ศุภาลัย รุกเปิดคอนโดฯใหม่ “ศุภาลัย ซิตี้โฮม ระยอง”
ศุภาลัย เชื่อมั่นกำลังซื้อ EEC รุกเปิดคอนโดฯใหม่ จ.ระยอง “ศุภาลัย ซิตี้โฮม ระยอง”ราคา 1 ล้านต้น พรีเซล 18-19 ธ.ค.
นายบุญชัย ชัยอนันต์บวร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานโครงการภูมิภาค 2 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าที่ผ่านมาจังหวัดชลบุรีและระยองเป็น 2 จังหวัดที่บริษัทฯ ทำยอดขายได้มากที่สุด ถ้าไม่นับกรุงเทพมหานคร
เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์พื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง มีแหล่งงานคือนิคมอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีรายได้จากการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์ล็อคดาวน์ในประเทศคลี่คลายลง ขณะเดียวกันกลุ่มเป้าหมายของศุภาลัยในพื้นที่ EEC จ.ระยอง คือคนทำงานในนิคมฯ ถัดมาคือผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
บริษัทฯจึงเดินหน้าเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุด “ศุภาลัย ซิตี้โฮม ระยอง” มูลค่าโครงการ 290 ล้านบาท บนทำเลที่ดีที่สุดใกล้ถนนสุขุมวิท เชื่อมทุกทำเลของเมืองอุตสาหกรรม EEC จ.ระยอง
“ศุภาลัย ซิตี้โฮม ระยอง” โดดเด่นด้วยการออกแบบ Industrial Loft มิติใหม่ของไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง สะท้อนความเป็นเมืองอุตสาหกรรม ด้วยสถาปัตยกรรมที่อยู่อาศัยที่ให้ความรู้สึกดิบและเท่ห์ ตัวอาคารรูปตัว I สูง 8 ชั้น บนพื้นที่ 3 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 230 ยูนิต (ไม่มีร้านค้า) ในราคาเริ่มต้นเพียง 1 ล้านต้นๆ
แบ่งเป็นห้องแบบ Studio ขนาด 28.5 ตร.ม. และแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 41.5 ตร.ม. พื้นที่จอดรถสะดวกสบาย 65% ของจำนวนห้องพัก ผ่อนคลายเหมือนอยู่ใน รีสอร์ทด้วยการออกแบบตกแต่งภายในที่ทันสมัยสไตล์ Boutique Loft อาคารหันหน้าไปทางทิศเหนือและใต้ เพื่อเลี่ยงการรับความร้อนจากด้านทิศตะวันตก และสามารถรับลมประจำด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้ ได้เต็มที่ตลอดทั้งปี
ผู้พักอาศัยในโครงการจะสามารถผ่อนคลายได้เต็มที่กับบรรยากาศแสนร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ 780 ตร.ม. รอบโครงการ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์กับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ Fitness, Co-Living Space, The Chic Lobby, The Horizon พื้นที่พักผ่อนชั้น 8 ทั้งยังอุ่นใจในความปลอดภัยด้วยระบบสแกนใบหน้า ณ ทางเข้า Lobby และ Fitness ระบบเตือนและป้องกันอัคคีภัย และระบบรักษาความปลอดภัย CCTV ทั้งโครงการ
สะดวกทุกการเดินทางเพราะตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดบนถนนสุขุมวิท เชื่อมต่อถนนเลี่ยงเมืองบายพาส 36 เพียง 200 เมตรจากสถานีขนส่งใหม่ระยอง ใกล้แหล่งช้อปปิ้งอาทิ The Ozone market ตลาดหนองโพรง Tesco Lotus’s Global House และเพียง 9 นาทีจากแหล่งงาน นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด สัมผัสมิติใหม่ของไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง “ศุภาลัย ซิตี้โฮม ระยอง” Pre-Sales 18-19 ธันวาคมนี้ครั้งแรก พร้อมชมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้ ณ Sales Gallery สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1720 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.supalai.com
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
อสังหาฯไม่หวั่น “โอมิครอน” ทิ้งทวนปี 64 เปิดใหม่คึก
ตลาดบ้าน-คอนโดฯ ยังร้อน ทิ้งทวนเดือนสุดท้าย ปี 2564 เสนาฯ ฝ่าปัจจัยลบ “โอมิครอน” ดันเปิดใหม่ตามแผน 13 โครงการ เจาะไฮไลท์คอนโดฯต่ำล้าน SC ไม่ถอย ชิงส่วนแบ่งแนวราบแสนล้าน ขณะบิ๊กแบรนด์ ฟื้นเปิดคอนโดฯใหม่ กทม.- ตจว. กูรู วิเคราะห์ หวังทำการตลาดข้ามปี
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเดินทางมาสู่ เดือนสุดท้ายของปี 2564 พร้อมๆกับภาพรวมแนวโน้มที่ดีหลายด้าน ทั้งจากปัจจัยหนุน การผ่อนคลายมาตรการ LTV ช่วยปลดล็อกกำลังซื้อเก่าและใหม่นับ 20% เปิดทางให้สถาบันการเงิน กลับมาปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้ลูกค้ากู้ได้เต็มเพดาน 100% อีกครั้ง
ขณะบรรยากาศการเปิดประเทศ เพิ่มความคึกคักให้เศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัว จากสถานการณ์โควิด 19 ได้เร็วขึ้น
โดยการเร่งตัวของกำลังซื้อ ในช่วงไฮซีซันของตลาดที่อยู่อาศัยนั้น ประกอบกับ ล่าสุด ครม.ประกาศเลื่อนจัดเก็บ “ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง” ไปถึงปี 2566 ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ ในระยะ 1 เดือนสุดท้ายก่อนปิดจ็อบไตรมาส 4 ปี 2564 ส่งผลตัดสินใจ ดันโครงการเปิดใหม่เข้าสู่ตลาด เพื่อคว้าโอกาสสร้างยอดขายทิ้งทวน
แม้ขณะนี้ เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหม่ จากวิกฤติโควิดกลายพันธุ์ “โอมิครอน” เพิ่มการติดเชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 5 เท่า ส่งผลทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะท่าทีการรับมือ กรณีเลวร้ายที่โลกต้องกลับไปล็อคดาวน์ ถูกประเมินว่า จีดีพีโลก ปี 2565 จาก 4.4 % จะเหลือ 2.3% เท่านั้น หลังประเทศอังกฤษเริ่มประกาศให้ประชาชนกลับไปทำงานที่บ้าน
ส่วนประเทศไทย หลังพบผู้ติดเชื้อ โอมิครอน รายแรก ชาวอเมริกันมาจากสเปน ได้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรอง และเปิดรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อรวมราว 4,000 รายต่อวัน
เสนามั่นใจคอนโดฯต่ำล้าน
“ฐานเศรษฐกิจ”ตรวจสอบความเคลื่อนไหวในตลาด พบค่ายใหญ่ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หลังจากดูจังหวะตลาดมานาน ล่าสุด ประกาศเดินหน้าปล่อยของ ตามแผน 9 โครงการ ไตรมาส 4 มูลค่าร่วม 8.4 พันล้านบาท ส่งท้ายปีผันผวน (ปี 2564 ทั้งหมด 13 โครงการ 10,505 ล้านบาท )
นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดสรรเงินทุนและการลงทุน เผย แม้ สายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” เข้ามาป่วนอีกระลอก ส่งภาพตลาดกลับมาชะลออีกครั้ง แต่ธุรกิจต้องเดินหน้าต่อ ทั้งนี้ จากมาตรการผ่อนปรนของ ธปท. และการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินผ่านอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมถึง นโยบายกระตุ้นของรัฐบาล เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนอง มองเป็น ” นาทีทอง” กระตุ้นตลาดท้ายปี
บริษัทจึงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ เมื่อพิจารณา พบว่า มีคอนโดมิเนียมกลุ่มราคาเริ่มต่ำล้านบาท และไม่ถึง 2 ล้านบาท มากถึง 6 โครงการ ผ่านแบรนด์ เสนา คิทท์ , เสนา อิโค่ และ แฟล็กซี่ ในทำเลแหล่งงาน รังสิต ,บางแค ,ศรีด่าน และ บางบ่อ เป็นต้น
” ปัจจัยปลดล็อคมาตราการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กู้ 100% หรือ LTV มองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้ “
SCดัน”เวนิส ไอดี”เจาะบ้านแพง
ขณะตลาดแนวราบ ที่ดีมานด์เร่งตัวขึ้นมามากในช่วงโควิด ดันมูลค่ายอดขายรวม 9 เดือน ใกล้แตะ 1 แสนล้านบาท เบอร์ต้นเซกเม้นท์ระดับบน อย่าง บมจ.เอสซี แอสเสท ยังคงเร่งเครื่องท้ายปี ไตรมาส 4 ส่งแบรนด์ใหม่ เข้าชิงส่วนแบ่ง กลุ่มตลาดบ้านราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งมีการแข่งขันเข้มข้น
ผ่านแบรนด์ใหม่ เวนิว ไอดี (VENUE ID) เจาะทำเลโซนตะวันตกของ กทม. อีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,790 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ เวนิว ไอดี เวสต์เกต และ เวนิว ไอดี พระราม 5 ล่าสุดคว้ายอดขายเบื้องต้นรวมแล้ว 200 ล้านบาท หวังเป็นอีกส่วนผลักดันยอดขายแนวราบราว 1.7 หมื่นล้านบาท ในปี 2564
ซัพพลายบ้านเดี่ยวร้อนแรง
ตลาดบ้านเดี่ยวที่ร้อนแรง ยังทำให้ บมจ.ศุภาลัย บุกหนักส่งท้ายปี ลุยเปิดโครงการแนวราบลำดับสุดท้าย ของไตรมาส 4 “ศุภาลัย พาร์ควิลล์ ประชาอุทิศ – สุขสวัสดิ์”มูลค่า 1.6 พันล้านบาท บนพื้นที่กว่า 51 ไร่ จำนวนที่ดิน 220 แปลง หลังจากเพิ่้งตัวโครงการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี “ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ สุราษฎร์ธานี ” มูลค่า 460 ล้านบาท
สอดคล้อง นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ระบุก่อนหน้า ไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมา อสังหาฯได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและคอนโดฯของผู้ประกอบการลดลง แต่เมื่อเข้าสู่ไตรมาส 4 ช่วงท้ายของปี แรงกดดันลดลงมาก
ตลาดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
ขณะดีเวลอปเปอร์รายใหม่ บริษัท เดอะ แบ็กยาร์ด ใช้จังหวะช่วงท้ายปี เปิดโครงการ “Le Parc Next (เลอ พาร์ค เน็กซ์) ทวีวัฒนา” มูลค่า 1,200 ล้านบาท ราคาเริ่ม 11 ล้ายบาท ย่านทวีวัฒนา – พุทธมลฑล ซึ่งเป็นตลาดของเรียลดีมานด์บ้านหลังใหญ่
นายปราโมทย์ ฮาวรังษี กรรมการ บริษัท ระบุ เชื่อมั่นตลาดจะมีสภาวะเริ่มฟื้นตัว ภาครัฐเปิดประเทศ เศรษฐกิจขยับ ส่วนธุรกิจอสังหาฯเอง ภาครัฐมีนโยบายผ่อนคลายหลายด้าน เปิดโอกาสผู้ซื้อกู้เงินเต็มมูลค่าหลักประกัน หรือ 100% จนถึงสิ้นปี 2565 ช่วยกระตุ้นเรียลดีมานด์ เชื่อกลุ่มตลาดแนวราบระดับกลาง -บน จะเป็นกลุ่มแรกที่เติบโตได้ดี
นอกจากนี้ บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป เปิดโครงการ โครงการบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น “ธนาฮาบิแทต กรู๊ฟ ปิ่นเกล้า–สิรินธร” บนทำเลปิ่นเกล้า ใกล้ทางด่วนศรีรัช ขายราคาเริ่ม 5.6 ล้านบาท พรีเซลล์ 11-12 ธ.ค. อีกด้วย
คอนโดฯโผล่เปิดใหม่
สำหรับตลาดคอนโดฯ ที่ลดความร้อนแรงตลอดปี 2563-2564 หลังตลาดมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะสต็อกเก่าที่ลดลง ประกอบกับเทรนด์การพัฒนาอสังหาฯ กระจายความเสี่ยง ทั้ง รูปแบบ ทำเล และระดับราคา ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มกลับมาเปิดโครงการใหม่ โดย บมจ. แอสเซทไวส์ ซึ่งเดิมอยู่ในทำเล กทม-ปริมณฑล ประเดิม รุกเจาะพื้นที่ศักยภาพ EEC ครั้งแรก เปิดคอนโดฯใหม่ แอทโมซ ศรีราชา มูลค่า 1,000 ล้านบาท ทำเลใกล้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา จับกลุ่มลูกค้านักศึกษา และนักลงทุน ในราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท รวม 539 ยูนิต
ขณะ บมจ.ศุภาลัย ตามแผน เหลือเปิดโครงการคอนโดฯ ใหม่อีก 1 โครงการ ในพื้นที่ต่างจังหวัด มูลค่า 250 ล้านบาท ปิดปี 2564 จำนวน 31 โครงการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านบาท
ส่วน บมจ.ออริจิ้น เตรียมปล่อยของ โครงการ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น เป็นคอนโด High-Rise 28 ชั้น 1 อาคาร ติดถนนใหญ่สิรินธร ใกล้รถไฟฟ้า MRT สิรินธร ในราคาเริ่มต้น 2.XX ล้านบาท เปิดพรีเซลช่วงเดือนธันวาคมนี้เช่นกัน
กูรูชี้ อสังหาฯมองระยะยาว
ทั้งนี้ นาย สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า การลุยเปิดโครงการใหม่ในช่วงท้ายของปี เป็นกลยุทธ์การขาย ที่ต้องการสร้างกิจกรรมต่อเนื่องได้ถึงปีหน้า โดยผู้ประกอบการไม่ได้คาดหวังว่าต้องปิดการขายหรือมีอัตราการขายที่สูงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม มองตลาดอสังหาฯ ยังคงต้องระวังกันต่อ เพราะประเมินปัจจัยบวกหลายอย่าง ยังไม่มีผลต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจแบบชัดเจน แค่สร้างแรงกระเพื่อมในระบบเท่านั้น
” ถ้าจำเป็นต้องล็อกดาวน์อีกครั้ง เพราะผู้ติดเชื้อมากขึ้นจากโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ จะเป็นการซ้ำเติมระบบเศรษฐกิจของประเทศมากกว่าเดิม ผู้ประกอบการจึงยังเลือกที่จะเปิดขายโครงการแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะคอนโดฯที่ต้องเลือกทำเล รูปแบบโครงการอย่างพิถีพิถันก่อนที่จะเปิดขายโครงการ และทยอยเปิดไล่ๆ กันไป ไม่ใช่การเปิดขายแบบพร้อมๆ กันทีละหลายโครงการ”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด33.40บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว
เงินบาทเปิดตลาด 33.40บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัวจับตาสถานการณ์โควิด-กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 64 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.40 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากที่ปิดตลาดวานนี้(13 ธ.ค.) ที่ระดับ 33.41 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทเปิดใกล้เคียงกับท้ายตลาดเมื่อวาน ปัจจัยช่วงนี้ตลาดรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ช่วงกลางสัปดาห์นี้ ด้านสกุลเงินตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่อ่อนค่า เนื่องจากเมื่อคืนนี้ตลาดกลับมากังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอีกครั้ง จึงปิดรับความเสี่ยง ส่วนแนวโน้มเงินบาทวันนี้ยังทรงๆ
โดยระหว่างวันมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ข่าวเรื่องการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน และกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายส่วนคืนนี้ต้องติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ
นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30 – 33.50 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
เยาวชนกว่า 600 ร่วมคัด! สนาม 2 “KTAXA Know You Can Football Youth (U15)” ที่บุรีรัมย์
โครงการ “KTAXA Know You Can Football Youth (U15) Academy” โดย “กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต” ซึ่งเป็นการคัดเลือกสุดยอดเยาวชนไทย ที่มีทักษะในกีฬาฟุตบอล รับทุนการศึกษาคนละ 5,000 บาท และทุนซื้ออุปกรณ์กีฬาคนละ 5,000 บาท
โดยเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2564 เป็นการคัดเลือกโซนตะวันออกเฉียงเหนือ จัดขึ้นที่สนามบุรีรัมย์เทรนนิ่งกราว จังหวัดบุรีรัมย์ ท่ามกลางเยาวชนชาย และหญิง อายุ 13-15 ปี (เกิดระหว่าง 1 ม.ค. 2549-31 ธ.ค. 2551) ร่วมทดสอบฝีเท้ากว่า 545 คน โดยได้รับเกียรติจาก คุณสุกัญญา อิสรานุวัฒน์ชัย รองประธานอาวุโส ฝ่ายสื่อสารการตลาด และภาพลักษณ์องค์กร บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เป็นประธาน พร้อมกล่าวเปิดงาน
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยเยาวชนทุกคนที่เข้าร่วมงานผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด19 ด้วยวิธี Antigen Test ที่ทางโครงการจัดให้ตรวจในบริเวณช้างอารีน่า ในด้านการทดสอบและคัดเลือก เป็นการทดสอบการเล่นเป็นทีม และความเข้าใจในเกม
โดยมีโค้ชแดง ทรงยศ กลิ่นศรีสุข เป็นประธานในการคัดเลือก เยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกในสนามบุรีรัมย์ ได้แก่ 1.ด.ช.พรหมพิริยะ พรมบุตร 2.ด.ช.อภิรักษ์ ทองศรี 3.ด.ช.วิวัส พร้าวไธสง 4.นาย ภูวนัย ชาญโพธิ์ 5.ด.ช.พีรวิชญ์ อินทร์ธรรม
โครงการ “KTAXA Know You Can Football Youth (U-15) Academy” ที่บริษัทฯ ได้จัดขึ้นจะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับทักษะนักฟุตบอลเยาวชนของไทยสู่มาตรฐานระดับโลก และสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีผ่านการออกกำลังกาย
อีกทั้งสอดคล้องกับการที่กลุ่มแอกซ่าเป็นพันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล และร่วมสร้างพลังกายพลังใจ ความเชื่อมั่นในตนเอง ว่าทุกคนทำได้ “Know You Can” บริษัทฯ พร้อมที่จะสนับสนุน อยู่เคียงข้างความเชื่อมั่นของเยาวชนไทย และมอบโอกาสในการพัฒนาทักษะฟุตบอล เพื่อให้สามารถก้าวเดินตามความฝันได้สำเร็จ
โดยกิจกรรมครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในภาคใต้ และภาคกลาง ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.krungthai-axa.co.th หรือ โทร 1159 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
8 สัญญาณอันตราย “ทอนซิลอักเสบ”
ทอนซิลอักเสบ เป็นการติดเชื้อที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณช่องคอ ทำให้เกิดอาการคล้ายกับไข้หวัด เช่น เจ็บคอ คอบวม ไข้สูง กลืนลำบาก ปวดหัว ทอนซิลอักเสบเฉียบพลันอาจมีอาการนานประมาณ 3-4 วัน แต่บางคนอาจมีอาการเป็นๆ หายๆ หรือมีอาการอักเสบเรื้อรัง ทอนซิลอักเสบมักสามารถหายไปได้เองโดยไม่ต้องทำการรักษา แต่การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม อาจช่วยบรรเทาอาการและเร่งให้หายไวขึ้นได้
ทอนซิลอักเสบ คืออะไร
ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) เป็นการอักเสบของต่อมทอนซิล ซึ่งเป็นต่อมน้ำเหลืองบริเวณช่องคอด้านหลังทั้ง 2 ข้าง ทำหน้าที่ดักจับเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ เมื่อเชื้อโรคมีปริมาณมากเกินจนไม่สามารถควบคุมได้ หรือเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบ บวม และอาการเจ็บคอ
ทอนซิลอักเสบ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก คือ
- ทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน มักจะมีอาการประมาณ 3-4 วัน
- ทอนซิลอักเสบแบบเป็นๆ หายๆ หมายถึง อาการทอนซิลอักเสบที่เกิดขึ้นปีละหลายครั้ง โดยอาจมีอาการ รักษาจนหาย แล้วกลับมามีอาการใหม่ วนซ้ำไปเรื่อยๆ
- ทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หมายถึง อาการทอนซิลอักเสบที่มีอาการเรื้อรังยาวนาน
ทอนซิลอักเสบมักพบได้บ่อยในเด็ก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ได้เช่นกัน
อาการของทอนซิลอักเสบ
อาการของทอนซิลอักเสบ อาจมีดังต่อไปนี้
- เจ็บคอ คออักเสบ บวม แดง
- กลืนลำบาก รู้สึกเจ็บเวลากลืนน้ำลาย
- เสียงแหบ
- ปวดหัว ปวดหู
- เป็นไข้ หนาวสั่น
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- บริเวณต่อมทอนซิลอาจมีคราบสีขาวหรือสีเหลือง
- มีกลิ่นปาก
นอกจากนี้ เด็กอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น
- ไม่ยอมกินอาหาร
- ปวดท้อง
- อาเจียน
- น้ำลายไหลย้อย
- งอแงผิดปกติ
สาเหตุของทอนซิลอักเสบ
ทอนซิลอักเสบอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุ ดังต่อไปนี้
- การติดเชื้อไวรัส ทอนซิลอักเสบโดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza Virus) ไวรัสเอนเทอโร (Enterovirus) ไวรัสอะดีโน (Adenovirus)
- การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียที่มักทำให้เกิดทอนซิลอักเสบ คือ สเตรปโตคอคคัส ไพโอจิเนส (Streptococcus Pyogenes) ที่ทำให้เกิดโรคคออักเสบ แต่ก็อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ได้เช่นกัน
ปัจจัยเสี่ยงของทอนซิลอักเสบ
- อายุ เด็กอายุน้อยมักจะมีโอกาสเกิดทอนซิลอักเสบได้มากกว่า ทารกและเด็กเล็กมักจะเกิดทอนซิลอักเสบจากเชื้อไวรัส ส่วนเด็กที่อายุ 5-15 ปีมักจะเกิดทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ ผู้สูงอายุก็อาจมีโอกาสเกิดทอนซิลอักเสบสูงเช่นกัน
- การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้ติดเชื้อง่าย เช่น เด็กวัยเรียนที่ต้องเจอกับเด็กคนอื่นเยอะๆ อาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรคสูงกว่า และทำให้เกิดทอนซิลอักเสบ
การวินิจฉัยทอนซิลอักเสบ
**ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คุณหมอสามารถวินิจฉัยทอนซิลอักเสบได้จากการตรวจดูอาการ โดยเฉพาะในบริเวณช่องปาก หลังช่องคอ และลำคอ รวมถึงตรวจวัดไข้ เพื่อดูว่ามีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น อาการอักเสบ อาการบวม มีไข้สูง หรือไม่ นอกจากนี้ คุณหมอก็อาจทำตรวจอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนี้
- การใช้ไม้ป้ายคอ เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำลายและเนื้อเยื่อในบริเวณช่องคอไปตรวจสอบดูว่ามีเชื้อแบคทีเรียหรือไม่
- การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count หรือ CBC) เพื่อตรวจดูว่าค่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดสูงหรือต่ำกว่าปกติหรือไม่ ซึ่งจะสามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย
การรักษาทอนซิลอักเสบ
โดยส่วนใหญ่ ทอนซิลอักเสบ โดยเฉพาะทอนซิลอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส มักจะสามารถหายไปได้เองภายในไม่กี่วัน โดยไม่จำเป็นต้องทำการรักษาเพิ่มเติม แต่สำหรับทอนซิลอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย คุณหมออาจสั่งยาปฏิชีวนะให้รับประทานเพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรค ควรรับประทานยาให้ครบตามกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอาการดื้อยา
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีอาการทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ บ่อยครั้ง เช่น เป็นมากกว่า 7 ครั้งใน 1 ปี คุณหมออาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดต่อมทอนซิลออก ควรปรึกษาคุณหมอให้ละเอียดก่อนตัดสินใจผ่าตัดต่อมทอนซิล
การดูแลตัวเองที่บ้าน
โดยส่วนใหญ่ อาการทอนซิลอักเสบสามารถหายได้เอง แต่สามารถดูแลตัวเองเพิ่มเติมเพื่อช่วยบรรเทาอาการและเร่งให้หายไวขึ้นได้ ดังนี้
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำให้มาก ควรเลือกน้ำเย็น หรือรับประทานของเย็นๆ เช่น ไอติม น้ำแข็ง อาจช่วยบรรเทาอาการทอนซิลอักเสบได้
- กลั้วคอด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ
- ใช้เครื่องทำความชื้น เพื่อช่วยลดความระคายเคืองของคอ
- ใช้ยาแก้ปวด เช่น ยาพาราเซตามอล ยาไอบูโพรเฟน เพื่อช่วยบรรเทาอาการทอนซิลอักเสบ
การปรับไลฟ์สไตล์ และการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันทอนซิลอักเสบ
สิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันทอนซิลอักเสบได้ คือการรักษาสุขอนามัยให้ดี ดังนี้
- ล้างมือบ่อยๆ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรค
- หลีกเลี่ยงผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ เป็นไข้ และผู้ที่เป็นทอนซิลอักเสบ
- ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัว เช่น แก้วน้ำ ช้อนส้อม แปรงสีฟัน ร่วมกับผู้อื่น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ปัญหาที่ต้องพบเจอเวลาพูดกับชาวต่างชาติ
ปัญหาหนึ่งเวลาพูดกับชาวต่างชาติคือ เวลาเจอฝรั่งพูดเร็วๆ รัวๆ ลิ้นแทบจะพันกัน คนฟังก็หูแทบจะพันกัน เลยทำให้คนกลัวไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ
แต่!! เป็นเรื่องปกตินะที่เราอาจจะไม่คุ้นกับสำเนียง หรือจับความไม่ทัน จริงๆ ฝรั่งเค้าก้อไม่ได้พูดเร็วอะไร ก็เหมือนเราพูดภาษาไทยนี่แหละ ความเร็วปกติที่เราพูดกัน เพียงแต่เราไม่ชินแค่นั้นเอง
….เวลาเราฟังไม่ทันก็จะมีประโยคที่พูดเพื่อบอกให้เค้าพูดใหม่ หรือพูดช้าลง หรือพูดเสียงดังขึ้น…เริ่มจากประโยคเลเวลง่ายๆ กันก่อน
** sorry?
ปกติ sorry แปลว่า ขอโทษ แต่ ถ้าพูดเป็นประโยคคำถาม จะออกเสียงว่า “ซ่อหริ๊” จะหมายถึง “อะไรนะคะ?/อะไรนะครับ?” เวลาที่เราฟังเค้าพูดไม่ทัน หรือจะใช้คำว่า
pardon? (พาร์ด๊อน?) อะไรนะคะ/อะไรนะครับ
เป็นประโยคคำถามเหมือนกัน หรือถ้าอยากได้เวอร์ชั่นยาวๆ หน่อยก็บอกว่า
I beg your pardon? (ไอ เบ๊ก ยอร์ พาร์ด๊อน).
** ถ้าเป็นแบบทางการอีกนิดนึง ก็ให้ถามว่า
Can you repeat that please? (แคน ยู รีพี๊ท แด้ท พลีส) กรุณาพูดใหม่ได้มั้ย
หรือ Can you say that again please? ก็แปลเหมือนกันคือให้เขาพูดใหม่
I’m sorry. What did you say? ขอโทษนะ เมื่อกี๊คุณพูดว่าอะไรนะ
แต่ถ้าอยากให้เขาพูดช้าลงหน่อย ก็บอกว่า
Can you please slow down? (แคน ยู พลี๊ส สโลว์ ดาวน์) ช่วยพูดช้าลงหน่อยได้มั้ย?
หรือ Could you speak slowly please? คุณช่วยพูดช้าลงได้มั้ย?
ถ้าเราฟังในสิ่งที่เค้าไม่เข้าใจ หรือยังมึนๆ งงๆ อยู่ ก็อาจจะพูดว่า
I’m sorry. I didn’t get you. หรือ I’m sorry. I didn’t get what you said. ขอโทษนะคะ/นะครับ ฉัน/ผมไม่เข้าใจที่คุณพูด
I’m sorry. I didn’t catch what you said. ขอโทษนะคะ/นะครับ ฉัน/ผมฟังไม่ทัน
I’m sorry. I didn’t keep up with what you said. ขอโทษนะคะ/นะครับ ฉัน/ผมฟังไม่ทัน
คราวนี้ก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าถ้าฟังฝรั่งไม่รู้เรื่องจะต้องวิ่งหนี พูดประโยคข้างบนนี้เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ได้เลย ลองเอาไปฝึกพูดดูนะ มีหลายประโยค หลายระดับความยากง่ายให้เลือกใช้กันเลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
เทรนด์เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นและน่าจับตาในปี 2022
เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะผ่านพ้นปี 2021 เข้าสู่ปี 2022 ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นว่ามีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย จนอาจทำให้รู้สึกได้ว่าเวลา 1 ปีนี่ก็ผ่านไปไวเหมือนกัน เพราะหลายคนยังจำภาพช่วงเวลาสิ้นปีของเมื่อปีก่อนหน้านี้ได้อยู่เลยด้วยซ้ำไป เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ไม่ใช่เพียงแค่เวลาเท่านั้นที่เดินเร็วจนเรารู้สึกตามไม่ทัน เทคโนโลยีต่าง ๆ บนโลกใบนี้ก็วิวัฒนาการไปเร็วมากเช่นกัน หลายสิ่งหลายอย่างเราอาจได้ใช้งานกันอยู่ทุกวัน ทั้งที่ไม่รู้ตัวว่าใช้งานมันอยู่ และก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรด้วย นี่คือสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้อยู่รอบตัวเราตลอดเวลาเพียงแต่เราไม่รู้ตัว
ในปี 2022 ที่กำลังจะมาถึง การ์ทเนอร์ (Gartner) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้คาดการณ์ถึง 12 เทรนด์เทคโนโลยีที่จะขับเคลื่อนธุรกิจดิจิทัลและนวัตกรรมในปี 2022
โดยการ์ทเนอร์คาดว่าแนวโน้มเทคโนโลยีทั้ง 12 นี้จะมีผลต่อการเพิ่มจำนวนธุรกิจดิจิทัลและนวัตกรรมไปอีกราว ๆ 3-5 ข้างหน้า การทราบเทรนด์เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก็เพื่อให้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญ มันยังเป็นแนวโน้มที่จะขับเคลื่อนโลกยุคดิจิทัลอย่างเช่นทุกวันนี้ด้วย อย่างที่บอกว่าจริง ๆ แล้วเทคโนโลยีเหล่านี้มันอยู่รอบตัวเราอยู่แล้ว
Tonkit360 ขอสรุป 12 เทรนด์เทคโนโลยีในปี 2022 ที่น่าจับตาและศึกษาแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล และนวัตกรรมในปีหน้า คร่าว ๆ ดังนี้
คือ เทคโนโลยีการจัดการข้อมูลบนโลกที่มีอยู่เป็นจำนวนมากและกระจัดกระจาย ให้มารวมเป็นผืนเดียวกัน ทำให้ข้อมูลพร้อมใช้งานได้ทุกที่ที่ต้องการ เนื่องจากโลกยุคดิจิทัลเป็นโลกที่มีข้อมูลมหาศาล และข้อมูลก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แบบไม่รู้จบ ใช้การวิเคราะห์เรียนรู้และแนะนำได้ว่า ควรนำข้อมูลไปใช้หรือเปลี่ยนที่ไหน ซึ่งจะช่วยลดภาระและกระบวนการในการจัดการข้อมูลลงได้มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
เทรนด์ที่ 2 Cybersecurity Mesh
โครงข่ายความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับในเรื่องของความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่อาจไม่สามารถใช้การรักษาความปลอดภัยในรูปแบบเดิม ๆ ได้อีกต่อไป เช่น สินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังมาแรงในยุคนี้ เทคโนโลยีนี้จะช่วยรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลในทุกที่ มีระบบให้ผู้ใช้ระบุตัวตน ตรวจสอบข้อมูล รวมถึงบริบทในการเข้าถึงข้อมูล สามารถตรวจสอบข้อมูลจากทั้งภายในและภายนอกคลาวด์ได้อย่างรวดเร็วและน่าเชื่อถือ
เทรนด์ที่ 3 Privacy-Enhancing Computation
เทคโนโลยีที่ช่วยรักษาความปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน เมื่ออยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูงหรือไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากมีข้อกฎหมายความเป็นส่วนตัวของบุคคลและการปกป้องข้อมูลระหว่างประเทศมากขึ้น ในกลุ่มผู้ใช้งานเองก็มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน จะใช้เทคนิคการปกป้องความเป็นส่วนตัวหลากหลายรูปแบบที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัว
เทรนด์ที่ 4 Cloud-Native Platforms
แพลตฟอร์มบนเทคโนโลยีคลาวด์ เป็นการพัฒนาแอปพลิเคชันที่รองรับการประมวลผลบนคลาวด์ ที่ยกระดับความสามารถด้านดิจิทัลที่มากขึ้นและตอบสนองการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มความสามารถของระบบไอทีให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว ปรับปรุงวิธีการโอนย้ายข้อมูลไปสู่ระบบคลาวด์ ที่แบบเดิมมีจุดอ่อน การพัฒนาระบบขึ้นสู่คลาวด์ ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้เต็มที่และลดความยุ่งยากในการดูแลรักษา
เทรนด์ที่ 5 Composable Applications
แอปพลิเคชันประกอบที่สามารถแยกส่วนและนำมาประกอบใหม่ เป็นการสร้างองค์ประกอบทางเทคโนโลยีโดยอิงจากโมดูลของธุรกิจเป็นหลัก ทำให้แอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นนั้นง่ายต่อการใช้และสามารถนำโค้ดกลับมาประกอบเพื่อใช้ใหม่ได้ รองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ด้วยประโยชน์ในการเร่งให้บริการใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น และนำไปสู่การสร้างมูลค่า คุณค่าให้กับองค์กร ตามบริบทของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
เทรนด์ที่ 6 Decision Intelligence
การตัดสินใจ เป็นกระบวนการเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญที่สามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้องค์กรได้ จึงจำเป็นต้องพึ่งแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจขององค์กร มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยอาศัยการจำลองการตัดสินใจแต่ละครั้งเป็นชุดกระบวนการ ด้วยข้อมูลอัจฉริยะและการวิเคราะห์เพื่อให้ข้อมูลเหมาะสมที่สุด อีกทั้งทำให้เป็นกระบวนการอัตโนมัติด้วยการใช้การวิเคราะห์ การจำลอง และ AI เข้ามาช่วยในการสร้างแพลตฟอร์มนี้
เทรนด์ที่ 7 Hyperautomation
ระบบอัตโนมัติขั้นสูง โดยเป็นแนวทางที่มีระเบียบในการขับเคลื่อนธุรกิจแบบอัตโนมัติให้ได้มากที่สุด มีระบบระเบียบ เพื่อช่วยเร่งเครื่องให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยืดหยุ่น ด้วยความสามารถในการแปลผลลัพธ์ เร่งกระบวนการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว และช่วยให้ตัดสินใจเป็นไปได้ง่ายขึ้นด้วยการใช้ AI ในการทำงาน รองรับการปรับขนาด การดำเนินการจากระยะไกล และการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่
เทรนด์ที่ 8 AI Engineering
กระบวนการพัฒนา AI จะยังทำให้ AI ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ต่อจากนี้องค์กรต่าง ๆ จะพยายามนำ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการทำงานต่าง ๆ และการสร้างมูลค่าทางธุรกิจมากขึ้น โดยจะเป็นแนวทางแบบบูรณาการสำหรับการดำเนินงานโมเดล AI ในรูปแบบต่าง ๆ อัปเดตข้อมูลโมเดล และแอปพลิเคชันอัตโนมัติ เพื่อปรับปรุงการทำงานของ AI ให้ทำงานได้อย่างคล่องตัวขึ้น จนสามารถนำปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทรนด์ที่ 9 Distributed Enterprises
เพราะการทำงานต่อจากนี้จะไม่ได้จำกัดอยู่ในออฟฟิศอีกต่อไป องค์กรที่เคยทำงานในออฟฟิศก็จะปรับตัวไปสู่องค์กรแบบกระจาย จึงเป็นเทคโนโลยีที่เน้นดิจิทัลและการทำงานระยะไกลเป็นอันดับแรก สำหรับเสริมประสบการณ์ของพนักงาน และยังใช้สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคและและคู่ค้าที่อยู่ไกลกันให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลได้ด้วยเช่นกัน ช่วยสร้างประสบการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการของพนักงานและผู้บริโภคที่อยู่ไกลกัน
เทรนด์ที่ 10 Total Experience
ผสมผสานประสบการณ์จากคนหลาย ๆ กลุ่มเข้าด้วยกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ นี่จึงเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่รวมเอาประสบการณ์ของพนักงาน ประสบการณ์ลูกค้า ประสบการณ์ผู้ใช้ และประสบการณ์ที่หลากหลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นใจ ความพึงพอใจ ความภักดี และการสนับสนุนมากขึ้นจากลูกค้าและพนักงานที่พึงพอใจกับประสบการณ์ที่ได้รับการยกระดับ ผ่านการจัดการประสบการณ์ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องแบบองค์รวม
เทรนด์ที่ 11 Autonomic Systems
ระบบการทำงานที่ปรับตัวให้เข้ากับความไม่แน่นอน จะมีความพยายามในการคิดค้นและปรับใช้ระบบที่เรียนรู้จากสภาพแวดล้อม สามารถปรับเปลี่ยนอัลกอริธึมของตนเองได้แบบไดนามิกได้แบบเรียลไทม์ เพื่อปรับตัวให้เหมาะสมกับระบบนิเวศที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เป็นระบบอัตโนมัติที่มีความสามารถทางเทคโนโลยีที่คล่องตัว จึงรองรับความต้องการและสถานการณ์ใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และป้องกันการโจมตีโดยปราศจากการแทรกแซงจากมนุษย์
เทรนด์ที่ 12 Generative AI
อย่างที่เราทราบว่า AI เป็นรูปแบบเทคโนโลยีที่ทำงานโดยการเรียนรู้ ประมวลผล แล้วจดจำเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในอนาคต จึงมักนำมาใช้ในงานที่มีการทำงานแบบซ้ำ ๆ แต่ต่อจากนี้ AI จะพัฒนาเป็นการเรียนรู้จากข้อมูล แล้วสร้างนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาที่ที่คล้ายคลึงกับต้นแบบแต่ไม่ทำซ้ำ มีศักยภาพในการสร้างเนื้อหาสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ จึงอาจนำมาช่วยในการวิจัยและพัฒนาในวงการต่าง ๆ เพื่อร่นระยะเวลาให้เร็วขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ไม่ใช่แค่สีเดียว! ทีโอเอเผย 5 กลุ่ม “เทรนด์สีแห่งการคิดอย่างรอบคอบเพื่อที่อยู่อาศัย” สำหรับปี 2022
ช่วงปลายปีนอกจากเป็นเวลาที่หลายคนมองย้อนไปยังเหตุการณ์ที่ผ่านมา ยังเป็นช่วงเวลาของการทำนายหรือคาดหวังไปยังอนาคตข้างหน้าอีกด้วย ด้านการออกแบบ แพนโทนก็เป็นหนึ่งในบริษัทสีชื่อดังที่ทำการเลือกเทรนด์สีมาเสมอ แพนโทนได้เลือกเทรนด์สีสำหรับปี 2022 เป็นสี “Very Peri” หรือสีม่วง จากการผสมกันของสีฟ้าที่สื่อถึงความสงบเยือกเย็น และสีแดงที่สื่อถึงพลังการขับเคลื่อน ทำให้เกิดสีม่วงแห่งความกล้าหาญ การเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงความสร้างสรรค์ อันเป็นผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
ในอีกแง่หนึ่ง เทรนด์สีแห่งปี 2022 ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นสีใดเพียงสีหนึ่งเท่านั้น แต่อาจเป็นชุดสี หรือวิธีการใช้หลากหลายสีรวมเข้าด้วยกัน ดังเช่นที่บริษัทสีชั้นนำอย่างทีโอเอได้ออกมาทำนายเทรนด์สีแห่งปี 2022 ไว้
เทรนด์สีแห่งการคิดอย่างรอบคอบเพื่อที่อยู่อาศัย”
จากบริบทปัจจุบันที่ทุกคนอยู่ภายใต้การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งนำมาสู่การใช้ชีวิตแบบ New Normal บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จึงเลือกเทรนด์สีสำหรับปี 2022 โดยคำนึงถึงโจทย์การใช้งานสำหรับคุณภาพการอยู่อาศัยมากกว่าเพียงความสวยงาม สะท้อนวิถีชีวิตในช่วงเวลานี้
- BIO-CENTRIC คือกลุ่มสีขาวสะอาดตา และขาวโทนเย็น (W9119, W9109) สื่อถึงความสะอาด สุขอนามัย และความปลอดภัยต่อสุขภาพ จากแนวคิด Hygienic Design ที่เน้นความปลอดโปร่ง สะอาดตา ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัยจากโรค ยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ เพื่อความสอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ New Normal โดยไม่ละเลยด้านความยั่งยืนของโลก ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
- UNIVERSE WE คือสีม่วงสว่าง (V3096) ด้วยคุณสมบัติความเป็นสากล ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะชาย หญิง หรือเพศใด ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ทุกคนล้วนสามารถใช้สีนี้ได้ สีม่วงสว่างจึงสื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียว ไม่แบ่งแยก หลอมรวมมนุษย์ สัตว์ และธรรมชาติ ทำให้ “เธอ” กับ “ฉัน” กลายเป็นเพียง “เรา” ไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรมความเชื่อ ความฝัน หรือแรงบันดาลใจใด ก็เชื่อมโยงกันในบ้านไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังใหญ่ของสิ่งมีชีวิตอย่างโลกของเรา หรือบ้านซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวอันประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลายวัยอยู่ร่วมกัน
- AUTHENTIC IMPRESS กลุ่มสีเบจ แดงหม่น ส้มอิฐ (N6161, R2170, O1105) สร้างการระลึกถึงอดีต รากเหง้า วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม เชื่อมโยงความทรงจำเข้ากับวิถีชีวิตใหม่ตัวตนใหม่ ๆ นำไปสู่แรงบันดาลใจใหม่ ๆ ของการใช้ชีวิต
- SHELTERAL (Shelter+Natural) กลุ่มสีฟ้าตุ่น เทากลาง เขียวอ่อน (B4224, N6262, N6316) มอบความเป็นธรรมชาติให้ที่อยู่อาศัย สร้างความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย สบายใจ ให้ที่อยู่อาศัยเป็นสถานที่หลบภัยจากความวุ่นวาย อันตราย ความตึงเครียด และความไม่แน่นอนของโลกภายนอก
- UNREFINED WORLD กลุ่มสีเทาเข้ม น้ำเงินเข้ม และสีดำ (K7050, N6272, K7055) ชวนนึกถึงสัจจะของวัสดุ ความเป็นเนื้อแท้ตามธรรมชาติ ความไม่สมมาตร ความดิบ ความไม่เสมอกัน ไปจนถึงความงามของโลกที่ไม่สมบูรณ์แบบ
นอกจากทีโอเอแล้ว ในประเทศไทยเองก็มีหน่วยงานอย่างสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ทำการวิเคราะห์สีที่คาดว่าจะได้รับความนิยมในปี 2022 เช่นกัน ทั้งหมด 7 สี เช่นสีครีม Anise Flower ที่สื่อถึงการปลอบประโลมบรรเทาจิตใจผู้คนในช่วงโควิด-19 สีม่วง Purple Rose ที่ช่วยลดความตึงเครียดพร้อมกับสื่อถึงพลังของเทคโนโลยีดิจิทัล และสีเหลืองส้ม Radiant Yellow ที่ช่วยภาวะหมดไฟจากช่วงโควิด-19 เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อแนวคิดในการออกแบบสร้างสรรค์ในยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะในเทรนด์สีจากทีโอเอ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือแพนโทน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมุมมองต่อเหตุการณ์นี้ที่แตกต่างกันออกไป
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 14/12/2564
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,200.00 | 28,300.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,827.00 | 27,697.32 | 28,800.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,644.30 | 24,927.59 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,461.60 | 22,157.86 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 822.00 | 12,461.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 639.00 | 9,687.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,893.00 | 28,697.88 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 14/12/2564
วันที่ – เวลา | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
14-12-2564 05:00 | 33.86 | 28.24 | 28.24 | 28.24 | 37.96 | 30.55 | 30.28 | 29.04 | 23.39 |
13-12-2564 05:00 | 33.46 | 27.84 | 27.84 | 27.84 | 37.36 | 29.95 | 29.68 | 28.44 | 22.99 |
12-12-2564 05:00 | 33.86 | 28.24 | 28.24 | 28.24 | 37.86 | 30.45 | 30.18 | 28.94 | 23.29 |