สาระน่ารู้ประจำวันที่ 06 กุมภาพันธ์ 2567

อสังหาฯภูเก็ตราคาพุ่ง150%บันยันกรุ๊ปทุ่ม7หมื่นล้านลุยลากูน่า เลคแลนด์

บันยันกรุ๊ป สบช่องอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตบูมแรงต่อเนื่อง! ดันราคาที่ดิน ที่อยู่อาศัย พุ่ง 150% พร้อมลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี “ลากูน่า เลคแลนด์” บางเทา 700ไร่ต่อจิ๊กซอว์อาณาจักรลากูน่า ขยายฐานลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ

  • ไข่มุกแห่งอันดามัน “ภูเก็ต” หนึ่งในจุดหมายปลายทางระดับลักชัวรีของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยศักยภาพของเมืองท่องเที่ยวระดับโลก มีเที่ยวบินให้บริการจำนวนมาก มีโรงเรียนนานาชาติ 14 แห่ง โรงพยาบาลมาตรฐานระดับโลก เวลเนส สนามกอล์ฟ เรือยอร์ช ร้านอาหาร ทิวทัศน์ของเกาะที่สวยงาม รวมถึงบิ๊กอีเวนต์การจัดคอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬาระดับโกลบอล!
  • ตามรายงานการศึกษาล่าสุดจาก Savills Research พบว่า ภูเก็ตจัดอยู่ในอันดับที่ 4 ของจุดหมายปลายทางระดับโลกที่มีแบรนด์ชั้นนำมาพัฒนาและบริหารโครงการเรสซิเดนซ์มากที่สุด และ “บันยันทรี” ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ที่มีผู้สนใจต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยมากที่สุดอันดับ 5 ของโลก และเป็นธุรกิจโรงแรมและการบริการในเอเชียเพียงแห่งเดียวที่ติด 10 อันดับแรก

สจ๊วต เรดดิ้ง กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มบริษัทบันยัน กล่าวว่า จากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจของไทย โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยในปี 2567 จะขยายตัว 4.4% ซึ่งแข็งแกร่งกว่าปี 2566 มีประชากร 72 ล้านคน มีขนาดเศรษฐกิจลําดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดการณ์ว่าในปี 2567 ประเทศไทยจะกลับไปมีนักท่องเที่ยวจำนวน 40 ล้านคนอีกครั้ง ส่งผลดีต่อจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกดึงดูดนักท่องเที่ยว

โดยก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 “ภูเก็ต” มีรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 4.4 แสนล้านบาท เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดภูเก็ตสูงถึง 2.51 แสนล้านบาท

ปีที่ผ่านมา 50% ของจีพีดี มาจากการท่องเที่ยว และ 5-10% มาจากภาคอสังหาริมทรัพย์ มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 10 ล้านคน มีสายการบิน “บินตรง” ภูเก็ต 70 ประเทศ  มีโรงแรมที่มีห้องพักรองรับนักท่องเที่ยว 45,000 ห้อง อัตราการเข้าพัก 70-80% 

ประการสำคัญ มีความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของบ้าน พูลวิลล่า และคอนโดมิเนียม มากกว่า 3,000 ยูนิต เติบโตกว่า 100%

“ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเติบโต 3 เท่า ก่อนโควิด-19  ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 2 เท่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยพุ่งสูงถึง 150%”

สัญญาณที่ดีดังกล่าวทำให้กลุ่มบริษัทบันยัน เดินหน้าต่อจิ๊กซอว์ “อาณาจักรลากูน่า” ในภูเก็ต โดยลงทุนพัฒนาโครงการ “ลากูน่า เลคแลนด์” มูลค่ารวม 70,000 ล้านบาท บนที่ดิน 700 ไร่ จำนวนทั้งสิ้น 6,000 ยูนิต ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม วิลล่า พูลวิลล่า ซึ่งจะทยอยพัฒนา คาดว่าใช้ระยะเวลา 5-10 ปี ถือเป็นบิ๊กโปรเจกต์ครั้งแรกในรอบ 30 ปีของบันยันกรุ๊ปในภูเก็ต

“การเปิดตัวโครงการใหม่รองรับกระแสความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ต้องการบ้านหลังที่สอง รวมทั้งการลงทุนมากขึ้น หลังเกิดภูมิรัฐศาสตร์สงครามผู้ซื้อส่วนใหญ่ เช่น รัสเซีย จีน หรือยุโรป แม้ราคาสูงแต่ราคาถูกกว่าในต่างประเทศ”

สำหรับเฟสแรกของ “ลากูน่า เลคแลนด์” จะเปิดขาย 2 โปรดักต์ ได้แก่ พูลวิลล่า 14 ยูนิต ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 558 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 60-77.5 ล้านบาท มียอดขาย 2 หลัง คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 6 อาคาร จำนวน 300 ยูนิต

โดยเริ่มเปิด 2 อาคารแรกจำนวน 100 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขาย 50% คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 4 ชั้น 30 ยูนิต ส่วนคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 7 ชั้น 70 ยูนิต ราคา 7-20 ล้านบาท กลุ่มลูกค้าหลักเป็นชาวรัสเซีย จะเริ่มก่อสร้างปีนี้ คาดแล้วเสร็จ ปี 2569

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


Branded Residenceภูเก็ตเดือดชิงดีมานด์ต่างชาติซื้อบ้านหลังสอง-ลงทุน

คอนโดมิเนียม Branded Residence ในภูเก็ตขยายตัวอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ภาพรวมคอนโดในภูเก็ตเติบโตสูงถึง 97.5% เป็นผลจากการเข้ามาของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะทำเลเชิงทะเล บางเทา เติบโต 20% ต่อปี

กฤษณ์ เตชะสัมมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออริจิ้น เนชั่นวายด์ จำกัด ในเครือออริจิ้น กล่าวว่า โครงการออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด มูลค่า 8,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 25 ไร่ ติดหาดบางเทา จะเป็น Branded Residence จำนวน 2 โครงการ โครงการแรกเป็นโรงแรม และอีกโครงการเป็นคอนโด Branded Residence ระดับ 5 ดาว

“คนต่างชาติรู้จักแบรนด์ Branded Residence อยู่แล้ว ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการเข้ามาซื้อและใช้บริการมากขึ้น แม้ว่าแบรนด์ออริจิ้นจะเป็นที่รู้จักดีในประเทศไทยว่าเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ แต่ต่างชาติไม่รู้จักคุ้นเคย การใช้ Branded Residence ช่วยเสริมความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดี ในการทำอสังหาฯ ในทำเลท่องเที่ยวเป็นโซนไพร์ม”

คอนโด Branded Residence ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งเจ้าของกิจการและ ตัว Branded Residence จะต้องมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะพัฒนาโครงการระดับไหน กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร เพื่อเลือกแบรนด์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย โดยราคาหรือมูลค่าที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละทำเล ที่สำคัญงานบริการและคุณภาพโครงการต้องเป็นไปตามมาตรการฐานของแบรนด์นั้นๆ

“ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา Branded Residence ระดับ5 ดาวที่จะมาใช้กับโครงการคอนโดออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด ติดหาดบางเทา ซึ่งปัจจุบัน คอนโด Branded Residence ในบางเทา อยู่ระดับกลาง ไม่มากเท่าทำเลไม้ขาว ทั้งมีเรเนซองส์ แต่การแข่งขันในบางเทา เชิงทะเลมาแรง เพราะต่างชาติเข้ามาในโซนนี้เยอะมาก”

กฤษณ์ มองว่า Branded Residence เป็นตัวเสริม ที่จะทำให้โครงการออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด บนหาดบางเทา ในภูเก็ต ครบเครื่องขึ้น เพราะมีองค์ประกอบในโครงการครบถ้วนตั้งแต่ บีช คลับ โรงแรม พูลวิลล่า คอนโด จนกลายเป็นอาณาจักร เพื่อรองรับกลุ่มคนต่างชาติที่เข้ามาในภูเก็ต

โดยเฉพาะคนรัสเซียส่วนใหญ่ซื้อเพื่อเป็นบ้านตากอากาศหลังที่สอง รวมทั้งการซื้อเพื่อปล่อยเช่า ที่ได้ราคาสูง เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง เพราะมองว่า Branded Residence มีมูลค่าเพิ่มในอนาคต (Capital Gain) และผลตอบแทนจากค่าเช่า(Rental yield) สูงกว่าคอนโดทั่วไป เช่นเดียวกับกลุ่มคนไทยที่มีกำลังซื้อสูง

ความเคลื่อนไหวล่าสุดตระกูล ‘จิราธิวัฒน์’ ยืนหนึ่งในตลาดค้าปลีกได้ก่อตั้ง CG Capital เพื่อจัดกองทุนแรกมูลค่า 10,000 ล้านบาทเพื่อลงทุนในโรงแรม คอนโดมิเนียม สวนสนุก สวนน้ำ และโปรเจกต์มิกซ์ยูสในเมืองท่องเที่ยวหลัก อาทิ ภูเก็ต สมุย พัทยา รวมทั้งกรุงเทพฯ

โครงการแรกที่กองทุนลงทุนมูลค่า 5,000 ล้านบาทในรูปแบบมิกซ์ยูส ประกอบด้วย โครงการที่พักอาศัยที่เป็น Branded Residences ภายใต้เครือสแตนดาร์ด อินเตอร์เนชันแนล โรงแรมบูทีคไลฟ์สไตล์ระดับโลก ภายใต้แบรนด์ เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ ภูเก็ต บางเทา และ เดอะ เภรี โฮเต็ล ภูเก็ต บางเทา ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือเดอะ สแตนดาร์ด เช่นเดียวกัน บนเนื้อที่ 30 ไร่ ทำเลเชิงทะเล-บางเทา ถือเป็นทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในภูเก็ตที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ใกล้แหล่งชอปปิงและร้านอาหารชื่อดัง คาดเปิดตัวภายในเดือน เม.ย.นี้ ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2569

การดึง Branded Residence แบรนด์ “เดอะ สแตนดาร์ด” เข้าพัฒนาโครงการอสังหาฯ ระดับลักชัวรี เพื่อสร้างการรับรู้ได้อย่างรวดเร็วกับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติและสร้างความได้เปรียบผ่านแบรนด์ที่เป็นรู้จักทั่วโลก

สอดคล้องกับที่ ชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ก่อนโควิดต่างชาตินิยมซื้อคอนโด Branded Residence จึงมักขายหมดโควตา 49% ซึ่งเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจเพราะลูกค้าไม่ได้ซื้อแค่คอนโดตากอากาศ แต่มองหาคอนโดที่มีบริการโรงแรมเข้ามาช่วยดูแลผู้เช่า

ในประเทศไทยมีซัพพลาย Branded Residence ราว 29% จากซัพพลาย Branded Residence ทั้งหมดในตลาดเอเชียแปซิฟิก ล่าสุดฮาบิแททได้เตรียมเปิดตัว Highland Park Residences และ Cascade ที่บางเทาด้วยเช่นเดียวกัน

ขณะที่ การจัดอันดับเมืองฮิตที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลกประจำปี 2023 หรือ The Most Visited Cities in the World 20 อันดับแรก “กรุงเทพฯ” เป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 22.78 ล้านคน และ 2 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยม คือ ภูเก็ต และ พัทยา ติด 1 ใน 20 โดย “ภูเก็ต”เป็นอันดับที่ 14 มีนักท่องเที่ยว 9.89 ล้านคน ส่วน “พัทยา” อันดับที่ 15 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9.44 ล้านคน จึงเป็นโอกาสดีในการนำเสนอ Branded Residenceให้ชาวต่างชาติ รวมทั้งนักลงทุน

คาดการณ์ว่า Branded Residence ในประเทศไทย ภายในปี 2573 หรือ 7 ปีจากนี้ จะเติบโตกว่า 70% หรือเฉลี่ยปีละกว่า 10% ซึ่งโครงการ Branded Residence มีมากสุดไม่ใช่กรุงเทพฯ แต่อยู่ที่ “ภูเก็ต”

จึงไม่น่าแปลกใจที่ค่ายอสังหาฯ จากกรุงเทพฯ จะลงไปเปิดคอนโด Branded Residence จำนวนมาก เพราะดีมานด์อสังหาฯในภูเก็ตยังคงเติบโตต่อเนื่อง  ล่าสุดกลุ่มบริษัทบันยันทรีผู้พัฒนาโครงการ ลากูน่า ภูเก็ต รีสอร์ท ครบวงจร เปิดตัวเรสซิเดนซ์ขนาดใหญ่ที่สุดในภูเก็ตและประเทศไทยเพื่อเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในภูเก็ต

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 6ก.พ. “แข็งค่า” ที่ระดับ 35.76 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า ท่ามกลางการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ควรระวังความผันผวนของตลาดค่าเงิน ในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซน

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 6ก.พ. 2567 ที่ระดับ  35.76 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.79 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า ค่าเงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเนื่อง ท่ามกลางการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ยังได้แรงหนุนจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เชื่อว่า เฟดอาจไม่รีบลดดอกเบี้ยและลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ตลาดเคยประเมินไว้

อย่างไรก็ดี ในช่วงวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ อาจไม่ใช่จุดสนใจของผู้เล่นในตลาด ทำให้ควรระวังความผันผวนของตลาดค่าเงิน ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซน เพราะหากข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซน สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แย่กว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ “เร็วกว่า” เฟด ซึ่งมุมมองดังกล่าว อาจกดดันให้ เงินยูโร (EUR) ผันผวนอ่อนค่าลง และหนุนการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ได้

และนอกจากปัจจัยข้อมูลเศรษฐกิจจากฝั่งยูโรโซน เรามองว่า ค่าเงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากความกังวลว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจลดดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น จากที่ผู้เล่นในตลาดเคยประเมินไว้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของไทยล่าสุด ชะลอลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI

ทั้งนี้ เราประเมินว่า หากเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงทะลุโซนแนวต้าน 35.90 บาทต่อดอลลาร์ (ที่เราเคยมองว่า อาจเป็นจุด Peak ในระยะสั้น เมื่อวันที่ 26 มกราคม ไปได้) ก็จะเปิดโอกาสให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าต่อเนื่องทดสอบโซนแนวต้านสำคัญแถว 36.00-36.10 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก และจะเป็นการปิดฉากเทรนด์การแข็งค่าต่อเนื่องของเงินบาทนับตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา

ในช่วงนี้ เรายังคงพบว่า ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.70-35.90 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 35.73-35.87 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าลง ตามการทยอยปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ

ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ทยอยลดความคาดหวังต่อโอกาสเฟดรีบลดดอกเบี้ย หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด อย่าง ดัชนี ISM PMI ภาคการบริการออกมาดีกว่าคาด โดยล่าสุดผู้เล่นในตลาดเริ่มไม่แน่ใจว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคมได้หรือไม่ ทั้งนี้ การอ่อนค่าลงของเงินบาทได้ถูกชะลอลงบ้าง จากการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ

บรรดาผู้เล่นในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลว่า รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงออกมาดีกว่าคาด อาจทำให้เฟดไม่รีบลดดอกเบี้ยอย่างที่ตลาดเคยประเมินไว้ และแม้ว่ามุมมองดังกล่าวจะกดดันบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ของสหรัฐฯ

เช่น Tesla -3.7%, Meta -3.3% ทว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคฯ ใหญ่ อย่าง Nvidia +4.8% หลังนักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ได้ปรับเป้าราคาขึ้นจากเดิมราว +20% ทำให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ย่อตัวลง -0.20% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.32%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ย่อตัวลงเล็กน้อย -0.05% ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลาง (โดยเฉพาเฟด) ที่อาจช้ากว่าที่ผู้เล่นในตลาดเคยคาดหวังไว้ ทำให้บอนด์ยีลด์ในฝั่งยุโรปส่วนใหญ่ต่างปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่ม Defensive อย่าง กลุ่ม Healthcare อาทิ Novo Nordisk +3.6% รวมถึงการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่ม Semiconductor เช่น ASML +1.1% ที่ตอบรับข่าวการปรับเป้าราคาของหุ้น Nvidia ในสหรัฐฯ

ในฝั่งตลาดบอนด์ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างเชื่อว่า เฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ย และเฟดอาจลดดอกเบี้ยราว -125bps ในปีนี้ ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.15% สอดคล้องกับ มุมมองที่เราเคยประเมินไว้ก่อนหน้า ว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังมีความเสี่ยงที่อาจรีบาวด์ขึ้นได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด

ทำให้ผู้เล่นในตลาดทยอยลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยหลายครั้งของเฟด ดังนั้น เราจึงขอเน้นย้ำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเน้นกลยุทธ์ Buy on Dip เพื่อลดความเสี่ยงการขาดทุนเมื่อมองภาพผลตอบแทนโดยรวม หรือ Total Return ซึ่งหากบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ สามารถปรับตัวขึ้น ทะลุระดับ 4.20% ไปได้ ก็จะมีความน่าสนใจในการทยอยเข้าซื้อเป็นอย่างมาก

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์โดยรวมแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับบรรดาสกุลเงินหลัก หลังรายงานดัชนี ISM PMI ภาคการบริการออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างมองว่า เฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ยและเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ตลาดเคยประเมินไว้ก่อนหน้า ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 104.5 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 104.2-104.6 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ การปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) ย่อตัวลงสู่โซนแนวรับสำคัญระยะสั้นแถว 2,030 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคำจะรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง สู่โซน 2,040 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจลดสถานะถือครองทองคำออกมาบ้าง เพื่อรอประเมินสถานการณ์และทิศทางราคาทองคำต่อไป ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้บ้าง

 สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจจะอยู่ในฝั่งยุโรปเป็นหลัก โดยผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน ผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนธันวาคม พร้อมกับจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ (CPI Inflation Expectations) ที่สำรวจโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจนโยบายการเงินของ ECB ได้

นอกจากนี้ เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึง ผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 3 ปี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ในช่วงนี้ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“สุดาวรรณ” ปลื้มแบดมินตันไทยซิว 2 แชมป์ “ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024”

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ปลื้มฟอร์มทัพขนไก่ไทยหลัง ซิว 2 แชมป์จากหญิงคู่และคู่ผสม ในการแข่งขันแบดมินตันรายการ”ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024″ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 210,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 7,240,000 บาท ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2567

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า “ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะเลิศในทุกประเภทของการแข่งขัน ปีนี้ไทยเราเข้าชิงชนะเลิศถึง 4 ประเภท เราได้มา 2 ประเภท จากหญิงคู่ จากน้องอันนา” และ “มูนา” ซึ่งป้องกันแชมป์หญิงคู่และรักษาถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไว้ได้อีกครั้งค่ะ ส่วนคู่ผสมของเรา ทั้งบาส และปอป้อ ก็ไม่ทำให้กองเชียร์ของเราผิดหวัง โดยสามารถเอาชนะคู่ของมาเลเซีย คว้าแชมป์มาครองต่อจาก อินเดีย โอเพ่น ต้องถือว่าเป็นความสำเร็จของตัวนักกีฬาและสมาคมแบดมินตันฯ ด้วยค่ะ”

“ส่วนน้องๆที่พลาดไป ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะทุกๆคนก็สร้างผลงานออกมาได้ดีไม่แพ้กัน เพียงแต่ยังไม่ไปถึงจุดที่ตัวเองต้องการได้ อย่าเพิ่งหมดหวังไปค่ะ เรายังมีการแข่งขันรายการต่อๆไป ในการเก็บสะสมคะแนนเพื่อกรุยทางไปเล่นโอลิมปิคที่ปารีส ฝรั่งเศส ยังไงก็สู้ๆนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ”

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


วิธีล้างจมูกที่ถูกต้อง พร้อมประโยชน์ของการล้างจมูก

การล้างจมูกเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล และช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น โดยใช้เพียงน้ำเกลือและอุปกรณ์ล้างจมูก

เคยสงสัยกันไหมคะว่าเขาล้างจมูกกันไปทำไม แล้วเราต้องล้างจมูกกันอย่างไรถึงจะดีต่อสุขภาพ ที่สำคัญคือเราควรต้องล้างจมูกเหมือนคนอื่นเขาไหม ต้องล้างบ่อยแค่ไหน ใช้น้ำอะไรล้าง Sanook! Health มี “วิธีล้างจมูกที่ถูกต้อง” พร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับการล้างจมูกมาให้ทุกคนได้ทราบกันดังนี้

ทำไมเราต้อง “ล้างจมูก”

การล้างจมูก เป็นการชะล้างเอาน้ำมูก  หนอง  สิ่งสกปรกในจมูก เพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก ลดความเหนียวข้นของน้ำมูก ทำให้เชื้อโรคไม่เจริญเติบโต นอกจากนี้ หากล้างจมูกก่อนการพ่นยา จะช่วยให้ยาสัมผัสกับเยื่อบุจมูกได้มากขึ้น  และออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น 

กลุ่มคนที่ควรล้างจมูก

  • เป็นโรคภูมิแพ้
  • เป็นโพรงจมูก หรือไซนัสอักเสบ
  • เข้ารับการผ่าตัดเยื่อบุจมูกจากอาการไซนัสอักเสบ
  • เป็นโรคหอบหืด ที่ต้องใช้ยาพ่นเป็นประจำ
  • เป็นหวัด คัดจมูก ชนิดที่มีน้ำมูก หรือเสมหะมากๆ จนรบกวนการหายใจ

หากไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าว ไม่มีความจำเป็นต้องล้างจมูก แต่หากต้องการทำความสะอาดโพรงจมูกก็สามารถทำได้ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องล้างจมูกเป็นประจำ

อุปกรณ์ที่ใช้

โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในการล้างจมูก ประกอบด้วย

  • น้ำเกลือ 0.9%
  • กระบอกฉีดยา
  • ถ้วย/แก้วสำหรับใส่น้ำเกลือที่ยังไม่ใช้
  • ถ้วย/แก้วสำหรับใส่น้ำเกลือที่ล้างจมูกแล้ว   

วิธีล้างจมูกที่ถูกต้อง

  1. อุ่นน้ำเกลือก่อนการล้างจมูกให้มีอุณหภูมิพอเหมาะกับเยื่อบุจมูก การใช้น้ำเกลือที่ไม่ได้อุ่นล้างจมูก อาจทำให้เกิดการคัดจมูกหลังการล้างได้
        
  2. ควรล้างจมูกบนโต๊ะและเตรียมภาชนะมารองรับน้ำเกลือหลังล้างด้วย
                
  3. ใช้กระบอกฉีดยา ที่แพทย์จ่ายให้ ดูดน้ำเกลือที่อุ่นได้ที่แล้วในปริมาณน้อย ๆ ก่อน ในผู้ใหญ่ประมาณ10-15 ซีซี ในเด็กประมาณ 5 ซีซี
  4. นั่งโน้มตัวไปข้างหน้า ก้มหน้าเล็กน้อย เริ่มล้างจมูกข้างที่มีอาการคัดจมูกน้อยกว่า
  5. นำปลายกระบอกฉีดยา ใส่เข้าไปในจมูกข้างที่จะล้างเล็กน้อย อ้าปากไว้ แล้วหายใจเข้าเต็มที่ และกลั้นหายใจไว้
  6. ดันกระบอกสูบของกระบอกฉีดยา เบา ๆ ให้น้ำเกลือไหลเข้าไปในจมูกช้าๆ
  7. หลังจากล้างเสร็จ สั่งน้ำมูก หรือน้ำเกลือที่คั่งค้างอยู่ในโพรงจมูกออก
  8. ล้างอุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูกให้สะอาดด้วยน้ำสบู่ หรือ น้ำยาล้างจาน แล้วล้างด้วยน้ำประปาจนสะอาด(ในกรณีที่ใช้กระบอกฉีดยาที่ทำจากแก้ว  หลังจากล้างแล้วควรนำมาต้มกับน้ำเดือด ประมาณ 5 นาทีแล้วผึ่งให้แห้ง)

ข้อควรระวังในการล้างจมูก

การล้างจมูกแต่ละครั้งนั้น ควรล้างจนกว่าจะรู้สึกว่าจมูกโล่ง  ไม่มีน้ำมูกหรือสิ่งสกปรกอะไรคั่งค้างในจมูก ใช้น้ำเกลือฆ่าเชื้อนอร์มาลซาไลน์ 0.9% (Normal saline 0.9%/ NSS 0.9%) เท่านั้น ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล (Glucose) ก่อนซื้อ ควรอ่านฉลาก และวันหมดอายุ ให้ละเอียด

ควรล้างจมูกบ่อยแค่ไหน

จำนวนครั้งที่ล้างจมูก ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการล้างจมูก

ล้างจมูก วันละ 1 ครั้ง : เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก ฝุ่นควัน เชื้อโรคที่ประสบพบเจอในแต่ละวันตามปกติ

ล้างจมูก วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น : กำจัดเชื้อโรค ลดน้ำมูก คัดจมูก หรือเป็นภูมิแพ้

ล้างจมูกเมื่อมีอาการ : เมื่อคัดแน่นจมูก หายใจไม่สะดวก จากอาการของโรคไซนัส ริดสีดวง โพรงจมูกอักเสบ 

สรุป

การล้างจมูกเป็นวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นและลดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ หรือเป็นหวัด

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


What do you do? ตอบอย่างไรดี

What do you do? คุณทำงานอะไร ในภาษาอังกฤษ ตอบอย่างไรดี

เมื่อมีคนถามเพื่อนๆว่า What do you do? หรือที่แปลว่า คุณกำลังทำงานอะไรอยู่ในภาษาอังกฤษ เรามีวิธีการตอบกลับยังไงบ้าง เพื่อนสามารถนำคำศัพท์เหล่านี้ไปใช้ไม่ว่าจะในการตอบสัมภาษณ์งาน หรือการคุยธุรกิจ เพื่อที่จะสามารถบอกผู้ที่สื่อสารด้วยได้อย่างกระชับตรงประเด็น มีคำไหน และการตอบยังไงบ้าง ไปดูกันเลย

หมวดคำศัพท์

work for = ทำงานให้กับ

ใช้ในกรณีที่เราต้องการบอกว่าเราทำงานให้กับใคร หรือถูกว่าจ้างโดยใคร ยกตัวอย่างเช่น

  • work for UNO, the United Nations Organization. ผมทำงานที่ยูเอ็นโอ, องค์การสหประชาชาติ

work on = ทำในหน้าที่

ใช้ในกรณีที่เราต้องการบอกการทำงานที่เฉพาะเจาะจงซักอย่าง ยกตัวอย่างเช่น

  • Our family work on a farm. ครอบครัวของฉันทำงานเกี่ยวกับฟาร์ม

run = ดำเนินงาน (สามารถใช้ในธุรกิจได้ที่ไม่ต้องแปลว่าวิ่ง)

ใช้ในกรณีที่เราต้องการบอกว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรซักอย่าง และทำการควบคุมภาพรวมของธุรกิจนั้น ยกตัวอย่างเช่น

  • I run a restaurant business in Thailand. ฉันดูแลเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย

manage = จัดการดูแล

ใช้ในกรณีที่เราต้องการบอกว่าเราควบคุมหรือจัดการอะไรบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น

  • We manage our cash extremely well. เราสามารถจัดการเรื่องเงินของเราได้เป็นอย่างดีเลยแหละ

work under = ทำงานภายใต้ หรืออยู่ใต้บังคับบัญชาของ

ใช้ในกรณีที่ต้องการบอกว่าเรามีลูกน้องก็คนก็ได้ หรือต้องการบอกว่าเราทำงานอยู่ใต้บังคับบัญชาของใครก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น

  • Why do you want to work under me? ไหนลองบอกมาซิ ทำไมคุณต้องการทำงานกับฉัน
  • I would rather quit than work under you. ฉันขอลาออกดีกว่า ถ้าต้องทำงานภายใต้คุณ

responsibility = หน้าที่ความรับผิดชอบ

ใช้ในกรณีที่ต้องการบอกเกี่ยวกับความรับผิดชอบในหน้าที่ใดๆ ยกตัวอย่างเช่น

  • It’s my responsibility to manage the production department to reach the target. มันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของฉันที่ต้องบริหารจัดการหน่วยงานการผลิตให้ได้ตามเป้าหมาย

in charge of = ควบคุม, ดูแล

ใช้ในกรณีที่ต้องการบอกว่าเราควบคุมหรือดูแลอะไรอยู่ แต่คำที่ตามหลังอันนี้ต้องเป็น Noun เสมอนะ ยกตัวอย่างเช่น

  • I’m in charge of the final show tonight. ฉันเป็นคนควบคุมดูแลการแสดงโชว์ครั้งสุดท้ายในคืนนี้
  • He is in charge of the ketchup. ผู้ชายคนนั้นเขาทำหน้าที่เป็นคนทำซอสมะเขือเทศ

deal with = จัดการกับ

ใช้ในกรณีที่ต้องการบอกว่าเรากำลังจัดการกับอะไรอยู่ หรือกำลังตกลงบางสิ่งบางอย่าง

  • It’s so hard to deal with. มันยากมากเลยที่จะจัดการกับเรื่องนี้
  • If you don’t deal with this problem. It will be worse. ถ้าคุณไม่จัดการกับเรื่องนี้ ระวังมันจะแย่ลงนะ

responsible for = รับผิดชอบในการ

ใช้ในกรณีที่เราต้องการบอกหน้าที่ความรับผิดชอบเหมือนกันแต่อันนี้ถ้าข้างหลังเป็น Verb ต้องตามด้วย V-ing เสมอนะ ยกตัวอย่างเช่น

  • He is responsible for designing the entire project. เขามีหน้าที่ในการออกแบบโครงการทั้งหมดนั่น
  • She’s responsible for recruiting the employee. หล่อนมีหน้าที่รับผิดชอบในการสรรหาพนักงาน

work with = ทำงานกับ

ใช้ในกรณีที่เราต้องการบอกว่าเราทำงานกับอะไร หรือกับใคร ยกตัวอย่างเช่น

  • work with my colleague.  ฉันทำงานกับเพื่อนร่วมงานของฉัน
  • Let’s work with me here. มาทำงานด้วยกันเถอะ

ทีนี้ลองมาแต่งประโยคกันครับ

  • I work for EngConvo Thailand.
  • work on digital marketing.
  • In fact, I run the institute and I manage a term of trainers:
  • More than 100 people work under me. It’s very interesting.
  • One of my main responsibilities is to make sure that all new students will be happy.
  • I’m also in charge of website design.
  • I deal with a lot of customers. I’m responsible for coordination between the registration department and students.
  • I work with colleagues at our institute.

หมายความว่า

  • ฉันทำงานอยู่ที่ EngConvo Thailand นะ และก็
  • ฉันทำงานอยู่ในส่วนงานของการตลาดออนไลน์
  • แต่จริงๆแล้วฉันดูแลทุกส่วนเลย รวมทั้งครูที่จะมาสอนนักเรียนด้วย
  • เรามีครูมากกว่าร้อยคนเลย เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ
  • และหน้าที่ความรับผิดชอบของฉันอีกอย่างหนึ่งก็คือ ต้องมั่นใจว่านักเรียนจะมีความสุขกับคลาส
  • ฉันยังดูแลเกี่ยวกับการออกแบบเว็บไซต์ด้วย
  • ฉันต้องทำข้อตกลงกับลูกค้ามากมายหลายคน และฉันก็มีหน้าที่ประสานงานระหว่างฝ่ายทะเบียนและนักเรียนอีกด้วย
  • ฉันทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานของฉันหลายคนเลย

เพื่อนๆพอเห็นวิธีการใช้ของแต่ละคำหรือยังนะครับ ทีนี้เวลามีคนถามเรา What do you do? เราก็สามารถใช้คำศัพท์ด้านบนนี้ในการตอบตำถามได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com


Google เปิดทดลองฟีเจอร์ค้นหาสถานที่โดยใช้การพูดกับ AI ใน Google Maps แล้ว

หลังจากความ Generative AI มาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบอกถามตอบใน Google Bard ที่หลายคนได้ทดลองแล้ว แต่ล่าสุดนี้ Google มีการเพิ่มฟีเจอร์ Generative AI เข้าไปยัง Google Maps แล้ว แต่ยังคงใช้ได้เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

โดยความสามารถของฟีเจอร์นี้คือคุณจะสามารถให้ AI ค้นหาสถานที่ใหม่ๆ ที่คุณอาจจะยังไม่เคยไป โดยการใช้การพูดเข้าไปใน Google Maps แลัวหาคำตอบพร้อมกับวิเคราะห์เส้นทาง โดยทำได้ตั้งแต่ การค้นสถานที่ที่มีทั้งตั้งของสิ่งสำคัญ และรวมถึงการแสดงผลสถานที่ยอดนิยม เป็นต้น พร้อมกับพรีวิวเป็นภาพและแสดงผลรีวิว และสามารถใช้นำทางได้เลย

ดังนั้นใครที่สนใจกับฟีเจอร์เหล่านี้อยู่ได้ อย่าลืมทดลองใช้งานกันใน Lab เท่ากับความสามารถนี้ยังอยู่ในขั้นทดลองอยู่ อาจขจะทำงานผิดพลาดได้ในอนาคต

จึงทำให้ตอนนี้ฟีเจอร์นี้ถูกจำกัดให้ทดลองได้ในสหรัฐอเมริกาในเวลานี้ และคาดว่าจะขยายขึ้นในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


5 อาหารบำรุงสมองและร่างกาย สุขภาพดีรับวัยทองง่ายๆ ทำได้ไม่ยาก !

เมื่อใดที่เข้าสู่วัยทองจะทำให้ ระดับฮอร์โมนทางเพศลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จะทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน และเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพได้มากพอสมควร โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชายที่ฮอร์โมนเพศลดลง จะทำให้สมรรถภาพทางเพศแปรเปลี่ยนไปอีกด้วย ดังนั้นจึงขอแนะนำอาหารเพื่อบำรุงสมองและร่างกายของผู้ชายในช่วงวัยทอง เพื่อการรับประทานแล้วสร้างประโยชน์ต่อร่างกายได้มากที่สุด คือ

1.อาหารที่มีไขมันอิ่มตัว

อาหารที่มีรูปแบบของไขมันอิ่มตัว เป็นตัวช่วยสำคัญด้านการลดไขมันเสียและคอเลสเตอรอลที่อยู่ภายในเลือด เน้นเป็นเนื้อปลา เต้าหู้ ไข่ขาว และเนื้อสัตว์ทุกประเภทที่ไม่ติดมัน รวมไปถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์นมวัวและโยเกิร์ตแบบพร่องมันเนย ถั่วและธัญพืช จะเป็นตัวช่วยที่จะทำให้คุณไม่ต้องเสี่ยงต่อคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์

2.ผัก ผลไม้

ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีกากใยสูง ประเภทข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ข้าวโอ๊ต ถั่วเหลือง ธัญพืชหลากหลายประเภท ลูกเดือย และผัก ผลไม้สดที่มีน้ำตาลไม่สูง จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้คุณขับถ่ายคล่อง ลดไขมัน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น จากการมีวิตามินอย่างหลากหลาย แนะนำให้รับประทานเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย เช่น แอปเปิ้ล แก้วมังกร ลูกแพร ฝรั่ง หรือสตอเบอรี่ เป็นต้น

3.อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม

ช่วงวัยทองจะส่งผลต่อกระดูกและข้อมากพอสมควร ดังนั้นจึงควรเลือกอาหารที่มีปริมาณแคลเซียมสูง จะเป็นการทำให้เกิดความหนาแน่นของมวลกระดูกที่มากขึ้น เช่น การรับประทานปลาตัวเล็ก กุ้งฝอย นมถั่วเหลือง ผักคะน้า ถั่วลันเตา ผักกาดเขียว ยอดใบขี้เหล็ก หรือกลุ่มของโยเกิร์ต และธัญพืชในกลุ่มถั่ว จะมีปริมาณของแคลเซียมสูง แต่ทั้งนี้ควรดูผู้ที่รับประทาน ถ้ามีอาการแพ้นมวัวหรือแพ้ถั่วควรเลี่ยง ผลิตภัณฑ์จากนมวัวและถั่วธัญพืชต่าง ๆ

4.อาหารที่มีกรดอะมิโน

กรดอะมิโน มีความจำเป็นมากสำหรับผู้ชายวัยทอง เพราะเมื่อเข้าสู่ภาวะฮอร์โมนที่ลดลง จะทำให้การนอนหลับยากขึ้น ดังนั้นกรดอะมิโนจึงถือเป็นสารตั้งต้นสำคัญของเมลาโทนินและเซโรโทนิน ที่จะทำให้การนอนหลับมีความผ่อนคลายและหลับได้ง่ายกว่าเดิม โดยจะอุดมทั้งภายในไข่ไก่ ถั่วเหลือง นม เมล็ดทานตะวัน เต้าหู้ ถั่วลิสง และปลาทูน่า เป็นต้น

5.เครื่องดื่มหวานน้อย

ถ้าการดื่มน้ำเปล่า ทำให้รู้สึกปากจืด จนกลายเป็นปัญหาการรับประทานที่หนักขึ้นกว่าเดิม แนะนำให้ดื่มเป็นสูตรน้ำตาลน้อย หรือใช้สารทดแทนความหวานที่ปลอดภัย และใช้เป็นเครื่องดื่มธรรมชาติอย่างน้ำมะตูม น้ำเก๊กฮวย หรือนมถั่วเหลืองแบบไขมันต่ำ เป็นต้น ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้จะให้ประโยชน์ต่อร่างกาย และสามารถลดปริมาณความหวานได้ ด้วยการนำมาต้มหรือทำเอง

ถ้าคุณเป็นผู้ชายที่อยู่ในช่วงอายุเข้าวัยทอง ไม่จำเป็นต้องกังวล เพียงแค่ดูแลสุขภาพให้ดี และรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงทั้งสมองกับร่างกาย พร้อมทำให้ฮอร์โมนยังคงทำงานได้ดี รวมไปถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เชื่อว่าสุขภาพของคุณจะยังคงดีไปอีกยาวนานแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 06/02/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a34,150.0034,250.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,212.0033,533.9234,750.00
ทองรูปพรรณ 90%1,990.8030,180.53n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,769.6026,827.14n/a
ทองรูปพรรณ 50%995.0015,084.20n/a
ทองรูปพรรณ 40%774.0011,733.84n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,292.0034,746.72n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 06/02/2567



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9537.5537.5537.8537.5537.5537.5537.5537.5537.5537.55
แก๊สโซฮอล์ 9135.7835.7836.2835.7835.7835.7835.7835.7835.7835.78
แก๊สโซฮอล์ E2035.4435.4435.9435.4435.4435.4435.4435.4435.44
แก๊สโซฮอล์ E8535.5935.5935.59
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม44.9449.5449.5449.5444.94
เบนซิน 9545.4446.6145.9445.5945.44
ดีเซล B729.9429.9430.2429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.5443.6444.8443.6443.6441.54
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า