สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 27 กรกฎาคม 2564

พิษโควิด-19 เล่นงาน อสังหาฯ เหมือนขาหัก คอนโดฯอ่วมสุด ในรอบ มากกว่า 10 ปี

พิษโควิด-19 เล่นงาน  อสังหาฯ  เหมือนขาหัก คอนโดฯอ่วมสุด ในรอบ มากกว่า 10 ปี

พิษโควิด กด จีดีพีไทย 2564 ร่วงแรง หนี้ครัวเรือนพุ่ง – กำลังซื้อคนไทยอ่อนแอ สะเทือนภาวะตลาดอสังหาฯ คอนโดฯอ่วมสุดในรอบมากกว่า 20 ปี ขณะ นายกสมาคมฯ เผย แบงก์เข้มหนัก ไม่ปล่อยกู้ ผู้ประกอบการลำบาก แทบเดินต่อไม่ได้

มาตรการล็อกดาวน์ ตลอดช่วงเดือนกรกฎาคม ภายใต้สมมติฐานเลวร้าย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ อาจเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 รายต่อวันในระยะต่อไป, อัตราการฉีดวัคซีนโควิด ที่ทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ราว 2.5 แสนคนต่อวัน ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ให้สูงขึ้น อาจมีความเป็นไปได้ ที่รัฐบาลจะยกระดับมาตรการควบคุมเข้มข้นไปอีกนาน 1-2 เดือน ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ น่าห่วงสุดในแง่ ตลาดแรงงานที่อ่อนแอ หนี้ภาคครัวเรือน ในระดับสูงและ คนมีรายได้ที่ลดลง 

อสังหาฯ ขาหัก 

สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ ในกลุ่มที่อยู่อาศัยนั้น นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เผย ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นไม่หยุด และอาจได้เห็นภาพนิวไฮในระยะต่อไปเรื่อยๆนั้น มีผลกระทบต่อภาคอสังหาฯอย่างชัดเจน ขณะนี้ ตลาดอยู่ในภาวะคล้ายคน ‘ขาหัก’ เดินต่อไม่ได้ เพราะผู้ซื้อต้องอาศัยสินเชื่อจากภาคธนาคาร ขณะผู้ประกอบการ ก็ต้องอาศัยเงินกู้ตั้งแต่การซื้อที่ดิน – การพัฒนาโครงการ แต่พบตอนนี้ สถาบันการเงิน แทบไม่อนุมัติสินเชื่อใหม่

ขณะวงเงินกู้ 4 แสนล้านบาท ที่ ธปท.เคยคลอดออกมา เพื่อให้เป็นแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) พบดำเนินการได้ต่ำกว่าเป้า ราว 2 แสนล้านบาทเท่านั้น เพราะมีกังวลต่อความเสี่ยงในธุรกิจ ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ เงินสดขาดมือ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ขณะลูกค้ารายเก่า พบมีการปล่อยกู้ให้ แต่ผ่านเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้นมากมาย

นายพรนริศ ฉายภาพต่อว่า ขณะนี้ แม้ผู้ประกอบการรายใหญ่บางราย ก็เริ่มหาหนทางเพิ่มแหล่งเงินทุน ผ่านการทยอยออกหุ้นกู้ สะท้อนถึงความอ่อนแอทางการเงินเช่นกัน ส่วนในแง่กำลังซื้อผู้บริโภค จากปัญหาหนี้ครัวเรือน ประเมินว่าทั้งปีนี้ตลาดใหญ่ อย่างพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล จะชะลอตัวอย่างรุนแรง จากยอดขายน้อย ขณะยอดโอนกรรมสิทธิ์ มีปัญหา หมุนกลับมาเป็นรายได้ให้ผู้ประกอบการได้ยาก  เนื่องจากกู้ไม่ผ่าน แต่ตลาดต่างจังหวัด พบหัวเมืองใหญ่ ยังไปได้ในโครงการแนวราบ  

“อยากเรียกร้องให้ภาคการเงิน ผ่อนปรน ช่วยลดเพดานการอนุมัติสินเชื่อ ทั้งในฝั่งผู้ประกอบการ และ สินเชื่อที่อยู่อาศัยรายย่อย เพื่อประคองตลาดในภาวะวิกฤติ ลดปัญหาการเกิดหนี้เสียที่จะทวีความรุนแรงขึ้น”  
 

ด้าน นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด บริษัทวิจัย และที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า ยังไม่เห็นภาพฟื้นตัวของตลาดคอนโดมิเนียม ที่ได้รับผลกระทบมากสุด ในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ เพราะปัจจัยลบต่างๆ มีแนวโน้มรุนแรงในบางเรื่อง โดยเฉพาะการขาดแคลนวัคซีน แม้ว่าจะเริ่มมีการเปิดโอกาสให้มีการนำเข้าวัคซีนทางเลือกมากขึ้นแต่คาดยังคงไม่ครอบคลุมประชากรทั้งประเทศได้ภายในปีนี้แน่นอน ประเมินตลาดคอนโดฯ จะอยู่ในช่วงชะลอตัวรุนแรงในรอบ กว่า 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนคอนโดฯ เปิดขายใหม่ทั้งปี 2564 คงอยู่ที่ราว  20,000 ยูนิตเท่านั้น 

“ผลสำรวจ ดัชนีการซื้อบ้านหลังใหม่ โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ล่าสุด อยู่ที่ ประมาณ 19.9 ลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี เป็นดัชนีที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา  สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่ำในภาวะเศรษฐกิจระยะยาวของไทย” 

นายสุรเชษฐ์ เผยอีกว่า อัตราการขายเฉลี่ยในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา อยู่ที่ 52% เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของกำลังซื้อ ว่าอยู่ในภาวะถดถอยแบบชัดเจน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ประกอบการบางราย เลือกประกาศขายที่ดิน หรือชะลอการพัฒนาบนที่ดิน ที่เคยมีแผนจะพัฒนา ขณะโครงการราคาไม่แพง (ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อตร.ม.) กลายเป็น 1 ช่องทาง ในการสร้างรายได้ ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว โดยผู้ประกอบการไทยหลายราย เริ่มเปิดรับการร่วมทุนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศไทยเพื่อลดการลงทุนด้วยตนเองลงเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ส่องทางรอดอสังหาฯติดล็อกดาวน์เร่งเคลียร์สต็อก-ชะลอโครงการใหม่

ส่องทางรอดอสังหาฯติดล็อกดาวน์เร่งเคลียร์สต็อก-ชะลอโครงการใหม่

จากมาตรการปิดแคมป์ก่อสร้าง สู่สถานการณ์ “ล็อกดาวน์” ที่ส่อแววจะยืดเยื้อ!! ส่งผลกระทบผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในพื้นที่สีแดงเข้ม “นนทบุรี ”

“ปรีชา กุลไพศาลธรรม” นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี กล่าวว่า ผลกระทบจาก 2 มาตรการ ปิดแคมป์ก่อสร้าง และ ล็อกดาวน์ ท่ามกลางการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรงในระลอก 4 นี้ น่ากังวลมากกว่าการระบาดทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังซื้อลดลงมาก โอกาสเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น

“คนซื้อไม่มีกำลังซื้อ ทำให้เกิดการปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้นจึงต้องระวัง!! และหากธนาคารปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้นกว่านี้ ธุรกิจจะเดินต่อไปไม่ได้แล้ว”

ปัจจุบัน ต้นทุนการลงทุนทำโครงการอสังหาฯ ในแง่ความ “คุ้มค่า” เริ่มไม่ดี ทำให้ภาพรวมของธุรกิจหดตัว เพราะไม่คุ้มกับการลงทุน จากดีมานด์ที่ลดลง การเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด หากยังดันทุรังพัฒนาโครงการต่อ ถึงแม้ว่าโครงการดีแค่ไหน ลูกค้าก็ซื้อไม่ได้อยู่ดีส่วนหนึ่งไม่มีกำลังซื้อและอีกส่วนไร้อารมณ์ซื้อ

“ตลาดคอนโดมิเนียมไม่เพิ่มขึ้นในปีนี้ เพราะเจอสภาพเศรษฐกิจแบบนี้คงชะลอการเปิดตัวโครงการออกไปอีก ทุกคนต้องสำรองสภาพคล่องมากขึ้น ทำให้การเปิดตัวโครงการปีนี้ไม่น่าจะโตกว่าปีที่แล้ว และอาจติดลบ จากเดิมที่หลายคนมองว่าบ้านจะโต ปีนี้อาจไม่โต”

ปรีชา ระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์ มีผลทาง “จิตวิทยา” ทำให้ลูกค้าเกิดความกังวลมากขึ้นจากสถานการณ์แพร่ระบาด รวมถึงการใช้จ่ายทำให้การขายยากขึ้น ขณะเดียวกันจากข้อจำกัดการเว้นระยะห่างทางสังคม สำนักงานขายไม่สามารถมีพนักงานให้บริการได้เต็มที่ คาดว่ากระทบยอดขายเดือนก.ค. ที่มีการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ “ลดลง” ขณะที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันต้องควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในองค์กร อาทิ สวัสดิการ เบี้ยขยัน โบนัสของพนักงานที่อาจจำเป็นต้องลดทอนลง เพราะได้รับผลกระทบมาหลายระลอก หากบริษัทไหนที่สภาวะกระท่อนกระแท่นอาจต้องลดเงินดือนพนักงานบางส่วนเพื่อควบคุมต้นทุนให้ดีขึ้น

“สถานการณ์ในเวลานี้ ต้องรัดเข็มขัด เพราะ ผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อและไม่เชื่อมั่น ดังนั้นจึงเลือกเก็บงบไว้ใช้หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ดังนั้นตัดงบการตลาดลดลง เพราะใช้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์สู้รอจังหวะโอกาสที่เหมาะสมให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ”

นอกจากนี้ อาจชะลอการพัฒนาโครงการในพื้นที่ใหม่ หากยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายได้เพราะจะกลายเป็นไปเพิ่มสต็อกสินค้า หรือต้นทุนในการลงทุน ขณะเดียวกันต้องพยายาม “เคลียร์สต็อก” ที่มีอยู่ ด้วยการจัดโปโมชั่นลดแลกแจกแถม แม้ว่าจะกำไรลดลง แต่จำเป็นต้องทำเพื่อรักษาสภาพคล่อง

แนวทางที่กล่าวว่ามา นี้เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบอสังหาฯพึ่งกระทำเพื่อประคองธุรกิจให้รอดจากวิกฤตินี้!!

ปรีชา ประเมินว่า มาตรการล็อกดาวน์ 14 วันไม่น่าจะจบ!! คงยืดเยื้อออกไปอีกแบบไม่รู้ชะตากรรม ปัญหาที่ประเทศไทยเผชิญตอนนี้ต่างประเทศเคยเผชิญมาก่อน แต่สามารถควบคุมได้ เพราะการบริหารจัดการที่ดี หากบางประเทศที่บริการจัดการไม่ดีปัญหาจบยาก ในส่วนประเทศไทยคงจบ! แต่ไม่เร็วอย่างที่ควรจะเป็น เกิดจากความบกพร่องและไม่เป็นมืออาชีพในหลายเรื่อง

“ล็อกดาวน์ 14 วันไม่จบอาจยืดเยื้อแต่คาดเดาไม่ถูกว่าจะจบเมื่อไร คงต้องใช้ความอดทนต่อไป กว่าทุกอย่างจะฟื้นตัวน่าจะกลางหรือปลายปี 2565″

ความกังวลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิคสูงสุดขณะนี้ นั่นคือการ “กลายพันธุ์” เพราะในประเทศที่มีวัคซีนพอยังมีการติดเชื้อสูง จึงไม่แน่ใจว่าหากฉีดวัคซีนได้มากแล้วปัญหาการแพร่ระบาดจะยุติ จึงเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


นักลงทุนต่างชาติไม่มั่นใจเศรษฐกิจไทย

นักลงทุนต่างชาติไม่มั่นใจเศรษฐกิจไทย

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สำรวจความคิดเห็นนักลงทุนต่างประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจเศรษฐกิจไทย

ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า จากการระบาดของโควิดระลอกใหม่กระทบกับเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยระยะสั่นยังน่ากังวล แต่ความมั่นใจในระยะยาวยังดีอยู่

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดได้พบนักลงทุนสถาบันต่างชาติเมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งได้จัดงานสัมมนาออนไลน์อัพเดททิศทางเศรษฐกิจให้กับลูกค้า พบว่านักลงทุนและลูกค้ายังมีความกังวลกับความไม่แน่นอนในภาพรวมเศรษฐกิจไทย

“จากโรดโชว์ของเรา นักลงทุนถามถึงทิศทางของนโยบายการเงินและนโยบายการคลังของไทย และถามว่า ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน เรามองค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯอย่างไร เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในภูมิภาคตั้งแต่ต้นปี” ดร.ทิม กล่าว

จากงานสัมมนาออนไลน์อัพเดททิศทางเศรษฐกิจของธนาคาร พบว่าผู้เข้าร่วมงานสัมมนาที่เป็นนักลงทุนจากทั่วโลก 150 ท่าน มีถึง 90% มองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนสูง

“ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายนลดลงต่ำสุดในรอบ 22 ปี และคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปี หรืออาจจะต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้า” ดร.ทิมกล่าว

แม้ขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่จากบทวิจัยล่าสุดของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดพบว่า บริษัทต่างชาติ รวมถึงบริษัทจากยุโรป มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจมายังภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะประเทศไทย เวียดนาม และมาเลเซีย

ทั้งนี้ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2564 มอง จาก 3.1% เหลือ 1.8% ซึ่งสูงกว่าที่อื่นที่มีกาคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยอาจจะขยายตัวได้ไม่ถึง 1% หรือ ไม่ขยายตัวเลย หรือ ขยายตัวติดลบ ซึ่งธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ยังเห็นว่าเป็นเรื่องที่ประเมินได้ยาก เพราะว่ายังไม่รู้ว่าการคุมโควิดได้ดีขนาดไหน การล็อกดาวน์ประเทศจะมากแค่ไหน และนานอีกเท่าไร สำหรับปี 2565 ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าเศรษฐกิจจะโต 3.1%

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


ทำความรู้จัก “ทีมผู้ลี้ภัย” และทำไม? รัสเซียต้องแข่งโอลิมปิกในชื่อ “ROC”

ทำความรู้จัก "ทีมผู้ลี้ภัย" และทำไม? รัสเซียต้องแข่งโอลิมปิกในชื่อ "ROC"

โอลิมปิก เกมส์ 2020 ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่หนึ่งหรือสองคำถามที่หลายคนเกิดความสงสัยตั้งแต่ได้เห็นขบวนพาเหรดนักกีฬาคือ Refugee Olympic Team (EOR) หรือทีมผู้ลี้ภัย คืออะไร มีที่มาอย่างไร ทำไมถึงได้ถึงธงสัญลักษณ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC)

และอีกคำถามคือทีม ROC มาจากไหน แม้หลาย ๆ ท่านจะทราบแล้วว่าเป็นทีมชาติรัสเซีย แต่ทำไมพวกเขาไม่ได้ใช้ชื่อและธงชาติของประเทศตัวเอง

เมื่อมีข้อสงสัย เราจึงมาไขคำตอบ ทั้ง 2 ทีมมีที่มาอย่างไร ติดตามได้ที่นี่

ที่มาทีมผู้ลี้ภัย (EOR)

Refugee Olympic Team (EOR) คือ “ทีมผู้ลี้ภัย” มีจุดเริ่มต้นจากการประชุมใหญ่ของสหประชาชาติ(UN) ในเดือนตุลาคมปี 2015 หลังจากเผชิญปัญหาผู้ลี้ภัยนับล้านคนทั่วโลกไร้ที่อยู่อาศัย โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ได้ประกาศกลางที่ประชุมว่าจะจัดตั้งทีมนักกีฬาโอลิมปิกผู้ลี้ภัย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ ที่นคร ริโอ เดอ จาเนโร ในปี 2016

10 เดือนหลังจากนั้น 10 นักกีฬาจาก เอธิโอเปีย, ซูดานใต้, ซีเรีย และ ดีอาร์ คองโก ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ริโอ เกมส์ เคียงข้างกับนักกีฬากว่า 11,000 คน ซึ่งโครงการพิเศษนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ IOC ในการยืนหยัดเคียงข้างผู้ลี้ภัยและสนับสนุนพวกเขาผ่านการเล่นกีฬา และยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของโครงการกองทุนสงเคราะห์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ผ่านโครงการสนับสนุนนักกีฬาผู้ลี้ภัยช่วยให้พวกเขาไม่เพียงแค่ฝึกฝนเพื่อให้ได้ไปแข่งโอลิมปิกเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พวกเขามีก้าวต่อไปในอาชีพ และสร้างอนาคตด้วยตัวเอง

จากผลตอบรับที่ดีทำให้ในเดือนตุลาคมปี 2018 IOC ลงมติให้มีทีมผู้ลี้ภัยใน โตเกียว 2020 และมอบหมายให้โครงการกองทุนสงเคราะห์โอลิมปิกระหว่างประเทศ กำหนดเงื่อนไขในการคัดเลือกนักกีฬาโดยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR), คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ, สหพันธ์กีฬาระหว่างประเทศ และคณะกรรมการจัดงานโตเกียว 2020

ขณะเดียวกัน IOC ยังได้เปลี่ยนโค้ดสำหรับทีมนักกีฬาผู้ลี้ภัยจาก ROT (Refugee Olympic Team) มาเป็น EOR ตามภาษาฝรั่งเศสคือ Équipe olympique des réfugiés ที่มีความหมายเดียวกัน ซึ่งจากกรณีนี้ทำให้ทีมผู้ลี้ภัยได้เดินขบวนพาเหรดเป็นอันดับที่ 2 ตามอักษรภาษาญี่ปุ่น ต่อจากกรีซที่เป็นอันดับแรกตามธรรมเนียม ในพิธีเปิดโตเกียว 2020

การคัดเลือกนักกีฬาทีมผู้ลี้ภัยสำหรับ โตเกียว 2020

จากโครงการกองทุนสงเคราะห์โอลิมปิกระหว่างประเทศของIOC ทำให้มีนักกีฬาผู้ลี้ภัยกว่า 56 คนจาก 13 ประเทศได้ทุนการศึกษา ช่วยให้พวกเขามุ่งมั่นฝึกซ้อมสำหรับการไปแข่งโตเกียว 2020 โดยนักกีฬาผู้ลี้ภัยที่ได้ทุนโอลิมปิกทั้ง 56 คน มาจากประเทศเจ้าบ้าน 21 ชาติ คือ ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, บราซิล, แคนาดา, โครเอเชีย, อียิปต์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิสราเอล, จอร์แดน, เคนยา, ลักเซมเบิร์ก, โปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, ตรินิแดดและโตเบโก, ตุรกี, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร และเป็นนักกีฬาจาก 12 ชนิดกีฬาคือ กรีฑา, แบดมินตัน, มวยสากล, เรือแคนู, จักรยาน, ยูโด, คาราเต้, เทควันโด, ยิงปืน, ว่ายน้ำ, ยกน้ำหนัก และมวยปล้ำ

จากนักกีฬาผู้ลี้ภัยที่ได้ทุนทั้งหมด มี 25 คนจาก 11 ประเทศใน 12 ชนิดกีฬา ซึ่งอาศัยและฝึกซ้อมอยู่ใน 13 ประเทศเจ้าบ้านได้สิทธิ์ลงแข่งโอลิมปิก บวกกับอีก 4 คนจากโครงการเพื่อผู้ลี้ภัยของสหพันธ์ยูโดนานาชาติ เพื่อจัดทีมผสม ทำให้มีนักกีฬาผู้ลี้ภัยทั้งหมด 29 คนในโตเกียว 2020

ส่วนสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของทีม (รวมถึงพิธีรับเหรียญรางวัล) นักกีฬาผู้ลี้ภัยจะใช้ธงโอลิมปิกและเล่นเพลงของโอลิมปิกแทนเพลงชาติ ส่วนตัวนักกีฬาจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนักกีฬาเช่นเดียวกับชาติอื่น ๆ โดย IOC จะให้การสนับสนุนนักกีฬาผู้ลี้ภัยต่อไปแม้หลังจากจบ โอลิมปิก เกมส์ โตเกียว 2020 แล้วก็ตาม

ทำไมรัสเซียต้องใช้ชื่อว่า ROC

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ มาจากการที่ องค์การต่อต้านสารกระตุ้นโลก (WADA) สั่งแบนรัสเซียจากการลงแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติในปี 2019 เนื่องจากมีความผิดฐานปกปิดข้อมูลและฉ้อโกงการแข่งขันด้วยการใช้สารกระตุ้น ส่งผลให้นักกีฬารัสเซียไม่สามารถลงแข่งในนามประเทศของตัวเองได้

ขณะที่ทีม ROC นั้น ไม่ได้แปลว่าเป็นประเทศ แต่เป็นช่องทางให้นักกีฬารัสเซียลงแข่งได้แม้ชาติบ้านเกิดจะถูกแบนก็ตาม โดย ROC เป็นตัวแทนของคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย ซึ่งนักกีฬาสามารถลงแข่งในนามตัวแทนคณะกรรมการได้ ซึ่งกฎของโอลิมปิกระบุว่าต้องใช้ ROC แทนชื่อเต็ม

 กรณีนี้หมายถึง หากนักกีฬาคว้าเหรียญทองโอลิมปิก จะไม่มีการเชิญธงชาติรัสเซีย ไม่มีการเล่นเพลงชาติรัสเซีย แต่จะเป็นการเล่นเพลงของ Tchaikovsky ตำนานนักประพันธ์เพลงชาวรัสเซีย และเชิญธง ROC แทน ส่วนชุดยูนิฟอร์มได้รับอนุญาตให้มีคำว่า “Russian” ได้ แต่ต้องตามด้วย “neutral athlete” เท่านั้น เพื่อให้ชัดเจนว่าไม่ได้เป็นตัวแทนทีมชาติรัสเซียนั่นเอง

ขณะที่ระยะเวลาโทษแบนของรัสเซียนั้น ได้รับการลดโทษจาก 4 ปี เหลือ 2 ปี ซึ่งเริ่มมีผลในเดือนธันวาคมปี 2020 ทำให้พวกเขาไม่สามารถลงแข่งโอลิมปิก เกมส์ ปีนี้ในนามประเทศได้ รวมไปถึงโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 และฟุตบอลโลกในปีเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ROC ไม่ใช่ทีมเดียวที่ไม่ถือว่าเป็นีมชาติในโอลิมปิก เนื่องจาก ไชนีสไทเปซึ่งเป็นนักกีฬาจากไต้หวัน และทีมผู้ลี้ภัยก็ไม่จัดในหมวดหมู่ทีมชาติเช่นกัน ขณะที่เขตปกครองพิเศษอื่น ๆ รวมทั้ง หมู่เกาะเวอร์จิ้น และเกาะกวมต่างก็แยกทีมลงแข่งเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“ฟาวิพิราเวียร์” คือยาอะไร ทำไมใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 แค่บางราย?

"ฟาวิพิราเวียร์" คือยาอะไร ทำไมใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 แค่บางราย?

ฟาวิพิราเวียร์(Favipiravir) คือยาอะไร 

ฟาวิพิราเวียร์ คือยาต้านเชื้อไวรัส มีชื่อรหัสคือ T-705 พัฒนาโดยประเทศญี่ปุ่น ที่อยู่ในหลักสูตรยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ของประเทศไทย โดยตอนแรกถูกขึ้นทะเบียนเพื่อใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ แต่เนื่องจากยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาต้านไวรัสที่ออกฤทธิ์กว้าง จึงใช้ได้กับโรคติดเชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น ชิคุนกุนยา รวมถึง โควิด-19 ด้วย 

การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์กับผู้ป่วยโควิด-19

แพทย์ใช้ยาฟาวิพิราเวียร์กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่รับไว้ในสถานพยาบาล โดยใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการของโรค ไม่แนะนำให้ใช้กับผู้ที่ยังไม่มีอาการหรือใช้เพื่อป้องกันโรค

โดยจากผลการศึกษาชี้ว่าใช้ได้ดีที่สุดกับผู้ที่เริ่มติดเชื้อใหม่ๆที่มีความเสียหายของปอดไม่มาก มีอาการไม่มาก เพื่อช่วยลดความรุนแรงและการสูญเสีย

การทำงานของยาฟาวิพิราเวียร์ ถ้าจะอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ คือ ช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายสามารถเข้าไปกำจัดไวรัสจนหมด หรือน้อยจนไม่สามารถก่อโรคได้อีก 

การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ไม่ได้ใช้กับทุกคน

การใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ อาจจะใช้กับผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ในบางรายหากมีแนวโน้มที่จะป่วยหรือเป็นโรครุนแรง เช่น อายุมาก เบาหวาน อ้วน เป็นต้น 

อีกเหตุผลคือหากใช้ยามากเกินไปจะส่งเสริมการดื้อยาของเชื้อไวรัส ทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง 

ล่าสุดกับการที่ให้รักษาตัวที่บ้าน ทำให้ยาฟาวิพิราเวียร์นั้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เบื้องต้นที่มีการพูดคุยกันไว้คือ หากเริ่มมีอาการเชื้อลงปอดก็จะรีบนำส่งยาให้ผู้ป่วยทานเพื่อรักษาอาการและลดการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด

ไทยลุ้นข่าวดี ผลิตเองได้

มีการเผยว่า ความคืบหน้าการวิจัยและพัฒนาการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในประเทศสำหรับต้านไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลมีความคืบหน้ามากขึ้น มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างความมั่นคงทางยาในประเทศไทย เพราะสามารถสังเคราะห์สารตั้งต้นที่มีความบริสุทธิ์ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และยังเป็นการสังเคราะห์จากสารตั้งต้นที่มีราคาถูกโดยไม่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


9 ศัพท์ Slang เจ๋งๆจากเพลงภาษาอังกฤษ

เชื่อว่าใครๆหลายคนชอบฟัง”เพลงภาษาอังกฤษ” อาจเป็นเพราะเนื้อร้องที่ไพเราะ ทำนองโดนใจก็แล้วแต่ แต่เคยไหม ที่ฟังคำบางคำแล้วไม่เข้าใจ เปิดหาความหมายใน dictionary ก็ไม่ค่อยจะเจอ

คำเหล่านี้เรียกว่าคำ “Slang” หรือภาษาไทยใช้ทับศัพท์ว่า สแลง (คนละอย่างกับ แสลง อ่านว่า สะ-แหลง ซึ่งใช้กับอาหาร) คำ Slang ก็คือคำหรือสำนวนที่ใช้พูดเข้าใจกันเฉพาะกลุ่มในชั่วระยะเวลาหนึ่ง เป็นคำศัพท์ที่ไม่เป็นทางการ อาจจะเกิดจากการสร้างศัพท์หรือสำนวนใหม่โดยการ เปลี่ยนคำ เปลี่ยนความหมาย อาจใช้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แล้วก็หายไป แต่บางครั้งอาจฮ็อตฮิตจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของภาษาพูดเลยก็ได้นะคะ

ลองไปดูกันค่ะว่ามีเพลงสากลเพลงไหนบ้างที่มีการใช้ศัพท์ Slang แล้วคำๆนั้นมีความหมายว่าอย่างไรกันบ้าง

music-slangs

1. Bling Bling

คำว่า Bling Bling ที่ได้ยินกันบ่อยๆนั้น  เป็นคำ Slang หมายถึงเครื่องประดับที่ทอแสงประกายวิบวับ อาจรวมไปถึง Lifestyle ที่ดูหรูหราฟุ่มเฟือย ตัวอย่างการใช้ เช่น

Each woman wants bling bling. (ผู้หญิงแต่ละคนก็อยากได้เครื่องเพชรวิบๆวับๆกันทั้งนั้น)

 

คำๆนี้เจอได้ทั้งในชีวิตประจำวันโดยทั่วไป และในบทเพลง อย่างในเพลง Price Tag ของ Jessie J  ในท่อนที่ร้องว่า  Ain’t about the (yeah) Ba-Bling Ba-Bling. We just wanna make the world dance.
แปลว่า….นี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆหรอกนะ  เราแค่ต้องการให้ทั้งโลกเต้นรำไปด้วยกันก็เท่านั้น
ลองไปฟังเพลงนี้กันได้ที่   https://www.youtube.com/watch?v=qMxX-QOV9tI

2. Boo, Shawty

ทั้ง 2 คำนี้ หมายถึง คนรัก, แฟน  ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง
Boo ที่แปลว่า ที่รัก รากศัพท์คือ Beau ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า แฟน ส่วนคำว่า Shawty มาจากคำว่า “Shorty” เป็นการอ่านออกเสียงไม่ชัดไม่อ่านออกเสียงตัว r เพราะมาจากการออกเสียงแสลงของคนใต้ในอเมริกา  ซึ่งเอามาเรียกคนรักได้เช่นเดียวกับคำว่า Boo, Babe, Baby ที่แปลว่าที่รักนั่นเองค่ะ ถ้าแปลตรงตัวจะได้ประมาณว่า “ไอ้ตัวเล็ก” (Short = เตี้ย) จึงมักเป็นคำที่ผู้ชายใช้เรียกผู้หญิง เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีส่วนสูงน้อยกว่าผู้ชาย การเรียกว่า Shawty จึงคล้ายๆกับคำว่า “สาวน้อย” หรือ “ตัวเล็ก” ของบ้านเรานั่นเอง ส่วนมากจะเจอในเพลงแนว Hip-hop เช่นเพลงเก่าๆของ Chris Brown ที่ชื่อว่า With You คาดว่าหลายคนคงเคยได้ยินเพลงนี้จนฮิตติดหูกันไม่น้อย แค่ขึ้นต้นเพลงก็มีคำว่า Boo ให้ได้ยินกันแล้ว ลองไปดูเนื้อเพลงท่อนนี้กัน

I need you boo, (oh)  I gotta see you boo (hey)  (ฉันต้องการเธอนะที่รัก  ฉันอยากเจอเธอจัง)
และในกลางเพลงก็มีคำว่า Shawty อยู่ด้วย
Hey! Little shawty, Say you care for me, (นี่แม่สาวน้อย พูดสิว่าเธอก็ห่วงฉัน)

ลองไปฟังเพลงนี้แบบเต็มๆกันได้ที่  https://www.youtube.com/watch?v=qgSyf3lKHkA

3. Ain’t

คำนี้เดิมทีเป็นคำสแลงของ am not เพียงตัวเดียว แต่ต่อมาก็เริ่มใช้แทน is not, are not, do not or does not…   สรุปคือ ทุกคำที่แปลว่า “ไม่” “ไม่ใช่” “ไม่ได้” สามารถใช้ Ain’t แทนได้หมด แต่คำนี้ไม่แนะนำให้ใช้พูดหรือเขียนแบบเป็นทางการ แต่สามารถใช้แบบไม่เป็นทางการได้ เพราะถือว่าเป็นคำที่ผิดหลักไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษนั่นเอง ต่อไปนี้คือตัวอย่างการใช้ Ain’t ในประโยคต่างๆ

– I aint’ got no money. ฉันไม่มีตังค์ (ในประโยคนี้ ain’t = have not)

– He ain’t wrong. เขาไม่ผิด (ในประโยคนี้ ain’t = is not)

ตัวอย่างเพลงที่ใช้คำว่า Ain’t ที่ได้ยินกันบ่อยๆก็คือ…  เพลง If I Ain’t Got You ของ Alicia Keys
(ชื่อเพลงแปลว่า “ถ้าฉันไม่มีเธอ”)  ลองไปฟังกันได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=SjKrpxjp7ao

4. Leggo

คำนี้มาจากคำว่า “let’s go” ที่แปลว่า “ไปกันเถอะ”  มีที่มาจากเพลงแร็พที่ดังมากของ Chris Brown ชื่อเพลง Look At Me Now ที่เริ่มเพลงด้วยคำว่า “Leggo” จนกลายเป็นสแลงดังอยู่พักใหญ่ในปี 2012 แต่ถ้าในปี 2015 นี้จะนำมาใช้ก็ดูจะเชยไปหน่อย เปรียบได้กับคำว่า “จ๊าบ” ของบ้านเรา ที่เคยฮิตมาก่อน แต่ถ้ามาพูดในสมัยนี้ก็คงจะดูตลกไม่น้อยเลย แนะนำให้จำไว้ประดับความรู้นะคะ แต่ไม่ควรนำไปใช้เพราะจะดูเชยระเบิดเลยล่ะ

มาลองฟังเพลง Look At Me Now ของ ที่เป็นที่มาของเจ้าวลีนี้กัน https://www.youtube.com/watch?v=8gyLR4NfMiI

5. Nigga

คำนี้มาจากคำว่า Nigga, Nigger หรือ Negro ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกคน African-American หรือคนผิวสี แต่คำนี้ห้ามใช้พูดกับคนผิวสีอย่างเด็ดขาด เพราะถือเป็นคำพูดที่ไม่สุภาพ ส่อถึงการเหยียดสีผิวเป็นอย่างมาก คนผิวสีสามารถใช้เรียกกันเองได้ แต่ถ้าไม่ใช่คนผิวสีแนะนำว่าห้ามใช้อย่างเด็ดขาด ทางที่ดีควรเรียกคนผิวสีว่า colored people หรือ darked-skin people มากกว่า ตัวอย่างเพลงที่ใช้คำนี้คือเพลง Holy Grail ของ Jay Z (Ft. Justin Timberlake)

ลองฟังกันได้ที่  https://www.youtube.com/watch?v=UxPLINz5BAk

6. Poppin’ tags, Pop some tags

Poppin’ tags หรือ Pop some tags นั้นมีความหมายเหมือนกัน คือ แปลว่า ไปซื้อของ, ไปช็อปปิ้ง ตัวอย่างการใช้คำนี้ เช่น

l’m gonna pop some tags. Only got twenty dollars in my pocket.
ฉันจะไปช็อปปิ้งด้วยเงินแค่ 20 ดอลล่าร์ในกระเป๋านี่แหละ

และหากเราจะบอกเพื่อนว่า เงินเดือนเพิ่งออก ไปช็อปปิ้งกันดีกว่า เราก็พูดได้ว่า…I just got paid. Let’s pop some tags.

ฟังตัวอย่างเพลงที่ใช้คำนี้  คือเพลง Poppin’ Tags ของ Jay-z
ลองไปฟังกันได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=E7h8XY4bG54

7. Hustler, Hustle, Hustling หรือ Hustla

คำว่า Hustler หมายถึง คนที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อ ”เงิน”  แต่จะเป็นการหาเงินในทางที่ผิด เช่น ค้ายาเสพติด หรือค้าผู้หญิง

ส่วน Hustle กับ Hustling นั้นเป็นคำกริยา หมายถึง การหาเงินอย่างผิดกฎหมาย

และอีกคำหนึ่งคือ Hustla เป็นการเขียนอีกแบบให้ดูเท่ห์ แต่ความหมายจริงๆก็เหมือนกับคำว่า Hustle กับ hustling นั่นเอง ในเพลง Diva ของ Beyonce มีคำนี้อยู่ในเนื้อเพลงท่อนที่ว่า  Na, na, na, diva is a female version of a hustla ซึ่งแปลได้ว่า ดีว่าคือสาวมหาเศรษฐี มีเงินร่ำรวย (รวยในทางผิดๆ)

ลองฟังเพลง Diva ดูค่ะ  http://www.youtube.com/watch?v=J1rwO-N4FLk

8. Dope

จริงๆแล้วคำนี้แปลตรงตัวว่า โง่, มึนงง บางครั้งหมายถึงยาที่ทำให้ง่วงหรือยาเสพติด แต่หากเป็นคำ Slang จะแปลว่า เจ๋ง, น่าสนใจ, เท่ คล้ายๆคำว่า cool, appealing (ซึ่งตรงข้ามกับความหมายเดิมที่แปลว่า โง่, มึนงง อย่างสิ้นเชิง) คำนี้เจอทั้งในเพลงและใช้กันในชีวิตประจำวันของวัยรุ่นอเมริกัน ยกตัวอย่างเพลงที่กำลังฮิตของ Nicki Minaj อย่างเพลง Super bass ในท่อนนี้

He pop bottles and he got the right kind of build.  He cold, he dope, he might sell coke.
แปลว่า….และเขาก็ดูเจ๋งดีนะ เท่มากด้วย เขาอาจจะขายยาก็ได้นะ (ในวงการแรปมองว่าคนขายยาเป็นคนที่เท่ ดูดี)

ลองไปฟังเพลงนี้กัน และหาให้เจอว่ามีคำว่า Dope ซ่อนอยู่ที่ไหน จะได้เป็นการฝึกการฟังไปด้วยในตัว
https://www.youtube.com/watch?v=4JipHEz53sU

9. Homie, Homeboy, Homegirl

แปลว่า “เพื่อน” นั่นเองค่ะ หากใครจะพูดถึงเพื่อน แต่ไม่อยากใช้คำว่า Friend เพราะดูธรรมดาไปก็สามารถใช้คำพวกนี้ได้ค่ะ อาจใช้ในความหมายแบบ เพื่อนสนิทหรือเพื่อนบ้านที่โตมาด้วยกัน หรือใช้เป็นสแลงแทน เพื่อนที่รู้จักมานานก็ได้ ตัวอย่างการใช้เพลงนี้ เห็นได้จากเพลงเพราะๆ แนว R&B อย่างเพลง Young Homie ของ Chris Rene ที่พูดถึงการใช้ชีวิตแบบสงบสุข มอบความรักให้กับเพื่อนและคนรอบข้างมากกว่าที่จะไปสนใจยาเสพติด อย่างในเนื้อเพลงท่อน…

Open up your eyes, look around. Homie, can you see how it’s going down?
(ลืมตาแล้วมองดูรอบๆสิ เพื่อนรัก เห็นหรือเปล่าว่ามันแย่ลงแค่ไหน)

ฟังเพลงเพราะๆเพลงนี้ได้จาก https://www.youtube.com/watch?v=SyBXi9S1CJc

จะเห็นได้ว่าเพลงภาษาอังกฤษในยุคปัจจุบันมีการใช้ศัพท์ Slang กันไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจาก 9 เพลงที่ยกตัวอย่างมานี้ก็ยังมีอีกเยอะมากที่ใช้ศัพท์ Slang โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพลงแนว Hip-hop ที่จะพบมากเป็นพิเศษ  ใครอยากเป็นคนชิคๆ ใช้ศัพท์ใหม่ๆทันสมัยอยู่เสมอ ก็ลองนำคำเหล่านี้ไปใช้กันดูนะจ๊ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


 เขย่าตลาดสองล้อ All New Suzuki Hayabusa เคาะราคา 8.99 แสน

เขย่าตลาดสองล้อ All New Suzuki Hayabusa เคาะราคา 8.99 แสน

ซูซูกิ เดินเกมรุกตลาดสองล้อ ด้วยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ All New Suzuki Hayabusa เคาะราคา 8.99 แสนบาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 ค่าจดทะเบียน พรบ. Roadside Assistance Warranty ไม่จำกัดระยะทาง 2 ปี

สำหรับ All New Suzuki Hayabusa ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “The Refined Beast” หมายถึง ความงดงามน่าเกรงขามแต่แฝงไปด้วยความชาญฉลาด เปรียบเสมือนเหยี่ยวเพเรกรินของญี่ปุ่น ด้วยภาพลักษณ์ที่ทันสมัย พร้อม Feature ใหม่มากมาย กับสไตล์รูปทรงที่ดุดัน หรูหรา และการออกแบบแอโรไดนามิกใหม่ สามารถถ่ายทอดด้วยความรู้สึกพุ่งทะยานไปข้างหน้า 

All New Suzuki Hayabusa All New Suzuki Hayabusa
พร้อมไฟท้ายแบบใหม่ ท่อไอเสียสไตล์สปอร์ต การดีไซน์ล้อแบบ 7 ก้านใหม่ และทรงประสิทธิภาพ รูปลักษณ์ด้านหน้าแบบใหม่หมดจด ด้วยการออกแบบไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Positioning Light ที่รวมเอา Day Time Running Light กับชุดไฟเลี้ยวสไตล์สปอร์ตเข้าด้วยกัน พร้อมเทคนิคการใช้สีและสร้างความโดดเด่นเฉพาะตัว เพื่อแสดงออกถึงสมรรถนะที่เป็นที่สุดของ Hayabusa แบบ Two Tone ทั้ง 3 แบบ กับเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร  

จุดเด่นหรือไฮไลท์ของ All New Suzuki Hayabusa มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 1,339.8 ซีซี  ระบายความร้อนด้วยน้ำ อัพเกรดอุปกรณ์และเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความทนทานNew Exclusively Designed Exhaust System ดีไซน์ระบบไอเสียแบบพิเศษ ช่วยพัฒนาและเสริมพละกำลังและแรงบิดช่วงต่ำถึงกลางให้ดี ทั้งยังเป็นไปตามมาตรฐาน Euro 5

All New Suzuki Hayabusa All New Suzuki Hayabusa
โครงสร้างของตัวรถน้ำหนักเบา แข็งแกร่ง ด้วยเฟรมอลูมิเนียมอัลลอยแบบ ทวิน-สปา และสวิงอาร์มที่ขึ้นรูปด้วยการหล่อและรีดขึ้นรูป คาลิปเปอร์ Brembo Stylema® รุ่นล่าสุด น้ำหนักเบากว่าคาลิปเปอร์ทั่วไป และสามารถระบายความร้อนได้ดีกว่า พร้อมจานเบรกขนาดใหญ่ถึง 320 มม. และยังออกแบบรูระบายความร้อนแบบใหม่ 
 

(A: Active, B: Basic, C: Comfort) ซึ่งโหมดการควบคุมที่ตั้งค่ามาจากโรงงานนั้น ประกอบด้วย
1. Power Mode Selector 
2. Motion Track Traction Control 
3. Anti-lift control 
4. Engine Brake Control 
5. Bi-directional Quick Shift Systems 

อีกทั้งยังสามารถตั้งเป็นโหมด Custom ได้อีก 3 โหมด (U1, U2, U3)

All New Suzuki Hayabusa All New Suzuki Hayabusa

นอกจากนี้ All New Suzuki Hayabusa นับเป็นครั้งแรกของเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ ที่ผู้ขับขี่สามารถกำหนดขีดจำกัด ความเร็วได้ ด้วยระบบ Active Speed Limiter ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้ความเร็วเกินกำหนดอีกต่อไป และยังมีระบบ Launch Control System ที่จะควบคุมรอบและแรงบิดของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กัน ถึง 3 โหมด ช่วยให้การออกตัวได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ 

 

ครั้งแรกกับฟังก์ชันพิเศษ Emergency Stop Signal ที่จะทำงานด้วยการกะพริบสัญญาณไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังอย่างรวดเร็ว เพื่อเตือนรถที่ตามมา เมื่อผู้ขับขี่เบรกกะทันหันที่ความเร็ว 55 กม./ชม. ขึ้นไป เพิ่มเติมเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวก Suzuki Easy Start System ให้ผู้ขับขี่ก่อนเดินทาง สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เพียงการกดสวิตช์เพียงครั้งเดียว

ระบบ Low RPM Assist เพิ่มรอบความเร็วของเครื่องยนต์อย่างราบรื่น เมื่อออกตัวหรือขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ป้องกันเครื่องยนต์ดับ เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจทุกครั้งที่ขับขี่ แม้ในสภาพการจราจรที่ติดขัด ระบบ Cruise Control System สามารถตั้งค่าความเร็วคงที่ในช่วงความเร็วระหว่าง 31-200 กม./ชม. โดยขับขี่ที่รอบความเร็ว 2,000 – 7,000 รอบ ที่เกียร์ 2 หรือสูงกว่า ระบบเบรกแบบกระจายหน้า-หลัง Combined Brake System เพียงแค่บีบมือเบรกด้านหน้า 

 

ระบบ Motion Track Brake System ช่วยในการควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้งหรือลงทางลาดชัน โดยรับข้อมูลและประมวลผลจากระบบ IMU เพื่อทรงตัวที่ดี Slope Dependent Control System ระบบป้องกันล้อหลังยกตัวขณะลงเนินหรือทางลาดชัน ทำงานร่วมกับกล่อง IMU โดยจะตรวจสอบท่าทางและองศาของตัวรถ 

 

การควบคุมแรงดันเบรกขณะลงเนิน Hill Hold Control System ระบบช่วยหยุดรถบนทางลาดชัน โดยระบบจะสั่งการเบรกหลังให้ทำงานอัตโนมัติ โดยไม่ต้องบีบมือเบรกค้าง เพื่อป้องกันการไหลของตัวรถโดยมีระยะเวลา 30 วินาที ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมดของ All New Suzuki Hayabusa 

นายณวีเอก พิชยามารินทร์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไทยได้นำเข้าทั้ง 3 สี เริ่มด้วยสีแรก Glass Sparkle Black / Candy Burnt Gold : สีดำ/ส้ม ,สีที่ 2 Metallic Matte Sword Silver / Candy Daring Red : บรอนซ์/แดง สปอร์ต และสีที่ 3 Pearl Brilliant White / Metallic Matte Stellar Blue : ขาว/น้ำเงิน

All New Suzuki Hayabusa All New Suzuki Hayabusa

ส่วนสนนราคาของ All New Suzuki Hayabusa อยู่ที่ 899,000 บาท พร้อมเงื่อนไขพิเศษ ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ค่าจดทะเบียน พรบ. Roadside Assistance พร้อม Warranty ไม่จำกัดระยะทางถึง 2 ปีเต็ม

นาย พิทักษ์ ทับทิม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะมีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์อีกหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก และรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“น้ำต้มสมุนไพร” ป้องกัน “โควิด-19” ได้จริง หรืออันตรายต่อร่างกาย?

“น้ำต้มสมุนไพร” ป้องกัน “โควิด-19” ได้จริง หรืออันตรายต่อร่างกาย?

ในสถานการณ์ที่โควิด-19 กำลังระบาดท่ามกลางความไม่พอเพียงของวัคซีน เตียงในโรงพยาบาล หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมถึงยารักษาโรค การหันมาพึ่งพาตนเองด้วยสมุนไพรไทยในครัวเรือนจึงเป็นอีกทางหนึ่งที่คนไทยหลายคนสนใจ จนเกิดเป็นเทรนด์ “น้ำต้มสมุนไพร” รวมหลายๆ อย่างเข้าไว้ด้วยกัน

แต่น้ำต้มสมุนไพรเหล่านี้ จะมีประโยชน์ในแง่ของการช่วยป้องกันโควิด-19 ได้มากน้อยแค่ไหน

น้ำต้มสมุนไพร ป้องกัน “โควิด-19” ได้จริงหรือ?

ดร.วนะพร ทองโฉม นักวิชาการโภชนาการ กลุ่มสาขาวิชาโภชนศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า สมุนไพรไทยอย่าง หัวหอมแดง กระเทียม กระชาย ขิง ข่า ตะไคร้ แต่ละอย่างมีสรรพคุณหลักคล้ายๆ กัน คือ 

  • บรรเทาอาการไอ 
  • แก้หวัด คัดจมูก 
  • สารสำคัญ อาทิ เควอซิติน (quercetin) เคมเฟอรอล (kaempferol) อัลลิซิน (Allicin) จินเจอรอล (gingerol) ช่วยต้านการอักเสบ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 

นอกจากนี้ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยังได้ศึกษาค้นคว้าจนพบว่าสารสกัดที่ได้จากกระชายขาว ได้แก่ แพนดูราทินเอ (Panduratin A) และพิโนสโตรบิน (Pinostrobin) สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถึงอย่างนั้นการค้นคว้านี้ยังคงอยู่ภายใต้การทดลอง เพื่อพัฒนาให้มีความปลอดภัยมากขึ้น หากต้องนำมาใช้กับผู้ป่วยจริงๆ

ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า จากคุณสมบัติทั้งหมดของสมุนไพรไทยเหล่านี้ จะเห็นได้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายในแง่ของการบรรเทาอาการหวัด ลดอาการอักเสบ และเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้เท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยป้องกันจากโควิด-19 ได้ 100%

ระวัง! น้ำต้มสมุนไพร อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย หากดื่มไม่ถูกวิธี

ดร.วนะพร ระบุว่า เราควรศึกษาถึงปริมาณที่ควรบริโภคของสารสำคัญที่มีในวัตถุดิบนั้น เพราะอะไรที่มากเกินไปก็มักจะทำให้เกิดโทษด้วยเช่นกัน และสารบางอย่างก็อาจจะมีอันตรกิริยากับยาบางตัว ที่ส่งผลต่อต้าน หรือเพิ่มฤทธิ์ของยา ซึ่งจะให้ผลเสียกับบุคคลนั้นๆ มากกว่าได้ประโยชน์ อีกทั้งเมื่อนำมาปรุงแต่งเป็นเครื่องดื่มที่ผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำตาล ก็อาจจะส่งผลเสียกับผู้ป่วยบางกลุ่ม อย่างเช่นผู้ป่วยเบาหวาน เมื่อทำให้รสชาติดีขึ้นผู้ป่วยก็จะกินได้มากขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นด้วย

กินสมุนไพรไทยเป็นอาหาร ได้ประโยชน์และปลอดภัย 

หากพิจารณาถึงการป้องกัน หรือการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน อาจทำให้เรามองหาแต่ข้อดีของวัตถุดิบนั้นๆ จนลืมนึกถึงปริมาณที่สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยจนกลายเป็นโทษแทน ดังนั้นหากเปลี่ยนสมุนไพรเหล่านั้นให้มาเป็นส่วนประกอบหนึ่งในอาหารเพื่อเพิ่มกลิ่นรสสัมผัสที่ดี ให้กับอาหาร เพราะกลิ่นรสสัมผัสที่ดีจะช่วยให้เราใช้เครื่องปรุงน้อยลง ร่วมกับการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้เราได้คุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ เชื่อได้ว่าเมื่อร่างกายเราแข็งแรง เราก็จะมีภูมิคุ้มกันที่ดีได้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 27,900.00 28,000.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,807.00 27,394.12 28,500.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,626.30 24,654.71 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,445.60 21,915.30 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 813.00 12,325.08 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 632.00 9,581.12 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,873.00 28,394.68 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 27/07/2564

ราคาน้ำมัน ปตท
ปตท.
ราคาน้ำมัน บางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 29.15 29.15 29.55 29.15 29.15 29.15 29.15 29.15 29.15 29.15
แก๊สโซฮอล์ 91 28.88 28.88 29.28 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88
แก๊สโซฮอล์ E20 27.64 27.64 28.04 27.64 27.64 27.64 27.64 27.64 27.64
แก๊สโซฮอล์ E85 22.54 22.54 22.54
เบนซิน 95 36.56 37.01 37.06 36.56 36.56
ดีเซล B7 28.69 28.69 29.09 28.69 28.69 28.69 28.69 28.69 28.69 28.69
ดีเซล 25.69 25.69 26.09 25.69 25.69 25.69 25.69 25.69 25.69 25.69
ดีเซล B20 25.44 25.44 26.04 25.44 25.44 25.44 25.44
ดีเซลพรีเมี่ยม 33.46 33.46 35.54 34.86 33.46
แก๊ส NGV 13.99 13.99 13.99
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า