ทายาท ‘ลิปตพัลลภ’ ผุดคอนโดฯหรู 4 พันล้าน ทำเลทอง ซ.คอนแวนต์-สาทร
ที่ดินกลางเมืองขยับ กลุ่ม ‘ลิปตพัลลภ’ โดย พราว เรียล เอสเตท ลุยเปิดโครงการคอนโด “รมย์ คอนแวนต์” ชู เป็น CBD Retreat Residences ลักชัวรี่แห่งแรก บน ถนนคอนแวนต์-สาทร มูลค่า 4,150 ลบ. หลังดึงกลุ่ม BDMS และ โรงพยาบาล BNH เสริมจุดแข็ง
21 ก.พ.2566 – นับว่าเห็นไม่บ่อยนัก กับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ บนทำเลทองหายากใจกลางเมือง บนถนน คอนแวนต์-สาทร แต่ล่าสุด บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) (PROUD) ภายใต้การดำเนินธุรกิจของหญิงเก่ง ‘พราวพุธ ลิปตพัลลภ’ ซึ่งเป็นบุตรสาวของ ‘สุวัจน์ ลิปตพัลลภ’ ได้ประกาศเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม บนที่ดิน ขนาด 1-2-40.7 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,150 ล้านบาท ในชื่อ รมย์ คอนแวนต์ (ROMM Convent) ซึ่งนอกจากจุดแข็งด้านทำเลที่ตั้งแล้ว พบแนวคิดในการพัฒนาโครงการ และ พันธมิตร ที่จะหนุนจุดแข็ง ชูความแตกต่างในแง่ CBD Retreat Residences ก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน
Rare Item ใหม่ ซอยคอนแวนต์-สาทร
นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)(PROUD) เปิดเผยว่า โครงการรมย์ คอนแวนต์ (ROMM Convent) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแห่งแรก บนทำเลซอยคอนแวนต์-สาทร ซึ่งถือเป็น Rare Item บนทำเลศักยภาพระดับ Rare Location
สำหรับแนวคิดในการพัฒนาโครงการฯ ต้องการสร้างความรื่นรมย์ภายใต้ความสุขของชีวิตที่ดีและยืนยาวในทุกมิติ LIVE. WELL. LIFE. นำเสนอ 1) (a)Live Architecture หรือสถาปัตยกรรมชีวิต ภายใต้หลักคิด Biological Design ที่เชื่อมโยงธรรมชาติเข้ากับ ผู้อยู่อาศัยให้ได้รับประโยชน์จากลมและอากาศที่ถ่ายเท กระจก Full Height ที่เปิดรับแสงแดดและพื้นที่สีเขียวเพิ่มความผ่อนคลายและความรู้สึกของ “บ้าน” ให้ได้มากที่สุดในทุกๆ พื้นที่
2) Wellness Solution ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำของประเทศ
3) Life เน้นการใช้ชีวิต หรือ Life ที่มีคุณภาพในทุกด้านแก่ผู้อยู่อาศัย ด้วยการออกแบบภายในและพื้นที่ส่วนกลางเกือบ 2,000 ตร.ม. กว่า 15 รายการ ที่ตอบโจทย์ Future Living Trend และการใช้ชีวิตจริงของทุกเจเนอเรชั่น อย่างห้อง Music Room, FitLab Café, Sky Lounge, Family Onsen และสระว่ายน้ำยาว 25 ม. ที่มาพร้อมกับสระ Hydrotherapy
โครงการรมย์ คอนแวนต์ (ROMM Convent) แล้วเสร็จปี 2569
รมย์ คอนแวนต์ (ROMM Convent) พัฒนาในรูปแบบของอาคารสูง 1 อาคาร 32 ชั้น จำนวน 180 ยูนิต พื้นที่ขนาด 1-2-40.7 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,150 ล้านบาท มีห้องพักให้เลือก 7 แบบ พร้อมพื้นที่ส่วนกลาง 6 ชั้น ได้แก่ ชั้น 1 – 2, Sky Retreat ที่ชั้น 30 – 32 และ Rooftop รวม 1,977 ตารางเมตร ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกเจเนอเรชั่น โดยโครงการมีกำหนดเริ่มก่อสร้างไตรมาส 2/2566 คาดว่าแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 4/2569
ทั้งนี้ ภายในโครงการฯ ยังมี Holistic Wellness Solution การบริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่ดำเนินการโดยพันธมิตรผู้ให้บริการด้านสุขภาพแนวหน้าของไทย “แอปพลิเคชัน BeDee by BDMS และ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช” ซึ่งลูกบ้านสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ตลอด 24 ชม. แบบ Hybrid Experience ทั้งแบบออนไลน์และ ณ พื้นที่ภายในโครงการรมย์, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช และโรงพยาบาลในเครือ
ความร่วมมือ 3 ฝ่าย อสังหาฯกับกลุ่ม รพ.
นายแพทย์วีรชาติ เพชรพิสิฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮลท์ พลาซ่า จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน BeDee by BDMS และ แพทย์หญิงยิ่งลักษณ์ ปัญจวรานุวัตร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันและอนาคต เราจะพบการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของตัวเราเองเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในฐานะผู้ให้บริการด้านสุขภาพได้มีโอกาสใหม่ๆ ด้วย
การร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างสรรค์วิธีการดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในรูปแบบที่สะดวกขึ้น จึงเป็นที่มาของความร่วมมือครั้งแรกของทั้งสามฝ่าย เพื่อออกแบบการบริการด้านสุขภาพที่ครอบคลุมทุกมิติแห่งสุขภาพดี โดยมีสื่อกลางที่สำคัญประกอบด้วยเทคโนโลยี การบริการจากผู้เชี่ยวชาญ และพื้นที่สำหรับการรองรับบริการในรูปแบบต่างๆ แบบ Holistic Wellness Solution
สำหรับลูกบ้านของ ROMM ทางเราได้นำความรู้และความเชี่ยวชาญที่มีมาร่วมพัฒนาบริการและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม พร้อมบริการวางแผนการดูแลสุขภาพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ป้องกันดูแล รักษา ส่งเสริม ฟื้นฟู รวมไปถึงสิทธิพิเศษต่างๆ และการเชื่อมโยงการบริการให้ครอบคลุมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านมากที่สุด ให้สามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้ง่ายและได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการบริการที่ห้องพัก พื้นที่ส่วนของโครงการฯ โรงพยาบาลในเครือ รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ที่ให้บริการปรึกษาโดยแพทย์ – เภสัชกร และซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพผ่านแอปพลิเคชัน BeDee by BDMS
สาทร-สีลม-ลุมพินี ทำเลทอง หนุนศักยภาพโครงการ
ขณะ นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) (PROUD) เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ ได้เริ่มต้นศึกษาจากแผนพัฒนา CBD ย่าน สาทร-สีลม-ลุมพินี ทั้งในปัจจุบันและอนาคต แล้ววิเคราะห์ออกมาเป็นภาพใหญ่ของแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบโครงการรมย์ คอนแวนต์ พบว่ามีโครงระดับ Mega Project ที่กำลังจะเกิดขึ้นมากมาย อาทิเช่น One Bangkok และ Dusit Central Park ที่ถือเป็น Mixed use ขนาดใหญ่ มีทั้งคอนโดฯ ออฟฟิศ Retail และโรงแรม
รวมถึงโครงการ Silom Edge และโครงการที่ใกล้ที่สุดอย่าง Park Silom ที่มีแผนเสร็จในปีนี้ Mega Project เหล่านี้จะทำให้ทำเลละแวกนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง กลายมาเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิต ทั้งกลางวันและกลางคืนสำหรับทั้งคนไทยและต่างชาติในอีกไม่เกิน 3 ปีจากนี้ และจากการสำรวจตลาดพบว่า ยังมีความต้องการคอนโดมิเนียมขนาด 2 ห้องนอนแบบอยู่ได้จริงเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญในการออกแบบโครงการรมย์ คอนแวนต์ (ROMM Convent)
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ทุ่ม 1.8 หมื่นล้าน เวนคืนที่ดิน 5 เขตกทม. ขยายทางหลวงแก้ปัญหาจราจร
ครม. ไฟเขียวเวนคืนที่ดิน 5 เขต กทม. “ภาษีเจริญ-จอมทอง-บางขุนเทียน-ทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ” ขยายทางหลวงเชื่อมถนน จ่ายค่าจัดกรรมสิทธิ์ 1.8 หมื่นล้านบาท
21 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่แขวงบางด้วน แขวงบางหว้า แขวงบางจาก แขวงคูหาสวรรค์ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ แขวงบางขุนเทียน แขวงบางค้อ แขวงจอมทอง แขวงบางมด เขตจอมทอง แขวงท่าข้าม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน แขวงบางมด แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ และแขวงบางปะกอง แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร พ.ศ…. ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
สาระสำคัญ เป็นการกำหนเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ตามพระราชกฤษฎีกา เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนเพชรเกษมกับถนนสุขสวัสดิ์ และสายเชื่อมระหว่างสายเชื่อมดังกล่าวกับถนนกาญจนาภิเษก
มีกำหนดใช้บังคับ 5 ปี โดยให้เริ่มต้นเข้าสำรวจที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายในเแนวเขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกา ภายใน 120 วัน นับแต่พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับ
เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ตลอดจนเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัด
ทั้งนี้ โครงการขยายทางหลวงฯ ข้างต้นจะเป็นการบรรเทาความหนาแน่นของการจราจรในเขตภาษีเจริญ เขตจอมทอง เขตบางขุนเทียน เขตทุ่งครุ และเขตราษฎร์บูรณะ โดยกรุงเทพมหานครได้จัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่โครงการแล้วส่วนใหญ่เห็นชอบด้วย
ด้านสำนักงบประมาณแจ้งว่ากรุงเทพมหานคร มีแผนการจัดกรรมสิทธิ์และการเบิกจ่ายค่าทดแทน ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ตั้งแต่ ม.ค. 64-ธ.ค. 68 และประมาณการค่าจัดกรรมสิทธิ์ 18,756 ล้านบาทโดยใช้จ่ายจากงบประมาณของกรุงเทพมหานครทั้งหมด
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ดาวโจนส์ปิดร่วง 697.10 จุด กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยนานกว่าคาด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงเกือบ 700 จุด ในวันอังคาร (21 ก.พ.) นักลงทุนกังวลว่าเฟด จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนานขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ตลาดยังถูกกดดันจากบอนด์ยีลด์สหรัฐที่พุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 3 เดือน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,129.59 จุด ร่วงลง 697.10 จุด หรือ -2.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,997.34 จุด ลดลง 81.75 จุด หรือ -2.00% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,492.30 จุด ดิ่งลง 294.97 จุด หรือ -2.50%
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.พ.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 50.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 46.8 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐมีการขยายตัว
นักลงทุนมองว่า ข้อมูลล่าสุด รวมทั้งข้อมูลที่มีการเปิดเผยในช่วงที่ผ่านมานั้น บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐและอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2565
โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในปีนี้ สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50% ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค., พ.ค. และมิ.ย. ครั้งละ 0.25% สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50% และตรึงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ระดับดังกล่าว ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธ.ค.
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.95% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 2565 เมื่อคืนนี้ และเป็นปัจจัยฉุดหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ซึ่งเป็นหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อีกทั้งต้องพึ่งพาผลกำไรและการเติบโตในอนาคต โดยหุ้นกลุ่มนี้รวมถึงหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีทุนจดทะเบียนสูง
หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.71% หุ้นแอปเปิ้ล ร่วงลง 2.67% หุ้นอะเมซอน ร่วงลง 2.7% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.09% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 3.01% หุ้นอินวิเดีย ดิ่งลง 3.43%
หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ปรับตัวลง 0.46% หลังจากบริษัทประกาศเปิดตัวบริการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินในชื่อ “Meta Verified” โดยจะมีฟีเจอร์และสิทธิพิเศษเพิ่มเติมให้ เช่น มีเครื่องหมายยืนยันตัวตน และเพิ่มการมองเห็น ซึ่งบริการดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ 11.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือคอนเทนต์ครีเอเตอร์
หุ้นเทสลา ร่วงลง 5.25% หลังจากสำนักงานความปลอดภัยด้านการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐ (NHTSA) มีคำสั่งให้บริษัทเทสลาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม จากกรณีรถยนต์ของเทสลาคันหนึ่งพุ่งชนรถดับเพลิงในเมืองซานฟรานซิสโก ส่งผลให้คนขับรถเทสลาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้โดยสาร 1 รายและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 4 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบา
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทค้าปลีก โดยโฮม ดีโปท์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐเปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ในไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 3.583 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.597 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นโฮม ดีโปท์ปิดตลาดร่วงลง 7.06%
ส่วนหุ้นวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก ขยับขึ้นเพียง 0.61% หลังจากเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 1.6405 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.5972 แสนล้านดอลลาร์ แต่บริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการประจำปี 2566 ที่ต่ำกว่าคาด
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.ในวันนี้ (22 ก.พ.) ตามเวลาสหรัฐ รวมทั้งดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค.ในวันศุกร์ที่ 24 ก.พ. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“บาส-ปอป้อ” ถอนตัว! “เมย์-วิว” นำทัพขนไก่ไทยพร้อมลุย ศึกเยอรมัน โอเพ่น
หลังจากทีมแบดมินตันทีมชาติไทย แพ้ เกาหลีใต้ 1-3 คู่ ในรอบรองชนะเลิศ ทำให้คว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันแบดมินตันทีมผสมชิงแชมป์เอเชีย 2023 รายการ “เอเชีย มิกซ์ ทีม แชมเปี้ยนชิพ 2023” ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยรายการต่อไปของนักแบดไทยเตรียมที่จะทำศึกเวิลด์ ทัวร์ ซุปเปอร์ 300 “เยอรมัน โอเพ่น 2023” ชิงเงินรางวัล 210,000 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 7 ล้านบาท ที่ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 7-12 มีนาคมนี้
ในรายการนี้ทีมแบดมินตันไทยนำทัพโดย “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ในประเภทหญิงเดี่ยว และ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์เก่าในประเภทชายเดี่ยว ส่วนในประเภทคู่ผสมแชมป์เก่าอย่าง “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย รวมทั้งคู่ดาวรุ่ง “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ และ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน ถอนตัวจากการแข่งขัน เนื่องจากเตรียมความฟิตในศึกใหญ่หลังจากรายการนี้คือ “ออล อิงแลนด์ โอเพ่น” ที่ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 14-19 มีนาคม
ส่วนผลการจับสลากประกบคู่การแข่งขันของนักแบดมินตันไทยที่น่าสนใจ ดังนี้ หญิงเดี่ยว รอบแรก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือวางอันดับ 6 ของรายการ พบ เวน ชิ หู จากไต้หวัน ส่วน “จิว” ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ พบศึกหนักกับ อากาเนะ ยามากูชิ มือวางอันดับ 1 จากญี่ปุ่น, “เมย์” ศุภนิดา เกตุทอง พบ หาน เย่ว มือวางอันดับ 7 ของจีน และ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือวางอันดับ 8 พบนักกีฬาจากรอบคัดเลือก ส่วนชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ถูกวางเป็นมือ 2 ของรายการรอบแรกพบ ลี่ ชิ เฟ็ง จากจีน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“ลืมง่าย จำยาก” 10 สัญญาณเสี่ยง “อัลไซเมอร์”
- โรคอัลไซเมอร์ มักพบในผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวต่างๆ ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ มีปัจจัยทางพันธุกรรม หรือผู้ที่มีภาวะอื่นๆ เช่น ภาวะซึมเศร้า การนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ
- อาการด้านความจำ เป็นอาการของโรคอัลไซเมอร์ที่เด่นชัดที่สุด นอกจากนั้นเป็นอาการด้านอื่นๆ เช่น การสับสนในวัน เวลา สถานที่ ทิศทาง คิดคำพูดไม่ออก การตัดสินใจแย่ลง หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า แยกตัวออกจากสังคม
- ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายขาดได้ มีเพียงการรักษาที่ช่วยให้อาการของผู้ป่วยทุเลาลงหรือประคับประคองไม่ให้อาการแย่ลงไป รวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้
สมอง ถือเป็นอวัยวะที่ถือว่าสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งของร่างกาย ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายเกือบทั้งหมด แต่เมื่ออายุมากขึ้นพร้อมด้วยปัจจัยอื่นๆ สมองก็เสื่อมสภาพแบบค่อยเป็นค่อยไปตามกาลเวลาและรูปแบบการใช้งาน และแสดงออกทางร่างกายในรูปแบบต่างๆ ได้ หนึ่งในนั้น คือ อาการขี้หลงขี้ลืม ความจำไม่ดีเหมือนแต่ก่อน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในลักษณะเด่นของโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease) ที่ถือว่าเป็นสาเหตุของโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุที่พบบ่อยที่สุด
โรคอัลไซเมอร์คืออะไร
แพทย์หญิง จิตรลดา สมาจาร แพทย์ผู้ชำนาญการด้านประสาทวิทยา โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ระบุว่า โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer Disease) เป็นโรคที่มีการถดถอยของการทำงานหรือโครงสร้างของสมองมากกว่าวัย เกิดจากการที่โปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เบต้า-อะไมลอยด์ (beta-amyloid) ซึ่งเป็นผลจากของเสียที่เกิดจากการสันดาปของเซลล์ มีการตกตะกอนและไปจับกับเซลล์สมอง เส้นใยที่เชื่อมต่อของสมอง รวมถึงเซลล์พี่เลี้ยงของสมอง ส่งผลให้เกิดความเสียหายและนำมาสู่การตายของเซลล์สมอง โดยทำให้สมองเสื่อมและฝ่อลง และเกิดการสูญเสียเนื้อสมองในที่สุด
โรคอัลไซเมอร์เป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคสมองเสื่อม (Dementia) ที่พบได้บ่อยที่สุด คิดเป็น 60% – 80% ของกลุ่มผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อมทั้งหมด ปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องมาจากการมีอายุยืนยาวขึ้นและปัจจัยด้านอื่นๆ ทั้งนี้ ในประเทศไทยยังไม่มีรายงานจำนวนผู้ป่วยที่แน่ชัด แต่จากข้อมูลของสมาคมโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Association) ที่เก็บข้อมูลของชาวอเมริกัน พบว่า มีผู้ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้นทุกปี และสูงถึง 14 ล้านคนในปี 2020 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม ได้แก่ สมองเสื่อมจากภาวะสมองขาดเลือด (Vascular Dementia), Dementia with Lewy bodies, Frontotemporal lobar dementia, ภาวะสมองเสื่อมในโรค Parkinson (Parkinson’s disease dementia) และภาวะสมองเสื่อมที่เกิดจากหลายสาเหตุร่วมกัน
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์
1. ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
- อายุ ในบุคคลทั่วไป เมื่ออายุมากกว่า 65 ปีไปแล้ว ทุกๆ 5 ปี จะมีความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
- ปัจจัยทางพันธุกรรม โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติโรคความจำเสื่อมในครอบครัว
- การกลายพันธ์ของยีน Apolipoprotein E (Apo E), Amyloid-beta Precursor Protein (APP), Presenilin 1 (PSEN1) และ Presenilin 2 (PSEN2) และ Down’s syndrome จะทำให้ปรากฎอาการของโรคอัลไซเมอร์เร็วกว่าคนปกติ
- เพศ พบว่าเพศหญิงมีความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์มากกว่าเพศชายเล็กน้อย
2. ปัจจัยที่เกิดขึ้นภายหลัง
เป็นส่วนส่งเสริมให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ โดยปัจจัยเสี่ยงหรือโรคดังกล่าวส่งผลต่อหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง ทำให้เนื้อสมองมีความเสียหายมากขึ้น ดังนี้
- โรคเบาหวาน พบว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า 39% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวาน
- โรคความดันโลหิตสูง พบว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า 61%
- โรคอ้วน พบว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า 60%
- การสูบบุหรี่ พบว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า 59%
- การไม่ออกกำลังกาย พบว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า 82%
3. ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมและทางกายภาพอื่นๆ
- ระดับการศึกษา พบว่า จะมีความเสี่ยงสูงกว่า 59% หากมีระดับการศึกษาต่ำ
- ภาวะซึมเศร้า พบว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า 90%
- ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การขาดปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ทำให้ขาดการทำงานของสมองในหลายๆ ด้าน และยังเป็นความเสี่ยงของการเกิดโรคซึมเศร้าอีกด้วย
- การนอนหลับ การนอนหลับที่ไม่เพียงพอหรือไม่มีคุณภาพ เช่น มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea: OSA) โรคของการเคลื่อนไหวผิดปกติช่วงนอน (Restless Leg Syndrome) โรคเหล่านี้มีผลต่อการซ่อมแซมเซลล์สมองในช่วงระหว่างการนอนหลับลึก และการรวบรวมความจำในช่วงระหว่างการนอนหลับตื้น
- การมีประวัติอุบัติเหตุทางสมอง ที่ทำให้เซลล์สมองได้รับความเสียหาย
สัญญาณอันตราย อาการของโรคอัลไซเมอร์
อาการของโรคอัลไซเมอร์นั้น นอกจากปัญหาเรื่องความจำที่เป็นอาการที่เด่นชัดและสังเกตได้ง่ายแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ ที่หลากหลายแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน โดยทั่วไปแล้ว อาการเหล่านี้มักส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปและการเข้าสังคมด้วยเช่นกัน
- สูญเสียความจำหรือข้อมูลระยะสั้น มีการหลงลืมที่รบกวนชีวิตประจำวัน ลืมของไว้ในที่ที่ไม่ควรเก็บ เช่น วางของทิ้งไว้แล้วลืม วางกุญแจรถไว้ในตู้เย็น นึกชื่อคนที่รู้จักไม่ออก ถ้าหากตัวโรคเป็นมากขึ้น ก็อาจทำให้สูญเสียความทรงจำในอดีตได้
- มีความสับสนในวัน เวลา สถานที่
- มีความสับสนในทิศทาง เช่น ลืมเส้นทางที่เคยใช้เป็นประจำ
- มีปัญหาในการสื่อสาร เช่น คิดคำพูดไม่ออก เข้าใจหรือสื่อสารข้อความยาวๆ ไม่ได้
- มีการตัดสินใจที่แย่ลง ช้าลง
- มีการคิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหาที่ทำได้ยากขึ้น หรือทำได้แย่ลง
- ขาดสมาธิในการจดจ่อกับสิ่งที่ทำ
- มีปัญหาในการทำงาน ทำงานให้สำเร็จได้ยากกว่าปกติ
- มีอารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่น ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ซึมเศร้า
- มีการแยกตัวจากสังคม งาน หรือกิจกรรมที่เคยทำหรือชื่นชอบ
คนที่ขี้หลงขี้ลืม จัดว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์หรือไม่?
หากบอกว่าคนที่มีอาการขี้หลงขี้ลืมนั้นถือเป็นโรคอัลไซเมอร์ อาจไม่ถูกต้องนัก คนที่มีอาการขี้หลงขี้ลืมบ่อยๆ อาจเป็นได้จาก 2 กรณี ได้แก่
- มีอาการขี้ลืมจากการไม่ได้จดจำ ไม่ได้เก็บข้อมูลเข้าไปในความจำ เช่น ยุ่งมากมีเรื่องหลายเรื่องที่ต้องทำ ลักษณะนี้ไม่ถือว่าเป็นโรคความจำเสื่อม
- มีอาการขี้ลืมที่เกิดจากความจำถดถอย ความสามารถในการจดจำลดลง ถือว่าเป็นโรคความจำเสื่อม ซึ่งมักมีอาการอื่นในเรื่องของความจำร่วมด้วย
การตรวจวินิจฉัยโรคความจำเสื่อม
การตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุของโรคความจำเสื่อม ถือเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาและตรวจหาสาเหตุ เพื่อให้ทำการรักษาได้ตรงเป้า แม่นยำเฉพาะโรค และประสบผลสำเร็จ การวินิจฉัยโรคความจำเสื่อม ทำได้ดังนี้
- การซักประวัติ จากตัวผู้ป่วยเอง คนรอบข้าง หรือผู้ใกล้ชิด เพื่อสังเกตพฤติกรรมและอารมณ์
- การตรวจร่างกาย เพื่อหาอาการร่วมทางระบบประสาท เช่น อาการอ่อนแรง การเคลื่อนไหวผิดปกติ
- การตรวจความจำ เช่น Mini Mental Status Examination (MMSE), Montreal Cognitive Assessment (MoCA), Cognitive Ability Test
- การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- การตรวจภาพวินิจฉัยสมอง ด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อประเมินภาวะของสมอง
- การตรวจเลือด เพื่อหาปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การตรวจน้ำตาล น้ำตาลสะสม ระดับไขมันในเลือด การทำงานของไทรอยด์ ระดับวิตามินบี12 การตรวจหาภาวะการติดเชื้อซิฟิลิสหรือเอชไอวี การตรวจภูมิคุ้มกันในร่างกายที่มีผลต่อสมอง
- การประเมินภาวะทางอารมณ์
- การตรวจยีน เช่น Apolipoprotein E4 (Apo E4), Amyloid-beta Precursor Protein (APP), Presenilin 1 (PSEN1) และ Presenilin 2 (PSEN2)
นอกจากนั้น ยังจำเป็นจะต้องตรวจหาภาวะหรือโรคทางกายอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อความจำและให้การรักษาด้วยเสมอ ได้แก่ ภาวะเกลือแร่ในร่างกายต่ำ เช่น โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม ภาวะขาดวิตามินในร่างกาย ได้แก่ วิตามินบี1 บี12 โฟลิก ภาวะพร่องไทรอยด์หรือไทรอยด์เป็นพิษ การติดเชื้อบางอย่างในร่างกาย เช่น ซิฟิลิส เอชไอวี โรคภูมิคุ้มกันแปรปรวนที่มีผลต่อสมอง การใช้ยาบางอย่างที่มีผลต่อความจำ โดยเฉพาะยาที่มีผลทำให้ง่วงนอน ยานอนหลับ สารเสพติดบางชนิด เช่น แอมเฟตามีน โคเคน กัญชา โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติการใช้ในปริมาณมากหรือต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
การป้องกันโรคความจำเสื่อม
- ลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หากมีภาวะเหล่านี้ ควรรักษาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและควบคุมได้
- ออกกำลังกายและเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
- บริหารสมอง โดยการทำกิจกรรมที่ชื่นชอบในเวลาว่าง เช่น อ่านหนังสือ วาดรูป ทำอาหาร ปลูกต้นไม้
- เข้าสังคม มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
- บริหารอารมณ์ให้แจ่มใส ลดความวิตกกังวล ลดความเศร้า หากไม่สามารถทำเองได้ แนะนำให้พบจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัด เพื่อดูแลอาการให้ดีขึ้น
การรักษาภาวะความจำเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์นั้น ในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงการรักษาที่ช่วยให้อาการของผู้ป่วยทุเลาลงหรือประคับประคองไม่ให้อาการแย่ลงไป รวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ดังนี้
- มุ่งเน้นไปที่สาเหตุ/โรคร่วมที่ทำให้เกิดโรค และให้การดูแลสุขภาพในทุกมิติ ทั้งการดูแลสุขภาพกาย การทำกิจวัตรประจำวัน
- หากิจกรรมเพื่อส่งเสริมสมอง กิจกรรมกระตุ้นความคิด
- หาผู้ดูแลผู้ป่วยที่ค่อนข้างเข้าใจในธรรมชาติของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ เพื่อรับมือกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้ป่วยได้ถูกต้อง
- วางแผนการรักษาในระยะยาว ปรับสภาพแวดล้อมของผู้ป่วยให้มีความปลอดภัย
- การใช้ยากระตุ้นสมอง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ประโยคและคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ควรรู้ไว้เวลาไปร้านอาหาร
ใครเคยเป็นแบบนี้บ้าง เวลาไปร้านอาหารในต่างประเทศรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ ไม่รู้จะต้องพูดยังไง กลัวพูดผิด หรือพูดอยู่ไม่กี่คำ เช่น I want this/that. บทความนี้สรุปประโยคและคำศัพท์ที่มีประโยชน์ในร้านอาหาร เริ่มตั้งแต่ตอนจองโต๊ะไปจนถึงตอนเก็บเงิน เพื่อนๆ จะได้เอาไปใช้พูดได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยครับว่ามีประโยคและคำศัพท์อะไรบ้าง
การจองโต๊ะ
ร้านอาหารที่เป็นที่นิยมมักจะให้ลูกค้าจองโต๊ะก่อน เพราะทำให้ร้านบริหารจัดการได้ง่ายขึ้นและลูกค้าก็ไม่ต้องรอคิวนาน เวลาจองโต๊ะเราสามารถใช้ประโยคต่อไปนี้สื่อสารกับพนักงานต้อนรับ
- I’d like to book/reserve a table for two tomorrow at 6 pm, please.
(ผมอยากจะจองโต๊ะสำหรับสองที่พรุ่งนี้เวลา 6 โมงเย็นครับ) - Could we have a non-smoking table, please?
(ขอเป็นโต๊ะปลอดบุหรี่จะได้ไหมครับ) - Could we have a table by the window, please?
(ขอเป็นโต๊ะริมหน้าต่างจะได้ไหมคะ) - Do you have a high chair for young children?
(คุณมีเก้าอี้สำหรับเด็กไหมคะ) - We booked a table for two in the name of Andrew.
(เราจองโต๊ะสำหรับสองที่ไว้ในชื่อแอนดริว)
การสั่งอาหาร
พอเรามานั่งที่โต๊ะ ก็ให้ขอดูเมนูและสั่งอาหาร โดยใช้ประโยคด้านล่าง
- Could I see the menu, please?
(ขอฉันดูเมนูหน่อยได้ไหมคะ) - What would you recommend?
(มีอาหารแนะนำไหมครับ) - Do you have any specials?
(มีเมนูพิเศษไหมครับ) - I’d like………………., please.
(ฉันขอสั่ง……………….ค่ะ) - I’d like my steak rare/medium-rare/medium/well-done.
(ขอเป็นสเต๊กแบบ สุกน้อย/สุกน้อยถึงปานกลาง/สุกปานกลาง/สุกมาก ครับ)
อ้อ แล้วอย่าลืมบอกบริกรด้วยว่าเราทานอะไรไม่ได้บ้าง
- I’m vegetarian.
(ฉันกินมังสวิรัติ) - I don’t eat meat/pork.
(ผมไม่ทาน เนื้อวัว/เนื้อหมู) - I’m allergic to shrimps/seafood/peanuts/dairy products.
(ฉันแพ้ กุ้ง/อาหารทะเล/ถั่วลิสง/ผลิตภัณฑ์จากนม)
การแสดงความไม่พอใจ
เวลาทานอาหารในร้านอาหาร อาจมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เราไม่พอใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาหารหรือการบริการ
- Excuse me, we’ve been waiting for over half an hour for our food.
(โทษนะครับ เรานั่งรออาหารมานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว) - Excuse me, this isn’t what I ordered.
(โทษนะคะ ฉันไม่ได้สั่งจานนี้มา) - Excuse me, I ordered Carbonara not Lasagna.
(โทษนะคะ ฉันสั่งคาโบนาร่า ไม่ใช่ลาซานญ่า) - Excuse me, this food doesn’t taste right.
(โทษนะครับ อาหารจานนี้รสชาติแปลกๆ) - Excuse me, this food is cold/too salty.
(โทษนะครับ อาหารจานนี้ เย็นชืด/เค็มเกินไป)
การจ่ายเงิน
พอทานอาหารเสร็จแล้วก็ขึ้นรถกลับบ้านได้ อ้าว ลืม ยังไม่ได้จ่ายเงิน 😀 ในประเทศไทยเราอาจจะพูดติดปากว่า “เช็คบิล” เวลาเรียกให้บริกรมาเก็บเงิน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ถูกต้องตามหลักภาษาอังกฤษ บริกรต่างชาติอาจจะงงได้ ถ้าจะให้ถูกต้องเราควรพูดว่า
- Bill/check, please.
(เก็บเงินด้วย) - Could we have the bill/check, please?
(เก็บเงินด้วยครับ)
ขอเสริมนิดนึงว่า ภาษาอังกฤษแบบ American จะใช้คำว่า check ส่วนภาษาอังกฤษแบบ British จะใช้คำว่า bill ดังนั้นหากเราอยู่ในสหรัฐอเมริกาก็ควรจะใช้คำว่า check แต่หากเราอยู่ในประเทศอังกฤษ สกอตแลนด์ แคนาดา หรือออสเตรเลียให้ใช้คำว่า bill จะดีกว่า
ประโยคอื่นๆ ที่มีประโยชน์เวลาชำระเงินได้แก่
- Can I pay in cash?
(ผมจ่ายเป็นเงินสดได้ไหมครับ) - Can I pay by debit/credit card?
(ฉันใช้บัตรเดบิต/เครดิตจ่ายเงินได้ไหมคะ) - Can we pay separately?
(เราแยกกันจ่ายได้ไหมคะ) - It’s on me.
(ผมเลี้ยงเอง)
สุดท้ายนี้ขอฝากคำศัพท์ที่น่าสนใจและควรรู้ไว้ เวลาไปร้านอาหารจะได้ใช้ได้อย่างมั่นใจ
- appetizer/starter (อาหารเรียกน้ำย่อย)
- Bon appétit! หรือ Enjoy your meal! (ทานให้อร่อยนะครับ/นะคะ!)
- cutlery (ช้อน ส้อม และมีด)
- dessert* (ของหวาน)
- main course (อาหารจานหลัก)
- napkin (ผ้าเช็ดปาก/ผ้ากันเปื้อน)
- side dish (อาหารจานย่อย)
- (today’s) special (อาหารพิเศษที่เสิร์ฟเฉพาะวัน)
*คำนี้อ่านว่า ดิ’เซิร์ท (ออกเสียงเน้นพยางค์หลัง) ระวังอย่าสับสบกับคำว่า desert ซึ่งหมายถึง ทะเลทราย ซึ่งอ่านว่า ‘เดสเซิร์ท (ออกเสียงเน้นพยางค์แรก) หรืออาจหมายถึง ทอดทิ้ง ซึ่งอ่านว่า ดิ’เซิร์ท (ออกเสียงเน้นพยางค์หลัง)
ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th
ประเทศไทยเข้าสู่ยุค “เมืองแห่งดิจิทัล” มีผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต 61.2 ล. ราย
เว็บไซต์ Datareportal ได้รายงานตัวเลขผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในเมืองไทย ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดโดยเผยแพร่รายงานฉบับดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในเมืองไทยมีจำนวนอยู่ที่ 61.21 Users โดยคิดเป็นจำนวน 85.3 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนประชากร (จำนวนประชากรไทยปัจจุบันมีรายงานอยู่ที่ประมาณ 71.6 ล้านคน)
โดยจำนวนประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ตนั้น มีรายงานว่า 52.25 ล้านราย ใช้งานบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งคิดเป็น 72.8 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ขณะที่การใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นมีจำนวนการใช้งานประมาณ 101.2 ล้านเครื่อง ซึ่งคิดเป็น 141 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
จากจำนวนการใช้งานดังกล่าว สามารถระบุได้แล้วว่าประเทศไทยนั้นคือ “เมืองแห่งดิจิทัล” เป็นที่เรียบร้อย โดยมีการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ โดยภาพรวมการใช้งานของประชากรทั้งประเทศ มีรายละเอียดวัดจากจำนวนประชากรทั้งประเทศที่มีอยู่ประมาณ 71.6 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น 0.2 เปอร์เซ็นต์ระหว่างปี 2565 และ 2566 จำนวนประชากรทั้งประเทศนั้นแบ่งเป็นเพศหญิง 51.6 เปอร์เซ็นต์ และ 48.5 เปอร์เซ็นต์เป็นจำนวนประชากรเพศชาย ทั้งนี้ประชากร 53.2 เปอร์เซ็นต์นั้นอาศัยอยู่ในเมือง ขณะที่ 46.8 เปอร์เซ็นต์อาศัยอยู่ในเขตชนบท
จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 2023
จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในเมืองไทยมีด้วยกัน 61.2 Users ซึ่งเป็นจำนวน 85.3 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนประชากรทั้งประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 มีจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 0.2 เปอร์เซ็นต์
จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าประชากรประมาณ 10.55 ล้านคนในเมืองไทยไม่ได้มีโอกาสใช้อินเทอร์เน็ต คิดเป็น 14.7 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนประชากรทั้งประเทศ หากแต่รายงานชิ้นดังกล่าวได้มีการสำรวจล่วงหน้า ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าตัวเลขของประชากรที่ไม่ได้มีโอกาสใช้อินเทอร์เน็ตนั้นน่าจะเพิ่มขึ้น เพราะการเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันมีความครอบคลุมและค่าบริการที่ไม่ได้สูงเหมือนดังเช่นในอดีต
รายงานสถิติการใช้งานโซเชียลมีเดียในเมืองไทยปี 2023
ตามที่ได้ระบุในข้างต้นว่ามีจำนวนผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียในเมืองไทยจนถึงเดือนมกราคม 2566 อยู่ที่ 52.25 ล้านราย ทั้งนี้มีรายงานข้อมูลจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมในไทยนั้น ระบุว่าจากจำนวนโฆษณาออนไลน์ทำให้เห็นว่าผู้ใช้โซเชียลมีเดียจะมีอายุตั้งแต่ 18 ปี ทั้งนี้ในจำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียนั้นจะมีผู้ใช้งานเป็นเพศหญิงอยู่ที่ 52.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผู้ใช้งานเพศชายอยู่ที่ 47.7 เปอร์เซ็นต์
จำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊กในเมืองไทยลดลง
มีรายงานตัวเลขการใช้งานเฟซบุ๊กในเมืองไทยจากฝ่ายโฆษณาของ Meta ว่ามีคนไทยเป็นเจ้าของแอ็กเคานต์ในการใช้เฟซบุ๊กอยู่ที่ 48.10 Users ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลง 2.0 ล้าน Users ในปี 2022-2023 ในขณะเดียวกันมีรายงานว่าจำนวนตัวเลขของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก สามารถเข้าถึงแอดฯ บนเฟซบุ๊กได้ลดลงถึง 3.9 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเดือน ตุลาคม 2565 – มกราคม 2566
จำนวนผู้ใช้งานยูทูบเติบโตขึ้น
จากจำนวนผู้ใช้งานในปี 2565 ถึง 2566 ระบุว่าผู้ใช้งานยูทูบเพิ่มขึ้นถึง 1.1 ล้านราย ซึ่งตรงกันกับตัวเลขการตลาดที่ระบุว่า นักการตลาดประสบผลในการโฆษณาบนยูทูบประเทศไทย และมีการซื้อโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 1.9 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคม – ธันวาคมปี 2565
จำนวนผู้ใช้งาน TikTok
จนถึงปี 2022 มีผู้ใช้งานคนไทยกว่า 35.80 ล้านบัญชี (อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป) TikTok เป็นแอปพลิเคชันที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในปี 2564 โดยมีการดาวน์โหลดมากกว่า 700 ล้านครั้ง ผู้ใช้ TikTok ใช้เวลาเฉลี่ย 19.6 ชั่วโมงต่อเดือนเท่ากับ Facebook (19.6 ชั่วโมง) เป็นรองเพียง YouTube (23.7 ชั่วโมงต่อเดือน) และเมืองไทยอยู่ในอันดับที่ 8 ของประเทศที่มีผู้ใช้งาน TikTok มากที่สุดในโลก
จากตัวเลขดังกล่าว ทำให้เห็นว่าผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในไทยและอยู่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนั้น ชื่นชอบเนื้อหาในลักษณะของคลิปสั้นมากกว่าการอ่านเนื้อหาจากหน้าฟีด ส่วนหนึ่งเพราะความรู้สึกเพลิดเพลิน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งรู้สึกว่าทำความเข้าใจได้ง่ายกว่า
ซึ่งการเติบโตของผู้ใช้งาน YouTube และ TikTok น่าจะเป็นการชัดเจนว่า ถ้าต้องการโปรโมตและลงโฆษณาควรจะต้องใช้แพลตฟอร์มอะไรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคนไทย ที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย ซึ่งผู้ผลิตเนื้อหาสามารถใช้โซเชียลมีเดียในการดึงทราฟฟิกเข้าสู่เว็บไซต์ หรือต้นทางออนไลน์ของตนเองได้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“เม็ดขนุน” กับ 3 ประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพ พร้อมข้อควรระวัง
Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับประโยชน์ของ เมล็ดขนุน หรือที่หลายๆ คนเรียกติดปากกันว่า เม็ดขนุน กัน ซึ่งคุณประโยชน์ของเม็ดขนุนนั้นมีมากมายไม่แพ้เม็ดหรือเมล็ดจากพืชผักผลไม้ชนิดไหนๆ เลย นอกจากนี้ยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้อีกหลากหลายเมนู เรามาดูประโยชน์ของเม็ดขนุนไปพร้อมกันเลย
ทำความรู้จักเม็ดขนุน (Jackfruit Seed)
เม็ดขนุน หรือ เมล็ดขนุน มีคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อสุขภาพสูงไม่แพ้เนื้อขนุนเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถนำมาประกอบอาหารทั้งคาว-หวานได้อีกหลากหลายเมนู เช่น แกงไตปลาเม็ดขนุน แกงเขียวหวานเม็ดขนุน แกงบวดเม็ดขนุนมะพร้าวอ่อน เม็ดขนุนต้ม เป็นต้น
คุณค่าทางโภชนาการ
เม็ดขนุน ปริมาณ 28 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการ ดังต่อไปนี้
- พลังงาน 53 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 11 กรัม
- โปรตีน 2 กรัม
- ไฟเบอร์ 0.5 กรัม
- วิตามินบี 2 8% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- ไทอามีน 7% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- แมกนีเซียม 5% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- ฟอสฟอรัส 4 % ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
3 คุณประโยชน์ดีๆ ที่ได้จากเม็ดขนุน
เม็ดขนุนมีคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ดังต่อไปนี้
- ต้านมะเร็ง
เม็ดขนุนอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซาโปนิน (Saponin) และฟีนอลิก (Phenolic) สารประกอบเหล่านี้ สามารถต่อต้านการอักเสบ ปรับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และซ่อมแซมส่วนที่เสียหายของดีเอ็นเอได้ จากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากเม็ดขนุนช่วยลดการก่อมะเร็งในเส้นเลือดได้ถึง 61% (เฉพาะการศึกษาในหลอดทดลองและสัตว์)
- ปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร
เม็ดขนุนมีไฟเบอร์สูง ช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องผูก บรรเทาอาการริดสีดวง และป้องกันโรคลำไส้อักเสบ ยิ่งไปกว่านี้ ไฟเบอร์ยังถือว่าเป็นพรีไบโอติก (Prebiotics) ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ - ต้านเชื้อแบคทีเรีย
เม็ดขนุนมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย สามารถป้องกันโรคเจ็บป่วยที่เกิดจากการรับประทานอาหารได้ เช่น อาการท้องร่วง
ข้อควรระวังในการรับประทานเม็ดขนุน
ถึงแม้ว่าเม็ดขนุน หรือ เมล็ดขนุน จะมีประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพมากเพียงใด แต่การรับประทานเม็ดขนุนนั้นก็มีข้อควรระวังอยู่บ้าง เช่น การรับประทานเม็ดขนุนร่วมกับยาบางชนิด อาจทำให้เสี่ยงต่อการตกเลือด หากคุณรับประทานยาที่เสี่ยงต่อการตกเลือดควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเม็ดขนุน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 22/02/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 30,000.00 | 30,100.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,943.00 | 29,455.88 | 30,600.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,748.70 | 26,510.29 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,554.40 | 23,564.70 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 874.00 | 13,249.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 680.00 | 10,308.80 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,013.00 | 30,517.08 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 22/02/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 36.05 | 36.05 | 36.74 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.78 | 35.78 | 36.44 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.74 | 33.74 | 34.14 | 33.74 | 33.74 | – | 33.74 | 33.74 | 33.74 | 33.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 34.19 | 34.19 | – | – | – | – | – | – | – | 34.19 |
เบนซิน 95 | 43.86 | – | – | – | 43.91 | – | 44.36 | 44.01 | – | 43.86 |
ดีเซล B7 | 33.94 | 33.94 | 34.24 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 |
ดีเซล | 33.94 | 33.94 | 34.24 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 | 33.94 |
ดีเซล B20 | 33.94 | 33.94 | 34.24 | – | 33.94 | – | 33.94 | – | – | 33.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 43.06 | 43.16 | 44.84 | 44.26 | 44.26 | – | – | – | – | 43.06 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |