สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 10 เมษายน 2561

อสังหาฯ 4.0 มาแรง! ชูไฮเทคสนองไลฟ์สไตล์ ‘กลุ่มเจนซี’ ทุกมิติ

นายกสมาคมการค้าอสังหาฯ ชี้! ลูกค้าปัจจุบันต้องการความสมบูรณ์แบบสูง เน้นเทคโนโลยีตอบรับไลฟ์สไตล์ ส่งผลตลาดแข่งขันสูง นอกจากผู้ประกอบการของไทยด้วยกันแล้ว ยังมีนักลงทุนข้ามชาติ ระบุ ห่วงรายเล็กไม่ปรับตัวอาจถูกกลืน ด้าน ดีดีพร็อพ เผย ฟังก์ชันดีกลายเป็นจุดเด่น

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ยุค 4.0 ถูกท้าทายกับการเข้ามาของเทคโนโลยี ที่มาพร้อมกับนักลงทุนข้ามชาติ ซึ่งเป็นผู้ซื้อและผู้พัฒนาอสังหาฯ เข้ามาแข่งขันในตลาดด้วย ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาฯ ของไทยต้องปรับตัว เพื่อให้เป็นไปตามกลไกตลาดโลก และสร้างสมดุล ต่อยอดธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

 

นายอภิชาติ ประสิทธิ์นฤทธิ์ นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์และพันธมิตร เปิดเผยว่า ปัจจุบัน เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการพัฒนาอสังหาฯ ในทุกมิติ ทั้งเทคโนโลยีเพื่อการวางแผนเตรียมที่ดิน, การออกแบบการก่อสร้าง, ฟังก์ชันการจัดการชีวิตความเป็นอยู่ของลูกบ้าน ซึ่งจะเริ่มเห็นการชูเทคโนโลยี หรือ ฟังก์ชันเพื่อที่อยู่อาศัย เป็นจุดเด่นให้กับโครงการ เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า นอกจากจะต้องแข่งกันเองแล้ว ความเป็น Global Market หรือ การตลาดระหว่างประเทศ กำลังมีอิทธิพลอย่างมากต่อกลุ่มลูกค้า มีการใช้เทคโนโลยีเป็นช่องทางการขาย หรือ ทำการตลาดกับลูกค้ากลุ่ม GEN C หรือ ผู้บริโภคยุคดิจิตอล ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้ถูกกำหนดด้วยช่วงวัย แต่พบว่า มีการตอบสนองต่อเทคโนโลยีสูง

ลูกค้ายุคนี้ เปรียบเป็น Fashionista Costume ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบมาก มากจนหากรอบไม่เจอ นี่คือ ความยากของอุตสาหกรรมอสังหาฯ ในเวลานี้ คนซื้อบ้าน หรือ คอนโดฯ เวลาตรวจรับ ไม่ได้ตรวจเอง จะจ้างคนที่มีความเชี่ยวชาญมาดูให้ ด้วยเครื่องมือที่มีความพร้อมกว่า เพื่อทำให้มั่นใจว่า เขาได้ของดีที่สุด ฉะนั้น รายเล็กรายน้อยถ้าไม่ปรับตัว สุดท้ายถูกรายใหญ่กลืนและหายไป” นายอภิชาติ กล่าว

กลุ่มที่น่าจับตามอง คือ โครงการมิกซ์ยูส หนึ่งทำเลแต่มีความหลากหลายของการใช้ชีวิต เป็นทั้งที่พักอาศัย ที่ทำงาน ดังนั้น ผู้พัฒนาอสังหาฯ จะต้องให้ความสำคัญ โดยเลือกใช้เทคโนโลยีนั้น ๆ ให้เหมาะสมกับโครงการและไม่ได้ขึ้นกับเงินทุนเพียงอย่างเดียว เนื่องจากหลาย ๆ โครงการ ก็พัฒนาฟังก์ชันเพื่อผู้อยู่อาศัยได้อย่างตรงจุด โดยไม่ได้ใช้เงินทุนมหาศาล ขณะเดียวกัน ฟังก์ชันที่ลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก ก็อาจไม่ตอบโจทย์ของลูกบ้านเช่นกัน โดยความเข้าใจของดีเวลอปเปอร์นั้นต้องมาเป็นอันดับแรก ก่อนหาข้อมูล และบริหารจัดการงบประมาณให้เหมาะสม

ด้าน นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ระบุว่า ปัจจุบัน มีคนออนไลน์ในเครือพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป 4 ประเทศ ถึง 25 ล้านคน คนไทยประมาณ 3.4 ล้านคน ที่เข้ามาอ่านข่าวสารและเลือกสรรอสังหาฯ โดยเฉพาะ สะท้อนว่า ลูกค้าในปัจจุบัน ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเดินเข้าโชว์รูมเพื่อพิจารณาโครงการอีกต่อไป เพราะสามารถดูจากออนไลน์ แม้กระทั่งคลิกดูแบรนด์และมูลค่าของเฟอร์นิเจอร์ ไม่ต่างจากการเปิดจองโครงการ ก็ทำผ่านออนไลน์เช่นกัน ส่วนการปรับตัวของผู้ประกอบการที่เห็นได้ชัด พบหลาย ๆ โครงการ มีการจ่ายแท็บเลตแก่ลูกบ้าน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสั่งการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ สั่งซื้อของจากภายนอก และส่งตรงถึงเมล์บ็อกซ์ของโครงการได้ในเวลาไม่นาน ทำให้แนวโน้มในอนาคตนั้น มองว่า แทบทุกบ้านจะมีเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นฟังก์ชันเสริมเข้ามา ซึ่งโครงการใดที่มีฟังก์ชันเสริมเข้ามา ซึ่งโครงการใดที่มีฟังก์ชันใหม่ ๆ แตกต่าง และตอบโจทย์การใช้งาน หรือ ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้นั้น นอกเหนือจากเรื่องของทำเลที่ตั้ง และการออกแบบ นับเป็นจุดขายในการแข่งขันในตลาดอีกทาง

“หากเป็นบริษัทใหญ่ การนำเทคโนโลยีมาใช้คงไม่ใช่เรื่องยาก เลือกสิ่งที่ต้องการและพาร์ตเนอร์กับบริษัทนั้น ๆ ได้ทันที ขณะที่ ผู้ประกอบการรายเล็กก็ไม่ได้เสียโอกาสซะทีเดียว เพราะพาร์ตเนอร์ที่เป็นกลุ่มสตาร์ตอัพก็พร้อมที่จะแชร์เทคโนโลยี เพื่อขยายฐานลูกค้าเช่นกัน ฉะนั้น เรื่องเงินทุนไม่จำเป็นเสมอไป” นางกมลภัทร กล่าว

http://www.thansettakij.com


ปล่อยผีที่ดินรกร้าง! เว้นภาษี 3 ปี 1.2 ล้านไร่ เอื้อบิ๊กทุนพัฒนา-ขาย

ที่ดินรกร้าง 1.2 ล้านไร่ทั่วไทย เฮลั่น กมธ. มีมติเอกฉันท์ ยกเว้นภาษี 3 ปี ปล่อยผีพัฒนา-ขาย จากเดิมเสียทันที เพดานไม่เกิน 3% ชี้กระตุ้นทำประโยชน์ดันท้องถิ่นมีรายได้เพิ่ม 25-30% หอการค้าฯ หวั่นซัพพลายล้น
 
แม้อัตราการเสียภาษีจะมีความชัดเจน แต่ในกรรมาธิการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. …. ยังถกเถียงกันว่า กิจการบางประเภทต้องทบทวนใหม่ เพื่อลดผลกระทบตามข้อเรียกร้องเอกชน โดยเฉพาะที่ดินรกร้างว่างเปล่า หากถือครองในนามบุคคลธรรมดาจะได้รับยกเว้น 3 ปี หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว กลุ่มที่รับมรดกและเกษตรกรที่ยังไม่มีแผนนำที่ดินออกพัฒนาจะต้องเสียภาษี บวกเพิ่มทุก 3 ปี 0.3% เพดานสูงสุดไม่เกิน 3%
พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. …. เปิดเผยกับว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2561 กมธ.วิสามัญ มีมติยกเว้นการเรียกเก็บภาษีที่ดินสำหรับที่ดินรกร้าง ซึ่งถือครองในนามบุคคลธรรมดาเป็นระยะเวลานาน 3 ปี หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบให้กับชาวบ้านทั่วไปที่ยังไม่มีแผนนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ เช่นเดียวกับ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่วนที่ดินรกร้างในรูปนิติบุคคล ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดเก็บตามอัตราปกติตั้งแต่ปีแรก คาดว่าภายใน 3 ปี ท้องถิ่นจะมีรายได้เพิ่ม 25-30% จากการนำที่ดินรกร้างมาพัฒนา อาทิ เกษตร ที่อยู่อาศัย ฯลฯ จากที่ดินรกร้าง 1.2 ล้านไร่ทั่วประเทศ
ที่ประชุมยังมอบให้คณะกรรมการ 4 ฝ่าย ประกอบด้วย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมธนารักษ์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกระทรวงเกษตรฯ สรุปข้อเรียกร้องของเอกชน ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีกฎหมายแต่ละกิจการควบคุมอยู่แล้ว อีกทั้งยังเสียภาษีทั้งเงินได้บุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล ให้กับกระทรวงการคลังทุกปี หากเก็บภาษีที่ดินเพิ่มอีกจะเกิดการซ้ำซ้อน
อาทิ สนามกอล์ฟ เนื่องจากมีกฎหมายกีฬาควบคุมให้ถือว่าเป็นเรื่องของกีฬา ได้รับยกเว้น แต่ภายในสนามกอล์ฟอาจมีคลับเฮาส์ บ้านพักอาศัย ซึ่งท้องถิ่นจะพิจารณาจัดเก็บภาษีแยกตามกฎหมายที่กำกับดูแล
แต่ กมธ. บางท่าน เห็นว่า ควรยกเว้นให้กับสนามกอล์ฟที่จดทะเบียนภายใต้การกำกับดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทยเท่านั้น ส่วนสนามเอกชนที่เรียกเก็บค่าสมาชิกควรเสียภาษีที่ดินในหมวดพาณิชย์
อย่างไรก็ดี ภาษีที่ดินจะเรียกเก็บเฉพาะที่ดินตามราคาประเมินของกรมธนารักษ์ ที่ปรับขึ้นเฉลี่ย 5-20% ทุก 4 ปี ส่วนตัวบ้านหากเป็นบ้านเก่าแก่อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป จะได้รับยกเว้น เพราะถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่เสื่อมสภาพ
สำหรับบ้านหลังแรก มี กมธ. ท่านหนึ่ง เสนอให้กลับไปยึดที่ราคา 50 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากกระทรวงการคลังผ่านการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนมาแล้ว รวมถึงการสำรวจปริมาณบ้านระดับราคาดังกล่าว ว่า มีกี่หลัง แต่ล่าสุด ยังไม่เป็นมติเอกฉันท์
ด้าน นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และในฐานะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นผลดีสำหรับบุคคลธรรมดา ซึ่งมีที่ดินแต่ไม่พัฒนา จะมีเวลาขายหรือทำประโยชน์ เข้าใจว่า การผ่อนผันครั้งนี้ ช่วยลดแรงกดดันจากรัฐบาล ซึ่งอาจหวังผลทางการเมืองในอนาคต แต่ระยะยาวเกรงว่า เจ้าของที่ดินจะนำที่ดินออกขาย หรือ การนำที่ดินออกมาทำการเกษตรเพิ่มซัพพลายในตลาดโดยไม่จำเป็น
นายอธิป กล่าวต่อว่า กรณีสนามกอล์ฟถือเป็นกีฬา ได้รับการยกเว้น เกรงจะกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่คลับเฮาส์ในสนามกอล์ฟต้องจ่ายอัตราพาณิชย์ ส่วนสวนสัตว์เอกชน หากมีพื้นที่ขายของก็อยู่ในข่ายพาณิชย์ กงสัตว์ ตัวสัตว์ ก็จะถูกกันออกไป ขึ้นกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

http://www.bkkcitismart.com


‘สคร.’ นำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจ 6 เดือนแรกทะลุเป้า 17.54%

“สคร.” จัดเก็บรายได้จากรัฐวิสาหกิจ 6 เดือนแรกอยู่ที่ 68,147.20 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 17.54 % ชี้ช่วยรักษาเสถียรภาพการคลัง

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (เดือนตุลาคม 2560 – เดือนมีนาคม 2561) สคร. จัดเก็บรายได้จากรัฐวิสาหกิจจำนวน 68,147.20 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายการจัดเก็บรายได้แผ่นดินสะสมจำนวน 10,168.85 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17.54 ของเป้าหมายรายได้แผ่นดินสะสม (57,978.35 ล้านบาท) ซึ่งมีส่วนช่วยรักษาเสถียรภาพการคลังของประเทศ

นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. ในฐานะโฆษก สคร. กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สะสมสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวสรุปว่า ในปีงบประมาณ 2561 สคร. ได้มีนโยบายสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานผ่านแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้รัฐวิสาหกิจมีผลประกอบการที่ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถนำส่งรายได้แผ่นดินเป็นไปตามเป้าหมายการจัดเก็บตามเอกสารงบประมาณ 2561 ที่กำหนดไว้จำนวน 137,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพการคลังของประเทศด้วย

http://www.bangkokbiznews.com


‘ฟูลเลอร์ตัน มาร์เก็ตส์’ คาดปีนี้ตราสารหนี้ไทยโดดเด่นหนุนเงินไหลเข้า

“ฟูลเลอร์ตัน มาร์เก็ตส์” คาดปีนี้ตราสารหนี้ไทยโดดเด่นหนุนเงินไหลเข้าต่อเนื่อง เหตุเศรษฐกิจไทยยังแกร่งแม้ตลาดหุ้นชะลอจากความกังวลการค้าจีน-สหรัฐ

มร.มาริโอ้ ซิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟูลเลอร์ตัน มาร์เก็ตส์ (ประเทศนิวซีแลนด์) ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก และผู้แต่งหนังสือ “สุดยอดความลับแห่งความสำเร็จของนักเทรดระดับโลก” หนังสือที่ได้รับการตอบรับจากนานาประเทศทั่วโลก เปิดเผยถึงบทวิเคราะห์ด้านการลงทุนในประเทศไทยว่าในปี 2561 ค่าเงินบาทของไทยน่าจะเป็นประเทศที่มีผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดในบรรดาสกุลเงินในเอเชีย เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีขนาดใหญ่และแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้จะขยายไปสู่ช่วงครึ่งแรกของปี 2561 เป็นอย่างน้อย หลังจากหลายปีของการเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ล้าหลังทางเศรษฐกิจ ในที่สุดก็คืนกลับมาสู่ความเจริญทางเศรษฐกิจในภูมิภาค เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของการค้าโลกและการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น ค่าเงินบาทยังไม่แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของเงินเฟ้อแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังคงรักษานโยบายไว้ในระดับต่ำ การเติบโตของการส่งออกของไทยมีความแข็งแกร่งซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิต อย่างไรก็ตามความต้องการภายในประเทศโดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังคงซบเซา สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้การค้าเกินดุลซึ่งมีส่วนทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

นอกจากนี้ ยังพบสัญญาณด้านเงินลงทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ประเทศไทยในปีนี้มีแนวโน้มไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาพบว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10ปี ของประเทศต่างๆทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จากทั้งหมด 15 ประเทศ มี 4 ประเทศผลตอบแทนนั้นดีที่สุด และประเทศไทยคือ 1 ใน 4 ของประเทศเหล่านั้น ทั้งนี้ปัจจัยที่สนับสนุนให้เงินทุนไหลสู่ตลาดตราสารหนี้นั้นส่วนหนึ่งมาจาก ธนาคารแห่งประเทศไทยคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้ไม่เปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ชะงักลงและดึงให้เศรษฐกิจของภาคการส่งออกชะลอตัว เราคาดว่าในปี 2561 นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลงเช่นเดิม ซึ่งการคงอัตราดอกเบี้ยไว้มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของไทย โดยในทางทฤษฎี ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ตัวอย่างเช่น ค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าร์เมื่อปี 2558-2559 เหตุผลหลักอย่างหนึ่ง เนื่องจากส่วนต่างของผลตอบแทนพันธบัตร จีน-สหรัฐ นั้นกว้างขึ้นในช่วงดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เราพบว่าส่วนต่างผลตอบแทนพันธบัตร ไทย-สหรัฐ นั้นกว้างขึ้นในขณะเดียวกันค่าเงินบาทกลับแข็งค่าขึ้น สิ่งนี้ดูแปลกมากและสวนทางกับทฤษฎีพื้นฐานที่ว่าหากส่วนต่างผลตอบแทนพันธบัตรกว้างขึ้นมันควรส่งผลด้านลบกับค่าเงินบาท ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น อาจเป็นไปได้ว่ามีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดตราสารหนี้และนั่นเป็นตัวสนับสนุนค่าเงินบาท

นอกจากนี้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ลอยตัวอยู่ในราวๆระดับสูงสุดของประวัติศาสตร์ ซึ่งนั่นบอกเป็นนัยๆว่ายังคงมีความต้องการอย่างสูงอันสอดคล้องกันของนักลงทุนชาวต่างชาติ ที่มีต่อสินทรัพย์อื่นๆในประเทศไทย เห็นได้จากการที่เงินจากต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยยังคงมีมาไม่ขาดสาย และการลงทุนต่างๆภายในประเทศเพื่อเข้าสู่ตลาดทุนของไทยจำนวนมากนั้นอาจเข้าไปยังตลาดตราสารหนี้ได้ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยเริ่มมีความเสี่ยงจากภาวะความตึงเครียดด้านการค้าจีน-สหรัฐ อันมาจากมาตรการภาษีของทรัมป์ ดังนั้นตลาดตราสารหนี้ของไทยถือได้ว่ายังคงอยู่ในจุดที่เป็นดาวเด่น เพราะจากข้อมูล ในไตรมาสแรกของปีนี้เงินที่ไหลออกจากหุ้นไทยนั้นมากเป็นอันดับสามของตลาดหลักในเอเชีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไหลออกเป็นจำนวน 95 ล้านเหรียญและจะแตะ 1.8 พันล้านเหรียญ อย่างไรก็ตาม เงินที่ไหลเข้าสู่ตราสารหนี้นั้นสูงมากเป็นอันดับสามของตลาดหลักๆในภูมิภาคเช่นกัน

มร. มาริโอ้ กล่าวอีกว่าคาดการณ์ว่าในปีนี้ธนาคารกลางทั่วโลก เตรียมพร้อมที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยให้เป็นปกติหลังจากที่คงไว้ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดแรงดึงดูดใจต่อนักลงทุนชาวต่างชาติเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ของไทย เพราะในส่วนหุ้นระดับภูมิภาครวมถึงหุ้นไทยนั้นยังคงพบว่ายังเป็นไปได้ยากที่ราคาจะดีดตัวกลับอย่างมีนัยยะสำคัญ ความไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีน กับ สหรัฐ ไม่เพียงแต่จะเพิ่มแรงถ่วงต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและกระตุ้นให้เงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย โดยคาดว่าปีนี้ตลาดหุ้นไทยจะยืนอยู่ในระดับ 1,650 จุด

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าเงินบาทนั้นคาดว่าจะเคลื่อนไหวที่ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เพราะสกุลเงินบาทยังเป็นสกุลที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ความเสี่ยงที่ต่ำ ประเทศไทยมีดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูง อีกทั้งการกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยอาจไม่เป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินค่าเงินบาท แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า แต่ยังมีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ที่เป็นตัวสนับสนุนค่าเงินบาท

http://www.bangkokbiznews.com


สืบทอดอาหารไทย ในงาน ‘สงกรานต์’ บานตะไท 2561

สืบทอดอาหารไทย ในงาน “สงกรานต์” บานตะไท 2561 ที่ทีเคพาร์ค 12-15 เม.ย.นี้

มาเริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยการกินดีอยู่ดี อุทยานการเรียนรู้ TK park ขวนชิมอาหารไทยหลายหลายท้องถิ่น พร้อมสาธิตการทำเสน่ห์จันทร์ ข้าวแคบ หมี่พัน และลาบ หากใครไม่ได้ไปเที่ยวไหน มาร่วมสืบทอดประเพณีปีใหม่ไทย ใจกลางเมืองกรุงเนื่องในวันสงกรานต์ ที่อุทยานการเรียนรู้ TK park ในวันที่ 12-15 เมษายน 2561 นี้

ภายในยังยังมีกิจกรรมสรงน้ำพระ ขอพรปีใหม่ไทย รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่สืบสานวัฒนธรรมไทย 4 ภาค พร้อมชมการสาธิตประดิษฐ์เครื่องแขวนมงคลประดับตกแต่งเทศกาลงานบุญ เพลิดเพลินกับการเรียนรู้วัฒนธรรมอันหลากหลายผ่านนิทรรศการ ประเพณีไทย เทศกาลปีใหม่ 4 ภาค ได้แก่ สงกรานต์ล้านนา “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง”, “บุญสรงน้ำ” ตรุษสงกรานต์เดือนห้า”,”ตรุษสงกรานต์” สนุกสนานสำราญใจ” และ “ส่งเจ้าเมืองเก่า – รับเจ้าเมืองใหม่”

ร่วมสืบสานประเพณีไทย.. ใครสวมชุดไทยมาร่วมงาน รับของที่ระลึกจากทีเคพาร์คกันเลย

วันพฤหัสบดีที่ 12 – วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน 2561 เวลา 11.00 – 17.00 น. ณ ลานสานฝัน อุทยานการเรียนรู้ TK park ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

7754220129372

 

http://www.bangkokbiznews.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 10/04/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,650.00 19,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,273.00 19,298.68 20,250.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,145.70 17,368.81 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 573.00 8,686.68 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 446.00 6,761.36 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,319.00 19,996.04 n/a
 
ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  10/04/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95
27.95
27.95
27.95
27.95
27.95
27.95
27.95
27.95
27.95
27.95
แก๊สโซฮอล E-20 25.44 25.44 25.44 25.44 25.44 25.44 25.44 25.44 25.44
แก๊สโซฮอล E-85 20.14 20.14 20.14 20.14
แก๊สโซฮอล 91 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68 27.68
เบนซิน 95 35.06 35.51 35.56 35.06 35.06 35.06
ดีเซลหมุนเร็ว 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29 27.29
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 30.29 30.29 30.29 30.29 30.29
มีผลตั้งแต่ 06 Apr 05:00 06 Apr 05:00 06 Apr 05:00 06 Apr 05:00 06 Apr 05:00 06 Apr 05:00 06 Apr 05:00 06 Apr 05:00 06 Apr 05:00 06 Apr 05:00

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า