เฮ! ปลดล็อกพื้นที่ป่าชายเลน 352 ไร่ 11 จังหวัด เป็นที่อยู่อาศัย
ครม.ไฟเขียวแล้ว ให้เอาที่ดินที่เป็นป่าชายเลนกว่า 352 ไร่ ใน 11 จังหวัด ไปจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน โดยยกเว้นมติครม.หลายฉบับ แนะพัฒนาอาชีพให้ชาวบ้านไม่เข้าไปบุกรุกป่าชายเลนเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้ยกเว้นมติครม.หลายฉบับ เพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยนำที่ดินที่เป็นป่าชายเลนเนื้อที่รวม 352-0-61.51 ไร่ ไปดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในพื้นที่ป่าชายเลน ในท้องที่ 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตรัง ตราด พังงา ภูเก็ต ระนอง ระยอง และสมุทรปราการ จำนวน 62 พื้นที่ เนื้อที่รวม 352-0-61.51 ไร่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน มีมติเห็นชอบการกำหนดให้พื้นที่ป่าชายเลนเป็นพื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนในการประชุมครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 จำนวน 18 พื้นที่ 6 จังหวัด เนื้อที่ 115-2-98.81 ไร่
- คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน มีมติเห็นชอบพื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนเพิ่มเติมในการประชุมครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 จำนวน 44 พื้นที่ 9 จังหวัด เนื้อที่ 236-1-62.70 ไร่
สำรวจรังวัดและขึ้นรูปแปลงแล้ว
การดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ในพื้นที่ป่าชายเลนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จะต้องขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีที่ห้ามใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนก่อน ซึ่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ลงพื้นที่สำรวจรังวัดและขึ้นรูปแปลงแล้ว
โดยพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในความรับผิดชอบของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 และพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ไม่ทับซ้อนกับพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น
รวมทั้งไม่กระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น และเมื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายแล้ว เจ้าหน้าที่จะลงสำรวจพื้นที่ร่วมกับผู้นำหรือผู้แทนชุมชนผู้ที่อยู่อาศัยใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นผู้นำตรวจและนำชี้เป็นรายแปลง
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะดำเนินการต่อไปให้เป็นไปตามระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งว่าด้วยการปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อม กรณีการดำเนินการโครงการใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน พ.ศ. 25567
โดยกำหนดให้หน่วยงานรัฐที่เข้าใช้ประโยชน์ป่าชายเลนต้องจัดสรรงบประมาณให้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลนทดแทน ไม่น้อยกว่า 20 เท่า ของพื้นที่ป่าชายเลนที่ใช้ประโยชน์
จัดที่ดินให้ชุมชนแล้ว 16,042 ไร่
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ แจ้งว่า ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว (ทำกินหรืออยู่อาศัย) จำนวนรวม 21 จังหวัด เนื้อที่รวม 16,042-2-18.29 ไร่ รวม 180 ชุมชน 9,279 ครัวเรือน
ขณะที่ รายงานสถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศ พ.ศ. 2565 ระบุว่า ในปี 2563 ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าชายเลนคงสภาพ จำนวน 1.73 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2557 จำนวน 2 แสนไร่ แสดงให้เห็นว่าแม้ภาครัฐจะดำเนินนโยบายการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลนไปแล้วกว่า 16,042 ไร่ แต่ก็ไม่ได้กระทบต่อการลดลงของพื้นที่ป่าชายเลน คงสภาพซึ่งเป็นป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์แต่อย่างใด
ทั้งนี้เนื่องจาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ แจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่า พื้นที่ป่าชายเลนที่นำมาจัดสรรใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ยังไม่เคยให้ข้อมูลแก่คณะรัฐมนตรีว่า จะต้องมีการจัดที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน เพื่อการอยู่อาศัยให้แก่ชุมชนเพิ่มเติมอีกมากน้อยเพียงใด
ดังนั้นหาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จะเสนอขอยกเว้นมติครม. เพื่อจัดที่ดินในลักษณะนี้อีก ก็ควรนำเสนอแผนการจัดที่ดิน เพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลนที่มีเป้าหมายและกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในคราวเดียวกันด้วย
ความเห็นของหลายหน่วยงานรัฐ
สำนักงบประมาณ มีความเห็นเพิ่มเติมว่า ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่และคัดกรอง คุณสมบัติของราษฎรเพื่อจัดระบบการใช้ประโยชน์ที่ดินตามหลักเกณฑ์ การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเห็นชอบอย่างเคร่งครัด
รวมถึงการกำหนดให้มีมาตรการในการคุ้มครองและป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ได้ดำเนินการตามเป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนดังกล่าวด้วย
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มีความเห็นเพิ่มเติมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับศักยภาพ และภูมิสังคมของพื้นที่โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลน เพื่อให้ราษฎร ที่ได้รับการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาวและไม่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีความเห็นเพิ่มเติมว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ควรกำหนดให้ชุมชน ที่ได้รับอนุญาตให้ทำกินในป่าชายเลนดังกล่าวมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้มากขึ้นจากที่เป็นอยู่ด้วย เพื่อให้การใช้ประโยชน์ป่าชายเลนเป็นไปอย่างยั่งยืน รวมทั้งเห็นว่า เรื่องนี้ไม่มีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป อันเป็นข้อห้ามตามมาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เทรนด์เลี้ยงสัตว์พุ่งสวนทางเด็กเกิดใหม่ลดหนุน‘เพ็ท เรสซิเดนซ์’บูมยาว!
เทรนด์เลี้ยงสัตว์พุ่งสวนทางเด็กเกิดใหม่ลด หนุนโอกาส ‘เพ็ท เรสซิเดนซ์’ บูมยาว! ค่ายอสังหาฯแห่พัฒนาคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งมีฟังก์ชันและพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง เอาใจทาสหมา ทาสแมว
เทรนด์ผู้บริโภคดูแลสัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนคนในครอบครัวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศไทย จากการสำรวจในปี 2560 มีการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง 1.3 ล้านครอบครัว เพิ่มขึ้นเป็น 1.45 ล้านครอบครัวในปี 2564 สวนทางกับการแนวโน้มอัตราเด็กเกิดใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
เป็นโอกาสของผู้พัฒนาอสังหาฯที่จับตลาด “Pet Residences” มากขึ้น ไม่ว่าจะค่าย ออริจิ้น เปิดตัวคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งมีฟังก์ชันและพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง โครงการวิสซ์ดอม เดอะฟอเรสเทียส์ บางนา-ตราด ก.ม. 7 โครงการ ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ ของไรมอน แลนด์ มีโซนสำหรับสัตว์เลี้ยง
เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ข้อมูล Euromonitor และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงขยายตัวสูง คาดปี 2569 ตลาดสัตว์เลี้ยงของโลกเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.2% โดยเฉพาะตลาดภาคพื้นเอเชีย สอดคล้องกับมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยที่เติบโตจากปี 2564 ปีละ 8.4% มาอยู่ที่ 66,748 ล้านบาทในปี 2569
ข้อมูลของวิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU พบว่าจากกลุ่มตัวอย่าง 1,046 คน ราว 80.7% ของผู้ที่เลี้ยงสัตว์มีสถานะ “โสด” ขณะที่ 19.3% สมรสแล้ว โดย 18% ของกลุ่มตัวอย่างบอกว่า เลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยเหลือและช่วยบำบัดรักษา (Pet Healing) ทั้งนี้เนื่องจากสัตว์เลี้ยงบำบัดมีประโยชน์ เช่น เพิ่มความสุข เพราะช่วยเพิ่มระดับสาร Oxytocin ได้ 20% ทำให้สภาพจิตดี ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดความดันโลหิต ช่วยเยียวยาจิตใจหรือร่างกาย
ทั้งนี้ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เดินหน้าสู่การเป็น “LifeScape Developer” ที่ไม่ใช่เพียงการพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตที่เข้าใจและครอบคลุมทุกบริบท โฟกัสการเป็น“Pet Friendly” พร้อมยกระดับมาตรฐานใหม่สู่ MAJOR Pet Family Residences เป็นมากกว่าอสังหาฯ
สำหรับ Pet Friendly ทุกมิติตั้งแต่การวางดีไซน์ตอบโจทย์คนและสัตว์เลี้ยงในแต่ละโครงการ อย่าง คอนโดมิเนียม เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว ดีไซน์เน้น Craft & Quality ควบคู่ Pet-Friendly เน้นพื้นที่ส่วนกลางใหม่ อาทิ Multi-Pet Playroom พื้นที่พิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยงทางเลือกอย่าง กระต่าย ชินชิลล่า เม่นแคระ, Cat Haus พื้นที่สำหรับน้องแมว และ Pet Park พื้นที่ออกกำลังกายขนาดใหญ่ที่ให้น้องหมาได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งกับเจ้าของ
รวมถึงวัสดุก่อสร้างและตกแต่งมาตรฐาน Non-Toxic และ Zero VOCs เป็นมิตรต่อคนและสัตว์เลี้ยง การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้บ้านเย็นและยับยั้งเชื้อโรค พร้อมจับมือพันธมิตรเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมากกว่า 60 แบรนด์ อาทิ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ โรงพยาบาลสัตว์คชาเว็ท ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้รักสัตว์
ปัจจุบันสมาชิกครอบครัวเมเจอร์ฯ ลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงในฐานะลูกบ้านทุกโครงการรวมกว่า 1,000 ตัว โดย 3 ปี (2564-2566) การลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงกับนิติบุคคลจากปี 2564 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เฉลี่ย 27% 38% และ 52% ตามลำดับ
“MAJOR Pet Family Residences เป็นมาตรฐานสำคัญครั้งใหม่ของวงการอสังหาฯ กับจุดยืนทางการตลาดที่แตกต่าง โดยทุกโครงการของเมเจอร์ฯ เลี้ยงสัตว์ได้ 100% พร้อมเดินหน้าพัฒนาฟังก์ชั่นเพื่ออยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงเต็มรูปแบบ ยกระดับไลฟ์สไตล์ร่วมกันจนเกิดเป็นคอมมูนิตี้เพื่อคนรักสัตว์อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน”
สำหรับผลประกอบการปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 5,000 ล้านบาท ยอดพรีเซล 7,000 ล้านบาท ยอดรอโอนกรรมสิทธิ์ 2,000 ล้านบาทช่วงครึ่งหลังของปี 2566 เตรียมเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท พร้อมแตกไลน์ธุรกิจใหม่ กลุ่มเฮลท์ แลนด์สเคป นำร่องก่อนบุกธุรกิจเทคโนโลยี ตั้งเป้าหมายภายในปี 5 ปี รายได้ธุรกิจใหม่จะขยับขึ้นเป็น 20% ของรายได้รวม
อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ผู้พัฒนาโครงการกลุ่มสมาร์ทคอนโดมิเนียมในเครือ ออริจิ้น กล่าวว่า ปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าบุกตลาดคอนโดสำหรับกลุ่มคนรักสัตว์ (Pet Lover) ต่อเนื่อง ครึ่งปีแรกมีแผนเปิดตัวคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 9,360 ล้านบาท ครอบคลุมทำเลรถไฟฟ้าทั้งสายสีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม สีเหลือง และครอบคลุมพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท
“หลายทำเลที่ออริจิ้นเข้าไปเปิดตัวโครงการยังไม่เคยมีคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้มาก่อน จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการเลี้ยงสัตว์”
ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ออริจิ้น ทยอยเปิดตัวโครงการคอนโดสำหรับคนรักสัตว์สะสม 13 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 22,140 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวีนนี้ 10ส.ค. ที่ระดับ 35.10 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อได้บ้าง โดยเฉพาะในช่วงตลาดการเงินโดยรวมยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง-คาดกรอบเงินบาทที่ระดับ 34.85-35.40 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 10ส.ค.2566 ที่ระดับ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.94 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อได้บ้าง โดยเฉพาะในช่วงที่บรรยากาศตลาดการเงินโดยรวมยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อหรือทรงตัวที่ระดับเดิมต่อได้
ขณะเดียวกัน การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ก็กดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงและหากผู้เล่นในตลาดทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะดังกล่าว โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำก็กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าได้เช่นกัน อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากผู้เล่นในตลาด
อาทิ ผู้ส่งออก ต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์ หลังเงินบาทอ่อนค่าทะลุระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนผู้เล่นต่างชาติที่มีมุมมองเชิงบวกต่อเงินบาทในระยะกลาง-ระยะยาว ก็อาจรอจังหวะเงินบาทอ่อนค่าในการทยอยเพิ่มสถานะ Long THB
นอกจากนี้ ในวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ทำให้ ผู้เล่นในตลาดอาจยังอยู่ในภาวะ wait and see ทำให้เงินบาทอาจติดอยู่ในโซนแนวต้านแถว 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ ทว่า ควรระวังในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ
ซึ่งเราประเมินว่า ตลาดการเงินอาจผันผวนสูงได้ โดยหากอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นสูงกว่าคาด จนทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มคาดหวังว่า เฟดอาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ (ต้องเห็นโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยต่อ สูงกว่า 40%) ในกรณีดังกล่าว เราคาดว่า เงินบาทอาจอ่อนค่าต่อตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และ
โฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวได้ (คาดว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลดลง) ในทางกลับกัน หากอัตราเงินเฟ้อออกมาตามคาด หรือ ต่ำกว่าคาด เราคาดว่า เงินบาทมีโอกาสพลิกกลับมาแข็งค่าหลุดโซน 35.00 บาทต่อดอลลาร์ได้ ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และการรีบาวด์ขึ้นแรงของราคาทองคำ
เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและบรรยากาศในตลาดการเงินที่อาจพลิกไปมาในช่วงนี้ ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.95-35.20 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ
และมองกรอบเงินบาทที่ระดับ 34.85-35.40 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ
โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 34.90-35.12 บาทต่อดอลลาร์) กดดันโดยโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว รวมถึงการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ได้แรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off)
บรรดาผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าทยอยขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคฯ ที่เกี่ยวกับธีม AI (Nvidia -4.7%, AMD -2.4%, Alphabet -1.3%) ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวลงกว่า -1.17% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.70% ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน (Exxon Mobil +1.7%) หลังราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 พลิกกลับมาปรับตัวขึ้น +0.43% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มพลังงาน (Total Energies +3.4%, BP +2.6%) ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนโดยรวมที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด
ในฝั่งตลาดบอนด์ ผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ทำให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัว sideway ใกล้ระดับ 4.00% (กรอบ 3.98%-4.04%) ทั้งนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่ระดับสูงกว่า 4.00% ถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจ ในการทยอยเข้าซื้อ โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น และเฟดอาจจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหว sideway โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ในช่วงที่ตลาดการเงินผันหวน ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในวันนี้ ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) แกว่งตัวใกล้ระดับ 102.5 จุด ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะแกว่งตัว sideway ไร้ทิศทางที่ชัดเจน แต่จังหวะการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ได้กดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ย่อตัวลง ใกล้ระดับ 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะปรับฐาน และโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ (ตลาดจะรับรู้ในช่วง 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย) โดยบรรดานักวิเคราะห์ต่างคาดว่า อัตราเงินเฟ้อ CPI จะอยู่ที่ระดับ 3.3% (คิดเป็นการเพิ่มขึ้น +0.2%m/m) ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ตามแรงหนุนของราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ยังคงประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อ CPI มีแนวโน้มชะลอลงและอาจทรงตัวใกล้ระดับ 3.0%-3.5% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ก็อาจทรงตัวที่ระดับ 4.8% และมีแนวโน้มชะลอลง ตามภาพการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
หากอัตราเงินเฟ้อและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานออกมาตามคาด ผู้เล่นในตลาดอาจยังคงมองว่า เฟดจะยังไม่สามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องได้ในการประชุมเดือนกันยายน (จาก CME FedWatch Tool ล่าสุด ผู้เล่นในตลาดยังให้โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยต่อในปีนี้ ราว 30%)
ส่วนในฝั่งไทย เรามองว่า ยังคงต้องจับตาสถานการณ์การเมืองต่อ เพื่อประเมินแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลผสมว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร โดยตลาดการเงินไทยอาจกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นได้ หากการจัดตั้งรัฐบาลผสมมีความชัดเจนมากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือนที่ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะกลับมาปรับตัวอยู่ที่ระดับ 35.06-35.08 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.25 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.94 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยเงินบาทเคลื่อนไหวเป็นกรอบ โดยแม้จะมีปัจจัยกดดันจากทิศทางฟันด์โฟลว์ แต่ก็มีแรงหนุนกลับบางส่วนจากสัญญาณการดูแลค่าเงินหยวนของทางการจีน ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ก็ยังไม่มีแรงหนุนที่ชัดเจน เนื่องจากตลาดยังคงอยู่ระหว่างรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ในคืนนี้
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 35.00-35.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ประเด็นทางการเมือง ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อ CPI เดือนก.ค. และข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สู้ได้ใจกองเชียร์! ตบสาวยุวชนไทย พ่าย ญี่ปุ่น 2-3 เซต จอดรอบ 8 ทีม ชิงแชมป์โลก U19
การแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิง U19 ชิงแชมป์โลก 2023 ที่เมืองโอซิเย็ก ประเทศโครเอเชีย รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันพุธที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทีมชาติไทย ที่พลิกล็อกช็อกโลกหักด่านเอาชนะ ทีมชาติจีน 3-2 เซต ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ลงสนามพบกระดูกชิ้นโตร่วมทวีปเอเชียอย่าง ทีมชาติญี่ปุ่น ที่ทุบ ทีมชาติเปอร์โตริโก มาสบายมือ 3-0 เซต
ผลการแข่งขันปรากฏว่า ตบสาวยุวชนไทยสู้เต็มที่ แต่ก็ต้านความแข็งแกร่งของลูกยางดาวรุ่งแดนปลาดิบไม่ไหว พ่ายไปอย่างสนุก 2-3 เซต ด้วยสกอร์ 20-25, 25-20, 20-25, 29-27 และ 10-15 ยุติเส้นทางไว้แค่รอบนี้เท่านั้น
สำหรับ ทีมชาติไทย จะหล่นไปเล่นในรอบจัดอันดับ 5-8 โดยรอผลผู้แพ้ในรอบ 8 ทีมนี้อีกครั้ง ด้าน ทีมชาติญี่ปุ่น ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ รอพบผู้ชนะระหว่าง ทีมชาติบัลแกเรีย หรือ ทีมชาติตุรกี ต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
รู้จัก “ไซโคพาธ” (Psychopaths) อาการต่อต้านสังคมที่ “ฆาตกรต่อเนื่อง” หลายคนอาจเป็น
คนที่เป็นไซโคพาธ จะขาดความเห็นใจผู้อื่น ขาดความสำนึกผิด ความรู้สึกด้านชาไม่เกรงกลัว ขาดความยับยั้งชั่งใจ จนอาจเป็นเหตุให้ก่อเหตุอาชญากรรมอย่างต่อเนื่องได้
หลาย ๆ คดีในสังคมไทย และในโลก มีฆาตรกรต่อเนื่องที่ทำการฆาตกรรมอย่างทารุณและโหดเหี้ยมหลายคน โดยที่เราไม่อาจเข้าใจถึงแรงจูงใจของเขาได้ว่าทำไปเพื่ออะไร กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ข้อมูลลักษณะของผู้ที่มีอาการ “ไซโคพาธ” (Psychopaths) ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับฆาตกรที่ไม่สามารถระบุเหตุจูงใจในการก่ออาชญากรรมได้อย่างชัดเจนเอาไว้ ดังนี้
“ไซโคพาธ” (Psychopaths)
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ให้ช้อมูลว่า ไซโคพาธ เป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder) โดยมีลักษณะ ขาดความเห็นใจผู้อื่น ขาดความสำนึกผิด ความรู้สึกด้านชาไม่เกรงกลัว ขาดความยับยั้งชั่งใจ เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง
สาเหตุของอาการไซโคพาธ
- ทางกาย มีความผิดปกติของสมอง โดยเฉพาะสมองส่วนหน้า และสมองส่วนอะมิกดะลา
- ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง อาจเกิดจากอุบัติเหตุทางสมอง และพันธุกรรม รวมไปถึงความผิดปกติของฮอร์โมน Estosterone, Serotonin และ Cortisol
- ด้านจิตใจ และสังคม ถูกกระทำทารุณกรรมในวัยเด็ก ถูกเลี้ยงดูแบบละเลย เพิกเฉย
- อาชญากรรมในครอบครัว ความแตกแยกในครอบครัว สภาพสังคมรอบตัวที่โหดร้าย
อาการไซโคพาธ
ผู้ที่มีอาการไซโคพาธจะมีอาการที่สามารถสังเกตได้ ดังนี้
- แสดงออกถึงความรู้สึก และจิตใจที่แข็งกระด้าง ไม่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
- มีพฤติกรรมตอบสนองต่อความต้องการของตัวเอง โดยไม่สนใจผู้อื่นในสังคม
- มีความผิดปกติทางอารมณ์ และความคิด โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าสังคม
- มักกระทำความรุนแรงซ้ำ ๆ และมีความเสี่ยงที่จะก่ออาชญากรรมได้
การรักษาอาการไซโคพาธ
ไซโคพาธเป็นหนึ่งในภาวะที่รักษาได้ยาก และมักมีการพยากรณ์โรคที่ไม่ดี มักไม่ร่วมมือกับการรักษา การทำจิตบำบัดจึงได้ประโยชน์ค่อนข้างน้อย
อย่างไรก็ตาม สามารถทำการรักษาได้โดย
- รักษาด้วยยารักษาโรคทางจิตเวช
- ปรับพฤติกรรม โดยเน้นพัฒนาในกิจกรรมที่สนใจในทางที่ดี และให้รางวัลเมื่อกระทำพฤติกรรมดี
- ไม่ควรลงโทษ เพราะไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ เนื่องจากอาการด้านชาทางอารมณ์
หากพบบุคคลที่เข้าข่ายอาการไซโคพาธ ควรแนะนำให้พบแพทย์ เพื่อตรวจเช็กอาการให้แน่ใจ และรีบเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องโดยเร็วที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
บทสนทนาสั้นฝึกภาษา ตอน : อุบัติเหตุ
มาฝึกบทสนทนาเกี่ยวกับอุบัติเหตุสั้นๆ กันดีกว่า
Trevor: Hi. (สวัสดี)
Billy: Hi, how have you been? (สวัสดี เป็นอย่างไรบ้าง)
Trevor: I have been good, thanks. Did you have a good weekend?
(ฉันสบายดี ขอบคุณนะ คุณมีสุดสัปดาห์ที่ดีไหม?)
Billy: No, I didn’t. I had an accident last Sunday morning.
I fell off a ladder. (ไม่อ่ะ ฉันเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันอาทิตย์ตอนเช้า ฉันตกบันได)
Trevor: Off a ladder? Did you hurt yourself?
(ตกบันไดเหรอ?คุณได้รับบาดเจ็บไหม?)
Billy: Yes. I hurt my knee. (ใช่ ฉันเจ็บที่หัวเข่า)
Trevor: Where did it happen? (แล้วเกิดขึ้นที่ไหนเนี่ย?)
Billy: In the garage. (ในโรงรถหน่ะ)
Trevor: What did you do? Did you go to the hospital?
(คุณทำอะไร ทำอิท่าไหน(ถึงตกบันได) คุณได้ไปโรงพยาบาลไหม?)
Billy: Yes, well, luckily, my close friend was in, and
she drove me to hospital.
(ได้ไปๆ ดีนะ ที่เพื่อนสนิทของฉันอยู่ในโรงรถพอดี และเธอขับรถพาฉันไปโรงพยาบาล)
Trevor: That’s good. What did they do at the hospital?
( ดีแล้ว พวกเขาทำอะไรให้คุณบ้าง ตอนอยู่ที่โรงพยาบาล)
Billy: The doctor looked at it, and I had an x-ray.
(คุณหมอเค้าเช็คตรวจดู และก็เอ็กซ์เรย์หน่ะ)
Trevor: Was it OK? (แล้วโอเคไหมอะ?)
Billy: It’s very painful. (มันเจ็บมาก)
Trevor: Can you walk now? (แล้วตอนนี้ คุณเดินได้ไหม?)
Billy: Yes, I can, but I can’t drive. (ได้นะ แต่ฉันขับรถไม่ได้)
Trevor: Oh, dear. Well. I hope it’ll be OK soon.
Anyway, I suppose you don’t want to play
table tennis tomorrow then.
(โอ้ ผมหวังว่ามันจะดีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม
ผมเดาว่าพรุ่งนี้คุณคงไปตีปิงปองไม่ไหวแน่ๆ)
ประโยคอื่น ๆ สำหรับอุบัติเหตุอื่นที่ใกล้เคียง
และไม่ใกล้เคียงกับบทสนทนาข้างต้น มีอะไรกันบ้างนะ
1. The floor is wet. Beware of slippery.
คำแปล พื้นเปียก ระวังลื่น
2. She has a broken arm.
คำแปล เธอแขนหัก
3. Your room is very messy; you might trip over all those cables.
คำแปล ห้องของคุณรกมาก คุณอาจจะสะดุดสายไฟพวกนั้นได้
4. I hit my arm hard against the table, and now I’ve got a big bruise.
คำแปล แขนของฉันชนกับโต๊ะอย่างแรง และตอนนี้เขียวช้ำมาก
5. He fell down the stairs, but he’s okay. Don’t worry.
คำแปล เขาตกบันได แต่เขาไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล
6. He’s so clumsy; he fell out of a tree!
คำแปล เขาซุ่มซ่ามมาก เขาตกต้นไม้
7. While cycling, he rode over a rock and fell off his bike.
คำแปล ขณะที่กำลังขี่จักรยาน เขาขี่สะดุดก้อนหินและตกจากรถของเขา
8. He wasn’t careful and had burned his hand on the stove.
คำแปล เขาไม่ระวัง และมือของเขานาบเข้ากับเตาแก๊ส
9. He was outside when a bee stung him on his leg.
คำแปล เขาอยู่ข้างนอกตอนที่ผึ้งต่อยขาของเขา
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
DJI เปิดตัว DJI Transmission (Standard Combo) พร้อม DJI Video Receiver
DJI ผู้นําระดับโลกด้านโดรนพลเรือนและเทคโนโลยีกล้องที่เป็นนวัตกรรม วันนี้ได้เปิดตัว DJI Video Receiver และ DJI Transmission (Standard Combo) ระบบส่งสัญญาณไร้สายที่จะมาปฏิวัติวงการ เพิ่มขีดจำกัดความสามารถและความยืดหยุดเพื่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ ด้วยการออกแบบให้เหมาะสมกับการถ่ายทำในหลากหลายสภาพแวดล้อม DJI Transmission จะมาสร้างมาตรฐานใหม่ของการส่งสัญญาณไร้สายที่ให้สัญญาณมั่นคงและ latency ที่ต่ำ
“พวกเราตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้แนะนำ DJI Transmission (Standard Combo) สินค้าคอมโบใหม่นี้ จะทำให้ระบบส่งสัญญาณ DJI Transmission สมบูรณ์แบบเมื่อใช้งานพร้อม DJI Video Receiver ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้ใช้งานกับมอนิเตอร์งานโปรดักชั่น และเมื่อเชื่อมต่อกับ DJI Pro ecosystem จะส่งมอบประสบการณ์การประสานงานและสื่อสารได้อย่างลื่นไหลมีประสิทธิภาพ” คุณ Paul Pan Senior Product Line Manager ได้กล่าว “ด้วย High-Bright Monitor Combo และ Standard Combo ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถเลือกใช้สินค้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในการถ่ายทำ พวกเราตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เห็นนักสร้างภาพยนตร์ใช้เทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ เพื่อทำให้วิสัยทัศน์ของเขาเป็นจริง”
Two Combos, Diverse Capabilities
DJI Transmission series มาพร้อมกับ High-Bright Monitor Combo และ Standard Combo เพื่อส่งมอบทางแก้ให้สำหรับนักถ่ายทำภาพยนตร์ที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง High-Bright Monitor Combo ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งาน รับสัญญาณ มอนิเตอร์งาน บันทึก และควบคุมด้วยเครื่องเดียว ในขณะที่ Standard Combo ที่รองรับการส่งสัญญาณ metadata ผ่าน SDI และสามารถส่งออกข้อมูลเฟรมเรทได้อย่างละเอียด ทำให้ใช้งานกับมอนิเตอร์โปรดักชั่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
One Transmitter with Multiple Receivers
DJI Transmission (Standard Combo) ยังรองรับการส่งสัญญาณด้วยเครื่องเดียว พร้อมๆกับการรับสัญญาณหลายเครื่อง ทำให้คุณสามารถมอนิเตอร์ video feeds และ audio feeds ได้อย่างลื่นไหลด้วยระบบส่งสัญญาณสองโหมด โหมดแรกคือ Broadcast Mode ที่สามารถเชื่อมต่อได้กับตัวรับสัญญาณได้ไม่จำกัดและส่งสัญญาณแบบเรียลไทม์ ทำให้เป็นอุปกรณ์ในฝันสำหรับกองถ่ายขนาดใหญ่ และด้วย camera index switching การแสดงผล bitrate แบบเรียลไทม์ และ video codecs ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขึ้นเป็นอย่างสูง
สำหรับงานที่ต้องการการควบคุมระดับสูง High-Bright Remote Monitor และ Video Receiver จะสามารถสลับไปเป็น Control Mode ที่สามารถใช้งานร่วมกับ DJI Master Wheels และ อุปกรณ์ควบคุมอื่นๆได้อย่างราบรื่น ซึ่งจะทำให้คุณสามารถควบคุม Ronin 2 RS 3 Pro และ camera focus on ได้สูงสุด 2 ตัวรับสัญญาณ โดยจะไม่รบกวนอุปกรณ์อื่นๆที่เชื่อมต่ออยู่ใน Broadcast Mode นอกเหนือไปจากนี้ Video Receiver ยังรองรับ voice call ทำให้การทำงานแบบหนึ่งต่อหนึ่ง หรือการทำงานระยะไกลระหว่างผู้กำกับและตากล้องทำงานได้อย่างลื่นไหล
Transmission of Metadata
DJI Video Receiver ยังรองรับการส่งสัญญาณ meta data transmission ผ่าน SDI ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับกล้องถ่ายหนังทั่วไปได้ เช่น ARRI และ RED รายละเอียดการถ่ายภาพ รวมไปถึงชื่อไฟล์ timecode recording trigger การปรับแต่งกล้อง และรายละเอียดของเลนส์ จะสามารถส่งสัญญาณจากตัวรับสัญญาณไปยังมอนิเตอร์และ QTAKE ด้วยฟีเจอร์นี้จะทำให้ผู้กำกับ นักถ่ายทำภาพยนตร์ และ DIT ได้รับข้อมูลการถ่ายภาพไปพร้อมกัน ช่วยทำให้การทำงานใน Set ได้อย่างลื่นไหลยิ่งขึ้น
DJI High-Bright Remote Monitor: Unleashing Creative Potential
DJI High-Bright Remote Monitor มาพร้อมกับตัวรับสัญญาณ built-in ทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและติดตั้งในทุกๆรูปแบบ มาพร้อมขุมพลัง image processing chip ใกล้เคียงกับที่ใช้ใน Ronin 4D ทำให้ remote monitor นี้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการรับสัญญาณ มอนิเตอร์ ควบคุม หรือบันทึก
และด้วย DJI LiDAR Range Finder (RS) เชื่อมต่อกับ DJI Transmission Cable Hub ทำให้การโฟกัสและมอนิเตอร์ทำได้อย่างราบลื่นยิ่งขึ้น ด้วยการเชื่อมต่อ DJI Video Transmitter และ DJI RS Focus Motor (2022) เข้ากับ LiDAR Range Finder (RS) ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งควบคุมและปรับโฟกัสของเลนส์ได้แม้จะเป็น manual lens ทำให้ใม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ RS 3 Pro และยังสามารถใช้งานกับ Ronin 4D Hand Grips ได้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับ LiDAR waveform technology ทำให้การปรับแต่งโฟกัสเป็นไปได้อย่างแม่นยำ
มากไปกว่านั้น เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับ DJI RS 3 Pro ด้วยชุดอุปกรณ์ที่สมบูรณ์แบบนี้จะทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็น stabilization remote monitoring gimbal control และ LiDAR focusing
Supportive Tools and Independent Recording
High-Bright Remote Monitor มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมสำคัญ ได้แก่ safe zone frame guide zebra stripes false color peaking waveform และการแตะสองครั้งเพื่อซูม รวมไปถึงการ calibrate สี และการปรับแต่ง 3D LUT เพื่อการวาง composition ปรับ exposure และปรับโฟกัสที่แม่นยำ นอกจากนี้ ยังมากับช่องเสียบการ์ด MicroSD เพื่อการบันทึก live feed แบบ 1080p/60fps H.264 มอนิเตอร์นั้นบันทึกภาพไปพร้อมกับตัวกล้อง จึงง่ายต่อการตัดต่อยิ่งขึ้น
Unprecedented Compatibility
High-Bright Remote Monitor ยังสามารถใช้งานร่วมกับ Ronin 4D Hand Grips ทำให้สามารถควบคุม การเคลื่อนไหว การโฟกัส และการปรับแต่งพารามิเตอร์ได้อย่างแม่นยำเมื่อควบคุมผ่าน Ronin 2 หรือ RS 3 Pro นอกจากนี้ยังสามารถใช้รวมกันกับ DJI Master Wheels และ DJI Force Pro ขยายขอบเขตการควบคุมขั้นสูงเมื่อใช้งานกิมบอล ด้วย DJI Transmission ด้วยการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์เหล่านี้จึงทำให้การส่งสัญญาณทำงานได้อย่างลื่นไหล ส่งสัญญาณได้ไกล มั่นคง และป้องกันการรบกวน
Video Receiver ยังรองรับพอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลาย ด้วย output 3G-SDI แบบคู่ ที่รองรับการส่งสัญญาณวีดีโอ 1080p/60fps และพอร์ต HDMI 1.4 Type-A ทำให้ส่งสัญญาณวีดีโอ 1080p/60fps
ราคาและช่องทางจำหน่าย
DJI Transmission (Standard Combo) ราคา 72,000 บาท มาพร้อม DJI Video Transmitter, DJI Video Receiver, ชุดอุปกรณ์สำหรับติดตั้ง แบตเตอรี่ WB37 Intelligent สองก้อน แท่นชาร์จ WB37 รวมไปถึงสายเคเบิล และ adapter แบตเตอรี่ต่างๆ
DJI Video Receiver จำหน่ายแยกอยู่ที่ 46,900 บาท
สำหรับผู้ที่ซื้อ DJI Transmission (High-Bright Monitor Combo) ไปแล้ว จะต้องอัพเดตเฟิมแวร์ของ Video Transmitter และ High-Bright Remote Monitor ให้เป็นเวอร์ชั่น 01.05.05.00 ก่อน จึงจะสามารถเชื่อมต่อกับ DJI Video Transmitter และ DJI Video Receiver ของ DJI Transmission (Standard Combo) ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ประโยชน์ของบัวหิมะ สรรพคุณดีเลิศ ช่วยลดไขมัน แคลอรี่ต่ำ
บัวหิมะ เป็นพืชสดๆ มีประโยชน์ในด้านของสุขภาพมากเลยทีเดียว บัวหิมะจัดเป็นพืชประเภทหัวที่ทานสดๆ ได้ มีรสชาติดีคล้ายมันแกวผสมแห้ว และสาลี่ เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่มากมาย
บัวหิมะเป็นผลไม้ ที่หลายคนเรียกว่า “บัวหิมะสด” , “ผลบัวหิมะ” หรือ “บัวหิมะจีน” หรือในประเทศจีนจะเรียกกันว่า “เสวี่ยเหลียนกว่อ” มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Yacon (ผลไม้แห่งพระเจ้า) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Smallanthus sonchifolius (Poepp.) H.Rob. จัดอยู่ในวงศ์ทานตะวันเช่นเดียวกับชนิดแรก บัวหิมะชนิดนี้จะเป็นพืชพื้นเมืองที่มีต้นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ รูปร่างของบัวหิมะจะคล้ายๆมัน มีเปลือกบาง รสชาติออกหวาน เหมือนแห้ว แต่มีความฉ่ำน้ำ และกรอบ เป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี ซีลีเนียม และอีกมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก และมีสรรพคุณทางยามากมาย
ประโยชน์ของบัวหิมะ
- มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้
- ช่วยชะลอความเสื่อมของของร่างกาย ทำให้เราคงความอ่อนเยาว์ และแก่ช้าลง
- ให้แคลอรี่ต่ำ แต่ใยอาหารมาก จึงเหมาะสุดๆ กับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก
- เนื่องจากมีใยอาหารสูง จึงช่วยให้การขับถ่ายคล่องตัวมากขึ้น
- ช่วยลดไขมันในเลือด และลดน้ำตาลในเลือดได้
- ป้องกันโรคไขมันอุดตันเส้นเลือด เส้นเลือดตีบตัน และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบหัวใจ และหลอดเลือดได้
- ลดระดับความดันโลหิตได้
- ช่วยย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูกและท้องเสีย
- ช่วยขับสารพิษในร่างกาย
- ช่วยแก้อาการร้อนในได้
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจได้
- เป็นอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพ เสริมความงามที่น่าใจ
- ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยป้องกันจากสารพิษจากมลภาวะและสารก่อมะเร็ง
- ช่วยควบคุมของเหลวในเลือด
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- ช่วยย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูกและท้องเสีย
- ช่วยให้ระบบทางเดินปัสสาวะทำงานได้ดีขึ้น
- ป้องกันการเกิดผลึกก้อนนิ่ว
- ช่วยตับขับถ่ายสารพิษในร่างกาย
- แก้อาการอักเสบ
คุณค่าทางโภชนาการของบัวหิมะ
บัวหิมะเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม และสังกะสี บัวหิมะยังเป็นแหล่งที่ดีของไฟเบอร์ โปรตีน และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน บัวหิมะมีแคลอรี่ต่ำ ไขมันต่ำ และน้ำตาลต่ำ จึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก บัวหิมะยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ช่วยปกป้องร่างกายจากความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน บัวหิมะมีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น แก้ปวด แก้อักเสบ บำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณ บัวหิมะยังนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์และอาหารเสริมอีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของบัวหิมะต่อ 100 กรัม
- พลังงานทั้งหมด 44 กิโลแคลอรี่
- โปรตีน 0 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 11 กรัม
- ไขมัน 0 กรัม
- น้ำตาล 0 กรัม
- ใยอาหาร 0.9 กรัม
- ธาตุเหล็ก 1.4 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 12.0 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 34.0 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 8.4 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 334.0 มิลลิกรัม
- โซเดียม 4.0 มิลลิกรัม
- สังกะสี 0.2 มิลลิกรัม
บัวหิมะเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย บัวหิมะสามารถรับประทานสด ต้มน้ำดื่ม บดเป็นผงทาผิว หรือใช้เป็นยาสมุนไพรได้ อย่างไรก็ตาม บัวหิมะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น ไม่ควรรับประทานมากเกินไป ผู้ที่มีอาการท้องเสีย ท้องผูก หรือมีประจำเดือน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานบัวหิมะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 10/08/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 31,800.00 | 31,900.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,060.00 | 31,229.60 | 32,400.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,854.00 | 28,106.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,648.00 | 24,983.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 927.00 | 14,053.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 721.00 | 10,930.36 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,135.00 | 32,366.60 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 10/08/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 38.85 | 38.85 | 39.85 | 38.85 | 38.85 | 38.85 | 38.85 | 38.85 | 38.85 | 38.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 38.58 | 38.58 | 39.58 | 38.58 | 38.58 | 38.58 | 38.58 | 38.58 | 38.58 | 38.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 36.54 | 36.54 | 37.54 | 36.54 | 36.54 | – | 36.54 | 36.54 | 36.54 | 36.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 36.99 | 36.99 | – | – | – | – | – | – | – | 36.99 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 44.14 | 47.84 | 48.94 | 48.24 | – | – | – | – | – | 44.14 |
เบนซิน 95 | 46.64 | – | – | – | 47.81 | – | 47.14 | 46.79 | – | 46.64 |
ดีเซล B7 | 31.94 | 31.94 | 32.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล | 31.94 | 31.94 | 32.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล B20 | 31.94 | 31.94 | 32.94 | – | 31.94 | – | 31.94 | – | – | 31.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 41.04 | 42.44 | 47.94 | 44.04 | 44.04 | – | – | – | – | 41.04 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |