สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 30 สิงหาคม 2560

รฟม. ปรับแผนเลื่อนกรอบเวลารถไฟฟ้า 4 เส้น “ชมพู-เหลือง-ส้มตะวันตก-ม่วงใต้”

นายฤทธิกา สุภารัตน์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. ได้ปรับแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและได้รายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รับทราบในวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา

แผนงานใหม่ได้เลื่อนกรอบเวลาดำเนินงานรถไฟฟ้า 4 เส้นทาง คือ 1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 4.7 หมื่นล้านบาท และ 2. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร วงเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะเลื่อนระยะเวลาเริ่มก่อสร้างออกไป 6 เดือน จากเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา เป็นเดือนธ.ค. 2560 เพื่อให้สอดคล้องกับการส่งมอบพื้นที่ของ รฟม.

ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองกำหนดให้ รฟม. ต้องส่งมอบพื้นที่ทันที นับตั้งแต่วันที่สัญญามีผลบังคับใช้ แตกต่างจากสัญญาอื่นที่มีเวลาส่งมอบพื้นที่ให้ระยะหนึ่ง ดังนั้น รฟม. จึงขอเวลาจัดกรรมสิทธิ์พื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายชมพูและสายสีเหลืองก่อน จากนั้นจะทยอยส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนในเดือนธ.ค. นี้ โดยตอนนี้ รฟม. ยังไม่ได้ขยายสัญญาให้เอกชน เพราะสัญญาจะเริ่มนับหนึ่งในวันที่เริ่มก่อสร้าง
สำหรับข้อเสนอซองที่ 3 หรือข้อเสนอเพิ่มเติม โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท รฟม. ได้ว่าจ้างที่ปรึกษามาศึกษาความเหมาะสมแล้วและคาดว่าจะสรุปได้ภายใน 4 เดือน
3. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยระยะทาง 16 กิโลเมตร วงเงิน 109,342 ล้านบาท ได้เลื่อนเป้าหมายการเสนอให้ ครม. เห็นชอบจากเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาเป็นเดือน เม.ย. 2561 เพื่อศึกษาการให้เอกชนร่วมทุน (PPP) ตามนโยบายของรัฐบาล โดยตอนนี้ รฟม. ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาให้ศึกษาความเหมาะสมการพีพีพีงานโยธาและงานเดินรถเป็นระยะเวลา 4 เดือน คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้
 กรอบเวลาใหม่จะส่งผลให้การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ล่าช้าออกไปประมาณ 9 เดือน เป็นเดือนก.พ. 2568 แต่จะไม่กระทบการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีแผนจะเปิดให้บริการก่อนในปี 2566
“โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมีบทเรียนว่า ควรมีผู้เดินรถเจ้าเดียวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งก็อาจจะทำเป็นหลายๆ ทางเลือก โดยทางเลือกหนึ่งคือ รฟม. เดินเองตามที่ท่านประธานบอร์ดให้นโยบาย เพราะหลังจากที่เราสร้างหมดแล้ว มันก็ไม่ค่อยเหลือรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ให้สร้างแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะเดินรถ หรืออนาคตเราอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษากับหน่วยงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม ที่อยู่ใกล้ๆ กับบ้านเรา” นายฤทธิกากล่าว
4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงิน 101,112 ล้านบาท ซึ่งจะเลื่อนเป้าหมายการประกวดราคาจากเดือนต.ค. เป็นเดือนธ.ค. นี้ ส่วนผลการประมูลก็จะเลื่อนจากเดือนส.ค. 2561 เป็นเดือนพ.ย. 2561
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะแบ่งการประมูลงานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เป็นกี่สัญญา เพราะขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่และมูลค่างานก่อสร้าง แต่คาดว่าน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2561 และเปิดให้บริการได้ภายในปี 2566-2567

http://www.bkkcitismart.com


ครม. ไฟเขียว กคช. ผุดบ้านผู้มีรายได้ปานกลางเกาะแนวรถไฟฟ้า นำร่อง “ประชานิเวศน์ 3”

ครม. ไฟเขียว กคช. ผุดบ้านผู้มีรายได้ปานกลางเกาะแนวรถไฟฟ้า นำร่อง “ประชานิเวศน์ 3”

นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ (กคช.)

 กคช. เดินเครื่องปั๊มโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้ปานกลางเกาะแนวรถไฟฟ้า หลัง ครม. ไฟเขียวตามแผนที่ พม. เสนอ กำหนดพื้นที่เป้าหมาย 4 จังหวัด “ปทุมธานี-กรุงเทพฯ-นนทบุรี-สมุทรปราการ” นำร่องโครงการที่ประชานิเวศน์ 3 จำนวน 556 ยูนิต ขนาดห้องชุดพื้นที่ 40 ตร.ม. มากสุด พร้อมเปิดแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (29 ส.ค.) มีมติอนุมัติจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล (ประชานิเวศน์ 3) ของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ จำนวน 556 หน่วย วงเงินลงทุนรวม 464.60 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหาและค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 413.82 ล้านบาท และที่เหลืออีก 50.59 ล้านบาท จะเป็นเงินของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เอง

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้ปานกลาง โดยอยู่ตามโครงข่ายคมนาคมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเบื้องต้นกำหนดพื้นที่เป้าหมายไว้ 4 พื้นที่ ประกอบด้วย 1. โครงการลำลูกกา คลองสอง จ. ปทุมธานี 2. โครงการเคหะร่มเกล้า ลาดกระบัง จ. กรุงเทพฯ 3. โครงการประชานิเวศน์ 3 จ. นนทบุรี และ 4. โครงการเคหะบางปู จ. สมุทรปราการ

โดยรายละเอียดโครงการที่จะเปิดโฉมครั้งแรก ได้แก่ โครงการประชานิเวศน์ 3 นี้ จะเป็นการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย 8 ชั้น ในพื้นที่ 6.23 ไร่ ประกอบด้วย ห้องพักขนาด 25.5 ตารางเมตร (ตร.ม.) มี 94 ยูนิต และห้องพักขนาด 30 ตร.ม. อีก 455 ยูนิต และเป็นพื้นที่ร้านค้าอีก 7 ยูนิต อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู ประมาณ 2.5 กม. ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่ดีมากในกรุงเทพฯ ตั้งราคาขายอยู่ในช่วง 828,000-1.19 ล้านบาท โดยกลุ่มเป้าหมาย คาดว่าจะเป็นผู้ที่จบการศึกษาใหม่ กลุ่มผู้เริ่มทำงาน และกลุ่มที่เริ่มครอบครัวใหม่

ทั้งนี้ ทางรัฐบาลตั้งใจจะให้ผู้ที่มีรายได้ไม่สูงนักมาเช่าซื้อ คือ รายได้ประมาณ 24,700-35,300 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน และกลุ่มรายได้ปานกลางถึงสูง คือ มีรายได้ 35,300 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้ที่จะได้สิทธิในการอยู่อาศัย จะเป็นกลุ่มที่รายได้ไม่สูงมาก ประมาณ 30% และกลุ่มที่มีรายได้ปานกลาง-สูง ประมาณ 70% และหากโครงการแรกที่จะดำเนินการประสบความสำเร็จ รัฐบาลก็อยากให้ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางเข้าถึงโอกาสการมีที่อยู่อาศัย และได้เริ่มต้นชีวิตที่ดี

ก่อนหน้านี้ นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวถึง (ร่าง) ยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (2560-2579) โดยกระทรวง พม. ว่า การเคหะฯ เดินหน้าสานต่อแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย 10 ปี (2559-2568) เพื่อใช้เป็นกรอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยของประเทศในระยะยาว เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2579 (Housing for ALL) ทั้งนี้ คาดว่าจะนำเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือน ส.ค. นี้

สำหรับปี 2560 การเคหะฯ มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย ได้แก่ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง จำนวน 20,292 ยูนิต แบ่งเป็นการก่อสร้าง 4 ระยะ โดยในระยะแรกกำลังดำเนินการก่อสร้างอาคารแปลง จี จำนวน 334 ยูนิต เพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยเดิมแฟลต 18-22 ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเทคอนกรีตเสารับพื้นชั้นที่ 2 และผนัง หรือเป็นการดำเนินงานแล้วที่ 19.62% ทั้งนี้ คาดว่าจะย้ายผู้อยู่อาศัยเดิมเข้าอยู่ได้ประมาณเดือน มิ.ย. 2561

ในส่วนโครงการบ้านเคหะประชารัฐ การเคหะฯ กำหนดเป้าหมายขาย จำนวน 10,470 ยูนิต จากปัจจุบันขายได้ 11,771 ยูนิต คิดเป็น 110% โดยเป็นยอดขายจากงานมหกรรมบ้านเคหะประชารัฐ ครั้งที่ 2 ที่ผ่านมา มีผู้สนใจจอง จำนวน 10,192 ยูนิต อย่างไรก็ตาม การเคหะฯ ได้มีการขยายเวลาให้ประชาชนสามารถจองโครงการได้ต่อเนื่อง และได้รับโปรโมชั่นพิเศษจนถึง 30 ก.ย. นี้ นอกจากนี้ ได้เปิดรับจองที่อยู่อาศัยผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งลูกค้าสามารถนำใบจอง หรือบาร์โค้ด ไปชำระเงินที่สำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ สำนักงานเคหะชุมชน และเคาน์เตอร์เซอร์วิสได้

สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อของสถาบันการเงินหลักได้ กคช. ได้เตรียมจัดตั้ง “กองทุนเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย” คล้าย ๆ กองทุนเกษตรกร โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ กคช. ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงรายละเอียดให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หลังจากนั้น จะนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นชอบก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเบื้องต้น วงเงินในกองทุนมีประมาณ 5,000 ล้านบาท

“ทั้งนี้ หลักการ คือ การช่วยเหลือและเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยประมาณ 1.2 แสนครัวเรือน สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ รวมถึงมีคุณภาพชีวิตดี และมีความมั่นคงในการอยู่อาศัย และเมื่อลูกค้ามีความพร้อมเข้าสู่ระบบสถาบันการเงิน กคช. จะได้รับคืนเงินกู้ ซึ่งจะเพิ่มการหมุนรอบของกองทุนได้ถึง 10 รอบ หรือปล่อยสินเชื่อได้ถึง 50,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา ลูกค้าที่ซื้อบ้าน กคช. และขอเงินกู้จากสถาบันการเงิน จะมีอัตราถูกปฏิเสธสินเชื่อประมาณ 50% ตัวเลขเมื่อต้นปี แต่ก็มีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ”

โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยใหม่ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยโดยการเคหะฯ จะจัดสร้างที่อยู่อาศัยทั้งประเภทเช่า และเช่าซื้อ ซึ่งมีโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะมนตรีแล้ว ได้แก่ โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2559 จำนวน 21 โครงการ รวม 6,129 ยูนิต ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้าง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในเดือน ก.ย. จำนวน 2,752 ยูนิต ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6 แสนบาท และโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้รายได้น้อย ปี 2559 ระยะที่ 1 จำนวน 4,388 ยูนิต ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างและจัดทำแบบก่อสร้าง

โครงการการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า ระยะที่ 1 โดยในระยะแรกจะดำเนินการบนที่ดินของ กคช. 2 พื้นที่ ได้แก่ โครงการประชานิเวศร์ 3 จำนวน 556 หน่วย ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ประมาณ 2.5 กม. คาดว่าจะเสนอ ครม. ได้ในเดือน ส.ค. นี้ และโครงการลำลูกกา คลอง 2 จำนวน 820 หน่วย ห่างจากสถานีคลองสอง รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ประมาณ 4.5 กม. อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดจะเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบในเดือน ก.ย. นี้

และโครงการพัฒนาและปรับปรุงสภาพแวดล้อมชุมชนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ปัจจุบันมีจำนวน 680 ชุมชน นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวชุมชน คือ โครงการตลาดเคหะประชารัฐ โดยนำร่องในพื้นที่กรุงเทพฯ 4 พื้นที่ ได้แก่ คลองจั่น, ห้วยขวาง, บ่อนไก่ และดินแดง 2 ทั้งนี้ ยังได้ร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าพัฒนาบ้านเบอร์ 5 ไม่ต่ำกว่า 115,000 หลัง คาดว่าจะช่วยลดการใช้พลังงานได้กว่า 128 ล้านหน่วยต่อปี หรือปีละ 512 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการด้านการเงินนับตั้งแต่เดือน ต.ค. ปี 2559 ถึงเดือน พ.ค. 2560 ประมาณ 9 เดือน มีผลกำไรสุทธิ 538 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 2560 (ณ สิ้นเดือน ก.ย. นี้) จะมีกำไรสุทธิประมาณ 840 ล้านบาท.

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (30 ส.ค.) นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จะมีการแถลงข่าวถึงแผนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า หลัง ครม. ได้อนุมัติแผนเมื่อวานนี้ (29 ส.ค.)

http://www.manager.co.th


ธปท.ชี้ส่งออกหนุนเศรษฐกิจไทยขยายตัว

ธปท.ชี้ส่งออกหนุนเศรษฐกิจไทยขยายตัว

ธปท.ชี้เศรษฐกิจไทยได้รับแรงหนุนจากภาคส่งออก คาดปีนี้โต 3.5% ย้ำห่วงหนี้ครัวเรือน

นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการเสวนา Thailand Focus 2017 หัวข้อ ความท้าทายในการดำเนินนโยบานการเงินของประเทศไทย ว่า เศรษฐกิจไทยได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกที่เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก การท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน รัสเซีย และยุโรป การบริโภคภาคเอกชนและรายได้ภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้นจากอำนาจการซื้อที่ปรับตัวขึ้นแม้ราคาพืชผลยังตกต่ำ โดยคาดว่าในระยะ 1- 2 ปีนี้การบริโภคในประเทศยังเติบโตเล็กน้อยเพียงร้อยละ 1 – 2 จากที่เคยเติบโตร้อยละ 4 – 5 จากหนี้ครัวเรือนส่งผลให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมยังชะลอการลงทุน โดยธปท.คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตที่ร้อยละ 3.5 และในปี 2561 เติบโตที่ร้อยละ 3.7 โดยคาดว่าการบริโภคภายในประเทศจะปรับตัวดีขึ้นจากการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชน แม้ยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือน ขณะที่ความต้องการภายนอกจะยังขยายตัวต่อเนื่องในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ธปท. มีความกังวลต่อหนี้ครัวเรือนจะมีผลต่อการบริโภคในประเทศ ทั้งนี้การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ประชาชนจะต้องมีความรู้ทางด้านการเงิน รวมทั้งธนาคาร สถานบันการเงินจะต้องโปร่งใสต่อการดำเนินธุรกิจมากขึ้น

http://money.sanook.com


ททท. จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ แคมเปญ Amazing Thailand Health & Wellness Showcase 2017

ททท. จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
แคมเปญ Amazing Thailand Health & Wellness Showcase 2017

ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยได้จัดงานใหญ่ระดับประเทศที่ชื่อว่า Amazing Thailand Health & Wellness Showcase 2017 จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ธีมการจัดงานในปีนี้ คือ Thailand a paradise for longevity โชว์ศักยภาพของนวัตกรรมการรักษาสุขภาพเชิงป้องกัน เพื่อความมีชีวิตยืนยาว

ภายในงาน นอกจากกิจกรรมประชุมวิชาการนานาชาติ แล้วยังมีโรงพยาบาล และคลินิกมาออกบูธนำเสนอนวัตกรรมการตรวจสุขภาพใหม่ๆที่น่าสนใจมากมาย  วันนี้เราเลยขอเอาใจคนรักสุขภาพและกำลังมองหาดีลราคาดีๆ ตามเราไปดูกันในงานนี้ได้เลย

ปัจจุบันนี้การตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น หรือ Pre Screening check up มีการพัฒนานำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพื่อความรวดเร็วในประเมินผลตรวจและที่สำคัญไม่ต้องเจ็บตัว จากการเจาะเลือด และคุณทราบมั้ยว่า เครื่องมือการตรวจคัดกรองสุขภาพที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ที่มีใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศชั้นนำเช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ในเมืองไทยก็มีให้บริการในโรงพยาบาลและคลีนิคชั้นนำเช่นกัน

ททท. จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ แคมเปญ Amazing Thailand Health & Wellness Showcase 2017

สำหรับบูธแรก Celfix Clinic เราได้ลองตรวจเช็คความสมดุลของจุสินทรีย์ในระบบทางเดินทางอาหาร เพื่อประเมินความผิดปกติของลำไส้และระบบย่อยอาหาร ความเสี่ยงโรคภูมิแพ้  ระบบภูมิต้านทานในร่างกายได้อีกด้วย โดยตรวจจากปัสสาวะ แค่เพียง 20 นาที ก็รู้ผลแล้วว่า เรามีจุลินทรีย์ในลำไส้ น้อยมาก มิน่าโรคภูมิแพ้ของเรา ไม่เคยหายซะที

ททท. จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ แคมเปญ Amazing Thailand Health & Wellness Showcase 2017

บูทต่อไปเป็นอีกหนึ่งประเภทของนวัตกรรมการประเมินความเสี่ยงของโรค เช่นเครื่อง Bio Body Scan จากคลีนิค BAAC เป็นเครื่องตรวจสแกนการทำงานระดับเซลล์ของแต่ละอวัยวะ ว่ามีอะไรทำงานผิดปกติและแนวโน้มความเสี่ยงโรค และอีกเครื่องคือ EIS Scanning จากคลีนิค DII Wellness Med Spa เป็นเครื่องตรวจหาความสมดุลของระบบการทำงานของร่างกาย

และสำหรับกลุ่มคนอ้วน ความดันสูง ทั้งหลายควรตรวจประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคสมอง ในงานนี้มีโชว์หลายเครื่อง เช่น  โรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ นำเครื่อง CIMT  มาโชว์การตรวจคัดกรองเส้นเลือดแดงตีบตัน จาก 2 คลีนิคชะลอวัยชื่อดังอย่าง Holistic Medical Center และ PANACEE ก็นำเครื่อง CARVI มาโชว์การตรวจประเมินสภาวะหลอดเลือดแดงและการอุดตันของเส้นเลือดฝอย

ดีลตรวจสุขภาพดีๆ ในแคมเปญของ ททท น่าสนใจมากมาย ตัวอย่างเช่น

  • N Health ตรวจเช็ค8 วิตามินเพื่อความอ่อนวัยบริการ ตรวจฟรี ถึงบ้าน จาก10,000 บาท เหลือ4,500 บาท
  • Celfix Clinic and Lab โปรแกรมการตรวจวิเคราะห์สารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ อนุมูลอิสระและสารพิษต่างๆ เพื่อหาความผิดปกติของร่างกายก่อนเกิดอาการของโรคต่างๆ จาก 24,000 บาท เหลือ 7,000 บาท
  • Theptarin Hospital โปรแกรมตรวจสอบสมรรถภาพหัวใจ จาก 3,500 บาทเหลือ 2,500 บาท
  • BAAC Bangkok Anti-Aging Center โปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี จาก 14,300 บาท เหลือ 3,500 บาท
  • Mali Hospital โปรแกรมการตรวจคัดกรองเส้นเลือดแดงตีบตันด้วยเครื่อง CIMT จาก 3,000 บาท เหลือ 1,500 บาท

สำหรับใครที่พลาดไปงาน  ไม่ต้องเสียใจ  ททท. ขยายเวลาให้คนไทยทุกคนได้ซื้อดีลสุขภาพดีๆ ในแคมเปญนี้ จองซื้อดีลต่างๆในราคาพิเศษก่อนวันที่ 15 กันยายน ศกนี ได้ที่ http://www.amazingthailandhealthandwellnessshowcase.com/exclusivedeals/

https://travel.mthai.com


12 คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่คุณอาจใช้ผิดไม่รู้ตัว

Where you go, madam? เป็นประโยคเบสิกที่ได้ยินบ่อยๆจากคนขับรถตุ๊กๆหรือรถแท็กซี่ เวลาถามจุดหมายปลายทางของผู้โดยสารชาวต่างชาติ ทำให้รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้จะมองไปทางไหนใครๆก็พูดภาษาอังกฤษได้ แต่ก็มีอยู่หลายคำหลายประโยคที่คนไทยเราใช้กันอย่างผิดๆแบบไม่แคร์สื่อ เพราะถือว่ายังไงฝรั่งก็เข้าใจ จริงๆแล้วชาวต่างชาติเค้าก็รู้สึกตลกกับการใช้ภาษาอังกฤษผิดๆนี้ของคนไทย แต่เขาไม่รู้จะอธิบายให้ฟังได้อย่างไรต่างหากค่ะ เรามาดูกันดีกว่ามีคำไหนที่ควรเลิกใช้บ้าง

Same same

“เหมือนๆกันแหละ”

เป็นคำที่คนไทยคุ้นเคยกันดี คนไทยเราจึงนำคำนี้มาแปลเป็นภาษาอังกฤษแบบตรงตัวกันไปเลย ทำให้คำนี้ผิดแกรมม่าอย่างรุนแรง เพราะคำว่า same (เหมือนกัน, อย่างเดียวกัน, คล้ายกัน) เป็น คำคุณศัพท์ (adj.) ที่ใช้เป็นคำขยายคำนาม

คำที่ควรใช้

ถ้าจะเปรียบเทียบว่าอะไรเหมือนหรือคล้ายกับอะไร ให้ใช้ Similar to เช่น

My phone is similar to your phone.

โทรศัพท์ของฉันคล้ายกับของเธอเลยอะ

แต่หากต้องการสื่อว่า ที่เดิม เวลาเดิม อันเดิม สามารถใช้ same ได้ แต่ใช้แค่ same เท่านั้นนะคะ ไม่ต้อง same same เช่น

I will see you here at the same time tomorrow.

พรุ่งนี้ฉันจะมาเจอเธอที่นี่เวลาเดิม

หรือถ้าจะบอกว่า ทำอะไรเหมือนๆเดิมที่เคยทำอยู่เป็นประจำ ให้ใช้ as usual เช่น

Yesterday, Pam went to the park as usual.

เมื่อวานนี้แพมก็ไปที่สวนสาธารณะเหมือนเดิมน่ะแหละ

Same same but different

“เหมือนๆกันแหละ แต่ก็ไม่เหมือนกันนะ”

แน่นอนว่าคำนี้ต้องมา คือตกลงเหมือนหรือไม่เหมือนยังไงกันแน่ ความหมายที่ต้องการจะสื่อในที่นี้คือ มันดูเหมือนกัน แต่ก็มีบางส่วนที่แตกต่างกันนั่นเอง

คำที่ควรใช้

คำนี้ต้องยกทั้งวลีไปเลยค่ะ similar but different in some ways นั่นคือ เหมือน/คล้ายกันนะ แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่เหมือน/ไม่คล้ายกันอยู่ เวลาใช้ อย่าลืมใส่ v. to be หรือ seem/look ก่อนวลีนี้นะคะ เช่น

Jane and her sister look similar but different in some ways.

แจนกับน้องสาวของเธอรูปร่างหน้าตาคล้ายกันแต่ก็มีบางส่วนที่ไม่คล้าย

Open/close the light

“เปิด/ปิดไฟให้หน่อยสิ”

เปิด/ปิดไฟของคนไทยเราคือการเดินไปกดสวิซไฟให้หลอดไฟมันทำงานส่องแสงสว่างออกมา แต่การเปิดในภาษาอังกฤษมันหมายถึงการเปิดจริงๆค่ะ เช่น เปิดประตู เปิดกล่อง ส่วนการทำให้หลอดไฟสว่างขึ้นมา ในภาษาอังกฤษจะไม่ใช้ “เปิด/ปิด” เหมือนในภาษาไทย

คำที่ควรใช้

การทำให้อะไรสักอย่างทำงานขึ้นมา ไม่ว่าการทำให้ไฟสว่าง หรือการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์(ให้คอมพิวเตอร์เริ่มทำงาน) เราจะใช้ turn on/turn off ค่ะ เช่น

Can you turn on the light, please?

คุณคะ เปิดไฟให้หน่อยได้ไหมคะ

No have …

“ไม่มีหรอก”

ประโยคนี้เหมือนเป็นประโยคอำมตะหรือเปล่า เป็นประโยคตลอดกาลที่ไม่ว่านานแค่ไหนแล้วก็ยังได้ยินคนไทยใช้กันอยู่ คือเล่นแปลกันตรงตัวเลยนะ no-ไม่/have-มี รวมกันก็ “ไม่มี” ไง เป็นงั้นไป…

คำที่ควรใช้

ถ้าจะแค่บอกว่า ไม่มี(สิ่งของ/สิ่งที่ไม่มี) ให้ใช้ There is no + สิ่งที่ไม่มี เช่น

There is no money in the wallet.

ไม่มีเงินอยู่ในกระป๋าตังค์สักบาท

หรือถ้าต้องการสื่อว่า ฉันน่ะ ไม่มีไอนั่นไอนี่นะ ให้ใช้ I do not have + สิ่งที่ไม่มี เช่น

I don’t have money.

ฉันไม่มีเงินเลย

I very like it.

“ฉันชอบมากเลย”

คือเข้าใจว่าอยากจะเน้นว่าชอบมาก ชอบจริงๆ แต่การจะเน้นว่าชอบมากในภาษาอังกฤษเค้าไม่ได้เอา very วางหน้า like กันหรอกนะคะ

คำที่ควรใช้

ถ้าจะบอกว่า ชอบมาก ก็ให้นำ very much วางหลังประโยคเลยค่ะ เช่น

I like it very much.

ฉันชอบมันมากเลย

ถ้าอยากเปลี่ยนเป็น ชอบจริงๆนะ ชอบจริงๆไม่ได้โกหกไรงี้ ก็ใช้ really วางหน้า like เลย เช่น

I really like you.

ฉันชอบเธอจริงๆนะ

Take a bath.

“อาบน้ำ”

จะว่าอาบน้ำไหมก็ใช่ค่ะ แต่อาบน้ำคำนี้ฝรั่งเค้าหมายถึง อาบน้ำในอ่าง หรือการนอนแช่น้ำในอ่าง ซึ่งคนไทยเราไม่ค่อยมีบ้านไหนที่มีอ่างอาบน้ำในห้องน้ำไว้นอนแช่เลย เราจะนิยมใช้ฝักบัวอาบน้ำมากกว่า ดังนั้นคำนี้จึงไม่ถูกต้องนักค่ะ เพราะเวลาสื่อสารไปแล้ว ฝรั่งเค้าจะเข้าใจว่าเรากำลังจะไปนอนแช่น้ำ เป็นงั้นไป

คำที่ควรใช้

อาบน้ำโดยใช้ฝักบัวอาบน้ำ ภาษาอังกฤษเรียกว่าtake a shower ค่ะ เช่น

I will go to take a shower.

ฉันจะไปอาบน้ำละนะ

Are you spicy?

“คุณเผ็ดไหม?”

การใช้ Are you spicy? เพื่อถามว่า อาหารของคุณน่ะเผ็ดไหม? เห็นจะไม่ถูกต้อง เพราะการใช้ are ถามถึง you มันเป็นการถามถึงตัวบุคคลผู้นั้น แทนที่น่าจะเป็นการถามว่าอาหารเผ็ดรึเปล่า กลายเป็นถามว่าตัวของคุณน่ะเผ็ดหรือเปล่าไปซะงั้น

คำที่ควรใช้

เพราะเราจะถามถึงอาหาร เพราะงั้นเราจึงต้องกล่าวถึงอาหารค่ะ ไม่ใช่ตัวของคนๆนั้น เช่น

Is your food spicy?

อาหารของเธอเผ็ดไหมอะ?

Are you boring?

“คุณเบื่อไหม?”

เวลาเราไปเที่ยวหรือทำอะไรด้วยกันกับเพื่อนชาวต่างชาติ เราก็อยากรู้ว่า เขาเบื่อหรือเปล่า? ที่มาเที่ยวนี่สนุกไหมอะไรอย่างนี้ แต่มันมีความแตกต่างอยู่ระหว่าง boring กับ bored ค่ะ ถ้าใช้ boring หมายความว่าสิ่งนั้นหรือคนๆนั้นเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ หรือเป็นคนน่าเบื่อนั่นเอง ส่วนถ้าใช้ bored จะเป็นการถามถึงอารมณ์/ความรู้สึกของคนๆนั้นว่ารู้สึกเบื่อไหม

คำที่ควรใช้

ต้องใช้คำว่า bored ค่ะ เช่น

Are you bored?

คุณเบื่อไหมคะ?

I like to play Internet.

“หนูชอบเล่นเน็ตค่ะ”

นี่เป็นอีกหนึ่งคำตอบยอดฮิต เวลาอาจารย์ฝรั่งถามว่า เวลาว่างชอบทำอะไร? นักเรียนยุคไอทีอย่างเราๆก็มักจะตอบอย่างพร้อมเพรียงกันว่า อ๋อ หนูชอบเล่นเน็ตค่ะจารย์ ซึ่งเป็นคำตอบที่ผิดค่ะ ในภาษาอังกฤษ เค้าไม่มีการเล่นอินเตอร์เน็ตนะคะ มีแต่การใช้อินเตอร์เน็ต

คำที่ควรใช้

use Internet ก็จะหมายถึงการที่เราใช้อินเตอร์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “เล่นเน็ต” ทุกวันนี้นั่นเอง เช่น

I like to use Internet on my free time.

เวลาว่างหนูชอบใช้อินเตอร์เน็ตค่ะ

I want to play yoga.

“อยากไปเล่นโยคะจัง”

ในภาษาไทยเราการไปออกกำลังกายด้วยโยคะ เราเรียกว่าการไปเล่นโยคะ แต่ในภาษาอังกฤษนั้น เราใช้ play กับ เกมส์กีฬา(เช่น ฟุตบอล วอลเลบอล เทนนิส เป็นต้น) เกมส์ต่างๆ และเครื่องดนตรีเท่านั้น

คำที่ควรใช้

ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า do yoga ค่ะ เช่น

I want to do yoga this Friday.

วันศุกร์นี้อยากไปเล่นโยคะจัง

Check bill

“เก็บเงินด้วยค่ะ”

เราคงจะคุ้นเคยกับการบอกพนักงานร้านอาหารว่า “น้องคะ เช็คบิลด้วยค่ะ” ซึ่งทุกคนเข้าใจว่าเราต้องการจ่ายค่าอาหารแล้ว แต่ในภาษาอังกฤษมันจะฟังดูไม่เข้าท่านัก เมื่อ check = การตรวจสอบ ชาวต่างชาติอาจจะงงได้ว่าเราจะให้เขาตรวจสอบบิลไปทำไมกัน

คำที่ควรใช้

ใช้แค่คำว่า the bill ก็พอแล้วค่ะ เช่น

The bill, please.

คิดเงินด้วยค่ะ

หรือถ้าอยากพูดให้สุภาพมากขึ้นอีกหน่อย โดยมีความหมายเดียวกัน ก็ใช้ Could I have the bill please?

Where you go?

“เธอจะไปไหนอะ?”

ในเมืองท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติเยอะๆ เราอาจจะได้ยินประโยคนี้กันบ่อยๆ เพราะเป็นประโยคที่รถตุ๊กๆที่วิ่งในตัวเมืองถามหาผู้โดยสารชาวต่างชาตินั่นเอง

คำที่ควรใช้

การถามคำถามที่ขึ้นต้นด้วย where จะต้องตามด้วย คำกริยาค่ะ อาจจะเป็น v. to be หรือ modal verb (เช่น can could may might will เป็นต้น) ก็ได้ เช่น

Where are you going?

คุณกำลังจะไปไหนเหรอ?

Where will you go?

เธอจะไปไหนล่ะ?

การใช้ภาษาอังกฤษให้ถูกต้องนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นของแต่ละคนที่จะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตนเองให้ดีขึ้นได้ ไม่ใช่เพียงแค่เห็นว่ายังไงชาวต่างชาติก็เข้าใจจนเลือกที่จะใช้คำผิดๆไปเพราะมันง่าย หลายคนต้องการที่จะนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยการนำภาษาอังกฤษไปใช้ได้อย่างถูกต้องนั้น ผู้ใช้ต้องมีความตั้งใจในการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ย่อท้อ และต้องฝึกฝนอยู่เสมอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและน่าชื่นชมมากค่ะ

https://bestkru.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 30/08/2560

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,550.00 20,650.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,331.00 20,177.96 21,150.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,197.90 18,160.16 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 599.00 9,080.84 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 466.00 7,064.56 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,379.00 20,905.64 n/a

 

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  30/08/2560


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.15 27.15 27.15 34.71 27.15
27.15
27.15
27.15
27.15
แก๊สโซฮอล E-20
24.64
24.64
24.64
24.64
24.64
24.64
24.64
24.64
24.64
แก๊สโซฮอล E-85 20.24 20.24 20.24 19.94
แก๊สโซฮอล 91 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88 26.88
เบนซิน 95 34.26 34.71 34.76 34.26 34.26 34.26
ดีเซลหมุนเร็ว 24.99 24.99 24.99 24.99 24.99 24.99 24.99 24.99 24.99 24.99
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 27.99 28.67 28.67 28.67 28.67
มีผลตั้งแต่ 30 Aug 05:00 30 Aug 05:00 30 Aug 05:00 30 Aug 05:00 30 Aug 05:00 30 Aug 05:00 30 Aug 05:00 30 Aug 05:00 30 Aug 05:00 30 Aug 05:00

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า