อัพเดทโครงการ อสังหาฯเด่น-ขายดี มีที่ไหนบ้าง
อัพเดทอสังหาฯเด่น-ขายดี เดือนต.ค. 64 มีที่ไหนบ้าง”โสภณ พรโชคชัย ” ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจ. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส สำรวจ โครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ 28 โครงการ 6,559 หน่วย มูลค่า21,975 ล้านบาท พบ มี 3 โครงการเด่น มีรูปแบบน่าสนใจ
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงโค้งท้ายปี2564 แข่งขันปิดการขายโครงการกันอย่างคึกคักภายใต้สถานการณ์โควิด-19 หลายโครงการเลือกกลยุทธ์ลดแลก-แจก-แถมแต่ในที่สุดแล้วปัจจัยที่ดึงความสนใจลูกค้าคือ สภาพแวดล้อม ศักยภาพของทำเลและความชัดเจนของกลุ่มเป้าหมาย
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัทเอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (www.area.co.th) รายงานผลการสำรวจโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่เดือนตุลาคม 2564 มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่จำนวน 28 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 6,559 หน่วย มูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 21,975 ล้านบาท และมี 3 โครงการเด่น ที่มีรูปแบบที่น่าสนใจดังนี้
1. โครงการเทอร์ร่า เรสซิเดนซ์ ธรรมศาสตร์ (Terra Residence TU)
เจ้าของโครงการ คือ บริษัท เทอร์ร่า ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ประเภทอาคารชุด 35 ชั้น จำนวน 1 อาคาร แบบสตูดิโอ พื้นที่ใช้สอย 30 – 33 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องน้ำ พร้อมระเบียงส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 1.200 ล้านบาท ที่ตั้งโครงการติดถนนคลองหลวง ขนาดที่ดินโครงการ: 2-1-95 ไร่ มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 715 หน่วย ขายได้แล้ว 350 หน่วย (49%)
รายการส่งเสริมการขาย : จองวันพรีเซลรับส่วนลดสูงสุด 20,000 บาท (เงินจอง 60,000 บาท) กลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มนักลงทุนปล่อยเช่า และบุคคลกรในมหาวิทยาลัย ระดับรายได้ครัวเรือน 15,000 บาท (สัดส่วนผู้ซื้ออยู่อาศัย 30% : เก็งกำไร 10% : เพื่อการลงทุน 60 %) จุดเด่นของโครงการ อยู่ในทำเลใกล้มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลหลายแห่ง รวมทั้งสถานที่ราชการ และสำนักงานเอกชน การเดินทางสะดวกเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง สามารถลงทุนปล่อยเช่าให้แก่นักศึกษาและกลุ่มคนทำงานบริเวณใกล้เคียงได้
2. โครงการ ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร (Supalai Premier Samsen-Ratchawat)
เจ้าของโครงการคือ บริษัท บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ประเภทอาคารชุด 17 ชั้น 1 อาคาร ที่ตั้งโครงการติดถนนนครไชยศรี ขนาดที่ดินโครงการ 2-2-93 ไร่ มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 248 หน่วย ขายได้แล้ว 174 หน่วย (70%)
รูปแบบห้อง ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้อง น้ำพื้นที่ใช้สอย 38 – 52 ตารางเมตร พร้อมระเบียงส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 4.974 ล้านบาท แบบ 2 ห้องนอน 1-2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 59.5-72.5 ตารางเมตร พร้อมระเบียงส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 6.129 ล้านบาท ขนาด 3 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 92.5 -123.5 ตารางเมตร พร้อมระเบียงส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 9.997 ล้านบาท
รายการส่งเสริมการขาย รับส่วนลด ณ วันโอน สำหรับ 1 ห้องนอนลด 300,000 บาท แบบ 2 ห้องนอนลด 500,000 บาท และแบบ 3 ห้องนอนลด 700,000 บาท หากผ่อนชำระเงินดาวน์ตรงทุกงวด รับส่วนลดเงินดาวน์ 1 งวด แถมเครื่องปรับอากาศ วอลเปเปอร์ ชุดครัว Built-in พร้อมเครื่องดูดควันและเตาไฟฟ้า ฉากกั้นอาบน้ำ Digital Door Lock Home Automation กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้มีรายได้สูง เช่น กลุ่มแพทย์โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โรงพยาบาลรามาธิบดี เจ้าของธุรกิจส่วนตัว เป็นต้น (สัดส่วนผู้ซื้ออยู่อาศัย 85% : เก็งกำไร 10% : เพื่อการลงทุน 5%)
จุดเด่นของโครงการ ชื่อเสียงผู้ประกอบการ สร้างบนทำเลใกล้แหล่งงานทั้งสถานที่ราชการ โรงพยาบาลชั้นนำ และ สำนักงานเอกชน โดยมีพียง 248 ยูนิต และมีจำนวนที่จอดรถ 100% ของจำนวนยูนิต
3. โครงการอินดี้ 2 บางนา-รามคำแหง 2(Indy 2 Bangna – Ramkhamhaeng 2)
เจ้าของโครงการคือบริษัท บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ประเภททาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ที่ตั้งโครงการซอยรามคำแหง 2 ถนนบางนา-ตราด ขนาดที่ดินโครงการ 49-1-10.4 ไร่ มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 355 หน่วย ขายได้แล้ว 206 หน่วย (58%) รายการส่งเสริมการขาย รับส่วนลด 100,000 บาท แถมมิเตอร์น้ำ-ไฟ ปั้มน้ำและแทงค์น้ำจัดสวน
ประเภททาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์สแกนดิเนเวียน มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 89-134 ตารางเมตร บนขนาดที่ดินตั้งแต่ 18-24.7 ตารางวา ขึ้นไป ที่จอดรถ 1-2 คัน ราคา 3 – 6 ล้านบาท
กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้ที่มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป กลุ่มผู้ที่ต้องการขยายครอบครัว กลุ่มผู้ที่ทำงานในตัวเมืองและละแวกใกล้เคียง จุดเด่นของโครงการ ทาวน์โฮมที่ทันสมัย ใช้ประโยชน์ได้เต็มทุกพื้นที่ พร้อมฟังก์ชั่นต่าง ๆ ภายในตัวบ้าน ชื่อเสียงของผู้ประกอบการ ทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง 2 ใกล้มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา ใกล้ห้างสรรพสินค้า ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถีสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก
โครงการเด่น 3 โครงการดังกล่าว อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพมีทั้งในเขตกรุงเทพฯชั้นใน เขตต่อขยายเมือง และรอบนอก แต่สามารถเดินทางได้สะดวก ซึ่งแต่ละโครงการมียอดขายแล้ว 50%-70% แสดงให้เห็นว่าถ้าโครงการมีจุดเด่น มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนก็สามารถขายได้ดี แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบาด และเศรษฐกิจชะลอตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“วีบียอนด์” เปิดเกมรุก”Property Tech “ ซื้อบ้านง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
วีบียอนด์ เปิดเกมรุกธุรกิจซื้อขายอสังหาฯ บนแพลตฟอร์มออนไลน์นวัตกรรม “Property Tech” หรือProp Tech ด้วยคอนเซ็ปต์ “ซื้อบ้านง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว” ประกาศชิงตลาดตัวกลาง ดึงทุกพันธมิตรทุกแพลตฟอร์ม เชื่อมโลกใหม่ ชิง Market share ตลาดจากมูลค่า 8 แสนล้าน ให้ได้ 15% ใน 3 ปี
ผลจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และการขยายช่องทางการจัดจําหน่ายแนวใหม่ ส่งผลให้ ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี2564 ของบริษัท วีบียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 1,800% และมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 178% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2563
นายวรเดช รุกขพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) วีบียอนด์ ระบุว่า เมื่อผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง บริษัทได้วางแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่ามูลค่าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะมีมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท ซึ่งมีพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ นักลงทุนรายใหญ่ High-Net-Worth ที่จะเข้ามาร่วมลงทุนอีกจำนวนมาก พร้อมขยายช่องทางการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมเทคโนโลยีใกล้เคียง ที่จะนํามาสู่กําไรที่แข็งแกร่งนับจากนี้
มั่นใจว่าแผนธุรกิจที่มองครอบคลุมถึงตลาดขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าซื้อขายต่อปี 8-9แสนล้านบาท บนตลาดอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ยังเตรียมขยายธุรกิจบนแพลตฟอร์มออนไลน์ระบบ Economic system ด้วยนวัตกรรม “Property Tech” หรือ Prop Tech ซึ่งเป็นวัตกรรมที่รวมเอาธุรกิจอสังหาฯ กับเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้มากยิ่งขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “Property mall” ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงพัฒนาระบบ คาดว่าเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้ช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งถือเป็น Big Project ของกลุ่มบริษัทวีบียอนด์เลยก็ว่าได้ เพราะใน “Property mall” มีโครงการทั้งบ้านและคอนโดจากหลายแบรนด์ดังทั่วประเทศให้ลูกค้าเลือกซื้อ
โดยให้ AI ศึกษาพฤติกรรมและความต้องการที่ตรงจุดของผู้บริโภค เพื่อเสนอโครงการที่สามารถตอบโจทย์ตรงความต้องการมากที่สุดด้วยโปรแกรมอัจฉริยะ ให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าอสังหาฯ ได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว เหมือนหยิบของบน Shelf ใน Supermarket นอกจากนี้เรายังมีสิทธิพิเศษ “VB Club” เป็นโครงการที่มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าวีบียอนด์
อาทิ ประกันภัยที่อยู่อาศัย, บริการจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้างที่ดีมีคุณภาพ และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ที่เราสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่ยากๆ ให้เป็นเรื่องง่าย ตรงตาม ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า พร้อมมีบริการดูแลหลังการขายแบบครบวงจร อีกด้วย
เชื่อว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง นโยบายการเปิดประเทศและการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐชัดเจนขึ้นอีกทั้งยังมีนโยบายสร้างแรงซื้อใหม่จากนักลงทุนต่างชาติจากรัฐบาลที่ตอบรับข้อเสนอแนวทางสร้างแรงซื้อใหม่จากเราและกลุ่มพันธมิตร เป็นปัจจัยบวกให้ธุรกิจ
กลับมาฟื้นตัวโดยเฉพาะธุรกิจภาคอสังหาฯ ที่ตอนนี้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนจากภาครัฐ โดยดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ส่งผลทำให้มีกำลังซื้ออสังหาฯ จากชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาอย่างมหาศาล และทำให้ธุรกิจอสังหาฯ กลับมาคึกคักอีกครั้งอย่างแน่นอน
“มั่นใจว่า “วีบียอนด์” จะแข็งแกร่งเพราะธุรกิจที่เราลงทุนแทบทุกตัวล้วนเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ในช่วงวิกฤติ ซึ่งสะท้อนได้ชัดว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย จะยิ่งทำให้เราเติบโตแบบก้าวกระโดดทันทีและมีเสถียรภาพทั้งการเงินและการลงทุน และเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่ช่วยทำให้เม็ดเงินในธุรกิจอสังหาฯ และอื่นๆ กลับมามีสีสันน่าจับตามองอีกครั้ง”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
แนวโน้มหุ้นไทยดัชนีแกว่งไซด์เวย์
แนวโน้มหุ้นไทย 22พ.ย.64 คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์สร้างฐานเผชิญปัจจัยลบในต่างประเทศ ขณะที่ราคาทองคำเปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลง
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์สร้างฐาน เผชิญปัจจัยลบในต่างประเทศ จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในยุโรป ทำให้บางประเทศมีการล็อกดาวน์ และราคาน้ำมันก็ปรับฐานลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันลงเกือบ 3 เหรียญฯ/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยมีปัจจัยกระทบจากกระแสข่าวสหรัฐฯ และจีน จะผ่อนคลายน้ำมันในคลังยุทธศาสตร์ เพื่อหวังสกัดราคาน้ำมันสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเรามีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่คุมได้ดี ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกันเล็กน้อยในลักษณะทรงตัว
โดยสัปดาห์นี้ให้ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นภาคผลิต และภาคบริการของทั่วโลกที่จะทยอยออกมา และติดตามตัวเลขการค้าเบื้องต้นของไทย รวมถึงติดตามรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งประชุมเมื่อครั้งก่อน พร้อมให้แนวรับ 1,640-1,642 ถัดไป 1,635 จุด ส่วนแนวต้าน 1,655-1,660 จุด
ด้านสมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทองคำประจำวัน เปิดตลาดราคาไม่เปลี่ยนแปลง ทองแท่งรับซื้อ 28,650 บาท ขายออก 28,750 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อ 28,136.96 บาท ขายออก 29,250 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ไม่มีปัญหา! “บาส-ปอป้อ” ตบ คู่ผสมฮ่องกง ผงาดแชมป์ขนไก่ อินโดนีเซีย
การแข่งขันแบดมินตัน รายการ ” ไดฮัทสุ อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2021″ ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 600,000 เหรียญสหรัฐ ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน 2564
ประเภทคู่ผสม รอบชิงชนะเลิศ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 2 ของโลก พบกับ พบกับ ตัง ชุนมาน กับ ซื่อ หยิงซวด คู่มือวางอันดับ 8 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากฮ่องกง
โดยสถิติการพบกันที่ผ่านมาเจอกันมาทั้งหมด 2 ครั้ง ผลัดกันแพ้ชนะคนละ 1 ครั้ง โดยครั้งหลังสุดที่พบกันในรายการ เอเชียนเกมส์ 2018 รอบก่อนรองชนะเลิศ เป็น ตัง ชุนมาน กับ ซื่อ หยิงซวด เอาชนะไปได้ 2 เกมรวด
อย่างไรก็ตามผลการแข่งขันในเกมนี้ต้องบอกว่าใช้เวลาเพียงแค่ 34 นาที ก่อนที่ คู่ผสมของไทย จะเป็นฝ่ายเก็บชัยไปได้ไม่ยากเย็น 2-0 เกม (21-11 และ 21-12) คว้าแชมป์ในรายการระดับเวิลด์ทัวร์ 750 ไปครองเป็นรายการแรก พร้อมรับเงินรางวัลประมาณ 1,465,200 บาท
ถือเป็นการคว้าแชมป์ในระดับเวิลด์ทัวร์รายการที่ 5 ในปีนี้ ของ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย หลังจากที่ประเดิมต้นปีด้วยการซิวแชมป์ 3 รายการในประเทศไทยในระดับเวิลด์ทัวร์ 1000 และ ไฮโล โอเพ่น ระดับเวิลดทัวร์ 500
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
7 ลักษณะสุขภาพ “ลิ้น” บอกโรค
ลักษณะของ “ลิ้น” สามารถบอกสุขภาพของร่างกายเราได้ว่ากำลังแข็งแรงดี หรือเสี่ยงกับโรคร้ายอะไรอยู่หรือเปล่า Sanook Health นำข้อมูลจาก รศ. นพ.ณปฎล ตั้งจาตุรนต์รัศมี ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาฝากกัน ว่าแล้วก็หยิบกระจกแล้วแลบลิ้นออกมาส่องดูซิ ว่าลิ้นของเรามีลักษณะอย่างไรบ้าง
7 ลักษณะสุขภาพ “ลิ้น” บอกโรค
- ลิ้นมีผิวเรียบ มัน และมีสีชมพูหรือแดง
เกิดจากตุ่มรับรสที่ลิ้นฝ่อลงไป อาจเกิดจากการขาดวิตามินบางชนิด หรือการติดเชื้อที่ลิ้น ควรพบแพทย์ - ลิ้นเป็นฟ้าสีน้ำตาลหรือสีดำ
พบคราบสีดำหรือสีน้ำตาลบนลิ้นร่วมกับลักษณะปุ่มรับรสที่ยาวเป็นเส้นขน เป็นสัญญาณของสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดี เช่น การสูบบุหรี่ หรือขาดการดูแลความสะอาดที่เหมาะสมควรเลิกการสูบบุหรี่ และทำความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอ - ลิ้นเป็นฝ้าขาวจากเชื้อรา
ลักษณะเป็นรอยสีขาวที่ลิ้น บางครั้งอาจมีอาการแสบร้อนร่วมด้วย อาจเกิดได้จากการใช้ยาปฏิชีวนะ โรคเบาหวาน โรคทางภูมิคุ้มกัน หรือเกิดในช่วงที่สุขภาพอ่อนแอ ควรพบแพทย์ - ลิ้นมีร่อง มีรอยแตก หรือมีลายคล้ายแผนที่
ลักษณะเป็นร่องที่กลางลิ้น หรือ ผิวของลิ้นมีลักษณะเป็นลายคล้ายแผนที่ มักไม่มีอาการเจ็บหรือแสบ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดไม่มีอันตราย สามารถหายได้เอง - ลิ้นมีรอยสีขาว หรือ สีแดง
เป็นรอยที่ไม่จางหลุดหายไปหลังการทำความสะอาดอาจเป็นตำแหน่งที่กลายเป็นมะเร็งในอนาคตควรพบแพทย์ - ลิ้นเป็นแผล
หากมีแผลที่ลิ้น และไม่ดีขึ้นภายในสองสัปดาห์ต้องระวังภาวะมะเร็งที่ลิ้น ควรพบแพทย์โดยเร็ว
รู้สึกแสบร้อนที่ลิ้น
พบได้บ่อยในเพศหญิง มีอาการแสบร้อนหรือรู้สึกแปลบๆ เหมือนไฟฟ้าช็อตโดยที่ไม่มีความผิดปกติที่ผิวของลิ้นให้เห็นอาจเกิดจากการขาดวิตามินบางชนิดหากรบกวนคุณภาพชีวิตควรพบแพทย์
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
บทสนทนาภาษาอังกฤษ ตัวอย่าง 5 เหตุการณ์ ไว้ใช้ทักทายเพื่อนในโอกาสต่างๆ
บทสนาทนาภาษาอังกฤษ ที่ไว้ทักทายคนรู้จัก เพื่อน หรือคนทั่วไปในเหตุการณ์ต่างๆ วันนี้ Engnow.in.th เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี มีตัวอย่างประโยคสนทนาที่น่าสนใจมาฝากครับ ไปดูกันเลย
ตัวอย่าง บทสนทนาภาษาอังกฤษ : เจอกันครั้งแรก ทักทายอย่างไรดี
A: “Hi, my name is Steve. It’s nice to meet you.”
A: ดีครับ ผมชื่อสตีฟ ยินดีที่ได้รู้จักครับ
B: “I’m Jack. It’s a pleasure to meet you, Steve.”
B: ผมเจ็คครับ ยินดีมากๆ ที่ได้พบคุณสตีฟ
A: “What do you do for a living Jack?”
A: คุณทำงานอะไรครับเจ็ค
B: “I work at the bank.”
B: ผมทำงานในธนาคารครับ
ง่ายๆแค่นี้เองครับ สำหรับคำถามเบสิคง่ายๆ ที่ไว้ใช้ทักทายกัน เป็นคำถามที่ดูไม่เสียมารยาท และเป็นสากล ไว้รู้จักกันในครั้งแรกครับ ลองเอาไปฝึกกันดูนะครับ
มาดู ตัวอย่าง บทสนทนาภาษาอังกฤษ : เมื่อไม่ได้เจอเพื่อนคนนี้มานานมาก
LINDA: Well, hello there, Deborah! Wow, it is a long time no see! It is great to see you again.
ลินดา : ว้าว ! สวัสดีเดโบราห์ ไม่ได้เจอกันมานานมาก ดีใจที่ได้เจอกันอีก
DEBORAH: Linda! Hello! What a coincidence! I haven’t seen you in ages! It is great to
see you. What are you doing in Manchester? Are you just visiting?
เดโบราห์ : ว่าไงลินดา อะไรจะบังเอิญขนาดนี้? มาเที่ยวหรอ?
LINDA: I just got a new job in Manchester, so I am shopping for some new clothes. Hey, what do you think of this skirt?
ลินดา : ฉันได้งานใหม่ทำที่แมนเชสเตอร์ เลยมาซื้อชุดใหม่ นี่! เธอคิดว่ากระโปรงตัวนี้เป็นไง?
DEBORAH: Hmmmm… well, you remember how much I love black. See? I have got the same skirt as you!
เดโบราห์ : แปปนะ ! อื้ม ! จำได้ใช่ไหมว่าฉันชอบสีดำมากแค่ไหน ดูนี่ กระโปรงของฉันตัวนี้เหมือนของแกเลย
LINDA: You have always had great taste in clothes! Well this is a small world.
ลินดา : รสนิยมเธอนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ แต่ ดีจังโลกมันกลมมาก
DEBORAH: We must keep in touch. You still have my mobile number?
เดโบราห์ : เราควรติดต่อกันบ่อยๆนะ เธอยังมีเบอร์โทรฉันอยู่ใช่ไหม?
LINDA: No. I lost my phone here is my new number.
ลินดา : ไม่มีแล้วละ ฉันทำโทรศัพท์มือถือหาย เอานี่ ! เบอร์ใหม่ฉัน
DEBORAH: OK. I will save your number.
เดโบราห์ : โอเค ! บันทึกลงเครื่องแปป
LINDA: I have got to go back to work, give us a ring so we can arrange dinner sometime.
ลินดา : ฉันต้องไปทำงานก่อนนะแก โทรหากันนะ เราค่อยนัดไปกันข้าวเย็นกันบ้าง
DEBORAH: For sure, take care bye.
เดโบราห์ : ได้เลย ดูแลตัวเองด้วยแก บายย
ง่ายๆ สำหรับการฝึกสนทนาแบบนี้ เราต้องรู้ว่าเพื่อนเราชอบอะไร ควรถามอะไรตามลำดับ แต่พอขึ้นมาเป็นภาษาอังกฤษอาจจะทำให้นึกไม่ออกก็เป็นได้ ค่อยๆฝึกกันไปนะ เอาใจช่วย !
ตัวอย่าง บทสนทนาภาษาอังกฤษ : บังเอิญเจอเพื่อนที่รู้จักกันมานาน ที่ร้านคาเฟ่
Sarah: Hello Jason, how are you, it’s been a long time since we last met?
ซาร่า : สวัสดีเจสัน เป็นไงบ้าง ไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วนะ ?
Jason: Oh, hi Sarah I’m have got a new job now and is going great. How about you?
เจสัน : โอ้ ไงซาร่า ตอนนี้ได้งานใหม่ทำกำลังไปได้สวยเลย เธอละเป็นไงบ้าง?
Sarah: Not too bad.
ซาร่า : ฉันก็งั้นๆ ไม่มีอะไรแย่
Jason: How often do you eat at this cafe?
เจสัน : มากินร้านนี้บ่อยไหม?
Sarah: This is my first time my friends kept telling me the food was great, so tonight I decided to try it. What have you been up to?
ซาร่า : นี่มาครั้งแรกเลย เพื่อนบอกมาว่าร้านนี้อาหารเยี่ยมมาก เลยมาลองคืนนี้ แล้วช่วงนี้เป็นไงบ้าง?
Jason: I have been so busy with my new job that I have not had the time to do much else, but otherwise, me and the family are all fine.
จอห์น : ตอนนี้ยุ่งมากกับงานใหม่มาก ไม่ค่อยมีเวลาทำอะไรเลย แต่ครอบครัวดีฉันสบายดี
Sarah: Well, I hope you have a lovely meal.
ซาร่า : ดีมาก ฉันหวังว่าคุณจะมีความสุขไปกับอาหารมื้อนี้นะ
Jason: Yes you too.
จอห์น : แน่นอน ! เธอก็เช่นกัน
ทักทายกันแบบเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน มารยาทโดยทั่วไปแล้ว ควรถามสารทุกข์สุขดิบกันพอหอมปากหอมคอ โดยอย่าลืมว่าเขามาทำธุระ หรือกำลังรีบหรือเปล่า ถ้าเห็นว่ารีบๆ ก็ไม่ควรถามเยอะ จะกลายเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกันได้นะ
ตัวอย่าง บทสนทนาภาษาอังกฤษ : ตอนนี้เพื่อนทำงานอะไร
David: Jenny, What do you do for a living?
เดวิด: เจนี่ ตอนนี้ทำงานอะไร?
Jenny: I’m teaching English. what do you for a living?
เจนี่: ฉันเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ แล้วเธอทำอะไร?
David: I’m currently a Chinese teacher.
เดวิด: ตอนนี้ฉันเป็นครูสอนภาษาจีน
Jenny: That’s Great !
เจนี่: สุดยอดมาก
David: Thank you. It was a great pleasure meeting you.
เดวิด: อ่า ! มันดีมากๆที่ได้เจอคุณ
ในเมื่อรู้จักกันมาแล้ว ก็ไม่แปลกที่จะถามได้เลยว่าตอนนี้ทำงานอะไร โดยคำถาม What do you do for a living? หรือ What do you do for living? ก็ได้ เป็นการถามแบบสุภาพ และทันสมัย อย่าลืมว่าไม่ควรถามเรื่องส่วนตัว อย่างเช่น เงินเดือน หรือเรื่องที่เป็นกลยุทธ์ขององค์กรนะ
ตัวอย่าง บทสนทนาภาษาอังกฤษ : บังเอิญเจอเพื่อนที่โรงหนัง
Bob: Hi Jason, it’s great to see you again.
บ๊อบ: ไงเจสัน รู้สึกดีมากๆที่ได้เจอกันอีก
Jason: Wow, it’s great seeing you, How long has it been? It most be more than 6 months. I’m doing good. How about you?
เจสัน : ว้าว ! เจ๋งมากที่เจอกันอีก นานแค่ไหนแล้วนะ ? หกเดือนเลยปะเนี้ย ตอนนี้สบายดี นายเป็นไงบ้าง?
Bob: Not too bad.
บ๊อบ : ไม่มีอะไรแย่มากเท่าไหร่
Jason: What movie are you and the family going to see?
เจสัน : วันนี้พาครอบครัวมาดูหนังเรื่องอะไร ?
Bob: I came here to see the Simpsons movie. How about you?
บ๊อบ : ฉันมาดูเรื่องซิมป์สัน นายละ?
Jason: I’m going to watch Terminator 4.
เจสัน : ฉันมาดูเรื่องเทอมิเนเตอร์4
Bob : I have to go now. See you around.
บ๊อบ : ฉันต้องไปแล้ว ไว้เจอกัน
Jason : ok see you
เจสัน : โอเค เจอกัน !
จะเห็นว่า เมื่อพบเจอกันในโรงหนัง อย่าลืมบทสนทนาที่สอดคล้องกับสถานที่ จะทำให้การคุยกันราบรื่นมากขึ้น อย่าลืมเอาไปใช้กันนะครับ สำคัญมากๆสำหรับผู้เริ่มต้นฝึกพูด ถ้าไม่รู้ว่าจะคุยเรื่องอะไร ลองนึกดูว่าจะพูดอะไรเกี่ยวกับสถานที่นี้ได้บ้าง
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
คนโลกคริปโท มอง “Metaverse”เป็นโลกจริงบนดิจิทัล
“Metaverse” กระแสที่กำลังมาแรง และคาดว่าจะกลายเป็นเว็บ 3.0 ที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมหรือสร้างตัวตนในโลกเสมือนจริงได้ตามจินตนาการ
“อัครเดช เดี่ยวพานิช” เจ้าของเพจ Coinman & Chairman, Crptomind Group ได้สะท้อนมุมมองเกี่ยวกับ “Metaverse” ในฐานะกูรูทางด้านคริปโท ผ่านรายการ Trader KP Talk (EP.6) ในหัวข้อ”Metaverse” โลกคู่ขนาน ที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตคนในปัจจุบัน!? โดยบอกเล่าถึงนิยาม Metaverse คืออะไร และอาชีพที่มีโอกาสบนโลก Metaverse เราต้องปรับตัวสร้างตัวตน และโอกาสบน Metaverse
โดยเขากล่าวว่า กระแส Metaverse ฮอต มาแรงตั้งแต่ เฟซบุ๊ก เปลี่ยนมาตัวเองมาใช้แบรนด์ Meta โดยนิยามในความคิดของตนเองนั้นมองโลก Metaverse โลกเสมือนที่เหมือนจริง บางคนนิยามว่าโลกเสมือนจริง แต่ในมุมมองของคนโลกคริปโทมองว่าเป็นโลกจริงที่ไปอยู่บนโลกดิจิทัล หมายความว่าเราจะมีชีวิตนึงที่ย้อนกลับไม่ได้ โลกที่ทำบนนั้นประสบการณ์ที่ทำบนนั้น สินทรัพย์ที่สามารถซื้อ สิ่งต่างๆ ที่ไปซื้อในนั้น เราเป็นเจ้าของไปตลอด ถ้าเราขายก็ขายไปเลย ไม่ได้เป็นของคนใดคนนึง
เป็นโลกที่เอาตัวเราไปอยู่ในนั้นแล้วปฏิสัมพันธ์ หรือ อินเตอร์แอคกับมันสามารถดึงออกมาได้ เหมือนไปเดินห้าง เราซื้อของก็ได้ของกลับมาจริงๆ แต่โลกปัจจุบันเราเข้าเฟชบุ๊ก ทุกอย่างอยู่บนเฟชบุ๊ก เราเอาออกมาไม่ได้ เจ้าของยังคงคือเฟชบุ๊กอยู่ บัญชีก็เป็นของเฟซบุ๊ก แต่โลกต่อไปอนาคตที่เรียกว่า Metaverse เราเป็นตัวตนของเรา เป็นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง หรือ ยูสเซอร์เซ็นทริกซ์ เราเข้าไปเอนเกจกับที่ต่างๆที่เรียกว่า Metaverse ไม่ว่าจะเป็น Meta Metaverse หรือไมโครซอฟท์ Metaverse หรือเกมแซนบล็อก เราเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ตรงนั้นแล้วเอาของออกมาได้ สิ่งที่เราเสียไป เวลาที่เสียไป พลังงานที่ลงทุนลงแรงไป มันจะผลิตออกดอกออกผล แล้วไม่หายไป เวลาที่บริษัทปิดตัวไป มันต้องมีอะไรที่เราสามารถเอาออกมาได้ หรือเอาออกมานอกโลกเขาได้ ซึ่งอันนี่คือนิยามของโลกจริง
ในอดีตการมีโลกแบบนี้แถบเป็นไปไม่ได้ หลายคนอาจเห็นในหนัง Lady Plyer One เราสามารถเข้าไปอยู่ในโลกโน้น คนเล่นเก่งๆ สามารถได้เงิน มีของโน้น มีของนี่ ไอเดียนี้มีมานาน แต่ขาดจิ๊กซอร์หลายอย่าง ความเป็นเจ้าของ ให้นึกภาพเราเข้าไปเล่นในเกม เจ้าของคือผู้พัฒนาเกม ผลิตเงินเพิ่มเท่าไรก็ได้ สามารถสร้างของกี่ชิ้นก็ได้ ลดจำนวนของก็ได้ หรือลบไอดีเราทิ้งยังได้เลย เราไม่มีสิทธิ์ ในตัวเกม ซึ่งแบบนี้ไม่ใช่ Metaverse มันแค่เป็นโลกของบริษัทผู้พัฒนาเกมที่เราเข้าไปแล้วไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไร
จิ๊กซอร์หลักที่ทำให้เราสามารถเคลื่อนย้ายของได้ คือ บล็อกเชน โดยบล็อกเชนเข้ามาปลดล็อคทำให้เราเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ไปมา คนที่คุ้นเคยกับคริปโท เหมือนเรามีวอลเล็ตคริปโท แล้วโอนเงิน เรารู้สึกว่าเราไม่โอนเงินผ่านธนาคาร ไร้ตัวกลาง โอนจากกระเป๋าหนึ่งไปยังอีกกระเป๋าที่มีแอดเดรส ถัดมาเราสามารถอินเตอร์แอคกับ Defi Decentralize ไฟแนนซ์ ต่างๆ เอาไปสว็อปบนเอ็กซ์เชนจ์ ปล่อยกู้กับแพลตฟอร์มที่ทำงานด้วยโค้ด ที่ไม่มีตัวกลางได้เหมือนกัน พอไปสว็อปอีกที่เหรียญก็กลับมาหาเรา เราเป็นศูนย์กลาง ที่เข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ แต่ของทุกอย่างมันจะกลับมาอยู่ที่เรา เพราะเรามีความเป็นเจ้าของอยู่
คอนเซ็ปต์ตรงนี้เมื่อก่อนทำไมได้สุดท้ายต้องไปพึ่งตัวกลาง แต่ตอนนี้มันทำได้แล้ว เพราะโลกของบล็อกเชน คริปโท และ Defi ที่พิสูจน์ตัวเอง เพราะฉะนั้นคนฝั่งคริปโทจะเข้าใจคอนเซ็ปต์ Metaverse แต่แค่ตรงนี้ยังไม่ตอบโจทย์ เหมือนเป็นทรัพย์สินหลังบ้านแล้วย้ายไปย้ายมา เหมือนคนเข้าไปซื้อ NFT (Non-Fungible Token) งานศิลปะ หรือ อาร์ตมา แล้วเอาไปแสดงบนเว็บหนึ่งได้เหมือนกัน เพราะเราเป็นเจ้าของ แต่ประสบการณ์เป็นแบบเหมือนกดดูบนเว็บธรรมดา เวลาเราพูดถึงเมต้าเวิร์สหลายคนจะจินตนาการถึง 3D ใส่แว่น VR ซี่งเราอย่างได้ประสบการณ์ดีสุดบนโลก Metaverse ต้องใส่แว่น VR แต่ในมุมมองตัวเองมันไม่ใช่คอร์หลัก โดยคอร์หลักของระบบข้างหลังที่เราสามารถไปอินเตอร์แอค สามารถเคลื่อนย้าย เคลื่อนย้ายทรัพย์สินได้ในแต่ละโลก ในแต่ละ Metaverse แต่การมีแว่นตา VR มีชุดเข้าไปโลก Metaverse มองว่าเป็นแค่ประสบการณ์
อัครเดช กล่าวต่อไปว่าหากมองว่าตามคอนเซ็ปต์ที่กล่าวไว้ข้างต้น คิดว่าโลกเราใกล้กับโลก Metaverse มากกว่าที่คิดแล้ว เราสามารถมีตัวตนจริง ทำอะไรแล้วย้อนกลับไม่ได้ สามารถเอาตัวเองเราไปทำกิจกรรมต่างๆ บน Metaverse สามารถเก็บเกี่ยวอะไรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงิน หรือประสบการณ์ต่างๆ สามารถเก็บไว้ที่ตัวเอง
แต่เรื่องของ VR กับ Metaverse อาจต้องใช้เวลาอีกสักพัก โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาพัฒนาเป็น 10 ปี ถ้าเราต้องการทุกคนมีประสบการณ์แบบนั้น ต้นทุนอุปกรณ์แว่นวีอาร์ที่ซื้อมาใส่ยังมีราคาแพงอยู่ บางคนอาจมองว่าสมาร์ทโฟนสามารถทำได้ แต่ถ้าอยากให้ทุกคนเข้าถึง สมาร์ทโฟนต้องมีราคาถูกลง อย่างไรก็ตามมองว่าไม่ใช่เรื่องหลัก ถ้าต้องรอถึง 10 ปี เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์เหมือนระดับที่เฟซบุ๊กต้องการทำ แต่มองว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะได้สัมผัสในอีกมุมมองหนึ่ง คือเราสามารถเข้าไปมีโลกจริงในโลกดิจิทัลได้ โดยอาจทำผ่านคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน เหมือนกับเล่นเกม
คนพยายามทำหลายคนถ้าเอาคอนเซ็ปต์ที่รวมบล็อกเชน ประสบการณ์ต่างๆ ที่เรียกว่าเมต้าเวิร์สได้ ที่เป็นโซเชียลแพลตฟอร์ม หรือเป็นเกม คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 ปี วันนี้มีหลายบริษัทที่พัฒนาเกม คอนเซ็ปต์เหมือน Metaverse คือให้คนเช้าไปใช้ชีวิตอยู่ในเกม แต่ยังไม่สามารถเอาอะไรออกมาได้
ส่วนการเกิดของ Metaverse นั้นจะกระทบกับชีวิตอย่างไรนั้นมองว่าขึ้นอยู่กับวัย ผู้สูงวัยมักมองว่าคนรุ่นใหม่วันๆเล่นแต่มือถือ มองว่าทำไม่ใช้เวลาในโลกเสมือนมากกว่าโลกจริง ไม่สนโลกจริง แต่อยากให้มองว่าเด็กรุ่นใหม่ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มากอยู่แล้ว เขาไม่ได้มองว่าอะไรเปลี่ยนไป มันคือชีวิตของเขาอยู่แล้ว เด็กรุ่นใหม่อยู่กับเกมมากกว่าออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน Metaverse มาแค่แพลตฟอร์มเปลี่ยน แต่สังคมเขายังเหมือนเดิม
อัครเดช ยังได้สะท้อนให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น โดยระบุว่าคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ ทำมาหากิน เอาเงินมาลงทุนซื้อที่ดิน คนรุ่นต่อมาเงินลงทุนต่ำ ไม่มีพื้นที่ทำกิน มาอาศัยช่องทางออนไลน์สร้างรายได้ ส่วนคนยุคใหม่ อยากเป็นเกมเมอร์ แคสเกม ยูทูปเบอร์ แต่ช่องทางออนไลน์ในปัจจุบันเริ่มเต็มแล้ว เขาต้องการเข้าไปสร้างโลกใหม่ ที่เป็นบูลโอเชียน ที่เข้าไปแล้วมีตัวตนจริง และสามารถสร้างรายได้ให้กับเขา เด็กในยุคถัดไป พอ Metaverse เปิด เปิดพื้นที่ใหม่ให้เขา ต่อไปเขาอาจมีที่ดินบน Metaverse มันเป็นอะไรที่เขามองว่าเข้าไปใช้เวลาในนั้นแล้วสร้างแวลลูได้ เด็กรุ่นใหม่ต้องพยายามมองหาอะไรที่เก่งและเข้าใจมากกว่าคนรุ่นก่อน มองว่าทุกครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจะสร้างให้เกิดโอกาสใหม่ ส่วนคนรุ่นก่อนที่ปรับตัวทันก็สามารถหาโอกาสจากตรงนี้ได้
สำหรับอาชีพที่มาแน่ในโลกMetaverseคือ โปรแกรมเมอร์ วิศวกรซอฟต์แวร์ มาตลอดกาล โลกต่อไปไม่ได้สร้างด้วยคอนกรีต โลกต่อไปจะสร้างด้วยโค้ด ตัวอย่างเช่น บล็อกเชน คริปโท ที่สร้างด้วยโค้ด เพราะฉะนั้นสิ่งที่คนต้องการมากสุดคือคนเขียนโปรแกรม หรือ โค้ด คนกลุ่มนี้สามารถสร้างสรรค์แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเงิน กู้ยืมเงิน หรือกระดานเทรด แม้กระทั่งเกมถูกสร้างขึ้นมาด้วยโค้ด โลกยุคต่อไปคนเข้าไปอยู่บน Metaverse ฐานของ Metaverse คือ การเขียนด้วยโค้ด อีกอาชีพที่น่าสนใจและเป็นโอกาสมากคือครีเอทีฟอาร์ต เวอร์ชวลสตูดิโอ ที่ปัจจุบันงานถูกจำกัด เช่นต้องทำเกมอย่างเดียว หรือทำเวอร์ชวลอาร์ตให้บริษัทต่างๆ แต่ในโลกต่อไปยุค Metaverse คนทุ่มเวลาโลก Metaverse แสดงว่าคนเริ่มเอาเงินซื้อของบนโลก Metaverse เช่น เสื้อผ้า เหมือนกับเกมที่เข้าไปซื้อไอเทมเกม คนทำเสื้อขายในเกมก็จะมีตลาดบน Metaverse หรือว่าเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน โลกเดิมใช้สถาปานิก แต่ในโลก Metaverse เป็นอะไรก็ได้ ไม่ต้องอาศัยกฎฟิลิกซ์ในการสร้าง ต้นทุนต่ำกว่าเยอะ ทำให้สามารถสร้างไอเทมสร้างแวลูมากขึ้น
โลกปัจจุบันวงลูกค้าจำกัดอาจต้องหาลูกค้าในประเทศ แต่ตัวอย่างเช่น คริปโท คนไปขาย NFT ภาพวาด ขายอวตาล คนไทยเป็นท็อปของโลก ที่เป็น NFT ครีเอเตอร์ แล้วเป็นตลาดที่คนไทยเข้าไปไวมาก แต่ถามว่าทำไมต้องไป เพราะเป็นตลาดที่ขายให้คนทั่วโลก ไร้พรมแดน เปิดโอกาสให้คนที่มีฝีมือ
อัครเดช กล่าวปิดท้ายว่า นักลงทุนต้องติดตามตามบริษัทพัฒนา Metaverse ว่ามีการพัฒนาอะไรใหม่ๆออกมา ขณะที่นักธุรกิจต้องจับตามองรอจังหวะและโอกาสเข้าสู่ Metaverse ส่วนแบรนด์มองหาโอกาสเข้าไปทำตลาดบน Metaverse ขณะที่คนทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปหาประสบการณ์ใหม่ๆเพื่อความบันเทิงบน Metaverse
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“หน่อไม้” อาหารแสลง หรือคิดไปเอง?
“หน่อไม้” มักอยู่ในรายชื่ออาหารที่ผู้หลักผู้ใหญ่มักไม่แนะนำให้ลูกหลานรับประทาน รวมถึงตัวเองด้วย ด้วยความเชื่อว่า หน่อไม้อันตราย เป็นอาหารแสลง ก่อให้เกิดโรคอันตราย เป็นแผลก็จะยิ่งทำให้แผลแย่ลง โดยเฉพาะหลังผ่าตัด รวมถึงยังเป็นสาเหตุของโรคอันตรายอย่าง “โรคมะเร็ง” อีกด้วย
แต่อันที่จริงแล้ว ความเชื่อเหล่านี้ เป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน ?
หน่อไม้ เป็นหน่ออ่อนของไผ่ที่แตกจากเหง้าใต้ดินมีลักษณะสีเหลืองอ่อน รสสัมผัสกรุบกรอบ ราคาย่อมเยา สามารถนำมาปรุงอาหารได้อย่างหลากหลาย ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด และยังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น
หน่อไม้ อันตรายจริงหรือ?
หน่อไม้ มีทั้งประโยชน์ และโทษ หากเลือกกินอย่างเหมาะสม ก็สามารถให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้ แต่หากินหน่อไม้ไม่ถูกวิธี ไม่มีความระมัดระวังในการกิน ก็อาจเป็นโทษต่อร่างกายได้จริงๆ
หน่อไม้ที่เราบริโภคกัน มีอยู่หลายประเภท
หน่อไม้ดิบ
นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า หน่อไม้ดิบหรือหน่อไม้ที่ยังปรุงไม่สุก อาจได้รับพิษจากสารไซยาไนด์ ซึ่งมีอยู่ในหน่อไม้ตามธรรมชาติ และทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย หากเข้าสู่ร่างกายในปริมาณน้อย สามารถขับออกทางปัสสาวะได้ แต่ถ้าได้รับในปริมาณมาก สารไซยาไนด์จะจับตัวกับสารในเม็ดเลือดแดง (hemoglobin) แทนที่ออกซิเจนทำให้เกิดอาการขาดออกซิเจน หมดสติและอาจทำให้เสียชีวิตได้
ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคหน่อไม้ดิบ นายมงคล เจนจิตติกุล ผู้อำนวยการสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กล่าวว่า การบริโภคหน่อไม้ที่ต้มสุกจะทำให้ผู้บริโภคปลอดภัยจากการได้รับสารไซยาไนด์ แต่หากอุณหภูมิและระยะเวลาในการต้มไม่เหมาะสมก็ไม่สามารถลดปริมาณสารชนิดนี้ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคก่อนที่จะนำหน่อไม้ไปบริโภคควรปรุงให้สุก ด้วยการต้มหน่อไม้ในน้ำเดือดนานอย่างน้อย 10 นาที ซึ่งสามารถลดปริมาณสารไซยาไนด์ลงได้ถึงร้อยละ 90.5
หน่อไม้ดอง
หน่อไม้เป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่นิยมนำมาหมักดองเพื่อการเก็บรักษาอาหารเอาไว้ให้ได้นานยิ่งขึ้น โดยมักทำการดองเอาไว้ในปิ๊บเป็นเวลาหลายเดือน หากขั้นตอนการหมักดองไม่สะอาดเพียงพอ จะเกิดเป็นเชื้อแบคทีเรีย Clostridium botulinum เจริญเติบโตอยู่ในหน่อไม้ที่อยู่ในปี๊บ หากทำมาปรุงอาหารด้วยความร้อนที่ไม่เพียงพอ อาจได้รับเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย อาเจียน ท้องเสีย หากสารพิษโบทูลินเริ่มซึมจากระบบทางเดินอาหาร เข้าสู่กระแสเลือดและระบบประสาท อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อหนังตา ลูกตา ใบหน้า การพูดการกลืนผิดปกติ กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง หายใจไม่ออก และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
นอกจากนี้ หน่อไม้ที่สะอาด และปรุงสุกด้วยความร้อน ปลอดภัยในการบริโภคก็จริง แต่ยังมีคนบางประเภทที่ไม่ควรบริโภคหน่อไม้มากจนเกินไป ได้แก่
- ผู้ป่วยโรคเกาต์ เพราะหน่อไม้มีสารพิวรินสูง อาจจะทำให้กรดยูริกที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเกาต์สูงขึ้น
- ผู้ป่วยโรคไต ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกมากเกินไป (เช่น หน่อไม้) เพราะอาจมีปัญหาในการขับกรดยูริกส่วนเกินออกไปร่างกายไม่ได
หน่อไม้ ปลอดภัยกว่าที่คิด
แม้ว่าจะมีผู้ป่วยบางกลุ่มที่ไม่ควรบริโภคหน่อไม้ แต่ในคนที่มีสุขภาพปกติดี รวมถึงผู้ป่วยเหล่านี้ สามารถรับประทานหน่อไม้ได้
- ผู้ป่วยเบาหวาน หน่อไม้ไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดแต่อย่างใด
- ผู้ป่วยโรคตับ ไม่ว่าจะเป็นไวรัสตับอักเสบ หรือตับแข็ง ก็สามารถรับประทานหน่อไม้ได้ ไม่มีผลกระทบต่ออาการของโรค
- ผู้หญิงที่มีประจำเดือน มีระดูขาว หน่อไม้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเกิดระดูขาวในผู้หญิงแต่อย่างใด
- ผู้ที่มีแผล หลังผ่าคลอด หลังผ่าตัด หน่อไม้ไม่ได้มีส่วนทำให้แผลอักเสบ หายช้า หรือติดเชื้อใดๆ เช่นกัน
- หน่อไม้ ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งแต่อย่างใด (ยกเว้น หน่อไม้ฝรั่ง ที่สารแอสพาราจีน (Asparagine ) ซึ่งมีอยู่ในหน่อไม้ฝรั่งและอาหารอีกหลายชนิด เป็นตัวการที่ช่วยให้เซลล์มะเร็งเต้านมแพร่กระจายและเจริญเติบโตลุกลามไปทั่วร่างกายได้มากยิ่งขึ้น)
ข้อมูลทางโภชนาการของหน่อไม้
คุณค่าทางสารอาหารของหน่อไม้ ปริมาณ 100 กรัม
- แคลอรี (kcal) 27
- ไขมันทั้งหมด 0.3 g
- ไขมันอิ่มตัว 0.1 g
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 0.1 g
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่เดี่ยว 0 g
- คอเลสเตอรอล 0 mg
- โซเดียม 4 mg
- โพแทสเซียม 533 mg
- คาร์โบไฮเดรต 5 g
- เส้นใยอาหาร 2.2 g
- น้ำตาล 3 g
- โปรตีน 2.6 g
- วิตามินเอ 20 IU
- วิตามินซี 4 mg
- แคลเซียม 13 mg
- เหล็ก 0.5 mg
- วิตามินดี 0 IU
- วิตามินบี 6 0.2 mg
- วิตามินบี 12 0 µg
- แมกนีเซียม 3 mg
ประโยชน์ของหน่อไม้
หน่อไม้มีกากใยอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ ลดความเสี่ยงอาการท้องผูก นอกจากนี้ยังมีแคลอรี่ต่ำ จึงสามารถรับประทานได้ และเหมาะสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ยังมีโปรตีน โพแทสเซียม วิตามินเอ และแคลเซียมอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ควรตระหนักว่า หน่อไม้ที่กินแล้วมีประโยชน์ ต้องเป็นหน่อไม้ปรุงสุก หน่อไม้ดอง (ที่สะอาด) มีคุณค่าทางสารอาหารต่ำกว่า แต่ไม่ได้มีอันตรายต่อร่างกายมากอย่างที่กลัวกัน และไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรรับประทานหน่อไม้มากเกินไป ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกรับประทานอาหารอย่างหลากหลายจะดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 22/11/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,650.00 | 28,750.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,856.00 | 28,136.96 | 29,250.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,670.40 | 25,323.26 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,484.80 | 22,509.57 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 835.00 | 12,658.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 650.00 | 9,854.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,923.00 | 29,152.68 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 22/11/2564
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 31.65 | 31.65 | 32.00 | 31.65 | 31.85 | 31.65 | 31.85 | 31.65 | 31.65 | 31.65 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 31.38 | 31.38 | 31.73 | 31.38 | 31.58 | 31.38 | 31.58 | 31.38 | 31.38 | 31.38 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 30.14 | 30.14 | 30.49 | 30.14 | 30.34 | – | 30.34 | 30.14 | 30.14 | 30.14 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 24.09 | 24.09 | – | – | – | – | – | – | – | 24.09 |
เบนซิน 95 | 39.06 | – | – | – | 39.71 | – | 39.76 | 39.56 | – | 39.06 |
ดีเซล B7 | 29.24 | 29.24 | 29.59 | 29.24 | 29.34 | 29.24 | 29.34 | 29.24 | 29.24 | 29.24 |
ดีเซล | 29.09 | 29.09 | 29.44 | 29.09 | 29.19 | 29.09 | 29.19 | 29.09 | 29.09 | 29.09 |
ดีเซล B20 | 28.99 | 28.99 | 29.34 | – | 29.09 | – | 29.09 | 28.99 | – | 28.99 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 34.66 | 35.06 | 36.04 | 36.06 | – | – | – | – | – | 34.66 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |