ดี–แลนด์ กรุ๊ปแตกไลน์ธุรกิจรับสร้างบ้านอัดโปรปลุกกำลังซื้อ
“ดี–แลนด์ กรุ๊ป” แตกไลน์ธุรกิจรับสร้างบ้าน ครอบคลุมทำเล สมุทรสาคร พระราม 2 เอกชัย เพชรเกษม พุทธมณฑล ยันราชบุรี หวังเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าราคาเริ่มต้น 4.2 ล้านบาทพร้อมโปรโมชันการจอง ตั้งแต่วันนี้–31 ธ.ค. 65
นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี–แลนด์ กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาฯ ในเขตกรุงเทพฯ ตอนใต้ พระราม 2–สมุทรสาคร โซนภาคตะวันออก และโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ “พอร์โต้ ชิโน่” และจุดแวะพักครบวงจร “พอร์โต้ โก” เปิดเผยว่า ในปี 2565 ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง หลังจากที่สถานการณ์โควิด–19 เริ่มคลี่คลาย โดยพบว่ากลุ่มลูกค้าที่มีความพร้อมอยู่แล้วจะรีบตัดสินใจสร้างบ้าน เนื่องจากวิตกกังวลเรื่องราคาวัสดุก่อสร้างที่อาจจะปรับตัวสูงขึ้นอีก และจะทำให้งบประมาณในการสร้างบ้านเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งหลังจากที่บริษัทฯ แตกไลน์ธุรกิจรับสร้างบ้าน “ดี–แลนด์ โฮมบิวเดอร์” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง พร้อมบริการรับออกแบบบ้านในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ผลปรากฏว่าได้กระแสตอบรับที่ดี จึงขยายพื้นที่เพิ่มเติม ครอบคลุมทำเลสมุทรสาคร พระราม 2 เอกชัย เพชรเกษม พุทธมณฑล นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นครปฐม และราชบุรี
“ดี–แลนด์ โฮมบิวเดอร์” ให้บริการรับสร้างบ้านคุณภาพด้วยระบบเดียวกับการสร้างบ้านเดี่ยวหรูในหมู่บ้านจัดสรร ด้วยระบบการก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีแบบบ้านที่ทันสมัยและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ
ให้ลูกค้าเลือก 5 รูปแบบ พื้นที่ใช้สอย 222–446 ตารางเมตร สามารถปลูกสร้างบนขนาดที่ดินตั้งแต่ 52 ตารางวาขึ้นไป ในราคาเริ่มต้น 4.2 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีบริการรับออกแบบและสร้างบ้านตามความต้องการของลูกค้า โดยล่าสุดเพื่อเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจสร้างบ้านของลูกค้าบริษัทได้จัดโปรฟรี!4 รายการ ได้แก่ ค่าออกแบบ ค่าสำรวจที่ดิน ค่าประเมินราคา และบริการสินเชื่อก่อนการจอง หรือสินเชื่อเมื่อต้องการซื้อที่ดินพร้อมสร้างบ้าน ตั้งแต่วันนี้–31 ธ.ค. 2565
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
CHIC มองธุรกิจครึ่งปีหลัง 65 โตแกร่ง ชูกลยุทธ์สร้าง New S Curves ใหม่ ลุยเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
CHIC เผยทิศทางธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 65 โตแกร่ง เปิดประเทศหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจภาคเอกชน-อสังหาฟื้น ความต้องการใช้เฟอร์นิเจอร์เพิ่ม เดินหน้ากลยุทธ์สร้างการเติบโตด้วย New S Curve ใหม่ ขยายบริการ “Chic Design Studio” ออกแบบตกแต่งภายในและรับเหมาก่อสร้างครบวงจร เพิ่มช่องทางการให้บริการเช่าและรับจัดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์-ของตกแต่งบ้านโดย Stylist “Chic Rent In Style” ปั้มรายได้ต่อยอดธุรกิจหลัก เล็งทำเลคุณภาพขยายสาขาใหม่ ปรับปรุงพื้นที่ร้านค้าเช่า สร้าง Recurring Income เสริมศักยภาพการแข่งขัน พร้อมลุยนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ “CHIC” ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน ที่นอนและเครื่องนอนครบวงจร ในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวขนาดใหญ่ ภายใต้แบรนด์หลัก “ชิค รีพับบลิค” (CHIC) และ “ริน่า เฮย์” (RINA HEY) และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศภายใต้ แบรนด์ “แอชลีย์” (Ashley) เปิดเผยว่า ภาพรวมทิศทางธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดี ปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดประเทศ ส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของภาคเอกชน ทั้งภาคการให้บริการ ภาคการท่องเที่ยว รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลดีต่อความต้องการใช้เฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น
แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์สร้างการเติบโตด้วย New S Curve ใหม่ โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น ธุรกิจจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่ง 52% ธุรกิจงานโครงการ 44% ธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน 1% และธุรกิจให้บริการ 3%
จากการขยายบริการ ให้บริการออกแบบและตกแต่งภายในแบบครบวงจร รวมถึงจัดหาเฟอร์นิเจอร์พร้อมติดตั้งแบบติดผนัง (Built in) แบบลอยตัว (Loose Furniture) สำหรับงานโครงการ คอนโดมิเนียม บ้าน ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม ภายใต้ชื่อ “Chic Design Studio” อีกทั้ง เพิ่มช่องทางการให้บริการ “Chic Rent In Style” ธุรกิจให้เช่าและรับจัดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านโดย Stylist / Interior Designer แบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า บริษัทอสังหาริมทรัพย์ บริษัทรับออกแบบและตกแต่ง นักออกแบบอิสระ เจ้าของบ้าน และบริษัทรับจัดงานต่าง ๆ ที่ต้องการเช่าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเพื่อใช้จัดห้องตัวอย่าง งานโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ งานอีเวนท์ระยะสั้น เป็นต้น
สำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้าน เตรียมขยายสาขาใหม่ในพื้นที่หรือจังหวัดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างเทรนด์ให้ทันสมัย เพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ควบคู่กับกลยุทธ์ O2O (Offline to Online และ Online to Offline) เพิ่มศักยภาพช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ เพื่อรองรับความต้องการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต
ปัจจุบัน บริษัทมีช่องทางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.chicrepublicthai.com, www.rinahey.com, https://store.ashleyfurniturehomestore.co.th Facebook: Chic Republic Line@Chic Republic และแพลตฟอร์ม Shopee, Lazada, NocNoc, Central Online และ JD Central
นอกจากนี้ ธุรกิจจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์พร้อมติดตั้งสำหรับงานโครงการภายในประเทศ มีกระแสตอบรับที่ดีจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ เตรียมเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการแนวราบเพิ่ม เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โรงแรม และโรงพยาบาล สร้างยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นให้มากขึ้น
ในส่วนของธุรกิจการให้บริการพื้นที่เช่า บริษัทปรับกลยุทธ์ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาเยี่ยมชมสินค้าหน้าร้านเตรียมปรับปรุงพื้นที่จัดวางสินค้าภายในสาขาบางสาขา เพิ่มพื้นที่เช่าสำหรับร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและส่งเสริมธุรกิจของบริษัทฯให้มากขึ้น สร้างรายได้จากการให้เช่าพื้นที่และค่าบริการ
“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้การดำเนินงานบริษัทได้รับผลกระทบ ทำให้บริษัทเร่งปรับตัว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันพร้อมรับมือกับวิกฤติต่าง ๆ ในปัจจุบันได้ การปรับกลยุทธ์สร้างการเติบโตด้วย New S Curves ใหม่ เริ่มเห็นสัดส่วนรายได้ในแต่ละกลุ่มธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/65 และคาดว่าจะมีทิศทางเติบโตที่ดีต่อเนื่อง บริษัทจึงมีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อรองรับแผนการลงทุนที่จะสร้างการเติบโตในอนาคต” นายกิจจากล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจะทำการเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 360 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 26.47 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังเสนอขาย IPO โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และจะทำการโรดโชว์ให้แก่ผู้ที่สนใจ นักลงทุนกลุ่มต่างๆ และประชาชนทั่วไป ผ่านรูปแบบออนไลน์ (Facebook Live) สามารถติดตามรับฟังการนำเสนอข้อมูลได้ในช่องทาง FB : Chic Republic
ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com
ระเบิดเวลาลูกใหญ่ “กองทุนน้ำมัน” ติดลบแสนล้าน
“กองทุนน้ำมัน” ติดลบหลักแสนล้าน เพิ่มความยากลำบากในการบริหารราคาพลังงาน ทำให้การขายปลีกน้ำมันในประเทศไทยอาจสูงกว่าตลาดโลก เพราะต้องเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจนกว่าจะพ้นสถานะติดลบ
ระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่เป็นผลกระทบจากราคาพลังงานทรงตัวอยู่ในระดับสูงครั้งนี้ คือ สถานะ “กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” ที่ติดลบ 102,586 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 26 มิ.ย. 2565 แบ่งเป็นการติดลบของบัญชีน้ำมัน 65,202 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจี 37,384 ล้านบาท
โดยถ้าย้อนไปดูข้อมูลในวันที่ 27 ก.พ.2565 หลังจากที่รัสเซียบุกยูเครนได้ 3 วัน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบ 21,838 ล้านบาท โดยบัญชีแอลพีจีติดลบ 26,826 ล้านบาท ในขณะที่บัญชีน้ำมันยังเป็นบวก 4,988 ล้านบาท
ประเทศไทยใช้กองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิงเป็นเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพราคาพลังงานต่อเนื่องมากว่า 40 ปี นับตั้งแต่รัฐบาลจัดตั้งกองทุนรักษาระดับ “ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง” ในปี 2520 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่รัฐบาลเข้าไปดูแลราคาพลังงานหลังจากเกิดวิกฤติน้ำมันปี 2516-2517 และมีการปรับเปลี่ยนสถานะทางกฎหมายที่รองรับกองทุนมาตลอด จนถึงการบังคับใช้ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ซึ่งทั้งหมดใช้หลักการเดียวกัน คือ การส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อรักษาระดับราคาเชื้อเพลิง
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นช่องที่กองทุนน้ำมันติดลบสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ รองลงมาเป็นรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ในปี 2547-2549 ที่ติดลบ 92,000 ล้านบาท ซึ่งในครั้งนั้นใช้เวลาหลายเดือนที่จะรักษาสถานะกองทุนให้กลับมาเป็นบวก แต่สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบันมีสถานการณ์ที่ยากลำบากกว่า เพราะราคาน้ำมันยังคงทรงตัวในระดับสูง ในขณะที่ภาวะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยืดเยื้อยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติเมื่อใด ดังนั้นจึงเป็นภาระหนักในการดูแลราคาพลังงานนับจากนี้
“กระทรวงพลังงาน” ยังคงใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเครื่องมือหลักในการดูแลราคาดีเซลและแอลพีจี โดยข้อเสนอหลายแนวทางที่จะบรรเทาราคาพลังงานไม่สามารถดำเนินการได้ ทั้งการลดเติมไบโอดีเซลลงในดีเซล โดยราคาไบโอดีเซลปัจจุบันอยู่ที่ลิตรละ 51.31 บาท สูงกว่าราคาปลีกของดีเซลที่ลิตรละ 34.94 บาท ทำให้ไบโอดีเซลมีราคาสูงกว่าดีเซลมาก รวมถึงการดึงค่าการกลั่นมาช่วยอุดหนุนราคาเบนซินและเพิ่มสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเจรจามานานและยังไม่ได้ข้อสรุป
การที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสถานะติดลบมากกว่า 100,000 ล้านบาท และการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตั้งแต่เดือน พ.ย.2564 ยังไม่สามารถกู้ได้ ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีความยากลำบากในการบริหารราคาพลังงานมากขึ้น รวมทั้งเมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลง แต่การขายปลีกน้ำมันในประเทศไทยจะสูงกว่าตลาดโลก เพราะต้องเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจนกว่าจะพ้นสถานะติดลบ ระเบิดลูกใหม่ของรัฐบาลจึงกำลังก่อตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
เกินต้าน “วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย” พ่าย “โดมินิกัน” 1-3 VNL 2022 สัปดาห์ 3 นัดสอง
“วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย” พ่ายแพ้ให้กับ “โดมินิกัน” 1-3 เซต ในศึก “วอลเลย์บอล เนชันส์ลีก 2022” สัปดาห์ 3 นัดสอง ณ ประเทศบัลแกเรีย
วันที่ 30 มิ.ย. 65 การแข่งขันวอลเลย์บอล เนชันส์ลีก 2022 สัปดาห์ที่ 3 นัดสอง ณ ประเทศบัลแกเรีย “ตบลูกยางสาว” วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ภายใต้การนำทีม “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล นำทีมลงสนามพบกับ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติโดมินิกัน
ผลปรากฏว่า “ตบลูกยางสาว” วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย พ่ายแพ้ให้กับ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติโดมินิกัน 1-3 เซต ด้วยคะแนน 25-22, 23-25, 23-25, 21-25
สำหรับ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล มีโปรแกรมนำ “ตบลูกยางสาว” วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ “ตบสาวแดนแซมบ้า” วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติบราซิล ในศึก วอลเลย์บอล เนชันส์ลีก 2022 สัปดาห์ที่ 3 นัดที่ 3 วันที่ 2 กรกฎาคมนี้ 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
อาการแบบนี้ “ออฟฟิศซินโดรม” หรือเปล่า?
ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) เนื่องมาจากรูปแบบการทำงานที่ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณ คอ หลัง ไหล่ บ่า แขน หรือข้อมือ ซึ่งอาการปวดดังกล่าวอาจลุกลามจนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง
ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) โรคยอดฮิตคนทำงานออฟฟิศ
ออฟฟิศซินโดรม มักพบได้บ่อยในคนทำงานออฟฟิศ เนื่องจากพฤติกรรมของคนทำงานส่วนใหญ่ ที่ต้องนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เป็นเวลานาน โดยไม่ได้ขยับตัวเปลี่ยนอิริยาบถ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการตึง และกล้ามเนื้ออักเสบได้ จึงเป็นสาเหตุหลักและปัจจัยสำคัญให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรม
อาการแบบไหน เสี่ยง!
“ออฟฟิศซินโดรม”
- ปวดกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง มักมีอาการปวดแบบว้างๆ ๆไม่สามารถชี้จุดหรือระบุตำแหน่งที่ปวดได้อย่างชัดเจน เช่น คอ บ่า ไหล่ สะบัก
- ปวดศีรษะเรื้อรัง หรือในบางครั้งมีอาการปวดหัวไมเกรนร่วมด้วย ซึ่งมีสาเหตุมาจากความเครียดหรือการที่ใช้สายตาเป็นระยะเวลานาน
- ปวดหลังเรื้อรัง เป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคออฟฟิศซินโดรม เนื่องจากการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมง นั่งไม่ถูกท่า นั่งหลังค้อม อาจทำให้กล้ามเนื้อต้นคอ เมื่อย เกร็งอยู่ตลอด รวมถึงงานที่ต้องยืนนานๆ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ใส่ส้นสูง
- ปวดตึงที่ขา หรือเหน็บชา อาการชาเกิดจากการนั่งนานๆ ทำให้เส้นเลือดดำถูกกดทับและส่งผลให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ
- ปวดตา ตาพร่า เนื่องจากต้องมีการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ หรือใช้สายตาอย่างหนักเป็นเวลานาน
- มือชา นิ้วล็อค ปวดข้อมือ เพราะการใช้คอมพิวเตอร์จับเมาส์ในท่าเดิมๆ นาน ทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาทและเส้นเอ็นจนอักเสบ เกิดพังผืดทำให้ปวดปลายประสาท นิ้วหรือข้อมือล็อคได้
การรักษาออฟฟิศซินโดรม
การรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมมีด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยยา การปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน การทำกายภาพบำบัด การออกกำลังกายเพื่อรักษาอาการปวด การรักษาด้วยวิธีทางเลือกอื่นๆ เช่น การฝังเข็ม การนวดแผนไทย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมควรมาปรึกษาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการ ว่าเกิดจากสาเหตุใด มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ หรือไม่ เพื่อให้แพทย์ได้รักษาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับอาการของแต่ละบุคคล
ขอบคุณข้อมูลจาก sikarin.com
งานอดิเรก爱好 ภาษาจีน
งานอดิเรก 爱好 | ||
คำศัพท์ | พินอิน | ความหมาย |
画画儿 | huàhuàér | วาดรูป |
钓鱼 | diàoyú | ตกปลา |
拍照 | pāizhào | ถ่ายภาพ |
看书 | kànshū | อ่านหนังสือ |
听音乐 | tīngyīnyuè | ฟังเพลง |
看电影 | kàndiànyǐng | ดูหนัง |
参加运动 | cānjiāyùndòng | เล่นกีฬา |
唱歌 | chànggē | ร้องเพลง |
饲养 | sìyǎng | เลี้ยงสัตว์ |
手艺 | shòuyì | เย็บปักถักร้อย |
玩游戏 | wányóuxì | เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ |
上网 | shangwang | เล่นอินเตอร์เน็ต |
看小说 | kànxiǎoshuō | อ่านนิยาย |
集邮 | jíyóu | สะสมสแตมป์ |
ขอบคุณข้อมูลจาก hanyuban.com
Advice ประกาศแผนธุรกิจปี 65 “Top of Mind” หวังชิงส่วนแบ่งตลาดสินค้าไอที
แอดไวซ์ เปิดแผนธุรกิจปี 65 ยกระดับแบรนด์ แอดไวซ์ ให้เป็น Top of Mind ของผู้บริโภคในทุกเซกเมนต์ พร้อมปูพรมขยายและปรับโฉมสาขาทั่วประเทศ เพิ่มไลน์สินค้าที่ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงสินค้าไฮเอนด์ และผลักดันช่องทางจำหน่ายทั้งหน้าร้าน และออนไลน์เติบโตอย่างก้าวกระโดด
พร้อมกับสร้างจุดต่างด้วยบริการแบบครบวงจร และขยายเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจที่หลากหลายในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับรู้ต่อแบรนด์ในวงกว้าง โดยภายในปี 2565 แอดไวซ์ ตั้งเป้ารายได้ 19,000 ล้านบาท คิดจากสัดส่วนรายได้เติบโต 25% จากปีก่อน พร้อมมั่นใจภาพรวมรายได้ยังสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ด้วยการกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในทุกแง่มุมที่ต้องการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ที่เป็นได้ทั้งเครื่องมือ เพื่อประกอบอาชีพ สนับสนุนการทำงาน อุปกรณ์การเรียน หรือเพื่อการพักผ่อน โดยมุ่งเน้นในด้านการสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างสะดวก และครบครัน
ทั้งนี้ แอดไวซ์ มุ่งรุกตลาดในทุกเซกเมนต์มากขึ้น เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่การพัฒนาเครือข่ายพันธมิตร เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกคอมมูนิตี้ ทุกระดับและขนาด ทุกเป้าหมายการใช้งาน ด้วยผลิตภัณฑ์ และบริการที่ครอบคลุมความต้องการด้านเทคโนโลยีให้กับผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
ผสานเสริมสร้างความเข้าใจ และเทคนิคการใช้งานสินค้าผ่านช่องทางการสื่อสารของแอดไวซ์เอง เพื่อให้ผู้บริโภคใช้งานสินค้าได้อย่างคุ้มค่า รวมไปถึงการสนับสนุนกิจกรรมทางสังคม การศึกษา กีฬาโดยการเข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้นกับหน่วยงานด้านการศึกษา ชุมชนท้องถิ่น และการพัฒนาทักษะด้านกีฬา
โดยเฉพาะอีสปอร์ต ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทั้งระบบนิเวศและอุตสาหกรรมอีสปอร์ตในประเทศไทยด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีอยู่เพื่อให้มีขีดความสามารถแข่งขันทั้งในด้านศักยภาพการพัฒนาคอนเทนท์ไปจนถึงการแข่งขันในระดับโลกได้
นอกจากนี้ แอดไวซ์ ยังให้ความสำคัญกับช่องทางการนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์กลยุทธ์หลักของธุรกิจ เพื่อนำเสนอและมอบโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ เข้าถึง และใช้เทคโนโลยีชั้นนำ ซึ่งประกอบไปด้วยกิจกรรมทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ตลอดทั้งปี
เริ่มจากกิจกรรมโรดโชว์ครั้งใหญ่ของปี “The Way of Gaming“ คาราวานธีมอีสปอร์ตที่จะเดินทางทัวร์ทั่วประเทศรวมทั้งหมด 63 จังหวัด เป็นระยะทางมากกว่า 10,000 กิโลเมตร โดยสร้างประสบการณ์อีสปอร์ตด้วยการนำเสนอเป็นธีม “Fury Road“ ที่ออกแบบ และตกแต่งออกมาอย่างโดดเด่นสะดุดตาเสมือนหลุดออกจากโลกของเกม
ณัฎฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวว่า แอดไวซ์ มุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้วยความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคในทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งเกิดจากการเก็บรวบรวมข้อมูลการขายจากช่องทางต่าง ๆ นำมาวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภค
และสร้างโอกาสโดยใช้สินค้าเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้ผู้บริโภคทุกคนได้เข้าถึง สัมผัสและรับประสบการณ์ที่เท่าเทียมกันในทุกพื้นที่ จนเรียกได้ว่าเราคือ สิงห์ภูธรของอุตสาหกรรมค้าปลีกไอที วันนี้การลงทุนของเราไม่ได้จำกัดอยู่ที่ตัวเงินแต่เป็นการลงทุนทางความคิด
การพัฒนาธุรกิจ การขยายช่องทางจำหน่าย การพัฒนาบุคลากร ผมมั่นใจว่าลูกค้า และผู้บริโภคจะได้รับสิ่งดี ๆ กลับไปทุกครั้งที่เข้ามาในร้าน แอดไวซ์ ไม่ว่าจะที่สาขาทั่วประเทศหรือบนแอดไวซ์ออนไลน์
ใช้ประสบการณ์จากวิกฤติเศรษฐกิจในอดีต ช่วยพาทเนอร์ที่ประเทศลาว
ณัฎฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวเสริมว่า ในส่วนแฟรนไชส์ที่ประเทศลาวที่มีอยู่ 25 สาขา ที่ตอนนี้กำลังประสบกับปัญหาทางด้านค่าเงินที่อ่อนตัวลงทำให้กำลังซื้อลดลงนั้น แอดไวซ์ เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
โดยที่ผ่านมา แอดไวซ์ ได้พยายามช่วยทุกทางเท่าที่ทำได้ทั้งร่วมกับทางดีลกับดิสทริบิวเตอร์ ในการปรับลดต้นทุน และสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งช่วยได้ในระดับหนึ่งแต่สถาการณ์นั้นยังไม่ดีขึ้นเท่าไร เพราะเป็นปัญหาเรื่องค่าเงินที่เกินกว่าศักยภาพของ แอดไวซ์ จะเข้าไปแก้ไขอะไรได้มาก
อย่างไรก็ดี แอดไวซ์ ได้เล็งนำเอาประสบการณ์ในปัญหาจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เคยเจอในอดีต เข้าไปช่วยวางแผนให้พาทเนอร์ในประเทศลาว ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างพิจารณาข้อจำกัดต่าง ๆ
ด้าน จักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขาย และการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวว่า แผนในการดำเนินธุรกิจของ แอดไวซ์ ในปีนี้ เราให้ความสำคัญกับการขยายประสบการณ์ สร้างความความประทับใจ เพื่อให้เกิดสังคมที่สร้างสรรค์ และยั่งยืนในพื้นที่ต่าง ๆ
เพิ่มโอกาส เพิ่มตัวเลือกของสินค้า และงานบริการให้ตรงกลุ่มเป้าหมายในทุกการใช้งาน เราลงทุนปรับโฉมหน้าร้านเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มสินค้า และเพิ่มสาขาให้ครอบคลุมได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น นอกจากนั้นเรารุกตลาดสินค้าไฮเอนด์สำหรับเกมเมอร์ สตรีมเมอร์ รวมถึงครีเอเตอร์ ทั้งคอมประกอบ และโน๊ตบุ๊คมากขึ้น
ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคในการเข้ามาเรียนรู้ และทดลองผลิตภัณฑ์ ก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งจากผลสำรวจล่าสุดของ Iprice Insight เมื่อเร็ว ๆ นี้ แอดไวซ์ ยังเป็นร้านค้าปลีกออนไลน์ในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อันดับหนึ่งของประเทศไทยต่อเนื่องถึง 3 ปีติดต่อกัน
ซึ่งยอดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในรอบปีที่ผ่านมาสูงขึ้นถึง 1.5 เท่า โดยตลอดระะยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีสถาการณ์ที่ไม่เอต่อการงลงทุน แต่ แอดไวซ์ ก็สามารถสร้างรายได้เติบโต 2 ดิจิต อย่างต่อเนื่อง จากช่องทางต่าง ๆ ที่มีทั้งออฟไลน์ และออนไลน์
ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมา แอดไวซ์ ยัง สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้สถานการณ์โควิดทางเศรษฐกิจของประเทศจะซบเซา จากสถานการณ์โควิด และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้เริ่มปานปลาย แต่อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เราเห็นสถานการณ์ที่กำลังซื้อเริ่มถดถอยลง ทำให้เราเริ่มมองหากลุ่มสินค้า และบริการใหม่ ๆ
มาเพิ่มความเเข็งแกร่ง โดย แอดไวซ์ ได้เพิ่มทีมขายสำหรับลูกค้ากลุ่มองค์กร (coperate team) เพื่อเจาะกลุ่มโรงเรียน และบริษัทต่าง ๆ โดยตั้งเป้าสร้างรายได้เพิ่มเติม คิดเป็นสัดส่วน 9% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่อีก 58% รายได้จากสาขาของ แอดไวซ์ และร้านแฟรนไชส์ อีก 14% และช่องทางออนไลน์ 19% 1 of 5
“เราเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ ๆ อีกหลายกลุ่มตั้งแต่คอมโพเนนท์ที่เราถือเป็นผู้นำตลาด สินค้า IoT ที่ลูกค้ากลุ่ม WFH สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับการใช้งานได้ครบถ้วน และกลุ่มรักษาความปลอดภัย และเรายังได้เพิ่มไลน์สินค้ากลุ่มไฮเอนด์อีกหลายประเภททั้งเกมมิ่งเกียร์ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง
และสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Apple เพื่อขยับโพซิชั่นของแบรนด์ และมีสินค้าให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Mid to High มากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายอีกมากมาย นอกจากนี้ แอดไวซ์ ยังได้เดินหน้ารีโนเวทหน้าร้านเก่าที่เคยเป็นตึกแถว และสร้างร้านใหม่บนห้างสรรพสินค้ารวมถึงเช่าโชว์รูมรถยนต์เก่า
เพื่อทำเป็นคอมมูนิตี้ที่มีทั้งโชว์รูมสินค้า, ร้านกาแฟ, มุมนั่งทำงาน และศูนย์บริการ ซึ่งล่าสุด แอดไวซ์ ได้ารีโนเวทโชว์รูมไปแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ อุดรฯ, หนองคาย, เชียงใหม่,โคราช และจะทำเพิ่มเรื่อย ๆ รวมถึงขยายสาขาให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น” จักรกฤช กล่าว
ด้าน ภาณุวัฒน์ รู้ยิ่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวว่า เราพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยมีแพลตฟอร์มการทำงานของเราทั้งหน้าบ้าน ในบ้านและหลังบ้าน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้า และบริการถูกต้อง ตรงเวลา และปลอดภัย
ซึ่งอยู่บนมาตรฐานการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคล (PDPA) ในขณะเดียวกันลูกค้าก็ได้รับบริการหลังการขายแบบครบวงจร ซึ่งเรายังนำเทคโนโลยีมาพัฒนากระบวนการในหลายส่วน อาทิ การคัดเลือกสินค้า การบริการช่องทางการชำระเงิน ความรวดเร็วการบริการ
โดยการเพิ่มทักษะบุคลากรทั้ง Upskill และ Reskill เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของพนักงานในขณะเดียวกันทำให้คุณภาพชีวิตของบุคลากรของเราดีขึ้นอีกด้วย และที่สำคัญเรามุ่งมั่นเป็นองค์กร e–Paper ด้วย ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายด้าน ESG ของเรา
ขอบคุณข้อมูลจาก itday.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 01/07/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 30,250.00 | 30,350.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,959.00 | 29,698.44 | 30,850.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,763.10 | 26,728.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,567.20 | 23,758.75 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 882.00 | 13,371.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 686.00 | 10,399.76 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,030.00 | 30,774.80 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 01/07/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 45.15 | 45.15 | 46.15 | 45.85 | 46.05 | 45.15 | 45.15 | 45.15 | 45.85 | 45.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 44.88 | 44.88 | 45.88 | 45.58 | 45.78 | 44.88 | 44.88 | 44.88 | 45.58 | 44.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 44.04 | 44.04 | 45.04 | 44.74 | 44.94 | – | 44.04 | 44.04 | 44.74 | 44.04 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 37.54 | 37.54 | – | – | – | – | – | – | – | 37.54 |
เบนซิน 95 | 52.56 | – | – | – | 53.91 | – | 53.06 | 53.66 | – | 52.56 |
ดีเซล B7 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล | 34.94 | 34.94 | 35.24 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 | 34.94 |
ดีเซล B20 | 34.94 | 34.94 | 35.24 | – | 34.94 | – | 34.94 | 34.94 | – | 34.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 46.36 | 49.36 | 51.69 | 50.56 | 50.59 | – | – | – | – | 46.36 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |