สาระน่ารู้ประจำวันที่ 18 เมษายน 2566

เปิดสาเหตุ ทำเล”กรุงเทพกรีฑา” ย่านที่อยู่อาศัยสุดลักซ์ชัวรี่ ราคาพุ่งแรง

สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA) เปิดสาเหตุ ทำเล “กรุงเทพกรีฑา” ย่านที่อยู่อาศัยสุดลักซ์ชัวรี่ ราคาพุ่งแรงจากในอดีต ทะลุ 140,000 บาท ต่อตารางวา

หากมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลแนวถนน”กรุงเทพกรีฑา”เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ส่วนมากมักจะเป็นโครงการบ้านจัดสรร ทั้งโครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ในราคาที่ไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งแตกต่างอย่างลิบลับกับในปัจจุบัน ที่ทำเลย่านนี้ กลายเป็นย่านที่อยู่อาศัยในระดับ Luxury ไปจนถึงระดับ Ultimate Luxury

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA) บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจ ถึงปัจจัยที่ทำให้ราคาที่ดินในย่าน”กรุงเทพกรีฑา” พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัวในระยะเวลา 5-6 ปี

ในช่วงปี พ.ศ.2559 – 2560 มีผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาซื้อที่ดินตามแนวถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ แต่โครงการบ้านจัดสรรที่เปิดขายในช่วงนั้นยังมีราคาไม่สูงมาก โดยบ้านเดี่ยวมีราคาขายเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิต และสูงสุดที่ไม่เกิน 20 ล้าน และส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ตามแนวถนนรุงเทพกรีฑาเดิม และพื้นที่โดยรอบ เช่น วงแหวนกาญจนาภิเษก หรือในซอยที่แยกมาจากถนนรามคำแหง และกรุงเทพกรีฑาเดิม

จนกระทั่ง ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้าง จึงได้มีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปกว้านซื้อที่ดิน และหาที่ดินตามแนวถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ และหลังจากที่ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า) เปิดให้บริการในปี พ.ศ.2562 โครงการบ้านจัดสรรที่เปิดขาย ได้มีการปรับราคาสูงมากขึ้น เนื่องจากการเข้าไปกว้านซื้อที่ดินมีผลโดยตรงต่อราคาที่ดินที่แพงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ.2562

นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยด้านการคมนาคมที่เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เนื่องจากไม่ไกลจากพื้นที่เมืองชั้นใน  ไม่ไกลจากย่านอุตสาหกรรมในปริมณฑลและภาคตะวันออกของประเทศไทย ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี) แม้ว่าจะไม่ผ่านเส้นทางนี้โดยตรงแต่ก็มีส่วนสนับสนุนให้พื้นที่โดยรอบมีศักยภาพสูงขึ้น

ราคาที่ดินในพื้นที่ตามแนวเส้นทางถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า) กลายเป็นพื้นที่ที่ราคาที่ดินล่าสุดอยู่ในช่วงระหว่าง 120,000 – 140,000 บาทต่อตารางวา หรือไร่ละ 48 – 56 ล้านบาท สูงขึ้นกว่า 2 – 3 เท่าจากก่อนหน้านี้ ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีที่ดินในมือมาก่อนหน้านี้แล้วทั้งนั้น

ปี พ.ศ. 2565 เป็นปีที่เห็นได้ชัดเจนว่ามีโครงการบ้านจัดสรรราคาแพงเปิดขายมากเป็นประวัติการณ์ในพื้นที่เดียว โดยส่วนใหญ่เปิดขายในราคาที่มากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป และบางยูนิตในหลายโครงการมีราคาขายมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไปถึง 100 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของทำเล และเห็นได้ชัดเจนคือ โครงการที่เปิดขายในปีพ.ศ.2565 – 2566 มีราคาขายที่แพงมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาทุกโครงการ แต่ผู้ประกอบการบางรายสามารถปิดการขายบางเฟสหรือทั้งโครงการได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ทั้งนี้ ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ มีช่องจราจรขนาดใหญ่ถึง 6-8 เลน เริ่มต้นสายจากถนนศรีนครินทร์สิ้นสุดที่ถนนเจ้าคุณทหาร เป็นถนนที่เชื่อมต่อถนนสายสำคัญเส้นหลักของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกได้หลายสาย เช่น รามคำแหง , ศรีนครินทร์ , กาญจนาภิเษก, อ่อนนุช-ลาดกระบัง , กรุงเทพกรีฑา , ร่มเกล้า เป็นต้น

สามารถเชื่อมต่อทางพิเศษศรีรัช ,ทางหลวงพิเศษกาญจนาภิเษกวงแหวนตะวันออกฯ , ถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี ได้อย่างง่ายดาย ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้า 2 สาย ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) รถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกรุงเทพฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก

มีห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียนนานาชาติ สถานีบริการน้ำมัน ร้านอาหาร โรงพยาบาล ศูนย์โชว์รูมรถยนต์ยุโรป จึงเป็นดัชนีชี้วัดความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมในย่านกรุงเทพกรีฑานี้ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ประมูล ทรัพย์ NPA ทั่วไทย ชิง คอนโด เริ่ม 1.17 แสน

SAM ขนทรัพย์ NPA บ้าน คอนโดมิเนียม มือสอง กว่า 400 ล้าน จัดประมูลปลาย เม.ย. นี้ พบ คอนโดฯราคาถูก ย่านดอนเมือง เริ่ม 1.17 แสน โผล่ร่วมด้วย เปิดซอง 28 เม.ย.นี้ www.sam.or.th

17 เมษายน 2566 – นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า ในเดือน เม.ย.นี้ SAM ได้จัดให้มีการประมูลทรัพย์สินรอการขาย (NPA) โดยนำทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและทรัพย์เพื่อการลงทุน ที่มีมูลค่าและรูปแบบที่หลากหลายตามความต้องการของลูกค้าในทำเลดีทั่วไทยมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาท มาปรับลดราคาพิเศษสูงสุดถึง 25%  ทั้งที่ดินเปล่า บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ โรงงาน/โกดัง รวมทั้งสิ้น 179 รายการ มูลค่ารวมกว่า 469 ล้านบาท  

โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วยราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เริ่มต้นเพียงหลักแสนต้น ๆ เท่านั้น อาทิ  ห้องชุดพักอาศัย พื้นที่  30.65 ตร.ม. ในโครงการดอนเมืองคอนโดทาวน์  ทุ่งสองห้อง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ราคาเริ่มต้น 117,000 บาท  ห้องชุดพักอาศัย ในโครงการสินธนาแมนชั่น พื้นที่ 31.9 ตร.ม. จำนวน 9 ห้อง ทำเลดี ติด ถ.นวมินทร์ เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล  ใกล้ Tops Market  ฟู้ดแลนด์นวมินทร์ ตลาดปัฐวิกรณ์ และเดอะมอลล์บางกะปิ  เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ราคาขั้นต่ำเริ่มต้น 331,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์อื่นๆ ในหลากหลายทำเลดีทั่วประเทศที่ SAM นำมาปรับลดราคาพิเศษอีกมากมาย

ตัวอย่างทรัพย์เด่น พื้นที่เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 

  • อาคารพาณิชย์ ในโครงการเมืองใหม่แพรกษา จำนวน 4 คูหา เนื้อที่ตั้งแต่ 15.9 – 17 ตร.ว. ถ.แพรกษา ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีแพรกษา ประมาณ 2.5 กม. ราคาขั้นต่ำเริ่มต้น 1.51 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว ในโครงการเดอะแพลนท์ บางนา เนื้อที่ 56.1 ตร.ว. เขตบางพลี จ.สมุทรปราการ ใกล้โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1 เทสโก้ โลตัส และตลาดกลางค้าส่งไทยสุวรรณภูมิ ราคาขั้นต่ำเริ่มต้น 4.67 ล้านบาท
  • ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ในโครงการอินดี้ รังสิต คลอง 3 เนื้อที่ 25.6 ตร.ว. ถ.เลียบคลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี   ใกล้โรงเรียนสามัคคีราษฎร์บำรุง  ห้างบิ๊กซี ราคาขั้นต่ำเริ่มต้น 2.15 ล้านบาท

ทรัพย์เด่นพื้นที่ต่างจังหวัด

  • โครงการที่พักอาศัย ประกอบด้วย บ้านชั้นเดียว 1 หลัง ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น 1 หลัง เนื้อที่ 2 งาน 91.5 ตร.ว. อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ใกล้ห้างบิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สนามกีฬากลาง บึงพลาญชัย ราคาขั้นต่ำเริ่มต้น 7.01 ล้านบาท     
  • ห้องชุดพักอาศัย โครงการริมโขงคอนโดเทล จำนวนเกือบ 50 ห้อง เนื้อที่ตั้งแต่ 28 -51 ตร.ม.   ถ.แก้ววรวุฒิ อ. เมือง จ.หนองคาย ติดริมแม่น้ำโขง ใกล้ตลาดชัยพร โรงพยาบาลหนองคาย ราคาขั้นต่ำเริ่มต้น 524,000 บาท
  • ทาวน์เฮ้าส์ เนื้อที่ 80.5 ตร.ว.  ถ.ถีนานนท์ (ทล.213) อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ใกล้ตลาดการเกษตร ห้างกาฬสินธุ์พลาซ่า โรงพยาบาลธีรวัฒน์ ราคาขั้นต่ำเริ่มต้น 3.06 ล้านบาท       

ทั้งนี้ จะมีการเปิดให้ผู้สนใจ ลงทะเบียนและยื่นซองประมูล พร้อมเอกสารประกอบการประมูล ภายในวันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2566 กำหนดเปิดซองประมูลวันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ณ สำนักงานใหญ่ SAM อาคารซันทาวเวอร์ส ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-686-1888 และดูรายละเอียดทรัพย์สินได้ทางเว็บไซต์ที่ www.sam.or.th

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 18เม.ย.ที่ระดับ 34.49 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทมีโอกาสลุ้นการเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นมาได้บ้าง -จับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนในช่วง 9โมงเช้าวันนี้และรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของฝั่งยุโรปในช่วงบ่าย

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 18เมษายน 2566ที่ระดับ  34.49 บาทต่อดอลลาร์
“อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.38 บาทต่อดอลลาร์
 

นายพูน   พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท แม้ว่าในช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทจะเคลื่อนไหวอ่อนค่าลง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวลง 

ทว่าในวันนี้ ก็มีโอกาสลุ้นเงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นมาได้บ้าง ซึ่งต้องรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนในช่วงเช้า และรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของฝั่งยุโรปในช่วงบ่าย
 
โดยในกรณีที่ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนออกมาดีกว่าคาดชัดเจน ก็อาจหนุนให้ผู้เล่นในตลาดสะสมการลงทุนในสินทรัพย์ฝั่ง EM Asia มากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจในโซน EM Asia ก็มีโอกาสได้รับอานิสงส์จากภาพเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

กรณีนี้ เราคาดว่า ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นมาได้บ้าง แต่เงินบาทก็อาจไม่ได้แข็งค่าไปมากนัก โดยเรามองว่า ควรจับตาการแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน แถว 34.30 บาทต่อดอลลาร์
 
นอกจากนี้ หากในช่วงบ่าย ตลาดกลับมาเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจฝั่งยุโรปมากขึ้น ซึ่งอาจได้แรงหนุนจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีและยูโรโซนที่ออกมาดีกว่าคาด ก็อาจช่วยส่งผลให้ เงินยูโร (EUR) พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง กดดันให้เงินดอลาร์อ่อนค่าลงและหนุนการแข็งค่าของเงินบาทได้เช่นกัน
 
อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจยังไม่ได้เป็นปัจจัยหนุนเงินบาทฝั่งแข็งค่ามากนัก เนื่องจากเรายังคงเห็นว่า นักลงทุนต่างชาติยังไม่กลับเข้ามาซื้อบอนด์ไทย หรือยังคงทยอยขายบอนด์ระยะยาวอยู่ ตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เริ่มมองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อจนแตะระดับ 2.00% เป็นอย่างน้อยได้
 
ในช่วงนี้ เราคงมองว่า ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูงทำให้เรามองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
 
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.35-34.60 บาท/ดอลลาร์ 


ดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ สามารถพลิกกลับมาปิดตลาด +0.33% แม้ว่าตลอดช่วงการซื้อขาย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะถูกกดดันจากความกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด 

โดยเฉพาะหลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด อย่าง ดัชนีภาคการผลิตโดยเฟดสาขานิวยอร์ก (Empire State Manufacturing Index) เดือนเมษายน จะปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 10.8 จุด ดีกว่าที่ตลาดคาดไปมาก 

แต่โดยรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคารและการเงิน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารยังคงปรับตัวขึ้นต่อได้ (Wells Fargo +4.2%, Morgan Stanley +3.0%)
 
ด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ย่อตัวลงเล็กน้อย -0.01% กดดันโดยแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มที่ปรับตัวได้ดีในช่วงก่อนหน้า อาทิ หุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม (Dior -2.3%, LVMH -2.2%) 

ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน ก่อนที่จะมีการปรับสถานะถือครองหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดก็เริ่มลดการถือครองหุ้นกลุ่มธนาคารและการเงิน (UBS -3.8%, BNP -2.0%) เพื่อรอจับตารายงานผลประกอบการของหุ้นกลุ่มดังกล่าวเช่นกัน
 
ฝั่งตลาดบอนด์ มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่กลับมาเชื่อว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุมเดือนพฤษภาคม และอาจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานกว่าคาด

ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง สู่ระดับ 3.60% ซึ่งเป็นโซนแนวต้านที่สำคัญในระยะสั้น (หากปรับตัวขึ้นทะลุโซนดังกล่าว ก็อาจเห็นบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อทดสอบโซน 3.70%-3.80% ได้ไม่ยาก)

 สอดคล้องกับมุมมองเดิมของเราที่คาดว่า บอนด์ยีลด์ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ จากการปรับมุมมองต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยเฟดของผู้เล่นในตลาด ซึ่งเราคงมองว่า นักลงทุนควรรอจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นในการทยอยเข้าซื้อสะสมบอนด์ โดยอาจรอลุ้นผลการประชุมเฟดเดือนพฤษภาคมก่อนได้
 
ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หนุนโดยมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เชื่อว่า เฟดจะสามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยและคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานกว่าคาด 

ทำให้ล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 102.1 จุด ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดยังคงรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ก่อนที่จะมีการปรับสถานะถือครองที่ชัดเจนต่อไป 

ส่วนราคาทองคำ การปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย.) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 2,006 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการรีบาวด์ขึ้นเล็กน้อย หลังราคาทองคำย่อตัวทดสอบโซนแนวรับแรกแถว 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 สะท้อนว่าผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ยังคงรอจังหวะทองคำย่อตัวลง เพื่อเข้าซื้อ (Buy on Dip) โดยโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวดังกล่าว ก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงเช่นกัน
 
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญที่ต้องรอลุ้นอย่างใกล้ชิด คือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน (ทยอยรับรู้ในช่วงเวลา 9.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) 

โดย ตลาดประเมินว่า เศรษฐกิจจีนอาจขยายตัวกว่า +3.8%y/y ในไตรมาสแรกของปีนี้ หนุนโดยการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในฝั่งการบริโภค หรือ ภาคการบริการหลังการเปิดประเทศ ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการบริการที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

 นอกจากนี้ ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในเดือนมีนาคม ตลาดคาดว่า ยอดค้าปลีกอาจขยายตัวกว่า +7.0%y/y ขณะที่ ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) จะขยายตัวเพียง +4.0%y/y 

สอดคล้องกับดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนที่ไม่ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเหมือนดัชนี PMI ภาคการบริการ ส่วนยอดการลงทุนสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Investment) อาจโตราว +5.7%y/y (นับจากตั้งแต่ต้นปี)
 
ส่วนในฝั่งยุโรป บรรดานักวิเคราะห์ประเมินว่า ความกังวลต่อปัญหาระบบธนาคารยุโรปที่คลี่คลายลง อาจหนุนให้บรรดานักลงทุนสถาบันมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนีมากขึ้น

 สะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Sentiment) เดือนเมษายน ที่อาจปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 15.1 จุด (ดัชนีสูงกว่า 0 หมายถึง มุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทอ่อนค่าทดสอบแนว 34.50 ก่อนจะกลับมาปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.45 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (8.55 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนต่อเนื่องจากบอนด์ยีลด์ที่ปรับขึ้นรับโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. นี้ หลังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดยังคงย้ำความกังวลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อ และ

ข้อมูลผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กออกมาดีกว่าที่คาด (NY Empire State Manufacturing Index เดือนเม.ย. ขยับขึ้นไปที่ระดับ 10.8 เทียบกับที่ตลาดคาดที่ -18.0)

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.40-34.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามเพิ่มเติม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ/ราคาทองคำในตลาดโลก/สกุลเงินเอเชีย ตัวเลขเศรษฐกิจจีน อาทิ จีดีพีไตรมาส 1/2566 (ตลาดคาดที่ 4% YoY) และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมี.ค. ของจีน รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนมี.ค. ของสหรัฐฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


คึกคักก่อนซีเกมส์!!! “คีริน” ทำลายสถิติประเทศไทย วิ่ง 1,500 เมตรชาย

คีริน ตันติเวทย์ นักกีฬากรีฑาทีมชาติไทย ได้รับเชิญลงทำการแข่งขัน ในรายการ 2023 Bryan Clay โดยลงแข่งในนามทีม Nike Bowerman Track Club ประเภทวิ่ง 1,500 เมตรชาย

ผลปรากฏว่า คีริน เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ของกลุ่มที่ 4 และเวลารวมเป็นอันดับที่ 35 จากทั้งหมด 12 กลุ่ม โดยสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ยืนยันว่า เจ้าตัวทำลายสถิติประเทศไทยด้วยเวลา 3:40.50 นาที โดยสถิติเดิมเป็นของ นาวาอากาศเอกเชือน ศรีจุดานุ เวลา 3:46.16 นาที ทำไว้ที่ประเทศอินโดนีเซีย (กรีฑาชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย) ในปี พ.ศ. 2538

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“ความดันสูง” เพชฌฆาตเงียบ ทำลายหัวใจ-สมอง-ไต-ตา-หลอดเลือด

โรคความดันโลหิตสูง เป็นสาเหตุที่สำคัญต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งภาวะความดันเลือดสูง(มากกว่า 140/90 มม.ปรอท) เป็นอยู่นานและไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เกิดการทำลายอวัยวะสำคัญต่างๆ ในร่างกายได้ เช่น หัวใจ สมอง ไต ตา และหลอดเลือด ส่งผลให้เกิดอันตรายจากภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง อัมพาต โรคไตวาย หรือตาบอดได้

สัญญาณอันตราย ความดันโลหิตสูง

สำหรับในประเทศไทย ปัญหาโรคความดันโลหิตสูงพบมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ และมีแนวโน้มสูงขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ทั้งนี้ ความดันโลหิตสูงในระยะแรกๆ อาจไม่มีอาการ แต่ความผิดปกติที่มักตรวจพบได้ก่อน คือมีหัวใจห้องล่างซ้ายโตหรือมีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ ส่วนอาการที่อาจพบได้กรณีที่ความดันโลหิตสูงมากๆ เช่น เหนื่อยง่าย ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว คลื่นไส้ เป็นต้น ภาวะความดันโลหิตสูง จึงมักได้รับการขนานนามว่าเป็น “เพชฌฆาตเงียบ”

สาเหตุของภาวะความดันโลหิตสูง

สาเหตุเกิดจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ พันธุกรรม อายุ เพศ เชื้อชาติ ภาวะอ้วน หรือนํ้าหนักเกิน ภาวะเครียด ขาดการออกกําลังกาย รับประทานอาหารเค็ม (เกลือโซเดียมมากเกินไป) เช่น กะปิ นํ้าปลา ของหมักดอง กุ้งแห้ง รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อติดมัน หนังสัตว์ ไข่แดง หอยนางรม นํ้ามันหมู อาหารประเภทผัด หรือทอด รับประทานอาหารหวานจัด เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง หม้อแกง นํ้าหวาน สูบบุหรี่จัด ดื่มสุราเป็นประจำ

อันตรายจากความดันโลหิตสูง

ความรุนแรงจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคความดันโลหิตสูง หากไม่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้จะทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะสำคัญ ได้แก่ สมอง หัวใจ หลอดเลือด ตา และไต โดยสังเกตอาการที่เกิดกับอวัยวะต่าง ๆ ดังนี้

  • สมอง จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดหลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือหลอดเลือดในสมองแตก มีเลือดออกในเนื้อสมองส่งผลให้เกิดอัมพาต อัมพฤกษ์ หากพบอาการปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรงต้องรีบมาโรงพยาบาลภายใน 1 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้เสียชีวิตหรือทำให้เลือดออกในสมองรุนแรงได้
  • หัวใจ ความดันโลหิตสูงจะมีผลต่อหัวใจ 2 ทาง คือ ทำให้หัวใจโต และหลอดเลือดหัวใจหนาตัวและแข็งตัวขึ้น เกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน จะมีอาการเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือดหรือหัวใจล้มเหลวเหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้ หัวใจเต้นผิดปกติ ใจสั่น และอาจเสียชีวิต หากมีอาการดังกล่าวแล้วนั่งพัก 3-5 นาที อาการยังไม่ดีขึ้นต้องรีบพบแพทย์ทันที
  • หลอดเลือด ความดันโลหิตสูงจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดทั่วร่างกาย ทำให้หลอดเลือดแดงตีบแคบ หรือหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง อาจเกิดการฉีกขาด เจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง หรือเสียชีวิตเฉียบพลันได้
  • ตา ความดันโลหิตสูงมีผลต่อหลอดเลือดที่ตา เช่น เลือดออกที่จอประสาทตา หลอดเลือดเล็กที่จอประสาทตาอุดตัน หรือจอประสาทตาหลุดลอกออกได้ ทั้งนี้ ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการใดๆ หรืออาจมีอาการตามัว จนถึงตาบอดได้
  • ไต ความดันโลหิตสูงมีผลต่อหลอดเลือดที่ไต ทำให้เลือดไปเลี้ยงไตไม่เพียงพอ ทำให้ไตเสื่อมสมรรถภาพและอาจทำให้เกิดไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยจะมีอาการเริ่มแรกของภาวะไตวายเรื้อรัง คือ ปัสสาวะตอนกลางคืน มากกว่า 3 ครั้งต่อคืน ขาบวมตอนเช้าหลังตื่นนอน มีอาการอ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีแรงจากภาวะซีด มักพบในผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึมลงในผู้ป่วยไตวายระยะท้ายๆ ปัสสาวะมีสีขุ่นและเป็นฟองมาก

วิธีป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตสูงสามารถควบคุมหรือป้องกันให้อยู่ในภาวะปกติได้ด้วย

  1. ควบคุมอาหารที่มีเกลือ (โซเดียม) สูง เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง จึงควรลดการรับประทานอาหารผ่านกระบวนการอาหารสำเร็จรูป อาหารหมักดอง อาหารกระป๋องและอาหารขยะ (junk food) ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น ขนมถุง แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด ไส้กรอก เป็นต้น
  2. ลดอาหารที่มีไขมันและนํ้าตาลสูง เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ที่หวานน้อย เช่น พืชตระกูลถั่ว กล้วย ส้ม แตงโม
  3. ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่
  4. ทำอารมณ์ให้แจ่มใส ไม่เครียด
  5. ออกกําลังกายอย่างสมํ่าเสมอ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


หลักการใช้ Capital Letter ง่ายๆ 5 ข้อ

เวลาเขียนภาษาอังกฤษ เคยสับสนไหมครับว่า เอ…คำนี้ต้องใช้ capital letter (ตัวอักษรใหญ่) ไหมนะ เช่น จะเขียน Mother’s Day หรือ mother’s day ดี  หรือระหว่าง Oxford Street กับ Oxford street เขียนแบบไหนถึงจะถูกต้อง  บทความนี้จะทำให้คุณสับสนมากขึ้น เอ้ย! หายสับสนว่ากรณีไหนบ้างต้องใช้ capital letter กรณีไหนบ้างไม่ต้องใช้

การใช้ capital letter ให้ถูกต้องนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้ใส่ใจเวลาพิมพ์แชทกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว แต่เวลาเขียนจดหมาย บทความ หรืองานเขียนใดๆ ที่เป็นทางการ การใช้ capital letter ที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เราดูไม่เป็นมืออาชีพ หรืออาจทำให้สื่อสารผิดพลาดได้

การใช้ capital letter มีหลักง่ายๆ 5 ข้อ คือ

1. ใช้ capital letter เมื่อขึ้นต้นประโยค

นั่นคือ ตัวอักษรแรกของคำแรกในประโยคจะต้องเป็นตัวอักษรใหญ่ เช่น

  • She watched Game of Thrones with me last night. (เธอดูมหาศึกชิงบัลลังก์กับฉันเมื่อคืนนี้)
  • I met a girl this morning. Her name was Arya. (ฉันพบเด็กสาวคนหนึ่งเมื่อเช้านี้ เธอชื่ออาร์ยา)

แต่สำหรับประโยคที่ตามหลังเครื่องหมาย colon * (:) และ semicolon (;) ไม่ต้องใช้ capital letter เช่น

  • He got what he deserved: he was dumped. (เขาได้รับในสิ่งที่สมควรได้ เขาถูกทิ้ง)
  • Some people write with a pen; others write with a pencil. (บางคนเขียนด้วยปากกา แต่บางคนเขียนด้วยดินสอ)

* ยกเว้นภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ให้ใช้ capital letter เมื่อขึ้นต้นประโยคหลังเครื่องหมาย colon

He got what he deserved: He was dumped.

ข้อยกเว้นอีกข้อคือคำว่า I (ฉัน) ต้องใช้ตัวอักษรใหญ่เท่านั้นไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของประโยค เช่น

Do I know you? (ฉันรู้จักคุณเหรอ)

2. คำนามเฉพาะ (proper noun)

ให้ใช้ capital letter เมื่อเขียนคำนามเฉพาะ  คำนามเฉพาะมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ได้แก่

  • ชื่อ นามสกุล และคำนำหน้าชื่อ เช่น Jon Snow (จอน สโนว์), Mr Potter (คุณพอตเตอร์), Professor Dumbledore (ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์)
  • เดือนและวัน เช่น Sunday (วันอาทิตย์), Friday (วันศุกร์), February (เดือนกุมภาพันธ์), December (เดือนธันวาคม)
  • ฤดู ได้แก่ Spring (ฤดูใบไม้ผลิ), Summer (ฤดูร้อน), Autumn/Fall (ฤดูใบไม้ร่วง), Winter (ฤดูหนาว)
  • วันสำคัญ เช่น Mother’s Day (วันแม่), Christmas (วันคริสต์มาส), New Year’s Day (วันปีใหม่), Valentine’s Day (วันวาเลนไทน์)
  • ชื่อประเทศ เช่น Thailand (ประเทศไทย), England (ประเทศอังกฤษ), Scotland (ประเทศสก็อตแลนด์), France (ประเทศฝรั่งเศส)
  • ชื่อรัฐ ชื่อเมือง และชื่อเขตการปกครองต่างๆ เช่น California (รัฐแคลิฟอร์เนีย), London (กรุงลอนดอน), Edinburgh (กรุงเอดินบะระ), Oxfordshire (มณฑลอ๊อกซฟอร์ดเชอร์)
  • ชื่อแม่น้ำ ทะเล ทะเลสาบ และมหาสมุทร เช่น the Thames (แม่น้ำเทมส์), the Mekong (แม่น้ำโขง), the Pacific (มหาสมุทรแปซิฟิก)
  • ชื่อพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ต่างๆ เช่น the Bosphorus (ช่องแคบบอสฟอรัส), the Himalayas (เทือกเขาหิมาลัย), the Alps (เทือกเขาแอลป์), the Sahara (ทะเลทรายสะฮารา)
  • ชื่อสัญชาติและภาษา เช่น Thai (คนไทย ภาษาไทย), English (คนอังกฤษ ภาษาอังกฤษ), Italian (คนอิตาเลียน ภาษาอิตาเลียน)
  • ชื่อถนน ตึก สวน และสิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น the Empire State Building (ตึกเอ็มไพร์สเตต), Central Park (สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค), the Eiffel Tower (หอไอเฟล)

3. ชื่อเรื่อง เช่น ชื่อหนังสือ ชื่อบทความ

ใช้ตัวอักษรใหญ่ขึ้นต้นคำประเภท noun (คำนาม), verb (คำกริยา), adjective (คำคุณศัพท์), adverb (คำวิเศษณ์), subordinating conjunction (เช่น because, that, as)  แต่ไม่ต้องใช้ตัวอักษรใหญ่ขึ้นต้นคำประเภท article (คำนำหน้านาม ได้แก่ a, and, the), preposition (คำบุพบท เช่น in, on, at),  coordinating conjunction (เช่น for, and, but, or)  ตัวอย่างเช่น

“Harry Potter and the Cursed Child” (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเด็กต้องคำสาป)

จากตัวอย่างจะเห็นว่าทุกคำยกเว้น and และ the ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรใหญ่

อย่างไรก็ตามบทความในปัจจุบันเริ่มนิยมใช้ capital letter แค่คำแรกของชื่อเท่านั้น เช่น “Energy solutions for a sustainable world”

นอกจากนี้ตามปกหนังสือหรือโปสเตอร์ภาพยนตร์ ชื่อเรื่องจะถูกเขียนเป็นตัวอักษรใหญ่ทั้งหมด เช่น “HARRY POTTER AND THE CURSED CHILD” ซึ่งการเขียนแบบนี้ก็ไม่ผิดอะไร  แต่ถ้าเราไปเขียนชื่อเรื่องที่อื่น แนะนำให้เขียนตามหลักการเขียนชื่อเรื่องที่กล่าวมา

4. คำย่อต่างๆ

คำย่อต่างๆ โดยเฉพาะคำย่อชื่อนิยมใช้ capital letter ตัวอย่างเช่น

UN = United Nations (สหประชาชาติ)
NATO = North Atlantic Treaty Organization (องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ)
ASEAN = Association of Southeast Asian Nations (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)

แต่ก็ไม่ใช่ว่าคำย่อทุกคำจะใช้ตัวอักษรใหญ่ ตัวอย่างคำยกเว้น เช่น cm = centimetre/centimeter (เซนติเมตร) หรือบางคำย่อก็ใช้ตัวอักษรใหญ่เพียงบางตัวอักษร เช่น PhD = Doctor of Philosophy (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต หรือผู้ที่ได้รับปริญญาเอก)

5. ใช้เพื่อเน้นคำ

ในกรณีนี้ผู้เขียนจงใจไม่เขียนตามหลักข้างต้นเพื่อเน้นคำ กลุ่มคำ หรือประโยคโดยการเขียนตัวอักษรใหญ่ทั้งหมด เช่น  HELP! (ช่วยด้วย)  STOP! (หยุดนะ)  เมื่อลองเปรียบเทียบกับการเขียนแบบปกติ  Help!  Stop! จะเห็นว่าให้ความรู้สึกต่างกันเวลาอ่าน

การใช้ตัวอักษรใหญ่ทั้งหมดอ่านแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการตะโกน ดังนั้นจึงไม่ควรเขียนตัวอักษรใหญ่ติดกันยาวๆ โดยไม่จำเป็น แบบนี้  I’M SO HAPPY TODAY. I GOT PROMOTED AND WON THE £14 MILLION LOTTERY JACKPOT.  จะเห็นว่าอ่านยากและดูไม่สุภาพ  ทั้งยังอาจทำให้ผู้อ่านรำคาญอีกด้วย

ลองทบทวนหลัก 5 ข้อนี้แล้วเอาไปใช้กันดูครับ จริงๆ แล้วการใช้ capital letter ยังมีหลักยิบย่อยอีกหลายข้อ ดังนั้นเพื่อนๆ ควรจะอ่านข่าวหรือบทความภาษาอังกฤษเยอะๆ และสังเกตว่า capital letter ต้องใช้ในกรณีไหนบ้าง จะได้เขียนได้ถูกต้อง (และคนอ่านไม่แอบบ่นในใจ)

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


อิลอน มัสก์ เผย กำหนดปล่อยยานอวกาศสเปซเอ็กซ์เลื่อนไปสิ้นเดือน เม.ย.

กำหนดการทดสอบปล่อยจรวดนำส่งยานสเปซเอ็กซ์ สตาร์ชิพ ซูเปอร์ เฮฟวี (SpaceX Starship Super Heavy) ของ อิลอน มัสก์ ที่เดิมจะเกิดขึ้นปลายสัปดาห์นี้ ถูกเลื่อนไปเป็นสิ้นเดือนแทนแล้ว ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

บริษัท สเปซเอ็กซ (SpaceX) นั้นวางแผนที่จะพัฒนาให้ยานสตาร์ชิพเป็นระบบขนส่งที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อนำพานักบินอวกาศและสินค้าไปโคจรรอบโลก ดวงจันทร์ ดาวอังคาร หรือดาวดวงอื่น ๆ ต่อไป

ทางบริษัทกำหนดที่จะส่งจรวดส่งยานลำนี้ออกจากฐานปล่อยที่เขต โบกา ชิกา (Boca Chica) ในรัฐเท็กซัส โดยมัสก์ ทวีตข้อความออกมาในวันจันทร์ว่า “การปล่อยสตาร์ชิพนั้นขยับไปราวปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนเมษายน” หลังเพิ่งทวีตข้อความออกมาก่อนหน้านี้ว่า บริษัทพร้อมที่จะทำการปล่อยและ “กำลังรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลอยู่”

ประกาศแผนงานของ องค์การบริหารการบินของรัฐบาลสหรัฐฯ (Federal Aviation Administration – FAA) เมื่อวันที่ 4 เมษายน ระบุว่า ในเบื้องต้นนั้น มีการคาดการว่า การปล่อยยานของสเปซเอ็กซ์จะเกิดขึ้นในวันจันทร์ (ที่ 10 เมษายน) และมีการระบุวันสำรองเป็นวันอังคารและวันพุธของสัปดาห์นี้ด้วย ขณะที่ มัสก์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า ยานสตาร์ชิพจะพร้อมสำหรับการส่งขึ้นอวกาศในสัปดาห์นี้

แต่ในวันจันทร์ FAA ออกประกาศที่มีการปรับเปลี่ยนข้อมูลซึ่งระบุว่า กำหนดการปล่อยยานนั้นน่าจะเป็นวันที่ 17 เมษายนแทนแล้ว

ทั้งนี้ สเปซเอ็กซ์ ยังต้องขอใบอนุญาตปล่อยยานจาก FAA ให้กับฐานปล่อยที่ โบกา ชิกา ซึ่งจะได้ทำการดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดยอุปสรรคสำคัญเดียวที่บริษัทแห่งนี้ต้องข้ามผ่านไปให้ได้ก็คือ การตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ให้ผ่าน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


RICOH พร้อมเปิดตัว เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง รุ่น IP CW2200 ที่มาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มสถาปนิกหรือวิศวกรที่ต้องการเช่าเครื่องพร้อมหมึกตามการใช้งานจริงแบบรายเดือนในงานสถาปนิกนี้

เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง รุ่น IP CW2200 พร้อมตอบโจทย์แก้ไขปัญหาของกลุ่มสถาปนิกและกลุ่มวิศวกรที่บางครั้งอาจไม่ต้องการซื้อเครื่องขาดเพื่อเป็นภาระในการดูและและซ่อมบำรุง ริโก้จึงมีการให้บริการในรูปแบบเช่าเบ็ดเสร็จที่ลูกค้าไม่ต้องดูแลเรื่องของค่าบำรุงรักษาหรือซื้อหมึกเก็บให้สิ้นเปลือง โดยการให้บริการเช่าเบ็ดเสร็จจากริโก้จะทำให้ลูกค้าสามารถจ่ายตามการใช้งานจริงและเก็บเงินหนึ่งรอบต่อเดือนทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายมากขึ้นไม่ต่างจากการที่ลูกค้าต้องไปร้านรับพิมพ์เพื่อพิมพ์แบบอีกต่อไป และที่สำคัญสะดวกมากขึ้นเพราะลูกค้าอยากพิมพ์เมื่อไหร่ก็สามารถสั่งพิมพ์ได้ทันทีไม่เสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายเกินจริง

Contemporary spacious office room interior with city view and daylight. Workplace design concept with carpet floor and office furniture meeting room living area and reception hall white. 3D Rendering

เครื่องพิมพ์หน้ากว้างตัวใหม่จากริโก้นี่มาพร้อมคุณสมบัติที่สามารถพิมพ์ได้ยาวสูงสุดถึง 33 เมตรและมาพร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยี GEL Jet™ ที่ตัวหมึกพิมพ์กันได้ทั้งแสงยูวีและหยดน้ำ ทำให้มั่นใจได้ว่าถึงแม้จะเผลอทำน้ำหกเลอะลงชิ้นงาน แต่งานพิมพ์ของคุณจะยังมีลายเส้นที่คมชัดและสีสันที่ไม่เปลี่ยนไปจากตอนแรก พร้อมด้วยความสามารถในการพิมพ์งานที่สามารถรองรับกระดาษได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น กระดาษขาวธรรมดา กระดาษอาร์ตมัน หรือ Photo Glossy กระดาษไข และฟิล์มเขียนแบบ  (กระดาษสำหรับเครื่อง Plotter/Inkjet เท่านั้นและความหนาไม่เกิน 200 แกรม) ที่สามารถตอบโจทย์การพิมพ์งานแบบแปลน, งาน CAD, งานแบบทางเทคนิค, งานแผนที่, แบบงานก่อสร้าง หรือแม้แต่งานขึ้นแบบผลิตสินค้าก็สามารถพิมพ์ได้อย่างครบครัน

ซึ่งทั้งหมดนี้ทุกท่านสามารถเข้ามาสัมผัสและทดลองใช้งานเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสีของริโก้ได้ที่บูธ L502/4 บริเวณใกล้ๆ INNO-CORNER ที่งานสถาปนิกปี 66 พร้อมกับสัมผัสนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ลงบนผ้าที่ท่านสามารถนำไปต่อยอดเพื่อพิมพ์ของที่ระลึกให้กับลูกค้า หรือแม้แต่เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันที่อาจทำให้คุณต้องเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเครื่องถ่ายเอกสารแบบเดิมๆ ออกไป พิเศษ !! หากท่านมาเยี่ยมชมที่บูธพร้อมแจ้งว่ามาจากการอ่านบทความนี้ท่านจะสามารถรับของที่ระลึกจากริโก้ได้ทันที

หากสนใจสอบถามข้อมูลอื่นๆ หรือต้องการนัดหมายเพื่อเข้าชมเครื่องพิมพ์ของริโก้ สามารถติดต่อกลับมาที่ 02-088-2158 / 02-088-2071 หรือ rththailand@ricoh.co.th

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 18/04/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a32,500.0032,600.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,105.0031,911.8033,100.00
ทองรูปพรรณ 90%1,894.5028,720.62n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,684.0025,529.44n/a
ทองรูปพรรณ 50%947.0014,356.52n/a
ทองรูปพรรณ 40%737.0011,172.92n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,181.0033,063.96n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 18/04/2566



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9537.2537.2537.5437.2537.2537.2537.2537.2537.2537.25
แก๊สโซฮอล์ 9136.9836.9837.2436.9836.9836.9836.9836.9836.9836.98
แก๊สโซฮอล์ E2034.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.9434.94
แก๊สโซฮอล์ E8535.3935.3935.39
เบนซิน 9545.0645.1145.5645.2145.06
ดีเซล B732.9432.9433.4432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซล32.9432.9433.4432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซล B2032.9432.9433.4432.9432.9432.94
ดีเซลพรีเมี่ยม42.0642.1643.7443.6643.6642.06
แก๊ส NGV17.5917.5917.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า