สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2561

อสังหาฯ ใจกลางกรุงลอนดอนปรับตัวขึ้น คาดปี 64 มูลค่าพุ่ง 16.7%

อสังหาฯ ใจกลางลอนดอนให้ผลตอบแทนเพิ่มต่อเนื่อง ผู้ประกอบการณ์คาดปี 64 มูลค่าพุ่ง 16.7% เตรียมเปิดขาย “เซาธ์ ทาวเวอร์ แอท วัน คราวน์ เพลส” เมืองไทยแห่งแรก 10-11 มี.ค.นี้

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2561 กลุ่มบริษัทอัลลอย เอ็มทีดี (AlloyMtd) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก จากประเทศมาเลเซีย เตรียมเปิดขาย “เดอะ เซาธ์ ทาวเวอร์ แอท วัน คราวน์ เพลส” (The South Tower at One Crown Place) เรสซิเด้นซ์สุดหรูภายในโครงการมิกซ์ยูส “วัน คราวน์ เพลส” ใจกลางลอนดอน เปิดโอกาสนักลงทุนไทยเป็นแห่งแรกในเอเชีย เปิดขายรอบพิเศษ 10 – 11 มีนาคมนี้ ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ผู้สนใจลงทะเบียนและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ CBRE ประเทศไทย

“วัน คราวน์ เพลส” โครงการมิกซ์ยูสสุดหรู ตั้งอยู่บน “ซันสตรีท” (Sun Street) เขตอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ของกรุงลอนดอน ประกอบด้วย อพาร์ตเมนต์ที่อยู่อาศัย 246 ยูนิต, โรงแรมบูติคระดับ 5 ดาว, พื้นที่อาคารสำนักงานระดับพรีเมี่ยม ขนาด 130,007 ตารางเมตร (140,000 ตารางฟุต), พื้นที่ร้านค้า 650 ตารางเมตร (7,000 ตารางฟุต) และระเบียงจอร์เจีย (Georgian Terrace) อันเก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะมาอย่างต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของตัวโครงการฯ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 39,500,000 บาท หรือ 888,000 ปอนด์ สำหรับห้องชุดประเภท 1 ห้องนอน ปัจจุบัน โครงการได้ดำเนินงานรื้อถอน งานก่อสร้าง ฐานราก และงานขุดเจาะชั้นใต้ดินเสร็จสิ้นแล้ว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเข้าอยู่ได้ภายในปี 2563

นายเฮนรี่ โรบินสัน กรรมการบริหารและพัฒนาโครงการ วัน คราวน์ เพลส เปิดเผยภายหลังจากงานแถลงข่าวเปิดตัว “วัน คราวน์ เพลส” ที่ผ่านมาว่า “งานแถลงข่าวเมื่อสามสัปดาห์ก่อนได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น ซึ่งชี้ให้เห็นว่า โครงการที่เราพัฒนาขึ้นตอบโจทย์ความชอบนักลงทุนชาวไทยเป็นอย่างดี โดยอพาร์ตเมนต์ชุดนี้มีราคาเริ่มต้นจาก 38 ล้านบาทถึง 377 ล้านบาทสำหรับห้องชุดที่ออกแบบโดย Sophie Ashby อย่างไรก็ตาม คาดว่า โครงการนี้จะเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้ซื้อ ทั้งที่ซื้อเพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของบุตรหลานที่กำลังศึกษาอยู่ในสหราชอาณาจักร นอกจากนั้น ยังจะดึงดูดนักลงทุนอย่างยิ่ง เนื่องจากผลวิจัยทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนชี้ว่า จะให้ผลตอบแทนสูงถึง 16.7% รวมถึงอัตราค่าเช่าที่สูงขึ้นถึง 4.66% ซึ่งเราคาดว่า งานพรีเซลล์ในวันที่ 10 – 11 มีนาคมนี้ จะประสบความสำเร็จอย่างมาก”

เมื่อพิจารณาปัจจัยทั้งหมด จะเห็นได้ว่า ปัจจัยเหล่านี้จะนำไปสู่การเติบโตของตลาดอพาร์ตเมนต์ระดับไฮเอนด์ (High End Residential) ใจกลางกรุงลอนดอนในรูปแบบที่ดีอย่างมาก โดยผลการวิจัยของซีบีอาร์อีคาดว่า ในช่วงปี 2560 ถึง 2564 การเติบโตของเงินทุนจะเพิ่มขึ้นถึง 16.7% ซึ่งนับเป็นผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ทองคำ น้ำมัน และตลาดหุ้น นอกจากนั้น การลงทุนในที่อยู่อาศัยในลอนดอน ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าประเภทสินทรัพย์อื่น ๆ ทั้งหมดในระยะกลางถึงระยะยาว และได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นการลงทุนที่ยืดหยุ่นและเป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยในส่วนของนักลงทุนไทยและนักลงทุนรายอื่น ๆ จากทั่วโลกมีความสนใจที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน เนื่องจากสหราชอาณาจักรเป็นที่พำนักที่ปลอดภัยด้วยระบบกฎหมายที่โปร่งใส มีเขตเวลาที่เหมาะสำหรับการติดต่อสื่อสารและการพาณิชย์ระหว่างประเทศ, อุปทานของที่อยู่อาศัยยังไม่เพียงพอกับความต้องการ, ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอันยาวนานของกรุงลอนดอน และใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากล โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ จำนวนนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์

โครงการ One Crown Place

ทั้งนี้ กฎหมายของสหราชอาณาจักรทำให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ง่าย การถือครองกรรมสิทธิ์ในสัญญาเช่า (Leasehold) ที่มีความยาว 999 ปีเป็นที่น่าสนใจมาก และมีผลในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย แต่ยังดึงดูดผู้ซื้อจากทั่วโลกที่เน้นการลงทุนอีกด้วย ดังนั้น นักลงทุนไทยจะมีโอกาส ได้รับผลกำไรจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน โดยเฉพาะผู้ที่ส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นนักเรียนชาวต่างชาติที่เข้ามาศึกษาในสหราชอาณาจักรมากเป็นอันดับที่ 7 จากทั่วโลก และมักใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 4 หรือ 5 ปี ซึ่งเป็นแรงจูงใจในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมากกว่าการเช่า นอกจากนี้ หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นจะได้รับ ผลกำไรจากการเติบโตอย่างยั่งยืนของเงินทุนระยะยาวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน

นายที คิม เซียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอัลลอย เอ็มทีดี เปิดเผยว่า “เราพูดได้อย่างมั่นใจว่าไม่มีโครงการไหนที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว ทั้งการได้รับประโยชน์จากผู้อาศัยระดับสูงในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น UBS, Linklaters, Bloomberg, RBS, Deutsche Bank, Cisco, ING เป็นต้น สิ่งนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า อาคารแห่งนี้มีอัตราค่าเช่าที่สูงเป็นพิเศษและมีพื้นที่เช่าที่ต่ำ ไม่เพียงแต่ในปัจจุบันเท่านั้นยังรวมถึงในอนาคตอีกด้วย จะเห็นได้ว่า ย่านการเงินของกรุงลอนดอนมีประชากรอยู่อาศัยต่ำมากเพียง 8,000 คน แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของร้านอาหารและวัฒนธรรมในพื้นที่นี้ ทำให้เหล่านายธนาคารและทนายความ เลือกที่จะอยู่ในเมืองลอนดอนมากขึ้น มากกว่าในพื้นที่ดั้งเดิมอย่างเคนซิงตันและเชลซี ดังนั้น “วัน คราวน์ เพลส” จะกลายเป็นสถานที่ที่เติมเต็มชีวิตในทุก ๆ วันของผู้อยู่อาศัย ทั้งการเดินทางที่สะดวกสบายด้วยทำเลที่ตั้งของการคมนาคมท้องถิ่นหลายเส้นทาง รวมถึง Crossrail เส้นทางใหม่ Elizabeth Line ที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินฮีทโทรว (Heathrow Airport) เพียง 33 นาที และสามารถเดินทางไปยังแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของโลก อาทิ Bond Street, Broadgate Circle, Old Silicon Roundabout, Spitalfields Market และ Shoreditch ศูนย์กลางการสร้างสรรชื่อดัง เพียง 7 นาที นอกจากนั้น ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยชื่อดังและใกล้ย่านบริษัทชั้นนำของลอนดอนหลายแห่ง และพิเศษสุด คนไทยจะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่มีโอกาสได้ครอบครองสุดยอดโครงการที่เป็นแลนด์มาร์คแห่งนี้”

โครงการ “วัน คราวน์ เพลส” ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบชั้นนำชาวอังกฤษ Kohn Pedersen Fox Associates (KPF) บริษัทออกแบบเจ้าของรางวัลชนะเลิศด้านสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติ ประกอบด้วย อาคารสูงตระหง่าน 2 อาคารมีชั้นสูงสุดอยู่ที่ชั้นที่ 33 ทั้งสองอาคาร โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของ “ระเบียงจอร์เจีย” ที่สวยงาม ซึ่งเป็นที่สุดท้ายในละแวกนี้ที่ได้รับการบูรณะให้ยังคงความสมบูรณ์ของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ซึ่งจะกลายเป็นคลับเฮาส์ของผู้อยู่อาศัยและโรงแรมบูติคระดับ 5 ดาว โครงการนี้เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาสสำหรับผู้อยู่อาศัย ภายใต้การดูแลความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ให้ความรู้สึกของแหล่งชุมชนที่มีสีสันและในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นส่วนตัว โดยสิ่งอำนวยความสะดวก ประกอบด้วย ห้องออกกำลังกายที่ทันสมัย, ห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัว, เลาจน์, โรงภาพยนตร์, ห้องทรีทเมนต์, สตูดิโอ และระเบียงชมวิวกว้างขวาง นอกจากนั้น แต่ละห้องชุดยังเต็มไปด้วยพื้นที่รับแสงธรรมชาติ (Light-Filled Space) ที่อบอุ่นและมีเสน่ห์ อีกด้วย ทั้งนี้ การตกแต่งภายในได้รับการออกแบบโดยความร่วมมือของบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก ไดแก่ B & B Italia และ Arclinea โดยจะออกแบบห้องครัวและตู้เสื้อผ้าสุดหรูสำหรับทุกยูนิตภายใน “วัน คราวน์ เพลส” ซึ่งจะนำเสนอมาตรฐานใหม่และคุณภาพที่โดดเด่นสำหรับโครงการระดับโลกแห่งนี้โดยเฉพาะ โดยพื้นที่ส่วนกลางและภายในอพาร์ตเมนต์จะได้รับการออกแบบโดยบริษัทตกแต่งภายในที่มีชื่อเสียงอย่าง Bowler James Brindley ในขณะที่เพนเฮ้าส์ 9 หลัง ถูกออกแบบโดย Sophie Ashby แห่ง Studio Ashby

“วัน คราวน์ เพลส” พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทอัลลอย เอ็มทีดี (AlloyMtd Group) โดยมี ซีบีอาร์อี (CBRE) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและบริหารงานขายสำหรับห้องชุดที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ CBRE ประเทศไทย

http://www.bangkokbiznews.com


เปิดแผน ทางด่วน-รถไฟฟ้าสีน้ำตาล”แคราย-ลำสาลี” ราคาที่ดินเกษตร-นวมินทร์สูงลิ่ว !!!

แนวทางด่วนเกษตร-นวมินทร์ และโมโนเรลสายสีน้ำตาล “แคราย-ลำสาลี” ราคาที่ดินสูงลิ่ว ค่าเวนคืน 10,000 ล้าน รวมมูลค่าทั้งโครงการ 50,000 ล้านบาท วางตอม่อทางด่วนส่วนต่อขยายใหม่ 7 กม.เชื่อมโทลล์เวย์-ด่วนศรีรัช-วงแหวนตะวันตก แนวเดิมอีก 12 ก.ม. ระยะทางด่วนรวม 19 ก.ม. แนวรถไฟฟ้าเบื้องต้น 20 สถานี เริ่มต้นศูนย์ราชการนนทบุรี สิ้นสุดแยกลำสาลี ระยะทางรวม 22 ก.ม.
ผลศึกษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล แคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) หลังทบทวนผลศึกษาเดิม คาดว่าจะใช้เงินรวมกว่า 50,000 ล้านบาท เป็นงานโยธาและระบบ 40,000 ล้านบาท ที่เหลือกว่า 10,000 ล้านบาท เป็นค่าเวนคืนที่ดิน โดยเวนคืนทางขึ้นลงประมาณ 20 สถานี และพื้นที่มากสุดคือศูนย์ซ่อมบำรุง(เดโป้) 44.3 ไร่ บริเวณจุดตัดทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 3,000 – 4,000 ล้านบาท เนื่องจากราคาที่ดินเกษตร-นวมินทร์ มีการปรับตัวขึ้นสูง
จุดที่ตั้งรถไฟฟ้า 20 สถานี ยาว 22 ก.ม.
จุดที่ตั้ง 20 สถานี ระยะห่างกันประมาณ 1 กม. ได้แก่ 1.สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี 2.สถานีจุฬาเกษม 3.สถานีคลองลาดยาว(คลองประปา) 4.สถานีชินเขต 5.สถานีบางเขน 6.สถานี ม.เกษตรฯ ประตู 2 7.สถานี ม.เกษตรฯ 8.สถานีคลองบางบัว 9.สถานีลาดปลาเค้า 10.สถานีเสนานิคม 11.สถานีโรงเรียนสตรีวิทยา 2 12.สถานีต่างระดับฉลองรัช 13.สถานีคลองลำเจียก 14.สถานีนวลจันทร์ 15.สถานีแยกนวมินทร์ 16.สถานีโพธิ์แก้ว 17.สถานีอินทรารักษ์ 18.สถานีนวมินทร์ภิรมย์ 19.สถานีสนามกีฬาคลองจั่น 20.สถานีแยกลำสาลี
แนวทางด่วนเกษตร-นวมินทร์ และโมโนเรลสายสีน้ำตาล (ตำแหน่งสถานีคร่าวๆ)
รูปแบบเป็นระบบ รถไฟฟ้ารางเดี่ยว (monorail) แนวเส้นทางอยู่บริเวณแยกแคราย มุ่งหน้าไปตามแนวถนนงามวงศ์วาน ผ่านแยกแคราย แยกเกษตรฯ ต่อเนื่องไปตามแนวถนนประเสริฐมนูกิจผ่านจุดตัดถนนลาดปลาเค้า จุดตัดถนนนวมินทร์ แล้วเลี้ยวขวาลงไปตามแนวถนนนวมินทร์ ผ่านแยกโพธิ์แก้ว แยกบางกะปิ ไปสิ้นสุดที่จุดตัดถนนพ่วงศิริและถนนรามคำแหง แยกลำสาลี ระยะทางรวม 22 กม.
รูปแบบโครงสร้าง เส้นทางด่วน
ออกแบบเป็นทางยกระดับ ความสูง 10-12 เมตร หรือเท่ากับตึก 3 ชั้น โดยจะสร้างตอม่อใหม่เป็นโครงสร้างแบบทางคู่ 2 ทิศทาง โครงสร้างเสาเดี่ยว มีชานชาลาด้านข้าง พร้อมชั้นจำหน่ายบัตรโดยสาร โครงสร้างเสาส่วนใหญ่วางในแนวเกาะกลางถนน ส่วนในช่วงถนนประเสริฐมนูกิจ ใช้ประโยชน์จากเสาตอม่อเดิม จะสร้างไปในแนวเดียวกับทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือช่วง N2 เกษตร-นวมินทร์-วงแหวนรอบนอกตะวันออก โดยรถไฟฟ้าจะอยู่ใต้ทางด่วนที่สูงจากระดับพื้นดิน 21-22 เมตร หรือเท่ากับตึก 7 ชั้น
เริ่มจากแยกเกษตรฯไปตามแนวถนนเกษตร-นวมินทร์ ผ่านแยกลาดปลาเค้า แยกเสนาฯ แยกสุคนธสวัสดิ์ จุดตัดฉลองรัช แยกนวลจันทร์ แยกนวมินทร์ สิ้นสุดที่วงแหวนรอบนอกตะวันออก ระยะทาง 12 กม.
ขณะที่ส่วนต่อขยาย N1 เลียบตามแนวถนนผลาสินธุ์ ขนานกับคลองบางบัว คลองบางเขน ถนนวิภาวดีเลี้ยวซ้ายไปตามแนวถนนวิภาวดีรังสิต และไปเชื่อมต่อกับโทลล์เวย์ กับทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก ที่ทางต่างระดับรัชวิภา เป็นทางยกระดับ 4 ช่องจราจร เป็นโครงสร้างเสาเดี่ยว ระยะทาง 7 กม.
รวมทั้งโครงข่าย จะมีระยะทางรวม 19 กม. ใช้เงินก่อสร้าง 25,000 ล้านบาท มีจุดเวนคืนจุดใหญ่ช่วงต่างระดับฉลองรัช และชุมชนบางบัวที่อยู่ริมคลอง
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายในเดือน ก.ค.จะนำเสนอโครงการให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) พิจารณาเห็นชอบโครงการก่อสร้างทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า เพื่อแก้ปัญหาจราจรโซนตะวันออกและตะวันตก พร้อมกับนำรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลบรรจุในแผนแม่บทรถไฟฟ้าระยะที่ 1 รวมเป็นสายที่ 11 ระยะทางรวม 480 กม. โดยมอบให้ รฟม. เป็นผู้ศึกษารายละเอียดพร้อมกับจัดหาเอกชนมาลงทุนรูปแบบ PPP เหมือนสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสีชมพู (แคราย-มีนบุรี)
รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2564 แล้วเสร็จปี 2567 ส่วนทางด่วนหาก กทพ. พร้อม ก็สามารถเดินหน้าได้ในช่วงเกษตร-นวมินทร์-วงแหวนรอบนอกตะวันออก ส่วนต่อขยายใหม่ทาง สนข.จะผู้รับผิดชอบทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)

http://www.bkkcitismart.com


นายกฯ ปลื้ม U.S. News สหรัฐฯ ยกไทยเหมาะลงทุน

รัฐบาล ปลื้ม U.S.News จัดอันดับไทยที่ 8 “ประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน” ชี้ปี 61 เศรษฐกิจขาขึ้น ต่างชาติยอมรับ พร้อมจับมือชาติอาเซียนเดินไปข้างหน้า โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบรายงานอันดับประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน ประจำปี 2561 ของ U.S.News ซึ่งประเทศไทยติดอันดับ 8 จาก 20 อันดับของโลก วิเคราะห์จากหลายปัจจัย เช่น เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ นวัตกรรม ทักษะแรงงาน ความชำนาญทางเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม ประชากร และคอร์รัปชัน เป็นต้น

ทั้งนี้ ถือว่าเป็นข่าวดีทางเศรษฐกิจ เพราะต่างชาติให้การยอมรับประเทศไทย ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันทุกฝ่ายตั้งแต่ระดับนโยบาย ภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ใช้แรงงาน และประชาชนทุกคน ที่พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง และช่วยกันรักษาบรรยากาศของบ้านเมืองให้สงบ เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก

พร้อมกล่าวว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา U.S.News เพิ่งเผยแพร่ผลการจัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลกในด้านต่างๆ ซึ่งประเทศไทยครองแชมป์อันดับ 1 เป็นประเทศที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มธุรกิจ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าศักยภาพด้านเศรษฐกิจและการลงทุนของไทยนั้นจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ในสายตาของชาวโลก โดยรัฐบาลได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการลงทุนตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งภาพลักษณ์ในเรื่องนี้เป็นสิ่งจูงใจนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาทำธุรกิจในไทย และผลการจัดอันดับดังกล่าวยังสอดคล้องกับอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลกครั้งล่าสุด ที่ไทยมีอันดับดีขึ้นถึง 20 อันดับ จากอันดับที่ 46 ในปี 2560 เป็นอันดับที่ 26 ในปี 2561 ด้วย

ขณะเดียวกัน ยังรู้สึกยินดีที่ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ก็ถูกจัดให้อยู่ใน 20 อันดับเช่นเดียวกัน สะท้อนในเห็นว่าภูมิภาคนี้กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้น จึงถือว่านโยบายและความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกเดินมาถูกทางแล้ว โดยทุกประเทศจะพัฒนาไปพร้อมๆ กัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

http://www.bangkokbiznews.com


ซีไอเอ็มบี ไทย คาดค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย

 

ซีไอเอ็มบี ไทย คาดเงินบาทสัปดาห์หน้าจะอยู่ในกรอบ 31.20-31.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จับตาผลกระทบนโยบายสหรัฐ มาตรการเก็บภาษีนำเข้า

สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย คาดค่าเงินบาทระหว่างวันที่ 12-16 มีนาคม 2561 จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.20-31.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยต้องจับตาตัวเลขและดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจที่เฟดจะประกาศออกมาได้แก่ ยอดค้าปลีก ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนีราคาผู้บริโภคและผู้ผลิต ดัชนีภาคการผลิต รวมทั้งผลกระทบในตลาดนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ลงนามเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10%

ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ยังคาดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2561 ไว้ที่ 3.8-4.5% โดยการส่งออกจะขยายตัว 3.5-6.0%

http://www.bangkokbiznews.com


3 Apps สุดเจ๋ง ที่เหล่าคนรักสุขภาพควรมีติดสมาร์ทโฟน

3 Apps สุดเจ๋ง ที่เหล่าคนรักสุขภาพควรมีติดสมาร์ทโฟน

หากพูดถึง แอพพลิเคชั่น ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย แต่ละแอพฯ นั้นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปตามชนิดของนักออกกำลัง หลาย ๆ คนต้องนึกถึง แอพฯ ที่จะสามารถบันทึกกิจกรรม, ระยะทาง และ คำนวณผลการออกกำลังเจ๋ง ๆ กันอยู่แน่ ซึ่งในสัปดาห์นี้ Tonkit360 จะมานำเสนอ เรื่องราวของ แอพฯ ออกกำลังกาย ที่ดันไปมีจุดเด่นอยู่ที่ เสียงดนตรี ซะอย่างนั้น และ ไปพบกับอีกหนึ่งแอพฯ สุดพิเศษที่จะทำให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้คนทั่วโลก จะเป็นอะไรบ้างนั้น ไปติดตามชมกันได้เลยครับ

1. Weavrun
จุดเด่น : หาเพลงให้เหมาะกับทุกการเคลื่อนไหว

 

Weavrun เป็นแอพฯ ที่จะคอยมิกซ์เพลงให้เหมาะสมกับกิจกรรมของเรา หลาย ๆ คนคงเบื่อกับการที่กำลังวิ่งอยู่อย่างเพลิดเพลิน แต่เพลย์ลิสต์ของเราดันเล่นเพลงช้าซะอย่างนั้น ซึ่งมันมีผลต่อแรงกระตุ้น แต่แอพฯ นี้จุดเด่นอยู่ที่ มันจะเล่นเพลงตามจังหวะการออกกำลัง อิงจากการนับก้าวของตัวเรานั่นเองครับ โดยเราก็สามารถปรับแต่งเลือกจังหวะที่เหมาะสมกับตัวเราเองได้ และ ตัวแอพฯ ก็ยังมีฟีเจอร์สำหรับการออกกำลังพื้นฐานอย่าง การบันทึกความเร็ว. เวลา, ระยะทาง และ นับจำนวณก้าว ให้เราได้ใช้งานปกติ อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับ แอพฯ ออกกำลังของเจ้าอื่น ๆ ได้ เช่น Strava, MapMyRun และ Nike+ Run Club เป็นต้น

ดาวน์โหลดฟรี; iOS

2. Zombies, Run! 5k Training
จุดเด่น : เปลี่ยนการวิ่งให้เป็นเกมส์

Zombies, Run! 5k Training เป็นแอพฯ ที่จะทำให้เราจินตนาการเหมือนกับว่าอยู่ในโลกที่มีซอมบี้วิ่งไล่กัดตูดเราอยู่ ฟังดูพิลึกใช่มั้ยครับ แต่มันจะทำให้เราวิ่งได้อย่างเพลิดเพลินจนลืมระยะทางกันไปเลย โดยระบบของแอพฯ จะมีอยู่สองแบบ คือ วิ่งตามเนื้อเรื่อง กับ วิ่งทำภารกิจ โดยทั้งสองแบบจะมีเสียงคนมาคอยเตือน คอยแนะนำ ตลอดระยะทางของภารกิจ และ การออกกำลังของเรา โดยก่อนที่จะเริ่มภารกิจนั้น แอพฯ จะให้เลือกเพลงจากเพลย์ลิสต์ในโทรศัพท์ เพื่อสร้างเป็นซาวด์แทรคประกอบเรื่องราวของเรา อีกทั้งแอพฯ ก็ยังมีฟีเจอร์สำหรับการออกกำลังอย่าง การนับจำนวณการก้าว โดยคำนวณจาก เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวบนสมาร์ทโฟนของเรา, ระบบ GPS ติดตามบันทึกระยะทางของเรา และ ยังสามารถแชร์เส้นทางให้เพื่อน ๆ ในโซเชียลได้ดูกันอีกด้วย

ดาวน์โหลดฟรี; iOS, Android

3. Charity Miles
จุดเด่น : ทำให้กิจกรรมของคุณเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้คนทั่วโลก

 

Charity Miles เป็นแอพฯ ที่พิเศษ และ ได้รับรางวัลแอพพลิเคชั่นยอดเยี่ยม จากหลายสถาบัน ซึ่งตัวแอพฯ จะมีฟีเจอร์บันทึกกิจกรรมการออกกำลังของเรา ไม่ว่าจะเป็น เดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน หรือ แม้กระทั่งจูงสุนัชเดินเล่น โดยทุกๆ หนึ่งไมล์ ที่เราทำได้ มันจะเปลี่ยนให้กลายเป็นเงิน 25 เซ็นต์ (ประมาณ 8 บาท) เพื่อนำไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไรทั่วโลกนั่นเองครับ โดยเราสามารถเลือกองค์กรได้ภายในแอพฯ กว่า 40 องค์กรด้วยกัน อาทิ เช่น องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF เป็นต้น ซึ่งผมคิดว่ามันจะทำให้การออกกำลังกายของเรา สามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ นอกจากสร้างให้ตัวเราเองเพียงคนเดียว พูดง่ายๆ ก็คือ ยิ่งเราออกกำลังกายมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งกลายเป็นผู้ให้มากเท่านั้น นั่นเองครับ

ดาวน์โหลดฟรี; iOS, Android

เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายสำหรับเรื่องราวของ 3 Apps สุดเจ๋ง ที่เหล่าคนรักสุขภาพควรมีติดสมาร์ทโฟน กันแล้วนะครับ ซึ่งก็มีหลายแอพฯ จากหลายๆ ประเภทที่น่าสนใจไม่น้อย ถึงตอนนี้ผมคิดว่าหลายๆ คน คงได้แอพฯ ที่ถูกใจตรงกับสไตล์ของตัวเอง ไปใช้งานกันบ้างแล้ว และ หากใครมีความคิดที่อยากจะหันมาสนใจสุขภาพ อยากออกกำลังกายจริงๆจังๆ ให้ได้เสียที ผมเชื่อว่าแอพฯ ที่ Tonkit360 ได้นำเสนอไปทั้งหมดนั้น จะเป็นแรงบันดาลใจ และ แรงกระตุ้นดีๆ ที่จะทำให้เราหันมาสนใจการออกกำลังกายกันมากขึ้น โอกาสหน้าหากมีแอพฯ ออกกำลังกายตัวไหนที่น่าสนใจ Tonkit360 จะมานำเสนอให้อย่างแน่นอน และ สัปดาห์หน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรนั้น รอติดตามกันได้เลยครับ

https://www.sanook.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 12/03/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,550.00 19,650.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,266.00 19,192.56 20,150.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,139.40 17,273.30 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 570.00 8,641.20 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 443.00 6,715.88 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,312.00 19,889.92 n/a

 ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  12/03/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35
แก๊สโซฮอล E-20 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84
แก๊สโซฮอล E-85 20.44 20.44 20.44 20.44
แก๊สโซฮอล 91 27.08 27.08 27.18 27.58 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08
เบนซิน 95 34.46 34.91 34.96 34.46 34.46 34.46
ดีเซลหมุนเร็ว 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 29.59 29.59 29.59 29.59 29.59
มีผลตั้งแต่ 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00

 

 

 

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า