สาระน่ารู้ประจำวันที่ 08 พฤษภาคม 2567

มัดใจลูกค้าฉบับเอสซี แอสเสทส่งยูทิลิตี้โทเคน‘มอร์นิง คอยน์’ ฉีกคู่แข่ง!

สุดล้ำ!เปิดกลยุทธ์มัดใจลูกค้าฉบับ เอสซี แอสเสทส่ง ยูทิลิตี้โทเคน‘มอร์นิง คอยน์’ ฉีกคู่แข่งหวังสร้างประสบการณ์ใหม่จากสิทธิประโยชน์มากมาย รวมถึงสิทธิพิเศษหรือส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการจากเครือข่ายพันธมิตร

จากตัวเลขซัพพลายยอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดในปี 2566 กว่า 500,000 ล้านบาท สวนทางกับดีมานด์ที่ไม่ได้โตตาม (ซัพพลาย) ต่อเนื่องมาถึงปี 2567 ตลาดอสังหาฯ ยังอยู่ในสภาวะยากลำบากไม่น้อยจากสารพัดปัจจัยลบที่รุมเร้าดีเวลลอปเปอร์แต่ละรายต้องรอจังหวะและโอกาสก่อนพัฒนาโครงการใหม่เพื่อไม่ให้ซัพพลายล้นตลาด พร้อมนำเสนอบริการที่ดึงดูดใจ นำสู่การตัดสินใจซื้อมากขึ้น

อรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ทำให้ตลาดคึกคักมากขึ้นหลังชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่อง  เริ่มเห็นสัญญาณกำลังซื้อในประเทศกลับมา ส่วนดีมานด์ต่างชาติมาพร้อมกับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เสริมตลาดคอนโดมิเนียม โดยกลุ่มลูกค้าหลักมาจากประเทศในเอเชียอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เสริมกำลังซื้อในประเทศ

“ต้องรอให้มาตรการต่างๆ ได้ทำงาน ปัญหาหนี้ครัวเรือนมีผลกระทบต่อกำลังซื้อในประเทศมาก ดังนั้นกำลังซื้อจากต่างชาติจะเข้ามาช่วยกระตุ้นภาพรวมของตลาดอสังหาฯ รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งอสังหาฯ เป็นสินค้าที่คนต่างชาติให้ความสนใจมาตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด-19”

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปีนี้คาดเติบโตไม่ถึง 10% ไม่ก้าวกระโดดมาก  ดังนั้นดีเวลลอปเปอร์แต่ละรายต้องระมัดระวังในการพัฒนาโครงการ พร้อมทั้งพัฒนาบริการให้มีความโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า เอสซี แอสเสท ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ภายใต้วิสัยทัศน์ SC the Evolution มุ่งพัฒนาระบบ CRM (Customer Relationship Management) หรือบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า โดยใช้ “มอร์นิ่ง คอยน์”  ซึ่งเป็น Utility Token เสมือนการถือคูปองดิจิทัล ที่สามารถนำไปแลกเป็น “สิทธิ” เพื่อใช้สินค้าหรือบริการต่างๆ ตามจำนวนที่ผู้ออกโทเคนดิจิทัลกำหนดไว้เหมือนเป็นสะสมพอยต์แลกของรางวัล หรือใช้เป็นส่วนลด สะสมคูปองรับสิทธิพิเศษกับสมาชิก ทำให้สะสมและแลกได้ง่ายขึ้น ผ่านแอปพลิเคชัน “รู้ใจ” (RueJai App) เพื่อยกระดับในการสร้างคุณค่าและคุณภาพชีวิตของลูกบ้านด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย

 “มอร์นิ่ง คอยน์”  นำเทคโนโลยี Blockchain มาเชื่อมโยงลูกบ้านสู่สิทธิพิเศษภายใต้ SC Asset Reward Program “The S.U.N” ประกอบด้วย  “S Special” พิเศษสิทธิส่วนลดและอื่นๆ อีกหลากหลาย ในการซื้อบ้านและคอนโดกับเอสซี  สินค้าและบริการใน “รู้ใจสโตร์” และยังครอบคลุมเครือข่ายทางธุรกิจของเอสซี  อาทิ โรงแรมย่านราชวัตร โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ และโรงพยาบาลพระราม9

“U Unique“ แตกต่างด้วยกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษที่ไม่สามารถหาซื้อจากที่อื่นทั่วไป และ ”N Network” เครือข่าย สร้างกิจกรรมต่างๆ จากเอสซี เชื่อมโยงสังคมคุณภาพของลูกค้าให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นเพื่อโอกาสและความเป็นไปได้ต่างๆ ในอนาคต

โดยตั้งเป้าปีนี้มีลูกค้าที่มีการใช้สิทธิพิเศษมากกว่า 80% ของลูกบ้านทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีลูกบ้านที่เป็นสมาชิกรู้ใจคลับ 100,000 ราย

“Loyalty Program ช่วยมัดใจลูกค้า รักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าในระยะยาวที่สำคัญยังกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำหรือบอกต่อ ‍เป็นการดึงดูดลูกค้าใหม่ เพิ่มยอดขาย โดยไม่ต้องใช้กลยุทธ์ราคา ที่สำคัญรู้ใจลูกค้ามากกว่าเดิม”

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันแตกต่างไปจากเดิม เพราะลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภค Gen Z กล้ามากขึ้นที่จะทดลองสินค้าและบริการใหม่ความภักดีต่อแบรนด์ ”ลดลง” ขณะเดียวกันมีความต้องการซับซ้อนขึ้นต้องการคุณภาพสินค้าที่สูงขึ้นตรงใจมากขึ้นคาดหวังการบริการที่ดีขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ตรีวนันดาXลา แพรรี จุดพลุ “เฮลธ์ รีสอร์ต” ภูเก็ต แห่งแรก ในเซาธ์อีสเอเชีย

ตรีวนันดาXลา แพรรี จุดพลุ ‘เฮลธ์ รีสอร์ต’ ภูเก็ตแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างคอมมูนิตี้เพื่อสุขภาพระดับโลก บนอาณาจักร  600 ไร่ หลังประสบความสำเร็จ จาก “ตรีสราโรงแรมระดับลักชัวรี ภายใต้ มนทาระ ฮอสพิตาลิตี้ กรุ๊ป

 อาณาจักร  600 ไร่ปกคลุมไปด้วยผืนป่า และพรุของ “ตระกูลปัทมะเสวี”  ทำเลศัยภาพใจกลางภูเก็ต ถูกพลิกโฉม เป็น “ตรีวนันดา”  โครงการลักชัวรีเวลเนส คอมมูนิตี้ ครบวงจรแห่งภูเก็ต หลังประสบความสำเร็จจาก “ตรีสรา” โรงแรมระดับลักชัวรี ภายใต้ “มนทาระ ฮอสพิตาลิตี้ กรุ๊ป”หมุดหมาย เป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพและการท่องเที่ยวในเอเชีย  หนึ่งในโครงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “เมดิคอลฮับภูเก็ต” จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโลก ที่คนไทยและต่างชาติให้ความนิยม

เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย  ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ โดยมุ่งเน้นการสร้างสุขภาวะที่ดีของคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนด้วยการใช้ธรรมชาติบำบัด ท่ามกลางทิวทัศน์อันสวยงามของภูเก็ต   รวมถึงการสร้างชุมชนให้กลมกลืนไปพร้อมกับธรรมชาติ  แนวคิดการพัฒนาโดยฟื้นฟูพรุจำปา คงสภาพต้นไม้เก่า เพาะกล้าใหม่ ให้เติบโตทดแทนได้อย่างยั่งยืนในอีก 4-5 ปีเพื่อการใช้ชีวิตที่ดี หลบหลีกความวุ่นวายได้อย่างสมบูรณ์แบบ

และเพื่อยกระดับ การใช้ชีวิตมีประสิทธิภาพสูงสุด ตรีวนันดา ร่วมมือ คลินิก ลา แพรรี คลินิกเพื่อสุขภาพระดับโลก จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์  เปิดตัวและบริหารรีสอร์ทเพื่อสุขภาพ “เฮลธ์ รีสอร์ท บาย คลินิก ลา แพรรี” แม่เหล็กสำคัญให้คนเข้ามาใช้ชีวิตและใช้นวัตกรรมบำบัดร่วมกับการพักอาศัยไปกับธรรมชาติ 

นายกิตติศักดิ์ ปัทมะเสวี  ประธานกรรมการบริหาร มนทาระ ฮอสพิตาลิตี้ กรุ๊ป  ให้สัมภาษณ์ ถึงแผนพัฒนาโครงการตรีวนันดา ว่า ที่ดินผืนนี้ซื้อสะสมมานาน และมีสภาพเป็นป่า เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด พบว่า คนต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ เน้นความเป็นกรีนให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมใส่ใจดูแลสุขภาพ และความยั่งยืน โดยเลือกที่จะพัฒนาโครงการ เพียง 15% จากพื้นที่ 600 ไร่ มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาทโดยไม่รวมมูลค่าที่ดินซึ่งแผนพัฒนากำหนดไว้ 5 ปีนับจากนี้   

 นายกิตติศักดิ์ อธิบายว่า  ตรีวนันดาแปลว่า “ป่าสุขแห่งความยั่งยืน” ซึ่งมี 3 ส่วน ประกอบด้วย 1 เฮลธ์ รีสอร์ต บาย คลินิก ลา แพรรี แห่งแรกในทวีปเซาธ์ อีสเอเชีย  2. เรสซิเด้นซ์  ที่พัฒนาต่อยอดความสำเร็จมาจาก ตรีสราโรงแรมระดับลักชัวรี และ 3.ป่าพรุทำหน้าที่เก็บนํ้ามาบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ซึ่งตั้งใจให้ตรีวนันดา เป็นหนึ่งในธุรกิจท่องเที่ยวอนุรักษ์ในภูเก็ตและประเทศ

“การร่วมมือกับ คลินิก ลา แพรรี จะเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการที่พักอาศัยด้านเวลเนสของเอเชีย ในโลกยุคหลังโควิดที่เต็มไปด้วยความเครียดและปัญหาสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจ โครงการตรีวนันดา คือความตั้งใจของเราในการสร้างคอมมูนิตี้เพื่อสุขภาพระดับโลก ให้คนทุกวัยได้มาดูแลสุขภาพร่างกาย และสร้างสมดุลให้ชีวิตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน”

 สำหรับคลินิก ลา แพรรี ประเทศ  สวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการ “เฮลธ์ รีสอร์ต บาย คลินิก ลา แพรรี” ในปี 2568  ประกอบด้วยวิลล่า 40 หลัง ภายในโครงการ “ตรีวนันดา ภูเก็ต” ซึ่งถือเป็นรีสอร์ตเพื่อสุขภาพแห่งแรกของคลินิก ลา แพรรี ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นายกิตติศักดิ์มองว่า การร่วมมือที่เกิดขึ้นมาจากแนวความคิดที่ตรงกันและลูกค้าที่เข้ามาจะมีความชอบที่คล้ายคลึงเช่นกัน 

นาย ซีโมน จิเบอร์โทนี  ซีอีโอ คลินิก ลา แพรรี สะท้อนว่า จากประสบการณ์ของคลีนิกในการให้บริการมากว่า 90 ปี ได้พัฒนานำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมาย ดูแลสุขภาพชีวิตยืนยาว มุ่งหวังทำให้สุขภาพคุณภาพชีวิตดีขึ้น  โดยวิชั่นมีเป้าหมายเดียวกันคือ ต้องการให้ลูกค้ามีสุขภาพที่ดี และการมีแนวคิดที่คล้ายกันทำให้เกิดความร่วมมือในครั้งนี้ ซึ่งเป็นที่แรกในเซาธ์อีสเอเชีย นอกจากนี้จะมีที่จีนและสปป.ลาว

 โดยหลักๆจะ รักษาโดยใช้ เทคโนโลยีขั้นสูง โภชนาการเกี่ยวกับร่างกาย  มีเวลบีอิ้ง การทำสปา ที่ไม่ใช่แค่สปา แต่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย  เครื่องมือทันซึ่งมี 4 ส่วนในการแนะนำให้คำปรึกษา

 “โจทย์ ทำให้อายุยืนยาว ต้องทำให้ครบ 4 ด้าน คือ การตรวจ อาหาร อารมณ์  และการสอนให้มีสุขภาพที่ดีแต่ในมุมกลับกัน  แม้อายุประชากรจะยืนยาวขึ้นแต่บางกลุ่ม อาจอายุสั้นลงจากโควิด, การเจ็บป่วย, ยา และการเลือกใช้ชีวิตที่ผิดๆ แต่ เราจะสอนว่าให้ทำอย่างไรให้มีอายุยืนยาวขึ้น โดยเราลงทุนเทคโนโลยีที่ดีมาปรับใช้ชีวิตที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการจะลงทุน”

นี่คือการลงทุนที่น่าจับตายิ่ง เพราะจะสร้างมูลค่าแห่งความสุขอย่างมหาศาลที่มากกว่าเงินทอง สำหรับ  ตรีวนันดา และ ลา แพรรี!!!

หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,989 วันที่ 5 – 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้8พ.ค. “อ่อนค่าเล็กน้อย” ที่ระดับ 36.97 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าค่อยเป็นค่อยไป เหตผู้เล่นในตลาดบางส่วนรอทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วงโซน 37 บาทต่อดอลลาร์ และ นักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยในช่วงนี้เพิ่มเติมจะช่วยลดทอนผลกระทบจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลบ้าง

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้8พ.ค. 2567ที่ระดับ  36.97 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.89 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบุลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า การพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์อาจทำให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง   

โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่เงินบาทเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งทองคำและน้ำมันดิบ หลังราคาทองคำ และน้ำมันดิบ ต่างก็ทยอยปรับตัวลดลงเข้าสู่โซนแนวรับในระยะสั้น

 อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วงโซน 37 บาทต่อดอลลาร์ (หากอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าว ก็อาจติดแถวโซน 37.10 บาทต่อดอลลาร์ได้เช่นกัน)

 นอกจากนี้ เราคงมองว่า นักลงทุนต่างชาติก็อาจทยอยกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยในช่วงนี้เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยลดทอนผลกระทบจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผล ได้บ้าง

อนึ่ง เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสวีเดน (Riksbank) ในช่วงเวลาราว 14.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่แม้ว่าในอดีต ตลาดอาจไม่ได้ตามผลการประชุม Riksbank มากนัก แต่ในรอบนี้ หาก Riksbank ลดดอกเบี้ยตามคาด พร้อมส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ก็อาจกดดันบรรดาสกุลเงินฝั่งยุโรป และยิ่งหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้ 

เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนสูง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.85-37.10 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 36.79-36.97 บาทต่อดอลลาร์) ตามการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ได้แรงหนุนหลักมาจากการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ซึ่งล่าสุดได้อ่อนค่าแตะระดับ 154.7 เยนต่อดอลลาร์

นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังราคาทองคำยังขาดปัจจัยหนุนในช่วงนี้ ตามความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่คลี่คลายลงบ้าง ส่วนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ก็ทำให้ราคาทองคำ (Spot Gold) ยังคงแกว่งตัวแถวโซนแนวรับ 2,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์

บรรดาผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังไม่กล้าเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ต่างก็รอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้าที่อาจกลับมากดดันบรรยากาศในตลาดได้ หากออกมาสูงกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังถูกกดดันจากการปรับตัวลงของบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ อาทิ Nvidia -1.7% หลังมีข่าวว่าทาง Apple +0.4% เตรียมผลิตชิพเพื่อใช้งานด้าน AI ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.13%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นกว่า +1.14% หนุนโดยรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด อาทิ Infineon Tech. +12.9%, UBS +7.6% นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากความหวังแนวโน้มบรรดาธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะฝั่งยุโรปจะสามารถทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในช่วงไตรมาส 2-3

ในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัว sideways ใกล้ระดับ 4.46% หลังปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 4.50% เล็กน้อย ตามการทยอยคลายความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ส่วนราคาน้ำมันดิบก็ยังคงแกว่งตัวแถวโซน 78-79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่คลี่คลายลง ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มกลับมาให้ความสนใจภาพความต้องการใช้พลังงานและแนวโน้มเศรษฐกิจหลัก

อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจแกว่งตัวในกรอบ sideways แถวระดับ 4.50% ไปก่อน เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า ซึ่ง เราคงมองว่า บอนด์ 10 ปี สหรัฐฯ นั้นมีความน่าสนใจในทุกจังหวะการปรับตัวขึ้น

โดยเฉพาะหากปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 4.50% ได้อีกครั้ง (เน้นกลยุทธ์ทยอย Buy on Dip) โดยมี Risk-Reward ที่คุ้มค่าเมื่อประเมินจากคาดการณ์ผลตอบแทนรวมในอีก 1 ปี ข้างหน้า และความเสี่ยงในกรณีที่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจกลับไปแตะระดับ 5.00% ได้อีกครั้ง

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับบรรดาสกุลเงินหลัก หนุนโดยการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่ล่าสุด กลับมาอ่อนค่าทดสอบโซน 154.8 เยนต่อดอลลาร์

เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ต่างมองว่า ปัจจัยพื้นฐานที่กดดันให้เงินเยนอ่อนค่าลงยังไม่เปลี่ยน และยังมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้าอาจยังคงสูงอยู่ ทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดได้อีกครั้ง ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 105.4 จุด อีกครั้ง (แกว่งตัวในกรอบ 105-105.4 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ ปัจจัยที่เคยหนุนราคาทองคำ อย่างความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ได้ทยอยคลี่คลายลง ขณะที่เงินดอลลาร์ ก็กลับมาแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ ราคาทองคำ

(สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย.) ยังไม่สามารถผ่านโซนแนวต้าน 2,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไปได้ ก่อนที่จะย่อตัวลงสู่โซน 2,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งผู้เล่นในตลาดบางส่วนได้ทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวลงและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง

 สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสวีเดน (Riksbank) ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างคาดการณ์ว่า Riksbank อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายลง -25bps สู่ระดับ 3.75% ได้ ซึ่งการทยอยปรับลดดอกเบี้ยของ Riksbank ก็ทำให้ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า บรรดาธนาคารกลางฝั่งยุโรปอื่นๆ ก็สามารถทยอยลดดอกเบี้ยลงได้เช่นกัน ทำให้สกุลเงินฝั่งยุโรปมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลงและช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงรอลุ้นรายงานยอดสต็อกน้ำมันดิบคงคลังซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางราคาน้ำมันในระยะสั้นได้   

และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินช่วงนี้ได้พอสมควร

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.96-36.98 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.06 น.) อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาทอ่อนค่ากลับมาอีกครั้งตาม sentiment ของค่าเงินเอเชีย นำโดย เงินเยนและเงินหยวน สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่ได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งสะท้อนแนวโน้มการยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ที่ระดับสูงเป็นเวลานาน ประกอบกับน่าจะมีแรงซื้อคืนเพื่อปรับโพสิชั่นในช่วงที่ตลาดรอข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อาทิ ตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์ในมุมมองผู้บริโภค (10 พ.ค.) ดัชนีราคาผู้ผลิต (14 พ.ค.) และดัชนีราคาผู้บริโภค (15 พ.ค.) ด้วยเช่นกัน 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.85-37.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ค่าเงินเยนและทางการญี่ปุ่น สัญญาณฟันด์โฟลว์ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และข้อมูลสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค. ของสหรัฐฯ
 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เล็บมีดอกขาว แปลว่าขาดสารอาหาร จริงหรือ?

ตอนเป็นเด็กๆ เราเป็นคนหนึ่งที่มีดอกสีขาว ขีดขาวๆ อยู่บนเล็บแทบทุกนิ้ว ที่บ้านจับให้ทานอาหารที่ธาตุเหล็กเยอะๆ เพราะคิดว่าเป็นเพราะขาดธาตุเหล็ก

แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ? ลองสังเกตเล็บของเราดูนะคะ พบว่ามีดอกสีขาวๆ เป็นขีดเล็กๆ อยู่บนเล็บหรือเปล่า ถ้ามี หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าเป็นเพราะขาดสารอาหารบางชนิด จริงๆ แล้วเป็นเพราะขาดสารอาหารจริงๆ หรือมาจากสาเหตุอื่นกันแน่ มาดูคำตอบที่แท้จริงกันค่ะ

ดอกเล็บขาว ขีดสีขาวบนเล็บ คืออะไร?

ร่องรอยบนเล็บมีหลายลักษณะแตกต่างกันออกไป ไม่ได้มีรอบดอกขาวๆ เพียงอย่างเดียวนะคะ แต่ดอกขาวๆ เราจะเรียกว่า Leukonychia โดยจุดสีขาวที่เห็น คือส่วนที่เล็บด้านในไม่ได้สัมผัสกับเนื้อของนิ้ว เลยเห็นเป็นสีขาวๆ แทนที่จะเป็นสีขาวอมชมพูเหมือนส่วนที่เล็บแนบสนิทไปกับนิ้ว

เล็บลักษณะนี้อาจมาจากอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นกับเล็บ เช่น ของแข็งทับแรงๆ โดนกระแทก หรือของมีคมทิ่ม เมื่อถึงระยะที่เล็บค่อยๆ ยาวขึ้น ดอกขาวๆ จะค่อยๆ เลื่อนยาวขึ้นจนสามารถตัดออกได้ ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ

ส่วนรอยเล็บแบบ Muehrcke’s line จะเป็นเส้นสีขาวขนานตามแนวขวาง และคั่นด้วยเนื้อสีขาวอมชมพูของเนื้อเล็บ รอยเหล่านี้จะไม่เคลื่อนตัวไปด้านบนเมื่อเล็บยาวขึ้น อาจเกิดได้จากผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะอัลบูมินต่ำ โดยอาจจะเกิดจากการเป็นโรคตับรุนแรง หรือเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด

ส่วนเรื่องของการขาดสารอาหารนั้น ก็ยังมีความเป็นไปได้ในกรณีของเล็บในแบบที่เรียกว่า Beau’s lines โดยเล็บจะมีรอบบุ๋มลึกเป็นเส้น ผิวเล็บไม่เรียบ เป็นคลื่น เล็บเปราะหักง่าย เหมือนเคยมีของแข็งหล่นทับ หากเล็บมีสีซีดร่วมด้วย อาจหมายถึงขาดธาตุเหล็ก ถ้าเล็บมีลักษณะเป็นจุดขาวๆ อาจหมายถึงการขาดแคลเซียม แต่ถ้าเล็กหักเปราะง่าย อาจหมายถึงกำลังขาดธาตุสังกะสี เป็นต้น

สุขภาพเล็บ บอกโรค?

ไม่ได้แปลว่าเล็บที่มีลักษณะผิดปกติ จะหมายถึงเรากำลังเป็นโรคร้ายเสมอไปนะคะ เพราะรอยขาวๆ ของเล็บ อาจมาจากอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ การถูกกดทับจากรองเท้า หรือความผิดปกติตั้งแต่ตอนที่เล็บงอก กระบวนการสร้างฐานเล็บเกิดหยุดชะงักชั่วคราว จนทำให้เกิดเป็นช่องว่างระหว่างเล็บกับเนื้อเล็บขึ้นมา เลยปรากฏเป็นสีขาวๆ ในส่วนที่เล็บไม่แนบสนิทกับเนื้อนิ้ว โดยส่วนใหญ่มักไม่ได้มีอันตรายอะไร รอจนเล็บยาวค่อยตัดทิ้งได้

หากแต่ใครมีความกังวล หรือเล็บมีความผิดปกติมากกว่าที่เราพูดถึง สามารถเข้าปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านได้เลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


แบดมินตันจีน เชือดอินโดนีเซีย กวาดแชมป์ในบ้านศึกโธมัส-อูเบอร์ คัพ 2024

ทีมแบดมินตันจีน เล่นต่อหน้าแฟนๆในที่ไฮ-เทค โซน สปอร์ต เซนเตอร์ ยิมเนเซียม ในเมืองเฉิงตู ได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์แบดมินตันทีมชิงแชมป์โลก “โททาล เอนเนอร์ยีส์ บีดับเบิ้ลยูเอฟ โธมัส-อูเบอร์ คัพ ไฟนอลส์ 2024” ทั้งประเภททีมชาย และ ทีมหญิงไปครองอย่างยิ่งใหญ่

การแข่งขันแบดมินตันประเภททีมชิงแชมป์โลก “โททาล เอนเนอร์ยีส์ บีดับเบิ้ลยูเอฟ โธมัส-อูเบอร์ คัพ ไฟนอลส์ 2024” ที่เมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค.67 เป็นการในประเภททีมหญิง รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง จีน พบกับ อินโดนีเซีย

คู่แรก ประเภทหญิงเดี่ยว มือ 1 เฉิน ยู่เฟย มืออันดับ 2 ของโลก พบกับ เกรกลอเลีย มาริสก้า ตุนจุง มืออันดับ 9 ของโลก  เกมนี้เป็นทาง เฉิน ยู่เฟย ที่เล่นได้ดีกว่าตามคาด เอาชนะไปแบบง่ายดาย 2-0 เกม 21-7, 21-16  จีน ขึ้นนำก่อน 1-0 คู่ 

คู่ที่สอง ประเภทหญิงคู่มือ 1 เฉิน ยิงเฉิน กับ เจีย ยี่ฟาน คู่มืออันดับ 1 ของโลก เอาชนะ ซิตี้ ฟาเดีย รามัดฮานติ กับ ริบก้า ซูกิอาร์โต 2-0 เกม 21-11 และ 21-8 จีน ออกนำไปเป็น 2-0 คู่ 

คู่ที่สอง ประเภทหญิงเดี่ยว มือ 2 เหอ บิงเจียว มืออันดับ 6 ของโลก  พลิกแซงกลับมาเอาชนะ เอสเธอร์ นูรูมี่ ทรี วาโดโย่ มืออันดับ 38 ของโลก ไปแบบสนุก 2-1 เกม  10-21, 21-15, 21-17  สรุปผลการแข่งขัน จีน เอาชนะ อินโดนีเซีย 3-0 คู่  จีน คว้าแชมป์ทีมหญิง อูเบอร์ คัพไปครองได้เป็นสมัยที่ 16 ต่อจากปี 1984, 1986, 1988, 1990, 1992, 1998, 2000, 2002, 2004, 2006, 2008, 2012, 2014, 2016 และ  2020 

ในขณะที่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาในวันเดียวกัน เป็นการแข่งขันประเภททีมชาย รอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง จีน พบกับ อินโดนีเซีย  คู่แรก ประเภทชายเดี่ยว มือ 1 ฉี ยู่ฉี มืออันดับ 2 ของโลก พบกับ แอนโทนี่ ซินนิซุกะ กินติ้ง มืออันดับ 7 ของโลก เกมนี้ ฉี ยู่ฉี ระเบิดฟอร์มการเล่นออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ตบเอาชนะไปแบบสบายๆ 2 เกมรวด 21-17 และ 21-6 จีน ขึ้นนำก่อน 1-0 คู่ 

คู่ที่สอง ประเภทชายคู่ มือ 1  เหลียง เหว่ยเกง กับ หวัง ฉาง คู่มืออันดับ 1 ของโลก เอาชนะ ฟาจาร์ อัลเฟียน กับ มูฮัมหมัด ไรอัน อาเดรียนโต คู่มืออันดับ 7 ของโลก ไปได้สนุก 2-1 เกม  21-18, 17-21, 21-17 จีน ขยับออกนำเป็น 2-0 คู่ 

คู่ที่สาม ประเภทชายเดี่ยว มือ 2 โจนาธาน คริสตี้ มืออันดับ 3 ของโลก เฉือนชนะ หลี่ ชิเฟง มืออันดับ 6 ของโลก ไปได้ 2-1 เกม 21-16,15-21 และ 21-17 อินโดนีเซีย ไล่มาเป็น 1-2 คู่ 

คู่ที่สี่ ประเภทชายคู่ มือ 2 เหอ จีติง กับ เหริน เซียงยู่ คู่มืออันดับ 11 ของโลก เล้นได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะ มูฮัมหมัด ฟิครี้ กับ บาร์กัส มัวลาน่า คู่มืออันดับ 9 ของโลก 2-0 เกม 21-11 และ 21-15 

สรุปผลการแข่งขัน จีน เอาชนะ อินโดนีเซีย 3-1 คู่ คว้าแชมป์แบดมินตันโธมัส คัพ ไปครองได้เป็นสมัยที่ 11 ต่อจากปี  1982, 1986, 1988, 1990, 2004, 2006, 2008, 2010, 2012*, 2018 และเป็นการคว้าแชมป์ทั้งทีมชาย และ ทีมหญิง ของจีนในศึกโธมัส-อูเบอร์ คัพ ไฟนอลส์ 2024 ในครั้งนี้

ซึ่งจากจบการแข่งขั้นนั้น คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC Member) , รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับเกียรติไปมอบเหรียญรางวัลให้แก่ทีมที่ได้แชมป์ , รองแชมป์ และเหรียญทองแดงในศึกโธมัส-อูเบอร์ คัพ ไฟนอลส์ 2024 ในครั้งนี้ด้วย สำหรับการแข่งขันโธมัส-อูเบอร์ คัพ ครั้งต่อไปในปี 2026 จะไปแข่งขันที่เมืองฮอร์เซนส์ ประเทศเดนมาร์ก 

ส่วนโปรแกรมแบดมินตันรายการต่อไป จะเป็นรายการใหญ่ในเมืองไทยในศึก  “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024”  รายการระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500  ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเงินรางวัลรวม 420,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 14,700,000 บาท ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ค.67 นี้ ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ แฟนๆแบดมินตันสามารถซื้อบัตรได้แล้วที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ทุกช่องทาง ตั้งแต่ราคา  1,200 / 600 / 300 / 150  บาท 

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


วิธีเจรจาต่อรองโดยใช้ภาษาอังกฤษ เพิ่มโอกาสสำเร็จแบบมืออาชีพ

การเจรจาต่อรองเป็นส่วนสำคัญของโอกาสต่างๆในการทำงาน และยังสามารถแสดงถึงความเป็นมืออาชีพได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเจรจาต่อรองที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการเจรจากับคนทั่วโลก

จะมีเทคนิคในการต่อรองโดยใช้ภาษาอังกฤษอย่างไรบ้าง วอลล์สตรีท อิงลิช จะพาไปรีวิวกัน

ใช้ประโยคเปิดเริ่มต้นการเจรจาต่อรองแบบมืออาชีพ

First Impression เป็นสิ่งสำคัญ การที่เราใช้ประโยคในการเปิดบทสนทนาเพื่อการเจรจาต่อรองที่มีความเป็นมืออาชีพและเป็นทางการ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่เจรจาของเราได้อย่างมาก

  • I appreciate the opportunity to discuss this topic with you.
  • Thank you for taking the time to join me as we embark on these negotiations.
  • Let’s explore how we can find common ground on this issue.

นำเสนอแนวทางในการหาทางออก หรือข้อตกลงให้กับการเจรจาในครั้งนี้ ในมุมมองของคุณ

  • Allow me to outline our perspective on this matter.
  • I’d like to propose a solution that benefits both parties.
  • From my point of view, it’s important to consider this topic.

พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นอยู่เสมอ

ในการเจรจาต่อรอง คุณต้องแสดงให้เห็นว่าคุณพร้อมที่จะรับฟังคู่สนทนาของคุณอยู่เสมอ เพื่อเป็นการให้เกียรติ และยังทำให้คุณสามารถมองภาพรวมได้กว้างขึ้นผ่านมุมมองของอีกฝ่าย

  • Could you share your thoughts on this issue?
  • I’m interested in hearing your perspective.
  • How do you see us moving forward to find a resolution?

สร้างความเข้าใจให้ตรงกันอยู่เสมอ 

ระหว่างการเจรจา คุณควรพยายามรีเช็คความเข้าใจของคุณ และคู่เจรจาอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดประเด็น ซึ่งจะช่วยให้ระยะเวลาในการพูดคุยต่อรองกระชับยิ่งขึ้น

  • I want to make sure I understand your position correctly.
  • Can you clarify your expectations regarding this matter?
  • Let’s ensure we are on the same page before moving forward.

ใช้ประโยคในการส่งเสริมความร่วมมือและความตกลง

เลือกใช้ประโยคที่แสดงถึงการส่งเสริมความร่วมมือซึ่งกันและกันจะช่วยให้การเจรจาเป็นไปในทิศทางบวกมากยิ่งขึ้น และเป็นการแสดงถึงการให้ความร่วมมือที่ดี

  • Working together on this matter will benefit both sides.
  • Let’s finalize the details and move towards a successful resolution.
  • I believe a collaborative approach will lead to a more favorable outcome.

การสรุปหลังการพูดคุย และการใช้ประโยคสำหรับปิดการเจรจา 

หลังจากการพูดคุยเจรจาแล้วจำเป็นต้องมีการสรุปเนื้อหาหรือข้อตกลงกันในทุกครั้ง และควรเลือกใช้ประโยคปิดการสนทนาอย่างมืออาชีพ

  • Thank you for a productive discussion, and I look forward to our agreement.
  • I appreciate your time and effort in reaching a resolution.
  • Let’s formalize our agreement and move forward with confidence.

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเทคนิคการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับการเจรจาต่อรอง วอลล์สตรีท อิงลิช เชื่อว่าหากคุณได้ลองใช้เทคนิคตามนี้แล้ว จะช่วยให้การต่อรองของคุณประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th


“ศักยภาพเทคโนโลยี” ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า

ประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความท้าทายในระยะยาว เนื่องด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาช่องว่างทางทักษะ ความล้าหลังในการนำเทคโนโลยีมาใช้ และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผู้นำองค์กรที่มีกลยุทธ์จากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โทรคมนาคมและเทคโนโลยี จึงควรมีบทบาทสำคัญในการร่วมยกระดับขีดความสามารถและเร่งผลักดันให้ประเทศเติบโตไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว โดยทรู เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายนี้ด้วยการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบทั้งในด้านการศึกษา การส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัล และการจัดการกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ ดังที่นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์และมุมมอง ในบทความพิเศษ “Thought Leadership” จัดทำโดยสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การบ่มเพาะทักษะแห่งอนาคต

ประเทศไทยต้องเร่งลงทุนด้านคน เพื่อยกระดับทักษะและเพิ่มผลผลิตของแรงงานในระยะยาว การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตจำเป็นต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี อย่างปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์และเครื่องจักรอัตโนมัติ หรือนาโนและไบโอเทค ทักษะเหล่านี้มีความสำคัญทั้งในมิติเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาโซลูชันเพื่อยกระดับความสามารถของประเทศไทยในการปรับตัวและรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ท่ามกลางการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ขณะที่ประชากรวัยทำงานลดลง
ทรู ได้นำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมาสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่สังคมไทย ผ่านการจัดฝึกอบรมทักษะดิจิทัลสำหรับทั้งคนวัยทำงานและนักเรียนนักศึกษา โดย ทรู ดิจิทัล อะคาเดมี ได้จัดการฝึกอบรมทักษะธุรกิจดิจิทัลให้แก่ผู้ที่มีศักยภาพสูง (talent) จำนวนกว่า 30,000 คน ในด้านต่างๆ เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ การวิเคราะห์ข้อมูล

และการตลาดออนไลน์ ขณะเดียวกัน โครงการทรูปลูกปัญญา สามารถเข้าถึงนักเรียนจำนวนกว่า 34 ล้านคนทั่วประเทศ โดย trueplookpanya.com คลังความรู้คู่คุณธรรม ยังเป็นเว็บไซต์ด้านการศึกษาอันดับหนึ่งของไทยมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2562
แม้ที่ผ่านมา ทรูจะให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชนในรูปแบบออนไลน์อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ แต่ความพยายามดังกล่าวไม่อาจทดแทนความมุ่งมั่นที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ อันเป็นวาระจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการศึกษาไทย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลสถานศึกษาสู่สาธารณะอย่างโปร่งใส การพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน การสร้างวัฒนธรรมแห่งการมีส่วนร่วม การเตรียมความพร้อมด้านดิจิทัล ตลอดจนการส่งเสริมให้เด็กเป็นศูนย์กลาง เสริมสร้างคุณธรรมและความมั่นใจ

ด้วยเหตุนี้เอง ทรู จึงเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี (CONNEXT ED) ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งพันธมิตรภาครัฐและเอกชนในปี 2563 ซึ่งสร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม จากโรงเรียนจำนวน 5,000 แห่งที่เข้าร่วมโครงการนั้น กว่า 72% สามารถบรรลุเกณฑ์การประเมินคุณภาพในระดับดีถึงดีเลิศ ซึ่งเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้โรงเรียนสามารถบรรลุเกณฑ์การประเมินดังกล่าว โดยนอกเหนือจากการส่งมอบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจำนวน 6,000 เครื่องให้แก่โรงเรียนภายใต้การดูแลของมูลนิธิฯ แล้ว มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี ยังได้ฝึกอบรมผู้นําด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา หรือ ICT talent จำนวนกว่า 5,000 คน เพื่อเดินหน้าปฏิบัติภารกิจในการถ่ายทอดองค์ความรู้ สนับสนุนให้ผู้บริหาร ครู และนักเรียนในโรงเรียนคอนเน็กซ์อีดี นำสื่อและอุปกรณ์ไอซีทีมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้น โรงเรียนกว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศยังได้รับการติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอีกด้วย
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี จะสามารถทำหน้าที่ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอันจำเป็นและเร่งด่วนเพื่อพลิกโฉมระบบการศึกษาไทย แรงสนับสนุนจากพันธมิตรในเครือข่ายและความร่วมมือจากภาครัฐ จะเป็นหัวใจสำคัญในการต่อยอดขยายผลความสำเร็จ และช่วยเร่งสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระดับประเทศได้

การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

หากเราประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะและสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ได้เร็ว สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ กล้าคิดกล้าทำ ความท้าทายต่อไป คือการปลูกฝังให้พวกเขาได้ดูแลและส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้กับคนรุ่นถัดไป เกือบ 1 ใน 3 ของแรงงานไทยนั้นประกอบอาชีพในภาคการเกษตร แต่ด้วยอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและสภาพอากาศแบบสุดขั้วกำลังเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีพของมนุษย์ ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงกับการเผชิญการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด

จุดมุ่งหมายของทรูนั้น คือการนำศักยภาพเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยให้สังคมไทยสามารถรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ผลวิจัยของ GSMA Intelligence ชี้ว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมือถือ (mobile connectivity) จะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคธุรกิจการขนส่ง พลังงาน การก่อสร้าง และการผลิตลงกว่า 40% ได้ภายในปี 2573 และด้วยเครือข่าย 4G ของทรู ที่ครอบคลุมประชากรไทย 99% ในขณะที่ 5G ครอบคลุมมากกว่า 90% ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของทรู ทำให้เกิดการพัฒนายานยนต์อัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ และโรงงานอัจฉริยะ อันจะนำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงทั่วประเทศ

การลงทุนด้านนวัตกรรม

นอกเหนือจากประเด็นด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อมแล้ว อีกหนึ่งความท้าทายของประเทศไทย คือความจำเป็นในการ “ยกระดับขีดความสามารถการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตที่ฟื้นตัว” (อ้างอิงจากธนาคารโลก) การผนึกศักยภาพของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) IoT และ 5G จะนำไปสู่โอกาสในการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อีกมากมาย แต่เราจำเป็นต้องเร่งยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันด้านเทคโนโลยีของประเทศ ทั้งในฐานะผู้บริโภคและผู้ผลิต

แน่นอนว่าการจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้ต้องอาศัยเงินลงทุนมหาศาล คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทยได้ตั้งเป้าดึงดูดเงินลงทุนให้ได้ 2 ล้านล้านบาทภายในปี 2573 จากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และเทคโนโลยีสีเขียว อย่างไรก็ดี แม้ประเทศไทย จะสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้สำเร็จ และการที่บริษัทเทคโนโลยีและผู้ผลิตระดับโลกจะเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ก็ไม่ได้เป็นเครื่องรับรองว่าในที่สุดแล้ว เราจะประสบความสำเร็จในการสร้างบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไทยเสมอไป
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทรูมุ่งมั่นเข้ามามีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นทั้งผู้นำบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ และผู้ขับเคลื่อนให้ระบบนิเวศด้านนวัตกรรมของประเทศไทยนั้นทำงานอย่างสอดประสานกัน นวัตกรรมของทรู ได้รับการจดทะเบียนสิทธิบัตรถึง 120 ฉบับ และเรามีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย 50 แห่งในการสนับสนุนงานวิจัยในด้านต่างๆ นอกจากนี้ เรายังได้ก่อตั้งทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขนาด 230,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นแหล่งรวมผู้ประกอบการสัญชาติไทย บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก นักลงทุน โครงการส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพ และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ไว้ด้วยกัน

ปัจจุบัน มีสตาร์ทอัพเกือบ 3,000 รายที่อยู่ในระบบนิเวศของเรา และโปรแกรมบ่มเพาะสตาร์ทอัพ ทรู อินคิวบ์ สามารถระดมเงินทุนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเป็นกองทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพไทย (Venture Capital Funds) อย่างไรก็ดี เราเล็งเห็นว่ายังคงต้องมีการลงทุนอีกมา และเรามีแผนที่จะสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อเปิดตัวกองทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพมูลค่าอย่างน้อย 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเราหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้องค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ หันมาร่วมมือกับเรา หรือก่อตั้งกองทุนของตนเองขึ้น เพื่อเร่งสร้างการเติบโตด้านดิจิทัลของประเทศไทยอย่างก้าวกระโดด
แม้ว่าประเทศไทยจะเผชิญกับโจทย์ท้าทายในด้านการศึกษา การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนผ่านสู่ภาคเศรษฐกิจดิจิทัล แต่ผมยังเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถก้าวข้ามความท้าทายนี้ไปได้ ด้วยการผนึกกำลังกันระหว่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม และพันธมิตรภาคเอกชน เมื่อเราร่วมมือกัน เราจะสามารถสร้างสรรค์โซลูชันนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ปลอดภัย แข็งแกร่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น และทรู คอร์ปอเรชั่น มีเจตนารมณ์แรงกล้าที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้

ปัจจุบัน นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ดำรงตำแหน่ง ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำของประเทศไทย นายมนัสส์เป็นผู้มากประสบการณ์ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และมีความมุ่งมั่นในการนำศักยภาพการเชื่อมต่อมาสร้างประโยชน์สูงสุด เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในสังคมไทย
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความตอนพิเศษที่จัดทำขึ้นโดยสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเชิญผู้นำทางความคิดและผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่างๆ จากทั่วโลก มาร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์มุมมองเกี่ยวกับการพลิกโฉมระบบที่ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้อง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sasin.edu/content/insights/sasin-collaborative-thought-leadership-transforming-our-critical-systems    

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


วิธีลัดทำให้แอร์บ้านเย็นเร็ว โดยไม่ต้องเร่งอุณหภูมิ ให้เปลืองไฟ

สถานการณ์หน้าร้อนพร้อมกับอากาศอบอ้าวยังไม่หายไปในช่วงนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจกันดีว่าถ้าอยู่ในห้องรับรองว่าไม่สบายตัวแน่นอน เราจำเป็นต้องได้อุณหภูมิเย็นที่ด่วนๆ ที่ไมีจำเป็นต้องกดอุณภูมิต่ำๆ ให้เปลืองไฟ Sanook Hitech พบทางลัดที่ทำให้แอร์เย็น มาดูกันว่าต้องทำอะไรบ้าง

ทางลัดที่ทำให้แอร์เย็นแบบเร็วๆ โดยไม่ต้องเร่งอุณหภูมิ

เปิดหน้าต่างเวลาไม่อยู่ในห้องนานๆ

เทคนิคแรก คือการเปิดให้อากาศถ่ายเทเพื่อไม่ให้ห้องนั้นเกิดความร้อนสะสมและทำให้เกิดอากาศร้อนจนทำให้แอร์ทำงานไม่ไหว

ให้พัดลมช่วย

วิธีการต่อมาคือ การใช้พัดลมช่วย วิธีนี้มักจะทำให้เกิดความเย็นที่ทั่วถึงมากขึ้น เพราะพัดลมจะนำอากาศเย็นไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องและเหมาะสมช่วยให้เกิดความเย็นได้ดีมากขึ้น

ปิดกั้นแสงแดด

อีกวิธีหนึ่งที่ทำให้แอร์เย็นไวคือการปิดผ้าม่านลดแสงแดด หรือติดฟิล์มกรองแสง ก็สามารถที่จะช่วยลดความร้อนลงได้ เมื่อแอร์ทำงานก็จะทำให้ความร้อนลดลง

เปิดระบบบานสวิงและทิศทางลมให้กระจายทั่วถึง

อีกฟีเจอร์ของแอร์ยุคนี้ที่มีคือการปรับทิศทางการเป่าของลม ถ้าคุณเลือกให้เป่ากระจายทั่วห้อง ไม่จำเป็นต้องปรับพัดลมให้แรงสุดก็สามารถทำให้แอร์เย็นทั่วถึงได้

สั่งเปิดแอร์จากระยะไกล

ให้สมกับเป็นคอลัมน์ IT นิดนึง ถ้าคุณซื้อแอร์รุ่นใหม่ก็มักจะมีระบบเชื่อมต่อกับ Internet หรือ AIoT คุณสามารถสั่งให้แอร์เปิดผ่านทางไกล หรือตั้งว่า คุณอยู่ในบ้านจะเป็น Welcome Mode แอร์จะเปิดเอง ก็เป็นอีกทางเลือกที่ให้คุณได้รับความเย็นได้อย่างสบายๆในห้องแล้วครับ

หมั่นตรวจเช็คสภาพแอร์

สุดท้ายแอร์จะเย็นเร็วหรือไม่ก็ขึ้นกับการดูและรักษาถ้ามีการทำให้แอร์สามารถใช้งานได้สะดวก ไส้กรองไม่อุดตัน และน้ำยาของแอร์ไม่ขาดรับรองว่า ยังไงแอร์ของคุณก็เย็นแน่นอนครับ

ครั้งหน้าทีม Sanook Hitech จะมี Tips และเทคนิคอะไรมาบอกกันอีกอย่าลืมกลับมาติดตามกันนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 08/05/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a40,400.0040,500.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,617.0039,673.7241,000.00
ทองรูปพรรณ 90%2,355.3035,706.35n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,093.6031,738.98n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,178.0017,858.48n/a
ทองรูปพรรณ 40%916.0013,886.56n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,712.0041,113.92n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 08/05/2567


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9539.3539.3540.3539.3539.3539.3539.3539.3539.3539.35
แก๊สโซฮอล์ 9138.7838.7839.7838.7838.7838.7838.7838.7838.7838.78
แก๊สโซฮอล์ E2037.2437.2438.2437.2437.2437.2437.2437.2437.24
แก๊สโซฮอล์ E8536.9936.9936.99
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม47.5449.8449.9449.8447.54
เบนซิน 9547.2448.4147.7447.3947.24
ดีเซล30.9430.9431.2430.9430.9430.9430.9430.9430.9430.94
ดีเซลหมุนเร็ว30.9430.9430.94
ดีเซลพรีเมี่ยม42.9445.1446.9445.1445.1442.94
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า