สาระน่ารู้ประจำวันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2567

อสังหาฯอ่วม!หนี้-ต้นทุน-ดอกเบี้ยสูง ระวังลงทุน‘เปิดโครงการลดลง’

เอฟเฟกต์!หนี้-ต้นทุน-ดอกเบี้ยสูงสวนทางเศรษฐกิจโตต่ำ ฉุดอสังหาฯอ่วม! 2 ดีเวลลอปเปอร์ ‘เอสซี-แอสเซทไวส์’เปิดโหมดระวังลงทุนเปิดโครงการลดลงหวั่นความไม่แน่นอนพร้อมหันมาขยายพอร์ตสินทรัพย์สร้างรายได้ประจำ

  • จากปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน ความกังวลต่อปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ในหลายพื้นที่ มีผลต่อการดำเนินธุรกิจท่ามกลางปัจจัยลบกำลังซื้อในประเทศยังเปราะบาง และต่อยอดปฏิเสธสินเชื่อสูง ทำให้ขายช้าจากปัญหาหนี้-ต้นทุน-ดอกเบี้ยสูง ส่งผลให้ปีนี้ค่ายอสังหาฯระวังลงทุนเปิดโครงการ‘ลดลง’

 ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจไม่ได้สดใส และยังมีความท้าทาย การลงทุนจึงต้องทำอย่างระมัดระวัง

“เรื่องสำคัญไม่ใช่จำนวนโครงการแต่เป็นการลงทุนอย่างสมดุล และเน้นการขยายธุรกิจสร้างรายได้ประจำเพิ่มขึ้น”

ทั้งนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2566 ที่ผ่านมา มีซัพพลายที่ออกมากว่า 500,000 ล้านบาท ถือว่ามีนัยสำคัญพอสมควร โตขึ้นถึง 20% สวนทางกับดีมานด์ไม่ได้แข็งแรงทำให้โตเพียงเล็กน้อย
 

จากภาพตลาดรวมสะท้อนว่ายังมีซัพพลายอยู่ในตลาดจำนวนมากพอที่รองรับกับความต้องการของตลาด ดังนั้นในปีนี้บริษัทจึงเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท เน้นแนวราบ 15 โครงการ แนวสูง 5 โครงการ คาดว่า สร้างยอดขาย 28,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทมีโครงการในมือจำนวน 90,000ล้านบาท จากเป้าขาย 30,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นสินค้าที่สามารถรองรับดีมานด์ถึง3เท่าไม่จำเป็นต้องลงทุนโครงการใหม่จำนวนมาก

ปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจอยู่ในโลกความไม่แน่นอน จากเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่พร้อมจะส่งผลกระทบเชื่อมโยงกันหมด ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ต่างระมัดระวังการเปิดโครงการมากขึ้น เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาฟองสบู่เหมือนในอดีต 

“คาดปีนี้ยอดขายคอนโดปรับตัวดีขึ้นขณะที่ตลาดบ้านเดี่ยวต้องระวังเพราะที่ผ่านมามีซัพพลายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 37% จากการที่หลายบริษัทหันมาเปิดตัวโครงการแนวราบมากขึ้น แต่บ้านลักชัวรียังคงมีกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อรองรับ ยกเว้นทาวน์เฮ้าส์”

ดังนั้นแนวทางการลงทุนในปีนี้ บริษัทจึงเน้นการลงทุนเหมาะสมกับสภาพตลาด โดยรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนทุน D/E น้อยกว่า 1.5 รวมถึงวางส่วนผสมกำไร จากธุรกิจที่หลากหลาย โดยมีกำไรจากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ(Recurring Income) ประกอบด้วยโรงแรม คลังสินค้า อสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าในสหรัฐ ให้มากกว่า 26% ภายใน5 ปีจากปัจจุบันมีสัดส่วน 15-16%

โดยในปีนี้บริษัทมีมูลค่าการลงทุนทั้งหมด 25,000 ล้านบาท ในหลากหลายธุรกิจ ที่อยู่อาศัย คลังสินค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน มีจำนวนโครงการรวมทุกธุรกิจมากถึง 103 โครงการ ขณะเดียวกันได้วางแผนทิศทางธุรกิจ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2567-2571 บนความหลากหลายโดยวางเป้าหมายสร้างรายได้รวมชรวม 5 ปี ตั้งแต่2567-2571จากหลากหลายธุรกิจมากกว่า 150,000 ล้านบาท

ณัฐพงศ์ ระบุว่า อสังหาฯในยุคนี้การแข่งขันรุนแรงขึ้นจากเดิมที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก หรือ ปลาไวกินปลาช้า มาสู่ “ปลาใหญ่กว่ากินปลาใหญ่” สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ ระหว่างรายเล็กและรายใหญ่ ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ท่ามกลางข้อจำกัดเพิ่มขึ้นเนื่องจากธนาคารระมัดระวังปล่อยกู้ นักลงทุนระวังการลงทุน รวมทั้งคู่ค้า และ ลูกค้า 

“ดังนั้นจึงอยากให้มีการพิจารณายกเลิกมาตรการ LTV เหตุผลคือ ปัจจุบันภาวะเก็งกำไรในอสังหาฯ ได้หมดไปแล้ว ดอกเบี้ยในปัจจุบันสูง และธนาคารก็ระวังตัวมาก โอกาสหนี้เสียลดลง และบ้านหลังที่ 2 และ 3 เป็นเรียลดีมานด์ไม่ใช่เก็งกำไร”

กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าทิศทางอสังหาฯ ในปี 2567 เติบโตตามจีดีพีของประเทศมีทั้งโอกาสและความเสี่ยงจากเศรษฐกิจระดับโลกที่มีความไม่แน่นอน มีความกังวลการขยายตัวสงครามจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจท่ามกลางปัจจัยลบกำลังซื้อในประเทศที่เปราะบางมีผลต่อยอดปฏิเสธสินเชื่อ

แม้จะมีปัจจัยบวกปัจจัยบวกที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริม และกระตุ้นกำลังซื้อในปีนี้ มีหลายปัจจัย เช่น การต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียม โอน-จดจำนอง ออกไปอีก 1 ปี รวมถึงมาตรการฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 มี.ค. 2567 นี้จะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจรวมถึงภาค อสังหาฯ กลับมาคึกคักอีกครั้ง

“ปีนี้บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการมูลค่า 25,920 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 9 โครงการ และ แนวราบ 3 โครงการ พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 17,800 ล้านบาท เติบโตประมาณ 8% จากปี 2566 และเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 8,700 ล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ เพราะรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจครึ่งปีแรกก่อนปรับแผนในไตรมาส 3-4 อีกครั้ง”

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


เอสซีกางแผน5ปีรายได้1.5แสนล้านปี67ผุด17โครงมูลค่า3หมื่นล้าน

เอสซีก้าวสู่ทศวรรษที่3ประกาศแผนปี67ส่ง17 โครงการใหม่มูลค่า 3 หมื่นล้านบาทเน้นแนวราบ 15 โครงการ แนวสูง 5 โครงการคาดสร้างยอดขาย 28,000 ล้านบาทพร้อมวางยุทธศาสตร์5ปีรายได้ทะยาน1.5แสนล้าน

  • SC เปิดแผนปี 2567 รุกโครงการใหม่ 17 โครงการมูลค่า 3 หมื่นล้าน
  • เน้นแนวราบ 15 โครงการ ส่งแบรนด์ใหม่ Connoisseur เริ่มต้น 80 ล้าน
  • วางยุทธศาสตร์โตจาก 4 กลุ่มธุรกิจ มั่นใจรายได้ปี 67 นิวไฮ 2.8หมื่นล้าน
  • วางแผน 5 ปี (2567-2571) สร้างรายได้โต 1.5แสนล้านบาท

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยถึง แผนของบริษัทในปี 2567 จะมีโครงการเพื่อขายทั้งสิ้น 86 โครงการ มูลค่ารวม 91,000 ล้านบาท เปิดโครงการใหม่รวม 17 โครงการ มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 

  • โครงการใหม่ แนวราบ 15 โครงการ มูลค่า 25,000 ล้านบาท โดยมีไฮไลท์แบรนด์ใหม่ชื่อ คอนนาเซอร์ (Connoisseur) ราคาเริ่มต้น 80 ล้านบาท และ บ้านไลฟ์สไตล์เฉพาะ 
  • โครงการใหม่ แนวสูง 2 โครงการ มูลค่า 5,000ล้านบาท  ภายใต้ แบรนด์ Reference

พร้อมวางเป้าหมายสร้างธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ รวมจำนวนทั้งสิ้น 17 โครงการ จาก 4 ธุรกิจ แบ่งเป็น 

  • อาคารสำนักงานให้เช่า – มีพื้นที่เช่ารวม 120,000 ตร.ม. จากอาคารสำนักงานรวม 6 อาคาร

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น 

  • โรงแรม – มีจำนวนห้องพักรวม 545 keys จากโรงแรม 3 โครงการ เปิดแล้วที่ YANH ราชวัตร 78 keys กำลังจะเปิดปลายปีนี้ Kromo (ครอโม) ทำเลสุขุมวิท 29 บริหารโดย Curio Collection by Hilton 306 keys และเปิดต้นปีหน้า ทำเลพัทยา 161 keys 
  • คลังสินค้า – มีพื้นที่เช่ารวม 160,000 ตร.ม. จากคลังสินค้ารวม 4 โครงการ ดำเนินการแล้วที่ทำเลนครสววรค์ 16,000 ตร.ม. กำลังจะเปิดในปีนี้และปีหน้าอีก 144,000 ตร.ม. ใน 3 ทำเล บางนา กม.20 บางนา กม.22 และแหลมฉบัง และยังมีการร่วมลงทุนกับสตอเรจ เอเชีย บุกตลาด Self Storage ภายใต้แบรนด์ i-Store 
  • อสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าในสหรัฐอเมริกา – มีห้องพักรวม 78 ห้อง ใน 4 ทำเลใจกลางเมืองบอสตัน 

ตั้งยอดขายปี67นิวไฮ 2.8หมื่นล้าน

สำหรับเป้าหมายรายได้ของบริษัทในปี 2567 โดยคาดการณ์ยอดขายนิวไฮ 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 65% แนวสูง 35% ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 26,500 ล้านบาท จากธุรกิจหลากหลาย ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย แนวราบ-แนวสูง (engine 1) และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (engine 2)

ทั้งนี้มีมูลค่าการลงทุนทั้งหมด 25,000 ล้านบาท ในหลากหลายธุรกิจ ที่อยู่อาศัย คลังสินค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน มีจำนวนโครงการรวมทุกธุรกิจมากถึง 103 โครงการ

5 ปีรายได้พุ่ง1.5แสนล้านบาท

ขณะเดียวกันได้วางแผนทิศทางธุรกิจ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2567-2571 บนความหลากหลายโดยวางเป้าหมายสร้างรายได้รวม (portfolio revenue) รวม 5 ปี (2567-2571) จากหลากหลายธุรกิจมากกว่า 150,000 ล้านบาท

พร้อมการลงทุนอย่างเหมาะสม เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนทุน D/E น้อยกว่า 1.5 รวมถึงวางส่วนผสมกำไร จากธุรกิจที่หลากหลาย โดยมีกำไรจากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอมากกว่า 25%

ความสำเร็จปี 2566 SC ทำยอดขายนิวไฮ 4 ปีต่อเนื่อง โดยการก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ด้วยวิสัยทัศน์ SC the Evolution สร้างคุณค่าสู่คนและโลก เติบโตบนความหลากหลาย ผ่านแนวคิดวิวัฒนาการองค์กร ปรับตัวเข้ากับบริบท เติบโตพร้อมกันทั้ง3ด้าน คือ

People ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตดีด้วยสินค้า-บริการคุณภาพสูง และมีนวัตกรรม พนักงานเติบโต มั่นคง ภูมิใจ แสดงศักยภาพได้เต็มที่

Planet สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

และ Profit กำไรเติบโต จากธุรกิจที่หลากหลาย

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 9ก.พ. ที่ระดับ 35.84 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทยังผันผวนอ่อนค่า ทั้งปัจจัยธนาคารกลางญี่ปุ่น-แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธปท.-แรงขายสินทรัพย์ไทยในช่วงนี้ -ความกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ไฮไลท์สำคัญวันนี้ตลาดจับตา การปรับปรุง Seasonal Factor ของอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 9ก.พ. 2566 ที่ระดับ  35.84 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.81 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน   พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทมีแนวโน้มผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้านสำคัญแถว 36.00 บาทต่อดอลลาร์ได้ไม่ยาก หลังในช่วงที่ผ่านมาเงินบาทได้อ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านที่เราเคยประเมินไว้แถว 35.80-35.90 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน

ท่ามกลางการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ (ที่ส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยนญี่ปุ่น หลังผู้ว่าฯ ธนาคารกลางญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยมากเท่าที่ตลาดคาดได้)

ทั้งนี้ ความกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หากสามารถช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นต่อของราคาทองคำได้บ้าง ก็จะช่วยลดทอนแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทในระยะนี้ แต่ต้องจับตาทิศทางราคาน้ำมันดิบเช่นกัน เพราะหากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ก็อาจกดดันเงินบาทผ่านโฟลว์ธุรกรรมซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ในกลุ่มพลังงานได้

อนึ่ง หากเงินบาทอ่อนค่าทะลุโซน 36.00 บาทต่อดอลลาร์ เรามองว่า ในเชิงเทคนิคัล จะทำให้เทรนด์การแข็งค่าของเงินบาทตั้งแต่เดือนตุลาคมนั้นเสียไป เปิดโอกาสให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงต่อสู่โซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ หากมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม จากการประเมิน Valuation ของเงินบาท เรามองว่า ในโซน 36.50-37 บาทต่อดอลลาร์ นั้น

ค่าเงินบาทถือว่า Undervalued เป็นอย่างมาก (หรือถูกมาก) ทำให้เรารอจังหวะที่จะ Sell on Rally USDTHB หรือเตรียมหาจังหวะเปิดสถานะ Long THB (มองเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่า) โดยเราประเมินว่า หากเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ ก็อาจติดโซนแนวรับแถว 35.50-35.60 บาทต่อดอลลาร์

เราขอเน้นย้ำว่า ในช่วงนี้ ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.75-36.05 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 35.78-35.94 บาทต่อดอลลาร์) กดดันโดยการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หลังยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานสหรัฐฯ (Jobless Claims) ออกมาดีกว่าคาด

ทั้งนี้ แรงกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าก็ชะลอลงบ้าง หลังเงินดอลลาร์ย่อตัวลงบ้าง จากท่ามกลางบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน การย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ร้อนแรงขึ้น หลังทางการอิสราเอลได้ปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของกลุ่มฮามาส ได้ส่งผลให้ราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นบ้าง และช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาท

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ท่ามกลางรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนในช่วงนี้ที่ยังคงสดใส อาทิ Walt Disney +11.5% นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบ

นำโดย Exxon Mobil +1.7% อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปได้มากนัก ท่ามกลางแรงขายทำกำไรของบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ Apple -0.7%, Nvidia -0.7% ส่งผลให้โดยรวม ดัชนี S&P500 ปิดตลาดเพียง +0.06%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ย่อตัวลงเล็กน้อย -0.07% ท่ามกลางรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาผสมผสาน โดยในฝั่งกลุ่ม Healthcare ราคาหุ้น AstraZeneca ดิ่งลง -6.4% จากรายงานผลประกอบการที่แย่กว่าคาด ขณะที่ หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าแบรนด์เนม อย่าง Unilever +3.2% และ Kering +4.9% ตามรายงานผลประกอบการที่ออกมาสดใส

ในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะปรับตัวขึ้น ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย และบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี สหรัฐฯ

ล่าสุดยังคงสะท้อนความต้องการของผู้เล่นในตลาดที่ดีอยู่ ได้ช่วยให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 4.15% ในช่วงระยะสั้นนี้ เราคาดว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม การปรับปรุง Seasonal Factor ของอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ โดยต้องระวังในกรณีที่ การปรับปรุงดังกล่าว

สะท้อนว่า อัตราเงินเฟ้ออาจชะลอลงช้ากว่าที่ตลาดเคยประเมินไว้ ก็จะยิ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดทยอยลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยหลายครั้งของเฟด ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีโอกาสผันผวนสูงขึ้นได้

ดังนั้น เราจึงขอเน้นย้ำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเน้นกลยุทธ์ Buy on Dip เพื่อลดความเสี่ยงการขาดทุนเมื่อมองภาพผลตอบแทนโดยรวม หรือ Total Return ซึ่งหากบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ สามารถปรับตัวขึ้น ทะลุระดับ 4.20% ไปได้ ก็จะมีความน่าสนใจในการทยอยเข้าซื้อเป็นอย่างมาก

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์โดยรวมเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideways โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด และท่าทีไม่รีบลดดอกเบี้ยของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ทั้งนี้ บรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ก็มีส่วนกดดันเงินดอลลาร์ได้บ้าง ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 104.1 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 104-104.4 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ จังหวะการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) ย่อตัวลงสู่โซน 2,030-2,040 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ร้อนแรงขึ้น พร้อมกับการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ จะช่วยหนุนให้ราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นใกล้โซน 2,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อีกครั้ง

สำหรับวันนี้ เราประเมินว่า ไฮไลท์สำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะจับตา คือ การปรับปรุง Seasonal Factor ของอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้ แนวโน้มการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อที่ผ่านมานั้น สูงกว่า หรือ ต่ำกว่า ข้อมูลหลังการปรับปรุงได้ ทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจปรับสมมติฐานต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยเฟดได้

โดยเฉพาะในกรณีที่ อัตราเงินเฟ้อ หลังการปรับปรุงข้อมูลดังกล่าว กลับมีแนวโน้มชะลอตัวลงได้ช้าจากเดิม ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งเชื่อว่า เฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ย (หรือเฟดอาจลดดอกเบี้ยตาม Dot Plot ล่าสุดได้จริง)

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ลุ้นกันศุกร์นี้!หึ่งเกมฟุตบอลจ่อเพิ่มใบน้ำเงินลงดาบนักเตะ

เดลี่ เทเลกราฟ เผย บอร์ดสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ไอเอฟเอบี) มีแนวโน้มเพิ่มกฏกติกาใหม่ด้วยการอนุมัติให้ผู้ตัดสินมีสิทธิ์ลงดาบนักเตะด้วยใบน้ำเงินเพิ่มเติมจากใบเหลือง และใบแดงได้ในการประชุมพิจารณาวันศุกร์ที่ 9 ก.พ.นี้

สื่อเมืองผู้ดีเผยว่า ไอเอฟเอบี ซึ่งมีสิทธิ์ขาดในการพิจารณาเปลี่ยนแปลงกฏกติกาเกมฟุตบอลแสดงท่าต้องการเพิ่มใบน้ำเงินมาให้ท่านเปาได้ใช้ในการควบคุมการแข่งขันเพิ่มเติมจากใบเหลือง และใบแดงโดยใบน้ำเงินถูกกำหนดให้ใช้กับนักเตะที่ทำฟาวล์คู่แข่งด้วยการตัดเกมรุกในจังหวะที่มีสิทธิ์เป็นประตู แต่ไม่ได้เข้าปะทะอย่างรุนแรงจนถึงขนาดเป็นใบแดง

นอกจากนี้ ใบน้ำเงินจะใช้ในการลงดาบพ่อค้าแข้งที่ใช้วาจาหยาบคาบต่อผู้ตัดสินด้วยโดยนักเตะที่ได้ใบน้ำเงินจะต้องออกจากสนามไปนั่งอยู่ในซุ้มเป็นเวลา 10 นาทีก่อนที่จะกลับมาลงเล่นได้

นอกจากนี้ เทเลกราฟ เสริมรายละเอียดด้วยว่านักเตะที่ได้ใบน้ำเงินสองใบจะถูกไล่ออกเช่นเดียวกับการได้ใบแดง และในกรณีที่พวกเขาได้ใบเหลืองและใบน้ำเงินอย่างละใบก็จะโดนไล่ออกเช่นกัน

ขณะเดียวกัน มีการเปิดเผยว่ากฏใบน้ำเงินน่าจะนำมาทดลองใช้ในซีซั่นหน้าซึ่งอาจเป็นเกม เอฟเอคัพ ทั้งทีมชายและทีมหญิง

อย่างไรก็ดี อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธาน สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) แสดงความไม่เห็นด้วยที่เกมลูกหนังจะมีใบน้ำเงินมาสร้างความยุ่งเหยิงอีกทั้งๆที่มีใบเหลือง และใบแดงให้ท่านเปาได้ใช้จัดการกับนักเตะอยู่แล้ว

“มันไม่เป็นเกมฟุตบอลอีกต่อไปแล้ว” เซเฟริน เอ่ย

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


4 สุดยอดเคล็ดลับล้างผัก ผลไม้สะอาดไร้สารเคมีตกค้างเกือบ 100 %

ใครก็ตามที่หลงใหลการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่สมดุล เต็มไปด้วยผลไม้และผักแสนอร่อย ไม่ว่าคุณจะเตรียมผลไม้และผักเพื่อปั่นเป็นสมูทตี้สำหรับมื้อเช้าแสนวิเศษ สลัดมื้อกลางวันแสนอร่อย หรืออาหารเย็นเบาๆ ย่อยง่าย การเรียนรู้วิธีที่ดีที่สุดในการล้างและเตรียมส่วนผสมนั้นเป็นขั้นตอนสำคัญอันดับแรกในการสร้างสรรค์มื้ออาหารแสนอร่อยเสมอ! ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปพบกับ 5 เคล็ดลับสุดยอดในการล้างผลไม้และผัก ช่วยให้มั่นใจว่าส่วนผสมเพื่อสุขภาพที่คุณชื่นชอบนั้นทั้งสะอาดและอร่อยตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

4 เคล็ดลับสุดยอดในการล้างผลไม้และผัก

1.ขัดถูใต้ก๊อกน้ำเย็น

หากคุณกำลังจะทานผลไม้หรือผักที่มีผิวสัมผัสขรุขระ ซึ่งอาจมีสิ่งสกปรกเกาะอยู่ วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำความสะอาดอย่างรวดเร็วคือการล้างใต้ก๊อกน้ำเย็นเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที ขณะที่ขัดถูเบาๆ ด้วยแปรงขนนุ่ม จากนั้นสามารถซับอาหารให้แห้งอย่างเบามือด้วยผ้าขนหนู ก่อนที่จะเริ่มทานหรือใช้เป็นส่วนผสมในมื้ออาหารของคุณ

2. แช่ในน้ำเกลือ

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการล้างผลไม้และผักเพื่อช่วยขจัดแมลงและยาฆ่าแมลงคือการแช่ในน้ำเกลือ เราขอแนะนำให้ใช้เกลือหิมาลัยหรือเกลือทะเล และแช่ผัก ผลไม้ของคุณเป็นเวลาอย่างน้อย 20 นาทีก่อนล้างออกด้วยน้ำไหล จากนั้นผลไม้และผักของคุณก็จะสะอาดและพร้อมทาน

3. ลองใช้เบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดา หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทำความสะอาดผลไม้และผักของคุณ เพียงเติมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาลงในน้ำ 500 มล. และแช่ผลไม้หรือผักของคุณเป็นเวลา 15 นาทีก่อนล้างออก

4. แช่ในน้ำส้มสายชูขาว

สำหรับการใช้น้ำส้มสายชูขาว คุณต้องผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน กับน้ำ 4 ส่วน เมื่อเตรียมน้ำแช่เสร็จแล้ว ใส่ผลไม้หรือผักที่เลือกไว้ แช่ทิ้งไว้ 15-20 นาทีก่อนล้างออกและซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด โปรดทราบว่าผลไม้ที่มีรูพรุน เช่น เบอร์รี่เนื้อนิ่ม อาจจะเละหากแช่ไว้นานเกินไป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ภาษาอังกฤษแบบไทย ๆ อย่าเอาไปใช้ เดี๋ยวฝรั่ง งง!?

ภาษาอังกฤษง่าย ใคร ๆ ก็พูดตามได้ แต่คุณแน่ใจไหมว่าสิ่งที่คุณพูดอยู่นั้นถูกต้องแล้วจริง ๆ !? เพราะคนไทยหลายคนมักจะเข้าใจผิด เพราะได้ยินภาษาอังกฤษแล้วเอามาใช้โดยไม่รู้ว่าถูกต้องตามหลักภาษาจริงหรือไม่ แล้วยิ่งถ้าเอาไปพูดกับต่างชาติแล้วบอกเลยว่างงแน่นอน! วันนี้เราจึงมาเสนอ ภาษาอังกฤษแบบไทย ๆ ที่เมื่อรู้แล้วก็อย่านำไปใช้ เพราะเดี๋ยวฝรั่งจะงง พร้อมกับคำที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์และเจ้าของภาษามาฝากกัน

  1. ประโยคผิดแกรมมาหรือไม่ถูกต้อง
  • I do a mistake. = ฉันทำพลาด X

ถ้าแปลประโยคนี้ตรงตัวก็ต้องเป็น “I do a mistake.” ฉันทำพลาด ที่ใช้คำว่า do (verb) หรือกริยาที่แปลว่า “ทำ” ซึ่งผิดโดยสิ้นเชิง! เพราะประโยคนี้เขาไม่ใช้คำว่า do กัน ซึ่งประโยคที่ถูกต้องจะต้องเป็นคำว่า “I make a mistake” อย่าจำกันผิดเชียว

  • I prefer something than …. = ฉันชอบ …. มากกว่า X

การใช้คำว่า “prefer” ในการบอกความชอบในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากกว่าอีกสิ่งเป็นเรื่องที่ดี เพียงแต่เราบางคนชอบไปจำสลับกับการใช้การเปรียบเปรยในภาษาอังกฤษโดยการใช้คำว่า than เข้ามา ดังนั้นประโยคที่ถูกต้องคือ “I prefer (something) to (something).” หลัง prefer จะต้องตามด้วย to ในบริบทนี้เพียงเท่านั้น แม้ than จะหมายถึง “กว่า” ในการเปรียบเทียบก็ตาม

ตัวอย่าง I prefer chocolate cake to fruit cake. = ฉันชอบเค้กช็อกโกแลตมากกว่าเค้กผลไม้

  1. ประโยคใช้ผิดความหมาย
  • I’m boring. = ฉันรู้สึกเบื่อ X

เป็นคำที่คนมักจะจำสับสนกันเป็นส่วนใหญ่ที่คิดว่า “I’m boring” แปลว่า รู้สึกเบื่อ แต่จริง ๆ แล้วแปลว่า “ฉันเป็นคนน่าเบื่อ” ประโยคที่ถูกต้องเป็น “I’m bored.” bored ที่มาจาก bore = หน่าย กริยาที่ถูกทำให้เป็นรูปของ Passive Voice ด้วยการเติม D เข้าไป เพราะมีสิ่งที่ทำให้คน ๆ นั้นรู้สึกเบื่อ ไม่ได้อยู่ดี ๆ ก็เบื่อ จึงเป็นที่มาของรูปแบบการถูกกระทำ

ตัวอย่าง I am bored with his old jokes = ฉันเบื่อกับมุขเก่า ๆ ฝืด ๆ ของเขาแล้ว

  • Don’t be serious. = อย่าเครียดไปเลย X

คำว่า “อย่าเครียด” ในภาษาอังกฤษเขาไม่ใช้คำว่า “Don’t be serious.” กันนะ เพราะคนไทยมักจะเข้าใจกันไปว่าคำว่า ซีเรียสจะแปลไปในทางเครียดเสียมากกว่า ถ้าใช้คำว่า อย่าเครียด ขอแนะนำให้ใช้คำว่า Don’t think too much.= อย่าคิดมาก / Don’t worry about it, Don’t be concerned = อย่ากังวลเลย / It’ll be alright. = เดี๋ยวก็ดีเอง อะไรทำนองนี้ดีกว่า ถ้า Don’t be serious. จะหมายถึง อย่าจริงจังหน่อยเลย มากกว่า

  1. ศัพท์ที่ไม่มีในภาษาอังกฤษ
  • Hiso = ไฮโซ X

คำนี้ไม่มีในภาษาอังกฤษแน่นอน แต่ที่แน่ ๆ พื้นฐานของคำนี้มาจากคำว่า “high society” ที่แปลว่า สังคมชั้นสูง ดังนั้นเราต้องใช้คำในการเรียกคนที่มีเงิน กินหรู ดูดีใช้ของแพงว่า “classy” จึงจะถูกต้อง ถ้าใช้คำว่า รวย หรือ rich ก็จะไม่ได้ให้ความไฮโซ แต่จะบอกถึงความรวยแค่นั้น

ตัวอย่าง This shop only serves for classy clients. = ร้านนี้จะให้บริการเฉพาะลูกค้าไฮโซเท่านั้น

  • Minimal = มินิมอลสไตล์ X

“มินิมอล” ที่เราใช้เรียกแฟชั่นที่ดูเรียบง่าย พื้น ๆ ถ้าไปพูดกับต่างชาติบอกเลยว่า โป๊ะ เพราะคำว่า “minimal” เป็น คำคุณศัพท์ (adjective) ที่แปลว่า น้อยหรือเล็กที่สุด ถ้าจะพูดถึงสไตล์เสื้อผ้าที่มินิมอลให้ใช้คำว่า “minimalist” ที่หมายถึงความเรียบง่ายในแง่ของศิลปะ ก็จะได้คำว่า “minimalist fashion” ที่แปลว่า แฟชั่นสไตล์มินิมอลนั่นเอง

ตัวอย่าง Minimalist fashion is all about keeping things simple. = แฟชั่นมินิมอลคือการคงให้ทุกอย่างเรียบง่ายเข้าไว้

  1. ศัพท์ที่เข้าใจผิดหรือจำสลับกับคำอื่น
  • Tissue = ทิชชู่ X

คำว่า “ทิชชู่” ในภาษาอังกฤษตามจริงแล้วมีหลายคำมาก ซึ่งต้องใช้ให้ถูกบริบท ไม่งั้นจะต่างชาติจะเกิดความงงได้ ซึ่งจะมี napkin = กระดาษหรือผ้าเช็ดปากบนโต๊ะอาหาร (แผ่นสี่เหลี่ยม) / toilet paper, toilet roll = กระดาษชำระแบบม้วน / paper towel = กระดาษซับมันอาหาร / facial tissue = กระดาษเช็ดหน้า / wet wipe = ทิชชู่เปียก

  • Fast Food = อาหารขยะ X

คนไทยอาจจะคิดว่า “fast food” หรือ “ฟาสต์ฟู้ด” คืออาหารจำพวกอาหารขยะ แต่จริง ๆ คำนี้หมายความว่า อาหารจานด่วนที่หาได้ทั่วไป รวดเร็วและไม่แพง คล้าย ๆ ตามสั่งบ้านเรา ถ้าอาหารขยะที่มีสารอาหารน้อย ไขมันและแป้งเยอะอย่างเฟรนช์ฟรายส์ พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ เป็นต้น จะต้องใช้คำว่า “junk food” ที่มาจากคำว่า junk ที่แปลว่า “ขยะ” นั่นเอง

ตัวอย่าง She is fat because eats a lot of junk food and doesn’t get enough exercise. = เธออ้วนเพราะเธอกินอาหารขยะเยอะมากและออกกำลังกายไม่เพียงพอ

หลังจากที่ได้อ่านกันไปแล้ว ภาษาอังกฤษแบบไทย ๆ คำไหนที่ใครกำลังพูดผิดอยู่ อย่าลืมนำไปปรับแก้ไขกันนะ ฝรั่งจะได้เข้าใจเรามากขึ้น บอกเลยดูโปร ปัง เป๊ะขึ้น ไม่โป๊ะแน่นอน ลองเอาไปฝึกใช้กับเพื่อน ๆ ต่างชาติกันดูนะ!

ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com


เอกสารต่อใบขับขี่ 2567 ใช้อะไรบ้าง และมีค่าใช้จ่ายเท่าไร

การต่ออายุใบขับขี่ เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ เนื่องจากในปัจจุบันใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีพนั้นถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงใบขับขี่แบบชั่วคราว (2 ปี) และแบบ 5 ปี มาอัปเดตกันสักหน่อยดีกว่าว่า “เอกสารต่อใบขับขี่ จะต้องเตรียมเอกสารใดบ้าง และมีค่าใช้จ่ายในการต่อใบขับขี่ ทั้งหมดเท่าไหร่

อัปเดตล่าสุด การต่อใบขับขี่ 2567 สามารถทำได้ทั้งการจองคิวล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ หรือ Walk In เลยแบบไม่ต้องจองคิว

การต่ออายุใบขับขี่ จากชนิดชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี

 เอกสารต่อใบขับขี่ ชนิดชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี

  1. ใบขับขี่ชั่วคราวอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปี
  2. บัตรประชาชนฉบับจริง
  3. ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน 

ขั้นตอนการต่อใบขับขี่จากชนิดชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี

  1. จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือ Walk In แบบไม่ต้องจองคิว
    >> วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ ด้วย แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
  2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ประกอบไปด้วย
    2.1 ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
    2.2 ทดสอบสายตาทางลึก
    2.3 ทดสอบสายตาทางกว้าง
    2.4 ทดสอบปฏิกิริยาเท้าในการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
  3. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
  4. ชำระค่าธรรมเนียมและค่าใบขับขี่รถยนต์ 505 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 255 บาท 

หมายเหตุ: ผู้ขับขี่สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน หรือ 2 เดือน หากขาดต่ออายุใบขับขี่ กรณีสิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ หากสิ้นอายุเกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนการอบรม, ทดสอบข้อเขียน และทดสอบขับรถ

การต่ออายุใบขับขี่ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี

เอกสารต่อใบขับขี่ ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี

  1. ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน
  2. บัตรประชาชนฉบับจริง 
  3. ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน

ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี

  1. ปี 2567 กรมขนส่งทางบกได้พัฒนาระบบการอบรมใบอนุญาติขับรถผ่านระบบ e-Learning ที่เว็บไซต์ https://dlt-elearning.com/
  2. จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue  หรือ Walk In แบบไม่ต้องจองคิว
    >> วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ ด้วย แอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue
  3. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
    2.1 ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
    2.2 ทดสอบสายตาทางลึก
    2.3 ทดสอบสายตาทางกว้าง
    2.4 ทดสอบปฏิกิริยาเท้าในการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
  4. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
  5. ชำระค่าธรรมเนียมและค่าใบขับขี่รถยนต์ 505 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 255 บาท 

หมายเหตุ: ผู้ขับขี่สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน หากขาดต่ออายุใบขับขี่ กรณีสิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ หากสิ้นอายุเกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนการทดสอบข้อเขียน, การสอบขับรถ และใบรับรองแพทย์ที่ขอไว้ไม่เกิน 1 เดือน

วิธีทำใบขับขี่ใหม่ 2567 (รถจักรยานยนต์ / รถยนต์)

เอกสารที่ต้องใช้ทำใบขับขี่ใหม่ (รถจักรยานยนต์ / รถยนต์)

  1. บัตรประชาชนตัวจริง
  2. ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน

ขั้นตอนการทำใบขับขี่ใหม่ 

  1. จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือ Walk In แบบไม่ต้องจองคิว
    >> วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ ด้วย แอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue
  2. วันที่ 1 ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย(ตาบอดสี สายตากว้าง-ลึก ความไวเท้า)
  3. อบรม 5 ชั่วโมง
  4. ทดสอบข้อเขียน จองคิวสอบขับรถ
  5. วันที่ 2 ทดสอบขับรถ และทำใบอนุญาต
  6. ชำระค่าธรรมเนียมและค่าใบขับขี่รถยนต์ 305 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 205 บาท

การต่อใบขับขี่ออนไลน์ กรมขนส่งทางบกได้พัฒนาระบบการอบรมใบอนุญาติขับรถผ่านระบบ e-Learning ที่เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com โดยไม่ต้องเสียเวลาไปอบรมที่ขนส่ง ประชาชนทุกคนสามารถเข้าไปลงทะเบียน เพื่อเข้ารับการอบรมออนไลน์ได้ โดยมีลำดับขั้นตอนคลิกที่นี่ >> ขั้นตอนอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ เสร็จไวภายใน 1 ชั่วโมง ไม่ต้องไปขนส่ง

สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ กรมการขนส่งทางบก Call Center 1584 หรือ Line ID: @dltnews 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


เพราะอะไร “เกลือ” จึงช่วยให้เราปอกเปลือกไข่ต้มได้ง่ายขึ้น

“เกลือ” เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่มีอยู่ติดบ้าน ติดครัวกันอย่างแน่นอน สำหรับประโยชน์อันดับแรกของเกลือที่เรามักนึกถึงนั่นคือเป็นแค่สิ่งที่นำไปปรุงรสอาหาร แต่แท้จริงแล้วเราสามารถนำเกลือไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่านั้น
และหนึ่งประโยชน์ที่ใครต่างนึกถึงเวลาจะต้มไข่ จะได้รับคำแนะนำว่าควรเหยาะเกลือลงไปเล็กน้อยเพื่อจะได้ช่วยให้เวลาต้มไข่เสร็จแล้วเราสามารถปอกไข่ได้ง่ายขึ้น ว่าแต่เพราะอะไรเกลือจีงทำให้เราสามารถปอกเปลือกไข่ต้มได้สะดวกขึ้น

คงเบื่อกันแล้วเวลาปอกเปลือกไข่ต้มแล้วมีเนื้อไข่ขาวติดมากับเปลือก นอกจากจะรู้สึกรำคาญแล้ว สุดท้ายถ้ายังปอกต่อไปเรื่อยๆ เราอาจแทบไม่เหลือไข่ขาวให้ทานเลย แต่สำหรับคำแนะนำที่ให้เหยาะเกลือลงไปเล็กน้อยในขณะที่ต้มไข่เพื่อจะทำให้ปอกเปลือกไข่ได้ง่ายนั้น เหตุผลก็เป็นเพราะว่าเกลือคือโซเดียว โซเดียมจะทำปฏิกิริยาทางเคมีกับเปลือกไข่ที่เป็นแคลเชียม ซึ่งจะทำให้แรงตึงตัวที่อยู่บนผิวไข่นั้นลดลง ทำให้เปลือกไข่ร่อนออกมาจากเนื้อไข่ ทำให้เราสามารถปอกเปลือกไข่ต้มได้ง่ายขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 09/02/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a34,450.0034,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,232.0033,837.1235,050.00
ทองรูปพรรณ 90%2,008.8030,453.41n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,785.6027,069.70n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,004.0015,220.64n/a
ทองรูปพรรณ 40%781.0011,839.96n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,313.0035,065.08n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 09/02/2567



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9537.5537.5537.8537.5537.5537.5537.5537.5537.5537.55
แก๊สโซฮอล์ 9135.7835.7836.2835.7835.7835.7835.7835.7835.7835.78
แก๊สโซฮอล์ E2035.4435.4435.9435.4435.4435.4435.4435.4435.44
แก๊สโซฮอล์ E8535.5935.5935.59
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม44.9449.5449.5449.5444.94
เบนซิน 9545.4446.6145.9445.5945.44
ดีเซล B729.9429.9430.2429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.5443.6444.8443.6443.6441.54
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า