สาระน่ารู้ประจำวันที่ 17 มกราคม 2565

จับตา วัสดุแพง – แรงงานขาด ดันราคาบ้านพุ่ง 3-5%

จับตา วัสดุแพง - แรงงานขาด ดันราคาบ้านพุ่ง 3-5%

เปิดมุมมอง อาภา อรรถบูรณ์วงค์ ประเมิน “โอมิครอน” ไม่รุนแรง ดันเศรษฐกิจโตตามเป้า พลิกเกมคอนโดฯปี 65 ฟื้นตัว 10-15% จับตาต้นทุนพัฒนาโครงการใหม่แพงขึ้น เหตุ ราคาน้ำมันป่วน เหล็กพุ่ง และแรงงานยังขาด คาดส่งผลราคาบ้านปีนี้ปรับอย่างต่ำ 3-5% ขณะริชี่บุกหนัก 6 พันล้าน

นาง อาภา  อรรถบูรณ์วงศ์  ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) (RICHY) ฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ปี 2565 ว่า แม้ขณะนี้ โลกและประเทศไทย กำลังเผชิญกับความสับสนใหม่ จากการกลายพันธุ์ของโควิด19 “โอมิครอน” และ “เดลตาครอน” และไม่มีใครตอบได้ว่า วิกฤตินี้จะอยู่ยาวนานแค่ไหน มีผลต่อการวางแผนธุรกิจทั้งในระยะสั้นและยาว 

แต่อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากชุดข้อมูล การระบาดในกลุ่มประเทศแอฟริกา ที่เป็นต้นกำเนิดของ “โอมิครอน” หรือ แม้แต่ในสหราชอาณาจักร พบการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นมากก็จริง แต่อัตราการเสียชีวิตต่ำ โดยมีวงรอบการระบาดสั้นเพียง 1 เดือนครึ่ง จึงประเมินได้ว่า ความรุนแรงของโรคไม่ได้น่ากลัวมากนัก 

เชื่อมั่น ศก.ไทยโต 3-5% 

ขณะเดียวกัน ส่วนตัวเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของไทย จากการมีวัคซีนที่ดี , ยารักษาโรค , บุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์ – ความชำนาญ และสถานที่ดูแลผู้ป่วยจำนวนมาก นับเป็นพื้นฐานรองรับความสุ่มเสี่ยงร้ายแรงได้ บวกกับข้อดี คนไทยต่างให้ความร่วมมือสูง ทุกคนช่วยกันป้องกันตัวเอง และรับผิดชอบต่อสังคมได้ดีระดับหนึ่ง

ดังนั้น จึงคิดว่าการระบาดของ “โอมิครอน” จะไม่รุนแรง จนนำมาสู่การปิดประเทศเหมือนในอดีต ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเดินต่อได้ จากแนวโน้มการส่งออก และการลงทุนในอีอีซี ผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจตามเป้า จีดีพี 3-5%  และดันความต้องการด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยสี่ ให้ฟื้นตัวตามไปด้วย 

” จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยที่ยังทรงตัวต่ำกว่า 1หมื่นรายต่อวัน เป็นข่าวที่ค่อนข้างบวก ตามสมมุติฐาน อยู่ในควบคุมได้ และหากประชาชนให้ความร่วมมือดี เศรษฐกิจคงต่อโตได้ 3-4% ในทางกลับกัน ถ้าสถานการณ์เลวร้าย ผู้ติดเชื้อขึ้นหลัก 2 หมื่นราย เศรษฐกิจปีนี้คงต่ำกว่า 3% ความต้องการที่อยู่อาศัยคงน้อยลงไปด้วย  เพราะคนจะซื้อรถ ซื้อบ้านได้ ต้องเหลือกิน- เหลือใช้ก่อน ” 

จับตา วัสดุแพง - แรงงานขาด ดันราคาบ้านพุ่ง 3-5%


 

แนะอสังหาฯคุมสภาพคล่องต่อ

อย่างไรก็ตาม นายกสมาคมอาคารชุด ระบุว่า แม้สถานการณ์ระดับมหภาคขณะนี้เป็นเชิงบวก แต่ในแง่ธุรกิจอสังหาฯ ยังต้องระมัดระวังการลงทุน หัวใจสำคัญ คือ การรักษาสภาพคล่อง กระแสเงินสดให้ดี เพราะการพัฒนาโครงการ เป็นธุรกิจที่ใช้เงินหนักและเงินจม ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เหมือนธุรกิจบริการ ที่รอใบสั่งซื้อ และทำตามออเดอร์ แต่อสังหาฯ มีระยะเวลาและกระบวนการยาวนาน บ้านแนวราบ ลงทุนไปก่อนอย่างต่ำ 1 ปีครึ่ง ขณะโครงการคอนโดฯ นานถึง 3 ปี เป็นปัญหาที่ผู้พัฒนา ต้องหารายได้ให้ทันกับรายจ่ายภายในบริษัท 

แง่มุมมองต่อภาคอสังหาฯ ปี 2565 โดยเฉพาะตลาดคอนโดฯ นั้น นางอาภา สะท้อน หากเศรษฐกิจฟื้นตัวดี ภาพตลาดที่เคยตกต่ำลงไปนับ 30%ในช่วงปีที่ผ่านมา ปีนี้่ก็คงกลับมาได้อย่างแน่นอน สะท้อน ช่วงเดือน ธ.ค. สถานการณ์บ้านเมืองเริ่มกลับมาปกติ ขณะคนเมือง กลับมาอยู่ในจุดเดิม คือ รถติดหนาแน่น นั่นคือตัวแปรสำคัญ ที่เชื่อว่า ความต้องการคอนโดฯ จะยังเกิดขึ้นไม่เปลี่ยน เพราะคอนโดฯ อยู่ในฐานะ “บ้านจำเป็น” ของคนที่ต้องการเลี่ยงรถติด ปีนี้คาดอย่างต่ำตลาดจะกลับมาโตจากปีที่แล้ว 10-15% 

หวั่นต้นทุนแพงดันราคาที่อยู่พุ่ง 3-5% 

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ มีปัจจัยลบให้ต้องติดตาม เรื่องต้นทุนก่อสร้างโครงการ เพราะทั้ง วัสดุก่อสร้างและแรงงานยังเป็นปัญหา โดยเฉพาะราคาเหล็ก วัสดุขั้นปฐมภูมิ ราคาขึ้นจาก 13 เป็น 26 บาท ส่งผลให้วัสดุอุปกรณ์อื่นๆที่ต้องใช้เหล็ก มีราคาแพงขึ้นไปด้วย บวกราคาน้ำมัน มีผลต่อต้นทุนการขนส่งสินค้าทุกประเภท ขณะเดียวกัน ภาคอสังหาฯ ยังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา หลังจากต่างด้าว 90% หนีกลับประเทศ และฝ่ายความมั่นคงยังกีดกันการกลับเข้ามา คนงานไม่เพียงพอ พบขณะนี้แทบทุกโครงการมีการก่อสร้างล่าช้า 10-20% ซึ่งจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ปีนี้ราคาบ้าน-คอนโดใหม่ๆ ขยับอย่างต่ำ 3-5%

” โครงการใหม่แพงขึ้นแน่นอน เพราะเหล็กขึ้น 40-50% เมื่อต้นน้ำขึ้น กลางน้ำ และปลายน้ำก็บวกเพิ่มตาม เห็นภาพชัดขึ้นในปีนี้ หลังจากปีที่แล้ว ผู้พัฒนายอมกัดเนื้อตัวเอง ไม่อยากเพิ่มราคาให้ขายยาก แต่ปีนี้ สินค้าเก่าเริ่มหมด จากการทำสงครามราคานาน 2 ปี ฉะนั้นของใหม่ 3-5% มีขึ้นแน่นอน เพราะแค่ค่าแรงงานก็บวกเพิ่ม 10-20%แล้ว จากดีมานด์เยอะกว่าคนทำ ” 

ส่วนการแก้ปัญหา ผ่านการไล่ซื้อเก็บต้นทุนเก่า เช่น ซื้อเหล็ก ซื้อพลาสติกเก็บไว้ คงไม่ใช่แนวทางที่ดีนัก แนะให้ผู้ประกอบการยอมรับ และหันไปลดทอนส่วนอื่นแทน พยายามผลักต้นทุนให้ลูกค้าน้อยที่สุด 

ริชี่ลงทุนใหม่ 6พันล. เจาะพระราม9

ทั้งนี้ ปี 2565 นับเป็นปีเสือทองสำหรับบริษัท ริชี่ หลังดำเนินธุรกิจมาครบ 20ปี โดยบริษัทยังวางเป้าการเติบโต จากจำนวนหน่วยพร้อมขายและโอนฯ 6-7พันล้านบาท และการรับรู้รายได้จากธุรกิจรีเทล (เดอะริช มอลล์) ซึ่งจะมีรายได้เข้ามาปีแรก31 ล้านบาท ขณะเดียวกันเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 4 โครงการ มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท

ได้แก่ โครงการทาวน์โฮม  ริชตัน @สวนหลวง – พัฒนาการ และ โครงการ  ริชตัน @ดอนเมือง -เพิ่มสิน อีก 2 โครงการ เป็นคอนโดฯ ที่จะเปิดตัวหลังช่วงกลางปีนี้ โดย 1 ในนั้น เจาะทำเลพระราม 9 (หลังเซ็นทรัล) ซึ่งเป็นที่ดินเก่า (ปั้มแก๊ส ปตท.) ซึ่งซื้อมาตั้งแต่ช่วง 3 ปีก่อนหน้า และชะลอการลงทุนไปจากสถานการณ์โควิด และพาร์ทเนอร์ทุนจีน ไม่สามารถเข้ามาเจรจาได้  โดยประเมินว่า สถานการณ์ช่วงครึ่งปีหลัง โควิดจะคลี่คลายและเปิดทางให้ต่างชาติกลับเข้ามาได้ ปีนี้เตรียมงบซื้อที่ดินอีก 1.4 พันล้านบาท 

“คาดหวังการเปิดประเทศ ต่างชาติกลับเข้ามา ทำเลพระราม9 มีศักยภาพสูง ฮอตมาก ที่ผ่านมาบิ๊กอสังหาฯ เข้ามาผุดโครงการมากมาย เพราะจุดนี้ถือเป็นฮับที่อยู่อาศัยฯ มีดีมานด์คนทำงาน และองค์ประกอบรองรับเกิน 100% คาดการเปิดตัวจะไม่เป็นรองใคร”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“ธนารักษ์” ผ่าทางตัน ที่ดิน“หมอชิต”2.7หมื่นล้านติดล่ม

“ธนารักษ์” ผ่าทางตัน ที่ดิน“หมอชิต”2.7หมื่นล้านติดล่ม

อธิบดีกรมธนารักษ์คนใหม่เครื่องร้อน เดินหน้าลุย มิกซ์ยูส 2.7หมื่นล้าน ที่ดินหมอชิตเก่า  63ไร่ เก็บค่าเช่า 6.1ล้านบาทต่อปีหารายได้  หลัง ล่าช้าเกือบ30ปี เอกชนยังเข้าพื้นที่ไม่ได้เหตุ ติดข้อกฎหมาย คาดจบภายในเดือนมกราคมพร้อมดันครม.ไฟเขียว   ขณะบิ๊กทุนขึ้นโครงการพรึบ

ล่าช้ามาเกือบ30ปี สำหรับโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณหมอชิตเก่า บนที่ดินที่ราชพัสดุกรมธนารักษ์ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต สายสีเขียว ที่บริษัทบางกอกเทอร์มินอล(BKT) ชนะประมูล แต่ไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ เนื่องจาก ยังติดขัดข้อกฎหมาย  ส่งผลทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ การย้ายสถานีขนส่งหมอชิต2 ถนนกำแพงเพชร กลับมาที่เดิมยังไร้ทางออก

นายประภาศ  คงเอียด  อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ถึง ความคืบหน้าโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณหมอชิตของบริษัทบางกอกเทอร์มินอล จำกัด (BKT) ผู้ได้รับสัมปทาน ว่าปัจจุบันยังติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายระหว่างพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน พ.ศ.2562 หรือPPP และพรบ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 

เนื่องจากมีการเปลี่ยนข้อกฎหมาย ที่ผ่านมาโครงการฯ  เคยอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2518 และกฎหมายPPP แต่ปัจจุบันกฎหมายPPP พ.ศ.2562 มีการออกบทบัญญัติเฉพาะกาลเพิ่มเติม ทำให้กรมฯต้องดำเนินการเรื่องข้อกฎหมายให้ได้ข้อยุติก่อน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2565 และเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป 

“หลังจากได้ข้อสรุปแล้ว ต้องสำรวจพื้นที่ภายในโครงการฯอีกครั้ง ควบคู่กับการดูข้อกฎหมายร่วมกัน หากมีการดำเนินการโครงการฯแล้วอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 จะเดินหน้าต่ออย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดและโครงการฯ ล่าช้ากว่าเดิม ส่วนของการทางยกระดับสำหรับเข้าออกโครงการ เพื่อเชื่อมกับถนนวิภาวดีรังสิต โดยต้องมีการเวรคืนที่ดินตามพระราชกฤษฎีกาบริเวณวิภาวดีซอย5 นั้น ปัจจุบันกรมฯขอศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนว่าเป็นอย่างไร”

สำหรับรูปแบบโครงการ BKT  อายุสัมปทาน 30 ปี มีพื้นที่ใช้สอบรวม 888,046  แสนตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่ชดเชย (มอบให้กับกรมขนส่งทางบก) 1.12 แสนตารางเมตร เพื่อใช้เป็นอาคารสถานีขนส่ง พื้นที่ใช้สอยในราชการ และพื้นที่เชิงพาณิชย์ของบริษัท BKT จำนวน 776,046 แสนตารางเมตร เพื่อสร้างเป็นอาคารสำนักงาน ,พื้นที่ศูนย์การค้า,  เชอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และที่จอดรถ 

ส่วนการจ่ายผลประโยชน์ในค่าเช่าที่ดินให้กับกรมธนารักษ์ของโครงการนี้นั้น ตามสัญญาสัมปทาน กำหนดให้ผู้รับสัมปทานจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้ประโยชน์ที่ดิน 550 ล้านบาท และค่าเช่าพื้นที่ในระหว่างการก่อสร้าง 6.1 ล้านบาทต่อปี และค่าเช่าหลังจากก่อสร้างโครงการเสร็จแล้ว จะต้องจ่ายตลอดอายุสัญญาสัมปทาน  5 ล้านบาทต่อปี

ด้าน แหล่งข่าวจาก BKTระบุว่า ที่ผ่านมาบริษัทรอลงนามในสัญญากับกรมธนารักษ์แต่ ยอมรับยังติดปัญหาในข้อกฎหมาย ทำให้ เกิดความล่าช้าขณะต้นทุนปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมองว่ากรมธนารักษ์น่าจะหาทางออกได้โดยเร็ว

“ฐานเศรษฐกิจ”สำรวจที่ดินบริเวณถนนพหลโยธิน (จตุจักร) มีโครงการขนาดใหญ่ภาคเอกชนเกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์ ตึกแฝดของ ของ  บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS สูง 36 ชั้น และ ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น  เนื้อที่11 ไร่ 

ภายในโครงการจะมีทั้งอาคารสำนักงาน พาณิชยกรรม สถานศึกษา ภัตตาคาร และที่จอดรถ อีกทั้งมี สกายวอล์ค(skywalk) เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอสหมอชิตซึ่งมีมูลค่างานกว่า 9 พันล้านบาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 50 เดือนคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี2567

นอกจากนี้ยังมี พื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์ โครงการเอส โอเอซิส อาคารสำนักงาน มูลค่า 3,695 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยเฉยพ่วง ถนนวิภาวดี รังสิต ทะลุ พหลโยธิน  พื้นที่ 6 ไร่เศษของบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) อีกทั้งสถานีกลางบางซื่อศูนย์กลางทางรางในแห่งใหม่ในประเทศไทยยังไม่รวมโครงการคอนโดมิเนียม มีรถไฟฟ้า2เส้นทาง บีทีเอสสายสีเขียวและMRTสีน้ำเงิน

“ธนารักษ์” ผ่าทางตัน ที่ดิน“หมอชิต”2.7หมื่นล้านติดล่ม

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาท ติดตามตัวเลขจีดีพีจีนในไตรมาสที่ 4

ค่าเงินบาท ติดตามตัวเลขจีดีพีจีนในไตรมาสที่ 4

เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.90-33.70 ในสัปดาห์นี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามคือตัวเลขจีดีพีจีนในไตรมาสที่ 4

อลัมน์ มันนี่วีก (Money…week) โดย…กฤติกา บุญสร้าง, มนัสวิน ฐิติสมบูรณ์ สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย

สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยประเมินว่า เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.90-33.70 ในสัปดาห์นี้ นอกจากท่าทีปรับนโยบายการเงินไปเป็นแบบตึงตัวของเฟดแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้อยู่ในฝั่งเอเชีย ในวันจันทร์จีนจะประกาศตัวเลขจีดีพีในไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโต 3.5%YoY ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 4.9%YoY โดยรวมจะทำให้เศรษฐกิจจีนทั้งปี 2021 เติบโตที่ 8.0%YoY และธนาคารกลางจีนจะมีการประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีระยะ 1 ปี และ 5 ปีด้วย ท่ามกลางเศรษฐกิจจีนที่เผชิญกับความท้าทายหลายประการ ในขณะที่ธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น

ญี่ปุ่นจะมีการประชุมธนาคารกลาง ซึ่งมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะประกาศคาดการณ์เศรษฐกิจทั้งตัวเลขจีดีพีและเงินเฟ้อในการประชุมครั้งนี้ด้วย ด้านไทยจะประกาศตัวเลขส่งออกและนำเข้าในเดือนธันวาคม ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 16.40%YoY และ 19.25%YoY ตามลำดับ

ภาพรวมตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงวันที่ 10-14 มกราคม 2022 ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นท่ามกลางเงินทุนไหลเข้าตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น ในขณะที่รัฐบาลไทยประกาศเตรียมเก็บค่าเข้าประเทศจากนักท่องเที่ยวต่างชาติคนละ 300 บาท เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ ด้านผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มกลับเข้าสู่ระดับก่อนเกิดโควิดในไตรมาสที่ 1 ของปี 2023 ท่ามกลางการฟื้นตัวที่ไม่เท่าเทียมกันในแต่ละภาคส่วน และความเสี่ยงจากโอไมครอน และการกลายพันธุ์ใหม่ของโควิด-19 สำปรับเงินเฟ้อไม่ได้เป็นปัจจัยที่ ธปท. กังวลมากนัก ด้วยยังคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อไทยจะอยู่ที่ 1.7% ในปีนี้ และยังคงอยู่ภายในกรอบเป้าหมาย 1-3% แม้ราคาเนื้อหมูและเนื้อสัตว์จะเพิ่มขึ้น โดยรวมยังคงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเผชิญความเสี่ยงด้านการเติบโตมากกว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ในการประชุมนักวิเคราะห์ ธปท. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีด้วยความหวังการกลับมาของนักท่องเที่ยว 5.6 ล้านคน จะทำให้เศรษฐกิจไทยไม่ต้องเผชิญกับการขาดดุลแฝดดังเช่นในปี 2021 และคาดการณ์ว่าจะทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเกินดุล 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ธปท. ยังได้เปลี่ยนการประชุม กนง. จาก 8 ครั้ง เป็น 6 ครั้ง ต่อปี เนื่องจากประเมินว่าการประชุมที่บ่อยเกินไปทำให้ตลาดอยู่ในภาวะรอคอยก่อนจะตัดสินใจดำเนินการทางการเงิน แต่จะยังคงเผยแพร่รายงานนโยบายการเงิน 4 ครั้งต่อปี

ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง หลังจากการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ แม้อัตราการว่างงานในเดือนธันวาคมลดลงต่อเนื่อง และความกังวลที่มีต่อแนวโน้มการลดขนาดงบดุลของเฟด ในขณะที่สมาชิกเฟดสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น และคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ย 3-4 ครั้งในปีนี้ โดยโพเวลกล่าวว่าจะจัดการกับเงินเฟ้อด้วยการขึ้นดอกเบี้ยและใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวด ก่อนจะเริ่มลดขนาดงบดุลในช่วงหลังของปีนี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีและตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวดีเหนือคาดหมาย รวมทั้งจะมีการพูดคุยเรื่องการลดคิวอีในการประชุมปลายเดือนนี้ด้วย โดยปัจจุบันเฟดเผชิญกับเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง โดยเงินเฟ้อในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 7.0%YoY สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1982 แม้จะส่งสัญญาณชะลอลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคมขยายตัวชะลอลงเช่นกัน ส่งสัญญาณภาวะคอขวดอุปทานที่เริ่มผ่อนคลายลงบางส่วน

เงินเฟ้อยูโรโซนในเดือนธันวาคมพุ่งสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.0%YoY เนื่องจากผลของราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูง ในขณะที่อีซีบีได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยลาการ์ดระบุว่าอีซีบีจะยึดมั่นต่อการมีเสถียรภาพด้านราคา ท่ามกลางความกังวลต่อเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปัจจุบัน ด้านฟิลิป เลน สมาชิกอีซีบีและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ระบุว่าเงินเฟ้อยูโรโซนมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ในปี 2023 และ 2024 หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดผ่อนคลายลง

ด้านโควิด-19 ไซปรัสพบโควิดสายพันธุ์ใหม่“เดลต้าครอน” ซึ่งการกลายพันธุ์จากเดลต้าและโอไมครอน ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วทั้งโลกทะลุ 300 ล้านคนแล้ว ด้าน อย. สหรัฐฯ ร่นระยะเวลาฉีดเข็มกระตุ้นของโมเดอร์น่าเป็น 5 เดือน จากเดิมที่ 6 เดือน นอกจากนี้ ทางด้านจีน เอเวอร์แกรนด์บรรลุข้อตกลงกับนักลงทุนในการชะลอการจ่ายหนี้คงค้าง 4.5 พันล้านหยวน ทำให้ความกังวลต่อภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจผ่อนคลายลงบางส่วนในระยะนี้

เงินบาทปิดตลาดที่ 33.22 ในวันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2022 ณ เวลา 17.00 น.ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศสหรัฐฯ อายุ 10ปี เริ่มปรับตัวออกด้านข้างอยู่ในกรอบ 1.70% – 1.80% ภายหลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 25 bps ในสัปดาห์แรกของปี โดยประเด็นสำคัญตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาคือการออกมาให้ความเห็นของสมาชิกเฟดหลายๆท่าน ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมและคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ย 3-4 ครั้งในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประธานเฟด เซนต์หลุยส์ คุณเจมส์ บุลลาร์ด คาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ย 4ครั้งในปีนี้ เพื่อจัดการความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังคงกดดันอัตราผลตอนแทนพันธบัตรระยะสั้น ที่มักเคลื่อนไหวไปตามการคาดการณ์ของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จึงทำให้เห็นว่าความชันของเส้นอัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลง โดย spread ระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2ปีกับ 10ปี (UST 2-10Y Spread) อยู่แถวบริเวณ +80 bps หรือปรับตัวลดลงประมาณ 6 bps จากช่วงต้นสัปดาห์ และหากมาดูข้อมูลในตลาดฟิวเจอร์ ตลาดได้ price in โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยตลอดทั้งปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 3.5 ครั้ง และความน่าจะเป็นที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือนมีนาคมอยู่ที่ประมาณ 93%

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวโดยที่ความชันของเส้นอัตราผลตอบแทนปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่ดูเหมือนว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยน่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำไปตลอดปี 2022 จึงเห็นนักลงทุนเลือกถือพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นมากกว่าตัวยาว ทำให้เห็นแรงขายพันธบัตรรัฐบาลตัวยาวมากว่า 5 ปีขึ้นไป และโยกเงินมาเข้าพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นไม่เกิน 3 ปีเป็นหลัก ส่วนกระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยกระแสเงินทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่ผ่านมาไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยมูลค่าสุทธิประมาณ 26,547 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น 277 ล้านบาท ซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 27,142 ล้านบาทและมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 318 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ วันที่ 14 มกราคม 2565 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยรุ่นอายุ 1, 2, 3, 5, 7 และ 10ปี อยู่ที่ 0.51% 0.65% 0.86% 1.43% 1.83% และ 2.10% ตามลำดับ

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


อันตราย! “ผงคลอรีนผสมน้ำอาบ” เสี่ยงอันตรายต่อผิวหนัง-เยื่อบุ

อันตราย! “ผงคลอรีนผสมน้ำอาบ” เสี่ยงอันตรายต่อผิวหนัง-เยื่อบุ

การใช้ผงคลอรีนผสมน้ำอาบอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังและเยื่อบุ ดวงตา จมูก หรือระบบทางเดินหายใจได้ พร้อมทั้งแนะนำวิธีการดูแลผิวให้เหมาะสม

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากข่าวกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ว่า มีหญิงสาวนำผงคลอรีนผสมน้ำอาบ เพื่อเป็นสูตรเร่งผิวขาวได้รวดเร็วนั้น กรณีนี้ขอเรียนว่า ผงคลอรีนที่เป็นสารเคมีกลุ่ม Calcium hypochlorite หรือ Sodium hypochlorite มีรูปแบบเป็นผงสีขาว ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ และใช้เป็นสารฟอกสีขาวในน้ำยาซักผ้า ตัวสารเคมี hypochlorite มีฤทธิ์เป็นด่าง ทำให้เกิดการตายของเนื้อเยื่อที่สัมผัส อีกทั้งเมื่อรวมกับน้ำจะปล่อยแก๊สคลอรีน ซึ่งสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อ ผิวหนัง ดวงตา จมูก หรือระบบหายใจได้ โดยเฉพาะหากใช้ในความเข้มข้นสูงหรือใช้ผิดวิธี

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยทั่วไปความรุนแรงของการระคายเคืองจากสารเคมี จะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและระยะเวลาที่สัมผัส อาการระคายเคืองจากสารกลุ่มนี้ ได้แก่ แสบตา ตาแดง น้ำตาไหล แสบจมูกและลำคอ ไอ แต่หากรุนแรงมากขึ้น สารเคมีอาจทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณที่สัมผัสเกิดการไหม้ เป็นตุ่มน้ำ เป็นเนื้อตาย หรือส่งผลต่อระบบอื่นๆ ของร่างกาย เช่น ระบบหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท

ในทางการแพทย์มี การใช้ Sodium hypochlorite เจือจางผสมน้ำอาบ เพื่อลดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังซึ่งจะป้องกันการเห่อของโรคผื่นผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ แต่ผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอน วิธีการใช้ที่ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ ผิดความเข้มข้น หรือแช่น้ำอาบ นานเกินไป อาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวเพิ่มเติมว่า สังคมควรปรับค่านิยมให้เห็นว่า ผิวทุกสีก็สวยได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผิวขาวอย่างเดียว การดูแลผิวพรรณที่ถูกวิธีเริ่มต้นจากการทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี ดื่มน้ำที่เพียงพอ ทาครีมบำรุงตามความจำเป็นเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นที่เหมาะสม ลดปัจจัยต่างๆ ที่อาจจะทำลายผิว เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดดที่แรงและมลภาวะต่างๆ เป็นต้น หากมีความต้องการปรึกษาเรื่องผิวพรรณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ต้องอยู่กับปัจจุบัน! “ริโอ” ออกโรงชี้ “ซาลาห์” ก้าวข้ามระดับของ “เมสซี่” ไปแล้ว

ต้องอยู่กับปัจจุบัน! "ริโอ" ออกโรงชี้ "ซาลาห์" ก้าวข้ามระดับของ "เมสซี่" ไปแล้ว

ริโอ เฟอร์ดินานด์ ตำนานกองหลังปีศาจแดง ออกโรงยกย่อง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกจอมถล่มประตูของ ลิเวอร์พูล ว่าก้าวข้ามระดับของซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ได้แล้ว ณ ปัจจุบัน

“นับตั้งแต่ซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของโลกย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า ไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ชื่อของเขาก็แทบจะถูกลืมเลือนไปจากประเด็นสนทนาของคอลูกหนังทั้งโลก” ริโอ กล่าวผ่านรายการ Vibe with FIVE

“แน่นอนว่าคุณภาพฝีเท้าหรือทักษะลีลาการเล่นอันสุดแสนมหัศจรรย์ของ เมสซี่ มันก็ยังเจ๋งอยู่แบบนั้นนั่นแหละ แต่ด้วยจำนวนประตู & แอสซิสต์ รวมถึงความสำคัญที่มีต่อทีมมันไม่ได้โดดเด่นเหมือนเดิมอีกแล้ว ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดามากที่ผู้คนจะเลิกสนใจ”

“ขณะเดียวกัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลับระเบิดฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องจนกลายเป็นนักฟุตบอลที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งแต่ปลายซีซั่นก่อนแถมลากยาวต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2021 และเชื่อว่าคงไม่มีใครได้รับความสนใจมากไปกว่าเขาอีกพักใหญ่เลยล่ะ”

“เอาแค่สถิติตัวเลขมาคุยกันอย่างเดียวก็ชัดเจนแล้ว เพราะตลอดทั้งปี 2021 ไม่มีกองหน้าคนไหนยิงประตูได้มากเท่า ซาลาห์ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แถมยังมีส่วนร่วมกับการทำประตูอีกมากมายจนทิ้งห่างผู้เล่นที่ตามอยู่อันดับ 2 ไกลหลายเสาไฟฟ้าเลยทีเดียว”

“นอกจากนั้น ซาลาห์ ยังทำลายสถิติต่าง ๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วนทั้งในฐานะผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล และพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งมาตรฐานระดับนี้ก็มากพอจะทำให้เขากลายเป็นตำนานได้สบาย ๆ แล้วล่ะ”

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


รวมศัพท์เกี่ยวกับการทำอาหารสนุกๆ

บทเรียนสนุกๆ ที่เรารวบรวมคำศัพท์เกี่ยวกับการทำอาหารและรวมถึงวัตถุดิบมาให้เพี่อนๆ ด้วย เราลองไปดูกันเลยดีกว่า

เรามาเริ่มกันด้วยวิธีทำอาหารก่อน

  • Grill – ปิ้ง ย่าง
  • Boil – ต้ม
  • Fry – ทอด / ผัด
  • Deep fry – ทอดแบบจุ่มน้ำมัน
  • Bake – อบ
  • Frost – แช่แข็ง
  • Defrost -ละลาย
  • Make spicy salad – ยำ
  • Steam – นึ่ง
  • Warm – อุ่น
  • Dry – อบแห้ง ตากแห้ง

ระดับความสุก เชื่อว่าเพื่อนหลายคนน่าจะคุ้นชินเวลาสั่งสเต๊กแน่นอน

  • Rare – ดิบ
  • Half-cooked / medium – กึ่งสุกกึ่งดิบ
  • Cooked / Done – สุก
  • Juicy – ชุ่มช่ำ
  • Dry – แห้ง
  • Oily – มัน

คำศัพท์เกี่ยวกับรสชาติและกลิ่น

  • Sweet – รสหวาน
  • Sour – รสเปรี้ยว
  • Salty – รสเค็ม
  • Bitter – รสขม
  • Tangy – อาหารที่ให้รสเข้มข้น โดดเด่นจัดจ้าน
  • Rich – รสของอาหารที่เต็มไปด้วย เนย นม ครีม และไข่ เช่น ขนมปัง แยมโรล เป็นต้น
  • Peppery- อาหารที่ให้รสชาติเผ็ดๆออกพริกไทย
  • Nutty – อาหารที่ออกรสชาติ หรือมีส่วนประกอบที่ให้รสชาติคล้ายถั่ว
  • Hot – คืออหารที่ให้รสชาติที่เผ็ดร้อน หรือมีส่วนประกอบของพริก
  • Spicy – เผ็ด
  • Mild – รสอ่อน
  • Strong – รสเข้ม
  • Acidic – รสเปรี้ยวคล้ายๆ กรดอ่อนๆ
  • Tasteless – อาหารที่ไม่มีรสชาติ
  • Fruity – กลิ่นผลไม้ 
  • Sweet – กลิ่นของหวานต่างๆ เช่น ช๊อคโกแลต วานิลา
  • Toasted – กลิ่นอบขนม กลิ่นปิ้งย่างต่างๆ
  • Pungent – กลิ่นฉุนพริก

สุดท้ายเราลองมาดูหมวดของวัตถุดิบกัน เพราะวัตถุดิบบางอย่างหากเราแปลจากภาษาไทยไปภาษาอังกฤษนั้นอาจจะไม่ตรงตัว เช่นคำว่า เนื้อหมู ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Pork ไม่ใช้คำว่า Pig

  • Beef – เนื้อวัว
  • ox tongue – ลิ้นวัว
  • tripe – เครื่องในสัตว์
  • pork – เนื้อหมู
  • minced pock – หมูสับ
  • streaky pock – หมูสามชั้น
  • ham – เนื้อหมูรมควัน
  • pepperoni – ไส้กรอกแบบแห้ง ทำจากเนื้อหมูหรือเนื้อวัว
  • liver pate – ตับบด
  • sausages – ไส้กรอก
  • chicken breast – อกไก่
  • drumstick – น่องไก่
  • yolk – ไข่แดง
  • goose – เนื้อห่าน
  • seafood – อาหารทะเล
  • tuna – ปลาทูน่า
  • sea bass – ปลากระพงขาว
  • mackerel – ปลาทู
  • catfish – ปลาดุก
  • butterfish – ปลาจาระเม็ด
  • shrimp – กุ้งฝอย
  • crayfish – กุ้งนาง
  • lobster – กุ้งมังกร
  • black crab – ปูทะเล
  • oyster – หอยนางรม
  • scallop – หอยเชลล์
  • cuttlefish – หมึกกระดอง
  • octopus – หมึกยักษ์
  • caviar – ไข่ปลาคาเวียร์
  • pork ball – ลูกชิ้นหมู
  • crab sticks – ปูอัด
  • beef spare ribs – เนื้อส่วนซี่โครง
  • lamp – เนื้อลูกแกะ
  • mutton – เนื้อแกะ
  • pork leg – ขาหมู
  • goat meat – เนื้อแพะ
  • bacon – เบคอน
  • sliced ham – เนื้อหมูรมควันหั่นแผ่นบาง
  • salami – เนื้อหมูบด หมักเค็ม (อิตาเลียน)
  • cold cuts – ชีส หรือเนื้อที่ทำสุกแล้ว (ไส้กรอก แฮม)
  • chicken – เนื้อไก่
  • chicken wing – ปีกไก่
  • egg – ไข่
  • duck – เนื้อเป็ด
  • turkey – ไก่งวง
  • fish – ปลา
  • salmon – ปลาแซลมอล
  • red snapper – ปลากระพงแดง
  • sardines – ปลาซาร์ดีน
  • snakehead fish – ปลาช่อน
  • salted fish – ปลาเค็ม
  • prawn – กุ้งก้ามกราม
  • tiger prawn – กุ้งลายเสือ
  • mantis shrimp – กั้ง
  • mussel – หอยแมลงภู่
  • razor clam – หอยหลอด
  • cockle – หอยแครง
  • squid – หมึกกล้วย
  • roe – ไข่ปลา
  • meatball – ลูกชิ้นเนื้อ
  • fish ball – ลูกชิ้นปลา

เชื่อว่าเราจะช่วยให้คุณทานอาหารได้อย่างอร่อยและได้รสชาติอาหารตามต้องการด้วยการสั่งเมนูนั้นเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


ฟิชแอนด์ฟิวเรียส! นักวิทย์อิสราเอล สอน ‘ปลาทอง’ ขับเคลื่อนพาหนะ

ฟิชแอนด์ฟิวเรียส! นักวิทย์อิสราเอล สอน ‘ปลาทอง’ ขับเคลื่อนพาหนะ

ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ได้ทำให้สิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นความจริงขึ้นมา เมื่อนักวิทยาศาสตร์อิสราเอล ได้ฝึกฝนให้ปลาทองควบคุมทิศทางการเคลื่อนไหวของพาหนะ และปลดล็อคศักยภาพใหม่ของสัตว์น้ำชนิดนี้ขึ้นมา

ในระหว่างที่ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกต่างเร่งพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติกันอยู่นั้นในตอนนี้ทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวอิสราเอล ได้พัฒนาพาหนะแบบที่เรียกว่า FOV หรือ fish-operated vehicle หรือพาหนะที่ขับเคลื่อนและควบคุมทิศทางได้ด้วยปลานั่นเอง

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Ben-Gurion University ได้ทดสอบรถหุ่นยนต์ซึ่งมีลักษณะเป็นถังน้ำสำหรับปลาที่ด้านบนและตั้งอยู่บนฐานที่มีล้อ พร้อมติดตั้งระบบเรดาร์ LiDAR หรือเทคโนโลยีตรวจจับระยะไกลซึ่งใช้ระบบแสงเลเซอร์เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของ ”พาหนะถังปลา” ซึ่งสัมพันธ์กับตำแหน่งของปลาในตู้ ทั้งยังสามารถทำแผนที่สภาพโดยรอบและวัดระยะทาง พร้อมกับบรรจุปลาทองที่รับบทเป็นโชเฟอร์ควบคุมพาหนะทดลองดังกล่าวภายในตู้ปลาด้านบน เพื่อศึกษาว่าปลาทองนั้นจะสามารถช่วยนำทางบนบก ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยเหมือนในน้ำได้หรือไม่?

ทีมนักวิทยาศาสตร์อิสราเอลกลุ่มนี้พบว่า องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ กล้องรอบทิศทาง ระบบเรดาห์ซึ่งเชื่อมโยงและแปลงข้อมูลจากตำแหน่งของปลาในตู้ให้เป็นทิศทางการเคลื่อนไหวของพาหนะ รวมทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและตัวล้อรถที่เคลื่อนที่ได้รอบทิศทาง ได้ช่วยปลดล็อคทักษะใหม่ที่คาดไม่ถึงของปลาทองได้

ในการศึกษาทักษะการขับรถของปลาทองนี้ ทีมวิจัยใช้ปลาทอง 6 ตัว โดยแต่ละตัวจะได้รับการฝึกฝนทักษะในการควบคุมและขับเคลื่อนพาหนะตู้ปลานี้ทั้งหมด 10 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งที่ปลาทองสามารถควบคุมและนำทางพาหนะดังกล่าวไปถึงจุดหมายปลายทางซึ่งก็คือกำแพงอีกด้านหนึ่งของห้องที่ทีมวิจัยกำหนดไว้โดยมีป้ายสีเป็นสัญลักษณ์แสดงอยู่ เหล่าโชเฟอร์ปลาทองก็จะได้รับอาหารเป็นรางวัลตอบแทน

ชาชาร์ กิวอน (Shachar Givon) หนึ่งในทีมวิจัย เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากที่ปลาทองในการศึกษานี้ใช้เวลาเพียงไม่นานในการเรียนรู้เทคนิคการควบคุมและขับเคลื่อนพาหนะด้วยการว่ายไปมาและเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองในถังปลาด้านบน

ถึงแม้ในตอนแรกเหล่าโชเฟอร์ปลาทองในการทดลองดูจะสับสนอยู่บ้างและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ปลาทองเหล่านี้ก็ปรับตัวได้ไวและรู้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างการเคลื่อนไหวไปมาของพวกมันกับทิศทางของพาหนะทดลองเพื่อมุ่งหน้าไปยังที่หมายเพื่อให้ได้รางวัลตอบแทน

นอกจากนี้ ทีมวิจัยอิสราเอลยังพบว่า ปลาทองบางตัวสามารถขับเคลื่อนพาหนะได้ดีกว่าเพื่อนฝูงเสียด้วย

โรเกน เซเกฟ (Ronen Segev) อาจารย์ด้านชีววิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาเปิดเผยด้วยว่า ปลาทองในการศึกษานี้มีทักษะในการ “ขับรถ” ที่แตกต่างกันไป โดยบางตัวสามารถขับรถได้ยอดเยี่ยม บางตัวควบคุมรถได้ปานกลาง และบางตัวก็ไม่ค่อยชำนาญในการขับเคลื่อนพาหนะเสียเท่าไหร่นัก

การศึกษาที่เปิดโลกใหม่เรื่องทักษะการขับเคลื่อนพาหนะของปลาทองนี้สะท้อนว่า ปลามีความสามารถด้านการรับรู้สำหรับการนำทางนอกเหนือจากสภาพแวดล้อมในน้ำตามธรรมชาติของพวกมัน และเป็นการเปิดโลกด้านองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับทักษะการนำทางที่จำเป็นของสัตว์ต่างๆ ด้วย

เซเกฟ เพิ่มเติมว่า มนุษย์เราอาจคิดว่าตัวเองนั้นแสนพิเศษ และหลายคนอาจคิดว่าปลานั้นเป็นแค่สัตว์ทั่วๆไป แต่แท้จริงแล้วยังมีสัตว์อีกมากมายที่มีทักษะซึ่งมีความสำคัญและมีความชาญฉลาดอยู่อีกมาก

และดูเหมือนว่าการศึกษานี้จะไม่หยุดอยู่แค่ปลาทองเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ทีมวิจัยได้ทดสอบกับหนู สุนัข และปลาชนิดอื่นๆ มาแล้ว

โดยการศึกษาปลาทองขับรถครั้งนี้ ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Behavioral Brain Research ซึ่งทีมวิจัยเห็นว่ายังต้องมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อขยายผลด้านทักษะของสัตว์ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนขึ้น รวมทั้งการศึกษาในอนาคตที่อาจต้องมีการทดสอบว่าสัตว์บกจะสามารถนำทางในน้ำได้ด้วยหรือไม่

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


หรูหรากว้างขวางพร้อมคุณสมบัติครบครันใช้งานง่าย ประตูและหน้าต่าง คุณภาพสูงจาก NEXSTA ในงานสถาปนิก’65

“ไม่มีผู้ใดเจริญเติบโตโดยไม่แบ่งปันแก่ผู้อื่น” คือปรัชญาที่ บริษัท วายเคเค เอพี (ประเทศไทย) จำกัด ยึดถือเป็นคุณค่าหลัก สะท้อนออกมาผ่านแนวทางการพัฒนาที่มุ่งสร้างความเจริญร่วมกันของทั้งลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และยังมีส่วนร่วมกับสังคม YKK AP มีระบบวิจัย พัฒนา ผลิต และตรวจสอบคุณภาพระดับสูงสุด จึงทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จากบริษัทมีคุณภาพตามมาตรฐาน ควบคู่กับการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นส่วนหนึ่งของสังคมแห่งการรีไซเคิล

สร้างความสะดวกสบายให้พื้นที่อยู่อาศัยด้วย ประตูหน้าต่าง NEXSTA

เนรมิตบ้านของคุณให้ทันสมัย หรูหรา และกว้างขวางสะดวกสบาย ด้วยผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่าง NEXSTA จากบริษัท วายเคเค เอพี (ประเทศไทย) จำกัด ที่มาพร้อมคุณสมบัติพื้นฐานครบครัน รับประกันประสิทธิภาพ ฟังก์ชันการทำงานที่เข้าใจง่าย และมีความยืดหยุ่นสามารถใช้กับช่องแสงขนาดใหญ่ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกทั้งหมด 9 ประเภท คือ บานเลื่อน (Sliding), บานกระทุ้ง (Tophung), หน้าต่างบานเปิด (Casement), ประตูบานพับ (Butt Hinged Door), ประตูบานเฟี้ยม (Folding Door), ประตูระบายอากาศ (Ventilation Door), บานตาย (Fixed), บานเหลื่อมและบานเกล็ดอะลูมิเนียม (Bovenlicht and Louver) และระแนงอะลูมิเนียมตกแต่ง (Lattice)

ประสิทธิภาพขั้นพื้นฐาน

  • ต้านทานแรงลมได้ถึง 1600 ปาสกาล (Pascal) ค่าการแอ่นตัว L/125 และ L/175
  • ป้องกันน้ำรั่วซึม ใช้ระบบ Isobaric ในการถ่ายเทน้ำ มีค่ารั่วซึมได้ถึง 250-300 และ 500 ปาสกาล สำหรับบานปิดตาย
  • ป้องกันเสียงจากภายนอก Grade T-1 (-25 เดซิเบล) (JIS), RW 24-30(ISO) ด้วยยางรอบบานวงกบและรอยต่อต่าง ๆ อย่างมิดชิด และกระจกสองชั้น
  • ป้องกันฝุ่นละออง มีระบบกันอากาศแทรกซึม Grand A-4 (JIS) ช่วยลดการสูญเสียพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศ
  • ทดสอบการใช้งานเปิด-ปิดแล้ว 30,000 รอบ
  • ทนทานต่อถุงทรายน้ำหนัก 30 กิโลกรัม และรองรับแรงกระแทกที่ความสูง 170-300 มิลลิเมตร
  • เปิดง่ายแม้สำหรับเด็ก ใช้แรงเปิดน้อยกว่า 50 N (5kgf) สามารถติดตั้งมือจับแบบ Support Handle ช่วยถนอมแรงในการเปิดประตูหน้าต่างได้อีกกว่า 50%
  • ประหยัดพลังงานด้วยกระจกสองชั้น ลดความร้อนที่เข้ามาในอาคารแต่ให้แสงสว่างจากธรรมชาติเข้าได้เพียงพอ พร้อมฟังก์ชันการระบายอากาศ
  • สามารถติดตั้งตัวล็อกแบบเกี่ยว Crescent Lock เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการล็อกประตูหรือหน้าต่าง ปิดบานได้สนิทปลอดภัย
  • ดีไซน์สวยงาม เหมาะกับห้องทุกสไตล์

ทดสอบคุณสมบัติและชมความหรูหรากว้างขวางของ หน้าต่าง NEXSTA จาก YKK AP ได้ที่บูธหมายเลข B302 ในงานสถาปนิก’65 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 26 เม.ย. – 1 พ.ค. 65 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 17/01/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a28,550.0028,650.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,849.0028,030.8429,150.00
ทองรูปพรรณ 90%1,664.1025,227.76n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,479.2022,424.67n/a
ทองรูปพรรณ 50%832.0012,613.12n/a
ทองรูปพรรณ 40%647.009,808.52n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,916.0029,046.56n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 17/01/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9532.1532.1532.7532.1532.5532.1532.4532.2532.1532.65
แก๊สโซฮอล์ 9131.8831.8832.4831.8832.2831.8832.1831.9831.8832.38
แก๊สโซฮอล์ E2030.6430.6431.2430.6431.0430.9430.7430.6431.14
แก๊สโซฮอล์ E8524.3424.3424.64
เบนซิน 9539.5640.4140.3640.1640.06
ดีเซล B729.8429.8430.6429.9430.3429.8430.1429.8429.9429.84
ดีเซล29.8429.8430.6429.9430.3429.8430.1429.8429.9429.84
ดีเซล B2029.8429.8430.6430.3430.1429.8429.84
ดีเซลพรีเมี่ยม35.8635.8637.0936.4637.0935.86
แก๊ส NGV15.5915.5915.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า