อสังหาฯลุ้นไตรมาส2 รัฐออกมาตรการกระตุ้นฟื้นตลาดโต10%
นายกสมาคมอาคารชุดไทย เผยรัฐบาลเตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นอสังหาฯไตรมาส2 ปีนี้ นำร่องบีโอไอส่งเสริมการลงทุนบ้านและคอนโดในราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาทเพื่อคนที่มีรายได้น้อย คาดสิ้นปีนี้ตลาดโต10%
ไตรมาสแรกปี 2567 ใกล้ผ่านพ้นไป แต่ยังไม่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จากรัฐบาล แถมยังต้องผิดหวังเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปฏิเสธผ่อนคลายหลักเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-Value : LTV) เป็นการชั่วคราวในปี 2567 แต่ล่าสุดนายกสมาคมอาคารชุดไทย แย้มว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 2 นำร่องบีโอไอส่งเสริมการลงทุนบ้าน-คอนโด ราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน
พีระพงศ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าของ 8 มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้ยื่นต่อนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ว่า มีหลายเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอน คาดว่าจะมีบางส่วนที่ไม่ต้องเข้าครม. ออกมาก่อน เรื่องที่ชัดเจนที่สุด คือ สนับสนุนการมีบ้านหลังแรกของผู้มีรายได้น้อย จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ สำหรับบ้านและคอนโดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท จากเดิม 1.2 ล้านบาท โดยเปิดให้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนสร้างโครงการ
“ส่วนมาตรการอื่นๆ อยู่ระหว่างการดำเนินการ รอภาครัฐหรือนายกรัฐมนตรีแถลง คงอีกไม่นาน คาดว่าช่วงไตรมาส 2 น่าจะมีผลกลางปีจนถึงสิ้นปี จากมาตรการครึ่งแรก ส่วนมาตรการที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งอาจต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องนำเข้าครม. ซึ่งมีกระบวนการดำเนินการตามขั้นตอน อย่างน้อยอีก 3-4 เดือน ”
แต่ส่วนที่ไม่ได้แล้ว คือ มาตรการ LTV ที่ผ่อนปรนให้สถาบันการเงินปล่อยกู้บ้านหลังที่ 2 ได้เกิน 100% ของราคาประเมิน ที่มีข่าวออกมาจากนายกรัฐมนตรีและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าได้ส่งจดหมายถึงสมาคมอสังหาฯแล้วว่ายังไม่ผ่อนผันให้
“สมาคมฯผิดหวัง เพราะเป็นมาตรการที่ส่งผลกระทบมากที่สุด การที่ผ่อนผันไม่ได้ส่งกระทบเพิ่ม”
ส่วนประเด็นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างถูกจัดเก็บแล้ว 100 % และปีที่ผ่านมาจ่ายไปแล้ว ทางสมาคมฯ ยังสู้ต่อเพื่อขอให้ลดหย่อน 50% ระยะเวลา 1 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว
นอกจากนี้ มาตรการที่ขอไปคือ พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องการถือครองที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ เช่น ขยายระยะเวลาการเช่าจาก 30 ปี เป็น 60 ปี โดยกำหนดการเช่าให้เป็นทรัพยสิทธิ, ทบทวนหลักเกณฑ์ของ บีโอไอ ที่เกี่ยวกับการที่ชาวต่างชาติสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้, ให้วีซ่าระยะยาว 10 ปี ที่ซื้อที่อยู่อาศัย 10 ล้านบาทขึ้นไปและมิดเทอมวีซ่า 5 ปี ที่ซื้อที่อยู่อาศัย 5 ล้านบาทขึ้นไป
และการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนเหลือ 1% ค่าจดจำนองเหลือ 0.01% ซึ่งต่ออายุไปแล้วถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 โดยขอให้ปรับหลักเกณฑ์มูลค่าการซื้อที่อยู่อาศัย จากไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 5-7 ล้านบาท หรือให้สิทธิการลดหย่อน 3 ล้านบาทแรก เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้มีกำลังซื้อที่สูงกว่า 3 ล้านบาททั้งบ้านสร้างใหม่ บ้านมือสอง
“หากออกมาตรการมาจะส่งผลดี จะมาตรการเดียวก่อนหรือ 3 มาตรการก็ดีทั้งนั้น เพราะปัจจุบันตลาดทรงตัวเพราะมีปัญหาดอกเบี้ยแพง ยอดกู้ต่ำ เพราะมีส่วนต่างเยอะคนชะลอการซื้อ คาดเห็นข่าวดีในไตรมาส 2”
พีระพงศ์ กล่าวว่า ปีนี้ตลาดน่าเติบโต เพราะรัฐบาลตั้งเป้าจีดีพีโต 3% เป็นตัวเลขที่ช่วยกระตุ้นอสังหาฯ ได้ถึง 10% หลังจากที่ผิดหวังจากปีก่อนที่จีดีพีโตไม่ถึง 2% หากได้มาตรการมาเร็วจะช่วยให้ตลาดเติบโตสูงขึ้นได้ เพราะใกล้จบไตรมาส1/2567 ถ้าออกครึ่งปีหลังได้จริงน่าจะส่งผลในไตรมาส 4/2567 แต่ถ้าไม่มีอาจเป็นปี 2568
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากท่องเที่ยวฟื้นตัวและฟรีวีซ่าจีน ตลาดอสังหาฯโต 10% จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะตลาดคอนโดเริ่มฟื้นตัวยอดขายเพิ่มขึ้น ส่วนสต็อกคอนโดที่มีอยู่ในปัจจุบันต้องระยะเวลาในการระบาย 24 เดือน
ส่วนแนวโน้มการเข้ามาของกลุ่มลูกค้าจีนเพิ่มขึ้นจากปกติเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่เข้ามาซื้อในไทยมานาน แต่ชะลอช่วงโควิด-19 ปัจจุบันเริ่มกลับมาจากปัญหาอสังหาฯในจีนทำให้หันมาลงทุนในไทยแทน ่และยังมีผู้ซื้อรายใหม่อย่าง ไต้หวัน ที่ติดท็อปไฟว์ เมียนมาร์ ติดท็อปเท็น รัสเซีย ที่เข้ามามากขึ้น จนติดท็อปทรี
ด้านพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ประเด็นอัตราดอกเบี้ยต้องรอ ธปท. ส่งสัญญาณ เชื่อว่าคงรอดูเฟดลดก่อน เพราะหากรีบลดอาจเกิดปัญหาเงินจะไหลออกกระทบต่อตลาดหุ้น แต่ช่วงนี้นักท่องเที่ยวเข้ามามากเพราะค่าเงินอ่อน แต่ต้องยอมรับว่า อัตราดอกเบี้ยสูงส่งผลกระทบต่อการผ่อนบ้าน โดยเฉพาะผู้กู้รายใหม่
ส่วนการเข้ามาลงทุนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าต่างชาติ ทำให้เกิดความคึกคักในโซนอีอีซี แต่โรงงานหลายแห่งลดกำลังการผลิตค่อนข้างเยอะ เพราะการค้าโลกไม่ดี พนักงานโรงงานในชลบุรี ศรีราชาลดค่าล่วงเวลา (OT) ทำให้บ้านในชลบุรีขายค่อนข้างยาก
“ปัจจุบันที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า3ล้านบาทยอดการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้น50% ยอดการซื้อหายไปเกินครึ่ง”
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
Cloud11ก่อสร้างคืบหน้า60% ปักหมุดครีเอเตอร์ฮับใหญ่ที่สุดในเอเชีย
Cloud 11 มูลค่าโครงการกว่า 40,000 ล้านในเครือ MQDC เผยก่อสร้างคืบหน้า 60% ตอกย้ำเป้าหมายครีเอเตอร์ฮับใหญ่ที่สุดในเอเชีย พร้อมเปิดในปี 2568หวังผลักดันกรุงเทพฯเป็นแหล่งรวมเหล่าครีเอเตอร์ทั่วโลก
นายองศา จรรยาประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการ Cloud 11 เผยว่าโครงการมีความคืบหน้าไปอย่างมาก มีการเดินหน้าก่อสร้างตามแผนงาน และได้ลงทุนสร้างระบบนิเวศสำหรับวงการสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดและส่งเสริมกลุ่มครีเอเตอร์บนแนวคิด “Empowering Creators” และมองว่าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และคอนเทนต์จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ร่วมพัฒนาระบบเศรษฐกิจไทย
“ปัจจุบันงานก่อสร้างโดยบริษัทไทยโอบายาชิ มีความคืบหน้าไปกว่า 60% ซึ่งบริษัทฯ และพันธมิตรได้มีจัดพิธีฉลองปิดงานโครงสร้างอาคารที่ยอดอาคาร ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งงานระบบและการตกแต่งภายใน เพื่อเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และคอนเทนต์ของเอเชีย”
นายองศา กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมของ Creator Economy ยังคงเป็นอุตสาหกรรมยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ทั่วทุกมุมโลก หลายคนต่างสนใจที่จะเป็นนักสร้างคอนเทนต์กันอย่างคับคั่ง ส่งผลให้มีมูลค่าตลาดสูงถึง 2.5 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐในปัจจุบัน และมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าของอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในปี 2570 ซึ่งมูลค่าของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และคอนเทนต์ของไทยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 10% ของมูลค่ารวมจีดีพีประเทศไทย และยังพบด้วยว่ากรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในแหล่งรวมเหล่าครีเอเตอร์ที่มีศักยภาพที่ใหญ่ที่สุด ด้วยเหตุนี้ กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญในการช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของภูมิภาคให้เติบใหญ่ได้อย่างมาก
“โครงการ Cloud 11 แสดงศักยภาพให้เห็นว่า เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้ไปได้ไกลกว่าเดิมผ่านการพัฒนาพื้นที่ซึ่งได้รับการออกแบบและสิ่งความอำนวยความสะดวกที่พร้อมรองรับความต้องการของครีเอเตอร์รูปแบบต่างๆ ให้สมบูรณ์ ช่วยทลายขีดจำกัดและเสริมศักยภาพให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้เต็มที่”
นายองศา ย้ำอีกว่าการเป็นครีเอเตอร์ฮับจะต้องพัฒนาโครงการให้มีองค์ประกอบครบถ้วนในการสนับสนุนครีเอเตอร์ ดังนั้น โครงการ Cloud 11 จึงไม่ได้เป็นแค่โครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป แต่เป็นโครงการที่มีระบบนิเวศพร้อมให้ครีเอเตอร์เข้าถึงเงินทุน บุคลากร เครื่องมืออุปกรณ์และเทคโนโลยีทันสมัยในการสร้างงานและบรรยากาศแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์ผลงานอีกด้วย
ที่ผ่านมา เราจึงได้ลงทุนและจัดงานเทศกาลกิจกรรมเพื่อเป็นแพลตฟอร์มเวทีให้กับกลุ่มครีเอเตอร์โดยเฉพาะ เช่น Collective by Cloud 11 หรือ งาน Bangkok Design Week ในย่าน South Su-khumvit ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากกลุ่มครีเอเตอร์ ทำให้เราเชื่อว่าโครงการ Cloud 11 จะช่วยพัฒนาศักยภาพของครีเอเตอร์จากหลากหลายวงการได้อย่างมาก
ทั้ง ผู้กำกับ นักแต่งเพลง นักเขียนบท ศิลปินนักร้อง นักดนตรี นักกีฬาอีสปอร์ต สตรีมเมอร์ ฯลฯ และโครงการ Cloud 11 คาดหวังที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือข้ามสายงาน (cross-collaboration) เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ๆ และทำให้อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยอยู่ในระดับเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 22มี.ค. “อ่อนค่าหนัก”ที่ระดับ 36.33 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าต่อทดสอบโซนแนวต้าน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ หากสกุลเงินฝั่งยุโรป ทั้ง เงินปอนด์อังกฤษ และเงินยูโร อ่อนค่าลงต่อเนื่อง
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 22มี.ค. 2567 ที่ระดับ 36.33 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.05 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า การพลิกกลับมาอ่อนค่าเกินกว่าคาดของเงินบาทนั้น ทำให้เราต้องประเมินใหม่ ว่า เงินบาทมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าต่อทดสอบโซนแนวต้าน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ได้
โดยจังหวะดังกล่าว อาจเกิดขึ้นได้ไม่ยาก หากสกุลเงินฝั่งยุโรป ทั้ง เงินปอนด์อังกฤษ และเงินยูโร อ่อนค่าลงต่อเนื่อง จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ที่ออกมาแย่กว่าคาด หรือสะท้อนการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจฝั่งยุโรปมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดมั่นใจแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางหลักฝั่งยุโรปที่อาจเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้
อย่างไรก็ดี เงินบาทอาจพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง จากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินที่อาจทำให้ นักลงทุนต่างชาติยังพอกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้บ้าง โดยเฉพาะในจังหวะที่เงินบาทได้อ่อนค่าลงมาพอสมควรแล้ว
นอกจากนี้ ในเบื้องต้น เรายังคงมุมมองเดิม Call Peak เงินบาท แถว 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ไว้ตามเดิมที่ได้ประเมินไว้เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เนื่องจาก มุมมองของเราต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง
อีกทั้ง ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนในเชิง Valuation ค่าเงินบาทแถว 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ก็เป็นโซนที่เงินบาท Undervalued พอสมควร ทำให้เรามองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดสามารถทยอย SELL on RALLY USDTHB ได้
อนึ่ง เรายังขอเน้นย้ำว่า ในช่วงนี้ ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.10-36.40 บาท/ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่องทะลุโซนแนวต้าน 36.20 บาทต่อดอลลาร์ที่เราประเมินไว้ (แกว่งตัวในช่วง 36.02-36.33 บาทต่อดอลลาร์) กดดันโดยการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์
นับตั้งแต่ตลาดรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ที่ “เซอร์ไพรส์” ตลาดด้วยการลดดอกเบี้ย -25bps สู่ระดับ 1.50% กดดันให้ค่าเงินฟรังก์สวิส (CHF) อ่อนค่าลงหนัก
ถัดมาเงินดอลลาร์ก็ยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) หลังผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ล่าสุด ทำให้ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า BOE มีโอกาสเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงเดือนมิถุนายน เร็วขึ้นจากที่เคยประเมินไว้ในช่วงไตรมาส 3
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์ยังได้กดดันให้ราคาทองคำพลิกกลับมาปรับตัวลงแรง -30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่โซนแนวรับระยะสั้นอีกครั้ง กดดันให้เงินบาทยิ่งผันผวนอ่อนค่าหนักตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และโฟลว์ธุรกรรมทองคำ
มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เชื่อในคาดการณ์เศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดล่าสุด ยังคงช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ขณะเดียวกันรายงานผลประกอบการของ Micron Tech. +14% ที่ออกมาสดใส ยังช่วยหนุนให้บรรดาหุ้นกลุ่ม Semiconductor ปรับตัวขึ้นต่อได้
โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ อย่าง Nvidia +1.2% ทว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็เผชิญแรงกดดันบ้าง จากการปรับตัวลงของ Apple -4.1% จากการถูกฟ้องข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาด ทำให้ ดัชนี S&P500 ปิดตลาดราว +0.32%
ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นกว่า +0.90% หนุนโดยรายงานข้อมูลดัชนี PMI ของฝั่งยุโรปที่โดยรวมยังออกมาดูดี กอปรกับ ผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังการทยอยลดดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางฝั่งยุโรปมากขึ้น ส่งผลให้ บรรดาหุ้นเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ต่างปรับตัวขึ้นแรง อาทิ ASML +5.6%, SAP +4.1%
ในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 4.25% หลังผู้เล่นในตลาดต่างเชื่อว่า เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ราว 3 ครั้งในปีนี้ ทว่าในระหว่างช่วงการซื้อขาย บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็ปรับตัวขึ้นบ้าง ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด ทั้งยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims)
และดัชนี PMI ภาคการผลิต ทั้งนี้ เราคงมุมมองเดิมไม่เปลี่ยน ต่อแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงของบรรดาธนาคารกลางหลัก ทำให้ เรามองว่า หากบอนด์ยีลด์ระยะยาว ไม่ว่าจะของสหรัฐฯ หรือประเทศอื่นๆ มีการปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น ก็จะเปิดโอกาสในการเข้าทยอยซื้อบอนด์ระยะยาวได้
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตามการอ่อนค่าลงของสกุลเงินหลัก ทั้ง เงินฟรังก์สวิส (CHF) และ เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) จากแนวโน้มการทยอยลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสวิตฯ (SNB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
ทั้งนี้ บรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ และมุมมองผู้เล่นในตลาดที่ยังเชื่อว่า เฟดน่าจะลดดอกเบี้ยได้ราว 3 ครั้งในปีนี้ ยังเป็นปัจจัยที่จำกัดการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 103.9 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 103.4-104.1 จุด)
ในส่วนของราคาทองคำ การแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์และจังหวะการปรับตัวขึ้นบ้างของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) ปรับตัวลงหนักราว -30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่โซน 2,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยจังหวะการปรับตัวลงดังกล่าวของราคาทองคำ ก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง ตามโฟลว์ธุรกรรมเข้าซื้อทองคำของผู้เล่นในตลาด
สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจ จะอยู่ที่ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยุโรปเป็นหลัก ทั้งยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของอังกฤษ และดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (Ifo Business Climate) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) และเงินยูโร (EUR) ในระยะสั้นได้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือนที่ 36.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะกลับมาปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.42-36.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.28 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยเงินบาทยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากสัญญาณ Dovish ของธนาคารกลางอื่นๆ ที่มีการประชุมเมื่อวานนี้ ทั้งธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) โดยในส่วนของ SNB มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนอกเหนือความคาดหมาย 25 bps. มาที่ระดับ 1.50% ขณะที่ BOE ประเมินว่า สถานการณ์เศรษฐกิจกำลังโน้มไปในทางที่ทำให้ BOE เตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงิน นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก
สวนทางกับเงินดอลลาร์ฯ ที่มีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลง และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. ที่เพิ่มขึ้นกว่าที่ตลาดคาด)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.20-36.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก และตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศ อาทิ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของญี่ปุ่น และตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนก.พ. ของอังกฤษ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
9 อาหารรสขม แต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับอาหารรสขม แต่รู้ไหมว่าอาหารขมมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากมายทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และลดอาการอักเสบต่างๆ ได้อีกด้วย แม้ว่าอาหารขมมักจะถูกมองข้ามไปในโลกของอาหาร เพราะรสชาติที่ค่อนข้างแรง อาจจะทำให้คนที่กินจุกจิกเบื่อได้ง่าย แต่จริงๆ แล้วอาหารขมนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารจากพืชหลากหลายชนิด ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างเหลือเชื่อต่อไปนี้คือ 9 อาหารขม ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณ
9 อาหารขม ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
1.มะระขี้นก ผลสีเขียวผิวขรุขระ รูปร่างคล้ายแตงกวา มีรสขมจัด นิยมรับประทานในแถบเอเชีย แอฟริกา และแถบคาริบเบียน แต่ไม่เป็นที่นิยมมากในแถบอื่น ๆ
มะระอุดมไปด้วยสารพฤกษเคมี เช่น ไตรเทอร์พีนอยด์ โพลีฟีนอล และฟลาโวนอยด์ ซึ่งจากการศึกษาในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง สารเหล่านี้มีฤทธิ์ในการชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งหลายชนิด
นอกจากนี้ มะระยังถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน งานวิจัยหนึ่งศึกษาเป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าการรับประทานมะระแห้งบด 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ประสิทธิภาพยังไม่เทียบเท่ายาเบาหวานแผนปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม บทวิจัยทบทวนขนาดใหญ่หลายชิ้นให้ผลการวิจัยในมนุษย์ที่ไม่ตรงกัน จึงสรุปได้ว่ายังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะแนะนำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานรับประทานอาหารเสริมมะระ เช่นเดียวกับอาหารขมอื่น ๆ มะระอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันความเสียหายของเซลล์อันเกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและเบาหวานได้
2.ผักตระกูลกะหล่ำปลี
ผักตระกูลกะหล่ำปลีเป็นอีกกลุ่มผักที่มีรสขม ได้แก่ บร็อกโคลี กะหล่ำปลี คะน้า หัวไชเท้า และร็อกเก็ต ผักเหล่านี้มีสารประกอบที่เรียกว่ากูโคซิโนเลตซึ่งเป็นที่มาของรสขม และเป็นสารสำคัญที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ แม้จะมีการศึกษาในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง ชี้ว่ากูโคซิโนเลต อาจช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง แต่ผลการวิจัยในคนยังไม่สอดคล้องกัน
ข้อมูลบางส่วนชี้ว่าคนที่รับประทานผักตระกูลกะหล่ำปลีเป็นประจำ มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งน้อยกว่า แต่ก็ยังมีผลการวิจัยบางชิ้นที่ไม่สนับสนุน นักวิจัยบางกลุ่มเชื่อว่าความแตกต่างนี้อาจเกิดจากความหลากหลายทางพันธุกรรมของแต่ละคน รวมถึงปัจจัยภายนอกอย่างสภาพแวดล้อมในการปลูกผักและวิธีการปรุงอาหาร
นอกจากฤทธิ์ในการต่อต้านมะเร็งแล้วกูโคชิโนเลตในผักตระกูลกะหล่ำปลียังช่วยกระตุ้นเอนไซม์ในตับให้กำจัดสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดผลกระทบต่อร่างกาย แม้ว่าจะยังไม่มีปริมาณที่แนะนำอย่างเป็นทางการ แต่จากงานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า การรับประทานผักตระกูลกะหล่ำปลีอย่างน้อย 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยให้ได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพสูงสุด
3.ผักกูด
คุณอาจจะเคยคิดว่าผักกูดเป็นวัชพืชที่ขึ้นรบกวนในสวนเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วใบของมันรับประทานได้ และอุดมไปด้วยสารอาหาร ผักกูดมีใบสีเขียวสดใส ขนาดกลาง มีหยักเว้าแหว่งตามธรรมชาติ สามารถรับประทานสดในสลัด นำไปผัดเป็นกับข้าว หรือใส่ในซุป
ด้วยความที่ผักกูดมีรสขมจัด จึงนิยมปรุงรสด้วยส่วนผสมอื่นๆ อย่างกระเทียมหรือมะนาวเพื่อตัดรสขม แม้ว่าจะมีงานวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพของผักกูดโดยเฉพาะค่อนข้างน้อย แต่ผักกูดก็อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เช่น แคลเซียม แมงกานีส เหล็ก วิตามินเอ ซี และ เค
นอกจากนี้ ยังมีสารแคโรทีนอยด์ ลูทีน และซีซานทีน ซึ่งช่วยปกป้องดวงตาจากโรคต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อม ที่สำคัญ ผักกูดเป็นแหล่งของพรีไบโอติกส์ อินูลิน และโอลิโกฟรุกโตสซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้
4.เปลือกส้ม
แม้ว่าเนื้อและน้ำของผลไม้ตระกูลส้มอย่าง เลม่อน ส้มโอ และส้ม จะมีรสชาติหวานหรืออมเปรี้ยว แต่เปลือกด้านนอกและเนื้อขาวใต้เปลือกนั้นค่อนข้างขม สาเหตุนี้เกิดจากฟลาโวนอยด์ สารอาหารที่ช่วยปกป้องผลไม้จากแมลงรบกวน แต่กลับส่งผลดีต่อสุขภาพของคนเรามากมาย อันที่จริง เปลือกส้มมีฟลาโวนอยด์ในปริมาณที่มากกว่าส่วนอื่นของผลส้มเสียด้วยซ้ำ
เฮสเพอริดิน และ naringin คือฟลาโวนอยด์ที่พบมากที่สุดในเปลือกส้ม ทั้งสองชนิดนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ งานวิจัยในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองชี้ว่า ฟลาโวนอยด์ในเปลือกส้ม อาจช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ด้วยการลดการอักเสบ เพิ่มประสิทธิภาพการกำจัดสารพิษ และชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง แต่ยังคงต้องมีการวิจัยในคนต่อไป
สำหรับคนที่อยากจะเพิ่มเปลือกส้มเข้าไปในอาหาร สามารถนำมาขูดเป็นผิวส้ม เพื่อเพิ่มกลิ่นรสชาติ หรือนำไปอบแห้งใช้เป็นเครื่องปรุง หรือแม้แต่จะเชื่อมและใส่ลงในขนมหวานก็ได้
5.แครนเบอร์รี่
แครนเบอร์รี่ เป็นผลไม้สีแดงสด มีรสเปรี้ยวอมขม สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสด ปรุงสุก อบแห้ง หรือคั้นเป็นน้ำ ผลแครนเบอร์รี่มีสารประกอบฟีนอลชนิดโปรแอนโธไซยานิดินชนิด A ซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้งการยึดเกาะของแบคทีเรียกับผนังต่างๆ ในร่างกาย เช่น ตามเนื้อเยื่อ
คุณสมบัติข้อนี้ส่งผลดีต่อการลดแบคทีเรียที่ทำให้ฟันผุ ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร ในกระเพาะอาหาร และยังช่วยป้องกันการติดเชื้ออีโคไลในลำไส้และทางเดินปัสสาวะ แม้ว่าผลการวิจัยเบื้องต้นจากห้องทดลองและสัตว์ทดลอง แต่ผลวิจัยจากคนก็ให้แนวโน้มที่ดีเช่นกัน
แครนเบอร์รี่ ไม่เพียงแต่มีฤทธิ์ในการยับยั้งแบคทีเรียเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูงที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ที่รับประทานกันทั่วไปถึง 24 ชนิด คุณสมบัตินี้อาจเป็นคำอธิบายที่ว่า การดื่มน้ำแครนเบอร์รี่เป็นประจำ ช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ ได้แก่ ลดการอักเสบ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต และระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์
6.ผงโกโก้
มาจากเมล็ดของต้นโกโก้ มีรสขมจัด โดยทั่วไปนิยมนำไปปรุงแต่งรสชาติในเบเกอรี่ต่างๆ นอกจากนี้ ยังผสมกับเนยโกโก้ เหล้าโกโก้ วานิลลา และน้ำตาลเพื่อทำช็อกโกแลต งานวิจัยพบว่าผู้ที่รับประทานช็อกโกแลตอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้ง มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจลดลง 56% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่รับประทานช็อกโกแลตเลย
คุณสมบัติข้อนี้น่าจะมาจากโพลีฟีนอล และสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในโกโก้ ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ลดการอักเสบ ส่งผลดีต่อการปกป้องหัวใจ
7.กาแฟ
เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่งทั่วโลก และจัดเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระอันดับต้น ๆ ในอาหารการกินของชาวอเมริกัน เช่นเดียวกับอาหารขมอื่นๆ กาแฟอุดมไปด้วยโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารที่ทำให้กาแฟมีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว กรดคลอโรจินิก คือหนึ่งในโพลีฟีนอลที่พบมากที่สุดในกาแฟ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง เชื่อว่าเป็นสารสำคัญที่ส่งผลดีต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลดความเสียหายของเซลล์จากอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และโรคเบาหวาน
งานวิจัยชี้ว่า การดื่มกาแฟ 3-4 แก้วต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ ลง 17% 15% และ 18% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มกาแฟเลย นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์อีกงาน ยังพบว่า การดื่มกาแฟ 1 แก้วต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ถึง 7%
งานวิจัยบางชิ้นยังชี้แนะอีกว่า กาแฟที่มีคาเฟอีนอาจช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน แต่ยังคงต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจกลไกล
8.ชาเขียว
เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มยอดนิยมที่ผู้คนทั่วโลกต่างชื่นชอบ ด้วยสารคาเทชิน และโพลีฟีนอลที่มีอยู่ ชาเขียวจึงมีรสชาติค่อนข้างขมตามธรรมชาติ สารคาเทชินที่สำคัญที่สุดในชาเขียวคือ epigallocatechin gallate หรือ EGCG งานวิจัยในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองชี้ว่า EGCG ช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่ามีผลเช่นเดียวกันในมนุษย์
แม้จะมีงานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งบางชนิดน้อยลง แต่ก็ยังมีผลการวิจัยบางส่วนที่ไม่ได้แสดงประโยชน์ที่ชัดเจน นอกจากนี้ ชาเขียวยังมีสารโพลีฟีนอลหลากหลายชนิดที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ สารเหล่านี้จะช่วยลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระและลดการอักเส็บ ส่งผลต่อการลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
งานวิจัยพบว่า การดื่มชาเขียวเพียง 1 แก้วต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจวายได้เกือบ 20% สำหรับผู้ที่ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ควรเลือกดื่มชาเขียวมากกว่าชาประเภทอื่น ๆ อย่าง ชาดำ หรือ ชาขาว
9.ไวน์แดง
ไวน์แดงมีสารโพลีฟีนอล 2 ชนิดหลัก ได้แก่ โพรแอนโธไซยานิดิน และแทนนิน สารเหล่านี้เป็นตัวกำหนดสีแดงเข้ม และรสขมของไวน์ การรวมกันของแอลกอฮอล์และสารโพลีฟีนอลเหล่านี้อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โดยลดการเกิดออกซิเดชันของคอเลสตอรอล ลดการจับตัวเป็นลิ่มเลือด และขยายหลอดเลือด
งานวิจัยใหม่ ๆ บางชิ้นยังชี้ว่า ไวน์แดงอาจส่งผลดีต่อลำไส้ งานวิจัยขนาดเล็กหนึ่งชิ้น ศึกษาโดยให้ผู้เข้าร่วมดื่มไวน์แดงวันละ 2 แก้ว เป็นเวลา 1 เดือน พบว่า จำนวนแบคทีเรียมีประโยชน์ในลำไส้เพิ่มมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียในลำไส้ยังส่งผลโดยตรงต่อระดับคอเลสตอรอลที่ลดลงและการอักเสบที่ลดลงด้วย
ประโยชน์อื่น ๆ ของการดื่มไวน์แดง ได้แก่ ช่วยให้มีอายุยืนยาว ลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานและโรคกระดูกพรุน แต่โปรดจำไว้ว่า การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ดังนั้น การดื่มไวน์แดงควรอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
2 นักวอลเลย์บอลชายหาดสาว”เบส-ไบร์ท”ปรับตัวรับลมแรงลุยเก็บแต้มอลป.
“เบส” พีรชยากร ก้องภพศรุตาวดี และ “ไบร์ท” ธาราวดี นาราพรลภัส อุ่นเครื่องวันที่สองดวลสาว “แซมบ้า” บราซิล เจ้าภาพ เตรียมทำศึกตบชายหาดเก็บแต้มสู่ปารีสเกมส์ “โค้ชเพชร” เผยนักตบปรับร่างกายดีขึ้น เตรียมสู้กับสภาพลมแรงจัด
ความเคลื่อนไหวของ สองนักตบลูกยางชายหาดทีมชาติไทย คู่มือ 1 “เบส” พีรชยากร ก้องภพศรุตาวดี และ “ไบร์ท” ธาราวดี นาราพรลภัส มืออันดับ 25 ของโลก ที่ขณะนี้อยู่ที่เมืองเรซิฟี ประเทศบราซิล เพื่อเตรียมแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด เอฟไอวีบี บีช ทัวร์ ชาลเลนจ์ สนามที่ 11 ระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคม 2567 เพื่อเก็บคะแนนสะสมควอลิฟายโอลิมปิก 2024 “ปารีสเกมส์”
โดยเมื่อวันพุธที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมืองเรซิฟี ประเทศบราซิล ตรงกับ 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย “เบส-ไบร์ท” ได้ลงสนามซ้อมอุ่นเครื่องกับทีมเจ้าภาพ บราซิล โดยหลังการฝึกซ้อม พ.อ.อ.เพชรราช พุฒซ้อน หัวหน้าผู้ฝึกสอน ได้กล่าวว่า การฝึกซ้อมวันนี้เป็นวันที่สอง หลังจากที่วันแรกได้ลงซ้อมอุ่นเครื่องกับทีมจีน ตอนนี้ร่างกายได้ปรับสภาพดีขึ้นตามลำดับ และมีการปรับในเรื่องของธรรมชาติในเรื่องของลม ที่นี่ลมแรงมากๆ และกำลังศึกษาหาวิธีการเล่นกับแรงลมเพื่อแก้เกมให้กับสองนักกีฬาไทย
“โค้ชเพชร” กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนี้กำลังฝึกอีกหนึ่งเทคนิค ที่สองนักกีฬากำลังทำอยู่ ถ้าปรับเทคนิคตรงนี้ได้ ทีมไทยจะทำได้ดีกว่าการฝึกซ้อมที่ผ่านมา
สำหรับ “เบส-ไบร์ท” มีโปรแกรมซ้อมทีมนัดสุดท้าย พบทีมชาติลิทัวเนีย ในวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม หรือช่วงดึกวันที่ 21 มีนาคมของประเทศไทย และจะแข่งขันรอบเมนดรอว์ ในวันที่ 22 มีนาคม 2567 ถ่ายทอดสดทาง volleyballworld.tv
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
120 แคปชั่นภาษาอังกฤษ สั้นๆ เท่ๆ ความหมายดีๆ พร้อมคำแปล
โซเชียลมีเดียกลายเป็นพื้นที่แสดงออกความเป็นตัวตนของคนในยุคนี้ไปแล้ว และการโพสต์ข้อความก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ชาวเน็ตใช้เพื่อสะท้อนตัวตนให้คนอื่นได้เห็น ซึ่งสาวๆ หลายคนก็อาจจะมีความ “ตัวแม่ตัวมัม” อยู่พอตัว แล้วการเลือกใช้ แคปชั่นแบบแซ่บๆ ก็สามารถช่วยตอกย้ำความก๋ากั๋น ความแซ่บแบบตัวแม่ และโชว์ความเป็นสาวเฟียสเทสดีให้คนที่ฟอลโล่วเราอยู่ได้เห็น
Sanook จึงรวบรวม แคปชั่นภาษาอังกฤษ สั้นๆ เท่ๆ ความหมายดีๆ พร้อมคำแปลสำหรับสาวสุดแซ่บ บอกเลยว่าใช้ปุ๊บ ดูอินเตอร์และดูเท่อย่างแน่นอน
แคปชั่นภาษาอังกฤษ คำคมภาษาอังกฤษ พร้อมแปล
- Focus on the good (โฟกัสแต่สิ่งดีๆ ดีกว่า)
- Worry less, smile more (กังวลให้น้อยลง ยิ้มให้มากขึ้น)
- Love me or hate me, I’m still gonna shine (จะรักหรือเกลียดฉัน ฉันก็จะเฉิดฉายต่อไป)
- Alone but never lonely (อยู่คนเดียวแต่ไม่เคยเหงา)
- I spend a lot of time holding the refrigerator door open, looking for answers. Also food (ฉันใช้เวลานานมากกับการหาคำตอบให้ชีวิต อาหารในนั้นก็ด้วย)
- Brains are awesome. I wish everybody would have one (สมองเป็นอะไรที่มีประโยชน์ อยากให้ทุกคนมีจัง)
- Dear sleep: thanks for trying, but you can’t beat surfing the net (การนอนจ๊ะ ขอบคุณนะ แต่เธอเอาชนะการเล่นมือถือไม่ได้หรอกจ้ะ)
- The more you weigh, the harder you are to kidnap. Stay safe, eat cake! (ยิ่งเราตัวแน่นเท่าไร เราก็โดนลักพาตัวยากเท่านั้น ปลอดภัยไว้ก่อน กินเค้กกันเถอะ)
- Life happens, coffee helps (ชีวิตมันเศร้า กาแฟช่วยได้)
- Selfie with no Filter (เซลฟี่โดยไม่มีฟิลเตอร์นะจ๊ะ)
- Crazy hair, don’t care (ผมยุ่งหรอ ไม่สนใจหรอก)
- I woke up like this (ตื่นมาก็เป็นแบบนี้เลย)
- She could never be me (เธอไม่มีทางเป็นแบบฉันได้หรอกค่ะ)
- Take note! Because I’m the lesson (จดไว้นะ เพราะฉันนี่แหละคือบทเรียน)
- Life is uncertain. Eat dessert first (ชีวิตไม่แน่นอน กินของหวานก่อนค่ะ)
- Donʼt like me? Cool, I donʼt wake up every day to impress you. (ไม่ชอบฉันเหรอ ดี ฉันก็ไม่ได้ตื่นมาทำให้เธอชอบอยู่แล้ว)
- I don’t always eat donuts, but when I do, I have four of them (ไม่ค่อยกินโดนัทหรอกค่ะ แต่ถ้าเริ่ม จัดไปสี่ชิ้นเลยจ้า)
- Looks too good to eat, but I’m gonna do it anyway. Call me a rebel (น่ากินเกินไป แต่ก็จะกินค่ะ เป็นพวกหัวขบถค่ะ)
- Thanks for putting up with me even though I’m kind of crazy. (ขอบคุณนะคะที่ยังอยู่ด้วยกัน แม้ฉันจะบ้าบอ)
- It wasn’t love at first sight, but we turned out okay (มันไม่ใช่รักแรกพบนะคะ แต่ว่าก็ได้อยู่)
- Being single is smarter than being in the wrong relationship (เป็นโสดฉลาดกว่าอยู่กับผู้ชายโง่ค่ะ)
- It’s a bad day, not a bad life (วันที่แย่ ไม่ได้แปลว่าชีวิตแย่นะคะ)
- Beautiful Sunset needs Cloudy Sky (ตะวันตกดินที่สวยงาม มักเกิดขึ้นหลังท้องฟ้าที่มืดครึ้ม)
- Beach More, Worry Less (ไปทะเลให้มากขึ้น กังวลให้น้อยลง)
- Sending my selfie to NASA, because I’m a star (จะส่งเซลฟี่ไปนาซ่าค่ะ เพราะฉันคือดาว)
- I was born to stand out (ฉันเกิดมาเพื่อเด่นกว่าคนอื่น)
- Just because I hide the pain is good. Does not mean I deserve it (แค่ฉันซ่อนความเจ็บปวดได้เก่ง ไม่ได้หมายความว่าฉันควรได้รับมัน)
- No reason to stay is a good reason to go (ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ นั่นแหละคือเหตุผลที่จะไป)
- Self love is the best love (การรักตัวเอง คือความรักที่ดีที่สุด)
- Don’t cry because it’s over, smile because it happened (อย่าร้องไห้กับสิ่งที่จบไปแล้ว แต่จงยิ้มกับสิ่งที่เกิดขึ้น)
- Life is a journey, enjoy the ride. – ชีวิตคือการเดินทาง จงสนุกกับมัน
- Be yourself, everyone else is already taken. – จงเป็นตัวของตัวเอง คนอื่นเป็นหมดแล้ว
- Don’t wait for the perfect moment, take the moment and make it perfect. – อย่ารอคอยช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ จงคว้าช่วงเวลาและทำให้มันสมบูรณ์แบบ
- Happiness is not something ready made. It comes from your own actions. – ความสุขไม่ได้เกิดขึ้นเอง มันมาจากการกระทำของคุณ
- The best way to predict the future is to create it. – วิธีที่ดีที่สุดในการคาดเดาอนาคตคือการสร้างมันขึ้นมา
- The only person you are destined to become is the person you decide to be. – คนเดียวที่คุณถูกกำหนดให้เป็นคือคนที่คุณตัดสินใจที่จะเป็น
- The only thing that stands between you and your dream is the will to try and the belief that it is actually possible. – สิ่งเดียวที่ขวางกั้นระหว่างคุณกับความฝันของคุณคือความตั้งใจที่จะลองและความเชื่อว่ามันเป็นไปได้จริง
- I’m a work in progress, but I’m proud of how far I’ve come. – ฉันยังมีอะไรให้เรียนรู้ แต่อย่างน้อยก็ภูมิใจกับสิ่งที่ฉันทำมา
- I’m not perfect, but I’m perfect for me. – ฉันไม่สมบูรณ์แบบ แต่ฉันสมบูรณ์แบบสำหรับฉัน
- Life is short, make it count. – ชีวิตสั้น จงทำให้มันมีค่า (อย่าเสียเวลาเปล่า)
- Don’t be afraid to fail. – อย่ากลัวที่จะล้มเหลว (ความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้)
- Follow your dreams. – ไล่ตามความฝันของคุณ (อย่ากลัวที่จะทำตามสิ่งที่คุณต้องการ)
- Be the best version of yourself. – จงเป็นตัวที่ดีที่สุดของคุณ (พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ)
- Love yourself first. – รักตัวเองก่อน (รักตัวเองก่อนที่จะรักคนอื่น)
- Be kind to others. – ใจดีต่อผู้อื่น (โลกนี้ต้องการความ kindness)
- Be grateful for what you have. – รู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่คุณมี (มองหาสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ไม่มี)
- Happiness is a choice. – ความสุขคือตัวเลือก (เลือกที่จะมองโลกในแง่ดี)
- Live in the present moment. – ใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบัน (อย่ามัวแต่จมอยู่กับอดีตหรือกังวลกับอนาคต)
- Never give up. – อย่าพ่ายแพ้ (จงอดทนและพยายามต่อไป)
- Good things ahead. – สิ่งดีๆ กำลังรออยู่
แคปชั่นภาษาอังกฤษ ความหมายดีๆ พร้อมแปล
- It hurts to let go but sometimes it hurts more to hold on (มันเจ็บปวดนะที่ปล่อยมือกันไป แต่มันอาจจะเสียใจกว่านี้ถ้าทนอยู่กันต่อไป)
- I’m loyal but ain’t stupid (ฉันซื่อสัตย์นะ แต่ไม่ได้โง่)
- Aside from gravity, nothing can keep me down (นอกจากแรงโน้มถ่วง ก็ไม่มีอะไรเอาฉันลงได้)
- Cinderella never wished for a prince.All she asked was for a new dress and good evening out (ซินเดอเรลล่าไม่เคยขอให้ได้เจ้าชายนะคะ ชีขอชุดใหม่กับได้ออกไปเที่ยวค่า)
- If I was a bird, I know who I’d shit on (ถ้านี่เป็นนก นี่รู้เลยว่าต้องขี้ใส่ใคร)
- Judge me when you are perfect (ดีเลิศเมื่อไหร่ค่อยมาตัดสินฉันแล้วกันนะคะ)
- You are the risk I’ll always take (คุณคือความเสี่ยงที่ฉันพร้อมรับเสมอ)
- Life without you is like; Facebook without friends, Youtube without videos, and Google with no results (ชีวิตที่ไม่มีคุณ ก็เหมือนเฟสบุ๊คที่ไม่มีเพื่อน ยูทูปที่ไม่มีวิดีโอ และกูเกิ้ลที่หาอะไรไม่เจอ)
- You’re not my number one, You’re my only one (คุณไม่ใช่ที่หนึ่งในใจฉัน แต่เป็นคนเดียวในใจฉันต่างหากล่ะ)
- Even the most beautiful women will have at least some insecurity, whether they admit it or not (แม้แต่ผู้หญิงที่สวยที่สุดก็อาจจะมีความไม่มั่นใจอยู่ลึกๆ ไม่ว่าเธอจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม)
- Text me back or I’ll find you (ไลน์มาหาฉันสิ ไม่งั้นฉันจะไปหาคุณเอง)
- Friend like poem, you may never fully understand them, but you’ll always love them (เพื่อนก็เหมือนกับบทกวี คุณอาจไม่เข้าใจมันทั้งหมด แต่คุณจะรักมันเสมอ)
- A best friend is someone who loves you when you forget to love yourself (เพื่อนที่ดีที่สุดคือคนที่รักเรา เมื่อเราลืมที่จะรักตัวเอง)
- Friends who slay together stay together (เพื่อนที่ไปแซ่บด้วยกัน จะไม่ทอดทิ้งกัน)
- Love is beautiful, friendship is better (ความรักเป็นสิ่งสวยงาม มิตรภาพนั้นยิ่งกว่า)
- No man is a failure who has friends (คนที่มีเพื่อนจะไม่มีวันล้มเหลว)
- Smile big, laugh often (ยิ้มให้กว้าง หัวเราะให้บ่อย)
- My best friend and I can communicate just with facial expressions (ฉันและเพื่อนคุยกันง่ายมากค่ะ สีหน้ามาปุ๊บก็รู้แล้วว่าคิดอะไรในใจ)
- Common sense is like deodorant. The people who need it most never use it (สามัญสำนึกก็เหมือนโรลออน คนที่ต้องใช้ที่สุดกลับไม่เคยใช้เลย)
- Life is short and the world is wide. I better get started (ชีวิตแสนสั้น โลกแสนกว้างใหญ่ ออกเดินทางกันดีกว่า)
- Life is short. Smile while you still have teeth (ชีวิตสั้น รีบยิ้มก่อนที่ฟันจะหมดปาก)
- Let your past make you better not bitter (จงให้อดีตทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น ไม่ใช่ขมขื่นกว่าเดิม)
- Do what you like, like what you do (ทำอย่างที่ชอบ ชอบในสิ่งที่ทำ)
- Life is as good as your mindset (ชีวิตจะดีอยู่ที่คุณคิด)
- Be the best version of you (จงเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด)
- She would rather walk alone in darkness than follow anyone else’s shadow (เดินคนเดียวมืด ๆ ยังจะดีกว่าเดินตามเงาคนอื่น)
- Be a Girl with a mind, a Woman with attitude, and a Lady with class (จงเป็นเด็กที่มีจิตใจดี, เป็นผู้หญิงที่มีทัศนคติเป็นเลิศ และเป็นหญิงสาวที่มีคลาส)
- Stay Strong, Make Them Wonder How You’re Still Smiling (เข้มแข็งไว้หล่อน ทำให้พวกนั้นงงตาแตกไปเลยที่เธอยังยิ้มได้)
- Don’t Call It A Dream Call It A Plan (อย่าเรียกว่าฝันเฟื่อง เรียกว่าแผนการดีกว่า)
- Let’s be clear, I’m a strong woman (ขอพูดให้ชัด ฉันคือหญิงแกร่งจ้า)
- I may be in pain, but I am not weak. (ฉันอาจจะเจ็บปวดแต่ไม่ได้อ่อนแอ)
- Strong women don’t have attitudes. They have standards (สาวแกร่งไม่ใช่พวกขี้วีน แต่เป็นพวกมีมาตฐานน่ะ)
- Good Food is Good Mood (อาหารดี = อารมณ์ดี)
- Count the memories not the calories (นับแค่ตอนกินก็พอ อย่าไปนับแคลอรี่เลย)
- Broken cookies have no calories! (คุกกี้หักมักไม่มีแคลอรี่)
- Carbs might be my soulmate (คาร์โบไฮเดรตอาจเป็นเนื้อคู่ของฉัน)
- No matter how full I am, I still have room for dessert (ไม่ว่าจะอิ่มขนาดไหน แต่ฉันยังมีที่ว่างไว้สำหรับของหวานเสมอ)
- A strong woman doesn’t seek revenge. She moves on and lets karma do her dirty works (หญิงแกร่งเขาไม่เล่นเกมล้างแค้นกันหรอก เขามูฟออนแล้วปล่อยให้เวรกรรมทำหน้าที่เอง)
- Envy is an insult to oneself (ความอิจฉาคือการดูถูกตัวเอง)
- They feared me because I feared Nothing (พวกเขากลัวฉันเพราะฉันไม่กลัวอะไรเลย)
- I hope karma will slap your face before I do (หวังว่าเวรกรรมจะตามไปตบหน้าเธอเร็วกว่าฝ่ามือของฉัน)
- Not everybody has to like me. I can’t force you to have good taste (ไม่จำเป็นต้องมาชอบฉันทุกคนหรอก รสนิยมมันบังคับกันไม่ได้)
- Keep your friends close but your enemies closer (เก็บเพื่อนไว้ใกล้ตัว แต่เก็บศัตรูไว้ใกล้กว่า)
- Do it from love not for love (ทำมันด้วยความรัก ไม่ใช่เพื่อความรัก)
- Times don’t change. Men do (เวลาไม่เคยเปลี่ยนแปลง มนุษย์ต่างหากที่เปลี่ยนไป)
- The future starts today, not tomorrow (อนาคตเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่วันพรุ่งนี้)
- The expert in everything was once a beginner (ผู้เชี่ยวชาญในทุกด้าน ย่อมเคยเป็นผู้เริ่มต้นเสมอ)
- You get what you work for, not what you wish for (คุณได้ในสิ่งที่คุณทำ ไม่ใช่สิ่งที่คุณร้องขอ)
- Your future needs you, your past doesn’t (อนาคตของคุณต้องการคุณ แต่อดีตไม่ต้องการ)
- Stop talking. Start walking (จงหยุดพูด แล้วเริ่มออกเดิน)
แคปชั่นภาษาอังกฤษ สู้ชีวิต ไม้ย่อท้อ พร้อมแปล
- Too Lit To Quit (ฉันมันเก๋าเกินจะยอมแพ้)
- Catch flights, not feelings (เดินทางแล้วลืมทุกความรู้สึกแย่ๆ)
- Life is not meant to be in one place (ชีวิตเราไม่จำเป็นต้องอยู่ในที่ที่เดียวเสมอไปหรอก)
- Winning isn’t everything, but wanting to win is (การชนะไม่ใช่ทุกอย่าง แต่คือความรู้สึกที่อยากจะชนะต่างหากล่ะ)
- You don’t have to be great to start, but you have to start to be great (เธอไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่พอที่จะเริ่มทำอะไร แต่ต้องเริ่มต้นที่ทำให้ตัวเองยิ่งใหญ่เสียก่อน)
- A goal is a dream with a deadline (เป้าหมายก็เหมือนความฝันที่มีเดดไลน์)
- My weaknesses have always been food and men — in that order (จุดอ่อนของฉันอยู่ตรงที่อาหารและผู้ชาย เรียงตามลำดับเลยค่ะ อาหารมาก่อน)
- My food pics bring all the boys to the yard, and I’m like, “No, I will absolutely not share with you” (โพสต์รูปอาหารทีไรผู้ชายก็มามุง แต่ฉันไม่แบ่งค่ะ ขอโทษนะคะ)
- My life feels like a test with no answer (ชีวิตฉันเหมือนข้อสอบที่ไม่มีคำตอบสุดท้าย)
- Beautiful things don’t ask for attention (สิ่งสวยงามไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความสนใจ)
- My lips are the gun. My smile is the trigger. My kisses are the bullets (ริมฝีปากของฉันคือปืน รอยยิ้มคือไกปืน และจุมพิตคือกระสุน)
- Never allow someone to be your priority while allowing yourself to be their option (อย่าปล่อยให้ใครมาเป็นที่ 1 ของคุณ ในขณะที่ปล่อยให้ตัวคุณเองเป็นแค่ตัวเลือกของเค้า)
- I hope our memories are like the sunset ; Short but beautiful (ฉันหวังว่าความทรงจำของพวกเราจะเป็นเหมือนกับพระอาทิตย์ตก เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่แต่กลับสวยงาม)
- Bad choices make good stories (บางครั้งทางเลือกที่ผิดก็ทำให้เกิดเรื่องราวดีๆ)
- I can live without you but I just don’t want to (อยู่คนเดียวไม่ยากหรอก แต่แค่อยากอยู่กับเธอมากกว่า)
- I Need Vitamin U For a broken heart (อยากได้วิตามิน ‘ยู’ มาเยียวยาหัวใจ)
- Come live in my heart, and pay no rent (ถ้าพี่ไม่มีบ้านอยู่ มาอยู่ในใจหนูได้นะ ไม่คิดค่าเช่า)
- My first name and your last name would sound great together (ชื่อของฉันกับนามสกุลของคุณ ฟังดูแล้วมันก็ดูเข้ากันดีนะ)
- No him I still have a good face (แม้จะไม่มีเขา แต่เราก็ยังมีหน้าตาที่ดี)
- I don’t care what people think of me. At least mosquitos find me attractive (ฉันไม่สนหรอกว่าคนจะคิดยังไงกับฉัน เพราะอย่างน้อยพวกยุงก็ยังสนใจฉัน)
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
CyberArk เผยภัยไซเบอร์ในยุค AI มาแรงมีความกังวล
ทุกวันนี้ในเรื่องของภัยทางไซเบอร์ก็มีความเสียงพอสมควร โดยเฉพาะในระดับองค์กรโดยเฉพาะการใช้ Generative AI วันนี้ทีม Sanook Hitech ได้คุยกับ Lim Teck Wee รองประธานของ CyberArk ประจำภูมิภาค อาเซียน ถึงหลายประเด็นด้านความปลอดภัย
อะไรคือข้อดีข้อเสียของเทคโนโลยี AI
ในแง่ของข้อดี ไม่ว่าจะเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ, การเร่ง Digital Transformation และควอนตัมคอมพิวติ้งที่ดีขึ้นต่างช่วยสร้างเกราะป้องกันพร้อมทั้งลดภาระของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI จะช่วยยกระดับความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและแนวทางปฏิบัติในอุตสาหกรรม สามารถสร้างนโยบายได้อัตโนมัติและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นได้
องค์กรในไทยยังสามารถใช้ประโยชน์จากพลังของ AI เพื่อตรวจจับรูปแบบที่มีความผิดปกติในชุดข้อมูลด้านความปลอดภัยจำนวนมหาศาล ข้อมูลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับแนวคิดเรื่องการควบคุมความปลอดภัยและช่วยให้กระบวนการตรวจสอบเร็วขึ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ มาตรการการตรวจสอบสิทธิ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะสามารถประเมินพฤติกรรมของผู้ใช้และอุปกรณ์เพื่อกำหนดเวลาที่จะใช้มาตรการควบคุมการเข้าถึงอื่น ๆ กลุ่มธุรกิจจึงสามารถรักษาทรัพย์สินให้ปลอดภัยโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI มากมาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา อันที่จริง จากรายงานภาพรวมภัยคุกคามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ CyberArk ประจำปี 2566 พบว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 94 เปอร์เซ็นต์คาดว่า
อาจเกิดปัญหาจากการใช้เครื่องมือและบริการที่มี AI โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ChatGPT โดยผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถนำไปใช้ทำสเปียร์ฟิชชิ่ง โดยสร้างข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำให้คนหลงเชื่อได้ง่าย นอกจากนี้ โมเดล Generative Adversarial Network ยังสามารถสร้างภาพใบหน้าที่ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถเจาะเข้าระบบการตรวจสอบสิทธิ์ไบโอเมตริกซ์ได้สำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ
มากกว่านั้นผู้ไม่ประสงค์ดียังสามารถใช้ประโยชน์จาก Generative AI เพื่อกำหนดเป้าหมายเหยื่อซึ่งสมัยก่อนไม่สามารถทำได้และไม่สมจริง เนื่องจากความแตกต่างทางภาษาและวัฒนธรรม ตัวอย่างเช่น แฮกเกอร์ชาวรัสเซียสามารถเลียนแบบรูปแบบคำพูดและการทักทายภาษาไทยได้อย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อสร้างการโจมตีแบบฟิชชิ่ง, สมิชชิ่ง, วิชชิ่ง หรือการโจมตีแบบ Social Engineering ประเภทอื่น ๆ
ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการนำไปใช้และความท้าทายของการนำ Generative AI มาใช้เพื่อความปลอดภัยทางไซเบอร์ในปี 2567
AI ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของความพยายามเอาชนะภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วยวิธีการตอบสนองแบบอัตโนมัติและเพิ่มความคล่องตัวให้แก่ทีมรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยให้แก่สินทรัพย์ที่มีความสำคัญยิ่ง รวมถึง Identity ที่เป็นมนุษย์และไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งต่างต้องใช้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่กล่าวมาข้างต้น
อย่างไรก็ตาม โซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาพร้อมกับความท้าทายในตัวเอง หากไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม ผู้โจมตีสามารถหลบเลี่ยงหรือปิดการใช้งานได้ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่จะโจมตีได้อย่างสำเร็จ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ทีมรักษาความปลอดภัยจำเป็นต้องใช้แนวทางเชิงรุกในการจัดการเทคโนโลยีความปลอดภัยของ AI
ซึ่งรวมถึงการฝึกโมเดล AI ด้วยข้อมูลแบบ Offensive และ Defensive เพื่อให้มั่นใจว่าโมเดลทำงานได้ตามที่คิดไว้ และทดสอบความเครียดกับความสามารถเป็นประจำ นอกจากนี้ องค์กรจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าโมเดล AI ของตนถูกโฮสต์ในสภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัยสูง พร้อมด้วยการป้องกันที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้โจมตีเข้ามายุ่งเกี่ยวกับโมเดลเหล่านั้นได้
Generative AI ยังมีปัญหาด้านมาตรฐาน กรอบคิด และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวถูกใช้แพร่หลายเร็วกว่านวัตกรรมไอทีอื่น ๆ มาก ปัญหานี้ทำให้องค์กรในไทยตรวจสอบการใช้งาน Generative AI และจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องได้ยาก เนื่องจากตอนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณของการชะลอการโจมตีเลย กลุ่มองค์กรจึงไม่สามารถรอให้รัฐบาลกำหนดมาตรฐานทางการที่อาจล้มเหลวในการคำนึงถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาได้
อาชญากรรมไซเบอร์อันดับต้น ๆ ที่องค์กรควรระวังคืออะไร?
ในรายงานภาพรวมภัยคุกคามด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลประจำปี 2567 เราพบว่า องค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 61% ไม่สามารถหยุดหรือตรวจพบการโจมตีได้ ยังทำให้องค์กรต่าง ๆ เสี่ยงต่อการโจมตีแบบต่อเนื่องในห่วงโซ่อุปทาน โดยที่แฮกเกอร์เจาะระบบหนึ่งได้สำเร็จและใช้เพื่อกำหนดเป้าหมายส่วนประกอบอื่นๆ การโจมตีเหล่านี้สามารถขัดขวางการดำเนินงานทั้งหมด และทำให้พนักงานไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้
องค์กรในไทยยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการถูกขโมยเซสชันและคุกกี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริการและแอปพลิเคชันออนไลน์หากไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงบัญชีผู้ใช้เพื่อทำธุรกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือดูดเงินออกจากบัญชีทั้งหมด
การตั้งรหัสผ่านจึงไม่สามารถปกป้องภูมิทัศน์ทางดิจิทัลได้อีกต่อไป เนื่องจากพนักงานต้องอาศัยระบบและแอปพลิเคชันหลายระบบในการปฏิบัติงาน การสร้างรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำใครและซับซ้อนอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก ดังนั้นเพื่อเป็นการประหยัดเวลา เมื่อสร้างบัญชีใหม่ พนักงานอาจเปลี่ยนรหัสผ่านเก่าเพียงแค่ตัวเดียว พร้อมทั้งยังบันทึกรหัสผ่านไว้ในเบราว์เซอร์หรือจัดเก็บไว้ในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่บริษัทจัดเตรียมไว้ให้ โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ อาจทำให้เกิดปัญหาการขโมยข้อมูลประจำตัวเพิ่มขึ้น
องค์กรในไทยควรทำอย่างไรเพื่อป้องกันตนเองจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI?
ประเด็นหลักคือองค์กรไทยจำเป็นต้องปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของตนจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์แบบฉวยโอกาส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีนี้ เนื่องจากมนุษย์ 1 คนจะมีการระบุตัวตนของเครื่องหรือ Machine Identity ถึง 45 รายการ โดยการระบุตัวตนของเครื่องมากกว่าครึ่งหนึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลองค์กรที่ละเอียดอ่อน ซึ่งขยายขอบเขตการโจมตีและสร้างแรงกดดันให้องค์กรต้องหันมาป้องกันภัยคุกคาม
โซลูชันการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Identity ที่มาพร้อมกับการควบคุมสิทธิ์อัจฉริยะจะเข้ามามีบทบาทในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะสามารถควบคุมการเข้าถึงปริมาณงานสำหรับข้อมูลระบุตัวตนทั้งหมดได้ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม ด้วยความสามารถในการป้องกันและตรวจจับภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง โซลูชันดังกล่าวจึงสามารถรักษาความปลอดภัยในการทำ Digital Transformation ได้ และช่วยให้องค์กรสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ การใช้วิธีการตรวจสอบสิทธิ์แบบไม่ใช้รหัสผ่านกับปัจจัยรองที่ก่อให้เกิดความท้าทายต่อ Identity ของผู้ใช้นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการลดการโจมตีแบบใช้การรับรอง (Credential)
อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรมองข้ามประเด็นการท่องเว็บออนไลน์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์การขโมยเซสชันและคุกกี้ เราจึงขอแนะนำให้องค์กรใช้เบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยและเทคโนโลยีการแยกเว็บ เพื่อให้พนักงานของตนสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องเชิญภัยคุกคาม
นอกจากนี้ องค์กรในไทยจะต้องนำหลักการ Zero Trust มาใช้ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการลดความเสี่ยงของการละเมิดข้อมูล ซึ่งรวมถึงการใช้โซลูชันการรักษาความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวเพื่อตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้ และให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์และเซฟเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ องค์กรควรติดตามและบันทึกการดำเนินการทั้งหมดอย่างต่อเนื่องเมื่อมีผู้ใช้เข้าสู่ระบบ ด้วยวิธีนี้ องค์กรจะสามารถรักษาทั้งความไว้วางใจและความภักดีของลูกค้าไว้ได้
สุดท้ายนี้ องค์กรต่างจำเป็นต้องนำแนวทางที่อิงตามความเสี่ยงมาใช้ ซึ่งกำหนดให้พวกเขาคิดเหมือนผู้โจมตี ซึ่งหมายถึงการระบุข้อมูลและทรัพย์สินที่มีความสำคัญต่อองค์กร และอาจก่อให้เกิดอันตรายสูงสุดต่อการดำเนินงานหากถูกแฮ็ก เมื่อองค์กรมีข้อมูลนี้แล้ว พวกเขาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากรและสร้างกลยุทธ์ความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพโดยจัดลำดับความสำคัญของสินทรัพย์หลักเหล่านี้ ดังนั้นจึงลดผลกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์ให้เหลือน้อยที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“โกโก้” กับ “ช็อกโกแลต” ต่างกันอย่างไร อะไรให้ประโยชน์มากกว่ากัน
เจ้าผงสีน้ำตาลอย่าง “โกโก้” และ “ช็อกโกแลต” สีเหมือนกัน แถมเมื่อทำเป็นเครื่องดื่มแล้วยังมีรสชาติใกล้เคียงกันอีกด้วย แต่ก็สร้างความสงสัยว่าผงสีน้ำตาลเหล่านี้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง วันนี้เราหาคำตอบมาให้แล้ว
โกโก้ กับ ช็อกโกแลต ต่างกันอย่างไร
ผงโกโก้ผลิตจากเมล็ดคาเคา หรือต้นโกโก้ โดยนำฝักโกโก้ที่สุกแล้วหมักให้เกิดรสชาติ และตากให้แห้ง ก่อนจะนำไปคั่วในอุณหภูมิที่เหมาะสมจนเปลือกล่อน ซึ่งเรียกสิ่งที่ได้จากขั้นตอนนี้ว่า “โกโก้นิปส์” ก่อนจะนำไปบดที่อุณหภูมิสูงหลายเป็นความข้นหนืดสีน้ำตาลเข้ม หรือเรียกว่า Cocoa Liquor แล้วไปบีบอัดด้วยความร้อนเพื่อสกัดไขมันโกโก้ออกไปจนหมดหรือเหลือเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะได้เนื้อโกโก้และนำไปตากแห้งบดเป็นผงโกโก้ในที่สุด ซึ่งจะทั้งเข้มข้น ขม หอมพร้อมชงดื่ม
ผงช็อกโกแลตคือ ผลผลิตจากเมล็ดคาเคาเช่นเดียวกัน โดยกระบวนการผลิตเหมือนผงโกโก้เลย เพียงแต่ในขั้นตอน Cocoa Liquor นั้นจะไม่ถูกสกัดไขมันออกเหมือนโกโก้ แต่จะมีการเติมวัตถุดิบอื่นลงไปเช่นน้ำตาล น้ำมันปาล์ม ก่อนจะนำไปตากแห้ง ก่อนจะบดให้เป็นผงละเอียด ซึ่งจะได้ผงช็อกโกแลตที่หอมหวาน มีรสขม
ดังนั้นโกโก้ กับช็อกโกแลต ผลิตจากเมล็ดคาเคาหรือต้นโกโก้เหมือนกัน แต่แตกต่างกันในขั้นตอนของการสกัดไขมัน โกโก้มีการสกัดไขมันออกจึงทำให้มีรสขม ส่วนช็อกโกแลตไม่สกัดไขมันโกโก้ออกแต่เติมวัตถุดิบอื่นเพิ่มเข้าไป
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 22/03/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 37,450.00 | 37,550.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,426.00 | 36,778.16 | 38,050.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,183.40 | 33,100.34 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,940.80 | 29,422.53 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,092.00 | 16,554.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 849.00 | 12,870.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,514.00 | 38,112.24 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 22/03/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 38.65 | 38.65 | 38.75 | 38.65 | 38.65 | 38.65 | 38.65 | 38.65 | 38.65 | 38.65 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 37.18 | 37.18 | 37.48 | 37.18 | 37.18 | 37.18 | 37.18 | 37.18 | 37.18 | 37.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 36.54 | 36.54 | 36.84 | 36.54 | 36.54 | – | 36.54 | 36.54 | 36.54 | 36.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 36.29 | 36.29 | – | – | – | – | – | – | – | 36.29 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 46.34 | 49.44 | 49.44 | 49.44 | – | – | – | – | – | 46.34 |
เบนซิน 95 | 46.54 | – | – | – | 47.71 | – | 47.04 | 46.69 | – | 46.54 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 30.44 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | – | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | – | – | 29.94 | – | – | – | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 41.54 | 43.64 | 44.84 | 43.64 | 43.64 | – | – | – | – | 41.54 |
แก๊ส NGV | 19.59 | 19.59 | – | – | – | – | – | – | – | 19.59 |