แสนสิริ เปิดเกมรุก พลิกโฉมอสังหาฯด้วยดีไซน์แนวคิด YOU-Centric
แสนสิริมองข้ามช็อต ปี 2565 พลิกโฉมอสังหาฯด้วยดีไซน์แนวคิด “YOU-Centric”
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 “แสนสิริ” แบรนด์อสังหาฯ อันดับหนึ่งของประเทศเปิดเกมรุกปี 2565 ประกาศแนวคิด “YOU-Centric” ให้ ‘คุณ’ ทุกคนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาโครงการบ้าน คอนโด และทาวน์โฮม หวังมัดใจลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย-ทุกเซกเมนต์ ครอบคลุมทุกความหลากหลาย ไลฟ์สไตล์ และการใช้ชีวิต พร้อมเตรียมคิกออฟแคมเปญสื่อสารการตลาดที่สุดแห่งปีhttps://02c464753aa0d69d597040d2826885f1.safeframe.googlesyndication.com/safeframe/1-0-38/html/container.html
และเปิดตัว ‘YOUniform’ ชุดยูนิฟอร์มพนักงานขายแนวคิดใหม่ที่ออกแบบบนพื้นฐานความเข้าใจในความหลากหลายของตัวตนพนักงานและประกาศจุดยืนเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของแสนสิริ เดือนมีนาคมนี้!
นายทศพร กรกิจ Head of Brand Team บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริใส่ใจ เข้าใจและให้ความสำคัญกับทุกความต้องการ วางกลยุทธ์สื่อสารการตลาดใหม่ที่จะเปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารกับลูกค้าของตลาดอสังหาฯ แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนกับแนวคิด “YOU-Centric”
คิดและใส่ใจละเอียดกว่าเดิม
“ในช่วงปีที่ผ่านมา เรามองเห็น Insight เกี่ยวกับความเป็นปัจเจกนิยม หรือ Individualism ของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น เพราะทุกวันนี้โลกของเราเปิดกว้างมากหากเทียบกับเมื่อก่อน เราจึงทำความเข้าใจลูกค้าผ่านตัวตนที่แท้จริง และนำมาตั้งต้นเป็นจุดศูนย์กลางในการพัฒนาโครงการและบริการให้ตอบโจทย์ทุกความเป็น ‘คุณ’ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่แสนสิริให้ความสำคัญตลอดมา”
ทั้งนี้ คำว่า ‘YOU’ หรือ ‘คุณ’ ในความหมายของแสนสิริยังรวมไปถึงพนักงาน, คู่ค้าและสังคม โดยให้ความสำคัญกับความเป็น Global Citizen ผ่านการดำเนินธุรกิจควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุรักษ์โลกและการช่วยเหลือชุมชน คนตัวใหญ่ต้องช่วยคนตัวเล็ก ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมความเท่าเทียม เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ชุมชนที่มีความสุขและความยั่งยืนให้กับครอบครัวแสนสิริ ตอกย้ำแก่น ‘People’ หนึ่งในกุญแจขับเคลื่อนหลัก ภายใต้ ‘STEP BEYOND’ แผนธุรกิจของปีนี้
“แสนสิริเรามองว่ากลยุทธ์ YOU-Centric ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นการต่อยอดที่ผสมเข้ากับความใส่ใจในความเป็นตัวตนของลูกค้า คำว่า ‘Customer-Centric’ แบบเดิมไม่พอ ทุกวันนี้ โลกของเราเปิดกว้างในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นตัวตนที่แท้จริง เพศ ความสนใจ หรือแม้แต่อายุ เพราะฉะนั้นการที่เราจะตั้งโจทย์ว่าลูกค้าเราคือใครจากกฎเกณฑ์เดิม ๆ อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่ากับการทำความรู้จักลูกค้าผ่านตัวตนที่แท้จริง” ทศพร กล่าวเสริม
Beauty Standard เทรนด์ใหม่บนโลกโซเชียล
ข้อมูลจากรายงาน ‘ถอดรหัส 3 เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2564’ ของ Wisesight ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดียอันดับหนึ่งในประเทศไทย ระบุว่า ความเป็นปัจเจกนิยม (Individualism) เป็น 1 เทรนด์หลักที่นักการตลาดต้องจับตาในปี 2564-2565 เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป คนให้ความสำคัญและเปิดกว้างกับความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคลที่แตกต่างหลากหลายชัดเจนมากขึ้นทั้งในด้านอายุ, เพศ, รูปร่าง, ฐานะ, หน้าตาและสีผิว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องคุณค่าความงาม (Beauty Standard) ที่เกี่ยวข้องกับความงามที่เป็นมาตรฐานในการประกวดนางงามจักรวาล (Miss Universe 2021) กลายเป็นประเด็นยอดฮิตลำดับที่ 3 ของปี 2564 ที่ผ่านมา ด้วยการพูดถึงเรื่องนี้มากถึง 24,000 ข้อความ และมีเอ็นเกจเมนต์สูงถึง 10 ล้านเอ็นเกจเมนต์ จนเกิดเป็นกระแสสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าที่เป็นปัจเจกของแต่ละคนบนโลกโซเชียล และยุติการให้ค่ากับมาตรฐานใดมาตรฐานหนึ่ง แต่ให้ความสำคัญกับทุกคุณค่าของความเป็นตัวตนที่แตกต่างกันของทุกคน
นอกจากนั้น คนยุคนี้ต้องการความสุขในการใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้น บ้านจึงต้องเป็นเป็นสถานที่ที่เติมเต็มทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของแต่ละบุคคลให้ได้
เปิดโลกดีไซน์ 46 โครงการใหม่ มูลค่า 5 หมื่นล้าน
ดังนั้น กลยุทธ์ “YOU-Centric” จะถูกถ่ายทอดผ่านการนำเสนอโครงการและบริการของแสนสิริ ที่มาจากกระบวนการคิด ทำความเข้าใจและให้ความสำคัญกับความเป็น ‘คุณ’ ทุกคนอย่างแท้จริง ผ่านการเปิดตัว 46 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ทุกระดับราคา
มาพร้อมกับดีไซน์และฟังก์ชัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ตั้งแต่คอนโดมิเนียมราคาเริ่มต้นไม่เกินล้านบาทและบ้านราคาเริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้านบาท ไปถึงโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ภายใต้ Sansiri Luxury Collection
ขณะที่ด้านการดูแลลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกและตลอดช่วงการอยู่อาศัยกับแสนสิริ เพื่อมอบความสะดวกสบาย ความอุ่นใจในการใช้ชีวิตและการอยู่อาศัยของ ‘คุณ’ ทุกคน อาทิ ‘YOU Financial Support’ การให้คำปรึกษาด้านการเงิน, การกู้ (ร่วม), การหาข้อเสนอที่ดีจากธนาคารต่าง ๆ ให้หลากหลายและตอบโจทย์ที่สุด, ‘แสน Smooth’ มอบประสบการณ์ซื้อบ้านให้สมูธที่สุด ง่ายในทุกเสต็ปตั้งแต่ เลือกบ้าน, กู้บ้าน, โอนบ้านและย้ายเข้าอยู่, ‘พลัส พร็อพเพอร์ตี้’ ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ และ ‘LIV 24’ บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง
“นอกจากการนำเสนอโครงการและบริการที่คิดมาจากความเป็น ‘คุณ’ ของลูกค้าอย่างแท้จริงแล้ว เราเชื่อว่า กลยุทธ์ “YOU Centric” จะเป็นมิติใหม่ที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยอีกด้วย เราจะได้เห็นการออกแบบที่หลากหลายและโดดเด่นในด้าน Uniquely Design เช่น ทาวน์โฮมแบรนด์สิริ เพลส ซีรีส์ใหม่ ‘Dream Destination’ ออกแบบและได้แรงบันดาลใจจากสถานที่ท่องเที่ยวในฝัน อย่างมหานครนิวยอร์ก, เมืองโตเกียว, เมืองปารีสและเมืองอัมสเตอร์ดัม”
เร็ว ๆ นี้ บริษัทเตรียมคิกออฟไอเทมแรกของ “YOU-Centric” กับ ‘YOUniform’ ชุดยูนิฟอร์มใหม่ของพนักงานขายแสนสิริ ที่ถูกออกแบบบนพื้นฐานความเข้าใจในรูปร่างที่หลากหลายของพนักงาน เหมาะสมกับการใช้งานจริงและเป็นมิตรกับลูกค้าและโลกของเรา
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
ส่องโรดแมพ‘เอสซี-แอลพีเอ็น’ เคลื่อนทัพก้าวข้ามวิกฤติมุ่งโตยั่งยืน
วิกฤติโรคระบาดรุนแรงครั้งนี้ทำให้ค่ายอสังหาฯต้องเปลี่ยนโรดแมพไปอย่างสิ้นเชิงบิ๊กคอร์ป “เอสซี แอสเสท” ชู 3 ยุทธศาสตร์ “เติบโต-เชื่อมต่อ-ยั่งยืน” ขับเคลื่อนองค์กร 4 ปีสร้างรายได้แสนล้าน! ขณะที่ “แอล.พี.เอ็น.” เขย่าโครงสร้างองค์กร หวัง “เทิร์นอะราวด์” ในปี 2569
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) ประเมินว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาฯ พ้นจุดต่ำสุดแล้ว ในปี 2565 ตลาดจะกลับมาคึกคักขึ้นจากการแข่งขันของผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ที่สามารถเข้าถึงเงินทุนได้มากกว่ารายเล็ก โดยเฉพาะตลาดแนวราบที่กลายเป็นโซลูชั่นของวิถีโลกยุคใหม่จึงมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากตัวเลขยอดขายบ้านในปีที่ผ่านมาเติบโต 29% คิดเป็นมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบหลายสิบปีทำให้แนวราบยังไปได้ดี
“ขณะที่ดีมานด์คอนโดมิเนียมไม่ได้ลดลง แต่ซัพพลายเริ่มลดลง ทว่าสัญญาณที่ดีในปีนี้คือสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย หลายประเทศเริ่มมีนโยบายผ่อนคลายมากขึ้น หวังว่าครึ่งปีหลังต่างชาติเดินทางเข้ามาได้ตามปกติ และในปี2566 ตลาดคอนโดน่ากลับมาดีขึ้น”
ดังนั้นแนวทางการขับเคลื่อนเอสซีแอสเสท 4 ปีจากนี้ วาง 3 ยุทธศาสตร์ในการผลักดันให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนบนวิถีโลกใหม่และสามารถสร้างรายได้ 1 แสนล้านบาทตามเป้าหมาย
ยุทธศาสตร์แรก เน้น “เติบโต” บนสมรภูมิเดิม และน่านน้ำใหม่ โดยตั้งเป้าหมายรายจากโครงการอสังหาฯ เพื่อขายซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลัก แนวราบสร้างรายได้ 20,000 ล้านบาท ในปี 2568 และเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ขณะที่คอนโดจะเป็นแบรนด์คอนโดอันดับ 1 สำหรับคน Gen Y พร้อมกับเปิดโครงการใหม่มูลรวม 20,000 ล้านบาท ในปี 2565-2568
พร้อมสร้าง “Growth Engine” ตัวที่สอง เพื่อเพิ่มสัดส่วนของกำไรจากโอกาสใหม่จาก ไฮบริด เวิร์คเพลส, เวเคชั่น โฮเทล, แพลตฟอร์มรู้ใจ โซลูชั่น รวมถึงการซื้ออาพาร์ทเมนท์ให้เช่าในสหรัฐ เป็นต้น
ยุทธศาสตร์ที่สอง เป็นการ “เชื่อมต่อ” เพื่อสร้างคุณค่าที่มากกว่าด้วยนวัตกรรมที่เชื่อมต่อถึงสินค้าและบริการ ภายใต้วิธีคิดแบบลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่าน Blockchain Technology รวมทั้งพนักงาน
ยุทธศาสตร์ที่สาม “ยั่งยืน สร้างคุณค่า สู่ผู้คนและสิ่งแวดล้อม” โดยตั้งเป้าหมายลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ลง 20% ภายในปี 2568 เพื่อเป็นองค์กรที่เติบโตควบคู่กับความใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ในปีนี้ เอสซี แอสเสท ตั้งเป้าหมายรายได้และยอดขายที่ 22,000 ล้านบาท โดยเปิด 27 โครงการใหม่ มูลค่า 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 25 โครงการ มูลค่า 33,500 ล้านบาท ซึ่งมากกว่า 70% เป็นบ้านเดี่ยวราคามากกว่า 10 ล้านบาท และ เอสซี เป็นผู้นำในตลาดนี้ ส่วนคอนโดเปิด 2 โครงการมูลค่า 6,500 ล้านบาท บนทำเล รถไฟฟ้า BTS 2 สถานี คือ วงเวียนใหญ่ และ ทองหล่อ’
ทางด้าน โอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวล ลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ปรับยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตจาก 3 ปี เป็น 5 ปี โดยนับเริ่มต้นในปี 2565-2569 ซึ่งยังคงเป้าหมายการเติบโต ทั้งด้านรายได้ กำไร ผ่านการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ โดยการใช้ข้อมูล (Big Data) มาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าเพื่อการพัฒนาทั้งบ้านพักอาศัย และอาคารชุดพักอาศัย ให้มีฟังก์ชันการใช้งาน ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ ในระดับราคาที่เหมาะสม (Affordable Price) พร้อมขยายกลุ่มลูกค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่
แอล.พี.เอ็น.ได้มีการเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร รวมไปถึงการปรับแนวคิดในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัวในการตัดสินใจ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่าย และต้นทุนในการดำเนินงาน ยกระดับบริหารประสบการณ์ลูกค้าเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร โดยมีเป้าหมายในการสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 16,000 ล้านบาท ในปี 2569
“หลังจากที่เราสามารถก้าวข้ามผ่านความเสี่ยงทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในปี 2564 สามารถรักษาความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรไว้ได้ในอัตราที่เหมาะสม ถึงแม้จะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ทุกภาคธุรกิจต้องปรับตัวรวมทั้งธุรกิจอสังหาฯ”
สำหรับปี 2565 มีแผนเปิดตัว 16 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท เป็นอาคารชุดพักอาศัย 5 โครงการมูลค่า 7,000 ล้านบาทที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กระจายไปในทำเลต่างๆ หลากหลายทำเล และบ้านพักอาศัยระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท 10 โครงการ มูลค่า 3,300 ล้านบาท และบ้านพักอาศัยระดับราคาเกิน 10 ล้านบาท 1 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท โดยมีงบลงทุนซื้อที่ดิน 4,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในปี 2565-2566
“ตั้งแต่ปี 2565-2569 แอล.พี.เอ็น. วางแผนพัฒนาโครงการใหม่ไม่น้อยกว่า 70 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท ยอดขายรวมสะสม 5 ปี 50,000 ล้านบาท”
โดยวางเป้าหมายยอดขายปี 2565 ที่ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% เทียบปี 2564 มียอดขาย 8,900 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
คิง เพาเวอร์ หนุนอารยสถาปัตย์ ดูแลผู้พิการ ผู้สูงอายุ สานพลังความเท่าเทียม
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ตอกย้ำความเป็นองค์กรรับผิดชอบต่อสังคม สานพลังความเท่าเทียม นำอารยสถาปัตย์ ดูแลผู้พิการ ผู้สูงอายุ ล่าสุด รับประกาศเกียรติคุณรางวัล Friendly Design Awards ปี 2565
นางสาวกรอบแก้ว ปันยารชุน รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณรางวัล “Friendly Design Awards ประจำปี 2565 ประเภท ห้องสุขาอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ซึ่งมอบให้กับองค์กรที่ส่งเสริม สนับสนุน ทำคุณประโยชน์ทางด้านอารยสถาปัตย์ เพื่อผู้พิการ ผู้สูงอายุ และคนทั้งมวล
จากนายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในงาน “Thailand Friendly Design Expo 2022 : มหกรรมอารยสถาปัตย์ และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 5”
การรับรางวัลในครั้งนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นหนึ่งใน 100 องค์กรชั้นนำของประเทศไทย ที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกจากมูลนิธิอายรสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ภายใต้โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย สุขา สุขใจ ที่ดำเนินการสร้างห้องน้ำชุมชนในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อยกระดับคุณภาพสาธารณูปโภค
และสร้างมาตรฐานด้านความสะอาดของห้องน้ำในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ให้ทัดเทียมระดับสากล โดยมีรูปแบบ ‘Universal Design’ สำหรับชาย หญิง และผู้พิการ เพื่อให้เป็นห้องน้ำของทุกคน ที่สะอาด สะดวก ปลอดภัย ได้เอกลักษณ์และยั่งยืน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ช้างศึก” ฟีฟ่าแรงกิ้งขยับ 3 ขั้น รั้งที่ 112 ของโลก, “เวียดนาม” ยังไม่หลุดท็อป 100
ฟีฟ่า ประกาศอันดับแรงกิ้งโลกของฟุตบอลชาย ทีมชาติไทย ขยับจากอันดับ 115 ขึ้นมาอยู่ที่ 112 ของโลก
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ประกาศอันดับแรงกิ้งโลกของฟุตบอลชาย ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยเบอร์ 1 ของโลกยังคงเป็น เบลเยียม ส่วนอันดับที่ 2 และ3 เป็นบราซิล – ฝรั่งเศส ตามลำดับ
ทีมชาติไทย หลังจากที่คว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 มาครอง จากอันดับ115 ขึ้นมาอยู่ที่ 112 ของโลก มีคะแนน1,160.14 คะแนน ขณะ ทีมชาติเวียดนาม ยังไม่หลุดท็อป 100 โดยรั้งเบอร์ 98 ของโลก
สำหรับ ทีมชาติไทย ที่ขึ้นมาอยู่ที่ 112 ของโลก จะได้อยู่โถ 2 ก่อนการจับสลากแบ่งกลุ่ม ฟุตบอล เอเชียน คัพ รอบคัดเลือกที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ และทำการแข่งขันในช่วงเดือนมิถุนายน 2565
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ดีปลี ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
ดีปลี งานวิจัยและสรรพคุณ 20ข้อ
ชื่อสมุนไพร ดีปลี
ชื่ออื่นๆ ประดงข้อ ,ปานุน (ภาคกลาง) , ดีปลีเชือก (ภาคใต้) , พิษพญาไฟ , ปีกผัวะ , cabe jawa(อินโดนีเซีย) ,chabai jawa (มาเลเซีย) , Sali (ลาว)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Piper retrofractum Vahl.
ชื่อพ้อง P. chaba Hunter non Blume , P. officinarum DC. P.callosum Oprz, P.longum Blume, P.maritinum Opiz, P.sarmentosum Wall., P.arnottianum C.DC.
ชื่อสามัญ Long pepper, Indian long pepper, Javanese long pepper
ถิ่นกำเนิดดีปลี
ดีปลีเป็นพืชเมืองของเอเชียตุวันออกเฉียงใต้ มีถิ่นกำเนิดที่เกาะโมลัคคาส (Moluccas) ในมหาสมุทรอินเดียและได้มีการนำมาปลูกและเกิดการแพร่กระจายในทางตอนใต้ของประเทศไทย รวมถึงในประเทศมาเลเซียและอินเดีย
ประโยชน์และสรรพคุณดีปลี
- ช่วยขับลม แก้จุกเสียด
- ช่วยขับเสมหะ
- แก้หืด
- แก้หลอดลมอักเสบ
- แก้นอนไม่หลับ
- แก้ลมบ้าหมู
- เป็นยาขับน้ำดี
- เป็นยาขับระดูทำให้สตรีเกิดอาการแท้งบุตร
- เป็นยาขับพยาธิในท้อง
- ใช้เป็นยาทาภายนอกสำหรับบรรเทาอาการปวดที่กล้ามเนื้อ
- แก้ลมอัมพาต
- แก้เส้นปัตตะฆาต
- แก้เส้นอัมพฤกษ์
- แก้คุดทะราดให้ปิดธาตุ
- แก้โรคหลอดลมอักเสบ
- ช่วยบำรุงธาตุ
- แก้ริดสีดวงทวาร
- ช่วยระงับอชินโรคหรือโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หาย
- ช่วยลดอาการเสียงแหบแห้งได้
- ช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง
ผลดีปลี สามารถใช้รักษาแก้พิษงู ช่วยขับเสมหะ ลดอาการคันคอ ลดอาการไอ ช่วยลดไข้หวัด แก้อาการปวดฟัน แก้พิษอัมพฤกษ์ อัมพาต แก้อาการปวดเมื่อย แก้เส้นเอ็นดึงรั้ง แก้ท้องร่วง ช่วยขับลมในลำไส้หรือระบบทางเดินอาหาร แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้หอบหืด แก้ริดสีดวง แก้เป็นลมวิงเวียนศีรษะ ช่วยบำรุงธาตุ ใช้เป็นยาขับระดูและยาธาตุ
รากดีปลี แก้พิษอัมพฤกษ์ อัมพาต ช่วยลดไข้ แก้พิษคุดทะราด แก้ท้องร่วง แก้อาการจุกเสียด แก้โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ แก้ธาตุไม่ปกติ ช่วยระบายแก๊สในกระเพาะอาหาร
เถาดีปลี ขับเสมหะ แก้ปวดฟัน ปวดท้องจุกเสียด แก้ท้องขึ้น แก้อืดเฟ้อ แก้ท้องร่วง ฝนน้ำทาแก้ฟกช้ำ แก้ปวดเมื่อยตามตัว แก้ทางเดินปัสสาวะไม่ปกติ อัมพฤกษ์ แก้พิษงู
ใบดีปลี แก้หืดไอ แก้ปวดเมื่อย แก้เส้นเอ็น
ดอกดีปลี แก้อาการคลื่นไส้ แก้ลมวิงเวียน แก้อัมพาต แก้เส้นอัมพฤกษ์ ใช้เป็นยาธาตุ ช่วยขับลมในลำไส้ แก้ท้องร่วง แก้ปวดท้อง แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้โรคหืดหอบ ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ แก้โรคหลอดลมอักเสบ แก้โรคริดสีดวงทวาร
ตำรายาไทย: ดีปลีจัดอยู่ใน “พิกัดตรีกฎุก” แปลว่าของที่มีรสร้อน 3 อย่าง เป็นพิกัดยาที่ประกอบด้วยเครื่องยา 3 อย่าง ในปริมาณเสมอกันคือ พริกไทย ขิงแห้ง และดีปลี มีสรรพคุณแก้โรคที่เกิดจากวาตะ(ลม) เสมหะ และปิตตะ(ดี) ในกองธาตุ กองฤดู กองอายุ และกองสมุฏฐาน “พิกัดตรีสันนิบาตผล(ตรีสัพโลหิตผล)” คือการจำกัดตัวยาแก้ไข้สันนิบาต 3 อย่าง คือ ผลดีปลี รากพริกไทย และรากกระเพราแดง มีสรรพคุณแก้ไข้สันนิบาต แก้ในกองลม บำรุงธาตุ แก้ปถวีธาตุ 20 ประการ “พิกัดตัวยาเผ็ดร้อน 6 ชนิด” คือการจำกัดจำนวนตัวยาเผ็ดร้อน 6 ชนิด คือ ดีปลี พริกไทย ผลผักชีลา ใบแมงลัก ผลกระวาน ใบโหระพา มีสรรพคุณแก้ลมจุกเสียด ช้ำบวม ช่วยย่อยอาหาร “พิกัดเบญจกูล” คือการจำกัดจำนวนตระกูลยาที่มีรสร้อน 5 อย่าง มี เหง้าขิงแห้ง ดอกดีปลี รากช้าพลู เถาสะค้าน รากเจตมูลเพลิง มีสรรพคุณกระจายกองลมและโลหิต แก้คูถเสมหะ แก้ลมพานไส้ บำรุงกองธาตุทั้ง 4 ให้บริบูรณ์
ตำรายาพระโอสถพระนารายณ์:ปรากฏตำรับ “ยาอาภิสะ” มีดีปลีเป็นองค์ประกอบหลักร่วมกับสมุนไพรอื่นอีกหลายชนิด มีสรรพคุณแก้ริดสีดวง ไอ ผอมแห้ง แก้เสมหะในทรวงอกและลำคอ
นอกจากนี้บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) ปรากฏการใช้เมล็ดเทียนดำ ในยารักษาอาการโรคในระบบต่างๆของร่างกาย รวม 5 ตำรับ คือ
1.ยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏตำรับ ”ยาหอมนวโกฐ” มีส่วนประกอบของดีปลี ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณในการแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน แก้ลมจุกแน่นในท้อง
2. ยารักษากลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร ปรากฏตำรับ “ยาธาตุบรรจบ” มีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณ บรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อ ตำรับ “ยาประสะกานพลู” มีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย เนื่องจากธาตุไม่ปกติ ตำรับ”ยาเหลืองปิดสมุทร” มีส่วนประกอบของดีปลี ร่วมกับสมุนไพรอื่นอีก 12 ชนิดในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูก หรือมีเลือดปนและท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้
3.ยารักษากลุ่มอาการทางสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ปรากฏตำรับ “ยาประสะไพล” มีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ ใช้ในสตรีที่ระดูมาไม่สม่ำเสมอ หรือมาน้อยกว่าปกติ
คุณค่าทางโภชนาการของดีปลี
ดีปลีในปริมาณ 149 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
พลังงาน 46.2 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 1.5 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 9.4 กรัม, วิตามินเอ 4666 IU, วิตามินซี 190 มิลลิกรัม, วิตามินอี 2.4 มิลลิกรัม, วิตามินเค 7.3 ไมโครกรัม, ไทอามีน 0.1 มิลลิกรัม, ไรโบฟลาวิน 0.1 มิลลิกรัม, วิตามินบี 6 0.4 มิลลิกรัม, โฟเลต 68.5 ไมโครกรัม, ไขมัน 0.4 กรัม, แคลเซียม 10.4 มิลลิกรัม, แมกนีเซียม 17.9 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 38.7 มิลลิกรัม, โซเดียม 6 มิลลิกรัม, เซเลเนียม 0.1 ไมโครกรัม, โปรแตสเซียม 314 มิลลิกรัม, สังกะสี 0.4 มิลลิกรัม, โอเมก้า 3 37.2 มิลลิกรัม, โอเมก้า 6 67 มิลลิกรัม, โคลีน 8.3 มิลลิกรัม, ไนอะซิน 1.5 มิลลิกรัม
รูปแบบวิธีการใช้และปริมาณที่ใช้ดีปลี
• อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และปวดท้อง และแก้อาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดจากธาตุไม่ปกติ โดยใช้ผลดีปลีแก่แห้ง 1 กำมือ (ประมาณ 10-15 ผล) ต้มเอาน้ำดื่ม ถ้าไม่มีผลใช้เถาต้มแทนได้
• อาการไอ และขับเสมหะ ใช้ผลแห้งแก่ ประมาณครึ่งผล ฝนกับน้ำมะนาวแทรกเกลือเล็กน้อย กวาดคอ หรือจิบบ่อยๆ
• ผลดีปลีแห้งใช้เป็นเครื่องเทศ ประกอบอาหาร มีรสเผ็ดร้อน ขม
• ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ด้วยการใช้ดอกดีปลี 10 ดอก หัวแห้วหมู 10 หัว พริกไทย 10 เม็ด นำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งแท้ ใช้รับประทานก่อนนอนทุกคืน (ดอก)
• ช่วยแก้ไข้เรื้อรังหรืออาการไข้ที่มักเป็น ๆ หาย ๆ ด้วยการใช้ดอกดีปลีล้างสะอาด นำมาบดหรือตำพอหยาบ ๆ ประมาณครึ่งแก้ว นำมาต้มกับน้ำ 4 แก้ว จนเหลือ 1 แก้ว แล้วกรองเอาแต่น้ำมาดื่มกินขณะท้องว่างวันละ 2 ครั้ง และสูตรนี้ยังช่วยลดอาการม้ามโตได้อีกด้วย (ดอก)
• ช่วยแก้อาการเจ็บในลำคอ ด้วยการใช้ดอกดีปลี 3 ดอก ผิวมะนาว 1 ลูก หัวกระเทียม 3 กลีบ และพริกไทยล่อน 3 เม็ด นำทั้งหมดมาตำให้ละเอียด แล้วผสมกับน้ำมะนาวและคลุกให้เข้ากัน นำมาปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเม็ดพุทรา แล้วใช้อมบ่อย ๆ (ดอก)
• ช่วยลดอาการเสียงแหบแห้งได้ ด้วยการใช้ผงดีปลีผสมกับสมอไทยอย่างละ 5 กรัมจนเข้ากัน แล้วผสมกับน้ำอุ่นไว้ดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 2 ครั้ง (ผล)
• ช่วยแก้ริดสีดวงทวารหนัก โดยใช้ดอกดีปลี 10 ดอก เมล็ดงาดำดิบ 20 กรัม นำมาบดให้ละเอียดผสมกับนมดื่มวันละ 1 แก้ว ติดต่อกัน 15 วัน (ผล, ดอก, เถา)
ลักษณะทั่วไปดีปลี
o ต้นดีปลี จัดเป็นไม้เถามีรากฝอยออกบริเวณข้อเพื่อใช้ยึดเกาะและเลื้อยพัน เถาค่อนข้างเหนียวและแข็ง มีข้อนูน แตกกิ่งก้านสาขามาก เจริญเติบโตได้ดีในที่ชุ่มชื้น มีแสงแดดรำไร
o ใบดีปลี มีใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะเป็นรูปไข่แกมขอบขนาน ใบมีสีเขียวเข้มเป็นมัน ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-10 เซนติเมตร มีเส้นใบออกจากโคนประมาณ 3-5 เส้น ส่วนก้านใบยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร
o ดอกดีปลี หรือ ผลดีปลี ผลสดมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ลักษณะของผลอัดกันแน่นเป็นช่อรูปทรงกระบอก โคนใหญ่กว่าปลายไม่มาก ปลายเล็กมน ผลมีความยาวประมาณ 2.5-7.5 เซนติเมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-8 เซนติเมตร ผิวของผลค่อนข้างหยาบ และมีเกสรตัวเมียติดอยู่ ผลย่อยมีเมล็ดเดียว โดยเมล็ดมีขนาดเล็กมาก ลักษณะกลมและแข็ง ผงของผลมีสีน้ำตาล มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีรสเผ็ดร้อน ขมปร่า นิยมเก็บผลมาใช้เมื่อผลเริ่มเป็นสีน้ำตาล แล้วนำมาตากแดดให้แห้ง
ส่วนที่นำมาใช้เป็นยาสมุนไพรได้แก่ ส่วนของดอก ใบ ผลแก่จัดแต่ยังไม่สุก หรือตากแดดให้แห้ง เถา และรากดีปลี
การขยายพันธุ์ดีปลี
ดีปลีเป็นไม้เลื้อยที่ชอบพื้นที่ชุ่ม ดินร่วมซุย ไม่มีน้ำท่วมขัง สามารถเติบโตได้ดีในทุกสภาพดิน จึงเห็นได้ในทุกภาคของไทย
การปลูก และการดูแล ดีปลี ต้องเตรียมหลักให้เลื้อยพันตั้งแต่ปลูก หลักควรมีความสูง 1.50 เมตร ถ้าสูงเกินไปจะเก็บเกี่ยวยาก จะใช้เสาปูนก็ได้แต่ดีปลีจะไม่ค่อยเกาะในระยะแรกเนื่องจากเสาปูนร้อน และไต่พันยากกว่าขึ้นต้นไม้ ถ้าจะใช้ต้นไม้บางชนิดเป็นหลักก็มีต้นทองหลางที่เหมาะมาก เนื่องจากทองหลางโตเร็วตัดยอดตัดกิ่งบังคับความสูงได้ วิธีใช้ ให้นำต้นทองหลางมาปลูกลงไปก่อน พอต้นทองหลางโตเป็นร่มแล้ว ก็เอาดีปลีมาปลูกที่โคน เมื่อทองหลางแตกยอดก็ตัดยอดไม่ให้สูงไปกว่านั้น
ดีปลีจะเอายอดหรือไหลมาชำก็ได้ แต่นิยมใช้ยอดมากกว่าเพราะให้ผลผลิตได้เลย ถ้าใช้ไหลปลูกใช้เวลาหลายปีกว่าจะออกดอก ยอดที่จะนำมาชำให้ใช้ยอดกระโดงหรือยอดที่แยกออกด้านข้าง ตัดต่ำกว่ายอดลงมา 5 ข้อแล้วเอาดินเหนียวหุ้ม 2 ข้อล่าง เพื่อเพิ่มความชื่นให้แตกรากเร็วขึ้นไม่เช่นนั้นจะเหี่ยวเฉา จากนั้นจึงนำยอดไปชำลงในถุงจนกระทั่งแตกรากแล้วจึงนำไปปลูกที่โคนเสาหรือต้นทองหลาง อาจต้องใช้ลวดหรือเชือกมามัดหลวมๆ ในระยะแรก
คอยรักษาความชุ่มชื้นในดินให้สม่ำเสมอในระยะแรก อย่าให้น้ำท่วมขัง เมื่อต้นแข็งแรงจะออกรากมาช่วยเกาะหลัก ถ้าปลูกกับเสาก็ตัดเชือกออกได้ ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักคลุกดินรอบโคนต้นจะช่วยให้แข็งแรงและเติบโตดี
การเก็บเกี่ยวดีปลี
ถ้าดินมีความชุ่มชื้นได้น้ำตลอดปี ไม่แฉะเกินไป จะออกดอกได้ผลทั้งปี หน้าฝนผลจะดกแต่การตากให้แห้งทำได้ลำบาก หน้าแล้งผลผลิตลดลง แต่เก็บเกี่ยวตากแห้งได้สวยกว่า ส่วนที่เก็บเกี่ยวคือ ผล จะเก็บเมื่อผลกลางอ่อนกลางแก่ คือเริ่มมีสีแดงเรื่อๆ ปนเขียว เป็นระยะที่ดีปลีมีกลิ่นฉุนจัดที่สุด ถ้ารอให้สุกแดงจะเละเกินไป
ฤทธิ์ทางเภสัชของดีปลี
สารสำคัญ ในผลดีปลี คือ piperine เป็นสารที่มีผลต่อ TRPV1 ซึ่งมีผลต่อการปวด๔ นอกจากนี้จากการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ชั้นเอทธานอลของดีปลียังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) ทั้งฤทธิ์ต้านการอักเสบเฉียบพลัน และฤทธิ์ต้านการ อักเสบกึ่งเรื้อรัง ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (anti-oxidant)
มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ต้านการเกิดแผลที่กระเพาะอาหาร ต้านออกซิเดชั่น กดประสาทส่วนกลาง เสริมฤทธิ์ยานอนหลับ ลดไขมันในเลือด ลดน้ำตาลในเลือด ต้านพิษต่อตับ ทำให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว
งานศึกษาที่เกี่ยวข้องของดีปลี
o คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการศึกษาผลดีปลี พบว่า สาร piperlonguminine ในผลสดของดีปลีสามารถต้านการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานินในผิวหนังได้ และยังพบว่า สารสกัดจากผลดีปลีสามารถออกฤทธิ์ลดอาการระคายเคืองของเยื่อบุกระเพาะอาหาร ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคกระเพาะอาหารได้
o ในประเทศอินเดีย มีรายงานว่ามีการใช้ดีปลีในการนำมาปรุงอาหาร เพราะดีปลีมีคุณสมบัติช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และยังแนะนำว่า ผลดีปลีแห้งควรนำมาใช้ทันที และไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 1 ปี เพราะหากเก็บไว้นานกว่านี้สรรพคุณ และฤทธิ์ทางยาจะน้อยลง
o จากการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าดีปลีมีฤทธิ์ต้านการอ็อกซิไดส์ของเซลล์ได้ จึงนิยมใช้ผลดีปลีเป็นส่วนประกอบของยาต้านเซลล์มะเร็ง และรักษาโรคมะเร็ง
o การวิจัยสารสกัดจากผลดีปลี พบสารหลายชนิด และนำสารต่างๆมาทดสอบฤทธิ์ในการฆ่าแมลง พบว่า guineensine และ piperine สามารถฆ่าหนอนกระทู้ผักได้
การศึกษาทางพิษวิทยาของดีปลี
• มีการศึกษาพิษเฉียบพลัน (acute toxicity test) ในหนูถีบจักรโดยใช้สารสกัดอัลกอฮอล์ (50%) จากสมุนไพรไทยชนิดต่างๆ กรอกเข้าทางปากหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง แล้วดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสัตว์ทดลองในระยะ 3 ชม.แรกอย่างใกล้ชิด ต่อจากนั้นคือ ในระยะ 12, 24 และ 72 ชม. หลังให้สารสกัดจะทำการตรวจสอบจำนวนสัตว์ทดลองที่ตาย เนื่องจากพิษของสารสกัดซึ่งในการทดลองนี้มีการทดสอบสารสกัดจากดอกดีปลี พบว่า สารสกัดขนาด 10 ก./กก. ซึ่งเทียบเท่ากับ 250 เท่าของขนาดรักษาในคน พบว่าสารสกัดขนาดดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดพิษในหนูถีบจักร
• การทดลองฉีดสารสกัดเอทานอล (90%) จากผลแห้งเข้าทางช่องท้องหนูถีบจักร พบว่า LD50 เท่ากับ 500 มก./กก.
• การทดลองให้สารสกัดเอทานอล (95%) จากผลแห้งทางกระเพาะอาหารหนูถีบจักร พบว่า LD50 เท่ากับ 87.4 ก./กก.
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
• ไม่ควรบริโภคดีปลีในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจจะทำให้กระเพาะอักเสบ แสบทวารเวลาขับถ่ายได้
• สำหรับผู้ที่เป็นไข้ ไม่ควรรับประทานดีปลี เพราะจะทำให้เป็นร้อนในด้วย
• เกิดการอักเสบของเยื่อบุในระบบทางเดินอาหารจนเกิดเลือดออกได้
• หญิงตั้งครรภ์ ห้ามรับประทานดีปลีเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้แท้งบุตรได้
ขอบคุณข้อมูลจาก disthai.com
ไม่ต้องกลัวโดนแฮกตั้งค่ายืนยันตัวตน 2 ชั้น Google ยันปลอดภัยขึ้น 50%
สาวก Google ต้องรอด ใครใช้บัญชี Gmail ล็อกอิน YouTube อยู่ทุกวันไม่ต้องกลัวโดนแฮกกันง่ายๆ เพราะหลังจากที่กูเกิลเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีสมาชิก ด้วยการตั้งค่ายืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน หรือ Two-step Verification (2SV) ให้เป็นค่าเริ่มต้น ก็ส่งผลให้บัญชีที่ถูกแฮกลดลงถึง 50%
Google ออกมาเปิดเผยว่ามีสมาชิกที่เปิดใช้ระบบนี้แล้วกว่า 150 ล้านบัญชี ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และ YouTube อีกกว่า 2 ล้านบัญชีที่ใช้วิธีนี้แทนการใช้รหัสผ่านในแบบเดิม
บัญชีที่มีการรักษาความปลอดภัยแบบ 2 ชั้น ทำให้แฮกเกอร์ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการถอดรหัส และมันสามารถยับยั้งการโจรกรรมข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นได้ แค่เข้าไปตั้งค่าเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ และอีเมลสำรอง เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนหากพบการล็อกอินเข้าระบบที่ผิดปกติ โดยไม่ต้องจำรหัสผ่าน
ต้องยอมรับว่าตอนนี้บัญชี Google มีแนวโน้มในการใช้เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นๆ เพิ่มขึ้น ทั้งแอปธนาคาร โซเชียลมีเดีย และช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งการป้องกันความปลอดภัยด้วยวิธีรีเซ็ต Password ผ่านอีเมลในแบบเดิมอาจไม่เพียงพอ
Google รู้ดีว่าการยืนยันตัวตน 2 ชั้น อาจเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผู้ใช้งาน และกำลังมอ
งหาวิธีอื่นๆ เพื่อเสริมระบบความปลอดภัยของผู้ใช้ ทั้งซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยที่ใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟน และฮาร์ดแวร์ประเภทอุปกรณ์พกพาที่มีคีย์ความปลอดภัยติดตัวไปด้วย ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก techhub.in.th
10 เทคนิคแต่งบ้านสไตล์มินิมอลน้อยแต่มาก เรียบง่ายแต่อบอุ่น
- การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลแสดงให้เห็นถึงรสนิยมความเรียบง่าย อบอุ่น และปลอดภัย
- คอนเซ็ปต์ของการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล คือ Less is More เพราะฉะนั้นของในบ้านไม่จำเป็นต้องเยอะ แต่ฟังก์ชันต้องแน่น
- เทคนิคง่าย ๆ ในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล คือ ใช้สีเอิร์ธโทน, เฟอร์ฯ น้อยชิ้น, เลือกวัสดุเป็นไม้, มีแสงแดด, ปลูกต้นไม้, เติมกรอบรูป, ใช้ประตูบานเลื่อน และ มีพื้นที่ว่าง
หากจะพูดถึงรสนิยมการแต่งบ้านของคนปัจจุบัน เชื่อว่าร้อยละ 90 ให้ความสนใจในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล เพราะการแต่งบ้านแนวมินิมอล หรือการแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นนั้นมี Concept ที่ว่า Less is More ซึ่งหมายถึงการใช้โทนสีที่อบอุ่น เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่เต็มไปด้วยประโยชน์การใช้สอย ถ้าคุณอยากได้เทคนิคการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล Short Recap ได้รวบรวมเคล็ดลับที่จะเปลี่ยนบ้านคุณให้กลายเป็น Muji Store ขนาดย่อมไว้แล้วที่นี่
1. สี Earth Tone เท่านั้นที่คู่ควร
ในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกสี ควรเป็นสีเอิร์ธโทน อย่างสีน้ำตาล สีเขียว สีฟ้า ในเฉดที่ไม่ฉูดฉาด หรือจะเป็นสีโมโนโทนอ่อน ๆ ก็ได้ ซึ่งการแต่งบ้านแนวมินิมอลด้วยสีเหล่านี้จะทำให้ทุกครั้งที่คุณก้าวเข้าบ้านความอบอุ่นและความเรียบง่ายจะเข้ามาทักทายคุณทันทีเมื่อเปิดประตู
2. เฟอร์ฯ น้อย แต่ฟังก์ชันเยอะ
การเลือกเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม การแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นความมินิมอลนั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์จุกจิกหลายชิ้นจนล้นบ้าน ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ฟังก์ชันครบจบในหนึ่งเดียว เช่น เตียงนอนที่มีตู้เก็บของใต้เตียง หรือตู้เสื้อผ้าที่สามารถเก็บเครื่องประดับได้ด้วย เป็นต้น นอกจากนั้นในการแต่งบ้านแนวมินิมอล ต้องไม่ลืมที่จะเลือกสีของเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับโทนสีของบ้านด้วย
3. เลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือโลหะ
หลาย ๆ คนคงเคยเดินเข้าไปในร้าน Muji แล้วรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่บ้านในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคุณสามารถแต่งบ้านสไตล์มินิมอลแบบ Muji ตามได้ไม่ยาก เพียงคุณเลือกใช้วัสดุหรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเป็นไม้ เพราะความเป็นไม้จะทำให้บ้านของคุณดูคลีนและสะอาดตา หรือหากคุณชอบบ้านแนวดิบ ๆ สักหน่อย การเลือกใช้วัสดุที่เป็นโลหะตกแต่งบ้านสไตล์ Loft ก็ถือเป็นการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลที่น่าสนใจไม่เบา
4. เปิดช่องให้แสงแดดส่องผ่าน
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนั้นเน้นความอบอุ่น ซึ่งการมีหน้าต่างหรือการแต่งบ้านให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างทั่วถึงนั้น จะทำให้บ้านของคุณดูโปร่ง โล่ง สบายมากขึ้น วิธีการแต่งบ้านแนวมินิมอลง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้คือการเจาะเพดานทำ Skylight หรือ ทำหน้าต่างพร้อมม่านแบบโปร่งแสง เพียงเท่านี้ก็ทำให้บ้านในเมืองไทยของคุณกลายเป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นได้ในทันที
5. เติมธรรมชาติเข้าบ้านคือวิถีชาวมินิมอล
ในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือต้นไม้ เพียงคุณนำต้นไม้ฟอกอากาศ หรือไม้ประดับอื่น ๆ มาวางไว้บริเวณมุมห้อง ก็ทำให้การแต่งห้องแนวมินิมอลของคุณดูกรีนขึ้นทันตา หรือหากไม่ชอบต้นไม้ ลองเปลี่ยนเป็นดอกไม้มาปักแจกันใสก็ดูมินิมอลไปอีกแบบเช่นกัน
6. ให้กรอบรูปสร้างบรรยากาศ
การนำกรอบมารูปมาแปะผนังก็ถือเป็นการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลที่น่าสนใจอีกแบบ เพราะการมีรูปภาพติดฝาผนังจะเป็นการดึงดูดสายตาและเพิ่มความมินิมอลได้มากขึ้น ยิ่งเป็นกรอบรูปไม้ กรอบรูปสีขาวที่เข้ากับโทนสีของบ้าน หรือภาพลายเส้นมินิมอลที่ฮิต ๆ กัน ยิ่งทำให้การแต่งบ้านแนวมินิมอลของคุณดูอบอุ่นขึ้นทันตา หากคุณมีกรอบรูปแล้วแต่ยังไม่รู้จะติดยังไงไม่ให้รก อ่านเพิ่มเติม ติดกรอบรูปบนฝาผนังอย่างไรให้มีศิลปะ
7. เลือกประตูบานเลื่อน
หากใครเคยดูหนังญี่ปุ่นจะพบว่าการแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นนั้นจะเน้นการทำประตูบานเลื่อน ซึ่งการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลก็เช่นกัน การเลือกใช้ประตูบานเลื่อนนั้นจะเพิ่มกิมมิกให้กับบ้านคุณอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนั้นการใช้ประตูบานเลื่อนในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนั้นยังช่วยเซฟพื้นที่ใช้สอยขึ้นอีกมากเลยทีเดียว ยิ่งเป็นบานเลื่อนแบบโปร่งใสหรือใช้วัสดุที่เป็นไม้จะดีมาก ถือเป็นการเพิ่มความมินิมอลขึ้นไปอีกระดับ
8. เหลือ Space ไว้ให้หายใจ
คอนเซ็ปต์ของความมินิมอลคือ Less is More เพราะฉะนั้นในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล การเหลือพื้นที่ว่างไว้ให้บ้านดูโล่ง ๆ บ้างก็ดูจะสบายตาอยู่ไม่น้อย หากจัดสรรเฟอร์นิเจอร์และพื้นที่ว่างได้อย่างลงตัวและสมดุลแล้ว จะทำให้การแต่งบ้านแนวมินิมอลของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้น
9. วางเครื่องใช้ไฟฟ้าชิดขอบผนัง
เทคนิคการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลที่ห้ามลืม คือการจัดวางเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ชิดติดขอบผนังบ้านเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เตาอบ หรือเครื่องซักผ้า รวมไปถึงโต๊ะและเก้าอี้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ทางเดินในบ้าน และดูเป็นระเบียบมากขึ้น
10. เลือกโคมไฟทรงเรียบง่าย
สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับการแต่งห้องแบบมินิมอลคือโคมไฟ ควรเน้นรูปทรงที่เรียบง่าย และเลือกหลอดไฟสีขาวหรือส้มสลัว ๆ จะช่วยให้ห้องดูอบอุ่นมากขึ้น หรือเสริมด้วยไฟแต่งห้อง LED ก็ได้ ดูเก๋และน่ารักไปอีกแบบ
หัวใจหลักของการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลคือ Less in More คิดไว้เสมอว่าเฟอร์นิเจอร์ในบ้านต้องไม่เยอะ แต่ฟังก์ชันแน่น สีต้องเอิร์ธโทนหรือโมโนโทนเท่านั้น และไม่ลืมที่จะเติมธรรมชาติเข้าบ้านด้วยการปลูกต้นไม้ เท่านี้บ้านของคุณก็เรียกได้ว่าเป็นสไตล์มินิมอลแล้วล่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก shortrecap.co
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 11/02/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,200.00 | 28,300.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,827.00 | 27,697.32 | 28,800.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,644.30 | 24,927.59 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,461.60 | 22,157.86 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 822.00 | 12,461.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 639.00 | 9,687.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,893.00 | 28,697.88 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 11/02/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.05 | 35.05 | 35.15 | 35.05 | 35.05 | 35.05 | 35.45 | 35.05 | 35.05 | 35.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.78 | 34.78 | 34.88 | 34.78 | 34.78 | 34.78 | 35.18 | 34.78 | 34.78 | 34.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.94 | 33.94 | 34.04 | 33.94 | 33.94 | – | 34.34 | 33.94 | 33.94 | 33.94 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 27.24 | 27.24 | – | – | – | – | – | – | – | 27.24 |
เบนซิน 95 | 42.46 | – | – | – | 42.91 | – | 43.36 | 42.96 | – | 42.46 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 31.14 | 30.44 | 30.44 | 29.94 | 30.34 | 30.24 | 30.44 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | 31.14 | 30.44 | 30.44 | 29.94 | 30.34 | 30.24 | 30.44 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | 31.14 | – | 30.44 | – | 30.34 | 30.24 | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 35.96 | 35.96 | 37.59 | 36.96 | 37.19 | – | – | – | – | 35.96 |
แก๊ส NGV | – | – | – | – | – | – | – | – | – | – |