สาระน่ารู้ประจำวันที่ 02 เมษายน 2567

อสังหาต่ำ3ล้านชลบุรี-ระยองส่อวิกฤติ‘ขาย30รอบ’แก้เกมดึงต่างชาติร่วมทุน

อสังหาต่ำ3ล้าน‘ชลบุรี-ระยอง’ส่อวิกฤติ!‘ขาย30รอบ’แก้เกมดึงต่างชาติร่วมทุน จีน รัสเซีย อิสราเอล อังกฤษนิยมพัฒนาคอนโดทำเลเขาพระตำหนัก จอมเทียน ทุนจีนสนใจพัฒนาพูลวิลล่าระดับราคา 10-15 ล้านในทำเลหนองปรือ บางละมุง บางชัน อำเภอเมืองรองรับดีมานด์บ้านหลังที่สอง

สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดเศรษฐกิจใหญ่ “ชลบุรี” และ “ระยอง” ขณะนี้ยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงรอบด้านทั้งเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลกชะลอตัว การยกเลิกมาตรการผ่อนปรน LTV ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงมีอัตราส่วนที่สูงกว่า 90% ของจีดีพี ส่งผลต่อความสามารถซื้อที่อยู่อาศัยและขอสินเชื่อลดลง เนื่องจากสถาบันการเงินมีเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อยอดการโอนกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะกลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ที่มีปัญหากำลังซื้อและกู้แบงก์ไม่ผ่านสูง!

วัฒนพล ผลชีวิน นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี กล่าวว่า 20 ปีที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์ในชลบุรีโตต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพของพื้นที่ มีสนามบิน  ท่าเรือ ตอบโจทย์นิคมอุตสาหกรรมที่ต้องการส่งออกทำให้มีจำนวนประชากรที่เป็นแรงงานเข้ามาจำนวนมาก ส่งผลต่อความต้องการที่อยู่อาศัย

“โครงการบ้านที่เปิดขายเขียนใบจองแทบไม่ทัน เคยขายได้วันเดียว 80 หลังแต่ปัจจุบันเดือนละ 8 หลังยังขายไม่ได้ และอนาคตจะไม่เกิดขึ้นแล้ว เพราะจำนวนคนที่เข้ามาทำงานในโรงงานลดลง ซึ่งในช่วงก่อนโควิด-19 อัตราการดูดซับเฉลี่ยโครงการ 8-10 ยูนิต ช่วงโควิดสะดุด 2 เดือน หลังจากนั้นยอดขายขึ้น เพราะคน Work From Home ค่อนข้างประหลาดใจว่าขายดี ซึ่งคนที่ขายดี คือ มีสินค้าสร้างเสร็จ โชคดีที่เรามีสต็อกในมือ แต่ปัจจุบันไม่ใช่ภาพแบบนั้นคนเข้ามาในโครงการบางตามาก”

ปัจจุบันกำลังซื้อคนไทยที่ต้องการที่อยู่อาศัยระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ยอดปฏิเสธสินเชื่อสูงมาก ยกตัวอย่างขาย 10 หลัง กู้ได้ 2 หลัง  บ้านบางหลังต้องวนขาย 7 รอบ!  ยกตัวอย่างเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โครงการบ้านระดับราคา 9 ล้านบาท ขายได้ 4 ยูนิต ขณะที่บ้านราคา 2-3 ล้านบาท ขายไม่ได้เลย สะท้อนการฟื้นตัวแบบ “K-Shaped” เช่นเดียวกับในกรุงเทพฯ ปีที่ผ่านมาบ้านราคา 20-30 ล้านบาทขายดี

สำหรับ ทิศทางตลาดอสังหาฯ ชลบุรี ปี 2567 ตลาดกลุ่มกลางบนยังเติบโตได้ดี ไม่มีปัญหาด้านสินเชื่อ ทำให้มีบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาทขึ้นไปเปิดตัวจำนวนมากเป็นบ้านกลุ่มผู้บริหาร ซึ่งเป็นบ้านแฝด บ้านเดี่ยว  ต่อไปที่ศรีราชา อำเภอเมือง บางละมุง สัตหีบ บางบึง ปัจจุบันตลาดที่ยังไปได้ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวจากเดิมขายทาวน์โฮมดีสุด แต่ตัวเลขเล็กสุด ส่วนบ้านเดี่ยวขายยูนิตน้อยกว่า แต่มูลค่ามากกว่า

อสังหาฯ ในชลบุรี ทำเลพัทยาดูดซับดีที่สุด ถัดมา พานทอง อำเภอเมือง ศรีราชา บางละมุง ปัจจุบันต่างชาติมาซื้อมากขึ้นทั้งคอนโดและแนวราบ ที่สำคัญมีโปรเจกต์เกิดใหม่ที่พัทยาเป็นบริษัทร่วมทุนต่างชาติไม่ว่าจะเป็นจีน รัสเซีย อิสราเอล อังกฤษ ส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดในทำเลเขาพระตำหนัก จอมเทียน

ส่วนโครงการแนวราบจะมีผู้ประกอบการจีนเข้ามาร่วมทุนพัฒนาพูลวิลล่า ระดับราคา 10-15 ล้านบาท ขายได้ดี ในทำเลฝั่งภูเขา ซอยอ่างเก็บน้ำชากนอก หนองปรือ บางละมุง บางชัน อำเภอเมือง รองรับดีมานด์ต่างชาติที่ต้องการบ้านหลังที่สอง

“ปีที่ผ่านมาตัวเลขการโอนคอนโดของชาวต่างชาติสูงสุด เป็นคนจีนที่ซื้อไว้ก่อนโควิด-19 แต่ปีนี้คอนโดเปิดใหม่มีจำนวนไม่มาก เน้นพัฒนาโครงการแนวราบขนาดเล็กมากกว่าส่วนใหญ่มีลูกค้าต่างชาติซื้อถูกต้องตามกฎหมาย”

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIC ระบุตัวเลขการโอนคอนโดชาวต่างชาติในชลบุรี ปี 2562 มีการโอน 4,500 หน่วย มูลค่า 11,600 ล้านบาท ปี 2566 โอน 5,900 หน่วย เพิ่มขึ้นก่อนโควิด 31% แบ่งเป็นชาวจีน 41% ชาวรัสเซีย 14 % และสหรัฐ 5% มูลค่ารวม 18,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นก่อนโควิด 57% 

ส่วน “ระยอง” ในปี 2562 มีการโอนของต่างชาติ 53 หน่วย มูลค่า 81 ล้านบาท ก่อนโควิด และหลังโควิดในปี 2566 มีการโอนต่างชาติจำนวน 102 หน่วย มูลค่า 175 ล้านบาท

ทายาท กาญจนะจิตรา นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ระยอง กล่าวว่า ดีมานด์ตลาดที่อยู่อาศัยในระยองส่วนใหญ่เป็นแรงงานไทยที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรม  คนต่างชาติเข้ามาน้อย ยกเว้นทำเลบางเพ ที่มีสแกนดิเนเวียเข้ามาจำนวนไม่มาก ปัจจุบันทำเลบ้านค่ายได้รับความนิยมสูงสุดในการเข้ามาพัฒนาโครงการของดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ “1ใน5” ของประเทศจะไปขยายโครงการ เนื่องจากราคาที่ดินยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับนิคมอุตสาหกรรมอื่นเพราะเป็นท้องนา จึงเริ่มเข้ามาพัฒนาเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต รวมถึงกลุ่มทุนจีนที่เข้ามาลงทุนพัฒนาในนิคมบ้านค่ายบนพื้นที่ 3,000 ไร่

“ปัจจุบันระยองแบ่งเซ็กเตอร์ตลาดตามทำเลระดับราคา 1-2 ล้านบาท อยู่แถวโป่งแดงที่ติดกับบ่อวิน กำลังซื้อกลุ่มนี้ชะลอตัวลงชัดเจน รีเจกต์เรตสูงต้องเวียนขาย 20-30 รอบ ดีเวลลอปเปอร์ที่ทำตลาดนี้เหนื่อยเพราะกลุ่มคนซื้อมีปัญหาวินัยในการใช้เงิน”

สำหรับทำเลพื้นที่ติดกับสัตหีบ คือ บ้านฉาง เป็นโครงการระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายไปได้ดี ส่วนใหญ่ระดับราคา  3-5 ล้านบาท เป็นกลุ่มคนซื้อระดับกลางขึ้นไป ส่วนระดับล่างค่อนข้างยาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยสูงราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทตลาดเงียบมาก

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


5 แนวทางพัฒนาโครงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

“แอล ดับเบิลยู เอส” แนะ 5 แนวทางในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้สภาวะที่เผชิญกับภาวะโลกร้อนในปัจจุบันและอนาคต

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล พี เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ให้ความเห็นถึงแนวทางการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งโครงการประเภทที่อยู่อาศัยและอาคารในเชิงพาณิชย์ ภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อน(Global Warming) ที่ทำให้สภาพอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลง (Climate Change) เป็นภาวะที่ทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น

 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อวิถีชีวิตและการอยู่อาศัยของผู้คนในสังคม บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในฐานะผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยและอาคารประเภทต่างๆ เพื่อการใช้งานของผู้คนในสังคมจำเป็นที่จะต้องปรับกลยุทธ์และแนวทางในการพัฒนาโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

โดยแนวทางในการพัฒนาโครงการเพื่อให้ตอบโจทย์กับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันและอนาคตประกอบด้วย 5 แนวทางหลักได้แก่

1.การประเมินความเสี่ยงของโครงการที่จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม 

ผู้ประกอบการอสังหาฯ ควรทำการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับโครงการที่จะพัฒนาโดยสามารถใช้เครื่องมือหรือมาตรฐานต่างๆ เพื่อช่วยในการประเมินความเสี่ยง เช่น การใช้มาตรฐานการจัดการความเสี่ยง ISO 31000 ช่วยในการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ และผลที่ตามมาจากภัยพิบัติต่างๆ เช่น พายุ คลื่นความร้อน ภัยแล้ง ไฟป่า นอกจากนี้ยังสามารถพิจารณาจากสถานที่ตั้ง การออกแบบ อายุการใช้งานของอาคาร ตลอดจนความต้องการของผู้ใช้งานอาคารได้ด้วย

2.กำหนดมาตรการการลดทอนผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ (Mitigation)  
ผู้ประกอบการสามารถที่จะพัฒนาโครงการโดยใช้มาตรการที่บรรเทาหรือลดการผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยแนวทางในการพัฒนาอาคารภายใต้แนวคิดอาคารประหยัดพลังงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอาคาร รวมไปถึงบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรภายในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่อจากปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น โดยแนวทางในการทำงานประกอบด้วย 

2.1    กำหนดเป้าหมายและดำเนินการลดการใช้พลังงานและน้ำภายในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานและการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพสามารถลดปริมาณการใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการปรับปรุงระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ และระบบการระบายอากาศ สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ ที่ใช้พลังงานและน้ำต่ำ
2.2    กำหนดแผนการตรวจสอบการใช้พลังงานอาคาร ปรับปรุง และซ่อมบำรุงรักษาระบบอย่างสม่ำเสมอ 
2.3    เลือกใช้พลังงานทดแทน เพื่อส่งเสริมการลดการใช้พลังงานอาคาร
2.4    กำหนดมาตรการบริหารจัดการขยะภายในโครงการเพื่อลดการนำออกของขยะ ซึ่งทำให้เกิดการใช้พลังงานความร้อนในการย่อยสลายขยะ และลดการฝังกลบของขยะชุมชนเมือง
2.5    กำหนดมาตราการรับมือภัยพิบัติ เช่น การเกิดน้ำท่วม ภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำใช้  

3.กำหนดมาตรการในการพัฒนาโครงการให้สามารถอยู่ในสภาวะที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงได้ภายใต้แนวคิดของการออกแบบอาคารแบบอาคารเขียว (Green Building) ซึ่งมีแนวทางในการออกแบบดังต่อไปนี้ 
3.1     การออกแบบและพัฒนาโครงการ โดยออกแบบผังอาคาร กรอบอาคาร ระบบประกอบอาคารอาคาร และเลือกใช้วัสดุทดแทน ที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้อาคารสามารถปรับตัวตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปได้
3.2    การลงทุนใช้เทคโนโลยีอาคารที่ส่งเสริมให้การบริหารอาคารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การออกแบบอาคารอัจฉริยะการติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดปริมาณการระบายอากาศ หรือคุณภาพอากาศ เป็นต้น 
3.3    การออกแบบผังรวมโครงการ เพื่อลดการเกิดเกาะความร้อนในเมือง เพิ่มพื้นที่สีเขียว และเลือกใช้วัสดุปูพื้นดาดแข็งที่ไม่สะสมความร้อน
3.4    การออกแบบส่วนกลางที่ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะและพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โครงการควรมีการออกแบบทางเท้าเพื่อส่งเสริมการเดินเท้า ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะและเลือกใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น การอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีจุดจอดรถยนต์ ECO รถยนต์ไฟฟ้า โดยจัดพื้นที่จอดรถไว้ใกล้กับทางเข้าออกอาคารและมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ชาร์ตไฟฟ้า การจัดให้มีพื้นที่จอดจักรยาน และห้องอาบน้ำ การจัดให้มีรถยนต์รับส่งจากขนส่งสาธารณะมายังโครงการ

4.สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ ลูกค้า และคู่ค้า เพื่อกำหนดเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

การวางแผนบริหารจัดการอาคารจะไม่มีทางสำเร็จเลยหากปราศจากความร่วมมือจากผู้ใช้งานภายในโครงการ ทั้งเจ้าของโครงการ ผู้เช่า เจ้าหน้าที่ หรือแม้กระทั้งชุมชนโดยรอบโครงการ ซึ่งผู้บริหารจัดการโครงการจะต้องสร้างเครือข่ายให้เกิดการทำงานร่วมกัน ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีความเข้าใจและเห็นความสำคัญของมาตรการต่างๆของโครงการ เช่น การส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้มีการแยกขยะภายในโครงการ การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับความยั่งยืน

5.เรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 
ในท้ายที่สุดนี้ โครงการจะต้องมีการติดตามผลการดำเนินการ การประเมินผล ซึ่งผู้บริหารจัดการอาคารต้องศึกษาหาความรู้โดยอาจดูจากแนวโน้มต่างๆ งานวิจัย การติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศ รวมถึงการสำรวจความเห็นผลดำเนินการจากทุกภาคส่วนทั้งผู้เช่า เจ้าหน้าที่ และพนักงาน เพื่อใช้ในการปรับปรุงมาตรการให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้น

จากผลการศึกษาของ Global Climate Risk จาก Germanwatch ระบุว่าประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 9 ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติมากที่สุดจากภาวะโลกร้อน และหากอุณหภูมิยังสูงขึ้นแบบนี้ต่อไป ภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ.2050) กรุงเทพมหานครทั้งเมืองอาจจะเกิดน้ำท่วมถาวรจากการที่ระดับน้ำทะเลสูงตัวขึ้นเอ่อล้นเข้าสู่ตัวเมืองจากชายฝั่ง จากผลการศึกษาดังกล่าว จำเป็นที่ประเทศไทยต้องมีแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในฐานะที่เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมที่สำคัญในการพัฒนาเมืองจากแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งจากรายงานล่าสุดของกระทรวงพลังงานพบว่า ปี พ.ศ.2566 การใช้พลังงานไฟฟ้าในภาคพาณิชยกรรม และที่พักอาศัยมีการใช้พลังงานไฟฟ้ารวมกันสูงถึง 50.6% ของการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งประเทศ ดังนั้นการพัฒนาอาคารทั้งอาคารในเชิงพาณิชย์และอาคารที่อยู่อาศัยให้สามารถประหยัดพลังงานได้จะเป็นประโยชน์และมีส่วนช่วยในการลดภาวะโลกร้อนได้


“ภาวะโลกร้อนไม่ใช่เรื่องไกลตัว เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องตระหนักถึงปัญหาและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ผู้ประกอบการอสังหาฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาคสังคมที่สามารถจะเข้ามามีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหานี้ได้ การปรับกลยุทธ์และแนวทางในการพัฒนาโครงการโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมโดยการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อสร้างอาคารและที่อยู่อาศัยที่ประหยัดพลังงานจึงเป็นแนวทางสำหรับผู้ประกอบการอสังหาฯ ในการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิดที่รับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 2เม.ย.”อ่อนค่าลงหนัก” ที่ระดับ 36.60 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทยังมีผันผวนอ่อนค่าต่อ ไฮไลท์สำคัญวันนี้จับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ เงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนจากภาวะระมัดระวังตัวของผู้เล่นในตลาด

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 2เม.ย. 2567 ที่ระดับ  36.60 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.43 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน   พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท การอ่อนค่าเร็วและแรงของเงินบาทนั้น มีโอกาสที่จะชะลอลงบ้าง เนื่องจากโซนแนวต้าน 36.60 บาทต่อดอลลาร์นั้น อาจยังคงเห็นโฟลว์ธุรกรรมขายเงินดอลลาร์จากบรรดาผู้เล่นในตลาดอยู่พอสมควร อีกทั้งในเชิงเทคนิคัล เมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของเงินบาท รายชั่วโมง เรามองว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าอาจชะลอลงบ้างจากสัญญาณ Bearish Divergence

 ทว่า เมื่อประเมินจากภาพการเคลื่อนไหวของเงินบาทรายวัน ต้องยอมรับว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นยังมีอยู่ ทำให้หากเงินบาทอ่อนค่าทะลุโซน 36.60 บาทต่อดอลลาร์ ได้ชัดเจน ก็อาจผันผวนอ่อนค่าต่อทดสอบโซน 36.80 บาทต่อดอลลาร์ ได้ ทั้งนี้ เรามองว่า การอ่อนค่าต่อของเงินบาทสู่ระดับดังกล่าว อาจต้องอาศัย รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดชัดเจน หรือ ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ส่วนใหญ่ต้องมีทิศทางเดียวกัน ว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยน้อยกว่า 3 ครั้ง (ที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด)

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนของตลาดค่าเงินในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยุโรป (อัตราเงินเฟ้อเยอรมนี) ในช่วง 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของเงินยูโร (EUR) และเงินดอลลาร์ได้

โดยหากอัตราเงินเฟ้อเงินเยอรมนีชะลอลงมากกว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งมั่นใจว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจลดดอกเบี้ยได้แน่นอนในช่วงไตรมาสที่ 2 ซึ่งอาจเป็นการลดดอกเบี้ยเร็วกว่าเฟด ส่งผลให้ เงินยูโรมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลงได้ ในกรณีดังกล่าว

ถัดมา ควรระวังช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ตั้งแต่ ช่วง 21.00 น. เป็นต้นไป โดยต้องระวังถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ที่ย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย หรือ ลดดอกเบี้ยน้อยกว่า 3 ครั้ง ซึ่งจะยิ่งหนุนให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น กดดันให้เงินบาทเสี่ยงอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้านถัดไปที่เราประเมินไว้ได้

อนึ่ง เรามองว่า หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ไม่ได้ทำให้ ตลาดเชื่อว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่า 3 ครั้ง ก็จะยังไม่กดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าไปมาก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่อาจต้องการรอจับตารายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ก่อนที่จะปรับสถานะถือครองที่ชัดเจนต่อไป

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.45-36.70 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 36.40-36.60 บาทต่อดอลลาร์) ตามการพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น “เร็วและแรง” ของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังรายงานดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตในเดือนมีนาคม ออกมาดีกว่าคาด

สะท้อนว่าภาคการผลิตสหรัฐฯ พลิกกลับมาขยายตัวในอัตราเร่งขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงกังวลว่า เฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ย หรือ อาจลดดอกเบี้ยน้อยกว่า 3 ครั้ง ในปีนี้ นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม จากโฟลว์ธุรกรรมทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงตามการปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทเริ่มชะลอลงบ้างในช่วงโซนแนวต้าน 36.60 บาทต่อดอลลาร์ จากแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาดบางส่วน และการรีบาวด์ขึ้นกว่า +20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ของราคาทองคำ ซึ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำบ้าง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาเปิดตลาดหลังวันหยุดเทศกาล Easter ด้วยบรรยากาศระมัดระวังตัว ท่ามกลางความกังวลว่าเฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยหรือลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงออกมาสดใส อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังพอได้แรงหนุนจากบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ อาทิ Alphabet +3.0% ทำให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวขึ้น +0.11% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาดราว -0.20%

ในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 4.30% หลังผู้เล่นในตลาดต่างกังวลว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาสดใส สอดคล้องกับ มุมมองของเราที่ให้ระวังความผันผวนของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่อาจปรับตัวขึ้นได้ จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด

อย่างไรก็ดี มุมมองระยะยาวของเราต่อแนวโน้มบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เราคงประเมินว่า บอนด์ระยะยาว อย่าง บอนด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะในจังหวะที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงกว่าระดับ 4.20% (Risk-Reward มีความคุ้มค่า)

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนจากภาวะระมัดระวังตัวของผู้เล่นในตลาด ส่งผลให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 105 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 104.5-105 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ การปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย.) ปรับตัวลดลงแรงสู่โซนแนวรับ 2,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะรีบาวด์ขึ้นสู่โซน 2,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามแรงซื้อ Buy on Dip ของผู้เล่นในตลาด ท่ามกลางความหวังของผู้เล่นในตลาดที่ยังประเมินว่า ราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้

 สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด คือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ อย่าง ยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (Job Openings) ที่จะช่วยสะท้อนภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ ได้

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งจะมีทั้งเจ้าหน้าที่เฟดที่มีมุมมองเชิง Hawkish, Dovish และ Neutral ต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด ทำให้ตลาดการเงินอาจเคลื่อนไหวผันผวนไปตามมุมมองของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดดังกล่าวได้

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของเยอรมนี ในเดือนมีนาคม ซึ่งจะรายงานก่อนอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน โดยแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีก็อาจช่วยให้ผู้เล่นในตลาดพอจะประเมินแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนที่จะรายงานในช่วงวันพุธนี้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทพลิกอ่อนค่า ทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 6 เดือน (นับตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2566) ที่ระดับ 36.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.27 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.42 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาทอ่อนค่าลง เช่นเดียวกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ประกอบกับมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากการร่วงลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ มีแรงหนุนจากข้อมูล ISM ภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้นไปที่ 50.3 ในเดือนมี.ค. (สูงกว่าตลาดคาดที่ 48.1 และสูงกว่า 47.8 ในเดือนก.พ.) ซึ่งส่งผลทำให้ตลาดลดทอนโอกาสความเป็นไปได้ของการปรับลดดอกเบี้ยเฟดในเดือนมิ.ย. ลง  

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.50-36.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางของค่าเงินเอเชีย ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค. ของอังกฤษ และยูโรโซน รวมถึงข้อมูลยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.พ. ของสหรัฐฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


9 วิธีแก้อาการสะอึก อย่างได้ผลภายในเวลาไม่กี่นาที

อาการสะอึก เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เกิดจากอาการที่กระเพาะอาหารเกิดอาการระคายเคือง เส้นประสาทจึงถูกกระตุ้นให้ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้กะบังลม หรือกล้ามเนื้อที่กั้นกลางระหว่างช่องอก กับช่องท้อง มีการหดเกร็งเป็นจังหวะ กล้ามเนื้อซี่โครงได้รับผลกระเทือนให้เกิดจากหดเกร็งตัวในลักษณะเดียวกัน

สาเหตุของอาการสะอึกมีทั้งทางกายภาพ เช่น ผลข้างเคียงจากความผิดปกติของคอและหน้าอก เช่น พบก้อนเนื้องอก ต่อมน้ำเหลืองโต หรือความผิดปกติของช่องท้อง เช่น เยื่อบุช่องท้องอักเสบ ไตวาย หรืออาการที่เกิดขึ้นหลังเข้ารับการผ่าตัด ส่วนอาการสะอึกจากอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง เช่น มีอาการตกใจกะทันหัน หรือมีปัญหาความเครียดเรื้อรัง

นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแก๊สมาก แอลกอฮอล์ การทานอาหารมากเกินไป ทานอาหารรสจัด  และสูบบุหรี่จัด ก็เป็นสาเหตุของอาการสะอึกได้เช่นกัน

ตามปกติแล้ว อาการสะอึกจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง แต่หากมีอาการสะอึกในช่วงเวลาสำคัญ เช่น อยู่ระหว่างประชุม สัมภาษณ์งาน หรืออยู่ในที่สาธารณะ เราก็อยากให้อาการสะอึกหายไปเร็วๆ ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ดูค่ะ 

9 วิธีแก้อาการสะอึก มีดังนี้

  1. หายใจในถุงกระดาษ
  2. เคี้ยวขนมปังแห้ง
  3. ก้มตัวดื่มน้ำจากขอบแก้ว จากด้านตรงข้าม หรือด้านที่อยู่ไกลจากริมฝีปาก
  4. จิบน้ำจากแก้วเร็วๆ หลายๆ อึก
  5. กลืนน้ำแข็งบดละเอียด
  6. ทำให้ตกใจ เช่น ตกหลังเบาๆ กะทันหัน
  7. กดจุด โดยบีบตรงเนินใต้นิ้วโป้งของมืออีกข้างหนึ่ง หรือกดบริเวณร่องเหนือริมฝีปาก
  8. ใช้นิ้วมืออุดหูราว 20-30 วินาที
  9. จิบน้ำมะนาวสด 

หากทำทุกวิธีแล้ว อาการสะอึก ยังไม่หาย ขอให้ใจเย็นๆ แล้วนั่งรอสักพัก อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นในไม่ช้าค่ะ แต่หากคุณมีอาการสะอึกบ่อย หรือสะอึกแรงจนมีอาการเจ็บคอ เจ็บหน้าอก หรือปวดท้อง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ยัดห่วงจัดศึกยู-18 หญิงเอเชียคัพ ไทยวัดฟิลิปปินส์ลุ้นโควตาเข้ารอบ

สมาคมกีฬาบาสเกตบอลไทยเตรียมรับหน้าเสื่อจัดศึกบาสเกตบอล หญิงรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกอาเซียน 2024 ระหว่างวันที่ 24-26 พ.ค.นี้ ที่จ.ราชบุรี โดยไฮไลต์ของการชิงชัยในทัวร์นาเมนต์ อยู่ที่การแย่งกันเข้ารอบไปเล่นในดิวิชั่นบี ของทีมชูตสาวไทย กับ ฟิลิปปินส์ ทีมใดที่ทำผลงานได้ดีกว่า จะได้ขยับขึ้นไปเล่นในดิวิชั่นที่สูงกว่าทันที

ตามที่สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติแห่งอาเซียน หรือ “ซีบ้า” ได้มอบหมายให้สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการ “ฟีบ้า ยู-18 วูเม็นส์ เอเชีย คัพ-ซีบ้า ควอลิฟาย 2024” หรือการแข่งขันบาสเกตบอลหญิงรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกอาเซียน 2024 ระหว่างวันที่ 24-26 พ.ค.67 ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีทีมบาสเกตบอลหญิงเข้าร่วมทั้งสิ้น 4 ประเทศ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และ ไทย เพื่อจะเฟ้นหาทีมที่จะได้สิทธิ์ผ่านขึ้นสู่ดิวิชั่น บี ก่อนจะคัดเลือกรอบสุดท้ายเพื่อเป็นตัวแทนอาเซียนไปแข่งขัน “ฟีบ้า ยู-18 วูเม็นส์ เอเชีย คัพ 2024” ระหว่างวันที่ 24-30 มิ.ย.67 ที่เมืองเสินเจิ้น ประเทศจีนต่อไป

 ล่าสุด “เฮียต่าย” นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่มาเริ่มจากที่มีรายการนี้ขึ้นและทางประธานฟีบ้าเอเชียมีวัตถุประสงค์ที่อยากให้ซัพโซนของแต่ละโซนแต่ละภูมิภาคของทวีปเอเชียจัดแมตช์ระดับเยาวชนให้มากขึ้น ซึ่งในประเภทยู-18ชายทางด้านประเทศมาเลเซียเขาเสนอตัวเป็นเจ้าภาพไปก่อนแล้ว ประเทศไทยเราเลยรับจัดแมตช์ของผู้หญิงครั้งนี้

 เฮียต่าย กล่าวต่อว่า ทางคณะกรรมการของสมาคมฯ ได้มีมติที่อยากให้ไปจัดที่จังหวัดราชบุรี  เราได้รับความร่วมมืออันดีจากทางผู้ใหญ่ของจังหวัดซัพพอร์ตในเรื่องต่างๆ ทั้งสนามที่มีการปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้น ที่พักที่จะรองรับนักกีฬาต่างชาติที่ได้มาตรฐาน เพราะเขาก็เพิ่งจัดกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 39 จบไปหมาดๆด้วย รวมทั้งราชบุรีนั้นเดินทางจากกรุงเทพฯ สะดวก ไม่ได้ไกลมาก ตรงตามนโยบายของทางฟีบ้าเอเชียที่อยากให้แต่ละซัพโซนกระจายการแข่งขันของเยาวชนออกจากตัวเมืองหลวงของประเทศตนเอง อีกทั้งงานนี้แม้เราไม่มีงบประมาณการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่เราได้ทาง ธ.ก.ส. ที่เขามีโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ เข้ามาสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือ ก็ต้องขอขอบคุณทาง ธ.ก.ส.มา ณ ที่นี่

 “เฮียต่าย” กล่าวอีกว่า รายการครั้งนี้จะแข่งแบบพบกันหมดของทั้ง 4 ประเทศ แต่ทางอินโดนีเซียและมาเลเซียจะได้โควตาผ่านขึ้นไปในดิวิชั่น บี ก่อนแล้ว ดังนั้นในรายการนี้แม้จะพบกันหมดแต่ขอให้ทีมหญิงยู-18 ไทยเรามีผลงานตอนจบมาดีกว่าฟิลิปปินส์เท่านั้น ส่วนเรื่องของตัวผู้เล่นนั้น นักกีฬาไทยชุดที่จะแข่งรายการนี้เราได้ทีมสต๊าฟของสมาคมฯ เฟ้นหาผู้เล่นที่ดีที่สุดจากมหกรรมกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่เพิ่งจบไปเป็นหลัก รวมทั้งเราได้เปลี่ยนจากโค้ชต่างชาติมาเป็น อาจารย์สมถวิล รัตโนภาส ผู้ฝึกสอนชื่อดังระดับประเทศของทีมจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นมหาอำนาจของทีมบาสเยาวชนหญิงของประเทศไทย เพราะได้รับกระแสคอมเมนต์มาจากบรรดาครูบาสเยาวชนจากทั่วประเทศว่าควรใช้โค้ชไทยเพราะมีความเข้าใจในตัวนักกีฬาคนไทยมากกว่า ซึ่งตนมองแล้วเชื่อว่าเด็กเยาวชนไทยเรามีดีพอที่สามารถจะชนะได้ทุกทีม 

 “ในฐานะนายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย อยากให้ร่วมเดินทางไปเชียร์นักกีฬาทีมชาติเรากันเยอะๆ พื้นฐานจากทีมชาติชุดใหญ่ก็จะมาจากเด็กๆ เยาวชนรุ่น 16-18 ปีนี้ เพราะอีก 2-3 ปีพวกเขาเหล่านี้ก็จะขึ้นมาเห็นกำลังของประเทศหน้าใหม่ เราจะพยายามปูทางเด็กเยาวชนเราจากอาเซียนขึ้นไปสู่ระดับเอเชียต่อไปเรื่อยๆ” ประมุขสมาคมยัดห่วงของไทย กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


คำศัพท์คณิตศาสตร์ บวก ลบ คูณ หาร เรียกว่าอะไรบ้างนะ?

ลองนึกกันเล่นๆ ว่า คำศัพท์คณิตศาสตร์ ในวิชาเลขนั้นมีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็น บวก ลบ คูณ หาร ถ้านึกไม่ออกก็คงไม่น่าแปลกใจ เพราะเอาเข้าจริง เราแทบจะไม่ได้ใช้ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ กับเรื่องคณิตคิดๆ หรือเรื่องการคำนวณกันสักเท่าไหร่ ส่วนมากก็พูดภาษาไทยกันนี่แหละ ถ้าอย่างนั้นเราลองมาเช็กกันหน่อยดีกว่าว่า คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับตัวเลข เครื่องคิดเลข หรือการคำนวณต่างๆ นั้น มีคำว่าอะไรกันบ้าง 

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ บวก ลบ คูณ หาร และการคิดเลข 

มาเริ่มกันที่ คำศัพท์การคำนวณ คำศัพท์บนเครื่องคิดเลข และศัพท์ที่เราจะเจอในวิชาคณิตศาสตร์กันก่อนเลย 

คำศัพท์คำอ่านความหมาย
Mathแมชวิชาคณิตศาสตร์​ หรือ วิชาเลข
Calculatorแคลคิวเลเทอะเครื่องคิดเลข
Plusพลัสการบวก
Minusไมนัสการลบ
Multipliedมัลติไพลด์การคูณ
Divideดิไวด์การหาร
Equalsอีควอลเท่ากับ
Odd Numberออด นัมเบอร์เลขคี่
Even Number อีเวน นัมเบอร์เลขคู่
Numerator นูมะเรเท้อตัวเศษ
Decimalเดซิเมอะทศนิยม
Decimal Pointเดซิเมอะ พ้อยท์จุดทศนิยม
Decimal Figureเดซิเมอะ ฟิกเกอะเลขทศนิยม
Decimal Placeเดซิเมอะ เพลสตำแหน่งทศนิยม
Exampleเอ็กแซมเพิลการยกตัวอย่าง 
Maximumแม็กซิมั่มค่าสูงสุด
Meanมีนค่าเฉลี่ย
Percentเพอเซ็นร้อยละ 
Percentage เพอเซ็นเทจจำนวนร้อยละ 
Formulaฟอร์มูล่าสูตร
Equationอีเควสชั่นสมการ
Squaredสแควยกกำลังสอง
Cubed คิวบ์ยกกำลังสาม
Squared Rootสแคว รูทรากที่สอง 

คำศัพท์รูปทรงเลขาคณิต รูปร่าง และกราฟ 

นอกจาก คำศัพท์คณิตศาสตร์ การบวกลบคูณหารต่างๆ แล้ว รูปทรงเลขาคณิต ในภาษาอังกฤษ ก็มีชื่อเรียกเหมือนกัน มาดูกันว่า เจ้าวงรี วงกลม รัศมี หรือ รูปร่าง รูปทรงเลขาคณิตต่างๆ ในภาษาอังกฤษเรียกว่าอย่างไรบ้าง

  • Circle (เซอร์เคิล) : วงกลม
  • Oval (โอเวิล) : วงรี
  • Tri Angle (ไทร แองเกิล)​ : สามเหลี่ยม
  • Square (สแควร์)​ : สี่เหลี่ยมจตุรัส
  • Pentagon (เพนทากอน)​ : ห้าเหลี่ยม
  • Hexagon (เฮกอากอน )​ : หกเหลี่ยม
  • Octagon (ออคตากอน)​ : แปดเหลี่ยม
  • Cone (โคน)​ : ทรงกรวย
  • Cube (คิวบ์) : ทรงลูกบาศ์ก
  • Cylinder (ไซลินเดอะ) : ทรงกระบอก
  • Pyramid (พีระมิด)​ : ทรงสี่เหลี่ยมคางหมู
  • Rhombus (รอมเบิส)​ : สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
  • Right Angles Triangle (ไรซ แองเกิล ไทร แองเกิล)​ : สามเหลี่ยมมุมฉาก
  • Right Angle (ไรซ แองเกิล)​ : มุมฉาก
  • Acute  Angle (อะคิ้วท แองเกิล) : มุมแหลม
  • Obtuse Angle (อัปทูส แองเกิล)​ : มุมป้าน
  • Straight Angle (สไตรท์​ แองเกิล) : มุมตรง
  • Reflex Angle (รีเฟ็ก แองเกิล)​ : มุมกลับ
  • Opposite Angle (ออพโพซิส แองเกิล)​ : มุมตรงข้าม
  • Angle (แองเกิล)​ : มุม
  • Straight  Line (สไตรท์ ไลน์) :เส้นตรง
  • Graph (กราฟ) : กราฟ
  • Axis  (แอกซิส) : แกน
  • Area (แอเรียล)​ : พื้นที่
  • Dimensions (ดิเมนชั่น) : มิติ
  • Probability (พรอพพาลิตี้) : ความเป็นไปได้
  • Radius (เรดิอัส) : รัศมี 
  • Volume (วอลลุ่ม)​ : ปริมาตร

ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th


“สงคราม AI” ปะทุ “จีน” ท้าทายอำนาจสหรัฐฯ

AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจอย่าง “จีน”และ “สหรัฐ” เข้าสู่สมรภูมิใหม่ ซึ่งจะพลิกโฉมอนาคตของโลก จะเป็นใครที่ครองความเป็นผู้นำในด้านปัญญาประดิษฐ์มาเปิดเผยความลับ และคาดการณ์สถานการณ์สงคราม AI

การพุ่งทะยานขึ้น Nvidia ในตลาดหุ้นตอกย้ำขอบเขตว่าคุณภาพและความพร้อมใช้งานของชิปจะกำหนดผู้ชนะในยุค Generative AI ซึ่งคือระบบ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาให้สามารสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ที่คล้ายกับที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น เช่น ChatGPT หรือแชทบอท AI อัจฉริยะที่สนทนาโต้ตอบกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่มีอีกแง่มุมของการวัดโอกาสของประเทศมหาอำนาจ โดยเฉพาะ “จีน” ซึ่งกำลังเตรียมตัวเพื่อผลิตชิปของตนเองหรือได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจาก Nvidia ก็ยังไม่มีคู่แข่งด้าน AI ที่โดดเด่น กว่า OpenAI ในหมู่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพของจีนหลายสิบราย   

จากการรายงานของ สำนักข่าว CNBC ที่ชี้ว่า จีนกำลังพัฒนาด้าน AI เพื่อต้องการจะนำหน้า OpenAI ในตลาด AI ของสหรัฐฯ ที่แพร่หลายมากขึ้น ซึ่งมีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Microsoft  Alphabet  Google Amazon รวมถึง Anthropic ซึ่งสัปดาห์นี้ได้รับเงินสดจำนวน 2.7 พันล้านดอลลาร์จาก Amazon

แต่ช่องว่างระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นคู่แข่งทางเทคโนโลยีนั้นกว้างมาก บริษัทชั้นนำของจีนกำลังเปรียบเทียบ ChatGPT บ่งชี้ว่าจีนยังตามหลังอยู่มาก ขณะเดียวกันความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในรายงานของ CNBC ระบุว่า มีบริษัทไม่มากนักที่รองรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของตนเองได้ ซึ่งต้องใช้เงินทุนมาก Silicon Valley นำหน้าเกมอย่างแน่นอน

สหรัฐฯ ตลาดการลงทุน AI ที่ใหญ่ที่สุด

จากข้อมูลพบว่า สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุด เมื่อปีที่แล้วการระดมทุนของ Gen AI พุ่งขึ้น คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของเงินลงทุน 42.5 หมื่นล้านดอลลาร์ทั่วโลกในบริษัทพัฒนา AI ตามข้อมูลของ CB Insights ในสหรัฐอเมริกาพบว่ามีการผลักดันการลงทุน AI เป็น 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ นำโดย OpenAI, Anthropic และ Inflection โดยเปรียบเทียบกับมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ กับ 68 ข้อตกลงในจีน ซึ่งลดลงอย่างมากจาก 5.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 ใน 377 ข้อตกลง การลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากข้อจำกัดในการร่วมลงทุนของสหรัฐฯ ในจีน

ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า แม้จีนจะตามหลัง OpenAI และ Gemini ของ Google แต่ก็กำลังปิดช่องว่างโดยใช้โอเพ่นซอร์สของ Meta ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ Llama 1

จีนมีความสามารถด้านเทคโนโลยีที่จะสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน AI 

การศึกษาใหม่โดยกลุ่มนักคิดอย่าง Marco Polo ซึ่งดำเนินการโดย Paulson Institute แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ เป็นที่ตั้งของสถาบัน AI ชั้นนำถึง 60% และยังคงเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับผู้มีความสามารถด้าน AI ชั้นยอด 57% ของทั้งหมด เมื่อเทียบกับกับจีน 12%

แต่การวิจัยพบว่า จีนเป็นผู้นำสหรัฐฯ ด้วยมาตรการบางอย่าง รวมถึงการแซงหน้าสหรัฐฯ ในการผลิตนักวิจัย AI ชั้นนำ โดยพิจารณาจากระดับปริญญาตรี จีนอยู่ที่ 47% และสหรัฐฯ ตามหลังที่ 18% นอกจากนี้ ในบรรดานักวิจัย AI ชั้นนำที่ทำงานในสถาบันของสหรัฐอฯ 38% มีจีนเป็นประเทศต้นทาง เทียบกับ 37% ของสหรัฐอเมริกา

การเข้าสู่ตลาด Gen AI ของจีนยังเข้าถึงการนำไปใช้ในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว

Ernie Bot เป็นคู่แข่ง ChatGPT ของ Baidu เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2565 มีผู้ใช้ถึง 100 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ Samsung กำลังวางแผนที่จะรวม Ernie AI ของ Baidu กับสมาร์ทโฟน Galaxy S ใหม่ ในขณะที่ Apple กำลังเจรจากับ Baidu เกี่ยวกับการจัดหา iPhone 16 ด้วยเทคโนโลยี gen AI ของบริษัทจีน 

บริษัทจีนหลายแห่งกำลังก้าวไปข้างหน้า โดยได้รับทุนจากผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเทคโนโลยีของตนเอง บริษัทคลาวด์ขนาดใหญ่ เช่น Baidu และ Alibaba ผู้เล่นโซเชียลมีเดีย ByteDance และ Tencent และบริษัทเทคโนโลยี SenseTime, iFlyTek, Megvii และ Horizon Robotics รวมถึงสถาบันวิจัย ต่างก็ให้ความช่วยเหลือในความพยายามนี้

Moonshot AI ซึ่งได้รับทุนจากอาลีบาบายักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีนและบริษัท VC Hongshan (ชื่อเดิม Sequoia China) กำลังสร้างโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่รองรับเนื้อหาขนาดยาวได้ ในขณะเดียวกัน อดีตประธาน Google China Kai-Fu Lee ได้พัฒนาโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์ส 01.AI ซึ่งได้รับทุนจาก Alibaba และบริษัท Sinovation Ventures   

จีนเร่งพัฒนาชิปขั้นสูงภายในประเทศ เเต่การพัฒนา AI ของจีนถูกจำกัด

จากข้อจำกัดของสหรัฐฯ ในการส่งออกชิป AI ระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นตลาดที่ควบคุมโดย Nvidia เป็นส่วนหนึ่งของสมรภูมิใหม่เพื่อความเหนือกว่าทางเทคโนโลยีระหว่าง สหรัฐฯ และจีน

ข้อมูลจากผู็เชี่ยวชาญในรายงานของ CNBC ระบุว่า แม้จะมีความพยายามในการพัฒนาโซลูชันภายในประเทศ แต่นักพัฒนา AI ของจีนยังคงพึ่งพาฮาร์ดแวร์จากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะจากบริษัทในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน

จีนา เอ็ม. เรมอนโด Gina Raimondo รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า เป้าหมายของสหรัฐฯ ในการควบคุมการส่งออกชิป AI คือ การป้องกันไม่ให้จีนได้รับหรือผลิตชิปขั้นสูง เนื่องจากจีนมุ่งเน้นไปที่ความสามารถภายในประเทศ บริษัทจีน SMIC หรือ Huawei อาจเป็นทางเลือกแทน Nvidia แต่อนาคตก็ไม่แน่นอน โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ Huawei ได้พัฒนาชุดชิป AI เพื่อเป็นคู่แข่งกับ Nvidia 

การวิจัยของ Boston Consulting Group ชี้ให้เห็นว่าอาจต้องใช้เวลาก่อนที่ตลาด Gen AI จะก้าวไปนอกเทคโนโลยี โดย 60% ของผู้บริหารที่ตอบแบบสำรวจ 1,400 คน กำลังรอดูการพัฒนากฎระเบียบของ Gen AI ในขณะที่มีเพียง 6 % ของบริษัทเท่านั้นที่ได้ฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับเครื่องมือ Gen AI

ปัญหาด้าน AI และเทคโนโลยีเป็นประเด็นสำคัญในการเป็นผู้นำของจีน

จีน เปิดตัวระบบป้องกัน AI ในปี 2566 หลังจากความก้าวหน้าของ ChatGPT จากนั้นจึงปรับเปลี่ยนมาตรการบางอย่าง

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาต่างๆ ที่นักพัฒนาชาวจีนจำนวนมากใช้สามารถส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างทั่วโลก และนำไปสู่การแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก ในขณะที่ AI ก้าวหน้า แต่ก็นำไปสู่ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยของโมเดล ตลอดจนการจัดการอคติและศักยภาพ การใช้ AI ในทางที่ผิด

ข้อกังวลด้านจริยธรรมและสังคมเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของ Gen AI ในประเทศจีนและภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงสหรัฐฯด้วย ดังที่เห็นในการต่อสู้เพื่อควบคุม OpenAI ภายในประเทศจีน มีปัจจัยที่อาจชะลอการเร่งความเร็วของ AI คือ การควบคุมแอปพลิเคชัน Gen AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวต่อผลประโยชน์ของรัฐ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


10 อาหารต้านมะเร็ง ยิ่งทานยิ่งสตรอง!

ใครๆ ก็ไม่อยากเป็นโรคมะเร็งใช่ไหมคะ แต่จะให้ซื้อยา หรืออาหารเสริมมาทานก็ไม่แน่ใจในเรื่องของประสิทธิภาพ ผลข้างเคียง หรือแม้กระทั่งราคาที่แพงลิบลิ่ว Sanook! Health จึงขอแนะนำอาหารธรรมดาๆ หาได้ตามท้องตลาด แต่ต้านมะเร็งได้อยู่หมัดมาให้เลือกทานกันตามใจชอบเลยค่ะ

มะเร็ง คืออะไร ?

มะเร็ง คือ โรคชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากเซลล์ที่ผิดปกติในร่างกาย ซึ่งเซลล์เหล่านี้จะมีการเจริญเติบโตรวดเร็วกว่าปกติ ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ ฉะนั้น เซลล์ที่ผิดปกติเหล่านี้จึงสามารถแพร่กระจายและลุกลามไปทั่วร่างกาย มีผลทำให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อ รวมถึงอวัยวะต่างๆ ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ก่อให้เกิดโรคและมีอาการต่างๆ เกิดขึ้นตามมา หากว่าเกิดมะเร็งในอวัยวะสำคัญๆ หรือเซลล์มะเร็งนั้นได้แพร่กระจายเข้าสู่อวัยวะสำคัญ ทำให้อวัยวะนั้นๆ ล้มเหลว ทำงานได้ไม่ปกติ จนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ในที่สุด อวัยวะสำคัญที่อาจเป็นเป้าหมายของเซลล์มะเร็ง ได้แก่ ตับ ปอด สมอง กระดูก ไขกระดูก และไต

มะเร็ง เกิดขึ้นได้อย่างไร

สาเหตุของการเกิดมะเร็งนั้นยังไม่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้นและมีการแพร่กระจายได้อย่างไร แต่ในปัจจุบันแพทย์ได้มีการวิจัยและพบปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่อาจทำให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งก็มีความเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดน่าจะมาจากปลายปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน น้อยมากที่จะเกิดขึ้นจากปัจจัยเดียว โดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็ง ได้แก่ ..

  • มีความผิดปกติทางพันธุกรรม เกิดขึ้นได้จากมั้งพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอดและไม่ถ่ายทอด
  • การสูบบุหรี่
  • การดื่มเหล้า
  • ขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
  • ขาดการกินผักและผลไม้
  • กินอาหารจำพวกไขมัน หรือเนื้อแดงต่อเนื่องเป็นประจำ
  • การสูดดมสารพิษบางอย่างเป็นประจำ
  • ร่างกายได้รับโลหะหนัก จากการหายใจ อาหาร และ/หรือน้ำดื่ม เช่น สารปรอท
  • ติดเชื้อไวรัสบางชนิด อาทิ ไวรัสเอชไอวี (HIV) ไวรัสเอชพีวี (HPV)
  • ติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด อาทิ เชื้อเอชไพโลริในกระเพาะอาหาร
  • ติดเชื้อพยาธิบางชนิด อาทิ พยาธิใบไม้ตับ
  • มีการใช้ยาฮอร์เพศอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
  • อยู่ในวัยสุงอายุ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น เซลล์ในผู้สูงอายุก็จะมีการเสื่อมและซ่อมแซมตัวเองอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุให้เซลล์กลายพันธ์ไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ง่าย

มะเร็ง ต่างจากเนื้องอกอย่างไร ?

บางคนอาจจะยังมีความสงสัยอยู่ว่าการเป็นโรคมะเร็งกับการเป็นเนื้องอกนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ในตอนนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างของทั้งสองอาการให้เห็นกันชัดๆ โรคมะเร็งนั้นจะต่างจากการเป็นเนื้องอกก็ตรงที่ ก้อนเนื้อ หรือแผลที่เป็นมะเร็งนั้นจะลุกลามเข้าสู่อวัยวะข้างเคียงได้เร็วกว่า เข้าต่อมน้ำเหลือ แพร่กระจายเข้าสู่หลอดเลือด เข้าสู่กระแสเลือด ตลอดจนหลอดน้ำเหลืองต่อเนื่องไปยังอวัยวะต่างๆ ได้ทั่วร่างกาย โดยมากมักแพร่สู่ปอด ตับ สมอง กระดูก และไขกระดูก ฉะนั้น โรคมะเร็งจึอาจมองได้ว่าเป็นโรคที่เรื้อรัง รุนแรง มีการรักษาที่ซับซ้อนและต้องทำอย่างต่อเนื่อง


เนื้องอก หรือโรคเนื้องอก อันได้แก่ การมีก้อนเนื้อที่ผิดปกติ จะแตกต่างจากก้อนเนื้อของมะเร็งตรงที่ก้อนเนื้อนั้นโตช้า ไม่ลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะข้างเคียง ไม่ลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลือง ไม่แพร่กระจายทางกระแสโลหิต ตลอดจนกระแสน้ำเหลือง ฉะนั้น การเป็นเนื้องอกทำการรักษาให้หายได้โดยการผ่าตัด
คราวนี้เมื่อรู้ถึงที่มาที่ไปของโรคมะเร็งแล้ว เรามาดูกันซิว่าการรับประทานประเภทไหนบ้างที่จะช่วยให้เรานั้นห่างไกล หรือมีโอกาสเสี่ยงจะเป็นโรคมะเร็งได้น้อยลง …

1. ผัก

ผักหลายชนิดที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น

– ผักสีเข้ม ไม่ว่าจะเป็นสีเขียว ส้ม แดง ม่วง เช่น ผักโขม แครอท มะเขือเทศ

– กะหล่ำต่างๆ เช่น กะหล่ำปลี บล็อกโคลี กะหล่ำดอก

– หัวหอม และกระเทียม

2. ถั่ว ไม่ว่าจะเป็นถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลิสง ที่นอกจากจะช่วยต้านมะเร็งแล้ว ยังดีต่อสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยโปรตีนที่ดี และกากใยอาหารตามธรรมชาติ ขับถ่ายได้สะดวกอีกด้วย

3. ธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวบาเล่ย์ ข้าวโพด ข้าวสาลี ต้านมะเร็งก็ดี วิตามินบีก็ได้ ลดความดันโลหิตก็เยี่ยม

4. สาหร่ายทะเล เป็นแหล่งแร่ธาตุชั้นดี เต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกายมากมาย มีให้เลือกทานหลายชนิด แต่ควรเลือกทานสลับชนิดกันไปเรื่อยๆ ไม่ควรทานสาหร่ายชนิดเดียวติดต่อกันนานเกินไป หรือใครอยากลองสาหร่ายพวงองุ่นก็ดีนะคะ เทรนด์กำลังมาเลยล่ะ (อ่านเพิ่มเติมเรื่อง ประโยชน์ของสาหร่ายพวงองุ่น ที่นี่

5. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ทั้งสตอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ เชอร์รี่ ทั้งอร่อยสดชื่น และมีประโยชน์มากมาย ทั้งวิตามินต่างๆ และกากใยอาหาร ทานสดจะได้คุณค่าสูงสุดค่ะ

6. ปลาน้ำเย็น ส่วนใหญ่จะเป็นปลาทะเล เช่น แซลมอน ที่มีโอเมก้า 3 และไขมันที่ดีต่อร่างกาย ปลาคอท ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน

7. เครื่องเทศต่างๆ เช่น เก๋ากี้ (หรือโกจิเบอร์รี่) พริกไทย กระเทียม หัวหอม ขิง โรสแมรี่ สามารถนำมาทำอาหาร หรือทานสดได้ (หากทานได้) ช่วยต้านมะเร็ง และกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อีกด้วย

8. โยเกิร์ต ไม่ได้มีประโยชน์แค่เรื่องการขับถ่าย และช่วยควบคุมน้ำหนักได้เท่านั้น แต่ยังช่วยต้านมะเร็ง เพราะมีสารอนุมูลอิสระ ช่วยการหมุนเวียนของโลหิต และชะลอการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย หรือจะลองกรีกโยเกิร์ต ที่เข้มข้นกว่า สารอาหารมากกว่า และมีโปรไบโอติกส์ที่ช่วยลดโอกาสในการเกิดเชื้อราในช่องคลอดได้ดีกว่าด้วย

9. เห็ดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเห็ดหอม เห็ดฟาง เห็ดออรินจิ และอื่นๆ ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด มีเส้นใยอาหารที่ช่วยเรื่องการย่อย และการขับถ่ายให้ง่ายขึ้น  นอกจากนี้ยังมีวิตามินต่างๆ ที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย

10. น้ำดื่มธรรมดาๆ นี่แหละ น้ำดื่มสะอาด ช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้คล่องตัวขึ้น เป็นตัวกลางสำคัญที่จะทำให้เซลล์ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการนำพาเอาของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้นอีกด้วย

มะเร็ง รักษาหายหรือไม่ ?

อย่าเพิ่งวิตกกังวลไป สำหรับใครที่เคยได้ยินมาว่า โรคมะเร็ง นั้นเป็นโรคที่รักษาไม่หาย หรือเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดยาก เพราะเท่าที่ได้มีการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวเรื่องโรคมะเร็งมา พบว่า โรคนี้เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โอกาสในการรักาาให้หายก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้ ..

  • ระยะของโรค
  • ชนิดของเซลล์มะเร็ง
  • วิธีการรักษา สามารถผ่าตัดได้หรือไม่ หากผ่าตัดได้ จะสามารถนำก้อนมะเร็งออกได้ทั้งหมดหรือไม่
  • มะเร็งชนิดที่พบในผู้ป่วย เป็นชนิดที่ดื้อต่อรังสีรักษา และ/หรือยาเคมีบำบัด และ/หรือยาที่ใช้รักษาตรงเป้าหรือไม่
  • ช่วงอายุ
  • สุขภาพของผู้ป่วย

ถ้าจะให้อธิบายกันอย่างเห็นภาพแล้วละก็ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งนั้นในภาพรวมอัตราการรอดจะอยู่ที่ประมาณ 5 ปี ภายหลังที่ทำการรักษา โดยแบ่งเป็นรายละเอียดดังนี้ ..

  • โรคมะเร็งระยะ 0 โอกาสหายจะอยู่ที่ 90 – 95%
  • โรคมะเร็งระยะที่ 1 โอกาสหายจะอยู่ที่ 70 – 90%
  • โรคมะเร็งระยะที่ 2 โอกาสหายจะอยู่ที่ 70 – 80%
  • โรคมะเร็งระยะที่ 3 โอกาสหายจะอยู่ที่ 20 – 60%
  • โรคมะเร็งระยะที่ 4 โอกาสหายจะอยู่ที่ 0 – 15%

แพทย์จะรู้ได้อย่างไรว่าป่วยเป็นมะเร็ง


การที่จะรู้ได้ว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการตรวจรักษาเป็น โรคมะเร็ง หรือไม่นั้น แพทย์จะสามารถตรวจสอบได้จากประวัติอาการต่างๆ ของผู้ป่วย , การตรวจร่างกาย , การตรวจเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะที่มีอาการ ผ่านการตรวจด้วยวิธีเอกซเรย์ หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือเอ็มอาร์ไอ แต่หากต้องการรู้ผลที่แม่นยำ แพทย์ก็จะทำการเจาะ หรือดูดเซลล์จากก้อนเนื้อเยื่อเพื่อตรวจทางเซลล์วิทยา หรือตัดชิ้นเนื้อจากก้อนเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยาโดยแพทย์เฉพาะทาง

เห็นไหมคะว่าอาหารแต่ละอย่างอยู่รอบตัวเราทั้งนั้น แค่ปลานึ่ง ผักต้ม น้ำพริก แกงจืด ยำเห็ด ตบด้วยน้ำผลไม้ปั่น ทุกอย่างรสชาติดี และมีประโยชน์ในราคาสบายกระเป๋า เพราะฉะนั้นเรามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีด้วยกันดีกว่าค่ะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 02/04/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a39,000.0039,100.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,526.0038,294.1639,600.00
ทองรูปพรรณ 90%2,273.4034,464.74n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,020.8030,635.33n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,137.0017,236.92n/a
ทองรูปพรรณ 40%884.0013,401.44n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,618.0039,688.88n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 02/04/2567


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9539.1539.1540.1539.1539.1539.1539.1539.1539.1539.15
แก๊สโซฮอล์ 9137.6837.6838.6837.6837.6837.6837.6837.6837.6837.68
แก๊สโซฮอล์ E2037.0437.0438.0437.0437.0437.0437.0437.0437.04
แก๊สโซฮอล์ E8536.7936.7936.79
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม46.8449.4449.4449.4446.84
เบนซิน 9547.0448.2147.5447.1947.04
ดีเซล B729.9429.9430.4429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.5443.6444.8443.6443.6441.54
แก๊ส NGV19.5919.5919.59


 

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า