพื่อคว้าแชมป์มาให้สำเร็จ หลังจากทีมแข่งปรับรถแข่งทุกด้านจากปีที่แล้ว ผมแทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้ลงสนาม รับรองว่าสนุกแน่นอน”
“เราเชื่อว่าการมีส่วนร่วมในกีฬามอเตอร์สปอร์ต จะทำให้แบรนด์ฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ เป็นที่จดจำในกลุ่มลูกค้าชาวไทย เพราะมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่ลูกค้าของเราให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และฟอร์ดก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรายการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งในปีนี้ เพื่อที่เราจะได้แสดงให้ผู้ชมเห็นถึงความสามารถทางวิศวกรรมของฟอร์ดบนสนามแข่ง รวมถึงสร้างความประทับใจครั้งใหม่ให้กับแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย” นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
10 สิ่งที่ควรระวัง เมื่อใช้ห้องน้ำสาธารณะ
ห้องน้ำสาธารณะ เป็นสถานที่รวมเชื้อโรคชั้นดีหากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง นอกจากต้องเลือกห้องน้ำที่สะอาด ทำความสะอาดระหว่างวันบ่อยๆ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคแล้ว ยังต้องระวังไม่แพร่เชื้อโรคจากตัวเองสู้ผู้อื่นอีกด้วย
หน่วยงานควบคุม และป้องกันการติดเชื้อ ฝ่ายพัฒนาคุณภาพ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ แนะนำวิธีใช้ห้องน้ำสาธารณะให้ปลอดภัยจากเชื้อโรคเอาไว้ ดังนี้
10 สิ่งที่ควรระวัง เมื่อใช้ห้องน้ำสาธารณะ
- เลือกห้องน้ำที่มีคนใช้น้อยๆ อาจจะเป็นโซนที่ไม่ค่อยมีคนใช้ ห้องน้ำชั้นที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน หรือห้องสุดท้ายริมด้านในสุด เป็นต้น (ข้อควรระวัง หากสถานที่ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจ หรือเงียบผิดปกติ ไม่มีคนใช้บริการเลยแม้แต่คนเดียว ควรไปห้องน้ำกับเพื่อน)
- สัมผัสกับสิ่งต่างๆ ในห้องน้ำโดยตรงให้น้อยที่สุด เช่น อาจจะวางทิชชูบนลูกบิดประตู หรือที่กดชักโครกก่อนใช้ เป็นต้น
- ทำความสะอาดที่รองนั่งชักโครกก่อนนั่งทุกครั้งด้วยทิชชู่แบบเปียกชนิดฆ่าเชื้อ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อที่ห้องน้ำสาธารณะบางที่มีไว้บริการ หรืออาจพกสเปรย์ฉีดแอลกอฮอล์ หรือวางกระดาษรองนั่งบนที่รองนั่งชักโครก ไม่นั่งลงไปบนที่รองนั่งที่เปียกน้ำ เพราะอาจเสี่ยงรับเชื้อโรคมาได้
- ไม่เหยียบบนที่นั่งชักโครก แม้ว่าจะกลัวสัมผัสกับเชื้อโรค แต่เสี่ยงชักโครกแตก และบาดเป็นแผลได้ หรืออาจเสี่ยงลื่นล้มจากที่นั่งชักโครกที่เหยียบได้ไม่สะดวก เพราะที่รองนั่งไม่ได้ถูกดีไซน์มาให้ใช้เท้าเหยียบ
- ใช้เวลาในห้องน้ำให้น้อยที่สุด ไม่นั่งโอ้เอ้จนเพลินเผลอใช้เวลานานมากเกินไป
- ไม่ควรใช้มือถือ หรือแท็บเล็ต ขณะเข้าห้องน้ำสาธารณะ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เราจะใช้มือสัมผัสสิ่งต่างๆ ในห้องน้ำ แล้วมาสัมผัสกับหน้าจอมือถือ หรือแท็บเล็ต
- ปิดฝาชักโครกทุกครั้งเมื่อกดชักโครก เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจายจากชักโครก
- หากเป็นห้องน้ำที่ใช้ขันตักน้ำจากอ่าง หรือภาชนะรองน้ำ ไม่ควรใช้น้ำจากในภาชนะรองน้ำมาทำความสะอาดอวัยวะของเรา ควรรองน้ำจากก็อกมาใช้โดยตรง เพื่อป้องกันเชื้อโรคสะสมที่อยู่ในภาชนะรองน้ำนั้นๆ
- หากเป็นห้องน้ำที่ทำความสะอาดอวัยวะด้วยสายฉีด ควรฉีดน้ำจากสายฉีดทิ้งไปก่อนราว 1 นาที เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่ปะปนบริเวณรอบๆ สายฉีด
- ล้างมือทุกครั้งที่ทำธุระเสร็จ เพราะเราอาจได้รับเชื้อโรคติดมือมาจากที่ใดที่หนึ่งในห้องน้ำ ควรล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาด และเช็ดให้แห้งด้วยกระดาษทิชชูเช็ดมือ หากที่ห้องน้ำไม่มีสบู่ สามารถล้างมือด้วยน้ำเปล่านานๆ หลายๆ ครั้งได้ หรืออาจจะใช้เจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ที่พกติดตัวมาใช้ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
รวมคำอุทาน สายฝอ ที่ไม่รู้ไม่ได้น้า
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวช่วยนึงที่จะช่วยให้บทสนทนาในภาษาอังกฤษฟังดูลื่นไหลขึ้น ก็คงจะเป็นคำอุทาน (Interjection) เพราะคำเหล่านี้ ช่วยถ่ายทอดอารมณ์ของผู้พูดไปสู่บทสนทนานั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ในระดับเฉยๆ กลางๆ ไปจนถึงรุนแรง! แต่เมื่อคำอุทานนั้นก็มีมากมาย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคำนี้ควรใช้กับสถานการณ์ไหน? วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีคำอุทานไหนบ้างที่ใช้แล้วต๊าช ใช้แล้วปัง พร้อมสถานการณ์ในการใช้ ถ้าพร้อมแล้ว ไปอ่านกันเลยยยย…
คำอุทานสื่ออารมณ์ในเชิงบวก
“ สื่อถึงความโล่งใจ ”
เมื่อเราเจอปัญหาใดที่มันยาก แล้วปัญหานั้นสามารถคลี่คลายไปได้ในทางที่ดี เราก็จะรู้สึกโล่ง เบาใจ สบายใจใช่มั้ยล่ะคะ เราสามารถใช้คำอุทาน
- Ah (อ้าาาาา~) เสียงยาวแบบนี้ บ่งบอกถึงความรู้สึกผ่อนคลายของผู้พูดได้
- Phew (ฟยู~) เสียงที่คล้ายกับเวลาลมออกจากปากเรา สื่อให้เห็นถึงความโล่งใจ เกือบไป โล่งอก
“ สื่อถึงความสำเร็จ ”
ใช้เมื่อเวลารู้สึกดีใจที่ได้ทำสิ่งใดสำเร็จ หรือสิ่งที่เราทำนั้นบรรลุผลตามที่ต้องการ เราสามารถใช้คำอุทาน
- Boo-yah (บู-ย่าา) ใช้หลังจากที่เราได้ทำสิ่งใดสำเร็จ หรือชนะการแข่งขันบางสิ่ง
- Hurray (ฮูเร่) ใช้แสดงถึงความยินดี คล้ายๆ เย้ ไชโย
- Ta-da (ทา-ดา) ใช้เวลาที่เรารู้สึกภูมิใจกับผลงาน แล้วเราโชว์ผลงานนั้นให้คนอื่นได้ดู
“ สื่อถึงความกระตือรือร้น ”
ตื่นเต้นปนดีใจกับอะไรบางอย่าง เราสามารถใช้คำอุทาน
- Whee หรือ wee (วี) แสดงถึงความตื่นเต้น หรือ ความพึงพอใจ ดีใจ สนุก กับอะไรบางอย่าง
- Woo-hoo (วู้-ฮู) ที่ไม่ใช่ใน The sims นะคะ ฮ่าๆ แต่เราจะอุทานคำนี้ เมื่อเรารู้สึกตื่นเต้น และ สนุก
- Yippee (ยิปปี้) สื่ออารมณ์ได้มากกว่า คำว่า yay เพื่อแสดงความตื่นเต้น
“ สื่อถึงความประหลาดใจ ”
เมื่อสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เราสามารถใช้คำอุทาน
- Whoa (โว้วว) ใช้เวลาเราอยากให้ใครหยุดทำบางสิ่ง หรือแสดงว่าเรารู้สึกประหลาดใจก็ได้
- Wow (ว้าววว) แสดงถึงความประหลาดใจ ปนชื่นชมกับสิ่งที่ได้เห็น ได้ฟัง
- Yikes (ไยค์ส) ส่วนมากใช้ในบริบทขำขัน สื่อถึงความประหลาดใจ ช็อค 0.0 เวลาพูดอย่าลืมเสียง s นะ
- Gee หรือ jeez (จี หรือ จีซซซ) มาจาก Jesus ใช้สื่อถึงความตื่นเต้น ประหลาดใจได้เช่นกัน
คำอุทานสื่ออารมณ์กลางๆ
สื่อถึงการรับรองว่าฉันรู้แล้ว
ทราบๆ เวลาใครพูดอะไร เราสามารถใช้คำอุทาน
- Mh-hmm (อื้อ-หืมม) เป็นการตอบแสดงถึงการยืนยันในสิ่งที่ได้ฟังว่าเรารับรู้แล้ว เข้าใจแล้ว หรือจะใช้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรากำลังคิดก็ได้
- Uh-huh (อ่าฮะะ) ใช้แทน Mh-hmm ได้เลย
- Yep (เยป) มาจาก yes ที่แปลว่าใช่ ใช้เพื่อคอนเฟิร์ม หรือแสดงความเห็นด้วย
สื่อถึงการขอความเงียบ
เวลาใครพูดอะไรเสียงดังเกินกว่าเรา เราสามารถใช้คำอุทาน
- Ahem (อะแฮ่ม) ใช้บ่อยมากก่อนที่เรากำลังจะพูดผ่านไมค์ สื่ออย่างนัยๆว่า จะเริ่มพูดแล้วนะ
- Shh (ชู่วววว) ใช้ได้บ่อย และหลายสถานการณ์มาก แสดงว่าให้ทุกคนเงียบ
คำอุทานสื่ออารมณ์ในเชิงลบ
สื่อถึงความขยะแขยง
ใช้เวลาเราเจอสิ่งที่ไม่ชอบ หรือเกลียด เช่นหน้าแฟนใหม่เธอเป็นต้น! เราสามารถใช้คำอุทาน
- Ew (อีววว) แสดงถึงความรังเกียจ ขยะแขยง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เราได้เห็นตรงหน้า หรือได้ฟัง
- Ugh (เอิ๊กก) ใช้เป็นเสียงบ่น คำราม เพื่อแสดงถึงความกลัว หรือรังเกียจ
- Yuck (ยัคค) สื่อว่าสิ่งนั้นมันแย่มาก น่ารังเกียจมากก
สื่อถึงความไม่เห็นด้วย
หงุดหงิด ใครพูดอะไรนะไม่เข้าหู! เราสามารถใช้คำอุทาน
- Aww (อ่อว) ใช้แสดงความคัดค้าน ผืดหวัง ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
- Argh (อ๊ากกกกก) คล้ายกับการโวยวาย เมื่อเราเกิดความงุนงง ไม่พอใจ
- Dang (แด้งงง) เป็นคำในเวอร์ชั่นหยาบน้อยของคำว่า damn สื่อว่าผู้พูดรู้สึกโกรธ หงุดหงิด
สื่อถึงการทำผิด
ชั้นไม่ได้ตั้งใจน้าาาาาาา เราสามารถใช้คำอุทาน
- Oops (อุ๊ปส์) ใช้อุทานเวลาเราทำอะไรผิด หรือเห็นคนอื่นมาทำอะไรโป๊ะๆ ต่อหน้าเรา
- Whoopsie (วู๊ปซี่) วิธีการใช้คล้ายกับ Oops แต่ความจริงจังจะน้อยกว่า ใช้ในสถานการณ์ที่ไม่ไม่ซีเรียส
- Duh (เดอ!) ตอบกลับเวลาใครพูดอะไร หรือทำอะไรที่ดูโง่เง่า เวลาอ่านก็ใช้เสียงสูงๆ เพิ่มอารมณ์เข้าไปด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
อดีต หน.ฝ่ายซอฟต์แวร์เพนตากอน เผย สหรัฐฯ แพ้ศึกพัฒนา AI แข่งกับจีนแล้ว
อดีตหัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผย จีนชนะการต่อสู้ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับสหรัฐฯ แล้ว และกำลังเดินหน้าสู่การครองโลก
นายนิโคลัส เชลเลน อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายซอฟต์แวร์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน ซึ่งลาออกจากตำแหน่งเพื่อประท้วงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล่าช้าของกองทัพสหรัฐฯ บอกกับสำนักข่าว ไฟแนนเชียล ไทมส์ ว่า เขาเชื่อว่า จีนชนะการต่อสู้ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับสหรัฐฯ แล้ว และความล้มเหลวนี้ทำให้สหรัฐฯ ตกอยู่ในความเสี่ยง
“ในอีก 15-20 ปี เราจะไม่มีโอกาสต่อสู้กับจีนแล้ว ตอนนี้ มันเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว มันจบแล้วในความคิดของผม” นายเชลเลนกล่าว และว่า จีนจะเป็นผู้มีอิทธิพลต่ออนาคตของโลก ควบคุมทุกอย่างตั้งแต่การรายงานของสื่อไปจนถึงเรื่องภูมิรัฐศาสตร์
นายเชลเลนกล่าวโทษว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นผลจากความล่าช้าในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ, การไม่เต็มใจของบริษัทต่างๆ ของสหรัฐฯ เช่น กูเกิล ในการพัฒนา AI ร่วมกับรัฐบาล และการถกเถียงกันอย่างยาวนานเรื่องจริยธรรมในเทคโนโลยีนี้ ต่างกับบริษัทจีนที่มีข้อผูกมัดให้ต้องทำงานร่วมกับรัฐบาล และลงทุนมหาศาลด้าน AI โดยไม่ต้องเอาใจใส่เรื่องจริยธรรม
นายเชลเลนยังโจมตีการป้องกันทางไซเบอร์ของบางหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วยว่า อยู่ในระดับ ‘เด็กอนุบาล’ ขณะที่ในตอนที่เขาลาออกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายเชลเลนเผยด้วยว่า บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่ของกองทัพถูกจัดให้มาทำหน้าที่คิดริเริ่มเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทั้งที่พวกเขาไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
ประโยชน์ของลูกเดือย ธัญพืชดีต่อสุขภาพ
สำหรับคนรักสุขภาพ จะรู้จักเป็นอย่างดีว่าลูกเดือยนั้นเป็นธัญพืชที่ดีต่อสุขภาพหลายอย่าง เรามักจะเห็นลูกเดือยถูกนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารอยู่บ่อย ๆ และด้วยประโยชน์มากมายที่ควรค่าแก่การบริโภค วันนี้เรามีประโยชน์จากลูกเดือยมาบอกเล่าให้ฟังค่ะ
- ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดอาการท้องผูกได้ เพราะลูกเดือยมีใยอาหารสูงมาก จึงช่วยทำให้ระบบขับถ่ายคล่อง
- ทำให้นอนหลับสบาย เพราะมีกรดอะมิโนที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนินซซึ่งช่วยให้นอนหลับได้ดี
- บำรุงสายตา วิตามินเอในลูกเดือยช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็นในที่แสงสว่างน้อยตอนกลางคืน
- บำรุงฟันและกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน อีกทั้งยังบำรุงเส้นเอ็นและข้อกระดูกด้วย
- บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ลูกเดือยอุดมไปด้วยวิตามินบี1 บี2 หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยทำให้ผิวสวยสดใส
อย่างไรก็ตาม การรับประทานลูกเดือยควรบริโภคอย่างพอดี ไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป และควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก vichaiyut.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 15/10/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,150.00 | 28,250.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,823.00 | 27,636.68 | 28,750.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,640.70 | 24,873.01 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,458.40 | 22,109.34 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 820.00 | 12,431.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 638.00 | 9,672.08 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,889.00 | 28,637.24 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 15/10/2564
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 31.15 | 31.15 | 32.85 | 31.15 | 32.00 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 30.88 | 30.88 | 32.58 | 30.88 | 31.73 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 29.64 | 29.64 | 31.34 | 29.64 | 30.49 | – | 29.64 | 29.64 | 29.64 | 29.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 23.44 | 23.44 | – | – | – | – | – | – | – | 23.44 |
เบนซิน 95 | 38.56 | – | – | – | 39.86 | – | 39.06 | 38.56 | – | 38.56 |
ดีเซล B7 | 28.89 | 28.89 | 29.99 | 28.89 | 29.34 | 28.89 | 28.89 | 28.89 | 28.89 | 28.89 |
ดีเซล | 28.89 | 28.89 | 29.99 | 28.89 | 29.34 | 28.89 | 28.89 | 28.89 | 28.89 | 28.89 |
ดีเซล B20 | 28.64 | 28.64 | 29.94 | – | 28.89 | – | 28.64 | 28.64 | – | 28.64 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 33.66 | 33.66 | 36.44 | 35.06 | – | – | – | – | – | 33.66 |
แก๊ส NGV | 15.80 | 15.80 | – | – | – | – | – | – | – | 15.80 |