สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561

“มิกซ์ยูส” เทรนด์อสังหาฯ มาแรงทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

“มิกซ์ยูส” เทรนด์อสังหาฯ มาแรงทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

มิกซ์ยูส (Mixed-use) เป็นโปรเจกต์อสังหาฯ รูปแบบใหม่ที่รวมโครงการที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม หรือแม้แต่ความบันเทิงเข้าด้วยกัน ซึ่งกำลังได้รับความนิยมตั้งแต่ปี 60 จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยของราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในย่านใจกลางเมือง อันเป็นทำเลที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางเศรษฐกิจ จึงทำให้ได้รับความนิยมในการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ รวมถึงมิกซ์ยูสด้วย เหตุนี้เมื่อมูลค่าราคาที่ดินสูงขึ้น จึงทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ เน้นใช้ประโยชน์ที่ดินในการก่อสร้างอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ยังเป็นทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความสะดวกสบายเป็นหลัก ชนิดเปิดประตูห้องมาเจอศูนย์การค้า ร้านอาหาร หรือสถานที่ทำงานอยู่ด้านล่าง และไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่นิยมเปิดตัวโปรเจกต์ดังกล่าวแต่ยังหมายรวมถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านด้วย

ความนิยมโปรเจกต์มิกซ์ยูสไปถึง CLMV
กระแสของโปรเจกต์มิกซ์ยูสไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯ ประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังขยายวงกว้างไปในกลุ่ม CLMV ซึ่งประกอบไปด้วย ประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ล้วนแล้วเป็นกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งนั้น แต่ความน่าสนใจต้องขอยกให้การพัฒนาภาคอสังหาฯ ของประเทศกัมพูชา ที่ย้อนกลับไปเมื่อปี 60 ด้วยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้ทัดเทียมกับประเทศอื่น จึงทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ อย่าง Borey Peng Huoth Group ได้รับรางวัลประเภท Developer Awards จากงาน PropertyGuru Cambodia Property Awards 2017 ซึ่งผู้ประกอบการอสังหาฯ ได้พัฒนาทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง รวมถึงโปรเจกต์ Mixed-use อย่าง The Star Polaris 23 Condominium in Cambodia ที่ประกอบไปด้วยส่วนที่อยู่อาศัยและรีเทลเข้าด้วยกัน ซึ่งแม้ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง แต่ถ้าหากแล้วเสร็จเชื่อว่าจะเป็นโครงการอสังหาฯ ที่แสดงศักยภาพทั้งตัวผู้ประกอบการและสะท้อนถึงการพัฒนาประเทศกัมพูชาได้ดี ประกอบกับยังทำให้เห็นไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยชาวกัมพูชาที่เปลี่ยนไป เน้นความสะดวกสบายรวมถึงความทันสมัยของโครงการอสังหาฯ อีกด้วย

โปรเจกต์มิกซ์ยูสในประเทศกัมพูชา ที่พัฒนาโดย Borey Peng Huoth Group

โปรเจกต์มิกซ์ยูสในประเทศกัมพูชา ที่พัฒนาโดย Borey Peng Huoth Group

ทั้งนี้สำหรับงานประกาศรางวัลเพื่อตอกย้ำศักยภาพผู้ประกอบการอสังหาฯ PropertyGuru Thailand Property Awards จะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 31 สิงหาคม 2561 เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดในประเทศ และผู้ประกอบการที่ตื่นตัวที่สุดในรอบปี โดยความพิเศษของงานครั้งนี้ยกให้ประเภทรางวัลที่โดดเด่นใหม่ล่าสุดอย่าง smart home co-working space และการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ ที่กำลังได้รับความสนใจในหมู่ผู้อยู่อาศัย ไม่แพ้โปรเจกต์มิกซ์ยูส โดยเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้เริ่มส่งรายชื่อโครงการต่างๆและส่งรายชื่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้แล้ว และจะปิดรับรายชื่อในวันที่ 8 มิถุนายน 2561 ทั้งนี้การส่งรายชื่อ online สามารถส่งได้ที่ AsiaPropertyAwards.com/nomination/thailand/

ยลโฉมมิกซ์ยูสเมืองไทย สุดอลังการแห่งปี
แม้กระแสโปรเจกต์มิกซ์ยูสในไทยจะเริ่มมีมาให้เห็นมาสักระยะแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้ประกอบการอสังหาฯ มาตั้งแต่ช่วงปี 60-61 อย่างมาก สังเกตได้จากการทยอยเปิดตัวโปรเจกต์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และความน่าสนใจของโครงการที่ถูกนำเสนอให้ผู้อยู่อาศัยคือ โฉมใหม่ของมิกซ์ยูสในรูปแบบแฟรกชิฟ อย่าง One Bangkok และ Singha Complex ในที่นี้รวมไปถึงโครงการ Mixed-use ของแสนสิริ ที่ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก คาดว่าจะเปิดตัวในปี 61 นี้ ยังไม่นับโครงการ The Forestias ของ MQDC ที่เนรมิตพื้นที่กว่า 300 ไร่ บนทำเลบางนา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ทำเลชานเมืองกรุงเทพ ที่กำลังเป็นที่จับตามองศักยภาพทำเลทั้งฝั่งผู้ประกอบการและผู้อยู่อาศัย โดยผู้พัฒนาโครงการได้เนรมิตให้กลายเป็นโลกที่ธรรมชาติและสังคมอยู่ด้วยกัน โดยเน้นพื้นที่สีเขียวเป็นหลัก เฉกเช่นเดียวกับฝั่งศุภาลัย ที่เตรียมเปิดตัวมิกซ์ยูสอลังการแห่งปีบนผืนที่ดินเดิมของสถานทูตออสเตรเลีย ยังไม่นับรวมผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่และเล็ก ที่ต่างร่วมพัฒนาโปรเจกต์มิกซ์ยูสด้วยเช่นเดียวกัน

โครงการ The Forestias ของ MQDC รูปแบบใหม่ของ Mixed-use โดยเน้นเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียว บนศักยภาพของทำเลย่านบางนา

โครงการ The Forestias ของ MQDC รูปแบบใหม่ของ Mixed-use โดยเน้นเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียว บนศักยภาพของทำเลย่านบางนา

ทำไมต้องเลือกอยู่มิกซ์ยูส?
ความพิเศษของโปรเจกต์มิกซ์ยูสนอกเหนือจากความเพียบพร้อมเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นหลักแล้ว ปัจจุบันในตลาดอสังหาฯ ใช่ว่าจะเน้นเรื่องนี้อย่างเดียวเท่านั้น เทรนด์เรื่อง Proptech หรือ Smart home ก็ถูกเสริมเข้าไปในโครงการเหล่านี้ด้วย เพื่อรองรับยุคสมัยของไทยแลนด์ 4.0 แบบเต็มตัว ทั้งนี้หากกล่าวโดยสรุปสาเหตุที่ต้องเลือกโครงการคอนโดฯ ที่อยู่ในอาณาจักรมิกซ์ยูส มีรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้
1. ทำเลที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางธุรกิจ
2. เพิ่มมูลค่าโครงการมากกว่าคอนโดฯ ทั่วไป
3. เหมาะแก่การลงทุนให้เช่าหรือขายต่อ

อย่างไรก็ดีโปรเจกต์มิกซ์ยูสแม้จะเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อันตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยคนรุ่นใหม่ ประกอบกับยังเอื้อประโยชน์ต่อตลาดการลงทุน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากผู้อยู่อาศัยต้องการความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ อาจจะต้องพิจารณาเทรนด์อสังหาฯ มาแรงอย่างโปรเจกต์มิกซ์ยูสกันใหม่

https://www.ddproperty.com


คอนโดสี่แยกพระราม9 โปรเจคเปิดใหม่ราคาพุ่ง

พื้นที่ศูนย์กลางเขตธุรกิจ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ซีบีดี” นั้นคือ พื้นที่ตามแนวถนนสีลม สาทร พระราม 1 พระราม 4 ราชดำริ วิทยุ หลังสวน เพลินจิต และสุขุมวิท ซอย 1-21 รวมไปถึงซอยย่อยต่างๆ

ในพื้นที่ซีบีดี มีอาคารสำนักงานเกรดต่างๆ รวมกันกว่า 3.48 ล้านตร.ม. โดยเป็นอาคารสำนักงานที่สร้างเสร็จมากว่า 10 ปีเป็นส่วนใหญ่ มีอาคารที่เพิ่งสร้างเสร็จในช่วงไม่เกิน 10 ปีเพียง 4.53 แสนตร.ม. หรือคิดเป็น 13% ของพื้นที่อาคารสำนักงานรวมทั้งหมด และเป็นพื้นที่ที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินผ่าน

สุรเชษฐ กองชีพ นักวิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่าสำหรับพื้นที่ “ซีบีดี ของกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่มีราคาที่ดินสูงสุดและปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด ปัจจุบันหาที่ดินที่มีราคาขายต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อตร.ว. แทบไม่ได้แล้ว ด้วยปัจจัยของราคาที่ดินที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่นี้ไม่มีอาคารสำนักงานใหม่ๆ เกิดขึ้นบนที่ดินที่มีการซื้อขายกันในราคาแพง

ยกเว้นบนที่ดินเช่าระยะยาว อาคารสำนักงานที่สร้างเสร็จใหม่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาหลายอาคารอยู่ในพื้นที่ตามแนวถนนรัชดาภิเษก ช่วงตั้งแต่สี่แยกพระราม 9 ขึ้นไปถึงสถานีรถไฟฟ้าศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาพื้นที่ตั้งแต่ช่วงสี่แยกพระราม 9 ขึ้นไปถึงสถานีรถไฟฟ้าศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จึงเรียกว่าเป็นส่วนต่อขยาย“ซีบีดี” ซึ่งในพื้นที่นี้มีอาคารสำนักงานรวมกันราว 4 แสนตร.ม.

การที่มีอาคารสำนักงานหลายอาคารในพื้นที่รอบสี่แยกพระราม 9 รัศมี 1 กิโลเมตรรอบสี่แยก เป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้เกิดโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการตั้งแต่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่เริ่มชัดเจนว่ามีการขยายตัวมากขึ้นก็ตั้งแต่ ปี 2555 เป็นต้นมา ที่มีโครงการเปิดขายใหม่ต่อเนื่อง แต่มาเพิ่มขึ้นแบบชัดเจนในปีที่ผ่านมา

โดยปี 2560 มีคอนโดเปิดขายใหม่กว่า 2,848 ยูนิต โดยจำนวนคอนโดสะสมในพื้นที่รอบสี่แยกพระราม 9 อยู่ที่  14,917 ยูนิตและมีอีกไม่ต่ำกว่า 1,500 ยูนิตจาก 3 โครงการที่มีกำหนดเปิดขายในปีนี้และปีต่อไป 

หากพิจารณาจำนวนคอนโดที่เปิดขายในช่วง 1 ปีที่ผ่านมามีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มากเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ ศักยภาพของพื้นที่นี้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอื่นๆ เพราะพื้นที่นี้มีเส้นทางรถไฟใต้ดินเปิดให้บริการแล้ว และมีศูนย์การค้ารวมไปถึงโครงการขนาดใหญ่อื่นๆ ทำให้ความน่าสนใจมีมากกว่าพื้นที่อื่นๆ

ด้านอัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดในพื้นที่สี่แยกพระราม 9 จึงค่อนข้างสูง คือมากกว่า 85% สิ่งที่น่าสนใจคือโครงการที่มีแผนจะเปิดขายในปี 2561-2562 บางโครงการอาจจะมีราคาขายสูงกว่า 2.5 แสนบาทต่อตร.ม. ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของโครงการทั้งหมดในพื้นที่นี้อยู่ที่ 1.3 แสนบาทต่อตร.ม.เท่านั้น ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่เฉลี่ย 3% อาจไม่มากเพราะมีโครงการเก่าในพื้นที่นี้ ราคารีเซลยังคงต่ำกว่าโครงการใหม่ แต่โครงการที่เปิดขายในปีที่ผ่านมาบางโครงการมีราคาขายเฉลี่ยสูงกว่าโครงการที่เปิดขายในพื้นที่เดียวกันในปีก่อนหน้าเกือบ 20% อีกทั้งโครงการที่เปิดขายในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยมากกว่า 1.8  แสนบาทต่อตร.ม.เกือบทุกโครงการ

ในอนาคตพื้นที่สี่แยกพระราม 9 ยังเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่น่าสนใจต่อเนื่อง เพราะโครงการภาคเอกชนและรัฐบาลรวมไปถึงพื้นที่ไม่ไกลจากสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งในอนาคตจะเป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง ในขณะที่อาคารสำนักงานที่เป็นแหล่งงานสำคัญในพื้นที่นี้อาจจะมีเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เพราะที่ดินเหลือไม่มากและราคาสูงเกินกว่าจะสร้างอาคารสำนักงานแล้ว

ขณะที่โครงการคอนโดจะขยายตัวต่อเนื่องตามแนวถนนรัชดาภิเษก แต่อาจมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าอื่นๆ ที่กำลังก่อสร้างเพราะผู้ประกอบการยังต้องการกำลังซื้อจากกลุ่มกำลังซื้อระดับกลางลงไป ที่มีความสามารถซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 4 ล้านบาทต่อยูนิต

แต่เป็นหนึ่งในทำเลที่มีกำลังซื้อชาวต่างชาติมากที่สุดในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะชาวจีน ที่ยังต้องการซื้อคอนโด เพื่อการลงทุนหรืออยู่เองในระยะยาว

http://www.bangkokbiznews.com


EEC บูม!!! คาดดันเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังโต 5%

EEC บูม!!! คาดดันเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังโต 5%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งครอบคลุม จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง มีศักยภาพในการต่อยอดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยตั้งแต่รัฐบาลได้เห็นชอบหลักการโครงการ EEC ในช่วงกลางปี 2559 เป็นต้นมา สัดส่วนการขอรับการส่งเสริมการลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ของนักลงทุนต่างชาติในพื้นที่อุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 45% ในปี 2558 เป็น 60%

“พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกฯ ที่ผ่านการพิจารณาของ สนช. แล้ว นับว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศตัดสินใจเลือกลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายบนพื้นที่ EEC เพราะจะได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งในรูปของภาษีและไม่ใช่ภาษี เช่น การต่ออายุการเช่าที่ดิน การปรับปรุงเงื่อนไขการจัดตั้งศูนย์บริหารเงิน การออกใบอนุญาตต่าง ๆ ที่รวดเร็วขึ้น เป็นต้น

ส่วนบีโอไอคาดการณ์ว่า ในปีนี้จะมีคำขอรับส่งเสริมการลงทุนรวมกว่า 300,000 ล้านบาท ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม โดยเชื่อว่าจะทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังขยายตัวได้ถึง 5%

“สำหรับแผนการลงทุนใน EEC ช่วง 5 ปีแรก ประกอบด้วย 4 กลุ่ม 15 โครงการ เช่น เมืองการบินภาคตะวันออก หรือสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เฟส 3 ท่าเรือมาบตาพุด ระยะ 3 ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ รถไฟทางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือ ทางหลวงและมอเตอร์เวย์ ซึ่งประเมินงบการลงทุนรวมทั้งภาครัฐและเอกชนจะไม่น้อยกว่า 1.7 ล้านล้านบาท”

https://money.sanook.com


ตลาดเงินยัง ‘ผันผวน’ จากบอนด์ยิลด์สหรัฐขยับขึ้น

บาทเปิดตลาดเช้านี้ทรงตัว “31.46 บาทต่อดอลลาร์” ตลาดเงินยังผันผวนจากบอนด์ยิลด์สหรัฐปร้บขึ้น

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.46บาทต่อ ดอลลาร์

ช่วงนี้ตลาดเงินยังคงมีความผันผวนสูงเนื่องจากยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนดอลลาร์และค่าเงินบาท ระยะสั้นจุดที่ต้องระวังคือตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งเอเชียซึ่งมีแนวโน้มทรงตัวและชะลอตัวลงในบางประเทศ ถ้าบอนด์ยีลด์ฝั่งสหรัฐปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนมาก

นอกจากนี้ในช่วงวันอาทิตย์ จะมีการเลือกตั้งในอิตาลีที่คาดว่าจะเพิ่มความผันผวนมากขึ้นด้วย ตลาดจึงอาจต้องลดความเสี่ยงลงในระยะสั้น ซึ่งไม่น่าจะส่งผลดีกับสกุลเงินเอเชียและเงินบาทในสัปดาห์นี้

กรอบเงินบาทรายวัน 31.44- 31.54 บาท/ดอลลาร์กรอบเงินบาทรายสัปดาห์ 31.20 – 31.70 บาท/ดอลลาร์

สัปดาห์นี้สิ่งที่ต้องจับตาคือ การรายงานตัวเลขจีดีพีของสหรัฐดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อด้านการผลิต และตัวเลขเงินเฟ้อของไทย

วันพุธ ตัวเลขจีดีพีของสหรัฐไตรมาสที่4ปี2560จะรายงานการขยายตัวที่ระดับ 2.4% เทียบกับไตรมาสก่อน (ปรับเป็นรายปี) เนื่องจากเป็นการรายงานครั้งที่สอง จึงเริ่มนึ่งและมีความเปลี่ยนแปลงจากครั้งแรกไม่มาก เชื่อว่าจะมีการรายงานตัวเลขการบริโภคภาคเอกชนขึ้นสูงถึงระดับ 3.7% ขณะที่การส่งออกและการใช้จ่ายของภาครัฐมีโอกาสปรับตัวลงเล็กน้อย

วันพฤหัส ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ (ISM Manufacturing Index) จะยังรายงานอยู่ในระดับสูงที่ 59.2 จุดจากเดิมที่ 59.1 จุด หนุนภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐให้ดูเติบโตแข็งแกร่งขึ้น

วันศุกร์ มองเงินเฟ้อไทยจะยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักคือเงินเฟ้อพื้นฐานที่ต่ำเพียง 0.60% และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยไม่มีแรงกดดันด้านราคา

http://www.bangkokbiznews.com


‘สธ.’เตือนปชช.รับมือช่วงสภาพอากาศแปรปรวน

“อธิบดีกรมควบคุมโรค” เผยตั้งแต่ต้นปีพบผู้ป่วย “ไข้หวัดใหญ่” เกือบ 1.9 หมื่นคน แนะดูแลสุขภาพช่วงสภาพอากาศแปรปรวน

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 19 กุมภาพันธ์ 2561 ได้รับรายงานผู้ป่วยแล้ว 18,915 ราย เสียชีวิต 1 ราย จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด คือ เชียงใหม่ พะเยา ลำพูน กรุงเทพมหานคร ลำปาง สุราษฏร์ธานี พัทลุง เชียงราย และอุตรดิตถ์ ตามลำดับ จากข้อมูลพบผู้ป่วยมากในกลุ่มเด็กอายุแรกเกิด – 14 ปี และพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนทั้งในโรงเรียนเรือนจำ และค่ายทหาร ในเกือบทุกภูมิภาคของประเทศ

“คาดว่าจะพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงฤดูกาลและมักพบผู้ป่วยมากในช่วงนี้ ซึ่งตรงกับต้นปีระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม”

โดยคาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์และเดือนมีนาคม จะมีผู้ป่วยประมาณเดือนละ 10,000 – 15,000 ราย กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำประชาชนให้ดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ที่มีอาการไข้หวัดและสถานที่ที่มีผู้คนแออัด หากมีอาการป่วยให้สวมผ้าปิดปากและจมูก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ กรณีมีไข้ หากกินยาลดไข้แล้ว ไม่ดีขึ้นใน 2-3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์

สำหรับในโรงเรียน เรือนจำ ค่ายทหาร และสถานประกอบการ ควรมีระบบเฝ้าระวังและคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ โดยแนะนำให้หยุดเรียนหรือหยุดงานเมื่อมีอาการป่วย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

http://www.bangkokbiznews.com

ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 26/02/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,800.00 19,900.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,283.00 19,450.28 20,400.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,154.70 17,505.25 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 577.00 8,747.32 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 449.00 6,806.84 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,330.00 20,162.80 n/a

 ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  26/02/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55
แก๊สโซฮอล E-20 25.04 25.04 25.04 24.54 25.04 25.04 25.04 25.04 25.04
แก๊สโซฮอล E-85 20.44 20.44 20.44 20.44
แก๊สโซฮอล 91 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78
เบนซิน 95 34.66 35.11 35.16 34.66 34.66 34.66
ดีเซลหมุนเร็ว 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 29.69 30.56 30.56 30.56 30.56
มีผลตั้งแต่ 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า