‘ต่างชาติ’ ปลุกชีพ อสังหาเชียงใหม่ อรสิริน ชี้ พม่า – ญี่ปุ่น แห่ซื้อเพิ่มขึ้น
จับตา ตลาดอสังหาฯภาคเหนือคืนชีพ “อรสิริน” ชี้สัญญาณคึกคัก หลังท่องเที่ยว หนุนเศรษฐกิจไทย ประเมิน จีนเข้าไทย โอกาสซื้อ – ขาย โครงการที่อยู่ จ่อเปิดโครงการใหม่ 4,600 ล. รับดีมานด์ไทย-ต่างชาติ ระบุ ชาวพม่า ,เกาหลี ,ญี่ปุ่น แนวโน้มซื้อ บ้าน-คอนโดฯ 3 ล้านอัพ เพิ่มขึ้น
19 ม.ค.2566 – เป็นสัญญาณในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตามอง หลังจาก “อรสิริน” ผู้นำการพัฒนาอสังหาฯ บนทำเลศักยภาพ จ.เชียงใหม่ ชี้ถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯ ภาคเหนือตอนบน ว่าขยายตัวต่อเนื่อง จากภาวะเศรษฐกิจฟื้น ช่วยสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค และ การกลับมาของกำลังซื้อชาวต่างชาติ ดันดีมานด์ที่อยู่อาศัยเพิ่ม
โดยนายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด เผยล่าว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ จ.เชียงใหม่ และภาคเหนือตอนบนขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น มีการฟื้นตัวต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา จากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ประกอบกับการฟื้นฟูการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนืออย่างมาก เนื่องจากจำนวนเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทำให้เกิดการจ้างงานและความมั่นใจในสถานการณ์เศรษฐกิจ อีกทั้งการกลับมาของกำลังซื้อต่างชาติ ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่เคยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด 19 มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ดีมานด์ต่างชาติ มากกว่าครึ่งเป็น ‘ชาวจีน’
นอกจากนี้ ความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มคนในพื้นที่ และ กลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่แต่ต้องการมีที่พักอาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ โดยกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่ มีความต้องการโครงการประเภทบ้านเดี่ยว หรือ คอนโดมิเนียม ระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เนื่องจากกำลังซื้อและความสามารถในการกู้ยืมเงิน รวมถึง มาตรการลดค่าธรรมเนียมต่างๆ
สำหรับกลุ่มที่ไม่ได้เป็นคนพื้นที่ เช่น คนต่างจังหวัด กลุ่มซื้อเพื่อลงทุน และชาวต่างชาตินั้น จะนิยมบ้าน หรือ คอนโดมิเนียม ที่ระดับราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท เนื่องจากคำนึงถึงทำเลที่ตั้งของโครงการ และ มีความต้องการพื้นที่ใช้สอยและขนาดพื้นที่บ้านที่มากขึ้น ปัจจุบันชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อโครงการในจังหวัดเชียงใหม่ มากกว่าครึ่งยังคงเป็นชาวจีน โดยหลังจากจีนเริ่มทำการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ จะถือเป็นปัจจัยบวกและโอกาสในการขายของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทเริ่มเห็นว่า นอกจากกลุ่มลูกค้าชาวจีนแล้ว ชาติอื่นๆมีแนวโน้มเข้ามาซื้อโครงการอสังหาฯ เพิ่มขึ้นจากแต่ก่อน อาทิ พม่า ญี่ปุ่น เกาหลี และชาวต่างชาติโซนยุโรป
ต้นทุนเพิ่ม-ดอกเบี้ยสูง โจทย์ใหญ่อสังหาฯ
นายปรีดิกร กล่าวเสริมว่า ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาฯ มองว่าในปี 2566 นี้ ยังคงมีปัจจัยความเสี่ยงหลายๆ ด้านที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องเตรียมตัวรับมือให้ดี ทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้น, ต้นทุนในการพัฒนาโครงการเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคมีกำลังซื้อน้อยลง รวมถึงมาตรการกลับมาบังคับใช้เกณฑ์ LTV ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยดังกล่าว มีผลกระทบที่ค่อนข้างรุนแรง เมื่อเทียบกับปัจจัยบวกเช่นการเปิดประเทศที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับกำลังซื้อแต่ละพื้นที่เป็นหลัก ไม่พัฒนาเกินกำลังที่ผู้บริโภคจะซื้อได้ การลดขนาดโครงการ หรือแบ่งเฟส และจำกัดปริมาณ เพื่อบริหารความเสี่ยงให้สอดรับกับต้นทุนที่ดิน ค่าก่อสร้าง และดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในปีนี้
ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการกว่า 7 แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 4,600 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท และโครงการแนวสูงอีก 3 โครงการมูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท ชูกลยุทธ์พัฒนาที่อยู่อาศัยตามกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้า เช่น การพัฒนาบ้านแฝด แทนบ้านเดี่ยว โดยเน้นการออกแบบให้ลูกค้ารู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และ การพัฒนาคอนโดมิเนียมในระดับราคาที่ผู้บริโภคสามารถเอื้อมถึงได้ ด้วยการปรับฟังก์ชันห้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการพัฒนาโครงการในทำเลที่ยังมีช่องว่างทางการตลาดและมีกำลังซื้อที่ดี ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ในตลาดเชียงใหม่ ช่วยขยายฐานการสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ย้อนไป ‘ฐานเศรษฐกิจ’ พบ ช่วงปี 2564 ภาพรวมภาคอสังหาริมทรัพย์เชียงให ม่ถือว่าเป็นช่วงขาลงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ยังไม่สาหัสเท่า โดยผู้ประกอบการ เผยว่า กำลังซื้ออ่อนลงมาก คนตกงาน ธุรกิจก็ปิดตัว สภาพคล่องหายไปจากระบบมากถึง 80% และราคาร่วงลงถึง 25 %
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“พร็อพเพอร์ตี้กูรู” ประกาศแต่งตั้ง “ดิฌา โกเองกา ดาส” อดีตผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก นั่งแท่นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดคนใหม่
การตลาดและโปรแกรมต่าง ๆ จะเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของกรุ๊ป
บริษัท พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป จำกัด บริษัทเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ[1] (Prop Tech) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กภายใต้ชื่อ PGRU (NYSE: PGRU) (โดยต่อจากนี้จะเรียกว่า “พร็อพเพอร์ตี้กูรู” หรือ “กรุ๊ป”) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งในประเทศไทยอย่างดีดีพร็อพเพอร์ตี้ และเว็บไซต์รีวิวอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศอย่าง thinkofliving.com ได้ประกาศแต่งตั้งนางดิฌา โกเองกา ดาส (Disha Goenka Das) ดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด (CMO) โดยจะดูแลรับผิดชอบภาพรวมและทีมทำงานด้านกลยุทธ์เกี่ยวกับแบรนด์, ด้านการสื่อสารองค์กร รวมไปถึงด้านที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม, สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เธอจะเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารของพร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ป และรายงานตรงต่อนายแฮรี วี คริชนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ของกรุ๊ป
นางดิฌามาพร้อมกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งด้านแบรนด์และการตลาด รวมไปถึงการทำงานร่วมกับทีมต่าง ๆ ให้กับบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังระดับโลกหลายแห่งด้วยกัน เธอเคยทำงานในกว่า 30 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป อเมริกาใต้ และอเมริกา โดยล่าสุดเธอดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการด้านการตลาดนานาชาติให้กับทวิตเตอร์ (Twitter) นำทีมพัฒนาโปรแกรมกลยุทธ์การตลาดระดับโลก และสร้างแบรนด์ทวิตเตอร์ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ก่อนหน้านี้ นางดิฌาเคยร่วมงานกับกูเกิล (Google) ในตำแหน่งหัวหน้าทีมธุรกิจการโฆษณาเชิงพาณิชย์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นเวลาถึง 10 ปีด้วยกัน
ก่อนการประกาศแต่งตั้งนางดิฌาขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดในครั้งนี้ กรุ๊ปได้ประกาศจุดยืนใหม่ของแบรนด์ โดยยึดการให้คำแนะนำเป็นหัวใจหลักของเรา “ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงจุดไหนบนเส้นทางของการซื้อ-ขาย-เช่า-หรือลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เราพร้อมให้คำแนะนำในฐานะกูรู” ด้วยประสบการณ์ด้านแบรนด์และความเชี่ยวชาญด้านการตลาดที่แข็งแกร่งกว่า 17 ปี นางดิฌาจะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเร่งการเติบโตของกรุ๊ปแบบก้าวกระโดดในทั้ง 5 ตลาดหลักในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ไทย และอินโดนีเซีย และเป็นส่วนที่ขับเคลื่อนการสร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ นางดิฌาจะสร้างและดูแลรับผิดชอบทีม ESG ให้กับกรุ๊ปด้วย โดยจะโฟกัสไปที่การสร้างคุณค่าที่มีผลระยะยาวทั้งทางด้านการเงิน และสังคมให้กับผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน โดยจะผสานนโยบายด้าน ESG เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของบริษัทด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ นางดิฌาจะนำทีมแบรนด์ ทีมการสื่อสาร และทีม ESG โดยนำประสบการณ์ที่มีมาช่วยพัฒนาแพลตฟอร์มต่าง ๆ ตั้งแต่ออฟไลน์ไปจนถึงช่องทางดิจิทัลเพื่อเน้นย้ำจุดยืนใหม่ของกรุ๊ปให้สะท้อนในทุก ๆ กลยุทธ์การเติบโตของกรุ๊ปที่เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มเพื่อการค้นหาอสังหาฯ แต่สามารถให้บริการโปรดักส์และโซลูชั่นแบบครบวงจรให้กับผู้ที่กำลังค้นหาบ้าน, เอเจนต์, ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์, ธนาคารและสถาบันการเงิน, นักประเมินค่าทรัพย์สิน ไปจนถึงนักวางผังเมือง
ด้านนายแฮรี วี คริชนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ของพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป กล่าวว่า “เราตื่นเต้นมากที่ได้คุณดิฌามาร่วมทีมในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดของเรา เธอมาพร้อมกับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่แข็งแกร่งในด้านเทคโนโลยีการตลาด ซึ่งจะเป็นพลังขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญของกรุ๊ป อีกทั้งยังเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้ในการตัดสินใจอย่างมั่นใจในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยประสบการณ์ของคุณดิฌา ผมมั่นใจว่าเธอจะช่วยขับเคลื่อนให้กรุ๊ปของเราเดินหน้าสู่วิสัยทัศน์ที่เราตั้งไว้คือ การเป็นผู้ให้คำแนะนำที่ได้รับความไว้วางใจ ที่ช่วยให้ผู้คนค้นหาบ้านที่ใช่ ได้รับสินเชื่อที่เหมาะกับตนเอง และเป็นเจ้าของบ้านที่ชอบได้ในที่สุด”
ในขณะที่นางดิฌา โกเองกา ดาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดของพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป กล่าวว่า “ดิฉันก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันที่ได้มีโอกาสมาร่วมทีมกับพร็อพเพอร์ตี้กูรูในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น และถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของกรุ๊ปในขณะนี้ ดิฉันชื่นชมวิสัยทัศน์ของกรุ๊ป และจุดยืนของแบรนด์ที่ต้องการเป็นผู้คอยให้คำแนะนำให้กับทุกคนในทุกช่วงเวลาที่อยู่บนเส้นทางของการซื้อ-ขาย-เช่า-ลงทุนด้านอสังหาฯ และด้วยบทบาทที่ได้รับทำให้ดิฉันมีโอกาสแบ่งปันประสบการณ์ที่สั่งสมมา รวมไปถึงการสร้างคุณประโยชน์ให้กับกรุ๊ปของเรา เพื่อมุ่งหน้าสร้างแพลตฟอร์มอสังหาฯ ที่มีความโปร่งใส ที่ทุกคนเชื่อถือได้ให้กับภูมิภาคนี้ ดิฉันหวังว่าประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี และการตลาดของดิฉันจะช่วยสร้างโซลูชั่นที่นำเสนอประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้องในระบบนิเวศของอุตสาหกรรมนี้ต่อไป”
เกี่ยวกับพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป
พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป (NYSE: PGRU)เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ1ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ค้นหาบ้านกว่า 44 ล้านราย[2]เข้าเยี่ยมชมและใช้บริการบนเว็บไซต์ในแต่ละเดือน พร็อพเพอร์ตี้กูรูและบริษัทในเครือช่วยให้ผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยทั่วภูมิภาคได้เข้าถึงรายการประกาศขาย-เช่าที่มีมากกว่า 3.5 ล้านรายการ[3] อีกทั้งยังมีข้อมูลเชิงลึกและโซลูชั่นต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคในสิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย, อินโดนีเซีย และเวียดนาม ใช้ประกอบการตัดสินใจครั้งสำคัญได้อย่างมั่นใจ
PropertyGuru.com.sg เริ่มให้บริการครั้งแรกในปี 2550 นับเป็นการปฏิวัติตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ ด้วยการนำระบบออนไลน์เข้ามาใช้และช่วยให้การหาบ้านมีความโปร่งใสมากขึ้น ในช่วงเวลากว่า 15 ปีที่ผ่านมา พร็อพเพอร์ตี้กูรูได้เติบโตมาเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาฯ ที่มีการเติบโตสูง มีเว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาฯ อันดับ 1 อยู่ภายใต้การบริหาร มีแอปพลิเคชั่นที่มีรางวัลเป็นเครื่องการันตีคุณภาพ เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านสินเชื่อบ้าน PropertyGuru Finance อีกทั้งยังมีบริการสำหรับองค์กรภายใต้แบรนด์ PropertyGuru For Business ที่รวมแพล็ตฟอร์มที่ดีที่สุดเพื่อช่วยส่งเสริมการขายให้กับผู้พัฒนาอสังหาฯ อย่าง FastKey, DataSense, ValueNet บริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯ ที่สำคัญ ๆ อาทิ การจัดงานแจกรางวัลด้านอสังหาฯ กิจกรรมส่งเสริมการตลาด รวมไปถึงสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วภูมิภาคเอเชีย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ PropertyGuruGroup.com; PropertyGuru Group on LinkedIn
[1] ในส่วนของส่วนแบ่งการมีส่วนร่วมทางการตลาด (Engagement Market Share) อ้างอิงแหล่งข้อมูลจาก SimilarWeb
[2] อ้างอิงจากข้อมูลของ Google Analytics ช่วงระหว่าง เม.ย. – ก.ย. 2565
[3] อ้างอิงจากข้อมูลช่วงระหว่าง เม.ย. – ก.ย. 2565
ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าส่วนหนึ่งมาจากการรีบาวด์ของเงินดอลลาร์ ในภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาด มองแนวต้านสำคัญยังอยู่ในโซน 33.20-33.30 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (19ม.ค.2566)ที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์”อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 32.86 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า การพลิกกลับมาอ่อนค่าลงของเงินบาทนั้น
ส่วนหนึ่งก็มาจากการรีบาวด์ของเงินดอลลาร์ ในภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาด และส่วนหนึ่งก็อาจมาจากการทยอยปิดสถานะ Short USDTHB ของผู้เล่นต่างชาติบางส่วน
ทำให้ เราคงมองว่า ค่าเงินบาทยังมีความเสี่ยงที่จะผันผวนในฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง หากตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ซึ่งในวันนี้ ต้องระวังการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ข้อมูลตลาดแรงงาน
เนื่องจากภาพตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่งก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดกังวลแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้บ้าง ทำให้เงินดอลลาร์ยังคงมีปัจจัยหนุนอยู่ รวมถึง ท่าทีของประธาน ECB ต่อแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินยูโร (EUR)
โดย เงินยูโรมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง หากประธาน ECB ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ECB อาจชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย หรือ แสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปมากขึ้น
อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า เงินบาทยังคงมีแนวต้านสำคัญในโซน 33.20-33.30 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ผู้เล่นในตลาดต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์และเพิ่มสถานะ Short USDTHB
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.85-33.20 บาท/ดอลลาร์
ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงหนัก หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญล่าสุด อย่าง ยอดค้าปลีก (Retail Sales) และ ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ในเดือนธันวาคม ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มากได้กดดันให้ผู้เล่นในตลาดการเงินสหรัฐฯ เดินหน้าขายสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
นอกจากนี้ ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ต่างสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจนแตะระดับสูงกว่า 5% ก็ยิ่งกดดันบรรยากาศในตลาดการเงินฝั่งสหรัฐฯ ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปิดตลาด -1.56%
ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมา โดยหากผลประกอบการออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก็อาจกดดันให้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ย่อตัวลงต่อได้
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 สามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.23% ตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนในฝั่งยุโรปที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ (Anglo American +2.3%) ตามความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
ทางด้านตลาดบอนด์ แม้ว่าบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างออกมาสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ทว่าภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงต่อเนื่องได้กดดันให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงราว –12bp สู่ระดับ 3.38%
ทั้งนี้ แม้เรามีมุมมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในช่วงปลายปี ซึ่งอาจส่งผลให้บอนด์ยีลด์ระยะยาวปรับตัวลดลงต่อได้ แต่ระดับบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ในปัจจุบันได้ปรับตัวลงมาเร็วในช่วงที่ผ่านมา
ทำให้เรามองว่า นักลงทุนควรรอจังหวะให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี มีการปรับตัวขึ้นบ้าง (เน้น Buy on Dip) ในการทยอยเพิ่มสถานะการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย อย่าง พันธบัตรรัฐบาลโดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว
ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน โดยเงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน ทำให้ล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) รีบาวด์ขึ้นสู่ระดับ 102.4 จุด อีกครั้ง
แม้ว่า บรรยากาศในตลาดการเงินจะปิดรับความเสี่ยงและบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะย่อตัวลง แต่การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ก็ยังคงกดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ.) ไม่สามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซน 1,925 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะย่อตัวลงสู่ระดับ 1,910 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เรามองว่า หากราคาทองคำมีการย่อตัวลงต่อเนื่องใกล้โซนแนวรับแถว 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจหนุนให้ผู้เล่นในตลาดต่างรอทยอยเข้าซื้อในจังหวะย่อตัว และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้บ้าง
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะในส่วนของตลาดแรงงานผ่านรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) รวมถึง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง (Continuing Jobless Claims)
ส่วนในฝั่งเอเชีย ตลาดประเมินว่า ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) และ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) อาจปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นต่อเนื่อง +0.25% สู่ระดับ 3.00% และ 5.75% ตามลำดับ
และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงผลการประชุมของ BNM และ BI ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านถ้อยแถลงของประธาน ECB (Christine Lagarde) หลังผู้เล่นในตลาดต่างลุ้นว่า ECB จะส่งสัญญาณชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยได้บ้างหรือไม่ จากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 33.04-33.06 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (8.30 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่อ่อนค่ากว่าแนว 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียที่เผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย (หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด)
ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนบางส่วนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยและจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 32.90-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสกุลเงินเอเชีย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนธ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนม.ค.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“วิว กุลวุฒิ – กัน กันตภณ” กอดคอกันลิ่วรอบสอง ขนไก่ อินเดีย โอเพ่น 2023
การแข่งขันแบดมินตันรายการ “โยเน็กซ์ ซันไรท์ อินเดีย โอเพ่น 2023” ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 900,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 30,600,000 บาท ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันพุธที่ 18 ม.ค.66 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบแรก
ประเภทชายเดี่ยว รอบแรก “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวางอันดับ 8 ของรายการ มืออันดับ 8 ของโลก จะพบกับ อึ้ง กาลอง อังกุส มืออันดับ 17 ของโลกฮ่องกง แมตช์นี้ วิว กุลวุฒิเล่นได้เหนือกว่า ตบเอาชนะไปได่้ 2-0 เกม 21-13 และ 21-13 ใช้เวลาแข่งขัน 40 นาที วิว” กุลวุฒิ ผ่านเข้ารอบสองไปพบกับ อันเดรส แอทอนเซ่น มืออันดับ 26 ของโลก ที่เอาชนะ โทม่า จูเนียร์ โปปอฟ มืออันดับ 23 ของโลกจากฝรั่งเศส 2-1 เกม 18-21,21-19,21-13
“กัน” กันตภณ หวังเจริญ มืออันดับ 31 ของโลก เบียดเอาชนะ เคนตะ นิชิโมโตะ มืออันดับ 13 ของโลกจากญี่ปุ่น ไปอย่างหวุดหวิด 2-1 เกม 25-23,11-21,22-20 ใช้เวลาแข่งขัน 88 นาที “กัน” กันตภณ ผ่านเข้าสู่รอบสองไปพบกับ แอนโทนี่ ซินนิซุกะ กินติ้ง มือวางอันดับ 6 ของรายการ มืออันดับ 3 ของโลก ที่เอาชนะ ลู่ กวางซู มืออันดับ 10 ของโลกจากจีน 19-21, 21-19, 21-19
ประเภทหญิงคู่ รอบแรก “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มืออันดับ 30 ของโลก แพ้ให้กับ เฉิน ยิงเฉิน กับ เจีย ยี่ฟาน คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 1 ของโลกจากจีน ไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 21-16,14-21,16-21 ใช้เวลาแข่งขัน 69 นาที
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
วัณโรคปอด อาการ และการติดต่อของโรควัณโรคปอด พร้อมวิธีรักษา
งานการพยาบาลป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพ
ภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ผู้เรียบเรียง จริยา วิรุฬราช
วัณโรคปอด เป็นโรคระบาดที่ทำลายชีวิตมนุษย์มาตั้งแต่โบราณ ต่อมาเมื่อค้นพบยารักษาวัณโรคจึงสามารถควบคุมได้ แต่ในระยะ 10 กว่าปีมานี้ วัณโรคกลับระบาดและทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศยากจน คาดว่ามีประชากรหนึ่งในสามติดเชื้อวัณโรคและเสียชีวิตเกือบล้านคนต่อปี ปัจจุบันประเทศไทยนับเป็นประเทศที่มีปัญหาวัณโรคสูง โดยก่อนนี้การป่วยเป็นวัณโรคของผู้ใหญ่ในประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้นประมาณปี 2543 กลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมีความร้ายแรงขึ้นมาก ทั้งนี้เนื่องจากระบาดของเชื้อเอดส์ จึงทำให้วัณโรคแม้จะดูเป็นโรคธรรมดาแต่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ วัณโรคปอดเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ ทุเบอร์เคิล แบซิลลัส นอกจากทำให้เกิดวัณโรคแล้วยังสามารถเกิดวัณโรคกับอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้ เช่น ต่อมน้ำเหลือง กระดูก ลำไส้ ผิวหนัง แต่ร้อยละ 80 จะเกิดขึ้นที่ปอด เชื้อวัณโรคมีความทนทานมาก จึงอยู่ได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นน้ำ อาหาร อาการ แช่อยู่ในน้ำแข็งได้เป็นร้อยวัน ทนความร้อน สารเคมี และอยู่ในที่มืดได้ถึงครึ่งปี แต่ไม่ทนแสงแดดจึงมักจะตายอยู่ในแสงแดด
การติดต่อของโรควัณโรคปอด
เชื้อซึ่งอยู่ในปอดของผู้ป่วยจะออกมาอยู่ในบรรยายกาศขณะที่ผู้ป่วยไอ จาม บ้วนน้ำลาย ขากเสมหะ เมื่อเสมหะแห้งจึงฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ ดังนั้นจึงติดต่อได้ทั้งการสูดเชื้อเข้าไปในปอดหรือการสัมผัสสิ่งที่ปนเปื้อนเชื้อ เนื่องจากเชื้อวัณโรคปอดแพร่กระจายทางเดินหายใจมากที่สุด จึงพบเชื้อโรคได้ทั้งในบริเวณที่มีผู้ป่วยอยู่ บริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน หนาแน่นหรือสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น โรงภาพยนตร์ ศูนย์การค้า โรงพยาบาล ห้องที่อับ เป็นต้น คนส่วนใหญ่จึงเคยสัมผัสเชื้อวัณโรคมาแล้วเกือบทั้งนั้น การจะป่วยเป็นวัณโรคหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้
- สภาวะร่างกาย ความแข็งแรงของแต่ละบุคคล คนที่อ่อนแอ เช่น เด็กเล็กๆ ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรงเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ผู้ที่มีสุขภาพทรุดโทรม เช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง โรคเอดส์หรือผู้ที่ได้ยากดภูมิคุ้มกันจะเป็นวัณโรคง่ายกว่าคนแข็งแรง
- ปริมาณเชื้อที่ได้รับ คนที่อยู่บริเวณที่มีเชื้อมาก โอกาสเสี่ยงสูงกว่าคนที่อยู่บริเวณที่มีเชื้อน้อย
อาการของวัณโรคปอด
อาการในระยะแรกจะสังเกตได้ยากเพราะเกิดขึ้นช้าๆ เป็นทีละเล็กละน้อย ผู้ป่วยจึงไม่รู้ตัวว่าเป็นโรค อาการที่พบได้คือ
- มีไข้เรื้อรังต่ำๆ จนอาจไม่ได้สังเกต มักจะเป็นตอนเย็นหรือตอนบ่าย
- เหงื่อออกตอนกลางคืน
- อ่อนเพลียเป็นประจำแม้ว่าจะพักผ่อนเพียงพอ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
- ไอเรื้อรังแห้งๆ นานเป็นเดือน อาจไอน้อยหรือมากก็ได้ แต่เมื่อเป็นหนักขึ้นอาจไอเสียงดังโขลกๆมีเสมหะด้วย อาจรู้สึกเจ็บชายโครงเวลาไอ จะมีไอปนเลือดได้ในกรณีที่โรคลุกลามไปที่หลอดเลือดปอด
- อาการแทรกซ้อนอาจพบได้ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฝีในปอดมีน้ำในช่องหุ้มปอด และหากเชื้อแพร่กระจายสู่อวัยวะอื่นๆ ก็จะกลายเป็นวัณโรคของอวัยวะนั้นๆ
การวินิจฉัย
- อาการและอาการแสดงดังกล่าวแล้ว
- ย้อมเสมหะ เป็นวิธีง่ายได้ผลเร็วแต่ต้องเก็บอย่างถูกวิธีและต้องเป็นเสมหะที่ไอจากหลอดลมส่วนลึก
- เอกซเรย์ปอด
- วิธีอื่นๆ เช่น การเพาะดูเชื้อ ทดสอบความไวของเชื้อ ตรวจชิ้นเนื้อซึ่งอาจทำเป็นเพียงบางรายแล้วแต่ดุลพินิจของแพทย์
การรักษาวัณโรคปอด
วัณโรค รักษาด้วยยาซึ่งมีหลายชนิด ส่วนใหญ่แพทย์มักใช้ร่วมกัน ตัวอย่างยาที่รักษา เช่น Isoniazid Rifampicin Pyracinamide Ethambutol Streptomycin ระยะเวลาในการให้ยาอย่างน้อยที่สุด 6 เดือน ถึง 2 ปีครึ่ง แม้วัณโรคจะเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่ก็สามารถกลับเป็นซ้ำได้เช่นกัน ดังนั้น เป้าหมายที่สำคัญในการรักษาคือ รักษาให้หายขาดเพื่อตัดวงจรการแพร่กระจายเชื้อและป้องกันการดื้อยาของเชื้อวัณโรค การรักษาด้วยวิธีอื่นๆ มีบ้างแต่น้อย เช่น รักษาด้วยวิธีผ่าตัด ซึ่งจะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีรอยโรคเฉพาะตำแหน่งหรือรับประทานยาแล้วมีผลข้างเคียงสูง
การรักษาผู้ป่วยวัณโรคไม่ได้ผล เนื่องจาก
- ผู้ป่วยรับประทานยาไม่ครบตามกำหนด (เป็นสาเหตุสำคัญ) เชื้อจึงดื้อยา
- ติดเชื้อวัณโรคชนิดที่ดื้อต่อยาวัณโรคหลายชนิดปัจจัยร่วมอื่นๆ เช่น รับประทานยาไม่ถูกต้อง (ไม่เพียงพอ / ไม่ครบ 5 หมู่ / ไม่ถูกสุขลักษณะ) เครียด เป็นต้น
ข้อปฏิบัติสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นวัณโรค
- ต้องรับประทานยาให้ครบตามแพทย์กำหนด อาจเป็นเวลา 6 เดือน ถึง 2 ปีครึ่ง หลังได้ไปแล้วประมาณ 2-4 สัปดาห์ อาการจะดีขึ้น ไข้ลดลง ไอน้อยลง รับประทานอาหารได้มากขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยมักเข้าใจผิดว่าหายแล้วจึงไม่รับประทานยาต่อซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง การรับประทานยาไม่ครบตามกำหนด นอกจากจะไม่หายแล้วยังทำให้เชื้อดื้อยาจนอาจกลายเป็นวัณโรคเรื้อรังรักษายากขึ้นหรือรักษาไม่ได้เลย
- ก่อนได้รับการรักษาผู้ป่วยควรแยกห้องนอนและหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้อื่น หลังรับประทานยาไปแล้ว 2 อาทิตย์ จึงอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ตามปกติ
- ขณะไอหรือจามต้องใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก บ้วนเสมหะลงในภาชนะที่มีน้ำยาทำลายเชื้อ เช่น ไลโซลแล้วนำไปทิ้งในส้วมหรือขุดหลุมฝัง จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
- ดูแลร่างกายให้แข็งแรงเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทาน โดยรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ เมื่อแข็งแรงดีแล้วจึงออกกำลังกายได้ตามความเหมาะสม
- ควรอยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ห้องที่อยู่ถ้าเลือกได้ควรเป็นห้องอาการโปร่ง มีหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวก
- ควรนำที่นอนผึ่งแดดบ้าง และที่นอน เสื้อผ้า ดูแลอย่าให้มีฝุ่นเพราะจะกระตุ้นให้ไอได้
ในน้ำนมวัวที่ไม่ได้ผ่านการพาสเจอไรซ์จะพบเชื้อวัณโรค จึงสามารถติดต่อทางระบบทางเดินอาหารได้
ข้อแนะนำสำหรับผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- กรณีสงสัยว่าจะเป็นวัณโรคปอด (ดังอาการที่กล่าวข้างต้น) ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาแต่เนิ่นๆ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
- ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อช่วยให้ภูมิต้านทานได้ดีขึ้น โดยพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย เมื่อใดที่ร่างกายทรุดโทรมเชื้อที่หลบซ่อนอยู่ในร่างกายจะกำเริบกลายเป็นวัณโรค
- ผู้ที่ทดสอบทูเบอร์คุลินได้ผลลบ อาจฉีดวัคซีนบีซีจีเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันซึ่งในปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนบีซีจีให้เด็กแรกเกิดทุกคน แต่สำหรับผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เคยสัมผัสเชื้อมาแล้วเกือบทั้งนั้น แต่ที่ไม่เป็นโรคเพราะมีสุขภาพแข็งแรง การฉีดวัคซีนบีซีจีจึงไม่จำเป็น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ความหมายที่แท้จริงของ Venti, Grande และ Tall จาก Starbucks
“The meaning of Grande, Venti, and the reason why Starbucks created all these names instead of small, medium, large.”
ก่อนอื่นขอเปรยไซซ์ของ Starbucks แต่ละไซซ์เอาไว้ก่อนว่ามีขนาดเท่าไหร่ เพื่อเป็นการป้องกันหากใครกำลังจะงง (เกียมหยิบปากกากับกระดาษมาด้วยก็ได้นะ )
ปัจจุบันไซซ์แก้วเครื่องดื่มแบบเย็นของ Starbucks มีทั้งหมด 3 ไซซ์ด้วยกันก็คือ
Tall, Grande และ Venti จัดเป็น เล็ก 12 onz. กลาง 16 onz. และใหญ่ 20 onz. ตามลำดับ
ทีนี้เรามาดูที่มาและความหมายของคำศัพท์แต่ละคำกัน
Grade
อ่านว่า แกรน-เด หรือ กราน-เด
เป็นภาษาโรมันที่มีความหมายว่า ‘ใหญ่’ (large, big, great)
Venti
อ่านว่า เฟวน-ติ
เป็นภาษาละตินมีความหมายว่า ‘ลม’ แน่นอนว่าภาษามักจะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันไปในแต่ละภาษา เมื่อ Venti ผันมาเป็นภาษาอังกฤษจะได้คำว่า Vent ที่แปลว่า ‘ช่องลม’ เหมือน ๆ ที่สายเกมน่าจะเคยเห็นกันในเกม Among us ที่ Imposter จะต้องมุดช่องลมลงไปเพื่อแอบเพื่อน ๆ นั่นเอง
แต่ ๆๆๆ !!
ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับ Starbucks เลย ที่เกี่ยวก็คือ Venti ในภาษาละตินดันมีอีกความหมาย นั่นก็คือ ‘20’ ซึ่ง Starbucks ได้ใช้ความหมายนี้แหละมาตั้งเป็นไซซ์แก้ว
เริ่ม ๆ จะจับประเด็นกันได้แล้วมั้ยยยย
ทีนี้กลับมาที่ Starbucks
ไซซ์ที่ Starbucks มีมาแต่เดิมแรกเริ่มมาจาก Small (เล็ก), Tall (กลาง), และ Grande (ใหญ่) ต่อมาได้มีการยกเลิกขายไซซ์ Small ไป และเพิ่มไซซ์แก้วที่ใหญ่ขึ้นมามากกว่าเดิม (มากกว่า Grade) จึงได้เพิ่มไซซ์ Venti ที่ซึ่งสามารถจุได้ถึง 20 onz. เป็นปริมาณที่มากกว่า Grade ที่มีปริมาณเพียง 16 onz. จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม Grade ที่มีความหมายว่า ใหญ่ (large) ถึงถูกจัดให้เป็นเพียงไซซ์กลางในร้าน Starbucks นั่นเอง
อีกเหตุผลที่ขอยกมาเพิ่มเติมว่าทำไม Starbucks ถึงไม่ใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ มาเป็นชื่อเรียกไซซ์แก้ว ก็เพราะว่าคอนเซปของ Starbucks ได้ถูกดีไซน์รูปแบบมาให้มีความเป็นวัฒนธรรมอิตาลี ตามความชื่นชอบของเจ้าของ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นำภาษาอิตาลีเข้ามาใช้นั่นเอง
หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ Starbucks ได้ทำการตัดบางไซซ์ออก และพยายามหาคำศัพท์อื่นที่ให้มีความหมายแปลว่า ‘ใหญ่’ กว่าคำเดิมที่ตัวเองมีอยู่แล้วก็เท่านั้นเองงง
แต่ถ้าเพื่อน ๆ สงสัยว่าแล้วถ้าจะอยากใช้เป็นคำภาษาอังกฤษแบบทั่วไปต้องใช้คำว่าอะไรล่ะ? เพื่อน ๆ สามารถใช้เป็น Small, Medium, และ Large ตามตัวย่อไซซ์ทั่วไป S,M, และ L ที่เราพบเห็นทั่วไปได้เลยค่า
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
รู้จักขุมพลัง M2 Pro และ M2 Max อัปเกรดให้แรงขึ้นรอบด้าน และ ประหยัดไฟเหมือนเดิม
หลังจากเราเห็นรูปร่างหน้าตาและสเปกของเครื่อง MacBook Pro และ Mac Mini กันไปแล้ว แต่สำหรับรอบนี้ทีม Sanook Hitech จะพาคุณมารู้จักชิป SoC (System on Chip) อย่าง M2 Pro และ M2 Max กัน
สำหรับชิป M2 Pro และ M2 Max จะใช้สถาปัตยกรรมการผลิตอยู่ที่ 5 นาโนเมตร รุ่นที่ 2 ติดตั้งทรานซิสเตอร์กว่า 4 หมื่นล้านตัว ทำให้สามารถทำงานได้เร็วกว่า 20% มี Bandwidth อยู่ที่ 200GB/s คิดเป็น 2 เท่าและมี CPU ให้เลือกทั้ง 10 – 12 Core แบ่งออกเป็น แกนประสิทธิภาพสูงสุดเลือกได้ถึง 8 Core และ แกนประหยัดพลังงานแบบ 4 Core และทำให้การทำงานแบบมัลติเธรตเร็วขึ้น 20% เมื่อเทียบกับรุ่น M1 Pro สามารถประมวลผลภาพผ่าน Adobe Photoshop ได้เร็ว 40% เมื่อเทียบกับ M1 Pro
ยังไม่หมดครับ เมื่อ GPU ของ M2 Pro มีทั้งหมด 19 Core พร้อมกับ L2 Cache ที่มากกว่าเดิมส่งผลให้ทำงานเร็วขึ้น 30% โดย Apple ได้บอกว่าสามารถแสดงผลภาพได้ระดับเดียวกับเครื่องเล่นเกม Console อีก
สรุปสั้นๆ คือ ชิป M2 Pro จะแรงขึ้นกว่าเดิม 20% ประหยัดไฟ 33% จากปัจจัยที่บอกมาทั้งหมด และมีประสิทธิภาพประมวลผลภาพที่ดีขึ้นเรียกว่า แค่นี้ก็แรงพอแล้ว
แล้วชิป M2 Max แตกต่างจาก M2 Pro อย่างไร คำตอบคือ การเพิ่มทรานซิสเตอร์กว่า 6.7 หมื่นล้านตัว และรองรับ Bandwidth 400GB/’s และยังทำงานดีเร็วกว่าชิป M2 ถึง 4 เท่า และยขังมี CPU ทั้งหมด 12 Core และ GPU สูงสุด 38 Core รวมถึงอัด RAM ได้สูงสุด 96GB ช่วยให้การทำงานนั้นลื่นไหลและทรงพลัง ไม่นับว่ามี L2 Cache ขนาดใหญ่อยู่ด้วย
นอกกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีแบบเฉพาะ ชิป M2 Pro และ M2 Max มาพร้อมเทคโนโลยีแบบเฉพาะที่ดียิ่งขึ้นดังนี้
- ทั้งชิป M2 Pro และ M2 Max มี Neural Engine แบบ 16-core เจเนอเรชั่นถัดไปของ Apple ซึ่งสามารถประมวลผลได้ 15.8 ล้านล้านรายการต่อวินาที และเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าสูงสุด 40%
- ชิป M2 Pro มีมีเดียเอนจิ้นที่ทั้งทรงพลังและประหยัดพลังงานดีเยี่ยม ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสและถอดรหัสวิดีโอ H.264, HEVC และ ProRes โดยใช้ฮาร์ดแวร์เร่งความเร็ว จึงสามารถเล่นวิดีโอ ProRes ระดับ 4K และ 8K หลายสตรีมได้โดยใช้พลังงานเพียงนิดเดียว ในขณะที่ชิป M2 Max มาพร้อมเอนจิ้นสำหรับเข้ารหัสวิดีโอ 2 ตัว และเอนจิ้น ProRes อีก 2 ตัว จึงสามารถเข้ารหัสวิดีโอได้เร็วกว่าชิป M2 Pro สูงสุด 2 เท่า
- โปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพรุ่นล่าสุดของ Apple ลดนอยซ์ได้ดีขึ้น และใช้การประมวลผลวิดีโอด้วยคอมพิวเตอร์ควบคู่กับ Neural Engine เพื่อปรับปรุงคุณภาพของภาพที่ได้จากกล้อง
- Secure Enclave เจเนอเรชั่นถัดไปคือหัวใจสำคัญในระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุดของ Apple
นอกจากนี้ชิป M2 Pro และ M2 Max สามารถใช้ร่วมกับ macOS Venture ได้อย่างดีและยังใช้งานได้นานสุดถึง 22 ชั่วโมงสำหรับใน MacBook Pro M2 Pro อีกด้วย แต่จะแรงจริงแค่ไหนอาจจะต้องรอพิสูจน์กันต่อไป
แต่กล่าวโดยสรุปแล้วชิป M2 Pro และ M2 Max ออกแบบมาเพื่อแก้จุดที่ M1 Pro และ M1 Max อาจจะยังไม่ดีพอแค่นั้นแต่ถ้าจะหวังให้เล็กลงถึง 3 นาโนเมตร อาจจะต้องให้เวลาสักหน่อยครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ปูนสำเร็จรูปเพื่อสิ่งแวดล้อม จาก Calmix Mortar ในงานสถาปนิก’66
แบรนด์นวัตกรรมก่อสร้างที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ในขณะเดียวกันก็ยังคงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โปรดนึกถึง Calmix Mortar (CALMIX CO., LTD.) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปูนสำเร็จรูปที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง ช่วยให้การดำเนินงานก่อสร้างสามารถทำได้รวดเร็วและสะดวกสบายขึ้น ด้วยการคัดสรรเทคเทคโนโลยีเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตจากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกในการผลิตปูนสำเร็จรูป ด้วยการควบคุมสัดส่วนการผลิตด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่แม่นยำ และคัดสรรใช้หินปูนบด ปูนไลม์ ซีเมนต์ และวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอนการผลิตจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้เกิดความมั่นใจในผลผลิตที่ออกมา
ปูนไลม์มีดีอย่างไร
ปูนไลม์เป็นวัสดุอเนกประสงค์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการก่อสร้างอาคาร โดยสามารถใช้ในงานก่อฉาบอิฐ งานปูนฉาบภายนอก และปูนฉาบภายในได้ โดยปูนไลม์ให้ประโยชน์แก่ปูนก่อและปูนฉาบทั้งในสภาพข้นเหลวและสภาพแข็ง ในสถานะเหลวข้นปูนไลม์สามารถเพิ่มความสามารถในการใช้งานและการอุ้มน้ำ และในสถานะที่แข็งตัวปูนไลม์จะทำปฏิกิริยากับคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อสร้างแคลเซียมคาร์บอเนตหรือหินปูนอย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะเพิ่มความแข็งของพื้นผิวและช่วยให้สามารถปิดรอยแตกขนาดเล็กได้
รักษ์โลก รักแคลมิกซ์ มอร์ตาร์
สามารถระบายอากาศได้ : ดูดซับและระเหยความชื้นจากวัสดุก่อโดยรอบ
ความยืนหยุ่น : เนื่องจากมีค่าโมดูลัสยืดหยุ่นที่ต่ำ มอร์ตาร์ที่ผสมปูนไลม์จะช่วยให้การเคลื่อนไหวและการขยายตัวเนื่องจากความร้อนของอิฐเพิ่มได้ และสามารถทนต่อสภาวะที่รุนแรง
ความคงทน : มอร์ตาร์ที่มีส่วนผสมปูนไลม์ช่วยให้ส่วนผสมของปูนซีเมนต์และหินปูนบดยังคงมีความแข็งแรงและหยุดการแตกร่วนของมอร์ตาร์ได้
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยปูนไลม์มีความสามารถในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศกลับเข้าไปเป็นแคลเซียมคาร์บอร์เนต ทำให้เป็นการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสภาวะเรือนกระจกได้อย่างต่อเนื่อง
สุนทรียภาพ : มีผิวที่เรียบเนียน สวยงาม และมีสีนวลอ่อน
ความสามารถในการทำงาน : ง่ายต่อการใช้งานและได้รูปทรงพื้นผิวที่สง่างาม
MASONRY
GENERAL MASONARY MORTAR
CALMIX 101
ปูนก่อสำหรับงานก่อผนังทั่วไป อาทิ งานก่ออิฐมอญ และงานก่อบล็อกคอนกรีตที่ต้องการความมั่นคงแข็งแรงระดับทั่วไป ใช้ได้ทั้งพื้นที่ภายในและภายนอก
จุดเด่น
- ผลิตจากแร่หินปูนธรรมชาติ
- ประหยัด ผสมได้ปริมาณมาก
- ทนฝน
- ใช้งานง่าย
PLASTERING
CONCRETE PLASTERING MORTAR
CALMMIX 203
ปูนฉาบสำเร็จรูปสำหรับผนังคอนกรีต มีส่วนผสมหลักจากปูนซีเมนต์ ปูนไลม์ หินปูนบดละเอียดน้ำหนักเบาจากธรรมชาตื และสารเติมแต่งคุณภาพสูงที่เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน เหมาะสำหรับการใช้เป็นปูนฉาบบนผิวคอนกรีตที่ต้องการฉาบ หรือจะปูวัสดุทับลงบนผิวมันและไม่ซับน้ำ
จุดเด่น
- ผลิตจากแร่หินปูนธรรมชาติ
- ใช้งานง่าย
- ประหยัด ผสมได้ปริมาณมาก
- มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อน
- ไม่หดตัวหลังการฉาบ
- ยึดเกาะดีเยี่ยม
- ดูดซันคาร์บอนไดออกไซด์
SKIM COAT
WHITE SKIN COAT
CALMIX 301
ปูนฉาบสำเร็จรูปผิวบางสีขาว มีส่วนผสมหลักจากปูนซีเมนต์ขาว ปูนไลม์ ผงหินปูนบดละเอียดน้ำหนักเบาจากธรรมชาติ และสารเติมแต่งคุณภาพสูงที่เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน เพื่อเตรียมพื้นผิวสำหรับการทาสีและติดวอลเปเปอร์ในพื้นที่ภายใน หรือใช้ฉาบเรียบทับผนังปูนฉาบอีกชั้น เพื่อความเรียบเนียนไร้รอยต่อ
จุดเด่น
- ใช้งานง่ายสามารถผสมด้วยมือ
- ฉาบเรียบได้ง่าย
- สำหรับพื้นภายในทุกประเภท
- สำหรับพื้นภายนอกทุกประเภท
- ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์
SCREED
FLOOR SCREED
CALMIX 401
ปูนเทปรับพื้นสำเร็จรูปแทนคอนกรีต สำหรับใช้เทปรับพื้นเพื่อเป็นชั้นรองพื้น เททับผิวพื้น เททับฉนวนกันความร้อนที่ฝังภายใต้พื้น หรือเทเป็นฐานรองพื้นยกสำหรับพื้นที่ภายใน
จุดเด่น
- ใช้งานได้อเนกประสงค์
- ใช้งานง่ายสามารถผสมด้วยมือ
- มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อน
- มั่นคงแข็งแรง
- Grain Size 0-4 mm.
มาลองเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณได้ที่งานสถาปนิก’66
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปูนสำเร็จรูปที่ออกแบบมาให้ตอบสนองทุกการใช้งาน Calmix Mortar มารอคุณแล้วที่บูธหมายเลข D411 ในงานสถาปนิก’66 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 25 – 30 เมษายน 2566 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำหรับผู้สนใจจองพื้นที่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://architectexpo.com/2023/en/about-the-expo/#space-reservation หรือ โทร. 02-717-2477 อีเมล info@TTFintl.com
ขอบคุณข้อมูลจาก architectexpo.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 19/01/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,750.00 | 29,850.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,927.00 | 29,213.32 | 30,350.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,734.30 | 26,291.99 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,541.60 | 23,370.66 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 867.00 | 13,143.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 674.00 | 10,217.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,997.00 | 30,274.52 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 19/01/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.55 | 35.55 | 36.25 | 36.15 | 36.15 | 35.55 | 35.55 | 35.55 | 36.15 | 35.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.28 | 35.28 | 35.98 | 35.88 | 35.88 | 35.28 | 35.28 | 35.28 | 35.88 | 35.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.64 | 33.64 | 34.34 | 34.24 | 34.24 | – | 33.64 | 33.64 | 34.24 | 33.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 34.09 | 34.09 | – | – | – | – | – | – | – | 34.09 |
เบนซิน 95 | 42.96 | – | – | – | 44.01 | – | 43.46 | 43.41 | – | 42.96 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.54 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.54 | – | 34.94 | – | 34.94 | – | 34.24 | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.66 | 43.66 | 44.26 | 44.26 | 44.26 | – | – | – | – | 34.94 |
แก๊ส NGV | 16.59 | 16.59 | – | – | – | – | – | – | – | 16.59 |