สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 8 มีนาคม 2561

10 ยักษ์ใหญ่อสังหาฯหว่านลงทุน3.7แสนล้าน ปี61ผุด284 โครงการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด

ปี 61 สัญญาณตลาดอสังหาฯฟื้น บิ๊กอสังหาฯแห่เปิดโครงการใหม่รองรับกำลังซื้อ เผย 10 บริษัทยักษ์ใหญ่อสังหาฯกางแผนเปิด 284 โครงการ มูลค่า 3.69 แสนล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 2.9 แสนล้านบาท
ปี 2561 จะเป็นปีแห่งความหวังของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลังจากที่ชะลอตัวมาหลายปี สัญญาณการฟื้นตัวเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปี 2560 ภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ผู้ประกอบการต่างเร่งวางแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค หลังจากที่หลายบริษัทเลื่อนแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2560 มาเปิดปีนี้แทน จากการประกาศแผนลงทุนของ 10 บริษัทอสังหาฯรายใหญ่พบว่าปี 2561 มีแผนพัฒนาถึง 284 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 369,523 ล้านบาท มีเป้าหมายยอดขายรวม 290,842 ล้านบาท
 
พฤกษาฯ หวนคืนตลาดทาวน์เฮาส์
 
สำหรับแผนการลงทุนบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS ประกาศเปิดตัวโครงการสูงสุดในตลาด 75 โครงการมูลค่ากว่า 66,700 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ 53,742 ล้านบาท ปีนี้พฤกษาหันมาให้ความสำคัญกับตลาดทาวน์เฮาส์ที่เป็นเจ้าตลาดอยู่เดิม แต่ช่วงหลังมาหันไปบุกตลาดกลาง-บนมากขึ้นหลังจากที่กลุ่มลูกค้าตลาดกลาง-ล่างได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้ครัวเรือน ธนาคารปฏิเสธสินเชื่อ แต่ในปีนี้พฤกษาจะให้ความสำคัญกับโครงการทาวน์เฮาส์มากยิ่งขึ้นโดยปีนี้จะเปิด 44 โครงการมูลค่าโครงการ 27,900 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 60% ของพอร์ตสินค้า พร้อมตั้งหน่วยธุรกิจขึ้นมาดูแลโครงการประเภททาวน์เฮาส์โดยเฉพาะ ส่วนโครงการบ้านเดี่ยวเปิด 18 โครงการมูลค่า 19,700 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม 5 โครงการมูลค่า 8,000 ล้านบาท และโครงการประเภทพรีเมียม 8 โครงการมูลค่า 11,100 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ 53,742 ล้านบาท
 
สำหรับในปี 2560 พฤกษามียอดขาย 47,536 ล้านบาท มีรายได้ 43,922 ล้านบาท และมีกำไร 5,454 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้รับผลกระทบจากการปฏิเสธสินเชื่อโดยในปีที่ผ่านมามีสูงถึงกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งพฤกษาได้พยายามหาแนวทางในการช่วยเหลือให้ลูกค้าเหล่านี้มีสามารถกูซื้อบ้านได้
 
เอพี ชูธงติด 1 ใน 3 ผู้นำอสังหาฯ
 
อันดับ 2 เป็นบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ที่มุงก้าวสู่การเป็น 1 ใน 3 ของผู้นำธุรกิจพัฒนาธุรกิจอสังหาฯไทย โดยในปี 61 เอพีมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 34 โครงการ มูลค่า 49,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 30 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 33,500 ล้านบาท และมีรายได้รวม 28,100 ล้านบาท ผ่านแผนการดำเนินงานใน 5 มิติสู่ความสำเร็จ คือ 1. สานต่อความสำเร็จกับกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท 2. เปิดตัวสินค้าระดับ Super Luxury 3. รุกตลาดสินค้าแนวราบ สร้างความต่างด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบความต้องการเฉพาะกลุ่ม 4. ขยายพอร์ตตลาดต่างประเทศ และ 5. พัฒนานวัตกรรมดิจิทัลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
 
ส่วนการร่วมทุนกับกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท เข้าสู่ปีที่ 5 โดยปีนี้มีแผนที่จะพัฒนาคอนโดระดับกลางบนอย่างต่อเนื่อง โดยได้ลงนามสัญญาร่วมทุนพัฒนาคอนโดใหม่ไปแล้ว 4 โครงการ มูลค่า 23,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเดือน มี.ค. จะเปิดขายคอนโดร่วมทุนโครงการแรก คือ LIFE สุขุมวิท 62 โดย ณ ปัจจุบัน เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป พัฒนาคอนโดร่วมกันทั้งสิ้น 15 โครงการ มูลค่ารวม 73,000 ล้านบาท
 
ส่วนการเปิดตัวสินค้าระดับ Super Luxury ภายใต้แบรนด์ THE ADDRESS และคฤหาสน์หรูแบรนด์ THE PALAZZO ในปีนี้ เอพีจะนำกลับมาพัฒนาอีกครั้ง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าระดับบน ที่มองหาที่อยู่อาศัยพรีเมียมในทำเลศักยภาพ คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง สำหรับรุกตลาดสินค้าแนวราบ จะเน้นสร้างความต่างด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบความต้องการเฉพาะกลุ่ม โดยในปีนี้ทีม AP Design Lab จะสร้างความต่าง ทั้งด้านการดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งานภายในตัวบ้าน เพื่อตอบความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
 
ส่วนผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา เอพีสร้างยอดขายรวม ทั้งคอนโดและแนวราบได้ 42,900 ล้านบาท ซึ่งเกินจากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ 26,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นถึง 92% เมื่อเทียบกับปี 59 ที่ทำได้ 22,365 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด นอกจาการเปิดตัวสินค้าแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม 22 โครงการใหม่ ซึ่งเติบโตทางยอดขายแล้ว ยังมาจากการเปิดตัวคอนโดแบรนด์ LIFE จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ LIFE ลาดพร้าว, LIFE วิทยุ และ LIFE อโศก-พระราม 9 ซึ่งทั้ง 3 โครงการสามารถปิดการขายได้ 90% ตลอดจนสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกกว่า 90 โครงการ ที่มีส่วนสำคัญช่วยผลักดันยอดขายสู่ความสำเร็จ
 
 
 
ศุภาลัยเดินหน้าบุกตลาดต่างจังหวัด
 
อันดับ 3 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ปีนี้บริษัทตั้งเป้าสู่ “Sustainable Growth 2018” โดยมีแผนพัฒนาโครงการใหม่ในทำเล กทม.-ปริมณฑลและต่างจังหวัด และยังมีแผนเดินหน้าการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด โดยได้มีการขยายการพัฒนาโครงการรวมแล้ว 12 จังหวัด ซึ่งจังหวัดล่าสุดที่เข้าไปลงทุนคือ จังหวัดเชียงราย ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนยอดขายในต่างจังหวัด เพิ่มขึ้นเป็น 30% แบ่งเป็นแนวราบ 26% และคอนโดมิเนียม 4% ของเป้าหมายยอดขายรวม
 
สำหรับแผนพัฒนาโครงการใหม่รวม 35 โครงการ มูลค่ารวมโครงการกว่า 40,000 ล้านบาท เติบโต 28% ทั้งในทำเลกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 30 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบ จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 3,500 ล้านบาท
โกลเด้นแลนด์เปิดอาณาจักรทาวน์ชิป
 
บริษัทแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (มหาชน) (GOLD) หรือ โกลเด้นแลนด์ ปี 61 ตั้งเป้าให้เป็นปีแห่ง”การเพิ่มมูลค่า (Adding Value)”หลังจากเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ กลุ่มทุนจากสิงคโปร์ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นของโกลเด้นแลนด์ตั้งแต่ปี 59 ซึ่งปัจจุบัน บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นสัดส่วน 39.9% ทำให้ความร่วมมือระหว่างกันเริ่มเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นทั้งด้านการร่วมลงทุน และการร่วมพัฒนาโครงการต่างๆ
 
โดยมีเป้าหมายรายได้ 17,800 ล้านบาท ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 34 โครงการมูลค่า 39,600 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 26,600 ล้านบาท ซึ่งจะพัฒนาโครงการแนวราบระดับกลาง ได้แก่ บ้านเดี่ยว ราคา 7-10 ล้านบาท บ้านแฝดราคา 4-7 ล้านบาท และทาวน์โฮมราคา 2-4 ล้านบาท จะเป็นสินค้าหลักของโกลเด้นแลนด์ พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการสามย่านมิตรทาวน์ คาดว่าในปี 61 งานก่อสร้างจะคืบหน้ากว่า 60%
 
นอกจากนี้โกลเด้นแลนด์ ยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ หรือ ทาวน์ชิบ ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบหลายโครงการภายในทาวน์ชิบเดียว โดยตั้งเป้าเปิด 3 โครงการงมีการพัฒนาโครงการได้หลายหลายรูปแบบในพื้นที่เดียวกัน ได้แก่ อาณาจักรบริติช อเวนิว ย่านเกษตรนวมินทร์ มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ ,โกลเด้น เอ็มไพร์ ย่านสาทร-กัลปพฤกษ์ และฟีเรนเซ เอ็มไพร์ ย่านบางแค
 
ขณะเดียวกันโกลเด้นแลนด์ยังเดินหน้าขยายโครงการในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ระเบียงเศษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เช่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา จากผลตอบรับเป็นอย่างดีของโครงการต่างจังหวัดโครงการแรก คือ โกลเด้น ทาวน์ ศรีราชา-อัสสัมชัญ ด้วยยอดขายในวันเปิดตัวทะลุ 700 ล้านบาท บริษัทจึงมุ่งเดินหน้าต่อ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในต่างจังหวัด โดยเน้นที่ดินทำเลในเมืองในจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูงเท่านั้น
 
เพอร์เฟคเพิ่มน้ำหนักลงทุนแนวราบ
 
บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF ในปีนี้ยังคงให้น้ำหนักกับการขยายตลาดโครงการแนวราบเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังมีการมีแผนจะร่วมทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากฮ่องกง เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้รายได้ในส่วนของกลุ่มบ้านเดี่ยว ขยับไปถึง14,000 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าจะเสริมรายได้ในกลุ่มบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้นปีละกว่า1,000 ล้านบาท โดยในปีนี้เพอร์เฟคมีแผนจะร่วมกันพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการ เจาะกลุ่มตลาดระดับบนระดับไฮเอนด์ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป รวมถึงการเปิดตัวแบรนด์บ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่เพื่อจับเซกเมนต์ระดับบน ซึ่งจะมีราคาขายอยู่ในระหว่างบ้านเดี่ยวแบรนด์เพอร์เฟคเพลส กับแบรนด์เพอร์เฟค มาสเตอร์พีช เนื่องจากแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยระดับบนยังมีทิศทางที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง สังเกตได้จากโครงการระดับบนในตลาดที่สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
 
ในปีนี้กลุ่มบริษัทเพอร์เฟค มีแผนเปิดขาย 25 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 35,823 ล้านบาท โดยเป็นโครงการของเพอร์เฟคจำนวน 23 โครงการ มูลค่า 27,523 ล้านบาท เป็นแนวราบ 20 โครงการ มูลค่า 23,243 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 4,280 ล้านบาท และเป็นโครงการของบริษัทแกรนด์ แอสเสทโฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) 2 โครงการ โดยจะเปิดคอนโด 1 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท และวิลล่า 1 โครงการ มูลค่า 2,300 ล้านบาท
 
กลุ่มเพอร์เฟค ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 20,900 ล้านบาท ประกอบด้วย เป้าขายของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 19,400 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 11,000 ล้านบาท คอนโด 7,000 ล้านบาท คอนโดและวิลล่าที่ประเทศญี่ปุ่น 1,400 ล้านบาท สำหรับแกรนด์ แอสเสทฯ ตั้งเป้าขายโครงการคอนโด 1,500 ล้านบาท
http://www.bkkcitismart.com

เร่งต่อขยายสาย “น้ำเงิน-เขียว-ส้ม-แดง” สนข.ชะลอพิมพ์เขียวรถไฟฟ้าเฟส 2

เป็นที่แน่ชัด “สนข.-สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร” จะเร่งบรรจุรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล “แคราย-ลำสาลี” เป็นรถไฟฟ้าสายที่ 11 ไว้ในแผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (M-map) ใช้เวลาดำเนินการ 20 ปี ตั้งแต่ปี 2553-2572

ปัจจุบันรถไฟฟ้าสารพัดสีมีการพัฒนาโครงการจนเกือบจะครบ 10 เส้นทาง ยังเหลือสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก) ระยะทาง 19 กม. สีแดงเข้ม (บางซื่อ-หัวลำโพง) ระยะทาง 8.5 กม. สีม่วง (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ระยะทาง 23.6 กม. ที่กำลังจะเปิดประกวดราคา และส่วนต่อขยายของสายน้ำเงิน (บางแค-พุทธมณฑลสาย 4) ระยะทาง 8 กม. สีเขียวเข้ม (สมุทรปราการ-บางปู) ระยะทาง 9.5 กม. สีเขียวเข้ม (คูคต-ลำลูกกา) ระยะทาง 6.5 กม. สีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์) ระยะทาง 13.4 กม. แอร์พอร์ตลิงก์ส่วนต่อขยาย (ดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท) ระยะทาง 21.8 กม. สีแดงเข้ม (รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์) 8.9 กม. และสีแดงอ่อน (ตลิ่งชัน-ศาลายา) 19.7 กม. เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อเปิดประมูลภายในปี 2561
 
เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ปัจจุบัน “สนข.” กำลังจัดทำแผนพัฒนาโครงการในพื้นที่ต่อเนื่อง และเชื่อมไปยังจังหวัดปริมณฑลมากขึ้น โดยร่วมกับประเทศญี่ปุ่นศึกษา หลังได้รับการสนับสนุนจาก “ไจก้า-องค์การเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น” ด้วยการนำโมเดลการพัฒนาจากญี่ปุ่นมาเป็นต้นแบบ โดยทบทวนบางโครงการในแผนเดิม และสร้างเพิ่มเติมในบางพื้นที่ที่ยังขาดช่วงอยู่
ออกไปก่อน เพราะต้องดูปริมาณผู้โดยสารในพื้นที่ชานเมืองว่ามีมากพอที่รัฐจะต้องลงทุนสร้างรถไฟฟ้าหรือไม่
 
“คอนเซ็ปต์รถไฟฟ้าระยะที่ 2 เติมเต็มโครงข่ายในเฟสแรกที่กำลังดำเนินการ ต้องดูว่าความต้องการในการเดินทางมีมากน้อยแค่ไหน และยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ที่จะสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายไปชานเมือง หรือจะทำเฉพาะระบบฟีดเดอร์มารองรับการเดินทาง”
 
แผนแม่บทรถไฟฟ้า 10 เส้นทางเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการจราจร เพิ่มทางเลือกการเดินทางให้กับประชาชนที่เข้ามาทำงานในเมือง เนื่องจากเมืองมีการขยายไปรอบนอกกรุงเทพฯมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินถูก ทำให้เกิดเมืองบริวารในย่านชานเมือง
 
ปัจจุบันการพัฒนาตามแผนแม่บทเดิมยังไม่เต็มโครงข่าย ต้องเร่งรัดตรงนี้ให้เสร็จในปี 2572 ซึ่งรถไฟฟ้าปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแล้วว่าสามารถช่วยเรื่องการเดินทางได้เป็นอย่างดี ขณะที่การพัฒนาเมืองก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก หลังรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ เปิดบริการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการซื้อตึกแถวเพื่อพัฒนาโครงการและพัฒนาเมือง เช่น สำนักงาน ที่อยู่อาศัย เป็นการเพิ่มมูลค่า พื้นที่ใจกลางเมือง
 
ต่อไปทางกรมโยธาธิการและผังเมืองกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ต้องวางแผนพัฒนาเมืองให้สอดคล้องกับโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ในแผนแม่บท อย่างสายสีน้ำตาลที่ สนข.กำลังจะขออนุมัติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) บรรจุเพิ่มในแผนแม่บทปัจจุบัน เนื่องจากรถไฟฟ้าสายนี้จะตอบโจทย์การเดินทางโซนตะวันออกและตะวันตก จึงต้องเร่งก่อสร้างโดยเร็ว เมื่อเปิดบริการจะเป็นรถไฟฟ้าสายรองเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายหลัก มีสีม่วง สีแดง สีเขียว สีเทา สีส้ม และสีเหลือง
 
เนื่องจากย่านเกษตร-นวมินทร์เปลี่ยนแปลงไปมาก มีโครงการอยู่อาศัยและกิจกรรมเชิงพาณิชย์เกิดขึ้น ทำให้มีปัญหาการจราจรหนาแน่น สายสีน้ำตาลจะเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางในอนาคต
http://www.bkkcitismart.com

จับตาวันนี้ ! กระทรวงยุติธรรม เร่งสรุปแนวทางดูแลเงินดิจิทัล

เงินดิจิทัล

กระทรวงยุติธรรม เตรียมสรุปแนวทางดูแลเงินดิจิทัล 6 มีนาคมนี้ หวังดูแลนักลงทุนไม่ให้เกิดความเสียหาย หลังกระแสลงทุนเงินดิจิทัลแรงไม่หยุด 

วันที่ 4 มีนาคม 2561 พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงประเด็นการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัล (Crypto Currency) ว่า ในวันนี้ (6 มีนาคม 2561) จะมีการเสนอแนวคิดเกี่ยวกับร่างกฎหมายควบคุมดูแลเงินดิจิทัลต่อที่ประชุม ซึ่งประกอบไปด้วยผู้บริหารกระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และสภาทนายความ มาร่วมระดมความคิดเห็นเพื่อออกมาตรการดังกล่าว

 ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันการซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิทัลจากต่างประเทศ เริ่มแพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ผ่านการระดมทุนในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงยังมีกรณีของการฟอกเงินด้วย ทำให้หลายหน่วยงานต้องติดตามเส้นทางการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนได้รับความเสียหาย

เงินดิจิทัล

ด้าน นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ธปท. ยังถือว่า สกุลเงินดิจิทัลไม่ใช่เงินตราที่ใช้แลกเปลี่ยนได้ตามกฎหมาย โดยสิ่งที่ ธปท. ทำได้ตอนนี้คือทำให้แนวทางกำกับดูแลมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

ขณะที่ นางทิพยสุดา ถาวรามร รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า ความคืบหน้าเรื่องเกณฑ์การเสนอขายสกุลเงินดิจิทัล หรือ ICO : Initial Coin Offering ต้องรอวันที่ 8 มีนาคมนี้ว่า คณะกรรมการ ก.ล.ต. จะมีมติออกมาอย่างไร ซึ่งยอมรับว่ากฎหมายไทยในปัจจุบัน กฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลไม่มีความสอดคล้องกับเชิงปฏิบัติ

https://money.kapook.com

กรมสรรพากรขยายเวลายื่นภาษีปี 60 ถึงจันทร์ที่ 9 เม.ย.นี้

กรมสรรพากรขยายเวลายื่นภาษีปี 60 ถึงจันทร์ที่ 9 เม.ย.นี้

นางแพตริเซีย มงคลวนิช รองอธิบดีกรมสรรพากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในขณะนี้เป็นช่วงเวลาของการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปีภาษี 2560 (ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด.91) ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้เสียภาษีและประชาชนใช้บริการสอบถามปัญหาภาษีทางโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก

ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษีและประชาชน ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161 จึงได้ขยายเวลาการให้บริการจากเดิมที่ให้บริการทุกวันทำการปกติ (จันทร์ – ศุกร์) เวลา 08.30 – 18.00 น. เป็นเวลา 08.30 – 20.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 9 เมษายน 2561

นอกจากนั้นยังได้เพิ่มการให้บริการในทุกวันเสาร์ของเดือนมีนาคมและวันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561 โดยในวันเสาร์จะเปิดให้บริการตั้งแต่ เวลา 08.30 – 16.00 น. ทั้งนี้ เพื่อมุ่งหวังให้ผู้เสียภาษีและประชาชนได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

https://money.sanook.com


5 เหตุผลควรไปเยือน..วัดไชยวัฒนาราม กรุงเก่า..อยุธยาราชธานี

5 เหตุผลควรไปเยือน..วัดไชยวัฒนาราม กรุงเก่า..อยุธยาราชธานี สักครั้งในชีวิต

“วัดไชยวัฒนาราม” เมืองกรุงเก่าอยุธยาราชธานีไทย ที่มีอายุกว่า 388 ปี ซึ่งช่วงนี้เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว หลังละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ออกอากาศ ด้วยความที่เป็นวัดเก่าแก่ และมีประวัติศาสตร์มายาวนาน มีเหตุผล 4-5 ประการ ที่ควรหาโอกาศไปเยี่ยมชม “วัดไชยวัฒนาราม” สักครั้งในชีวิต

1.วัดไชยวัฒนารามบางครั้งเรียกว่า “วัดไชยยาราม” และ “วัดไชยชนะทาราม” เป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา ซึ่งเป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นวัดอรัญวาศรี ณ บริเวณที่ดินซึ่งเป็นนิวาสสถานของพระราชชนนีในปี ที่ขึ้นครองราชย์ คือปีมะเมีย พ.ศ.2173 สันนิษฐานว่าเป็นวัดประจำรัชกาลด้วย

ต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้ใช้วัดนี้ในฐานะเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสี สำหรับพระราชทานเพลิงศพของพระราชวงศ์และขุนนางผู้สูงศักดิ์ ในปี พ.ศ.2299 กรมพระราชวังบวรสถานมงคล เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง) กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลาย ได้ถูกกล่าวโทษว่าเสด็จเข้ามาทำชู้กับเจ้าฟ้าสังวาลย์ ในพระราชวังหลายครั้ง สืบสวนได้ความเป็นสัตย์จริง จึงลงพระราชอาญาเฆี่ยนทั้ง สองพระองค์จนดับสูญแล้วนำศพไปฝังไว้ ณ วัดไชยวัฒนารามทั้งสองพระองค์

2.วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดที่มีความยิ่งใหญ่ตระการตามีสถาปัตยกรรมก่อสร้างที่ไม่เหมือนวัดอื่น ๆ ในอยุธยา น่าท่องเที่ยว ชมประศาสตร์ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทางฝั่งตะวันตกของเกาะเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนไม่ควรพลาด เดินทางสะดวก เดินทางได้โดยทางเรือ อาจเช่าเหมาเรือหางยาวจากบริเวณหลังลานจอดรถฝั่งตรงข้าม พระราชวังจันทรเกษมด้านตะวันออกของเกาะเมือง ล่องไปตามลำน้ำป่าสัก ลงไปทางใต้ผ่านวิทยาลัยการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดพุทไธศวรรย์ โบสถ์โปรตุเกส วัดไชยวัฒนาราม วัดกษัตราธิราชวรวิหาร และเจดีย์พระศรีสุริโยทัย ทางรถยนต์ สามารถใช้เส้นทางเดียวกับวัดกษัตราธิราช พอข้ามสะพานวัดกษัตราธิราช ไปแล้วให้เลี้ยวขวาแล้วตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นวัดไชยวัฒนารามตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ทางด้านหน้า

3.เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระบรมศานุวงศ์เกือบทุกพระองค์ วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดหลวงที่บำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์สืบเนื่องต่อกันมา หลักจากนั้นทุกพระองค์จึงได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชสมัย เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระบรมศานุวงศ์เกือบทุกพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระบรมโกศสิ้นพระชนม์ ก็ได้พระเพลิงที่วัดแห่งนี้

4.สถาปัตยกรรมที่ไปแล้วไม่ควรพลาดชม

4.1.ปรางค์ประธาน ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของพื้นที่ ฐานประทักษิณ ซึ่งฐานประทักษิณได้ยกสูงขึ้นมาจากพื้น 1.5 เมตร มีลักษณะเป็นปรางค์ จัตุรมุข มีมุขยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน ยอดขององค์ปรางค์ ทำเป็นรัดประคดซ้อนกัน 7 ชั้น แต่ละชั้นเป็นลวดลายใบขนุน กลีบขนุน ส่วนบนสุดเป็นทรงดอกบัวตูม
4.2.ปางค์บริวาร คือปางค์องค์เล็กลงมาที่อยูรายล้อม ซึ่งภายในคูหา มีภาพจิตรกรรมฝาผนังหลงเหลือร่องรอยอยู่เล็กน้อย
4.3.ระเบียงคด คือส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างเมรุแต่ละเมรุเอาไว้ โดยรอบประทักษิณ
4.4.พระอุโบสถ อยู่ทางด้านทิศตะวันออกนอก ปัจจุบันเหลือเพียงฐานเสาอุโบสถและรอยฐานเสมา
4.5.ภาพปูนปั้น อยู่บริเวณด้านนอกของเมรุทั้ง 8 องค์ จะเป็นภาพเกี่ยวกับพุทธประวิติ

5.เป็นสถานที่สำคัญของละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส”ซึ่งเป็นละครยอดฮิตทั้วบ้านทั้วเมือง มีหลาย ๆ ฉากได้พูดถึงวัดแห่งนี้ ทำให้เป็นกระแส จนคนแห่ไปเที่ยว พร้อมชุดไทยกันอย่างคึกคัก

http://www.bangkokbiznews.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 8/03/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,650.00 19,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,273.00 19,298.68 20,250.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,145.70 17,368.81 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 573.00 8,686.68 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 446.00 6,761.36 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,319.00 19,996.04 n/a

 ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  8/03/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35
แก๊สโซฮอล E-20 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84
แก๊สโซฮอล E-85 20.44 20.44 20.44 20.44
แก๊สโซฮอล 91 27.08 27.08 27.18 27.58 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08
เบนซิน 95 34.46 34.91 34.96 34.46 34.46 34.46
ดีเซลหมุนเร็ว 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 29.59 29.59 29.59 29.59 29.59
มีผลตั้งแต่ 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า