สาระน่ารู้ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565

5 เทรนด์ อุตสาหกรรม ‘ก่อสร้าง’โลก มาแรง!

“CPAC Green Solution” ชี้ 5 เทรนด์อุตสาหกรรมก่อสร้างโลกที่แรงไม่หยุด โดรนสำหรับก่อสร้าง , การออกแบบโลกเสมือน และ เทคโนโลยี 3 D

7 พ.ย.2565 – อุตสาหกรรมก่อสร้างถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยอ้างอิงจากรายงาน McKinsey   ซึ่งระบุว่าการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมก่อสร้างโลกมีมูลค่าถึง 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นสัดส่วนสูงถึง 13% ของจีดีพีโลกแต่ก็มีอัตราการเติบโตที่ไม่หวือหวาเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้อุตสาหกรรมการก่อสร้างชะลอตัวลง และต้องมีปรับตัวอย่างหนัก  

โดยปัจจุบันได้มีการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาประยุกต์และพัฒนาเพื่อใช้แก้ปัญหาต่างๆ ในอุตสาหกรรม   การก่อสร้าง ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขาดแคลนแรงงาน หรือปัญหาสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ก่อน-ระหว่าง-และหลังการก่อสร้าง

CPAC Green Solution ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็ไม่หยุดนิ่งที่พัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ต่อความต้องการให้แก่ทุกกลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต พร้อมรวบรวมเทรนด์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างโลกที่กำลังมาแรงในช่วง 2 – 3 ปีข้างหน้า มาอัปเดตเพื่อเป็นไอเดียและยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน 
 

 5 เทรนด์อุตสาหกรรมก่อสร้างโลกที่แรงไม่หยุด ได้แก่ 

  • การออกแบบการสร้างในโลกเสมือนจริง (Virtual Design and Construction – VDC)

เป็นเทรนด์ที่มาแรงมากทั่วโลก เพราะนอกจากจะตอบโจทย์เรื่องการขาดแคลนแรงงานแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำงานซ้ำที่เกิดจากความผิดพลาดในขั้นตอนต่างๆ ซึ่งปกติจะสูงถึง 30% ของต้นทุนการก่อสร้างรวม โดยเครื่องมือที่ได้ความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน คือ เทคโนโลยีการสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคาร หรือ Building Information Modeling (BIM) 

จาก รายงานของReportLinker บริษัทวิจัยทางการตลาดจากประเทศฝรั่งเศสระบุว่า ตลาด BIM ในปี 2563 (2020) มีมูลค่าประมาณ 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ – 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่จะหยุดชะวักเนื่องจากโรคระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่าตลาด BIMจะฟื้นตัวและมีอัตราเติบโตต่อปี 14.5% สอดคล้องกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างโลกจากนี้ต่อไปในอีก 5 ปีข้างหน้า ในส่วนของประเทศไทยเองก็มีการเร่งพัฒนาบุคลากรในด้าน VDC เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 

  • ตลาดการก่อสร้างแบบสำเร็จรูป (Modular construction)

แม้ว่าการก่อสร้างแบบสำเร็จรูปจะมีการพัฒนามาระยะหนึ่งแล้ว แต่ตลาดนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเมืองและอุตสาหกรรม เพราะข้อดีหลักของการก่อสร้างแบบ Modular คือ สามารถที่วางแผนควบคุมต้นทุน และระยะเวลาในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง จนกระทั่งจบงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถออกแบบได้อย่างนอกกรอบกว่าการสร้างแบบดั้งเดิมมาก โดยรายงานของ Straits Research บริษัทวิจัยชั้นนำของโลก คาดว่าตลาดการก่อสร้างแบบสำเร็จรูปของโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 2.71 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2573 (2030) เพิ่มขึ้นจาก 1.38 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2564 (2021) โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ 8% ต่อปีระหว่าง 2656 – 2573 (2022 – 2030) 

  • โดรนก่อสร้าง

เป็นอีกเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการร่างพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว การถ่ายภาพทางอากาศ รวมถึงถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง มีการประมาณการคร่าวๆ กันว่า “โดรนก่อสร้าง” ช่วยลดการสูญเสียทรัพยากรในไซต์ก่อสร้างในแต่ละปีได้ถึง 1.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในประเมินปริมาณสต็อกวัสดุที่ต้องใช้ในการก่อสร้างได้อย่างแม่นยำมากขึ้นถึง 61% 

นอกจากนี้ “โดรนก่อสร้าง” ยังถูกนำมาต่อในรูปแบบต่างๆ อย่างเช่นสิ่งที่ CPAC Green Solution กำลังพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นในงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยและโรงงานต่างๆ ฯลฯ ยังมีการใช้เพื่อสำรวจภูมิประเทศใต้น้ำโดยใช้คลื่นเสียงเพื่อออกแบบติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่สามารถใช้แรงงานมนุษย์ได้ 

  • เทคโนโลยี 3D Printing

เป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำไปใช้คู่กับเทคโนโลยีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น BIM หรือแม้แต่โดรน ล่าสุดนักวิจัยจาก Imperial College London และ Empa ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ร่วมกันพัฒนาโดรนชนิดพิเศษที่มีฟังก์ชัน 3D Printing ในตัว เพื่อใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมอาคาร ระบบนี้จะบินโดรนหลายตัวพร้อมกันในครั้งเดียว เพื่อทำงานจากแบบพิมพ์เขียว(Blueprint) เดียวกัน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการทำงานของฝูงผึ้ง 

ทั้งนี้ตลาด 3D Printing Construction โลกมีมูลค่าประมาณ 11 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2564 (2021) และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตรายปีประมาณ 101% ตั้งแต่ปี 2665 – 2573 (2022 – 2030) ทาง Straits Research ระบุว่าภูมิภาค    เอเชียแปซิฟิกมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด และถือเป็นผู้นำตลาดการผลิต 3D Printing ของโลกด้วย โดยในรายงานยังระบุอีกว่า อุปสงค์ (Demand) จากอาคารและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันตลาดในภูมิภาคนี้ รวมถึงการเติบโตของตลาด BIM ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันในความต้องการ 3D Printing สูงขึ้นตามด้วย 

  • วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Building Materials)

เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากภาวะโลกร้อนนับเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ผู้พัฒนาโครงการไม่สามารถเมินเฉยต่อการเลือกวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ ในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยเองก็มีการสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงวัสดุก่อสร้างในไทยเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์โลก โดยเน้นวัสดุที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก ลดโลกร้อน มีการทำการวิจัยและพัฒนาด้านวัสดุเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและนำไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ 

จากการสำรวจของTransparency Market Research ระบุว่าตลาดวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโลกมีมูลค่า2.64 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 (2020) และคาดว่าตลาดจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีมูลค่าสูงถึง 9.83 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2574 (2031) โดยปัจจัยสำคัญมาจากความต้องการของผู้บริโภคเองและนโยบายของภาครัฐ 

 
 ” ทั้งนี้อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันตามเทรนด์โลก โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผลกระทบต่อทั้งธุรกิจและสังคมในวงกว้าง นอกจากนี้ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยทั้งภาครัฐและเอกชนควรให้ความสำคัญกับการเร่งผลิตบุคลากร โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีการสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคาร (BIM) เพื่อรองรับความต้องการ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคต” 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เปิดสูตร สมาคมอสังหาฯ ชงบิ๊กตู่ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร 1ไร่ ราคา100ล้าน อัพ

เปิดสูตร สมาคมอสังหาฯ ชงบิ๊กตู่ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรสูงสุด 1ไร่ ในกทม. -ปริมณฑล 100ล้าน อัพ ดีเดย์วันที่ 10พ.ย. นี้ แก้ปมนอมินี -กฎหมายต่างชาตินำเงินลงทุน40ล้านซื้อที่ดินไทยไม่เกิน1ไร่

การออกมาคัดค้าน เป็นวงกว้างว่าเป็นกฎหมายขายชาติ สำหรับ การเปิดทาง”ต่างชาติซื้อที่ดินไทย”  กรณีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการผ่านร่างกฎกระทรวง การได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว

ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยดึงดูดคนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทยพ.ศ… ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอให้ต่างชาติได้สิทธิครอบครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ เพื่ออยู่อาศัยแลกการนำเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี ประกอบด้วย 4 กลุ่ม ผู้ได้สิทธิวีซ่าระยะยาว 10 ปี (LTR Visa) ได้แก่

  1. ประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง
  2. กลุ่มเกษียณอายุจากต่างประเทศ
  3. กลุ่มต้องการทำงานในไทย
  4. กลุ่มมีทักษะชำนาญพิเศษ เพื่อให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำ 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี (ปี2565-2569)

ขณะกลุ่มภาคอสังหาริมทรัพย์กังขาว่า ก่อนหน้านี้เคยเสนอรัฐบาลกรณีมาตรการกระตุ้นคนต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยในไทยประเภทบ้านแนวราบกระตุ้นเศรษฐกิจ กลับไม่ได้รับการเหลียวแล แต่อนุมัติให้ซื้อที่ดินได้ไม่เกิน1ไร่แลกนำเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า40ล้านบาท มองว่าเป็นตัวเลขค่อนข้างต่ำเกินไป

ดังนั้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน นี้ ( 2565) เตรียมตั้งโต๊ะแถลงและเสนอต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนอุตสหากรรมที่อยู่อาศัยและธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้อย่างแน่จริง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจนอกจากคอนโดมิเนียม

ทั้งนี้นาย มีศักดิ์​ ชุนหรักษ์โชติ​ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า  มาตรการของรัฐบาลมีความเสี่ยงต่อการนำพวกพ้องซื้อที่ดิน1ไร่ติดต่อกันสร้างอาณาจักรอีกทั้ง ยังกำหนดให้ซื้อได้ตามผังเมืองรวมตั้งแต่พื้นที่สีเหลือง(ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย)เป็นต้นไป แต่หากมองในภาพใหญ่จะทำให้ต่างชาติกว้านซื้อที่ดินได้ทุกที่ ย้อนแย้งการกำหนดโซนของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยหารือกับ 14 สมาคมในภูมิภาค  มีแผน เสนอทางเลือกใหม่  เพื่อแก่ปัญหานอมินีและสกัดการใช้กฎกระทรวงที่จะออกมา จนถูกต่อต้านว่าเป็นกฎหมายขายชาติ

สำหรับราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในโครงการบ้านจัดสรร ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดสรรที่ดิน ของคนต่างชาติได้แก่  ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล  เนื้อที่ไม่เกิน50ตารางวา ราคาไม่น้อยกว่า 5ล้านบาท ขณะต่างจังหวัด ราคาไม่น้อยกว่า 3ล้านบาท

เนื้อที่ไม่เกิน100ตารางวา ราคาไม่น้อยกว่า 10ล้านบาท ต่างจังหวัด ราคาไม่น้อยกว่า8ล้านบาท  เนื้อที่ไม่เกิน 200ตารางวา กทม.ปริมณฑลไม่น้อยกว่า50ล้านบาท ต่างจังหวัดไม่น้อยกว่า 20ล้านบาท เนื้อที่ ไม่เกิน1ไร่ กทม.และปริมณฑล ราคาไม่น้อยกว่า100ล้านบาท ต่างจังหวัดไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท ขึ้นไป สัดส่วน49% เท่ากับคอนโดมิเนียม

โดยผู้ถือกรรมสิทธิ์  ในโครงการบ้านจัดสรรสำหรับต่างชาติ มีสิทธิ์ออกเสียงได้กึ่งหนึ่งของสิทธิ์ การนำเงินเข้ามาซื้อบ้านจัดสรร ต้องผ่านสถาบันการเงินและมีหลักฐานถูกต้องตามกฎหมาย

ส่วนที่ดินในโครงการจัดสรรสนามกอล์ฟซื้อเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น การออกเสียงได้กึ่งหนึ่งของสิทธิ์ กรณีเนื้อที่ไม่เกิน1ไร่มีเงื่อนไขว่า ต้องเข้าหลักเกณฑ์ขออนุญาต LTR Visa หรือถือวีซ่าระยะยาว 

ขณะกระทรวงมหาดไทย  ออกมาชี้แจงว่า ร่างกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ มีการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเพิ่มเติมเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายบุคคล ในขณะเดียวกันก็เพิ่มการควบคุม และคัดกรองให้รัดกุมขึ้น ดังนี้

1. อนุญาตให้เฉพาะคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม คือกลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ที่ได้รับสิทธิวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาวใหม่ (long-term resident visa : LTR) เท่านั้น

2. การซื้อขายไม่เปิดช่องให้นอมินีสามารถกว้านซื้อที่ดินได้ เนื่องจากมีหลักเกณฑ์ขั้นที่ 1 ที่กำหนดคุณสมบัติคนต่างด้าว 4 กลุ่ม ข้างต้นแล้วยังกำหนดให้ต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ในธุรกิจหรือกิจการตามที่ร่างกฎกระทรวง กำหนด และต้องคงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยให้นับมูลค่าการลงทุน ณ วันที่ยื่นคำขอ หากถอนการลงทุนก่อนครบกำหนด 3 ปี ก็จะถูกระงับสิทธิ และสามารถออกเงื่อนไขในการป้องกันนอมินีเพิ่มเติมได้

3. ไม่สามารถถือครองขยายพื้นที่ได้ มากกว่า 1 ไร่ ต่อ 1 คน ดูสิทธิการซื้อครบ 1 ไร่ ไม่มีสิทธิซื้ออีกถึงแม้จะขายออกไปแล้ว

4. การซื้อที่ดิน กำหนดบริเวณชัดเจน ไม่ใช่ซื้อที่ไหนก็ได้ในประเทศไทย แต่ต้องเป็นพื้นที่ในเขตเมืองที่มีราคาสูง อยู่ภายในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา เขตเทศบาล หรืออยู่ภายในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ไม่ใช่อนุญาตให้ซื้อพื้นที่เกษตรกรรม

5. การซื้อขายเป็นระหว่างพื้นที่เอกชนกับเอกชนตกลงกันเอง และเป็นราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มเอง ไม่ใช่ ลงทุน 40 ล้านแล้วได้ที่ 1 ไร่

6. แต่หากตกลงซื้อขายที่ดินแล้วตามขั้นตอน นอกจากยื่นเรื่องต่อเจ้าพนักงานที่ดินแล้ว ยังกำหนดให้ยื่นเรื่องต่ออธิบดีกรมที่ดินเพื่อตรวจสอบเงื่อนไขทั้งหมดก่อน เช่นพบว่า เป็นนอมินี หรือมีการกว้านซื้อบริเวณใกล้เคียง ก็นำไปสู่การตรวจสอบเพิ่ม และสุดท้ายเมื่อถูกต้อง ถึงจะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเป็นรายกรณีไป ไม่ใช่ซื้อได้ในทันที

7. รัฐบาลไม่ได้เป็นผู้จัดหาที่ดินให้ เพียงออกกฎหมายรองรับ และสิทธิอำนาจในการพิจารณาเงื่อนไขการอยู่ในแผ่นดินไทย ยังเป็นของรัฐบาลไทย

8. การใช้ชีวิตของต่างชาติในไทย ต้องดำรงเงื่อนไขก่อนซื้อ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย ไม่มีเอกสิทธิ์เหนือแผ่นดินไทย

9. ทุกตารางนิ้วที่ต่างชาติมีที่พักอาศัยอยู่ในแผ่นดินไทย ยังต้องเคารพกฎหมายไทย จึงไม่ใช่การเสียอธิปไตยของชาติ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 37.27 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทอาจอ่อนค่าเป็นไปอย่างจำกัด หากฟันด์โฟลว์ยังซื้อสินทรัพย์ไทยสุทธิ หากเงินบาทอ่อนค่าใกล้ 38.00บาท/ดอลลาร์ผู้ส่งออกบางส่วนเริ่มพิจารณาขายเงินดอลลาร์ ส่วนผู้นำเข้ารอซื้อเงินดอลลาร์ในจังหวะเงินบาทแข็งค่าใกล้โซนแนวรับ 37.00-37.10 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 37.27 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 37.39 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า ภายใต้ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด ที่กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง จะช่วยหนุนให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นใกล้โซนแนวรับ ตามที่เราคาดการณ์ในวันก่อนได้

อย่างไรก็ดี เรามองว่า ความผันผวนในตลาดการเงินจะเริ่มกลับมาในช่วงที่ผู้เล่นในตลาดทยอยรับรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา หากพรรคการเมืองของประธานาธิบดีปัจจุบัน สูญเสียอำนาจการครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส (อาจเสียอำนาจทั้งในสภาผู้แทนฯ หรือ วุฒิสภา หรือ ทั้งสองสภา) อย่างในปี 1994 และ ปี 2010 ตลาดอาจกังวลปัญหาการเมืองสหรัฐฯ และเลือกที่จะปิดรับความเสี่ยงและถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 3%-4% ได้ในระยะสั้น

ทั้งนี้ เราคงมองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัด ตราบใดที่ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติยังมีทิศทางซื้อสินทรัพย์ไทยสุทธิ ขณะเดียวกันผู้ส่งออกบางส่วนก็เริ่มพิจารณาขายเงินดอลลาร์ หากเงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 38.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนผู้นำเข้าส่วนใหญ่ต่างรอซื้อเงินดอลลาร์ในจังหวะเงินบาทแข็งค่า โดยเฉพาะหากเงินบาทแข็งค่าใกล้โซนแนวรับ 37.00-37.10 บาทต่อดอลลาร์

ในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวนสูงจากความไม่แน่นอนของหลายปัจจัย เราคงแนะนำให้ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 37.10-37.40 บาท/ดอลลาร์

ตลาดการเงินสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงต่อเนื่อง ส่งผลให้ ดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นราว +0.96%หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคฯ ขนาดใหญ่ อาทิ Microsoft +2.9%, Alphabet +2.2%

ส่วนหุ้น Meta +6.5% หลังบริษัทเตรียมเปิดเผยแผนการลดการจ้างงานครั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้ ทำให้บรรดาผู้เล่นในตลาดเริ่มคลายกังวลปัญหาต้นทุนการดำเนินธุรกิจของ Meta ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน (Exxon Mobil, Chevron +1.2%)

ท่ามกลางความหวังว่าเศรษฐกิจจีนอาจกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น หากทางการจีนพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ Zero COVID อย่างไรก็ดี เราคาดว่า ผู้เล่นในตลาดอาจรอประเมินผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ก่อนที่จะมีการปรับสถานะถือครองอย่างชัดเจนอีกครั้ง

ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ของยุโรป ปรับตัวขึ้นราว +0.33% หนุนโดยรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่ส่วนใหญ่ยังคงออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากมุมมองของบรรดานักลงทุนสถาบันและ

นักวิเคราะห์ที่เริ่มมีมุมมองเป็นบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นยุโรปมากขึ้น สะท้อนผ่าน ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยูโรโซน (Sentix Investor Sentiment) ที่ปรับตัวดีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน โดยส่วนหนึ่งมาจากความกังวลวิกฤตพลังงานที่ลดลง หลังอุณหภูมิของฤดูหนาวยุโรปอาจสูงกว่าช่วงปกติ และการเก็บสำรองแก๊สธรรมชาติของยุโรปโดยรวมอยู่ในระดับสูง

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ ได้หนุนให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 4.22% อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจเริ่มแกว่งตัว Sideways เนื่องจากผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางการเมืองรวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ในช่วง 2 ปี ข้างหน้าก่อนจะถึงการเลือกตั้งใหญ่อีกครั้ง

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก  ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 110.2 จุด กดดันโดยแรงขายเงินดอลลาร์ หลังตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ทำให้ เงินดอลลาร์มีความน่าสนใจน้อยลงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven)

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินฝั่งยุโรป อาทิ เงินยูโร (EUR) ที่ปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับ 1.00 ดอลลาร์ต่อยูโร ได้อีกครั้ง หลังบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงออกมาสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของ ECB

กอปรกับตลาดหุ้นยุโรปที่อยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงก็มีส่วนช่วยหนุนให้เงินยูโรทยอยแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี แม้ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง แต่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ปรับตัวขึ้น ตามภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด กดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านและย่อตัวลงตามแรงขายทำกำไรสู่ระดับ 1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม คือ การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ (the US Midterm Election) ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยชี้ชะตาทิศทางการเมืองสหรัฐฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วง 2 ปี ข้างหน้า จนกว่าจะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ทั้งนี้ เราคาดว่า ผลการเลือกตั้งจะทยอยรับรู้ได้ในช่วงสายของวันพุธ ทำให้ตลาดการเงินอาจผันผวนไปตามผลการเลือกตั้งได้ นอกจากนี้ เราประเมินว่า มีโอกาสที่การนับคะแนนอาจใช้เวลานานหลายวันได้ เนื่องจากบางรัฐที่อาจเป็นตัวตัดสินผลการเลือกตั้งจะมีการนับคะแนนผ่านไปรษณีย์ที่ช้า

อย่างไรก็ดี ตลาดประเมินว่า คะแนนความนิยมของประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่ลดลงท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพสูง จะส่งผลให้ พรรครีพลับริกันจะสามารถกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ ได้

ส่วนวุฒิสภามีโอกาสที่พรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจยังครองเสียงข้างมากได้ ซึ่งการแบ่งขั้วทางการเมืองในสภาคองเกรสอาจทำให้การเมืองสหรัฐฯ เผชิญปัญหามากขึ้นและการผ่านร่างกฎหมายหรือมาตรการต่างๆ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็อาจเผชิญอุปสรรคและการคัดค้านจากฝ่ายตรงข้าม

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“พีรณัฐ” ซิวที่สามโลก รุ่นโอเพ่น ปิดฉากการแข่งขันเวคบอร์ด-เวคสเก็ต ชิงแชมป์โลก 2022

“พีพี” พีรณัฐ ฟักทองอยู่ คว้าที่ 3 โลก ในเวคบอร์ด รุ่นทั่วไปชาย มาครองได้สำเร็จ การแข่งขันเวคบอร์ด-เวคสเก็ต ชิงแชมป์โลก 2022  “Singha IWWF World Cable Wakeboard and Wakeskate Championships 2022” ด้าน “น้อง” ธัญชนก การสมมุติ ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ผงาดที่สอง เวคบอร์ด รุ่นอาวุโส หญิง ขณะที่ “โชกุน” พิสิษฐ์ มหัทธนาจาตุภัทร คว้าอันดับ 3 รุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี ชาย และ “โถ่งโถง” ลดา หลิว ยึดอันดับ 3 รุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี หญิง ปิดฉากผลงานทีมไทยด้วยผลงาน 1 เหรียญเงิน กับ 3 เหรียญทองแดง

การแข่งขันเวคบอร์ด-เวคสเก็ต ชิงแชมป์โลก 2022 รายการ “Singha IWWF World Cable Wakeboard and Wakeskate Championships 2022” ซึ่งสมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย ได้รับเกียรติจากสหพันธ์วอเตอร์สกีและเวคบอร์ดนานาชาติ (International Waterski & Wakebord Federation) หรือ IWWF ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนของ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, การกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จัดแข่งขันที่สนามเอส ไทย เวคปาร์ค (ESC Thai wake park) อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-6 พฤศจิกายน 2565 มีนักกีฬาเวคบอร์ดและเวคสเก็ตระดับโลก และนักกีฬาทีมชาติไทย รวม 32 ประเทศ เข้าร่วมอย่างคับคั่งกว่า 300 คน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในวันสุดท้าย ในพิธีปิดการแข่งขันได้รับเกียรติจาก นายภูริต ภิรมย์ภักดี นายกสมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย เป็นประธานมอบรางวัล โดยมี มร.โฆเซ อันโตนิโอ เปเรซ ประธานสหพันธ์เวคบอร์ดนานาชาติชาวสเปน คณะผู้บริหารจากสหพันธ์วอเตอร์สกีและเวคบอร์ดนานาชาติ และกรรมการบริหารสมาคมฯ ร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง

ในรอบชิงชนะเลิศ มีนักกีฬาไทย ผ่านเข้ารอบมาลุ้นแชมป์ รวมทั้งหมด 10 คน ประกอบด้วย ประเภทเวคบอร์ด รุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี หญิง ลดา หลิว กับ แพรพิมพ์ พิพัฒน์สวัสดิ์, รุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี ชาย พิสิษฐ์ มหัทธนาจาตภัทร กับ นิโคลัส สโตนคิง, รุ่นอาวุโส หญิง (อายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป) ธัญชนก การสมมุติ กับ อนงนาฏ นาคปาน, รุ่นมาสเตอร์ หญิง (อายุมากกว่า 30 ปี) ศีรสินธุ์ ขำกล่อม, รุ่นมาสเตอร์ ชาย (อายุมากกว่า 30 ปี) พิรัฐพงศ์ กิตติวีระภัค และรุ่นทั่วไป ชาย พีรณัฐ ฟักทองอยู่ และประเภทเวคสเก็ตรุ่นเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี ชาย ตุนณ์ณภี กิตติพยัคฆ์

สำหรับไฮไลต์ของนักกีฬาไทย อยู่ที่รุ่นใหญ่สุด รุ่นทั่วไป หรือ รุ่นโอเพ่น ชาย “พีพี” พีรณัฐ ฟักทองอยู่ หนึ่งเดียวของไทยที่ทะลุเข้ามาแข่งขันในรอบไฟนอล โชว์ลีลายอดเยี่ยม ทำไป 70.00 คะแนน คว้าอันดับที่สามมาครองได้สำเร็จ โดยแชมป์เป็นของ แม็กซ์ ไมล์ด จากเยอรมนี ทำได้ 87.00 คะแนน และ อันดับ 2 ราฟาเอล ตรินิแดด ชาวฟิลิปปินส์ ทำได้ 85.67 คะแนน

ด้านประเภทเวคบอร์ด รุ่นอาวุโส หญิง (อายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป) ปรากฏว่า “น้อง” ธัญชนก การสมมุติ โชว์ลีลาทำได้ 64.00 คะแนน คว้ารองแชมป์มาครองได้สำเร็จ ส่วนแชมป์รุ่นนี้เป็นของ เอลซ์เบียตา นิตส์เซ จากโปแลนด์ ทำได้ 82.00 คะแนน อันดับ 3 เจียนนา ตอร์เร จากฟิลิปปินส์ ทำได้ 48.33 คะแนน ส่วน “ตุ๊ก” อนงนาฏ นาคปาน จบอันดับ 4 ทำได้ 41.67 คะแนน

ขณะที่ รุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี ชาย แชมป์เป็นของ แยน-ลูกา ชูลซ์ จากเยอรมนี ทำได้ 74.33 คะแนน อันดับ 2 อีธาน เบอร์โตกัล ทำได้ 60.67 คะแนน อันดับ 3 “โชกุน” พิสิษฐ์ มหัทธนาจาตุภัทร ทำได้ 58.33 คะแนน ส่วน “นิค” นิโคลัส สโตนคิง จบอันดับ 5  ทำได้ 35.33 คะแนน

ส่วนรุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี หญิง แชมป์เป็นของ โลวา แวนคัสเซม จากเบลเยียม ทำได้ 67.33 คะแนน อันดับ 2 ซอนยา โซสตรอม จากสวีเดน 65.33 ทำได้ คะแนน อันดับ 3 “โถ่งโถง” ลลดา หลิว ทำได้ 64 คะแนน ส่วน “แพรพิมพ์” แพรพิมพ์ พิพัฒน์สวัสดิ์ ทำได้ 59.33 คะแนน จบอันดับ 6

ส่วนผลรุ่นอื่นๆ ของนักกีฬาไทย มีดังนี้ ประเภทเวคบอร์ด รุ่นมาสเตอร์ หญิง (อายุมากกว่า 30 ปี) “นุ้ย” ศีรสินธุ์ ขำกล่อม คว้าอันดับ 4 ทำได้ 52.67 คะแนน แชมป์รุ่นนี้เป็นของ แม็กซิน ซาพูเล็ตต์ จาดเนเธอร์แลนด์ ทำได้ 80.33 คะแนน, รุ่นมาสเตอร์ ชาย (อายุมากกว่า 30 ปี)

“เจ” พิรัฐพงศ์ กิตติวีระภัค ทำได้ 33.67 คะแนน จบอันดับ 6 ส่วนแชมป์รุ่นนี้เป็นของ ดาเนียล เฟตซ์ จากออสเตรีย ทำได้ 69.00 คะแนน

ประเภทเวคสเก็ต รุ่นเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี ชาย แชมป์เป็นของ แม็กซ์ อัลฟองส์ เคลเลอร์ จากเยอรมนี ทำได้ 76.00 คะแนน อันดับ 2 อเลสซานโดร ดิกอสติโน จากอิตาลี ทำได้ 71.33 คะแนน อันดับ 3 คามิลล์ ชาร์รุด จากฝรั่งเศส ทำได้ 59.67 คะแนน ส่วน “โมตุน” ตุนณ์ณภี กิตติพยัคฆ์ ได้อันดับ 4 ทำได้ 54.00 คะแนน พลาดคว้าเหรียญรางวัล

สรุปศึกเวคบอร์ด-เวคสเก็ต ชิงแชมป์โลก 2022 “Singha IWWF World Cable Wakeboard and Wakeskate Championships 2022” นักกีฬาไทย คว้ามาได้ 1 เหรียญเงิน กับ 3 เหรียญทองแดง

ส่วน “น้อง” ธัญชนก การสมมุติ กล่าวว่า รู้สึกดีใจแทนคนไทย ที่มีแมตช์ระดับโลกมาจัดแข่งขันที่ประเทศไทย ส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้น ดีใจและภูมิใจ ที่ได้อยู่ในทีมชาติไทย ส่วนภาพรวมของการแข่งขันถือว่าดีมากๆ นักกีฬาเองก็ได้รู้จักกัน ส่วนผลงานที่ได้อันดับ 2 ของโลก ก็ดีใจมากๆ ค่ะ อยากให้วงการเวคบอร์ดของไทยพัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป และอยากฝากถึงน้องๆ เยาวชนที่สนใจก็สามารถเข้ามาได้เลย อย่างในกรุงเทพฯ มีบึงหรือสนามให้เล่นจำนวนมาก แต่ละที่จะมีคนแนะนำและฝึกสอนการเล่นให้ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอบคุณทางสิงห์ คอร์เปอเรชั่นฯ รวมทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนให้มีการแข่งขันระดับโลกในครั้งนี้

ขณะที่ “น้องโชกุน” พิสิษฐ์ มหัทธนาจาตุภัทร กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น ภูมิใจและดีใจมากที่คว้าอันดับ 3 ของโลกมาได้สำเร็จ แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ตนเองก็ต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก ผ่านอุปสรรคมาเยอะมาก เพราะมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าและหลัง แต่ก็สู้เต็มที่ ไม่เคยคิดยอมแพ้แต่อย่างใด

“ผมเล่นกีฬาเวคบอร์ดมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เพราะเพื่อนชวนมาเล่น เลยชอบมากเพราะเป็นกีฬาที่น่าตื่นเต้นและหวาดเสียว แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เป้าหมายในอนาคตผมอยากจะคว้าแชมป์รายการระดับนานาชาติให้ได้สักครั้ง ส่วนความสำเร็จครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ ที่ส่งเสริมสนับสนุนมาตลอด ที่ลืมไม่ได้คือสมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย ที่จัดแข่งขันรายการระดับโลก ถือเป็นเวทีที่ทำให้พวกเราได้มีโอกาสแสดงฝีมือและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากนักกีฬาระดับโลก เพื่อที่จะพัฒาศักยภาพของตัวเองต่อไป

ทางด้าน “น้องโถ่งโถง” ลลดา หลิว นักเวคบอร์ดหญิงทีมชาติไทย ลูกครึ่งไทย-มาเลเซีย กล่าวว่า หนูเล่นกีฬาชนิดนี้มาประมาณ 2-3 ปี เป็นกีฬาที่เล่นแล้วสนุก คลายเครียดได้ การได้อันดับ 3 ของโลก ก็ดีใจมากค่ะ ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จากนี้ก็จะเล่นไปเรื่อยๆ เพื่อพัฒาฝีมือ อยากได้แชมป์โลกสักครั้ง แชมป์รุ่นไหนก็ได้ค่ะ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่และสมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมฯ ตลอดจน “สิงห์” ที่ให้การสนับสนุนนักกีฬาไทยทุกคนเป็นอย่างดีด้วยค่ะ

ขณะเดียวกัน ได้เกิดเรื่องฮือฮาในระหว่างการแข่งขันครั้งนี้ เมื่อ เดล ครอสลีย์ นักเวคบอร์ดหนุ่มจากสหราชอาณาจักร ได้ทำเซอร์ไพร้ส์ครั้งใหญ่ เมื่อคุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงาน ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องของเพื่อนนักกีฬาที่ต่างร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


8 สัญญาณอันตราย “ทอนซิลอักเสบ”

ทอนซิลอักเสบ เป็นการติดเชื้อที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณช่องคอ ทำให้เกิดอาการคล้ายกับไข้หวัด เช่น เจ็บคอ คอบวม ไข้สูง กลืนลำบาก ปวดหัว ทอนซิลอักเสบเฉียบพลันอาจมีอาการนานประมาณ 3-4 วัน แต่บางคนอาจมีอาการเป็นๆ หายๆ หรือมีอาการอักเสบเรื้อรัง ทอนซิลอักเสบมักสามารถหายไปได้เองโดยไม่ต้องทำการรักษา แต่การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม อาจช่วยบรรเทาอาการและเร่งให้หายไวขึ้นได้

ทอนซิลอักเสบ คืออะไร

ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) เป็นการอักเสบของต่อมทอนซิล ซึ่งเป็นต่อมน้ำเหลืองบริเวณช่องคอด้านหลังทั้ง 2 ข้าง ทำหน้าที่ดักจับเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ เมื่อเชื้อโรคมีปริมาณมากเกินจนไม่สามารถควบคุมได้ หรือเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบ บวม และอาการเจ็บคอ

ทอนซิลอักเสบ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก คือ

  • ทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน มักจะมีอาการประมาณ 3-4 วัน
  • ทอนซิลอักเสบแบบเป็นๆ หายๆ หมายถึง อาการทอนซิลอักเสบที่เกิดขึ้นปีละหลายครั้ง โดยอาจมีอาการ รักษาจนหาย แล้วกลับมามีอาการใหม่ วนซ้ำไปเรื่อยๆ
  • ทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หมายถึง อาการทอนซิลอักเสบที่มีอาการเรื้อรังยาวนาน

ทอนซิลอักเสบมักพบได้บ่อยในเด็ก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ได้เช่นกัน

อาการของทอนซิลอักเสบ

อาการของทอนซิลอักเสบ อาจมีดังต่อไปนี้

  1. เจ็บคอ คออักเสบ บวม แดง
  2. กลืนลำบาก รู้สึกเจ็บเวลากลืนน้ำลาย
  3. เสียงแหบ
  4. ปวดหัว ปวดหู
  5. เป็นไข้ หนาวสั่น
  6. อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  7. บริเวณต่อมทอนซิลอาจมีคราบสีขาวหรือสีเหลือง
  8. มีกลิ่นปาก

นอกจากนี้ เด็กอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น

  1. ไม่ยอมกินอาหาร
  2. ปวดท้อง
  3. อาเจียน
  4. น้ำลายไหลย้อย
  5. งอแงผิดปกติ

สาเหตุของทอนซิลอักเสบ

ทอนซิลอักเสบอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุ ดังต่อไปนี้

  • การติดเชื้อไวรัส ทอนซิลอักเสบโดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza Virus) ไวรัสเอนเทอโร (Enterovirus) ไวรัสอะดีโน (Adenovirus)
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียที่มักทำให้เกิดทอนซิลอักเสบ คือ สเตรปโตคอคคัส ไพโอจิเนส (Streptococcus Pyogenes) ที่ทำให้เกิดโรคคออักเสบ แต่ก็อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ได้เช่นกัน

ปัจจัยเสี่ยงของทอนซิลอักเสบ

  • อายุ เด็กอายุน้อยมักจะมีโอกาสเกิดทอนซิลอักเสบได้มากกว่า ทารกและเด็กเล็กมักจะเกิดทอนซิลอักเสบจากเชื้อไวรัส ส่วนเด็กที่อายุ 5-15 ปีมักจะเกิดทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ ผู้สูงอายุก็อาจมีโอกาสเกิดทอนซิลอักเสบสูงเช่นกัน
  • การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้ติดเชื้อง่าย เช่น เด็กวัยเรียนที่ต้องเจอกับเด็กคนอื่นเยอะๆ อาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรคสูงกว่า และทำให้เกิดทอนซิลอักเสบ

การวินิจฉัยทอนซิลอักเสบ

**ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

คุณหมอสามารถวินิจฉัยทอนซิลอักเสบได้จากการตรวจดูอาการ โดยเฉพาะในบริเวณช่องปาก หลังช่องคอ และลำคอ รวมถึงตรวจวัดไข้ เพื่อดูว่ามีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น อาการอักเสบ อาการบวม มีไข้สูง หรือไม่ นอกจากนี้ คุณหมอก็อาจทำตรวจอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนี้

  • การใช้ไม้ป้ายคอ เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำลายและเนื้อเยื่อในบริเวณช่องคอไปตรวจสอบดูว่ามีเชื้อแบคทีเรียหรือไม่
  • การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count หรือ CBC) เพื่อตรวจดูว่าค่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดสูงหรือต่ำกว่าปกติหรือไม่ ซึ่งจะสามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย

การรักษาทอนซิลอักเสบ

โดยส่วนใหญ่ ทอนซิลอักเสบ โดยเฉพาะทอนซิลอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส มักจะสามารถหายไปได้เองภายในไม่กี่วัน โดยไม่จำเป็นต้องทำการรักษาเพิ่มเติม แต่สำหรับทอนซิลอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย คุณหมออาจสั่งยาปฏิชีวนะให้รับประทานเพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรค ควรรับประทานยาให้ครบตามกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอาการดื้อยา

นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีอาการทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ บ่อยครั้ง เช่น เป็นมากกว่า 7 ครั้งใน 1 ปี คุณหมออาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดต่อมทอนซิลออก ควรปรึกษาคุณหมอให้ละเอียดก่อนตัดสินใจผ่าตัดต่อมทอนซิล

การดูแลตัวเองที่บ้าน

โดยส่วนใหญ่ อาการทอนซิลอักเสบสามารถหายได้เอง แต่สามารถดูแลตัวเองเพิ่มเติมเพื่อช่วยบรรเทาอาการและเร่งให้หายไวขึ้นได้ ดังนี้

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ดื่มน้ำให้มาก ควรเลือกน้ำเย็น หรือรับประทานของเย็นๆ เช่น ไอติม น้ำแข็ง อาจช่วยบรรเทาอาการทอนซิลอักเสบได้
  • กลั้วคอด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ
  • ใช้เครื่องทำความชื้น เพื่อช่วยลดความระคายเคืองของคอ
  • ใช้ยาแก้ปวด เช่น ยาพาราเซตามอล ยาไอบูโพรเฟน เพื่อช่วยบรรเทาอาการทอนซิลอักเสบ

การปรับไลฟ์สไตล์ และการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันทอนซิลอักเสบ

สิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันทอนซิลอักเสบได้ คือการรักษาสุขอนามัยให้ดี ดังนี้

  • ล้างมือบ่อยๆ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรค
  • หลีกเลี่ยงผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ เป็นไข้ และผู้ที่เป็นทอนซิลอักเสบ
  • ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัว เช่น แก้วน้ำ ช้อนส้อม แปรงสีฟัน ร่วมกับผู้อื่น

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


จะพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษได้อย่างไร?

สำหรับนักเรียนหลายคนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษดูจะเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อม แล้วเราจะทำอย่างไรได้บ้างถึงจะพูดได้เก่งขึ้น วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากกัน!

ฟัง

ถ้าอยากจะพูดให้เก่งก็ต้องเริ่มจากการฟังให้เก่ง การฝึกฟังจะช่วยให้คุณคุ้นเคยว่าเจ้าของภาษาออกเสียงที่ถูกต้องว่าอะไร คุณจะได้ออกเสียงตาม

คอร์สเรียนของ Wall Street English นั้นออกแบบขึ้นมาบนพื้นฐานความคิดที่ว่าการฟังและการพูดตามเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ เพราะเป็นวิธีการเรียนรู้ภาษาตามธรรมชาติและมีประสิทธิภาพที่สุด หากอยากจะพูดให้เป็นธรรมชาติ ก็ควรจะฝึกฟังภาษาอังกฤษเพราะมีหลายคำที่เขียนอย่างหนึ่งแต่ออกเสียงอีกอย่างหนึ่ง

และการฟัง audiobooks หรือดูวิดีโอคลิปหรือแม้แต่ซีรี่ส์ในโทรทัศน์เป็นภาษาอังกฤษก็เป็นวิธีฝึกที่ดีมากเช่นกัน ฝึกฟังวันละนิดแต่สม่ำเสมอจะทำให้เห็นผลที่แตกต่างในระยะยาว

พูดทุกครั้งที่มีโอกาส

แน่นอนว่าการฝึกฝนคือหัวใจสำคัญสู่การพูดเก่ง เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากพัฒนา อย่าปล่อยโอกาสที่ได้จะได้พูดให้หลุดลอยไป เวลาที่คุณเรียนที่ Wall Street English คุณจะได้พูดภาษาอังกฤษตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้ามาในโรงเรียนและทักทายพนักงานต้อนรับ ไปจนถึงตอนนั่งจิบกาแฟกับสตาฟฟ์ของเราและนักเรียนคนอื่น ๆ และแน่นอนตลอดทั้งคาบที่คุณเรียนนั้นเต็มไปด้วยแบบฝึกพูด

คุณสามารถนำวิธีการฝึกนี้ไปฝึกต่อยอดคนเดียวได้ เวลาที่คุณทำแบบฝึกหัด อ่านออกเสียงประโยคและคำศัพท์ที่ได้ยินหรือเห็นออกมาดัง ๆ วิธีนี้เป็นประโยชน์มากเพราะจะช่วยให้คุณมั่นใจเมื่อต้องใช้ภาษาในการสนทนา

ฝึกเชื่อมเสียง

เวลาที่คุณพูดภาษาแม่ได้โดยธรรมชาติ คุณมักเชื่อมเสียงเวลาพูด ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน คำว่า ‘do’ ในประโยคคำถามมักจะเหลือเพียงแค่เสียง ‘d’ ดังตัวอย่างด้านล่าง

Do you speak English?

‘Do’ ถูกเชื่อมเสียงเข้ากับคำที่สำคัญกว่านั่นคือ ‘you’ และออกว่า /dju:/ และเสียง ‘k’ ในคำว่า ‘speak’ก็เชื่อมเข้ากับคำว่า ‘English’ ซึ่งเป็นคำที่น่าจะลงเสียงหนัก เพราะฉะนั้นประโยคนี้จะออกเสียงว่า

/dju: spi kin glish/

ช่วงที่คุณเรียนแรก ๆ อาจรู้สึกพะวงกับการเชื่อมเสียงแบบนี้เพราะคิดว่าคนอื่นจะไม่เข้าใจคุณ แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนพูดประโยคต่าง ๆ คือฟังและเรียนรู้วิธีการพูดทั้งประโยค ไม่ใช่เพียงแค่คำใดคำหนึ่ง วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณจำประโยคได้ง่ายขึ้นด้วย

ตัวอย่างหนึ่งที่มักใช้กันบ่อยเมื่อพูดถึงการเชื่อมเสียงคือคำว่า ‘want to’ ที่มักจะออกเสียงเป็น ‘wanna’ บางทีคุณอาจเคยได้ยินในเพลง นี่ไม่ใช่แสลงหรือภาษาอังกฤษที่ผิดไวยากรณ์แต่เป็นตัวอย่างของการพูดเร็วและเป็นธรรมชาติ

คิดเป็นภาษาอังกฤษ

วิธีที่ดีที่สุดในการฝึกพูดภาษาอังกฤษคือการคิดเป็นภาษาอังกฤษ ผู้เขียนทราบดีค่ะว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เพิ่งเริ่มเรียน แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณทำได้ที่จะช่วยให้คุณเริ่มคิดเป็นภาษาอังกฤษ นั่นคือลืมภาษาแม่ของคุณทิ้งไปซะ คุณอาจจะรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าคุณลองพยายามสักสองสามสัปดาห์ คุณจะเห็นและพลิกโฉมกระบวนการเรียนรู้ของคุณไปเลย

ปัญหาของการแปลก็คือหลังจากเห็นคำในภาษาของคุณเอง อยู่มักจะลืมความหมายอย่างรวดเร็ว และมักจะเป็นคำแปลที่แปลได้ไม่ตรงตัวเสียทั้งหมด แต่ถ้าคุณเรียนรู้ความหมายผ่านบริบท รูปภาพ เสียงหรือตัวอย่าง คุณจะเรียนภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ และจำได้

ตอนนี้คุณคงได้เห็นวิธีต่าง ๆ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของคุณแล้ว ลงมือทำวันนี้และเริ่มเรียน! ลองเข้าไปดูที่หน้า Student Experience ในเว็บไซต์ของเราเพื่อหาแรงบันดาลใจจากนักเรียนที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ

ที่ Wall Street English เราได้ทดสอบและพิสูจน์แล้วว่าวิธีนี้ได้ผล และเราใช้คอร์สเรียนและสื่อการเรียนการสอนแบบเดียวกันทั้ง 27 ประเทศทั่วโลก นั่นหมายความว่านักเรียนจากหลายเชื้อชาติเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้โดยไม่ต้องแปล

ทำไมไม่ลองมาทำแบบทดสอบภาษาอังกฤษกันดูก่อน ดูว่าความรู้ภาษาอังกฤษของคุณอยู่ระดับไหนและมาเริ่มเรียนกันเลย!

ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th


รู้ทันเมื่อรับสายจากมิตร (มิจ) ฉาชีพ กับมุกใหม่ “ทายซิใครโทรมา?”

เมื่อไรก็ตามที่คุณได้เคยเจอกับ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ครั้งแรกในชีวิต ให้คุณจำเอาไว้เลยว่ามันจะไม่มีครั้งสุดท้าย และคุณจะเจอสายเรียกเข้าจากแก๊งนี้ไปอีกเรื่อย ๆ ตราบใดที่คุณรู้ทันมุกหลอกลวงที่แก๊งนี้ใช้หากิน และไม่เคยเสียเงินให้กับแก๊งนี้

นอกจากจะโดนมันด่าสวนกลับมาเวลาที่คุณถูกจับได้ว่ารู้ทัน คุณก็อาจจะแค่หงุดหงิดบ้างหรือรู้สึกว่าเป็นเรื่องตลกของวันที่มีคนมาต่อล้อต่อเถียงลับคมปากของคุณ แต่ถ้าคุณรู้ไม่ทันเนื่องจากมันหลอกได้แนบเนียนมาก หรือเป็นมุกใหม่ที่คุณยังไม่รู้จนคุณตกเป็นเหยื่อ มันจะกลายเป็นความเสียหายทันที

แม้ว่าทุกวันนี้คนในสังคมกำลังตื่นรู้กับภัยหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พยายามโทรหาเหยื่อแล้วเล่นละครโรงใหญ่ให้ดูน่าเชื่อถือ และขยันหามุกใหม่ ๆ มาหลอกให้คนเชื่อ แม้ข่าวทั้งจากสื่อหลักและสื่อออนไลน์จะออกโรงเตือนกันคึกโครม แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยตกเป็นเหยื่อพวกมันอยู่ดี มุกไหนที่คนเริ่มจับไต๋ได้แล้วจนนำมาเตือนภัยต่อ ๆ กัน กลโกงของแก๊งนี้ก็จะมีการปรับเปลี่ยนพลิกแพลงจากเดิมเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนฉากการดำเนินเรื่อง แต่ตัวบทยังใกล้เคียงเดิม ซึ่งมันก็ยังหลอกคนได้ไม่น้อยเช่นเคย

แน่นอนว่าทุกวันนี้แก๊งนี้ยังคงหากินกับมุกเก่าอยู่บ้าง แต่เพราะว่าคนรู้ทันกันเยอะจนเริ่มใช้ไม่ได้ผลแล้ว สมองอันปราดเปรื่องที่ความคิดสร้างสรรค์จะแล่นแต่กับเรื่องทุจริตผิดกฎหมาย ก็จะสรรหาสารพัดวิธีใหม่ ๆ มาหากินต่อไปเรื่อย ๆ และล่าสุดก็ถึงคิวของ “มุกปลอมเป็นคนรู้จัก” ชวนเล่นเกม “ทายซิใครโทรมา?” จากนั้นก็จะขอยืมเงินหรืออะไรก็ว่าไป

อันที่จริง มุกที่แสร้งเลียนเสียงและหลอกให้เราคิดว่าเป็นคนรู้จักนี้มีใช้มาสักพักแล้ว แต่เริ่มมาระบาดหนัก ๆ ในช่วงนี้เพราะมุกเดิมที่เคยใช้บ่อย ๆ เช่น มุกพัสดุผิดกฎหมาย มุกพัสดุถูกตีกลับ มุกค้างชำระค่าบัตรเครดิต มุกเปิดบัญชีผิดกฎหมาย มุกเป็นหนี้นอกระบบ มุกหลอกว่าเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน มุกโอนเงินผิดบัญชีให้โอนกลับ มุกค้างจ่ายภาษีกับกรมสรรพากร ฯลฯ เริ่มที่จะใช้ไม่ได้ผล เพราะมีการออกข่าวและให้ข้อมูลซ้ำ ๆ จนหลายคนตื่นตัว การติดตามข่าวสารทั้งทางสื่อหลักและสื่อออนไลน์ทำให้ผู้คนระมัดระวังตัวมากขึ้น รวมถึงเริ่มที่จะรับมือกับบุคคลปลายสายด้วยเทคนิคต่าง ๆ ทำเอาพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์เสียเวลาไม่น้อยที่ต้องมาเสียเวลาต่อล้อต่อเถียง หลอกเหยื่อก็ไม่ได้อีก

วิธีง่าย ๆ ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้หากินจากการเป็นมิตร

จากประสบการณ์ของคนที่เคยเจอมุกแสร้งทำเป็นคนรู้จักโทรมาหา ซึ่งช่วงนี้จะมีคนจำนวนมากนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาแชร์เตือนภัยให้กับคนอื่น ๆ ได้ระวังตัวนั้น หลัก ๆ แล้วพวกมิจฉาชีพจะใช้เบอร์แปลกโทรเข้ามาที่เบอร์ของเรา เมื่อเรารับสายแล้ว คนพวกนี้ก็จะตีเนียนทำเหมือนกับเป็นเพื่อนของเรา บทสนทนาต่าง ๆ ที่ใช้เริ่มต้นชวนให้รู้สึกว่าสนิทสนมกันมาก ก่อนที่จะหงายไพ่เด็ดขึ้นมาให้เราทายว่า “จำได้ไหมว่านี่ใคร” ราวกับว่าเป็นเพื่อนเก่าของเราที่ใช้เบอร์ใหม่โทรหา แล้วหยอกล้อเล่น ๆ ให้เราทายว่าจำเสียงได้ไหมว่าเป็นเพื่อนคนไหน และต่อให้เราถามชื่อ คนพวกนี้ก็จะยังคงหลอกล่อแบบติดตลกว่า “จำเพื่อนไม่ได้เหรอ” และ “ตื๊อให้เราทายออกไปสักชื่อ”

เมื่อเราโดนตื๊อหนักเข้า บวกกับเริ่มรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเสียงปลายสาย เราก็อาจจะ “เผลอเอ่ยชื่อเพื่อน” ของเราที่เรานึกถึงออกออกไปสักชื่อ ทีนี้ก็ที่จะเข้าทางพวกมิจฉาชีพทันที โดยหลังจากที่รู้แล้วว่าเพื่อนของเราชื่ออะไร คนพวกนี้ก็จะสวมรอยเป็นเพื่อนของเราคนนั้นทันที พร้อมทั้งแจ้งว่าไม่ได้ใช้เบอร์เก่าแล้ว และให้บันทึกเบอร์ใหม่ที่ใช้โทรหานี้แทน

จากนั้นก็อาจจะมีการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเล็กน้อยเพื่อให้เหมือนกับที่เพื่อนฝูงจริง ๆ เขาทำกัน เราจะได้ไม่รู้สึกเอะใจสงสัยอะไร บางคนคุยกันเป็นจริงเป็นจังเลยทีเดียว (กรณีที่เข้าใจว่าเป็นเพื่อนเก่าที่ขาดการติดต่อกันไป) เพราะคิดว่าเพื่อนเก่าติดต่อมาจริง ๆ มาถึงตรงนี้ อาจมีการจบบทสนทนาสำหรับวันนี้ไว้เพียงเท่านี้ เนื่องจากขอให้เราเมมเบอร์ใหม่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็จะกับเราบอกว่าเดี๋ยวว่าง ๆ จะโทรมาคุยด้วยใหม่ ตอนนี้ขอทำงานก่อนอะไรก็ว่าไป

หลังจากชวนคุยพอหอมปากหอมคอ มิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็จะเริ่มพาเราเข้าประเด็นในเรื่องของเงิน โดยจะทำทีเป็นว่าตอนนี้ตนเองกำลังมีปัญหาเรื่องเงิน อาจจะเป็นปัญหาขัดสนทางการเงิน หรือเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องใช้เงินในทันทีทันใดแต่เงินไม่พอ เลยจะขอยืมเงินจากเราก่อน และจะขอให้เราโอนเงินไปให้นั่นเอง ด้วยความที่เรารู้สึกว่าปลายสายเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักที่ต้องการความช่วยเหลือด่วน ยิ่งถ้าจำนวนเงินไม่ได้มากขนาดที่เราจ่ายไม่ไหวหลายคนจึงไม่ทันได้เอะใจจริง ๆ มันจะมีความรู้สึกหวั่นไหวทางอารมณ์เนื่องจากเห็นใจและอยากช่วยเหลือ จึงรีบช่วยเหลือทันที ซึ่งก็เท่ากับว่าเราตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัวสักนิด

ในกรณีที่จำนวนเงินที่ปลายสายขอยืมมาเกินกำลังที่เราจะช่วยเหลือได้ เราอาจจะบอกออกไปว่าตัวเองไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นที่จะให้ยืม ปลายสายจะไม่ลดละความพยายามที่จะได้หลอกเอาเงินของเรา เข้าทำนองกำขี้ดีกว่ากำตด ได้มาบ้างก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย เพราะมิจฉาชีพจะพยายามต่อรองจำนวนเงินไปเรื่อย ๆ ให้เราโอนให้เท่าที่เรามี ถึงตรงนี้บางคนอาจเริ่มรู้สึกตัวจากการที่ถูกเซ้าซี้มากเกินไป ก็จะหาวิธีรับมือขั้นต่อไป แต่อีกหลายคนก็อาจจะยังไม่สงสัย พอจำนวนเงินถูกลดลงมาในราคาที่ตัวเองพอจะให้ยืมไหว ก็จะกดโอนให้ตามที่ตกลงกันทันที

นอกจากนี้ แก๊งมิจฉาชีพบางแก๊งอาจจะล้ำหน้าไปกว่านั้นเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยอาจเป็นไปได้ว่าได้ข้อมูลส่วนตัวของเรามาส่วนหนึ่ง จึงทำการบ้านว่าคนรอบตัวเรามีใครบ้าง และอาจพยายามที่จะเลียนแบบเสียงของเพื่อนคนนั้นเพื่อให้เราหลงเชื่อจริง ๆ กรณีนี้แก๊งมิจฉาชีพอาจใช้เทคโนโลยี AI ที่มีประโยชน์ในเรื่องของการเลียนเสียงเข้ามาช่วยด้วยก็ได้ หลักการทำงานเป็นอาจเป็นเทคนิค voice filter เทคโนโลยี Deepfake ที่ให้ AI จดจำเสียงของเพื่อนคนนั้นจากที่ไหนสักที่ แล้ว AI จะทำการบันทึก เรียนรู้ จดจำ และเลียนแบบใช้เสียงของบุคคลนั้น หรืออาจใช้แอปพลิเคชันง่าย ๆ อย่าง Voice changer และ Jokesphone หรือโปรแกรม Fake voice ในการแปลงเสียงก็ได้

เรื่องดังกล่าว เคยปรากฏเป็นข่าวในสยามรัฐออนไลน์ ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ถ้าเกินการควบคุมก็อาจถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการก่อความเสียหายทางลบเป็นวงกว้างได้ ประชาชนควรรู้ข้อมูล และผู้ที่เกี่ยวข้องควรจัดการโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม หากมิจฉาชีพลงทุนใช้วิธีที่จริงจังขนาดนี้ นั่นอาจแปลว่ามิจฉาชีพก็น่าจะรู้จักตัวตนของคุณมากพอสมควร อาจรู้ว่าคุณเป็นคนมีเงิน จึงทำการสืบข้อมูลของคุณมาพร้อม และแน่นอนว่าถ้าถึงขั้นทำขนาดนี้ จะต้องมีเป้าหมายเป็นเงินก้อนใหญ่ และมั่นใจมากว่าคุณจะต้องโอนให้อย่างแน่นอน

วิธีที่ง่ายที่สุดในการเอาตัวรอด คือ เช็กทุกครั้ง

เรื่องเงินเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ บางคนที่เจอมุกนี้แล้วเข้าใจทันทีว่าเป็นมุกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็อาจจะบ่ายเบี่ยงเลิกคุยด้วยตัดสายทิ้งไปเลย หรือรับมือแบบกวน ๆ เช่น แกล้งให้ชื่อปลอมเพื่อน แล้วชวนคุยเป็นตุเป็นตะ ก่อนปิดท้ายโดยการเฉลยว่าคุณรู้ทัน และเรื่องที่คุยกันเมื่อครู่เป็นเรื่องแต่งทั้งหมด เพราะคุณไม่มีเพื่อนชื่อนี้ หรืออาจแกล้งให้ชื่อเพื่อนที่เป็นศัตรูไป ชวนคุย แล้วจบที่ว่าเราเป็นอริกัน เคยทะเลาะกันหนักมาก ช่างกล้าที่จะยืมเงินกับคนที่เกลียดกันเข้าไส้ ถ้าไม่ใช่ตัวปลอมทำไม่ได้นะแบบนี้

ถ้าคุณเป็นคนเพื่อนน้อยอยู่แล้ว อาจกล้าที่จะบอกออกไปว่าคุณเป็นคนที่ไม่มีใครคบหาจะมีเพื่อนได้ยังไง หรืออาจจะโยนมุกแสบ ๆ คัน ๆ กลับไปว่าถ้าเป็นเพื่อนกันจริง ๆ ก็ต้องรู้สิว่าคุณเป็นคนไม่มีเงินให้ใครยืมมาแต่ไหนแต่ไร และตอนนี้คุณกำลังลำบากเรื่องเงินเหมือนกัน ไหน ๆ ก็โทรมาแล้ว งั้นขอยืมเงินเธอหน่อยได้ไหมล่ะ หรือถ้าคุณเด็ดขาดมากพอที่จะตัดเพื่อนกับพวกที่ชอบยืมเงิน แม้ว่าจะเป็นเพื่อนจริง ๆ โทรมา ก็บอกไปเลยว่าไม่ให้ยืมจะเลิกคบก็ได้นะคุณไม่แคร์ เป็นต้น

แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าคนปลายสายเป็นเพื่อนของคุณจริง ๆ หรือเปล่า และคุณทนเห็นเพื่อนเดือดร้อนไม่ได้จริง ๆ (ถ้านั่นเป็นเพื่อนตัวจริง) คุณก็ต้องเช็กให้ชัวร์ว่าคนที่โทรมาเป็นเพื่อนของคุณจริงหรือไม่ หากเป็นเพื่อนที่มีเบอร์โทรของกันและกัน (ที่ปลายสายเคยบอกว่าเป็นเบอร์เก่าเลิกใช้แล้ว) ให้โทรเช็กเลยว่าใช่คนรู้จักของเราจริง ๆ ไหม แล้วต้องการยืมเงินเราจริงหรือเปล่า หากเช็กแล้วไม่ใช่ก็เลิกคุยไปเลย ถ้าเป็นเพื่อนเก่าที่ไม่มีเบอร์ แต่น่าจะเป็นเพื่อนกันทางโซเชียลมีเดียอยู่ ก็ให้เช็กจากทางโซเชียลมีเดียก็ได้ (กรณีนี้ให้ระวังเพื่อนโดนแฮกบัญชีด้วย) อาจลองแกล้งหลอกถามอะไรก็ได้ที่มีเพียงคุณและเพื่อนเท่านั้นที่รู้ แล้วดูว่าตอบตรงกับประสบการณ์ที่มีร่วมกันหรือไม่

ส่วนวิธีง่าย ๆ ในการสังเกตว่าคุณกำลังเจอกับมุก “ทายซิใครเอ่ย” ของมิจฉาชีพอยู่หรือเปล่านั้น มีสิ่งที่คุณควรเอะใจอยู่ 2-3 ประการ ประการแรกคือเบอร์แปลกโทรมาแล้วเล่นมุกนี้ ในความเป็นจริง ถ้าเป็นเพื่อนของเราที่กำลังเดือดร้อนจริง ๆ คงจะไม่มาเสียเวลาเล่นเกมอะไรเอ่ยให้เราทายชื่ออย่างแน่นอน ประการที่สอง ความเซ้าซี้ในการเร่งให้เราโอนเงิน ให้โอนให้ทันทีหรือเดี๋ยวนี้ ยิ่งถ้าเราพยายามจะเช็กตัวตนฝ่ายตรงข้ามมากเท่าไร อีกฝ่ายก็จะยิ่งร้อนรนให้เราโอนเงินมากเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่แค่การตรวจสอบไม่กี่นาทียังรอไม่ได้ และประการที่สาม ชื่อบัญชีที่ให้เราโอนไปนั้นไม่ใช่ชื่อหรือนามสกุลของคนที่เรารู้จัก เป็นชื่อใครก็ไม่รู้ที่ไม่คุ้นเลย สันนิษฐานได้เลยว่าโดนแล้ว

ทั้งหมดนี้เป็นการเตือนภัยแบบคร่าว ๆ และข้อแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้ทรัพย์สินของคุณปลอดภัยได้บ้างไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ดี คุณต้องมีสติทุกครั้งเมื่อรับสายเบอร์แปลก ทุกการสนทนาต้องพยายามคิดตามให้มาก ๆ ยิ่งดูน่าเชื่อถือมากเท่าไร ความไม่น่าไว้วางใจก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้นในการหลอกลวงยุคนี้ อะไรที่ไม่มั่นใจ ให้ใช้วิธีตรวจสอบย้อนกลับด้วยตัวเอง โดยอาจโทรไปที่เบอร์ทางการของหน่วยงานที่อ้างชื่อมาอีกครั้งเพื่อความถูกต้อง นาทีนั้นมีเพียงคุณเท่านั้นที่จะรักษาเงินของตัวเองไว้ได้

แต่ถ้าใครพลาดท่าเสียทีโอนเงินไปแล้ว แนะนำให้แจ้งความหลังถูกหลอกโอนเงิน และเบื้องต้นให้โทรไปยัง Call Center ของธนาคารปลายทางที่เราโอนเงินไปเพื่อทำการอายัดบัญชี แล้วรีบไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตพื้นที่ที่เกิดเหตุ หรือโทรปรึกษาสอบถาม 1441 หรือ 081-866-3000 หรือแจ้งความออนไลน์ที่ https://www.thaipoliceonline.com/ ก็ได้ (ข้อมูลจากเฟซบุ๊กผู้พิทักษ์)

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


สระจันทร์เสี้ยวกับพื้นไม้ไม่กลัวน้ำใน Navana Nature Escape Pattaya

พักผ่อนกับธรรมชาติก็ต้องอยู่กับทั้งน้ำและอยู่กับไม้คู่กัน

ที่ Navana Nature Escape Pattaya สระว่ายน้ำทรงจันทร์เสี้ยวเป็นเอกลักษณ์แห่งนี้สร้างบรรยากาศหลีกหนีจากเมืองใหญ่ให้สวยงามน่าพักผ่อนด้วยการเลือกวัสดุด้านข้างชิดสระเป็นพื้นไม้กันแบบไม่กลัวน้ำ

เคล็ดลับสำหรับการดูแลไม้ของที่นี่คือ WOODTECT Hybrid WoodGuard สีที่ช่วยดูแลไม้ให้สวยงาม พร้อมรับแขกที่ต้องการพักผ่อนอย่างสบายใจ

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 8/11/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,500.0029,600.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,911.0028,970.7630,100.00
ทองรูปพรรณ 90%1,719.9026,073.68n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,528.8023,176.61n/a
ทองรูปพรรณ 50%860.0013,037.60n/a
ทองรูปพรรณ 40%669.0010,142.04n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,980.0030,016.80n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 8/11/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9536.6536.6537.3537.3537.3536.6536.6536.6537.3536.65
แก๊สโซฮอล์ 9136.3836.3837.0837.0837.0836.3836.3836.3837.0836.38
แก๊สโซฮอล์ E2035.5435.5436.2436.2436.2435.5435.5436.2435.54
แก๊สโซฮอล์ E8534.1434.1434.14
เบนซิน 9544.0645.2144.5644.5144.06
ดีเซล B734.9434.9435.6434.9435.1434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9435.6434.9435.1434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9435.6435.1434.9434.9436.2434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม43.6643.6645.8645.5645.5634.94
แก๊ส NGV16.5916.5916.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า