เสนา ผ่าปัจจัยเสี่ยง “โอมิครอน” ลุยเปิดใหม่อีก 9 โครงการ 8.4พันล.
SENA ชี้ผลบวกคลายล็อก LTV หนุนกำลังซื้ออสังหาฯ ไม่หวั่นปัจจัยลัย “โอมิครอน” วางแผนเปิด 9 โครงการใหม่ มูลค่า 8.4 พันล้านบาท ลุยที่อยู่อาศัยราคาต่ำล้าน ขณะ แจงยอด 9 เดือน กวาดรายได้รวม 4 พัน พันล้าน
8 ธ.ค.2564 – นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ดีเวลลอปเปอร์ที่พัฒนาหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ดูเหมือนจะคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้นแต่กลับมีสายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” กำลังเข้ามาป่วนอีกระลอกทำให้ภาพรวมตลาดกลับมาชะลออีกครั้ง แต่ธุรกิจต้องเดินหน้าต่อ
ซึ่งทางเสนาพร้อมรับปรับตัวตลอดเวลาต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผลประกอบการยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยมาตรการผ่อนปรนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) และภาครัฐการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ การลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง และประกาศปลดล็อคมาตราการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กู้ 100% หรือ LTV มองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้
ปัจจัยสนับสนุนดังกล่าว นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีช่วยกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคและภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยในช่วงไตรมาส 4 ให้กลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเสนาเปิด 9 โครงการใหม่รวมมูลค่า 8,400 กว่าล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 3 โครงการ และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ ระดับราคาต่ำล้าน เน้นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ โดยเฉพาะคนทำงาน (first Jobber) มองหาที่อยู่อาศัยใกล้สถานที่ทำงาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าเช่าบ้าน ประกอบด้วย
- นิช โมโน พระราม 9 (JV)
- เฟล็กซี่ รัตนาธิเบศร์
- เฟล็กซี่ สาทร-เจริญนคร (JV)
- เสนา อีโค่ ทาวน์ รังสิต สเตชั่น
- SENA Kith MRT บางแค (เฟส 2)
- SENA kith ศรีด่าน (JV)
- เสนา เวล่า เทพารักษ์ – บางบ่อ (JV)
- เสนาวิลเลจ รามอินทรา กม.9
- เสนาวิลเลจ รังสิต – บางพูน
ขณะเดียวกัน ตลอดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ทางเสนาสามารถสร้างยอดขาย 3,846 ล้านบาท คิดเป็น 54% จากเป้ายอดขายทั้งปี 7,111 ล้านบาท และรายได้ 3,688 ล้านบาท คิดเป็น 53% จากเป้ารายได้ 6,943 ล้านบาท (รวมบริษัทร่วมทุน) ขณะที่รายได้ร่วมของทั้งบริษัทอยู่ที่ 4,065 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 613 ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจท่ามกลางสถานการณ์ที่รุมเร้ามาทั้งปี
ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ไตรมาส 3/2564 ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 คิดเป็นมูลค่า 8,019 ล้านบาท ในไตรมาส 4/64 ยังมียอดขายรอการโอนกรรมสิทธิ์อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเฟล็กซี่ สาทร-เจริญนคร (บริษัทร่วมทุน),โครงการนิช โมโน อิสรภาพ (บริษัทร่วมทุน) และโครงการ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา (บริษัทร่วมทุน) ที่จะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงสิ้นปีนี้ และสามารถทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 3,496 ล้านบาท และทยอยรับรู้ในปีถัดไปตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 ทางเสนาเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 13 โครงการ รวมมูลค่า 10,505 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการร่วมทุน 8 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 5,541 ล้านบาท และโครงการของเสนา 5 โครงการ 4,964 ล้านบาท ที่ผ่านมา ทางเสนาดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและบริหาร Cash Flow ได้อย่างอย่างแข็งแกร่ง ช่วยลดความเสี่ยง ทั้งยังรับมือกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้พันธกิจแห่งปี “SENA Strong”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“โอมิครอน” ตัวแปรใหม่เศรษฐกิจ เปิดความเสี่ยง อสังหาฯ ปี 65
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ลุ้นมาตรการรัฐเข็น “ตลาดอสังหาฯ ปี 65” ฟื้นตัวอีกครั้ง ด้าน ธปท.เปิดความเสี่ยงใหม่ “โอมิครอน” ส่อฉุดทิศทางเศรษฐกิจ หดตัวนับครึ่ง ขณะ ฝาก 2 ผู้เล่น รัฐบาล – ธนาคาร ชี้วัดความสำเร็จ ปลดล็อก LTV หนุนบ้านระดับกลาง
นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เว็บไซต์สื่อกลางด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย กล่าวถึง แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2565 ว่า คาดการณ์ ตลาดจะเริ่มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ขณะปัจจัยที่จะมีผลโดยตรงนั้น ประกอบไปด้วย การควบคุมการแพร่ระบาด โควิด-19 รวมไปถึงความคืบหน้าของการกระจายวัคซีน สำคัญสุด คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลต่อกำลังซื้อ รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองด้วย
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นตลาดเพิ่มเติมจากภาครัฐ 3 ด้าน ได้แก่
- มาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์ – ค่าจดจำนอง 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยใหม่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทยว่าจะต่ออายุหรือไม่ หลังจากจะสิ้นสุด 31 ธ.ค.2564
- มาตรการผ่อนคลายมาตรการ LTV กู้ซื้อที่อยู่อาศัยได้เต็ม 100% เริ่มใช้ 21 ต.ค.2564 สิ้นสุด 31 ธ.ค.2565
- มาตรการต่างชาติซื้อบ้านในไทยได้ หลังคณะรัฐมนตรีมีมติ วันที่ 14 ก.ย. และอยู่ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการ
“ภาพอสังหาฯปีหน้ามีทิศทางบวกตามเศรษฐกิจ ผู้พัฒนายังเน้นระบายสต็อก +เปิดโครงการใหม่รู้ทางหนี ทีไล่มากขึ้น ขณะในมุมผู้บริโภค พบปัจจัยมาตรการรัฐ เป็นหลักสำคัญในการตัดสินใจซื้อ สำรวจพบ มองรัฐไม่ค่อยมีส่วนช่วย ต้องการมากสุด คือ ขอลดดอกเบี้ยสินเชื่อที่ผ่อนอยู่ทั้งบ้านใหม่และบ้านเก่าถึง 57%”
สำหรับทิศทางด้านราคาอสังหาฯ นั้น นางกมลภัทร ระบุว่า ยังไม่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเร็ว โดยเฉพาะในช่วงต้นปี 2565 จึงเป็นตลาดของผู้ซื้อที่มีความพร้อม และการผ่อนคลายมาตรการ LTV ยังเอื้อต่อกลุ่มผู้ซื้อและนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามพฤติกรรมการอยู่อาศัย ของผู้บริโภคที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น
ทั้งนี้ ประเมินว่า จากความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้า 2 สายที่มีแผนจะเปิดให้บริการในปี 2565 ซึ่งประกอบด้วย รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และ รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) จะส่งผลต่อการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาฯ ในทำเลแนวรถไฟฟ้าดังกล่าว
ด้าน นาย ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยถึง ปัจจัยระดับมหภาคที่จะมีผลต่อการฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ ช่วงปี 2565 ว่า คาดการณ์สถานการณ์เศรษฐกิจปีหน้า มีโอกาสปรับดีขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกที่ดีจะเป็นอีกปัจจัยหลักที่ช่วยเกื้อหนุนการฟื้นตัว
แต่ทั้งนี้ การอุบัติของสายพันธุ์โอมิครอน กลับเปิดความเสี่ยงใหม่ให้กับทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง ประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจนั้น ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย ได้แก่
- ความรุนแรงของสายพันธุ์โอไมครอน ,ประสิทธิภาพของวัคซีน
- มาตรการควบคุมการแพร่ระบาด
ทั้งนี้ ในกรณีเลวร้ายที่โลกต้องกลับไปล็อคดาวน์ สำนัก Oxford Economics ประเมินการขยายตัวของจีดีพีโลกอาจจะหายไปครึ่งหนึ่ง
ส่วนกรณีการผ่อนคลายมาตรการ LTV ของ ธปท. ซึ่งเป็นอีกเครื่องมือหลักในการช่วยภาคอสังหาฯ และกระตุ้นเศรษฐกิจชั่วคราว โดยเปิดช่อง การผ่อนคลายสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่า ต่ำกว่า10 ล้านบาท กู้ได้เต็มราคา 100% และกู้เพิ่มเติม (Top-Up) ได้อีก 10% แม้ขัดต่อหลักการออมก่อนซื้อบ้านราคาแพง
แต่ ธปท.มีแนวคิดมุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก ซึ่งกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ ครอบคลุม ผู้ประกอบการอสังหาฯ ,ซัพพลายเชน ,คนซื้อบ้าน และตลาดบ้านมือสอง โดยผ่อนคลายให้ไปจนถึงสิ้นปี 2565 เพื่อเร่งการตัดสินใจ (นาทีทอง) ซึ่งสอดคล้องกับช่วงของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ต้องการแรงสนับสนุนและเป็นช่วงที่ความเสี่ยงจากการเก็งก่าไรน่าจะอยู่ในระดับต่่า
อย่างไรก็ตาม ธปท.เป็นเพียง 1 ใน 4 ของผู้เล่นหลักชี้วัดความสำเร็จของการปลด LTV ว่าจะช่วยฟื้นอสังหาฯและเศรษฐกิจได้หรือไม่ โดยยังขึ้นอยู่กับผู้เล่นที่เหลืออีก 3 ส่วน พบแนวโน้มฝั่งผู้ประกอบการดี มีทิศทางออกโปรโมชั่นมากระตุ้นตลาดในปีหน้าแล้ว เหลือเพียงรัฐบาล และ ภาคธนาคาร ว่าจะมีส่วนร่วมอย่างไร เพราะพบ หลายมาตรการกำลังจะหมดอายุ ขณะการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ยังคุมเข้ม ซึ่ง ธปท.ไม่มีอำนาจสั่งให้ผ่อนคลายได้
” เราหวังว่าการผ่อนคลายมาตราการ LTV จะฟื้นอสังหาให้ดีขึ้น และมีผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า หนุนการซื้อบ้านทั้งหลังที่ 1,2 หรือ 3 แต่ต้องฝากให้รัฐช่วยเข็นมาตรการใหม่ๆออกมา โดยเฉพาะการดำเนินตามข้อเสนอของ 3 สมาคมอสังหาฯ ยืดอายุมาตรการลดค่าโอนฯ และขยายเพดาน ให้ครอบคลุม 3 ล้านบาทแรก เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่ปลดล็อก หนุนบ้านระดับกลางมากกว่า 3 ล้าน เนื่องจากกลุ่มล่างยังคงได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจแลกมากับการที่รัฐต้องยอมสูญเสียรายได้บางส่วน รอท่าทีของกระทรวงการคลัง ขณะภาคธนาคารนั้น หากยังเข้มอยู่ ก็ไม่มีทางสำเร็จ หวังปีหน้าเศรษฐกิจดีขึ้น ธนาคารน่าจะลดการ์ดลง เปลี่ยนโหมดจากการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล มาที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ดาวโจนส์ปิดบวก 35.32 รับข่าวดีไฟเซอร์ต้านโอไมครอน
ดาวโจนส์ปิดบวก 35.32 จุด น้ำมันเพิ่ม 31 เซนต์ ปิดที่ 72.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ทองคำเพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 1,785.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) ขานรับรายงานที่ว่าวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบออนเทคจำนวน 3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มเรือสำราญ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,754.75 จุด เพิ่มขึ้น 35.32 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,701.21 จุด เพิ่มขึ้น 14.46 จุด หรือ +0.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,786.99 จุด เพิ่มขึ้น 100.07 จุด หรือ +0.64%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก หลังจากบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และไบออนเทคออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวานนี้ว่า วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค จำนวน 3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
แถลงการณ์ ดังกล่าวระบุว่า ผลการทดลองในเบื้องต้นบ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของแอนติบอดีได้ถึง 25 เท่า เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม โดยการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ได้ลดความสามารถในการต่อสู้ของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนลงเหลือเท่ากับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมซึ่งร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานด้วยการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 72.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ ปิดที่ 75.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านราคาทองคำในวันพุธ (8 ธ.ค.) ปรับขึ้นเล็กน้อย หลังจากช่วงหนึ่งระหว่างการซื้อขายแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 1,785.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ว้าว! อาดิดาส เปิดตัวรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ “ADISTAR” โดนใจการวิ่งระยะไกล
อาดิดาส รันนิง เปิดตัวรองเท้าวิ่ง “Adistar” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักวิ่งไปได้ไกลกว่าและสามารถพิชิตการวิ่งระยะที่ไกลที่สุดได้สำเร็จ
รองเท้าวิ่ง Adistar ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวคิดในการเคลื่อนที่ตลอดเวลาและผ่านการทดสอบกว่า 4,500 กิโลเมตร จนได้ออกมาเป็นรองเท้าที่มีคุณสมบัติการซัพพอร์ตและการปกป้อง เมื่อประกอบกับจังหวะการเคลื่อนไหวที่สม่ำเสมอ จะทำให้เกิดจังหวะการเคลื่อนที่จากก้าวหนึ่งสู่อีกก้าวหนึ่งอย่างต่อเนื่อง
แรงบันดาลใจจากการเคลื่อนที่อย่างสม่ำเสมอ
รองเท้าวิ่ง Adistar ถูกออกแบบมาสำหรับย่างก้าวที่นุ่มนวลและการผลักตัวไปข้างหน้าตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงก้าวสุดท้าย Adistar มีการบุเสริมที่บริเวณรอบข้อเท้าและลิ้นรองเท้าโดยการใช้วัสดุผ้าตาข่ายที่มีส่วนประกอบของ Parley Ocean Plastic
นอกจากนี้ รองเท้าวิ่ง Adistar ยังมี REPETITOR พื้นรองเท้าชั้นกลางที่มีความนุ่มและคุณสมบัติการตอบสนองได้ดี และมี REPETITOR+ โฟม EVA ที่มีความแน่นและผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิล 15% ตรงบริเวณส้นเท้า ยิ่งไปกว่านั้น พื้นรองเท้าชั้นกลางยังมีการวางโครงสร้างแบบ “Rocker” และความต่างของความสูงของส้นเท้าและปลายเท้าอยู่ที่ 6 มิลลิเมตร
รองเท้าวิ่ง Adistar ประกอบด้วยเทคโนโลยีดังต่อไปนี้
• Dual Density Midsole – พื้นรองเท้าชั้นกลางที่มี REPETITOR โฟมที่มีคุณสมบัตินุ่มสบายเท้า และ REPETITOR+ โฟมชิ้นที่สองที่มีความหนาแน่นและผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 15% ทำให้ทุกย่างก้าวให้ความรู้สึกนุ่มนวลและมั่นคง
• Support Cage Fit System – โครงสร้างภายในที่มีการซัพพอร์ตและประคองเท้าได้อย่างมั่นคง และเมื่อผูกเชือกรองเท้าก็จะช่วยให้เกิดความกระชับและการซัพพอร์ตที่เพิ่มมากขึ้น
• Forefoot Rocker – รูปทรงของรองเท้าที่มีความโค้งจรดปลายเท้าจะทำให้เกิดการเคลื่อนที่อย่างสม่ำเสมอ ทำให้นักวิ่งสามารถไปต่อได้เรื่อยๆ ในทุกกิโลเมตร
• Tailored Last – ชิ้นส่วนบริเวณส้นเท้าที่ได้รับข้อมูลเชิงลึกจากนักวิ่งทั้งชายและหญิง เพื่อปรับรูปแบบให้เข้ากับความแตกต่างด้านกายวิภาคของรูปเท้าทั้งชายและหญิง
ไซมอน ลอคเก็ตต์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า “ในซีซันฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อนปี 2022 เราต้องการเน้นการสนับสนุนนักวิ่งทุกคนในด้านการวิ่งระยะไกล
เราจึงได้พัฒนารองเท้าวิ่ง Adistar ที่ออกแบบมาเพื่อมอบความมั่นใจให้กับ นักวิ่งทุกคนในการวิ่งระยะไกลโดยการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของการรองรับแรงกระแทก การปกป้อง และการซัพพอร์ต สำหรับพื้นรองเท้าแบบใหม่ที่มีชื่อว่า REPETITOR นั้นมีรูปทรงแบบ Rocker ที่จะทำให้การเคลื่อนที่เป็นไปอย่างราบรื่นและนำพานักวิ่งก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย นอกจากนี้ รองเท้าวิ่ง Adistar ยังมีการออกแบบบริเวณส้นเท้าให้สามารถปรับเข้ากับความแตกต่างทางกายวิภาคของเท้าผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งจะทำให้นักวิ่งทุกคนจะได้รับการซัพพอร์ตที่ยอดเยี่ยมในระหว่างการวิ่งระยะไกลนั่นเอง”
รองเท้าวิ่ง Adistar วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 4,500 บาท ที่ อาริ รันนิง และ www.arirunningstore.com และตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์, อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์, อาดิดาส แอปพลิเคชัน, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ www.adidas.co.th และ LINE: @adidasthailand
ร่วมพูดคุยและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook www.facebook.com/adidasTH และ Instagram @adidas @adidasthailand @adidasrunning @adidaswomen
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
กิน “แคลเซียม” อย่างไรให้ได้ผลดีต่อกระดูกอย่างแท้จริง
หากซื้ออาหารเสริมแคลเซียมมาเพื่อกินบำรุงกระดูก ต้องกินอย่างถูกวิธีด้วยถึงจะได้ผล Sanook Health มีข้อมูลจาก รศ. นพ.พงศ์ศักดิ์ ยุกตะนันท์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาฝากกัน
แคลเซียม คืออะไร
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่พบมากที่สุดในร่างกาย ซึ่งคือทั้งหมดจะอยู่ในกระดูกและฟัน ในร่างกายคนหนัก 50 กิโลกรัม จะมีแคลเซียมอยู่ประมาณ 1 กิโลกรัม แคลเซียมมีหน้าที่สำคัญต่อการทำงานของร่างกายเกือบทุกส่วน และที่สำคัญยังมีหน้าที่สร้างกระดูก ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของร่างกาย
การเลือกรับประทานแคลเซียมให้ได้ผล
- แคลเซียมที่ละลายน้ำได้ดี ได้แก่ แคลซียมซิเตรท แคลเซียมแลคเตท กลูโคเนท การรับประทานแคลเซียมชนิดเม็ดฟู่ หรือผงชงดื่มจะละลายได้ดีกว่าชนิดเม็ด
- การรับประทานครั้งละ 600-800 มิลลิกรัม ดูดซึมได้ดีกว่าปริมาณมากๆ
ควรรับประทานแคลเซียมพร้อมมื้ออาหารเย็น เพราะช่วงเวลากลางคืนเป็นช่วงที่แคลเซียมไหลออกจากกระดูกมากที่สุด ปริมาณแคลเซียมที่สูงขึ้นจะป้องกันการไหลออกจากกระดูก ป้องกันไม่ให้กระดูกบางได้
การเลือกรับประทานแคลเซียมให้ได้ประโยชน์สูงสุด
- เลือกสูตรที่มีส่วนผสมของแคลเซียมชิเตรท และแคลเซียมแลคเตทกลูโคเนท เพื่อให้ละลายน้ำได้ดี
- เลือกแคลเซียมที่มีส่วนผสมของวิตามินดี เพื่อช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และเป็นประโยชน์ต่อกระดูก
กรณีที่มีส่วนผสมของแคลเซียมคาร์บอเนตควรรับประทานแคลเซียมหลังจากรับประทานอาหาร เนื่องจากกระเพาะอาหารจะมีสภาพเป็นกรดช่วยทำให้แคลเซียมคาร์บอเนตแตกตัวและละลายน้ำได้ดียิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ข้อคิด คำคมภาษาอังกฤษ ความหมายดีๆ โดนใจ
บางครั้งคำพูดสั้นๆ ที่แฝงความหมายดี ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ได้มากกว่าที่คิด และอาจสร้างกำลังใจให้กับเราในเวลาที่รู้สึกท้อแท้ได้อีกด้วย ดังนั้นวันนี้จึงได้รวบรวมคำคมดีๆ มาฝาก เพื่อเอาใจคนที่ชอบอ่านคำคมภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล ว่าแล้วก็ลองไปอ่านกันดูเลยค่ะ
ข้อคิด คำคมภาษาอังกฤษความหมายดีๆ โดนใจ
Every new day is another chance to change your life.
แปลว่า ทุกๆ วันใหม่ เป็นอีกโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต
It’s never too late to start again.
แปลว่า ไม่มีคำว่าสาย สำหรับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
Don’t let your dreams be dreams.
แปลว่า อย่าปล่อยให้ความฝันของคุณ เป็นเพียงแค่ฝัน
I know I’m not the best but I’m trying my best.
แปลว่า ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้ดีที่สุด แต่ฉันพยายามทำให้ดีที่สุด
Love your beloved like there is no tomorrow
แปลว่า จงรักคนข้างๆ คุณราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย
Don’t cry because it is over, smile because it happened
แปลว่า อย่าร้องไห้ กับสิ่งที่จบไปแล้ว แต่จงยิ้ม กับสิ่งที่เกิดขึ้น
Sometimes it”s very hard to move on, but once you move on, you”ll realize it was the best decision you”ve ever made.
แปลว่า บางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากมากที่จะก้าวเดินต่อไป แต่ถ้าเริ่มก้าวเมื่อใด คุณจะพบว่า มันคือการตัดสินใจที่ดีที่สุด
If you don”t fight for what you want, don”t cry for what you lost.
แปลว่า ถ้าคุณไม่สู้เพื่อสิ่งที่คุณต้องการ ก็อย่าร้องไห้เวลาที่เสียมันไป
When you really pay attention, everything is your teacher.
แปลว่า เมื่อคุณใส่ใจจริงๆ ทุกสิ่งก็คือครูของคุณ
Somtimes you need to fall before you can fly.
แปลว่า บางครั้งคุณจำเป็นต้องล้มก่อนที่จะลุก
Every story has an end but in life every end is a new beginning.
แปลว่า เรื่องราวทุกเรื่องนั้นมีตอนจบ แต่ในชีวิตจริง ในทุกๆ ตอนจบคือการเริ่มต้นครั้งใหม่
The future depends on what we do in the present.
แปลว่า อนาคตขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน
Good times become good memories and bad times become good lessons.
แปลว่า ช่วงเวลาดีๆ..จะกลายเป็นความทรงจำที่ดี และ ช่วงเวลาแย่ๆ..จะกลายเป็นบทเรียนที่ดี
Don’t stop when you are tired stop when you are done.
แปลว่า อย่าหยุดตอนที่คุณเหนื่อย..แต่หยุดเมื่อคุณทำสำเร็จแล้ว
Some of life’s best lessons are learned at the worst times.
แปลว่า บทเรียนที่ดีที่สุดในชีวิต..บางครั้งเราก็เรียนรู้จากช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด
Anyone can run away, it’s super easy. Facing problems and working through them, that’s what makes you strong.
แปลว่า ทุกคนสามารถวิ่งหนีปัญหาได้ มันเป็นสิ่งที่ง่ายมากๆ แต่การเผชิญหน้ากับปัญหาและผ่านมันไปให้ได้ นั่นคือสิ่งที่จะทำให้คุณแข็งแกร่ง
Hey, you. Don’t give up, okay?
แปลว่า เธอ อย่ายอมแพ้นะ..ตกลงมั้ย?
Don’t let what other people think, stop you from doing the things you love.
แปลว่า อย่ายอมให้สิ่งที่คนอื่นคิดมาหยุดยั้งคุณจากการทำในสิ่งที่คุณรัก.
Every new day is another chance to change your life.
แปลว่า ทุกๆ วันใหม่คือโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณ
Sometimes we don’t need advice. We just need somebody to listen.
แปลว่า บางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการคำแนะนำ ….เราต้องการเพียงแค่ใครสักคนที่คอยรับฟัง
Never stop Trying. Never stop Believing. Never Gave Up. You day will Come!!!
แปลว่า อย่าหยุดพยายาม ..อย่าหยุดความเชื่อมั่น ..อย่ายอมแพ้ …และวันของคุณจะมาถึง..
Sometimes you need to let things go.
แปลว่า บางครั้งคุณก็จำเป็นที่จะต้องปล่อยมันไป
These times are hard, but they will pass.
แปลว่า เวลานี้มันยาก…แต่มันก็จะผ่านไป
ขอบคุณข้อมูลจาก teen.mthai.com
เยี่ยม!นักวิจัยจุฬาฯ ผลิตหุ่นฝึกตรวจจอตา ลดต้นทุนช่วยนิสิตไทยเรียนรู้
เปิดตัวหุ่นฝึกตรวจจอตา“Oph-Sim” ฝีมือนักวิจัยจุฬาฯ ฝึกนิสิตแพทย์ให้เชี่ยวชาญการตรวจโรค ประหยัดงบนำเข้าหุ่นฝึกตรวจจากต่างประเทศหลายเท่า
รองศาสตราจารย์ พญ.สุภรัตน์ จริยโกศล ทีมวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า การตรวจวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวกับจอตาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องการความรวดเร็วและแม่นยำ
เพื่อความสบายตาของคนไข้ที่ไม่ต้องจ้องแสงจ้านานเกินไป ซึ่งตรงนี้ต้องการทักษะความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ตรวจ
ในการเรียนการสอนนิสิตแพทย์ปัจจุบัน มีการใช้หุ่นฝึกตรวจจอตาอยู่แล้ว ด้วยอุปกรณ์นำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาแพง และไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความต้องการฝึกและเรียนรู้กรณีศึกษาได้มากนัก
ทีมวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย รองศาสตราจารย์ พญ.สุภรัตน์ จริยโกศล รองศาสตราจารย์ นพ.ศุภพงศ์ ถิรคุณวิชชะ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีระยุทธ ศรีธุระวานิช ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จึงร่วมกันพัฒนา “Oph-Sim” หุ่นฝึกตรวจจอตา ฝีมือคนไทย เพื่อให้นิสิตและแพทย์ที่สนใจฝึกฝนทักษะการตรวจจอตาได้อย่างมีคุณภาพ ในราคาที่ต่ำลง
“ทักษะการตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของขั้วประสาทตาและจอตา เป็นทักษะสำคัญของแพทย์ทั่วไปและแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยา เนื่องจากจะช่วยให้สามารถวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับตาและโรคอื่นๆทางระบบประสาทที่สำคัญได้ เช่นขั้วประสาทตาบวมจากความดันในสมองสูง จอตาเสื่อมเหตุเบาหวาน และต้อหิน” รศ.พญ สุภรัตน์ กล่าว
ที่ผ่านมา นิสิตแพทย์ฝึกการตรวจจอตาด้วยเครื่อง direct ophthalmoscope กับหุ่นฝึกตรวจตาที่นำเข้าจากต่างประเทศซึ่งราคาสูงและมีข้อจำกัดมาก เนื่องจากแผ่นสไลด์แสดงภาพความผิดปกติของจอตาที่ใช้กับหุ่น มักเสื่อมสภาพเร็วและมีจำนวนภาพให้เรียนรู้น้อย เลยมีความคิดว่าถ้าเรามีหุ่นที่เราพัฒนาเองที่ราคาไม่แพง ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ส่งภาพสู่จอมอนิเตอร์แบบดิจิทัล มีคุณภาพของภาพจอตาที่คมชัด และตอบโจทย์ตามที่เราต้องการก็จะดี นิสิตจะเห็นภาพตัวอย่างจอตาที่ชัดเจนและหลากหลาย อาจารย์ผู้สอนสามารถอธิบายสิ่งตรวจพบในภาพจอตาไปพร้อมๆ กับนิสิตส่องตรวจ เพื่อการฝึกวินิจฉัยได้มีประสิทธิภาพขึ้น
รศ.นพ.ศุภพงศ์ อธิบายว่า หุ่นฝึกตรวจจอตา Oph-Sim ประกอบด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ ได้แก่ ตัวหุ่น เครื่องส่งสัญญาณและแอปพลิเคชัน การใช้งานก็ไม่ซับซ้อน เพียงอาจารย์ผู้สอนอัพโหลดภาพจอประสาทตาที่ต้องการศึกษาลงบนแอปพลิเคชัน ภาพนั้นก็จะไปปรากฎบนหน้าจอมอนิเตอร์ของหุ่น จากนั้นนิสิตแพทย์ก็จะส่องไปที่ดวงตาของหุ่น ด้วยเครื่องมือ Ophthalmoscope เพื่อฝึกตรวจจากการดูภาพจำลองนั้น
“ภาพจอตาเป็นภาพจากมอนิเตอร์แบบดิจิทัล ซึ่งคมชัดกว่าภาพสไลด์และไม่มีแสงสะท้อน แถมยังมีจอยสติ๊กที่สามารถควบคุมหุ่นให้กลอกตาได้เพื่อจำลองการกระทำของคนไข้ นอกจากนี้ ถ้าอาจารย์พบเคสที่น่าสนใจจากคนไข้ก็สามารถใส่ภาพจอประสาทตาเพิ่มเข้ามาในแอปพลิเคชันได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องซื้อสไลด์ที่มีอายุการใช้งานสั้นและราคาสูง ผู้เรียนก็จะได้เรียนเคสได้หลากหลายยิ่งขึ้นด้วย” รศ.นพ.ศุภพงศ์ กล่าว
ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นมา บริษัท เมดเกตเวย์ จำกัด ซึ่งทีมวิจัยก่อตั้งขึ้นเพื่อผลิตและจำหน่ายหุ่นฝึกตรวจจอตา Oph-Sim ได้ส่งมอบหุ่นเพื่อฝึกสอนนิสิตแพทย์และแพทย์ที่สนใจแล้วในหลายโรงพยาบาล อาทิ โรงพยาบาลพุทธชินราช โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลสงขลา และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
“สิ่งที่อยากจะพัฒนาในอนาคต มีความคิดที่จะเพิ่มฟีเจอร์การใช้งาน เช่น เพิ่มมินิควิซ (Mini Quiz) เพื่อให้นิสิตได้ทดสอบและประเมินความสามารถของตัวเองได้” ผศ.ดร.วีระยุทธ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าว
นอกจากนี้ อยากให้มีเครือข่ายของจักษุแพทย์ เมื่อเจอเคสคนไข้ที่น่าสนใจ สามารถแบ่งปันภาพเข้าไปในกลุ่ม เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยกันแสดงความเห็นกับเคสที่เจอ เรียนรู้ไปด้วยกัน แล้วนำภาพเคสมาใช้ในการเรียนการเรียนการสอนต่อไปเพื่อพัฒนาศักยภาพของแพทย์
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“อินทนิล” หรืออินทนิลน้ำ ประโยชน์ของไม้ดอกสีสวย มากไปด้วยสรรพคุณ
ต้น “อินทนิล” หรือ “อินทนิลน้ำ” คือ ไม้ยืนต้นชนิดหนึ่งที่มีดอกสีสันสวยงาม จนผู้คนนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับตามโรงเรียน ริมถนนและสถานที่ต่างๆ นอกจากความสวยงามที่เห็นอินทนิลน้ำยังมีสรรพคุณทางยาที่โดดเด่นในเรื่องการรักษาโรคเบาหวานและยังมีสรรพคุณในเรื่องอื่นๆ อีก ว่าแต่อินทนิลน้ำมีดีอะไรบ้าง ตามไปดูกัน
ที่มาของอินทนิล
อินทนิลหรืออินทนิลน้ำ เป็นไม้คนละชนิดกับอินทนิลบก จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศไทย สามารถพบได้ทั่วไปตามที่ราบลุ่มและบริเวณใกล้แหล่งน้ำทั่วทุกภาคโดยจะพบมากเป็นพิเศษในป่าดงดิบที่ภาคใต้ ดอกมีสีสันสวยงาม มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นเช่น ฉ่องมู ซอง ตะแบกอินเดีย(กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) ตะแบกดำ(กรุงเทพฯ) บาเอ(ปัตตานี) เป็นต้น มีการยกย่องดอกอินทนิลว่าเป็น Flower of the Queen หรือราชินีแห่งดอกไม้ เนื่องจากอินทนิลมีดอกมีสวยงามมาก
อินทนิลน้ำสามารถเจริญเติบได้ดีในดินเกือบทุกสภาพ โตไว ชอบแสงแดดจัด ชอบน้ำปานกลางแต่ก็สามารถอดทนต่อสภาวะน้ำท่วมขังได้ ขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยการใช้เมล็ด ซึ่งก็สามารถขยายพันธุ์ได้เองตามธรรมชาติ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของอินทนิลน้ำ
ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางไปถึงใหญ่ ลำต้นสูง 5-20 เมตร ในช่วงแรกๆ ลำต้นจะเล็กและคดงอ เมื่อโตขึ้นต้นจะตรงขึ้น ลำต้นส่วนล่างแทบไม่มีกิ่งก้านใด แต่จะแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มแผ่กว้างบริเวณเรือนยอด เปลือกลำต้นค่อนข้างเรียบ มีสีน้ำตาลอ่อนหรือสีเทา มีรอยด่างๆ เห็นได้ชัดเจนทั่วลำต้น เปลือกในสีออกม่วง ส่วนเนื้อไม้หากตัดใหม่จะเป็นสีแดงเรื่อๆ หรือสีชมพูอ่อน เมื่อเวลาผ่านไปจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมแดง เป็นไม้ที่ค่อนข้างแข็งแรง ตกแต่งได้ง่าย ขัดเงาแล้วสวยงามจึงนิยมนำมาเฟอร์นิเจอร์ไม้
ใบ เป็นใบเดี่ยว แตกใบเรียงสลับกัน ใบเป็นรูปขอบขนานหรือรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบมนกว่าและเบี้ยว เนื้อใบค่อนข้างหนา ขอบใบเรียบแต่บางใบอาจจะเป้นคลื่นเล็กน้อย ผิวใบทั้งสองด้านเรียบเกลี้ยง เป็นมัน เส้นกลางใบสีเหลือง มีเส้นแขนงประมาณ 9-17 คู่
ดอก ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ มีสีหลายระดับเช่น สีม่วง สีม่วงอ่อน สีม่วงอมชมพู ช่อดอกออกตามปลายกิ่ง กลีบฐานดอกเชื่อติดกันเป็นกรวยมีขนปกคลุม กลีบดอกบาง มี 6 กลีบรูปร่างคล้ายช้อนคือ ปลายกลีบแบน โคนกลีบเรียวยาว ผิวกลีบไม่เรียบ เป็นคลื่นเล็กน้อย ตรงกลางมีเกสรตัวผู้อยู่เป็นจำนวนมาก ยอดของเกสรตัวผู้มีสีเหลือง
ผล ลักษณะคล้ายกระสวยหรือรูปไข่ ป่องตรงกลางและก้นจะแหลมเล็กน้อย จุกผลเป็นรูปถ้วย ผิวเรียบแข็ง สีเขียวอมเทา ผลแก่เป็นสีน้ำตาล จะแตกออกเป็นแฉกๆ 6 แฉก
เมล็ด มีขนาดเล็ก มีปีกบางๆ
8 สรรพคุณ ประโยชน์ของอินทนิลน้ำ
1. อินทนิลน้ำช่วยรักษาโรคเบาหวาน ซึ่งจัดเป็นสรรพคุณที่โดดเด่นที่สุดของอินทนิลน้ำ รักษาสมดุลน้ำตาลในเลือด ช่วยคอเลสเตอรอลในเลือดและลดความดันโลหิตสูงอีกด้วย
2. รากของอินทนิลน้ำมีรสขม ช่วยรักษาแผลในปากและลำคอ
3. อินทนิลน้ำมีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะกระปริดกระปรอย
4. อินทนิลน้ำช่วยให้นอนหลับลึก หลับสบายมากขึ้น
5. อินทนิลน้ำมีสรรพคุณช่วยลดไข้ ลดอาการอักเสบ ยับยั้งและต่อต้านเชื้อไวรัส เชื้อรา
6. อินทนิลน้ำสามารถปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากเจริญเติบโตได้เร็ว ให้ร่มเงาและดอกอินทนิลน้ำมีสีสันสวยงามมาก
7. อินทนิลน้ำนำมาเป็นไม้ตกแต่ง ทำเฟอร์นิเจอร์ได้ ไม้อินทนิลเป็นไม้ที่ค่อนข้างแข็งแรง เนื้อไม้ทนทาน ตกแต่งได้ง่าย เมื่อนำมาขัดจะมันเงาสวยงาม สามารถนำมาทำเป็นพื้นบ้าน ฝาบ้าน และยังเหมาะสำหรับนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เพื่อตกแต่งบ้าน นอกจากนี้ยังนำไปทำอย่างอื่นได้อีก เช่น เรือ พาย ลังหรือถังไม้ หีบไม้ อุปกรณ์การเกษตรต่างๆ เป็นต้น
8. อินทนิลน้ำมีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนัก มีการนำใบอินทนิลน้ำไปแปรรูปในอยู่ในรูปแคปซูลและแบบชงเป็นชาจำหน่ายโดยมีสรรพคุณหลักๆ คือช่วยรักษาโรคเบาหวานและยังมีประโยชน์ทางอ้อมซึ่งก็คือช่วยลดน้ำหนักนั่นเอง
ความแตกต่างระหว่างอินทนิลน้ำและอินทนิลบก
สำหรับใครที่จะนำอินทนิลน้ำมาเป็นยาสมุนไพรเพื่อดูแลสุขภาพตัวเอง อาจจะสับสนได้ระหว่างอินทนิลน้ำและอินทนิลบก เนื่องจากมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันจนแทบแยกไม่ออก หากเข้าใจผิดโดยนำอินทนิลบกมารับประทาน จะไม่ได้ประโยชน์อันใดเลยเนื่องจากอินทนิลบกไม่มีสรรพคุณทางยา ดังนั้นก่อนนำมาใช้ควรสังเกตข้อแตกต่างให้ดี คือ อินทนิลบกจะมี ใบ ดอกและผลขนาดใหญ่กว่าอินทนิลน้ำมาก ใบจะป้อมและกว้างกว่ารวมทั้งปลายใบอินทนิลบกจะจะมน ถ้าหากแหลมจะไม่เรียวแหลมแบบอินทนิลน้ำแต่จะแหลมสั้น ดอกอินทนิลบกจะไม่มีจุกซึ่งเห็นได้ชัดเจนแต่อินทนิลน้ำมีจุก น่าจะพอแยกกันออกแล้วสำหรับอินทนิลทั้งสองประเภท อย่าลืมดูให้ดีก่อนนำมารับประทานเพราะถ้าหากรับประทานผิดจะไม่มีผลในการรักษาเลย
อินทนิลน้ำ ต้นไม้ที่มีดอกสวยงาม ปลูกง่ายโตไว พบเห็นได้ทั่วซึ่งหลายคนก็เห็นบ่อยๆ จนไม่ทราบว่านอกจากเป็นไม้ประดับยังเป็นสมุนไพรได้อีกด้วย สำหรับใครที่เป็นโรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งสำหรับสมุนไพรชนิดนี้ แต่ก่อนนำมาใช้ต้องดูให้ดี ระวังสับสนกับอินทนิลบกซึ่งไม่ได้มีประโยชน์ทางยา อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่อยากใช้อินทนิลน้ำรักษาตัว ควรรักษาควบคู่ไปกับการแพทย์แผนปัจจุบันและหมั่นไปตรวจปริมาณน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอเพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก sukkaphap-d.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 09/12/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,200.00 | 28,300.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,827.00 | 27,697.32 | 28,800.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,644.30 | 24,927.59 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,461.60 | 22,157.86 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 822.00 | 12,461.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 639.00 | 9,687.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,893.00 | 28,697.88 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 09/12/2564
วันที่ – เวลา | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
09-12-2564 05:00 | 33.46 | 27.84 | 27.84 | 27.84 | 37.36 | 29.95 | 29.68 | 28.44 | 22.99 |
08-12-2564 05:00 | 33.86 | 28.24 | 28.24 | 28.24 | 37.86 | 30.45 | 30.18 | 28.94 | 23.29 |