สาระน่ารู้ประจำวันที่ 28 สิงหาคม 2567

อนันดา ควง ปอร์เช่ เจาะกลุ่มมั่งคั่งสูง ผุดคอนโดอัลตร้า 525-1,400 ล้าน/ยูนิต

‘อนันดา’ ควง ‘ปอร์เช่’ เจาะกลุ่มมั่งคั่งสูง ปั้น ‘ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก’ แห่งแรกในเอเชีย แห่งที่ 3 ของโลก ผุดคอนโดอัลตร้าลักชัวรี ราคา 525-1,400 ล้านบาทต่อยูนิต ปักหมุดทำเลฮอตสุขุมวิท 38 พร้อมทุบสถิติ ตร.ม.ละ 1 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างปี 2568 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2571

ปอร์เช่ ดีไซน์ ประกาศความร่วมมือกับ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เปิดตัว ‘ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก’ โครงการระดับอัลตร้าลักชัวรี ณ ทำเลศักยภาพบนสุขุมวิท 38 ย่านทองหล่อที่เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์แห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร

โครงการแห่งนี้ออกแบบมาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง (Ultra High Net Worth) และยังถือเป็นปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์แห่งแรกในทวีปเอเชียและแห่งที่สามของโลก ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการอสังหาริมทรัพย์โดยปอร์เช่ ดีไซน์ ที่เมืองไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองสตุทท์การ์ท ประเทศเยอรมนี

โครงการอันล้ำสมัยแห่งนี้ได้ยกระดับนิยามใหม่สำหรับการอยู่อาศัยในแบบอัลตร้าลักชัวรีด้วยห้องพักสไตล์ ‘สกาย วิลล่า’ สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 22 ยูนิต มีให้เลือกทั้งแบบห้องดูเพล็กซ์พร้อมสระน้ำส่วนตัว และควอดเพล็กซ์สุดหรู พร้อมพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 525 ถึง 1,135 ตารางเมตร ราคาเฉลี่ยต่อยูนิตเริ่มต้นที่ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 525 ล้านบาท) จนถึง 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,400 ล้านบาท) พร้อมปักหมุดเริ่มก่อสร้างโครงการในปี 2568 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2571

ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก เป็นโครงการที่รังสรรค์ขึ้นจากความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างปอร์เช่ ดีไซน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบระดับโลก และอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นผู้นำที่อยู่อาศัยของคนเมือง มีความโดดเด่นในการออกแบบที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ และความใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งสองแบรนด์ได้ร่วมกันออกแบบและพัฒนาโครงการสุดหรูใจกลางเมืองที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งอนาคต โดดเด่นด้วยการออกแบบเหนือระดับและนำเสนอพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยอันแสนประณีตที่สามารถปรับแต่งให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว

นายลุทซ์ เมชเค รองประธานกรรมการบริหาร ปอร์เช่ เอจี กล่าวว่า “ผมตื่นเต้นอย่างยิ่งกับการเปิดตัวปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก ในวันนี้ นับเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์จากปอร์เช่ ดีไซน์แห่งที่สามของโลกและแห่งแรกในเอเชีย สถาปัตยกรรมชิ้นเอกสุดพิเศษแห่งนี้ถือเป็นโปรเจ็กต์สำคัญที่ตอกย้ำกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าผ่านการมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือระดับในทุกมิติ โครงการปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก นับเป็นก้าวสำคัญครั้งใหม่ของปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่น่าจับตามองและยังเป็นสถานที่ที่ได้รับเลือกให้จัดงานสำคัญมากมาย  ยกตัวอย่างเช่น งานเปิดตัวปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) รถ SUV ไฟฟ้าล้วน ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นการเผยโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา”

นายสเตฟาน บุชเชอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปอร์เช่ ไลฟ์สไตล์ กรุ๊ป ได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับโครงการนี้ว่า “เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ประกาศความร่วมมือกับอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทเราในการมุ่งสู่ความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง ขั้นตอนต่างๆ ในการรังสรรค์ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์   แบงคอก ได้ยึดตามปรัชญาการออกแบบของศาสตราจารย์ เอฟ. เอ. ปอร์เช่ ที่เน้น ‘การมอบประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด ในขณะที่ยังเก็บทุกรายละเอียดการออกแบบที่จำเป็นเอาไว้’ ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก สะท้อนการผสมผสานอันลงตัวระหว่างการออกแบบสุดประณีตและฟังก์ชันการใช้งานที่ดีเยี่ยม วิสัยทัศน์ของเราคือการสร้างสรรค์พื้นที่อยู่อาศัยที่พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนได้สนุกกับการไล่ตามแพสชัน ไปพร้อมๆ กับการสะท้อนถึงตัวตนได้อย่างแตกต่าง”

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เล่าถึงความร่วมมือร่วมกับปอร์เช่ในครั้งนี้อย่างตื่นเต้นว่า “ในนามของอนันดา ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับทีมปอร์เช่ ดีไซน์ ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อที่มีร่วมกันของบริษัททั้งสอง นั่นคือ แพสชันเป็นแหล่งจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และขับเคลื่อนให้เรามุ่งสู่ความเป็นเลิศในทุกๆ ด้าน ดังที่ปรากฏในแนวคิดของปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก ในวันนี้ เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าแพสชันที่ทั้งสองแบรนด์มีร่วมกัน เมื่อนำมาผสานกับความเป็นเลิศด้านการออกแบบระดับลักชัวรีของปอร์เช่ และความใส่ใจในทุกรายละเอียดด้านอสังหาริมทรัพย์ของอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ แล้ว จะนำไปสู่การสร้างสรรค์โปรเจ็กต์ที่พิเศษเหนือระดับอย่างแท้จริง”

จุดเด่นด้านสถาปัตยกรรม คุณลักษณะพิเศษ และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับลักชัวรี

ความพิเศษของปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก คือฟังก์ชันที่เรียกว่า ‘แพสชัน สเปซ’ (Passion Space – The Ultimate Luxury Garage) พื้นที่จอดรถส่วนตัวที่ออกแบบมาให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชื่นชมและอวดโฉมคอลเลกชันรถยนต์สุดหรู โดยโรงจอดรถพิเศษแห่งนี้ยังสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการเฉพาะบุคคล เพื่อมอบโลกแห่งความสุขส่วนตัวไว้สำหรับทำตามความฝันและความชื่นชอบได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยทำเลใจกลางมหานคร ‘แพสชัน สเปซ’ ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นพื้นที่จัดเก็บรถยนต์คันโปรดเท่านั้น แต่สามารถใช้เป็นสถานที่สำหรับการจัดงานสังสรรค์ และงานเอ็กซ์คลูซีฟในโอกาสต่างๆ อีกทั้งยังปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ไว้รองรับกิจกรรมที่หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วย

โครงการแห่งนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจมากมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘เดอะ ลูป’ (The Loop) ทางลาดที่ออกแบบเฉพาะสำหรับรถซูเปอร์คาร์ ตั้งอยู่ใจกลางอาคาร ที่เชื่อมสู่ ‘แพสชัน สเปซ’ โดยตรง อำนวยความสะดวกให้สามารถขับรถคู่ใจเข้าไปจอดได้อย่างง่ายดาย ส่วนด้านหน้าอาคารหรือฟาซาด (Façade)ในแต่ละห้องชุดของโครงการ Branded Residence แห่งนี้ ได้ติดตั้งผนังกระจกเปิดออกสู่ระเบียง เปิด-ปิดอัตโนมัติเพียงแค่กดปุ่มสวิตช์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกลไก ‘คิเนติก มูฟ’ (Kinetic Move) ของระบบหลังคาคิเนติกในรถยนต์ปอร์เช่ รุ่น 911 ทาร์กา (Porsche 911 Targa) และการใช้งานแบบไฮบริด ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถสลับใช้งานพื้นที่ภายนอกและภายในได้อย่างไม่มีสะดุด

ความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมอีกจุดที่น่าสนใจอยู่ที่ โครงสร้างของอาคาร ที่สะท้อนออกมาเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารที่เป็นเอกลักษณ์เรียกว่า ‘เอ็กซ์ เฟรม’ (X-Frame) ซึ่งถอดแบบดีไซน์มาจากแนวคิดของรถยนต์ต้นแบบปอร์เช่ มิชชั่น อาร์ (Porsche Mission R) เพื่อประสบการณ์การเข้าสู่บริเวณตัวอาคารอันเป็นเอกลักษณ์แบบเปิดโล่งไร้เสาอาคารกีดขวาง

นอกจากนี้ บริเวณด้านบนสุดของอาคารสูง 21 ชั้น ความสูง 95 เมตร นี้ยังประดับด้วย ‘เดอะ คราวน์’ (The Crown) ซึ่งเป็นการออกแบบบริเวณส่วนยอดอาคาร ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์ไฟของรถสปอร์ตปอร์เช่ พร้อมสร้างแลนด์มาร์กใหม่ให้กับน่านฟ้าของกรุงเทพมหานคร

ไม่เพียงเท่านั้น การตกแต่งภายในของโครงการแห่งนี้ยังใช้วัสดุชั้นเลิศและเฟอร์นิเจอร์หรูระดับเวิลด์คลาส เพื่อยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยให้เหนือชั้น โดยห้องครัวได้รับการออกแบบเป็นพิเศษด้วยแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีครัวสุดล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น ลิ้นชักและประตูตู้เก็บของควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า มอบโซลูชันการใช้งานแบบไร้สัมผัส เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ และหน้าบานครัวผลิตจากไม้คุณภาพสูงที่ทั้งทนทานและสวยงาม โครงการแห่งนี้ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศที่ทันสมัยที่สุด ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำปรับอุณหภูมิ ยาว 25 เมตร เพอร์ฟอร์มานซ์ฟิตเนสเซ็นเตอร์ สปา โซเชียลเลานจ์เพื่อการสังสรรค์และบิสเนสเลานจ์สำหรับการเจรจาทางธุรกิจ

โครงการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ บนทำเลระดับพรีเมียม

สุขุมวิท 38 ถือเป็นทำเลที่ทุกคนรู้จักดีในฐานะแหล่งรวมที่สุดของไลฟ์สไตล์แห่งความเหนือระดับ ด้วยที่ตั้งบนถนนสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ ทำให้โครงการแห่งนี้โดดเด่นด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางย่านทองหล่อที่คึกคักตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน โครงการปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอกจึงมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เปี่ยมด้วยความสงบและความเป็นส่วนตัว ในขณะเดียวกัน ยังสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารระดับไฮเอนด์  คาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง รวมถึงแหล่งกิจกรรมและงานอดิเรกสำหรับไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


แอชตันอโศก-อนันดาเฮ! กฤษฎีกาตีความไม่ต้องทุบตึก ขอใบอนุญาตใหม่ได้

ปิดฉากคดีมหากาพย์ แอชตันอโศก! ลูกบ้าน-อนันดาเฮ! กฤษฎีกาตีความชี้ไม่ต้องทุบตึกขอใบอนุญาตใหม่ได้ มีผลย้อนหลัง คาดว่าสามารถจบปัญหาได้ภายในปี2567

ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณี แอชตัน อโศก  ถือว่า จบแล้ว เพราะเริ่มกระบวนการแก้ไขเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการที่รฟม. นำเข้าครม.ใหม่และขอใบอนุญาตเข้าไปใหม่แล้วกทม.ก็อนุมัติก็จบแล้ว คาดว่าภายในปีนี้น่าจะจบ  เพราะมีความเห็นจาก คณะกรรมการกฤษฎีกาออกมารองรับแล้ว 

โดยก่อนหน้านี้ (วานนี้ 26 ส.ค.2567)ได้มีรายงานข่าวจาก สำนักข่าวอิศรา ว่า นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  ได้เผยความคืบหน้าการปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คดีโครงการแอชตัน อโศกว่า ตามที่ กทม.ได้มีหนังสือ ที่ กท.0907/1333 ลงวันที่ 10 เม.ย.2567 ถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอหารือแนวทางการปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดให้เพิกถอนใบรับแจ้งการก่อสร้าง คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบกลับมาแล้ว สรุปสาระสำคัญดังนี้
 

1.เรื่องการเพิกถอนใบรับแจ้งการก่อสร้าง กทม.จะต้องออกใบใหม่หรือไม่ คณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า เมื่อศาลมีคำสั่งเพิกถอนถือว่าคำสั่งออกใบอนุญาตเดิมสิ้นสุดลง ทำให้การโครงการแอชตันฯ ก่อสร้างโดยไม่มีใบอนุญาต กทม.มีหน้าที่ทำให้ชอบด้วยกฎหมาย ให้เอกชนยื่นคำขอใหม่อีกครั้งโดยให้มีผลย้อนหลังได้ ไม่ต้องรื้อหรือทุบ

2.การใช้อำนาจในการออกคำสั่ง ตามมาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปี 2522 ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร ผู้ควบคุมงาน ผู้ดําเนินการ ระงับการกระทําดังกล่าว หรือห้ามมิให้บุคคลใดใช้หรือเข้าไปในส่วนใดๆของอาคารแล้วแต่ละกรณี เห็นว่า กทม.ไม่จำเป็นต้องออกคำสั่งทำพร้อมกันในคราวเดียวกัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจตามความเหมาะสม และการออกคำสั่งเพื่อให้ดำเนินการแก้ไขอาคารให้ถูกต้องกับเจ้าอาคาร ได้แก่ เจ้าของห้องในอาคารชุดทุกห้อง และนิติบุคคลอาคารชุดเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขอาคาร

นอกจากนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ความเห็นกรณีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อนุญาตให้โครงการแอชตันฯ ใช้พื้นที่ตั้งสำนักงาน ถือว่าผิดวัตถุประสงค์การเวนคืนที่ดิน ภายหลังได้มีการรื้อถอนและใช้เป็นลานจอดรถของผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและประชาชนทั่วไป โดยเสียค่าบริการตามที่ รฟม. กำหนด รวมทั้งสามารถใช้ทางเข้าออกกว้าง 13 เมตร ถือว่า ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปไม่กระทบวัตถุประสงค์การเวนคืนที่ดิน ส่วนกรณี รฟม.รับค่าทดแทนจำนวน 97,671,707.45 บาท โดยเอกชนก่อสร้างอาคารจอดรถให้นั้น พบว่า รฟม.ไม่ได้เสนอ ครม.เห็นชอบเนื่องจากวงเงินเกิน 90 ล้านบาท อาจขอให้ ครม.เห็นชอบภายหลังได้

สำหรับขั้นตอนต่อไปคณะทำงานฯ โดยมีนายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานครเป็นประธาน จะนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานควบคุมอาคาร สำนักการโยธา สำนักงานเขตวัฒนา และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อกำหนดรายละเอียดการปฏิบัติตามคำสั่งศาลโดยยึดแนวทางที่ได้มีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้28ส.ค. “แข็งค่า” ที่ระดับ 33.93 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์ช่วงปลายเดือน โฟลว์ธุรกรรมซื้อน้ำมันดิบมองกรอบวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.85-34.10 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้28ส.ค. 2567 ที่ระดับ  33.93 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.07 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย แนวโน้มของค่าเงินบาท แม้ว่าในช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทจะพอได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ซึ่งหนุนให้ราคาทองคำสามารถปรับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้โซนแนวต้านระยะสั้น

ทว่า เรามองว่า การแข็งค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะรายงานผลประกอบการของ Nvidia รวมถึงรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ อย่าง อัตราเงินเฟ้อ PCE ทำให้เราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดอาจยังไม่รีบปรับสถานะถือครองสินทรัพย์ที่ชัดเจนมากนัก จนกว่าจะรับรู้ปัจจัยดังกล่าว

ซึ่งในส่วนของผลประกอบการของ Nvidia นั้น เรามองว่า มีความเสี่ยงพอสมควรที่ ราคาหุ้น Nvidia อาจปรับตัวลดลงได้ หากบริษัทไม่ได้ให้คาดการณ์ผลประกอบการในอนาคต (Earnings Guidance) ที่แข็งแกร่งอย่างที่ตลาดคาดหวัง

แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 จะโตได้ตามที่ตลาดคาดหวัง หรือ อาจจะดีกว่าคาดก็ตาม ซึ่งภาพดังกล่าวอาจกดดันบรรยากาศในตลาดการเงินได้ โดยเฉพาะในฝั่งเอเชีย ที่อาจเห็นแรงขายบรรดาหุ้นเทคฯ ธีม AI/Semiconductor ในวันพฤหัสฯ นี้

ส่วนปัจจัยหนุนเงินบาท อย่างราคาทองคำนั้น เรามองว่า ราคาทองคำยังขาดปัจจัยหนุนการปรับตัวขึ้นเพิ่มเติม ทำให้มีความเสี่ยงที่ราคาทองคำอาจมีจังหวะย่อตัวลงได้บ้าง จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ

อาทิ สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นและเสี่ยงบานปลายเป็นสงครามในภูมิภาค (ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่เห็นภาพดังกล่าว แต่เป็นความเสี่ยงที่ต้องจับตาในช่วงนี้)

อีกทั้งในช่วงปลายเดือน เรามองว่า เงินบาทจะยังคงเผชิญแรงกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนอยู่ นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น ก็อาจหนุนให้มีโฟลว์ธุรกรรมซื้อน้ำมันดิบเข้ามากดดันเงินบาทได้เช่นกัน ทำให้ การแข็งค่าของเงินบาทอาจจำกัดแถวโซนแนวรับ 33.75-33.80 บาทต่อดอลลาร์

ขณะที่การอ่อนค่าของเงินบาทนั้น ก็อาจมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จนกว่าตลาดจะรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ เดือนสิงหาคมในวันที่ 6 กันยายน นี้ ทำให้เงินบาทอาจติดอยู่แถวโซนแนวต้านแรกแถว 34.05-34.10 บาทต่อดอลลาร์ และจะมีโซนแนวต้านถัดไปแถว 34.20

เรายังคงมองว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด หรือ

การปรับสถานะถือครองเงินดอลลาร์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.85-34.10 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways ใกล้ระดับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนที่จะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องสู่โซน 33.90 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 33.89-34.14 บาทต่อดอลลาร์) ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดยังคงออกมาผสมผสาน

โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดย Conference Board ในเดือนสิงหาคม ที่แม้จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 103.3 จุด ดีกว่าคาดพอสมควร ทว่าในผู้บริโภคต่างกังวลต่อแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐฯ มากขึ้น จากรายงานข้อมูลการจ้างงานที่ชะลอตัวลงชัดเจนในเดือนกรกฎาคม

ซึ่งภาพดังกล่าวยังคงทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างเชื่อว่า เฟดยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ราว -100bps ในปีนี้ นอกจากนี้ เงินบาทยังได้อานิสงส์จากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำ (XAUUSD) ก็ปรับตัวขึ้นตามการปรับตัวลดลงของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ

บรรดาผู้เล่นในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติมมากนัก เพื่อรอลุ้นรายงานผลประกอบการของ Nvidia +1.5% ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันบ้างจากแรงขายทำกำไรบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ อาทิ Amazon -1.4% ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.16% 

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นราว +0.16% โดยตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุน จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร นำโดย Banco Santander +2.5% หลังประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนในมูลค่าราว 1.5 พันล้านยูโร อย่างไรก็ดี สถานการณ์การเมืองฝรั่งเศสที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ได้กดดันบรรดาหุ้นฝรั่งเศส อาทิ Hermes -2.7%, LVMH -1.8% และกดดันตลาดหุ้นยุโรปโดยรวม

ในส่วนตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีการปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 3.86% ก่อนที่จะพลิกกลับมาปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.82% หลังผู้เล่นในตลาดประเมินว่า รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดที่ออกมาผสมผสานนั้น อาจยังคงทำให้เฟดสามารถทยอยลดดอกเบี้ยราว -100bps

นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบในช่วงคืนที่ผ่านมา ก็มีส่วนหนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเช่นกัน ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงมีลักษณะแกว่งตัว sideways ในกรอบ

โดยผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตาปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ทั้งรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของเฟด

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าลง หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดที่ออกมาผสมผสาน ยังคงหนุนให้ผู้เล่นในตลาดต่างเชื่อว่า เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้ราว -100bps ในปีนี้

อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงที่อาจกดดันบรรยากาศในตลาดการเงินช่วงนี้ ทั้งรายงานผลประกอบการของ Nvidia และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 100.6 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 100.5-100.9 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ การปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ทยอยปรับตัวขึ้น สู่ระดับ 2,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา

สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานผลประกอบการของบริษัทเทคฯ ใหญ่สหรัฐฯ อย่าง Nvidia (ตลาดรับรู้ในช่วง After Market Close) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางของบรรดาหุ้นในธีม AI/Semiconductor และบรรยากาศในตลาดการเงินได้พอสมควร

เนื่องจากการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาหุ้น Nvidia ในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้ส่งผลให้ Nvidia มีน้ำหนักเกิน 6% บนดัชนี S&P500 นอกจากรายงานผลประกอบการของ Nvidia ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานยอดสต็อกน้ำมันโดย EIA ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบได้ในระยะสั้น

และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดและเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด และ BOE

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 33.94-33.96 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.45 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ประกอบกับทางการจีนประกาศอัตราอ้างอิงเงินหยวนในระดับที่แข็งค่ากว่าวันทำการก่อนหน้า

ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ขาดแรงหนุนใหม่ๆ และกลับมาอ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ เนื่องจากตลาดยังคงรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ PCE/Core PCE ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่เฟดติดตามซึ่งมีกำหนดจะรายงานออกมาในวันศุกร์นี้

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.85-34.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


วอลเลย์บอลชายไทย ย้ำแค้นอินโดนีเซีย ซิวแชมป์ซีวีลีก เลก 2

โดยในนัดสุดท้าย ของการแข่งขันสนามสอง ณ สนาม UNY Sport Complex เมืองยอกยาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อช่วงค่ำวัน 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ไทย เอาชนะ อินโดนีเซีย ทีมอันดับ 54 ของโลกและแชมป์ซีเกมส์ 12 สมัย ซึ่งรวมสามสมัยติดล่าสุด 3-1 เซตสุดมันส์ 25-20, 26-24, 22-25, 28-26

เซตที่สองถือว่าไทยเล่นได้ใจแฟนชาวไทยสุดๆ เพราะอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นแชมป์เก่าทั้งสองสนามในปีที่แล้ว มีโอกาสเอาชนะไทย หลังจากที่ขึ้นนำก่อน 24-21 ต้องการอีกแต้มเดียวจะปิดเซต แต่อินโดนีเซียทำไม่ได้ ไทยส่ง อมรเทพ คนหาญ ลงไปเสริมเกมรุก และอมรเทพทำ 3 คะแนนติด ช่วยไทยเซฟ 3 เซตพ๊อยส์ ไล่มาตีเสมอได้ 24-24 และไทยยังเดินหน้าต่อเก็บชัยไปได้ในที่สุด ในขณะที่เซตที่สามต้องยอมรับว่าอินโดนีเซียแก้เกมมาดีมาก และเอาชนะไทยไปได้ ซึ่งทำให้ไทยเสียเซตแรกในซีวีลีกปีนี้ และเซตที่สี่ต้องยอมใจทีมไทย ที่ไม่แผ่วปลาย เทหมดหน้าตักในช่วงปลายเซตจนเก็บชัยชนะมาได้แบบหืดขึ้นคอ ปิดสกอร์เอาชนะไป 3-1 เซต 

สรุปผลการแข่งขัน 

1 ไทย ชนะ 3 แพ้ 0 มี 9 คะแนน

2 อินโดนีเซีย ชนะ 2 แพ้ 1 มี 5 คะแนน (ชนะเวียดนาม 3-2)

3 ฟิลิปปินส์ ชนะ 1 แพ้ 2 มี 2 คะแนน (ชนะเวียดนาม 3-2)

4 เวียดนาม ชนะ 0 แพ้ 3 มี 2 คะแนน (แพ้อินโดนีเซีย 2-3 และแพ้ฟิลิปปินส์ 2-3

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


ทำไม “โรคมะเร็ง” รักษาไปแล้ว ถึงกลับมาใหม่

มะเร็ง เป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก แม้เทคโนโลยีการแพทย์จะก้าวหน้าขึ้นมาก แต่เราก็ยังคงพบเห็นผู้ป่วยมะเร็งที่กลับมาเป็นซ้ำหลังจากรักษาเสร็จสิ้น วันนี้ เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่า ทำไมมะเร็งรักษาไปแล้ว ถึงกลับมาใหม่? คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยปลดล็อคความกังวลใจของคุณ

สาเหตุของการกลับมาของมะเร็ง

  • เซลล์มะเร็งที่ยังคงอยู่

แม้การรักษาเช่นการผ่าตัด เคมีบำบัด หรือการฉายรังสีจะสามารถกำจัดมะเร็งได้มาก แต่ยังมีเซลล์มะเร็งเล็กๆ ที่ยังคงอยู่ในร่างกายและไม่สามารถตรวจพบได้ ซึ่งเซลล์เหล่านี้สามารถเจริญเติบโตและกลับมาเป็นมะเร็งใหม่ได้

  • การกระจายของเซลล์มะเร็ง (Metastasis)

เซลล์มะเร็งสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายผ่านระบบเลือดหรือระบบน้ำเหลือง การกระจายนี้อาจไม่สามารถตรวจพบได้ในช่วงการรักษาแรก แต่สามารถเจริญเติบโตและกลับมาเป็นมะเร็งในบริเวณใหม่ได้

  • การกลายพันธุ์ใหม่ (New Mutations)

เซลล์มะเร็งสามารถกลายพันธุ์และพัฒนาเป็นเซลล์ใหม่ที่ทนทานต่อการรักษาเดิมได้ เซลล์มะเร็งที่เกิดจากการกลายพันธุ์ใหม่นี้อาจกลับมาเป็นมะเร็งที่มีความรุนแรงมากขึ้น

  • การตอบสนองต่อการรักษา (Treatment Resistance)

เซลล์มะเร็งบางเซลล์อาจพัฒนากลไกที่ทำให้ดื้อต่อยาที่ใช้ในการรักษา เช่น การเพิ่มการผลิตโปรตีนที่สามารถกำจัดยาจากเซลล์ หรือการเปลี่ยนแปลงทางโมเลกุลที่ทำให้ยาไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • สถานะของระบบภูมิคุ้มกัน

ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอหรือไม่สามารถตรวจจับและทำลายเซลล์มะเร็งที่เหลืออยู่ได้ เซลล์มะเร็งสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับของระบบภูมิคุ้มกันและเจริญเติบโตใหม่

  • การมีปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งซ้ำ

ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่ได้รับการควบคุม เช่น การสูบบุหรี่ การบริโภคแอลกอฮอล์ การได้รับสารเคมีที่เป็นพิษ และการติดเชื้อไวรัสบางชนิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการกลับมาของมะเร็ง

การป้องกันและการเฝ้าระวัง

  • การติดตามผลหลังการรักษา: ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจและติดตามผลกับแพทย์อย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังการกลับมาของมะเร็ง ซึ่งปัจจุบันสามารถตรวจสารพันธุกรรมของมะเร็งในกระแสเลือดได้แล้ว
  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพการเลิกสูบบุหรี่ การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย และการควบคุมน้ำหนักสามารถลดความเสี่ยงในการกลับมาของมะเร็ง
  • การใช้ยาเพื่อลดความเสี่ยง: ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำการใช้ยาเพื่อลดความเสี่ยงในการกลับมาของมะเร็ง เช่น Tamoxifen ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชนิด ER-positive
  • การตรวจหาเชื้อไวรัสและการฉีดวัคซีน: การตรวจหาเชื้อไวรัสที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง เช่น HPV และการฉีดวัคซีนป้องกัน HPV สามารถลดความเสี่ยงในการกลับมาของมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับไวรัสเหล่านี้

การกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำนั้นเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลใจ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มะเร็งกลับมา คือ การหลงเหลือของเซลล์มะเร็ง และการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม เราสามารถป้องกันการกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำได้ ด้วยการพบแพทย์ตามนัด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

บทความโดย นายแพทย์ อัศวเดช แสนบัว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


60 คำคมภาษาอังกฤษคิดบวก คําคมชีวิต ภาษาอังกฤษ สั้นๆ น่าหยิบไปโพสต์

คำคมภาษาอังกฤษคิดบวก เกี่ยวกับการใช้ชีวิต

  • Change the world by being yourself.

เปลี่ยนโลกด้วยการเป็นตัวของตัวเอง

  • Every moment is a fresh beginning.

ทุกช่วงเวลาคือการเริ่มต้นใหม่

  • Never regret anything that made you smile.

อย่าเสียใจกับสิ่งที่ทำให้คุณยิ้ม

  • Aspire to inspire before we expire.

จงมีความปรารถนาที่จะสร้างแรงบันดาลใจก่อนที่เราจะหมดอายุขัย

  • Everything you can imagine is real.

ทุกสิ่งที่คุณสามารถจินตนาการได้มันก็เป็นความจริงได้

  • What we think, we become.

เราคิดยังไง เราก็จะกลายเป็นคนแบบนั้นแหละ

  • Nothing lasts forever but at least we got these memories.

ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป แต่อย่างน้อยเราก็มีความทรงจำเหล่านี้เก็บไว้

  • A happy soul is the best shield for a cruel world.

จิตวิญญาณที่มีความสุขเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับโลกที่โหดร้าย

  • Happiness depends upon ourselves.

ความสุขขึ้นอยู่กับตัวเราเอง

  • It hurt because it mattered.

ที่เรารู้สึกเจ็บก็เพราะมันสำคัญไงล่ะ

  • When you think positive, good things happen.

เมื่อคุณคิดบวก สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้น

  • One small positive thought can change your whole day.

ความคิดเชิงบวกเพียงเล็กน้อยสามารถเปลี่ยนทั้งวันของคุณได้

  • Believe you can and you’re halfway there.

แค่เชื่อว่าคุณทำได้ นั่นก็หมายความว่าคุณมาได้ครึ่งทางแล้ว

  • Turn every life situation into a positive one.

เปลี่ยนทุกสถานการณ์ในชีวิตให้เป็นบวก

  • If opportunity doesn’t knock, build a door.

หากโอกาสไม่มาเคาะประตู จงสร้างประตูขึ้นมาเอง

  • Stay positive. Better days are on their way.

คิดในแง่บวกไว้ วันที่ดีกว่ากำลังจะมาถึง

  • Whoever is happy will make others happy too.

ใครที่มีความสุขก็จะทำให้คนอื่นมีความสุขด้วย

  • Choose to be optimistic, it feels better.

เลือกที่จะมองโลกในแง่ดี ก็จะรู้สึกดีขึ้น

  • A problem is a chance for you to do your best.

ปัญหาคือโอกาสสำหรับคุณที่จะมันทำให้ดีที่สุด

  • When nothing goes right, go left.

เมื่อทุกอย่างมันผิดไปหมด ก็แค่เปลี่ยนเส้นทางเท่านั้นเอง

  • Keep calm and carry on.

ใจเย็นไว้และเดินหน้าต่อไป

  • Life would be tragic if it weren’t funny.

ชีวิตจะน่าเศร้าถ้ามันไม่ตลก

  • Don’t cry because it’s over, smile because it happened.

อย่าร้องไห้เพราะมันจบแล้ว แต่จงยิ้มเพราะสิ่งนั้นมันได้เกิดขึ้นแล้วจะดีกว่า

  • There are no mistakes, only opportunities.

ไม่มีคำว่าผิดพลาด ทุกอย่างล้วนแต่เป็นโอกาสเท่านั้นล่ะ

  • There are no regrets in life, just lessons.

ไม่มีความเสียใจในชีวิต มันเป็นเพียงบทเรียน

  • There’s no fear when you’re having fun.

ไม่มีอะไรต้องกลัว ถ้าคุณรู้สึกสนุกกับมัน

  • Enjoy life. There’s plenty of time to be dead.

ใช้ชีวิตให้สนุก มีเวลาเหลือเฟือที่จะตาย

  • Life is all about having a good time.

ชีวิตคือการมีช่วงเวลาที่ดี

  • Today was good. Today was fun. Tomorrow is another one.

วันนี้เป็นวันที่ดี วันนี้เป็นวันที่เราสนุกกับชีวิต และวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นอีกวันที่มีความสุขเช่นเดียวกัน

คำคมชีวิต คำคมภาษาอังกฤษ ชีวิตอิสระ สั้นๆ

  • Enjoy life despite its problems.

จงสนุกไปกับการใช้ชีวิตแม้จะมีปัญหาเข้ามาก็ตาม

  • Life is an adventure! So live it up!

ชีวิตคือการผจญภัย! ฉะนั้นใช้ชีวิตให้เต็มที่!

  • Slow down, take time to smile.

ใช้ชีวิตให้ช้าลง และใช้เวลานั้นยิ้มให้เยอะเข้าไว้

  • Make each day your masterpiece.

ทำให้แต่ละวันให้ดี เหมือนเป็นผลงานชิ้นเอกของคุณ

  • Life is worth living as long as there’s a laugh in it.

ยังมีค่าพอที่จะมีชีวิตอยู่ตราบใดที่เรายังมีเสียงหัวเราะ

  • Live each day as if your life had just begun.

ใช้ชีวิตในแต่ละวันให้เหมือนกับว่าชีวิตของคุณเพิ่งเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง

  • See the good in all things.

จงเห็นความดีในทุกสิ่ง

  • Happiness depends upon ourselves.

ความสุขขึ้นอยู่กับตัวเราเอง

  • Every wall is a door.

ทุกกำแพงมีประตูเสมอ ก็เหมือนกับอุปสรรคที่มักจะมีทางออกเช่นกัน

  • Don’t regret the past, just learn from it.

อย่าเสียใจกับอดีต แต่จงเรียนรู้จากมัน

  • Change has to come for life to struggle forward.

การเปลี่ยนแปลงต้องมาเพื่อให้ชีวิตต่อสู้ไปข้างหน้า

  • The purpose of our lives is to be happy.

เป้าหมายของชีวิตเราคือการมีความสุข

  • Life is ours to be spent, not to be saved.

ชีวิตเป็นของเราที่จะใช้มันอย่างไรก็ได้ ไม่ใช่การเก็บมันไว้

  • You become what you believe.

คุณจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเชื่อ

  • The purpose of our lives is to be happy.

เป้าหมายของชีวิตเราคือการมีความสุข

  • Be happy for this moment. This moment is your life.

จงมีความสุขในช่วงเวลานี้ ซึ่งขณะนี้คือชีวิตของคุณ

  • Life has no limitations, except the ones you make.

ชีวิตไม่มีข้อจำกัด ยกเว้นสิ่งที่คุณสร้างขึ้นมาเอง

  • Life’s too mysterious to take too serious.

ชีวิตมันลึกลับเกินกว่าจะจริงจังเกินไป

  • Slow down and savor your life.

ใช้ชีวิตให้ช้าลงและลิ้มรสชีวิตของคุณ

  • Surround yourself with positive people.

จงเอาตัวเองไปวนเวียนอยู่กับคนที่คิดบวก

  • Whatever you are, be a good one.

เป็นอะไรก็ได้ที่คุณอยากเป็น แค่เป็นคนดีก็พอ

  • Pain is inevitable. Suffering is optional.

ความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความทุกข์อยู่กับมันเป็นสิ่งที่คุณเลือกได้

  • Don’t count the days. Make the days count.

อย่ามัวแต่นั่งนับวันเวลาที่ผ่านไป แต่จงทำให้ทุกๆ วันที่ผ่านไปให้มีคุณค่า

  • Love all, trust a few, do wrong to none.

จงรักทุกคน เชื่อคนไม่กี่คน และไม่ทำผิดต่อใคร

  • Your past does not equal your future.

อดีตของคุณไม่เท่ากับอนาคตของคุณหรอก อย่าไปสนใจมันเลย

  • Once you choose hope, anything’s possible.

เมื่อคุณเลือกที่จะมีความหวัง ทุกอย่างก็เป็นไปได้

  • Life’s too mysterious to take too serious.

ชีวิตมันลึกลับเกินกว่าที่จะจริงจังกับมันเกินไป

  • Live as many lives as you can.

จงใช้ชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

  • Little things, make big days.

สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถสร้างวันที่ยิ่งใหญ่ได้

  • If opportunity doesn’t knock, build a door.

หากโอกาสไม่เกิดขึ้น ก็จงสร้างประตูเพื่อเข้าไปหาโอกาสด้วยตัวเอง

  • Life is an echo; we get what we give.

ชีวิตก็เหมือนเสียงสะท้อน เราให้อะไรไป เราก็ได้สิ่งนั้นกลับมานั่นล่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก women.trueid.net


จับตา ‘4 เทรนด์’ เทคโนฯเกิดใหม่ ขับเคลื่อนจุดเปลี่ยนโลกธุรกิจ

  • Generative AI ก้าวข้ามจุดพีคสุดของความคาดหวัง
  • 4 ธีมหลัก ที่กำลังเข้ามามีอิทธิพลต่อการลงทุนไอทีของภาคธุรกิจ ได้แก่ Autonomous AI, Developer Productivity, Total Experience, และ Human-Centric Security and Privacy Programs
  • แม้ AI จะยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ CIO และผู้บริหารไอทีควรต้องพิจารณาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับนักพัฒนา มีความปลอดภัย และมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ทั้งลูกค้าและพนักงาน

“การ์ทเนอร์” เปิดเทรนด์เทคโนโลยีเกิดใหม่ที่ควรจับตามองในปี 2567 “Hype Cycle for Emerging Technologies 2024”

4 ธีมหลัก ที่กำลังเข้ามามีอิทธิพลต่อการลงทุนไอทีของภาคธุรกิจ ได้แก่ Autonomous AI, Developer Productivity, Total Experience, และ Human-Centric Security and Privacy Programs

อรุณ จันทรเศกการัน รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ กล่าวว่า Generative AI ก้าวข้ามจุดพีคสุดของความคาดหวังที่จะโตขึ้นของเทคโนโลยีไปแล้ว ตามที่ธุรกิจเปลี่ยนการมุ่งเน้นจากโมเดลพื้นฐานไปสู่การสร้างยูสเคสการใช้งานที่ตอบโจทย์ ROI

สิ่งนี้กำลังเร่งให้ Autonomous AI ถูกนำไปใช้แพร่หลายมากขึ้น แม้โมเดล AI รุ่นปัจจุบันจะขาดแคลนหน่วยงานมาพัฒนาต่อยอด แต่ห้องปฏิบัติการวิจัย AI กำลังปล่อยตัวแทนที่สามารถโต้ตอบกับสภาพแวดล้อมแบบไดนามิกเพื่อบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าการพัฒนานี้จะเป็นกระบวนการแบบค่อยเป็นค่อยไปก็ตาม

4 เทคโนฯ ผู้บริหาร ‘ต้องรู้’

แม้ AI จะยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ผู้บริหาร CIO และผู้บริหารไอทีควรต้องพิจารณาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับนักพัฒนา มีความปลอดภัย และมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ทั้งลูกค้าและพนักงาน

พร้อมกำหนดกลยุทธ์ว่าควรใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างไรเพื่อให้สอดรับกับความสามารถองค์กรในการจัดการกับเทคโนโลยีที่ยังพิสูจน์ไม่ได้” จันทรเศกการัน กล่าวเพิ่มเติม

การ์ทเนอร์ รวบรวมเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่มีความน่าสนใจที่ผู้บริหารและอุตสาหกรรม “ต้องรู้” เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอีก 2-10 ปีข้างหน้านี้

ธีมที่ 1 Autonomous AI: วิวัฒนาการที่รวดเร็วของ AI กำลังสร้างระบบ Autonomous AI ที่สามารถทำงานและปรับปรุงได้ด้วยตัวเองโดยพึ่งพามนุษย์น้อยที่สุด และยังตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน ซึ่งระบบ AI ขั้นสูงที่สามารถทำงานแบบเดียวกับมนุษย์นั้นกำลังกลายเป็นจริง เทคโนโลยีเกิดใหม่ที่อยู่ในธีมนี้

ประกอบด้วย Multiagent Systems, Large Action Models, Machine Customers, Humanoid Working Robots, Autonomous Agents, และ Reinforcement Learning

ปฏิวัติวิธีการทำงานนักพัฒนา

ธีมที่ 2 Developer Productivity: ประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนาไม่ได้หมายถึงการเขียนโค้ดอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสื่อสารและการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ การรู้สึกถึงความตั้งใจในการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ และสนุกไปกับการทำงาน หรือที่เรียกว่าอยู่ในภาวะที่มีสมาธิการทำงานสูง (Flow State)

“เทคโนโลยีกำลังปฏิวัติวิธีที่นักพัฒนาใช้ออกแบบและส่งมอบซอฟต์แวร์ ซึ่งนอกจากทำให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลมากกว่าเดิม ยังช่วยให้พวกเขามั่นใจว่าสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุดในการทำงานร่วมกันที่ไหลลื่น”

สำหรับ เทคโนโลยีเกิดใหม่ที่ช่วยให้นักพัฒนาทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลและอยู่ในธีม Developer Productivity ประกอบด้วย AI-Augmented Software Engineering, Cloud-Native, GitOps, Internal Developer Portals, Prompt Engineering และ WebAssembly

ธีมที่ 3 Total Experience: ประสบการณ์เต็มรูปแบบ หรือ Total Experience เป็นกลยุทธ์ที่สร้างประสบการณ์ร่วมกันที่เหนือกว่าโดยผสมผสานประสบการณ์ลูกค้า ประสบการณ์พนักงาน รวมถึงประสบการณ์ที่หลากหลาย และประสบการณ์ที่เป็นแนวทางปฏิบัติของผู้ใช้งาน

กลยุทธ์นี้ใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการกับการโต้ตอบเป็นสำคัญ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทั้งลูกค้าและพนักงาน มีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นใจ ความพึงพอใจ ความภักดี และเพิ่มการสนับสนุนที่มากขึ้น ธีมนี้ ประกอบด้วย Digital Twin of a Customer, Spatial Computing, Superapps และ 6G

สร้างสมดุล ความปลอดภัย

ธีมที่ 4 Human-Centric Security and Privacy: องค์กรจะยืดหยุ่นมากขึ้นหากใช้เทคนิคด้านการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่สร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมถึงการตระหนักถึงความเสี่ยงร่วมกันระหว่างทีม

บ่อยครั้งที่แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยมักอาศัยหลักการที่ว่ามนุษย์สามารถประพฤติตนได้อย่างปลอดภัยและมั่นคง แต่เมื่อพนักงานต้องเลือกระหว่างความปลอดภัยและการให้บริการทางธุรกิจ พวกเขามักเลือกการให้บริการทางธุรกิจเสมอ

กระทั่งบางครั้งข้ามขั้นตอนการควบคุมความปลอดภัยที่เข้มงวด ซึ่งความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลางหรือ Human-Centric Security and Privacy ได้ผสานโครงสร้างความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอย่างแน่นหนาเข้าไว้กับการออกแบบดิจิทัลขององค์กร

เทคโนโลยีเกิดใหม่ที่อยู่ในธีมนี้ได้แก่ AI TRiSM, Cybersecurity Mesh Architecture, Digital Immune System, Disinformation Security, Federated Machine Learning and Homomorphic Encryption

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ประโยชน์ขององุ่น องุ่นแต่ละสีมีประโยชน์อย่างไร กินเยอะจะอ้วนไหม

องุ่น เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ และบางพันธ์จะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ดี ซึ่งหลายคนก็คงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าองุ่นมี 3 สีด้วยกัน แต่รู้ไหมว่าองุ่นแต่ละสีก็มีประโยชน์ที่แตกต่างกันไป โดยเราจะพาคุณไปทำความเข้าใจกับประโยชน์ขององุ่นทั้ง 3 สีดังนี้

ประโยชน์ขององุ่นแดง

องุ่นแดง นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องุ่นแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เรสเวราโทรล (Resveratrol) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบและชะลอความเสื่อมของเซลล์ เรามาดูประโยชน์ขององุ่นแดงว่ามีอะไรบ้างดังนี้

  • ช่วยป้องกันโรคหัวใจ เรสเวราโทรลในองุ่นแดง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต และป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด
  • ชะลอความแก่ สารต้านอนุมูลอิสระในองุ่นแดง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
  • บำรุงสมอง เรสเวราโทรลอาจช่วยเพิ่มการทำงานของสมอง ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์
  • ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง สารต้านอนุมูลอิสระในองุ่นแดง ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง
  • บำรุงสายตา องุ่นแดงอุดมไปด้วยเบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยบำรุงสายตา
  • ช่วยในการย่อยอาหาร ใยอาหารในองุ่นแดง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น

ประโยชน์ขององุ่นเขียว

องุ่นเขียว นอกจากจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ชื่นใจแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายหลายด้านเลยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องุ่นเขียวมีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดี เรามาดูประโยชน์ขององุ่นเขียวว่ามีอะไรบ้างดังนี้

  • ช่วยบำรุงสายตา องุ่นเขียวอุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคตาเสื่อม
  • ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในองุ่นเขียว ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
  • ช่วยระบบย่อยอาหาร ใยอาหารในองุ่นเขียว ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
  • ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน วิตามินซีในองุ่นเขียว ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
  • ให้พลังงาน องุ่นเขียวมีน้ำตาลธรรมชาติ ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงาน

ประโยชน์ขององุ่นดำ

องุ่นดำ เป็นองุ่นที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของการลดน้ำหนัก ซึ่งก็เหมาะกับคนที่มีรูปร่างอวบอ้วนและมีปัญหาไขมันในเส้นเลือดมากที่สุด โดยพบว่าการกินองุ่นดำวันละ 1 ครั้ง สามารถลดน้ำหนักได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แถมยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและมีแคลอรีต่ำมากอีกด้วย เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่อยากมีหุ่นสวย รูปร่างกระชับ ห้ามพลาดการทานองุ่นดำบ่อยๆ เลยเชียว  เรามาดูประโยชน์ขององุ่นดำว่ามีอะไรบ้างดังนี้

  • ช่วยป้องกันโรคหัวใจ เรสเวราโทรลในองุ่นดำ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต และป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด
  • ชะลอความแก่ สารต้านอนุมูลอิสระในองุ่นดำ ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
  • บำรุงสมอง เรสเวราโทรลอาจช่วยเพิ่มการทำงานของสมอง ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์
  • ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง สารต้านอนุมูลอิสระในองุ่นดำ ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง
  • บำรุงสายตา องุ่นดำอุดมไปด้วยเบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยบำรุงสายตา
  • ช่วยในการย่อยอาหาร ใยอาหารในองุ่นดำ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น

กินองุ่นแล้วจะอ้วนไหม?

คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับปริมาณที่รับประทาน องุ่นมีน้ำตาลอยู่บ้าง ดังนั้นถ้ารับประทานในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจทำให้อ้วนได้เหมือนกับการทานอาหารอื่นๆ ที่มีน้ำตาลสูง แต่ถ้าทานในปริมาณที่พอเหมาะ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักเพิ่มขึ้น

เคล็ดลับในการทานองุ่น

  • เลือกองุ่นที่สุกงอม จะได้รสชาติหวานอร่อย และมีสารอาหารครบถ้วน
  • ทานองุ่นเป็นผลไม้ แทนของหวานจำพวกขนม หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
  • ทานองุ่นเป็นอาหารว่าง ระหว่างมื้ออาหาร เพื่อเพิ่มพลังงาน
  • ทานองุ่นร่วมกับอาหารอื่นๆ เช่น สลัด ผลไม้รวม หรือโยเกิร์ต

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับประโยชน์ขององุ่นทั้ง 3 สี เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่อยากมีสุขภาพดีและมีหุ่นที่ผอมเพรียวดั่งใจ มาทานองุ่นเป็นประจำกันดูสิ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน โดยเฉพาะสำหรับใครที่มักจะง่วงนอนตอนช่วงบ่ายเป็นประจำ ลองจัดองุ่นมาทานเล่นสักจาน แล้วอาการง่วงนอนจะหายไปอย่างแน่นอน แถมยังรู้สึกกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้นอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 28/08/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a40,400.0040,500.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,617.0039,673.7241,000.00
ทองรูปพรรณ 90%2,355.3035,706.35n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,093.6031,738.98n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,178.0017,858.48n/a
ทองรูปพรรณ 40%916.0013,886.56n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,712.0041,113.92n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 28/08/2567


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9536.3536.3536.6536.3536.3536.3536.3536.3536.3536.35
แก๊สโซฮอล์ 9135.9835.9836.2835.9835.9835.9835.9835.9835.9835.98
แก๊สโซฮอล์ E2034.2434.2434.5434.2434.2434.2434.2434.2434.24
แก๊สโซฮอล์ E8533.9933.9933.99
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม44.9449.8449.8449.8444.94
เบนซิน 9544.2449.8144.7444.3944.24
ดีเซล32.9432.9433.2432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซลพรีเมี่ยม44.9447.1449.8447.1447.1444.94
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า