เศรษฐีภูธรแห่สั่งสร้างบ้านหรูคึกคักดับบลิวเฮ้าส์ขยายเชียงใหม่-ภูเก็ต
ข้อจำกัด “ที่ดิน” ในกรุงเทพฯ ส่งผลให้ดีมานด์สร้างบ้าน “ลดลง” ประกอบกับฐานลูกค้าบ้านราคา 3-5 ล้านเผชิญปัญหากำลังซื้อเปราะบางฉุดตลาดชะลอตัว แม้ว่าจะมีความต้องการอยู่ก็ตาม เป็นเหตุให้บริษัทรับสร้างบ้านหันไปรับงานในต่างจังหวัดรับดีมานด์ “เศรษฐีภูธร” เพิ่มขึ้น
วรวุฒิ กาญจนกูล ประธานบริหาร บริษัท ดับบลิวเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจรับสร้างบ้านปี 2567 ในเซ็กเมนต์ไฮเอนด์ไม่อยู่ในกรุงเทพฯ อีกต่อไป ปัจจุบันคนที่มีความต้องการสร้างบ้านในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องการบ้านที่มีคุณภาพ มาตรฐาน จากเดิมรุ่นพ่อแม่ ทำธุรกิจค้าขายอยู่บ้านติดกับโรงงาน แต่พอรุ่นลูกเข้าสานต่อธุรกิจต้องการสร้างบ้านใหม่ที่มีขนาดใหญ่แยกจากโรงงานให้กับครอบครัว จึงมองหาบริษัทรับสร้างบ้านที่มีมาตรฐานมากกว่าใช้ผู้รับเหมาเพราะกังวลมาตรฐานและถูกช่างทิ้งงาน!
จะเห็นว่าในแต่ละจังหวัดมีกลุ่มลูกค้าระดับเศรษฐีอยู่จำนวนมาก ไม่ว่าในภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ สนใจและมีความพร้อมสร้างบ้านระดับราคา 50 ล้านบาทขึ้นไป บริษัทจึงมุ่งขยายฐานลูกค้าไปในต่างจังหวัดมากขึ้น เช่น เชียงใหม่ เป็นบ้านระดับราคากว่า 100 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้รับสร้างบ้าน “เขาใหญ่” มานาน จึงมีแผนขยายไปตามจังหวัดหัวเมืองสำคัญที่มีลูกค้าที่ต้องการรับสร้างบ้านมากขึ้น เช่น ชลบุรี พัทยา หัวหิน ชะอำ เขาใหญ่ ภูเก็ต
“แทนที่จะอยู่แต่ในกรุงเทพฯ เพราะที่ดินจะสร้างบ้านในกรุงเทพฯ ลดลงไปเรื่อยๆ ดีมานด์ไม่ได้หวือหวาเหมือนสมัยก่อน ปัจจุบันสัดส่วนราคาสร้างบ้านระดับ 6-7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น มากกว่ากลุ่ม 3-5 ล้านบาท ที่กำลังซื้ออ่อนแอ ตลาดชะลอตัว แม้จะมีความต้องการอยู่แต่ที่น่าจับตามอง คือ ระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป เป็นกลุ่มที่ไม่มีจำนวนมากนักแต่มีกำลังซื้อต่อเนื่องไม่ได้ลดลง”
โดยเฉพาะระดับราคา 30-50 ล้านบาท ไปจนถึง 100 ล้านบาท สอดคล้องกับการพัฒนาโครงการบ้านหรู มีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ตลาดรับสร้างบ้านเซ็กเมนต์ไฮเอนด์เติบโตสม่ำเสมอ เพราะยังมีกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ “ดับบลิวเฮ้าส์” ที่กลุ่มลูกค้าระดับบน ทำธุรกิจการเกษตรส่งออก พลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมีความต้องการสร้างบ้านหลังใหญ่ หรือ คฤหาสน์ ราคากว่า 100 ล้านบาท มากกว่าในกรุงเทพฯ
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีที่ดินรองรับการสร้างบ้านหลังใหญ่ เพื่อให้เป็นที่อยู่รวมกันของคนในครอบครัว ประกอบกับไม่มีปัญหาการเงิน จึงต้องการรีบสร้าง เพราะกังวลต้นทุนค่าก่อสร้างจะสูงขึ้นอีกในอนาคต จากก่อนหน้านี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีอีสาน แต่ปัจจุบันเศรษฐีทุกภาคเริ่มหันมาสร้างคฤหาสน์สำหรับครอบครัวมากขึ้น
ลูกค้ากลุ่มนี้เลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านแทนการใช้ผู้รับเหมาท้องถิ่น เพราะด้วยปัญหาแรงงานขาดแคลน ราคาวัสดุสูงขึ้น ผู้รับเหมาฝีมือดีหายาก จึงหันมาสร้างกับบริษัทรับสร้างบ้านเพราะมั่นใจได้มากกว่าว่าได้บ้านตามแบบที่วางไว้ ตรวจรับบ้านได้ง่ายกว่า วางระบบต่างๆ มีมาตรฐาน ที่สำคัญไม่ต้องกังวลกับปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน หรือได้บ้านไม่ตรงปก
“ปีนี้บริษัทขยายสัดส่วนไปในต่างจังหวัด และปริมณฑลมากขึ้น เป้าหมายยอดขายต่อปีประมาณ 300 ล้านบาท มาจากกรุงเทพฯ 40% ต่างจังหวัด 60% จากเดิมสัดส่วนในกรุงเทพฯ สูง 70% ต่างจังหวัด 30%”
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
มิติใหม่การขาย!แสนสิริดึงครีเอเตอร์ร่วมครีเอทโพสต์ระบายสต็อก27คอนโด
ปิ้งไอเดีย!แสนสิริ งัดกลยุทธ์ Affiliate Marketing ดึงครีเอเตอร์มาร่วมงานครีเอทวีดีโอ-โพสต์ปุ๊ป จองปั๊ป รับสูงสุด 1 ล้านสร้างรายได้ผ่าน Sansiri Affiliate กับ 27 คอนโดแสนสิริตั้งเป้ายอดขายกว่า 200 ล้าน
Affiliate Marketing มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับจำนวนบัญชีผู้ใช้งาน Social Media ที่เพิ่มขึ้น จากภาพรวมของ DIGITAL 2024: GLOBAL OVERVIEW REPORT จัดทำขึ้นโดย Meltwater และ We Are Social พบว่า มีประชากรโซเชียลมีเดียในไทยมี 49.10 ล้านคน คิดเป็น 68.3% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งผู้ใช้งานเหล่านี้เป็นทั้งผู้เสพและผู้ผลิตคอนเทนท์ด้วยเช่นกัน
องอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้ แสนสิริรุกหนักการทำการตลาดในทุกมิติ ครอบคลุมทุกช่องทางการสื่อสาร เพื่อขยายโอกาสในการขายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ล่าสุด ลอนช์ Sansiri Affiliate Program กับการยกระดับ Affiliate Marketing ให้เป็นโมเดลต้นแบบของอสังหาฯ ไทย กับจำนวนคอนโดแสนสิริที่เข้าร่วมโปรแกรมมากที่สุดถึง 27 โครงการ และสร้างรายได้ กับค่าคอมมิชชั่นสูงสุดถึง 1 ล้านบาท
Sansiri Affiliate Program โพสต์ปุ๊ป จองปั๊ป รับสูงสุด 1 ล้านบาท* โมเดลต้นแบบของอสังหาฯ ไทย ที่เปิดโอกาสให้เหล่าครีเอเตอร์ร่วมโปรแกรมผ่าน 3C ได้แก่ ‘CONTENT’ ครีเอทวีดีโอคอนเทนต์ได้อย่างหลากหลายและสร้างสรรค์ กับจำนวนคอนโดแสนสิริที่เข้าร่วมโปรแกรมมากที่สุดถึง 27 โครงการ ทั้งโครงการใหม่และโครงการพร้อมอยู่ ครอบคลุมทุกเซกเมนต์
ตั้งแต่ระดับราคา Affordable ไปถึง Luxury บน Strategic Location ทั่วประเทศ ‘CONNECT’ แชร์คอนเทนต์ผ่านช่องทางออนไลน์หลากหลายแพลตฟอร์ม และ ‘COMMISSION’ สร้างรายได้จากค่าคอมมิชชั่นสูงสุดถึง 1 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างยอดขายจากครั้งนี้กว่า 200 ล้านบาท
โครงการคอนโดนิเนียมที่เข้าร่วมครั้งนี้ อาทิ เวีย อารีย์ คอนโดใหม่ บนอารีย์ซอย 1 ส่วนตัวเพียง 114 ครอบครัว ราคา 19.99 – 85.99 ล้านบาท, เดอะ ไลน์ ไวบ์ คอนโดใหม่ 300 ม. จาก BTS ห้าแยกลาดพร้าว เริ่ม 3.89 ล้านบาท, เดอะเบส ดาวน์ทาวน์ ขอนแก่น คอนโดพร้อมอยู่ใกล้เซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น พร้อมคลับเฮาส์ เริ่ม 1.65 ล้านบาท*,
เอ็กซ์ที พญาไท ไลฟ์สไตล์คอนโดพร้อมอยู่ ใกล้ BTS เพียง 2 สถานี ถึงสยาม เริ่ม 4.99 ล้านบาท, ดีคอนโด พนา คอนโดใหม่สไตล์รีสอร์ทใจกลางจรัญฯ ใกล้ ศิริราช และ MRT เริ่ม 1.79 ล้านบาท* และคอนโดมี บ้านโพธิ์ คอนโดฉะเชิงเทราใหม่ราคาต่ำล้าน เป็นต้น
“โปรดักส์ของแสนสิริมีความโดดเด่นด้านคุณภาพ ดีไซน์และฟังก์ชั่น ที่จะช่วยจุดประกายไอเดียการทำคอนเทนต์อย่างสร้างสรรค์ ไร้ขีดจำกัด และบริการหลังการขายที่มุ่งดูแลครอบครัวแสนสิริตลอดช่วงการอยู่อาศัย จึงทำให้แสนสิริเป็นแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้า ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งแบรนด์ Top-of-Mind ของวงการอสังหาฯ” องอาจ กล่าว
การันตีด้วยรางวัล The Most Powerful Brand in Real Estate 2023 สุดยอดแบรนด์อสังหาฯ ทรงพลังแห่งปี ทำให้มั่นใจว่า ครีเอเตอร์สามารถเลือกคอนโดที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ดึงจุดเด่นของโครงการมาสร้างสรรค์คอนเทนท์ และสร้างรายได้จากค่าคอมมิชชันได้เริ่มวันนี้ – 31 ก.ค.2567
แสนสิริ บุกเบิก Sansiri Affiliate Program ในวงการอสังหาฯ ครั้งแรกไปเมื่อปี 2562 ควบคู่ไปกับการทำการตลาดบนออนไลน์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันแสนสิรินับเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ประสบความสำเร็จจาก Sansiri e-Commerce ที่ครอบคลุมหลากหลายแพลตฟอร์มและมากที่สุดในวงการอสังหาฯ ไทย
สะท้อนจากความสำเร็จของยอดขายคอนโดผ่าน e-Commerce ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาได้กว่า 3,500 ล้านบาท และในปี 2567 เราวางเป้ายอดขายคอนโดผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce รวมที่ 800 ล้านบาท จากโปรเจคหลัก ได้แก่ Live Commerce และ Sansiri Affiliate Program รวมถึงส่วนลดพิเศษเมื่อจองคอนโดผ่าน Sansiri 24 Online Booking ตลอดปี
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 19เม.ย. “อ่อนค่าเล็กน้อย” ที่ระดับ 36.85 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทยังมีความผันผวนสูงมีโอกาสแตะ 37.00บาทต่อดอลลาร์ เหตุผู้เล่นในตลาดต่างยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม เงินดอลลาร์ยังรีบาวด์แข็งค่าขึ้น
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 19เม.ย. 2567ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.78 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 36.90 บาทต่อดอลลาร์ และอาจอ่อนค่าไปถึงระดับ 37.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้ ท่ามกลางปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่า ทั้งแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ ที่อาจยังคงมีอยู่บ้าง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม
(ทั้งนี้ แรงขายสินทรัพย์ไทยอาจชะลอลงบ้าง หลังดัชนี SET ก็ย่อตัวลงใกล้โซนแนวรับหลัก) รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ก็ยังรีบาวด์แข็งค่าขึ้น จากความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ที่อาจยังไม่คลี่คลายในเร็ววันนี้ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจอังกฤษ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ BOE เพราะหาก ยอดค้าปลีกของอังกฤษ ออกมาแย่กว่าคาดชัดเจน ก็อาจทำให้ ผู้เล่นในตลาดเริ่มมองว่า BOE ก็มีโอกาสทยอยลดดอกเบี้ยได้เร็วขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งจะส่งผลกดดันให้
เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) มีโอกาสอ่อนค่าลงได้ คล้ายกับในช่วงวันพุธ 17 เมษายน ที่ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI อังกฤษ ออกมาสูงกว่าคาด จนทำให้ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ (และชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท)
และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามความเสี่ยงที่ทางการญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดค่าเงิน เพื่อหนุนให้เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะหากเงินเยนได้อ่อนค่าทะลุโซน 155 เยนต่อดอลลาร์
อนึ่ง เรามองว่า เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนสูงกว่าปกติ ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.75-37.00 บาท/ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาททยอยผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 36.74-36.86 บาทต่อดอลลาร์) ท่ามกลางแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า จากการรีบาวด์แข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ได้แรงหนุนจากความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้ง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims)
และดัชนีภาคการผลิตโดยเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ต่างก็ออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างก็ย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ยในเร็ววันนี้ หลังอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอลงสู่เป้า 2% ได้ช้ากว่าคาด ทั้งนี้ โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ ในจังหวะการปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้าน 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ของราคาทองคำ ก็มีส่วนช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทบ้าง
บรรดาผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่
อีกทั้งรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ในช่วงนี้ ก็ออกมาไม่ได้สดใสนัก เหมือนในช่วงการรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังพอได้แรงหนุนบ้าง จากบรรดาหุ้นกลุ่ม Defensive ทั้ง Utilities และ Healthcare Services ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาดราว -0.22%
ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้น +0.24% หนุนโดย รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทส่วนใหญ่ที่ออกมาดีกว่าคาด อาทิ ABB +6.3% และการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นกลุ่มการเงิน ท่ามกลางความหวังว่า ผลประกอบการหลายธนาคารจะออกมาสดใสเหมือนกับ Bankinter +5.3% ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังคงเผชิญแรงกดดันจากความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ไม่ต่างจากตลาดหุ้นอื่นๆ
ในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง สู่ระดับ 4.63% ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ที่ออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างก็ออกมาสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดไปอีกสักระยะ จนกว่าจะมั่นใจในแนวโน้มการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อ
เราคงมุมมองเดิมว่า ในระยะสั้น บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อย่าง บอนด์ยีลด์ 10 ปี อาจแกว่งตัว sideways ใกล้ระดับปัจจุบัน จนกว่าตลาดจะมีการรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ เนื่องจากเรายังคงประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวลงมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การทยอยลดดอกเบี้ยของเฟดราว 3-4 ครั้งได้ ทำให้ เรามองว่า บอนด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังมีความน่าสนใจในทุกจังหวะการปรับตัวขึ้น (เน้นกลยุทธ์ทยอย Buy on Dip) และ Risk-Reward มีความคุ้มค่ามากขึ้น
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงออกมาดีกว่าคาด และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างก็ย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) รีบาวด์ขึ้นใกล้ระดับ 106.2 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 105.8-106.2 จุด)
ในส่วนของราคาทองคำ สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่นั้น ยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย.) ทว่า ราคาทองคำก็เผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทำให้ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวแถวโซน 2,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ ในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งอาจมีโทนการสื่อสารไม่ต่างจากบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดก่อนหน้า คือ เฟดจะยังไม่รีบลดดอกเบี้ย จากแนวโน้มการชะลอตัวลงช้ากว่าคาดของอัตราเงินเฟ้อ
ส่วนในฝั่งอังกฤษ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ในเดือนมีนาคม รวมถึง ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งอาจมีผลต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของ BOE ที่ล่าสุดผู้เล่นในตลาดต่างคาดว่า BOE อาจเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าเข้าใกล้แนว 36.90 ก่อนจะกลับมาปรับตัวอยู่ที่ 36.84-36.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.23 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ
ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย) ที่ออกมาดีกว่าที่คาด และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ตอกย้ำโอกาสที่เฟดจะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบการประชุมใกล้ๆ นี้
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไหว้ที่ 36.80-37.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ของญี่ปุ่น และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ยืน1สถิติเซต! “ซาร่า” นุศรา ต้อมคํา กระหึ่มผงาดยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ลีกวอลเลย์บอลสหรัฐฯ
“ซาร่า” นุศรา ต้อมคำ คว้ารางวัลผู้เล่นประจำสัปดาห์ลีก หรือ PLAYER OF THE WEEK ลีกวอลเลย์บอลหญิงสหรัฐอเมริกา หลังทำสถิติเยี่ยมพา ซาน ดิเอโก้ โมโจ คว้าชัย 2 เกมติด
นุศรา ต้อมคำ อดีตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย สร้างชื่อกระหึ่มลีกลูกยางสหรัฐอเมริกา หลังโชว์ผลงานเยี่ยมกับต้นสังกัด ซาน ดิเอโก้ โมโจ ผงาดคว้ารางวัลผู้เล่นประจำสัปดาห์ลีก หรือ PLAYER OF THE WEEK ประจำลีกอย่างสุดยอด จากการประกาศเมื่อ 17 เมษายนที่ผ่านมา
นุศรา ต้อมคำ มือเซตขวัญใจชาวไทย พา ซาน ดิเอโก้ โมโจ คว้าชัยชนะ 2 เกมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมโชว์ผลงานเยี่ยมจนคว้ารางวัลผู้เล่นประจำสัปดาห์ลีก หรือ PLAYER OF THE WEEK จากสหพันธ์วอลเลย์บอลอาชีพ ( USA Pro Volleyball Federation) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่น ซาน ดิเอโก้ โมโจ ได้รับรางวัลนี้
มือเซตชาวราชบุรี จากประเทศไทย จบสัปดาห์ด้วยการทำสถิติ 122 แอสซิสต์จาก 3 แมตช์ รวมถึงสถิติแฟรนไชส์ที่ 49 ในสองเกม (ในเกมกับโคลัมบัส กับ ออร์แลนโด) ด้วยค่าเฉลี่ย 9.4 แอสซิสต์ใน 13 เซ็ต
นอกจากนี้ นุศรา ต้อมคำ ยังโชว์ฟอร์มป้องกันที่แข็งแกร่ง โดยป้องกันได้ 29 ครั้งเกมกับ ออร์แลนโด วัลคีรีส์ และ 18 ครั้งกับ โคลัมบัส ฟิวรี่ และ 6 ครั้งในการแข่งขันกับ แอตแลนต้า
ซึ่ง นุศรา ทำสถิติรวม 613 แอสซิสต์ ซึ่งอยู่อันดับที่สามในวอลเลย์ลีกอเมริกา ในขณะที่ค่าเฉลี่ยแอสซิสต์ 10.9 ของเธอถือเป็นอันดับสูงสุดในลีก รวมถึงเธอมีสถิติพุ่งรับบอล (digs) 188 ครั้ง ในปี2024 อีกด้วย
รางวัลผู้เล่นประจำสัปดาห์ลีก 2 เดือนล่าสุด
16 เม.ย. นุศรา ต้อมคำ, ซาน ดิเอโก้ โมโจ
9 เม.ย. เบธาเนีย เด ลา ครูซ , โอมาฮา ซูเปอร์โนวาส์
2 เม.ย. ซิดนี่ย์ ฮิลลีย์ , โอมาฮา ซูเปอร์โนวาส์
26 มี.ค. แอสยา โอ นีล, โคลัมบัส ฟิวรี่
19 มี.ค. อลิสชา กลาสส์ ชิลด์เดรส, เวกาส ทริลล์
12 มี.ค. บรู๊ค นุนวิลเลอร์, โอมาฮา ซูเปอร์โนวาส์
5 มี.ค. แอนนา ลาซาเรว่า , แอตแลนต้า ไวบ์
ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th
8 พฤติกรรมเสี่ยง “มะเร็งลำไส้ใหญ่” ที่คุณอาจไม่รู้ตัว
มะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจไม่ใช่โรคมะเร็งชนิดแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง เพราะส่วนใหญ่อาจจะเคยได้ยินแต่มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ หรือมะเร็งปอดกันเสียมากกว่า แต่อันที่จริงแล้ว มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นมะเร็งที่พบผู้ป่วยในไทยเป็นจำนวนมาก ในปี 2553 พบผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่เป็นเพศชายมากเป็นอันดับ 2 จากโรคมะเร็งทั้งหมด และเป็นอันดับ 3 ในเพศหญิงอีกด้วย
นอกจากสาเหตุจะไม่เป็นที่แน่ชัดเหมือนกับโรคมะเร็งอื่นๆ แล้ว ผู้ป่วยหลายคนกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ก็อาจจะสายเกินแก้ ดังนั้นหากทราบพฤติกรรมที่อาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคนี้ได้มากเลยล่ะค่ะ
มะเร็งลำไส้ใหญ่ คืออะไร?
มะเร็งลำไส้ใหญ่ คืออาการที่พบก้อนเนื้อ หรือติ่งเนื้อที่เป็นเซลล์มะเร็งบริเวณผนังลำไส้ใหญ่ ที่ปกติทำหน้าที่แปรของเสียเหลว ที่ถูกดูดซึมเอาสารอาหารที่มีประโยชน์ออกไปเรียบร้อยแล้ว ให้เป็นอุจจาระแข็งเพื่อรอการขับถ่ายออกจากร่างกาย
มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีสาเหตุจากอะไร?
มะเร็งลำไส้ใหญ่ ก็เหมือนกับโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ ที่ไม่อาจทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคได้อย่างแน่ชัด ทราบเพียงแต่ความเสี่ยงที่อาจทำให้มีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าปกติเท่านั้น
ใครมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่บ้าง?
- ผู้ที่มีสมาชิกครอบครัว หรือญาติ ที่เคยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือโรคลำไส้ใหญ่อักเสบมาก่อน
- มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
พฤติกรรมเสี่ยง “มะเร็งลำไส้ใหญ่”
- รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงมากเกินไป
- รับประทานอาหารประเภทเนื้อแดง ปิ้งย่าง ที่มีลักษณะไหม้เกรียมบ่อยๆ
- รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อยเกินไป
- สูบบุหรี่
- ดื่มแอลกอฮอล์
- ขาดการออกกำลังกาย
- มีพฤติกรรมเนือยนิ่ง เช่น นักดูทีวีทั้งวัน นั่งติดเก้าอี้ นอนติดเตียง
- น้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)
มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีอาการอย่างไร?
ในระยะแรกผู้ป่วยจะไม่รู้ตัวว่ากำลังเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อยู่ แต่จะแสดงสัญญาณเตือนที่เกี่ยวข้องกับการขับถ่าย เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย อุจจาระก้อนเล็กลง อุจจาระมีเลือดปน (ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าเป็นโรคริดสีดวงทวาร) และอาจมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ซีด หรือน้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุอีกด้วย
มะเร็งลำไส้ วินิจฉัยได้อย่างไร ?
หลังจากที่มีการวินิจฉัยแล้วระบุว่าเป็นมะเร็งลำไส้ หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่แล้วนั้น แพทย์ก็จะแบ่งระยะของมะเร็งชนิดนี้ได้ตามการแพร่กระจายของโรค ดังนี้
- Stage 0 / ระยะที่ 0 : มะเร็งลำไส้ในระยะนี้เป็นแค่เพียงระยะเริ่มต้น โดยเซลล์มะเร็งยังอยู่แค่เฉพาะบริเวณผนังของลำไส้
- Stage 1 / ระยะที่ 1 : ในระยะนี้ก็เช่นกันที่มะเร็งจะยังไม่แพร่กระจายออกจากผนังลำไส้
- Stage 2 / ระยะที่ 2 : มะเร็งได้แพร่ออกนอกลำไส้ แต่ยังไม่แพร่ไปสู่ต่อมน้ำเหลือง
- Stage 3 / ระยะที่ 3 : มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เคียง แต่ยังไม่ได้แพร่ไปยังอวัยวะอื่นๆ
- Stage 4 / ระยะที่ 4 : มะเร็งได้แพร่กระจายออกไปยังอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย แต่จะแพร่ยังตับและปอดมากที่สุด
- Recurrent : ผู้ป่วยกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำหลังจากที่ทำการรักษา
มะเร็งลำไส้ใหญ่ ป้องกันอย่างไร?
แม้ว่าดูเหมือนจะเป็นโรคร้ายแรงที่อันตราย เพราะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เราสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ง่ายๆ เพียงลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง ลดจำนวนครั้งในการทานอาหารประเภทเนื้อแดง และปิ้งย่าง ทานอาหารที่มีกากใยอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ ให้มากขึ้น ลดการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ และที่สำคัญคือ ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ รับรองว่าเคล็ดลับง่ายๆ เพียงเท่านี้ ก็ช่วยลดความเสี่ยในการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้มากเลยทีเดียวค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
20 แคปชั่นให้กำลังใจภาษาอังกฤษ ทำให้มีแรงฮึดสู้อีกครั้ง
ในวันที่เรารู้สึกเหนื่อย หรือท้อแท้ไปกับการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องงาน การเรียน และปัญหาต่าง ๆ ที่ถั่งโถมเข้ามา แค่มีประโยคหรือคำพูดปลอบประโลมคอยให้กำลังใจดี ๆ จากคนใกล้ตัวก็สามารถช่วยให้เรามีแรงลุกขึ้นเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ต่อไปได้
วันนี้ วอลล์สตรีท อิงลิช มีแคปชั่นให้กำลังใจ ภาษาอังกฤษดี ๆ ไว้สำหรับส่งต่อให้กับคนที่คุณห่วงใยนำมาฝากกัน ไปชมกันเลย !
แคปชั่นภาษาอังกฤษ ให้กำลังใจดี ๆ
- Believe in yourself and all that you are – เชื่อในตัวเอง และทุกสิ่งที่คุณเป็น
- Every setback is a setup for a comeback – ทุกความล้มเหลวคือการเตรียมการเพื่อการกลับมา
- Your only limit is you – ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวของคุณคือตัวคุณเอง
- You are stronger than you think – คุณแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิด
- Don’t wait for opportunity, create it – อย่าที่จะรอคอยโอกาส จงสร้างมัน
- Success begins with self-belief – ความสำเร็จเริ่มต้นที่การเชื่อในตัวเอง
- The best is yet to come. – สิ่งที่ดีสุดยังไม่มาถึง
- Choose courage over comfort – เลือกความกล้าหาญให้เหนือกว่าความสบาย
- You are the hero of your own story – คุณคือฮีโร่ในเรื่องราวของตัวคุณเอง
- Believe in the power of your dreams – จงเชื่อในพลัง และความฝันของคุณ
- Dream big and dare to fail – ฝันให้ใหญ่ และกล้าที่จะท้าทายความล้มเหลว
- Every day is a chance to change your life – ทุกวันคือโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต
- Difficult roads often lead to beautiful destinations – ถนนที่ยากลำบาก มักจะนำไปสู่ปลายทางที่สวยงาม
- Stars can’t shine without darkness – ดวงดาวจะไม่สามารถเปล่งประกายแสงได้หากไม่มีความมืด
- Every small step counts towards your big goals – ทุกก้าวเล็ก ๆ ย่อมมีความสำคัญต่อเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของคุณ
- Chase your dreams, not your fears – จงไล่ตามความฝันของคุณไม่ใช่ความกลัวของคุณ
- The secret of getting ahead is getting started – ความลับในการก้าวหน้าคือการเริ่มต้น
- Focus on progress, not perfection – จงให้ความสำคัญกับความก้าวหน้า ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ
- Your passion is your power – ความหลงใหลคือพลังของคุณ
- Keep going, you’re closer than you think – จงเดินหน้าต่อ คุณอยู่ใกล้กว่าที่คุณคิด
- Your potential is endless – ความเป็นไปได้ของคุณนั้นไม่มีที่สิ้นสุด
ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th
AMD ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PC สำหรับธุรกิจ ครอบคลุมโมบายและเดสก์ท็อป
AMD เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PC บนแพลตฟอร์มโมบายล์และเดสก์ท็อปที่รองรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) มอบประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม ประสบการณ์การใช้งาน AI ระดับพรีเมียม และการเชื่อมต่อที่เหนือชั้นสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มธุรกิจ โปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดซีรีย์ AMD Ryzen™ PRO 8040
เป็นโปรเซสเซอร์ x86 ที่ล้ำสมัยที่สุดสำหรับโน้ตบุ๊คและโมบายเวิร์คสเตชั่นสำหรับการใช้งานด้านธุรกิจ นอกจากนี้ เอเอ็มดียังประกาศเปิดตัวโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป AMD Ryzen™ PRO 8000 โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปตัวแรกที่รองรับ AI สำหรับผู้ใช้งานด้านธุรกิจ ออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมควบคู่กับการประหยัดพลังงาน
Jack Huynh รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์ประมวลผลและกราฟิก บริษัท AMD กล่าวว่า “AMD นำเสนอเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ครอบคลุมเพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจยุคใหม่ เรายังคงขยายความเป็นผู้นำด้าน AI PC อย่างต่อเนื่องผ่านการเสนอประสิทธิภาพการประมวลผลที่มากขึ้น
บนกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปและโมบายพีซีหลากหลายรุ่น โปรเซสเซอร์ PRO ซีรีส์ล่าสุดของเราได้สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านประสบการณ์การประมวลผลระดับพรีเมียม และช่วยให้ธุรกิจนำความสามารถด้าน AI ไปใช้กับพีซีทั่วทั้งองค์กรด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยระดับชั้นนำ”
โมบายโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8040 Series ขับเคลื่อนประสิทธิภาพกลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปและโมบายเวิร์คสเตชั่นระดับมืออาชีพและ
ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ มุ่งนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปใช้กับคอมพิวเตอร์ภายในองค์กร โมบายโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8040 Series นำเสนอประสิทธิภาพการประมวลผลอันทรงพลังและประหยัดพลังงานที่ยอดเยี่ยม เพื่อรองรับเวิร์คโหลดด้านธุรกิจและ AI ที่หนักหน่วงที่สุด โปรเซสเซอร์ใหม่นี้มาพร้อมกับคอร์ประมวลผลประสิทธิภาพสูงถึงแปดคอร์ บนเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง 4nm และสถาปัตยกรรม “Zen 4” ที่มอบประสิทธิภาพการประมวลผลรวดเร็วขึ้นถึง 30% สำหรับแอปพลิเคชันโมบายเวิร์คสเตชั่นที่ต้องการทรัพยากรมากที่สุด
ด้วยเทคโนโลยี AMD Ryzen AI และ AMD RDNA™ 3 อันทรงพลัง ที่ผสานรวมเข้ากับโปรเซสเซอร์ซีรี่ย์ล่าสุดนี้ ได้มอบประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นถึง 72% และใช้พลังงานน้อยลงถึง 84% เมื่อเทียบกับ Intel Core Ultra 7 165U สำหรับการประชุมทางวิดีโอ ไม่ว่าจะเปิดใช้งานประสบการณ์ AI หรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ พีซีที่ใช้โปรเซสเซอร์ Ryzen PRO 8040 Series จะเป็นผู้ใช้กลุ่มแรก ๆ ที่รองรับเทคโนโลยี WiFi-7 ซึ่งมอบการเชื่อมต่ออันล้ำสมัยและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม
โปรเซสเซอร์เรือธง AMD Ryzen™ 9 PRO 8945HS มาพร้อมคอร์ประมวลผล 8 คอร์ 16 เธรด แคช 24MB และการ์ดจอ Radeon™ 780M ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผลขั้นสูงสำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้ทรัพยากรมหาศาล เช่น การคำนวณทางเทคนิค การสร้างสรรค์เนื้อหามัลติมีเดีย และกราฟิกแยก โดยโปรเซสเซอร์สามารถรองรับเวิร์คโหลดงานที่ต้องการกราฟิกสูง เช่น การเรนเดอร์ 3D การเข้ารหัสวิดีโอ และการแก้ไขรูปภาพ
โมบายโปรเซสเซอร์ Ryzen PRO 8040 Series ใหม่ คาดว่าจะวางจำหน่ายผ่านพันธมิตร OEM ประกอบด้วย HP และ Lenovo ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2024
Model | Cores/Threads | Boost[ix] / Base Frequency | Total Cache | cTDP | Ryzen™ AI |
AMD Ryzen™ 9 PRO 8945HS | 8C/16T | Up to 5.2GHz/ 4GHz | 24MB | 35-54W | Available |
AMD Ryzen™ 7 PRO 8845HS | 8C/16T | Up to 5.1GHz/ 3.8GHz | 24MB | 35-54W | Available |
AMD Ryzen™ 7 PRO 8840HS | 8C/16T | Up to 5.1GHz/ 3.3GHz | 24MB | 20-28W | Available |
AMD Ryzen™ 7 PRO 8840U | 8C/16T | Up to 5.1GHz/ 3.3GHz | 24MB | 15-28W | Available |
AMD Ryzen™ 5 PRO 8645HS | 6C/12T | Up to 5.0GHz/ 4.3GHz | 22MB | 35-54W | Available |
AMD Ryzen™ 5 PRO 8640HS | 6C/12T | Up to 4.9GHz/3.5GHz | 22MB | 20-28W | Available |
AMD Ryzen™ 5 PRO 8640U | 6C/12T | Up to 4.9GHz/3.5GHz | 22MB | 15-28W | Available |
AMD Ryzen™ 5 PRO 8540U | 6C/12T | Up to 4.9GHz/3.2GHz | 22MB | 15-28W | N/A |
AMD Ryzen PRO 8000 Series เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์สำหรับธุรกิจตัวแรกของโลกที่รองรับเทคโนโลยี AI[x]
สำหรับนักธุรกิจที่ใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8000 Series มาพร้อมกับการรองรับเทคโนโลยี AI เป็นครั้งแรกบนโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป ขับเคลื่อนประสบการณ์ด้าน AI ให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสิทธิภาพการประมวลผลอันทรงพลัง โดยมีคอร์ประสิทธิภาพสูง “Zen 4” สูงสุดแปดคอร์
ผลิตด้วยเทคโนโลยีกระบวนการผลิต 4nm โปรเซสเซอร์ซีรี่ย์ Ryzen PRO 8000 สร้างมาตรฐานใหม่ด้านการประมวลผลและประสิทธิภาพการใช้พลังงานในการดำเนินธุรกิจธุรกิจแต่ละวัน โดยคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 7 PRO 8700G จะได้รับประสิทธิภาพการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นสูงสุด 47% และประสิทธิภาพกราฟิกที่เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากการทดสอบเมื่อนำไปเทียบกับโปรเซสเซอร์ Intel Core i7 14700
คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่ติดตั้งโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8000 Series จะรองรับเทคโนโลยี DDR5 และ PCIe® 4 ช่วยให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน และเข้าถึงแอปพลิเคชันและข้อมูลสำคัญทางธุรกิจได้เร็วยิ่งขึ้น รวมถึงการเชื่อมต่อเทคโนโลยี Wi-Fi 7 ด้วย
โดยโปรเซสเซอร์เรือธงของซีรีย์ AMD Ryzen 8700G มอบประสิทธิภาพแก่ผู้ใช้ผ่านคอร์ประสิทธิภาพสูง 8 คอร์ 16 เธรด แคช 24MB และกราฟิกการ์ด AMD Radeon 780M ภายใน จากการทดสอบประสิทธิภาพ โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 8700G ให้ประสิทธิภาพดีกว่าถึง 19%[xii] พร้อมการใช้พลังงานที่น้อยกว่า ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้ระดับมืออาชีพสำหรับการทำงานในเวิร์คโหลดต่าง ๆ
เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ Ryzen PRO 8000 Series ใหม่ คาดว่าจะวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มพันธมิตร OEM อย่าง HP และ Lenovo รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2024
Model | Cores/Threads | Boost / Base Frequency | Total Cache | cTDP | Ryzen™ AI |
AMD Ryzen™ 7 PRO 8700G | 8C/16T | Up to 5.1GHz/4.2GHz | 24MB | 45-65W | Available |
AMD Ryzen™ 7 PRO 8700GE | 8C/16T | Up to 5.1GHz/3.65GHz | 24MB | 35W | Available |
AMD Ryzen™ 5 PRO 8600G | 6C/12T | Up to 5.0GHz/4.35GHz | 22MB | 45-65W | Available |
AMD Ryzen™ 5 PRO 8600GE | 6C/12T | Up to 5.0GHz/3.90GHz | 22MB | 35W | Available |
AMD Ryzen™ 5 PRO 8500G | 6C/12T | Up to 5.0GHz/3.55GHz | 22MB | 45-65W | N/A |
AMD Ryzen™ 5 PRO 8500GE | 6C/12T | Up to 5.0GHz/3.40GHz | 22MB | 35W | N/A |
AMD Ryzen™ 3 PRO 8300G | 4C/8T | Up to 4.90GHz/3.45GHz | 12MB | 45-65W | N/A |
AMD Ryzen™ 3 PRO 8300GE | 4C/8T | Up to 4.90GHz/3.50GHz | 12MB | 35W | N/A |
เสริมพลังให้กับองค์กรผ่านแนวทางการรักษาความปลอดภัยและความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงด้วยเทคโนโลยี AMD Ryzen™ PRO และ Ryzen™ AI
เทคโนโลยี AMD PRO มอบฟีเจอร์การจัดการระดับองค์กรให้แก่ผู้ใช้ ผลการศึกษาล่าสุดโดย Principled Technologies แสดงให้เห็นว่าผู้จัดการ IT สามารถติดตั้งแล็ปท็อปที่ใช้ขุมพลัง AMD ได้เร็วกว่าแล็ปท็อปของคู่แข่งถึง 41% และสามารถดูแลจัดการแล็ปท็อปได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือบนระบบคลาวด์
เช่น Windows Autopilot นอกจากนี้ เทคโนโลยี AMD PRO ยังนำเสนอแนวทางการรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้นที่แข็งแกร่ง ฝังอยู่ภายในทั้งบนฮาร์ดแวร์ และระบบปฏิบัติการ ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรที่หลากหลาย เทคโนโลยี AMD PRO จะช่วยให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีสามารถตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยที่ทันสมัย และเสนอการปกป้องที่ต่อเนื่องให้กับผู้ใช้จากการโจมตีที่ซับซ้อน
นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO ยังมาพร้อมชิปด้านความปลอดภัย Microsoft Pluton ที่ผสานเข้าไว้ด้วย[xiv] เสนอการป้องกันที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ชิปไปจนถึงระบบคลาวด์ ช่วยปกป้องข้อมูลรับรองตัวบุคคล บัญชีผู้ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคล และการเข้ารหัสบนพีซีที่ใช้ระบบปฎิบัติการณ์ Windows 11
ภายในปลายปี 2024 นี้ คาดว่าจะมี ISV ที่รองรับ AI มากกว่า 150 ราย ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานบน Ryzen AI โดยผู้ใช้กลุ่มธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก Ryzen AI เพื่อสร้างเอกสารและงานนำเสนอระดับมืออาชีพ จากหัวข้อสั้น ๆ ไม่กี่ข้อ รวมไปถึงการสรุปเนื้อ และตอบกลับอีเมล ช่วยประหยัดเวลาอันมีค่าในระหว่างวัน นอกจากนี้ Ryzen AI ยังช่วยให้ผู้ใช้มีผู้ช่วยส่วนตัว AI เพื่อช่วยในการเขียนโค้ด ทำงานร่วมกับเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI และปรับแต่งภาพและวิดีโอด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การปรับความคมชัดและลดสัญญาณรบกวน
พันธมิตร OEM เปิดตัวแล็ปท็อปซีรี่ย์ Ryzen PRO 8040 และเดสก์ท็อปซีรี่ย์ Ryzen PRO 8000 เพิ่มเติม
พันธมิตร OEM ของ AMD ประกอบด้วย Lenovo และ HP กำลังเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อป โมบายเวิร์คสเตชั่น และเดสก์ท็อปที่ทรงพลัง ประสิทธิภาพสูง และรองรับ AI มากขึ้น ผ่านขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8040 และ 8000 Series เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานด้านธุรกิจทุกประเภท นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ พันธมิตรในอุตสาหกรรม ยังคงขยายฟีเจอร์ Microsoft Copilot เพื่อนำเสนอความสามารถด้าน AI เพิ่มเติมมายังระบบปฎิบัติการ Windows ผ่านการใช้ฮาร์ดแวร์ AMD เพื่อปลดล็อคฟีเจอร์ใหม่สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพ การรักษาความปลอดภัย และการดำเนินธุรกิจในแต่ละวัน
ในงาน HP Amplify Partner Conference ปีนี้ HP ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อป เวิร์คสเตชั่น และแล็ปท็อปเชิงพาณิชย์หลากหลายรุ่น รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลบนโปรเซสเซอร์ AMD PRO Series ประกอบด้วย HP EliteBook 805 Series G11 Notebook PCs, HP EliteBook 605 Series G11 Notebook PCs, HP ProBook 405 Series G11 Notebook PCs, HP Elite Small Form Factor 805 G9 Desktop PC
HP ZBook Power G11 และ HP ZBook Firefly G11 ที่ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ PRO 8000 หรือ 8040 Series โดย HP และ AMD กำลังยกระดับเทคโนโลยี AI ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ผ่านความเชี่ยวชาญของ HP ในโซลูชันการประมวลผลบนเวิร์คสเตชั่นระดับไฮเอนด์ ร่วมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ AMD ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอความพร้อมและการสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยี AI
Guayente Sanmartin รองประธานอาวุโสและประธานฝ่าย Commercial Systems & Displays Solutions บริษัท HP Inc. กล่าว”ที่ HP เรายังคงเดินหน้าเป็นผู้นำยุคใหม่ด้านการประมวลผลแบบเฉพาะบุคคล โดยทำงานร่วมกับ AMD ผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างอนาคตด้านเทคโนโลยี ด้วยความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของเรา เรามีความยินดีที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ HP Elite และ Pro PC รุ่นล่าสุด รวมถึงโมบายเวิร์คสเตชั่น Z by HP ซึ่งติดตั้งโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเวิร์คโหลดงานด้าน AI ให้กับลูกค้าของเรา”
เมื่อต้นปีนี้ Lenovo ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ThinkPad T14 Gen 5 ที่ใช้ขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8040 Series และในวันนี้ บริษัทได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปเพิ่มเติม ประกอบด้วย ThinkCentre M75s Gen 5, ThinkCentre M75q Gen 5 และ ThinkCentre M75t Gen 5 ซึ่งทั้งหมดใช้ขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8000 Series
Sanjeev Menon รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Worldwide Desktop Business in Intelligence Devices Group บริษัท Lenovo กล่าวว่า “ความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่าง AMD และ Lenovo ช่วยให้เราสามารถนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยให้กับลูกค้าของเรา กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปเชิงพาณิชย์ Lenovo ThinkCentre รุ่นล่าสุดของเรา ที่ใช้ขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8000 Series Desktop Processors
ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ AI เพื่อมอบประสิทธิภาพและความคล่องตัวในระดับที่เหนือกว่า พร้อมทั้งเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้ใช้งานด้านธุรกิจเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยผลสำรวจล่าสุดของ Lenovo แสดงให้เห็นว่า เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ (CIO) มีความต้องการเร่งด่วนที่จะบูรณาการ AI เข้าสู่การดำเนินงานทางธุรกิจ และคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ThinkCentre รุ่นใหม่นี้จะช่วยให้การใช้ AI เป็นไปได้สำหรับทุกคน”
James Howell ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายระบบปฎิบัติการณ์ Windows บริษัท Microsoft กล่าวว่า “Microsoft ยังคงเดินหน้าสร้างแรงผลักดันให้กับการนำ AI PC มาใช้ โดยมุ่งเน้นเรื่องการนำเสนอเคสการใช้งานและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้มืออาชีพยุคใหม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เรากำลังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับ AMD เพื่อนำเสนอฟีเจอร์ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปและโมบายที่ใช้ระบบปฎิบัติการณ์ Windows 11 ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพบนโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen”
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
7 คาร์บดีกินเพื่อลดน้ำหนัก รับรองเข็มกิโลไม่กระดิก
หลายปีมานี้ เราได้ยินกันบ่อยๆ ว่าการลดคาร์โบไฮเดรต หรือเรียกกันสั้นๆ ว่าการโลว์คาร์บ เป็นหัวใจสำคัญของการลดน้ำหนัก แต่ความจริงแล้ว ยังมีคาร์โบไฮเดรตบางชนิดที่เราควรทานอยู่ คาร์โบไฮเดรต เปรียบเสมือนแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย คล้ายกับน้ำมันที่หล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ แต่การทานคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ที่พบในข้าวขาว ขนมปังขาว และน้ำตาล ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ดีต่อสุขภาพ ยังมีบทบาทสำคัญต่อร่างกาย และต่อไปนี้คือ 7 คาร์บดี คนลดน้ำหนักทานได้ รับรองน้ำหนักไม่เพิ่ม
7 คาร์บดีคนลดน้ำหนักทานได้
1.ข้าวบาร์เลย์
ข้าวบาร์เลย์ เป็นธัญพืชที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีใยอาหารสูง โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ จากงานวิจัยในสวีเดน พบว่าข้าวบาร์เลย์มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอิ่มท้อง ช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน และลดความหิว นอกจากนี้ข้าวบาร์เลย์ยังมีใยอาหารชนิดพิเศษที่สามารถเปลี่ยนแปลงแบคทีเรียในลำไส้ ส่งผลดีต่อระบบเผาผลาญ
2.ข้าวโพดคั่ว
ครั้งหน้าที่คุณรู้สึกหิว ลองเปลี่ยนจากมันฝรั่งทอดกรอบ มาทานข้าวโพดคั่วแทน จากงานวิจัยที่เปรียบเทียบความอิ่มท้องระยะสั้นของของว่างยอดนิยมสองชนิดนี้ นักวิจัยด้านอาหารและสุขภาพจากหลายประเทศ พบว่าอาสาสมัครส่วนใหญ่รู้สึกหิวน้อยลงและรู้สึกอิ่มมากขึ้นหลังจากทานข้าวโพดคั่ว
3.ควินัว
เนื่องจากธัญพืชอันทรงพลังนี้มีเส้นใยอาหารมากกว่าเมล็ดอื่นๆ เกือบสองเท่า สารอาหารของเมล็ดพืชจึงถูกปล่อยออกสู่กระแสเลือดได้ช้ากว่ามาก ทำให้ระดับน้ำตาลสมดุลและเพิ่มการเผาผลาญของคุณ นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารปลอดกลูเตนดัดแปลงอื่นๆ แล้ว ควินัวปลอดกลูเตนตามธรรมชาติได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยในการลดน้ำหนัก เนื่องจากมีระดับกรดไขมันอิสระต่ำกว่า ซึ่งเชื่อมโยงกับภาวะดื้อต่ออินซูลิน
4.ถั่วชิกพี
ควรเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ของคุณสำหรับของว่าง เพราะอุดมไปด้วยใยอาหารและโปรตีน การศึกษาในปี 2014 ระบุว่าการกินพืชตระกูลถั่ว ซึ่งรวมถึงถั่วชิกพี ถั่ว ถั่วลันเตา และถั่วเลนทิล สามารถช่วยป้องกันการกินมากเกินไปและช่วยควบคุมน้ำหนักได้
5.มันเทศ
เก็บมันเทศสีส้มสดเหล่านี้ไว้ในตู้กับข้าวของคุณ เผื่อยามต้องการเติมเต็มความอยากคาร์โบไฮเดรตและของหวาน มันเทศขนาดกลางมีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 27 กรัม แต่มีการพิสูจน์แล้วว่ามันเทศสามารถเพิ่มระดับอะดิโปเนกติน (adiponectin) ฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยกระตุ้นให้การเผาผลาญเร็วขึ้น นอกจากนี้ มันเทศยังไม่มีไขมัน มีแคลอรี่และโซเดียมน้อยกว่ามันฝรั่งขาวอีกด้วย
6.ซีเรียลโฮลเกรน
เหมือนกับสโลแกนของซีเรียลชื่อดังอย่าง “Cheerios” ที่ว่า “มีสุขภาพดีตั้งแต่เช้า” ซีเรียลโฮลเกรนเองก็เป็นตัวเลือกอาหารเช้าที่ดีเยี่ยม เพราะนอกจากจะมีไขมันต่ำแล้วยังอุดมไปด้วยใยอาหารอีกด้วย จากการวิจัยพบว่า ซีเรียลโฮลเกรนอาจช่วยลดขนาดรอบเอวได้จริง
ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงที่บริโภคซีเรียลโฮลเกรนเป็นประจำ มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ที่ต่ำกว่า และมีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน ดร. นิโคล่า แม็คคีวอน หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า “งานวิจัยชิ้นนี้ยืนยันหลักฐานเดิม และยังชี้ให้เห็นเพิ่มเติมว่าคนที่รับประทานอาหารประเภทโฮลเกรนมากกว่า จะมีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องน้อยกว่า”
7.โอ๊ตมีล
โอ๊ตมีลมักถูกมองว่าเป็นอาหารเช้าที่เหมาะกับอากาศหนาวเย็นเท่านั้น หลายคนมักตัดออกจากลิสต์อาหารเมื่อเริ่มต้นควบคุมน้ำหนัก แต่ เลนเชฟสกี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการกลับสนับสนุนโอ๊ตมีลอย่างมาก เธออธิบายว่า คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในโอ๊ตมีล ไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณอิ่มท้องเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความอยากอาหารมื้อเที่ยง (หรือการวิ่งไปหาขนมจากตู้หยอดเหรียญก่อนเที่ยงอีกด้วย)
เคล็ดลับสำคัญคือการเลือกโอ๊ตมีลแบบไม่ใส่น้ำตาลและสารปรุงแต่งรสชาติ เลนเชฟสกี้แนะนำให้เพิ่มอบเชย เนยอัลมอนด์ หรือน้ำตาลมะพร้าวเพียง 1 ช้อนชา เพื่อเพิ่มรสชาติ โดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 18/04/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 41,650.00 | 41,750.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,698.00 | 40,901.68 | 42,250.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,428.20 | 36,811.51 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,158.40 | 32,721.34 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,214.00 | 18,404.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 944.00 | 14,311.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,796.00 | 42,387.36 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 18/04/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 40.35 | 39.95 | 40.95 | 39.95 | 40.35 | 39.95 | 40.35 | 39.95 | 39.95 | 40.35 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 38.88 | 38.48 | 39.48 | 38.48 | 38.88 | 38.48 | 38.88 | 38.48 | 38.48 | 38.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 38.24 | 37.84 | 38.84 | 37.84 | 38.24 | – | 38.24 | 37.84 | 37.84 | 38.24 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 37.99 | 37.59 | – | – | – | – | – | – | – | 37.99 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 48.04 | 49.44 | 49.94 | 49.44 | – | – | – | – | – | 48.04 |
เบนซิน 95 | 48.24 | – | – | – | 49.41 | – | 48.74 | 47.99 | – | 48.24 |
ดีเซล B7 | 30.44 | 30.44 | 31.34 | 30.44 | 30.44 | 30.44 | 30.44 | 30.44 | 30.44 | 30.44 |
ดีเซล | 30.44 | 30.44 | – | 30.44 | 30.44 | 30.44 | 30.44 | 30.44 | 30.44 | 30.44 |
ดีเซล B20 | 30.44 | 30.44 | – | – | 30.44 | – | – | – | – | 30.44 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 42.44 | 44.64 | 45.94 | 44.64 | 44.64 | – | – | – | – | 42.44 |
แก๊ส NGV | 19.59 | 19.59 | – | – | – | – | – | – | – | 19.59 |