เปิดกฎกระทรวงฉบับใหม่ อาคาร 9 ประเภทแจ็กพอต
อาคาร 9 ประเภทแจ็กพอต
ไม่ได้ซ้ำเติมแต่บังเอิญตรงกับช่วงที่คนไทย ธุรกิจไทยยังไม่ฟื้นจากโควิด-19 ผ่านมาปีเศษหลังกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2563 มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เตรียมความพร้อมบุคลากรรับกฎหมายใหม่
เพราะหลังคณะกรรมการควบคุมอาคารเห็นชอบให้นำกฎกระทรวงดังกล่าวมาบังคับใช้ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว การอนุญาตออกแบบ และอนุญาตก่อสร้างอาคารของ อปท. 7,850 แห่งทั่วประเทศ ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล กรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองพัทยา ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ตามกฎกระทรวงฉบับนี้
สาระสำคัญคือ กำหนดให้การก่อสร้างอาคาร 9 ประเภท ที่มีพื้นที่รวมกันทุกชั้นในอาคารหลังเดียวกันตั้งแต่ 2,000 ตร.ม.ขึ้นไปต้องออกแบบอาคารตามมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกแบบเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ได้แก่ 1.โรงมหรสพตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร 2.โรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม 3.สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
4.สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล 5.สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ 6.สำนักงานหรือที่ทำการ 7.ห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้า 8.อาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด และ 9.อาคารชุมนุมคนตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
ขณะเดียวกันให้การดัดแปลงอาคาร 9 ประเภทที่มีผลเป็นการดัดแปลงพื้นที่รวมกันทุกชั้นในอาคารหลังเดียวกันตั้งแต่ 2,000 ตร.ม.ขึ้นไปต้องเป็นไปตามกฎกระทรวงฉบับนี้ด้วย
อาทิ ระบบเปลือกอาคาร ต้องมีค่าการถ่ายเทความร้อนรวมเป็นไปตามค่ามาตรฐาน ทั้งผนังด้านนอกและหลังคาของอาคารที่มีการปรับอากาศของแต่ละประเภทอาคาร ส่วนระบบเปลือกอาคารลักษณะอื่น ถ้าใช้งานพื้นที่หลายลักษณะพื้นที่แต่ละส่วนต้องใช้ข้อกำหนดของระบบเปลือกอาคารตามลักษณะการใช้งาน
ระบบไฟฟ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน อาทิ อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ รวมทั้งการคำนวณออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ฯลฯ
โดยอาคารที่นำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ให้สามารถนำค่าพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ไปหักออกจากค่าการใช้พลังงานโดยรวมของอาคารได้
และกำหนดให้เจ้าของอาคารมีหน้าที่จัดทำรายงานผลการตรวจประเมินในการออกแบบก่อสร้าง หรือดัดแปลงอาคาร พร้อมจัดหาผู้ที่มีคุณสมบัติในการตรวจประเมินเป็นผู้รับรองประกอบการยื่นคำขอรับใบอนุญาต หรือแจ้งก่อสร้าง หรือดัดแปลงอาคาร
นอกจากนี้ เมื่อได้ก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารแล้วเสร็จ ให้เจ้าของอาคารมีหน้าที่ยื่นเอกสารที่มีการรับรองการอนุรักษ์พลังงานประกอบการยื่นขอใบรับรองการก่อสร้าง หรือดัดแปลงอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
กฎกติกาใหม่ทำให้ต้นทุนทุกขั้นตอนเพิ่มขึ้นก็จริง แต่การใช้พลังงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
อย่างไรก็ตาม เพื่อลดผลกระทบกับเจ้าของอาคารในระยะแรกการก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารที่มีพื้นที่รวมกันทุกชั้นในอาคารหลังเดียวกันไม่ถึง 10,000 ตร.ม. มีข้อยกเว้นไม่นำกฎกระทรวงฉบับนี้มาบังคับใช้ 1 ปีสำหรับอาคารที่มีพื้นที่รวมกันทุกชั้นในอาคารหลังเดียวกันตั้งแต่ 5,000 ตร.ม. แต่ไม่ถึง 10,000 ตร.ม. และ 2 ปีสำหรับอาคาร ตั้งแต่ 2,000 ตร.ม. แต่ไม่ถึง 5,000 ตร.ม.
ยกเว้นแค่ชั่วคราวจนถึงปลายปีหน้า จากนั้นอาคารทั้ง 9 ประเภทต้องกัดฟันรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามมา
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
อัพเดต 4 ปี ไฮสปีดเทรนไทย-จีน ไซต์ก่อสร้าง 7 สัญญา “กทม.-โคราช” คืบ 2.73%
เมกะโปรเจ็กต์ไฮสปีดเทรนไทย-จีนเพียงชั่วพริบตากำลังจะครบ 4 ปี หลังจากตอกเข็มต้นแรกเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560
“ประชาชาติธุรกิจ” ติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร วงเงินลงทุนโครงการ 179,413 ล้านบาท
ตามแผนงานแบ่งการก่อสร้างงานโยธาของโครงการไว้ 14 สัญญา ไม่รวมงานระบบ
เฟสแรก กทม.-โคราช 253 กม.
รายละเอียดการเปิดไซต์ก่อสร้างเฟสแรก 253 กิโลเมตร มีแนวเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีกลางบางซื่อวิ่งตรงไปทางทิศเหนือในเส้นทางเดียวกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ผ่านสนามบินดอนเมือง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงและรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์
จากนั้นวิ่งตรงไปตามแนวเส้นทางรถไฟสายเหนือไปจนถึงชุมทางบ้านภาชีแนวเส้นทางจะเบี่ยงไปใช้เส้นทางรถไฟสายอีสานไปตลอดทางจนถึงสถานีแก่งคอย ซึ่งจะเป็นสถานีชุมทางที่แยกสายไปเชื่อมต่อเข้ากับสายตะวันออกที่สถานีฉะเชิงเทรา
จากนั้นมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและสิ้นสุดเส้นทางในเฟสแรกที่สถานีนครราชสีมา ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟนครราชสีมาเดิม
เบ็ดเสร็จใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯมุ่งหน้านครราชสีมา 1.30 ชั่วโมง ตามแผนกำหนดเปิดให้บริการในปี 2569
สถานีอยุธยารอยื่น HIA
อย่างไรก็ตาม “แพลนนิ่ง” ที่กำหนดเปิดให้บริการในปี 2569 ยังต้องลุ้นว่า “แพลน” แล้วจะ “นิ่ง” หรือไม่ เพราะมีการเลื่อนกำหนดล่าช้าจากเป้าหมายเดิมที่เคยวางแผนเปิดให้บริการในปี 2567 มาแล้ว
โดยเหตุผลของการเลื่อนกำหนดเปิด 2 ปี มีทั้งการปรับแบบสถานีอยุธยา (สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทางเพียง 13.30 กิโลเมตร) ซึ่ง“ยูเนสโก-องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์
และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ” ยื่นโนติสด้วยข้อเป็นห่วงการก่อสร้างสถานีอยุธยาในประเด็นดีไซน์ตัวสถานีจะกระทบทัศนียภาพและความเป็นมรดกโลกของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
มีผลทำให้สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้วดังกล่าวที่มี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ หรือ ITD เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 9,913 ล้านบาท ต้องเบรกการก่อสร้างเพื่อเคลียร์ปัญหาให้จบ ล่าสุดอยู่ระหว่างจัดทำรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (HIA-Heritage Impact Assessment) เพื่อส่งต่อให้ยูเนสโกแอปพรูฟด้วย
ติดหล่มค้านผลประมูล 3-1
อีกเรื่องมาจากกรณีฟ้องคัดค้านผลการประมูลสัญญาที่ 3-1 งานโยธาช่วงแก่งคอย-กลางดง กับช่วงปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30 กิโลเมตร ราคากลาง 11,386 ล้านบาท
ระหว่างกิจการร่วมค้า BPHB-TIM SEKATA JV (บจ.นภาก่อสร้าง, บจ.บิน่า พูรี่ เอสดิเอ็น บีเอชดี, นายชาตรี เขมาวชิรา) กับกลุ่มกิจการร่วมค้า ITD-CREC NO.10.JV (บจ.ไชน่า เรลเวย์ รับเบอร์เทน เอนจิเนียริ่งกรุ๊ป (CREC) พันธมิตร ITD)
ล่าสุดศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเมื่อเดือนกันยายน 2564 ตัดสิทธิกลุ่ม BPHB ขาดคุณสมบัติในการประมูล แม้เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดตามขั้นตอนอยู่ระหว่างการรอชี้ขาดจากศาลปกครองสูงสุดซึ่งคำพิพากษาถือเป็นสิ้นสุด
ทั้งนี้ 2 ปัจจัยอาจทำให้โครงการหยุดชะงักไปบ้าง แต่ภาพรวมสัญญางานโยธาถือว่ารัฐบาลได้ทยอยเข็นลงนามเกือบครบทุกสัญญาและทยอยลงมือก่อสร้างแล้ว
อัพเดต 14 สัญญางานโยธา
สำหรับสถานะของ 14 สัญญา แบ่งได้ 4 ประเภท คือ 1.ก่อสร้างเสร็จ 1 สัญญา 2.ขั้นตอนประกวดราคา 3 สัญญา 3.ลงนามสัญญาแล้วเตรียมเปิดไซต์ก่อสร้าง 3 สัญญา และ 4.อยู่ระหว่างก่อสร้าง 7 สัญญา
รายละเอียดมีดังนี้ “1.ก่อสร้างแล้วเสร็จ 1 สัญญา” ได้แก่ สัญญา 1-1 งานก่อสร้างคันทางระดับดินช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร วงเงิน 362 ล้านบาท
“2.ขั้นตอนการประกวดราคา 3 สัญญา” ประกอบด้วย 2.1 สัญญาที่ 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดงกับปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.21 กิโลเมตร วงเงิน 9,348 ล้านบาท สถานะรอคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
2.2 สัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กิโลเมตร ติดปัญหาพื้นที่ก่อสร้างทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 2.3 สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.30 กิโลเมตร วงเงิน 9,913 ล้านบาท มี ITD เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด ติดปัญหารอเสนอรายงาน HIA สถานีอยุธยา
“3.ลงนามในสัญญาแล้วและเตรียมการก่อสร้าง 3 สัญญา” ได้แก่ 3.1 สัญญาที่ 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร ระยะทาง 21.8 กิโลเมตร วงเงิน 10,570 ล้านบาท มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด 3.2 สัญญาที่ 4-4 ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย (depot) วงเงิน 6,573 ล้านบาท มี ITD เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด
และ 3.3 สัญญา 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.6 กิโลเมตร วงเงิน 9,429 ล้านบาท มี บมจ.ยูนิคฯเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด
ก่อสร้างช้ากว่าแผน 0.83%
“4.อยู่ระหว่างก่อสร้าง 7 สัญญา” โดยภาพรวม ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2564 มีความคืบหน้าการก่อสร้าง 2.73% ล่าช้าจากแผนงาน 0.83% โดยทั้ง 7 สัญญามีความคืบหน้าดังนี้
4.1 สัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร วงเงิน 3,114.98 ล้านบาทบจ.ซีวิล คอนสตรัคชั่น เซอร์วิสเซสแอนด์ โปรดักส์ เป็นผู้ดำเนินการงานก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 74.26% ล่าช้ากว่าแผน 25% โดยหมดสัญญาการก่อสร้างไปแล้ว ล่าสุดเอกชนอยู่ระหว่างขอต่อสัญญางานก่อสร้างรอบที่ 2
4.2 สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็ก-ลำตะคอง ระยะทาง 12.23 กิโลเมตร วงเงิน 4,279.33 ล้านบาท มี บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ เป็นผู้รับเหมาคืบหน้าแล้ว 0.14% ล่าช้ากว่าแผน 2.43% มีระยะเวลาสิ้นสุดสัญญา 3 เมษายน 2567
4.3 สัญญาที่ 3-3 ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง ระยะทาง 21.6 กิโลเมตร วงเงิน 9,838 ล้านบาท มี บจ.ไทย เอ็นยิเนียร์และอุตสาหกรรม เป็นผู้ดำเนินการงานก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 0.59% ล่าช้ากว่าแผน 4.96% สิ้นสุดสัญญา 4 กุมภาพันธ์ 2567
4.4 สัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว กับช่วงกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กิโลเมตร วงเงิน 9,848 ล้านบาท มี ITD เป็นผู้ดำเนินการงานก่อสร้าง 8.74% เร็วกว่าแผน 3.64% สิ้นสุดสัญญา 11 มกราคม 2567
4.5 สัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา 12.38 กิโลเมตร วงเงิน 7,750 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า SPTK (นภาก่อสร้างร่วมกับรับเหมามาเลเซีย) เป็นผู้ดำเนินการ คืบหน้าแล้ว 1.69% ล่าช้ากว่าแผน 3.42% สิ้นสุดสัญญา 11 มกราคม 2567
4.6 สัญญาที่ 4-3 ช่วงนวนคร-บ้านโพ23 กิโลเมตร วงเงิน 11,525 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า CAN (บจ.ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่นฯ, บจ.เอ.เอส.แอส โซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) และ บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ) เป็นผู้ดำเนินการ คืบหน้าแล้ว 0.19% ล่าช้ากว่าแผน 1.28% สิ้นสุดสัญญาวันที่ 16 สิงหาคม 2567
และ 4.7 สัญญาที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย 12.99 กิโลเมตร วงเงิน 8,560 ล้านบาท มี บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง เป็นผู้ดำเนินการ คืบหน้าแล้ว 4.84% เร็วกว่าแผน 0.14% สิ้นสุดสัญญา 4 กุมภาพันธ์ 2567
1 ปีเศษ “งานระบบ” ไม่ลงตัว
แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากที่ได้ลงนามสัญญาจ้างงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล
รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญา 2.3) วงเงิน 50,633.5 ล้านบาท ระหว่าง ร.ฟ.ท.กับ บจ.ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล และบจ. ไชน่าเรลเวย์ ดีไซน์ คอร์เปอเรชั่น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างเจรจากับผู้รับเหมาจีนถึงการส่งมอบหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (NTP-Notice to Proceed) อีก 2 ฉบับ ก่อนหน้านี้ได้ส่งมอบหนังสือ NTP ในส่วนงานออกแบบระบบทั้งหมดและขบวนรถไฟ วงเงิน 700-800 ล้านบาท มีความคืบหน้าอยู่ระหว่างการปรับแก้แบบร่วมกันอยู่
ส่วน NTP อีก 2 ฉบับ ได้แก่ “งานติดตั้ง” วงเงินกว่า 40,000 ล้านบาท ต้องรอให้งานออกแบบระบบและขบวนรถเสร็จสิ้นก่อน คาดว่าจะส่งมอบหนังสือ NTP ได้ในปี 2565 นี้
“งานฝึกอบรม” วงเงิน 1,000 ล้านบาท มีการจัดตั้งองค์กรบริหารรถไฟความเร็วสูง หลังจากนั้น คาดว่าจะสามารถออก NTP ได้ภายใน 1-2 ปีหน้า
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
อ่อนค่าต่อเนื่อง! เงินบาทเปิด 33.46 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทเปิดตลาด 33.46 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง จับตาสถานการณ์โควิด-ทิศทาง Flow
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.46 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.37 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ แต่เป็นผลต่อเนื่องจากคาดการณ์แนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่หนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า ประกอบกับมีปัจจัยในประเทศจากแรงเทขายพันธบัตรกว่า 9.4 พันล้านบาทหนุน
“บาทเปิดตลาดอ่อนค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ เพราะตลาดต่างประเทศหยุดในวันขอบคุณพระเจ้า” นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ที่ 33.35 – 33.55 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ สถานการณ์โควิด-19, ทิศทางของเงินทุนต่างประเทศ
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ปณิตา ปินไชย : จากแชมป์กีฬาสีสู่นักวิ่งทีมชาติ
นักวิ่งสาวเหนือหน้าใสจากจังหวัดน่าน พูดน้อยแต่วิ่งเร็ว ด้วยองค์ประกอบที่ครบเครื่องทำให้เธอเหมาะที่จะก้าวขึ้นมาเป็นสปอร์ตไอดอลแห่งวงการวิ่งในอนาคต และนี่คือเรื่องราวของนักวิ่งดาวรุ่งทีมชาติไทยที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นแชมป์กีฬาสี
1.น้องบูม เกิดในครอบครัวระดับปานกลาง มีพ่อเป็นทหารยศร้อยตรี ส่วนแม่มีอาชีพค้าขาย ตอนเด็กน้องบูมค่อนข้างชื่นชอบการเล่นกีฬา แต่ไม่ถึงขั้นเสพติด แค่รักสนุกแต่ไม่คิดจริงจังอะไรมาก
2.จนกระทั่งน้องบูมเข้าเรียนชั้น ม. 1 ที่โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม บูม มีโอกาสได้ลงแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียน และสามารถคว้าแชมป์วิ่ง 100 ม. แม้จะเป็นเหรียญเล็ก ๆ จากการลงแข่งสนุก ๆ แต่นี่คือจุดเริ่มต้นที่พาเธอมาถึงทีมชาติทุกวันนี้
3.หลังจากได้แชมป์กีฬาสี เธอถูกครูพลศึกษาชักชวนให้มาเป็นนักวิ่งโรงเรียนไปแข่งในระดับจังหวัด ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ได้แชมป์วิ่ง 400 ม. ส่วนวิ่ง 100 ม.ระยะถนัดเธอจบที่ 4
4.พอขยับขึ้นชั้น ม. 2 ด้วยความเป็นรักสนุกใครชวนอะไรก็ทำตามประสาวัยรุ่น เธอจึงมีโอกาสได้เข้าไปเป็นนักฟุตซอลหญิงของโรงเรียน โดยเล่นตำแหน่งกองหน้า แม้เธอจะบอกเราว่าแค่เล่นคลายเครียด แต่ก็ได้เป็นถึงตัวแทนโรงเรียนไปแข่งรายการต่าง ๆ ในระดับจังหวัด
5. จากเด็กที่เล่นกีฬาเพราะรักสนุก ๆ ถูกจุดประกายฝันขึ้นครั้งแรกเมื่อตอน ม.4 หลังเธอถูกส่งเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งวิ่งคัดเลือกระดับภูมิภาค ก่อนจะทำได้สำเร็จเป็นตัวแทนภาคเหนือลงแข่งวิ่ง 100 ม.ในระดับประเทศ และในปีเดียวกันเธอยังผ่านการคัดตัวเข้าร่วมโครงการสปอร์ตฮีโร่ โครงการพัฒนานักกีฬาท้องถิ่นของการกีฬาแห่งประเทศไทย จากความยอดเยี่ยมทั้ง 2 รายการทำให้ บูม ค้นพบความฝันของตัวเองเป็นครั้งแรกนั่นคือการเป็นนักวิ่งทีมชาติ
6. บูม เป็นนักวิ่งระยะสั้นร่างเล็กมีส่วนสูงเพียง 154 ซม. แต่ต้องบอกว่าจิ๋วแต่แจ๋ว เพราะจุดเด่นของเธอคือการออกตัวอันยอดเยี่ยมเหมือนม้าตีนต้น ทำให้เธอถูกเลือกให้เป็นไม้ 1 ในทีมผลัดทั้งในทีมชาติและทีมโรงเรียน
7. หลังจากนั้น บูม เริ่มประสบความสำเร็จระดับประเทศ ได้รองแชมป์ วิ่ง 100 ม. กีฬาเยาวชนแห่งชาติที่บุรีรัมย์ สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ไม่รอช้าจัดการดึงตัวเธอเข้าร่วมโครงการดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิก ซึ่งเป็นแผนงานปั้นนักกีฬาในระยะยาวโดยมีโอลิมปิกเกมส์เป็นเป้าหมาย ทำให้ บูม ถูกคาดหวังจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของลมกรดไทย
8. ในปี 2019 หลังจากที่ บูม เข้าร่วมโครงการฯ เธอได้เป็นตัวแทนเยาวชนทีมชาติไทยไปแข่งขันในระดับนานาชาติและโกยเหรียญรางวัลกลับมาได้ตลอด ไล่ตั้งแต่ เหรียญเงินวิ่งผลัด 4×100 ม.หญิง ในศึกซียูธ เเอธเลติค เเชมเปี้ยนชิพ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ , 2 เหรียญเงิน อาเซียนสคูลเกมส์ จากผลัดผสม 4×100 ม. ชายหญิงและผลัด 4×100 ม.หญิง
9. ขณะที่รายการในประเทศ เธอคว้า 2 เหรียญเงินไทยแลนด์โอเพ่น และอีก 2 เหรียญเงินในศึกชิงแชมป์ประเทศไทยในรุ่นเยาวชนจากรายการ วิ่ง 100 ม. และผลัด 4×100 ม.หญิง
10. ไม่เพียงแค่นั้น การได้เข้าร่วมโครงการดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิก ทำให้เธอยังได้เข้าร่วมเก็บตัวทีมชาติร่วมกับ อรอุมา เชษฐา นักวิ่งทีมชาติไทยผู้เป็นต้นแบบของ บูม ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะทั้งสองคนมีความคล้ายกันคือ ตัวเล็ก ออกตัวดี ขณะที่บูมบอกบอกว่าดีใจมากที่ได้ซ้อมร่วมกันกับ อรอุมา ความใกล้ชิดกันในแคมป์ทีมชาติทำให้ทั้งสองคนสนิทกัน และบูมยังถือโอกาสนี้เรียนรู้ความมุ่งมั่นตั้งใจจากรุ่นพี่
11.จากความสำเร็จทั้งหมดที่เกิดขึ้นในปี 2019 ทำให้เธอมีชื่อติดทีมไปลุยซีเกมส์ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในช่วงปลายปี แม้ว่าจะมีชื่อเป็นแค่ตัวรองแต่ก็ถือว่าได้ไปซึมซับประสบการณ์ในรายการระดับมหกรรมกีฬาสำคัญของคนอาเซียน ซึ่งในอนาคตหากเธอสามารถพัฒนาจุดอ่อนคือการสปริ้นท์ยาวๆได้โดยแรงไม่ตก ก็มีโอกาสที่เธอจะก้าวข้ามเหรียญเงินและไปคว้าเหรียญทองได้สักครั้ง
12. ปัจจุบันเธอเรียนอยู่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 1 ชีวิตในแต่ละวันของเธอนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จากเด็กที่เล่นกีฬาเพราะความสนุก แค่อยากลงเล่น ไม่ได้อยากชนะ วันนี้ความนึกคิดของเธอเปลี่ยนไป อยากชนะ มีเป้าหมาย มีความรับผิดชอบมากขึ้น เรียน 9 โมง ถึง 4 โมงเย็น หลังจากนั้นต้องมาฝึกซ้อม แม้ชีวิตจะเหนื่อยหนักเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาจจะเหนื่อยและท้อบ้าง แต่เธอก็พร้อมจะพิสูจน์ตัวเองในระดับทีมชาติ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ผู้ป่วย “ไมเกรน” อาจถูกกระตุ้นให้ “ปวดหัว” หลังฉีดวัคซีนโควิด-19
หากมีอาการปวดศีรษะจากไมเกรนหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถกินยาแก้ปวดไมเกรนได้หรือไม่
สมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย ระบุว่า จากการรายงานผลหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 พบว่า มีอาการผิดปกติทางระบบประสาทชั่วคราว เช่น อาการชา หรือ อาการอ่อนแรง อาการดังกล่าว เกิดจากการตอบสนองของร่างกาย จากการฉีดวัคซีน ซึ่งเกิดได้กับวัคซีนทุกชนิด และเกิดขึ้นชั่วคราว เท่านั้น
หากมีอาการปวดศีรษะจากไมเกรนหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถกินยาแก้ปวดไมเกรนได้ โดยยาที่สามารถรับประทานได้โดยไม่จำเป็นต้องหยุดยา ได้แก่
ยาแก้ปวดศีรษะไมเกรน
ยากลุ่ม Acetaminophen: Paracetamol
ยากลุ่ม NSAIDs: Aspirin, Ibuprofen, Naproxen
ยากลุ่ม Ergotamine, คาเฟอีน: Cafergot, Tafago
ยากลุ่ม Triptans: Relpax, Siagran, Zomig
ยาป้องกันไมเกรน
กลุ่มยากันชัก: Topiramate, Valproic acid
กลุ่มยาต้านเศร้า: Amitriptyline, Venlafaxine
กลุ่มต้านแคลเซียม: Flunarizine
กลุ่มต้านเบต้า: Propranolol
รวมถึงยาป้องกันไมเกรนชนิดอื่นๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
รวมวลีโดนเท เรามาเก่งภาษาไปทั้งน้ำตากันฮะ
ในสมรภูมิแห่งความรักมัน แน่นอนว่าจะต้องมีทั้งคนสมหวังและคนผิดหวัง
แอดแค่อยากบอกว่า ไม่เป็นไรนะคะเพื่อนๆชาว Engnow ทุกคน ถึงแม้ใครจะเทมา แต่วันนี้แอดก็อยากให้ทุกคนเซมาอ่านบทความของแอดบทนี้ก่อนนะ ฮ่าๆ เพราะวันนี้แอดได้รวมเอาวลีสำหรับคนโดนเทในภาษาอังกฤษ มาปลอบใจเพื่อนๆกัน เพราะถึงแม้เราจะอกหัก แต่เราจะไม่ยอมไม่เก่งภาษาอังกฤษนะเออ!
“Don’t be sorry. I trusted you. My fault, not yours.”
—Alfred Kubin
ไม่ต้องขอโทษหรอก ผมเชื่อคุณเอง มันเป็นความผิดของผม ไม่ใช่คุณ
ในวลีนี้เราใช้ I trusted you. ในรูป Past Simple Tense เพื่ออ้างถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและจบไปแล้ว ซึ่งในที่นี้คือที่เขาได้เชื่อแฟนของเขานั่นเอง
“Pain makes you stronger, fear makes you braver, heartbreak makes you wiser.” —Drake
ความเจ็บปวดทำให้คุณแกร่งขึ้น ความกลัวทำให้คุณกล้าหาญขึ้น ความรู้สึกเสียใจอย่างมากทำให้คุณฉลาดขึ้น
จากวลีจะเห็นได้ชัดว่ามีการใช้คำคุณศัพท์ strong, brave, และ wise ในรูป comparative form นั่นก็คือ stronger, braver, wiser ที่ให้ความหมายว่า แข็งแกร่งขึ้น กล้าหาญขึ้น และฉลาดขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
“Sometimes, I don’t know what haunts me more… The memories of you… Or the happy person I used to be.” —Ranata Suzuki
ในบางครั้ง ไม่รู้ว่าอะไรที่ตามหลอกหลอนผมมากกว่ากัน ความทรงจำเกี่ยวกับคุณ หรือการเป็นคนที่มีความสุขในแบบที่ผมเคยเป็น
จากวลีนี้มีการใช้คำกริยา used to ที่มีความหมายว่า เคย ใช้กล่าวถึงสิ่งที่เราเคยทำในอดีต แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำสิ่งนั้นแล้ว อย่างเช่น การคุยกับเธอเป็นต้น ฮือ
“Breakups can be sad, but sometimes tears are the price we pay for a freedom we need.”― Steve Maraboli
การเลิกกันอาจทำให้รู้สึกเสียใจ แต่ในบางครั้ง น้ำตาก็เป็นราคาที่เราจ่ายเพื่ออิสระที่ต้องการ
เรามักพบเห็นการใช้ sometimes หมายถึง ในบางครั้ง ในบางเวลา ที่เป็น adverb of frequency แบบนี้บ่อยๆ ใน Present Simple Tense
“Never allow someone to be your priority while allowing yourself to be their option.” — Mark Twain
อย่ายอมให้ใครมาเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกๆ ของเรา ในขณะที่ยอมให้ตัวเองไปเป็นตัวเลือกของเขา
การเลือกใช้คำนาม priority ที่เห็นในวลีนี้ หมายถึง สิ่งที่สำคัญที่สุดกว่าสิ่งอื่นๆ ที่เราต้องจัดการ หรือสนใจมันเป็นอันดับแรก
“The hardest thing is not talking to someone you used to talk to every day.”—SumNan
สิ่งที่ยากที่สุดคือการที่คุณไม่ได้กำลังคุยกับคนคุณเคยคุยด้วยทุกวัน
ทำไมยิ่งอ่านแล้วยิ่งเจ็บนะ ฮ่าๆ วลีนี้มีการใช้หลักการเปรียบเทียบในขั้นสูงสุด หรือที่เรียกว่า Superlative Adjectives ในโครงสร้าง The + adjective + -est (สำหรับคำคุณศัพท์ที่มีพยางค์เดียว) มาขยาย คำนามที่ตามมาด้านหลัง ดังตัวอย่าง The hardest thing ที่หมายถึง สิ่งที่ยากที่สุด
“Don’t cry when the sun is gone because the tears won’t let you see the stars.” — Violeta Para
อย่าร้องไห้เมื่อดวงอาทิตย์ได้จากไปแล้ว เพราะว่าน้ำตาจะทำให้เรามองไม่เห็นดวงดาว
ถ้าจะเปรียบเปรย ดวงอาทิตย์ที่จากไปก็คงจะเหมือนกับคนรักเก่าของเรา ที่ไม่ว่าจะจบกันไปแบบดีหรือร้าย แต่ท้ายที่สุดเขาก็ได้จากไปแล้ว ดังนั้น อย่าร้องไห้เลย เพราะการเอาแต่ร้องไห้เสียใจอยู่อย่างนั้นอาจทำให้เราพลาดโอกาสที่จะเห็นดวงดาว ซึ่งเปรียบเหมือนโอกาสที่เราจะได้พบกับความรักครั้งใหม่นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
Xiaomi-foodpanda ผนึกขยายธุรกิจควิกคอมเมิร์ซผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์
Foodpanda ร่วม Xiaomi เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านบริการเดลิเวอรี่ด้วย foodpanda shops ในสิงคโปร์และไทย นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน foodpanda ยังถูกติดตั้งไว้พร้อมใช้งานในอุปกรณ์ Xiaomi รุ่นใหม่ใน 10 ประเทศทั่วเอเชียอีกด้วย
ในฐานะที่ foodpanda เป็นพันธมิตรด้านควิกคอมเมิร์ซเจ้าแรกในเอเชียของ Xiaomi นอกประเทศจีน foodpanda จะนำเสนอสินค้า Xiaomi นับร้อยรายการ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทแกดเจ็ตต่าง ๆ อุปกรณ์การฟัง อุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ที่จัดส่งภายใน 30 นาที
ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการขยายธุรกิจของ foodpanda shops ให้ก้าวไกลไปกว่าสินค้าประเภทของกินของใช้ และมอบความสะดวกสบายตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้ดีขึ้น
นอกจากนี้จะมีสินค้า Xiaomi จำหน่ายผ่าน foodpanda shops ในสิงคโปร์ กว่า 100 ไอเท็มซึ่งพร้อมจัดส่งทั่วประเทศ และ foodpanda shops ประเทศไทย ก็มีผลิตภัณฑ์ Xiaomi กว่า 200 ไอเท็ม จากช็อป Xiaomi 6 สาขา สินค้า Xiaomi ยอดนิยมที่จำหน่ายใน foodpanda shops ในสิงคโปร์ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น เครื่องทำความชื้นกำจัดแบคทีเรีย และกาต้มน้ำไฟฟ้า สินค้าที่เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยและสิงคโปร์ได้แก่ เม้าส์ไร้สาย ซึ่งเป็นไอเท็มยอดนิยมในช่วงการทำงานที่บ้าน
ความนิยมของ Xiaomi เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงนี้ และได้กลายมาเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับสองของโลก และนอกเหนือจากโทรศัพท์มือถือแล้ว Xiaomi ยังมีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ตอบโจทย์หลากหลายของผู้บริโภค ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของ Xiaomi เพิ่มขึ้นในเอเชีย และ Xiaomi กำลังจะขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกใน 3 ปีนี้ Xiaomi ขยายธุรกิจในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง และบริการใหม่อย่างเช่นเดลิเวอรี่ผ่าน foodpanda shops จะเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้สินค้าไปถึงมือผู้บริโภคนับล้านทั่วทั้งภูมิภาคได้อย่างง่ายดาย
บทวิเคราะห์จากปี 2021 โดยฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน รายงานว่าเอเชียแปซิฟิกมีการใช้แอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือมากขึ้นในช่วงโควิด-19 ผู้บริโภคใช้เวลากับสื่อดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้นบริการจาก foodpanda จึงได้รับความนิยมมากขึ้นในฐานะธุรกิจ ควิกคอมเมิร์ซ
●ในปัจจุบัน ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ทำให้ foodpanda shops มียอดสั่งซื้อสูงขึ้น 18 เท่า ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2020
●ร้านค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กว่า 1,000 แห่งทั่วเอเชียเข้าร่วม foodpanda shops ในปี 2021 โดยมีสินค้ากว่า 289,000 ชนิด ทั้งจากแบรนด์ในประเทศและแบรนด์ระดับโลกอย่าง Huawei, Logitech, Asus, TP Link, Remax, Philips, ecHome และ e-life Mall เป็นต้น
สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสินค้าประเภทของกินของใช้ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม เป็น 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่มีการเติบโตที่สุดในแง่ของจำนวนร้านค้าที่มาเข้าร่วมใน foodpanda shops ในปีที่ผ่านมา เดลิเวอรี่ ฮีโร่ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ foodpanda เปิดเผยข้อมูลในรายงานการค้าไตรมาส 3 ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่ามีการเติบโตของจำนวนออเดอร์สูงถึง 52% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการจำหน่ายผ่านควิกคอมเมิร์ซ และเดลิเวอรี่ ฮีโร่ พบว่า foodpanda shops มีการเติบโต 330% ในกลุ่มสินค้าและบริการแบบ vertical
“บริการเดลิเวอรี่เริ่มเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันผู้บริโภค” อภิเษก ซาเฮย์ (Abhishek Sahay) ผู้อำนวยการอาวุโส New Vertical, foodpanda กล่าว “นอกจากอีคอมเมิร์ซในรูปแบบดั้งเดิมแล้ว แบรนด์ในปัจจุบันยังมองหาโอกาสในการเติบโตต่อไปในอนาคต และควิกคอมเมิร์ซอย่าง foodpanda shops ก็เป็นช่องทางใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ขายสามารถส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าได้แทบจะทันที ไม่ว่าจะเวลาใด เรายินดีที่ได้เป็นพันธมิตรควิกคอมเมิร์ซแรกในเอเชียกับ Xiaomi และช่วยให้ Xiaomi ได้เชื่อมต่อกับลูกค้าในภูมิภาคนี้ได้อย่างรวดเร็ว”
นอกจากจะมีสินค้า Xiaomi จำหน่ายใน foodpanda shops แล้ว แอปฯ foodpanda ยังได้รับการติดตั้งพร้อมใช้ไว้ในโทรศัพท์ Xiaomi รุ่นใหม่ ที่วางขายใน 10 ประเทศทั่วเอเชีย ได้แก่ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย ปากีสถาน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ ลาว กัมพูชา และเมียนมา
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
7 คุณประโยชน์ของ “ไข่ขาว” อาหารของคนรักสุขภาพ
“ไข่” ไม่ว่าจะไข่เป็ด ไข่ไก่ วัตถุดิบบ้านๆ ที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ราคาถูก สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ด้วยคุณประโยชน์มากมาย สามารถรับประทานได้ทุกวัยไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ทำให้ไข่เป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งที่หลายๆ บ้านมักจะมีติดไว้ที่ก้นครัวอยู่เสมอๆ แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากจะนำไข่มาประกอบอาหารแล้ว ไข่ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกหลายด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ไข่ขาว” ที่มักถูกนำมาใช้ประโยชน์ที่มากกว่าการประกอบอาหารอยู่เสมอๆ มาดูกันดีกว่าว่าประโยชน์ของไข่ขาวนั้นมีดีอะไรบ้าง
ประโยชน์ของไข่ขาว 7 ประการ
1. ไข่ขาวเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ สำหรับนักเพาะกายหรือเหล่านักออกกำลังกาย ไข่ขาวเป็นอีกหนึ่งในอาหารที่ขาดกันไม่ได้เลยทีเดียว เพราะไข่ขาวมีส่วนประกอบหลักคือโปรตีนและไม่มีไขมันรวมถึงคอเลสเตอรอลเหมือนกับไข่แดง เราจึงเห็นว่าคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อมักกินไข่ขาวหลายๆ ฟองต่อวันโดยไม่ต้องกังวลกับโรคอ้วนหรือโรคหัวใจ โปรตีนในไข่ขาวจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่างๆ ให้แข็งแรงมากขึ้น
2. ไข่ขาวอุดมไปด้วยโพแพสเซียมสูง มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิต โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิต มีการวิจัยพบว่าในใข่ขาวมีเปปไทด์ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งโปรตีน ช่วยลดความดันโลหิตได้เทียบเท่ากับยา Captopril
3. ไข่ขาวมีวิตามินบี 2 สูง ช่วยเสริมสร้างการเกิดเซลล์เม็ดเลือดแดง จึงช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้อย่างดีเยี่ยม
4. ไข่ขาวเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากไข่ขาวเป็นอาหารที่พลังงานน้อยเพียง 17 กิโลแคลอรี่ต่อหนึ่งฟอง จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก และถึงแม้จะให้พลังงานน้อยแต่ก็ทำให้รู้สึกอิ่มนานและไม่รู้สึกโหย หิวระหว่างวัน อีกทั้งโปรตีนในไข่ขาวย่อยง่ายมาก ร่างกายสามารถนำโปรตีนที่ได้จากไข่ขาวไปใช้ได้ 100% เต็มๆ เลยทีเดียว
5. ไข่ขาวเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร เพราะโปรตีนจากไข่ขาวไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารเหมือนกับโปรตีนจากแหล่งอื่นๆ จึงเหมาะเป็นเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับดูแล ฟื้นฟูผู้เป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร
6. ประโยชน์ของไข่ขาวนำมาบำรุงผิวพรรณ หากต้องการฟื้นฟูผิวหน้าที่ผ่านการเผชิญกับมลพิษมาทั้งวันให้กลับมาชุ่มชื่น สดใสแข็งแรง วิธีที่ง่ายแสนง่ายก็คือ นำไข่ขาวมาพอกหน้าทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก จะช่วยจัดการกับสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนใบหน้าได้อย่างหมดจด หรือหากมีปัญหาสิวเสี้ยน ฝ้า กระ จุดด่างดำ สามารถใช้ไข่ขาวช่วยได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องเพิ่มน้ำมะนาวลงไปในไข่ขาวอีกสักเล็กน้อย ผสมให้เข้ากันแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยให้หน้าขาว กระจ่างใส ห่างไกลสิว
7. ประโยชน์ของไข่ขาวช่วยบำรุงผม มีผลิตภัณฑ์บำรุงผมมากมายที่วางขายตามท้องตลาดที่มีผสมของไข่ขาว แต่ทั้งนี้เราสามารถบำรุงได้เองที่บ้านเช่นกัน เพียงนำไข่ขาวมาตีให้เกิดฟองผสมกับน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวลงไป นำมาหมักผมทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพียงเท่านี้ผมที่เคยแห้งเสียก็จะกลับมาเงางาม นุ่มสลวย ไม่ขาดหลุดร่วงง่ายๆ อย่างแน่นอน
ข้อควรระวังในการรับประทานไข่ขาว
1. ทานไข่ขาวมากเกินไปอาจทำให้เกิดโทษ เพราะหากร่างกายรับโปรตีนจากไข่ขาวในปริมาณที่มากกว่าความจำเป็นของร่างกาย ไตก็ต้องทำงานหนักในการจัดการกับโปรตีนส่วนเกิน ดังนั้นควรควบคุมการทานไข่ขาวในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อป้องกันปัญหาที่เกี่ยวกับโรคไต ที่อาจส่งผลตามมาในอนาคต
2. ควรทานไข่ขาวแบบสุก การรับประทานไข่ขาวต้องทำให้สุกก่อนทุกครั้งเพราะร่างกายไม่สามารถดูดซึมไข่ขาวในขณะที่ยังดิบ และป้องกันความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ salmonella อีกด้วย
3. ไข่ขาวดิบลดการดูดซึมโปรตีนและวิตามินบี 2 จึงไม่แนะนำให้ทานไข่ขาวแบบดิบเป็นอันขาด โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในวัยที่ต้องการโปรตีนสูง
เรียกได้ว่าคุณประโยชน์ของไข่ขาวนั้นมีมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะด้านสุขภาพ และความงาม เป็นอาหารที่แสนธรรมดา แต่คุณค่าไม่ธรรมดาอย่างที่คิด แถมยังราคาถูก หาซื้อง่าย “ไข่ขาว” มีประโยชน์ดีๆ เยอะอย่างนี้อย่าลืมรับประทานกันเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสมรวมถึงอย่ารับประทานไข่ดิบเพราะแทนที่จะได้ประโยชน์อาจจะเกิดโทษต่อร่างกายแทนได้
ขอบคุณข้อมูลจาก sukkaphap-d.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 26/11/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,400.00 | 28,500.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,840.00 | 27,894.40 | 29,000.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,656.00 | 25,104.96 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,472.00 | 22,315.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 828.00 | 12,552.48 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 644.00 | 9,763.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,907.00 | 28,910.12 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 26/11/2564
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 31.05 | 31.05 | 31.85 | 31.35 | 31.45 | 31.05 | 31.45 | 31.45 | 31.35 | 31.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 30.78 | 30.78 | 31.58 | 31.08 | 31.18 | 30.78 | 31.18 | 31.18 | 31.08 | 30.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 29.54 | 29.54 | 30.34 | 29.84 | 29.94 | – | 29.94 | 29.94 | 29.84 | 29.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 23.69 | 23.69 | – | – | – | – | – | – | – | 23.69 |
เบนซิน 95 | 38.46 | – | – | – | 39.31 | – | 39.36 | 39.36 | – | 38.46 |
ดีเซล B7 | 28.84 | 28.84 | 29.64 | 29.14 | 29.44 | 28.84 | 29.24 | 29.24 | 29.14 | 28.84 |
ดีเซล | 28.69 | 28.69 | 29.49 | 28.99 | 29.29 | 28.69 | 29.09 | 29.09 | 28.99 | 28.69 |
ดีเซล B20 | 28.59 | 28.59 | 29.39 | – | 29.19 | – | 28.99 | 28.99 | – | 28.99 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 34.46 | 34.86 | 36.09 | 35.86 | – | – | – | – | – | 34.46 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |