เอ็น.ซี ลุยอสังหาฯปี 65 รุกบ้าน 3-5ล้าน แตกไลน์ ‘ศูนย์สุขภาพ’เพิ่ม
เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง ประกาศแผนธุรกิจ ปี2565 ตั้งเป้ายอดขายทะลุ 4,600 ล้านบาท รุกขยายฐานโครงการบ้านราคา 3-5 ล้านบาท พร้อมเปิดใหม่ 2 ศูนย์ wellness center แบรนด์ Nc Regen
1 ก.พ.2565 – นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ปี 2565 ซึ่งมีมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศยังคงอยู่ในสภาวะค่อยฟื้นตัว เนื่องจากมีความเสี่ยงจากไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ใหม่อย่างโอมิครอน ปัญหาห่วงโซ่อุปทานเกิดภาวะชะงักงัน หรือ Global Supply Disruption ที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ แต่คาดว่าจะทยอยคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี ดีมานด์ความต้องการบ้านแนวราบจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีความกดดันต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ทุกคนยังตระหนัก
รวมถึงการใช้แนวทางการอยู่ร่วมกับโควิดอย่างปลอดภัย หรือ Living with COVID ในฐานะผู้ประกอบการยังมีความอุ่นใจที่ภาครัฐขยายมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน และจดจำนอง เพื่อช่วยผู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้นช่วยกระตุ้นกำลังซื้อบ้านปี 2565 และมีความหวังว่าตลาดที่อยู่อาศัย จะกลับมาดีขึ้น มีการดูดซับในตลาดมากขึ้นเมื่อผู้ซื้อบ้านมีความมั่นใจ
NC เปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่า 4.5 พันล้าน
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2565 เอ็น.ซี พร้อมเสริมแกร่งทีมงาน โดยรุกขยายโครงการฐานใหญ่แนวราบ เพิ่มขึ้นในทำเลศักยภาพสูง ยังมุ่งเติบโตในธุรกิจอสังหาฯ แนวราบ ทาวน์เฮ้าส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ด้วยระดับราคา 3-5 ล้านบาท และสร้างฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้นในทำเล ด้วยสื่อการตลาดออนไลน์ที่เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อบ้าน ผ่านกลยุทธ์หลักดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง และกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปิดโครงการใหม่เพิ่ม อีก 5 โครงการ 3 ทำเลศักยภาพ มูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท โดยทำตลาดบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาท ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น พร้อมตั้งเป้ายอดขายโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาด้วยยอดขาย 4,600 ล้าน และรับรู้รายได้ปี 2565 ที่ 2,500 ล้านบาท
พร้อมมุ่งเน้นกลยุทธ์หลัก ด้านโปรดักส์ และนวัตกรรมด้านบริการ เพื่อมัดใจลูกค้าปี 2565 เดินตามคอนเซ็ปต์หลักของ แบรนด์ เอ็น.ซี รู้จักบ้าน รู้ใจคุณ ตอบรับความเชื่อมั่น ให้กับ ผู้ซื้อบ้านแบรนด์เอ็น.ซี จากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 และ โอมิครอน ทำให้เราได้เรียนรู้ กลับมาตื่นตัวเรื่องการดูแลสุขภาพกันอย่างจริงจัง ซึ่งเราตระหนักได้ว่าการมีพื้นที่ฟังก์ชั่นบ้านเพื่อตอบโจทย์รองรับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของสมาชิกครอบครัวที่เปลี่ยนไปการเลือกที่อยู่อาศัยจึงต้องคำนึงถึงฟังก์ชั่นเชื่อมต่อประโยชน์ของพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านได้อย่างครบครัน
อีกทั้งการมีสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแข็งแรงเป็นสิ่งจำเป็น จะเห็นได้ว่าหลายคนหันมาดูแลสุขภาพ เช่นการออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ และรักษาสุขอนามัยยุคของ New Normal การอยู่อาศัย และการมีสุขภาพที่ดี อีกทั้งด้านการมีบริการรองรับ Lifestyle เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของทุกครอบครัวยุค New Normal เอ็น.ซี ให้ความสำคัญกลยุทธ์หลัก 2 ด้าน ปี 2565
1. กลยุทธ์ด้าน Product Benefit พัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดผู้บริโภค ตอบรับการอยู่อาศัยยุค New Normal ด้วยรูปแบบดีไซน์ทันสมัย มาพร้อมกับฟังก์ชั่น ที่เติมเต็มความสุขให้กับทุกพื้นที่ภายในบ้าน เป็นการผสมผสาน ความสะดวกสบายทุกพื้นที่ในบ้านรองรับฟังก์ชั่น All From Home ทุกความสุข พร้อมสรรพที่บ้าน พร้อมส่งต่อพลังบวกในยุคครอบครัวรักบ้าน เพื่อสร้างสรรค์การอยู่อาศัยเติมความสุขทุกพื้นที่ให้มากกว่าคำว่า บ้าน รองรับครอบครัวให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขด้วยเทคโนโลยี และแนวคิดตอบโจทย์ความสุข ทุกช่วงวัยในครอบครัว a///gen
2. กลยุทธ์ด้านบริการ ยกระดับสร้างประสบการณ์ Customer Experience ที่เหนือกว่า ดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบด้วย Touch Point และ Service ตอบรับการอยู่อาศัยในสังคมชุมชนบ้านจัดสรรอย่างเหนือชั้น เสริมบริการหลังการขายด้วย ALL FROM HOME CENTER และ ศูนย์ Wellness & Sport Center ภายใต้แบรนด์ NC Regen ศูนย์รวมด้านกีฬา และศูนย์สุขภาพครบวงจร ถือเป็นนวัตกรรมบริการด้านสุขภาพให้กับสมาชิกลูกบ้าน ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นแค่การขายบ้านเท่านั้น แต่ยังพัฒนา ไปสู่การดูแลคุณภาพชีวิต
รุกเปิด NC Regen ศูนย์สุขภาพแบรนด์ใหม่
อีกทั้ง ถือเป็นการเพิ่มมิติการให้บริการที่เหนือกว่าในด้านสุขภาพ ซึ่งมีแรงบันดาลใจจากการ Transition ของ Family Lifestyle มีการเปลี่ยนถ่ายช่วงรุ่นสู่รุ่น มีความหลากหลายของช่วงวัย หลาย Generation ของครอบครัว มีปัจจัยสนับสนุนให้ทุกครอบครัว กลับมาห่วงใยคนที่เรารัก และให้ความสำคัญด้านสุขภาพ สอดคล้องกับนโยบายหลักที่ เอ็น.ซี ให้ความสำคัญกับ ลูกบ้านอย่างต่อเนื่องสู่ปีที่ 28 มีจำนวนครอบครัวมากกว่า 7,000 ครอบครัวโซนเหนือ ด้วยกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีใน NC Regen ศูนย์ Wellness ,ศูนย์กายภาพบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพ,สปา สำหรับผู้สูงอายุ, ศูนย์โภชนาการ Education Hub, All From Home Center,คลินิคดูแลความงาม สระว่ายน้ำขนาดใหญ่, ฟิตเนสขนาดใหญ่ รองรับกิจกรรมการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โซน Exercise Group สนามเทนนิส และสนามแบดมินตัน
โดยจะมีการเปิดบริการ 2 ศูนย์ใหญ่ ภายใต้ชื่อ NC Regen ในโครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ วงแหวนลำลูกกาคลอง 6 มีขนาดพื้นที่ 5,328 ตร.เมตร และ Thanya Golf Club ลำลูกกาคลอง5 ขนาดพื้นที่ 1,015 ตร.เมตร
นายสมนึกกล่าวเสริม มีความมั่นใจในการทำยอดขาย ปี 2565 ให้ได้ถึง 4,600 ล้านบาท พร้อมเสริมทัพรองรับด้านการบริการ ผ่านแบรนด์ NC Regen ดีเดย์ต้นปี 2565 ถือโอกาสมอบสิ่งดีดี ให้กับสมาชิกโครงการพร้อม เปิดโอกาสให้การบริการดังกล่าว ได้เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพให้กับ ทุกครอบครัวแบรนด์เอ็น.ซี และผู้ซื้อบ้าน ชุมชนในโซนเหนือ เพื่อมอบสิทธิพิเศษทางเลือกที่ดีที่สุดให้ครอบครัวที่รักสุขภาพ ตั้งแต่ต้นปี นายสมนึก กล่าวปิดท้าย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
การเคหะลุย 7 โครงการ สร้างบ้านเช่า-บ้านผู้สูงวัย สำหรับผู้มีรายได้น้อย
การเคหะแห่งชาติ ลุย 7 โครงการ สร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้กับข้าราชการเกษียณ สร้างบ้านเช่า-บ้านผู้สูงวัย สำหรับผู้มีรายได้น้อย
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2516 ปัจจุบันดำเนินงานมาครบรอบ 49 ปี ได้รับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือ ITA ประจำปี 2564 คะแนน ITA 97.93 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน เพิ่มสูงขึ้น 11.97 คะแนน จากปี 2563 ซึ่งได้ 85.96 คะแนน ถือเป็นอันดับ 1 ของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และอันดับ 8 ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งหมด และยังได้ระดับผลการประเมิน AA ในระดับประเทศ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2519 จนถึงเดือนธันวาคม 2564 การเคหะแห่งชาติได้พัฒนาที่อยู่อาศัย รวมทั้งสิ้น 746,439 หน่วย โดยมีโครงการไฮไลท์ในปี 2564 ดำเนินการต่อเนื่องในปี 2565 ได้แก่
1. “โครงการบ้านเคหะสุขประชา” มีมติคณะรัฐมนตรีรับทราบ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เป้าหมายจัดสร้าง 100,000 หน่วย ภายใน 5 ปี (2564 – 2568) กำหนดส่งมอบปีละ 20,000 หน่วย ด้วยแนวคิดการจัดสร้างที่อยู่อาศัยประเภทเช่าให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มเปราะบาง ข้าราชการชั้นผู้น้อย ข้าราชการเกษียณ รวมถึงผู้บุกรุกในพื้นที่สาธารณะ อัตราค่าเช่าประมาณ 1,500 – 3,000 บาทต่อเดือน
พร้อมทั้งส่งเสริม “เศรษฐกิจสุขประชา” 6 กลุ่มอาชีพ โดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้อยู่อาศัยตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 โครงการ จำนวน 572 หน่วย ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า จำนวน 270 หน่วย
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการจัดตั้ง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 โดยการเคหะฯถือหุ้น 49% เอกชนธุรกิจอื่นอีก 7 กลุ่มถือหุ้น 51%
อาทิ ธุรกิจค้าปลีก เกษตร เฮลท์แคร์ ประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง และอุตสาหกรรม แต่ละรายถือหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 15% ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการจัดตั้งบริษัทตามขั้นตอนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565
2.“โครงการบ้านเคหะสุขเกษม” เป็นโครงการที่อยู่อาศัยประเภทเช่าในระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุ และข้าราชการเกษียณ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ พนักงานบริษัท และประชาชนทั่วไป ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี หรืออายุ 60 ปี ขึ้นไป มีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการต้นแบบ “บ้านเคหะสุขเกษม” เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564
ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินโครงการนำร่องบริเวณซอยที่ดินไทย ถ.เทพารักษ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยออกแบบภายใต้หลักสถาปัตยกรรมเพื่อทุกคน (Universal Design) เป็นอาคารชุดสูง 5 ชั้น (มีลิฟต์ทุกอาคาร) ห้องพักอาศัยพื้นที่ใช้สอย 33 และ 56 ตารางเมตร ภายในโครงการยังแบ่งพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้อยู่อาศัย โดยมีอัตราค่าเช่าตั้งแต่ 3,200 – 5,000 บาทต่อเดือน
ผู้ที่สนใจสามารถจองผ่านเว็บไซต์ได้ที่ https://rent.nha.co.th/sukkasem ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
3.“โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง” ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 อาคารแปลง A และ แปลง D (อาคาร A1 และอาคาร D1) แต่สถานการณ์โควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ ได้ตามแผนที่กำหนดไว้
การเคหะฯ ได้เร่งดำเนินการด้วยการนำเทคโนโลยีในการก่อสร้างมาทดแทนแรงงาน คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จทั้งสองโครงการฯ ภายในปี 2566
นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ตามแผนพัฒนาชุมชนดินแดง พ.ศ. 2563-2567 เช่น การจัดทำแปลงผักชั้นดาดฟ้าอาคารแปลง G และธนาคารสัจจะรีไซเคิลเคหะชุมชนดินแดง ซึ่งผู้อยู่อาศัยในชุมชนร่วมแรงร่วมใจในการทำกิจกรรมดังกล่าว ทำให้ชุมชนเกิดการพัฒนาและสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวอีกด้วย
4.โครงการรับคืนอาคารเช่าจากบริษัทเอกชน ด้วยการรับคืนอาคารเช่าจากบริษัทเอกชนและนำกลับมาบริหารเอง เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้อยู่อาศัย พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น มีเป้าหมายรับคืนอาคารเช่าจากบริษัทเอกชน จำนวน 60 สัญญา รวมทั้งสิ้น 32,632 หน่วย ปัจจุบันได้รับคืนอาคารจากบริษัทเอกชนแล้ว 51 สัญญา และได้ผลตอบรับจากผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างดี
6.“โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย” เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้ประชาชนที่ซื้อบ้านของการเคหะแห่งชาติ แต่ไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน สามารถขอสินเชื่อผ่านโครงการดังกล่าว โดยมีคณะกรรมการบริหารสินเชื่อที่อยู่อาศัย (คบส.) เป็นผู้พิจารณาให้สินเชื่อกับลูกค้า สำหรับปีงบประมาณ 2564 (เดือนตุลาคม 2563 – กันยายน 2564) ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว จำนวน 635 ราย วงเงิน 416.27 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2565 ในเดือนตุลาคม-เดือนธันวาคม 2564 ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว จำนวน 328 ราย คิดเป็นวงเงิน 205.79 ล้านบาท และในเดือนมกราคม 2565 อยู่ระหว่างการนำเสนอพิจารณาอนุมัติจำนวน 150 ราย คิดเป็นวงเงิน 95.95 ล้านบาท
อีกหนึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปี 2564 คือ
7.”โครงการชุมชนอัจฉริยะและน่าอยู่ อย่างยั่งยืนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (Smart and Sustainable Community for Better Well-being: SSC)” เป็นการบูรณาการความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการพัฒนาและส่งเสริมโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย ระยะที่ 2 หรือ “บ้านประหยัดพลังงาน เบอร์ 5” และได้ขยายเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อดำเนินกิจกรรมร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS) ในการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาร่วมสนับสนุนการดำเนินโครงการ “SSC” ในมิติที่แตกต่างกัน
มีโครงการนำร่องที่โครงการบ้านเอื้ออาทรบางโฉลง (นิติ 1) ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัล และการพัฒนาและการรังสรรค์นวัตกรรมในรูปแบบใหม่ (Sandbox) มาใช้เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน และจะขยายผลการดำเนินงานในปี 2565 จำนวน 4 โครงการ
นอกจากนี้ ในปี 2564 ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 อย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้ง “ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 การเคหะแห่งชาติ” ขึ้น เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทั้งภายในและภายนอกองค์กร นับตั้งแต่ที่มีการระบาดระลอกแรกจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการขอความช่วยเหลือจากผู้อยู่อาศัยในชุมชนและผู้ปฏิบัติงาน
ซึ่งการเคหะแห่งชาติดำเนินการแล้ว ได้แก่ การออกมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ การเปิดให้บริการศูนย์พักพิง – พักคอยรองรับผู้กักตัวและผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 การมอบถุงกำลังใจ สู้โควิด – 19 ในพื้นที่ 4 เขตของกรุงเทพมหานคร การจัดรถ Mobile พาณิชย์เพื่อจำหน่ายสินค้าราคาย่อมเยา การตรวจเชิงรุกโควิด – 19 คัดแยกผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชน การฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในชุมชน การมอบถุงยังชีพและแจกอาหารปรุงสุก และการมอบชุดเวชภัณฑ์ให้กับผู้อยู่อาศัยในเขตพื้นที่สีแดงเข้ม
ตลอดระยะเวลา 49 ปีที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในทุกมิติมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2565 นี้ การเคหะแห่งชาติจะเร่งพัฒนาที่อยู่อาศัยทุกโครงการฯ ที่กำลังดำเนินการ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยได้และกลุ่มเป้าหมายได้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง แข็งแรง ในระดับราคาที่รับภาระได้ พร้อมมีอาชีพที่ส่งเสริมเศรษฐกิจครอบครัวและชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
บาทเปิด 33.18 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย
เงินบาทเปิดตลาด 33.18 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังนักลงทุนเริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยง
เมื่อวันที่ 2 กพ. 65 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.18 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.21 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเย็นวาน โดยวันนี้หลายตลาดในภูมิภาคยังคงหยุดทำการในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีเพียงตลาดสิงคโปร์ที่เริ่มกลับมาเปิดทำการแล้ว ภาวะตลาดโดยรวม ยังให้ความสนใจเรื่องแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่ของเฟดออกมาระบุว่า คงไม่ถึงขั้นที่เฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.50% ในการประชุมช่วงเดือน มี.ค.นี้
“ภาพรวมๆ ตลาดก็ยังมองเรื่องนโยบายดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งล่าสุด เมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่เฟดก็ออกมาระบุว่า คงไม่ถึงขั้นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค. จึงทำให้ช่วยหนุนสินทรัพย์เสี่ยงพอสมควร” นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.10 – 33.25 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
พวกเราจริงจัง! “การต่อสู้ด้วยหมอน” ยกระดับเป็นกีฬาอาชีพที่สหรัฐอเมริกา
คุณผู้อ่านอาจจะเคยได้ยินกีฬาที่ชื่อว่า PILLOW FIGHTING หรือ การต่อสู้ด้วยหมอน ซึ่งนักสู้แต่ละคนจะมีหมอนเป็นของตัวเอง ก่อนที่จะใช้หมอนนั้นฟาดเข้าที่คู่แข่งฝ่ายตรงข้าม ปัจจุบันกีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด มีการก่อตั้งสมาพันธ์การต่อสู้ด้วยหมอนเพื่อชิงชนะเลิศ และปัจจุบันการต่อสู้ด้วยหมอนกลายเป็นการแข่งขันอาชีพเรียบร้อยแล้ว โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทัวร์นาเมนต์ที่ชื่อว่า Pillow Fight Championship (PFC) ด้วยแแนวคิดสำคัญคือการพัฒนากีฬาต่อสู้เพื่อดึงดูดผู้ชมในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทำตามกฎที่วางไว้อย่างเข้มงวด
การแข่งขันต่อสู้ด้วยหมอนจะเเข่งกันทั้งสิ้น 3 ยก ยกละ 2 นาที ผู้ที่ทำคะแนนเหนือคู่แข่งมากกว่าจะเป็นผู้ชนะ ซึ่ง PFC ยืนยันว่า การแข่งขันกีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงมีการใช้กลยุทธ์ในการเอาชนะคู่แข่ง แต่ไม่จำเป็นต้องเจ็บตัวแถมได้รับความสนุกสนานอีกด้วย
โดย PFC ได้เริ่มจัดการแข่งขันแล้วที่ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เพื่อชิงรางวัลและเข็มขัดแชมป์ รวมไปถึงเงินสดมูลค่า 5 พันดอลลาร์ (165,000 บาท)
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
7 อาการนอนผิดปกติที่ควรทำ Sleep Test
การนอนหลับไม่เพียงพอ ไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า หรือนอนมากจนเกินไป ล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณร้ายก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพทั้งสิ้น ซึ่งโดยปกติแล้ว การนอนที่ถูกต้องตามหลักสากล คือการนอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ด้วยเหตุนี้ ปัญหาการนอนจึงเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะส่งผลให้เกิดอารมณ์แปรปรวนแล้ว อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพตามมาได้ อาทิ โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ความดันในปอดสูง โรคหลอดเลือดสมอง
นอกจากนี้ ภาวะคุณภาพการนอนที่ไม่ปกติ ยังอาจนำไปสู่การเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นอาการอย่างหนึ่งของกลุ่มอาการภาวะหายใจผิดปกติขณะนอนหลับ ที่เมื่อนอนหลับแล้วร่างกายจะเกิดความผิดปกติทางการหายใจ อย่างเช่น มีการหยุดหายใจขณะหลับ หรือเกิดการหยุดหายใจเป็นพักๆ ตลอดทั้งคืน ทำให้อวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายขาดออกซิเจน จนเป็นสาเหตุของโรคนอนไม่หลับและอื่นๆ อีกหลายโรค ปัจจุบันในทางการแพทย์ จึงมีการเลือกใช้วิธี ตรวจการนอนหลับ หรือ Sleep test ซึ่งเป็นการตรวจที่จะบอกถึงการทำงานของร่างกายในระหว่างนอนซึ่งสามารถบอกถึงความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับเพื่อนำไปสู่การดูแลและรักษาได้อย่างถูกต้อง
ขั้นตอนการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test)
พญ.เพชรรัตน์ แสงทอง แพทย์ผู้ชำนาญการ ด้าน โสต ศอ นาสิกวิทยาและเวชศาสตร์การนอนหลับ โรงพยาบาลพระรามเก้า อธิบายให้เราฟังว่า
Sleep test คือ การตรวจการนอนหลับ เพื่อสังเกตการทำงานของร่างกาย และหาสาเหตุของความผิดปกติต่างๆ ในระหว่างการนอนหลับ ด้วยการใช้เครื่องมือเฉพาะที่สามารถบอกความผิดปกติของการนอนหลับร่วมกับการดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง และนักเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญด้านการนอน โดยในขั้นตอนจะมีการติดอุปกรณ์เฉพาะที่ใช้บันทึกการทำงานของร่างกายขณะนอนหลับ ได้แก่
- ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด
- การหายใจเข้าออกทั้งทางจมูกและทางปาก
- คลื่นไฟฟ้าสมอง
- คลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- การขยับของกล้ามเนื้อตา แขน ขาและกราม
- บันทึกวิดีโอเพื่อสังเกตพฤติกรรมที่ผิดปกติระหว่างนอนหลับ
โดยส่วนใหญ่ เจ้าหน้าที่ประจำห้องตรวจ จะเริ่มทำการติดตั้งเครื่องและตัวตรวจวัดต่างๆ โดยจะใช้เวลาประมาณ 45 – 60 นาที
เมื่อตรวจ Sleep test เสร็จแล้วแพทย์จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์และแปลผลการตรวจ เพื่อวินิจฉัยความผิดปกติต่างๆ พร้อมทั้งประเมินความรุนแรง เช่น
- การหยุดหายใจขณะหลับ
- ระดับออกซิเจนในเลือดขณะหลับ
- ภาวะเคลื่อนไหวและพฤติกรรมผิดปกติขณะหลับ
- นอนแขนขากระตุกขณะหลับ
- การละเมอ
- ภาวะนอนไม่หลับ
- ความผิดปกติของการนอนหลับอื่นๆ
ซึ่งในการตรวจนี้สามารถทราบถึงความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในระหว่างการนอนอื่นๆ ได้ อาทิเช่น นอนกัดฟัน ตลอดจน ภาวะชักขณะหลับ
กลุ่มเสี่ยงที่ควรเข้ารับการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test)
ผู้ที่มีกลุ่มเสี่ยงควรเข้ารับการตรวจ Sleep test คือ
- กลุ่มผู้ที่เสี่ยงจะเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (obstructive sleep apnea; OSA)
- ผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักตัวเกิน
- ผู้ที่แพทย์สงสัยว่าอาจมีภาวะชักขณะนอนหลับหรือเป็นโรคลมหลับ (narcolepsy)
- ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับที่ยังรักษาไม่ได้ หรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ เช่น หัวใจวาย ไตวาย ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น
7 อาการนอนผิดปกติที่ควรทำ Sleep Test
ผู้ที่ต้องการเข้ารับคำปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจ Sleep test สามารถพิจารณาว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้ โดยสังเกตอาการผิดปกติดัง ต่อไปนี้
- นอนกรน
- มีเสียงกรนหยุดเป็นพักๆ พลิกตัวบ่อยๆ
- หายใจลำบากและสงสัยว่ามีการหยุดหายใจขณะหลับ
- ง่วงนอนช่วงกลางวันมากผิดปกติ ทั้งที่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
- ตื่นเช้าไม่สดชื่น มีอาการปวดหัวหลังตื่นนอน และรู้สึกอ่อนเพลียหลังตื่นนอนบ่อยๆ
- มีพฤติกรรมการนอนที่ผิดปกติ เช่น แขนขากระตุกระหว่างนอนหลับ นอนกัดฟัน นอนละเมอ หรือสะดุ้งตื่นเป็นประจำ
- นอนหลับยาก หรือรู้สึกนอนหลับได้ไม่เต็มที่บ่อยๆ มากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
จากอาการข้างต้น มี แบบทดสอบที่ได้รับการยอมรับในการประเมินความง่วงที่ผิดปกติ ชื่อว่า Epworth sleepiness scale เพื่อประเมินความง่วง ที่อาจมีสาเหตุจากความผิดปกติในการนอนหลับ ซึ่งประกอบด้วยชุดคำถามที่จะช่วยให้สามารถประเมินตัวเองและคนรอบข้างเบื้องต้นได้
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจการนอน (Sleep Test)
การเตรียมตัวก่อนตรวจ Sleep test มีข้อปฏิบัติโดยทั่วไป ดังนี้
- อาบน้ำชำระล้างร่างกายและสระผมให้สะอาดก่อนเข้าตรวจ โดยห้ามใส่น้ำมันหรือทาครีมใดๆ เพราะอาจรบกวนการติดอุปกรณ์การตรวจ
- งดชา กาแฟและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงการงีบหลับในช่วงกลางวันของวันที่มาตรวจ เพื่อให้สามารถนอนหลับได้อย่างเต็มที่
- จดชื่อและขนาดยา พร้อมทั้งนำยาทุกชนิดที่รับประทานอยู่มาด้วย (หากมีข้อสงสัยเรื่องยา ควรปรึกษาแพทย์ผู้ตรวจ
ปัจจุบันถือว่าการตรวจ Sleep test เป็นการตรวจที่เป็นมาตรฐานสากล (gold standard) ในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น(obstructive sleep apnea; OSA), การกระตุกของกล้ามเนื้อต่างๆ รวมถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติระหว่างการนอนหลับ เพื่อให้แพทย์สามารถนำผลการตรวจไปวางแผน หรือติดตามการรักษาได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นข้อมูลในการตั้งค่าความดันลมในผู้ที่ใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) เพื่อช่วยเปิดช่องทางเดินหายใจในขณะนอนหลับ หรือการปรับระดับของเครื่องมือในช่องปาก(oral appliances) ในผู้ที่มีโรคหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น รวมทั้งยังใช้พิจารณาเลือกวิธีการผ่าตัดทางเดินหายใจและใช้ติดตามผลการรักษา ตลอดจนช่วยในการวินิจฉัยโรคความผิดปกติอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการนอน และตรวจคุณภาพการนอนได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
Article: A, An, The
เรื่องง่ายๆ อย่าง Article: A, An, The ที่บางคนอาจจะลืมไป ซึ่งในภาษาอังกฤษนั้น article เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก แต่บางคนไม่ให้ความสำคัญ ไม่นำมาใช้ในการพูดภาษาอังกฤษ ซึ่ง article มีความสำคัญ เพราะในฐานะที่เป็นเจ้าของภาษานั้น เราจะรู้ได้ง่ายมากว่าประโยคที่พูดนั้นผิดเพราะไม่มีการนำ article มาใช้ ดังนั้น เรามาเริ่มทบทวนกันเลย
Article
Indefinite article: A, AN
- ใช้พูดถึงคำนามครั้งแรก คำที่รู้จักกันทั่วไป คำนำหน้านามเอกพจน์ที่ไม่ได้กล่าวถึงมาก่อน และต้องใช้ The ในการกล่าวถึงครั้งถัดไป
- ใช้นำหน้าคำนามบอกอาชีพ, สัญชาติ, จำนวน
เช่น I’m a Thai.
My mom gives me 100 baht a day.
Definite article: The
- The ใช้นำหน้าคำนามเฉพาะเจาะจงกว่า หรือมี วลี(Phase)ตามหลัง
- ใช้กับคำนามที่กล่าวซ้ำเป็นครั้งที 2
- สามารถใช้นำหน้าคำนาม เอกพจน์และพหูพจน์
- ใช้กับคำนามที่มีหนึ่งเดียวในโลก เช่น The sun, The moon
- The + ทิศ (of ประเทศ) เช่น The north (of Thailand)
นอกจากนี้ The ยังใช้นำหน้าคำนามที่เป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว เช่น
- The + ธนาคาร: The Bankok Bank
- The + อาคารที่มีชื่อเสียง: The Taj Mahal
แต่เราจะไม่ใช้ article สำหรับกรณีต่อไปนี้
- หน้าชื่อเฉพาะ / ชื่อคน เช่น Queen Elizabeth, Steve Jobs หรือ Jennie Kim
- ชื่อประเทศต่างๆ เช่น Thailand, Italy, Brazil หรือ Australia
- กีฬาประเภทต่างๆ เช่น Tennis, basketball, football หรือ soccer
- ภาษาต่างๆ เช่น English, Spanish หรือ Portuguese
- ชื่อวิชาต่างๆ เช่น Mathematics, English หรือ Literature
แต่เราจะใช้ article เสมอสำหรับกรณีต่อไปนี้
- ชื่อแม่น้ำ ทะเล มหาสมุทรต่างๆ เช่น The Chao Phraya River, the Atlantic Ocean, the Black Sea และ the Missouri River
- ทะเลทราย อ่าว ป่า และแหลมต่างๆ เช่น the Amazon, the Sahara Desert และ the Gulf of Mexico
- อาชีพต่างๆ เช่น an engineer, a teacher, a doctor หรือ a lawyer
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับเครื่องแอนดรอยด์
ปัญหาเรื่องสมาร์ทโฟนแบตหมดเร็ว เป็นสิ่งที่หลายๆ คนเคยเจอ แน่นอนว่า หากเราใช้งานหนัก และต่อเนื่อง ก็เป็นการยากที่จะทำให้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้ไปตลอดทั้งวันที่ยาวนาน ยิ่งสมาร์ทโฟน ที่มีหน้าจอใหญ่ จอสว่าง คมชัด รองรับการใช้แอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย ก็ยิ่งกินแบตเตอรี่
แต่ทั้งนี้ เราก็พอมีวิธี ที่จะช่วยประหยัดการใช้พลังงานอยู่บ้าง เพื่อให้สมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ สามารถใช้งานได้นานขึ้น มีเทคนิคดังนี้
เราต้องทราบว่าแบตเตอรี่ของแอนดรอยด์นั้นทำงานอย่างไร นี่เป็นสิ่งแรก ที่ต้องทราบ เนื่องจากสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ ใช้แบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน หรือ ลิเธียม โพลีเมอร์ ทั้งสองแบบนี้ จริง ๆ แล้วก็คือ ลิเธียม ไอออน ทั้งนั้น แบตเตอรี่แบบนี้ เราสามารถจะชาร์จเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องรอให้แบตหมดก่อน แล้วยังไม่จำเป็นต้องชาร์จจนเต็ม 100 ก่อนจะนำออกใช้ด้วย การทำแบบนี้ จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ เพราะปัญหามักจะเกิดจากการที่เหลือพลังงานน้อยเกินไปเสียมากกว่า
การใช้วอลล์เปเปอร์สีดำสนิท ช่วยให้ใช้แบตเตอรี่ได้นานขึ้น หรืออาจจะเลือกแบคกราวด์สีเข้มก็ได้ เพราะการใช้สีดำ หรือสีเข้มนั้น กินพลังงานน้อยกว่าภาพที่สีสีสัน หรือหน้าจอที่มีความสว่างมาก
ปิดการทำงาน Google Hotwords นั่นคือ ทำให้โทรศัพท์ ไม่ต้องรับฟังอะไรมาก ให้ไปที่ Google setting แล้วเลือก Voice จากนั้น หน้าถัดไป ให้เลือก OK Google detection ในเมนูนี้ จะเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับการประหยัดแบตเตอรี่ แต่ถ้าคุณเป็นแฟน OK Google ก็ให้เลือก From the Google app เพื่อให้แน่ใจว่า อุปกรณ์ของคุณจะฟังเฉพาะเวลาที่คุณอยู่ใน Google app
อัพเดท App อยู่เสมอ เพราะแอพที่ได้รับการพัฒนาหรือปรับปรุงใหม่ มักจะมีคุณสมบัติ ที่ดีกว่า รวมทั้งในเรื่องของเมมโมรี่ และแบตเตอรี่ด้วย การอัพเดทเป็นประจำ ทำให้มั่นใจได้ว่า แอพที่ใช้ เป็นรุ่นที่ดีที่สุด
ใช้ Greenify แอพนี้ จะช่วยพัก แอพที่ไม่ได้ใช้งาน เป็นแอพฟรี ที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้จริง
อย่าปรับแสงแบบอัตโนมัติ การใช้การปรับความสว่างอัตโนมัตินั้น สะดวก แต่เราสามารถปรับเองให้อยู่ในจุดที่เราดูแล้วสบายตาได้ดีกว่า และการปรับอัตโนมัตินั้น ก็กินพลังงานมากเกินความจำเป็น
เลิกใช้ฟังก์ชั่นการเตือนด้วยการสั่น เว้นเสียแต่ว่า มีความจำเป็นจริงๆ การใช้การสั่นนั้น กินพลังงานของโทรศัพท์มากกว่าการใช้เสียง นอกจากนี้ ควรปิด Haptic feedback ด้วย ทั้งการสั่นในตอนพิมพ์ หรือการสัมผัสอื่น ๆ
ตั้งค่า Do Not Disturb หรือ Sleep เป็นตาราง เช่นว่า ตั้ง Sleep ปิด Wi-Fi และ ข้อมูลมือถือ เมื่อไม่ต้องการใช้งาน อาจจะตั้งปิดเสียง ปิดการสั่น หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในเวลางาน หรือเวลาพักผ่อนก็ได้เช่นกัน โทรศัพท์ส่วนมาก สามารถจะตั้งค่าห้ามรบกวน หรือ Do Not Disturb ได้ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน
ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา อาจจะมีการปิด GPS, Bluetooth, WiFi และ ข้อมูลมือถือบ้างในบางเวลา จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้
นำเอา Widget ที่ไม่ใช้ออกจากหน้าจอไปบ้าง ไม่จำเป็นต้องแสดงทุก Widget โดยเฉพาะพวกที่ต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่นการรายงานสภาพอากาศ เป็นต้น การมี Widget ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ปรากฏอยู่บนหน้าจอตลอดเวลา นั้นไม่มีประโยชน์ และไม่ช่วยประหยัดพลังงงาน เหลือไว้เฉพาะสิ่งที่ใช้บ่อยเพียงเล็กน้อยก็พอ
ลองหาคุณสมบัติในการประหยัดแบตเตอรี่ ที่อาจจะมีอยู่ในโทรศัพท์แต่ละรุ่น เช่น HTC จะมี Extreme Power Saving Mode ส่วน Samsung ก็มี Ultra Power Saving Mode และ Sony ก็มี STAMINA Mode เป็นต้น
อย่าหลงไปใช้ Auto-Sync ให้ปิดโปรแกรมดังกล่าวลง หากต้องการจะอัพเดทบัญชี Google ก็ค่อยเปิดใช้ ไม่เช่นนั้น จะมีการอัพเดททุก 15 นาที การปิดโปรแกรมนี้ ให้ไปที่ setting และ Google account จากนั้น Turn off auto-sync
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
‘โบทานิก้า เขาใหญ่’ ผ่อนคลายกลางธรรมชาติกับสถาปัตยกรรม “ท้าแดด”
เขาใหญ่เป็นจุดหมายยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวหรือคนทั่วไปที่ต้องการผ่อนคลายจากสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ไปให้ร่างกายได้พักจากวิวทิวทัศน์สีเขียวของธรรมชาติ
หนึ่งในที่พักที่ตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดีคือ ‘โบทานิก้า เขาใหญ่’ รีสอร์ตขนาดกว่า 20,000 ตารางเมตร ออกแบบโดย Vin Varavarn Architects ด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดที่จัดวางอย่างสวยงามอยู่ทั่วบริเวณ
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้รีสอร์ตแห่งนี้โดดเด่นเป็นพิเศษคือการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ ที่ผสานแนวคิดทางสถาปัตยกรรมเข้ากับศาสตร์แบบฮวงจุ้ย
จะเกิดอะไรขึ้น หากผู้ว่าจ้างและซินแสต้องการให้สถาปัตยกรรมของคุณหันหน้าไปทางทิศใต้
แต่ทิศใต้เป็นทิศที่รับแสงแดดที่ทั้งร้อนและจ้า
สำหรับโบทานิก้า เขาใหญ่ คำตอบไม่ใช่การแลกความต้องการของผู้ว่าจ้างและซินแสเพื่อหนีแดด แต่คือการออกแบบให้แดดไม่ส่งผลเสียต่อสถาปัตยกรรมต่างหาก
ด้วยระเบียงสุดกว้างที่ยื่นออกมาด้านหน้า พื้นที่ใช้งานภายในรีสอร์ตจะได้รับการป้องกันจากแสงแดดอย่างดี มีความร่วมเย็นแม้จะเป็นช่วงบ่ายคล้อย
นับว่าเป็นการ “สร้างสรรค์ร่วมกัน” ที่ตอบสนองความต้องการของทั้งสถาปนิก ผู้ว่าจ้าง รวมไปถึงซินแส และยังมอบความสะดวกสบายให้ผู้ใช้งานอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 02/02/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,250.00 | 28,350.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,830.00 | 27,742.80 | 28,850.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,647.00 | 24,968.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,464.00 | 22,194.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 824.00 | 12,491.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 641.00 | 9,717.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,896.00 | 28,743.36 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 02/02/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 34.55 | 34.55 | 35.15 | 34.75 | 34.95 | 34.55 | 34.85 | 34.55 | 34.75 | 34.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.28 | 34.28 | 34.88 | 34.48 | 34.68 | 34.28 | 34.58 | 34.28 | 34.48 | 34.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.44 | 33.44 | 34.04 | 33.54 | 33.84 | – | 33.74 | 33.44 | 33.54 | 33.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 26.74 | 26.74 | – | – | – | – | – | – | – | 26.74 |
เบนซิน 95 | 41.96 | – | – | – | 42.81 | – | 42.76 | 42.46 | – | 41.96 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 32.34 | 30.84 | 31.44 | 29.94 | 30.64 | 30.64 | 30.84 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | 32.34 | 30.84 | 31.44 | 29.94 | 30.64 | 30.64 | 30.84 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | 32.34 | – | 31.44 | – | 30.64 | 30.64 | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 35.96 | 35.96 | 38.79 | 37.36 | 38.19 | – | – | – | – | 35.96 |
แก๊ส NGV | – | – | – | – | – | – | – | – | – | – |