เอพีชูนวัตกรรมก่อสร้าง สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
เอพี ชูนวัตกรรมก่อสร้างคอนโดมิเนียม เผยนำนวัตกรรมจากพันธมิตรธุรกิจ มิตซูบิชิ แอสเตท จากญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ เตรียมใช้ห้องน้ำสำเร็จรูปในทุกโครง ช่วยลดเวลาก่อสร้าง 2-3 เดือน พร้อมเล็งใช้ผนังสำเร็จรูป S-Wall จากญี่ปุ่นติดตั้งในคอนโดฯทุกโครงการ
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัทเอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตลอดระยะเวลา 25 ปีของการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด”Think Differrent” เพื่อพัฒนาไปสู่”คุณภาพชีวิตที่ดี”ในทุกด้าน ทั้งด้านคุณภาพ การบริการ การอำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังได้นำโนฮาวน์นวัตกรรมใหม่ๆ ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจาก มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ซึ่งเป็นพันธมิตรธุรกิจมาใช้ เป็นกรอบแนวคิดหลักในการพัฒนาคอนโดมิเนียม ภายใต้คอนเซ็ปต์ ”AP Innovation for Quality Living” เป็นนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน
“เอพี และมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ได้ร่วมมือกันเป็นพันธมิตรต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 4 ซึ่งเป็นความร่วมมือโดยใช้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่นั่งยืนในการอยู่อาศัย ขณะเดียวกันยังได้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่ครอบคลุมการพัฒนาที่อยู่อาศัย การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างจริงจัง ซึ่งบริษัทได้นำหลากหลายแนวคิดจากประเทศญี่ปุ่นมาพัฒนาเป็นแนวทางที่จะนำไปสู่การสร้างสรรค์คุณภาพให้โครงการของบริษัท และพร้อมที่จะต่อยอดนวัตกรรมต่างๆผ่านการผสานความร่วมมือกับพันธมิตรรายอื่นๆเพื่อสร้างเครือข่ายเขื่อมโยงคุณภาพชีวิตให้เกิดขึ้นในสังคมเอพี”นายวิทการ กล่าว
สำหรับแนวคิด”AP Innovation for Quality Living”เป็นนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยบริษัทจะเริ่มต้นกับโครงการคอนโดมิเนียมที่มีแผนที่จะก่อสร้าวแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป
โดยก่อนหน้านี้ ได้นำแนวติดในการนำห้องน้ำสำเร็จรูป จาก มิตซูบิชิฯ มาใช้ติดตั้งห้องน้ำภายในโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัท โดยได้ร่วมกับบริษัทสยามสตีล ซึ่งมีความเชียวชาญในด้านนี้เป็นผู้ผลิตห้องน้ำสำเร็จรูปให้ รวมถึงการร่วมมือในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ในการผลิต สามารถปูด้วยกระเบื้องและให้ความรู้สึกเสมือนห้องน้ำที่ก่อสร้างแบบปกติแต่มีความแข็งแรงทนทาน ไม่รั่วซึม ติดตั้งเร็ว ทำให้สามารถลดระยะเวลาก่อสร้างไปได้กว่า 2-3 เดือน ปัจจุบันใช้ไปแล้ว 3-4 โครงการ โดยหลังจากนี้จะนำห้องน้ำสำเร็จรูปไปใช้ในทุกโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัท
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะนำผนังสำเร็จรูป S-Wall ซึ่งเป็นระบบนวัตกรรมผนังสำเร็จรูปแบบใหม่จากญี่ปุ่น ที่เบากว่าผนังคอนกรีตทั่วไปและมีความแข็งแรงกว่าอิฐมวลเบาทั่วไปมาใช้ในงานก่อสร้างอีกด้วย โดยเริ่มจากโครงการ ไลฟ์ ท่าพระ ซึ่งหลังจากนี้จะนำไปก่อสร้างในทุกโครงการเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ได้นำเทคโนโลยีจากอินเตอร์เน็ตหรือไอโอที เข้ามาช่วยคำนวณการก่อสร้างให้แม่นยำขึ้น และใช้นวัตกรรมความปลอดภัยและความสะดวกสบายตลอด 24 ชม. มาอำนวยความสะดวก เช่น นวัตกรรมรับส่งสินค้าผ่านตู้ฝากของอัจฉริยะหรือไอล็อกเกอร์ ที่ผู้ส่งและผู้รับสามารถเข้าถึงการใช้งานด้วยตนเองตลอดเวลา ปัจจุบันได้เริ่มติดตั้งแล้วในโครงการรึธึ่ม สุขุมวิท42 และมีแผนจะติดตั้งในทุกโครงการใหม่หรือการเปิดและปิดระบบไฟฟ้าในห้องพัก การจองใช้พื้นที่ส่วนกลาง การเชื่อมต่อระบบรักษาความปลอดภัย โดยจะถูกเชื่อมต่อผ่านเอพี แอพพลิเคชั่นทั้งหมด
” ในช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้มีการร่วมมือกับ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมา 4 ปีแล้ว โดยนำความรู้ด้านนวัตกรรมใหม่ๆมาประยุกต์ใช้ในโครงการ 11 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 50,800 ล้านบาท โดยในปีนี้มีแผนพัฒนาร่วมกัน 3 โครงการ ได้แก่ ไลฟ์ ลาดพร้าว โครงการ ไลฟ์ วัน ไวร์เลส และ โครงการ ไลฟ์ อโศก-พระราม 9 ”
อย่างไรก็ตาม ปี60 นี้ คาดการณ์ว่าจะมียอดขายรวม 32,000 ล้านบาท มากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 26,000 ล้านบาท โดยเติบโตจากคอนโดมีเนียมที่ลูกค้าให้การตอบรับดีมากทำให้ขณะนี้บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบแล้วที่ 28,300 ล้านบาท เติบโต109% .
ห้องน้ำสำเร็จรูปที่ เอพี นำมาติดตั้งในโครงการคอนโดมิเนียม
ห้องน้ำสำเร็จรูปในห้องตัวอย่างโครงการ Life One Wireless
https://mgronline.com
โปรเจกต์ร่วมทุน-บิ๊กอสังหาฯกว้านซื้อที่ดิน ดันราคาที่ดินในซีบีดี-คอนโดฯขยับสูงขึ้น
หลายฝ่ายประเมินอสังหาฯปี 2561 สดใส ภาคส่งออกดี ภาคการเกษตรเติบโต นายกสมาคมอาคารชุดไทย ชี้ ราคาที่ดินในซีบีดีถูกปั่นราคาแพงขึ้น หลังรายใหญ่และบริษัทร่วมทุน โหมโรงควักเงินซื้อที่ดินในเมือง ดันราคาขยับขึ้นไป 7-10% ทำให้ราคาห้องชุดในซีบีดีแพงขึ้นอีก 5-7% ด้านนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย คาดยอดเปิดโครงการพ.ย.ทะลัก จับตางานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 เงินสะพัดต่อเนื่องหลังงานถึง 12,000 ล้านบาท
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 ว่า ด้วยสภาพของการแข่งขันที่รุนแรง และมีผู้ประกอบการขนาดใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเงินทุนบริษัทอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่น ทำให้ต้องเร่งแผนพัฒนาโครงการที่วางไว้ และต้องพิจารณาเลือกซื้อที่ดินในทำเลศักยภาพอย่างเช่น ที่ดินในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ(ซีบีดี) เพื่อพัฒนาโครงการได้ตามเป้าหมาย ส่งผลให้ราคาที่ดินในซีบีดีเพิ่มขึ้น 7-10% และมีผลต่อราคาขายโครงการคอนโดมิเนียม คาดว่าในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5-7%
“ ปัจจุบันที่ดินในเมืองมีค่อนข้างจำกัด หากจะเป็นแปลงใหญ่ๆจะเป็นของหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นปล่อยเช่าระยะยาว ขณะเดียวกัน มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์สนใจที่จะเข้าร่วมพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย เนื่องจากเป็นแปลงใหญ่ ในส่วนของภาพรวมตลาดอสังหาฯในปีนี้ คาดว่าทั้งมูลค่าการโอนและจำนวนยูนิต จะเติบโตเฉลี่ย 10% ”
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวเชื่อว่า นับตั้งแต่เดือนพ.ย.เป็นต้นไป ผู้ประกอบการจะหันมาเปิดโครงการที่อยู่อาศัย แต่ตัวเลขโครงการไม่มาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่เอื้ออำนวย แต่คาดว่าภาพรวมการเติบโตอสังหาฯในปีนี้จะขยายตัวประมาณ 5% แม้จะเติบโตไม่สูง แต่หากรวมกับตลาดอาคารสำนักงานแล้ว ซึ่งในปีนี้และปีหน้าจะมีการลงทุนจำนวนมาก หากนับรวมเข้าไป จะทำให้ภาคอสังหาฯมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น สำหรับแนวโน้มในปี 2561 เศรษฐกิจน่าจะดี เนื่องจากภาคการส่งออกดีขึ้น ส่งผลถึงภาคการเกษตร ธุรกิจขนาดใหญ่น่จะดีขึ้น แต่รายเล็กจะค่อนข้างลำบาก
นายอธีป พีชานนท์ นายกสมาคมบ้านจัดสรร กล่าวคิดว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ไตรมาส 3 และต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 เริ่มมีสัญญาณในเชิงบวก เนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ามาสนับสนุน ทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ รวมถึงสภาพตลาดเริ่มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากมีสภาพคล่องจากต่างประเทศไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากกังวลว่าจะเป็นแค่ช่วงสั้น
“ มองว่า ในปีหน้า ภาคสถาบันการเงิน จะมีการขยับเพิ่มเป้าการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งตัวเลขยอดปฎิเสธสินเชื่อจะไม่สูง คาดจะปรับมาอยู่ระดับ 30% จากระดับ 40% อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า ตลาดอสังหาฯในกรุงเทพฯและปริมณฑล ยังไม่น่าเป็นห่วง แต่ในต่างจังหวัดคิดว่า คงต้องจับตาตลาดคอนโดมิเนียม เนื่องจากสภาพตลาดยังไม่เอื้ออำนวยและเป็นนิวส์โปรดักส์ ต่างกับโครงการแนวราบที่ยังเติบโตได้ เนื่องจากเป็นตลาดที่เป็นเรียวดีมานด์”
นายอดิเรก แสงใสแก้ว ประธานคณะกรรมการการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 กล่าวว่า ภาคอสังหาฯของไทยยังคงมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ในอัตราที่น่าพอใจในระดับ 5-10% เพราะในปีที่ผ่านมายังมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอยู่หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลจากเศรษฐกิจโลกในครึ่งปีหลังที่มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือและยุโรป ทำให้เศรษฐกิจและการค้าโลกขยายตัวเร่งขึ้น
ส่วนในประเทศไทย ภาครัฐได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการเร่งรัดเบิกจ่ายเงินงบ ประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 และงบเพิ่มเติม รวมไปถึงงบลงทุนรัฐวิสาหกิจมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องจากครึ่ ง ปีแรก ขณะที่การก่อสร้างภาครัฐก็กลับมาขยายตัวสูง ตามการเบิกจ่ายงบประมาณและโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่เดินหน้าดำเนินการต่อ เช่นเดียวกับภาคเอกชนที่ มีปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนเพิ่มขึ้น5.3% ในไตรมาสสอง และพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยกลับมาขยายตัว 16.7% ส่วนภาคการเงิน การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากธนาคารเริ่มผ่อนปรนเงื่อนไขการขอสินเชื่อด้านอัตราดอกเบี้ยนั้นก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ และคาดว่าจะคงอัตรา 1.50% จนถึงสิ้นปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อของประเทศที่ยังอยู่ในระดับต่ำ จึงมีส่วนช่วยในเรื่องของต้นทุนในการก่อสร้างและค่าเช่า”
โดยวานนี้ (5 ต.ค.) ทาง สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย โดย 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย ร่วมกันจัดงานและเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 ภายใต้คอนเซ็ปต์การจัดงาน “Living Solution มิติใหม่แห่งพื้นที่ ที่อยู่อาศัย” โดยมีมากกว่า 1,000 โครงการมาร่วมออกบูธ การจัดงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 ต.ค.นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเชื่อว่าจะมี ยอดคนเดินงานตลอดการจัดงาน 4 วันกว่า 100,000 คน และมียอดขายในงานมากกว่า 4,000 ล้านบาท และยอดขายต่อเนื่องตามหลังงานอีกอย่างน้อย 8,000 ล้านบาท รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท.
https://mgronline.com
ธนาคารโลก ชี้ เศรษฐกิจไทยปีนี้โตต่ำสุดในอาเซียน กัมพูชาพุ่งแรงสุด
ธนาคารโลก เผยรายงานภาวะเศรษฐกิจปี 2560 ประเมินเศรษฐกิจไทยเติบโต 3.5% ต่ำสุดเมื่อเทียบประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ฟากกัมพูชา มาแรง โตสูงสุด 6.8%
วันที่ 4 ตุลาคม 2560 ธนาคารโลก (World Bank) เปิดเผยรายงานเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ฉบับเดือนตุลาคม โดยระบุถึงอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า ในปีนี้ประเทศในอาเซียนจะมีจีดีพีเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 5.1% โดยกัมพูชาจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตสูงถึง 6.8% ตามมาด้วย สปป. ลาว ขยายตัว 6.7% ฟิลิปปินส์ 6.6% เมียนมาร์ 6.4% เวียดนาม 6.3% มาเลเซีย 5.2% และอินโดนีเซีย 5.1%
ขณะที่ประเทศไทย ธนาคารโลกได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในปี 2560 เป็น 3.5% จากเดิมคาดไว้ที่ 3.2% จากภาคการส่งออก และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้น ถึงกระนั้นตัวเลขดังกล่าวก็แสดงให้เห็นว่า ธนาคารโลกมองว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะยังคงเติบโตต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ซึ่งไม่รวมสิงคโปร์ เนื่องจากเป็นประเทศพัฒนาแล้ว
ในส่วนของภาพรวมเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกนั้น ธนาคารโลกมีมุมมองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการฟื้นตัวของสินค้าโภคภัณฑ์ จะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก โดยคาดว่าเศรษฐกิจภูมิภาคจะขยายตัวที่ 6.4% สูงขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะโต 6.2% แม้จะยังคงมีความเสี่ยงหลายประการจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจในประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศ ที่ไม่มีความแน่นอน รวมถึงความตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างประเทศทางที่เป็นปัจจัยกดการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค
https://money.kapook.com
ข้อควรรู้ของการชาร์จแบตบนมือถือทิ้งไว้ทั้งคืน ต้องอ่าน!
ถึงแม้จะมีคำยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านแบตเตอรี่มาแล้วหลายต่อหลายครั้งว่า การชาร์จสมาร์ทโฟนทิ้งไว้ทั้งคืน ไม่เป็นอันตรายและไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม แต่บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าว iPhone หรือมือถือ Android ลุกไหม้เพราะเสียบชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืน ซึ่งอันที่จริงแล้ว เหตุการณ์แบบนี้เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ยากมาก อีกทั้งยังมีวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้อีกด้วย
หลายท่านเกิดคำถามว่า สรุปแล้วการเสียบชาร์จมือถือทั้งคืน จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว แถมเสี่ยงต่อการทำให้ตัวเครื่องร้อนและเกิดประกายไฟจนทำให้ตัวเครื่องไหม้ ตามข่าวที่เคยตกเป็นกระแสกันโครม ๆ จริงหรือเปล่า ด้าน Kyle Wiens ประธานของ iFixit เว็บจอมแกะชิ้นส่วนมือถือ ได้ออกมายืนยันแล้วว่า การเสียบมือถือชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืน ไม่ส่งผลทำให้แบตเตอรี่เสื่อมแต่อย่างใด ซึ่งสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมนั้น ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และเรื่องของจำนวนรอบในการชาร์จ หรือ Cycle Count เสียมากกว่า
โดยทาง iFixit ได้อธิบายว่า ปกติแล้วสมาร์ทโฟนจะมีจำนวนรอบการชาร์จ อยู่ที่ประมาณ 400 รอบก่อนที่จะเสื่อมสภาพ ซึ่งจะมีอายุอยู่ที่ราว ๆ 1 ปีครึ่ง จากนั้นแบตเตอรี่ก็จะเก็บพลังงานได้น้อยลง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหากเราใช้ iPhone หรือมือถือ Android ไปแล้วประมาณปีกว่า ๆ แล้วเริ่มรู้สึกว่า แบตหมดไวกว่าเดิม เพราะนั่นคืออาการที่บ่งบอกว่า แบตกำลังเริ่มเสื่อม
สำหรับวิธีการคำนวณจำนวนรอบการชาร์จนั้น Apple เองก็เคยให้ข้อมูลในส่วนนี้เช่นกัน ซึ่งบน iPhone จะแบ่งการชาร์จออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ 0-80% จะเป็นการชาร์จแบบเร็ว แต่หลังจาก 80% จนถึง 100% จะเป็นการชาร์จแบบช้า ด้วยการผ่อนกระแสไฟฟ้าลงเพื่อช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่ ซึ่งการชาร์จ iPhone นั้น สามารถทำได้ตลอดเวลาโดยไม่จำเป็นต้องปล่อยให้แบตหมดก่อน ส่วน Cycle Count จะครบ 1 รอบก็ต่อเมื่อมีการใช้แบตเตอรี่ไป 100% ตัวอย่างเช่น วันแรกใช้แบตไป 75% แล้วนำไปชาร์จใหม่จนเต็ม วันถัดมาใช้ไปอีก 25% แบบนี้ถือว่า มีการคายประจุ (ใช้งาน) ไปครบ 100% ถือว่าเป็น 1 รอบการชาร์จ (จะชาร์จกี่ครั้งก็ได้ ขอให้ครบ 100% = 1 รอบการชาร์จ)
ส่วนเรื่องการชาร์จมือถือทิ้งไว้ตอนกลางคืน ทาง iFixit ยืนยันแล้วว่า ไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญนั่นก็คือ อุปกรณ์ที่ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ จะต้องเป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานจากผู้ผลิต ไม่ใช่ของปลอม หรือของลอกเลียนแบบ และไม่ควรวางมือถือขณะชาร์จบนเตียงนอน เพราะเสี่ยงต่อการที่จะถูกหมอน หรือผ้าห่มปกคลุม ทำให้ไม่มีอากาศถ่ายเท และเกิดความร้อนสะสม ควรจะวางบนหัวเตียง หรือโต๊ะข้างเตียงจะดีกว่า โดยอุปกรณ์ชาร์จแบตที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากจะส่งผลเสียต่อตัวสมาร์ทโฟนแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้ตัวเครื่องเกิดประกายไฟ และลุกไหม้อย่างที่เป็นข่าวได้
http://hitech.sanook.com
ไฟรั่ว ปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขทันที
ถ้าจะพูดถึงปัญหาใหญ่ที่สุด ร้ายแรงที่สุด ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับบ้านของตนเอง คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “ไฟไหม้” ไฟไหม้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่ยากต่อการระมัดระวัง ก็คือปัญหาไฟรั่ว เพราะเราอาจสังเกตได้ยาก หรือไม่ใส่ใจว่าอาจเกิดไฟรั่วได้ตลอดเวลา
เรื่องของไฟรั่วนั้น ทุกคนในครอบครัวควรให้ความสนใจ และระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะอาจเกิดอันตรายถึงขั้นไฟไหม้ หรือเสียชีวิตได้ แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าในบ้านของเรานั้น มีกระแสไฟฟ้ารั่วอยู่หรือไม่ เพราะไม่สิ่งที่สังเกตได้ง่ายด้วยตาเปล่า แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะคุณสามารถตรวจสอบว่าไฟรั่วหรือไม่ได้
ก่อนจะตรวจสอบนั้น ควรตั้งสติ และทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบนะคะ และที่สำคัญ ระวังอย่าให้เด็กเข้ามาเกี่ยวข้องในขณะทำการตรวจด้วยค่ะ
การตรวจสอบ และการสังเกตกระแสไฟฟ้าว่ารั่วหรือไม่ สามารถทำได้ดังนี้
1. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดในบ้าน โดยไม่ต้องดึงคัทเอาท์หรือเบรกเกอร์ลง จากนั้นให้ลองสังเกตที่มิเตอร์ของที่บ้านว่าแผ่นจานภายในมิเตอร์นั้นหมุนหรือไม่ ถ้าแผ่นจานภายในมิเตอร์ยังหมุนอยู่ ให้ลองเช็คอีกรอบว่าปิดไฟทุกดวงภายในบ้านแล้วหรือยัง แต่ถ้าตรวจสอบแล้วปรากฏว่าคุณปิดไฟทุกดวงแล้ว แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้น
2. อย่าวางใจแม้มิเตอร์จะหยุดหมุน คุณอาจลองจดหมายเลขมิเตอร์และจดจำตำแหน่งแผ่นหมุนว่าหยุดอยู่ในตำแหน่งใด จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วกลับมาเช็คอีกรอบ ถ้าทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมแสดงว่าไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้น
3. หากคุณไม่มั่นใจว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วที่เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใดในบ้านหรือเปล่า จะลองใช้ไขควงวัดไฟแตะไปที่เฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น หากมีแสงสีแดงปรากฏขึ้นที่ไขควง แสดงว่าเกิดไฟฟ้ารั่วจากเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้น
หากพบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่ว มีปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง ไฟฟ้าดับ ก็สามารถแจ้งสายด่วน 1129 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ตลอด 24 ชั่วโมงและที่สำคัญ ระหว่างที่รอช่างมาซ่อมแซมแก้ไข ก็ควรใช้ไฟอย่างระมัดระวัง หรือหยุดใช้หากไม่จำเป็น และควรแจ้งให้ช่างมาซ่อมในทันทีที่พบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่ว หรือสงสัยว่ามีความขัดข้องเกิดขึ้นนะคะ
http://บ้านน่ารู้.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 9/10/2560
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง
|
ราคารับซื้อต่อกรัม
|
ราคารับซื้อ/บาท
|
ราคาขายออก/บาท
|
ทองคำแท่ง 96.5% |
n/a |
20,200.00 |
20,300.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% |
1,308.00 |
19,829.28 |
20,800.00 |
ทองรูปพรรณ 90% |
1,177.20 |
17,846.35 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 50% |
589.00 |
8,929.24 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 40% |
458.00 |
6,943.28 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% |
1,355.00 |
20,541.80 |
n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 9/10/2560
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ปตท
PTT |
บางจาก
BCP |
เชลล์
Shell |
เอสโซ่
Esso |
คาลเท็กซ์
Caltex |
ไออาร์พีซี
IRPC |
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG |
ซัสโก้
Susco |
ระยองเพียว
Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers |
แก๊สโซฮอล 95 |
27.45 |
27.45 |
– |
27.45 |
27.45 |
27.45 |
27.45
|
27.45
|
27.45
|
27.45
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
24.94
|
24.94
|
24.94
|
24.94
|
24.94
|
– |
24.94
|
24.94
|
24.94
|
24.94
|
แก๊สโซฮอล E-85 |
20.24 |
20.44 |
– |
– |
– |
– |
– |
20.24 |
20.24 |
– |
แก๊สโซฮอล 91 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
เบนซิน 95 |
34.56 |
– |
– |
– |
35.01 |
– |
35.06 |
34.56 |
34.56 |
34.56 |
ดีเซลหมุนเร็ว |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม |
29.19 |
29.87 |
29.87 |
29.87 |
29.87 |
– |
– |
– |
– |
– |
มีผลตั้งแต่ |
05 Oct 05:00 |
05 Oct 05:00 |
05 Oct 05:00 |
05 Oct 05:00 |
05 Oct 05:00 |
05 Oct 05:00 |
05 Oct 05:00 |
05 Oct 05:00 |
05 Oct 05:00 |
05 Oct 05:00 |