สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 25 กันยายน 2560

บิ๊กอสังหาฯตุนที่ดินลุยผุดโครงการปีหน้า

บิ๊กอสังหาฯเดินหน้าซื้อที่ดินทำเลซีบีดี เกาะแนวรถไฟฟ้า ปีหน้าลุยผุดโปรเจคเจาะตลาดกลาง-บน ชี้ดีมานด์ยังโต แรงหนุนดัชนีหุ้นนิวไฮ จีดีพีขยับ แห่ลงทุนคอนโดทำเลกลางเมืองผลตอบแทนสูง  “3สมาคมฯ”จัดมหกรรมบ้านฯชิงกำลังซื้อโค้งสุดท้าย มั่นใจตลาดโต10%

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสสุดท้าย มีสัญญาณที่ดีจากตัวเลขจีดีพีและดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง ทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและนักลงทุน

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังมีแนวโน้มขยายตัวมากกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะเดือน ก.ย. ที่ผู้ประกอบการหลายรายเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ โดยขยับจากเดือน ต.ค. มาเปิดตัวเดือน ก.ย.แทน

พบว่าเฉพาะผู้ประกอบการอสังหาฯ 5 รายใหญ่ในตลาด ไม่ว่าจะเป็น พฤกษา ,ศุภาลัย ,เอพี ,ออริจิ้น ,อนันดา เปิดตัวโครงการทุกประเภทรวมกันมูลค่ากว่า 2-3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรายอื่นๆ ที่เปิดตัวโปรเจคใหม่ตลอดเดือน ก.ย. โดยภาพรวมมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน“เท่าตัว”

คาดอสังหาฯปีนี้เติบโต10%

ช่วงครึ่งปีแรก ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล มูลค่าเติบโต 16%  จำนวนยูนิต เติบโต 8% มองว่าครึ่งปีหลังยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านมูลค่า จากการเปิดโครงการกลุ่มไฮเอนด์ ที่หลายโปรเจคได้รับการตอบรับดีจากตลาด

ปีนี้ตลาดรวมอสังหาฯ ไตรมาส1 และ 2 มีมูลค่าไตรมาสละ 9.7 หมื่นล้านบาท  จากการเปิดตัวโครงการใหม่ในเดือน ก.ย. และช่วงไตรมาสสุดท้าย เดือนพ.ย.-ธ.ค. คาดว่าไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ มูลค่าน่าจะอยู่ที่ไตรมาสละ 1 แสนล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา ดังนั้นประเมินว่าทั้งปี 2560 ตลาดอสังหาฯ จะเติบโตได้ในระดับใกล้เคียง 10%

บิ๊กอสังหาฯเร่งซื้อที่ดินลุยปีหน้า

นายประเสิรฐ กล่าวอีกว่าปัจจัยสนับสนุนอสังหาฯเติบโตช่วงไตรมาสสุดท้าย ต่อเนื่องปีหน้า มาจากดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมายืนที่ 1,600 จุด และมีโอกาสแตะ 1,700 จุด ทำให้นักลงทุนในตลาดมีสินทรัพย์ที่ถือครองมากขึ้น และมีความสนใจลงทุนสินทรัพย์ประเภทอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดย่านศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) ที่มีผลตอบแทนการลงทุนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก

ดังนั้นทิศทางอสังหาฯ ปี2561 จึงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 5% โดยเฉพาะคอนโดไฮเอนด์ ทำเลซีบีดี เกาะแนวรถไฟฟ้า ที่ยังมีดีมานด์จากกลุ่มที่มีกำลังซื้อตลาดกลางถึงบน ทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและซื้อเพื่อลงทุน  มูลค่าคอนโดจะขยับขึ้นเฉลี่ย 5-7% แต่ในทำเลซีบีดีจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 10%

จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่ในตลาด ต่างประกาศซื้อที่ดินใหม่เพื่อเตรียมพัฒนาในปีนี้และปีหน้า เน้นทำเลซีบีดีและแนวรถไฟฟ้าเป็นหลัก  สำหรับพฤกษาเอง ประกาศซื้อที่ดินตั้งแต่ไร่ละ 1 ล้านบาทไปจนถึง ตร.ว.ละ 1.5 ล้านบาท ปีนี้เตรียมงบประมาณซื้อที่ดิน 1.5-2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1-1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากราคาที่ดินปรับราคาขึ้นทุกปี ทำให้ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น

“ปีนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่ระดับท็อปไฟว์ ประกาศซื้อที่ดินผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง จะเห็นการซื้อขายตั้งแต่แปลงละ 1,000 ล้านบาท ไปจนถึงระดับ 4,000-5,000 ล้านบาท เน้นทำเลซีบีดีเป็นหลัก แม้มีราคาสูงแต่เมื่อพัฒนาโครงการ ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุน”

ปัจจุบันบริษัทในตลาดสามารถออกหุ้นกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อมาใช้ซื้อที่ดิน  จึงเห็นการตุนที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการในปีหน้าจำนวนมาก ล่าสุดพฤกษาออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.27%

หุ้นนิวไฮจีดีพีโตดันอสังหาฯปี61

นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัทซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด  เปิดเผยว่าแนวโน้มอสังหาฯปี 2561 เริ่มเห็นปัจจัย ที่ทำให้ตลาดดีขึ้น จากปัจจัย จีดีพี ที่ขยับดีขึ้น, ตลาดหุ้นที่ทำดัชนี นิวไฮ เป็นปัจจัยสำคัญในกลุ่มซื้อเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะคอนโดกลางเมือง  และกลุ่มทุนต่างประเทศที่เข้ามาซื้ออสังหาฯในไทย รวมทั้งเข้ามาร่วมทุนกับผู้ประกอบการอสังหาฯไทย ในโครงการขนาดใหญ่

ทำเลกรุงเทพฯ ยังเป็นศูนย์กลางการซื้อขายอสังหาฯ ผู้บริโภคยังต้องการซื้อทำเลในเมืองเป็นหลัก ซึ่งในแง่การลงทุนถือว่ามีซัพพลายไม่มาก เนื่องจากที่ดินจำกัด ทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี และได้รับความสนใจจากนักลงทุน

“อสังหาฯ มีวงจรธุรกิจ หลังชะลอตัว 1-2 ปี ก็จะกลับมาเติบโต แม้ปีนี้คอนโดอยู่ในช่วงขาลง แต่ตลาดไทยยังมีดีมานด์ของกลุ่มที่ต้องการซื้อคอนโดทั้งเพื่อลงทุนและอยู่อาศัย”

จัดมหกรรมบ้านฯกระตุ้นโค้งสุดท้าย

นายอดิเรก แสงใสแก้ว ประธานคณะกรรมการจัดงานมหากรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 เปิดเผยว่าอสังหาฯ ช่วงครึ่งปีหลังยังเป็นโอกาสที่ดีของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยและนักลงทุน นอกจากผู้ประกอบการต้องการระบายสต็อคสินค้าแล้ว ยังแข่งขันกันเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง และออกโปรโมชั่นจูงใจลูกค้า ขณะที่ธนาคารตรึงอัตราดอกเบี้ยจนถึงปลายปีนี้

ดังนั้นสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย ได้ร่วมกันจัดงานมหกรรมบ้าน และคอนโด ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 5-8 ต.ค. 2560 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อโค้งสุดท้าย โดยมีกว่า 1,000 โครงการจากผู้ประกอบการรายเล็กถึงรายใหญ่นำเสนอสินค้าทุกประเภท ทั้งคอนโด บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม รีสอร์ท สนามกอล์ฟ ตลอดจนที่ดินเปล่า บ้านมือสองและบ้าน NPA แบ่งเป็นโครงการแนวสูง 60% และแนวราบ 40%

โดยคาดว่าจะมีคนร่วมงานกว่า 1 แสนคน และมียอดขายในงานกว่า 4,000 ล้านบาท และมียอดขายต่อเนื่องตามหลังงานอีก 3-4 เท่าตัว รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

http://www.bangkokbiznews.com


รถไฟฟ้าหนุน‘แลนด์มาร์ค’ใหม่กรุงเทพฯ

โครงข่ายรถไฟฟ้าหนุนพัฒนาเมืองใหม่ กระตุ้นการเติบโตพื้นที่รอบกรุงเทพฯ  “ซีบีอาร์อี”ชี้ทำเลรอบสวนลุม-โซนริมน้ำ “แลนด์มาร์ค”ใหม่กรุงเทพฯ ย้ำทำเลซีบีดี พื้นที่สำนักงาน ค้าปลีก โรงแรมโตต่อเนื่อง 5ปี 

การขนส่งระบบราง หรือโครงข่ายรถไฟฟ้ามีความสำคัญต่อการพัฒนาและขยายพื้นที่เมือง เพื่อลดการกระจุกตัวของประชาชนที่ต้องใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ สู่พื้นที่ปริมณฑลที่ถือเป็น“เมืองใหม่” และรองรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ ตามแนวรถไฟฟ้า

พร็อพทูมอร์โรว์ จัดเสวนาเรื่อง “แนวโน้มกรุงเทพฯเมืองใหม่จากแลนด์มาร์คใหม่” เชื่อมโยงการพัฒนาเมืองจากโครงข่ายระบบรางในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล

นางสาวก่องกนก เมนะรุจิ นักวิเคราะห์นโยบายและชำนาญการพิเศษหัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการขนส่งทางราง สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า แผนการพัฒนาระบบรางในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ยึดหลักการพัฒนาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ที่เป็นผู้โดยสารของระบบราง โดยวางแผนล่วงหน้าระยะ 30 ปี

สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาระบบรางในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เริ่มต้นจากแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร(MTMP)โดยมีโครงการสำคัญคือ รถไฟฟ้าบีทีเอส(สายสีเขียว) และรถไฟใต้ดิน (สายสีน้ำเงิน) ในปี2543 จัดทำแผนแท่บทการขนส่งมวลชนระบบรางกรุงเทพฯและพื้นที่ต่อเนื่อง(URMAP) ที่นำไปสู่งโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน 10 เส้นทางในปี 2549

แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล(M-MAP1) ปี 2553-2572 โดยเส้นทางแนวรถไฟฟ้าแบ่งเป็นเส้นทางหลัก ที่ผ่านพื้นที่ที่ประชากรหนาแน่น มีปริมาณการใช้งานมาก โดยแผนแม่บทล่าสุดครอบคลุมรถไฟฟ้า 12 สาย แบ่งส่วนที่กระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการ 10 สาย และกรุงเทพมหานครดำเนินการ 2 สาย รวมระยะทาง 464 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ตามแผนดำเนินงานปี 2562 จะเปิดให้บริการระยะทาง 140.2 กม. ปี 2564 เปิดให้บริการ 326.4 กม. ปี2567 เปิดให้บริการ 418.9 กม. และปี 2572 เปิดให้บริการ 464 กม. หลังจากโครงข่ายแล้วเสร็จ 10 สายหลัก จะรองรับการให้บริการ 5.13 ล้านคน

ระบบรางหนุนขยายเมืองรอง

นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่าแผนแม่บทการพัฒนาระบบรางในกรุงเทพฯและปริมณฑล ถือเป็นปัจจัยสำคัญเปลี่ยนประเทศ จากเดิมที่ศูนย์กลางธุรกิจจะอยู่เฉพาะกรุงเทพฯเพียงเมืองเดียว แต่การเชื่อมโยงระบบราง ช่วยกระตุ้นการเติบโตในพื้นที่เมืองรอง รอบกรุงเทพฯ สู่ชานเมือง ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง เช่น ชลบุรี  ซึ่งปัจจุบันเป็นจังหวัดที่มีการขยายตัวของคอนโดเปิดใหม่รองจากกรุงเทพฯ

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตลาดคอนโดอยู่ในภาวะชะลอตัวจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อ แต่มองว่าปีหน้ามีสัญญาณฟื้นตัวที่ดีและจะกลับมาเติบโตได้ จากทั้งเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นและความคืบหน้าการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า

บิ๊กโปรเจค‘สวนลุม’แลนด์มาร์คใหม่

นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าการพัฒนาระบบรางจากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าที่ทำให้การเดินทางในกรุงเทพฯสะดวกรวดเร็ว ส่งผลให้ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคนี้ใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านมากขึ้น ต้องการทำกิจกรรมต่างๆในพื้นที่ต่างๆ  ทำให้แนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นรูปแบบ “มิกซ์ยูส”เพื่อใช้ประโยชน์บนพื้นที่แปลงใหญ่ให้คุ้มค่ามากขึ้น

จากการพัฒนาระบบรางรถไฟฟ้า 2 สายแรก คือสายสีเขียวและสีน้ำเงิน ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาทำให้เกิดการเชื่อมโยงเส้นทางใจกลางเมืองกรุงเทพฯสู่พื้นที่ต่างๆ ที่ทำให้เกิดการพัฒนาพื้นที่อสังหาฯในทุกรูปแบบ

หากยึดกรอบพื้นที่ใจกลางเมืองย่านเพลินจิต สุขุมวิท พระราม4  การขยายพื้นที่เมืองจากรถไฟฟ้า 2 สายแรกที่จะทำให้เกิด”แลนด์มาร์ค”ใหม่กรุงเทพฯ จะเป็นทำเล”สามย่านมิตรทาวน์” โครงการของโกลเด้นแลนด์, ย่านเพลินจิต  โปรเจคของไรมอนแลนด์ ตรงข้ามสถานทูตอังกฤษ

อีกโซนรอบสวนลุม ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ คือ วัน แบงค็อก ขนาด 104 ไร่ หัวมุมถนนวิทยุตัดพระราม 4, โครงการมิกซ์ยูส ดุสิตธานี พื้นที่ 23 ไร่ และหลังสวนวิลเลจของ

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พื้นที่ 52 ไร่ เมื่อทั้ง 3 โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะทำให้ทำเลรอบสวนลุม ถือเป็นพื้นที่แรกที่เรียกว่าเป็น “แลนด์มาร์ค”ใหม่ของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถสร้างอาคารสูงได้จำนวนมาก เพราะอยู่ริมถนนใหญ่ โดยมีมิกซ์ยูส เต็มรูปแบบคือ โรงแรม ที่อยู่อาศัย ค้าปลีก พื้นที่เชิงพาณิชย์

โซนริมน้ำ“แลนด์มาร์ค”ใหม่

นางสาวอลิวัสสา กล่าวว่าพื้นที่ที่สามารถพัฒนาเป็นแลนด์มาร์คในอนาคต คือ ริมน้ำโซนด้านใน ปัจจุบันพื้นที่ริมน้ำติดกับศูนย์กลางธุรกิจ(ซีบีดี) คือย่านเจริญกรุงกับเจริญนคร จากสะพานกรุงเทพฯ ไปถึงสะพานพุทธ  พบว่าทุกโครงการคอนโดริมน้ำได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ และขายได้เกือบ 100%

“ริมน้ำ เป็นทำเลโอเพ่นวิว เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยของคนเมือง และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม พื้นที่ค้าปลีกและบันเทิง”

ปัจจุบันโซนริมน้ำมีการพัฒนาโครงการหลายโปรเจค  เช่น เอเชียทีค2, แลนด์มาร์ค วอเตอร์ฟร้อนท์ รวมทั้งบิ๊กโปรเจค ไอคอนสยาม ซึ่งถือเป็นการเปิดพื้นที่ใหม่ในย่านครองสาน ปัจจุบันเริ่มมีพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เช่น ศุภาลัย  ในทำเลดังกล่าวมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองเชื่อมการเดินทาง ทำให้เป็นโลเคชั่นที่มีคาแรคเตอร์พิเศษ เป็นการผสมผสานระหว่างเมืองใหม่และเมืองเก่า และสนับสนุนการสร้างแลนด์มาร์คใหม่ ทั้งการพัฒนาด้านอสังหาฯและแหล่งท่องเที่ยว

“โซนริมน้ำถือเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้เกิดแลนด์มาร์คใหม่ของกรุงเทพฯ  เพราะเป็นการผลสมผสานเมืองใหม่และเมืองเก่า สร้างคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจ”

รถไฟฟ้าหนุน“ซีบีดี”เดิมขยายตัว

ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่รถไฟฟ้าบีทีเอสและเอ็มอาร์ทีปัจจุบัน จะสนับสนุนการขยายตัวของย่านซีบีดีเดิม ทั้งสวนลุม สาทร และสุขุมวิท ให้ยังขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 5 ปีจากนี้

ในย่านดังกล่าว ปัจจุบันมี อาคารสำนักงาน พื้นที่ 4.4 ล้านตร.ม. ในอีก 5 ปี เพิ่มขึ้น 7.5 แสนตร.ม. หรือ 17%,พื้นที่ค้าปลีกปัจจุบัน 1.5 ล้านตร.ม. ในอีก 5 ปีเพิ่มขึ้น 2.8 แสนตร.ม. หรือ 19% และโรงแรม 3.52 หมื่นห้อง ในอีก 5 ปี เพิ่มขึ้น 6,217 ห้อง หรือ 18% สะท้อนได้ว่าซัพพลายอสังหาฯที่เกิดขึ้นในเมืองไม่ได้ลดลงและจะเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของเมือง จากระบบขนส่งมวลชน

สำหรับแลนด์มาร์ครอบนอกเมือง ที่ขยายตัวจากใจกลางเมือง ที่น่าสนใจ มี 3 ทำเล คือ 1.อโศก รัชดา พระราม9 ซึ่งมีพื้นที่ดินขนาดใหญ่ คือ มักกะสัน ในย่านดังกล่าวผู้ประกอบการหลายกลุ่มได้ซื้อแลนด์แบงก์ขนาดใหญ่ไว้แล้วขนาด 30-40 ไร่ หากมีการพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ถือเป็นจุดศูนย์กลางและพัฒนาเป็นแลนด์มาร์คใหม่กรุงเทพฯในอนาคต 2.ย่านสุขุมวิท-บางนา พื้นที่ใหญ่อยู่ที่จุดตัดแยกบางนา  โครงการ แบงค็อก มอลล์  ในย่านดังกล่าวมีโครงการรถไฟฟ้าสายบางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดเบา ที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพการพัฒนาพื้นที่บางนาไปถึงสุวรรณภูมิ และ ทำเล 3.พหลโยธิน-จตุจักร ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ทั้งนี้ ปัจจัยที่อาจมีความเสี่ยงจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบขนส่งมวลชน คือ ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงเกินไป เมื่อมีการประกาศเส้นทางรถไฟฟ้า ทำให้ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ซื้อที่ดินในราคาที่แพงเกินไป ดังนั้นกลุ่มที่จะซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการจะต้องศึกษาอย่างละเอียด เพราะหากซื้อในราคาสูงเกินไป จะส่งผลต่อต้นทุน

http://www.bangkokbiznews.com


‘หญิงหน่อย’ จี้กำหนดวันเลือกตั้งหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

“คุณหญิงสุดารัตน์” จี้กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจน หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ถาม!! มีการเลือกตั้งกับไม่มีแบบไหนลำบากกว่ากัน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวในการสัมมนาเรื่องโรดแมปไทยไทย ไกลแค่ไหน หรือใกล้เลือกตั้ง ว่า คงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในปี 2561 เพราะไม่มีผู้ออกมายืนยันว่ากฎหมายลูกจะออกมาครบเมื่อไร แต่ส่วนตัวอยากให้เกิดความชัดเจนถึงกำหนดวันเลือกตั้ง เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่นักการเมือง แต่จะเป็นเศรษฐกิจของประเทศที่เกิดจากการที่นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาลงทุนภายในประเทศ ซึ่งหากมีกำหนดที่ชัดเจนจะทำให้นักลงทุน ดังนั้นต้องถามประชาชนว่าระหว่างมีการเลือกตั้งและไม่เลือกตั้งแบบไหนมีความลำบากกว่ากัน

ส่วนอนาคตของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า โอกาสนี้ถือเป็นช่วงของการปฏิรูปพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ วางแนวทางของพรรคในการเดินงาน ส่วนตำแหน่งหัวหน้าพรรคยังไม่จำเป็น รอให้สามารถดำเนินกิจการพรรคแล้ว ค่อยมาคุยกันย่อมได้ ซึ่งการมีชื่อตนเองเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มองว่าเพราะทำงานมานานและร่วมในการก่อตั้งพรรคเพื่อไทย

http://www.bangkokbiznews.com


อนาคตรถไฟฟ้าสีแดงขาดทุนยับ รฟท.ขอเดินรถเอง

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)เปิดเผยว่านายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ประธานกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ และตนจะเข้าร่วมประชุมอนุกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นประธานวันที่ 25 ก.ย. นี้เพื่อชี้แจงเรื่องการเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง(บางซื่อ-รังสิต) เบื้องต้นค่อนข้างมั่นใจว่า รฟท.จะได้เดินรถไฟฟ้าสายสีแดงด้วยตัวเอง เพราะผลการศึกษาชี้ว่า ไม่ว่า รฟท.หรือเอกชนจะเป็นผู้เดินรถก็ต้องขาดทุน ถ้าเอกชนเดินรถภาครัฐก็ต้องจ่ายเงินอุดหนุนให้ แต่ถ้า รฟท. ได้เดินรถเอง จะมีต้นทุนต่ำกว่าเพราะไม่ได้คิดกำไรเหมือนภาคเอกชน

อย่างไรก็ตาม เมื่ออนุ คนร. พิจารณาแล้วก็ต้องเสนอให้ คนร. ชุดใหญ่พิจารณาชี้ขาดอีกครั้ง ส่วนกรณี รฟท. ต้องจ่ายเงินชดเชยให้ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเนื่องจากส่งมอบพื้นที่ล่าช้านั้นล่าสุด รฟท. ยังอยู่ระหว่างพิจารณาวงเงิน และเจรจากับผู้รับเหมา
นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่า รฟท. เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการนี้ว่าภาพรวมคืบหน้า 50%คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการเดินรถได้ทันตามเป้าหมายที่กระทรวงคมนาคมตั้งไว้ในช่วงกลางปี 63 ขณะนี้ได้ประสานผู้รับเหมาให้เร่งงาน และเพิ่มบุคลากรการทำงานให้มากขึ้นเพื่อให้มีผลงานเพิ่มขึ้นโดยเร็ว แต่อาจเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินงานได้แล้วเสร็จก่อนกำหนดเพราะงานค่อนข้างกระชั้นมาก

นายจเร กล่าวต่อว่า สำหรับการก่อสร้างโครงการแบ่งเป็น 3สัญญา คือ สัญญาที่ 1 งานโยธาสำหรับสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง ก้าวหน้า90% เหลือเวลาก่อสร้างอีกเพียง 6 เดือนจะแล้วเสร็จ สัญญาที่ 2งานโยธาสำหรับทางรถไฟบางซื่อ-รังสิต ก้าวหน้า 60% เหลืออีก 27 เดือน และสัญญาที่ 3งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมจัดหาตู้รถไฟ สำหรับช่วงบางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน ก้าวหน้า 17% เหลืออีก 3 ปี

สำหรับแนวเส้นทางโครงการมีจุดเริ่มต้นที่สถานีบางซื่อ กม. 6+000(จากหัวลำโพง)บริเวณสามแยกประดิพัทธ์ประมาณ 1.8 กม.ทางทิศใต้ของสถานีบางซื่อ ไปตามแนวเขตทางรถไฟสายเหนือ ผ่านเขตจตุจักร บางเขนหลักสี่ ดอนเมือง สิ้นสุดที่สถานีรังสิต จ.ปทุมธานีระยะทางรวม 26.3 กม. มี 10 สถานีได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ สถานีจตุจักรสถานีวัดเสมียนนารีสถานีบางเขน สถานีทุ่งสองห้อง สถานีหลักสี่สถานีการเคหะ สถานีดอนเมือง สถานีหลักหกและสถานีรังสิต

https://www.msn.com


คำศัพท์การก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ (Construction & Real Estate)

 คำศัพท์และสำนวนเกี่ยวกับเรื่องการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์นับว่ามีความจำเป็นต่อผู้ศึกษาภาษาอังกฤษอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่จะต้อทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดังนั้นในบทนี้ จึงได้มีการรวบรวมคำศัพท์และสำนวนพร้อมทั้งประโยคที่สำคัญๆ ไว้
  1. Brick wall(บริค วอล) = กำแพงอิฐก่อ
  2. Concrete floor(ค็อนครีท ฟลอร์) = พื้นคอนกรีต
  3. Work platform(เวิค แพล็ทฟอม) = นั่งร้าน
  4. Bricklayer(บริคเลเย่อร์) = ช่างก่ออิฐ
  5. Chimney(ชิมนิ) = ปล่องไฟ
  6. Scaffold pole(สแค็บฟึลด โพล) = เสานั่งร้าน
  7. Platform railing(แพล็ทฟอม เรลิง) = ราวนั่งร้าน
  8. Plank platform(แพลงค แพล็ทฟอม) = พื้นนั่งร้าน
  9. Mixer operator(มิคสเซ่อร์ โอเพอเรเต่อร์) = คนผสมปูน
  10. Concrete mixer(คอนกรีต มิคสเซ่อร์) = ที่ผสมคอนกรีต
  11. Mixing drum(มิคซิ่ง ดรัม) = โม่ผสมปูน
  12. Wheelbarrow(วิลแบโร) = รถเข็นล้อเดียว
  13. Mortar pan(มอทา แพน) = กระทะฟสมปูนทราย
  14. Ladder(แล็ดเดอะ) = บันได
  15. Bag of cement(แบ็ก ออฟ ซีเมนต์) = ถุงปูนซีเมนต์
  16. Site fence(ไซน เฟ็นส) = รั้วกั้นบริเวณก่อสร้าง
  17. Signboard(ไซนบอด) = กระดานปิดประกาศ
  18. Contractors’ name plates(ค็อนแทรกเต่อร์สท เนม เพล็ทส) = ป้ายชื่อผู้รับเหมา
  19. Site hut / site office(ไซท ฮัท/ไซท อ๊อฟฟิซ) = ที่พักคนงาน
  20. Plumb bob(พลัม บ็อบ) = ลูกดิ่ง

http://easyeng4you.blogspot.com


 ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 25/09/2560

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,200.00 20,300.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,308.00 19,829.28 20,800.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,177.20 17,846.35 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 589.00 8,929.24 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 458.00 6,943.28 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,355.00 20,541.80 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  25/09/2560

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45
27.45
27.45
27.45
27.45
แก๊สโซฮอล E-20
24.94
24.94
24.94
24.94
24.94
24.94
24.94
24.94
24.94
แก๊สโซฮอล E-85 20.24 20.24 20.24 20.24
แก๊สโซฮอล 91 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18
เบนซิน 95 34.56 35.01 35.06 34.56 34.56 34.56
ดีเซลหมุนเร็ว 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 28.49 29.17 29.17 29.17 29.17
มีผลตั้งแต่ 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า