“ต่างชาติ” โอน คอนโดไทย เพิ่ม 95.8% สูงสุดในรอบ 5 ปี
ตลาดคอนโดฯไทย คึก REIC เผย ไตรมาส 4 ปี 2565 “ต่างชาติ” กลับมาโอน เพิ่ม 95.8% สูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส หรือ 5 ปี รวมมูลค่าทั้งปี 59,261 ล้านบาท พบ สัญชาติจีน ยังเป็นแชมป์ ขณะ กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ครอง TOP5 ทำเลฮิต
23 มีนาคม 2566 – นโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ประเทศปี 2564 และมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในช่วงกลางปี 2565 ส่งผลเชิงบวกต่อทำให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยชาวต่างชาติที่ได้กลับมารับโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดที่ทำสัญญาซื้อขายจากผู้ประกอบการในช่วงก่อนหน้า รวมถึงชาวต่างชาติที่ซื้อห้องชุดที่สร้างเสร็จและเหลือขาย ซึ่งส่งผลให้ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในไตรมาส 4 ปี 2565 มีการขยายตัวขึ้นอย่างมากทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า
ประเด็นดังกล่าว ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่า ณ ไตรมาส 4 ปี 2565 พบมี หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ จำนวน 3,780 หน่วย เพิ่มร้อยละ 82.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเชิงจำนวนหน่วยนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2565 และเป็นจำนวนหน่วยที่สูงสุดในรอบ 16 ไตรมาส นับจากไตรมาส 1 ปี 2562 และยังมีจำนวนหน่วยที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยรายไตรมาสในช่วง 2 ปี ที่เกิด COVID-19 (ปี 2563 – 2564) ร้อยละ 80.7 ที่มีจำนวน 2,092 หน่วย/ไตรมาส
ไตรมาส 4 โอนพุ่ง ดันทั้งปี มูลค่าทะลุ 5.9 หมื่นล้าน
ขณะ มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 19,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 95.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ปี 2565 และเป็นมูลค่าที่สูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส นับจากไตรมาส 1 ปี 2561 และยังเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ฯ ในช่วง 2 ปี ที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีมูลค่าเพียงไตรมาสละ 9,979 ล้านบาท/ไตรมาส
ส่วนพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 170,942 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 85.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในเชิงจำนวนพื้นที่สูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส นับจากไตรมาส 1 ปี 2561 และยังเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยการโอนกรรมสิทธิ์ฯในช่วง 2 ปี ที่มีการระบาดของ COVID-19 ที่มีพื้นที่เพียง 90,316 ตารางเมตร/ไตรมาส
หากพิจารณาในภาวะการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติสะสมในปี 2565 พบว่ามีจำนวน 11,561 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.0 รวมเป็นมูลค่า 59,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.2 โดยมีพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์รวม 530,430 ตร.ม. เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.3
” สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในปี 2565 ที่ผ่านมาแล้วนั้นน่าจะแสดงให้เห็นได้ว่า ตลาดห้องชุดคนต่างชาติในภาพรวมมีทิศทางที่น่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นแล้ว และการซื้อห้องชุดของคนต่างชาติในช่วงก่อนหน้าได้มีการรับโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแรงซื้อใหม่จากชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ผู้ซื้อชาวจีน ”
5 สัญชาติ ซื้อคอนโดฯไทย จีน เบอร์ 1 ขณะอาเซียนมาแรง
ทั้งนี้ ในปี 2565 จะพบว่า ชาวจีน เป็นสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีนไปแล้วทั้งหมด 5,707 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 49.4 ของหน่วยทั้งหมด
โดยมี 4 สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์อันดับรองลงมา ได้แก่ รัสเซีย จำนวน 813 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.0 ถัดมาคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 542 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.7 สหราชอาณาจักร จำนวน 393 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.4 อับดับ 5 คือ ฝรั่งเศส จำนวน 351 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.0 ตามลำดับ
หากพิจารณาในปี 2565 จะพบว่าตั้งแต่ ปี 2561 ถึง ปี 2564 ที่มีจำนวนหน่วยสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และ เยอรมัน ตามลำดับ
แต่ในปี 2565 กลับพบว่า หน่วยสะสมสูงสุด 5 อันดับแรกเปลี่ยนแปลงดังนี้ จีน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ตามลำดับ ซึ่งจะเห็นได้ว่า 3 อันดับแรกไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ในส่วนของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศให้คนต่างชาติทั่วประเทศในปี 2565 จะพบว่ามีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีน เป็นมูลค่าสูงสุด จำนวน 29,038 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 49.0 ของมูลค่าทั้งหมด ส่วน 4 สัญชาติที่มีมูลค่าการโอนรองลงมาคือ รัสเซีย จำนวน 2,682 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.5 ถัดมา คือ
พม่า จำนวน 2,551 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.3 สหรัฐอเมริกา จำนวน 2,389 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.0 และฝรั่งเศส จำนวน 1,912 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.2 ตามลำดับ เป็นที่น่าสังเกตว่า ชาวพม่า มีมูลค่ารับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดสะสมปี 2565 ติดลำดับ 1 ใน 5 นับตั้งแต่ไตรมาสก่อนหน้า
“กลุ่มผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในกลุ่มประเทศรัสเซีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกาเริ่มมีสัดส่วนที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน และเป็นที่น่าสนใจอย่างมากอีกเช่นกันที่เราได้เห็นตัวเลขของหลายประเทศในกลุ่ม ASEAN ที่แม้ว่าจะมีจำนวนหน่วยและมูลค่าการซื้อไม่มากนัก แต่กลับมีสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดปรับเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าอย่างมีนัยสำคัญ ดังเช่น ชาวเมียนมาร์ กัมพูชา ลาว และเวียดนาม รวมถึงชาวมาเลเซียที่มีการเข้ามาซื้อห้องชุดไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
ปรากฏการณ์เช่นนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นอานิสงค์ที่ได้รับจาการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ มากขึ้น ดังนั้นจึงอาจคาดการณ์ได้หากประเทศจีนเปิดประเทศในปีหน้า น่าจะช่วยให้ตลาดอาคารชุดไทยสำหรับคนต่างชาติของไทยสามารถเติบโตได้อีกครั้งหนึ่ง
5 ทำเลยอดฮิต
- กรุงเทพฯ
- ชลบุรี
- สมุทรปราการ
- ภูเก็ต
- เชียงใหม่
” ส่วนใหญ่จะอยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ มีจำนวน 5,260 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45.5 และชลบุรี จำนวน 3,567 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30.9 ตามลำดับ โดยทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันสูงถึงร้อยละ 76.4 ของทั่วประเทศ ”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ชัชชาติ” เล็งพัฒนา ‘ที่อยู่อาศัย’ ชั่วคราว ปล่อยเช่าราคาต่ำ หนุนเด็กจบใหม่
ผู้ว่า กทม. ประกาศ เดินหน้า กองทุนพัฒนาที่อยู่อาศัย ปรับโฉม พื้นที่สำนักงาน – อาคารเก่า สู่ อาคารพักชั่วคราวปล่อยเช่า ราคาต่ำ ให้นักศึกษาจบใหม่ หรือ กลุ่ม First Jobber พร้อมลุยสร้างเมืองใหม่ พื้นที่ชานเมือง กระจายความเจริญ เพิ่มโอกาสคนกรุงเข้าถึงที่อยู่อาศัย
23 มีนาคม 2566 – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิด งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยกล่าวว่า ที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสี่ของทุกคน เป็นจุดเริ่มต้นของสังคมครอบครัว พื้นฐานหลักที่สำคัญของสังคมไทย หากครอบครัวมีที่อยู่อาศัย ชีวิตของสมาชิกครอบครัวก็จะมั่นคง คุณภาพชีวิตก็จะดีด้วย แต่การจะทำให้ทุกครอบครัวมีที่อยู่อาศัย ต้องมีความร่วมมือกันจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน
นอกจากนี้กรุงเทพมหานคร ได้กำหนดนโยบายด้านที่อยู่อาศัยและนโยบายอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของหรือมีที่อยู่อาศัยให้กับคนกรุงเทพฯในแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้มีรายได้น้อย กลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มต้น กลุ่ม First Jobber และกลุ่มคนวัยทำงาน ซึ่งนโยบายสำคัญนี้สอดคล้องกับความวัตถุประสงค์ของการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด คือ กรุงเทพมหานครต้องการเพิ่มโอกาสการมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง และหลากหลายรูปแบบให้กับคนกรุงเทพฯ ผ่านแผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัย
โดยจะทำการศึกษาถึงความต้องการของคนแต่ละกลุ่มว่าต้องการที่อยู่อาศัยรูปแบบใด โดยประสานขอความร่วมมือจากหน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่อยู่อาศัย เช่น สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน การเคหะแห่งชาติ ในการพัฒนาที่อยู่อาศัย และจะติดตามผลให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้
โดยในส่วนกรุงเทพมหานครเอง ก็จะดำเนินการกองทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องกองทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2541 เพื่อเพิ่มโอกาสพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มั่นคงให้กับคนกรุงเทพฯ อีกด้วย”
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า “นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครก็จะให้การสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยชั่วคราว สำหรับนักเรียนนักศึกษาจบใหม่ หรือกลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มต้น และก้าวเข้ามาสู่การเป็น First Jobber เพื่อให้เช่าในราคาต่ำ เป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อให้สามารถตั้งตัวและเก็บเงินก้อนแรกได้ โดยจะใช้พื้นที่สำนักงานกรุงเทพมหานคร
ที่กระจายตัวอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน หลังจากที่ย้ายพนักงานส่วนใหญ่มาทำงานร่วมกันที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 พร้อมทั้งปรับปรุงอาคารสงเคราะห์ข้าราชการ และลูกจ้างประจำกรุงเทพฯ ให้มีความหนาแน่นมากขึ้น พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลางคุณภาพ
กรุงเทพมหานครยังจะจัดทำฐานข้อมูลที่ดินในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ร่วมกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชน หรือหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นำอาคารเก่า หรือร้างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ไปพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อคนวัยเริ่มทำงานได้เช่า โดยที่กรุงเทพมหานครจะออกมาตรการส่งเสริมด้านภาษี
มาตรการส่งเสริมการพัฒนาด้วยการเพิ่มอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน เพื่อสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาที่อยู่อาศัย รวมทั้งจะช่วยประชาสัมพันธ์ ทำการรวบรวมยูนิตที่อยู่อาศัยชั่วคราวในทำเลต่างๆ และช่วยเหลือในการค้นหาและประสานงานการจัดหาที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้กับกลุ่มเป้าหมาย
ส่วนนโยบายสนับสนุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านอื่นๆ ก็ประกอบด้วยนโยบายสร้างเมืองใหม่ในพื้นที่ ชานเมือง เพื่อเพิ่มแหล่งงานในย่านที่อยู่อาศัยชานเมือง และเร่งตัดถนนสายย่อยเชื่อมการเดินทาง ลดการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ชั้นใน พร้อมทั้งเร่งตัดถนนย่อยตามผังเมือง เพิ่มความคล่องตัวของการจราจรและโอกาสในการมีรถเมล์สายรอง
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเพิ่มรถเมล์สายหลักและสายรองราคาถูกตลอดสาย นโยบายสร้างจุดเชื่อมต่อการเดินทาง เพื่อการเปลี่ยนถ่ายการเดินทางที่สะดวกสบายขึ้น นโยบายเพิ่มสถานีชาร์จและสลับแบตเตอรี เพื่อรองรับผู้ใช้รถไฟฟ้าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งหมดเป็นเพียงแค่บางส่วนของนโยบายด้านที่อยู่อาศัย และนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ทางกรุงเทพมหานครมุ่งมั่นที่จะทำให้เกิดขึ้นจริง และเกิดขึ้นให้เร็วที่สุด เพื่อช่วยให้คนกรุงเทพฯ สามารถมีที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพเป็นของตัวเองให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 นี้ จะมีบูธจากผู้ประกอบการมากกว่า 100 บริษัท รวมโครงการอสังหาฯ ทุกรูปแบบ ทุกราคา ทุกทำเล มานำเสนอแก่ผู้บริโภคมากกว่า 1,000 โครงการ โดย 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะมียอดขายในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งนี้ และยอดต่อเนื่อง ราว 1 หมื่นล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 24มี.ค.ที่ระดับ 34.05 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในกรอบ 33.95-34.20 บาทต่อดอลลาร์ แรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นไทยที่เริ่มทยอยกลับเข้ามาบ้าง
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 24มีนาคม 2566ที่ระดับ 34.05 บาทต่อดอลลาร์
“แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.08 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มค่าเงินบาท ในช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นทดสอบโซน 33.90 บาทต่อดอลลาร์ (แข็งค่ามากกว่าที่เราคาดไว้) จากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ
หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้านสำคัญ ขณะที่การพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ เป็นปัจจัยที่ช่วยชะลอไม่ให้เงินบาทแข็งค่าไปมาก
ส่วนในวันนี้ เรามองว่า ค่าเงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในกรอบ 33.95-34.20 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทอาจพอได้แรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มทยอยกลับเข้ามาบ้างแล้ว
นอกจากนี้ หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อใกล้โซนแนวต้านแถว 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจมีแรงขายทำกำไรช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทได้บ้าง
อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า ในช่วงปลายเดือนและช่วงปิดปีงบประมาณของบรรดาบริษัทญี่ปุ่น ก็อาจทำให้มีโฟลว์ธุรกรรมซื้อสกุลเงินต่างประเทศจากทั้งฝั่งผู้นำเข้าและบรรดาบริษัทข้ามชาติญี่ปุ่น ช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทได้บ้าง
ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนี PMI ของบรรดาเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะ ดัชนี PMI ของสหรัฐฯ เพราะหากข้อมูลออกมาดีกว่าคาด และยังสะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ก็อาจหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและกดดันเงินบาทได้
แต่เรามองว่า เงินบาทก็อาจยังไม่อ่อนค่าไปมากจนทะลุกรอบแนวต้านที่เราประเมินไว้ เพราะผู้ส่งออกบ้างส่วนก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์อยู่ และผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็อาจรอจังหวะเงินบาทอ่อน ในการเพิ่มสถานะ Long THB (มองเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้น)
ในช่วงนี้ เรามองว่า ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง (ค่าเงินบาทผันผวนในระดับ 9%-10% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมาที่ระดับ 5% เป็นอย่างมาก)
ทำให้เรามองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.95-34.20 บาท/ดอลลาร์
ผู้เล่นในตลาดการเงินสหรัฐฯ เริ่มทยอยกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังว่า การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดนั้นใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว โดยข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ล่าสุด ชี้ว่า ผู้เล่นในตลาดมอง เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.00% ก่อนที่จะทยอยลดดอกเบี้ยลงเหลือ 4.00% ในเดือนธันวาคม ซึ่งมุมมองดังกล่าวของผู้เล่นในตลาดได้หนุนให้เกิดแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ที่ปรับตัวลงในวันก่อน (Nvidia +2.7%, Microsoft +2.0%)
อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดยังคงมีความกังวลต่อเสถียรภาพของระบบธนาคารสหรัฐฯ อยู่ แม้ว่าทางการสหรัฐฯ และเฟดจะย้ำจุดยืนพร้อมป้องกันระบบธนาคารก็ตาม โดยหุ้นกลุ่มธนาคารยังคงเผชิญแรงขายต่อ (BofA -2.4%, Morgan Stanley -2.0%) ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาดเพียง +0.30% ขณะที่ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวขึ้น +1.01%
ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาปรับตัวลง -0.21% กดดันโดยแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร (UBS -4.3%, HSBC -2.9%) หลังนักวิเคราะห์เริ่มปรับลดมุมมองคำแนะนำต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคาร จากทั้งปัญหาเสถียรภาพของระบบธนาคารยุโรปที่เกิดขึ้นและแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางในฝั่งยุโรปที่อาจกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth สอดคล้องกับทิศทางในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ (ASML +2.8%, Hermes +1.5%)
ส่วนทางด้านตลาดบอนด์ มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ยังคงเชื่อว่า เฟดจะกลับมาลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่องหลังจบรอบการขึ้นดอกเบี้ย ได้ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 3.38% ก่อนที่จะรีบาวด์ขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 3.42% ซึ่งเรามองว่า ตลาดอาจมีมุมมองเชิงลบที่มากเกินไป ทำให้เสี่ยงต่อการปรับมุมมอง (Repricing)
หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงออกมาดีกว่าคาด (รอจับตารายงานดัชนี PMI ในวันนี้ รวมถึง อัตราเงินเฟ้อ PCE ในสัปดาห์หน้า และยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมในช่วงต้นเดือนเมษายน ) ทำให้เรามองว่า นักลงทุนควรใช้จังหวะที่บอนด์ยีลด์ระยะยาวปรับตัวลดลง ในการทยอยขายทำกำไรบ้าง
และรอจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น ในการทยอยเข้าซื้อสะสม (อาจไม่ต้องรอให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทะลุระดับ 4.00%)
ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง แต่โดยรวมเงินดอลลาร์ก็สามารถพลิกกลับมาทยอยแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก
ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 102.6 จุด อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดอาจรอจังหวะทยอยเพิ่มสถานะ Short เงินดอลลาร์ได้ ทำให้เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าไปได้ไม่มากนัก
เนื่องจากผู้เล่นในตลาดยังคงมองว่า สุดท้ายเฟดจะต้องกลับมาทยอยลดดอกเบี้ยลง จนกว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจออกมาดีกว่าคาด จะเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาด
ส่วนในฝั่งราคาทองคำ แม้ว่าตลาดจะเปิดรับความเสี่ยง แต่การย่อตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟด ได้หนุนให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทดสอบแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง ก่อนที่จะเผชิญแรงขายทำกำไรและย่อลงสู่ระดับ 1,993 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจหลัก ผ่านรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ โดย S&P Global (Manufacturing & Services PMIs) ในเดือนมีนาคม
ฝั่งยุโรป ตลาดประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจยุโรปจะเดินหน้าฟื้นตัวต่อเนื่องในเดือนมีนาคม สะท้อนผ่าน ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคการบริการ (Composite PMI) ที่ระดับ 52 จุด
สำหรับยูโรโซน และระดับ 52.7 จุด สำหรับอังกฤษ ซึ่งส่วนหนึ่งหนุนโดยการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการบริการ หลังวิกฤตพลังงานในฝั่งยุโรปไม่ได้น่ากังวลมากนัก
ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ คาดว่า ในเดือนมีนาคมนั้น ภาคการผลิตอาจยังคงหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนี PMI ภาคการผลิตที่ระดับ 47.6 จุด (ดัชนีน้อยกว่า 50 จุด หมายถึง ภาวะหดตัว)
โดยส่วนหนึ่งมาจากตามความต้องการสินค้าที่ลดลง ทว่า ภาคการบริการจะยังคงขยายตัวได้ดี ชี้จาก ดัชนี PMI ภาคการบริการที่ระดับกว่า 50.8 จุด หนุนโดยตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่งอยู่
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.10-34.12 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.30 น.) ใกล้เคียงระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยเงินบาทอ่อนค่ากลับมา หลังจากที่แข็งค่าผ่านแนว 34.00 ไปที่ระดับ 33.91 บาทต่อดอลลาร์ฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด
อาทิ การปรับตัวลงของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และการเพิ่มขึ้นของยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ. อย่างไรก็ดี กรอบการฟื้นตัวของเงินดอลลาร์ฯ อาจเป็นไปอย่างจำกัด ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า เฟดน่าจะใกล้ยุติแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 33.90-34.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามจะอยู่ที่สถานการณ์แบงก์ในสหรัฐฯ ทิศทางฟันด์โฟลว์และสกุลเงินเอเชีย ข้อมูล PMI เดือนมี.ค. (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ยูโรโซน และอังกฤษ และตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. ของสหรัฐฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
จัดเต็ม! “แกรนด์สปอร์ต” เปิดตัวชุดซีเกมส์ 2023 ภายใต้แนวคิด Beyond the Spirit
“แกรนด์สปอร์ต” เปิดตัวชุดแข่งขันและชุดเดินทางนักกีฬาทีมชาติไทย ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งออกแบบภายใต้แนวคิด “Beyond the Spirit” เป็นสปิริตที่ “เหนือกว่าคำว่าสปิริต” เป็นการผสมผสานระหว่างลวดลายของความเป็นไทยกับความเป็นสากล พร้อมกับได้นำเทคโนโลยีรีไซเคิลจากขวดพลาสติกมาใช้ในการผลิต เป็นการลดโลกร้อน อีกทั้งสวมใส่สบาย และมีน้ำหนักเบา โดย “แกรนด์สปอร์ต” ได้สอบถามความต้องการจากนักกีฬาชนิดต่าง ๆ เพื่อออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละชนิดกีฬา
นายธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แกรนด์สปอร์ตได้เปิดตัวชุดแข่งขันและชุดเดินทางสำหรับนักกีฬาทีมชาติไทยที่ จะร่วมแข่งขันในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างลวดลายของความเป็นไทยกับความเป็นสากล ภายใต้แนวคิด “Beyond the Spirit” ซึ่งหมายถึงสปิริตที่ไม่ได้อยู่แต่เพียงในสนามแข่งเท่านั้น แต่อยู่ในทุกช่วงเวลาของนักกีฬา ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท ฝึกซ้อม และความเสียสละของนักกีฬาทีมชาติไทย เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ และชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ซึ่งกว่าจะได้มานั้นต้องใช้ทั้งแรงกายแรงใจ จึงเป็นสปิริตที่ “เหนือกว่าคำว่าสปิริต”
นายธิติ กล่าวว่า ในมุมของผู้ออกแบบและผลิตชุดของแกรนด์สปอร์ตก็ได้นำแนวคิดนี้มาต่อยอดในการคิดงานว่า ชุดที่แกรนด์สปอร์ตออกแบบนั้นจะเป็นชุดกีฬาที่มากกว่าชุดกีฬา Beyond the Spirit, Beyond Sportswear ทีมงานของแกรนด์สปอร์ตได้มีการสอบถามข้อมูลจากนักกีฬาแต่ละชนิดกีฬา ซึ่งก็จะมีความต้องการที่แตกต่างกัน แกรนด์สปอร์ตก็จะออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละชนิดกีฬานั้นด้วย นอกจากชุดแข่งขันที่ได้มีการผลิตและออกแบบตามความต้องการของนักกีฬาแล้ว ชุดเดินทาง ชุดวอร์ม ชุดแจ็กเกต ชุดแทร็คสูท ล้วนเป็นชุดที่ทางแกรนด์สปอร์ตต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน แกรนด์สปอร์ตจึงนำเทคโนโลยีรีไซเคิลจากขวดพลาสติกมาใช้บนเสื้อคอปก ทำให้ผู้สวมใส่ได้ตระหนักถึงเรื่องของการลดโลกร้อน ทั้งยังสวมใส่สบาย มีน้ำหนักเบา นอกจากนี้ยังใส่แอนตี้แบคทีเรียเข้าไปด้วยจะทำให้ลดการเกิดกลิ่นได้เป็นอย่างดี
“สำหรับเสื้อคอปกในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 เนื้อผ้าผลิตจากเส้นใยรีไซเคิลจากขวดพลาสติก ช่วยลดปริมาณขยะและทรัพยากรระหว่างการผลิต ทั้งยังมีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี แห้งไว ใช้เทคโนโลยีการทอลายแบบ Full Jacquard ทำให้เสื้อดูสวยงามมีมิติ มี ANTI BAC ลดการก่อให้เกิดกลิ่น เพิ่มความโดดเด่นด้วยงานพิมพ์ลายจิตรกรรมไทย ที่สาบกระดุมด้านใน ฐานรองปกและคอเสื้อด้านใน รูปแบบทันสมัย ด้านหลังเสื้อพิมพ์ THAILAND อกขวามีอาร์มธงชาติไทยและโลโก้แกรนด์สปอร์ต อกซ้ายมีงานปักโลโก้คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ สวมใส่สบาย เหมาะกับการเป็นทางการหรือใส่ลำลองทั่วไป” นายธิติกล่าว
นายธิติ กล่าวอีกว่า ส่วนเสื้อวอร์มสีน้ำเงินรูปทรงทันสมัย พิมพ์กราฟิกลายจิตกรรมไทย ตกแต่งด้วยเส้นกลางแขนสีขาวทั้งสองข้าง ปลายแขนเสื้อและชายเสื้อจั้มเข้ารูป เพิ่มความโดดเด่นด้วยพิมพ์ THAILAND สีทองด้านหลัง ที่หน้าอกด้านขวามีอาร์มธงชาติไทย และโลโก้แกรนด์สปอร์ต อกด้านซ้ายมีงานปักโลโก้คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ผลิตจากเนื้อผ้า Grand Poly มีความนุ่ม ยืดหยุ่น สวมใส่สบาย ขณะที่ชุดเดินทางทีมชาติไทย ได้นำลวดลายอันวิจิตรและประณีตของจิตกรรมไทย ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์และเป็นตัวแทนจิตวิญญาณของความเป็นไทย นำมาออกแบบในสไตล์ศิลปะไทยร่วมสมัย ผสมผสานกับเทคโนโลยีผ้าและงานพิมพ์ในปัจจุบัน ออกมาเป็นชุดเดินทางที่แสดงให้เห็นถึงความงดงามของดินแดนแห่งวัฒนธรรมในรูปแบบที่ทันสมัย ถือเป็นการเชื่อมต่อกับยุคสมัยอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
“สำหรับชุดแข่งขันและชุดเดินทางของนักกีฬาทีมชาติไทยในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 พร้อมจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป ในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ที่ร้านแกรนด์สปอร์ต ช็อป ทุกสาขา, แกรนด์สปอร์ต ช็อป ออนไลน์, ร้านค้าตัวแทนทั่วประเทศ, Sports Mall, Super Sports และ Market Village ก็ขอฝากถึงประชาชนชาวไทยทุกคนให้ช่วยกันติดตาม ช่วยส่งกำลังใจผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าช่องทางไหนเพราะว่านักกีฬาทุกจะต้องเข้าไปอ่านเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการแข่งขัน เพราะฉะนั้นอยากให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนให้กำลังใจให้มาก ๆ นักกีฬาจะได้มีกำลังใจในการแข่งขันครับ” นายธิติ กล่าวเสริม
ด้านมุมมองของนักกีฬาทีมชาติไทยชนิดต่าง ๆ ที่มีต่อชุดแข่งขันของแกรนด์สปอร์ต นายอิรฟาน ดอเลาะ นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดที่คว้าเหรียญเงินกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า “เสื้อฟุตบอลซีเกมส์ในครั้งนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อผ้าเป็นแบบทอลาย สวยงาม เวลาใส่รู้สึกสบาย ระบายเหงื่อได้ดี ไม่ทำให้อึดอัดเวลาเล่นฟุตบอล”
ด้าน นายสรอรรถ ดาบบัง นักกีฬากรีฑาทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองวิ่ง 4 x 100 เมตร และเหรียญเงิน 100 เมตร กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า “ชอบเนื้อผ้าของชุดแข่งวิ่งแบบบอดี้สูทตัวนี้จะไม่รัดมากจนเกินไป เนื้อผ้ามีความนุ่ม ยืดและคืนตัวไว ใส่แล้วกระชับ วิ่งแล้วไม่รั้งกล้ามเนื้อ ไม่รั้งขาในตอนวิ่ง ใส่แล้วมีความมั่นใจมากขึ้นครับ”
นายภูรินษ์ ร้องขันแก้ว นักกีฬาอีสปอร์ตทีมชาติไทย (PUB G MOBIE) เหรียญทองแดงซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม และ แชมป์ PMWI 2022 กล่าวว่า “สำหรับเสื้อแข่งขัน E sport ซีเกมส์ตัวนี้ออกแบบมาโดยเฉพาะนักกีฬา E Sport โดยเฉพาะ มีการเอาเส้นสายซึ่งเป็นลูกเล่นที่เกี่ยวกับเกมนำมาออกแบบเป็นลายเสื้อ ซึ่งดูสนุกและโดดเด่นมากครับ”
ขณะที่ นายณกรณ์ ใจสนุก นักกีฬาบาสเกตบอลทีมชาติไทย ชุดเหรียญเงินกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ และเหรียญทองแดง กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า “ชอบชุดแทร็กสูทของแกรนด์สปอร์ตครับ ลายเสื้อที่ใส่ก็เป็นลายไทยครับ แต่ว่าเอามาทำให้ดูทันสมัยขึ้น เข้ากับยุคปัจจุบัน ใส่แล้วดูกระชับเข้ากับตัว เท่ครับ ใส่แล้วหล่อครับ”
นายอชิตะ เปี่ยมกุลวนิช นักกีฬากอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติไทย แชมป์ประเภทชายกอล์ฟ “สิงห์ ไทยแลนด์ อเมเจอร์ แมตซ์เพลย์ แชมเปี้ยนชิพ 2022” กล่าวว่า “เนื้อผ้าชุดแข่งขันกอล์ฟ ก็รู้สึกเบาสบายแล้วก็ยืดหยุ่นมาก ๆ ครับ เวลาออกวงสวิงก็รู้สึกคล่องแคล่วมาก ๆ ใส่แล้วไม่ร้อน แล้วก็ระบายเหงื่อได้ดีมากครับ”
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่แทบไม่ได้ลุกออกมาจากเก้าอี้ แก้วน้ำรินน้ำเอาไว้เต็มแก้วแต่อยู่ไปได้ทั้งวัน หรือวุ่นเสียจนไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ วิ่งเข้าออกห้องประชุม ได้ดื่มน้ำเฉพาะช่วงที่ทานข้าวกลางวันเท่านั้น ขอบอกไว้เลยว่าร่างกายของคุณกำลัง “ขาดน้ำ” โดยที่คุณไม่รู้ตัว และมันส่งผลร้ายถึงสุขภาพอย่างร้ายแรงโดยที่คุณก็ไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน
6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”
- สมองเสื่อม
ใครจะไปเชื่อว่าแค่ดื่มน้ำน้อย ก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมได้ เพราะเมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ ปริมาณของน้ำในร่างกายไม่เพียงพอในการเป็นส่วนหนึ่งของเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย เมื่อเลือดมีความข้นหนืดมากขึ้น ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่สมองได้เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อมได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกไม่สดชื่น เนือยๆ คิดอะไรช้า ไม่กระฉับกระเฉง อึนๆ มึนๆ นั่นอาจเป็นผลมาจากแค่การ “ดื่มน้ำน้อยเกินไป” ก็ได้นะ - ริดสีดวงทวาร
แน่นอนที่สุดว่าหากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลไปถึงการย่อยในกระเพาะอาหารที่ทำได้ยากลำบากมากขึ้น และลำไส้ที่แห้ง อาจทำให้เราไม่สามารถขับอุจจาระออกมาได้ เพราะอุจจาระอาจแห้งเกินไป เมื่อของเสียสะสมอยู่ในลำไส้ ลำไส้ก็จะดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายไปอีก ยิ่งทำให้เลือดมีของเสีย และข้นหนืดกว่าเดิม อุจจาระก็แข็งแห้งกว่าเดิม จนเกิดเป็นอาการท้องผูก และท้ายที่สุดลงเอยด้วยโรคริดสีดวงทวารนั่นเอง - ปวดข้อ
เชื่อหรือไม่ว่ากระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย รวมไปถึงหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ และเกิดอาการผิดปกติได้ง่าย มีส่วนประกอบเป็นน้ำมากถึง 80% ดังนั้นหากข้อต่อหรือหมอนรองกระดูกแห้ง ไม่ชุ่มชื้นเพียงพอ อาจทำให้ข้อต่อต่างๆ ดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีพอ จนเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย หรืออาจอักเสบได้ง่ายเมื่อต้องออกแรงเดิน ยก เหวี่ยง หรือแม้แต่ตอนออกกำลังกาย และยกน้ำหนัก - ทางเดินปัสสาวะอักเสบ / กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
หากคุณมีอาการปวดปัสสาวะ แต่ไม่มีปัสสาวะไหลออกมา หรือไหลออกเพียงหยดสองหยด คุณอาจกำลังเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อันเนื่องมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ การติดเชื้อ และการกลั้นปัสสาวะนานๆ - อ้วน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหากคุณดื่มน้ำน้อย เป็นสาเหตุที่อาจนำไปสู่โรคอ้วนได้ เพราะหากคุณดื่มน้ำอย่างเพียงพอในตอนเช้า ระหว่างมื้อกลางวัน และตอนเย็น หรืออาจดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนทานอาหาร คุณจะพบว่าคุณอิ่มง่ายอิ่มเร็วกว่าการทานอาหารโดยไม่ดื่มน้ำเลย ยิ่งถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่กินจุอยู่แล้ว แล้วยิ่งไม่ดื่มน้ำอีก ด้วยความหิวหรือความอยากอาหาร คุณอาจทานเพลินจนน้ำหนักขึ้นได้ง่ายๆ - ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
ประจำเดือนของคุณผู้หญิงเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพได้ดีอีกอย่างหนึ่ง หากคุณพบว่าคุณมีประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ ขาดๆ หายๆ มีน้ำเกินไป มีสีเข้มเกินไป มาเป็นลิ่มเลือด หรือแม้กระทั่งปวดท้องประจำเดือนมาก สาเหตุสำคัญที่คุณอาจละเลยอาจมาจากการดื่มน้ำน้อยก็เป็นได้ เพราะเมื่อน้ำในร่างกายมีปริมาณไม่เพียงพอ ร่างกายจึงไม่สามารถนำน้ำไปสร้างเป็นประจำเดือนได้นั่นเอง
3 สัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย
หากไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นคนดื่มน้ำน้อยหรือไม่ ให้สังเกตได้จาก
- ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้งต่อวัน
- ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มแทบทุกครั้ง
- ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนจัด
แค่ดื่มน้ำน้อยก็ส่งผลเสียถึงร่างกายได้มากมายขนาดนี้ นี่ยังไม่รวมถึงผลเสียด้านผิวพรรณที่หย่อนคล้อย หมองคล้ำ ผิวแห้ง ตาแห้ง และดูแก่กว่าวัยอีกนะ สาวๆ ได้ยินแล้วคงกรี๊ดเลยสิ
เพราะฉะนั้นหากใครมีอาการตามสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อยดังกล่าว ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นให้ได้ราวๆ 1,500-2,000 มิลลิลิตรต่อวัน หรือ 6-8 แก้วต่อวัน หรือถ้ากลัวลืมก็เอาขวดลิตรมาตั้งไว้บนโต๊ะ 1 ขวด แล้วเตือนตัวเองว่าต้องดื่มให้หมด ทำงานจิบไป เข้าห้องประชุมก็ถือแก้วน้ำเข้าไปด้วย รับรองว่าหากทำได้ร่างกายของคุณจะไม่ขาดน้ำอีกต่อไป
หมายเหตุ – หากคุณดื่มน้ำไม่ถึง 6-8 แก้ว แต่ไม่มีอาการที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย อาจเป็นเพราะคุณดื่มเครื่องดื่ม หรือทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากพออยู่แล้ว จึงอาจไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำให้ได้ 6-8 แก้วต่อวัน แต่อย่างไรก็ตาม “น้ำเปล่า” ก็ยังสำคัญต่อร่างกาย อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าบ้าง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
รวมตำแหน่งงานในภาษาอังกฤษ (Job Positions)
บัณฑิตจบใหม่หลายคนอาจกำลังง่วนหางานที่เหมาะสมกับความสามารถและความต้องการของตัวเองอยู่ ส่วนใหญ่บริษัทต่างๆก็ลงประกาศหาพนักงานเป็นภาษาอังกฤษกันทั้งนั้น เอ… แล้วตำแหน่งงานต่างๆภาษาอังกฤษเขาใช้คำไหนกันบ้างนะ วันนี้ DailyEnglish มีมาฝากเพียบเลยล่ะค่ะ ลองอ่านดูเผื่อเจอตำแหน่งงานที่น่าสนใจ จะได้เก็บเอาไว้ใช้เวลาหางานนะคะ
ตำแหน่งงาน ภาษาอังกฤษ
Administration /Secretary (เอิ้ดมินิสเตร๊เชิ่น/เซเคิ้ททรี่)
ผู้ดูแลงานด้านเอกสาร/เลขานุการ
Document Controller (ด๊อคคิวเม้นท์ คอนโทรลเล่อะ)
พนักงานฝ่ายเอกสาร
Executive Secretary (อิ๊กเซคคิวทีฟ เซเคิ้ททรี่)
เลขานุการผู้บริหาร
Office Assistant (อ๊อฟฟิศ เออะซิสเถิ่นท์)
ผู้ช่วยประจำสำนักงาน
Sales Administrator (เซลซ์ เอิ๊ดมินิสเตรเถอะ)
ผู้ประสานงานขาย
Administrative Manager (เอิ้ดมินิสเตรทีฟ แมเนเจอะ)
ผู้จัดการฝ่ายธุรการ
Airlines (แอร์ไลนส์)
สายการบิน
Flight Attendances/ Hostess/ Steward (ไฟล้ท์ เอิ้ทเทนเด๊นซ์/โฮ้สเตท/ สจ้วด)
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
Ground Crew/Cabin Crew (กราวน์ครูว/ เคบิ้นครูว)
พนักงานต้อนรับภาคพื้นดิน/ลูกเรือ
Pilot (ไพเลิต)
นักบิน
Customer Services (คัสโตเมอะ เซอฝวิสเซส)
บริการลูกค้า
Operator (อัปเปอะเรเถอะ)
รับโทรศัพท์
Receptionist (รีเซพเชิ่นนิสต์)
ต้อนรับ
Customer Relationship (คัสโตเมอะ รีเลเชิ่นชิพ)
พนักงานฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
Customer Services Officer (คัสโตเมอะ เซอฝวิสเซส ออฟฟิเสอะ)
พนักงานฝ่ายบริการลูกค้า
Bill Collector (บิล เคิลเล็กเถอะ)
พนักงานเก็บบิล/เงิน
Driver (ไดร้เฝอะ)
พนักงานขับรถ
Guard/ Security (การ์ด/ซิคิ้วริถิ)
พนักงานรักษาความปลอดภัย
Maid/Housekeeper (เหมด/เฮ้าส์คีพเผอะ)
แม่บ้าน/พนักงานทำความสะอาด
Messenger (เม้สซินเจอะ)
คนส่งเอกสาร
Waitress/ Waiter (เว้ท เถรส/เว้ทเถอะ)
บริกรหญิง/บริกรชาย
Engineer/Technician (เอ็นจินิเออะ/เทคนิเชี่ยน)
วิศวกร/ช่างเทคนิค
Audio/Video Engineer (ออดิโอ/ฟวิดิโอ เอ็นจินิเออะ)
วิศวกรทางด้านภาพและเสียง
Design Engineer (ดีไซน์ เอ็นจินิเออะ)
วิศวกรด้านการออกแบบ
Electronics Engineer (อิเล็กทรอนิคส์ เอ็นจินิเออะ)
วิศวกรไฟฟ้า
Engineer (Repair & Maintenance) (เอ็นจินิเออะ (รีแพร์ แอนด์ เมนเทอะแน๊นซ์))
วิศวกรฝ่ายซ่อมบำรุง
Environmental Engineer (เอินไฟวเรินเมิ้นท์ เอ็นจินิเออะ)
วิศวกรสิ่งแวดล้อม
Field technician (ฟิลด์ เทคนิเชี่ยน)
เจ้าหน้าที่สนาม
Fitter (ฟิทเถอะ)
ช่างฟิต
Industrial Engineer (อินดั๊สเทรี่ยว เอ็นจินิเออะ)
วิศวกรอุตสาหกรรม
Maintenance/ Repair Technician (เมนเทอะแน๊นซ์/รีแพร์ เทคนิเชี่ยน)
เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงรักษา
Mechanic (มิ๊กแคหนิก)
ช่างเครื่อง
Mechanical Engineer (มิ๊กแคนิเคิ้ล เอ็นจินิเออะ)
วิศวกรเครื่องกล
Plumber (พลัมเหมอะ)
ช่างปะปา
Sales Engineer (เซลซ์ เอ็นจินิเออะ)
วิศวกรฝ่ายขาย
Service Technician/ Technical Support (เซอ ฝวิส เทคนิเชี่ยน/เทคนิเคิ้ล ซัพพอร์ต)
เจ้าหน้าที่เทคนิคฝ่ายบริการ
Structural Engineer (เสอะตรั๊คเทอะเริ้ล เอ็นจินิเออะ)
วิศวกรด้านโครงสร้าง
Technical Service Adviser (เทคนิเคิ้ล เซอฝวิส เอิ๊ดไฟวเสอะ)
ที่ปรึกษาเจ้าหน้าที่เทคนิคฝ่ายบริการ
Telecommunication Engineer (เทลีคอมมิวนิเค๊เชิ่น เอ็นจินิเออะ)
วิศวกรโทรคมนาคม
Entertainment/Athletics (เอ็นเถอะเทนเมิ้นท์/แอ๊ทเลถิกส์)
บันเทิง/กีฬา
Art Director (อ๊าร์ท ไดเร๊คเถอะ)
ผู้กำกับฝ่ายศิลป์
Athlete (แอ๊ธหลีท)
นักกีฬา
Costume Attendants/Design (คอสตูม เอิ้ทเทินแด๊นทซ์/ดีไซน์)
ฝ่ายออกแบบเครื่องแต่งกาย
Dancer (ด๊านเสอะ)
นักเต้น/หางเครื่อง
Make-up Artist (เมคเอิพ อาร์ถิสท์)
ช่างแต่งหน้า
Models/Star/Singer/Musician (โม๊เดิ้ลส์/เสอะตาร์/ซิงเหงอะ/มิวสิเชี่ยน)
ดารา/นางแบบ/นักร้อง/นักดนตรี
Self – Administrator/ Manager (เซ้ลฟ์ เอิ๊ดมินิสเตร๊เถอะ)
ผู้จัดการส่วนตัว
Graphic Design/Designer (กร๊าฟฝิก ดีไซน์/ ดีไซน์เหนอะ)
กราฟฟิกดีไซน์/ นักออกแบบ
Color Technician (คัลเลอะ เทคนิเชี่ยน)
ช่างเทคนิคทางด้านสี
Computer Animator (คอมพิ้วเท้อะ เอนิเมเถอะ)
ผู้ออกแบบภาพเคลื่อนไหว
Fashion Designer (แฟ๊เชิ่น ดีไซเหนอะ)
นักออกแบบเสื้อผ้า
Accountancy (เอิกเค้าเทินสิ)
ฝ่ายบัญชี
Accounting Officer (เอิกเค้าทิ่ง ออฟฟิเสอะ)
พนักงานบัญชี
Accounting Supervisor (เอิกเค้าทิ่ง ซูเพอะไฟวเสอะ)
หัวหน้าฝ่ายบัญชี
Assistant Accounting Manager (เออะซิสเถิ่นท์ เอิกเค้าทิ่ง เมเนเจอะ)
ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบัญชี
Auditor (ออดิเถอะ)
ผู้ตรวจสอบบัญชี
Billing/ Invoice Officer (บิลลิ่ง/อิน ฟวอยซ์ ออฟฟิเสอะ)
พนักงานฝ่ายเก็บเงิน/ออกใบเสร็จ
Bookkeeper (บุ๊ค-คีพเผอะ)
พนักงานฝ่ายบัญชี
Costing/Budgeting Manager (คอสติ้ง/บั๊ดเจ๊ติ้ง เมเนเจอะ)
ผู้จัดการฝ่ายบัญชีต้นทุน/ งบประมาณ
Credit Control (เครดิต เคินโทรล)
ผู้ควบคุมบัญชีรายรับ
Field Control Officer (ฟิลด์ เคินโทรล ออฟฟิเสอะ)
เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบระบบ
Internal/External Audit (อินเทอเนิ้ล/เอ๊กซ์เทอเนิ้ล ออดิท)
ผู้ตรวจสอบภายใน/ภายนอก
Senior Accounting Manager (ซีเนีย เอิกเค้าทิ่ง เมเนเจอะ)
ผู้จัดการฝ่ายบัญชี
Senior/Chief Accountant (ซีเนีย/ชีฟ เอิกเค้าเถิ่นท์)
พนักงานบัญชี/สมุห์บัญชี
Tax Officer/Accounting (แท็กซ์ ออฟฟิเสอะ/เอิกเค้าทิ่ง)
เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องภาษี
ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th
ก้าวข้ามข้อจำกัด นักวิจัยมทส.ทำได้”พลาสติกชีวภาพ”เจนใหม่
สุดยอด! นักวิจัย มทส. ทะลายข้อจำกัดพลาสติกชีวภาพ พร้อมดันสู่ “บรรจุภัณฑ์อาหารกระป๋อง-แช่เยือกแข็งรักษ์โลก” ทนร้อน-นึ่งได้ เพิ่มขีดแข่งขันอุตสาหกรรมอาหารไทย
วันที่ 22 มี.ค.2566 ที่ห้องสารนิเทศ อาคารบริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) มีการแถลงผลงานวิจัยและนวัตกรรม “บรรจุภัณฑ์อาหารกระป๋องและอาหารแช่เยือกแข็งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้เชิงชีวภาพ”
โดยศาสตราจารย์ ดร.หนึ่ง เตียอำรุง รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี มทส. กล่าวว่า จากการที่ มทส.เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทาง ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มีเป้าหมายการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยด้วยการวิจัย และพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์สังคม สร้างผลกระทบต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมระดับประเทศ ควบคู่กับการสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางวิชาการ ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับชาติและนานาชาติ
ซึ่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุทัย มีคำ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีการออกแบบ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มทส. ได้นำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมพอลิเมอร์ ผสานกับทักษะการออกแบบผลิตภัณฑ์ ได้ศึกษาวิจัยทำให้ได้บรรจุภัณฑ์ชีวภาพ (Bioplastic) ที่มีคุณสมบัติพิเศษ เหมาะกับกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็ง และบรรจุภัณฑ์อาหารกระป๋อง ที่ปรับใช้ได้กับอุตสาหกรรมอาหารของไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาด รองรับการใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ถือเป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งที่พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ผู้ประกอบการที่สนใจได้ทันที สนองตอบโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 3 ด้านไปพร้อมกัน ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) ใช้ทรัพยากรชีวภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คำนึงถึงการนำวัสดุต่าง ๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้เต็มประสิทธิภาพ ควบคู่ไปใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือที่เรียกว่าเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ได้อย่างสมดุล มั่นคงและยั่งยืน
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุทัย มีคำ นักวิจัยเจ้าของผลงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจกับความปลอดภัยของสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จะเห็นได้จากบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากวัสดุฐานชีวภาพ (Bio–Degradable Packaging) และย่อยสลายได้ภายในเวลา 2 – 5 เดือน ตามมาตรฐานกระบวนการฝั่งกลบ ได้รับความสนใจนำมาใช้เป็นภาชนะใส่อาหารมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทดแทนการใช้พลาสติกทั่วไป ที่ผลิตจากปิโตรเคมีที่ใช้เวลาย่อยสลายกว่า 400 ปี สร้างปัญหาขยะตกค้าง และเป็นพิษกับสิ่งแวดล้อม
การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมนวัตกรรม “บรรจุภัณฑ์อาหารกระป๋องและอาหารแช่เยือกแข็งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้เชิงชีวภาพ” ได้ศึกษาวิจัยเพื่อทะลายข้อจำกัดทั่วไป และเพิ่มขีดความสามารถของไบโอพลาสติก (Bioplastic) คือจากปกติที่ทนความร้อนที่ 50 องศาเซลเซียส พัฒนาคุณสมบัติสู่ทนความร้อนได้สูงถึง 150 องศาเซลเซียส
และจากผลทดสอบของห้องปฏิบัติการ สามารถพัฒนาต่อยอดเชิงอุตสาหกรรม ในแง่บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารกระป๋อง ได้ตามมาตรฐานกระบวนการผลิตอาหารกระป๋อง ที่สำคัญคือต้องผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อที่อุณภูมิ 121 องศาเซลเซียส ด้วยความดันที่ 15 psi (พีเอสไอ) เป็นเวลา 15 นาที
จากผลสำเร็จนี้จะช่วยเปิดทางไปสู่การพัฒนาต่อยอด สำหรับอุตสาหกรรมส่งออกอาหารของไทย ที่มุ่งขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคที่ใสใจสุขภาพและรักษ์สิ่งแวดล้อม อีกทั้งทำให้เพิ่มความหลากหลายในการใช้งานของพลาสติกชีวภาพ ไม่มีข้อจำกัดด้านรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติรองรับอุตสาหกรรมอาหารแช่เยือกแข็งได้เป็นอย่างดี
สำหรับความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์นั้น จากการศึกษาในแง่ต้นทุนและควบคุมการผลิต สามารถควบคุมต้นทุนให้ไม่สูงมาก หรือใกล้เคียงกับพลาสติกทั่วไปได้ ด้วยปัจจัยหลักคือ วัสดุฐานชีวภาพจากพลาสติก PLA จากวัสดุธรรมชาติ มีผู้ผลิตป้อนสู่ท้องตลาดอย่างสม่ำเสมอ และปัจจัยการผลิตแบบฉีดขึ้นรูป ที่สามารถใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพเดิมตามปกติ ทำให้ลดต้นทุนส่วนนี้ไปได้มาก ต้นทุนจึงอยู่ที่ประมาณ 50 สตางค์ – 1 บาท ต่อแพ็ค
ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่อนุรักษ์ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญมีความปลอดภัยกับผู้บริโภคสูง จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการช่วยผลักดันมูลค่าทางการตลาด
โดยบางประเทศในแถบยุโรป ได้ออกกฏหมายควบคุมส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์เชิงชีวภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ประกอบกับการที่ประเทศไทยประกาศเป็นครัวโลก มีความโดดเด่นด้านอุตสาหกรรมอาหาร การพัฒนาบรรจุภัณฑ์อาหารกระป๋อง และอาหารแช่เยือกแข็งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งยังย่อยสลายได้เชิงชีวภาพได้เป็นประเทศลำดับต้น ๆ ของโลก
“ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพภาคอุตสาหกรรมอาหารของไทย ที่ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของผู้บริโภค และใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับความต้องการของทั่วโลก ที่มุ่งเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน Sustainable Development Goals–SDGs ที่ครอบคลุมมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ และโดยเฉพาะมิติด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” ผศ. ดร.อุทัย มีคำ กล่าวส่งท้าย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
10 ประโยชน์ดีๆ ของ “ผักชี” ที่อาจทำให้คุณอยากหันมากินเยอะขึ้น
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็น social media ทางไหน ก็เห็นแต่คนพูดถึงกระแส “ผักชีฟีเวอร์” หรือความบ้าผักชีของชาวญี่ปุ่น ผักที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสำคัญ ไม่มีเมนูหลักของตัวเอง ทำได้แต่เพียงเป็นตัวประกอบในหลายๆ จาน และถูกนำไปเปรียบในสุภาษิตของไทยที่ว่า “ผักชีโรยหน้า” คือการทำอะไรลวกๆ ส่งๆ แปะๆ ให้เห็นแค่เบื้องหน้า นั่นสื่อถึงว่าบ้านเรา ผักชี เป็นเพียงผักที่ไม่ได้สำคัญต่ออาหารจานหลักเท่าใดนัก
แต่ที่ญี่ปุ่น “ผักชี” กลายเป็นผักที่หลายนิยมชมชอบกันมาก ทานกันเป็นกำๆ (ทั้งๆ ที่ผักชีที่บ้านเขาราคาก็ไม่ได้ถูกเท่าบ้านเรา) ขนาดมีนักร้องบอยแบนด์ของญี่ปุ่นร้องเพลง “ผักชีเฮเว่น” (เฮเว่น = สวรรค์) โดยสื่อถึงความคลั่งผักชีของคนญี่ปุ่นนั่นเอง
จากกระแสผักชีฟีเวอร์ขนาดหนัก จึงทำให้ที่ประเทศญี่ปุ่นมีร้านอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูที่มีผักชีเป็นส่วนประกอบหลัก ไม่ได้เป็นเพียงผักโรยหน้าแบบบ้านเรา เป็นผักชีกองๆ ทานกันเป็นกำๆ เลยทีเดียว แถมยังมีร้านอาหารที่ทั้งร้านจำหน่ายแต่เมนูที่มีผักชีเป็นส่วนประกอบเท่านั้นอีกด้วย นอกจากนี้เมนูผักชี ยังกลายเป็นเมนูแห่งปีของญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย (ปี 2016) ตอกย้ำกระแสชื่นชอบผักชีของคนญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน
ถ้าจะพูดถึงรสชาติ คงจะเป็นเรื่องเฉพาะตัวจริงๆ บางคนอาจจะชอบ บางคนอาจจะไม่ชอบ เหมือนกับ “ทุเรียน” ในบ้านเรา ที่คนชอบก็ชอบมาก แต่ใครที่ไม่ชอบก็เกลียดไปเลย เพราะรสชาติและกลิ่นมันเข้มข้น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ แต่หากพูดถึงประโยชน์ของ “ผักชี” กันแล้ว ขอบอกว่ามีเพียบจนคุณอาจจะต้องหันมาคลั่งผักชีเหมือนกับชาวญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว
สารอาหารในผักชี
– วิตามินเอ
– วิตามินบี
– วิตามินซี
– ธาตุเหล็ก
– เบต้าแคโรทีน
– แคลเซียม
และอื่นๆ
ประโยชน์ดีๆ ของ “ผักชี”
1. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก
2. ป้องกันโรคหวัด
3. แก้อาการกระหายน้ำ
4. ต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ ในลำไส้
5. ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร
6. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
7. เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยให้ขับถ่ายคล่องมากยิ่งขึ้น
8. แก้อาการวิงเวียนศีรษะ
9. บำรุงสายตา
10. ช่วยกระตุ้นการทำงานของเลือด และกล้ามเนื้อ
ถึงแม้ผักชีจะมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ค่อนข้างฉุน แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ กลิ่นผักชีที่ว่าจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ หากไม่ทานในปริมาณที่มากเกินไป จะไม่ทำให้ตัวเหม็นอย่างที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันแน่นอน แต่ถึงกระนั้น การจะหันมาทานผักชีกันอย่างจริงจังเป็นกำๆ ก็ไม่ควรทานมากเกินไป เพราะไม่ว่าอาหารชนิดใดที่ว่าดี หากทานมากเกินไปก็เป็นโทษได้ทั้งนั้นค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 24/03/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 32,000.00 | 32,100.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,073.00 | 31,426.68 | 32,600.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,865.70 | 28,284.01 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,658.40 | 25,141.34 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 933.00 | 14,144.28 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 726.00 | 11,006.16 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,148.00 | 32,563.68 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 24/03/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.35 | 35.35 | 36.44 | 35.35 | 35.35 | 35.35 | 35.35 | 35.35 | 35.35 | 35.35 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.08 | 35.08 | 36.14 | 35.08 | 35.08 | 35.08 | 35.08 | 35.08 | 35.08 | 35.08 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.04 | 33.04 | 33.84 | 33.04 | 33.04 | – | 33.04 | 33.04 | 33.04 | 33.04 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 33.49 | 33.49 | – | – | – | – | – | – | – | 33.49 |
เบนซิน 95 | 43.16 | – | – | – | 43.21 | – | 43.66 | 43.31 | – | 43.16 |
ดีเซล B7 | 33.44 | 33.44 | 33.74 | 33.44 | 33.44 | 33.44 | 33.44 | 33.44 | 33.44 | 33.44 |
ดีเซล | 33.44 | 33.44 | 33.74 | 33.44 | 33.44 | 33.44 | 33.44 | 33.44 | 33.44 | 33.44 |
ดีเซล B20 | 33.44 | 33.44 | 33.74 | – | 33.44 | – | 33.44 | – | – | 33.44 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 42.56 | 42.66 | 44.64 | 43.76 | 43.76 | – | – | – | – | 42.56 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |