บ้านหรู “พระราม9 – รามคำแหง” ยังฮอต กลุ่มดีเวล ผุด “อาณา” แพงสุด 73 ล้าน
ทำเล “พระราม9 – รามคำแหง” บ้านเดี่ยวหายาก ดีเวล แกรนด์ แอสเสท ร่วมทุน กลุ่มเศรษฐีวรรณ ปั้นโครงการใหม่ เปิดตัว “อาณา พระรามเก้า” มูลค่า 400 ล้าน แค่ 8 ยูนิต ขายแพงสุด 73 ล้าน คาดไม่ถึงปีปิดการขายได้
20 เมษายน 2566 – บริษัท ดีเวล แกรนด์ แอสเสท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ อาณา เอกมัย , ไอเรส พระรามเก้า , ดีมูระ พหลฯ-เกษตร และอีกหลายโครงการ ประกาศปักหมุดแลนด์มาร์ค ใหม่บน ทำเลพระราม 9 – รามคำแหง เปิดตัวโครงการ “อาณา พระรามเก้า” (ARNA RAMA 9) บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท ด้วยราคา 39.9 – 73 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในสิ้นปี 2566 นี้
ปั้นโครงการอาณา พระรามเก้า มูลค่า 400 ล้านบาท รับทำเลเปลี่ยนโฉม
นายถวนันท์ ธเนศเดชสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเวล แกรนด์ แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า โครงการอาณา พระรามเก้า (ARNA RAMA 9) คือบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง “ดีเวล แกรนด์ แอสเสท” และ “กลุ่มเศรษฐีวรรณ” ด้วยวิสัยทัศน์การดำเนินงานที่ต้องการตอบโจทย์ของลูกค้าในแต่ละเซกเม้นท์ โดยเฉพาะกลุ่มลักชัวรี่ที่กำลังมองหาความเป็นส่วนตัว (Private) ในการอยู่อาศัย
จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการฯ ภายใต้แนวคิด “Private Home, for Private One บ้านที่เข้าใจคนโลก(ความสุข)ส่วนตัวสูง” ด้วยจำนวนเพียง 8 ครอบครัวเท่านั้น บนทำเลศักยภาพที่แฝงไว้ด้วยความเงียบสงบ พระราม 9 ซอย 39 แต่สามารถเชื่อมต่อใจกลางเมืองเพียง 15 นาทีถึงทองหล่อ – เอกมัย เน้นชูคอนเซ็ปต์ “MY CURATED SANCTUARY” พร้อมการตกแต่งสไตล์ Modern Italian Design มีความคลาสสิก ความร่วมสมัย เหนือกาลเวลา (Timeless) สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้พักอาศัยในราคาเริ่มต้น 39.9 – 73 ล้านบาท
“อาณา พระรามเก้า ตั้งอยู่บนทำเลพระราม 9 – รามคำแหง ซึ่งทำเลนี้ในแง่ของซัพพลายที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยเฉพาะประเภทบ้านเดี่ยวนั้นค่อนข้างหายาก เนื่องจากข้อจำกัดของที่ดิน ในขณะที่ความต้องการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ยังคงมีอยู่ เนื่องจากศักยภาพของทำเลที่เชื่อมต่ออย่างสะดวกถึงย่านไลฟ์สไตล์สุขุมวิทและโรงเรียนนานาชาติชั้นนำอีกมากมาย เช่น Shrewsbury City Campus อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ต่างจากย่าน ใจกลางเมือง รวมถึงระบบขนส่งมวลชน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าให้ทำเลนี้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจแห่งใหม่อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต”
เจาะกำลังซื้อ ลูกค้าคนรุ่นใหม่ – ครอบครัวขยาย มีไลฟ์สไตล์เฉพาะ
อาณา พระรามเก้า บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “MY CURATED SANCTUARY” ที่มองที่อยู่อาศัยเป็นเหมือนสถานที่สงบ หลีกหนีจากความวุ่นวาย และแนวคิด “Private Home, For Private One บ้านที่เข้าใจคนโลก(ความสุข)ส่วนตัวสูง” มีจำนวน 8 ยูนิต บนพื้นที่โครงการรวม 1 – 1 – 64 ไร่ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท โดดเด่นด้วยที่ตั้งบนทำเลพระราม 9 ซอย 39 ที่สามารถเชื่อมต่อถนนพระราม 9, รามคำแหง, เอกมัย, ทองหล่อ, สุขุมวิท ใกล้จุดขึ้น – ลงทางด่วนพิเศษศรีรัชและทางด่วนพิเศษฉลองรัช และใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีรามคำแหง 12 อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยร้านอาหาร, แหล่งชอปปิง, สถานศึกษาชื่อดัง, โรงพยาบาลชั้นนำ เป็นต้น
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาด นายถวนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้บริษัทฯ มีการวางเซกเม้นท์ที่ชัดเจน เราเห็นคาแรคเตอร์ของลูกค้ามีที่เอกลักษณ์เฉพาะตัว ชอบอยู่แบบ Small community ชอบการออกแบบที่มีรายละเอียด และมีพื้นที่ใช้สอยมากพอที่จะสามารถปรับการใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงการบริการหลังการขายที่ใกล้ชิด
โดยมองกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ, กลุ่มที่ต้องการขยายครอบครัว และกลุ่มคนที่มองหาทรัพย์สินที่มีคุณค่า ดังนั้นเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวที่ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน บริษัทฯ เน้นสร้างการรับรู้ผ่านสื่อออนไลน์ทั้ง Website, Facebook, IG โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2566 อย่างแน่นอน
ARNA RAMA 9 ก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาสแรกปี 2567
แบบบ้านมีให้เลือกทั้งหมด 2 Type ได้แก่ Type A จำนวน 5 ยูนิต ที่ดินขนาด 44.20 – 45.60 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 515 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ, Type B จำนวน 3 ยูนิต ที่ดินขนาด 56.40 – 56.80 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 611 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ลิฟท์และสระว่ายน้ำส่วนตัว ยาว 10 เมตร พร้อมระบบน้ำแร่ Ionizer เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กับคุณสมบัติพิเศษไม่ระคายเคืองดวงตาและผิวหนัง โดยทุกยูนิตเป็นแบบ Fully Fitted อีกทั้งที่จอดรถรองรับระบบ EV Charger
ด้านแลนด์สเคปภายในโครงการฯ โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวกับบรรยากาศธรรมชาติอันร่มรื่น โดยมีการวางผังเพื่อเก็บรักษาต้นจามจุรีอายุกว่า 50 ปี ให้เป็น Signature Greenery ของโครงการฯ และคงไว้ซึ่งเสน่ห์ดั่งเดิมของทำเลแห่งนี้ ปลอดภัยด้วยระบบกล้องวงจรปิดและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง โดยเริ่มก่อสร้างเไตรมาส 2 ปี 2565 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 1 ปี 2567
ตัวบ้านได้รับการออกแบบสไตล์ “Modern Italian Design” ที่มีการผสมสานความคลาสสิกและความร่วมสมัยเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน มีเอกลักษณ์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา เหนือกาลเวลา สะท้อนตัวตนของผู้พักอาศัย มีการวาง Space layout ให้ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงรายละเอียดของการออกแบบที่สามารถ ตอบโจทย์ Pain point ของการอยู่อาศัย ในขณะที่ฟังก์ชันภายในบ้านถูกออกเป็น 3 ชั้น พิเศษกับความสูงเพดาน 3 – 3.6 เมตร ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย พร้อมรับแสงธรรมชาติและเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน
เพิ่ม Well-being ทุกหลังด้วยระบบเทคโนโลยี nanoe™ X ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากพลังของอนุมูลไฮดรอกซิลในการยับยั้งเชื้อไวรัสเกาะแน่น เชื้อไวรัสในอากาศ มลพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะได้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสบางชนิดได้ มาพร้อม Rooftop Garden พื้นที่อเนกประสงค์บริเวณดาดฟ้า ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ อาทิ ฟิตเนสส่วนตัว หรือสวนลอยฟ้าที่สามารถมองวิว แบบพาโนรามา ฯลฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“เดอะ เกรท รูม” Co-Working พรีเมียม ปักหมุด โครงการดัง “พาร์ค สีลม” ดีเดย์ ส.ค.
“เดอะ เกรท รูม” Co-Working Space ระดับพรีเมียม เปิดพื้นที่ในโครงการดัง พาร์ค สีลม ปักหมุดให้บริการออฟฟิศแบบยืดหยุ่น ชั้น 29 และ 30 รวม 780 ตารางเมตร เป็นสาขาที่ 2 ใน กทม.
20 เมษายน 2566 – เดอะ เกรท รูม โคเวิร์กกิ้งสเปซระดับพรีเมียม ภายใต้การดูแลของ บริษัท Industrious โดยมีสาขากว่า 150 แห่งทั่วโลก ในเอเชียแปซิฟิก สหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งใน 500 บริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในอเมริกาในปี 2020 โดยนิตยสาร Inc. กำลังจะเปิดสาขาใหม่ ในชื่อ เดอะ เกรท รูม พาร์ค สีลม ช่วง สิงหาคม ปี 2566 นี้
โดยนับเป็นสาขาที่ 2 ในกรุงเทพ ต่อจาก อาคารเกษร ทาวเวอร์ ผ่านความร่วมมือกับเจ้าของโครงการ บริษัท นายณ์ แอนด์ อาร์จีพี ดีเวลลอปเม้นท์ จำากัด เจ้าของ โครงการพาร์ค สีลม ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางถนนสีลม เชื่อมต่อโดยตรงกับรถไฟฟ้าสถานีศาลาแดง (BTS) และรถไฟใต้ดินสถานีสีลม (MRT) ด้วยสกายวอล์ค โดยโครงการแห่งนี้ ถือเป็นโครงการที่ได้พัฒนาขึ้นใหม่แห่งแรกบนถนนสีลมนับตั้งแต่ปี 1990 อีกด้วย
เดอะ เกรท รูม Co-Working ใหม่ ในโครงการ พาร์คสีลม
ตามข้อมูล เดอะ เกรท รูม จะตั้งอยู่บนชั้นที่ 29 และ 30 ของโครงการพาร์ค สีลม ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถ เข้าถึงศูนย์ดูแลสุขภาพ ร้านอาหาร และร้านค้าได้ในอาคารเดียวกัน และด้วยพื้นที่กว่า 3,500 ตารางเมตรของ เดอะ เกรท รูม ในโครงการพาร์คสีลม ทำให้ที่นี่เป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่มีการให้บริการพื้นที่สวนลอยฟ้า
อีกทั้งยังมีพื้นที่ออฟฟิศส่วนตัวถึง 59 ห้อง มีบริการโต๊ะทำงานหลากหลายรูปแบบ และพื้นที่ห้องทำงานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละองค์กร พร้อมด้วยการออกแบบที่ทันสมัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน อีกทั้งยังเปิดรับแสงธรรมชาติ เพื่อสร้างประสิทธิภาพสูงสุดให้กับการทำงานในแต่ละวัน
Jaelle Ang ประธานบริหารของเดอะ เกรท รูม กล่าวว่า “จากความสำเร็จของเดอะ เกรทรูม สาขาแรกในกรุงเทพฯ ที่อาคารเกษร ทาวเวอร์ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะขยายสาขาใหม่เป็นสาขาที่ 2 ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มประสบการณ์ของการทำงานร่วมกัน ให้กลายเป็นศูนย์รวมของการเรียนรู้ และการสร้างเครือข่ายทางสังคม future of work เป็นเทรนด์ที่คนต่างให้ความสนใจ แต่พื้นที่การทำงานในปัจจุบันก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งจะต้องมีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการทำงาน เข้าถึงง่าย มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน รองรับทุกรูปแบบของการทำงาน และมีการออกแบบที่ทันสมัยและสวยงาม เพื่อส่งเสริมแรงบันดาลใจ และการมีส่วนร่วม รวมถึงการเป็นจุดศูนย์กลางที่จะเชื่อมโยงการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
นอกจากนี้เดอะ เกรท รูม ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทีมบริหารพื้นที่โคเวิร์กกิ้งสเปซชั้น 29 ในโครงการพาร์ค สีลม เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เช่าอาคารทุกคนของโครงการ มีการให้บริการห้องรับรอง ห้องประชุม และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ เดอะ เกรท รูม พร้อมพื้นที่สวยงามมองเห็นวิวทิวทัศน์กรุงเทพฯ สวนลุมพินี แม่น้ำเจ้าพระยา และสถานที่สำคัญต่างๆ ของกรุงเทพฯ
รวมถึงการเข้าใช้บริการสวนลอยฟ้าสุดพิเศษ เดอะ เกรท รูมที่โครงการพาร์ค สีลม มีพื้นที่สำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ครอบคลุมกว่า 780 ตารางเมตร รวมถึงมีห้องประชุมให้เลือกหลากหลาย ห้องโถงรับรอง และพื้นที่สำหรับการประชุม ทาวน์ฮอลล์ การฝึกอบรมและกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับผู้เช่าและคนในชุมชนถนนสีลมในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
10 สาขา ใน 3 ประเทศ
นาย สุธี ลิมปนชัยพรกุล ประธานบริหารบริษัท นายณ์ แอนด์ อาร์จีพี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “เราภูมิใจที่จะได้ร่วมงานกับเดอะ เกรท รูม ในการสร้างโคเวิร์กกิ้งสเปซระดับพรีเมียมบนพื้นที่ของพาร์ค สีลม โดยโครงการพาร์ค สีลมจะเป็นพื้นที่ที่จะนำเสนอประสบการณ์การทำงาน รูปแบบใหม่ให้กับผู้เช่าอาคาร และจากแนวคิด ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของเดอะ เกรท รูม เอง เรามีความเชื่อมั่นว่าความเชี่ยวชาญของพวกเขาในการออกแบบพื้นที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน เชื่อมต่อปฏิสัมพันธ์ของผู้คน ทั้งในด้านขององค์ความรู้และโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงเชื่อมต่อการทำงานทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดี พื้นที่แห่งนี้จะไม่เป็นเพียงพื้นที่ของการทำงานเท่านั้น แต่มันคือประสบการณ์ และคุณค่าที่เราเพิ่มเข้าไปในพื้นที่ให้แก่ผู้เช่าและคนในชุมชนสีลม”
พาร์ค สีลม ออกแบบภายใต้มาตรฐานระดับสากล LEED และ WELL พร้อมเป้าหมายรับรางวัลระดับ Gold โดยมาตรฐาน LEED คือการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้างไปจนถึงตลอดการใช้งานของอาคาร และมาตรฐาน WELL คือการดูแลสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร เพื่อให้มีอากาศภายในอาคารที่ดีป้องกันมลพิษทางอากาศ ระบบปรับอากาศสำหรับการจัดการอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ระบบปรับแสงสว่างในพื้นที่ทำงานแบบอัตโนมัติ ระบบน้ำดื่มที่สะอาดปราศจากสารตะกั่ว และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าอาคาร
เดอะ เกรท รูม เปิดให้บริการในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2561 โดยมีสาขาแรกอยู่ที่อาคาร เกษร ทาวเวอร์ และสาขา 2 ที่อาคารพาร์ค สีลม ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2566 นี้ โดย เดอะ เกรท รูม เริ่มให้บริการด้านโคเวิร์กกิ้งสเปซแห่งแรกที่ประเทศสิงคโปร์ และต่อมาทางบริษัท Industrious ได้เข้าซื้อกิจการของ เดอะ เกรท รูม ในปี 2565 เพื่อเสริมสร้างแบรนด์และขับเคลื่อน เดอะ เกรท รูม ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดเดอะ เกรท รูม ได้มีการเปิดสาขา 6 ที่ประเทศสิงคโปร์ และจากการเพิ่มสาขาในกรุงเทพฯ ที่โครงการพาร์ค สีลม ทำให้ปัจจุบันเดอะ เกรท รูม มีทั้งหมด 10 สาขา ใน 3 เมืองหลักอย่างสิงคโปร์ กรุงเทพฯ และฮ่องกง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“รัชนก” ถอนศึกชิงแชมป์เอเชีย เพื่อเตรียมร่างกายหลังจากหายป่วย หวังฟิตให้ทัน ศึกสุธีรมานคัพ
“รัชนก” ถอนศึกชิงแชมป์เอเชีย เพื่อเตรียมร่างกายหลังจากหายป่วย หวังฟิตให้ทัน ศึกสุธีรมานคัพ
“เมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาวไทยมืออันดับ 8 ของโลก ประกาศถอนตัว การแข่งขันศึกชิงแชมป์เอเชียระหว่างวันที่ 25-30 เมษายน 66 เนื่องจากต้องการเวลาในการเตรียมร่างกายหลังหายป่วย และเวลาฟิตให้ทันศึกสุธีรมานคัพ 14 พฤษภาคมนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“ปวดสะโพก” อันตรายหรือไม่ บรรเทาอาการได้อย่างไร?
หลายท่านอาจเคยประสบกับปัญหาการ ปวดสะโพก กันมาบ้าง ซึ่งอาการดังกล่าวมักเกิดจากการทำกิจกรรมที่ต้องมีการใช้งานช่วงข้อต่อและกล้ามเนื้อสะโพกมากเป็นพิเศษ จึงส่งผลให้เกิดอาการปวดสะโพกตามมาได้ แต่ อาการปวดสะโพก ยังสามารถเกิดจากสาเหตุอื่นได้อีกหรือไม่ แล้วอาการปวดสะโพกนั้นเป็นอันตรายหรือเปล่า เราไปหาคำตอบไปพร้อมๆกันได้ที่บทความนี้เลยค่ะ จาก Hello คุณหมอ
ทำไมถึงมีอาการ ปวดสะโพก
อาการปวดสะโพก เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะหากมีการทำกิจกรรมหรือการใช้งานบริเวณสะโพกหรือช่วงขา อาจก่อให้เกิดความเมื่อยล้า เกิดอาการตึง หรืออักเสบที่บริเวณกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และข้อต่อสะโพก ซึ่งจะทำให้รู้สึกปวดสะโพกได้ อย่างไรก็ตาม อาการปวดสะโพก ยังสามารถเกิดจากอาการทางสุขภาพต่างๆ ด้วยเช่นกัน ได้แก่
- โรคที่เกี่ยวกับไขข้อหรือโรคข้ออักเสบชนิดต่างๆ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุมักจะพบโรคดังกล่าวได้ง่าย อาการเกี่ยวกับไขข้อจะส่งผลให้เกิดการอักเสบที่บริเวณข้อต่อและกระดูกอ่อนของสะโพก จึงทำให้รู้สึกเจ็บปวดที่สะโพก
- กระดูกสะโพกหัก เมื่ออายุมากขึ้นกระดูกก็จะเริ่มอ่อนแอลง ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะกระดูกเปราะ แตก หรือหักได้ ซึ่งหากเกิดอาการกระดูกสะโพกแตกหรือร้าว ก็จะมีผลทำให้รู้สึกปวดสะโพก
- อาการบวมอักเสบของข้อต่อ บริเวณข้อต่อของคนเราจะมีถุงเบอร์ซา (bursa) เล็กๆ ทำหน้าที่ในการหล่อลื่นและลดแรงเสียดทานของเนื้อเยื่อบริเวณข้อต่อ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ถุงเบอร์ซานี้เกิดการอักเสบขึ้น ก็จะมีผลทำให้เกิด อาการปวดสะโพก
- เอ็นอักเสบ เส้นเอ็นเป็นแถบเนื้อเยื่อที่มีความหนา ทำหน้าที่สำคัญในการยึดกระดูกกับกล้ามเนื้อไว้ด้วยกัน แต่เมื่อเส้นเอ็นเกิดอาการตึงหรืออักเสบ ก็จะสร้างความเจ็บปวดที่บริเวณนั้นๆ ได้
- อาการตึงของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น กิจกรรมบางอย่างอาจมีการใช้งานหรือเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อกับเส้นเอ็นที่รองรับสะโพกมากจนก่อให้เกิดอาการตึงที่บริเวณเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ซึ่งถ้าหากเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อตึงมากจนเกิดเป็นอาการอักเสบ ก็จะมีผลทำให้เกิดอาการปวดที่สะโพกได้
- อาการสะโพกฉีก การฉีกขาดของกระดูกอ่อนที่มีลักษณะเป็นวง หรือที่เรียกว่า ลาบรัม (labrum) ที่บริเวณของข้อต่อสะโพก จะก่อให้เกิดอาการปวดที่สะโพก เนื่องมาจากการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณข้อต่อของสะโพกมากเกินไปจนเกิดอาการฉีกขาดของกระดูกอ่อน
- โรคมะเร็ง แม้จะพบได้ไม่บ่อยนัก แต่โรคมะเร็งก็สามารถส่งผลให้เกิดอาการปวดสะโพกได้ โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่มีเนื้องอกในกระดูก
- ภาวะหัวกระดูกข้อสะโพกตายจากการขาดเลือด (Avascular necrosis) หากเลือดไหลลงไปที่กระดูกสะโพกช้าจะมีผลทำให้เนื้อเยื่อบริเวณข้อต่อสะโพกตาย และส่งผลกระทบต่อข้อต่อส่วนอื่นๆ ด้วย
อาการปวดสะโพกอันตรายหรือเปล่า
หากอาการปวดสะโพก เกิดจากความเมื่อยล้าในการทำงานหรือกิจกรรม การบรรเทาอาการปวดสะโพกด้วยตนเองที่บ้าน สามารถช่วยให้อาการดีขึ้นได้ แต่หากสาเหตุของอาการปวดสะโพกเกิดจากอาการทางสุขภาพต่างๆ เช่น โรคไขข้อ เส้นเอ็นอักเสบ สะโพกฉีก ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่น่าเป็นกังวล ซึ่งจำเป็นที่จะต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาทางการแพทย์กับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ
วิธีบรรเทาอาการปวดสะโพกเองที่บ้าน
- หากมีอาการปวดสะโพก ให้พยายามลดการเคลื่อนไหวที่จะทำให้เกิดการงอ หรือเกิดแรงกดทับที่สะโพก พยายามนอนตะแคง หรือหลีกเลี่ยงการนั่งอยู่กับที่นานๆ
- ยาบรรเทาอาการปวดบางชนิด สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดให้ดีขึ้นตามลำดับได้ เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) อะเซตามีโนเฟน (Acetaminophen) การประคบร้อนหรือการประคบเย็น
- การประคบสะโพกในบริเวณที่มีอาการปวดด้วยน้ำแข็ง น้ำเย็น การอาบหรือการแช่น้ำอุ่นสามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อ มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดสะโพกได้
เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ
หากการบรรเทาอาการปวดด้วยตนเองแล้วยังไม่ดีขึ้น อาการปวดสะโพก ของคุณอาจไม่ได้มาจากความเมื่อยล้าในการทำงานหรือทำกิจกรรม แต่อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ต้องได้รับการวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ หรือหากเกิดอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบคุณหมอทันที
- ข้อต่อผิดรูป
- ไม่สามารถขยับขาหรือสะโพกข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างได้
- ขาไม่สามารถรับน้ำหนักได้
- มีอาการปวดอย่างรุนแรง
- เกิดอาการบวมชนิดเฉียบพลัน
- มีสัญญาณที่อาจหมายถึงการติดเชื้อ เช่น บวมแดง มีไข้ หนาวสั่น เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ขาแดนซ์อังกฤษเปิดใจให้ ‘ดีเจปัญญาประดิษฐ์’
ทุกวันนี้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก และคืบคลานเข้ามาในทุกสาขาอาชีพกันแล้ว ล่าสุดเป็นคราวของอาชีพดีเจ ซึ่งขาแดนซ์อังกฤษให้การตอบรับที่ดีกับแนวเพลงที่ดีเจ AI ได้สร้างท่วงทำนองขึ้นมา
ChatGPT ระบบซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ในรูปแบบแชตบอตแบบข้อความที่พัฒนาโดย OpenAI ที่สามารถร่างข้อความ บทกลอน หรือแม้แต่เขียนรหัสคอมพิวเตอร์ตามคำสั่ง ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในวงการเทคโนโลยี ได้กระตุ้นนักลงทุนในการเทเงินให้กับบรรดาบริษัทสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามและสร้างความฮือฮาในหลาย ๆ วงการในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
The Glove That Fits ไนต์คลับแห่งหนึ่งที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงลอนดอน เป็นหนึ่งในบาร์แห่งแรกที่ทดลองใช้ระบบ AI ในการสร้างสร้างท่วงทำนอง โดย George Pinnegar ซึ่งเป็นผู้โปรโมทเทคโนโลยีนี้กล่าวกับรอยเตอร์ว่าเราอาจใช้ AI สร้างเสียงเพลงที่ไพเราะและเราสามารถเล่นเพลงนั้นให้ผู้คนฟังได้
Mubert แอปฯ ที่สร้างขึ้นโดยทีมนักพัฒนาชาวยูเครนและรัสเซีย ในการขับเคลื่อนจังหวะเพลงเทคโนและเสียงกลองในยามค่ำคืน โดยใช้ตัวอย่างที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อสร้างแทร็กใหม่ล่าสุด ผู้ใช้แอพฯ นี้สามารถกดชอบหรือไม่ชอบเพลงที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา และแอพฯ ก็จะปรับเสียงดนตรีให้ดีขึ้น
ในขณะเดียวกัน นักดนตรีที่สร้างตัวอย่างเสียงเพลงขึ้นมา ก็จะได้รับส่วนแบ่งเมื่อเสียงเพลงของพวกเขาถูกใช้งาน
สำหรับ Paul Zgordan ซีอีโอของ Mubert วัย 35 ปีซึ่งเป็นทั้งดีเจและนักดนตรีด้วย มองว่าการใช้งานระบบ AI ที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลให้นักดนตรีบางคนตกงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขากล่าวกับรอยเตอร์ว่า “เราต้องการที่จะรักษางานของนักดนตรี แต่ด้วยวิธีของเราเอง” นั่นก็คือการให้โอกาสนักดนตรีเหล่านั้นในการสร้างรายได้ด้วยระบบ AI เพื่อเป็นการสร้างงานใหม่ให้กับบรรดานักดนตรี
อย่างไรก็ดี บูทดีเจที่ The Glove That Fits คลับ ซึ่งมักเป็นจุดสนใจของงานปาร์ตี้จะว่างเปล่า ในการทดลองเพื่อดูว่าบรรดานักเที่ยวนักดื่มจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อดีเจระบบ AI กันบ้าง
และภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในยามค่ำคืน นักเที่ยวเหล่านั้นก็สามารถลงความเห็นได้
Rose Cuthbertson นักศึกษาปริญญาโทด้านระบบ AI วัย 24 ปีกล่าวว่า ดีเจระบบ AI น่าจะมีความซับซ้อนกว่านี้ได้ และว่า AI ควรจะมีแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่อาจทำให้ดนตรีมีความน่าสนใจมากขึ้น แต่ก็ยังสนุกที่จะเต้นตามได้
ส่วน Pietro Capece Galeota โปรแกรมเมอร์อายุ 26 ปี หลังจากที่หยุดพักจากการเต้น เขาให้ความเห็นว่า “ดีเจ AI ทำงานได้ดีทีเดียว”
แต่สำหรับ Zgordan แล้วยังมีงานที่ต้องทำอีกมากหากต้องการให้ Mubert มีฟังก์ชันการทำงานที่คล้ายคลึงกับ ChatGPT
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ทำไม? บางคนดื่ม “กาแฟ” แล้ว “ท้องเสีย”
หลายคนอาจจะเคยสังเกตว่าผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก หรือยาระบายถ่ายท้องสำหรับคนที่มีอาการท้องผูก มักมาในรูปแบบของกาแฟสำเร็จรูป บางคนบอกว่าดื่มกาแฟยังไงก็ต้องถ่ายอยู่แล้ว แค่กาแฟธรรมดานี่แหละ ไม่ต้องใส่สมุนไพรมะขามแขกหรืออะไรทั้งนั้น แต่กับบางคนก็ดื่มกาแฟแล้วไม่มีอาการอะไรใดๆ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์ หรือหมอแมว เจ้าของเฟซบุ๊คเพจ ความรู้สนุกๆ แบบหมอแมว อธิบายว่า
“กาแฟ และคาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นตัวรับมัสคารินิก กระตุ้นให้ลำไส้เกิดการบีบตัว นอกจากนี้การดื่มน้ำ (กาแฟ) ในปริมาณมาก (3 แก้วขึ้นไป) ก็ทำให้กระเพาะยืดตัว กระตุ้นแกสโตรโคลิกรีเฟล็กซ์ ซึ่งนำไปสู่การถ่ายอย่างหมดไส้หมดพุงได้”
แต่อย่างไรก็ตาม กรณีนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเป็นคนที่ไม่เคยดื่มกาแฟมาก่อน หรือนานๆ ดื่มกาแฟที ไม่ได้ดื่มกาแฟเป็นประจำ ดังนั้นใครที่รู้ตัวว่าไม่ค่อยได้ดื่มกาแฟ ก็อย่าดื่มกาแฟเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่ออาการท้องเสียแล้ว ยังอาจโดนฤทธิ์ของคาเฟอีนเข้าไปได้ (ในบางราย) เช่น ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ วิตกกังวล ปวดศีรษะ หรือบางคนอาจจะแพ้คาเฟอีน เช่น ริมฝีปาก หรือลิ้นบวม ผื่นขึ้น หากมีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นหน้าบวม หายใจไม่ออก คลื่นไส้อาเจียน และเวียนศีรษะได้เช่นกัน
ดังนั้น เคล็ดลับสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ดื่มกาแฟ แต่อยากดื่มเพื่อแก้ง่วง หรืออยากดื่มเพื่อลิ้มรสชาติ ควรเลือกดื่มกาแฟในสูตรที่ไม่เข้มข้นมาก อาจจะเริ่มจากกาแฟลาเต้ มอคค่า หรือสั่งบาริสต้าให้ลดปริมาณกาแฟลง และอย่าดื่มเกิน 1 แก้วในครั้งเดียว ตลอดทั้งวันไม่ดื่มเกิน 3 แก้ว (แก้วกาแฟ) ค่อยๆ จิบทีละนิด ไม่ดื่มรวดเดียวหมด หรือจะหาอาหารทานระหว่างดื่มกาแฟไปด้วยก็ได้ จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมคาเฟอีนช้าลง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 21/04/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 32,450.00 | 32,550.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,102.00 | 31,866.32 | 33,050.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,891.80 | 28,679.69 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,681.60 | 25,493.06 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 946.00 | 14,341.36 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 736.00 | 11,157.76 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,178.00 | 33,018.48 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 21/04/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 36.85 | 36.85 | 37.34 | 36.85 | 36.85 | 36.85 | 36.85 | 36.85 | 36.85 | 36.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 36.58 | 36.58 | 37.04 | 36.58 | 36.58 | 36.58 | 36.58 | 36.58 | 36.58 | 36.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 34.54 | 34.54 | 34.74 | 34.54 | 34.54 | – | 34.54 | 34.54 | 34.54 | 34.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 34.99 | 34.99 | – | – | – | – | – | – | – | 34.99 |
เบนซิน 95 | 44.66 | – | – | – | 44.71 | – | 45.16 | 44.81 | – | 44.66 |
ดีเซล B7 | 32.94 | 32.94 | 33.44 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 |
ดีเซล | 32.94 | 32.94 | 33.44 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 |
ดีเซล B20 | 32.94 | 32.94 | 33.44 | – | 32.94 | – | 32.94 | – | – | 32.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 42.06 | 42.16 | 43.74 | 43.66 | 43.66 | – | – | – | – | 42.06 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |