สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 23 มิถุนายน 2560

ถอดบทเรียน…ไฟไหม้ตึกในลอนดอน สู่อนาคตตึกสูงในกรุงเทพฯ

ถอดบทเรียน...ไฟไหม้ตึกในลอนดอน สู่อนาคตตึกสูงในกรุงเทพฯ

จากเหตุเพลิงไหม้เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถือเป็นกรณีศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าอาคารเก่าและตึกสูง ควรจะมีการตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัย เพื่อให้ระบบทางหนีไฟและระบบเตือนภัยพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งในประเทศไทยเอง แม้จะมี พ.ร.บ.ควบคุมอาคารปี 2535 ที่กำหนดให้ทุกอาคารมีระบบป้องกันและรับมืออัคคีภัยที่ได้มาตรฐาน บังคับใช้ แต่พบว่า ยังมีอาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อน พ.ร.บ. ฉบับนี้ ประกาศใช้ และไม่ได้ถูกออกแบบให้มีระบบป้องกันและรับมืออัคคีภัยที่ได้มาตรฐาน เป็นจำนวนมาก

ย้อนรอยเหตุการณ์เพลิงไหม้เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์
เหตุการณ์เพลิงไหม้เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ อาคารสูง 24 ชั้น ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน นับเป็นเพลิงไหม้ครั้งรุนแรงเท่าที่เคยเกิดขึ้นในอังกฤษ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงถึง 70 คน จาก 120 ห้อง สาเหตุส่วนหนึ่งคาดว่าจะมาจากระบบสัญญาณเตือนภัยไม่ทำงาน และทางหนีไฟมีสิ่งกีดขวางจากวัสดุการปรับปรุงอาคารเมื่อ 2 ปีก่อน นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังตั้งข้อสังเกตว่าวัสดุที่นำมาปรับปรุงอาคารยังเป็นวัสดุติดไฟง่าย โดยทำมาจากโฟมและพลาสติก (Polyethylene) จึงทำให้เปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว

Fire_02

ตึกสูงในไทยกว่า 2,000 แห่ง เสี่ยงไฟไหม้
ข้อมูลจากฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่า ในกรุงเทพฯ มีอาคารสูง 7 ชั้น และสูงเกินกว่า 30 ชั้น กว่า 3,000 อาคาร แบ่งเป็น อาคารใหม่อายุต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งมีไม่ถึง 1,000 อาคาร (33%) ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยไม่มากนัก เนื่องจากมีกฎหมายบังคับให้ออกแบบและวางระบบป้องกันและแจ้งเตือนอัคคีภัย แต่ที่น่าเป็นห่วงคืออาคารส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ มีอายุราว 20 ปี ส่วนใหญ่เป็นอาคารเก่าที่อาจมีความเสี่ยงในด้านไฟฟ้าลัดวงจร หรือเหตุการณ์ไฟไหม้ เนื่องจากระบบต่างๆ ถูกใช้งานมานาน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีการตรวจสอบและทดสอบการทำงานของระบบแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm) และระบบระงับเหตุเพลิงไหม้ (Sprinkler) อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดความบกพร่องไม่ว่าจะเป็นระบบการแจ้งเตือนเหตุ ระบบสัญญาณเตือนภัยและท่อน้ำดับเพลิง

Fire_03

ภาครัฐเตรียมคุมอาคารเก่า ให้ได้มาตรฐาน
กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้มีมาตรการป้องกันและระงับการเกิดอัคคีภัย โดยกำหนดเขตพื้นที่ (Zoning) การก่อสร้างอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ การควบคุมมาตรฐานการออกแบบอาคาร โดยเฉพาะอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่พิเศษให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด โดยให้ทุกอาคารต้องมีโครงสร้างของตัวอาคาร และอุปกรณ์ประกอบต่างๆ เพื่อป้องกันและรับมือการเกิดอัคคีภัย เช่น บันไดหนีไฟ ช่องประตูสู่บันไดหนีไฟ ระบบสัญญาณเตือนภัย เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ แบบแปลนแผนผังของอาคาร ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า ฯลฯ

นอกจากนี้ยังกำหนดให้ทุกอาคารต้องทำการตรวจสอบอาคารเป็นประจำทุกปี และตรวจสอบใหญ่ทุก 5 ปี โดยเฉพาะอาคาร 9 ประเภท ได้แก่ อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารชุมนุมคน โรงมหรสพ โรงแรม สถานบริการ อาคารชุด อาคารโรงงาน และป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้าย รวมทั้งเร่งรัดให้เจ้าของอาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อนมีการประกาศใช้กฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงอาคารให้ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดโดยเร็ว

ด้านสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ได้เตรียมแผนรับมือกับอัคคีภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่บางแห่งเป็นตรอก ซอกซอย และถนนขนาดเล็ก โดยการใช้รถดับเพลิงขนาดเล็กเข้าพื้นที่ จากสถานีดับเพลิง 35 แห่ง รวมทั้งยังเพิ่มจุดเฝ้าระวังโดยกระจายรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ไปประจำจุดเสี่ยงที่เคยเกิดเหตุไฟไหม้บ่อย เพื่อให้สามารถเข้าควบคุมเพลิงได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีรถกระเช้าดับเพลิงที่สามารถดับไฟได้ในระดับความสูง 90 เมตร จำนวน 4 คัน ซึ่งถือว่าทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถรับมือกับอัคคีภัยบนตึกสูงได้ถึง 30 ชั้น ทั้งการดับเพลิง การลำเลียงผู้ติดอยู่ในอาคาร หรือระดมนักดับเพลิง และอุปกรณ์เข้าไปยังที่เกิดเหตุ

จะเห็นได้ว่ายังมีอีกหลายพันอาคารที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ เจ้าของอาคาร และผู้อยู่อาศัย ที่ต้องดูแล เฝ้าระวัง และช่วยกันตรวจสอบอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมเช่นเดียวกับประเทศอังกฤษ

ที่มา ddproperty.com


คาดกรุงเทพฯ พัฒนาอาคารสำนักงานเกรดพรีเมียมเพิ่ม

คาดกรุงเทพฯ พัฒนาอาคารสำนักงานเกรดพรีเมียมเพิ่ม

(ภาพตัวอย่าง)โครงการวัน แบงค็อก โดยกลุ่มทีซีซี

       อาคารสำนักงานโดยทั่วไปถูกจัดแบ่งคุณภาพออกเป็นเกรดต่าง ๆ โดยเกรดเอ เป็นอาคารที่มีคุณภาพสูงสุด ซึ่งมักมีค่าเช่าสูงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้วงการอสังหาริมทรัพย์กระทั่งในระดับภูมิภาค และระดับโลก กำลังมีการพิจารณาเพิ่มเกรดอาคารสำนักงานขึ้นอีกหนึ่งระดับ คือ เกรดพรีเมียม แม้ในกรุงเทพฯ จะมีอาคารสำนักงานจำนวนไม่มากที่มีคุณสมบัติตรงตามเกรดใหม่นี้ แต่เชื่อว่าโครงการใหม่ ๆ ในอนาคตจะได้รับการออกแบบ และบริหารจัดการให้เป็นอาคารเกรดพรีเมียมมากขึ้น ตามรายงานจากบริษัทที่ปรึกษา และบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล

การจัดแบ่งเกรดอาคารสำนักงาน มักทำโดยบริษัทบริการและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาผลประกอบการของตลาดอาคารสำนักงานในแต่ละเกรด ส่วนผู้พัฒนาโครงการ และเจ้าของอาคารใช้การจัดแบ่งเกรดนี้เป็นเป็นเกณฑ์อ้างอิงประกอบการกำหนดอัตราค่าเช่า ขณะที่ผู้เช่าใช้เกรดของอาคารเป็นหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาว่า อาคารนั้น ๆ มีคุณสมบัติสอดคล้องกับความต้องการของตนและค่าเช่าหรือไม่

       นายเด็กซ์เตอร์ นอร์วิลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารอาคาร เจแอลแอล กล่าวว่า “แม้การแบ่งเกรดอาคารอาจถูกมองว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัว เนื่องจากมีปัจจัยหลายปัจจัยที่มีผลต่อค่าเช่าของอาคาร ในขณะที่อาคารเกรดเอ และเกรดพรีเมียม มีคุณสมบัติหลายประการที่ตรงกัน อาทิ คุณภาพการก่อสร้าง ประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ และทำเลที่ตั้ง แต่ยังมีข้อแตกต่างสำคัญ ๆ ที่สามารถแบ่งแยกอาคารสองเกรดนี้ออกจากกัน อาทิ อาคารเกรดพรีเมียมมักเป็นอาคารรุ่นใหม่ที่มีสเป็คสูงขึ้น ไม่ว่าจะในทางเทคนิค การออกแบบ การก่อสร้าง การจบงาน งานระบบ และอุปกรณ์ที่ติดตั้ง และการตกแต่ง เป็นต้น”

นอกเหนือจากคุณสมบัติทางกายภาพแล้ว ยังมีคุณสมบัติทางนามธรรมที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการกำหนดเกรดอาคารด้วย อาทิ ภาพลักษณ์ของอาคาร ซึ่งอาคารที่มีภาพลักษณ์ดีมักมีความสามารถในการแข่งขันสูง เนื่องจากสามารถส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร หรือบริษัทที่มีสถานประกอบการในอาคารนั้นๆ

คุณภาพการบริหารจัดการอาคาร เป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งทางนามธรรมที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการกำหนดเกรดพรีเมียมของอาคาร ทั้งนี้ นอกเหนือจากมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัย และความยั่งยืนด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการของอาคารเกรดพรีเมียมยังให้ความสำคัญอย่างมากกับการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้อาคาร ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกของบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ที่เช่าพื้นที่ในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของบริการต่าง ๆ ภายในอาคาร รวมไปจนถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ฝ่ายบริหารจัดให้มีขึ้นเพื่อสร้างการมีส่วนร่วม และประสบการณ์ที่ดีของบริษัทผู้เช่าพื้นที่ในอาคาร

       นายเด็กซ์เตอร์ กล่าวว่า ในการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานเกรดพรีเมียม ผู้พัฒนาโครงการต้องมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน และดึงที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมนับตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนโครงการ ซึ่งที่ปรึกษาเหล่านี้ไม่ได้หมายถึงเฉพาะแต่บริษัทสถาปนิก และวิศวกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนทางพลังงาน และสิ่งแวดล้อม และบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการอาคารด้วย

สำหรับในกรุงเทพฯ อาคารสำนักงานที่จัดได้ว่าอยู่ในกลุ่มเกรดพรีเมียมยังมีสัดส่วนไม่มาก ตัวอย่างเช่น อาคารปาร์ค เวนเชอร์ อีโคคอมเพล็กซ์, อาคารสาทร สแควร์, อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ และ เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ เป็นต้น

ขณะที่อาคารสำนักงานเกรดพรีเมียมที่มีอยู่ในขณะนี้ล้วนเป็นอาคารที่ประสบความสำเร็จสูง โครงการอาคารสำนักงานใหม่กำลังจะเกิดขึ้นตามมา จะมุ่งเน้นการเป็นอาคารเกรดพรีเมียมด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น โครงการวัน แบงค็อก โดยกลุ่มทีซีซี ซึ่งได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีการออกแบบ และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และตั้งเป้าให้อสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทในโครงการ รวมถึงอาคารสำนักงาน มีคุณภาพระดับเกรดพรีเมียม

“จากการที่อาคารสำนักงานส่วนใหญ่ที่สร้างเสร็จใหม่ในกรุงเทพฯ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นอาคารเกรดเอ คุณภาพเกรดเอ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดขายสำคัญในปัจจุบันอาจไม่ได้เป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างได้อีกต่อไปในอนาคต ดังนั้น เชื่อว่าโครงการอาคารสำนักงานใหม่ที่จะเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ในอนาคต จะมุ่งเน้นการเป็นอาคารเกรดพรีเมียมมากขึ้น” นายเด็กซ์เตอร์ กล่าว

ที่มา manager.co.th


คุมเข้มแบงก์พ่วงขายประกันคปภ.ชี้ยอดร้องเรียนลด 77%

คปภ.คุมเข้มแบงก์ขายประกันพ่วง ธุรกรรมการเงิน ระบุเรื่องร้องลดวูบ 77% ในรอบ 1 ปี ล่าสุดยกระดับความเข้มข้นการกำกับดูแล ผนึกกำลังสมาคมธนาคารเสริมประสิทธิภาพการกำกับดูแลเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ( คปภ. ) กล่าวว่า คปภ. มีนโยบายให้ความสำคัญอย่างมากในการกำกับดูแลพฤติกรรมทางการตลาดของภาคอุตสาหกรรมประกันภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการขายประกันภัยผ่านธนาคารพาณิชย์ ซึ่งในช่วงปี 2559 จนถึงปีนี้ ทาง คปภ. ได้ลงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อติดตาม การขายประกันผ่านธนาคารพาณิชย์  ส่งผลให้ ปัจจุบันเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการบังคับซื้อประกันภัยร่วมกับธุรกรรมทางการเงินมีอัตราลดลงถึง 77% เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา

เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพ ต่อเนื่องและยั่งยืนยิ่งขึ้น   คปภ.จึงได้ลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทย ดำเนินงานร่วมกันใน 5 ด้านหลัก ประกอบด้วย

(1) ส่งเสริมให้ธนาคาร สมาชิกสมาคมธนาคารไทย รวมทั้งบุคลากรของธนาคารดังกล่าว เสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้กับลูกค้าถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นหลัก

(2) เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยประเภทต่างๆ  เช่น กรมธรรม์ประกันภัยทางไซเบอร์แก่ธนาคารสมาชิกสมาคมธนาคารไทย รวมทั้งบุคลากรของธนาคารดังกล่าว

(3) ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ ด้านการประกันภัย ด้านการเงิน และด้านการลงทุนระหว่างบุคลากรทั้งสำนักงาน คปภ. และธนาคารสมาชิกสมาคมธนาคารไทย

(4) เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ หรือกิจกรรมอื่นๆ อันเป็นประโยชน์ต่อทั้งสำนักงาน คปภ. และธนาคารสมาชิกสมาคมธนาคารไทย และก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่มีประโยชน์ต่อประชาชน สังคม และประเทศชาติ

(5) ดำเนินการอื่นๆ ตามที่สำนักงาน คปภ. และสมาคมธนาคารไทย เห็นสมควร

นอกจากนี้ ในการประชุมร่วมกัน เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ได้หารือถึงแนวทางจัดทำ รายงานการประเมินระบบควบคุมคุณภาพ การขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยของธนาคาร (Market Conduct Annual Statement : MCAS) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดประเด็นสำคัญในการตรวจสอบร่วมกัน ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ คาดว่า จะเป็นประโยชน์ในการควบคุมมาตรฐานการขายที่ดีของธนาคารในระยะยาว

“การประชุมหารือการกำกับและควบคุมคุณภาพขายประกันภัยผ่านธนาคาร เพื่อติดตามปัญหา อุปสรรคและให้ สมาคมธนาคารไทยกระตุ้นเตือนสมาชิก ตระหนักถึงความสำคัญการควบคุมคุณภาพขายประกัน การจัดให้มีหน่วยงานและบุคคลที่รับผิดชอบเกี่ยวกับ การเสนอขายกรมธรรม์ระดับนโยบาย และระดับปฏิบัติการ จัดให้มีกฎระเบียบ หรือแนวปฏิบัติ พร้อมบทลงโทษ กรณีพบการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม”

พร้อมทั้งยังได้ออกข้อเสนอแนะประชาชน 12 ข้อในการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านช่องทางธนาคาร ซึ่งติดประกาศเผยแพร่ในสาขาทั่วประเทศ

ที่มา  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


หลงรักหน้าฝน ท้าเที่ยวกรีนซีซั่น

หลงรักหน้าฝน ท้าเที่ยวกรีนซีซั่น

โดย…กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์

พอเข้าเดือนหก ฝนก็ตกพรำๆ อันเป็นสัญญาณของกรีนซีซั่น ที่กำลังมาเยือนแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทยอย่างเป็น

ทางการ ถึงแม้ว่าจะเป็นฤดูกาลที่คนอยากเดินทางน้อย แต่กลับเป็นช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่สนุกและชิลไม่ใช่ย่อย ที่สำคัญคือ ราคาถูกและคนน้อยจนทำให้ทุกคนกลายเป็นแขกวีไอพี

แหล่งท่องเที่ยวที่จะฟื้นคืนชีพช่วงหน้าฝนมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทุ่งนาสีเขียวที่เพิ่งแทงต้นอ่อนหลังฝนตกได้ไม่นาน สายหมอกลอยคว้างเหนือยอดดอย ลำน้ำเกรี้ยวกราดรอให้กำราบ หยดน้ำค้างปลายกลีบบุปผา หรือที่พักท่ามกลางธรรมชาติที่จะทำให้ขี้เกียจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ตูบนาโฮมสเตย์ อ.ปัว จ.น่าน

นานาท้องนา

หลังพิธีกรรมขอฝนผ่านพ้นไป ความกดอากาศต่ำก็เคลื่อนมาปกคลุมประเทศไทย เปลี่ยนแปลงความร้อนให้เป็นเม็ดฝนชุ่มฉ่ำใจชาวนาที่กำลังหวังน้ำจากฟ้ารดเมล็ดข้าวให้เติบโต โดยในเดือน ส.ค.ชาวนาจะช่วยกันลงแขก จากนั้นช่วงกลางเดือน ส.ค.-ต.ค.จะเป็นช่วงของความเขียวขจี

จุดหมายปลายทางของท้องนาต้องยกให้ เมืองปัว จ.น่าน อำเภอเล็กๆ ที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นข้าวสีเขียวอ่อน ซึ่งจุดชมนาที่ดีที่สุดอยู่ที่วัดภูเก็ต มองลงมาจะเห็นผืนนากว้างสุดลูกหูลูกตาแบ่งเป็นแปลงๆ แบบไม่เป็นระเบียบเสมือนภาพแอบสแทรกต์ที่พยายามสื่อความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ของน้ำท่า และวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวปัว

ในภูมิภาคเดียวกันยังเป็นช่วงเวลาอันดีที่จะไปศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่าละว้าและกะเหรี่ยงที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน สถานที่ตั้งของธนาคารข้าวแห่งแรกของโลก และเป็นพื้นที่ปลูกนาข้าวขั้นบันไดสุดยิ่งใหญ่ ท่ามกลางไร่กาแฟสายพันธุ์อราบิกาใต้ผืนป่าดิบชื้น

นอกจากนี้ บนกลางเกาะของ เกาะกลาง จ.กระบี่ ก็เป็นแหล่งปลูกข้าวสังข์หยดแบบวิถีอินทรีย์ ความพิเศษของข้าวที่นี่จะปลูกด้วยดินเค็มที่มีน้ำทะเลปะปน จึงทำให้ข้าวมีความหอม หุงขึ้นหม้อ และเคี้ยวนุ่ม ซึ่งทุ่งนาบนเกาะจะมีให้เห็นแค่ปีละครั้งในช่วงเดือน ส.ค.เท่านั้น

ตูบนา โฮมสเตย์ ปัว น่าน

จับหมอกหยอกไอฝน

สิ่งที่มาเคียงคู่กับสายฝนมักเป็นสายหมอก แต่ถ้าเป็นทะเลหมอกอลังการต้องขึ้นไปสัมผัสที่ ผาตั้ง จ.เชียงราย ดอยซึ่งอุดมไปด้วยผืนป่าและกาแฟชั้นดี เหมาะอย่างยิ่งแก่การนั่งละเลียดถ้วย ยโปรดแลมองกลุ่มไอน้ำที่รวมตัวกันอยู่เหนือยอดไม้ ซึ่งฟ้าหลังฝนจะสวยงามกว่าช่วงเวลาใด เพราะนอกจากความชุ่มฉ่ำหัวใจ ยังจะได้เห็นทะเลหมอกในเวลากลางวัน

รวมถึงภาคอีสานที่จะกลายเป็นสีเขียวแทนที่ความแห้งแล้งจนหมดสิ้น โดยเฉพาะจุดชมหมอกริมแม่น้ำโขงอย่าง ภูห้วยอีสัน จ.หนองคาย ที่พร้อมเสิร์ฟหมอกเคียงคู่พระอาทิตย์ทุกวัน แบบไม่ต้องลุ้น แต่หากอยากสัมผัสใกล้ขึ้น สกายวอล์ก บริเวณวัดผาตากเสื้อ ก็รอให้นักท่องเที่ยวไปเดินเหนือเมฆหมอกบนพื้นกระจกใสยาว 16 ม.

กาแฟยามเช้า บนภูห้วยอีสัน

ทุ่งดอกไม้และป่าฝน

ใครว่าหน้าฝนดอกไม้จะร่วงโรย เพราะนี่คือช่วงเวลาของทุ่งดอกกระเจียวราชินีป่าฝนในเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน ประจำปี 2560 ระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค. ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูมิ แหล่งชมดอกกระเจียวตามธรรมชาติทั้งดอกสีขาว เขียว และชมพูอมม่วง ท่ามกลางป่าฝนและไอหมอกยามเช้า

เช่นเดียวกับ อุทยานไม้ดอกเพ ลา เพลิน จ.บุรีรัมย์ ก็ได้รวบรวมดอกกระเจียวกว่า 10 สายพันธุ์มาจัดแสดง ไม่ว่าจะเป็นสีขาวม็องบลัง สีชมพูมะลิ สีแดงกุหลาบแดงวิเชียร เชียงใหม่พิงค์ ปากนกแก้ว หงส์เหิน และเขียวช็อกโกแลต พร้อมกิจกรรมชิมอาหารจากดอกกระเจียวระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค.

นอกจากนี้ ความลับแห่งฤดูกาลยังปรากฏบนยอด ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ สถานที่ชมดอกหงอนนาคสีม่วงกระจิริดที่ต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยยากกับเส้นทางเดินเขากว่า 4-6 ชม.โดยจะเปิดให้กางเต็นท์บนยอดภูช่วงปลายฝนต้นหนาวเพื่อความปลอดภัยและให้ธรรมชาติฟื้นฟู ซึ่งนอกจากดอกหงอนนาค ภูสอยดาวยังมีป่าสนสามใบ ดอกไม้ป่าสีสันสดใส และดอกไม้ฟ้าอย่างดวงดาวสะพรั่งสมกับชื่อภู

ดงดอกกระเจียว จ.ชัยภูมิ

ฤดูล่องแก่ง

ปริมาณน้ำฝนช่วยเติมเต็มเกาะแก่ง ดึงดูดให้ชาวแอดเวนเจอร์มาออกล่ากระแสน้ำเชี่ยวแรงกับกิจกรรมล่องแก่งที่กำลังมาถึงนี้ โดยมีหลายพื้นที่ ได้แก่ ล่องแก่งลำน้ำเข็กจ.พิษณุโลก บนเส้นทางคดเคี้ยวยาว 8 กม. ระหว่างทางจะมีแก่งหินน้อยใหญ่ให้พิสูจน์ความกล้า 17 แก่ง และมีความยากระดับ 1-5

ล่องแก่งแม่น้ำปาย จ.แม่ฮ่องสอน ลำน้ำจะลัดเลาะไปตามซอกภูเขาและป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เป็นเส้นทาง 2 วัน 1 คืน ต้องตั้งแคมป์ค้างคืนในป่าสำหรับคนกล้าใจอึดที่ชื่นชอบการล่องแก่งอย่างแท้จริง หรือเส้นทาง ล่องแก่งแม่น้ำนครนายก จ.นครนายก ใกล้กรุงเทพฯ มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวแก่งหินสามชั้น ลักษณะคล้ายขั้นบันไดที่สามารถสร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้พอสมควร ซึ่งกระแสน้ำจะไหลแรงช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค.

บ้านไร่ไออรุณ

นอนชิล กินคลีน

ที่พักหน้าฝนไม่ต้องหรูหรา แต่ต้องสบายใจและสบายตาอย่างเกสต์เฮาส์ริมท้องนาที่ ตูบนาโฮมสเตย์ และ ตูบน่าน อ.ปัว จ.น่าน ห้องพักหลังน้อยกับวิวร้อยล้านที่ ช่วงหน้าฝนจะมีทุ่งนาและอาหารโฮมเมดจากวัตถุดิบพื้นบ้านคอยต้อนรับผู้มาเยือน

อีกแห่งที่น่านอนพักฟังเสียงฝนพรำคือพื้นที่เเห่งรัก บ้านไร่ไออรุณ จ.ระนอง ที่พักสุดน่ารักท่ามกลางธรรมชาติและแปลงผักตามวิถีพอเพียง ซึ่งบรรยากาศจะเขียวชอุ่ม ฟุ้งไปด้วยกลิ่นดิน และชุ่มชื่นไปด้วยไอฝนอันเป็นเสน่ห์ของเมืองฝนแปดแดดสี่แห่งนี้

รวมถึงภาคอีสานก็มีที่พักบรรยากาศดีอยู่ที่ ภูเรือเรือนไม้รีสอร์ท จ.เลย เป็นบ้านไม้หลังน้อยริมท้องนา จิบกาแฟอุ่นๆ ที่ คาเฟ่ ดี มีนา ไปเดินเล่นบนสะพานไม้ไผ่เหนือทุ่งนา หรือจะสนทนากับเจ้าถิ่นพี่แช่มช้อยก็ได้อรรถรสดี

เพราะหลังม่านฝนยังมีม่านหมอก หลังม่านหมอกยังมีธรรมชาติ ซึ่งจะฟื้นฟูความงามหลังถูกปลุกด้วยสายฝน รวมถึงผู้คนก็จะชื่นใจที่ถึงแม้ว่าจะเลี่ยงฤดูกาลไม่ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรฟ้าหลังฝนก็ย่อมงดงามเสมอ

ที่มา .posttoday.com


พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน

พุทธโอวาทก่อนปรินิพพานนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานแก่พระอานนท์ผู้เป็นพระอุปัฏฐากและพระภิกษุคราที่ทรงปรงพระชนมายุสังขารออกเดินทางด้วยพระบาทเปล่าจากปาวาลเจดีย์ไปยังกรุงกุสินาราสถานที่ปรินิพพานตลอดพระชนมชีพ พระพุทธเจ้าหาได้ทรงท้อแท้หรือเหน็ดเหนื่อยต่อการเผยแพร่ธรรมไม่ยังทรงประกาศพระธรรมอันประเสริฐที่ทรงค้นพบด้วยพระองค์เองแก่พุทธบริษัท 4ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้คราเมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาถึงปาวาลเจดีย์ ได้ประทับอยู่ใต้ต้นไม้ที่มีเงาครึ้มต้นหนึ่งโดยมีพระอานนท์หมอบลงที่พระบาทมูลแล้วทูลว่า

“ ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ ขอพระองค์อาศัยความกรุณาแก่ข้าและหมู่สัตว์จงดำรงพระชนมชีพต่อไปอีกเถิดอย่าเพิ่งด่วนปรินิพพานเลย ”กราบทูลเท่านี้แล้วพระอานนท์ก็ไม่ทูลอะไรต่อไปอีกเพราะโศกาดูรท่วมท้นหทัย“

อานนท์เอ๋ย ” พระศาสดาตรัสพร้อมทอดทัศนาการไปเบื้องหน้าอย่างสุดไกลลีลาอันเด็ดเดี่ยวฉายออกมาทางพระเนตรและพระพักตร์ “เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ตถาคตกลับใจตถาคตจะต้องปรินิพพานในวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ อีกสามเดือนข้างหน้านี้ อานนท์เราได้แสดงนิมิตโอภาสอย่างแจ่มแจ้งแก่เธอพอเป็นนัยมาไม่น้อยกว่า 16 ครั้งแล้วว่าคนอย่างเรานี้มีอิทธิบาทภาวนาที่ได้อบรมมาด้วยดีถ้าประสงค์จะอยู่ถึงหนึ่งกัปป์หรือมากกว่านั้นก็พออยู่ได้ แต่เธอหาเฉลียวใจไม่ได้ทูลอะไรเราเลยเราตั้งใจไว้ว่าในคราวก่อนๆนั้นถ้าเธอทูลให้เราอยู่ต่อไปเราจะห้ามเสียสองครั้งพอเธอทูลครั้งที่สามเราจะรับอาราธนาของเธอแต่บัดนี้ช้าเสียแล้ว เรามิอาจกลับใจได้อีก”

“ อานนท์เอ๋ย ” บัดนี้สังขารอันเป็นเหมือนเกวียนชำรุดนี้เราได้สละแล้วเรื่องที่จะดึงกลับมาอีกครั้งหนึ่งนั้นไม่ใช่วิสัยแห่งตถาคต….บุคคลย่อมต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พึงใจเป็นธรรมดาหลีกเลี่ยงไม่ได้ อานนท์เอ๋ย ชีวิตนี้มีความพลัดพรากเป็นที่สุดสิ่งทั้งหลายมีความแตกดับไปสลายไปเป็นธรรมดาจะปรารถนามิให้เป็นอย่างที่มันควรจะเป็นนั้นเป็นฐานะที่ไม่พึงหวังได้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปเคลื่อนไปสู่จุดสลายตัวทุกขณะ ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศีลเป็นพื้นฐานที่รองรับคุณอันยิ่งใหญ่ประหนึ่งแผ่นดินเป็นสิ่งที่รองรับและตั้งลงแห่งสิ่งทั้งหลาย เป็นต้นว่าพฤกษาลดาวัลย์มหาสิงขรและสัตว์จตุบททวิบาทนานาชนิด บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้นใจย่อมอยู่สบายมีความปลอดโปร่งเหมือนเรือนที่บุคคลปัดกวาดเช็ดถูเรียบร้อย ปราศจากเรือดและฝุ่นเป็นที่รบกวน ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศีลนี้เองเป็นพื้นฐานให้เกิดสมาธิ คือ ความสงบใจ สมาธิที่มีศีลเป็นเบื้องต้นเป็นสมาธิที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก บุคคลผู้มีสมาธิย่อมอยู่อย่างสงบ เหมือนเรือนที่มีฝาผนังมีประตูหน้าต่างปิดเปิดเรียบร้อย มีหลังคาป้องกันลม แดดและฝน ผู้อยู่ในเรือนเช่นนี้ ฝนตกก็ไม่เปียกแดดออกก็ไม่ร้อนฉันใด บุคคลผู้มีจิตเป็นสมาธิก็ฉันนั้น ย่อมสงบอยู่ได้ไม่กระวนกระวายเมื่อลม แดดและฝนกล่าวคือโลกธรรมแผดเผา กระพือพัดซัดสาดเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่าสมาธิอย่างนี้ย่อมก่อให้เกิดปัญญาในการฟาดฟันย่ำยี และเชือดเฉือนกิเลสอาสวะให้เบาบางและหมดสิ้นไป ”

“ อันว่าจิตนี้เป็นธรรมชาติที่ผ่องใสอยู่โดยปกติ แต่เศร้าหมองไปเพราะคลุกเคล้าด้วยกิเลสนานาชนิด ศีลสมาธิและปัญญา เป็นเครื่องฟอกจิตให้ขาวสะอาดดังเดิม จิตที่ฟอกด้วยศีล สมาธิและปัญญาย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งปวง ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาทางทั้งหลาย มรรคมีองค์ 8 ประเสริฐที่สุด บรรดาบททั้งหลายบท 4 คืออริยสัจประเสริฐที่สุด บรรดาธรรมทั้งหลาย วิราคะ คือ การปราศจากความกำหนัดยินดี ประเสริฐที่สุดบรรดาสัตว์สองเท้า พระตถาคตเจ้าผู้มีจักษุประเสริฐที่สุด มรรคมีองค์ 8นี่แลเป็นไปเพื่อทัศนะอันบริสุทธิ์ หาใช่ทางอื่นไม่ เธอทั้งหลายจงเดินไปตามทางมรรคมีองค์ 8 นี้อันเป็นทางที่ทำมารให้หลงติดตามมิได้ เธอทั้งหลายจงตั้งใจปฏิบัติเพื่อทำทุกข์ให้สิ้นไปตถาคตเป็นเพียงผู้บอกทางเท่านั้น เมื่อปฏิบัติดังนี้พวกเธอจักพ้นจากมารและบ่วงแห่งมาร

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอจงมองดูโลกนี้โดยความเป็นของว่างเปล่า มีสติอยู่ทุกเมื่อ ถอนอัตตานุทิฐิ คือความยึดมั่นเรื่องของตนเสีย ด้วยประการฉะนี้เธอจะเบาสบายคลายทุกข์คลายกังวลไม่มีความสุขใดยิ่งกว่าการปล่อยวางและการสำรวมตนอยู่ในธรรม ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่มีความสุขใดเสมอด้วยความสงบ ความสุขชนิดนี้สามารถหาได้ด้วยตัวเรานี้เองตราบใดที่มนุษย์ยังวิ่งวุ่นแสวงหาความสุขจากที่อื่น เขาจะไม่พบความสุขที่แท้จริงเลยมนุษย์ได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆขึ้นไว้เพื่อให้ตัวเองวิ่งตามแต่ก็ตามไม่เคยทันการแสวงหาความสุขโดยปล่อยใจให้ไหลเลื่อนไปตามอารมณ์ที่ปรารถนานั้นเป็นการลงทุนที่มีผลไม่คุ้มเหนื่อยเหมือนบุคคลลงทุนวิดน้ำในบึงใหญ่เพื่อต้องการปลาเล็ก ๆ เพียงตัวเดียวมนุษย์ส่วนใหญ่มัววุ่นวายอยู่กับเรื่องกาม เรื่องกินและเรื่องเกียรติ จนลืมนึกถึงสิ่งหนึ่งซึ่งสามารถให้ความสุขแก่ตนได้ทุกเวลา สิ่งนั้นคือดวงจิตที่ผ่องแผ่ว เรื่องกามเป็นเรื่องที่ต้องดิ้นรนเรื่องกินเป็นเรื่องที่ต้องแสวงหา เรื่องเกียรติเป็นเรื่องที่ต้องแบกไว้ภาระที่ต้องแบกเกียรติเป็นเรื่องที่ใหญ่ยิ่งของมนุษย์ผู้หลงตนว่าเจริญแล้วในหมู่ชนที่เพ่งแต่ความเจริญทางด้านวัตถุนั้น จิตใจของเขาเร่าร้อนอยู่ตลอดเวลาไม่เคยประสบความสงบเย็นเลย เขายินดีที่จะมอบตัวให้จมอยู่ในคาวของโลกอย่างหลับหูหลับตาเขาพากันบ่นว่าหนักและเหน็ดเหนื่อย พร้อมๆกันนั้นเขาได้แบกก้อนหินวิ่งไปบนถนนแห่งชีวิตอย่างไม่รู้จักวาง”

“ ภายในอาคารมหึมาประดุจปราสาทแห่งกษัตริย์ มีลมพัดเย็นสบายแต่สถานที่เหล่านั้นมักบรรจุไปด้วยคนที่มีจิตใจเร่าร้อนเป็นไฟอยู่เป็นอันมากภาวะอย่างนั้นจะมีความสุขสู้ผู้มีใจสงบที่อยู่โคนไม้ได้อย่างไร ”

“ ความสุขนั้นอยู่ที่ความรู้สึกทางใจเป็นสำคัญ อย่างพวกเธออยู่ที่นี่มีแต่ความพอใจแม้กระท่อมจะมุงด้วยใบไม้ ก็มีความสุขกว่าอยู่ในพระราชฐานอันโอ่อ่าแน่นอนทีเดียวคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนี้มิใช่คนใหญ่คนโต แต่เป็นคนที่รู้สึกว่าชีวิตของตนมีความสุขสงบเยือกเย็น ปราศจากความเร่าร้อนกระวนกระวาย ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภและยศนั้นเป็นเหยื่อของโลกที่น้อยคนนักจะสละละวางได้ จึงแย่งลาภและยศกันอยู่เสมอเหมือนปลาที่แย่งเหยื่อกันกิน แต่หารู้ไม่ว่าเหยื่อนั้นมีเบ็ดเกี่ยวอยู่ด้วยหรือเหมือนไก่ที่แย่งไส้เดือนกัน จิกตีกัน ทำลายกันจนพินาศกันทั้งสองฝ่าย น่าสังเวชสลดจิตยิ่งนักถ้ามนุษย์ในโลกนี้ลดความโลภลง มีการเผื่อแผ่เจือจานโอบอ้อมอารี ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกันมีเมตตากรุณาต่อกัน และลดโมหะลง ไม่หลงงมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหาและดำเนินชีวิตโลกนี้จะน่าอยู่อีกมาก แต่ช่างเขาเถิดหน้าที่โดยตรงและเร่งด่วนของเธอ คือ ลดความโลภความโกรธและความหลงของเธอเองให้น้อยลง แล้วจะประสบความสุขเยือกเย็นขึ้นมาก เหมือนคนลดไข้ได้มากเท่าใดความสบายกายก็มีมากขึ้นเท่านั้น ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ยิ่งเจริญก็ดูเหมือนจะมีเสรีภาพน้อยลงทั้งทางกายและทางใจดูแล้วความสะดวกสบายและเสรีภาพของมนุษย์ยังสู้สัตว์เดรัจฉานบางประเภทไม่ได้ที่มันมีเสรีภาพที่จะทำอะไรตามใจชอบอยู่เสมอ ดูอย่างเช่น ฝูงวิหกนกกา มนุษย์เราเจริญกว่าสัตว์ตามที่มนุษย์เราเองชอบพูดกันแต่ดูเหมือนพวกเราจะมีความสุขน้อยกว่าสัตว์ ภาระใหญ่จะที่ต้องแบกไว้ คือ เรื่องกาม เรื่องกินและเรื่องเกียรติ สัตว์เดรัจฉานตัดไปได้อย่างหนึ่งคือเรื่องเกียรติ คงเหลือแต่เรื่องกามและเรื่องกินนักพรตอย่างพวกเธอนี้ตัดไปได้อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องกาม คงเหลือแต่เรื่องกินอย่างเดียวแต่การกินอย่างนักพรตกับการกินของผู้บริโภคกามก็ดูเหมือนจะบริโภคแตกต่างกันอยู่ผู้บริโภคกามและยังหนาแน่นอยู่ด้วยโลกียวิสัย บริโภคเพื่อยุกามให้กำเริบจะต้องกินให้มีเกียรติกินให้สมเกียรติ มิได้กินเพียงเพื่อให้ร่างกายนี้ดำรงอยู่ได้อย่างสมณะความจริงร่างกายคนเราไม่ได้ต้องการอาหารอะไรมากนัก เมื่อหิวก็ต้องการอาหารบำบัดความหิวเท่านั้นแต่เมื่อมีเกียรติเข้ามาบวกด้วย จึงกลายเป็นเรื่องกินอย่างเกียรติยศ และแล้วก็มีภาระตามมาอย่างหนักหน่วงคนจำนวนมากเบื่อเรื่องนี้แต่จำเป็นต้องทำ เหมือนโคหรือควายซึ่งเหนื่อยหน่ายต่อแอกและไถแต่จำใจต้องลากมันไป อนิจจา ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เครื่องจองจำที่ทำด้วยเชือก เหล็กหรือโซ่ตรวนใดๆเราไม่กล่าวว่าเป็นเครื่องจองจำที่แข็งแรงทนทานเลย แต่เครื่องจองจำ คือ บุตรภรรยาและทรัพย์สมบัตินี่แลตรึงมัดรัดผูกสัตว์ให้ติดอยู่ในภพอันไม่มีที่สิ้นสุด เครื่องผูกที่ผูกหย่อนๆคือ บุตร ภรรยาและทรัพย์สมบัตินี่เอง รูป เสียง กลิ่น รสและโผฏฐัพพะเป็นเหยื่อของโลกเมื่อบุคคลยังติดอยู่ในรูปเป็นต้นนั้น เขาจะพ้นจากโลกมิได้เลย ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย กลิ่นดอกไม้กลิ่นจันทน์ไม่สามารถหอมหวนทวนลมได้แต่กลิ่นแห่งเกียรติคุณความดีงามของสัตบุรุษนั้นแล สามารถจะหอมไปได้ทั้งตามลมและทวนลมคนดีย่อมมีเกียรติคุณฟุ้งขจรไปได้ทั่วทุกทิศ กลิ่นจันทน์แดง กลิ่นอุบล กลิ่นดอกมะลิจัดว่าเป็นดอกไม้กลิ่นหอม แต่ยังสู้กลิ่นศีลไม่ได้ กลิ่นศีลยอดเยี่ยมกว่ากลิ่นทั้งมวลถ้าภิกษุหวังจะให้เป็นที่รักที่เคารพ เป็นที่ยกย่องของเพื่อนพรหมจารีแล้วพึงเป็นผู้ทำตนให้สมบูรณ์ด้วยศีลเถิด ”

“ สัตว์โลกเมื่อเกิดมาย่อมนำความทุกข์ติดตัวมาด้วย ตราบใดที่เขายังไม่สลัดความพอใจในสังขารออกความทุกข์ก็ย่อมติดตามไปเสมอ เหมือนโคที่ยังมีแอกเกวียนครอบคออยู่ ล้อเกวียนย่อมติดตามไปทุกฝีก้าว ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมชาติของจิตเป็นสิ่งดิ้นรนกลับกลอกง่าย บางคราวปรากฏเหมือนช้างตกมันพวกเธอจงเอาสติเป็นขอเหนียวรั้งช้าง คือจิตที่ดิ้นรนนี้ให้อยู่ในอำนาจบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดและควรแก่การสรรเสริญนั้นคือผู้ที่สามารถเอาชนะตนของตนเองไว้ในอำนาจได้สามารถเอาชนะตนเองได้ ผู้ชนะตนได้ชื่อว่าเป็นยอดนักรบในสงคราม เธอทั้งหลายจงเป็นยอดนักรบในสงครามเถิดอย่าเป็นผู้แพ้เลย ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้อดทนต่อคำล่วงเกินของผู้สูงกว่าก็เพราะความกลัวอดทนต่อคำล่วงเกินของผู้เสมอกันเพราะเห็นว่าพอสู้กันได้แต่ผู้ใดอดทนต่อคำล่วงเกินของผู้ซึ่งด้อยกว่าตนได้ เราเรียกความอดทนนั้นว่าสูงสุด ผู้มีความอดทน มีเมตตาย่อมเป็นผู้มีลาภ มียศ อยู่เป็นสุข เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อลืมตาขึ้นดูโลกเป็นครั้งแรกเราก็ร้องไห้พร้อมกำมือไว้แน่นเป็นสัญลักษณ์ว่าเกิดมาเพื่อจะหน่วงเหนี่ยวยึดถือ แต่เมื่อจะหลับตาลาโลกนั้นทุกคนแบมือออกเหมือนจะเตือนให้ผู้อยู่เบื้องหลังสำนึกและเป็นพยานว่าเขามิได้เอาอะไรไปด้วยเลย ”

“ เมื่อหัวใจยึดไว้ด้วยความรัก หัวใจนั้นจะสร้างความหวังขึ้นอย่างเจิดจ้า แต่ทุกครั้งที่เราหวังความผิดหวังก็จะรอเราอยู่ ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาว่าไม้จันทน์แม้จะแห้งก็ไม่ทิ้งกลิ่น อัศวินก้าวลงสู่สนามก็ไม่ทิ้งลีลาอ้อยแม้เข้าสู่เครื่องยนต์แล้วก็ไม่ทิ้งรสหวาน บัณฑิตแม้ประสบความทุกข์ก็ไม่ทิ้งธรรม ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความตระหนี่ลาภเป็นความโง่เขลา เหมือนชาวนาที่ตระหนี่ไม่ยอมหว่านพันธุ์ข้าวลงในนาข้าวเปลือกที่หว่านลงแล้วหนึ่งเมล็ดย่อมให้ผลหนึ่งรวงฉันใด ทานที่บุคคลทำแล้วก็ฉันนั้นย่อมมีผลมากผลไพศาล คนดีมีทรัพย์แล้วย่อมบำรุงมารดา บิดา บุตร ภรรยา บ่าวไพร่ให้เป็นสุขบำรุงสมณะพรหมาจารย์ให้เป็นสุข เปรียบเสมือนสระโบกขรณีอันอยู่ไม่ไกลจากบ้านหรือนิคม มีท่าลงเรียบร้อยสะอาดเยือกเย็น น่ารื่นรมย์ มหาชนย่อมได้อาศัย นำไปอาบดื่มและใช้สอยตามต้องการโภคทรัพย์ของคนดีย่อมเป็นดังนี้ หาอยู่โดยเปล่าประโยชน์ไม่ ”

“ การเสียสละนั้น คือการได้มาซึ่งผลอันเลิศในบั้นปลาย ผู้ไม่ยอมเสียสละอะไรย่อมไม่ได้อะไร จงดูเถิดมนุษย์ทั้งหลายรดน้ำต้นไม้ที่โคนแต่ต้นไม้นั้นย่อมให้ผลที่ปลาย ”

“ บุคคลไม่ควรประมาทว่าบุญหรือบาปเพียงเล็กน้อยจะไม่ให้ผลหยาดน้ำที่ไหลลงทีละหยดยังทำให้แม่น้ำเต็มได้ฉันใด การสั่งสมบุญหรือบาปเพียงเล็กน้อยก็ฉันนั้นผู้สั่งสมบุญย่อมเปี่ยมล้นไปด้วยบุญ ผู้สั่งสมบาปย่อมเพียบแปล้ไปด้วยบาป ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันร่างกายนี้สะสมแต่ของสกปรกโสโครก มีสิ่งปฏิกูลไหลออกจากทวารทั้งเก้ามีช่องหูช่องจมูก เป็นต้น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เล็กสัตว์น้อย เป็นป่าช้าแห่งซากสัตว์นานาชนิด เป็นรังแห่งโรคเป็นที่เก็บโรค อุปมาเหมือนถุงหนังซึ่งบรรจุเอาสิ่งโสโครกต่างๆเข้าไว้แล้วซึมออกมาเสมอๆเจ้าของกายจึงต้องชำระล้าง ขัดถูวันละหลายๆครั้ง เมื่อเว้นจากการชำระล้างแม้เพียงวันเดียวหรือสองวันกลิ่นเหม็นก็ปรากฏเป็นที่น่ารังเกียจ เป็นของน่าขยะแขยง ”

“ ดูกรอานนท์ บิณฑบาตทานที่มีอานิสงส์มาก มีผลไพศาล คือ เมื่อนางสุชาดาถวายเราก่อนตรัสรู้ครั้งหนึ่งและอีกครั้งหนึ่งที่จุนทะถวายนี้ ครั้งแรกเสวยอาหารของสุชาดาแล้วตถาคตก็ถึงซึ่งกิเลสนิพพานครั้งหลังนี้เสวยอาหารของจุนทะบุตรนายช่างทอง แล้วเราก็นิพพานด้วยขันธ-นิพพาน คือ ดับขันธ์อันเป็นวิบากที่ยังเหลืออยู่ ถ้าใครๆจะพึงตำหนิจุนทะ เธอพึงกล่าวให้เขาเข้าใจตามนี้ถ้าจุนทะพึงจะเดือดร้อนใจ เธอพึงกล่าวปลอบให้เขาหายกังวลใจเสียอาหารของจุนทะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายสำหรับเรา ”

“ อานนท์เอ๋ย พึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่าธรรมวินัยอันใดที่เราได้แสดงแล้ว บัญญัติแล้วขอให้ธรรมวินัยอันนั้นจงเป็นศาสดาของพวกเธอแทนเราต่อไป ”

“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว เราขอเตือนพวกเธอทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่าสิ่งทั้งปวงมีเสื่อมและสิ้นไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด ”

ย่างเข้าปัจฉิมยาม ณ ใต้ต้นสาละคู่แห่งกุสินารานครมีพระผู้มีพระภาคเจ้าพึงปรินิพพานอยู่ในที่นั้นและพรั่งพร้อมด้วยพุทธบริษัทเนืองแน่นเป็นปริมณฑลทอดไกลสุดสายตา พระธรรมที่พระองค์ทรงพร่ำสอนมาตลอดพระชนมชีพว่าสัตว์ทั้งหลายมีความตายเป็นที่สุดนั้น เป็นสัจธรรมที่ไม่ยกเว้นแม้แต่พระองค์เอง

ที่มา  www.jozho.net


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 23/06/2560

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,100.00 20,200.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,302.00 19,738.32 20,700.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,171.80 17,764.49 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 586.00 8,883.76 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 456.00 6,912.96 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,349.00 20,450.84 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  23/06/2560


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55
แก๊สโซฮอล E-20 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04
แก๊สโซฮอล E-85 19.24 19.24 19.24 19.24
แก๊สโซฮอล 91 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28
เบนซิน 95 32.66 33.11 33.11 33.16 32.66 32.66 32.66
ดีเซลหมุนเร็ว 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 26.89 27.57 27.57 27.57 27.57
มีผลตั้งแต่ 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า