สาระน่ารู้ประจำวันที่ 24 เมษายน 2566

สิ่งที่ควรรู้! ก่อนซื้อ”คอนโด”ปล่อยเช่า

นักลงทุนมือใหม่ สิ่งที่ควรรู้! ก่อนซื้อคอนโดปล่อยเช่า ด้านดีสร้างผลตอบแทนระยะยาว กลับกันควรตรวจสอบความเสี่ยงรอบด้านก่อนลงทุน

การสร้าง Passive Income ถือเป็นหัวใจหลักในการสร้างความมั่นคงในระยะยาวให้กับนักลงทุน ซึ่งการลงทุนคอนโด หรือการ ซื้อคอนโด ปล่อยเช่านั้น ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะนอกจากจะมีรายได้เข้ามาแบบต่อเนื่องในทุกๆ เดือน โดยที่ไม่ต้องออกแรงแล้ว ยังมีโอกาสในการขายทรัพย์สินเพื่อทำกำไรในระยะยาวได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ มีด้านดีต้องมีด้านที่ควรตรวจสอบ

ดังนั้น  ก่อนที่จะลงทุนใดๆ  นอกจากการคำนวณถึงสิ่งที่เราจะได้รับจากการลงทุนแล้ว ควรมีการศึกษาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการลงทุนด้วย โดยเฉพาะการลงทุนที่ใช้เงินก้อนใหญ่เช่นการซื้อคอนโดปล่อยเช่า เพื่อที่เราจะได้วางแผนรับมือกับอุปสรรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างการลงทุน

ความเสี่ยงในการหาผู้เช่าไม่ได้

ปัญหาใหญ่ที่สุดของการลงทุนคอนโดเพื่อปล่อยเช่า เพราะรายได้หลักของการปล่อยเช่าคอนโดก็คือการได้รับค่าเช่านั่นเอง ยิ่งถ้าผู้ลงทุนทำการกู้ยืมธนาคารมาเพื่อซื้อคอนโดแล้ว การไม่มีผู้เช่าอาจทำให้เกิดการขาดสภาพคล่องทางการเงินได้ เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาดังกล่าว ควรเลือกซื้อคอนโดที่อยู่ในทำเลที่ดี สามารถหาผู้เช่าทดแทนได้รวดเร็ว และทำการศึกษาว่าคอนโดที่เรากำลังสนใจอยู่นั้น มีกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการอยู่หรือไม่ สามารถปล่อยเช่าได้ในราคาที่หวังหรือเปล่า ยิ่งมีข้อมูลครบถ้วนมากเท่าไหร่ก็จะสามารถลดความเสี่ยงลงได้มากเท่านั้น

ความเสี่ยงจากโครงการ

การเลือกโครงการซึ่งพัฒนาโดยบริษัทอสังหาฯขนาดเล็ก อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น จ่ายเงินดาวน์แล้วแต่ไม่ขึ้นโครงการ ปล่อยให้ลูกค้าค้างเติ่งจนต้องเสียเวลารวมตัวกันฟ้องร้องค่าเสียหาย หรือ ไม่ได้มาตรฐานในการก่อสร้าง ดังนั้นทางที่ดี ควรเลือกซื้อคอนโดจากแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ เพราะนอกจากจะลดปัญหาดังกล่าวแล้ว ยังหาผู้เช่าได้ง่ายกว่าอีกด้วย

ความเสี่ยงจากนักลงทุน

ในยุคที่หลายๆ คนผันตัวมาเป็นนักลงทุน เราจึงต้องคำนวณถึงความเสี่ยงที่มาจากคู่แข่งด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการตัดราคา ดังนั้นควรหมั่นหาความรู้ใส่ตัว สร้างจุดต่าง หาจุดขายให้กับห้องที่เรามีอยู่ เรียนรู้วิธีการหาลูกค้าจากช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางสื่อออนไลน์ หรือ เอเจนซี่ เพื่อให้มั่นใจว่าเรามีข้อได้เปรียบคู่แข่งอยู่เสมอ

ความเสี่ยงจากที่อยู่รอบข้าง

ก่อนทำการซื้อคอนโด ควรทำการสำรวจพื้นที่รอบข้างโครงการ เพราะอาจเกิดปัญหาตามมาเช่น เราอาจซื้อคอนโดเพราะมีจุดขายที่วิวสวย แต่อีกไม่นานวิวก็ถูกบดบังโดยอาคารข้างๆ ทำให้ห้องเสียจุดขาย แถมยังลดความเป็นส่วนตัวลงไปอีกด้วย ดังนั้นก่อนซื้อจึงควรสังเกตว่ามีโครงการที่กำลังจะขึ้นอยู่รอบๆ หรือไม่ ในบางกรณีก็อาจเป็นจุดดี หากอาคารที่ขึ้นใหม่นั้นเป็นห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าที่ทำให้เดินทางไปซื้อของจากคอนโดสะดวกขึ้น

ความเสี่ยงจากการไม่มีความรู้

ในโลกของการลงทุน คนที่มีข้อมูลมากกว่าย่อมเป็นผู้ที่ได้เปรียบ ดังนั้นหากเข้าไปลงทุนคอนโด โดยไม่มีการศึกษาข้อมูล หลงเชื่อคำชักชวนของเพื่อนหรือเซลส์ ก็อาจทำให้ต้องมานั่งเสียใจไปกับการลงทุนที่ผิดพลาด ดังนั้นก่อนลงทุนก็ควรศึกษาหาความรู้จากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ศึกษาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต หรือเข้าฟังสัมมนาเพื่อพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการซื้อคอนโดปล่อยเช่า ก็จะช่วยให้เรามีโอกาสอยู่รอดในตลาดของการลงทุนได้

การลงทุนคอนโดนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายใบจอง การซื้อมาปล่อยเช่า หรือการซื้อเพื่อเก็งกำไรขายต่อ แต่ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบไหน ผู้ลงทุนก็ควรทำการศึกษาหาข้อมูลโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ว่าจะเป็น ทำเลที่ตั้ง ขนาดห้องที่เหมาะสม หรือการเดินทาง ฯลฯ และเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจตามมาเช่น ความเสี่ยงจากการหาผู้เช่าไม่ได้ ความเสี่ยงจากนักลงทุนอื่นๆ หรือ ความเสี่ยงจากการไม่มีความรู้ เป็นต้น

หากเราเข้าใจถึงปัจจัยและความเสี่ยงต่างๆ แล้วก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับความสำเร็จในการเลือกซื้อคอนโดที่สร้างผลตอบแทนให้กับเราในระยะยาวได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้การเลือกซื้อคอนโด NPA จะช่วยให้ได้ราคาที่ถูกลงกว่าท้องตลาดมากถึง 10-30% ซึ่งช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ที่ต้องการลงทุนได้ อีกทั้งยังมีทำเลให้เลือกที่หลากหลาย และซื้อได้ทั้งแบบเงินสด และการยื่นขอกู้ การซื้อคอนโด NPA จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนคอนโด

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เปิดขั้นตอน “SC” รับซื้อที่ดิน พร้อมเช็คจุดไหนทำเลทอง ต้องการด่วน!

เปิดขั้นตอน “SC” รับซื้อที่ดินอย่างไร พร้อมเช็คจุดไหนทำเลทองที่ต้องการด่วน หลังมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ไฟเขียวซื้อที่ดิน “ตระกูลชินวัตร” ย่านถนนลาดหญ้า นำร่องสร้างอาคารชุด

การซื้อ “ที่ดิน” ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์คงเป็นเรื่องปกติ ที่จะต้องมีการซื้อทำเลที่ดิน เพื่อนำมาพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มหรือกำไร แต่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง 66 ที่กำลังร้อนแรง หนึ่งในประเด็นที่ทุกคนจับตามองคือกรณีที่ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SC อนุมัติซื้อที่ดิน “ตระกูลชินวัตร” มูลค่ากว่า 1,239.23 ล้านบาท ย่านถนนลาดหญ้า

ทั้งในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ บริษัท เอสซี แอสเสท โฟร์ จำกัด (SC FOUR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SC ซื้อที่ดินบริเวณถนน ลาดหญ้า เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร จำนวน 22 แปลง พื้นที่รวม 4 ไร่ 3 งาน 36.3 ตารางวา มูลค่ารวมกว่า 1,239.23 ล้านบาท 

โดยที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (RENDE) ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นบุคคลกลุ่มเดียวกันคือ “ตระกูลชินวัตร” เพื่อสร้างโครงการอาคารชุดพักอาศัยบนที่ดินดังกล่าว

จากการตรวจสอบข้อมูลของ ฐานเศรษฐกิจ พบว่า ความต้องการซื้อที่ดินของ เอสซี แอสเสท ยังคงมีความประสงค์รับซื้อที่ดิน เพื่อพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว และ ทาวน์เฮาส์ ตั้งแต่ 30 ไร่ขึ้นไป รวมไปถึง โครงการคอนโดมิเนียม ที่มีเนื้อที่ตั้งแต่ 1.5 ไร่ ถึง 4 ไร่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

ทำเลที่ SC ต้องการด่วน! ประกอบไปด้วย

โซนตะวันออก

พื้นที่บางนา- เทพารักษ์ (ไม่เกินวงแหวน) พื้นที่กรุงเทพกรีฑา –ร่มเกล้า พื้นที่ลาดพร้าว พื้นที่เลียบด่วนรามอินทรา พื้นที่รามอินทรา –วัชรพล-เสรีไทย พื้นที่วิภาวดีรังสิต พื้นที่งามวงศ์วาน พื้นที่เทพรักษ์-สะพานใหม่

โซนตะวันตก

พื้นที่ราชพฤกษ์ (ช่วงเพชรเกษม-รัตนาธิเบศร์) ย่านชัยพฤกษ์ ย่านกัลปพฤกษ์ ย่านจรัญสนิทวงศ์

โซนเมือง

ย่านพระราม 3

อ่านเพิ่มเติม : คลิกที่นี่

ทำเลที่ SC ต้องการเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม เนื้อที่ตั้งแต่ 1.5 ไร่ ถึง 4 ไร่ ประกอบด้วย

  1. รอบศูนย์การค้า
  2. รอบมหาวิทยาลัย
  3. แยกมหาวิทยาลัยเกษตรฯ / ซอยท่านผู้หญิงพหล / ซอยเสนานิคม
  4. บางนา-ตราด ไม่เกิน กม. 6
  5. BTS อุดมสุข ถึง BTS แบริ่ง
  6. MRT ลาดพร้าว ถึง MRT ศูนย์วัฒนธรรม
  7. พรานนก ศิริราช วังหลัง
  8. ศรีนครินทร์ (ช่วงแยกลำสาลี ถึง แยกเทพารักษ์)
  9. นาคนิวาส ลาดพร้าว 71
  10. พระราม 4 หัวลำโพง สามย่าน บรรทัดทอง รองเมือง
  11. มหาจักร เยาวราช
  12. ทำเลติดแม่น้ำ (ถนนเจริญกรุง, เจริญนคร, พระราม 3)

ระเบียบปฏิบัติ 4 ข้อการเสนอขายที่ดิน SC

  1. ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรายละเอียดของที่ดินที่ต้องการเสนอขาย เช่น แผนที่ที่ดิน ระวางที่ดิน ขนาดที่ดิน และราคาพร้อมใส่ชื่อ-นามสกุล ติดต่อผู้ขาย สามารถส่งข้อมูลที่ดินมาตามช่องทางนี้ คลิกที่นี่
  2. บริษัทมีระบบการลงทะเบียนและจัดลำดับการเสนอขายที่ดิน และจะดำเนินการติดต่อตามลำดับเท่านั้น
  3. บริษัทมีขั้นตอนการดำเนินการซื้อที่ดิน โดยจะกำหนดกรอบระยะเวลาในการติดต่อประสานงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการซื้อที่ดิน ดังนั้นขอให้ผู้เสนอขายที่ดินให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามกำหนดเวลาของบริษัทอย่างเคร่งครัด และหากบริษัทพิจารณาแล้วพบปัญหาที่อาจทำให้การซื้อที่ดินไม่สำเร็จ บริษัทขอสงวนสิทธิยกเลิกการติดต่อประสานงานกับผู้เสนอขายลำดับแรก และจะพิจารณาที่ดินกับผู้เสนอขายลำดับถัดไปทันที ทั้งนี้ เงื่อนไขอื่นๆเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดและเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท
  4. บริษัทไม่มีนโยบายในการเรียกเก็บค่าดำเนินการใดๆกับผู้เสนอขายที่ดิน หากมีการอ้างอิงหรือแอบอ้างใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหาย และเสียชื่อเสียงของบริษัท บริษัทขอใช้สิทธิดำเนินการตัดรายชื่อผู้เสนอขายที่ดินท่านนั้นโดยทันที

5 ขั้นตอนการดำเนินการในการซื้อขายที่ดินกับ SC

  1. ผู้เสนอขายต้องส่งข้อมูลที่ดินตามที่บริษัทร้องขอ เช่น ระวางที่ดิน โฉนดที่ดิน หรือข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
  2. ผู้เสนอขายที่ดินต้องพาเข้าสำรวจพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อกำหนด ระเบียบทางกฎหมาย (ระยะเวลาการเข้าพื้นที่ ไม่เกิน 7 วันนับจากวันที่บริษัทแจ้งนัด)
  3. ในกรณีที่บริษัทตกลงจะซื้อ บริษัทขอนัดพบเจ้าของที่ดินเพื่อเจรจาสรุปรายละเอียดการซื้อขาย (ภายใน 7 วัน นับจากวันที่บริษัทแจ้งนัด)
  4. ขั้นตอนอื่นๆเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดและจะแจ้งให้ทราบ
  5. หากพ้นกำหนดตามระยะเวลาดังกล่าวข้างต้นผู้เสนอขายไม่ปฏิบัติ ให้ถือว่าข้อตกลงการเสนอขายของผู้เสนอขายที่ดินเป็นอันยกเลิก และบริษัทจะให้นายหน้าลำดับถัดไปเป็นผู้ดำเนินการแทน

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เงินบาทเปิดเช้าวันนี้24เม.ย. ที่ระดับ 34.39 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทมีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าอาจมาจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ โฟลว์ธุรกรรมปลายเดือนของผู้นำเข้า และเงินเยนอาจแข็งค่าถ้าBOJยกเลิกการทำ Yields Curve Control

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 24เมษายน 2566 ที่ระดับ  34.39 บาทต่อดอลลาร์
“อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.37 บาทต่อดอลลาร์  

นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่าในช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น เงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าใกล้โซน 34.45 บาทต่อดอลลาร์ ตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และโฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ก่อนที่จะกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์

สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินเคลื่อนไหวผันผวนตามรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด
 
ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรเตรียมรับมือความผันผวนในตลาดการเงินในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม BOJ พร้อมรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP Q1/2023 และ อัตราเงินเฟ้อ PCE) และ รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะ บริษัทเทคฯ ใหญ่ของสหรัฐฯ

ในส่วนของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจมีดังนี้
 
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
 

ฝั่งสหรัฐฯ – เนื่องจากสัปดาห์นี้จะเข้าสู่ช่วง Silent Period ของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ก่อนการประชุมเฟดในเดือนพฤษภาคม (วันที่ 2-3) ทำให้ผู้เล่นในตลาดจะให้ความสนใจรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน

 โดยเฉพาะบริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่ อาทิ Microsoft, Meta, Alphabet และ Amazon เป็นต้น โดยในส่วนของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ บรรดานักวิเคราะห์ประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงได้แรงหนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ทำให้การบริโภค

 โดยเฉพาะในส่วนภาคการบริการยังคงขยายตัวได้ดี ทำให้เศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้อาจโต +2.0% จากไตรมาสก่อนหน้าเมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งก็เป็นการชะลอลงบ้าง ตามแรงกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟดและภาวะเงินเฟ้อสูง (เศรษฐกิจโตกว่า +2.6% ในไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนหน้า)

 อย่างไรก็ดี แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับภาคการบริการและการบริโภคอาจเริ่มชะลอตัวลงมากขึ้นได้ สะท้อนผ่าน ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณชะลอลง ชี้จากยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกและการว่างงานต่อเนื่อง (Initial & Continuing Jobless Claims) ที่อาจทยอยปรับตัวขึ้น 

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Conference Board Consumer Confidence) เดือนเมษายน ก็อาจลดลงสู่ระดับ 104 จุด

 อนึ่ง การชะลอลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจไม่ได้ชัดเจนหรือรุนแรงนักในระยะสั้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ PCE โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core PCE ก็อาจอยู่ในระดับสูงกว่า 4.5% ทำให้เฟดยังมีความจำเป็นที่ต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ +25bps สู่ระดับ 5.00%-5.25% ในการประชุมเดือนพฤษภาคม
 
 ฝั่งยุโรป – ตลาดมองว่า เศรษฐกิจยูโรโซนยังมีแนวโน้มขยายตัวราว +1.4%y/y ในไตรมาสแรกของปีนี้ หนุนโดยการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการบริการ ในขณะที่ภาคการผลิตนั้นชะลอตัวลงชัดเจน 

สอดคล้องกับรายงานดัชนี PMI ในช่วงต้นปี ซึ่งภาพเศรษฐกิจยูโรโซนที่ยังคงขยายตัวอยู่และอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เป็นอย่างมาก จะหนุนให้ ECB สามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องได้ (ตลาดคาดอัตราดอกเบี้ย Deposit Facility Rate อาจแตะระดับ 3.75% จากระดับ 3.00% ในปัจจุบัน) 

นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร/การเงิน และกลุ่ม Healthcare นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของ ECB
 

 ฝั่งเอเชีย – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งแรกของผู้ว่าฯ BOJ ท่านใหม่ (Kazuo Ueda) แม้เราจะคาดว่า BOJ จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.10% พร้อมกับคงเป้าหมายบอนด์ยีลด์ 10 ปี ญี่ปุ่น ที่ระดับ 0.00%+/-0.50% 

แต่ผู้เล่นในตลาดก็เริ่มคาดหวังว่า BOJ อาจมีการส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นได้ หลังอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมราคาพลังงานและอาหารสด (Core-Core CPI) เร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ซึ่งต้องจับตาว่า BOJ จะมีการปรับนโยบายการเงิน เช่น ปรับกรอบของบอนด์ยีลด์ 10 ปี หรือ

 ยกเลิกการทำ Yields Curve Control ในการประชุมครั้งนี้หรือไม่ เพราะหาก BOJ ปรับใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ก็อาจหนุนให้เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) แข็งค่าขึ้นได้ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนมีนาคม
 

 ฝั่งไทย – ตลาดคาดว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอาจกดดันให้ ยอดการส่งออก (Exports) เดือนมีนาคมอาจหดตัวถึง -16%y/y สอดคล้องกับการปรับตัวลงแรงของดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมีนาคม

 อนึ่ง ยอดการนำเข้า (Imports) ก็อาจหดตัวราว -5%y/y ตามราคาสินค้าโดยเฉพาะสินค้าพลังงานที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ดุลการค้าอาจขาดดุลราว -1 พันล้านดอลลาร์
 
 
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า ค่าเงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบเดิม โดยปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าอาจมาจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ โฟลว์ธุรกรรมปลายเดือนของผู้นำเข้า และ

โฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ทั้งนี้ ความผันผวนอาจมาจากฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติซึ่งอาจยังไม่รีบกลับเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยได้ในระยะสั้น ในเชิงเทคนิคัล ต้องจับตาว่าเงินบาทจะสามารถทรงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน (34.30 บาทต่อดอลลาร์) ได้หรือไม่
 
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์มีโอกาสผันผวนสูง ซึ่งหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด หรือ ตลาดปิดรับความเสี่ยงจากรายงานผลประกอบการที่แย่กว่าคาด ก็อาจหนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ได้ 

ทว่า ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดรับรู้ผลการประชุม BOJ โดยเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อาจแข็งค่าขึ้นได้ ถ้า BOJ มีการปรับนโยบายการเงินเซอร์ไพรส์ตลาด เช่น ยกเลิกการทำ Yields Curve Control หรือ 

ขยับกรอบเป้าบอนด์ยีลด์ 10 ปี ญี่ปุ่น ให้สูงขึ้น หรือ ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า BOJ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไป (ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่มองว่า BOJ จะยังไม่ปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดหรือตึงตัวมากขึ้นในการประชุมครั้งนี้)
 
เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
 
 
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.00-34.60 บาท/ดอลลาร์
 
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.25-34.50 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“เจ็บหน้าอก” สัญญาณอันตรายของหลายโรคร้าย

อาการ เจ็บหน้าอก เป็นสิ่งที่ไม่ควรเพิกเฉยด้วยประการทั้งปวง หลายคนมักคิดว่า อาการเจ็บหน้าอกเป็นอาการของโรคหัวใจ แต่อาการนี้อาจบ่งชี้ถึงอาการโรคอื่นๆ ที่รุนแรงและเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ เช่น โรคเกี่ยวกับปอด หลอดอาหาร ซี่โครง เส้นประสาท ล้วนนำไปสู่อาการเจ็บหน้าอกได้ บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการเจ็บหน้าอก เพื่อที่คุณจะสามารถเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาได้ทันท่วงที

อาการ เจ็บหน้าอก คืออะไร

อาการเจ็บหน้าอกอาจเกิดขึ้นได้บริเวณตั้งแต่ลำคอ เรื่อยไปจนถึงหน้าท้องส่วนบน ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ ความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอกมีหลายระดับ คุณอาจรู้สึกเจ็บแปลบ ปวดตื้อๆ แสบร้อน ปวดหรือเจ็บเหมือนถูกแทง นอกจากนี้ คุณอาจมีความรู้สึกแน่นหน้าอก หรือมีความรู้สึกเหมือนถูกบีบที่กลางอก คุณควรเข้าพบหมอ หากเกิดอาการเจ็บหน้าอกที่ไม่สามารถอธิบายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเกิดอาการเฉียบพลัน และอาการไม่หายไป แม้จะใช้ยาระงับอาการหรือปรับพฤติกรรมแล้วก็ตาม ในกรณีที่อาการเจ็บหน้าอกเกิดร่วมกับอาการอื่นๆ ดังต่อไปนี้ ควรรีบโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินทันที

  • เกิดอาการแน่นหน้าอก หรือรู้สึกเหมือนถูกบีบบริเวณใต้กระดูกหน้าอก
  • เกิดปัญหาที่กราม แขนข้างซ้าย หรือหลังจากอาการเจ็บหน้าอก
  • เกิดอาการเจ็บแปลบที่หน้าอกพร้อมกับหายใจถี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานาน
  • เจ็บหน้าอกพร้อมกับอาการคลื่นไส้ อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้นหรือหายใจถี่ มึนงง หน้าซีด เหงื่อออกมากผิดปกติ
  • ความดันโลหิตสูงขั้นรุนแรง หรืออัตราการเต้นของหัวใจต่ำมาก

สาเหตุของอาการเจ็บหน้าอก

  1. โรคหัวใจ

โรคที่เกี่ยวกับหัวใจหลายโรคเป็นสาเหตุที่พบกันบ่อยของอาการเจ็บหน้าอก โรคหลอดเลือดหัวใจ สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกแบบปวดเค้น อาการเจ็บหน้าอกประเภทนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อหัวใจได้รับเลือดไม่เพียงพอ อาจกระจายไปสู่การเจ็บแขน ไหล่ กราม หรือหลังได้ ผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการหัวใจวาย เมื่ออายุมากขึ้น นอกจากนี้ อาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเหตุขาดเลือด (Myocardial Infarction) ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดอาการเจ็บหน้าอก แต่อาการจะรุนแรงกว่าอาการที่เกิดจากอาการปวดเค้นหัวใจ เนื่องจากการเจ็บเค้นมักเกิดขึ้นบริเวณตรงกลาง หรือด้านซ้ายของหน้าอก และไม่ทุเลาลงแม้จะนอนพักก็ตาม โรคเกี่ยวกับหัวใจอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก ได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) ภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) โรคกล้ามเนื้อหัวใจโต (Hypertrophic Cardiomyopathy) ลิ้นหัวใจยาว (Mitral Valve Prolapse) และหลอดเลือดหัวใจฉีก (Coronary artery Dissection)

  1. โรคปอด

อาการเจ็บหน้าอกหลายอย่าง อาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับปอด ผู้ป่วยเยื่อหุ้มปอดอักเสบ หรือมีการอักเสบเกิดขึ้นบริเวณเยื่อหุ้มปอดและหน้าอก จะรู้สึกเจ็บแปลบขณะหายใจ ไอ หรือจาม โรคทางปอดอีกหนึ่งชนิดที่ทำให้เเกิดอาการเจ็บหน้าอกคือ โรคปอดบวม หรือฝีในปอด การติดเชื้อทางปอดเหล่านี้ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกที่แตกต่างกันออกไป เช่น เจ็บปวดแบบลึกๆ หรือทำให้เกิดอาการเยื่อหุ้มปอดอักเสบ โรคทางปอดอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก ได้แก่ โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในหลอดเลือดปอด (Pulmonary embolism) ภาวะปอดรั่ว (Pneumothorax) ภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง (Pulmonary hypertension) และ หอบหืด

  1. โรคเกี่ยวกับกระดูก กล้ามเนื้อ และประสาท

อาการเจ็บที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อและกระดูกบริเวณหน้าอก อาจมีสาเหตุมากจากการออกกำลังกายที่หักโหม หรือมากเกินไป หรือจากการหกล้ม หรืออุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่หน้าอก การปวดบริเวณข้อต่อกระดูกหน้าอก เจ็บซี่โครง กล้ามเนื้อฉีกขาด และโรคงูสวัด เป็นปัญหาที่นำไปสู่อาการเจ็บหน้าอกได้ 

  1. โรคระบบทางเดินอาหาร

ภาวะไหลย้อนกลับของกรดในกระเพาะอาหาร เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกหรือภายในลำคอ ที่รู้จักกันดีในชื่อ กรดไหลย้อน โรคระบบทางเดินอาหารอื่นๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแสบร้อนกลางอก ได้แก่ อาการกลืนอาหารลำบาก ภาวะหลอดอาหารมีความไวเกินต่อสิ่งกระตุ้น หลอดอาหารทะลุหรือลำไส้ทะลุ แผลในทางเดินอาหาร โรคไส้เลื่อนกระบังลม และโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


บันทึกสถิติโลก! “หมอมิยู” สวมชุดไทยลงแข่งขันพิชิต “ลอนดอนมาราธอน 2023”

ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันในการแข่งขันวิ่งระดับโลกเมื่อ “หมอมิยู” ทันตแพทย์หญิง ชรินญา กาญจนเสวี สวมชุดไทยลงแข่งขันในรายการ ลอนดอน มาราธอน 2023 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา

โดย นักวิ่งสาววัย 33 ปี จัดเต็มด้วยชุดไทยโชว์วัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก ก่อนสามารถพิชิตการวิ่งมาราธอน ระยะ 42.195 กิโลเมตร ด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 45 นาที 34 วินาที ได้สำเร็จ

พร้อมกันนี้ Guinness World Records ยังร่วมรับรองสถิติโลกครั้งนี้ด้วยการบันทึกว่า “หมอมิยู” คือคนแรกที่สามารถพิชิตมาราธอนด้วยการสวมชุดไทยลงแข่งขันที่เร็วที่สุด (Fastest Marathon dressed in Thai Traditional Dress) ได้สำเร็จอีกด้วย

สำหรับ ชุดไทยที่สวมใส่ในครั้งนี้ ประกอบด้วย รัดเกล้า, สไบ, โจงกระเบน และกำไลข้อเท้า ออกแบบโดย อัครัช เนรมิตศิลป์ ดีไซเนอร์ชื่อดังผู้ออกแบบชุดประจำชาติไทยในเวทีประกวดนางงาม

ซึ่งการบันทึกสถิติโลกครั้งนี้เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ที่ถือเป็นหนึ่งใน Soft Power – แฟชั่นผ้าไทย ให้ปรากฏสู่สายตาชาวโลก พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจเรื่องการท่องเที่ยวไทยเชิง Sports และ Wellness Tourism ชักชวนให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกตามรอย “หมอมิยู” มาเที่ยวเมืองไทย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


Question Tag ใช้ยังไงให้ถูกต้อง?

คงเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไม่น้อยนะครับ หากเมื่อเราจะถามอะไรก็ต้องมานั่งเปลี่ยนจากประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคคำถามทุกครั้ง แต่จะง่ายกว่าไหมครับหากว่าเราพูดประโยคบอกเล่าออกไปแล้วตบด้วยสองสามคำสั้นๆ ประโยคนั้นก็กลายเป็นประโยคคำถามขึ้นมา การทำแบบนั้นเราเรียกว่า Question tag

QUESTION TAG คือ รูปประโยคคำถามย่อๆที่ถูกนำมาต่อท้ายประโยคบอกเล่า เพื่อให้ประโยคนั้นกลายเป็นประโยคคำถาม หรือเพื่อให้ผู้ฟังได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ซึ่ง QUESTION TAG นี้จะใช้ในภาษาพูดเท่านั้นนะครับ

*** ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคบอกเล่า (Affirmative Sentence) ส่วนของ Tag จะต้องเป็นประโยคปฏิเสธ (Negative Sentence)

*** ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคปฏิเสธ (Negative Sentence) ส่วนของ Tag จะต้องเป็นประโยคบอกเล่า (Affirmative Sentence)


 

หลักการสร้าง Question tag มีดังต่อไปนี้

1. ประโยคบอกเล่าที่มีกริยาช่วย ( to be, V. to have, V. to do, will, would, shall, should, may, might, can, could) ให้ใช้กริยาช่วยเหล่านั้นมาทำเป็น Question tag ได้เลย เช่น

  • Jack is from Spain, isn’t he?
  • Mary can speak English, can’t she?
  • He shouldn’t say things like that, should he?
  • They aren’t funny, are they?

2. ถ้าประโยคหลักอยู่ในรูปของ present simple (รูปประโยค ประธาน + กริยาช่อง 1)ให้ใช้ do, does เข้ามาช่วยในการสร้างส่วนของ Tag เช่น

  • She loves shopping, doesn’t she?
  • They have a lot of friends, don’t they? (have ในประโยคไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยแต่ทำหน้าที่เป็นกริยาแท้ แปลว่า มี)

3. ถ้าประโยคหลักอยู่ในรูปของ past simple (รูปประโยค ประธาน + กริยาช่อง 2) ให้ใช้ did เข้ามาช่วยในการสร้างส่วนของ Tag เช่น

  • You killed her, didn’t you?
  • He ate the banana, didn’t he?

4. ถ้าประโยคหลักใช้ I’m ส่วนของ Tag ต้องใช้ aren’t I? แต่ถ้าประโยคหลักใช้ I’m not ส่วนของ Tag ต้องใช้ am I? เช่น

  • am attractive, aren’t I?
  • am not the last one, am I?

5. ถ้าประโยคที่มี This is, That is อยู่ในประโยคหลัก ส่วนของ Tag จะต้องใช้เป็น Isn’t it? หรือ Is it? (ขึ้นอยู่ว่าประโยคหลักอยู่ในรูปบอกเล่าหรือปฏิเสธ) เช่น

  • This is my friend, isn’t it?
  • That is a book, isn’t it?

6. ถ้าประโยคที่มี These are, Those  are อยู่ในประโยคหลัก ส่วนของ Tag จะต้องใช้เป็น aren’t  they? หรือ are they? (ขึ้นอยู่ว่าประโยคหลักอยู่ในรูปบอกเล่าหรือปฏิเสธ) เช่น

  • These are pens, aren’t they?
  • Those are not your shoes, are they?

7. ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคคำสั่ง(แต่ไม่ใช่ในเชิงปฏิเสธหรือประโยคคำสั่งที่ไม่มี not) ส่วนของ Tag จะเป็น will you? หรือ won’t you? ก็ได้ เช่น

  • Stop daydreaming, will / won’t you?
  • Be quiet, will / won’t you?

8. ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคคำสั่ง(ในเชิงปฏิเสธหรือประโยคคำสั่งที่มี not) ส่วนของ Tag จะเป็นต้องเป็น will you? เช่น

  • Don’t stop running, will you?

*** อาจจำไปเลยก็ได้ครับว่าถ้าประโยคหลักเป็นประโยคคำสั่ง ส่วนของ Tag จะเป็น will you?

9. ถ้าประโยคหลักมี Let’s (Let us) ส่วนของ Tag จะต้องเป็น shall we? แต่ถ้าประโยคหลักมี Let+Objective+V.1 ส่วนของ Tag จะต้องเป็น will you?เช่น

  • Let’s go, shall we?
  • Let it go, will you?

การตอบคำถามประโยค Question tag

การตอบคำถามของประโยค Question tag นั้นเราจะใช้ Yes และ No เข้ามาช่วยในการตอบคำถาม

  • ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคบอกเล่า
  • จะตอบ Yes เมื่อเราเห็นด้วยกับประโยคหลัก
  • จะตอบ No เมื่อเราไม่เห็นด้วยกับประโยคหลัก

เช่น He can speak Thai, can’t he? (เขาพูดภาษาไทยได้,ใช่ไหม)
Yes, he can. (ใช่ เขาพูดภาษาไทยได้)
No, he can’t. (ไม่ เขาพูดภาษาไทยไม่ได้)

  • ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคปฏิเสธ
  • จะตอบ No เมื่อเราเห็นด้วยกับประโยคหลัก
  • จะตอบ Yes เมื่อเราไม่เห็นด้วยกับประโยคหลัก

เช่น You don’t like dog, do you? (คุณไม่ชอบสุนัข,ใช่ไหม)
No, I don’t. (ใช่ ฉันไม่ชอบสุนัข)
Yes, I do. (ไม่นะ ฉันชอบสุนัข)

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


ดึงเทคโนโลยี “บล็อกเชน-เมตาเวิร์ส”เกาะเลือกตั้ง 66

โชว์ไฮเทคศึกเลือกตั้ง 66 องค์กรเอกชน สื่อ การศึกษา และอปท. ระดมเทคโนโลยี ทั้ง “บล็อกเชน-คลาวด์” รายงานผลเลือกตั้งแบบไม่เป็นทางการเรียลไทม์ พร้อมเปิดเวทีดีเบตนโยบายดิจิทัลบน Metaverse เป็นครั้งแรก

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป (เลือกตั้ง ส.ส.) ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นั้นมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้อำนวยความสะดวกในการเลือกตั้ง ทั้งการเปิดให้ประชาชนเข้า ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. รวมถึงการแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักบริหารการทะเบียน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ล่าสุดภาคเอกชน การศึกษา และองค์การบริหารงานส่วนท้องถิ่น ได้มีความร่วมมือกัน ประยุกต์เทคโนโลยีทั้งบล็อกเชน และเมตาเวิร์ส เพื่อการเลือกตั้งครั้งนี้

นายพงศ์วุฒิ ไพรไพศาลกิจ เลขาธิการ สมาคมเมตาเวิร์สไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าสมาคมเมตาเวิร์สไทย ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการ The Watcher “เฝ้าคูหาจับตาคะแนน” เพื่อสนับสนุนการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน มาใช้ในการรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการแบบเรียลไทม์ให้กับเว็บไซต์ D Vote และเปิดให้องค์กรต่างๆ และสื่อมวลชน เข้ามาเชื่อมโยงระบบเพื่อดึงข้อมูลไปรายงานผล โดยข้อมูลผลการเลือกตั้งดังกล่าวนั้นมีความน่าเชื่อถือ และแม่นยำ

มีอาสาสมัครประจำเพื่อติดตามผลการนับคะแนน ณ.หน่วยเลือกตั้ง 400 เขต ที่มีหน่วยเลือกตั้งรวมประมาณ 95,000 หน่วยทั่วประเทศ ที่ตั้งเป้าจะมีอาสาสมัครประมาณ 100,000 คนประจำทุกหน่วยเลือกตั้ง โดยอาสาสมัครจะทำการรายงาน พร้อมส่งรูปถ่ายผลคะแนน เข้ามาจัดเก็บและประมวลผลบนระบบบล็อกเชน และคลาวด์ ทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และ ไม่สามารถเข้าไปแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้

ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายในการทำงานอาสาสมัครร่วมกันของทุกเครือข่าย พยายามทุกวิถีทางให้ทราบแนวโน้มผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการในเบื้องต้นรอบแรกประมาณ 2 ชั่วโมง หลังปิดหีบเลือกตั้ง 17.00 น.คาดว่าในเวลาไม่เกิน 19.00 น. น่าจะทราบแนวโน้มสัดส่วนคะแนนแบบ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของแต่ละพรรค และในเวลาไม่เกิน 21.00 น. น่าจะทราบแนวโน้มคะแนนเสียงของผู้สมัคร ส.ส.เขตที่มีคะแนนนำอันดับหนึ่งในทุกเขต 400 เขต

นอกจากนี้สมาคมเมตาเวิร์สไทย ยังเข้าไปสนับสนุนเทคโนโลยี web 3.0 โดยพัฒนา NFT ซึ่งเป็นคูปองดิจิทัลขึ้นมา มอบให้กับอาสาสมัคร ประจำจุดเลือกตั้ง และผู้ให้การบริจาค และสนับสนุน เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลด หรือแลกซื้อสินค้า โดยเบื้องต้นได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเซ็นทรัล ให้นำคูปองดิจิทัลไปใช้กับร้านค้าในห้างเซ็นทรัลได้ ทั้งนี้ในเบื้องต้นได้จัดทำคูปองดิจิทัล NFT ขึ้นมา 100,000 ชุด ได้เตรียมคูปองดิจิทัลไว้ทั้งหมด

ขณะเดียวกันยังสนับสนุนเทคโนโลยี Metaverse สำหรับการเป็นพื้นที่ดีเบตนโยบายต่างๆ ของพรรคการเมือง โดยการเข้ามาบริหารประเทศนั้นมองว่านักการเมือง และพรรคการเมืองต่างๆ จะต้องมีความเข้าใจเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในยุคปัจจุบัน และอนาคต รวมถึงสามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์กับการพัฒนาประเทศ

โดยการเข้ามาดีเบตบนเมตาเวิร์ส (Metaverse) นั้นนักการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมือง ที่เข้าร่วมจะต้องล็อกอินเข้าสู่ระบบด้วยตัวเอง โดยสามารถเลือกตัวละครเข้าสู่ Metaverse ได้ว่าจะเป็นอวาตาร์ หรือเป็นโฮโลแกรม ซึ่งเวทีดีเบตบน Metaverse ดังกล่าวจะแตกต่างจากเวทีดีเบตของสื่อทั่วไป โดยมุ่งเน้นดีเบตนโยบายทางด้านดิจิทัลเป็นหลัก ทั้งบล็อกเชน web 3.0 สินทรัพย์ดิจิทัล เทคโนโลยีที่เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไปสู่ New S Curve โดย 9 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี จะมีการหารือเพื่อตั้งคำถามกับพรรคการเมืองต่างๆ

นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับสมาคมฟินเทคแห่งประเทศ และ D-Vote พัฒนาแพลตฟอร์มการระดมทุนแบบ Crowdfunding ตั้งเป้าหมายเงินบริจาคจากผู้ต้องการสนับสนุนการเลือกตั้งและส่งเสริมประชาธิปไตยไว้ประมาณ 12 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาระบบรายงานผลคะแนนเรียลไทม์และระบบบริหารอาสาสมัครที่มีขนาดใหญ่มาก และ Crowdsourcing เปิดรับสมัครอาสาสมัครของแต่ละเครือข่ายและองค์กรยังเป็นอิสระต่อกันเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการประชาสัมพันธ์ไปตามภารกิจของแต่เครือข่ายแต่ละองค์กรจะเห็นสมควร

อนึ่งการเลือกตั้งปี 2566  ถือว่ามีความสำคัญต่อการกำหนดอนาคตประเทศไทย อย่างไรก็ตามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกประกาศยกเลิกการใช้แอปพลิเคชันการรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง (อย่างไม่เป็นทางการ) ไปใช้ระบบ ECT Report ที่ไม่ใช่แบบเรียลไทม์ ทำให้การรายงานผลการเลือกตั้งล่าช้า โดยจะเริ่มทราบผลการเลือกตั้งประมาณ 23.00 น. ทำให้องค์กรเอกชน องค์กรสื่อ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถาบันการศึกษา ร่วมมือกันพัฒนาระบบการรายงานผลการเลือกตั้งแบบเรียลไทม์  ที่มีความรวดเร็ว และโปร่งใสขึ้นมา

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


พบกับสุดยอดนวัตกรรมในงาน  Acoustic Wall Design in a five-star hotel ในงานสถาปนิก’66

พบกับสุดยอดนวัตกรรมในงาน  Acoustic Wall Design in a five-star hotel ที่จะพาไปทำความรู้จักกับการออกแบบเรื่องเสียงในโรงแรมระดับ 5 ดาว จากทีม Acoustic Expert และมาร่วมพิสูจน์ผนังกันเสียง ระดับโรงแรม 5 ดาว กับ SCG SMART WALL PRIVAZY ที่จะบอกว่าระบบผนังกันเสียงมีความสำคัญอย่างไร เหมาะกับหน้างานประเภทไหนบ้าง และทำไมต้องเป็น SCG SMART WALL PRIVAZY โดยจะเจาะเนื้อหาไปพร้อม ๆ กันกับ คุณ ธนพงศ์ วิชคำหาญ ตำแหน่ง Head Architect Group บริษัท ไอ วิว ดีไซน์ สตูดิโอ จำกัด

üพิเศษในวันงานท่านจะได้ไปพิสูจน์ความเงียบของระบบผนังกันเสียงระดับโรงแรม 5 ดาว

üฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมรับของที่ระลึก ณ วันงาน *จำกัดเพียง 20 ที่นั่งเท่านั้น

สนใจลงทะเบียนคลิก https://bit.ly/43OTfWY

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาพิสูจน์พร้อมกันได้เลย!

วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน 2566

เวลา 16.00 – 18.00น.

สถานที่ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี บูธ SCG (S313 เสา L32)

*** หากได้รับการสำรองที่นั่ง จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับท่าน วันอังคารที่ 25 เม.ย. 2566 (ก่อน 17.00 น)

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 24/04/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a32,250.0032,350.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,089.0031,669.2432,850.00
ทองรูปพรรณ 90%1,880.1028,502.32n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,671.2025,335.39n/a
ทองรูปพรรณ 50%940.0014,250.40n/a
ทองรูปพรรณ 40%731.0011,081.96n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,165.0032,821.40n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 24/04/2566



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9536.4536.4537.3436.4536.4536.4536.4536.4536.4536.45
แก๊สโซฮอล์ 9136.1836.1837.0436.1836.1836.1836.1836.1836.1836.18
แก๊สโซฮอล์ E2034.1434.1434.7434.1434.1434.1434.1434.1434.14
แก๊สโซฮอล์ E8534.5934.5934.59
เบนซิน 9544.2644.3144.7644.4144.26
ดีเซล B732.9432.9433.4432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซล32.9432.9433.4432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซล B2032.9432.9433.4432.9432.9432.94
ดีเซลพรีเมี่ยม42.0642.1643.7443.6643.6642.06
แก๊ส NGV17.5917.5917.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า