สาระน่ารู้ประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2565

มาตรการผ่อนคลาย LTV -ลดค่าโอนหมดสิ้นปี65 ตัวเร่งตัดสินใจซื้อบ้าน

“คุณาลัย” ประเมิน มาตรการผ่อน LTV-ลดค่าโอน-จดจำนองหมดอายุสิ้นปี 65 ตัวเร่งตัดสินใจซื้อบ้าน รับตลาด“อสังหา”แนวโน้มดีขึ้นเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4 / 2565  นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 8 – 10 ล้านคน ลุยออกแคมเปญดึงคนซื้อบ้านต่อเนื่องหลัง9เดือนกำไรอู้ฟู่  

การกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย กำลังซื้อนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา ส่งผลให้ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว

 นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ “KUN”  ประเมิน ว่า ภาพรวมอสังหาทรัพย์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากเศรษฐกิจในประเทศไตรมาส 4 / 2565 ที่เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศคาดว่าจะแตะที่ 8 – 10 ล้านคน ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นตามลำดับ

ขณะมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV)  และมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดจำนองที่จะหมดพร้อมกันในปลายปีนี้( ปี2565)  รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับขึ้นไปจนถึงปีหน้า จะเป็นตัวเร่งการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภคให้เร็วขึ้นและจากปัจจัยดังกล่าวมองว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในไตรมาสสุดท้ายนี้จะมีมากขึ้น

“มาตรการผ่อนคลายเกณฑ์LTV  และลดค่าธรรมเนียมโอน จดจำนอง กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จะเป็นการกระตุ้นให้กับผู้ที่วางแผนซื้อบ้านตัดสินใจเร็วขึ้น “

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้รับมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐที่กำลังจะสิ้นสุดในปีนี้ สำหรับเรื่องการอัตราดอกเบี้ยที่กำลังเป็นขาขึ้น จะส่งผลกระทบกับลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อโดยจะมีภาระค่าผ่อนรายงวดที่เพิ่มขึ้น

การขึ้นดอกเบี้ยทุก 0.25% ต่อปี จะเพิ่มการผ่อนชำระค่างวดบ้านประมาณ 2% – 5% จากค่างวดเดิม ส่งผลให้ธนาคารจะเข้มงวดมากขึ้นในการพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระคืน แต่ทั้งนี้ผลกระทบดังกล่าวจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร

 นางประวีรัตน์กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญสำหรับลูกค้าโครงการของ KUN มอบโชค 5 ชั้น ได้แก่ โชคชั้นที่ 1

ส่วนลดราคาทุกหลังหรือฟรีสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท , โชคชั้นที่ 2 ฟรีค่าโอน, โชคชั้นที่ 3 ฟรีค่าจดจำนอง, โชคชั้นที่ 4 ฟรีแอร์ และโชคชั้นที่ 5 ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยแคมเปญนี้จะให้สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านในโครงการของ KUN และโอนบ้านภายในสิ้น  

จากสถานการณ์ตลาดบ้านแนวราบที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศได้ทยอยฟื้นตัว ล่าสุดบริษัทฯ สามารถทำยอดขาย(พรีเซล) ในช่วง 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2565) จำนวนทั้งสิ้น 1,100 ล้านบาท

เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ทำได้ 1,040 ล้าน โดยยอดพรีเซล ดังกล่าวมาจาก 7 โครงการ ประกอบด้วย 1.) คุณาลัย คอร์ทยาร์ด , 2.) คุณาลัย บีกินส์ 2 , 3.) คุณาลัย พรีม , 4.) คุณาลัย จอย ออน 314 , 5.) คุณาลัย พาร์โก้ , 6.) คุณาลัย เดซี่ และ 7.) คุณาลัย นาวาร่า

ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ มียอดขายรอการรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) มูลค่า 260 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปี 2565

“ยอดขายที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 คิดเป็น 65% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี 2565 ที่วางไว้ 1,700 ล้านบาท โดยจากข้อมูลของบริษัทฯ ย้อนหลัง 5 ปี จะมียอดขายและยอดโอนในไตรมาส 4 ของทุกปี      สูงกว่าทุกไตรมาส จึงมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน”

โดยโครงการคุณาลัย เดซี่ เริ่มเปิดขายในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี  ณ สิ้นไตรมาส 3 มียอดขายคิดเป็นมูลค่า 130 ล้านบาท ขณะที่โครงการคุณาลัย นาวาร่า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการ แต่ได้กระแสตอบรับเกิดคาด

เห็นได้จากยอดจองซื้อที่แตะระดับมูลค่า 40 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 3.5 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งงานก่อสร้างเพื่อให้โครงการมีความพร้อมในการเปิดขายอย่างเป็นทางการ ภายในไตรมาสที่2/2566

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ศก.ฟื้น ดันความเชื่อมั่น ‘อสังหาฯ’ หวั่นต้นทุน ‘ดอกเบี้ย – ที่ดิน’ขาขึ้น

REIC เผย เศรษฐกิจไทยฟื้น ดัน ความเชื่อมั่นผู้พัฒนาอสังหาฯ ฟื้นต่อเนื่อง 2 ไตรมาส แต่หวั่น ‘ต้นทุน’ ยังสูง เหตุ ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ราคาที่ดิน อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น

23 ต.ค.2565- ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ประจำไตรมาส 3 ปี 2565 พบว่าในภาวะปัจจุบัน ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยมีความเชื่อมั่นเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ปี 2565 โดยสูงขึ้นเกือบทุกด้าน แต่ยังมีความกังวลด้านต้นทุนการประกอบการที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นปัจจัยที่ฉุดดัชนี

ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในไตรมาส 3 ปี 2565 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเดียวกันของปีก่อน 
 

โดยพบว่า ในไตรมาสนี้ค่าดัชนีฯ ปรับตัวสูงขึ้นเท่ากับ 51.8 เพิ่มขึ้น จาก49.8 ในไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และเพิ่มขึ้นจากปีก่อน (YoY) ที่มีค่าดัชนี 47.1 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบมีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่องมา 2 ไตรมาส หลังจากที่ปรับลดลงแรงในช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 

REIC พบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของทั้งกลุ่มผู้ประกอบการกลุ่ม Listed และ Non-listed Companies มีการปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3 นี้เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่กลุ่ม Listed Companies มีระดับความเชื่อมั่นฯที่สูงและปรับตัวในระดับที่สูงกว่ากลุ่ม Non-listed Companies อย่างชัดเจน โดยพบว่ากลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีปรับขึ้น 3.1 จุด จาก 54.9 เป็น 58.0 ขณะที่กลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีฯ ปรับขึ้นเพียง 0.4 จุด จาก 42.2 เป็น 42.6 และอยู่ที่ระดับ 42.2 

ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 และเป็นการต่ำกว่าระดับ 50.0 ต่อเนื่องกันมา 14 ไตรมาสแล้ว หรือตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2562  แสดงว่ากลุ่ม Non-listed Companies มีความกังวลในการดำเนินธุรกิจมากกว่า กลุ่ม Listed Companies อย่างมีนัยสำคัญ


การปรับตัวดีขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นฯ เช่นนี้ อาจเนื่องมาจากภาวะของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการสนับสนุนเพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศของรัฐบาล ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก สิ่งนี้นับเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และทำให้ผู้ประกอบการเชื่อว่าน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดกำลังซื้อใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากภาคธุรกิจบริการที่ฟื้นตัวจากมาตรการดังกล่าว 


อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3 ปี 2565 ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังเผชิญกับปัจจัยลบที่สำคัญที่สร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการฯ เช่น สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น ภาวะเงินเฟ้อ และทิศทางการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนในผู้ประกอบการฯ ทั้งกลุ่ม Listed Companies และ Non-listed Companies มีความกังวลต่อต้นทุนประกอบการ ที่อยู่ในระดับเพียง 28.6 ทั้งนี้ กลุ่ม Non-listed Companies ยังมีความเชื่อมั่นต่ำเพิ่มเติมในด้านผลประกอบการ ยอดขาย การเปิดโครงการใหม่ และการจ้างงาน อีกด้วย


นอกจากนี้ REIC ได้สำรวจภาพรวมของระดับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑลที่มีต่อการดำเนินธุรกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า พบว่า มีการปรับตัวเพิ่มจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 1.3 จุด มาอยู่ที่ 57.9 โดยมีความเชื่อมั่นสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 ในเกือบทุกด้าน ยกเว้นเรื่องต้นทุนการประกอบการในการดำเนินธุรกิจในช่วงเวลา 6 เดือนข้างหน้า 


ทั้งนี้ ผู้ประกอบการฯ กลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 61.8 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 0.2 จุด จากไตรมาส ได้แสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในดำเนินธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยค่อนข้างดีและเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง 

ขณะที่ผู้ประกอบการฯ กลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 52.1 ซึ่งกลับมาสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 และเพิ่มสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.1 ได้แสดงให้เห็นว่า กลุ่ม Non-listed Companies ก็เริ่มจะมีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้าเช่นกัน แต่ทั้งสองกลุ่มยังคงกังวลในด้านต้นทุนการประกอบการอยู่ในระดับความเชื่อมั่นที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งมาจากภาวะทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ราคาที่ดิน ค่าก่อสร้าง ค่าจ้างแรงงาน และค่าโสหุ้ยในการประกอบธุรกิจที่ยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า

ผลการสำรวจในรอบไตรมาสนี้ ทำให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาอย่างชัดเจนแล้วในไตรมาส 3 ปี 2565 และมีแนวโน้มที่ความเชื่อมั่นฯฟื้นต่อเนื่องในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยบวกต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะก่อให้เกิดการลงทุนใหม่ การเปิดโครงการใหม่ รวมถึงยอดขายที่ดีขึ้น และย่อมจะช่วยให้เกิดการจ้างงานจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะดีขึ้นในช่วงอีก 6 เดือนข้างหน้าอีกด้วย แต่ด้านต้นทุนของผู้ประกอบการที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะยังเป็นปัจจัยฉุดระดับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการฯ ที่สำคัญ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 417 จุด นักลงทุนมองนโยบายคุมเงินเฟ้อเริ่มได้ผล

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันจันทร์ (24 ต.ค.) หลังมีรายงานว่ากิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐชะลอตัวลงในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และควบคุมเงินเฟ้อนั้น เริ่มได้ผล

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,499.62 จุด พุ่งขึ้น 417.06 จุด หรือ +1.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,797.34 จุด เพิ่มขึ้น 44.59 จุด หรือ +1.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,952.61 จุด เพิ่มขึ้น 92.90 จุด หรือ +0.86%
         

เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.3 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 49.5 ในเดือนก.ย. โดยดัชนี PMI ถูกกดดันจากการหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี
         

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเดือนที่ 4

ปีเตอร์ ทุซ นักวิเคราะห์จากบริษัทเชส อินเวสต์เมนท์ คอนเซลในรัฐเวอร์จิเนียกล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวลงและสิ่งที่เฟดกำลังทำนั้นเริ่มได้ผล นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังทำให้ตลาดคาดหวังว่าเฟดอาจจะชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
         

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ โดยหุ้นอิไล ลิลลี่ พุ่งขึ้น 2.09% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส ทะยานขึ้น 3.41%  หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ บวก 1.44% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพิ่มขึ้น 1.40%
         

หุ้นเทสลา ร่วงลง 1.49% หลังจากบริษัทประกาศลดราคารถยนต์เทสลารุ่น Model 3 และ Model Y ที่จำหน่ายในประเทศจีนลง 9% ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปสงค์ในจีนซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้นเริ่มชะลอตัวลง


หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงหุ้นอาลีบาบา โฮลดิ้งส์ หลังจากจีนเปิดเผยรายชื่อทีมผู้บริหารชุดใหม่ในคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโร) ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และทำให้นักลงทุนกังวลว่าปธน.สี จิ้นผิงจะใช้อำนาจเบ็ดเสร็จในการควบคุมเศรษฐกิจและภาคธุรกิจของจีน

นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยในวันพฤหัสบดีจะเป็นการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐ และในวันศุกร์จะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


กระหึ่ม! “น้องพลอย” แม่นคิวสาวดาวรุ่งคว้าแชมป์สนุกเกอร์ สกอตติชโอเพ่น

การแข่งขันสนุกเกอร์ รายการชิงแชมป์โลก สกอตติชโอเพ่น หญิง รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ทำการแข่งขันที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ โดยรายการนี้มีนักสนุกเกอร์สาวไทย ลงทำการแข่งขันเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ก็คือน้องพลอย ขอนแก่น หรือ พลอยชมพู เหล่าเกียรติพงษ์

ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาพึ่งคว้าแชมป์ที่เมืองเชฟฟิลด์ในประเทศอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี สำหรับการแข่งขันในรอบ 8 คนสุดท้าย น้องพลอย ขอนแก่น สาวน้อยวัย 20 ปี โชคดีได้ชนะผ่านจึงเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศพบกับ ชานอล เม็ตคลาฟ นักแทงจากอังกฤษที่รอบ 8 คนชนะ ชอย เพย์นี่ นักแทงเพื่อนร่วมชาติมา 2-0 เฟรม

โดย พลอย ขอนแก่น วันนี้ออกคิวได้อย่างมั่นใจชนะในเฟรมแรกขึ้นนำ ชานอล ไปก่อน 1-0 เฟรม ก่อนที่ พลอย ขอนแก่น จะมากดไม้เดียว 74 แต้มในเฟรมที่สองส่งผลให้ พลอย ขอนแก่น ชนะ ชานอลเม็ตคลาฟ ไป 2-0 เฟรม 63-24 และ 93(74)-23 ทำให้พลอยผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ

สำหรับการดวลคิวในรอบชิงชนะเลิศ พลอย ขอนแก่น ต้องเข้ามาพบกับ โซเฟีย นิค นักสอยคิวเจ้าถิ่นสกอตแลนด์ ที่เอาชนะ โซ เคลลิ่งตัน นักสนุกเกอร์จากอังกฤษได้ 2-1 เฟรม โดยนัดนี้พลอย ขอนแก่น ยังออกคิวได้นิ่งและแน่นอนกว่ารวมถึงกับการเข้าเบรกได้แบบยาวๆหลายไม้จนเป็นฝ่ายเอาชนะ โซเฟีย นิค ไปแบบสบาย 2-0 เฟรม 76 (36) -5, 68-12

ทำให้ พลอย ขอนแก่น คว้าแชมป์รายการที่สองต่อจากรายการชิงแชมป์โลก อายุไม่เกิน 21 ปี ที่เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ

ภายหลังจบเกมแข่งขัน “โค้ชหน่อย” กิตติพงษ์ พรชัย ชุดซีเกมส์ที่เดินทางไปอบรมโค้ชอาชีพที่ประเทศอังกฤษก็ได้เดินทางไปดูพลอย ขอนแก่นแข่งขันด้วยเปิดเผยว่า ในช่วงเวลาแบบนี้ น้องพลอยจะต้องเก็บแชมป์ให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะเป็นปีสุดท้ายของพลอยที่จะได้แข่งขัน ในนอายุไม่เกิน 21 ปี เนื่องจากปีหน้าจะอายุเกินเเล้ว ซึ่งพลอยเองต้องขยับไปเล่นรุ่นโอเพ่น ต้องไปสู้กับพี่มิ้งค์ สระบุรี, อึ้งอองยี จากฮ่องกง, เรน่า อีแวน ร่วมถึงพี่ใบพัด ศรีราชาด้วย พลอยต้องทำการบ้านหนักมากกว่านี้ เป้าหมายคือต้องเข้าชิงชนะเลิศรุ่นโอเพ่นให้ได้ ภายใน2 ปี และ คว้าแชมป์ ในรายการของ Ibsf ให้ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


กิจวัตร 5 นาทีทำทุกเช้า เพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใสทุกวัน

ปกติแล้ว ทันทีหลังจากตื่นนอนคุณทำอะไรกับชีวิตของตนเอง กดปุ่มเลื่อนนาฬิกาปลุกซ้ำหลายๆ ครั้ง? ตื่นปุ๊บรีบลุกจากที่นอนปั๊บ? แล้วคุณรู้สึกอย่างไรกับเช้าวันใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ไม่อยากตื่น ไม่มีแรง ไม่อยากลุกจากเตียง? ในหัวมีแต่ความว้าวุ่นวิตกกังวล? หรือคุณรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นวันใหม่?

สำหรับหลายๆ คน เป็นอันเข้าใจได้ว่าการรีบลุกจากเตียงแล้วเตรียมดำเนินกิจวัตรประจำวันนั้นเป็นเรื่องยาก ตรงที่อยากจะเอาผ้าห่มคลุมโปงแล้วซุกตัวอยู่บนที่นอนต่อไป แทนที่จะลุกมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ที่เราทำแบบนั้นกันไม่ได้แน่ๆ แทนที่จะใช้ชีวิตกันแบบหดหู่ รอเวลาเย็น เลิกงาน กลับบ้าน นอน แล้วเริ่มต้นวันใหม่แบบเฉาๆ ไม่สดใส ไม่ร่าเริงแบบที่เป็นทุกวัน เราควรมาทำให้ตัวเองมีความสุขกับแต่ละวันเพิ่มขึ้นดีกว่า ด้วยกิจวัตรที่ขอเวลาแค่ 5 นาที ทำในตอนเช้าทุกเช้า รับรองว่าการลุกจากเตียงจะเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่น่าตื่นเต้นและสดใสกว่าเดิม

ยืดกล้ามเนื้อบนที่นอน

ถ้าปกติคุณมักจะบิดขี้เกียจหลังตื่นนอนอยู่แล้ว นี่จะเป็นกิจวัตรที่เป็นขั้นกว่าของการบิดขี้เกียจ คือ ทำให้มันเป็นกิจจะลักษณะกว่าเดิม คุณจะอยู่บนเตียงเหมือนเดิมหรือจะปูเสื่อโยคะก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการยืดเหยียดร่างกายคลายกล้ามเนื้อ ปลุกร่างกายให้ตื่นด้วยการยืดกล้ามเนื้อทีละหนึ่งมัด พร้อมหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ระหว่างนั้นจะสวดมนต์สำหรับทำสมาธิไปด้วยก็ได้ ช่วยให้คุณมีสติ มีสมาธิตั้งแต่เริ่มต้นวัน

พลังของการอาบน้ำ

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่อาบน้ำในตอนเช้าเพราะคิดว่าอาบตอนกลางคืนแล้วก็นอนเลย อยู่แต่บนที่นอนไม่ได้ไปไหนให้เนื้อตัวสกปรก บางคนก็รู้สึกว่าการอาบน้ำตอนเช้าเป็นเรื่องที่เร่งด่วนมากๆ เพราะตื่นสาย อยากให้คุณลองหาโอกาสเพิ่มเวลาอาบน้ำในตอนเช้าอีก 5 นาที แล้วสนุกกับมัน ปล่อยให้น้ำอุ่นไหลผ่านร่างกาย ดื่มด่ำกับกลิ่นหอมของสบู่อาบน้ำ จะเปิดคอนเสิร์ตร้องเพลงก็ได้นะ ช่วยขจัดความง่วงงัวเงียและเติมพลังให้ร่างกายตลอดวันได้ดีเชียว

ฟังเพลง

คุณประโยชน์ของการฟังเพลงนั้นมีอยู่มากมายหลายข้อ ที่เรารู้ๆ กันดีก็คือ การฟังเพลงสามารถคลายเครียดได้ ฉะนั้น ในทุกเช้า ก็ลองใช้เวลา 5 นาทีในการฟังเพลงโปรด เข้าเพลย์ลิสต์เพลงโปรด หรือจะเปิดวิทยุช่องโปรดเพื่อฟังเพลง ก็จะช่วยเพิ่มพลังในการเริ่มต้นวันใหม่ ที่สำคัญ การสร้างสุนทรีย์และสร้างอารมณ์จากดนตรีถือเป็นการเยียวยาอย่างหนึ่ง โดยมันสามารถทำให้คุณยิ้มไปตามเพลงได้ และยังปลุกเร้าความทรงจำอันอบอุ่นของคุณด้วย

รับแสงแดดยามเช้า

จริงๆ แล้วทุกคนรู้ดีว่าแสงแดดยามเช้านั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ฉะนั้น ในช่วงเวลาเช้าตรู่ ช่วงที่แดดยังอ่อนๆ ไม่ร้อนแรงแบบผิวแทบไหม้อย่างช่วงสายๆ ช่วงเวลาก่อนเก้าโมงเช้า ก็ลองพาตัวเองไปรับวิตามินดีจากธรรมชาติดูบ้าง ไม่ว่าจะไปนั่งจิบกาแฟริมระเบียงที่แสงแดดส่องถึง ออกไปเดินเล่น หรือออกไปวิ่ง ใช้ธรรมชาติยามตอนเช้าเป็นพลังในการฟื้นฟูและกระตุ้นให้คุณมีพลังที่สดใสและเตรียมพร้อมสำหรับวันของคุณ

เพลิดเพลินกับอาหาร

คนทำงานทั่วไปไม่ค่อยกินมื้อเช้าเพราะไม่มีเวลาจะกิน หรือบางคนก็กินแบบเร่งรีบ ไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากินอาหารรสชาติแบบไหนเข้าไป แต่ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปทันที ถ้าในวันนั้นคุณมีเวลาได้นั่งกับโต๊ะอาหารดีๆ และเพลิดเพลินกับอาหารเช้าของคุณ อย่าลืมสิว่ามื้อเช้าเป็นมื้อแรกและมื้อเริ่มต้นในการให้พลังงานกับคุณ เพื่อให้คุณมีแรงทำงานประจำวันให้เสร็จลุล่วง ฉะนั้น ให้ความสำคัญหน่อย ระหว่างลิ้มรสก็สังเกตว่าอาหารมีลักษณะ กลิ่น และรสชาติอย่างไร

เขียนเป้าหมายที่จะทำให้ได้ของแต่ละวัน

ถ้าปกติคุณเป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบไม่เคยจัดระเบียบ อะไรๆ ก็วุ่นวายมากมายจนดูเหมือนไม่เคยทำอะไรสำเร็จ หลังจากนี้ ขอแค่คุณเจียดเวลาทุกๆ เช้ามาสัก 5 นาที เพื่อมาเขียนสิ่งที่คุณต้องการจะทำให้สำเร็จในวันนั้น ซึ่งในลิสต์นั้นอาจจะรวมถึงงาน (หน้าที่การงาน) งานบ้าน เวลาส่วนตัว ก็ได้ อยู่ที่คุณจะจัดการ เมื่อชีวิตคุณมีรายการเป้าหมายที่บันทึกไว้แล้ว คุณมักจะบรรลุผลของเป้าหมายเหล่านั้นได้มากขึ้น เพราะคุณจะตั้งใจกับมัน

ทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ

เมื่อพูดถึงงานบ้าน หลายคนชอบคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ แต่จริงๆ แล้วแค่เก็บขยะไปทิ้งหรือล้างจานที่กินเสร็จทันที มันก็เป็นงานบ้านเหมือนกัน แค่ยึดถือเป็นกิจกรรมที่จะทำในทุกเช้า เริ่มต้นวันด้วยการทำงานบ้าน (เล็กๆ) การทำงานบ้านตั้งแต่เช้าไม่เพียงแต่ช่วยจัดระเบียบบ้านของคุณ แต่ยังกระตุ้นการใช้พลังงานของคุณด้วย หลังเลิกงาน เมื่อกลับมาถึงบ้าน คุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาจัดการอีก เหลืองานที่ต้องทำก่อนหมดวันน้อยลง

ขอบคุณสิ่งต่างๆ รอบตัว

ใช้เวลา 5 นาทีของทุกเช้าแสดงความขอบคุณหรือมอบความรู้สึกดีๆ ให้กับสิ่งต่างๆ รอบตัว ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสิ่งมีชีวิต คุณอาจจะขอบคุณเตียงที่ทำให้คุณนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน ขอบคุณตัวเองที่ตื่นเร็วกว่านาฬิกาปลุก เลยมีเวลาเพิ่มขึ้น ขอบคุณสุขภาพที่แข็งแรงดี ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ขอบคุณเพื่อนฝูงที่ส่งข้อความมาอวยพรวันเกิด ขอบคุณครอบครัวดีๆ ที่รักและสนับสนุนคุณเรื่อยมา แค่คุณมีความรู้สึกแบบนี้ในตอนเช้า ก็เป็นสัญญาณการเริ่มต้นวันที่ดีแล้ว

สื่อสารกับคนที่คุณรัก

ชีวิตที่ยุ่งเหลือเกินของคนวัยทำงาน อาจทำให้พวกเขาละเลยและหลงลืมที่จะสื่อสารกับคนที่ตนเองรัก ต่อให้อยู่ใกล้ชิดแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่มีเวลาที่จะบอกรักกันทั้งที่ความรักนั้นดีจะตาย แต่ไม่เป็นไรเรามาเริ่มกันใหม่ได้ ขอเวลาแค่ 5 นาทีในตอนเช้า คนรอบข้างคุณมีโทรศัพท์ใช้อยู่แล้ว แค่ส่งข้อความหรืออีเมลสั้นๆ ไปทักทายคนที่คุณรัก และบอกพวกเขาด้วยว่าคุณกำลังคิดถึงพวกเขา พลังของความรักที่คุณส่งหาผู้อื่นจะสะท้อนกลับมาหาคุณได้เป็นสิบเท่าเลย

ออกกำลังกายเพิ่มเอ็นดอร์ฟิน

แตกต่างจากการยืดเหยียดกล้ามเนื้อบนที่นอน ตรงที่กิจกรรมนี้จะต้องใช้แรงมากกว่าและเรียกเหงื่อได้ด้วย หลายๆ คนมีกิจวัตรเป็นการออกกำลังกายในตอนเช้าก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน เพราะการออกกำลังกายช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งและนิ่งสงบ เหนือสิ่งอื่นใดคือเพิ่มสารแห่งความสุข หรือเอ็นดอร์ฟินในร่างกายที่จะช่วยให้คุณมีความสุขได้ตลอดทั้งวัน ดังนั้น การออกกำลังกายทุกวันจึงไม่เพียงแต่ให้ผลดีต่อร่างกายเท่านั้น เพราะยังดีต่อจิตใจด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


การใช้ประโยคที่แสดงความเป็นเงื่อนไข 4 แบบ: zero, first, second, third และ mixed

การใช้ประโยคเพื่ออธิบายความเป็นเงื่อนไขถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน และการหยิบรูปประโยคชนิดนี้มาใช้ในการพูดคุยจะช่วยยกระดับของการสื่อสารให้ดียิ่งกว่าเดิม โดยทั่วไป รูปประโยคที่แสดงความเป็นเงื่อนไขจะมีด้วยกัน 4 แบบ เริ่มที่แบบแรกสุดคือ zero conditional และ first conditional เพื่อให้เข้าใจว่าเงื่อนไขแต่ละแบบทำงานอย่างไร ลองดูภาพรวมทั้งหมดก่อนว่าอะไรเป็นอะไรและเราจะใช้ประโยคแต่ละรูปแบบได้ตอนไหน

อะไรคือประโยคที่แสดงความเป็นเงื่อนไข?

ประโยคที่แสดงความเป็นเงื่อนไขจะใช้คำว่า “If” เป็นหลัก ซึ่งจะมีอยู่สองส่วนเสมอ โดยส่วนที่หนึ่งเริ่มต้นด้วย “If” เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่เป็นไปได้และส่วนที่สองซึ่งใช้อธิบายถึงผลที่ตามมา ตัวอย่างเช่น

If it rains, we’ll get wet.

เราสามารถสลับทั้งสองส่วนของประโยคแสดงความเป็นเงื่อนไขเพื่อให้ ‘if’ อยู่ด้านหลังได้ ส่วนใหญ่รูปประโยคเช่นนี้จะถูกใช้เป็นประโยคคำถาม ตัวอย่างเช่น

What will you do if you miss the train?

How can you finish the project if you don’t have a computer?

What happens if the students don’t pass an exam?

ประโยคแสดงความเป็นเงื่อนไขมีอยู่ด้วยกัน 4 รูปแบบ

0 – The zero conditional

1 – The first conditional

2 – The second conditional

3 – The third conditional

เราสามารถนำรูปแบบที่ 2 และรูปแบบที่ 3 มาใช้ผสมกันได้ ลองมาดูกันดีกว่าว่าแต่ละเงื่อนไขมีรูปแบบการใช้ประโยคอย่างไร

เราใช้ zero conditional เพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับความจริงที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ความจริงทางวิทยาศาสตร์ และลักษณะอาการทั่วไป รูปแบบประโยคไม่มีอะไรซับซ้อน

นี่คือตัวอย่าง

If you heat water to 100°, it boils.

If you eat a lot, you put on weight.

If it doesn’t rain for a long time, the earth gets very dry.

If we go out with friends, we normally go to a restaurant.

If I’m tired, I go to bed early.

เราใช้เงื่อนไขแบบที่หนึ่งเพื่อเล่าเกี่ยวกับสถานการณ์จริงในปัจจุบันหรืออนาคต รูปแบบประโยคของเงื่อนไขแบบที่หนึ่งคือ

นี่คือตัวอย่าง

If you’re free later, we can go for a walk.

If they’re hungry, I’ll make some sandwiches.

If you’re not back by 5pm, give me a ring.

If he studies hard, he’ll do well in the exam.

If we arrive late, we must get a taxi.

He’ll call if he needs help.

Take a break if you’re tired.

อีกวิธีที่สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างประโยคแสดงความเป็นเงื่อนไขแบบที่หนึ่งได้นั่นก็คือการนำคำว่า ‘unless’ มาใช้ ซึ่งหมายความว่า ‘only if = นอกเสียจากว่า’ หรือ ‘except = นอกเสียจาก’ คำว่า unless ไม่สามารถตามด้วย ‘will’ ได้ แต่จะต้องตามด้วย Present Simple เท่านั้น ต่างกันกับการใช้ if ตัวอย่างเช่น

Unless you hurry up, you won’t catch the bus.

I’ll carry on doing this work, unless my boss tells me to do something else.

We’ll stay at home unless the weather improves.

The Second Conditional

เราใช้ second conditional เพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในปัจจุบันหรืออนาคต รูปประโยคคือ

If I had more time, I’d exercise more. (But I don’t have more time so I don’t.)

If I were rich, I’d spend all my time travelling. (But I’m not rich so I can’t.)

If she saw a snake, she’d be terrified.

If he didn’t have to work late, he could go out with his girlfriend.

What would you do if you were offered a job in Canada?

You wouldn’t have to walk everywhere if you bought a bike.

รูปประโยค second conditional สามารถใช้เพื่อให้คำแนะนำ โดยจะใช้  ‘If I were you, I’d..’, ‘ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะ…’ หมายความว่า ‘ถ้าฉันอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับเธอ นี่คือสิ่งที่ฉันจะทำ’ ตัวอย่างเช่น

A: I’ve got a headache.

B: If I were you, I’d take an aspirin.

A: I don’t understand this.

B: If I were you, I’d ask your teacher for help.

A: This order won’t be delivered on time.

B: If I were you, I’d phone the customer to let them know.

The Third Conditional

เราจะใช้ third conditional เพื่อบอกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ แบบเดียวกับ second conditional แต่เป็นในรูปอดีต เรามักจะใช้ third conditional เพื่ออธิบายสิ่งที่เรารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำ รูปประโยคคือ

นี่คือตัวอย่าง

If we had left earlier, we would have arrived on time.

If you hadn’t forgotten her birthday, she wouldn’t have been upset.

If they had booked earlier, they could have found better seats.

If I hadn’t learnt English, I wouldn’t have got this job.

What would you have studied if you hadn’t done engineering?

They wouldn’t have hired you if you hadn’t had some experience abroad.

You could have helped me if you’d stayed later.

Mixed Conditionals

เราสามารถรวม second conditional และ third conditional ด้วยกันในหนึ่งประโยคได้เวลาที่เราต้องการคาดเดาอะไรบางอย่างในอดีตที่มีผลกระทบถึงในปัจจุบัน ในกรณีนี้ รูปประโยคคือ

นี่คือตัวอย่าง

If you’d studied harder, you’d be at a higher level now.

We’d be lying on a beach now if we hadn’t missed the plane.

They’d have much more confidence if they hadn’t lost so many matches.

What would you be doing now if you hadn’t decided to study?

ตอนนี้ทุกคนคงได้เห็นแล้วว่าประโยค conditional sentence มีกี่แบบ ลองพยายามฝึกใช้ทุกครั้งที่มีโอกาสและลองสร้างประโยคตัวอย่างของตัวเองตามโครงสร้างประโยคด้านบน ถ้าฝึกบ่อยๆ การใช้ conditional sentence ก็ไม่ใช่เรื่องยาก!

ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th


“อียู” ทำการอนุมัติกฎหมายที่จะบังคับให้ iPhone เปลี่ยนไปใช้ USB-C แล้ว

EU อนุมัติข้อบังคับเรื่องพอร์ตชาร์จมาตรฐานในสมาร์ตโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ทำให้ Apple จำเป็นต้องสมาร์ตโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาเป็นหัวชาร์จ USB-C ในปี 2024 คาดได้เห็นใน iPhone 15

ในการแถลงอย่างเป็นทางการล่าสุด คณะมนตรียุโรปได้อนุมัติคำสั่งเกี่ยวกับอุปกรณ์ชาร์จของรัฐสภายุโรปแล้ว โดยได้ทำการสรุปขั้นตอนทางกฎหมายที่จะกำหนดให้พอร์ต USB-C เพื่อทำการบังคับใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคหลายประเภท รวมไปถึงถึง iPhone และ AirPods ภายในสิ้นปี 2567

คำสั่งนี้ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการแล้วและคาดว่าจะตีพิมพ์ในวารสารทางการของสหภาพยุโรป โดยจะมีผลบังคับใช้ 20 วันหลังจากประกาศ และกฎจะมีผลบังคับใช้ 24 เดือนหลังจากวันนั้น ผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายก่อนวันที่ประกาศจะได้รับการยกเว้นและขายต่อได้


ทั้งนี้ กฎหมายใหม่นี้จะถูกนำมาบังคับใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กและขนาดกลางที่จะจำหน่ายในสหภาพยุโรป ซึ่งถือเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับบริษัทแอปเปิล ผู้ผลิตและพัฒนาไอโฟน (iPhone) ที่ตลอดมามีหัวชาร์จที่แตกต่างจากโทรศัพท์แบรนด์อื่น ๆ

ทั้งนักวิเคราะห์คนดังอย่าง Ming-Chi Kuo และ Mark Gurman แห่ง Bloomberg เชื่อว่าในตอนนี้ Apple กำลังทดสอบ ‌iPhone‌ เวอร์ชันใหม่ที่มีพอร์ต USB-C แทน Lightning

ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า Apple นั้นสามารถเปลี่ยน “iPhone” ให้เป็น USB-C ได้ตั้งแต่ปี 2023 หรือใน iPhone 15  ก่อนที่จะเปลี่ยน AirPods และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ในภายหลัง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“น้ำมันมะกอก” ชนิดไหนใช้ทอด ผัด หรือทานกับสลัด?

มีใครสงสัยเรื่องประเภทของ น้ำมันมะกอก” หรือเปล่า ทำไมบางชนิดใช้ทอดได้ บางชนิดใช้ใส่ในสลัดได้ แล้วเราจะเอาชนิดที่ใส่สลัดไปทอดได้หรือเปล่า Sanook Health จะอธิบายให้ฟังค่ะ 

ประเภทของน้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอกแบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

  1. น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น (extra virgin)
    น้ำมันมะกอกประเภทนี้เป็นน้ำมันมะกอกที่มีสีเขียวเข้ม ไดด้มาจากการบีบเอาน้ำมันออกมาจากมะกอกสดๆ ดังนั้นจึงเป็นน้ำมันมะกอกที่ดีที่สุดในบรรดาน้ำมันมะกอกทุกประเภท และมีราคาสูง ใช้ทานสดๆ แบบผสมเป็นน้ำสลัด หรือทำเป็นซอสพาสต้าได้ แต่ต้องไม่ผ่านความร้อนเด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำมันมะกอกสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการไป และไขมันดีก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันชนิดที่ไม่ดีต่อร่างกายแทน

    ควร : นำไปผสมในน้ำสลัด ซอสต่างๆ ที่ไม่ต้องผ่านความร้อน

    ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการในการทอด หรือผัด

น้ำมันมะกอกเวอร์จิ้น (virgin)

เป็นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ที่ได้จากการบีบสดจากลูกมะกอกเหมือนกัน แต่ผลมะกอกจะแก่กว่า มีคุณภาพรองลงมาจากน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น ดังนั้นยังถือว่าดีต่อสุขภาพเหมือนกัน แค่ราคาจะถูกกว่าเล็กน้อย

ควร : นำไปผสมในน้ำสลัด ซอสต่างๆ ที่ไม่ต้องผ่านความร้อน

ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการใช้การทอด หรือผัด

น้ำมันมะกอกแบบผสม (olive oil หรือ pure olive oil)

เป็นน้ำมันที่ผสมผสานกันระหว่าง น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น กับน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารเข้าไป ทำให้ได้ออกมาเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงใกล้เคียงกับน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น แต่เพิ่มเติมคือทนความร้อนได้ดีขึ้น จึงสามารถนำไปประกอบอาหารโดยผ่านความร้อนแบบเร็วๆ ได้ แต่ก็ยังทอดไม่ได้ เพราะคุณค่าทางสารอาหารในน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นก็จะหายไป กลายเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายเหมือนเดิม

ควร : นำไปใช้ผัดอาหารแบบเร็วๆ เช่นผัดผัก ข้าวผัด

ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการใช้ทอดอาหารนานๆ เด็ดขาด

น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil)

เป็นน้ำมันประเภทข้างบนแบบเพียวๆ โดยที่ไม่มีน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นผสมอยู่ ยังถือว่ามีคุณค่าทางสารอาหารดีๆ อยู่บ้าง แต่ก็หายไปบ้างจากการสกัดเอาสี กลิ่น รส เดิมออกไปโดยผ่ายกรรมวิธีทางเคมี และผ่านความร้อน ทำให้นำมันค่อนข้างใส และมีราคาไม่สูง แต่สามารถทนความร้อนได้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ควร : นำมาใช้ทอดอาหารได้นานยิ่งขึ้น เช่น ทอดหมู ไก่ ปลา

ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการนำมาทานสดๆ ผสมน้ำสลัด หรือผสมซอส

น้ำมันกากมะกอก (olive pomace oil)

มาจากการสกัดเอาน้ำมันออกมาจากกากมะกอกอีกที แล้วนำไปผ่านกรรมวิธีทางเคมี และผ่านความร้อน ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำมันมะกอกเกรดคุณภาพต่ำที่สุด แต่ก็ยังสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภททอดที่ใช้เวลานาน แต่ก็มีค่าไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายสูงกว่าน้ำมันมะกอกชนิดอื่นๆ เช่นกัน จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก

ควร : นำมาใช้ทอดอาหารได้นานยิ่งขึ้น เช่น ทอดหมู ไก่ ปลา

ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการนำมาทานสดๆ ผสมน้ำสลัด หรือผสมซอส

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 25/10/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,750.0029,850.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,927.0029,213.3230,350.00
ทองรูปพรรณ 90%1,734.3026,291.99n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,541.6023,370.66n/a
ทองรูปพรรณ 50%867.0013,143.72n/a
ทองรูปพรรณ 40%674.0010,217.84n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,997.0030,274.52n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 25/10/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.6535.6535.7535.6535.6535.6535.6535.6535.6535.65
แก๊สโซฮอล์ 9135.3835.3835.4835.3835.3835.3835.3835.3835.3835.38
แก๊สโซฮอล์ E2034.5434.5434.6434.5434.5434.5434.5434.5434.54
แก๊สโซฮอล์ E8532.9432.9432.94
เบนซิน 9543.0643.5143.5643.5143.06
ดีเซล B734.9434.9435.2434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9435.2434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9435.2434.9434.9434.9434.5434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม43.6643.6644.6644.6644.6634.94
แก๊ส NGV16.5916.5916.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า