ปลุกอสังหา ดันเศรษฐกิจ ชงลดภาษีธุรกิจเฉพาะ ต่อเวลาลดค่าโอน-จดจำนอง
3 สมาคมบ้านนำโดย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ชงกระทรวงการคลัง-มหาดไทย เพิ่มมาตรการโด๊ปอสังหาฯ ปี 2565 ลดภาษีธุรกิจเฉพาะ ขยายลดโอน-จดจำนอง 0.01% เว้นภาษีเปิดทางเอกชนสร้างที่อยู่อาศัยรายได้น้อย เร่งสกัดไวรัสสายพันธุ์ใหม่คาดปีหน้าตลาดโต 10-20% แบงก์มองปีหน้ากู้กระหึ่ม
อสังหาริมทรัพย์ เครื่องตัวยนต์ ตัวใหญ่ ที่รัฐบาลใช้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ นอกจาก การใส่เม็ดเงินลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐาน สะท้อนจาก การออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปี 2564 ยาวตลอดทั้งปี 2565 ได้แก่ มาตรการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV การกระจายการฉีดวัคซีนโควิด-19
ให้ได้ตามเป้าหมายรัฐบาล รวมถึงการ การเปิดประเทศ ท่ามกลาง การรับมือการระบาดไวรัสโควิด-19 และไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” ที่กังวลว่าจะเข้าระบาดหนักในประเทศไทยหรือไม่ขณะผู้ประกอบการต่างมองว่า เพื่อให้การซื้อขายระบายสต็อกที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลควรขยาย มาตรการออกไปในระยะยาว และเพิ่มเติมมาตรการใหม่ๆ ดึงดูดผู้ซื้อ
ชงโด๊ปอสังหาฯต่อเนื่อง
นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย คนใหม่ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในปี2565 แม้ธุรกิจอสังหาฯจะมีสัญญาณที่ดีแต่ ยังมีปัจจัยลบจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหนี้ครัวเรือน การระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องมีมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯต่อเนื่อง โดยสมาคมฯ ร่วมกับสมาคมอาคารชุดไทยและสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เตรียมเสนอ 3 มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯต่อกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยราวสัปดาห์หน้า ทั้งการต่อ อายุ ขยายมาตรการ ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย และค่าจดจำนอง เหลือ 0.01% ที่จะหมดอายุลงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ลดภาษีธุรกิจเฉพาะ
นอกจากนี้จะขอเพิ่มมาตรการใหม่ ลดหย่อนภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% เหลือ 0.01% เหมือนปี 2553 ซึ่งมองว่าได้ผล เพราะช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการนำมาลดแลกแจกแถมให้กับผู้ซื้ออีกต่อ นอกจากนี้ยังต้องการให้มีมาตรการผ่อนผัน การปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการที่ลูกค้าชั้นดี เพราะแม้มีมาตรการคลายล็อก LTV แต่ในที่สุดแล้วสถาบันการเงินจะมองที่ขีดความสามารถในการผ่อนชำระเป็นเกณฑ์ โครงการใดมีลูกค้าผิดนัดชำระเงินกู้มากก็จะเป็นภาพลบสำหรับโครงการหรือบริษัทนั้น
เวฟภาษีลุยบ้านรายได้น้อย
ขณะเดียวกันมาตรการระยะยาว ต้องการให้รัฐบาลยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีนิติบุคคล ฯลฯ เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าไปช่วยการเคหะแห่งชาติ (กคช.) พัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภทเช่า โดยนำต้นทุนจากการยกเว้นภาษี มาจัดหาที่ดินทำเลในเมืองช่วยให้สะดวกมากขึ้นประเมินว่าหากรัฐบาลออกมาตรการใหม่ๆ ต่อเนื่องจะช่วยให้ตลาดอาสังหาฯ ในปี2565เติบโตขึ้นประมาณ10-20% จากมูลค่าตลาดรวม7แสนล้านบาท
รัฐเจ้าภาพปลุกศก.
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมามาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโอนฯ และจดจำนองของรัฐบาล ช่วยปลดล็อกให้ผู้ประกอบการ ได้มีโอกาสแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้บริโภคช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นขณะสัญญาณการปลด LTV ลงของ ธปท. ช่วงก่อนหน้า นับเป็นจุดเริ่มต้นเชิงบวกของทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงปี 2565 ที่จะปลุกดีมานด์เก่าและใหม่ให้กลับเอามาในระบบ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกข้างต้นอาจไม่เพียงพอ จึงเห็นด้วยที่รัฐบาลควรออกมาตรการอื่นๆ มาสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น การยืดมาตรการลดภาษีการโอนฯ ออกไปก่อน ร่วมกับการลดภาษีธุรกิจเฉพาะ ที่ 3 สมาคมอสังหาฯ ยื่นข้อเรียกร้องไป เพราะท้ายที่สุดแล้ว นอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศการซื้อ-ขายที่ดี คาดคนที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงสูงสุด ก็คือผู้บริโภคนั่นเอง
ปลดล็อกLTVยื่นกู้กระหึ่มปี65
ส่วนมาตรการ LTV ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายเป็นการชั่วคราว นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท. กล่าวว่า มาตรการ LTV เป็นแค่ปัจจัยหนึ่งในการปล่อยกู้ของธนาคารหลักๆธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ โดยดูอัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) ด้วย ส่วน LTV รอบนี้เน้นกลุ่มเป้าหมายสำหรับคนที่มีกำลังซื้อจริงๆ ซึ่ง ธปท. ทำให้เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อไม่เป็นอุปสรรคจากเดิมไม่ให้เกิน 90%
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้น ดีมานด์ในประเทศ ผลักดันภาคธุรกิจอสังหาฯ ให้กลับมาสดใส และเป็นแรงช่วยผลักดันการจ้างงาน กระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น
กลางธ.ค.เห็นภาพเร่งโอน
นายณัฐพล พร้อมลือชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรี อยุธยา กล่าวว่า ปกติปลายปีจะมีปัจจัยเร่งโอนโครงการที่สร้างเสร็จแล้วเข้ามาในระดบหนึ่ง แต่ตัวเลขการโอนจะเห็นราวกลางเดือน ธ.ค. เพราะคนจะทำธุรกรรมจดจำนองมากช่วง 1-2 วันก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายน จากนั้นราว 1-2 สัปดาห์ก็จะเห็นภาพการโอนที่อยู่ชัดขึ้น
เนื่องจากปีนี้ยอดเปิดโครงการใหม่น้อย ทุกคนพยายามจะเคลียร์สต๊อกแนวราบ แนวสูง ซึ่งหลายโครงการที่จับกลุ่มระดับกลางและบนก็เห็นการเติบโต แต่โครงการที่สร้างเสร็จพร้อมขาย (ช่วงต้นและกลางโควิด) 1-3 ปียอดโอนอาจจะวิ่งช้า เพราะโครงการราคา 3 ล้านบาทจะมีชะลอโอนเนื่องจากผลกระทบเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ประกอบการนำมาทำตลาดใหม่ เมื่อเทียบกับโครงการก่อสร้างเสร็จใหม่ก็จะมีความแตกต่างของความสดใหม่
ในส่วนกรุงศรียังทำงานต่อเนื่องกับดีเวลลอปเปอร์ระยะยาวไม่ได้เพิ่มหรือลดลง แต่ปีนี้วัตถุประสงค์ใหญ่ของการทำธุรกิจ 2 เรื่องคือ ช่วยลูกค้าที่ประสบภาวะโควิดให้สามารถที่จะประคองตัวเองผ่านวิกฤติ และการคัดกรองลูกค้าที่มีความพร้อมมีการวางแผนในการซื้อบ้าน ไม่ใช่กระโจนซื้อโดยไม่มีความพร้อม สุดท้ายจะสร้างปัญหาระยะยาว ดังนั้นปีนี้จึงไม่มุ่งเน้นเป้ายอดขาย
ไตรมาส 4 สินเชื่อโตสูงสุด
นายเอกสิทธิ์ พฤฒิพลากร ผู้บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ไตรมาส 4 จะเป็นช่วงสินเชื่อบ้านจะเติบโตได้สูงสุด เพราะผู้ประกอบการทำแคมเปญเร่งการซื้อและตัดสินใจโอนปีนี้มาตรการ LTV ที่ผ่อนเกณฑ์ให้ราคาบ้านหลังที่ 2 หลังที่ 3 ส่วนใหญ่รายได้ปานกลาง-สูง มีศักยภาพและเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงไม่สูง ซึ่งแนวโน้มน่าจะเห็นกลุ่มนี้เข้ามามากขึ้น…
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
อสังหาฯใหญ่ “รัตนากร” รับไม้ต่อ IWG บริหารพื้นที่สำนักงานทั่วไทย
IWG โคเวิร์กกิ้งสเปซที่ใหญ่ที่สุดในโลก จับมืออสังหาฯรายใหญ่ “รัตนากร แอสเซท” ลงนามสัญญาแฟรนไชส์ ตั้งเป้า บริหารพื้นที่สำนักงานให้เช่า 40 แห่งทั่วไทย ในระยะ 10 ปี
2 ธ.ค.2564 – IWG (ไอดับบลิวจี) ผู้นำด้านการให้บริการพื้นที่สำนักงานให้เช่าแบบยืดหยุ่น (Flexible Workspace) ชั้นนำของโลกเป็นที่รู้จักกันในแบรนด์ Regus, Spaces, HQ และ Signature มอบสิทธิ์หลักในการบริหารแฟรนไชส์ระดับภูมิภาคหรือมาสเตอร์แฟรนไชส์ให้กับ รัตนากร แอสเซท ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ของไทย เป็นผู้ร่วมพัฒนาและขยายธุรกิจในประเทศไทย
ภายใต้ข้อตกลงแฟรนไชส์ที่ รัตนากร แอสเซท สามารถพัฒนาพื้นที่สำนักงานให้เช่าแบบยืดหยุ่น (Flexible Workspace) ได้ทุกจังหวัดทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย ยกเว้นกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยในปี 2565 รัตนากร แอสเซท ร่วมมือกับ IWG เปิดศูนย์ใหม่ จำนวน 5 แห่ง
ได้แก่ ในเมืองพัทยา จำนวน 2 แห่ง ในชลบุรี ศรีราชา และระยอง พื้นที่ละ 1 แห่ง ซึ่งการเปิดศูนย์แห่งใหม่นี้เป็นกลยุทธ์การขยายธุรกิจร่วมกันระหว่าง IWG และ รัตนากร แอสเซท โดยตั้งเป้าเปิดศูนย์อย่างน้อย 40 แห่งทั่วไทยภายใน 10 ปี
มาร์ค ดิกสัน ผู้ก่อตั้งธุรกิจและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IWG กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หลายธุรกิจเล็งเห็นและปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อตอบรับความต้องการในการทำงานแบบไฮบริด หรือ Hybrid working ที่ธุรกิจจำนวนมากทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่กำลังนำมาใช้อยู่นั้น ทำให้เกิดการตระหนักว่า ไม่เพียงแต่จะสามารถดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้ได้ แต่การปรับเปลี่ยนมาสู่โมเดลการทำงานในรูปแบบนี้ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานอีกด้วย
บรรดาธุรกิจต่าง ๆ กำลังกำหนดพื้นที่ครอบคลุมการทำงานใหม่ โดยนำงานเข้าไปใกล้ที่พักของบุคลากรมากขึ้นเพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่น สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่ตอบสนองความต้องการและความจำเป็นของบุคลากร”
ปัจจุบันการทำงานแบบยืดหยุ่นที่ไม่ยึดติดกับสถานที่ ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างล้นหลามในหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียม (เจเนอเรชั่น วาย) ซึ่งคุ้นชินกับดิจิทัลเทคโนโลยีและชื่นชอบในความคล่องตัวและยืดหยุ่นในการทำงาน การทำงานแบบไฮบริดพนักงานไม่เพียงแต่ได้ทำงานในสถานที่ที่หลากหลาย ยังใช้เวลาในการเดินทางไปทำงานลดลง สามารถทำงาน ณ สถานที่แห่งไหนก็ได้ สำนักงาน บ้าน หรือ พื้นที่ทำงานในรูปแบบ Flexible Workspace เป็นแนวทางการทำงานที่มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
“ความต้องการในการทำงานแบบไฮบริดของหลายธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์นี้ ประกอบกับการคิดทบทวนใหม่ในกลยุทธ์การดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ จึงเกิดเป็นความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกับรัตนากร แอสเซท ที่จะเอื้อประโยชน์ให้เกิดการขยายธุรกิจได้รวดเร็วขึ้น ตอบสนองความต้องการของผู้คนในการทำงานแบบไฮบริดทั่วประเทศไทย และรองรับการขยายตัวของสังคมเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง การกระจายความเจริญจากเมืองหลวงสู่หัวเมืองใหญ่ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมในหลากมิติ”
IWG ผู้ให้บริการพื้นที่สำนักงานให้เช่าในรูปแบบ Flexible Workspace แถวหน้าระดับโลก เปิดดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ช่วยให้ลูกค้าหลายล้านคนได้มีวันที่ดีในการทำงาน สำหรับในประเทศไทยนั้น IWG เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2542 ปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั้งสิ้น 26 แห่งนับตั้งแต่ต้นปี 2564 IWG มีลูกค้าใหม่ในเครือข่ายทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 2 ล้านราย เนื่องจากบริษัทต่างๆ รับรู้ถึงประโยชน์ของการให้พนักงานเข้าถึงสำนักงานให้เช่าระดับมืออาชีพที่มีอุปกรณ์ครบครันที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนทำเลไม่ไกลจากที่พักอาศัย
นายจักรรัตน์ เรืองรัตนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท รัตนากร แอสเซท จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีมีมูลค่าสินทรัพย์กว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ดำเนินงานครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งที่อยู่อาศัย พื้นที่ค้าปลีก โรงงาน และโรงแรม กล่าวว่า “บริษัทมีแผนจัดหาพื้นที่สำนักงานให้เช่า (flexible workspaces) ในพื้นที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแต่ละภูมิภาค อย่างเชียงใหม่ เชียงราย และภูเก็ต โดยศูนย์เหล่านี้จะอยู่ในโครงการมิกซ์ยูสที่มีอยู่แล้วบางส่วน รวมถึงโรงแรม คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่ค้าปลีกที่บริษัทบริหารจัดการอยู่ เพื่อให้ลูกค้าได้มีพื้นที่ทำงานที่สะดวกสบายพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดยจะช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนให้ใช้ชีวิตอย่างสมดุล ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว”
นี่เป็นการตอบโจทย์แนวโน้มการทำงานแบบไฮบริด คนกลุ่มนี้จะแสวงหาสถานที่ใหม่ ๆ ที่ชื่นชอบและเลือกใช้เป็นสถานที่ในการทำงานสำหรับพวกเขา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ยังก่อให้เกิดประโยชน์แก่ธุรกิจท้องถิ่นอีกด้วยการทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานเป็นของตัวเอง หรือทำสัญญาเช่าระยะยาวอีกต่อไป IWG นำเสนอทางเลือกใหม่ที่สมบูรณ์แบบ ช่วยให้ธุรกิจและพนักงานสามารถทำงานในสถานที่สะดวกสบายจากที่ใดก็ได้ในโลก มีให้เลือกนับพันแห่ง และสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา
นายจักรรัตน์ กล่าวปิดท้ายว่า “IWG เป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยแบรนด์ที่หลากหลาย ดังนั้น รัตนากร แอสเซท จึงร่วมมือกับ IWG เพราะเชื่อมั่นในธุรกิจ flexspace (พื้นที่พร้อมใช้ตามความต้องการ) และมองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจนี้ การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างรัตนากร แอสเซท กับ IWG มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาร่วมกัน ซึ่งจะส่งผลให้รัตนากร แอสเซท สามารถขยายธุรกิจและเติบโตต่อไปในอนาคต”
สำหรับ รัตนากร แอสเซท นั้น เป็น ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์สัญชาติไทย เจ้าของโครงการในประเทศมากกว่า 37 กลุ่มธุรกิจ มูลค่ากว่า 33,000 ล้านบาท ในพัทยา ชลบุรี ระยอง ตลอดจนหัวเมืองในภูมิภาคต่าง ๆ รวมถึงทางภาคใต้ของประเทศไทย บริษัทดำเนินธุรกิจอย่างหลายหลาก ได้แก่ ธุรกิจบ้านจัดสรร 113 โครงการ อาคารพาณิชย์ คอมมูนิตี้มอลล์ พื้นที่ร้านค้าปลีกเกินกว่า 5,000 ยูนิตในตลาดค้าส่ง-ค้าปลีก ขนาดใหญ่
นอกจากนี้ยังมีโครงการอาคารพาณิชย์ ที่พักอาศัย พื้นที่ให้เช่า กว่า 300 แห่ง และโครงการระดับ World Class ได้แก่ Citadines Apart Hotels ภายใต้แบรนด์ Ascott Limited โรงแรมภายใต้แบรนด์ IHG® จำนวน 8 โครงการ และแบรนด์อื่น ๆ อาทิ ONYX Hospitality Group และYoo Worldwide บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมเรื่องของ BioCircular Green (BCG) economy ล่วงหน้า ภายใต้ความร่วมมือกันในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาดกับบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่นฯ นอกจากนี้เพื่อเติมเต็ม Supply Chain ได้มีการร่วมมือพัฒนาศูนย์โลจิสติกส์ คลังสินค้าบริการเช่าห้องเก็บของและทรัพย์สิน (Self-Storage) และวัสดุก่อสร้าง ยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่บริษัทให้ความสำคัญ ได้แก่
(1) ด้านการศึกษาเรียนรู้เป็นโรงเรียนทุกระดับชั้น ใช้หลักสูตร 3 ภาษา ทั้งหมด และศูนย์สตาร์ทอัพและเทคโนโลยีโดยความร่วมมือและเชี่ยวชาญจาก Hubba
(2) ธุรกิจผลิตอาหารและการเกษตร ได้แก่ โรงงานผลิตปุ๋ย Organic Mineralจำนวน 12 แห่ง ปัจจุบันมีที่ดินรอการพัฒนากว่า 3,000 ไร่ รัตนากร แอสเซท ภาคภูมิใจในความมุ่งมั่นอันยาวนาน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ตลอดจนรักษาและเคารพคุณค่าทางสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง เปิดตลาด 33.95 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทเปิดตลาด 33.95 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าต่อเนื่อง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหนุนดอลลาร์แข็งค่า
นักบริหารเงินจาธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.95 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.88 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง และเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน ผลจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลงราว 20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งอาจทำให้วันนี้มี flow นำเข้าทองคำจากฝั่งผู้ค้าทองในประเทศได้
สำหรับปัจจัยสำคัญ วันนี้ต้องติดตามการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ เพราะจะมีผลต่อการคาดการณ์นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะเร่งการขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นหรือไม่ หากตัวเลขดังกล่าวออกมาดีเกินคาด ซึ่งจะทำให้บาทอ่อนค่าทะลุ 34 บาท/ดอลลาร์ได้
นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.85-34.00 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ฝันหวานข้างโต๊ะ! “วิลเลียมส์” ขอโทษกองเชียร์และคู่แข่งหลังเผลอนั่งหลับ
มาร์ค วิลเลียมส์ นักสนุกเกอร์ชาวเวลส์ อดีตแชมป์โลก 3 สมัย ออกมาขอโทษแฟนๆ และคู่แข่ง หลังเผลอหลับระหว่างการแข่งขัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในการแข่งขันสนุกเกอร์ ยูเค แชมเปียนชิพ รายการเมเจอร์เก่าแก่ ซึ่ง มาร์ค วิลเลียมส์ อดีตแชมป์โลก 3 สมัย ตกรอบ 2 หลัง แพ้ โทนี แฮมิลตัน 5 ต่อ 6 เฟรม
แต่การตกรอบของเขา ไม่ได้เป็นประเด็นเท่ากับการเผลอหลับขณะแข่งขัน เพราะขณะที่ วิลเลียมส์ กำลังนำ อยู่ 3-1 เฟรม เขาเผลอหลับ ก่อนจะสะดุ้งตื่นและตั้งสติเพื่อแข่งขันต่อ
วิลเลียมส์ บอกว่า ตอนที่สะดุ้งตื่นขึ้นมา ก็งงเล็กน้อย เพราะตลอด 30 ปีของการเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ เขาไม่เคยหลับระหว่างแข่งขันเลย
ซึ่งสาเหตุที่หลับ เขาคิดว่าส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบหลังติดเชื้อโควิด-19 โดย วิลเลียมส์ ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นเขารู้สึกว่า ตัวเองเหนื่อย และเพลียง่าย
แม่นคิววัย 46 ปี ออกมาขอโทษคู่แข่งและแฟนๆที่เผลอหลับครั้งนี้ ทำให้มีภาพออกมาแบบไม่เหมาะสม พร้อมบอกอีกว่า เขาพยายามฟื้นฟูตัวเองให้กลับมามีร่างกายที่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า และจะลงแข่งขันต่อในรายการสกอตติช โอเพน เดือนหน้า
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
แพทย์เตือน ทำงานหนักเกินไป เสี่ยง “เบาหวาน”
การเกิดโรคเบาหวานในมนุษย์เงินเดือนอยู่ใกล้ตัวเป็นอย่างมาก ทั้งการทานของหวานๆ ขาดการออกกำลังกาย ไม่ควบคุมน้ำหนัก และหากป่วยแล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่สภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ก่อนที่จะสายเกินไป ควรเริ่มใส่ใจในการดูแลสุขภาพให้มากขึ้น
ทำไมทำงานหนักถึงเสี่ยงเบาหวาน
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เป็นห่วงคนทำงานหนักเกินไป เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน สาเหตุที่เห็นได้ชัดคือพฤติกรรมการรับประทานอาหารของหวาน ของมัน ของทอด โดยเฉพาะเมื่อทำงานหนัก เกิดความเครียดร่างกายต้องการของหวานเติมเต็ม เพราะว่าสามารถบรรเทาความเครียดได้ ของหวานที่มีน้ำตาลสูงจะสามารถช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลและอะดรีนาลีน ที่จะหลั่งออกมาในเวลารู้สึกเครียด เมื่อคุณเครียดมากจึงทานมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นแถมยังทำลายสุขภาพเป็นอย่างมาก
นายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวว่าโรคเบาหวาน เป็นภาวะที่ในกระแสเลือดมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ อันเนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือประสิทธิภาพในการทำงานลดลง หากปล่อยไว้เป็นเวลานานก็จะทำให้ร่างกายเกิดโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ ได้ง่าย อาทิ ตา ไต รวมไปถึงระบบประสาท
ประเภทของโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานมีหลายประเภท สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ
เบาหวานประเภทที่ 1
เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้
เบาหวานประเภทที่ 2
เกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ หรือเกิดภาวะการณ์ดื้ออินซูลิน
เบาหวานประเภทที่ 3
เบาหวานขณะตั้งครรภ์ซึ่งเป็นโรคเบาหวานที่พัฒนาขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์จากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน โดยที่ผู้ป่วยไม่เคยเป็นโรคเบาหวานมาก่อน
อาการของโรคเบาหวาน
สำหรับอาการของโรคเบาหวาน ได้แก่
- หิวบ่อย
- กระหายน้ำ
- ปัสสาวะมีปริมาณมาก และบ่อย
- เหนื่อย อ่อนเพลีย
- ผิวแห้งเกิดอาการคันบริเวณผิวหนัง
- ตาแห้ง
- มีอาการชาที่เท้า หรือรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ปลายเท้า หรือที่เท้า
- ร่างกายซูบผอมลงผิดปกติ โดยไม่ทราบสาเหตุ
หากมีอาการเหล่านี้ บวกกับพฤติกรรมในการทานอาหารที่ไม่ค่อยระวังเรื่องแป้ง และน้ำตาล คุณอาจสันนิษฐานได้ว่ากำลังมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้สูง เพราะฉะนั้นควรรีบพบแพทย์เพื่อการตรวจที่ละเอียด และทำการรักษาต่อไป
การป้องกันโรคเบาหวาน
สิ่งสำคัญของการป้องกันโรคเบาหวานทุกชนิด คือ ต้องคอยหมั่นระวังระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอลให้อยู่เกณฑ์ปกติ เน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วน มีกากใยสูง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พบแพทย์ตามนัด เพื่อให้ท่านมีสุขภาพที่ดี และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
6 คำเกี่ยวกับความรู้สึกในภาษาญี่ปุ่นที่แปลไม่ได้
แม้ทุกวันนี้เราจะสามารถแปลคำหลายคำได้โดยการใช้พจนานุกรมเป็นตัวช่วย แต่ความท้าทายหนึ่งในการแปลภาษาคือ “คำที่ไม่สามารถแปลได้” ที่เกิดจากแนวคิดหรือลักษณะทางสังคมที่มีเฉพาะในสังคมใดสังคมหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น การจะถ่ายทอดความหมายของคำเหล่านี้ออกมาได้จึงต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะและแนวคิดในสังคมนั้นๆ ด้วย ในบทความนี้เราจะมาดูตัวอย่างคำภาษาญี่ปุ่นที่แปลไม่ได้ทั้งหมด 6 คำกันค่ะ
“คำที่แปลไม่ได้” ที่ว่านี้ แปลไม่ได้จริงๆ หรือ?
ที่จริงแล้ว “คำที่แปลไม่ได้ (Untranslatable Word)” มักหมายถึงคำที่ขาดคำแปลที่ตรงตัวในภาษาของเรา (Caroline James, 2014) แม้ว่าในภาษาของเราจะมีคำที่มีความหมายคล้ายคลึงกับคำที่แปลไม่ได้อยู่บ้าง แต่คำทั้งสองนั้นมักจะมีพื้นที่สีเทาที่ความหมายของคำทั้งสองไม่ได้ตรงหรือเหลื่อมกัน ซึ่งพื้นที่สีเทานี้จะเห็นได้ชัดจากความหมายอันซับซ้อนที่มีอยู่เฉพาะภาษานั้นๆ เท่านั้น (Verbalink, 2016)
ตัวอย่างของคำที่แปลไม่ได้ซึ่งมักถูกหยิบยกขึ้นมาคือคำว่า “Toska (тоска)” ในภาษารัสเซียซึ่งมีความหมายว่า “ความทุกข์ทรมานทางจิตใจอย่างสาหัสซึ่งมักไม่มีสาเหตุ ไล่ได้ตั้งแต่ความเบื่อ ความเจ็บปวดทางจิตใจ ความคิดถึงทั้งที่ไม่มีอะไรให้คิดถึง ความกระสับกระส่าย ไปจนถึงความรู้สึกโหยหา” (Vladimir Nabokov)
ในภาษาไทยเรามีคำว่า “ความเบื่อ” “ความเจ็บปวด” “ความคิดถึง” “ความกระสับกระส่าย” และคำว่า “โหยหา” อยู่ แต่ไม่มีคำไหนเลยที่จะมีความหมายครอบคลุมความหมายทั้งหมดของคำว่า Toska ได้ ดังนั้นผู้แปลหรือผู้อ่านจึงต้องอาศัยการตีความจากประโยคว่า Toska ในประโยคนี้คือ Toska ในความหมายใด ลักษณะเช่นนี้คือลักษณะของคำที่แปลไม่ได้ ซึ่งต้องอาศัยการพลิกแพลงในการแปลหรือการตีความเพิ่มเติมของผู้อ่านในการที่จะทำความเข้าใจกับคำนั้นๆ ได้
Wabisabi (わびさび)
Wabisabi คือวิถี กระบวนการ และศิลปะที่นำไปสู่เซน อีกทั้งยังเป็นหัวใจของสุนทรียภาพญี่ปุ่น (พุทธศาสนานิกายเซ็น, 2014) ที่มองว่าความเรียบง่าย โดยเฉพาะจากธรรมชาติ และความไม่สมบูรณ์คือความงามแบบหนึ่ง โดยตัวอย่างหนึ่งที่เป็นรูปธรรมของคำว่า Wabisabi คือวัดทางศาสนาพุทธของญี่ปุ่นซึ่งมักก่อสร้างด้วยไม้ ไม่ค่อยมีการตกแต่ง เน้นความเรียบง่าย ความสะอาด และบรรยากาศที่สงบเป็นหลัก ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกสงบเมื่อได้เข้ามายังอาณาบริเวณของวัด ต่างจากวัดในประเทศไทยที่เน้นความสวยงามและยิ่งใหญ่เพื่อให้ผู้มาเยือนรู้สึกเลื่อมใส
นอกจากนี้ สิ่งที่ให้ความรู้สึก Wabisabi นั้นจะมีความรู้สึกของคุณค่าที่อยู่เหนือกาลเวลาอยู่ด้วย ซึ่งสามารถเห็นได้จากสถานที่ที่มีความเก่าแก่ เช่นวัด ปราสาท หรือสวนญี่ปุ่น ที่มักมีความสำคัญและได้รับการบูรณะเรื่อยมา จึงอาจตั้งข้อสังเกตได้ว่า นอกจากสังคมญี่ปุ่นจะมีแนวคิดเรื่องความงามที่เกิดจากความเรียบง่ายและไม่สมบูรณ์แล้ว ยังให้ความสำคัญกับสิ่งของที่มีคุณค่าทางความทรงจำและกาลเวลาอีกด้วย
Setsunai (切ない)
มักใช้เมื่อต้องการสื่อถึงความรู้สึกโศกเศร้าที่มีความสุขปะปนอยู่ด้วย หรือความรู้สึกเมื่อความปรารถนาไม่สมหวัง เช่น ความรู้สึกเวลารักเขาข้างเดียว ซึ่งมีทั้งความรู้สึกเป็นสุขเมื่อนึกถึงอีกฝ่าย แต่ในขณะเดียวกันก็มีความทุกข์ที่อีกฝ่ายไม่ได้มีความรู้สึกให้ หรือเวลาคนใกล้ตัวป่วย ก็จะเป็นความโศกเศร้าที่คนคนนั้นไม่ได้มีสุขภาพดีอย่างที่เราคาดหวังให้เป็น เป็นต้น
สำหรับความรู้สึก Setsunai ในแง่ความรู้สึกทุกข์ที่มีความสุขเจือปนอยู่นั้น ในภาษาไทยเรามีคำว่า “สุขระคนปนทุกข์” อยู่ ซึ่งจากการที่ภาษาไทยมีคำอธิบายความรู้สึกนี้เช่นเดียวกันกับภาษาญี่ปุ่นนั้น อาจมองได้ว่าทั้งสังคมไทยและสังคมญี่ปุ่นมองว่าความสุขและความทุกข์สามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในความหมายของคำว่า Setsunai นั้นมีความหมายแฝงอยู่ว่าเป็นความรู้สึกราวกับถูกบีบคั้นอยู่ในใจ ซึ่งการระบุความรู้สึกอย่างชัดเจนนี้อาจแสดงให้เห็นได้ว่าสังคมญี่ปุ่นมีการสังเกตและระบุความรู้สึกค่อนข้างละเอียดลงไปอีกขั้น
Mottainai (もったいない)
คำแปลไทยสำหรับคำว่า Mottaiani คือคำว่า “เสียดาย” ซึ่งพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถานนิยามคำว่า “เสียดาย” ไว้ว่า “ความรู้สึกอยากได้สิ่งที่เสียไปหรือพลาดไปให้กลับคืนมา” อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกเสียดายของคนไทยนั้นสามารถหมายถึงความเสียดายที่สิ่งหนึ่งถูกใช้อย่างไม่คุ้มค่า (Mottainai) ความเสียดายที่พลาดโอกาสไป (Zannen・残念) หรือความรู้สึกเสียดายที่ทำไม่สำเร็จ (Oshii・惜しい) ได้เช่นกัน ดังนั้น ในกรณีนี้ คำในภาษาไทยจึงมีความหมายกว้างกว่าคำในภาษาญี่ปุ่น
ทั้งนี้ การที่คำว่า Mottainai, Zannen และ Oshii ต่างเป็นความรู้สึกเสียดายที่ต่างออกไปอย่างชัดเจนนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการสังเกตและแบ่งแยกความรู้สึกที่ละเอียดของคนญี่ปุ่นได้เช่นกัน นอกจากนี้ การมีคำเฉพาะสำหรับความรู้สึกเสียดายที่สิ่งๆ หนึ่งถูกใช้อย่างไม่คุ้มค่าหรือไม่รู้คุณค่านั้น อาจแสดงให้เห็นถึงลักษณะหนึ่งของคนญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับการใช้สิ่งๆ หนึ่งอย่างรู้คุณค่าก็เป็นได้
Natsukashii (懐かしい)
เป็นคำที่คนญี่ปุ่นใช้เมื่อต้องการสื่อถึงความรู้สึกคิดถึงเรื่องในอดีตเมื่อเห็นสิ่งของหรือสถานที่ไม่ได้พบเห็นมานานแล้วรู้สึกคิดถึงสิ่งของหรือสถานที่นั้นๆ เช่น “รูปภาพนี้ช่าง Natsukashii” อย่างไรก็ตาม คำว่า Natsukashii ไม่ค่อยถูกนำมาใช้กับบุคคล แต่ถ้าใช้ ก็จะใช้ในความหมายว่าคิดถึงความทรงจำเกี่ยวกับบุคคลนั้นๆ แทน นอกจากนี้ความรู้สึกคิดถึงเรื่องในอดีตนี้จะมีความรู้สึกไม่อยากห่างจากความทรงจำนั้นๆ ของผู้พูดอยู่ด้วย
ถ้าค้นคำว่า Natsukashii ในพจนานุกรมญี่ปุ่น-ไทย เราจะได้คำแปลว่า “หวนคิดถึง” ซึ่งถ้าลำพังใช้แค่คำว่า “คิดถึง” คำเดียวในการแปลก็อาจหมายความได้แค่การนึกถึงด้วยความรู้สึกผูกพันเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งความรู้สึกคิดถึงแบบอยากเจอ (Aitai・会いたい) หรือความรู้สึกคิดถึงเฉยๆ (Koishii・恋しい) ก็ได้ คำแปลไทยของพจนานุกรมจึงมีการใช้คำว่า “หวน” ที่หมายถึง “การเวียนกลับ” เพื่อเจาะจงความรู้สึกให้ชัดเจนว่าเป็นความรู้สึกคิดถึงความทรงจำในอดีต จากการที่มีคำเจาะจงความรู้สึกคิดถึงความทรงจำในอดีตนี้ อาจมองได้ว่าสังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมที่ผูกพันและให้ความสำคัญกับเรื่องราวในอดีตได้เช่นกัน
Shoshin (初心)
ใช้กล่าวถึงความรู้สึกแรกเมื่อเริ่มทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น การงาน กีฬา งานอดิเรก การแต่งงาน หรือแม้แต่การขับรถเป็นต้น โดยความรู้สึกแรกนั้นมักมีความตั้งหน้าตั้งตา ความตื่นเต้น การมุ่งหน้า และความกังวลแฝงอยู่ คนญี่ปุ่นมีสำนวนที่ใช้คำว่า Shoshin อยู่สองสำนวนด้วยกัน ได้แก่ Shoshin wo Wasureru Bekarazu (初心を忘れるべからず) ที่หมายความว่า “อย่าลืมความรู้สึกแรก” และสำนวนว่า Shoshin ni Kaeru (初心に帰る) ที่หมายความว่า “นึกออกถึงความรู้สึกแรก” สองสำนวนนี้มักใช้เมื่อผู้พูดต้องการให้ผู้ฟังนึกย้อนกลับไปถึงความรู้สึกแรกเมื่อเริ่มทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อให้ผู้ฟังมีกำลังใจในการทำสิ่งนั้นๆ ต่อไป
ความน่าสนใจเกี่ยวกับสำนวนว่า Shoshin wo Wasureru Bekarazu และ Shoshin ni Kaeru คือข้อสังเกตว่าในสังคมญี่ปุ่นนั้น คนคนหนึ่งมักทำงานกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็นเวลานาน กล่าวคือคนญี่ปุ่นจะทำงานอาชีพหนึ่งต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน แม้ว่าในปัจจุบันจะมีระบบการโยกย้ายพนักงานให้ได้ไปทำงานในสาขาต่างๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน แต่ในอดีตนั้น การที่คนคนหนึ่งทำงานเดิมๆ ในสถานที่เดิมๆ เป็นเวลานานนั้นอาจก่อให้เกิดความรู้สึกในแง่ลบต่องานของตนได้ ณ จุดนี้ คำว่า Shoshin จึงเข้ามามีบทบาทในการช่วยให้คนคนนั้นนึกย้อนกลับไปยังความรู้สึกแรกของตนตอนที่เริ่มทำงานนั้นๆ ซึ่งมักเป็นความรู้สึกตื่นเต้นและอาจมีความรู้สึกในแง่บวกแฝงอยู่ด้วย ทำให้คนคนนั้นมีแรงใจในการที่จะทำงานของตนต่อไป จากประเด็นนี้จึงอาจมองได้ว่าสังคมญี่ปุ่นนั้นให้ความสำคัญกับ Shoshin และคำว่า Shoshin เองก็มีบทบาทในทางจิตใจของคนญี่ปุ่นเช่นกัน
Munashii (虚しい / 空しい)
Munashii เป็นคำที่สามารถเขียนได้ด้วยคันจิสองแบบ ได้แก่คันจิ “虚” ที่หมายถึง “ความกลวง ความปลอม” และคันจิ “空” ที่หมายถึง “ท้องฟ้า ความว่างเปล่า ความกลวง”
Munashii มีความหมายถึง 5 ความหมายด้วยกัน ได้แก่ “ความว่างเปล่าที่มีเพียงเปลือกนอกเท่านั้น”, “ความไร้ประโยชน์ ไม่มีผลลัพธ์”, “ความไม่แน่นอน ไม่ชัดเจน”, “ความเลื่อนลอย ไม่เป็นจริง” และ “ความไร้ซึ่งจิตวิญญาณเหลือเพียงกายหยาบ ความไร้ชีวิต” นับเป็นคำที่มีความหมายกว้างมากๆ คำหนึ่ง โดยตัวอย่างการใช้ที่เห็นได้บ่อยคือในด้านความรักที่ไม่สมหวัง โดยเราจะเห็นคนญี่ปุ่นใช้คำนี้เพื่อสื่อถึงความรู้สึกกลวงและว่างเปล่าไร้ซึ่งจิตวิญญาณในใจเมื่อไม่สมหวังเป็นตน
ขอบคุณข้อมูลจาก th.anngle.org
AnTuTu จัดอันดับมือถือแรงรอบเดือนพฤศจิกายน 2021 Snapdragon 888+ ยังมาแรง
AnTuTu โปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพที่หลายคนรู้จักกันดี ได้มีการประกาศผลมือถือทำคะแนนสูงสุด ประจำเดือนพบว่ามือถือที่ใช้ขุมพลัง Snapdragon 888+ ยึดหัวตางโดยคะแนนที่ทำได้ถือว่าไม่ธรรมดา เลยครับ โดยมือถือที่ทำได้ดีสุดคือ Xiaomi Black Shark 4S Pro ที่ครองตำแหน่งมานานพอสมควร
ถัดลงมาคือ Nubia Red Magic 6S Pro, iQOO 8 Pro และที่เหลือหลังจากนั้นก็จะเป็น Xiaomi Black Shark 4 POro ที่ใช้ขุมพลัง Snapdragon 888 ถัดมาคือ vivo X70 Pro+, ASUS ROG Phone 5s ที่ใช้ขุมพลัง Snapdragon 888+ เรียกว่าโดนลอมกันเลยทีเดียว
ส่วนทางด้านมือถือระดับ Mid Ranger ก็น่าสนใจเพราะขุมพลังที่ยึดหัวตารางนั้นคือ Snapdragon 778G แต่มีหลุดมา 1 รุ่นที่เป็น 780G คือ Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั่นเอง
แต่เดือนธันวาคมนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเกี่ยวกับขุมพลังใหม่อย่าง Snapdragon 8 Gen 1 จะเริ่มเห็นในเดือนธันวาคม นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ทำความรู้จัก ยูนิโกลบอล ผู้นำอุปกรณ์ทำความสะอาดบันไดเลื่อน ในงานสถาปนิก
หนึ่งในอุปกรณ์ที่น้อยคนรู้จัก แต่ก็มีความสำคัญไม่น้อย ในการรักษาความสะอาด “บันไดเลื่อน” เพราะเป็นสิ่งที่สัมผัสกับสิ่งสกปรกอยู่ตลอดเวลา หากบันไดเลื่อนไม่ได้รับการทำความสะอาดที่ดี ผลกระทบที่ตามมาอาจจะมากเกินกว่าค่าอุปกรณ์ด้วยซ้ำ
ซึ่งอุปกรณ์ทำความสะอาดแต่ละประเภท มีความเหมาะสมแตกต่างกันไป การได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในการรักษาความสะอาดของบันไดเลื่อนและคงความสวยงามอยู่เสมอ
เหมือนกับ บริษัท ยูนิโกลบอล จำกัด ที่อยู่ในวงการบำรุงรักษาบันไดเลื่อนมานาน และนำเอาข้อเสนอแนะจากผู้ใช้งาน มาเป็นแนวทางให้บริษัทผู้ผลิตปรับปรุงและพัฒนา
บริษัท ยูนิโกลบอล จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 เริ่มจากนำเข้าสินค้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำมันและจาระบียี่ห้อ “SUMICO” จากประเทศญี่ปุ่น ต่อมาได้จำหน่ายอุปกรณ์ทำความสะอาดบันไดเลื่อนยี่ห้อ “ESCATEQ” จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อที่จะจำหน่าย ในประเทศไทย พม่า และมาเลเซียอีกด้วย
ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เรานำรับคำติชมจากลูกค้ามาเป็นแนวทางที่จะพัฒนาโดยนำสิ่งที่ลูกค้าต้องการมาต่อยอด เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่าง ๆ กับ OUTSOURCING CLEANING SERVICES, FACILITY MANAGEMENT, BUILDING AND CONSTRUCTION ในด้านการดูแลรักษาบันไดเลื่อนให้สามารถทนต่อการใช้งานและการทำความสะอาดให้ดูใหม่อยู่เสมอ รวมถึงสถาปนิกในการออกแบบอาคารเพื่อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้ถูกต้องตามสภาพแวดล้อมอีกด้วย
พบ 3 ไฮไลท์ อุปกรณ์ทำความสะอาดบันไดเลื่อนครบวงจรจาก ยูนิโกลบอล ในงานสถาปนิก’65
อุปกรณ์ทำความสะอาดบันไดเลื่อนแนวนอน (TREAD-CLEAN SOLUTION)
เป็นส่วนสัมผัสกับรองเท้ามากที่สุด และทำความสะอาดยากที่สุด เพราะบันไดเลื่อนมีร่องลึกที่อุปกรณ์เข้าถึงยาก แม้จะใช้เครื่องจักรก็ตาม แต่นวัตกรรมของบริษัทฯ สามารถทำให้ซี่ด้านล่างสุดสะอาดได้อย่างล้ำลึก
อุปกรณ์ทำความสะอาดแนวตั้ง (RISER-CLEAN SOLUTION)
เป็นส่วนที่เราสามารถเห็นชัดที่สุดเวลามองขึ้นไปบนบันไดเลื่อน ดังนั้นโอกาสที่จะเห็นคราบน้ำมันที่ไหลเยิ้มลงมา มีสูงมาก อุปกรณ์ตัวนี้จึงตอบโจทย์เมื่อลูกค้าเจอปัญหาดังกล่าว
อุปกรณ์ทำความสะอาดราวบันไดเลื่อน (HANDRAIL-CLEAN SOLUTION)
ราวบันไดเลื่อนคือสิ่งที่จำเป็นต่อผู้ใช้งานด้านความปลอดภัย ในทางกลับกัน เป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานไม่อยากจับ เพราะทำให้มือสกปรก สาเหตุคือ น้ำมันหล่อลื่นที่สะสมในลูกกลิ้งด้านล่าง หรือผู้ใช้ท่านอื่นอาจจะมือเปื้อนจากอาหารหรือสิ่งสกปรกแล้วมาจับราวบันไดเลื่อน ดังนั้นอุปกรณ์นี้เมื่อใช้กับน้ำยาแล้ว จะทำความสะอาด และเคลือบ ANTI-BACTERIA ในราวจับไปในตัว
“ใช้คนน้อย ลดต้นทุน ประหยัดเวลา” 3 หัวใจหลักของ 3 ผลิตภัณฑ์
- ลดแรงงาน เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องใช้ผู้ปฏิบัติงานมาก สามารถทำได้เพียงคนเดียว ผ่านการเรียนรู้จากคู่มือและ ON-SITE Training
- ลดต้นทุน ลดค่าไฟ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
- ลดระยะเวลา โดยปกติเครื่องทำความสะอาดบันไดเลื่อนในท้องตลาดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 – 60 นาทีต่อตัว แต่อุปกรณ์ของบริษัท ใช้เวลาเพียง 5 – 10 นาทีเท่านั้น และในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผู้คนย่อมกังวลเรื่องการสัมผัสในพื้นที่สาธารณะมากขึ้น บันไดเลื่อนจึงต้องสะอาดปลอดภัยอยู่เสมอ เพราะใช้งานร่วมกับผู้คนมากหน้าหลายตา ผลิตภัณฑ์ของยูนิโกลบอลจึงตอบโจทย์เรื่องนี้อย่างชัดเจน
แล้วมาสัมผัสกับนวัตกรรมอุปกรณ์ทำความสะอาดจากยูนิโกลบอลในงานสถาปนิก’65
บริษัท ยูนิโกลบอล จำกัด อยากเชิญชวนให้ทุกท่าน มาสัมผัสนวัตกรรมเหล่านี้ด้วยตัวเอง พร้อมการสาธิตการทำความสะอาดบันไดเลื่อนแบบครบวงจร ไม่ว่าจะ แนวตั้ง แนวนอน และราวบันไดเลื่อน ที่บูธหมายเลข L804 ในงานสถาปนิก’65 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 26 เม.ย. – 1 พ.ค. 65 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 03/12/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,350.00 | 28,450.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,836.00 | 27,833.76 | 28,950.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,652.40 | 25,050.38 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,468.80 | 22,267.01 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 826.00 | 12,522.16 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 643.00 | 9,747.88 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,903.00 | 28,849.48 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 03/12/2564
วันที่ – เวลา | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
03-12-2564 05:00 | 33.46 | 27.84 | 27.84 | 27.84 | 37.36 | 29.95 | 29.68 | 28.44 | 22.99 |
02-12-2564 05:00 | 33.86 | 28.24 | 28.24 | 28.24 | 37.86 | 30.45 | 30.18 | 28.94 | 23.29 |