สาระน่ารู้ประจำวันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2565

บันทึกเป็นตำนาน เอพี 2565 พุ่งทะยานอย่างเสือลงทุนใหม่ 7.8 หมื่นล้าน

AP

ข่าวล่ามาเร็ว AP บุกหนักปี 2565 เปิดตัวมากสุดในประวัติศาสตร์ 65 โครงการ 78,000 ล้านบาท

หารมูลค่าโครงการ 78,000 ล้านบาท จากจำนวน 65 โครงการ เฉลี่ยโครงการละ 1,200 ล้านบาท

ไม่รู้ว่ามากหรือน้อย แต่สถิตินี้ทำให้ “เอพี (ไทยแลนด์)” โดดเด่นมากที่สุดในสถานการณ์โควิดก็ว่าได้

ที่อยู่อาศัยขับเคลื่อนจีดีพี 8%

ผู้บริหารที่เป็น successor ของบริษัท “วิทการ จันทวิมล” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP อ่านขาดเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด

โดยเฉพาะปี 2564 ที่เพิ่งจบไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นหนึ่งคีย์สำคัญช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ข้อมูลศูนย์วิจัยธนาคารกรุงศรีอยุธยาระบุมีมูลค่าตลาดสัดส่วน 8% ของจีดีพีประเทศ

โดยยุคโควิดหากย้อนดูผลประกอบการดีเวลอปเปอร์ 5 บริษัท ยังคงรักษาเส้นกราฟสีเขียว (มีรายได้เป็นบวก และกำไรเติบโต)

จะว่าไปแล้วผลประกอบการปี 2564 เอพี (ไทยแลนด์) คาดการณ์ตัวเองว่าบริษัทมียอดโอนมากที่สุดในวงการที่ 40,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า “ธุรกิจที่อยู่อาศัย” เป็นธุรกิจหลักที่นำพาให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์สามารถขับเคลื่อนผ่านวิกฤตในทุกยุคสมัยมาได้อย่างสวยงาม

3 กลยุทธ์ชัยชนะเหนือโควิด

โดยปี 2564 สำหรับเอพี (ไทยแลนด์) ถือเป็นปีแห่งความแข็งแกร่ง และรักษาการเติบโตท่ามกลางการ reset ครั้งใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ 3 กลยุทธ์ที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันประกอบด้วย

1.“บริหารพอร์ตสินค้าพร้อมขาย” ให้กระจายในหลากหลายทำเลเพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากกว่า สรุปรวม ณ สิ้นปี 2564 เอพีมีมากกว่า 117 โครงการกระจายทั่วไทย สร้างยอดขาย 35,050 ล้านบาท เติบโต 10.7% จากปี 2563

โดยสินค้าแนวราบทั้ง “บ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม” ยังคงเป็นแรงสำคัญในการสร้างการเติบโต

2.“บริหารกระแสเงินสด-cash flow management” ยุคโควิดบริษัทรักษาเสถียรภาพทางการเงินได้อย่างดีเยี่ยม มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ 0.58 เท่า รวมการซื้อที่ดินไปแล้ว (ซื้อที่ดิน 12,600 ล้านบาทในปี 2564)

และ 3.“digital competency” การสร้างความได้เปรียบด้วย digital หนึ่งในโรดแมปสำคัญที่เอพีใช้เป็นคีย์ในการเคลื่อนธุรกิจท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ touchpoint ของ
การดำเนินธุรกิจ ทั้งกับ “ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน”

2565 เอพีพุ่งทะยานอย่างเสือ

ธีมธุรกิจ “AP Thailand Breakthrough 2022” หรือปี 2565 คนเอพีบอกตัวเองว่าเป็นที่สุดแห่งปีกับการพุ่งทะยานไปต่อ Breakthrough ทุกข้อจำกัด สร้างความต่างที่เหนือกว่าให้กับวิถีชีวิตใหม่ ต่อยอดความสำเร็จจากสินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยว

พร้อมเตรียมเปิด big surprise กล่องใหญ่และใหม่ล่าสุดให้กับสินค้ากลุ่มทาวน์โฮม เตรียม boost up ตลาดคอนโดมิเนียมให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

รวมถึงมีแผนขยายสินค้าแนวราบจำนวนมากไปยังทำเลจังหวัดปริมณฑล “สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี ปทุมธานี” อีกด้วย

“ปี 2565 จะเป็นปีที่เอพี (ไทยแลนด์) มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม และเป็นนิวไฮของบริษัทจำนวน 65 โครงการ มูลค่ากว่า 78,000 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮม 29 โครงการ มูลค่า 25,200 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว 26 โครงการ มูลค่า 35,600 ล้านบาท, คอนโดฯ 5 โครงการ มูลค่า 13,000 ล้านบาท และต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท”

ปี 2565 ที่เอพี (ไทยแลนด์) ตั้งเป้าหมายจะพุ่งทะยานอย่างเสือ มีการเตรียมงบประมาณซื้อที่ดิน 20,000 ล้านบาท

ส่งผลให้ปี 2565 ทั้งปีเอพีมีโครงการพร้อมขายใน กทม.และต่างจังหวัด 182 โครงการ มูลค่ารวม 149,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 50,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV-joint venture 47,000 ล้านบาท

“เรายังคง JV กับทางมิตซูบิชิ เอสเตท ซึ่งวันนี้ดีล JV ทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 (2557-2565) ร่วมลงทุนแล้ว 19 โครงการ ปิดขายไปแล้ว 9 โครงการ ปีนี้มีคอนโดฯ JV 3 โครงการ คือ Aspire สุขุมวิท-พระราม 4, Aspire อ่อนนุช สเตชั่น และ Life พหลฯ-ลาดพร้าว”

บิ๊กเซอร์ไพรส์ “ทาวน์โฮม”

“การเปิดตัวโครงการใหม่ในปริมาณที่มากขนาดนี้ ถ้าระบบหลังบ้านไม่พร้อมก็ยากที่จะเป็นจริงได้ ยุคโควิด 2 ปี คีย์สำคัญคือการให้อำนาจการตัดสินใจแก่คนที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคจากภาคสนาม”

ไฮไลต์อยู่ที่ปีนี้เอพีพลิกวิธีคิดในการพัฒนาทาวน์โฮมในเมืองเครือเอพีใหม่ทั้งหมด เพื่อย้ำแชมป์ตลาดทาวน์โฮมภายใต้แนวคิด “Unlock ชีวิตคนเมืองกับทาวน์โฮมเอพี พื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกได้” ตั้งเป้าพอร์ตทาวน์โฮมยังโตได้อีก 30%

เป็นที่มาของ big surprise ที่จะมาเขย่าตลาดทาวน์โฮมในทุกเซ็กเมนต์ เริ่มจาก 1.ยิงสลุตเปิดตัว 20 แบบบ้านใหม่ จาก 6 แบรนด์ 2.เมื่อลงสนามแล้วต้องรบเพื่อชนะ เอพี (ไทยแลนด์) วางแผนกินแชร์ตลาดบ้านแฝด 2-3 ชั้นเพิ่มขึ้น ชูจุดขายบ้านหน้ากว้างสูงสุด 11 เมตร แบรนด์ “บ้านกลางเมือง-The Edition-แกรนด์ พลีโน่”

และ 3.บุกตลาดทาวน์โฮม 2 ชั้นในเขตปริมณฑล ด้วยแบรนด์น้องใหม่ “Pleno Town” ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท

ไปต่อทั้งบ้านเดี่ยว-คอนโดฯ

ผลงานในรอบปี 2558-ครึ่งปีแรก 2564 หรือในรอบ 5 ปีครึ่ง บริษัทรั้งแชมป์สินค้าบ้านเดี่ยว มีส่วนแบ่งตลาด (market share) เป็นอันดับ 1 ผ่าน 3 แบรนด์ “The Palazzo” คฤหาสน์ซูเปอร์ลักเซอรี่ “The City” บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ไฮเอนด์ และ “Centro” บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซ็กเมนต์กลาง-บน

สินค้าตัวบุกปี 2565 เอพีบุกตลาดใหม่ในจังหวัด 2 สมุทร “สมุทรสาคร สมุทรปราการ” เจาะราคา 3-5 ล้านบาท แบรนด์ใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้า Gen M (Millennial กลุ่มที่เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน) และ Gen Z

ยุคโควิด 2563-2564 ที่ผ่อนคันเร่งคอนโดฯปีนี้จึงเป็นปีทวงคืนภาพลักษณ์ผู้นำตลาดคอนโดฯในเมือง ด้วยแผนลงทุน 5 คอนโดฯ มูลค่า 13,000 ล้านบาท

โดยชู “Aspire” เป็น fighting brand หลังลุยตลาดแมส ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท เฉลี่ยเริ่มต้น 84,000 บาท/ตารางเมตร ใน 4 ทำเล ได้แก่ 1.Aspire ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ เปิดพรีเซล 19-20 มีนาคมนี้ 2.Aspire รัชโยธิน 3.Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 และ 4.Aspire อ่อนนุช สเตชั่น อีกแบรนด์คือ Life พหลฯ-ลาดพร้าว

“ตลาดคอนโดฯถือว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว คงต้องดูในปี 2566 ว่าจะกลับมาเติบโตมากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่าปี 2565 เราจะเริ่มเห็นบางเซ็กเมนต์ดีขึ้น อย่างเซ็กเมนต์กลาง-กลางล่างคาดว่าครึ่งปีแรกคงไม่ต่างจากปี 2564 ขณะที่ครึ่งปีหลังถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่หวัง โลกรับมือกับโอมิครอนได้ดีขึ้น ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจทั่วโลกน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ”

ทั้งนี้ บริษัทยังคงดำเนินแผนธุรกิจด้วยความรัดกุม ควบคู่ไปกับความพร้อมที่จะปรับตัวอย่างรวดเร็วด้วยการบริหารจัดการกระแสเงินสด ภายใต้พันธกิจใหญ่ขององค์กร “EMPOWER LIVING” ที่พร้อมส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมาย

Wait & See เงินคริปโท

มีคำถามเทรนด์เงินดิจิทัลหรือคริปโทที่มาแรง เอพี (ไทยแลนด์) เตรียมนำมาใช้ด้วยหรือไม่ “วิทการ” ตอบคำถามด้วยการอธิบายว่า บริษัทต้องดูเรื่องข้อกฎหมายด้วย ได้ข่าวว่าคริปโทยังเป็นเกรย์แอเรีย ในขณะที่จุดยืนของเอพีเวลาดำเนินธุรกิจเรื่องของอะไรก็ตามจะเน้นเรื่องความโปร่งใส

“เพราะฉะนั้น เรื่องของคริปโทถ้ายังเป็นเกรย์แอเรียบริษัทก็เพียงแต่ศึกษาลู่ทางการลงทุน ถ้ามีโอกาสได้ใช้รับรองว่าเอพีไม่พลาด แต่ถ้าวันนี้ยังเป็นพื้นที่สีเทายังมีอะไรไม่แน่นอนเราก็ยังศึกษาอยู่ก่อน ยังไม่คิดนำมาใช้”

ปีละ 200 ล้านทำ “เมตาเวิร์ส”

กระแสฮิตอีกเรื่อง คือ “เมตาเวิร์ส” หรือจักรวาลโลกเสมือนจริง ปรากฏว่าเอพี (ไทยแลนด์) ชิมลางทำมาแล้วก่อนคนอื่น เพียงแต่อาจจะไม่ได้เรียกชื่อนี้ และอาจจะยังไม่ครบสมบูรณ์เพราะเมตาเวิร์สก็ยังไม่ได้สมบูรณ์มาก

“เมตาเวิร์สของเราที่ยังไม่ได้เป็นรูปแบบบ้าน คือ วันคลิกนิวโฮม ทุกคนสามารถไปดูไซต์ได้โดยที่ไม่ต้องไปที่ไซต์ ดูบนมือถือเลย และเซลส์เราก็สามารถพาลูกค้าเดินดูโครงการได้โดยที่อยากดูบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตกดิน หรือตอนพระอาทิตย์ขึ้น ตอนกลางวันร้อนไหม แดดส่องไหม เราทำไว้หมดแล้ว”

โลกเมตาเวิร์สสไตล์เอพี (ไทยแลนด์) ลงลึกไปถึงการพัฒนาโครงการที่มีเมตาเวิร์สสำหรับการดูแลการบริหารก่อสร้าง

“จริง ๆ เราวางแพลตฟอร์มไว้แล้ว เเพลตฟอร์มที่สำคัญที่สุดในการรองรับตัวนี้คือการพัฒนาโครงการ หรือการเขียนแบบสามมิติ วันนี้เราพัฒนามาถึงขนาดให้หน้างานสามารถดูตึกตรงนี้ในอนาคตได้ว่า ถ้าสร้างเสร็จแล้วจะเป็นยังไง เพราะฉะนั้น เรื่องเทคโนโลยีเอพีเราทุ่มทุนมากปีละ 200 ล้านบาท เราพยายามจับเทรนด์ต่าง ๆ ให้อยู่ และใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด”

แข็งแกร่งจากภายในองค์กร

โจทย์ธุรกิจที่คนอยากรู้ก็คือปี 2565 ยุคโอมิครอน อะไรคือความท้าทายสำหรับนักบริหาร

“วิทการ” ฉายภาพการแข่งขันในยุคโรคระบาดนั้น…ไม่ง่าย มีปัจจัยคำนึงตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจระดับโลก ระดับประเทศ มีทั้งเรื่องเงินเฟ้อ ทั้งยังไม่รู้ว่าอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐออกมาส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมนี้

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นปัจจัยกระทบกับการพัฒนาโครงการ โดยเฉพาะกระทบกับเซนติเมนต์ของลูกค้าในการที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย

โดยเปรียบเทียบวิกฤตโควิดเป็นเหมือนถ้ำที่เราเริ่มมองเห็นแสงสว่างแล้วว่าจะออกยังไง ระหว่างทางเดินไปจนถึงจุดทางสว่างนั้น มีหลุมเยอะ และลึกด้วย เพราะฉะนั้น ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง พอออกจากตรงนั้นไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรอีก เพราะยังมีอุปสรรคอีกเยอะมากที่ต้องพบเจอ เช่น ภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อค่าแรง ค่าสินค้า เซนติเมนต์ของลูกค้า บริษัทจะฟันฝ่าไปยังไง

“ผมเชื่อว่าวิธีการบริหารจัดการภายในเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ วันนี้มีเค้กชิ้นเท่านี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะไปแย่งเค้กชิ้นนั้นได้ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพการทำงานภายในของเรา ซึ่งเรามีพร้อมไว้หมดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็เชื่อว่าเราจะผ่านปีนี้ไปได้”

2565 เป็นปีที่เอพี (ไทยแลนด์) ประกาศความพร้อมพุ่งทะยานอย่างเสือ ภายใต้พันธกิจใหญ่ “EMPOWER LIVING” ส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่ลูกค้าสามารถเลือกได้

ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net


“นิปปอนเพนต์” รั้งเบอร์ 1 ตลาดสีเอเชีย ชูนวัตกรรม-โซลูชั่นรุกปีเสือ

“นิปปอนเพนต์”  รั้งเบอร์ 1 ตลาดสีเอเชีย  ชูนวัตกรรม-โซลูชั่นรุกปีเสือ

“นิปปอนเพนต์” รั้งผู้นำตลาดสีเอเชีย จากการจัดอันดับ Top 25 Paint Manufacturers in Asia Pacific จาก Asia Pacific Coatings Journal พร้อมเดินหน้าเปิดตัวแคมเปญใหม่

นายวัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสีนิปปอนเพนต์ในประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตสีรายใหญ่อันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 4 ของโลกจากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า นิปปอนเพนต์ ได้รับการจัดอันดับ1 จากการจัดอันดับ Top 25 2021 Manufacturers in Asia Pacific Coatings  โดย APCJ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

โดยการจัดอันดับครั้งนี้พิจารณาจากการเป็นบริษัทที่มีได้ยอดขายสีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก “นิปปอนเพนต์” มียอดขาย 6,880 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เป็นบริษัทที่มียอดขายสูงสุด ซึ่งการจัดอันดับนี้ถือเป็นการยืนยันถึงความนิยมของแบรนด์นิปปอนเพนต์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมก่อสร้าง และผู้บริโภคในระดับสากล และสะท้อนความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีให้แบรนด์ในระดับเอเชีย 

วัชระ ศิริฤทธิชัย

ปัจจุบันอุตสาหกรรมสีทาบ้านและอาคารในภูมิภาคเอเชีย จาก 25 บริษัทชั้นนำมีมูลค่าตลาดรวมกันราว 23,916 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยนิปปอนเพนต์มีสัดส่วนยอดขายคิดเป็น 6,880 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดยรวม ทำให้ตลาดอุตสาหกรรมสีทาบ้านและอาคารมีการเติบโต 2%  โดยนิปปอนเพนต์ เป็นผู้นำในตลาดสีทาบ้านและอาคารในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีน  สิงคโปร์  อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง  รวมถึงในตะวันออกกลาง อาทิ บังคลาเทศ  ปากีสถาน  อิหร่าน เป็นต้น 

“ปัจจัยที่ทำให้นิปปอนเพนต์ ประสบความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียคือ การให้ความสำคัญกับบุลคลากรในองค์กรและลูกค้า รวมถึงเรื่องของซัพพลายเชน ที่พร้อมจะช่วยแก้ปัญหาและให้คำปรึกษากับลูกค้าทุกกลุ่ม และการเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องทั้งในด้านบุคลากร และการขยายกิจการในรูปแบบต่างๆ ทั้งการลงทุนเองและการควบรวมกิจการ (M&A)  ซึ่งการทำธุรกิจในแต่ละประเทศจะอยู่ภายใต้แนวคิด Think Global Act Local ตามความเหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ”

นิปปอนเพนต์

​อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของนิปปอนเพนต์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะถูกสานต่อทั้งด้านนวัตกรรมและบริการ มาสู่ประเทศอื่นๆ โดยนิปปอนเพนต์ ประเทศไทย ได้นำเสนอนวัตกรรมเพื่อเป็นโซลูชั่นให้กับลูกค้าทั้งกลุ่ม B2B และ B2C ผ่านความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสีทาบ้านและอาคาร (The Coatings Expert) ที่มีการพัฒนาและนำเสนอผ่านผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง

​นายวัชระ กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ของนิปปอนเพนต์ ประเทศไทยใน 3-5 ปี คือการก้าวขึ้นเป็นบริษัทสีทาบ้านและอาคารอันดับ 1 ในใจของผู้บริโภค ภายใต้โรดแมป “Total Coating Solutions” ที่พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรม ยกระดับบริการพร้อมให้คำปรึกษา แก้ปัญหาต่างๆ ให้กับลูกค้าในทุกๆกลุ่ม

ล่าสุดนิปปอนเพนต์เดินหน้าสานต่อแคมเปญ “เพราะความใส่ใจ ทำให้เราเชี่ยวชาญ” โดยมุ่งเน้นการสื่อสารให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญที่แตกต่างของพนักงานนิปปอนเพนต์ ที่หลอมรวมกันเป็น DNA ของบริษัท ซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและโซลูชั่นที่ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภค โดยนำเสนอเรื่องราวของคนในองค์กรที่แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญที่ต่างกัน ใส่ใจทุกขั้นตอน

นิปปอนเพนต์

ผ่านกระบวนการคิดที่รอบคอบ เพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ขณะเดียวกันบริษัทพร้อมสนับสนุนให้พนักงานทุกคนได้ใช้ชีวิตในสิ่งที่ชอบไม่ว่าจะเป็นด้านการทำอาหาร ชงกาแฟ หรือแม้แต่การปลูกต้นไม้ฯลฯ ก็พร้อมส่งเสริมและใส่ใจในทุกๆ ด้านเพื่อสะท้อนความเป็นผู้เชี่ยวชาญ ของนิปปอนเพนต์

“การระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุดของสายพันธุ์โอมิครอน แต่จากมาตรการด้านสาธารณสุขของไทยทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น เห็นได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อีกทั้งคนไทยส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนวัคซีนครบโดสแล้ว ผลกระทบจากการระบาดในระลอกใหม่นี้ จึงคาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นเท่านั้น

ขณะที่ล่าสุดภาครัฐเองเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการความปลอดภัยของสาธารณสุข โดยปรับลดพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) และพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเหลือง) ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนเองผ่อนคลายในการดำเนินกิจการและใช้ชีวิตได้ตามปกติมากขึ้น”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


บาทแข็ง! เปิดตลาด 33.07 บาทต่อดอลลาร์

บาทแข็ง! เปิดตลาด 33.07 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทเปิดตลาด 33.07 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่า ให้กรอบ 33.00-33.15บาทต่อดอลลาร์ จับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.07 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.15 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้แข็งค่าจากเมื่อเย็นวาน จากทิศทางของ flow หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วานนี้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ออกมาส่งสัญญาณด้วยความกังวลต่อเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้น จึงทำให้ตลาดมองว่ามีโอกาสที่ ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น

“เดิมตลาดมองว่า ECB ไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยเลยในปีนี้ แต่พอ ECB ออกมาบอกแบบนี้ ตลาดก็มองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยคงไม่ใช่มีแค่เฟดเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้กดดันค่าเงินดอลลาร์ด้วย มองว่าระหว่างวัน เงินบาทคงแกว่งออกข้าง รอดูข้อมูล non farm payroll คืนนี้” นักบริหารเงินระบุ

ส่วนอัตราเงินเฟ้อของไทยในปัจจุบัน ถือว่ายังไม่อยู่ในระดับที่สูงมากจนมีผลต่อการทำนโยบายการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.00 – 33.15 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


นื้อหอมขั้นสุด! บิ๊กทีมพรีเมียร์ลีกมาครบหวังเซ็นฟรี “ดิบาลา” ซัมเมอร์นี้

เนื้อหอมขั้นสุด! บิ๊กทีมพรีเมียร์ลีกมาครบหวังเซ็นฟรี "ดิบาลา" ซัมเมอร์นี้

เหล่าสโมสรบิ๊กทีมในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวจับตาสถานการณ์ของ เปาโล ดิบาลา อย่างใกล้ชิด เมื่อสัญญาฉบับปัจจุบันของกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินากำลังจะสิ้นสุดลงในซัมเมอร์นี้ ตามการายงานจาก 90min ประเทศอังกฤษ

แจ็ค กัลลาเกอร์ รายงานว่า ลิเวอร์พูล, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และ อาร์เซนอล ต่างแสดงความประสงค์ต้องการเจรจากับ ดิบาลา เมื่อล่าสุด การเจรจาขยายสัญญาของเจ้าตัวกับทัพม้าลายล่มลงไป

ก่อนหน้านี้ ดิบาลา แสดงท่าทีตอบรับสัญญายาว 5 ปีจาก ยูเว่ ภายใต้ค่าตอบแทนราว 8 ล้านยูโรต่อปี ซึ่งได้หารือร่วมกันตั้งแต่ก่อนช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา ก่อนที่ทัพเบียงโคเนรีจะปรับเปลี่ยนเงื่อนไขบางประการในสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้เรียบร้อย ทำให้โต๊ะเจรจาล่มลงไปในที่สุด

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ดาวเตะวัย 28 ปีพิจารณาโอกาสในการย้ายออกจาก ยูเวนตุส อย่างจริงจังในช่วงซัมเมอร์นี้ ท่ามกลางการจับตาอย่างใกล้ชิดของบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก ร่วมไปถึง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ อินเตอร์ มิลาน ด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


8 วิธีรักษา “มะเร็ง” รู้เร็ว รักษาเร็ว หายได้

8 วิธีรักษา “มะเร็ง” รู้เร็ว รักษาเร็ว หายได้

ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาการรักษาโรคมะเร็งเพื่อคืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้ป่วยจึงไม่เคยหยุดยั้ง ซึ่งหากรู้เร็ว รักษาเร็ว ย่อมช่วยเพิ่มโอกาสการหายและการรอดชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของโรค ชนิดเซลล์มะเร็ง อายุ และสุขภาพของผู้ป่วย

ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นโรคที่สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ เป็นโรคที่เกิดจากการมีเซลล์ผิดปกติในร่างกายและเซลล์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตรวดเร็วเกินปกติ ร่างกายควบคุมไม่ได้ จึงเจริญลุกลามและแพร่กระจายทั่วร่างกาย ส่งผลให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อ อวัยวะต่างๆ ล้มเหลว ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด ได้แก่ ปอด ตับ สมอง ไต กระดูก และไขกระดูก 

ในปีที่ผ่านมามะเร็งที่พบมากที่สุดในโลกคือมะเร็งปอด และมะเร็งที่พบมากที่สุดในคนไทยคือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี และมะเร็งเต้านมพบมากที่สุดในผู้หญิง ซึ่งการรักษาโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพคือ การรักษาที่เข้าถึงผู้ป่วยมะเร็งทุกคนได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้ผู้ป่วยกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างยืนยาว ปิดทุกช่องว่างสุขภาพ เติมเต็มการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง

8 วิธีรักษา “มะเร็ง” รู้เร็ว รักษาเร็ว หายได้

ปัจจุบันการรักษามะเร็งมีหลายวิธี ได้แก่

  1. การผ่าตัด (Surgery)

การผ่าตัด เป็นวิธีรักษามะเร็งเฉพาะที่ ซึ่งมีการพัฒนาการผ่าตัดให้ไม่สูญเสียอวัยวะหรือสูญเสียน้อยที่สุด ที่สำคัญปัจจุบันมีเทคโนโลยีผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก ที่ให้ผลการรักษาเทียบเท่าการผ่าตัดแบบแผลเปิด แต่แผลเล็ก เจ็บน้อย เสียเลือดระหว่างผ่าตัดลดลง ฟื้นตัวไว ลดการเกิดผลแทรกซ้อนและการติดเชื้อจากการผ่าตัด ผู้ป่วยมะเร็งจึงคลายความกังวลจากการผ่าตัดรักษาได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เป็นสำคัญ

  1. รังสีรักษา (Radiotherapy)

รังสีรักษา หรือการฉายแสงเป็นการใช้รังสีกำลังสูงเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งในตำแหน่งที่กำหนด โดยแพทย์รังสีรักษาจะวางแผนการให้ปริมาณรังสีที่มีผลข้างเคียงกับผู้ป่วยน้อยที่สุด การใช้รังสีรักษาสามารถรักษามะเร็งบางชนิดให้หายขาด บรรเทาอาการจากมะเร็ง อาทิ ลดความเจ็บปวด หยุดการไหลของเลือด เป็นต้น อีกทั้งยังรักษาภาวะเร่งด่วนที่เกิดจากโรคมะเร็งได้ ซึ่งปัจจุบันรังสีรักษาได้พัฒนาไปมากเพื่อให้รักษาได้ถูกต้องตรงตำแหน่งและลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย

  1. เคมีบำบัด (Chemotherapy)

เคมีบำบัด เป็นการรักษาโดยการให้ยา (สารเคมี) เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง โดยยาเคมีบำบัดจะเข้าไปขัดขวางการแบ่งเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวเร็วกว่าเซลล์ปกติจึงอาจมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันนอกจากยาเคมีบำบัดจะช่วยให้หายขาด ยังสามารถให้ก่อนผ่าตัดเพื่อลดขนาดก้อนมะเร็ง และใช้รักษาเสริมหลังผ่าตัดเพื่อลดโอกาสมะเร็งกลับมาเป็นซ้ำ

  1. ฮอร์โมนบำบัด (Hormonal Therapy)

ฮอร์โมนบำบัด เป็นการใช้ฮอร์โมนเพื่อยับยั้งหรือยุติการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ซึ่งใช้ได้ในการรักษามะเร็งบางชนิดอย่างมะเร็งเต้านมที่อาจต้องกระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพศหญิงและมะเร็งต่อมลูกหมากที่กระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพศชาย เป็นต้น

  1. การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) 

การรักษาด้วยยามุ่งเป้า จะเข้าไปออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงกับเซลล์มะเร็งเพื่อยับยั้งการแบ่งตัวและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง มีประสิทธิภาพในการรักษาสูง ผลข้างเคียงน้อยกว่ายาเคมีบำบัด แต่ใช้ได้ดีกับเนื้อเยื่อมะเร็งที่มีเป้าจำเพาะต่อยาเท่านั้น จึงขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งเป็นสำคัญ

  1. การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)

การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ใช้หลักการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อสู้กับเซลล์มะเร็งเพื่อต่อต้านเซลล์มะเร็งได้ดียิ่งขึ้น วิธีนี้ใช้รักษามะเร็งได้หลายชนิด ขึ้นอยู่กับชนิด ลักษณะ และความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่ได้ผลดีในการรักษาและผลข้างเคียงต่ำ แต่ต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็ง

  1. การปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone Marrow/Stem Cell Transplantation)

การปลูกถ่ายไขกระดูก มีทั้งแบบการใช้เซลล์ต้นกำเนิดของตัวเองหรือของบุคคลที่มีความเข้ากันได้ของระบบภูมิคุ้มกัน ส่วนใหญ่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งระบบเลือดอื่นๆ หรือมะเร็งเซลล์สืบพันธุ์บางชนิด

  1. การรักษาแบบผสมผสาน (Combined Modality Therapy)

การรักษาแบบผสมผสาน เป็นการรักษาโรคมะเร็งโดยใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อเพิ่มโอกาสหายและรอดชีวิต แต่จะใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับระยะ ความรุนแรงของโรค และสุขภาพของผู้ป่วย โดยแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งจะประเมินการรักษาอย่างละเอียดเพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

นอกจากนี้การดูแลสุขภาพที่ดี ทานอาหารที่มีประโยชน์ ถูกสุขอนามัย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่ตากแดดจ้า ไม่ทานปลาน้ำจืดดิบและตรวจสุขภาพร่างกายอย่างเป็นประจำ จะช่วยให้สามารถป้องกันมะเร็งและสุขภาพที่แข็งแรงได้

อยากให้ทุกคนป้องกันมะเร็งด้วยการดูแลสุขภาพให้ห่างไกลมะเร็งและหมั่นตรวจเช็กร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะมะเร็งหากรู้เร็ว รักษาเร็ว เพิ่มโอกาสหายได้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


มาทำความรู้จักกับกลิ่น (Smell) ในภาษาอังกฤษกันเถอะ

หากพูดถึงเรื่องกลิ่น คำแรกที่เพื่อนๆ นึกถึงคงไม่พ้นคำว่า Smell แน่นอน และสมมติว่าเวลาเราได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ หลายคนน่าจะนึกถึงคำว่า “Bad Smell” ขึ้นมาก่อนอันดับแรก แต่ที่จริงแล้วในภาษาอังกฤษนั้นมีคำที่ใช้เรียกกลิ่นต่างๆ ไม่ต่างจากภาษาไทย และวันนี้เราจะมาแชร์และเทคนิคการใช้ศัพท์เกี่ยวกับกลิ่นในภาษาอังกฤษกัน

ก่อนอื่นเราลองมาทำความเข้าใจกับคำว่า Smell (อ่านว่า สเมล) กันก่อนดีกว่า

ตามบริบทของคำว่า Smell นั้นสามารถเป็นได้ทั้งคำนามและคำกริยา ยกตัวอย่างเช่น

  • Smell (N)   – กลิ่น, การดมกลิ่น
    • Her smell is so sweet. (กลิ่นของเธอนั้นหอมหวานมาก)
    • A dog is very good at smell. (สุนัขมีการดมกลิ่นที่ดีมาก)
  • Smell (V)   – ดมกลิ่น
    • Can you smell something burning? (คุณได้กลิ่นอะไรบางอย่างไหม้ไหม)
    • I smell it too. (ฉันก็ได้กลิ่นเหมือนกัน)
    • This thing smells terrible. (อันนี้กลิ่นแย่มาก)

แต่อย่างไรก็ตามคำว่า Smell ที่เป็นคำกริยานั้นสามารถใช้ได้ในอีกบริบทอีกด้วย

  • Smell (V)   – รู้สึกได้ว่ามีนัย
    • I can smell something bad will happen. (ฉันรู้สึกได้ว่าจะมีบางสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้น)
    • It smells like a corruption. (มันรู้สึกได้ถึงการทุจริต)

ที่นี้เราลองมาทำความรู้จักกับคำศัพท์ต่างๆ ที่มักจะเจอในชีวิตประจำวันกันเลยดีกว่า

  • กลิ่นหอม (Fragrant) – กลิ่นหอมน้ำหอม, กลิ่นดอกไม้
  • กลิ่นมิ้นท์ (Minty or Peppermint) – กลิ่นหอมมิ้นท์, กลิ่นยาดมต่างๆ
  • กลิ่นหอมสดชื่น (Cirtus) – กลิ่นสนชื่นจากส้ม เลม่อน หรือ มะนาว
  • กลิ่นผลไม้ (Fruity) – กลิ่นผลไม้ (ที่ไม่ใช้แบบประเภท Cirtus)
  • กลิ่นหอมหวาน (Sweet) – กลิ่นของหวานต่างๆ เช่น ช๊อคโกแลต วานิลา
  • กลิ่นสารเคมีแสบจมูก (Chemical) – กลิ่นสารเคมี เช่น แอมโมเนีย น้ำยาล้างห้องน้ำ
  • กลิ่นทำอาหาร (Toasted) – กลิ่นอบขนม กลิ่นปิ้งย่างต่างๆ
  • กลิ่นฉุน (Pungent) – กลิ่นฉุนพริก กลิ่นบุหรี่
  • กลิ่นสาบ (Stench) – กลิ่นเหม็นสาบต่างๆ เช่น กลิ่นเหงื่อ กลิ่นเท้า กลิ่นปาก
  • กลิ่นเน่า (Decayed) – กลิ่นซากสัตว์ หรือ กลิ่นเน่าต่างๆแถม คำว่า Funk เป็นคำแสลงที่เรามักจะเจอบ่อยเวลาดูหนัง เอาใช้สำหรับบอกกลิ่นเหม็นต่างๆ

เราจะเห็นได้ว่าแต่ละกลิ่นก็จะมีศัพท์ภาษาอังกฤษที่บ่งบอกกลิ่นเฉพาะเจาะจง แต่ก็อาจจะยังมีสถานการณ์ที่เรานึกไม่ออกว่าเราจะควรใช้ศัพท์อะไร

ก็มีเทคนิคไม่ยากที่เราจะบ่งบอกว่าเรารู้สึกยังไงกับกลิ่นนั้น เพียงแค่เพื่อนๆ นำคำวิเศษณ์หรือ Adverb มาขยายความในประโยคก็จะทำให้เราสามารถใช้ออกมาได้ง่ายและสื่อสารความหมายได้ดีอีกด้วย

ตัวอย่างประโยคในการใส่ Adverb

  • It smells disgusting. (กลิ่นมันน่าขยะแขยง)
  • A rose smells fabulously. (กลิ่นดอกกุหลาบนี่เริศสุดๆ)

เรื่องกลิ่นดูเป็นจิ๊บๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะ ทีนี้เพื่อนๆ ลองเอาไปใช้ดูได้ไม่ยากอย่างที่คิด

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


วิธีรีวิวบน Google Maps ให้น่าเชื่อถือ-เป็นประโยชน์ผู้ใช้

วิธีรีวิวบน Google Maps ให้น่าเชื่อถือ-เป็นประโยชน์ผู้ใช้

Google เผยการทำงานเบื้องหลังการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ว่าเชื่อถือได้ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ที่มีจำนวนกว่า 1 พันล้านคน ซึ่งรวมถึงรีวิวใน Google Maps ให้เป็นแหล่งข้อมูลที่นำไปสู่สถานที่และธุรกิจต่างๆ ได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด

เนื่องจากผู้คนทั่วโลกโพสต์รีวิวจำนวนนับล้านทุกวัน Google จึงมีระบบสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงที่คอยจัดระเบียบข้อมูลบน Google Maps  ให้ถูกต้องแม่นยำและตรงประเด็นอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าการป้องกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้เป็นสิ่งที่ดำเนินการอยู่ในระบบเบื้องหลัง Google จึงคิดว่าน่าจะดีไม่น้อยหากได้อธิบายให้ผู้ใช้ได้เห็นกระบวนการที่จะเกิดขึ้นเมื่อกด “โพสต์” รีวิว

วิธีรีวิวบน Google Maps ให้น่าเชื่อถือ-เป็นประโยชน์ผู้ใช้

Google ได้กำหนดนโยบายเนื้อหาที่เคร่งครัดขึ้นเพื่อให้รีวิวมีฐานอยู่บนประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้สัมผัสมาจริง และปราศจากการแสดงความคิดเห็นที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่เหมาะสมใน Google Business Profile

นโยบายและการป้องกันของ Google ได้รับการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงช่วยให้ Google สามารถปกป้องสถานที่และธุรกิจต่างๆ จากเนื้อหาที่ละเมิดหรือไม่เกี่ยวข้องได้ในกรณีที่เป็นไปได้ว่าสถานที่เหล่านี้จะตกเป็นเป้าหมายของการละเมิด ตัวอย่างเช่น เมื่อรัฐและธุรกิจต่างๆ กำหนดให้ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนเข้าบริเวณ Google ก็ยกระดับการปกป้องเพื่อนำรีวิวที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายด้านสุขภาพและความปลอดภัยของธุรกิจนั้นๆ ออก หรือเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบด้านวัคซีน

วิธีรีวิวบน Google Maps ให้น่าเชื่อถือ-เป็นประโยชน์ผู้ใช้

นโยบายที่กำหนดขึ้นจะบรรจุลงในเนื้อหาฝึกอบรมสำหรับทั้งเจ้าหน้าที่และอัลกอริทึมแมชชีนเลิร์นนิงของ Google เพื่อให้ทีมสามารถตรวจจับเนื้อหาที่ละเมิดนโยบาย ตลอดจนทำให้รีวิวของ Google ตรงตามความเป็นจริงและเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้ต่อไป

เมื่อมีผู้โพสต์รีวิว Google จะส่งรีวิวนั้นไปยังระบบกลั่นกรองเพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามนโยบาย ซึ่งอาจมองได้ว่าระบบเป็นเหมือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คอยคัดกรองผู้ต้องสงสัยก่อนเข้าอาคาร ต่างกันเพียงแต่ทีมงานจะคัดกรองเนื้อหาที่ไม่ดีไม่ให้โพสต์ลงบน Google เท่านั้น

เมื่อพิจารณาถึงปริมาณรีวิวที่ Google ได้รับเป็นประจำ ทำให้พบว่าต้องอาศัยทั้งความเข้าใจที่ละเอียดอ่อนของมนุษย์และความสามารถในการจัดการปริมาณรีวิวจำนวนมากของแมชชีนมาช่วยกลั่นกรองเนื้อหาที่ส่งเข้ามา ซึ่งปัจจัยทั้งสองล้วนแล้วแต่มีข้อดีต่างกัน จึงเป็นสาเหตุให้ Google ทุ่มเทพัฒนาทั้ง 2 ด้านอย่างต่อเนื่อง

แมชชีนเป็นเครื่องป้องกันด่านแรกเนื่องจากสามารถตรวจจับรูปแบบได้ดี รูปแบบเช่นนี้จะทำให้แมชชีนระบุได้ทันทีว่าเนื้อหาเป็นไปตามเกณฑ์หรือไม่ เนื้อหาที่ไม่เป็นจริงและหลอกลวงส่วนใหญ่จึงถูกลบก่อนที่จะมีใครพบเห็น

แมชชีนของ Google พิจารณารีวิวด้วยหลักเกณฑ์หลายประการ เช่น

●            เนื้อหาของรีวิว: ไม่เหมาะสมหรือไม่เกี่ยวข้องหรือไม่

●            บัญชีของผู้เขียนรีวิว: บัญชี Google มีประวัติต้องสงสัยหรือไม่

●            ตัวสถานที่: มีความเคลื่อนไหวที่น่าสงสัยหรือไม่ เช่น ได้รับการรีวิวจำนวนมากเป็นพิเศษภายในช่วงเวลาอันสั้น หรือเพิ่งได้รับการกล่าวถึงในข่าวหรือโซเชียลมีเดียจนอาจทำให้ผู้คนอยากเขียนรีวิวหลอกลวง

การฝึกแมชชีนให้รู้จักความแตกต่างระหว่างเนื้อหาที่ยอมรับได้กับเนื้อหาที่ละเมิดนโยบายเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยกตัวอย่างเช่นบางครั้งคำว่า “เกย์” ก็ถูกใช้ในแง่ลบ ซึ่งจะไม่ยอมให้มีในรีวิวของ Google เป็นอันขาด แต่ถ้ามีการสอนแมชชีนเลิร์นนิงว่าคำนี้เข้าข่ายเป็นวาจาสร้างความเกลียดชังเท่านั้น  Google ก็อาจพลาดพลั้งนำรีวิวที่สนับสนุนเจ้าของธุรกิจที่เป็นเกย์หรือสถานที่ปลอดภัยสำหรับ LGBTQ+ ออกไปได้  ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของ Google จึงต้องตรวจสอบคุณภาพและรับการอบรมเพิ่มเติมอยู่เสมอเพื่อนำความไม่เที่ยงตรงออกจากเกณฑ์ของแมชชีนเลิร์นนิง โดยฝึกให้แมชชีนรู้จักแง่มุมทั้งหมดที่มนุษย์สามารถใช้คำหรือวลีหนึ่งๆ เพื่อพัฒนาความสามารถในการตรวจจับเนื้อหาที่ละเมิดนโยบาย และลดโอกาสที่จะคัดกรองผิดพลาดเนื่องจากไปลบรีวิวที่ถูกต้องตามเกณฑ์โดยไม่ตั้งใจ

หากระบบตรวจไม่พบการละเมิดนโยบายใดๆ รีวิวก็จะโพสต์ขึ้นออนไลน์ภายในไม่กี่วินาที แต่งานของ Google ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ระบบจะยังคงวิเคราะห์เนื้อหาที่ผู้ใช้ส่งเข้ามาและเฝ้าระวังรูปแบบที่น่าสงสัยต่อไป รูปแบบเหล่านี้อาจเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่การที่คนจำนวนหนึ่งเขียนรีวิวให้ Business Profile ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ไปจนถึงการที่สถานที่หรือธุรกิจได้รับรีวิว 1 หรือ 5 ดาวมากเป็นพิเศษภายในระยะเวลาสั้นๆ

ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มซึ่งเปิดกว้างให้ผู้ใช้เข้ามามีส่วนร่วม Google จึงต้องตื่นตัวป้องกันไม่ให้มีการฉ้อโกงและละเมิดเกิดขึ้นบน Google Maps อยู่เสมอ วิธีการหนึ่งคือการทำให้ทุกคนสามารถแจ้งรีวิวที่ละเมิดนโยบายผ่าน Google Maps ได้โดยง่าย หากคุณคิดว่าพบรีวิวบน Google ที่ละเมิดนโยบาย Google ขอสนับสนุนให้คุณรายงานมายังทีมเจ้าหน้าที่ โดยธุรกิจต่างๆ สามารถรายงานรีวิวผ่านโปรไฟล์ของตนได้ที่นี่ และลูกค้าสามารถรายงานได้ที่นี่

ทีมเจ้าหน้าที่ของ Google ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อตรวจสอบเนื้อหาที่ถูกแจ้งว่าไม่เหมาะสม เมื่อพบว่ารีวิวละเมิดนโยบาย ก็จะนำรีวิวนั้นออกจาก Google และในบางกรณีจะระงับบัญชีของผู้เขียนรีวิวตลอดจนดำเนินการทางกฎหมายด้วย

นอกเหนือจากการตรวจสอบเนื้อหาที่ถูกแจ้ง ทีมของ Google ยังดำเนินการเชิงรุกเพื่อตรวจสอบความเสี่ยงที่จะเกิดการละเมิดอีกด้วย ซึ่งสามารถลดโอกาสที่ผู้ละเมิดจะโจมตีสำเร็จลงได้ ตัวอย่างเช่น หากกำลังจะมีงานสำคัญอย่างการเลือกตั้งเกิดขึ้น Google ก็จะยกระดับการปกป้องให้แก่สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับงานนั้นและธุรกิจอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงที่ผู้ใช้อาจค้นหาบน Google Maps โดยคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องจนกว่าความเสี่ยงในการละเมิดจะลดลง ทั้งนี้ก็เพื่อให้บรรลุพันธกิจซึ่งจะเผยแพร่แต่รีวิวที่ถูกต้องและเชื่อถือได้เท่านั้น ความทุ่มเทในการวิเคราะห์และศึกษาวิธีการละเมิดในเนื้อหาที่ผู้ใช้ส่งเข้ามาเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ Google เท่าทันผู้ไม่ประสงค์ดีอยู่เสมอ

ด้วยจำนวนผู้ใช้ Google Maps เพื่อค้นหาและนำทางมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือนทำให้ Google มุ่งมั่นตรวจสอบว่าข้อมูลที่ทุกคนเห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งรีวิวนั้นเชื่อถือได้ ภารกิจนี้จะไม่มีวันสิ้นสุด แต่จะมีการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องต่อไปและดำเนินการอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้ Google Maps มีรีวิวที่ละเมิดและหลอกลวง

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ประตูหลากหลายดีไซน์ จาก BUMRUNGTHAI ในงานสถาปนิก’65

ความเชี่ยวชาญงานไม้จริงและเทคโนโลยีกระบวนการผลิต ทำให้ประตูของเราได้คุณภาพ แข็งแรง และมีความปราณีตในทุกรายละเอียด นั่นเป็นเพราะเราให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนการผลิต การเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน การออกแบบที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 192-2549

BUMRUNGTHAI มีประสบการณ์ในการผลิตงานไม้มายาวนานกว่า 50 ปี ได้รับความไว้วางใจจากโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับต้นๆของประเทศหลายราย ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า อาธิเช่น ประตูลามิเนตปิดผิวHPL ประตูเมลามีน ประตูHDF ประตูไม้อัด ประตูไม้จริง
ประตูเอ็นจิเนียร์ ประตูไม้สังเคราะห์WPC วงกบ บันได และงานไม้อื่นๆ

“WHERE QUALITY MEETS INNOVATION”

นี่คือสิ่งที่เรายึดถือมาตลอด ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า

ประตูไม้จริงเอ็นจิเนียร์ปิดผิวไม้โอ๊ค ด้วยการพัฒนาโครงสร้างบานประตูและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยแบบ Engineered wood ช่วยลดปัญหาการแตกร้าวและการบิดโก่งของไม้ได้อย่างมาก ทำให้บานประตูไม้จริงยังคงสวยงามและใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม

ประตูลามิเนต HPL

ผิวหน้าแข็งแรง ทนรอยขีดข่วน”

เป็นนวัตกรรมที่ผสมผสานความแข็งแรงและความสวยงานให้เข้ากันอย่างลงตัว โครงสร้างไม้จริงรอบบานผลิตจากไม้เนื้อแข็ง ปิดทับโครงสร้างด้วยแผ่นไม้อัด HDF MDF หรือ WPC เลือก จากนั้นปิดผิวด้วยแผ่นลามิเนต HPL (High Pressure Laminate) เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งเป็นบานประตูภายในบ้านตามห้องต่าง เช่น ห้องนอน ห้องรับแขกนั่งเล่น ห้องนั่งเล่น หรือ ห้องครัว

  • ผิวหน้าทนรอยขีดข่วน แรงกระแทก ความร้อนและสารเคมี
  • ให้ผิวสัมผัสเหมือนจริงและเลือกได้หลากหลายดีไซน์ เช่น ลายผ้า ลายไม้ ลายหิน ลายหนัง ลายโลหะ ฯลฯ
  • ขอบประตูสามารถปิดขอบด้วยวัสดุลามิเนต/PVCสีเดียวกับหน้าบาน หรือเลือกทำสีสำเร็จจากโรงงาน
  • เพิ่มฟังชั่นการใช้งานได้ เช่น เจาะช่องกระจก ทำช่องระบายอากาศ/บานเกล็ด เซาะร่องลวดลายต่างๆ ฝังเส้นโลหะ Stainless หรือ Aluminum
  • รองรับการเจาะอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Digital door Lock ชุดล๊อคระบบมอร์ทิส โช้คประตู ตาแมว drop seal

บันได คือส่วนประกอบหนึ่งของตัวบ้านที่เชื่อมโยงระหว่างชั้นล่างและชั้นบน เป็นงานออกแบบที่สะท้อนถึงความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้าน ความใส่ใจรายละเอียดที่บ่งบอกถึงการให้ความสำคัญในการเลือกวัสดุและสี

ไม้จริง ยังคงมีความคลาสสิกเสมอไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนก็ตาม นอกจากความสวยงามจากธรรมชาติผ่านลวดลายบนพื้นบันไดแล้ว ความแข็งแรงของไม้ก็ให้สัมผัสที่เป็นเสน่ห์ไม่แพ้กัน

ไม้พื้นเอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood flooring)

สวย…ได้อารมณ์ไม้จริง”

เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนา ขึ้นมาเพื่อให้ใช้ทรัพยากรไม้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด โดยที่ยังคงให้อารมณ์ของไม้จริงที่หรูหรา แต่การใช้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม โครงสร้างหลักสำคัญคือส่วนของผิวหน้าที่ใช้ไม้จริงคุณภาพสูง เช่น ไม้สัก ไม้วอลนัท ไม้โอ๊ค หรือไม้ประเภทอื่นๆ ตามความนิยมในตลาด เคลือบผิวหน้าด้วยสี UV Acrylic Lacquer ที่มีคุณภาพและการคงทนสูงพร้อมนำไปติดตั้ง ส่วนแกนกลางของไม้ทำจากแผ่นไม้อัดวางสลับเสี้ยนเพื่อลดการหด-ขยายตัวของไม้

ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งาน ทำให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในงานตกแต่งภายใน ที่ต้องการความหรูหราจากวัสดุไม้จริง อาทิ เช่น โรงแรม คอนโด ที่พักอาศัย หรือ ร้านค้าที่ต้องการภาพลัษณ์หรูหรา

พบกับประตูหลายหลายรูปแบบ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ สำหรับบ้านของคุณ จาก BUMRUNGTHAI ที่งานสถาปนิก’65

BUMRUNGTHAI เตรียมนำประตูและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ไปให้คุณเลือกสำหรับบ้านของคุณ ที่บูธหมายเลข B202 ในงานสถาปนิก’65 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 26 เม.ย. – 1 พ.ค. 65 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 04/02/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a28,150.0028,250.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,823.0027,636.6828,750.00
ทองรูปพรรณ 90%1,640.7024,873.01n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,458.4022,109.34n/a
ทองรูปพรรณ 50%820.0012,431.20n/a
ทองรูปพรรณ 40%638.009,672.08n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,889.0028,637.24n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 04/02/2565


ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9534.5534.5535.1534.7534.9534.5534.8534.5534.7534.55
แก๊สโซฮอล์ 9134.2834.2834.8834.4834.6834.2834.5834.2834.4834.28
แก๊สโซฮอล์ E2033.4433.4434.0433.5433.8433.7433.4433.5433.44
แก๊สโซฮอล์ E8526.7426.7426.74
เบนซิน 9541.9642.8142.7642.4641.96
ดีเซล B729.9429.9432.3430.8431.4429.9430.6430.6430.8429.94
ดีเซล29.9429.9432.3430.8431.4429.9430.6430.6430.8429.94
ดีเซล B2029.9429.9432.3431.4430.6430.6429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม35.9635.9638.7937.3638.1935.96
แก๊ส NGV

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า