สาระน่ารู้ประจำวันที่ 18 มิถุนายน 2567

CP LANDเขย่าอสังหาฯขอนแก่นผุด2คอนกลางเมืองยอดจองกว่า440ล้าน

CP LAND เขย่าวงการอสังหาฯขอนแก่น ส่ง2คอนโด โซ-แอนด์และรี-เน่ ใจกลางขอนแก่น พร้อมเปิดตัวภาพโฆษณาชุดใหม่เอาใจนิวเจน เผยหลังเปิดตัวยอดจอง 200 ยูนิตคิดเป็นมูลค่ากว่า 440 ล้าน

นายกีรติ ศตะสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND เปิดเผยว่า การเปิดตัว 2 โครงการคอนโดมิเนียมน้องใหม่ใจกลางเมืองขอนแก่น SOū& และ RI-NÉ ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญในปีนี้ ที่ทางทีมผู้บริหาร ทีมพนักงาน ทุกภาคส่วน ร่วมใจกันผลักดันให้ CP LAND มีการออกโอดปรเจกต์และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 พร้อมทั้งเป็นการปรับรูปแบบดีไซน์ คอนโดมิเนียมทั้งภายในและภายนอก บรรยากาศโดยรอบ ภาพลักษณ์  และแบรนด์ดิ้งใหม่ยกแผง ตลอดจนการยกระดับการบริการก่อนและหลังการขาย ที่สำคัญ ราคาต้องสมเหตุสมผลเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป นี่จึงเป็นอีกความตั้งใจ ที่ CP LAND ตั้งใจจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในส่วนภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง หลังจากการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว  LUXRIVA RESIDENCES (ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส) บ้านเดี่ยวหรูที่สุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช และเตรียมพร้อมที่จะเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียมในอีก 2 จังหวัด 

นายดำรงศักดิ์ ถุงเงิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดและที่อยู่อาศัยโครงการ บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ หรือ CP LAND กล่าวต่อว่า CP LAND พร้อมแล้วกับการเปิดตัวคอนโดมิเนียม Low-Rise  และ High-Rise โครงการที่อยู่อาศัยเอาใจกลุ่มคนนิวเจนและกลุ่มลูกค้าพรีเมียม บนพื้นที่ทำเลศักยภาพ ย่านกังสดาล ใจกลางเมืองขอนแก่น ถือเป็นความท้าทายใหม่หลังจากที่ CP LAND ได้ประกาศรีเฟรชแบรนด์ และ นี่ถือเป็นการรีดีไซน์โปรดักต์ใหม่ ที่ปรับปรุงคุณภาพ งานออกแบบ งานก่อสร้าง และการบริการหลังการขายใหม่ยกแผง ผ่านทีมงานที่ทำการบ้านอย่างหนัก  ก่อนจะเกิดโปรเจกต์นี้ โดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไป 

โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ความเป็นคนเมืองมากขึ้นของคนขอนแก่น จึงมั่นใจได้ว่า โปรเจกต์นี้จะสามารถตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ในราคาที่สมเหตุสมผลสอดรับกับคุณภาพและดีไซน์ของโปรดักต์ โครงการคอนโดมิเนียมน้องใหม่ใจกลางเมืองขอนแก่น ประกอบด้วยทั้งหมด 2 โครงการ  คือ โครงการคอนโดมิเนียม Low-Rise ภายใต้ชื่อ SOū& หรือ โซ-แอนด์ คอนโดมิเนียมของคนรุ่นใหม่ พื้นที่แห่งชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยสีสัน สร้างสรรค์เพื่อคนรุ่นใหม่ ทุกสเปซพร้อมสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลังงานให้ชีวิตด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ให้คุณใช้ชีวิตได้ Play Unbound, Live Inspired สนุกอย่างไร้ขีดจำกัด  สู่แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตได้อย่าง So…. H a p p y ที่ SOū& ราคาเริ่มต้น 1.8 ล้านบาท* 

และ โครงการคอนโดมิเนียม High-Rise ภายใต้ชื่อ RI-NÉ หรือ รี-เน่ คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “น้อยแต่มาก” เพื่อการใช้ชีวิตที่มีความเรียบง่ายที่สมบูรณ์แบบ หรือ Craft You Finest Life อีกระดับของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ที่คุณสามารถดื่มด่ำแสงดาวได้ทุกค่ำคืน กับวิวพาโนราม่าของเมืองที่ไม่มีอะไรมาบดบัง โดดเด่นด้วยการผสานงานสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยไว้เป็นหนึ่งเดียว สิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลางครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์เหนือระดับของคนยุคใหม่ ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท* 
 
นอกจากนั้น CP LAND ยังเอาใจคนทุกเจเนอเรชัน ด้วยการ ทำโฆษณาชุดใหม่เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม SOū& และ RI-NÉ โดยได้ดึงตัว คุณหลิน มาลิน ชระอนันต์ อินฟลูเอนเซอร์สาวชื่อดัง ที่พึ่งคว้าตำแหน่ง มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดความพรีเมียมและทันสมัย ภาพยนตร์โฆษณาคอนโดมิเนียม RI-NÉ ขอนแก่น ภายใต้ชื่อ “ดื่มด่ำดวงดาว ที่ RI-NÉ คอนโด High-Rise ขอนแก่น” สามารถรับชมพร้อมกันได้แล้วทุกช่องทางของ CP LAND ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ 

จากการออกบูทเปิดให้ผู้ที่มีความสนใจ จับจองเป็นเจ้าของ SOū&  และ  RI-NÉ ก่อนใคร  ณ เซ็นทรัล ขอนแก่น ในวันที่ 1 – 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการตอบรับเป็นอย่างดีมาก เนื่องจากมีผู้จองสิทธิ์มากถึง 200 สิทธิ์ ภายในงาน คิดเป็นมูลค่ากว่า 440 ล้านบาท

ถือเป็นการตอบรับที่สะเทือนวงการอสังหาริมทรัพย์ในโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในรอบไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 นี้ และเตรียมพร้อมที่จะเปิดในชมห้องตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ณ เซลล์ แกลลอรี่ ที่ตั้งโครงการจริง ย่านกังสดาล ติดถนนมิตรภาพ ในไตรมาสที่ 3/2567 

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


อนันดาลุยตลาดต่างประเทศจัดโรดโชว์เต็มรูปแบบครั้งแรกไต้หวันเจาะนักลงทุน

อนันดาเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ จัดโรดโชว์เต็มรูปแบบครั้งแรกในไต้หวัน ชูศักยภาพโครงการอสังหาฯระดับแฟล็กชิปลักชัวรี่และไฮเอนด์ จับกลุ่มนักลงทุนเอเชีย

มณีรัตน์ ธนัชญ์เศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ สายงานคอนโดมิเนียม อนันดา   กล่าวว่า บริษัทได้ จับมือกับพันธมิตรกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ โธรน พร็อพเพอร์ตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียลเอสเตท, ชูเซ็ง อินเตอร์เนชั่นแนล เรียลเอสเตท ในไต้หวัน และธนาคารกรุงเทพ สาขาไต้หวัน หนึ่งในธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของไทยจัดโรดโชว์เต็มรูปแบบครั้งแรก ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงไทเป 

โดยมีโครงการไฮไลต์คือ “COCO PARC” เรสซิเดนซ์หรูระดับแฟล็กชิปของอนันดาซึ่งตั้งอยู่บนทำเลทองในกลางย่านธุรกิจหลักของกรุงเทพฯ พร้อมการเดินทางที่สะดวกสบายใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพระราม 4 นอกจากนี้ ยังนำเสนอโครงการที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียมอื่นๆ ภายใต้กลุ่มอนันดา ทั้งแบรนด์ลักซ์ชัวรีอย่าง Ashton, Culture และแบรนด์ระดับไฮเอนด์ IDEO และ IDEO MOBI โดยทุกโครงการมีศักยภาพการสร้างมูลค่าตลาดที่สูงมากในอนาคตเนื่องจากมองเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจในตลาดไต้หวันภายใต้แผนยุทธศาสตร์ระดับโลกขอบริษัท และความต้องการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่กำลังเพิ่มขึ้นในหมู่นักลงทุนไต้หวันว่า

“การตัดสินใจรุกตลาดไต้หวันถือเป็นส่วนสำคัญในแผนการขยายธุรกิจของอนันดาปี 2567 โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของไต้หวันจะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญ ในการตอบสนองความต้องการที่กำลังพุ่งสูงขึ้นของนักลงทุนไต้หวันที่มีต่อโครงการที่อยู่อาศัยของเมืองไทย”
 

ลลิสรณ์ ธนินท์จรัสพล Ananda’s SVP Strategic International Partnership เสริมว่า ในปีที่ผ่านมา ยอดขายของอนันดาในไต้หวันถือว่าสูงสูดในกลุ่มตลาดต่างประเทศ ซึ่งสะท้อนว่าผู้ซื้อชาวไต้หวันมีความสนใจโครงการของเราเป็นอย่างมาก การรุกตลาดไต้หวันของอนันดาจึงเป็นการเดินหน้าตามวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์และแสดงถึงความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจไปสู่ต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

อนันดาพร้อมตอบสนองความต้องการของตลาดไต้หวันด้วยโครงการที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุมทุกความต้องการที่หลากหลายในตลาด ทุกโครงการแก่นักลงทุน ไม่ว่าจะซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองหรือเพื่อการลงทุนก็ตาม ไต้หวันยังคงเป็นตลาดต่างประเทศที่สำคัญมากและเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการคุณภาพที่คุ้มค่ามากขึ้นสำหรับนักลงทุนไต้หวันต่อไป

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมีความแข็งแกร่งอย่างมากเนื่องด้วยสภาพแวดล้อมการลงทุนที่เติบโตอย่างเต็มที่ และสามารถดึงดูดผู้ซื้อจากต่างประเทศได้อย่างมหาศาล ข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่าในปี 2566 มีลูกค้าชาวต่างชาติซื้ออสังหาฯ จำนวน 14,449 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 73.2 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 25% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565

นอกจากนี้ ข้อมูลการสำรวจ 2024 PwC Asia Pacific Real Estate Trends Survey ยังเน้นย้ำถึงความนิยมที่มีต่อกรุงเทพฯ ของหมู่นักลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุนยอดนิยมในปัจจุบัน

แทงก์ เฉิน ผู้ก่อตั้ง โธรน พร็อพเพอร์ตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียลเอสเตท  กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยระดับหรูในย่านทำเลทองของกรุงเทพฯ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเป็นอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ซื้อชาวไต้หวัน อีกทั้งประเทศไทยได้มีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานครั้งสำคัญและการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วยขับเคลื่อนความต้องการอสังหาริมทรัพย์ให้ยิ่งพุ่งสูงขึ้น

“สิ่งที่ทำให้นักลงทุนไต้หวันให้ความสนใจอสังหาริมทรัพย์ไทยมาก คือเรื่องสิทธิในการครอบครองตามกฎหมายที่เทียบเท่าคนไทย ราคาอสังหาฯ ที่ซื้อหาได้ และการยกเว้นพื้นที่ส่วนกลางออกจากต้นทุนทรัพย์สิน ทำให้ผู้พักอาศัยสะดวกสบายกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราเสมือนได้อยู่ในโรงแรม 5 ดาว” 

เฉิน กล่าวต่อว่า ค่าครองชีพในไทยยังค่อนข้างต่ำ ในขณะที่กรุงเทพฯ มีโครงข่ายการคมนาคมที่ครอบคลุม เพียบพร้อมด้วยห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษา และสถานพยาบาลชั้นนำ ถือเป็นเมืองที่น่าอยู่มาก ห้องชุดในประเทศไทยก็ได้รับการตกแต่งครบครัน สะดวกต่อการย้ายเข้าอยู่ได้ทันทีเพียงหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไป เหมาะทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและการลงทุน

นอกจากนี้ ราคาอสังหาฯ ในไทยยังมอบผลตอบแทนจากการเช่าสูงกว่าในไต้หวัน  ซึ่งนักลงทุนไต้หวันไม่เพียงสนใจโอกาสในการลงทุนเท่านั้น แต่ยังหลงใหลไลฟ์สไตล์วัยเกษียณที่หรูหราสะดวกสบายของประเทศไทยอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 18มิ.ย. “แข็งค่า” ที่ระดับ 36.79 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 18มิ.ย. “แข็งค่า” ที่ระดับ 36.79 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอ่อนค่า-แข็งค่าอย่างจำกัด เหตุจากผู้ส่งออก อาจรอทยอยขายเงินดอลลาร์ในจังหวะที่เงินบาทอ่อนค่าเข้าใกล้โซนแนวต้าน และจนกว่าตลาดจะคลายกังวลต่อสถานการณ์เมืองไทยและยุโรป

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 18มิ.ย. 2506 ที่ระดับ  36.79 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.82 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า ควรระวังความเสี่ยงที่เงินบาทอาจผันผวนอ่อนค่าลงต่อได้ ท่ามกลางความกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่

ดังจะเห็นได้จากแรงขายสินทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่องของบรรดานักลงทุนต่างชาติ ทำให้เราประเมินว่า เงินบาทมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้านแถว 36.85-36.90 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไป 37.00 บาทต่อดอลลาร์) อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วน อย่างบรรดาผู้ส่งออก อาจรอทยอยขายเงินดอลลาร์ในจังหวะที่เงินบาทอ่อนค่าเข้าใกล้โซนแนวต้านดังกล่าวได้

ส่วนการแข็งค่าในช่วงนี้ก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด จนกว่าตลาดจะคลายกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศและสถานการณ์การเมืองฝั่งยุโรป ซึ่งจะช่วยให้เงินดอลลาร์สามารถอ่อนค่าลงได้ชัดเจนอีกครั้ง หากตลาดยังมั่นใจว่า เฟดจะสามารถทยอยลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ ทำให้เงินบาทยังมีแนวรับแถวโซน 36.60-36.70 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ทั้งรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน (ช่วง 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ (ช่วง 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) โดยหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดจะสามารถทยอยลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งในปีนี้ ก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาทได้บ้าง แม้ว่าเงินบาทจะยังคงเผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองในประเทศก็ตาม

เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.90 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 36.77-36.85 บาทต่อดอลลาร์) แม้ว่าเงินดอลลาร์จะทยอยอ่อนค่าลงบ้าง ตามการรีบาวด์ขึ้นของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะสกุลเงินฝั่งยุโรป ทั้งเงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) หลังตลาดการเงินยุโรปเริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น

แต่เงินบาทกลับไม่ได้แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ เนื่องจากราคาทองคำก็มีจังหวะปรับตัวลดลง ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงรอจังหวะดังกล่าวในการทยอยเข้าซื้อทองคำ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างยังคงกังวลต่อสถานการณ์การเมืองของไทย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงมีมุมมองเชิงลบต่อเงินบาทในระยะสั้นนี้ ส่วนนักลงทุนต่างชาติก็ยังไม่รีบกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทย

บรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ท่ามกลางการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นธีม AI โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Semiconductor อย่าง AVGO +5.4%, Qualcom +3.2% ตามความหวังว่า แนวโน้มผลประกอบการของหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะเติบโตได้ดีตามกระแสการประยุกต์ใช้ AI ทำให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวขึ้น +0.95% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.77%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 รีบาวด์ขึ้นราว +0.09% ตามการรีบาวด์ขึ้นบ้างของบรรดาหุ้นฝรั่งเศสที่ปรับตัวลงหนักในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า จากความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองฝรั่งเศส นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นกลุ่ม Semiconductor เช่นเดียวกับฝั่งสหรัฐฯ อาทิ ASML +1.7%

ในส่วนตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นราว +5bps สู่ระดับ 4.27% หลังผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อโอกาสที่เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ (ตลาดประเมินโอกาสดังกล่าวราว 78% จากที่เคยสูงเกือบ 100% ในวันก่อนหน้า) ตามรายงานดัชนีภาคการผลิตโดยเฟดสาขานิวยอร์ก (NY Empire State Manufacturing Index) ที่ออกมาสูงกว่าคาด

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเกือบ +3% อย่างไรก็ดี เรามองว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็อาจยังคงแกว่งตัวในกรอบ sideways แถวระดับ 4.25% ไปก่อน จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม และ เราคงมุมมองเดิมว่า ในทุกๆ จังหวะการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะเป็นโอกาสในการทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวที่น่าสนใจ เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดในระยะข้างหน้ามีเพียงแค่ “คง” หรือ “ลง” มากกว่าที่เฟดจะทยอยขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง

 ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับบรรดาสกุลเงินหลัก หลังสกุลเงินฝั่งยุโรป ทั้งเงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ต่างรีบาวด์ขึ้นบ้าง ตามการทยอยเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินฝั่งยุโรป ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ก็ไม่ได้อ่อนค่าลงต่อเนื่องไปมาก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดในระยะถัดไป ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ย่อตัวลงสู่ระดับ 105.3 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 105.2-105.6 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงบ้าง ทว่าการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็เป็นปัจจัยที่กดดันไม่ให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) ปรับตัวขึ้นต่อได้ชัดเจน และทำให้ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวแถวโซน 2,330-2,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) และยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม พร้อมทั้งรอติดตาม ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงิน โดยเฉพาะโอกาสที่เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้

ส่วนในฝั่งยุโรป ไฮไลท์สำคัญ จะอยู่ที่ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน เดือนพฤษภาคม และดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีและยูโรโซน ที่สำรวจโดย ZEW นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เช่นกัน

ส่วนในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดต่างคาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.35% ไปก่อน จนกว่าจะมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะสามารถชะลอตัวลงกลับสู่เป้าหมายได้สำเร็จ แม้ว่าปัจจุบัน ภาพเศรษฐกิจออสเตรเลียจะมีการชะลอลงตัวบ้างก็ตาม

และในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาการพิจารณาคดีการเมืองสำคัญโดยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในระยะสั้นและสร้างความผันผวนให้กับฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงตลาดการเงินไทยได้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.80-36.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.17 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.81 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยแม้เงินบาทจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่มีแรงกดดันด้านอ่อนค่า เนื่องจากตลาดในประเทศยังคงรอติดตามหลายประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ ประกอบกับน่าจะมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากสัญญาณสะท้อนสถานะขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.70-36.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ปัจจัยทางการเมืองของไทย ผลการประชุม RBA สัญญาณเกี่ยวกับดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


7 แบดมินตันไทย เข้าค่ายทหารฝึกความอดทน มีวินัยเพื่อนำมาใช้ในเกมการแข่งขัน

สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ส่งนักกีฬาไปเข้าค่ายทหาร เพื่อฝึกความอดทน ความกล้าหาญ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ เพื่อพัฒนานักกีฬาให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง สามารถนำมาใช้พัฒนาในเกมการแข่งขัน

สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีโครงการส่งนักกีฬาไปเข้าค่ายทหาร เพื่อฝึกความอดทน ความกล้าหาญ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ เพื่อพัฒนานักกีฬาให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง สามารถนำมาใช้พัฒนาในเกมการแข่งขัน

โครงการนี้โค้ช คิมจี ฮยุน เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ เป็นผู้ริเริ่มขออนุมัติโครงการนี้ ซึ่งทางคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคม รวมไปถึงทีมฝ่ายพัฒนาเห็นชอบและอนุมัติโครงการนำร่องนี้  โดยส่งนักกีฬาไปทั้งหมด 7 คนแบ่งเป็น หญิงเดี่ยว 3 คน อาทิ “เม” ศุภนิดา เกตุทอง , “แครอท” พรพิชชา เชยกีวงศ์ , “มินนี่” ธมลวรรณ นิธิอิทธิไกร  ชายเดี่ยว 4 คน ประกอบไปด้วย “อิฐ” วรท อุไรวงค์ , “ภูริ” ภูริทัช อารีย์ , “อัปเปอร์” วงศ์ทรัพย์ วงศ์ทรัพย์อินทร์ และ “จ๊อบ” สุรสิทธิ์ อริยะบารนีกุล 

ในการทำกิจกรรมในครั้งนี้ จากวันแรกที่ไปส่งเข้าค่าย  ซึ่งบางคนกังวล กล้าๆกลัว จนถึงวันสุดท้ายที่ไปรับ ได้เห็นแววตาของน้องๆนักกีฬาที่เปลี่ยนไป โดยนักแบดมินตันที่ได้เข้ากิจกรรมครั้งนี้ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า  “เราได้ก้าวข้ามความกลัว ได้ความเป็นผู้นำ ได้ความสามัคคีช่วยเหลือกัน ได้ความกล้าคิดกล้าตัดสินใจ ได้เรียนรู้เรื่องอื่นๆในโลกกว้าง และได้ฝึกการมีสติจากการฝึกอุโมงค์ลม จากเรียนชกมวยได้เรียนรู้การหาช่องว่างโจมตีต่างๆ 

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


สัญญาณเตือน! เครียด ซึม เหนื่อยล้า ดูแลใจก่อนสายเกินไป

ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ แข่งขัน หลายคนต้องเผชิญกับปัญหา ความเครียด และ ภาวะซึมเศร้า ส่งผลต่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ และการใช้ชีวิตประจำวัน หากคุณกำลังรู้สึกเช่นนี้เราขอเสนอแนวทาง การจัดการความเครียด และ การดูแลสุขภาพจิต  เพื่อการชาร์จพลังเริ่มต้นใหม่ในวันรุ่งขึ้น

เริ่มจากการรู้จักตนเองซะก่อน คุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ระดับใด เช็กได้จากสัญญาณเตือนเหล่านี้

สัญญาณเตือนเมื่อคุณกำลังเครียด

  • รู้สึกวิตกกังวล หงุดหงิดง่าย
  • นอนหลับยาก
  • อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร หรือ ทานมากขึ้น
  • ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ
  • สมาธิสั้น
  • ตัดสินใจอะไรยาก

สัญญาณเตือนเมื่อคุณกำลังเผชิญกับภาวะซึมเศร้า

  • รู้สึกเศร้า หดหู่ สิ้นหวัง
  • รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร
  • สูญเสียความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ
  • เบื่ออาหาร หรือ ทานมากขึ้น
  • นอนหลับยาก หรือ นอนหลับมากเกินไป
  • รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
  • รู้สึกไร้ค่า
  • มีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง หรือ ฆ่าตัวตาย

วิธีจัดการความเครียด

  • หาสาเหตุของความเครียด: พยายามหาว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณเครียด เมื่อทราบสาเหตุแล้ว จะได้หาวิธีจัดการได้ตรงจุด
  • ฝึกผ่อนคลาย: หาเวลาทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง นั่งสมาธิ โยคะ
  • ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายช่วยลดฮอร์โมนความเครียด ช่วยให้อารมณ์ดี
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับช่วยให้ร่างกายและสมองได้ซ่อมแซมตัวเอง
  • ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่: การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายมีพลังงาน
  • พูดคุยกับคนรอบข้าง: การระบายความรู้สึกกับคนสนิท ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
  • ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ: หากรู้สึกว่าไม่สามารถจัดการกับความเครียดด้วยตัวเอง ควรขอความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์

การดูแลสุขภาพจิต

  • ฝึกคิดบวก: มองโลกในแง่ดี มองหาข้อดีในทุกสถานการณ์
  • ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ: หากิจกรรมที่ทำให้รู้สึกสนุก ผ่อนคลาย
  • ใช้เวลากับคนที่รัก: การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ช่วยให้รู้สึกอบอุ่น
  • เรียนรู้ที่จะให้อภัย: การให้อภัยผู้อื่นและตัวเอง ช่วยให้ลดความโกรธ แค้น
  • ฝึกการขอบคุณ: รู้สึกขอบคุณในสิ่งดีๆ ที่มีในชีวิต
  • ช่วยเหลือผู้อื่น: การช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยให้รู้สึกมีคุณค่า
  • ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ: หากรู้สึกว่าไม่สามารถจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตด้วยตัวเอง ควรขอความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์

หากคุณกำลังรู้สึกแย่หรือมีสัญญาณเตือนเหล่านี้โปรดจำไว้ว่า คุณไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีคนอีกมากมายที่เผชิญกับปัญหา ความเครียด และ ภาวะซึมเศร้า ที่ต่างต้องเผชิญเรื่องชวนหมดพลัง จะดีกว่ามากหากได้ระลึกอยู่เสมอว่า การดูแลสุขภาพจิต เป็นสิ่งสำคัญ จะเป็นอาวุธสำคัญที่พาให้คุณฝ่าฟันทุกอุปสรรคให้คุณมีชีวิตที่มีความสุข สุขภาพดี และใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า

เครียด ซึม เหนื่อยเมื่อไหร่.. หยุดพักใจ ชาร์จพลัง เริ่มต้นใหม่แล้วไปต่อนะ!

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


‘ออโตสตอร์’ ทุนเทคฯ‘นอร์เวย์’ ผุด ‘รง.ผลิตหุ่นยนต์’ ในระยอง

ไทยยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของ “ทุนต่างชาติ” ท่ามกลางการแข่งขันที่สูง ล่าสุด “ออโตสตอร์” (AutoStore) บริษัทด้านเทคโนโลยีคลังสินค้าระดับโลกสัญชาตินอร์เวย์ ประกาศเปิดโรงงาน “ประกอบหุ่นยนต์” ในจังหวัดระยอง

ไทยยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของ “ทุนต่างชาติ” ท่ามกลางการแข่งขันที่สูง ล่าสุด “ออโตสตอร์” (AutoStore) บริษัทด้านเทคโนโลยีคลังสินค้าระดับโลกสัญชาตินอร์เวย์ ที่เปลี่ยนระบบอัตโนมัติของคลังสินค้าด้วยระบบการจัดเก็บแบบโมดูลาร์ ประกาศเปิดโรงงาน “ประกอบหุ่นยนต์” ในจังหวัดระยอง

ความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงยุทธศาสตร์ในความพยายามขยายธุรกิจไปทั่วโลกของ AutoStore โดยนำการผลิตหุ่นยนต์ที่ล้ำสมัย มาใกล้ชิดกับตลาดสำคัญมากขึ้น ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้

กว่า 1,450 ระบบ ที่ได้กระจายไปใน 54 ประเทศทำให้ AutoStore เป็นระบบอัตโนมัติที่ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางมากที่สุดในโลก จากการที่ AutoStore เร่งขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โรงงานหุ่นยนต์แห่งใหม่ในไทยจะช่วยให้ระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายอัตโนมัติของบริษัทฯ เข้าสู่คลังสินค้าในเอเชีย แปซิฟิกได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับในเอเชีย แปซิฟิก มีระบบกว่า 140 ระบบ และหุ่นยนต์กว่า 5,300 ตัว ที่พร้อมปฏิบัติงานสำหรับแบรนด์ชั้นนำอย่าง พูมา กุชชี่ และ เบสท์ บาย ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของ AutoStore เพื่อตอบสนองความต้องการอีคอมเมิร์ซที่กำลังเพิ่มขึ้น

“มัทส์ โฮฟแลนด์ วิคเซ่” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ บริษัท AutoStore กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2555หุ่นยนต์ของบริษัท ได้ผลิตและจัดส่งมาจากประเทศโปแลนด์ แต่จากการความต้องการที่เพิ่มขึ้นในระบบอัตโนมัติของบริษัท ทั้งอเมริกาเหนือและทั่วโลก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเปิดโรงงานหุ่นยนต์แห่งที่สอง เพื่อให้บริการลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้ดียิ่งขึ้น

“ความพร้อมด้านแรงงาน ความใกล้ชิดกับท่าเรือ และสนามบิน ค่าแรงที่เหมาะสม และแรงจูงใจจากรัฐบาลสำหรับบริษัทด้านระบบอัตโนมัติ ทำให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ในอุดมคติ สำหรับโรงงานหุ่นยนต์แห่งที่สองของเราที่จะขับเคลื่อนการฏิบัติงานส่วนอเมริกาเหนือของ AutoStore”

ด้าน ‘อิสราเอล โลซาดา ซัลวาดอร์’ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ หรือซีโอโอ บริษัท AutoStore กล่าวว่า ช่วง 24 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตที่มีอยู่เป็นสามเท่า และวางโครงสร้างไว้สำหรับเติบโตอีก 10 เท่าในอีก 24 เดือนหากจำเป็น

“การขยายธุรกิจสู่ประเทศไทย เราไม่ได้เพียงเพิ่มกำลังการผลิต แต่ยังสร้างฐานซัพพลายเออร์ที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ระยะเวลาในการรอสินค้าจาก AutoStore ลดลงจาก 34 สัปดาห์เป็น 20 สัปดาห์”

ทั้งนี้ แทนที่การจัดเก็บตามชั้น และดึงออกด้วยมือ AutoStore ใช้ระบบจัดเก็บแบบโมดูลาร์แบบคิวบ์ โดยใช้ “หุ่นยนต์ล้ำสมัย” เพื่อให้ผู้ค้าปลีก ได้ใช้โซลูชันที่เติมเต็มคำสั่งซื้อที่เร่งด่วนให้พื้นที่คลังสินค้าสูงสุด และปรับปรุงประสิทธิภาพ การฏิบัติงาน

โรงงานแห่งใหม่ในประเทศไทย คาดว่า จะสร้างโอกาสการจ้างงานประมาณ 80 ตำแหน่งในปีแรก และมีแผนจะเพิ่มตำแหน่งงานเป็น 200-300 ตำแหน่งภายในปี 2569 ซึ่งภายใน 18 เดือนข้างหน้าได้ตั้งเป้าผลิตหุ่นยนต์ได้ 15,000 ตัว เป็นการเพิ่มกำลังการผลิตเป็นสองเท่าของปัจจุบัน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

AutoStore ก่อตั้งในปี 2539ในเมือง เนเดร วัตส์ (NedreVats)บนชายฝั่งตะวันตกของประเทศนอร์เวย์ บริษัทฯมีสำนักงานในนอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี ออสเตรีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ รวมถึงโรงงานผลิตในเมือง กอซซาลิน (Koszalin)ประเทศโปแลนด์

เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่พัฒนาโซลูชั่นการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยข้อจำกัดทางด้านการจัดเก็บและการเบิกจ่ายสินค้า บริษัทฯ ได้พัฒนาโซลูชั่นทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดย AutoStore ยังสามารถทำงานร่วมกับโซลูชั่นของบริษัทอื่นได้

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


60 แคปชั่นภาษาอังกฤษ เศร้าๆ คําคมเศร้า ภาษาอังกฤษ ชีวิตเศร้าต้องเอาไปโพสต์

แคปชั่นภาษาอังกฤษ เศร้าๆ สั้นๆ 

  • Maybe I was designed to be alone.

บางทีฉันอาจถูกออกแบบมาเพื่อให้อยู่คนเดียว

  • Everyone except Me.

คงเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ฉัน

  • What ever begins also ends.

อะไรก็ตาม ที่มีจุดเริ่มต้น ย่อมมีจุดจบ

  • Stupid me thinking I was good enough.

ฉันนี่โง่จริงๆ ที่คิดว่าฉันดีพอ

  • Every smile has a mystery behind.

ทุกๆ รอยยิ้ม มักมีเบื้องหลังซ่อนอยู่

  • Out of emotions, filled with emptiness.

ไม่มีอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

  • Past is something that you can’t let go.

อดีตคือสิ่งที่คุณไม่สามารถปล่อยมันไปได้

  • Sorry is never good enough.

คำว่าขอโทษ มันไม่เคยดีพอ

  • I’m not okay, but it’s okay.

ฉันไม่โอเค แต่ไม่เป็นไรหรอก

  • Memories hurt.

ความทรงจำกำลังทำร้ายเรา

  • No one cares anyway.

ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว

  • Moving on will never be easy.

การก้าวต่อไป มันไม่เคยเป็นเรื่องง่าย

  • Tears are words that the heart can’t say.

น้ำตาคือคำพูดที่หัวใจพูดไม่ได้

  • Behind every “it’s okay” is a little pain.

เบื้องหลังคำว่า “ไม่เป็นไร” มักมีความเจ็บปวดซ่อนอยู่

  • Living, but no one notices.

ฉันยังอยู่ แต่แค่ไม่มีใครสังเกตเห็น

  • Lost in a world that doesn’t exist.

หลงทางในโลกที่ไม่มีอยู่จริง

  • Not good enough. Never good enough.

ไม่ดีพอ ไม่เคยดีพอ

  • It doesn’t matter anymore.

มันไม่สำคัญอีกต่อไป

  • Numb is my default mood.

อาการชา มันกลายเป็นอารมณ์เริ่มต้นของฉันไปแล้ว

  • Clowns need laughter too.

ตัวตลกก็ต้องการเสียงหัวเราะเช่นกัน

แคปชั่นเศร้าๆ ภาษาอังกฤษ สั้นๆ

  • No expectations, no disappointments.

ไม่มีความคาดหวัง ไม่ผิดหวัง

  • Disappointed but not surprised.

ผิดหวังนะแต่ไม่แปลกใจเลย

  • Sick of crying tired of trying.

เหนื่อยกับการร้องไห้เหนื่อยกับการพยายาม

  • I’m so tired of being me.

ฉันเหนื่อยมากกับการเป็นฉัน

  • In the Mood to sleep for three years.

อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะนอนเป็นเวลาสามปี

  • I used to be happy.

ฉันเคยมีความสุข

  • Excess of anything can tear you apart.

ความรู้สึกของการเป็นส่วนเกินมันสามารถฉีกร่างกายเราออกเป็นชิ้นๆ ได้เลย

  • Truth ain’t sweet always.

ความจริงมันไม่หอมหวานเสมอไป

  • I tried my best to hold on.

ฉันพยายามอย่างดีที่สุดแล้วที่จะยึดมันไว้

  • Either one person or no one.

ตัวคนเดียวหรือไม่มีเลยนะ

แคปชั่นอกหักภาษาอังกฤษ เศร้าๆ

  • People come, people go. In the end, it’s just you.

บางคนมา บางคนไป สุดท้ายมันก็เหลือแค่เรา

  • Grief will always be the price we’ll pay for love.

ความเศร้าโศก มักจะเป็นราคาที่เราต้องจ่ายเพื่อความรักเสมอแหละ

  • Happy memories hurt the most.

ความทรงจำที่มีความสุข มักจะทำให้เราเจ็บปวดมากที่สุด

  • Love is priceless, yet we often pay heavily for it.

ความรักมันไม่มีค่า แต่เรามักจะจ่ายหนักเพื่อมัน

  • Occasionally, we fall in love with people we can’t have.

บางครั้งเราก็ตกหลุมรักคนที่เราไม่สามารถมีเค้าในชีวิตได้

  • Old memories sometimes creep out of my eyes and slip down my cheeks.

บางครั้งความทรงจำเก่าๆ ก็มักจะมาในรูปแบบที่ไหลออกมาจากดวงตาและไหลลงที่แก้มของฉัน

  • To let go or to hold on? Which is more painful?

จะปล่อยไปหรือเก็บไว้? แบบไหนเจ็บกว่ากัน?

  • Even a million tears won’t bring anything back.

แม้ว่าจะมีน้ำตานับล้านหยดก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรกลับคืนมา

  • Hiding a thousand feelings behind the happiest smile.

ซ่อนความรู้สึกนับพันไว้เบื้องหลังรอยยิ้มที่มีความสุขที่สุด

  • I hate that I’m still hoping.

ฉันเกลียดที่ฉันยังคงหวัง

  • No one knows how much I cried that day.

ไม่มีใครรู้หรอกว่าวันนั้นฉันร้องไห้มากแค่ไหน

  • You are my favorite song that I don’t wanna listen anymore.

เธอเป็นเพลงโปรดที่ฉันจะไม่ฟังซ้ำอีกแล้ว

  • We tent to fall in love with mean people.

เรามักจะตกหลุมรักคนใจร้าย

  • Maybe our love for each other just isn’t equal.

บางทีความรักของเราสองคนอาจไม่เท่ากัน

  • The worst part is time leaves forever but the pain it causes stays forever.

ส่วนที่แย่ที่สุดคือเวลามันผ่านไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจะคงอยู่ตลอดไป

  • Even though you were standing beside me, you were never there for me.

แม้ว่าคุณจะยืนอยู่ข้างๆ ฉัน แต่คุณไม่เคยอยู่ที่นั่นสำหรับฉัน

  • One broken relationship makes you question every relationship.

ความสัมพันธ์ที่แตกสลายหนึ่งครั้งจะทำให้คุณตั้งคำถามกับทุกความสัมพันธ์

  • It’s not like I like being alone but it is that I’ve learned to walk alone.

ไม่ใช่ว่าฉันชอบอยู่คนเดียว แต่มันเป็นการเรียนรู้ที่จะต้องเดินคนเดียวให้ได้

  • I wish only if we could last a little longer.

ฉันหวังเพียงแค่ว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้นานกว่านี้

  • He proved that promises are made to be broken.

เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคำสัญญามันไม่เคยทำได้จริง

  • Yours ‘ALWAYS’ was a lie.

คำว่า “ตลอดไป” ของคุณ มันเป็นเรื่องโกหก

  • It’s not hard to die without you but it’s very hard to live without you.

การตายโดยไม่มีคุณไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันยากมากที่จะอยู่โดยไม่มีคุณ

  • Without you, everything is still the same except me.

ไม่มีเธอทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ยกเว้นฉัน

  • Everyone has a story but my story left me.

ทุกคนมีเรื่องราวที่น่าจดจำ แต่เรื่องราวของฉันทิ้งฉันไป

  • Just because I let you don’t mean I wanted to.

เพียงเพราะฉันปล่อยให้คุณไป นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันต้องการให้คุณไปจริงๆ

  • Every ‘I am okay’ actually means ‘I am totally broken’.

ทุกครั้งที่ฉันบอกว่า “ฉันไม่เป็นไร” จริงๆ แล้วมันหมายความว่า “ฉันใจสลาย”

  • I hate that I love you.

ฉันเกลียดที่ฉันรักคุณ

  • You will miss me one day as I miss you today.

วันหนึ่งคุณจะคิดถึงฉันเหมือนที่ฉันคิดถึงคุณในวันนี้

  • Do not leave me alone because I never want to leave you.

อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวเพราะฉันไม่เคยอยากจากคุณไป

  • I can unfriend you, unfollow you, but how can I Unlove you?

ฉันเลิกเป็นเพื่อนกับคุณได้ เลิกติดตามคุณได้ แต่ฉันจะยกเลิกความรักที่มีต่อคุณได้อย่างไร?

ขอบคุณข้อมูลจาก women.trueid.net


10 ผักดีต่อสุขภาพลำไส้ ช่วยระบบย่อยอาหาร และสุขภาพโดยรวม

การทานผักหลากหลายชนิดนั้นส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม และอย่างที่ทราบกันว่าลำไส้นั้นถือเป็นอวัยวะที่สำคัญ และไม่ได้มีเพียงหน้าที่ย่อยอาหารเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระดับพลังงาน เสริมสร้างการเจริญเติบโต และซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ควบคุมการอักเสบ ฯลฯ และมีผักจำนวน 10 ชนิดที่ผลการวิจัยพบว่ามีต่อจุลินทรีย์ในลำไส้มากกว่าผักชนิดอื่น

10 ผักดีต่อสำไส้

1.เห็ด คือส่วนของราที่ทำหน้าที่ผลิตสปอร์ ช่วยให้ราระบาดพันธุ์ เห็ดหลายชนิดเป็นอาหารที่ทานได้ อร่อย และดีต่อสุขภาพลำไส้ แม้ว่าเห็ดจะไม่ใช่ผัก แต่มีประโยชน์เช่นเดียวกับผักหลายชนิด จึงจัดอยู่ในรายการอาหารที่ดีต่อลำไส้ของเรา

ประโยชน์ของเห็ดต่อลำไส้

  • ใยอาหาร: เห็ดอุดมไปด้วยใยอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เพิ่มกากอาหาร บำรุงจุลินทรีย์ในลำไส้
  • วิตามินและแร่ธาตุ: เห็ดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินดี วิตามินบี โพแทสเซียม แมกนีเซียม ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: เห็ดอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ บำรุงจุลินทรีย์ในลำไส้
  • โพลีแซ็กคาไรด์: เห็ดบางชนิดมีโพลีแซ็กคาไรด์ ช่วยบำรุงจุลินทรีย์ในลำไส้ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหาร

2.แตงกวา แม้จะถูกจัดเป็นผลไม้ แต่เรามักนิยมนำมาทานเป็นผัก จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในรายการอาหารเพื่อสุขภาพลำไส้ของเรา

แตงกวามีประโยชน์ต่อลำไส้ ดังนี้:

  • พรีไบโอติกส์: แตงกวาอุดมไปด้วยพรีไบโอติกส์ เป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: แตงกวามีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ บำรุงจุลินทรีย์ในลำไส้
  • ยับยั้งแบคทีเรียไม่ดี: สารอาหารในแตงกวา อาจช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ไม่ดีในลำไส้
  • น้ำ: แตงกวามีน้ำมากกว่า 96% ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ป้องกันท้องผูก

3.ผักโขมเด็ก คือ ผักโขมที่เก็บเกี่ยวจากต้นก่อนที่จะโตเต็มที่

ผักโขมเด็กอุดมไปด้วยสารอาหาร ดังนี้:

  • วิตามิน: วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค
  • แร่ธาตุ: ธาตุเหล็ก แคลเซียม
  • โพลีฟีนอล: สารต้านอนุมูลอิสระ

4.วอเตอร์เครส ผักใบเขียวรสจัดจ้าน เติบโตในน้ำแร่ธรรมชาติ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ดังนี้:

  • วิตามิน: วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี วิตามินอี
  • แร่ธาตุ: ธาตุเหล็ก ธาตุฟอสฟอรัส

วอเตอร์เครส ดีต่อสุขภาพลำไส้

  • อุดมไปด้วยโพลีฟีนอลชนิดฟลาโวนอยด์ ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร

5.กระเทียมต้น เป็นผักชนิดเดียวกับหัวหอม แต่มีรสชาติหวานมันกว่าเล็กน้อย กระเทียมต้นอุดมไปด้วยใยอาหาร ชนิดหนึ่งชื่อว่าอินูลิน

  • อินูลิน เป็นพรีไบโอติกส์ตามธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • อินูลิน อาจช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุจากอาหาร และช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ตามงานวิจัยปี 2023

6.ถั่วงอก เส้นใยอาหารชั้นดี ส่งเสริมสุขภาพลำไส้ ถั่วงอกเป็นยอดอ่อนที่รับประทานได้ของถั่วเขียว นิยมใช้ในอาหารจีน อินเดีย เกาหลี และไทย ถั่วงอกเป็นแหล่งใยอาหารชั้นดี เพียง 1 ถ้วย (115 กรัม) ของถั่วงอกสุก ให้ใยอาหารถึง 3.8 กรัม คิดเป็น 10% ของปริมาณใยอาหารที่ร่างกายต้องการต่อวัน ไม่ว่าเพศวัยใด ถั่วงอกอุดมไปด้วยใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ

  • ช่วยเพิ่มกากอาหาร กระตุ้นการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก
  • ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างคล่องตัว

ถั่วงอกยังมีสารโพลีฟีนอล เป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ส่งเสริมระบบย่อยอาหาร

7.ผักกาดหอม ผักใบเขียวอุดมสารอาหาร ดีต่อสุขภาพลำไส้ ผักกาดหอมผักใบเขียวอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะระบบย่อยอาหาร ดังนี้:

  • โพลีฟีนอล: สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ บำรุงจุลินทรีย์ในลำไส้
  • แคโรทีนอยด์: สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

8.ถั่วลันเตา แหล่งใยอาหารชั้นดี ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ถั่วลันเตาเมื่อโตเต็มที่ จัดเป็นถั่วมากกว่าผัก แต่ถั่วลันเตาแช่แข็งที่เราทานกันนั้น จัดเป็นผักประเภทแป้ง ถั่วลันเตามีหลายสายพันธุ์ บางสายพันธุ์สามารถทานฝักได้ เช่น ถั่วลันเตาฝักอ่อน แต่บางสายพันธุ์ เช่น ถั่วลันเตาเมล็ดกลม จะไม่มีฝักมาด้วย

ถั่วลันเตาเป็นแหล่งใยอาหารชั้นดี

  • 1 ถ้วย (ประมาณ 100 กรัม) ของถั่วลันเตา ให้ใยอาหารถึง 8.6 กรัม
  • ใยอาหารประมาณ 6 กรัม เป็นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ ช่วยเพิ่มกากอาหาร กระตุ้นการขับถ่าย ลดความเสี่ยงต่ออาการท้องผูก
  • ใยอาหารอีกประมาณ 2.6 กรัม เป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมันคอเลสเตอรอล

ถั่วลันเตาหาซื้อง่าย ราคาประหยัด

9.ซูกินี เป็นพืชตระกูลแตงชนิดหนึ่งมีลักษณะยาว ทรงรี คล้ายแตงกวาญี่ปุ่น แต่อ้วนและมีผิวที่เรียบกว่า เนื้อแน่น มีทั้งเปลือกสีเขียวและสีเหลือง นิยมบริโภคกันในแถบยุโรปและอเมริกา ประกอบด้วยน้ำถึง 94% อุดมไปด้วยใยอาหารทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ

  • ใยอาหารชนิดละลายน้ำ: ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมันคอเลสเตอรอล
  • ใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ: ช่วยเพิ่มกากอาหาร กระตุ้นการขับถ่าย ลดความเสี่ยงต่ออาการท้องผูก

10.กะหล่ำดอก ผักหัวใหญ่ หลากสีสัน อุดมใยอาหาร ปรุงอาหารได้หลากหลาย ผักหัวใหญ่ที่เราทานกันนั้น แท้จริงแล้วคือดอกไม้ที่พัฒนาไม่เต็มที่ กะหล่ำดอกสีขาวเป็นชนิดที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ยังมีกะหล่ำดอกสีอื่นๆ เช่น สีส้ม สีม่วง และสีเขียว

กะหล่ำดอก ประกอบด้วยน้ำถึง 92-94% อุดมไปด้วยใยอาหาร 1 ถ้วย (107 กรัม) ของกะหล่ำดอก ให้ใยอาหารถึง 2.14 กรัม

จุดเด่นของกะหล่ำดอก คือความหลากหลาย

  • รสชาติ: กะหล่ำดอกมีรสชาติอ่อน สามารถนำไปนึ่ง อบ หรือทอด ได้อร่อย
  • เมนู: กะหล่ำดอกสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย เช่น สลัด ซุป แกงกะหรี่
  • แปรรูป: กะหล่ำดอกสามารถนำไปทำแป้งพิซซ่าแบบ Low-carb บดเป็นข้าว หรือทำไก่ทอดแบบมังสวิรัติ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 18/06/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a40,400.0040,500.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,617.0039,673.7241,000.00
ทองรูปพรรณ 90%2,355.3035,706.35n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,093.6031,738.98n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,178.0017,858.48n/a
ทองรูปพรรณ 40%916.0013,886.56n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,712.0041,113.92n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 18/06/2567



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9537.7537.7538.2537.7537.7537.7537.7537.7537.7537.75
แก๊สโซฮอล์ 9137.3837.3837.6837.3837.3837.3837.3837.3837.3837.38
แก๊สโซฮอล์ E2035.6435.6435.9435.6435.6435.6435.6435.6435.64
แก๊สโซฮอล์ E8535.3935.3935.39
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม46.3449.8449.8449.8446.34
เบนซิน 9545.6448.4146.1445.7945.64
ดีเซล32.9432.9433.2432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซลพรีเมี่ยม44.9447.1449.8447.1447.1444.94
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า