สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 14 ธันวาคม 2563

บูรณาการงบ 8 หมื่นล้านปั้น “พัทยา” โฉมใหม่มหานครระดับโลก

เมืองพัทยา บูรณาการงบ 8 หมื่นล้าน ปั้น “นีโอ พัทยา” สร้างโฉมใหม่ ขึ้นแท่นมหานครระดับโลก

เมืองพัทยาพลิกวิกฤต เดินหน้าบูรณาการความร่วมมือรัฐ-เอกชน ขับเคลื่อนแผน “นีโอ พัทยา” สร้างภาพลักษณ์ใหม่ สู่มหานครระดับโลก ภายใต้กรอบวงเงิน 8 หมื่นล้านบาท

โฟกัสลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน  แก้ปัญหาน้ำท่วม ปั้นพื้นที่1.6 แสนตรม.รอบแหลมบาลีฮาย เป็นศูนย์ธุรกิจ-สันทนาการ ยกเครื่องเกาะล้าน-นาเกลือยกระดับการท่องเที่ยวชุมชน 

ท่ามกลางโควิด-19 แม้จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ที่คาดว่าในปีนี้เมืองพัทยาจะมีนักท่องเที่ยวอยู่ราว 4-4.5 ล้านคนเท่านั้น จากปกติที่ก่อนโควิด จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวกว่า 15 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน และคนไทย 5 ล้านคน สร้างรายได้ท่องเที่ยวกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท 

จากวิกฤตที่เกิดขึ้นทำให้ในขณะนี้นอกจากเมืองพัทยาจะทยอยหันมาจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อกระตุ้นไทยเที่ยวไทย และหวังว่าปีหน้าถ้ามีวัคซีนการเดินทางจากต่างประเทศเข้ามาเที่ยวจะคลี่คลายขึ้น

อีกทั้งเมืองพัทยายังเดินหน้าบูรณาการความร่วมมือรัฐ-เอกชน ขับเคลื่อนแผน “นีโอ พัทยา” สร้างภาพลักษณ์ใหม่ สู่มหานครระดับโลก ภายใต้กรอบวงเงิน 8 หมื่นล้านบาท ผ่าน 7 โครงการ ซึ่งเป็นการบูรณาการงบร่วมกันของหลายหน่วยงาน คาดน่าจะเริ่มเห็นภาพในปี65

ไม่ว่าจะเป็นเมืองพัทยา,กรมเจ้าท่า,งบบูรณาการของอีอีซี,กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น  และยกเว้นการลงทุนในระบบขนส่งมวลชนสาธารณะแบบโมโนเรล เชื่อมระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงและรถไฟรางคู่ 3 สายทาง จะเป็นรูปแบบร่วมลงทุน PPP

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า การพัฒนาเมืองพัทยา ปัจจุบันจะอยู่ภายใต้ “นีโอ พัทยา” หรือพัทยาโฉมใหม่ จะมุ่งใน 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่เศรษฐกิจ ,สังคม,วัฒนธรรม,สิ่งแวดล้อม,การบูรณาการจัดการ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตในชุมชน

โดยเป็นการใช้งบลงทุนในช่วงปี63-66 ในการแก้ปัญหาต่างๆในพัทยา โดยเฉพาะการแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่ได้ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง จัดทำระบบบริหารจัดการน้ำ ทั้งทางระบายน้ำ ระยะทาง 110 กิโลเมตร และบ่อหน่วงน้ำขนาดยักษ์ จะมีการลงทุนรวมกว่า 5 เฟสมูลค่าการลงทุน 17,800 ล้านบาทซื่งได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว

เบื้องต้นเห็นชอบโครงการหลัก ที่จะจัดลำดับใน 3 โครงการ ใช้งบราว 3,800 ล้านบาท ได้แก่การระบายน้ำจากพัทยาเหนือ-กลาง ใช้งบ 1,300 ล้านบาท แยกพัทยาใต้ 1,800 ล้านบาทและบริเวณถนนเทพประสิทธิ 700 ล้านบาท 

รวมไปถึงการซ่อมเสริมทรายขยายพื้นที่ชายหาดพัทยาเหนือ-ใต้ 2,800 เมตร กว้าง 35 เมตร ขณะนี้ทำเสร็จแล้วทำให้นักท่องเที่ยวมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมได้มากขึ้น และกำลังอยู่ระหว่างเพิ่มพื้นที่ชายหาดจอมเทียน ลงทุน 1,200 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี แล้วเสร็จปี66

โครงการพัฒนาพิ้นที่บริเวณท่าเรือพัทยาใต้ หรือ ท่าเรือบาลีฮาย วงเงิน 6 พันล้านบาท ที่จะมีการพัฒนาครูซ เทอร์มินัล ของกรมเจ้าท่า การพัฒนาท่าเรือ การเชื่อมต่อวอล์คกิ้งสตรีท ครอบคลุมพื้นที่ 1.6 แสนตรม. วงเงิน 4 พันล้านบาท ที่จะเป็นศูนย์ธุรกิจและนันทนาการครบวงจรของเมืองพัทยา  ที่ส่วนหนึ่งจะเป็นการลงทุนแบบPPP 

การพัฒนาพื้นที่ย่านตลาดนาเกลือ หรือ โอลด์ทาวน์ นาเกลือ รวมกว่า 11 โครงการ วงเงินงบประมาณ 425 ล้านบาท เพื่อสร้างมูลค่าให้กับการท่องเที่ยวชุมชนวิถีประมงพื้นบ้าน

ที่นี่มีจุดเด่นเรื่องตลาดซีฟู้ด ทำให้เมืองพัทยา มีแผนพัฒนาพื้นที่ โดยจะก่อสร้างอาคารจอดรถสูง 5 ชั้น จอดรถได้ 239 คัน ชั้นดาดฟ้าจัดให้เป็นสวนดาดฟ้าชมวิวอ่าวนาเกลือ  โครงการพัฒนาตลาดขายอาหารสด ให้เกิดการจัดระเบียบ รองรับนักท่องเที่ยว 

การปรับปรุงสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ การก่อสร้างเส้นทางเดินชมธรรมชาติตลาดลานโพธิ์-จุดชมทัศนียภาพปากคลองนาเกลือและคลองนกยาง การสร้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าโกงกางคลองนกยาง ที่เป็นป่าชายเลนผืนเดียวในพัทยา การสร้างท่าเทียบเรือประมงชุมชนนาเกลือ การอนุรักษ์อาคารไปรษณีย์เก่าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นต้น 

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเกาะล้าน หรือนีโอ เกาะล้าน ผ่าน 21 โครงการ วงเงิน 350 ล้านบาท เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวของเกาะล้าน เพราะก่อนโควิด จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวถึง 5 ล้านคน ที่ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางแบบวันเดย์ทริปเข้ามาเที่ยว วันหนึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 1 หมื่นคน ทำให้พื้นที่เกาะล้านเป็น 1 ในพื้นที่เศรษฐกิจของพัทยา  

โดยในจะมีแผนปรับปรุงท่าเทียบเรือ ที่มีอยู่ 2 แห่ง คือท่าเทียบเรือหน้าบ้าน-ท่าเทียบเรือหาดตาแหวน ซึ่งมีอายุใช้งานกว่า 20 ปีแล้ว การสร้างท่าเรือสำหรับขนส่ง ที่อยู่ระหว่างการศึกษาพื้นที่ในการลงทุน การลงทุนระบบบำบัดน้ำเสีย เพิ่มอีก 1 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างสำรวจออกแบบ การจัดการขยะมูลฝอย ตกค้างกว่า 5 หมื่นตัน ที่จะสร้างเตาเผาขยะไร้มลพิษ เผาขยะได้ 50 ตันต่อวัน 

การแก้ปัญหาเรื่องน้ำประปา ที่อยู่ระหว่างเลือกแนวทางการประสานกับการประปาส่วนภูมิภาคเดินท่อน้ำประปาลอดใต้ทะเล ระยะทาง 7กิโลเข้ามา หรือจะให้บริษัทอีสต์วอเตอร์ ขยายกำลังการผลิตน้ำประปาเพิ่มจาก 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็นไม่ต่ำกว่า 3 พันลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่ต้องลดค่าน้ำประปาลง คาดว่าจะสรุปได้ภายในต้นปี 64 การปรับปรุงจุดชมวิวลานกีฬาร่มร่อนหาดตาแหวน เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


6 ปัจจัย เทรนด์พัฒนาที่อยู่อาศัยปี 64

พลัสฯ เผยเทรนด์ที่มีอิทธิพลต่อตลาดอยู่อาศัยปี 64 พบ Wellness, Senior Living, ราคาจับต้องได้, ทำเลใหม่ชานเมือง มาแรง

นางสาวสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลและประเมินสถานการณ์ของพลัสฯ พบว่าแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 จะยังคงต้องระมัดระวัง แม้จะมีข่าวดีเรื่องวัคซีนต้านโควิด-19 แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมจะยังไม่เห็นผลทันที อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อจากกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ที่บางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้อเพื่อรอดูทิศทางเศรษฐกิจในปีหน้า (2564) ก็จะเริ่มมีมากขึ้น เพราะการซื้อที่อยู่อาศัยในปีหน้าก็ยังถือเป็นโอกาสทอง เพราะยังอยู่ในช่วงที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปรับราคาลดลงมาจากปกติในสัดส่วนที่น่าสนใจ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ

ทั้งนี้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ คาดว่าการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยต่อจากนี้ จะได้รับอิทธิพลจาก 6 ปัจจัยที่มีความน่าสนใจ ดังนี้

1.  Wellness พลิกโฉมการออกแบบ เทรนด์ Wellness หรือปัจจัยด้านสุขภาวะ ได้เข้ามามีส่วนสำคัญในตลาดที่อยู่อาศัย 2-3 ปีแล้ว แต่หลังจากโลกเราได้เผชิญกับโควิด-19 ประเด็นนี้จะถูกให้น้ำหนักมากขึ้น เริ่มตั้งแต่การพัฒนาโครงการ (ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน) การดีไซน์ฟังก์ชั่นการใช้งานของอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกให้อยู่ในลักษณะของ Universal Design วัสดุที่ใช้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย สิ่งเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทต่อผู้พัฒนาโครงการ ตลอดจนประกอบการตัดสินใจซื้อมากขึ้น เพราะการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต New Normal อาทิ การลดการสัมผัส  การจัดสรรพื้นที่ในที่พักอาศัยเพื่อรองรับการทำงานที่บ้านที่จะยังคงอยู่ไปอีกระยะหนึ่ง ส่วนกลางของโครงการหรือสำนักงานที่มีมุมผ่อนคลายหรือสถานที่ออกกำลังกาย เอื้อต่อการเกิดความคิดสร้างสรรค์ก็มีส่วนสำคัญ

2. Senior Living หรือที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ที่ได้มีการพัฒนาโครงการจากภาครัฐและเอกชนในรูปแบบของการผสมผสานที่อยู่อาศัยโดยคำนึงถึงการดูแลสุขภาพและความปลอดภัย มีการจับมือร่วมกันพัฒนาโครงการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯ ร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำ หรือแม้กระทั่งการนำพื้นที่ของโรงแรมมาพัฒนาเป็นสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ โดยมีพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิดรวมถึงจะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสื่อสารระหว่างผู้อยู่อาศัยกับคุณหมอ

3.ที่อยู่อาศัยราคาจับต้องได้ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับราคา 1-3 ล้านบาท จับกลุ่มวัยเริ่มต้นทำงานที่ยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่องนั้น เราเริ่มเห็นผู้พัฒนาโครงการได้ออกมาเปิดโครงการระดับนี้กันมากขึ้น นอกจากนี้ ในส่วนของกลุ่มทาวน์โฮม บ้านแฝดที่ราคาเกิน 3 ล้านบาท ก็คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มาแรง

4. มีพื้นที่สีเขียวหรือสวนผักเพื่อบริโภค หรือที่เรียกกันว่าสวนผักทานได้ (Eat-Able Garden) เพื่อเป็นการสร้างอาหารปลอดสารให้กับครอบครัว ซึ่งเทรนด์นี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลกทั้งในกลุ่มที่อยู่อาศัยรวมถึงอาคารสำนักงาน ได้มีการนำปัจจัยเรื่องพื้นที่สร้างแหล่งอาหารไปพิจารณาในการประเมินมาตรฐาน WELL และ Fitwel เพื่อมอบรางวัลด้านบริหารจัดการให้กับอาคารที่ออกแบบและบริหารจัดการที่ใส่ใจต่อสุขภาวะของพนักงานและผู้ใช้อาคารด้วยเช่นกัน

5. Urbanization ทำเลที่อยู่อาศัยกระจายออกไปมากขึ้น จากการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมต่างๆ และโครงการ Smart City ของรัฐบาล ทำให้เกิดทำเลใหม่ๆ ที่ได้รับความนิยมในการอยู่อาศัยกระจายออกไป ทั้งในโซนรอบกรุงเทพฯ บริเวณที่มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดงและสีเขียวที่จะขยายไปถึงปทุมธานี           ตลอดจนทำเลย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เนื่องจากเป็นทำเลเปิดใหม่และมีถนนทางเชื่อมการเดินทางเข้าสู่พื้นที่รามคำแหง พระราม 9 อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปสู่สนามบินได้สะดวกรวดเร็ว สามารถเชื่อมต่อกับโครงการพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก (EEC) ตลอดจนจังหวัดที่ได้รับการส่งเสริมให้เป็น Smart City อย่าง ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา

6.  อุ่นใจด้วยบริการหลังการขายแบบมือออาชีพ เป็นหนึ่งในปัจจัยการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่ผู้ซื้อเริ่มตระหนักถึงความสำคัญมากขึ้น จากรูปแบบการอยู่อาศัยในโครงการคอนโดหรือแม้กระทั่งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ที่ต้องพึ่งพางานบริหารหลังการขายที่มีรายละเอียดของการให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะงานช่าง ที่ลูกบ้านในแต่ละโครงการไม่สามารถจัดการเองได้ เช่น เปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมก๊อกน้ำ ไปจนถึงงานที่ช่วยรักษาสภาพโครงการในภาพรวมให้สวยงามน่าอยู่ในระยะยาว เช่นงานระบบวิศวกรรมอาคารที่เป็นส่วนสำคัญในการรักษาสภาพโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลาง ให้คงสภาพดีเหนือกาลเวลา

“นอกจาก 6 ปัจจัยที่กล่าวมาแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันให้ความสำคัญก็คือเรื่องของความคุ้มค่า โดยที่ผู้ซื้อจะไม่พิจารณาเฉพาะปัจจัยราคาถูกหรือราคาแพงอย่างเดียว แต่จะพิจารณาว่าราคาที่จ่ายไปคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับหรือไม่ ดังนั้นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะต้องมีการปรับตัวโดยเฉพาะการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการใหม่ๆ ที่กำลังจะพัฒนา เช่น การนำเทคโนโลยีเข้ามาดูแลระบบรักษาความปลอดภัย การมีแอปพลิเคชั่นในการบริหารจัดการโครงการ” นางสาวสุวรรณี กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


คลังแจงหนี้สาธารณะล่าสุด7.8ล้านล้านบาท

คลังแจงหนี้สาธารณะล่าสุด7.8ล้านล้านบาท

คลังแจงหนี้สาธารณะล่าสุด 7.8 ล้านล้านบาท ยังอยู่ในกรอบไม่เกิน 60% ของจีดีพี

นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 7.8 ล้านล้านบาท โดยมีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เท่ากับ 49.53% ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการคลังซึ่งกำหนดไว้ไม่เกิน 60% ขณะที่ปี 2543 มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงสุดเท่ากับ 59.98% เนื่องจากประสบกับวิกฤติของสถาบันการเงินในประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสัดส่วนหนี้ภาครัฐบาล (General Government Debt) พบว่า รัฐบาลไทยมีหนี้อยู่ในระดับต่ำที่ 44.37% โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย (Emerging and Developing Asia Countries) ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 62.89% (IMF, 2563)

ขณะเดียวกัน บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agencies) ระดับสากล ได้แก่ S&P Moody’s และ Fitch ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) เนื่องจากประเทศไทย มีภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) ที่แข็งแกร่งเป็นผลจากการบริหารจัดการทางการคลังอย่างรอบคอบและรักษาวินัยทางการคลังอย่างเคร่งครัด

นางจินดารัตน์ กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 อย่างรุนแรงเช่นกัน รัฐบาลจึงได้ตราพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่

1) พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน วงเงิน 1 ล้านล้านบาท

2) พ.ร.ก. ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 วงเงิน 500,000 ล้านบาท

3) พ.ร.ก. การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ วงเงิน 400,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ พ.ร.ก. 2) และ 3) เป็นการช่วยเหลือทางการเงินและการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน มิได้เป็นการกู้เงินเพื่อนำไปดำเนินงาน จึงไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ ดังนั้น สรุปได้ว่า รัฐบาลจะมีภาระจากการกู้เงินโดยตรงเพียง 1 ล้านล้านบาท มิใช่ 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งปัจจุบันกระทรวงการคลังดำเนินการกู้เงินภายใต้ พ.ร.ก. ดังกล่าวแล้วจำนวน 348,761 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


เปิดตัวชุดแข่งใหม่ “สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค” ทีมตบลูกยางขวัญใจมหาชน

เปิดตัวชุดแข่งใหม่ "สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค" ทีมตบลูกยางขวัญใจมหาชน (ภาพ)

ถือเป็นสโมสรที่มีแฟนคลับตามเชียร์ และให้การสนับสนุนมากมายทีเดียวสำหรับ สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค ทีมในศึกวอลเลย์บอล ไทยแลนด์ลีก 2021 ที่ฤดูกาลก่อนสามารถคว้าแชมป์ลีกไปครองได้เป็นสมัยที่ 3

มาในปีนี้ “โลมาสีชมพู” ได้เผยภาพการเปิดตัวชุดแข่งใหม่ภายใต้แบรนด์ มิซูโน่ โดยมีนักกีฬาของสโมสรมาเป็นนางแบบนำโดย วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, ปิยะนุช แป้นน้อย,  อัจฉราพร คงยศ, โสรยา พรมหล้า, น้ำผึ้ง คำอาจ  และนักกีฬาอีกมากมาย

ซึ่งการถ่ายแบบในครั้งนี้ต้องบอกว่าสร้างความเฮฮาของเหล่าบรรดาผู้เล่นของทีม เนื่องจากแต่ละนางมาในลุคหวานๆ ที่ตัวของ “หน่อง” ปลื้มจิตร์ และ “ติ๊งหม่อง” พิมพ์ตวรรณ ทองยศ ถึงกับออกอาการเขินกันเลยทีเดียว

สำหรับผลงานในเกมเปิดสนามฤดูกาลนี้ของ “แชมป์เก่า” สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเมื่อเป็นฝ่ายไล่ตบเอาชนะ สมุทรปราการ วีซี 3-0 เซต (25-16, 25-10 และ 25-13) คว้าชัยไว้ได้อย่างสวยงาม

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


แพทย์เตือนมนุษย์ออฟฟิศ ระวังหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นทับเส้นประสาท

แพทย์เตือนมนุษย์ออฟฟิศ ระวังหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นทับเส้นประสาท

ศัลยแพทย์กระดูกและข้อเฉพาะทางด้านโรคกระดูกสันหลัง ชี้จุดสังเกตอาการปวดหลังบ่อยๆ จนร้าวลงขาและชา อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นทับเส้นประสาท โรคที่มนุษย์ออฟฟิศควรระวัง!!

พฤติกรรมนั่งทำงานนานๆ อย่างต่อเนื่อง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาท โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว เนื่องจากเป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักมากที่สุด จึงมีโอกาสที่จะเกิดหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม แตกและปลิ้นมากกว่าหมอนรองกระดูกสันหลังในระดับอื่น

นายแพทย์เอกพล ลาภอำนวยผล ศัลยแพทย์กระดูกและข้อเฉพาะทางด้านโรคกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเวชธานี เปิดเผยว่า หมอนรองกระดูกสันหลัง (Intervertebral disc) แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วยส่วนทีอยู่บริเวณศูนย์กลาง มีลักษณะอ่อนนุ่มคล้ายเจลลี่ ,ส่วนที่อยู่โดยรอบ มีลักษณะยืดหยุ่นเป็นพังผืด และส่วนที่ยึดติดกับข้อกระดูกสันหลัง มีลักษณะคล้ายกระดูกอ่อน ซึ่งทั้ง 3 ส่วนจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ทำหน้าที่ช่วยในการเคลื่อนไหวและรับแรงกระแทกของกระดูกสันหลัง หากกระดูกสันหลังถูกใช้งานหนัก ใช้งานผิดท่า รับน้ำหนักมากเกินไป เกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลัง หรือแม้แต่ความเสื่อมตามอายุ ก็อาจทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังแตกและปลิ้นออกมาจนไปกดทับเส้นประสาท ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหลัง ปวดสะโพก ร้าวลงขาหรือเท้า รวมทั้งมีอาการชาและอ่อนแรงร่วมด้วย หรือบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นควบคุมการขับถ่ายลำบาก

“โดยมากจะพบผู้ป่วยหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นทับเส้นประสาทจากความเสื่อมตามอายุที่มากขึ้น แต่ในปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคนี้ในช่วงอายุที่น้อยลง เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่น การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรืออาจนั่งผิดท่าร่วมด้วย รวมถึงการยกของหนักผิดท่า นอกจากนี้การได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอและการสูบบุหรี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้ง่ายเช่นกัน” นายแพทย์เอกพลกล่าว

สำหรับการรักษาโรคหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาท ในรายที่อาการไม่รุนแรงหรืออยู่ในระยะเริ่มต้น แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการใช้ยาแก้ปวด กายภาพบำบัด และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 4 – 6 สัปดาห์ อาจต้องใช้วิธีผ่าตัด โดยปัจจุบันมีเทคนิคการผ่าตัดด้วยกล้อง Endoscope ซึ่งแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็กไม่ถึง 1 เซนติเมตร ลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อ ส่งผลให้ความเจ็บปวดจากแผลผ่าตัดน้อยลง ใช้ระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาลสั้น ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวและกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วขึ้น

แม้ว่าเราไม่อาจหลีกเลี่ยงโรคหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาทที่เกิดจากความเสื่อมตามวัยได้ แต่เราสามารถชะลอการเกิดและลดความรุนแรงของอาการได้ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ทั้งการควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ออกกำลังกายตามความเหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นั่ง ยืน ก้ม เงยและยกของหนักในท่าที่ถูกต้อง เปลี่ยนอิริยาบถขณะนั่งทำงานบ่อย ๆ รวมทั้งระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุที่อาจส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลัง

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


คำศัพท์/วลี ที่คนไทยมักเข้าใจผิด

เพราะภาษาอังกฤษคำหนึ่งคำสามารถแปลออกมาได้หลายความหมายขึ้นอยู่กับ Part of speech และความหมายในบริบทที่กำลังพูดถึงดังนั้น การรู้จักคำศัพท์เยอะๆก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันที่ทำให้สามารถสื่อสารกับฝรั่งได้อย่างเข้าใจ แต่ภาษาอังกฤษก็จะมีสำนวนหรือคำศัพท์บางคำที่มีความหมายที่แปลตามตัวไม่ได้ และนั้นทำให้เวลาที่ฝรั่งพูดมาแล้วเรางงว่า ตกลงมันแปลว่าอะไรกันแน่

วันนี้เรารวบรวมให้ มาดูกันเลย

Clear The Air – Join us

1. Clear the air พอได้ยินปุ๊ปเราคงคิดว่าฝรั่งพูดถึงการล้างแอร์แน่ๆ ต้องเรียกช่างแล้วละ

 ถ้าเห็นคำนี้อย่าพึ่งหาช่างแอร์นะ เพราะประโยคนี้แปลตามตัวไม่ได้เลย

Clear the air

คำนี้แปลว่า แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้มันจบๆไป สะสางเรื่องราวให้มันจบลง

ยกตัวอย่างประโยค

  • You and your college should clear the air so you can continue your project.
  • คุณควรจะปรับความเข้าใจกับเพื่อนร่วมงานซะโปรเจกต์ของคุณจะได้เดินหน้าต่อ
  • I think this time to clear the air.
  • ฉันว่าถึงเวลาที่ต้องสะสางกันแล้วละ

2. Get your ducks in a row ไม่ใช่ให้เป็ดเข้าแถว แต่แปลว่า

Let's get all our ducks on the same page | Malaphors

Get your ducks in a row แต่แปลว่า เป็นระเบียบ การวางแผนและจัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนลงมือทำ

ยกตัวอย่างเช่น

  • Sarah is neat and intelligent. She always has her ducks in a row.
  • แปลว่า ซาร่าเป็นคนเรียบร้อยและฉลาดหล่อนหล่อนเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา
  • Our boss is headed to the conference room. Do you have all your ducks in a row?
  • แปลว่า หัวหน้าของเรากำลังเดินมายังห้องประชุม เธอเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วใช่ไหม?

Is headed (V) แปลว่า มุ่งหน้าไป

คำศัพท์จากประโยค

  • Neat (ADJ) เรียบร้อย
  • Intelligent (ADJ) ฉลาด
  • Conference room (N) ห้องประชุม

3. Watch first ไม่ได้แปลว่า ดูก่อน เวลาที่เราถูกชวนให้ไปไหนสักที่ แล้วยังตัดสินใจไม่ได้ คนไทยมักจะพูดว่า ดูก่อน ขอดูก่อนแต่ห้ามพูดว่า Watch first เพราะฝรั่งจะเข้าใจว่า เราตอบตกลงไปกันก่อนเลย

ดูก่อน ภาษาอังกฤษพูดว่า “ Will see, let’s see, Have a think about it.

  • A: Would you like to go to the party tonight?  คืนนี้ไปปาร์ตี้กันป่ะ
  • B: I will see ขอดูก่อนแล้วกันนะ

4. You dork ไม่ต้องตกลงใจไป เค้าไม่ได้ด่าเรานะ แต่คำว่า dork แปลว่า คนแปลก ที่ใช้ได้ทั้งเชิงลบและเชิงบวก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

You're such a Dork I love it! - YouTube

ยกตัวอย่างประโยค

  • He’s such a dork but it’s not bad. เค้าดูแปลกๆนะแต่ก็ไม่ได้แย่นะ
  • You’re such a dork. เธอดูพิลึกอ่ะ

Dork ที่ให้ความหมายเชิงลบ เรียกคนที่ไม่มีทักษะการเข้าสังคม มีพฤติกรรมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ คาดเดาได้มากออกแนวต่อต้านสังคม

5. I’m terrible at names. แปลว่า ฉันมีปัญหาเรื่องการจำชื่อคน สำนวนนี้เอาไว้ใช้เวลาที่เราจำชื่อใครไม่ได้ เวลาที่เราเจอกับคนที่เคยคุยด้วย รู้จักกันมาแล้ว แต่จู่ดันลืมชื่อเค้าไปซะงั้น นำสำนวนนี้ไปใช้ได้จ้า

Free Photo | Picture of nice woman touching her lips and looking aside  while thinking about something important or trying to remember over grey  wall

ยกตัวอย่างเช่น

  • Hi. Reena. Did you remember me? Last week we just met at your company.
  • ฮาย รีน่า จำฉันได้ไหมเราพึ่งเจอกันสัปดาห์ที่แล้วที่บริษัทของเธออ่ะ
  • Yes, of course. But I’m sorry. Could you tell me your name again? I’m terrible at names.
  • ค่ะจำได้แต่ขอโทษนะคะ ช่วยบอกชื่อคุณให้ฉันทราบอีกรอบได้ไหม ฉันมีปัญหาเรื่องจำชื่อคนน่ะค่ะ

อย่าลืมทบทวนและนำไปใช้กันด้วยนะ

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


ทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ ลุ้นรับสมาร์ทโฟน5G

ทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ ลุ้นรับสมาร์ทโฟน 5G กับกิจกรรม “AIS E-Waste ทิ้งรับโชค” มูลค่ากว่า 280,000 บาท

11 ธันวาคม 2563 : บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)ได้จัดกิจกรรมส่งท้ายปี “AIS E-Waste ทิ้งรับโชค” เชิญชวนให้ลูกค้าเอไอเอส และ เอไอเอสไฟเบอร์ ลุ้นรับสมาร์ทโฟน 5G และรางวัลอื่นๆ รวม 21 รางวัล มูลค่ากว่า 280,000 บาท เพียงนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทั้ง 5 ประเภท ได้แก่ 1. โทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ต 2. แบตเตอรี่มือถือ 3. พาวเวอร์แบงก์ 4. สายชาร์จ 5. หูฟัง มาทิ้งได้ที่ AIS Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2563 โดยขยะอิเล็กทรอนิกส์ 1 ชิ้น = 1 สิทธิ์ (1 หมายเลข/10สิทธิ์/โครงการ)

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


10 ประโยชน์ดีๆ จาก “ดอกอัญชัน” ลดน้ำตาลในเลือด-ต้านมะเร็ง

10 ประโยชน์ดีๆ จาก “ดอกอัญชัน” ลดน้ำตาลในเลือด-ต้านมะเร็ง

นึกถึงอาหาร ขนมหวานที่มีสีม่วงอมน้ำเงินเมื่อไร หลายคนตอบได้ทันทีว่าสีสวยๆ แบบนี้มาจาก “ดอกอัญชัน” แน่นอน นอกจากจะให้สีน้ำเงินสวย เพื่อนำมาประกอบอาหาร เช่น ขนมหวานของไทยเราแล้ว ดอกอัญชันยังมีประโยชน์อีกมากมายที่คุณอาจยังไม่รู้ เพียงแค่น้ำคั้นสด หรือน้ำต้มดอกอัญชันเท่านั้น ง่ายๆ อย่างนี้นี่ล่ะ แต่ให้ผลดีต่อสุขภาพมหาศาลเลยทีเดียว

10 ประโยชน์ดีๆ จาก “ดอกอัญชัน”

1. บำรุงสายตา ป้องกันอาการตาฝ้าฟาง ตาแฉะ และป้องกันโรคต้อกระจก

2. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

3. เพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย

4. ขับปัสสาวะ และเป็นยาระบายอ่อนๆ

5. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านโรคมะเร็งได้

6. ชะลอริ้วรอย และดูแลผิวพรรณให้เต่งตึง กระชับ

7. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไขมันอุดตันเส้นเลือด

8. บำรุงผมให้เงางาม ดกดำ มักเป็นส่วนประกอบของยาสระผม หรือครีมบำรุงผม

9. ช่วยสลายลิ่มเลือด

10. ช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น

ข้อควรระวังในการทานดอกอัญชัน

ดอกอัญชันมีฤทธิ์ในการสลายลิ่มเลือด จึงไม่เหมาะกับคนที่อยู่ในภาวะโลหิตจาง และไม่ควรทานอาหารที่ย้อมสีด้วยอัญชันเป็นเวลานานๆ อีกด้วย

วิธีทานก็ง่ายๆ คั้นสด ผสมน้ำดื่ม จะใส่น้ำผึ้ง หรือมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติลงไปบ้างก็ได้ แต่อย่าใส่น้ำตาลมากจนเกินไปนะคะ เพราะไม่อย่างนั้น แทนที่ดอกอัญชันจะช่วยลดน้ำตาลในเลือด อาจกลายเป็นเพิ่มน้ำตาลในเลือดแทน ดื่มเย็นๆ ชื่นใจมากค่ะ หรือจะลวกจิ้มกับน้ำพริกก็ไม่เลวนะจะบอกให้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 26,100.00 26,200.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,691.00 25,635.56 26,700.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,521.90 23,072.00 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,352.80 20,508.45 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 761.00 11,536.76 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 592.00 8,974.72 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,752.00 26,560.32 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 14/12/2563 

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 22.35 22.35 22.75 22.35 22.75 22.35 22.35 22.35 22.35 22.35
แก๊สโซฮอล์ 91 22.08 22.08 22.48 22.08 22.48 22.08 22.08 22.08 22.08 22.08
แก๊สโซฮอล์ E20 20.84 20.84 21.24 20.84 21.24 20.84 20.84 20.84 20.84
แก๊สโซฮอล์ E85 18.34 18.34 18.34
เบนซิน 95 29.76 30.61 30.26 29.76 29.76
ดีเซล B7 23.79 23.79 24.19 23.79 24.19 23.79 23.79 23.79 23.79 23.79
ดีเซล 20.79 20.79 21.19 20.79 21.19 20.79 20.79 20.79 20.79 20.79
ดีเซล B20 20.54 20.54 20.94 20.54 20.94 20.54 20.54 20.54
ดีเซลพรีเมี่ยม 28.24 28.26 30.64 29.64 28.24
แก๊ส NGV 13.10 13.10 13.10
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า