สาระน่ารู้ประจำวันที่ 4 มกราคม 2566

ALL ขาดสภาพคล่อง ผิดนัดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้กว่า 10 ล้านบาท

หุ้น ALL (ออลล์ อินสไปร์ ) แจง ตลท.เหตุผิดนัดจ่ายดอกเบี้ย ผู้ลงทุนหุ้นกู้กว่า 10 ล้านบาท ระบุ เนื่องด้วยบริษัท ขาดสภาพคล่อง กระแสเงินสดไม่เพียงพอ

4 ม.ค.2565 – วานนี้ นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ลงชื่อ ในหนังสือชี้แจง ต่อตลาดหลักทรัพย์ กรณีผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ ALL244A 

โดยระบุ ว่า ตามที่ หุ้นกู้มีประกันของ ALL ครั้งที่ 3/2564 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไก่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครมกำหนดไก่ถอน” หรือ หุ้นกู้รุ่น ALL2444 ของ ALLได้ครบกำหนดชำระดอกเบี้ยงวดที่ 5 จำนวน 10,651,495.04 บาท ในวันที่ 3 มกราคม 2566 ซึ่งบริษัทมีหน้าที่จะต้องชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ในวันดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ตามข้อกำหนดสิทธิ 

แต่บริษัทไม่สามารถชำระดอกเบี้ยให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ในวันครบกำหนดชำระดังกล่าวได้ จึงถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อ 11.1 (ก) ของข้อกำหนดสิทธิ ในการนี้ ข้อ 11.2 ของข้อกำหนดสิทธิ กำหนดให้ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ (ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) อาจใช้ดุลพินิจตามที่เห็นสมควรโดยฝ่ายเดียว ดำเนินการเรียกร้องให้บริษัทชำระหนี้ตามหุ้นกู้ หรือ ดำเนินการฟ้องร้องเอากับบริษัท หรือ อาจจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ภายใน 45 วันนับแต่ได้รู้ถึงเหตุผิดนัดนั้น เพื่อขอมติในการดำเนินการเรียกร้องให้บริษัทชำระหนี้ตามหุ้นกู้ หรือ ดำเนินการฟ้องร้องเอากับบริษัทหากเกิดความเสียหายขึ้น

อย่างไรก็ตาม การผิดนัดชำระดอกเบี้ยข้างต้นยังไม่มีผลให้บริษัทต้องชำระหนี้ตามหุ้นกู้ทั้งหมดซึ่งยังไม่ถึงกำหนดชำระโดยพลัน (Call Default) ในทันที เนื่องจากจะต้องมีการดำเนินการตามที่กำหนดในข้อ 11.3 ของข้อกำหนดสิทธิต่อไป ซึ่งข้อ 11.3กำหนดว่า เมื่อเกิดเหตุผิดนัดข้างต้น 

  • (1) ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ใช้ดุลพินิจของตนพิจารณาเห็นสมควรภายใน 15 วันนับแต่ตนได้รู้ถึงเหตุผิดนัดเว้นแต่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะได้ส่งหนังสือเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ภายใน 15 วันนับแต่ตนได้รู้ถึงเหตุผิดนัด หรือ
  • (2) ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้รับการร้องขอเป็นหนังสือจากผู้ถือหุ้นกู้ไม่ว่ารายเดียวหรือหลายรายที่ถือหุ้นกู้หรือถือหุ้นกู้รวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นกู้ที่ยังมิได้ไก่ถอนทั้งหมด หรือ
  • (3)  ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้รับมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ซึ่งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ดังกล่าวภายใน 45 วันนับแต่ตนได้รู้ถึงเหตุผิดนัด

ทั้งนี้ ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะต้องส่งหนังสือแจ้งไปยังบริษัทให้ชำระหนี้เงินตามหุ้นกู้ทั้งหมดซึ่งยังไม่ถึงกำหนดชำระโดยพลัน โดยระบุเหตุผิดนัดที่เกิดขึ้นนั้นด้วย (“หนังสือเรียกให้ชาระหนี้โดยพลัน” ภายใน 5 วันทำการ นับแต่ตนได้รู้ถึงเหตุผิดนัด หรือนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาพิจารณาตามข้อ (1) หรือนับแต่วันได้รับหนังสือร้องขอตามข้อ (2/) หรือนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติตาม

ข้อ (3) แล้วแต่กรณีหากเหตุผิดนัดนั้นยังคงดำรงอยู่จนถึงเวลาที่หนังสือเรียกให้ชำระหนี้โดยพลันส่งถึงหรือถือว่าส่งถึงบริษัทแล้ว ให้ถือว่าหนี้เงินตามหุ้นกู้ทั้งหมดซึ่งยังไม่ถึงกำหนดชำระเป็นอันถึงกำหนดชำระโดยพลันและบริษัทจะต้องชำระเงินต้นคงค้างทั้งหมดภายใต้หุ้นกู้ พร้อมด้วยดอกเบี้ยตามข้อกำหนดสิทธิที่คำนวณจนถึงขณะนั้นให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายในกำหนดเวลาที่ผู้แทนผู้ถือหุ้นได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทให้ทำการชำระดังกล่าว

สำหรับสำเหตุของการผิดนัดชำระบริษัทขาดสภาพคล่อง กระแสเงินสดหมุนเวียนไม่เพียงพอ โดยหุ้นกู้ดังกล่าวออกวันที่ 1 ต.ค.64 ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 1 เม.ย.67 ซึ่งมีจำนวนเสนอขาย 709,900 หน่วย หรือ 709,900,000 บาท ที่อัตราดอกเบี้ย  7 % ต่อปี โดยมีจำนวนดอกเบี้ยที่ผิดนัดชำระ 10,651,495.04 บาท และมีจำนวนผู้ถือหุ้นกู้ 573 ราย

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น รุกขยายการประมูลที่หลายหลาย ผนึก เอ็ม บี เค การันตี “เปิดประมูลอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์”

นายอนุชาติ ดีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมกับ นายศักดิ์ชัย สุทธิพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม บี เค การันตี จำกัด ลงนามความร่วมมือทางธุรกิจ “การประมูลอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์” ณ บริษัท เอ็ม บี เค การันตี จำกัด อาคารเอ็ม บี เค ทาวเวอร์ ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น ผู้นำในธุรกิจประมูลรถยนต์ในประเทศไทย เดินหน้าเปิดประมูลทรัพย์ที่หลายหลายมากขึ้น ด้วยการจัดการประมูลอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ ให้กับ เอ็ม บี เค การันตี

นายอนุชาติ ดีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจ ที่จะเป็นบริษัทประมูลทรัพย์อันดับ 1 ของประเทศ โดยให้การประมูลทรัพย์ที่เป็นที่ต้องการของกล่มลูกค้า และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น นอกเหนือจาก รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่ดำเนินธุรกิจเป็นหลักอยู่ในปัจจุบัน

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีความพร้อมด้านบุคลากร ในการดำเนินการประมูลรถยนต์ รถจักรยายนต์ ระดับมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี มีการจัดตั้งสถาบันฝึกอบรมการประมูล (Auction Academy) เพื่อรองรับการพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินการประมูล อีกทั้งมีความพร้อมทางด้านระบบการประมูลออนไลน์ รองรับการให้บริการประมูลทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น ยานยนต์ทุกประเภท อสังหาริมทรัพย์ เครื่องมือทางการแพทย์ ทรัยพ์สินมีค่า เป็นต้น โดยระบบสามารถให้ผู้สนใจเข้ามาดูทรัพย์ทุกประเภท ผ่านหน้าเวปไซด์ www.appleebid.com  และมีช่องทางให้ ผู้สนใจติดต่อเพื่อนัดหมายเข้าไปชมทรัพย์ที่สนใจ  และด้วยการที่เป็นระบบการประมูลออนไลน์ ลูกค้า และผู้สนใจ สามารถเข้าดูทรัพย์ที่เข้าประมูล และเข้ามาร่วมประมูลได้จากทุกที่ รองรับการใช้งานทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ PC และมือถือทั้งระบบ IOS & Android

ในครั้งนี้ได้ ร่วมมือกับ บริษัท เอ็ม บี เค การันตี จำกัด เพื่อให้บริการประมูลอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นทรัพย์พร้อมขาย และเสนอราคาเริ่มต้นประมูล พิเศษสุด มีบริการให้สินเชื่อผ่อนชำระรองรับ โดยขั้นต้นมีจำนวนทรัพย์ที่เข้าดำเนินการประมูลอยู่ที่ 16 รายการ ทั้งบ้านเดี่ยว และคอนโดฯ โดยได้ทำการวางแผน และทำการตลาด ร่วมกับ บจก. เอ็ม บี เค การันตี เพื่อส่งมอบโปรโมชั่นพิเศษให้ลูกค้าที่สนใจ และสร้างช่องทางใหม่ และวิธีการนำเสนอทรัพย์ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น

“บริษัทฯ มั่นใจว่าการจัดการประมูลอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินธุรกิจประมูลทรัพย์ที่หลากหลาย สร้างการรับรู้ และกระตุ้นการเข้ามาใช้บริการ ของลูกค้า และผู้สนใจมากยิ่งขึ้น เหมือนเช่นการประสบความสำเร็จในการประมูลรถยนต์ของบริษัทฯ ในปัจจุบัน” นายอนุชาติ กล่าว

ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เอ็ม บี เค คอนแทคท์ เซ็นเตอร์ 1285 ในเวลา 08.30 น. – 22.00 น.

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 34.41 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าได้แรงหนุนจากความหวัง จากการกลับมาฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนและโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้(4ม.ค.2566) ที่ระดับ 34.41 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.44 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน   พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า การแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา ได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ 

ซึ่งช่วยลดแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ ในระยะสั้น เงินบาทอาจพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าจากความหวังการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน

ซึ่งสะท้อนผ่านมุมมองของผู้เล่นต่างชาติที่ยังต้องการเพิ่มสถานะ Short USDTHB (มองเงินบาทแข็งค่า)

รวมถึงแรงซื้อหุ้นไทยสุทธิ โดยเฉพาะหุ้นในธีม Reopening ทำให้เงินบาทก็มีโอกาสแข็งค่าทดสอบแนวรับในโซน 34.25-34.30 บาทต่อดอลลาร์ได้

(เงินบาทแข็งค่าทดสอบโซนดังกล่าวในวันก่อน หลังแข็งค่าหลุด 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ตามที่เราประเมินไว้)

อย่างไรก็ดี ควรระมัดระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น หากตลาดปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นและหนุนให้เงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้

แต่เรามองว่า หากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ก็อาจไม่ได้กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าไปมากทะลุโซนแนวต้านแถว 34.50-34.60 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ง่ายนัก
 

อนึ่ง การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงความจำเป็นของการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น

ทำให้เราคงแนะนำ ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก
 

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.30-34.50 บาท/ดอลลาร์


 
ตลาดการเงินสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลง

และความกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด (ซึ่งผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานการประชุมเฟดล่าสุดและรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ) ทำให้ ดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.40%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นใหญ่ อาทิ Tesla -12% หลังยอดการส่งมอบรถยนต์ขยายตัวน้อยกว่าคาด และ Apple -3.7%

จากความกังวลผลกระทบของการระบาด COVID-19 ในจีนต่อการผลิตสินค้าของ Apple รวมถึงแนวโน้มความต้องการซื้อ iPhone ที่ลดลง


 
ส่วนในทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นกว่า +1.22% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่ม Healthcare (Novo Nordisk +2.8%, Novartis +2.7%)

ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างต้องการถือหุ้นกลุ่ม Defensive อย่าง กลุ่ม Healthcare

ตลาดหุ้นยุโรปเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลงแรงของหุ้นกลุ่มพลังงาน (Equinor -5.6%, TotalEnergies -1.7%) ตามการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบจากความกังวลสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในจีน รวมถึงการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์
 

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังตลาดการเงินสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง

และผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตาทิศทางนโยบายการเงินของเฟด ผ่านรายงานการประชุมเฟดล่าสุดและรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ

โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 104.5 จุด อีกครั้ง อย่างไรก็ดี แม้ว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น แต่ภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดและบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่ทรงตัวใกล้ระดับ 3.76% ได้ช่วยหนุนให้ ราคาทองคำ

(สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ.) สามารถปรับตัวขึ้นและแกว่งตัวใกล้ระดับ 1,842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีบางจังหวะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้โซนแนวต้านแถว 1.850 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทำให้เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยขายทำกำไรทองคำและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น แม้ว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นก็ตาม


 
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในฝั่งสหรัฐฯ ทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรม โดย ISM (Manufacturing PMI) เดือนธันวาคม

และยอดเปิดรับสมัครงาน (JOLTs Job Openings) ในเดือนพฤศจิกายน  ซึ่งตลาดประเมินว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงมากขึ้น อาจส่งผลให้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตอุตสาหกรรมยังคงหดตัวต่อเนื่อง

สะท้อนผ่าน ดัชนี PMI ภาคการผลิตที่จะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 48.5 จุด (ดัชนีต่ำกว่า 50 จุด หมายถึง ภาวะหดตัว)

นอกจากนี้ ผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวก็จะส่งผลให้หลายบริษัทปรับแผนการจ้างงานมากขึ้น ทำให้ ยอดเปิดรับสมัครงานมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 10 ล้านตำแหน่ง

จากที่เคยแตะระดับสูงถึง 11.9 ล้านตำแหน่ง สะท้อนว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ เริ่มตึงตัวน้อยลง แต่โดยรวมก็ยังมีความแข็งแกร่งอยู่

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.33-34.35 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (8.46 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.41 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาทลดช่วงแข็งค่ามาบางส่วน (เมื่อเทียบกับระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือนที่ทำไว้ที่ 34.29 บาทต่อดอลลาร์ฯ เมื่อวานที่ผ่านมา) ขณะที่แรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยกลับคืนมาบางส่วน

เนื่องจากตลาดกลับมากังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ดี คงต้องระมัดระวังกรอบการเคลื่อนไหวในระหว่างวันที่ยังอาจมีความผันผวนได้

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.30-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิดในจีน และการเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชีย ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนธ.ค.ของยุโรป

รวมถึงตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือนพ.ย. ดัชนี PMI /ISM ภาคบริการเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ และรายงานการประชุมเฟด

กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.25-34.55บาท/ดอลลาร์ 


ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในวันอังคาร จับตารายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะออกมาในวันพุธนี้ 


การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในครั้งนี้ อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดได้มากเท่ากับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานออกมาในวันศุกร์นี้ 

และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สหรัฐจะออกมารายงานในวันที่ 12 มกราคม
ค่าเงินยูโรดิ่งลง ในขณะที่สำนักงานสถิติของรัฐบาลกลางเยอรมนีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงในเดือนธันวาคมเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยเป็นผลจากการร่วงลงของราคาพลังงาน

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ย้ายมาได้เล่นแน่! มาร์กเซย สนคว้า “เมจบรี” เสริมแดนกลาง

ฮันนิบาล เมจบรี กองกลางดาวรุ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ตกเป็นที่ต้องการของ โอลิมปิก มาร์กเซย สโมสรยักษ์ใหญ่ในฝรั่งเศส

ดาวเตะทีมชาติตูนิเซีย ปัจจุบันถูก เบอร์มิงแฮม ในแชมเปียนชิพ ยืมตัวไปใช้งาน โดยผีแดงต้องการให้ดาวเตะวัย 19 ปี ได้รับประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่มากขึ้น

แต่ มาร์กเซย ก็กระตือรือร้นที่จะคว้าตัวเขา และได้ส่งหนึ่งในแมวมองของทีมไปเช็กความก้าวหน้าของเขาในสัปดาห์ที่แล้ว

เมจบรี ย้ายจาก โมนาโก มายังยูไนเต็ดเมื่อตอนอายุได้ 16 ปี และอาจจบลงด้วยเงินจำนวน 10 ล้านปอนด์ กระนั้น โมนาโก ก็เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ มาร์กเซย ด้วยการมองไปยังโอกาสที่จะดึงตัวเขากลับมาอยู่ในลีกเอิงอีกครั้ง

ยูไนเต็ดคาดหวังในตัวของ เมจบรี ไว้สูงมาก แต่เขาก็ไม่สามารถแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วจนต้องถูกส่งตัวไปพัฒนาต่อในแชมเปียนชิพ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


10 อาหารอร่อย ที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัยอันควร

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชาย หรือผู้หญิง แต่การที่มีคนมาทักคุณว่า “พี่” ทั้งที่จริงแล้วคุณทราบดีว่าอายุคุณน้อยกว่าเขามาก เป็นใครก็ต้องรู้สึกเฟลกันทั้งนั้นใช่ไหมคะ ถึงแม้เรื่องรูปร่างหน้าตาจะมาจากกรรมพันธุ์เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่เรื่องผิวพรรณเหี่ยวย่น ดูแก่กว่าวัยที่แท้จริง มันมาจากอาหารการกิน และพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของคุณทั้งสิ้น

Sanook! Health เลยขอออกมาเตือนทุกๆ คน ถึงอาหารที่ทำให้หน้าแก่ หน้าเหี่ยวก่อนวัยอันควรกันค่ะ ขอบอกเลยว่าเป็นอาหารที่คุณๆ ต้องเคยกินกันอยู่บ่อยๆ แน่นอน


1. น้ำตาล อาหารที่มีรสหวานจัด
แน่นอนว่าน้ำตาลใส่ลงไปในอาหาร ของหวาน หรือเครื่องดื่ม ทำให้รสชาติดีขึ้นผิดหูผิดตา แต่หากรับประมาณทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลมากๆ จะทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ผิวขาดคอลลาเจนเพื่อความสดใสเปล่งปลั่ง ผิวหนังจึงเหี่ยวย่น และขาดความยืดหยุ่นนั่นเอง

2. แอลกอฮอล์
เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำไปเป็นจำนวนมาก (สังเกตได้ง่ายๆ ว่าคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ จะลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อย) นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังทำให้ตับพัง (หรือที่เรารู้ดีว่าทำให้ตับเข็ง) คือตับต้องทำหน้าที่อย่างหนักในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย หากตับสุขภาพไม่ดี ก็จะสะท้อนออกมาถึงผิวหนังที่สีสันไม่สดใส ไม่ขาวอมชมพู แต่ละหมองคล้ำ และเหี่ยวย่นนั่นเอง

3. คาเฟอีน
เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม (น้ำอัดลมมีทั้งน้ำตาลและคาเฟอีนเลยทีเดียว) มีสารอะดรีนาลีนที่ทำให้ร่างกายตื่นตัวก็จริง แต่ก็ทำให้ผิวพรรณเหี่ยวย่นขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้คาเฟอีนยังดูดซึมวิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการบำรุงผิวพรรณออกไปจากร่างกายอีกด้วย

4. ไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันทรานส์
นอกจากทำให้อ้วนง่าย ผิวมีเซลลูไลท์แล้ว ไขมันทรานส์ยังทำให้ผิวหนังของเราไวต่อรังสียูวีมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าผิวของเราก็จะถูกแสงแดดอันร้อนแรงในบ้านเราทำร้ายได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งขาดความนุ่มชุ่มชื่น และริ้วรอยถามหาไวขึ้นเยอะเลยทีเดียว (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับไขมัน และน้ำมันต่างๆ ที่ “น้ำมันหมู VS น้ำมันพืช ตกลงอันไหนมีประโยชน์มากกว่ากัน?”)

5. อาหารรสเค็ม
ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมูแดดเดียว หมูหรือเนื้อหมัก แครกเกอร์โรยเกลือ หรืออะไรก็ตามที่มีรสเค็มจัด จะมีปริมาณโซเดียมอยู่เยอะ ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณตัวบวมแล้ว ยังดูดซับน้ำออกจากร่างกาย ทำให้ผิวหนังแห้งกร้าน เหี่ยวย่นง่ายนั่นเอง

6. อาหารแปรรูป แช่แข็ง อาหารกระป๋อง
ไม่ว่าจะเป็นปลากระป๋อง ผักดองกระป๋อง อาหารกล่องแช่แข็ง ไส้กรอก แฮม เบคอน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ฯลฯ นอกจากจะมีรสเค็ม และโซเดียวสูงแล้ว ยังมีสารในกลุ่มซัลไฟต์ ที่มาในรูปของสารกันเสีย แต่งกลิ่นและรสสังเคราะห์ และวัสดุกันอาหารเหม็นหืน ที่เข้าไปกระตุ้นผิวให้เกิดอาการอักเสบ และริ้วรอยถามหาไวอย่างไม่น่าเชื่อ

7. อาหารปิ้งย่าง
เพราะหมูกระทะ เนื้อย่าง อาหารทะเลย่างพวกนี้ (โดยเฉพาะตามร้านบุฟเฟ่ต์ต่างๆ) จะพบสารไฮโดรคาร์บอนในส่วนที่ปิ้งจนไหม้เกรียม จนเกิดเป็นสารอนุมูลอิสระ ทำลายผิวให้เกิดริ้วรอย ขาดความตึงกระชับ และความเปล่งปลั่งสดใส ผิวหมองคล้ำลงอย่างน่าตกใจเลยล่ะ

8. เครื่องดื่มชูกำลัง
นอกจากเครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ จะไม่ดีต่อร่างกายในแง่ที่มีทั้งคาเฟอีน และน้ำตาลสูงแล้ว (ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ก็ทำให้แก่ลงเหมือนกัน) ยังทำลายสารเคลือบฟัน ทำให้ฟันเหลือง ผุ กร่อน ได้ง่ายอีกด้วย

9. อาหารทอด
อาหารทอดมีปริมาณไขมันสูง นอกจากทำให้อ้วนแล้ว ยังทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่สดใสเปล่งปลั่งอีกด้วย

10. อาหารที่ใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาล (น้ำตาลเทียม)
เพราะน้ำตาลเทียม เช่น แอสปาแตม จะส่งผลให้เกิดอาการปวดหัว ปวดข้อ และทำให้อยากน้ำตาลมากขึ้น จึงวนกลับไปที่ข้อแรก “น้ำตาล” อีกครั้ง


ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าห้ามกินเลยแม้แต่น้อยนะคะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมาสามารถกินได้ แต่อยากให้กินแต่ปริมาณน้อยๆ หรือถ้าเลี่ยงได้ก็อยากให้เลี่ยง เพื่อผิวพรรณอันสวยงาม และเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของคุณด้วยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


สหรัฐฯ แบนแอปฯ ‘ติ๊กตอก’ บนอุปกรณ์ของจนท.รัฐ

สหรัฐฯ สั่งแบนการใช้แอปพลิเคชั่นแชร์วิดีโอยอดนิยมสัญชาติจีน TikTok บนอุปกรณ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเป็นการนำร่องกฎหมายที่จะมีผลบังคับใช้กับอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมดในเร็ว ๆ นี้ ตามรายงานของรอยเตอร์

หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุในวันอังคารว่า แอปพลิเคชั่นดังกล่าวถูกมองว่า “เป็นความเสี่ยงระดับสูงเนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัยจำนวนมาก” ซึ่งมีผลต่อนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องลบแอปฯ ดังกล่าวในทุกอุปกรณ์ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้เกี่ยวข้องใช้อยู่ และห้ามการดาวน์โหลดแอปฯ ดังกล่าวในอนาคตด้วย

กฎหมายใหม่ที่ได้รับการอนุมัติโดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และจะมีผลบังคับใช้เมื่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามเป็นกฎหมาย เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลระดับท้องถิ่นของสหรัฐฯ พยายามผลักดันการแบนแอปฯ TikTok ซึ่งเป็นของบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ของจีน บนอุปกรณ์ของรัฐบาลอเมริกัน ข้อมูลล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 19 รัฐในอเมริกาสั่งห้ามมีแอปฯ นี้บนอุปกรณ์ของรัฐ จากความกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจใช้แอปฯ นี้ในการติดตามชาวอเมริกัน

ทั้งนี้ ทาง TikTok ไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับมาตรการที่มีออกมากับรอยเตอร์ ในช่วงเวลาที่รายงานข่าวนี้ ขณะที่ทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะเดินหน้าผลักดันการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวไปทั่วประเทศ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


คำศัพท์เฉพาะวงการกาแฟ ที่มืออาชีพต้องรู้! หมวดที่ 1 เมล็ดกาแฟ

เชื่อว่าหลายๆ ท่าน ที่ไปดื่มกาแฟตามร้านกาแฟต้องเคยเจอคำศัพท์ที่เหมือนหลุดมาจากโลกอื่น แสนจะชวนงงว่ามันหมายถึงอะไรใช่มั้ยครับ ครั้นจะเปิดพจนานุกรมก็ไปเจอความหมายอื่นที่ดูไม่เกี่ยวข้องกันด้วย เนื่องจากว่าศัพท์เหล่านี้เป็นศัพท์เฉพาะทางที่ใช้กันในเฉพาะวงการการแฟนั่นเองครับ วันนี้แอดมินรูปหล่อของ COFFEE PRESS จะเชิญทุกท่านไปรู้จักกับคำศัพท์เหล่านั้นกันครับ ซึ่งพอเข้าใจก็จะเป็นเรื่องง่ายๆ แถมยังทำให้คุณดูเป็นมืออาชีพตัวจริงในด้านกาแฟอีกต่างหากครับ เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย กระผมจึงได้แยกเป็นหมวดหมู่สำหรับแต่ละสถานการณ์เอาไว้ให้เรียบร้อยครับ

ปฎิเสธไม่ได้เลยนะครับ ว่าสิ่งสำคัญที่สุดอันดับแรกซึ่งเป็นจุดเริ่มของกาแฟในทุกๆ แก้วก็คือการเลือกเมล็ดกาแฟครับ ในส่วนนี้เราจะมาอธิบายแต่ละคำศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับเมล็ดกาแฟกันอย่างเต็มที่เลยครับ

คำศัพท์เกี่ยวกับลักษณะเมล็ดกาแฟ

  • Green Bean: เมล็ดเขียวก่อนที่จะนำมาคั่วกาแฟ หรืออาจจะเรียกว่าเป็นสารกาแฟ ถือว่าเป็นเมล็ดดิบที่ยังไม่สามารถนำไปใช้ชงกาแฟได้ ต้องนำไปผ่านกระบวนการคั่วกาแฟต่อไปครับ
  • Cherry: ผลกาแฟที่ยังไม่กระเทาะเปลือกออก มีลักษณะคล้ายผลไม้ลูกเชอร์รี่ที่เราคุ้นเคยกันนั่นเองครับ

คำศัพท์เกี่ยวกับลักษณะเมล็ดกาแฟ

  • Roast Level: ระดับของการคั่ว (โดยส่วนมากจะถูกจำแนกง่ายๆ เป็น คั่วอ่อน กลาง เข้ม)
  • Crack: เสียงการแตกตัวของเมล็ดกาแฟระหว่างการคั่ว เป็นสัญญาณที่ให้ Roaster รู้ว่าเมล็ดกาแฟที่คั่วอยู่ในระดับใด
  • 1st Crack: เสียงการแตกตัวครั้งแรกของกาแฟ หมายความว่าความชื้นในเมล็ดกาแฟเริ่มหมดไปและกำลังจะเข้าสู่ระดับ Light Roast
  • 2nd Crack: เสียงการแตกตัวครั้งที่สองของกาแฟระหว่างการคั่ว เป็นสัญญาณที่ให้ Roaster รู้ว่าเมล็ดกาแฟเริ่มเข้าสู่ระดับ Dark Roast
  • Cinnamon Roast: ระดับการคั่วกาแฟที่อ่อนมาก (ประมาณพอดีกับ 1st crack) ตัวกาแฟพัฒนาจากสีเขียว เป็นสีน้ำตาลอ่อน มีระดับความเปรี้ยวและกลิ่นเขียวสูง ให้ความเป็นธรรมชาติสูงมาก ไม่เป็นที่นิยมสักเท่าไหร่เนื่องจากความเปรี้ยวทำให้ความ Balance ของรสชาติหายไป และความหวานยังไม่ถูกพัฒนา
  • Light Roast: ระดับการคั่วแบบอ่อน ซึ่ง ณ จุดนี้ความเปรี้ยวจะยังคงอยู่แต่เริ่มสีมีความเข้มขึ้น หรือเรียกว่า caramelize ซึ่งทำให้น้ำตาลของเมล็ดเริ่มแตกตัวซึ่งเป็นการเริ่มพัฒนาความหวานขึ้นมา ยังคงความเป็นธรรมชาติในรสชาติสูง นิยมใช้กับเมล็ดกาแฟเกรด Specialty ที่ต้องการชูความเป็นธรรมชาติของรสชาติสูง และเหมาะกับการทำกาแฟแบบ Filter โดยเฉพาะการ drip นั่นเองครับ
  • Medium Roast: เรียกว่าระดับการคั่วกลาง (อยู่ระหว่าง 1st crack ถึง 2nd crack) โดยกาแฟเริ่มเกิดการ caramelization อย่างชัดเจน สีเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ณ จุดนี้ ความหวานได้พัฒนาขึ้นมามาก ในทางกลับกันความเปรี้ยวเริ่มลดลงไป เกิดเป็นความ Balance ระหว่างความหวานกับความเปรี้ยว เป็นที่นิยมอย่างสูงทั่วโลกและนิยมใช้กับการชงโดยเครื่อง Espresso Machine
  • City Roast: เป็นระดับการคั่วที่เป็นตัวเปลี่ยนถ่ายระหว่าง Medium Roast ไปสู่ Dark Roast ในระดับการคั่วนี้กายภาพภายนอกอาจดูคล้ายการคั่วแบบ Medium Roast แต่อาจเป็นสีน้ำตาลเข้มกว่าเล็กน้อย ความเปรี้ยวเริ่มหายไปความหวานพัฒนาถึงจุดสูง นิยมใช้กับการชงโดยเครื่อง Espresso Machine (ระดับการคั่วหลังจากนี้มักจะเป็นที่นิยมใช้กับเครื่องเอสเพรสโซ่แล้วนะครับ เพราะระดับการคั่วเข้มกว่านี้ถ้าชงเป็น Filter จะเริ่มมีกลิ่นไหม้ที่ไม่ค่อยเป็นที่พึงประสงค์ครับ)
  • Dark Roast: ระดับการคั่วเข้ม หรือกาแฟเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลเข้ม (ระดับการคั่วมักจะอยู่ที่ 2nd crack ขึ้นไป) ยังคงมีความหวานอยู่มาก แต่ทางกลับกันความเปรี้ยวเริ่มหายไปจนเกือบหมดแล้ว เริ่มมีความขมเข้ามาแทนที่ จึงมีกลิ่นที่ซับซ้อนและมีความเข้มมากขึ้น จึงเหมาะสมที่จะนำมาทำเป็นกาแฟเย็นหรือเมนูกาแฟนม เนื่องจากกลิ่นกาแฟจะไม่ถูกนมหรือส่วนประกอบอื่นกลบนั่นเองครับ
  • French Roast: เป็นระดับการคั่วที่เข้มกว่า Dark Roast โดยตัวเมล็ดกาแฟอาจจจะเริ่มมีน้ำมันออกมา ความเปรี้ยวหายไปหมดแล้ว เกิดเป็นความขมแทน เกิดเป็นกลิ่น smoke หรือกลิ่นไหม้ออกมา เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเข้มข้น สามารถทำเมนูเย็นได้สะดวกครับ
  • Italian Roast: ระดับการคั่วที่เข้มมาก ตัวกาแฟมีน้ำมันออกมามาก ซึ่งเจ้าตัวน้ำมันนี่แหละครับที่ทำให้เกิด Crema ของกาแฟ การคั่วแบบ Italian Roast จึงทำให้เกิด Crema ได้อย่างชัดเจน (คนอิตาลีสมัยก่อนนิยม Crema เป็นอย่างมากนะครับ เนื่องจากเค้าบอกกันว่ามันทำให้กาแฟของเค้าดู Sexy มาก) จึงเป็นส่วนที่ทำให้ระดับการคั่วกาแฟประเภทนี้ถูกเรียกว่า Italian Roast นั่นเองครับ ในทางกลับกัน สาย Specialty Coffee จะไม่นิยมการคั่วระดับ Italian Roast เสียเลยเนื่องจากความเป็นธรรมชาติของกาแฟได้หายไปหมดแล้วนั่นเองครับ จึงเป็นที่มาที่สาย Specialty ไม่ได้ให้ความสำคัญกับ Crema ครับ (นี่จึงเป็นที่มาของดราม่าว่ากาแฟดีจำเป็นต้องมี Crema จริงหรือเปล่านะครับ อยากรู้อ่านเพิ่มเติมได้ที่ คลิก

คำศัพท์เกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ของกาแฟ

  • Arabica: เมล็ดกาแฟพันธุ์อราปิก้า มีกลิ่นหอมและมีความเปรี้ยว เป็นพันธุ์ที่จะต้องปลูกบนที่สูง ในอากาศหนาวเย็น มักมีราคาสูงกว่า Robusta นับว่าเป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
  • Robusta: เมล็ดกาแฟพันธ์โรบัสต้า มีความเข้ม, ขม, และคาเฟอีนปริมาณสูง (บางครั้งสูงกว่าอราปิก้าเกือบเท่าตัวเลยครับ) ทนต่อสภาพอากาศ สามารถโตได้แม้ในความสูงต่ำและอากาศร้อน
  • Bourbon: สายพันธุ์ที่แตกมาจาก Arabica อีกทีหนึ่ง อยู่ในตระกูลย่อยของอราปิก้า
  • Typica: สายพันธุ์ที่แตกมาจาก Arabica อีกทีหนึ่ง อยู่ในตระกูลย่อยของอราปิก้า
  • Geisha: เมล็ดกาแฟที่ถูกพัฒนาให้มีความคงทนและมีลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้ดื่มกาแฟ โดยมีพื้นฐานจากสายพันธุ์อราปิก้า เริ่มปลูกอยู่ในฟาร์มของหมู่บ้าน Geisha ในประเทศเอธิโอเปีย ต่อมาได้รับความนิยมในเกรด Specialty อย่างสูง โดยพันธุ์ Geisha ที่ปลูกใน Panama เคยทำราคาสูงที่สุดในการประมูลไปกว่า 100,000 บาท ต่อกิโลกรัม
  • Blue Mountain: เมล็ดกาแฟอราปิก้าที่ปลูกในเทือกเขา Blue Mountain ประเทศ Jamaica ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมล็ดกาแฟที่แพงที่สุดในโลกก่อนจะถูก Geisha Panama แซงไปนั่นเองครับ

คำศัพท์เกี่ยวกับ PROCESS เมล็ดกาแฟ

  • Wash (Wet) Process: การเตรียมสารเมล็ดกาแฟโดยใช้น้ำเป็นส่วนในการล้างเนื้อ Cherry และเมือกในเนื้อหมักรวมกันก่อนนำไปตากแห้ง จะได้กาแฟที่มีรสชาติสะอาด
  • Dry (Natural) Process: การเตรียมสารเมล็ดกาแฟโดยนำทั้งผล Coffee Cherry ไปตากแดดให้ตัวเมล็ดกาแฟด้านในได้ดูดความหวานธรรมชาติจากเนื้อ Cherry ก่อนจะนำไปสีให้เหลือแต่เมล็ดกาแฟ จะได้เมล็ดกาแฟที่ให้ความเป็นธรรมชาติสูงและมีความหวานเป็นพิเศษ (เกิดจากการตากแห้งทั้งเนื้อ)
  • Honey (Pulp) Process: กึ่งกลางระหว่าง Wash และ Dry Process โดยมีการล้างเนื้อ Cherry ออกแต่ยังคงเหลือส่วนเมือกแล้วค่อยนำไปตากแห้ง ผลลัพธ์คือรสชาติที่สะอาดและยังมีความหวานธรรมชาติอยู่
  • Anaerobic Process: คล้ายกับการทำ Wet Process แต่จะควบคุมการหมักไม่มีให้ออกซิเจนอยู่ในถังหมักเลย ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ถูกดัดแปลงมาจากการบ่มไวน์
  • Specialty Coffee Beans: กาแฟเกรดพิเศษ โดยการจะเป็นกาแฟเกรดพิเศษจะต้องได้รับคะแนนจากการทดสอบโดยสมาคมกาแฟโลก SCA โดยมีคะแนนมากกว่า 80 คะแนน ( อ่านเพิ่มเติม คลิก
  • Single Origin Coffee: กาแฟที่มาจากแหล่งปลูกแหล่งเดียวกันทั้งหมด ทำให้รับรู้ลักษณะของเมล็ดแหล่งนั้นอย่างชัดเจน จะต่างกับ Blend Coffee
  • Blend Coffee: การนำกาแฟจากหลายแหล่งมารวมกันเพื่อดึงรสชาติที่ต้องการจากแต่ละแหล่งมาผสมกันให้เป็นรสชาติกาแฟที่ต้องการ

ขอบคุณข้อมูลจาก coffeepressthailand.com


เติมเต็มโลกเสมือนจริง “ Metaverse” กับสถาปัตยกรรมเหนือจินตนาการ

  Metaverse เป็นคำที่เรามักจะได้ยินบ่อยๆ ในช่วงนี้ ซึ่งในแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ได้เริ่มมุ่งเน้นการสร้าง Metaverse โลกเสมือนจริงที่คนทั่วไปสามารถเข้าไปทำงาน เรียนหรือทำกิจกรรมต่างๆได้

          ระหว่างที่มีนโยบายล็อกดาวน์ Frank Fitzgerald ผู้ก่อตั้งบริษัท Pax.world เริ่มสร้างพื้นที่ในโลกเสมือนจริง เขาเปิดตัว Pax.world ซึ่งเป็นสังคมเสมือนจริงแห่งแรกของโลกในเดือนนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้ผู้ชมสามารถเข้าร่วมคอนเสิร์ต, โชว์การแสดงต่างๆ , จัดงานสัมมนา, จัดงานเลี้ยงสังสรรค์และงานเทศกาลในอาคารเสมือนจริงเป็นการร่วมมือกันระหว่าง Grimshaw, HWKN, WHY, Farshid Moussavi และ บริษัทที่สร้างแพลตฟอร์ม Metaverse อย่าง Pax.World ในการสร้างฮับเสมือนจริง

4 สถาปัตยกรรมจาก 4 สถาปนิกชั้นนำ

Grimshaw ได้ออกแบบ Metaverse ให้มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าและลอยอยู่เหนือพื้น ผู้ชมสามารถเข้าได้ทางประตูทรงกลมเมื่อเข้ามาด้านในแล้วการโต้ตอบกับผู้ใช้รายอื่นจะไหลผ่านโครงสร้างที่เป็นระบบปิด การโต้ตอบจะสร้างพื้นที่อื่นๆ ตามความต้องการของผู้เข้าใช้ ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าสถาปัตยกรรม “การขยับรูปร่าง”

Keith Brewis หุ้นส่วนของกริมชอว์ กล่าวไว้ว่า “การทดลองกับการออกแบบ, เทคโนโลยีและวัสดุล้วนเป็นมรดกของกริมชอว์ทำให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงประสบการณ์และผลลัพธ์ของสิ่งแวดล้อมที่เราสร้างขึ้นได้”

Metaverse ของ Farshid Moussavi Architecture มีพื้นที่จัดกิจกรรมสามแห่ง ที่จัดไว้รอบๆ ลานทรงกลมขนาดใหญ่ พร้อมทิวทัศน์ที่เปิดโล่งไปยังห้องโถงส่วนกลาง ด้านนอกของอาคารเสมือนเป็นกระจกเงาสะท้อนทิวทัศน์โดยรอบ

HWKN ได้สร้าง Metaverse ที่ชื่อ Paxton ด้วยรูปทรงหกเหลี่ยมหลายระดับพร้อมด้วยอัฒจันทร์สำหรับคอนเสิร์ต, แกลเลอรีศิลปะไร้กำแพง, ห้องประชุมที่เปิดไปสู่ท้องฟ้าและสวนบนดาดฟ้าที่พร้อมไปด้วยเครื่องออกกำลังกาย

“Paxton คือโลกที่คุณเลือกจะเข้ามาสำรวจ, เปลี่ยน, และเติบโต” Matthias Hollwich ผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้งบริษัทสถาปัตยกรรม New York กล่าว

WHY ออกแบบสวนดอกไม้ในโลก Metaverse ผู้คนที่เข้ามาในสวนดอกไม้แห่งนี้จะได้พบกับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สูงผ่านช่องว่างตรงกลางของหลังคา เรียกว่า “tree of life” จุดเด่นมีหอศิลป์ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี, น้ำตก, ไม้และก้อนหิน “ทาสี” ทั้งหมดถูกจำลองเป็นเกาะลอยอยู่รอบๆ บริเวณสระน้ำซึ่งเป็นโครงสร้างหลัก

Andrijia Stojic ผู้อำนวยการอาคาร WHY กล่าวว่า “พื้นที่ของเราตั้งใจให้เป็นสถานที่ที่ตัวตนของผู้คนจะเป็นประกายและเต็มไปด้วยจินตนาการได้มากที่สุด

 Pax.World เป็นสังคมเสมือนจริงที่ทำงานเต็มรูปแบบซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของ DAO (Decentralised Autonomous Organisation) และใช้โทเค็น $PAXW ในการสร้างเศรษฐกิจ Pax.world ร่วมมือกับองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรและ NGOs เพื่อพัฒนาวิธีแก้ปัญหาต่างๆ เช่น ความยั่งยืน, ประชาธิปไตย, ความหลากหลายและความเป็นส่วนตัวในเสมือน Pax.world จะเปิดตัวและเปิดให้จองพื้นที่ในปี 2023

 Fitzgelard กล่าวว่า “Pax.World เป็น Metaverse สำหรับผู้ใหญ่ และยังสร้างฟังก์ชันการทำงานและการกำกับดูแลที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถแลกเปลี่ยน สร้างเครือข่าย และสัมผัสกับวัฒนธรรมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนบนแพลตฟอร์มเสมือนจริง”

ในอนาคต Metaverse อาจจะเข้ามามีบทบาทกับการดำเนินชีวิตของมนุษย์ไม่มากก็น้อย การสร้างโครงสร้างและการออกแบบสถาปัตยกรรมเพื่อรองรับกิจกรรมของมนุษย์จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและดูแปลกใหม่จนน่าจับตามองเพราะในปัจจุบันเรามีสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งมากมายในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วถ้าเป็นในโลก Metaverse โลกที่ไร้ขีดจำกัดของจินตนาการและการออกแบบเราอาจจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่แปลกใหม่ในแบบที่เราคาดไม่ถึง

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 04/01/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,800.0029,900.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,930.0029,258.8030,400.00
ทองรูปพรรณ 90%1,737.0026,332.92n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,544.0023,407.04n/a
ทองรูปพรรณ 50%869.0013,174.04n/a
ทองรูปพรรณ 40%676.0010,248.16n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,000.0030,320.00n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 04/01/2566



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9534.4534.4535.0534.4535.0534.4534.4534.4534.4534.45
แก๊สโซฮอล์ 9134.1834.1834.7834.1834.7834.1834.1834.1834.1834.18
แก๊สโซฮอล์ E2032.5432.5433.1432.5433.1432.5432.5432.5432.54
แก๊สโซฮอล์ E8532.6932.6932.69
เบนซิน 9541.8642.9142.3642.3141.86
ดีเซล B734.9434.9435.5434.9435.5434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9435.5434.9435.5434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9435.5435.5434.9434.9432.5434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม43.6643.6644.2644.2644.2634.94
แก๊ส NGV16.5916.5916.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า