เอฟเฟกต์!รีเจกต์พุ่ง60%บ้าน-คอนโดต่ำ3ล้านสต็อกบาน
เอฟเฟกต์!รีเจกต์พุ่ง60%บ้าน-คอนโดต่ำ3ล้านสต็อกบานคิดเป็นมูลค่า 1.1แสนล้าน สะท้อนกำลังซื้อเปราะบาง ส่งผลกระทบตลาดอสังหาฯปี67 ในเซกเมนต์ไม่เกิน3 ล้านหืดขึ้นคอ แบงก์เข้มปล่อยกู้
- ผลจากปัญหารีเจกต์เรตสูงขึ้นตั้งแต่ปี2566 เพิ่มขึ้น50-60% ในกลุ่มบ้าน-คอนโดต่ำ3ล้านบาทส่งผลให้ยอดขายในเซกเมนต์นี้ลดลง
- สอดคล้องกับผลสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ไตรมาส 3 ปี 2566 พบว่ามียอดขายต่ำกว่าปี 2565 ทุกไตรมาส ส่งผลให้หน่วยเหลือขายสะสมเพิ่มขึ้น49,433 หน่วยคิดเป็น มูลค่า 1.1แสนล้าน
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า จากผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทพบว่า มีซัพพลายสะสมมากขึ้น เป็นผลมาจากลูกค้าถูกธนาคารปฎิเสธสินเชื่อลูกค้าในกลุ่มนี้มากขึ้น
ผลสำรวจภาพรวมอาคารชุดและบ้านจัดสรรราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ในไตรมาส 3 ปี 2566 พบว่ามียอดขายต่ำกว่าปี 2565 ทุกไตรมาส และไตรมาส 3 ลดลง 7.4% อาคารชุดยอดขายลดลง 4.5% หน่วยเหลือขายสะสมเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 49,433 หน่วย เพิ่มขึ้น 27.5% คิดเป็นมูลค่า 110,266 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 31.5%
สำหรับทำเลที่ต้องระมัดระวังในการพัฒนาคอนโด เพราะมีหน่วยเหลือขายมาก ได้แก่ เมืองนนทบุรี ปากเกร็ด เหลือขาย 6,220 หน่วย คาดใช้เวลาขาย 30 เดือน ,พระโขนง บางนา สวนหลวง ประเวศ เหลือขาย 5,929 หน่วย คาดใช้เวลาขาย 32 เดือน ,ธนบุรี คลองสาน บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางพลัด เหลือขาย 5,044 หน่วย คาดใช้เวลาขาย 48 เดือน ,เมืองสมุทรปราการ พระประแดง พระสมุทรเจดีย์ เหลือขาย 4,175 หน่วย คาดใช้เวลาขาย 31 เดือน และลำลูกกา ธัญบุรี เหลือขาย 3,653 หน่วย คาดใช้เวลาขาย 44 เดือน
นายวิชัยกล่าวว่า ส่วนบ้านจัดสรรมีเปิดตัวเฉลี่ยไตรมาสละ 3,000 หน่วย ในไตรมาส 3 ปี 2566 มีหน่วยขายใหม่ลดลง 11.4% เป็นไตรมาสแรก และมีหน่วยเหลือขาย 44,174 หน่วย มูลค่า 113,180 ล้านบาท โดย 95% เป็นทาวน์เฮ้าส์ เป็นราคา 2-3 ล้านบาท ส่วนราคาล้านกว่าบาทแทบไม่มีเพราะข้อจำกัดราคาที่ดิน ต้นทุนค่าก่อสร้างที่สูงขึ้น
สำหรับทำเลต้องระมัดระวังบ้านจัดสรร ได้แก่ คลองหลวง หนองเสือ เหลือขาย 7,739 หน่วย คาดใช้เวลาขาย 78 เดือน ,ลำลูกกา ธัญบุรี เหลือขาย 6,493 หน่วย คาดใช้เวลาขาย 61 เดือน ,บางใหญ่ บางบัวทอง บางกรวย ไทรน้อย เหลือขาย 5,459 หน่วย คาดใช้เวลาขาย 50 เดือน,บางพลี บางบ่อ บางเสาธง เหลือขาย 5,455 หน่วย คาดใช้เวลาขาย 25 เดือน และเมืองปทุมธานีลาดหลุมแก้ว สามโคกหน่วย เหลือขาย 5,929 หน่วย คาดใช้เวลาขาย 45 เดือน
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
คนแห่ทิ้งบ้าน!ผ่อนต่อไม่ไหวดันซัพพลายอสังหาฯมือสองพุ่งสวนทางราคา
จากภาวะเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวการบริโภคภายในประเทศชะลอตัว ส่งผลให้คนจำนวนมากแบกรับภาระหนี้ไม่ไหว แห่ทิ้งบ้านที่กำลังผ่อน สะท้อนปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น ทำให้ซัพพลายบ้าน คอนโดมือสองพุ่งสวนทางราคาลดลง ส่งผลดีต่อผู้ซื้อและนายหน้า
นางดรุณี รุ่งเรืองผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาร์วิด พร๊อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส จำกัด เผยว่า ตั้งแต่ปี 2566 ที่ผ่านมามีความต้องการขายอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นและคาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งบ้านมือสองที่มาจากบุคคลธรรมดาซึ่งเจ้าของต้องการขายต่อเพราะได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจจึงไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดต่อไปได้
นอกจากนี้สินทรัพย์นิติบุคคลที่สถาบันการเงินที่ยึดมาแล้วต้องการขายยังมีประมาณค่อนข้างมาก บวกกับทรัพย์จากบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่จดทะเบียนเพิ่มขึ้นหลายแห่งส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองในปี 2567 ถือว่าเป็นโอกาสทองของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยและนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์
“เมื่อปริมาณบ้านมือสองเพิ่มขึ้นจึงเป็นโอกาสทองของผู้ที่กำลังมองหาบ้านมือสอง ไม่ว่าจะเป็นทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว คอนโดฯ หรืออาคารพาณิชย์ และอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ที่ถูกนำเสนอขายในตลาดเพิ่มขึ้น เมื่ออุปทานในตลาดปริมาณมากขึ้นจะส่งผลต่อราคาขายที่ถูกลง ดังนั้น ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมือสองเพื่ออยู่อาศัยหรือซื้อเพื่อการลงทุน จะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ตลาดดังกล่าว”
นอกจากนี้เมื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองมีความต้องการขายเพิ่มขึ้น นายหน้าฯ จึงเข้ามามีบทบาทต่อกระบวนการซื้อ-ขายอสังหาฯ มือสองมากขึ้น
เพราะไม่ว่าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสินทรัพย์อยู่ในมือ จำเป็นต้องให้มืออาชีพหรือนายหน้าฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพการขายอสังหาริมทรัพย์มือสอง หรือองค์กรนายหน้าที่มีภาพลักษณ์ที่ดีในการให้บริการด้านรับฝากซื้อ-ขายอสังหาฯ น่าจะมีความได้เปรียบและได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของทรัพย์เข้ามาช่วยขาย โดยเฉพาะจากสถาบันการเงินจะเลือกใช้บริการนายหน้าฯ ที่เป็นนิติบุคคลเท่านั้น
“เมื่อปริมาณอสังหาริมทรัพย์มือสองพร้อมขายในตลาดเพิ่มจำนวนขึ้นทำให้ ธุรกิจนายหน้าฯ จะได้รับประโยชน์ดังนั้น นายหน้าจะต้องเริ่มเรียนรู้ขั้นตอนและกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการทำงานกับเจ้าของทรัพย์ โดยเฉพาะทรัพย์นิติบุคคลที่จะต้องมีความชัดเจนในการทำสัญญาแต่งตั้งนายหน้าให้ถูกต้อง เช่น เอกสารสำคัญต่าง ๆ หรือแม้แต่เงื่อนไขการทำงาน”
นอกจากนี้แล้ว การขายอสังหาฯ มือสอง จากบุคคลทำธรรมดาจำเป็นต้องมีความรัดกุมมากขึ้น เนื่องจากนายหน้าฯ จะไม่ควรทำงานในลักษณะปากเปล่าต้องมีสัญญาแต่งตั้งให้ชัดเจนเนื่องจากแต่ละบุคคลและแต่ละองค์กรมีเงื่อนไขการทำงานที่แตกต่างกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้22ม.ค. “อ่อนค่า” ที่ระดับ 35.54 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าต่อ หากนักลงทุนต่างชาติเดินหน้าเทขายสินทรัพย์ไทยต่อเนื่อง แต่ถ้าตลาดทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์ของทองคำ อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าหรือช่วยให้แข็งค่าขึ้นบ้าง
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้22ม.ค. 2567 ที่ระดับ 35.54 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.51 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways ใกล้ระดับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 34.43-35.57 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่า ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หลังรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) ออกมาดีกว่าคาด
อย่างไรก็ดี ภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ของตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่หนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่าง ดัชนี S&P500 ต่างปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ก็มีส่วนช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ และหนุนให้เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลง หลังผู้เล่นในตลาดทยอยลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยเร็วและลึกของเฟด ส่วนนักลงทุนต่างชาติต่างเทขายสินทรัพย์ไทย
ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ อัตราเงินเฟ้อ PCE และดัชนี PMI พร้อมเตรียมจับตาผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
▪ ฝั่งสหรัฐฯ – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ อาทิ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ โดย S&P (Manufacturing & Services PMIs) ในเดือนมกราคม รวมถึงคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ครั้งแรก และไฮไลท์สำคัญ
อย่าง รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดจับตา โดยหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงออกมาดีกว่าคาด สะท้อนภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังคงสดใส ก็จะยิ่งทำให้ผู้เล่นในตลาด “เลิกเชื่อ” ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยได้ “เร็วและลึก” โดยล่าสุดจาก CME FedWatch Tool ตลาดให้โอกาสเพียง 49% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคม
ซึ่งหากโอกาสดังกล่าวลดลงต่อเนื่อง จะยิ่งหนุนให้ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว เรามองว่า บรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ (รวมถึงตลาดการเงินโลก) อาจขึ้นกับรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ อาทิ Netflix, ASML และ Tesla โดยบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ของตลาดากรเงินโดยรวมอาจพอช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ได้
▪ ฝั่งยุโรป – บรรดาผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจของอังกฤษ และยูโรโซน ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อย่าง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของอังกฤษ และยูโรโซน รวมถึง รายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (IFO Business Climate) โดยหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของฝั่งยูโรโซน ไม่ได้ออกมาแย่กว่าคาด หรือ
สะท้อนแนวโน้มการชะลอตัวลงที่มากขึ้นชัดเจนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เราคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Facility Rate) ไว้ที่ระดับ 4.00% และอาจส่งสัญญาณย้ำจุดยืนว่า ECB จะไม่รีบลดดอกเบี้ย ตามที่ตลาดกำลังคาดหวัง จนกว่า ECB จะมั่นใจว่าสามารถคุมปัญหาเงินเฟ้อได้สำเร็จ
ซึ่งภาพดังกล่าวอาจช่วยลดทอนแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินเงินยูโร (EUR) หรือช่วยให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นได้บ้าง อย่างไรก็ดี หากผู้เล่นในตลาดตีความว่า ECB ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้น ต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ย ก็อาจยิ่งกดดันให้เงินยูโรผันผวนอ่อนค่าลงได้ไม่ยาก
▪ ฝั่งเอเชีย – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยเราคาดว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.10% พร้อมยังไม่เปลี่ยนแปลงมาตรการ Yield Curve Control อย่างไรก็ดี เราจะจับตาว่า มุมมองของ BOJ ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง หรือ
BOJ มีการส่งสัญญาณต่อโอกาสในการปรับใช้นโยบายการเงินให้เข้มงวดมากขึ้นหรือไม่ เพราะหาก BOJ ยังไม่มีการส่งสัญญาณดังกล่าว หรือ แสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ BOJ ก็อาจกดดันให้ ค่าเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากระดับ 148 เยนต่อดอลลาร์ได้
ทั้งนี้ เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินทิศทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นและแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของ BOJ จากรายงานยอดการส่งออกรวมถึงรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการล่าสุด
▪ ฝั่งไทย – บรรดานักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า การค้าระหว่างประเทศของไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยยอดการส่งออก (Exports) อาจโตได้ราว +5.9%y/y หนุนโดยการกลับมาเป็นขาขึ้นของวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และ Semiconductor รวมถึงการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่ยังไปได้ดี ส่วนยอดการนำเข้า (Imports) จะขยายตัว +7%y/y ตามการฟื้นตัวของการส่งออกเป็นหลัก
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทอาจชะลอลงบ้าง หลังผู้เล่นในตลาดได้ทยอยลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนมีนาคมไปพอสมควร ทว่า เงินบาทยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าต่อได้ หากนักลงทุนต่างชาติเดินหน้าเทขายสินทรัพย์ไทยต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ หลังราคาทองคำมีแนวโน้มรีบาวด์ขึ้นจากโซนแนวรับ ทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์ของทองคำ ซึ่งจะช่วยชะลอการอ่อนค่าหรือช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นบ้าง
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า ปัจจัยหนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ยังคงมีอยู่ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด จนทำให้ผู้เล่นในตลาด “เลิกเชื่อ” ว่าเฟดจะรีบลดดอกเบี้ย หรือผลการประชุม ECB และ BOJ ชี้ว่าทั้งสองธนาคารกลางหลักอาจมีแนวโน้มนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายกว่าเฟด จนกดดันให้ทั้งเงินยูโร (EUR) และเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ผันผวนอ่อนค่าลง
เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.20-35.80 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.65 บาท/ดอลลาร์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 35.47-35.49 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.22 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ 35.52 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ทั้งนี้ เงินบาทยังคงแกว่งตัวเป็นกรอบ แต่ขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชียบางส่วน และสัญญาณซื้อสุทธิพันธบัตรระยะสั้นของไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ขาดแรงหนุน หลังจากที่บอนด์ยีลด์ระยะยาวของสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลง และตลาดเปลี่ยนจุดสนใจกลับมารอติดตามการประชุม BOJ และ ECB ในสัปดาห์นี้
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 35.40-35.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และการเคลื่อนไหวของเงินหยวน หลังธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ย LPR ระยะ 1ปีและ 5 ปี ที่ 3.45% และ 4.20% ตามลำดับ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน 0-0 จ่อลิ่วน็อกเอาต์เอเชียน คัพ 2023
ให้หลังจากการออกตัวด้วยฟอร์มสุดยอด สยบ ทีมชาติคีร์กีซสถาน 2-0 แล้ว “ทัพช้างศึก” ทีมชาติไทย ของกุนซือใหม่ มาซาทาดะ อิชิอิ ก็อยู่ในการจับตาของทุกฝ่าย โดยเฉพาะว่าถ้านัดเจอ ทีมชาติโอมาน หากชนะได้ก็เข้ารอบทันที
อย่างไรก็ตาม เกมนี้ชัดเจนว่า “ยาก” กว่านัดแรกเยอะ ไทย ต้องเล่นอย่างรัดกุมและพลาดไม่ได้ ซึ่งที่สุดแล้วก็ทำได้ตามเป้า ยันเสมอ 0-0 เท่ากับไม่น่าพลาดฉลุยรอบน็อกเอาต์ เอเชียน คัพ 2023
คะแนนนักเตะ ทีมชาติไทย
ปฏิวัติ คำไหม – 8
ได้รับคำชมเยอะจากจังหวะเปิดเกมด้วยตัวเองในนัดแรก ส่วนเกมนี้ครึ่งแรกยังไม่มีช็อตเซฟอะไรน่าหนักใจ แต่ก็ต้องทำงานเยอะทีเดียวในการเล่นลูกโด่ง ส่วนครึ่งหลังโดนทดสอบเยอะขึ้นชัดเจน แม้จังหวะเซฟจังๆจะไม่มี แต่ก็ต้องพยายามสุดฝีมือ เล่นภายใต้ความกดดันสูง
ธีราทร บุญมาทัน – 7
มีบทบาทเล่นกับลูกเยอะในตอนต้น แต่การเปิดบอลยังไม่เข้าเป้าเท่าไหร่ ส่วนฟรีคิกท้ายครึ่งแรกลอยเข้ามือนายประตูโอมานไม่ยากเย็น จากนั้นครึ่งหลัง พลาดไปนิดในการเลาะข้อเท้าคู่แข่ง จนโดนใบเหลือง และต้องติดโทษแบนเกมหน้า
เอเลียส ดอเลาะ – 8
หวิดพังประตูให้ไทยขึ้นนำแต่เนิ่นๆจากการขึ้นโขกเตะมุม ติดซูเปอร์เซฟนายด่านโอมานรวมถึงตัวคุมเส้น ส่วนเกมรับถือว่าไม่มีที่ติ แข็งแกร่ง บึกบึน ต่อสู้กับกองหน้าโอมานได้อย่างไม่มีปัญหาเกินรับมือ
พรรษา เหมวิบูลย์ – 8
เช่นเดียวกับคู่ขาอย่าง เอเลียส ดอเลาะ ว่านี่คือเกมที่เจอทดสอบหนัก โดยเฉพาะครึ่งหลังที่โอมานแทบจะพับสนามบุกใส่ แต่ก็ผ่านมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็น
นิโคลัส มิคเกลสัน – 7
เงียบไปนิดในครึ่งแรก ไม่มีจังหวะเสริมเกมสวยๆทรงกราบขวาให้เห็น แต่เกมรับยังแข็งแกร่งได้มาตรฐาน รวมถึงครึ่งหลังที่ต้องทำงานหนักเช่นเดียวกับแนวรับเพื่อนร่วมทีม
พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี – 8
ผ่านการทดสอบความฟิตลงสนามได้ต่อ และทำได้เยี่ยมกับจังหวะตัดเกมที่มีในครึ่งแรก และครึ่งหลังก็ไม่สร้างข้อผิดพลาดใดให้เกิดขึ้น ยังคงทำหน้าที่อย่างมีวินัยไปยันจบเกม
วีระเทพ ป้อมพันธุ์ – 7
เด่นน้อยกว่าคู่มิดฟิลด์อย่าง พีรดนย์ แค่เล็กน้อย แต่ก็เป็นเกมที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง วิ่งเยอะ พยายามสู้ทุกจังหวะ ก่อนที่ครึ่งหลังจะโดนถอดไปพักบ้าง
บดินทร์ ผาลา – 5
ลงที่ปีกซ้ายเช่นเดียวกับเกมแรก ช่วงแรกยังประสานงานขาดๆเกินๆกับทาง ธีราทร ส่วนครึ่งหลังค่อนข้างหายจากเกม เมื่อไทยต้องเป็นฝ่ายตั้งรับเสียมาก
สุภโชค สารชาติ – 6
ปักหลักยึดตำแหน่งกลางรุก และมีจังหวะพลิกเกมสวยๆ เพื่อจ่ายให้เพื่อนในตอนต้น ทว่าโดยรวมไม่ใช่เกมที่โดดเด่น และต้องเน้นวิ่งยอะเพื่อช่วยงานเกมรับมากกว่าได้จังหวะสร้างสรรค์เกมบุก
ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา – 6
อีกหนึ่งดาวเด่นจากเกมแรกที่ได้เล่นต่อเนื่อง แต่วันนี้ชัดเจนว่าโอกาสไม่เยอะเหมือนนัดก่อน ครึ่งแรกค่อนข้างเงียบ บอลมาไม่ถึงมากนัก ครึ่งหลังมีโอกาสพาเลี้ยงจี้เข้าหาจุดอันตราย แต่ทื่อไปนิดในการเลือกยิงชนกองหลัง
ศุภชัย ใจเด็ด – 5
ให้หลังจากนัดแรกที่เหมาซัด 2 ประตู เกมนี้ถือว่า ศุภชัย ค่อนข้างหายไปอีกคน เมื่อโดนคู่เซนเตอร์แบ็กโอมานตามติดแบบประบคู่อยู่เกือบตลอด จนบางครั้งต้องฉีกมารับบอลเล่นเองนอกพื้นที่บ้าง จนออกจะน่าแปลกใจไปนิดที่ได้เล่นเต็มเวลา ไม่มีการเปลี่ยนแก้เกม
สำรอง
เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (แทน บดินทร์ ผาลา น.70) – 6
ลงไปเป็นสำรองคนแรก และมีโอกาสได้โชว์ลีลากระชากลากเลื้อยอยู่บ้าง แต่ไม่ได้สร้างประโยชน์มากนัก
ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (แทน วีระเทพ ป้อมพันธุ์ น.86) – 6
ลงไปยืนแบ็กซ้ายในช่วงไม่กี่นาทีที่เหลือ เพื่อช่วยงาน ธีราทร ในการรับมือเกมริมเส้น และอาจเป็นการเตรียมพร้อมลงตัวจริงนัดหน้า
ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (แทน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น.86) – 6
ลงไปเป็นตัวเลือกเสริมสำหรับเกมรับในช่วงอึดใจท้าย และแม้ไม่มีจังหวะเล่นกับบอลมากแต่ก็ถือว่ามีประโยชน์
สารัช อยู่เย็น (แทน พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี น.89) – 6
ลงไปเติมความสดในแดนกลาง เพื่อรักษาสกอร์ และถือว่าทำหน้าที่บรรลุเป้าหมาย ไม่ได้ทำให้เกมเสียหายในตอนท้าย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“ไฟไหม้-สำลักควัน” ต้องทำอย่างไร วิธีการเอาชีวิตรอดฉบับละเอียด
หากเกิดเหตุเพลิงไหม้ในบ้าน คอนโด หรือสำนักงาน อาคารสูง ควรมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดว่าถึงเวลาควรอพยพออกมาจากที่เกิดเหตุอย่างไร ก้มต่ำเมื่อเจอควัน หยุดใช้ลิฟท์ เดินออกทางหนีไฟ และอพยพออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด
หากเราเป็นผู้พบเห็นเหตุการณ์ ไฟไหม้ คนแรกๆ ควรรีบตัดสินใจว่าสามารถดับเพลิง ได้ด้วยตนเองหรือไม่ หากเห็นว่าสามารถดับเพลิงได้ให้ทำการดับเพลิง หากไม่สามารถดับเพลิงได้ให้ร้องขอความช่วยเหลือ หรือโทรแจ้งเหตุไฟไหม้-ดับเพลิง เบอร์ 199 หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ติดต่อ เจ็บป่วยฉุกเฉิน (ทั่วไทย) 1669
วิธีเอาตัวรอด เมื่อไฟไหม้
- เมื่อพบเพลิงไหม้ในห้องใดห้องหนึ่ง หากเป็นเพลิงไหม้ขนาดเล็ก สังเกตว่าเป็นไฟไหม้ที่เกิดจากไฟฟ้า น้ำมัน หรือไฟจากเทียนไข ไฟแช็ค บุหรี่ ถังแก๊ส ฯลฯ หากแน่ใจว่าไม่ได้มาจากไฟฟ้า และน้ำมัน สามารถใช้น้ำดับไฟได้ หากไม่แน่ใจควรใช้ผ้าห่มผืนหนักๆ ใหญ่ๆ คลุมทับไฟให้ดับ หากมีถังดับเพลิงให้รีบหยิบมาใช้ โดยดึงสลักตรงที่จับด้านบนออก แล้วชี้ปลายสายดับเพลิงไปที่ฐานกองไฟ ให้ตัวเราห่างจากกองไฟ 2-4 เมตร ฉีดจนกว่าไฟจะดับ
- หากเป็นไฟไหม้พร้อมกองเพลิงขนาดใหญ่ เริ่มมีควันมากขึ้น ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้เอง และไม่มีสิ่งใดช่วยดับไฟได้ ควรรีบออกจากที่เกิดเหตุโดยเร็ว ปิดประตูหน้าต่างในห้องที่เกิดเหตุให้สนิท จะช่วยชะลอไฟไม่ให้ลุกลามได้เร็ว
- หยุดทำกิจกรรมทุกชนิด หยุดกลับไปคว้าข้าวของ รีบเอาตัวออกจากที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด หากอยู่ใกล้ผ้าห่ม ผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอน เสื้อ หมอนเล็กๆ อาจหยิบมาห่มตัว หรือหยิบติดมือไปด้วยได้
- หากไม่แน่ใจว่าต้นเพลิงเกิดจากสาเหตุใด รวมถึงหากได้กลิ่นเหม็นเหมือนแก๊ส ไม่ควรทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดประกายไฟ เช่น เสียบ-ดึงปลั๊กไฟ กดเปิด-ปิดสวิทช์ไฟ เพราะหากแก๊วรั่ว อาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้
- รีบเดินออกไปทางหนีไฟ หากมีควันมากให้ก้มตัวลงต่ำ อากาศที่สามารถหายใจได้จะอยู่ราว 1 ฟุตเหนือพื้น หากคว้าผ้าขนหนูชุบน้ำมาปิดจมูก หรือใช้ถุงพลาสติกขนาดใหญ่กวาดอากาศใส่ถุง แล้วนำมาสวมครอบศีรษะ ก็จะสามารถลดอาการสำลักควันไฟ หรือลดอาการแสบจมูกได้บ้าง
- อย่าหนีเข้าห้องอื่น ที่ไม่ใช่ทางออกเด็ดขาด เช่น ห้องอื่นๆ ที่ยังไม่มีเพลิงไหม้ ห้องใต้ดิน โดยเฉพาะห้องน้ำ การติดอยู่ในห้องที่ไม่มีทางออกคือกับดักดีๆ นี่เอง จงมุ่งหาทางที่สามารถพาเราออกจากตึกได้
- ห้ามใช้ลิฟท์โดยสารเด็ดขาด เพราะลิฟท์อาจหยุดทำงานเมื่อเกิดเพลิงไหม้
- ไม่ควรออกทางบันไดปกติเช่นกัน เพราะบันไดมีลักษณะเป็นปล่อง ทำให้ควันไฟและ เปลวเพลิงลอยตัวขึ้นมาปกคลุม
- มีสติว่าหากจำเป็นต้องสัมผัสกับสิ่งที่เป็นโลหะ เช่น กลอนประตู ควรใช้หลังมือแตะก่อน ความร้อนของไฟอาจทำให้กลอนประตูร้อนจนลวกมือได้
- หากหนีมาที่บันไดหนีไฟได้ ควรปิดประตูตามหลังทันที (หากไม่มีใครตามมาข้างหลัง) อย่าเปิดอ้าทิ้งไว้ เพราะไฟและควันอาจไหลตามออกมาที่ทางเดินหนีไฟได้ พยายามอย่าให้ประตูทางเดินหนีไฟเปิดอ้าตลอดเวลา
- เดินลงบันไดหนีไฟกันอย่างเป็นระเบียบ ค่อยๆ ตามกันไป อย่าเบียดอย่าดัน ประตูบันไดหนีไฟหนาๆ สามารถทนไฟไหม้ได้ราว 2 ชั่วโมง
- ไฟจะลามจากชั้นล่างขึ้นชั้นบน ดังนั้นจึงควรวิ่งลงบันไดหนีไฟไปชั้นล่างให้ได้ แต่หากเปลวเพลิงทำให้ไม่สามารถเดินลงไปสู่ชั้นล่างได้ ให้ขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้าแทน แต่จะมีความเสี่ยงที่ประตูชั้นดาดฟ้าล็อก หรือเฮลิคอปเตอร์/บันไดยาวมาช่วยเอาไว้ไม่ทันได้
- หากสามารถออกมานอกอาคารได้แล้ว อย่ากลับเข้าไปหยิบของ หรือช่วยเหลือใครในอาคารอีก ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปช่วยเหลือโดยด่วน
หากสำลักควันไฟ ควรทำอย่างไร
หากมีควันไฟเป็นจำนวนมากจนทำให้ไม่สามารถหายใจได้ ควรรีบก้มตัวลงต่ำใกล้พื้นให้ได้มากที่สุด แล้วค่อยๆ คลานไปที่ทางเดินหนีไฟ ปิดจมูกด้วยผ้าขนหนู หรือผ้าสะอาดชุบน้ำ หรือคว้าถุงพลาสติกที่กวาดอากาศบริสุทธิ์เอาไว้ได้บางส่วนมาคลุมศีรษะขณะเดิน หรือหมอบคลานไปทางประตูทางเดินหนีไฟ
กรณีที่ไม่สามารถไปที่ทางหนีไฟได้ ควรทำอย่างไร
หากเพลิงไหม้เกิดขึ้นภายนอกห้อง โดยที่เราติดอยู่ในห้อง ไม่สามารถออกไปได้ ควรปิดประตูห้อง ใช้ผ้าชุบน้ำปิดขอบประตูไม่ให้ไฟและควันเข้ามาในห้อง และออกมาขอความช่วยเหลือที่ระเบียง หรือหน้าต่าง โบกผ้าหรือสิ่งของใหญ่ๆ ที่มีสีเด่นชัด เป่านกหวีด เปิดไฟฉาย ให้เจ้าหน้าที่มองเห็น หากโทรศัพท์ยังใช้ได้ให้รับโทรหาเจ้าหน้าที่ เบอร์ 199 หรือติดต่อคนรู้จักให้ช่วยเหลือโดยด่วน
รออยู่ในห้อง VS กระโดดลงมาตึก
ในกรณีที่ทนความร้อน หรือควันไฟหนามากจนหายใจไม่ออกจนอยากจะกระโดดลงมาจากตึก ควรคิดให้ดีว่ากำลังจะกระโดดลงมาจากชั้นอะไรของตึก หากเป็นชั้นที่สูงมาก ไม่ควรกระโดดลงมาโดยที่ไม่มีอุปกรณ์จากเจ้าหน้าที่รองรับร่างกายอยู่ด้านล่าง เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตจากการตกจากที่สูง
หากไฟไหม้ที่ร่างกาย ทำอย่างไร
หากไฟกำลังลุกท่วมตัวอยู่ ควรนอนราบกลิ้งไปกับพื้น ห้ามวิ่ง เพราะจะทำให้ไฟยิ่งลวกท่วมมากยิ่งขึ้น
วิธีปฐมพยาบาลเมื่อมีแผลไฟไหม้
- ถอดเครื่องประดับ ถอดเสื้อผ้าในส่วนที่เป็นแผลออก ล้างด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิปกติ ช่วยลดการหลั่งสารที่ทำให้เกิดอาการปวดบริเวณบาดแผลได้
- ซับด้วยผ้าแห้งสะอาด แล้วสังเกตว่าถ้าผิวหนังมีรอยถลอก มีตุ่มพองใส หรือมีสีของผิวหนังเปลี่ยนไป ควรรีบไปพบแพทย์
- ไม่ควรใส่ตัวยา/สารใด ๆ ทาลงบนบาดแผล ถ้าไม่แน่ใจในสรรพคุณที่ถูกต้องของยาชนิดนั้น โดยเฉพาะ “ยาสีฟัน” และ “น้ำปลา” เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อบาดแผล เพิ่มโอกาสการเกิดบาดแผลติดเชื้อ และทำให้รักษาได้ยากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
พูดคุยเรื่องอาหารในชีวิตประจำวัน (สั่งอาหาร – สอบถามเรื่องเมนู)
การสอบถามเกี่ยวกับเรื่องเมนูอาหารในประโยคภาษาอังกฤษ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนปวดหัว เนื่องจากเมื่อถึงเวลาต้องใช้จริงมักจะนึกประโยคที่ต้องพูดในร้านอาหารไม่ออก ซึ่งประโยคดังต่อไปนี้สามารถช่วยคุณได้
ยกตัวอย่างประโยคการพูดคุยเรื่องอาหาร
- Do you have any tables available? (มีโต๊ะว่างไหมครับ/ค่ะ?)
- Can I make a reservation for 7 people at 8 p.m.? (ขอจองโต๊ะสำหรับ 7 คน ตอน 8 โมงค่ะ?)
- Can I see the menu please? (ขอดูเมนูด้วยครับ/ค่ะ?)
- What are your specials today? (เมนูพิเศษวันนี้มีอะไรบ้างครับ/คะ?)
- What do you recommend? (มีเมนูแนะนำไหมครับ/คะ?)
- How much is …? (อันนี้ราคาเท่าไหร่ …?)
- I would like to have … (ผม/ฉันขอ …)
- Excuse me. Can you please clean up the table? (ขอโทษครับ/ค่ะ ช่วยเช็ดโต๊ะให้หน่อยได้ไหมครับ/คะ?)
- Could I see the dessert menu? (ขอดูเมนูขนมหวานหน่อยได้ไหม?)
- I am a vegetarian. (ผม/ฉัน กินอาหารมังสวิรัติครับ/ค่ะ)
- This is delicious. (จานนี้อร่อยมาก)
- Excuse me, but I didn’t order this. (ขอโทษครับ/คะ ผม/ฉันไม่ได้สั่งอาหารจานนี้)
- Excuse me. Can I have a napkin please? (ขอโทษครับ/ค่ะ ขอกระดาษเช็ดปากหน่อยได้ไหมครับ/คะ?)
- Excuse me. Can I have sharing plates? (ขอโทษครับ/ค่ะ ขอจานแบ่งหน่อยได้ไหมครับ/คะ?)
- Take away please. (ช่วยห่อกลับบ้านได้ไหมครับ/คะ)
- Bill please? (เก็บเงินด้วยครับ/ค่ะ?)
- I’ll pay in cash. (ฉันจะจ่ายเงินสด)
- Pay separately. (จ่ายแยกกัน)
- Can we have the receipt please? (ขอใบเสร็จได้ไหมครับ/คะ?)
ประโยคภาษาอังกฤษที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น เป็นประโยคพื้นฐานที่เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้จริง ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เราพูดได้คล่องแคล่ว ติดปากและมั่นใจมากยิ่งขึ้นคือ จำเป็นต้องฝึกฝนหรือใช้งานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การพูดและการคิดประโยคภาษาอังกฤษมีความถูกต้องและสื่อสารได้ตรงตามความต้องการ
ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com
Google เปิดตัวฟีเจอร์ Circle to Search แค่กดค้าง วง ผลลัพธ์ก็ออกมา ใช้ได้กับ Android เท่านั้น
Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์การค้นหาสุดล้ำกับมือถือฝั่ง Android ใหม่ที่ทำให้การค้นหาทำได้ง่ายมากเรียกว่า “Circle to Search” คาเรากดแล้ววงผลการค้นหาก็จะขึ้นมาทันที ทางเลือกใหม่ในการค้นหาที่มาก
การทำงานคือกดปุ่ม Home ค้างไว้ในหน้าโปรแกรมอะไรก็ได้ จากนั้นแค่วงเท่านั้น เราสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ทุก Application เลยด้วย ซึ่ง Google จะนำเทคโนโลยีไปทำงานร่วมกันระหว่าง Google Lens ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2022 แล้ว ซึ่งง่ายกว่าระบบเดิมที่เราจะต้องพิมพ์ หรือมีข้อมูลก่อนหน้านี้
Circle To Search จะพร้อมกับกับมือถือทั่วโลกในวันที่ 31 มกราคม โดยคาดว่าจะทยอยให้กับมือถือเรือธงต่างๆ ภายในปีนี้ แต่ที่ได้ทันทีคือ Google Pixel 8 Series และ Samsung Galaxy S24 Series
ส่วนฟีเจอร์การค้นหาแบบหลากหลาย หรือ Multisearch จะเปิดตัวใช้งานนอกสหรัฐฯ ในวันเดียวกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
รู้หรือยัง “ข้าวหอม” กับ “ข้าวหอมมะลิ” ไม่เหมือนกัน
ข้าวไทยมีหลากหลายชนิด “ข้าวหอม” ก็ถือเป็นข้าวที่มีเอกลักษณ์ความอร่อยเช่นเดียวกัน แต่หลายคนคิดว่า “ข้าวหอม” กับ “ข้าวหอมมะลิ” คือข้าวชนิดเดียวกัน แต่แท้ที่จริงแล้วข้าวหอม กับข้าวหอมมะลิเป็นข้าวคนละชนิดกัน
ข้าวหอมคืออะไร
ข้าวหอมคือข้าวหอมสายพันธุ์ทั่วไป เป็นข้าวที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิ แต่ราคาย่อมเยากว่า นอกจากนั้นยังมีกลิ่นหอมน้อยกว่าหอมมะลิ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วข้าวหอมมักจะหมายถึงข้าวพันธุ์หอมปทุม หรือหอมปทุมธานี 1 นอกจากนั้นข้าวหอมยังเป็นข้าวที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี หากมีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์
ข้าวหอมมะลิคืออะไร
สำหรับข้าวหอมมะลินั้น เป็นข้าวที่มีความโดดเด่นจนขึ้นชื่อโดยเฉพาะในเรื่องกลิ่นหอมคล้ายใบเตย เนื่องจากมีสาร2AP ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในใบเตย นอกจากนี้ข้าวหอมมะลิยังนุ่มมากกว่าข้าวหอมทั่วๆ ไป เวลาหุงทานเมล็ดข้าวจะเรียงสวย ขาว ยาว แม้จะทิ้งไว้นานก็ยังคงความนุ่ม แตกต่างจากข้าวหอมโดยทั่วไป ข้าวหอมมะลินั้นปลูกได้เพียงแค่ปีละ 1 ครั้งเนื่องจากเป็นข้าวนาปี
ดังนั้นความแตกต่างระหว่างข้าวหอม กับข้าวหอมมะลิจึงมีทั้งเรื่องระยะเวลาการปลูก ลักษณะของเมล็ดข้าว ความหอม ความนุ่ม ระยะเวลาความนุ่มหลังจากหุง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 22/01/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 34,000.00 | 34,100.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,202.00 | 33,382.32 | 34,600.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,981.80 | 30,044.09 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,761.60 | 26,705.86 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 991.00 | 15,023.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 771.00 | 11,688.36 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,282.00 | 34,595.12 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 22/01/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.85 | 35.85 | 36.55 | 35.85 | 35.85 | 35.85 | 35.85 | 35.85 | 35.85 | 35.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.08 | 34.08 | 34.78 | 34.08 | 34.08 | 34.08 | 34.08 | 34.08 | 34.08 | 34.08 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.74 | 33.74 | 34.44 | 33.74 | 33.74 | – | 33.74 | 33.74 | 33.74 | 33.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 33.89 | 33.89 | – | – | – | – | – | – | – | 33.89 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 43.24 | 47.84 | 48.24 | 47.84 | – | – | – | – | – | 43.24 |
เบนซิน 95 | 43.74 | – | – | – | 44.91 | – | 44.24 | 43.89 | – | 43.74 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 30.44 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | – | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | – | – | 29.94 | – | – | – | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 41.54 | 43.64 | 45.94 | 43.64 | 43.64 | – | – | – | – | 41.54 |
แก๊ส NGV | 19.59 | 19.59 | – | – | – | – | – | – | – | 19.59 |