“รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” เปิดวันไหน มีกี่สถานี ค่าโดยสารเท่าไหร่ สรุปครบที่นี่
“รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” ก่อสร้างเสร็จ เตรียมเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรี 1 เดือน เริ่ม 3 มิถุนายน 2566 ค่าโดยสารเท่าไหร่ มีกี่สถานี ผ่านที่ไหนบ้าง เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายอะไร สรุปครบจบที่เดียว
ความคืบหน้าโครงการ “รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. ขณะนี้โครงการก่อสร้างในส่วนของงานโยธา งานระบบรถไฟฟ้า และการเดินรถเสร็จแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่ต้องแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรฐานก่อนเปิดทดลองให้บริการแก่ประชาชน
“รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” เปิดใช้เมื่อไหร่
เบื้องต้นจากการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งมีเอกชนผู้รับสัมปทาน คือ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ได้ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องทั้งหมด และมีความพร้อมในการให้บริการประชาชนแล้ว ซึ่งยืนยันด้วยว่าระบบรถไฟฟ้าความปลอดภัย 100% เป็นไปตามมาตรฐาน
ขณะที่กำหนดเปิดให้บริการประชาชนนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 3 มิถุนายน 2566 โดยจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรี เป็นระยะเวลาราว 1 เดือน
ในช่วงของการทดลองเปิดให้บริการฟรี อาจมีงานบางอย่างที่ไม่สมบูรณ์ แต่จะไม่ส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร อาทิ รถอาจเคลื่อนจอดไม่ตรงประตูบ้าง เป็นต้น
ค่าโดยสาร “รถไฟฟ้าสายสีเหลือง”
สำหรับอัตราค่าโดยสารต้องมีการยื่นขออนุมัติอัตราค่าโดยสารต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมทั้งต้องการมีออกประกาศราชกิจจานุเบกษาว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร และต้องประกาศราคาที่จะมีผลใช้งานล่วงหน้า 30 วัน ทั้งนี้ในช่วงของการทดลองเปิดให้บริการฟรี อาจมีงานบางอย่างที่ไม่สมบูรณ์ แต่จะไม่ส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร อาทิ รถอาจเคลื่อนจอดไม่ตรงประตูบ้าง เป็นต้น
เบื้องต้นมีการคำนวณตามสัญญาสัมปทานปี 2559 กำหนดค่าโดยสารเริ่มต้น 14 บาท สูงสุด 42 บาท โดยก่อนเปิดให้บริการจะต้องปรับอัตราค่าโดยสารตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อีกครั้ง โดยจะใช้ CPI จำนวน 3 เดือนก่อนวันที่เริ่มให้บริการ ดังนั้นหากสามารถเปิดบริการจริงได้ในวันที่ 3 มิ.ย. 2566 อัตราค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุด 45 บาท ซึ่งปรับตาม CPI เดือน มี.ค.2566
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เป็นระบบขนส่งมวลชนประเภทรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Straddle Monorail) มีลักษณะเป็นโครงสร้างยกระดับตลอดแนวเส้นทาง ระยะทางทั้งสิ้น 30.4 กิโลเมตรรวม 23 สถานี
สถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
- ลาดพร้าว
- ภาวนา
- โชคชัย 4
- ลาดพร้าว 71
- ลาดพร้าว 83
- มหาดไทย
- ลาดพร้าว 101
- บางกะปิ
- แยกลำสาลี
- ศรีกรีฑา
- หัวหมาก
- กลันตัน
- ศรีนุช
- ศรีนครินทร์ 38
- สวนหลวง ร.9
- ศรีอุดม
- ศรีเอี่ยม
- ศรีลาซาล
- ศรีแบริ่ง
- ศรีด่าน
- ศรีเทพา
- ทิพวัล
- สำโรง
รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเชื่อต่อกับรถไฟฟ้าสายไหนบ้าง
- โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงินระยะแรก) ที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว
- โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาของกรุงเทพมหานครที่แยกฉลองรัช
- โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ทางแยกลำสาลี
- โครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link)
- โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่สถานีสำโรง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เทียบรายได้กทม.จากภาษีที่ดิน VS ภาษีโรงเรือน
สศค. แจงปมกทม.เก็บภาษีที่ดินลดลง เผยเทียบจัดเก็บรายได้กทม.จากภาษีที่ดิน-ภาษีโรงเรือน คาดอนาคตกทม.โกยรายได้ภาษีที่ดินเพิ่มขึ้น เหตุฐานภาษีสูง หลังปรับปรุงราคาประเมินทุนทรัพย์ ทุกๆ 4 ปี
นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปิดเผยถึงกรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดเก็บรายได้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ภาษีที่ดินฯ) ได้ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ภาษีโรงเรือนฯ) ที่กรุงเทพมหานครเคยจัดเก็บได้ในอดีต และพบว่าผู้ที่มีรายได้มาก เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ห้องเช่า เป็นต้น เสียภาษีที่ดินฯ ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับภาษีโรงเรือนฯ นั้น
นายวุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า กทม. มีข้อมูลการจัดเก็บรายได้ภาษีที่ดินฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – 2565 ซึ่งยังคงมีการบรรเทาภาระภาษีตามข้อ 2 กทม. มีรายได้ภาษีที่ดินฯ จำนวนประมาณ 1,256 ล้านบาท 1,802 ล้านบาท และ 12,347 ล้านบาท ตามลำดับ (ข้อมูล ณ เดือน กันยายน 2565) โดยมีแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ภาษีที่สูงขึ้นและใกล้เคียงกับรายได้จากการจัดเก็บภาษีโรงเรือนฯ และภาษีบำรุงท้องที่ที่ กทม. จัดเก็บได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำนวนประมาณ 15,300 ล้านบาท
ทั้งนี้ในระยะต่อไปคาดว่า กทม. จะมีรายได้ภาษีที่ดินฯ เพิ่มขึ้นจากฐานภาษีที่สูงขึ้น เนื่องจากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีจะมีการปรับปรุงทุก ๆ 4 ปี โดยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ประกอบกับ กทม. ยังสามารถจัดเก็บภาษีที่ดินฯ จากผู้เสียภาษีที่แต่เดิมเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างไม่เคยมาแจ้งรายการทรัพย์สินเพื่อเสียภาษีโรงเรือนฯ และภาษีบำรุงท้องที่ อย่างไรก็ดี จากข้อมูลพบว่า กทม. อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในเขต กทม. ดังนั้น หาก กทม. สำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้างภายในเขต กทม. และมีฐานข้อมูลที่สมบูรณ์แล้ว จะสามารถจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ได้เพิ่มขึ้น
นายวุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า หาก กทม. ได้ดำเนินการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ครบถ้วนแล้ว และยังต้องการเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ มาตรา 37 วรรคหก แห่ง พ.ร.บ. ภาษีที่ดินฯ ยังให้อำนาจผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในการออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อเพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ให้สูงขึ้นกว่าที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2564 ได้ ทั้งนี้ อัตราภาษีดังกล่าวจะต้องไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ในมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ. ภาษีที่ดินฯ
“กรณีการนำภาระภาษีโรงเรือนฯ และภาษีที่ดินฯ ของผู้เสียภาษีรายใดรายหนึ่งมาเปรียบเทียบกันนั้น จะยังไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงภาระภาษีทั้งหมด เนื่องจากภาษีแต่ละประเภทมีหลักการในการจัดเก็บภาษีที่แตกต่างกัน โดยกรณีผู้เสียภาษีมีเงินได้จากการทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง”
ที่ผ่านมาสถิติการจัดเก็บรายได้เกี่ยวกับภาษีที่ดินฯ ของกรุงเทพมหานคร พบว่าในช่วงก่อนปี 2563 ประเทศไทยมีการจัดเก็บภาษีจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในรูปแบบภาษีโรงเรือนฯ ตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช 2475 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และภาษีบำรุงท้องที่ตามพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยภาษีโรงเรือนฯ ใช้ค่ารายปี (จำนวนเงินซึ่งทรัพย์สินนั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่ง ๆ) เป็นฐานในการคำนวณภาษี ซึ่งมีความซ้ำซ้อนกับการจัดเก็บภาษีเงินได้ และทำให้เกิดปัญหาในการประเมินค่ารายปี และมีการจัดเก็บภาษีในอัตราคงที่ที่สูงถึงร้อยละ 12.5 ของค่ารายปี
ขณะที่ภาษีบำรุงท้องที่จะใช้ราคาปานกลางของที่ดินตามที่คณะกรรมการพิจารณาราคาปานกลางของที่ดินกำหนดประจำปี พ.ศ. 2521 – 2524 มาใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษี ซึ่งไม่สอดคล้องกับราคาที่ดินที่มีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังมีการจัดเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำ และมีอัตราภาษีมากถึง 34 ขั้น ภาษีที่ดินฯ จึงถูกนำมาใช้แทนการจัดเก็บภาษีโรงเรือนฯ และภาษีบำรุงท้องที่เมื่อปี 2563 เป็นต้นมา เพื่อปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีฐานทรัพย์สิน
สำหรับภาษีที่ดินฯ เป็นภาษีฐานทรัพย์สิน มีหลักการในการจัดเก็บภาษีที่พิจารณาจากความมั่งคั่งที่สะสมไว้ของบุคคลในรูปที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งจัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างหรือผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ ในวันที่ 1 มกราคมของทุกปี โดยใช้มูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามราคาประเมินทุนทรัพย์เป็นฐานในการคำนวณภาษี และนำไปคูณกับอัตราภาษีในอัตราก้าวหน้าตามมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และตามการใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างแต่ละประเภท รวมถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพก็จะถูกจัดเก็บภาษีด้วย
ส่วนการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ จึงทำให้ผู้เสียภาษีที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงจะต้องเสียภาษีมากกว่าผู้ที่มีมูลค่าทรัพย์สินต่ำ และกรณีผู้เสียภาษีที่มีทรัพย์สินในลักษณะเดียวกัน ขนาดเท่ากัน และมีการใช้ประโยชน์เหมือนกันก็จะมีภาระภาษีเท่ากัน จึงเป็นระบบภาษีที่มีความเป็นธรรม
ในปี 2563 – 2565 ช่วงระยะ 3 ปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ มีการบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้เสียภาษี ได้แก่ การยกเว้นการจัดเก็บภาษีสำหรับเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ตามมาตรา 96 แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ. ภาษีที่ดินฯ) และการบรรเทาการชำระภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีที่มีภาระภาษีที่ดินฯ สูงกว่า
นอกจากนี้ภาษีโรงเรือนฯ และภาษีบำรุงท้องที่ ในปี 2562 (ค่าภาษีปี 2562) โดยให้ชำระภาษีที่ดินฯ เท่ากับค่าภาษีปี 2562 บวกด้วยร้อยละ 25 50 และ 75 ของส่วนต่างของค่าภาษีปี 2562 กับค่าภาษีที่ดินฯ ในปี 2563 2564 และ 2565 รวมถึงในปี 2563 – 2564 มีการลดภาษีร้อยละ 90 เพื่อบรรเทาภาระและผลกระทบให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 31พ.ค.ที่ระดับ 34.70 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทยังมีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่า จับตาฟันด์โฟลว์หลังผลประชุมกนง.วันนี้ คาดปรับขึ้น ดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 2.00%
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้31พ.ค.2566 ที่ระดับ 34.70 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.75 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มค่าเงินบาท ในช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทมีจังหวะแข็งค่าขึ้น ตามโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ ในขณะที่เงินดอลลาร์เคลื่อนไหว sideway up หรือแข็งค่าขึ้นไม่มาก
ทิศทางของเงินบาทนั้น เริ่มสอดคล้องกับมุมมองของเราที่มองว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทเริ่มแผ่วลงชัดเจน
อย่างไรก็ดี ปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่ายังคงเป็นฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ที่ยังคงขายสินทรัพย์ไทย มากกว่าที่เราคาด แต่ทว่า เรามองว่า นักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มกลับมาซื้อบอนด์ไทยเพิ่มมากขึ้นได้ หลังรับรู้ผลการประชุม กนง. ในวันนี้
เนื่องจากบอนด์ยีลด์ของไทยทั้งระยะสั้น กลาง และยาว ได้ปรับตัวขึ้น สะท้อนมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดว่า กนง. จะขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 2.25% ซึ่งสูงกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ 2.00% ไว้พอสมควรแล้ว
อนึ่ง แรงขายหุ้นไทยอาจยังคงมีอยู่บ้าง จนกว่าบรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมจะกลับมาเปิดรับความเสี่ยงชัดเจน ซึ่งเราคาดว่า ต้องรอลุ้นผลการพิจารณาร่างข้อตกลงเพดานหนี้ โดยหากร่างข้อตกลงดังกล่าว สามารถผ่านสภาคองเกรสได้ราบรื่น ก็อาจหนุนให้บรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง
เราคงมองว่า โซนแนวต้านของเงินบาทอาจอยู่ในช่วง 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับยังคงอยู่ในช่วง 34.40-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเราเห็นผู้เล่นบางส่วน อาทิ ผู้นำเข้าทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์อยู่ หลังเงินบาทได้อ่อนค่าเร็วในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองสหรัฐฯ (ประเด็นขยายเพดานหนี้) และการเมืองไทย ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.55-34.85 บาท/ดอลลาร์
ผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ชะลอการเปิดรับความเสี่ยง เพื่อรอลุ้นผลการพิจารณาร่างข้อตกลงเพดานหนี้โดยสภาคองเกรส อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคฯ ใหญ่
ตามธีมการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับ AI นำโดย Intel +3.4%, Nvidia +3.0% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวขึ้นราว +0.32% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดก่อนหน้า
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง -0.12% กดดันโดยแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน (TotalEnergies -3.4%, Shell -3.0%) หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อแนวโน้มการพิจารณาร่างข้อตกลงเพดานหนี้โดยสภาคองเกรสสหรัฐฯ
นอกจากนี้ บรรยากาศในตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมถูกกดดันโดยถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ต่างออกมาสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อสูงให้สำเร็จ
ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์สามารถรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง (จากที่เผชิญแรงขายทำกำไรในช่วงบ่ายของวันก่อนหน้า) หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดย Conference Board ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม ลดลงน้อยกว่าคาด
ทำให้ผู้เล่นในตลาดลดความกังวลต่อแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยังคงเชื่อว่า เฟดมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ ทำให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงทรงตัวแถวระดับ 104.1 จุด
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์อาจแกว่งตัว sideway เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างรอลุ้นการพิจารณาร่างข้อตกลงเพดานหนี้สหรัฐฯ โดยสภาคองเกรสในช่วงวันนี้
ส่วนราคาทองคำ บรรยากาศในตลาดการเงินที่ยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม รวมถึงบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่ย่อตัวลงกว่า -10bps สู่ระดับ 3.70% ในขณะที่เงินดอลลาร์เริ่มทรงตัว ได้หนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.)
ทยอยปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 1,976 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเรามองว่า การรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำดังกล่าว อาจหนุนให้ผู้เล่นบางส่วนที่ได้ซื้อทองคำในช่วงย่อตัวลง ทยอยขายทำกำไรทองคำได้บ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินสภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ ผ่านรายงานยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (JOLTs Job Openings) และไฮไลท์สำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นอย่างใกล้ชิด คือ การพิจารณาร่างข้อตกลงเพดานหนี้สหรัฐฯ โดยสภาคองเกรส ซึ่งทั้งสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา ควรมีมติผ่านร่างข้อตกลงดังกล่าว ให้ทันภายในช่วงต้นเดือนมิถุนายน
ส่วนในฝั่งจีน ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการในเดือนพฤษภาคม โดยตลาดมองว่า เศรษฐกิจจีนยังคงได้แรงหนุนจากการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการบริการ
โดยดัชนี PMI ภาคการบริการอาจอยู่ที่ระดับ 55 จุด (แม้ว่าจะเป็นการขยายตัวในอัตราชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า) ขณะที่ภาคการผลิตอุตสาหกรรมของจีนอาจยังคงหดตัวต่อเนื่อง โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตอาจอยู่ที่ระดับ 49.4 จุด
ทั้งนี้ หากรายงานดัชนี PMI ของจีนออกมาแย่กว่าคาด ก็อาจกดดันให้ผู้เล่นในตลาดต่างลดการถือครองหุ้นจีนและหุ้นฮ่องกง ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินหยวนของจีนมีโอกาสอ่อนค่าต่อได้
ส่วนในฝั่งไทย ปัจจัยสำคัญที่ควรติดตาม คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยเราคาดว่า แนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจ ภายใต้อัตราเงินเฟ้อที่แม้จะชะลอลง
แต่ก็ยังสูงกว่าค่ากลางของกรอบเป้าหมาย จะส่งผลให้ กนง. ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 2.00% ทั้งนี้ เราเตรียมปรับคาดการณ์จุดสูงสุดดอกเบี้ยนโยบาย (Terminal Rate) ใหม่ หาก กนง. ส่งสัญญาณชัดเจนพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อ หรือกังวลแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อมากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.65-34.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (8.40 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.79 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยเงินบาทแข็งค่ากลับมาบางส่วน ขณะที่ตลาดรอติดตามผลการประชุม กนง. ในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า กนง. น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ไปที่ระดับ 2.00%
ส่วนเงินดอลาร์ฯ ขยับอ่อนค่าลง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังทางการญี่ปุ่นมีการประชุมฉุกเฉินเพื่อติดตามสถานการณ์เงินเยน นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังอ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.55-34.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ผลการประชุมกนง. สถานการณ์การเมืองในประเทศ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ข้อมูล PMI เดือนพ.ค. ของจีน รวมถึงประเด็นเพดานหนี้สหรัฐฯ ตัวเลข JOLTS เดือนเม.ย. และรายงาน Beige Book ของเฟด
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ประเดิมสนามทำอึ้ง! คอมเมนต์แฟนถึง “สาวไทย” หลังเกือบโค่น อิตาลี ศึกลูกยางเนชั่นส์ลีก
ถือเป็นเกมที่กำลังเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลกสำหรับ ทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ ทีมชาติอิตาลี ในการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2023 สัปดาห์แรก ที่เมืองอันตัลยา ประเทศตุรกี เมื่อคืนวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
โดยเกมนี้ สาวไทย สามารถสู้กับ “แชมป์เก่า” อิตาลี ทีมอันดับ 2 ของโลก ได้แบบสูสีก่อนพ่ายไปแบบหวุดหวิด 2-3 เซต (26-24, 17-25, 29-27, 28-30 และ 11-15) เก็บหนึ่งแต้มมาครองได้ ซึ่งงานนี้ทำเอาแฟนๆ ทั่วโลกต่างเข้ามาคอมเมนต์ถึงพวกเธอในเพจ Volleyball World กันมากมาย
คอมเมนต์ที่ 1
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมแฟนๆ ทั่วโลกถึงชื่นชอบสาวไทย พวกเธอน่ารัก และมีร้อยยิ้มอยู่เสมอ ด้วยรักจากบราซิล
คอมเมนต์ที่ 2
ผมเป็นชาวสาธารณรัฐโดมินิกัน แต่ผมชอบทีมไทย พวกเธอน่ารักมากๆ และเล่นเกมเร็วได้ดีมากๆ
คอมเมนต์ที่ 3
ต้องชื่นชมสาวไทยพวกเธอเล่นกันได้ดีมากๆ พวกเธอใกล้ที่จะเอาชนะได้แล้ว ขอให้ทำผลงานดีๆ แบบนี้ต่อไป จากฉันที่เป็นชาวอิตาลี
คอมเมนต์ที่ 4
จุดเปลี่ยนคือเซตที่ 4 ที่เกมหยุดไปนานจากอาการเจ็บของ อัจฉราพร ทำให้ อิตาลี มีเวลาพัก และแก้เกมได้ทัน อย่างไรก็ตาม สาวไทย เก่งมากๆ ไม่ต้องเสียใจ สู้กันใหม่นัดหน้า
คอมเมนต์ที่ 5
ฉันรักสาวไทย มีความสุขทุกครั้งที่ได้ดูพวกเธอเล่น พวกเธออารมณ์ดีตลอดเวลา ไม่ว่าจะชนะหรือไม่ก็ตาม ต้องชื่นชมพวกเธอในเรื่องของน้ำใจนักกีฬามากๆ
คอมเมนต์ที่ 6
ทีมชาติไทย กลายเป็นทีมโปรดของฉันที่จะตามเชียร์ในทัวร์นาเมนต์นี้
คอมเมนต์ที่ 7
นี่คือ ทีมไทย พวกเธอได้ใจคนทั้งโลก ครั้งหน้าจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน จากแฟนชาวบราซิล
คอมเมนต์ที่ 8
ดีใจที่ได้เห็นพวกเธอกลับมาสร้างรอยยิ้มแห่งความสุขอีกครั้ง ในทุกการแข่งขันพวกเธอทำเต็มที่เสมอ
คอมเมนต์ที่ 9
ฉันกล้าพูดได้เต็มปากว่า ทีมไทยรักกีฬาวอลเลย์บอลจริงๆ พวกเขาดูเหมือนกลุ่มเพื่อนที่ออกมาเล่นเพื่อความบันเทิง แต่มันไม่ใช่เล่นเพื่อความสนุก เพราะพวกเธอทำกันได้ดีมากๆ
คอมเมนต์ที่ 10
ไม่น่าเชื่อว่า สาวไทย เกือบจะเอาชนะอิตาลีได้ พวกเธอเล่นกันได้ดีมากๆ อย่างไรก็ตามขอแสดงความยินดีกับ อิตาลี
คอมเมนต์ที่ 11
เสียใจที่เกมนี้ฉันดูไม่จบ ทีมไทยเป็นหนึ่งในทีมที่ฉันชอบดู ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ ฉันชอบพรพรรณ อยากให้เขาย้ายมาเล่นในตุรกีจริงๆ เธอฉลาดมากๆ ปรับตัวได้เร็ว
คอมเมนต์ที่ 12
ว้าว! วอลเลย์บอลไทย มีพัฒนาก้าวกระโดดขนาดนี้เลย ขอชื่นชมพวกเธอ ตื่นเต้นที่จะได้ชมเกมต่อไปของพวกเขา
คอมเมนต์ที่ 13
ทีมสาวไทย พวกคุณเล่นกันได้ดีมากๆ และฉันจะตามเชียร์พวกเธอต่อไปทุกเกม จากแฟนวอลเลย์บอลเปรู
คอมเมนต์ที่ 14
มันเป็นเกมที่สนุกมากๆ ทีมไทย ทำได้ดี และทำให้เห็นว่า ทีมเกาหลีจะประมาททีมไทยไม่ได้แน่นอน
คอมเมนต์ที่ 15
ต้องบอกว่าทั้งสองทีมจากต่างปีที่แล้ว อิตาลี เป็นทีมใหม่หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากปี 2022 ส่วน ทีมไทย พัฒนาขึ้นมาอีกขั้นเล่นด้วยความมั่นใจ เกมนี้ อิตาลี ชนะเพราะความผิดพลาดของคู่แข่งเป็นส่วนใหญ่
คอมเมนต์ที่ 16
นี่คือหนึ่งในเกมที่จะอยู่ในความทรงจำของฉัน ทีมไทย สู้กับแชมป์เก่าได้แบบเหลือเชื่อ ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะ มันเป็นเกมที่สุดยอดสำหรับทั้งสองทีม
คอมเมนต์ที่ 17
คำจำกัดความของ ทีมสาวไทย พวกเธอ น่ารัก ใจสู้ เก่ง และยิ้มอยู่เสมอ
คอมเมนต์ที่ 18
สาวไทยสุดยอดมาก! ฉันที่เป็นคนบราซิล ยอมใจพวกเธอ และยกให้พวกเธอเป็นทีมเบอร์ 2 ในใจที่จะตามเชียร์ต่อไปนอกจากบ้านเกิด
คอมเมนต์ที่ 19
มันเป็นเกมที่ดีสำหรับประเทศไทย พวกเธอคือพริกขี้หนูจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คอมเมนต์ที่ 20
พวกเธอคือความภูมิใจของชาวอาเซียน ฉันเชื่อว่าแฟนวอลเลย์บอลฟิลิปปินส์พร้อมส่งใจเชียร์พวกเธอเหมือนอย่างที่ฉันทำ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ภัยอันตราย “ช็อกโกแลตซีสต์” ผู้หญิงเสี่ยงทุกคน ทุกวัย
ผู้หญิงหลายคนเริ่มรู้จักโรคนี้กันดียิ่งขึ้น เพราะพบผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดบ่อยขึ้น ใกล้ตัวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบถึงสาเหตุ อาการ และสัญญาณบอกเหตุก่อนพุ่งตัวไปโรงพยาบาล มีอาการแตกต่างจากการปวดท้องปกติอย่างไร Sanook! Health รวบรวมข้อมูลมาฝากให้เตรียมตัวกันค่ะ
ช็อกโกแลคซีสต์ คืออะไร?
จริงๆ แล้วช็อกโกแลตซีสต์เป็นคำเรียกง่ายๆ ของ โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือถุงน้ำช็อกโกแล็ต (สีของเลือดประจำเดือนตกค้าง) เป็นอาการผิดปกติที่เซลล์เจริญเติบโตผิดที่ นานวันเข้าเซลล์นั้นใหญ่ขึ้น เลือดประจำเดือนไหลไปตกค้างอยู่ในนั้น จนกลายเป็นซีสต์ เราจึงเรียกว่า “ช็อกโกแลตซีสต์”
ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงเป็นช็อกโกแล็ตซีสต์
ผู้หญิงทุกวัยที่มีประจำเดือน ทุกคนเริ่มมีความเสี่ยงต่อโรคช็อกโกแล็ตซีสต์ ตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือน ไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน เพราะเป็นโรคที่มีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนผู้หญิง
อาการของช็อกโกแลตซีสต์
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่า หากไม่ได้รับการตรวจร่างกายด้วยการตรวจภายใน อัลตร้าซาวนด์ หรือการส่องกล้อง เราอาจไม่มีทางทราบได้เลยว่ากำลังมีช็อกโกแล็ตซีสต์อยู่ในร่างกายของเรา กว่าเราจะทราบก็ต่อเมื่อก้อนซีสต์เกิดอาการอักเสบ ปวดท้องอย่างรุนแรง จนอาจต้องผ่าตัดด่วน
แต่หากตรวจร่างกายพบก่อน แล้วก้อนซีสต์มีขนาดใหญ่ หรือมีหลายก้อน แพทย์อาจพิจารณานัดผ่าตัดก่อนที่จะมีอาการปวดท้องเกิดขึ้นได้เช่นกัน
ปวดท้องแบบไหน ถึงเสี่ยงเป็นช็อกโกแลตซีส
โดยมากแล้ว ช็อกโกแลตจะเกิดขึ้นบริเวณมดลูก หรือรังไข่ภายนอก ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าเมื่อก้อนซีสต์มีอาการอักเสบ อาจจะปวดท้องได้ทั้งด้านซ้าย หรือด้านขวา หรือกลางท้องในกรณีที่มีก้อนซีสต์บริเวณมดลูก แต่ข้อสังเกตคือ บริเวณที่ปวดจะอยู่ในช่วงท้องด้านล่าง ต่ำกว่าสะดือ เหนือขาหนีบ และคนที่ปวด้องมากในช่วงมีประจำเดือน ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน หากปวดมากต้องได้รับการผ่าตัด หากปวดๆ หายๆ อาจเป็นซีสต์ธรรมดาที่ไม่ใช่ช็อกโกแลตซีสต์
ผลร้ายที่เกิดขึ้น หลังพบช็อกโกแลตซีสต์
นอกจากจะต้องทรมานกับอาการปวดท้องมากๆ ช่วงที่มีประจำเดือนแล้ว ด้วยพังผืดที่เกาะมดลูกหรือรังไข่ และขนาดของก้อนซีสต์ที่เข้าไปเบียดรังไข่ และท่อรังไข่จนคดงอ อาจทำให้การผลิตไข่ไม่ได้คุณภาพ ไข่กับอสุจิที่ผสมกันได้แล้วอาจฝังตัวไม่สะดวก เป็นเหตุให้มีโอกาสที่จะมีบุตรยากนั่นเอง และหากก้อนซีสต์ใหญ่ขึ้น และอยู่ไกล้ตำแหน่งอวัยวะสำคัญอื่นๆ เช่น ไต อาจทำให้ไตวายได้เช่นกัน
ช็อกโกแล็คซีสต์ รักษาอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว หากพบก้อนซีสต์ที่มีอันตรายน้อย ขนาดเล็ก อาจให้การรักษาด้วยยา ที่จะคล้ายกับวิธีการคุมกำเนิด เพื่อยังยั้งการทำงานของฮอร์โมนเพศหญิงไปก่อน อาจจะให้ทานยาคุม หรือฉีดยาคุมกำเนิด อาจมีความเป็นไปได้ที่ก้อนซีสต์จะยุบลงได้
อีกวิธีหนึ่ง คือ การผ่าตัด มีทั้งการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง และการส่องกล้อง ที่จะทำให้ผู้ป่วยมีบาดแผลเล็กกว่า สูญเสียเลือดน้อยกว่า ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วกว่า แต่ค่ารักษาก็จะแพงกว่าด้วย แต่ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับพิจารณาของแพทย์ว่าผู้ป่วยท่านนั้นเหมาะที่จะผ่าตัดด้วยวิธีไหนถึงจะเห็นผลดีที่สุด
วิธีการป้องกันช็อกโกแล็ตซีสต์ที่ดีที่สุด คือการสังเกตตัวเองว่าปวดท้องบ่อยหรือไม่ ปวดประจำเดือนมากผิดปกติหรือเปล่า และควรเข้ารับการตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคร้ายแรงในภายหลังได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
จะบอกว่า yes!! กับสายฝอ ยังไงได้บ้าง
OK หรือ YES
ใช่ค่ะ ชาว Engnow แล้วถ้าเราจะตอบคำถามนั้นเชิงปฏิเสธ เราจะตอบว่า ??
NO!
บางคนก็สงสัย แล้วไม่มีคำอื่นแทนได้บ้างหรือไง มาเลยค่ะ มามุงกงนี้
“Other Words for Yes” (คำศัพท์อื่นๆ ที่ใช้แทน Yes )
Sure
= เป็นคำที่ใช้แล้วแสดงถึงความรู้สึกที่ผ่อนคลาย สบายๆ เป็นมิตร (ฉาชีพ…หยอกๆ)
เรามักจะใช้คำว่า “Sure” ในการให้อนุญาตหรือตอบรับคำขอของใครคนใดคนหนึ่ง แต่คำนี้จะค่อนข้างไม่เป็นทางการ เพราะฉะนั้นเก็บไว้ใช้กับคนที่สนิทๆนะคะ
Okay
= ต้นกำเนิดของคำนี้ยังเป็นที่น่าสงสัย หลายคนคิดว่ามันเป็นคำย่อของ ‘Orl Korrekt’ เป็นคำที่ติดตลกของคนสมัยก่อนที่สะกดคำผิดจาก ‘all correct’ t ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ในช่วงยุค 1800s ปัจจุบันมีความหมายคล้ายกับคำว่าใกล้เคียงมากกับคำว่า Yes
Yeah
= เป็นรูปแบบคำว่า Yes ที่สบายที่สุด โดยนักเรียนมักถูกตำหนิบ่อยๆในโรงเรียน เพราะเด็กๆชอบใช้กับคุณครู (ฟังดูไม่เหมาะสม หากใช้กับผู้ใหญ่)
Affirmative
= มักใช้โดยทหารหรือผ่านการสื่อสารทางวิทยุ คำนี้เป็นคำคุณศัพท์ที่จริงนั้นหมายความว่า ‘ได้รับการยืนยัน’
Aye
= คำนี้มีชื่อเสียงมากที่สุดสำหรับการเชื่อมโยงกับภาษาและเรือโจรสลัด คุณอาจเคยได้ยินลูกเรือตะโกน ‘Aye Aye ครับกัปตัน!’ ในหนังโจรสลัด
Indeed
= คำนี้ให้ความหมายในเชิง “ที่แน่นอน หรือที่แท้จริง” ในบางกรณี เราสามารถนำคำนี้มาใช้ได้ เพราะแสดงความเข้าใจ และใช้ในลักษณะการตอบตกลง ตอบว่าใช่ เป็นทางอ้อม
นอกจากนี้ก็ยังมีคำอื่นๆ อีก อาทิ
That’s a good idea. = เป็นความคิดที่ดี
That’d be fine. = ดีเหมือนกัน
I’d love to / I’ll be glad to.= ด้วยความยินดี
All right / Okay. = ตกลง
คำศัพท์อื่นๆ ที่ใช้แทน Yes ได้แก่
YEA = อือ,ใช่ → ไม่ค่อยสุภาพ
YEP = อือ,ใช่ → ไม่ค่อยสุภาพ
YUP = อือ,ใช่ → ไม่ค่อยสุภาพ
ABSOLUTELY = อย่างแน่นอนเลย The same meaning of word “YES”
CERTAINLY = อย่างแน่นอน
TOTALLY = อย่างแน่นอน
OF COURSE= แน่นอน
RIGHT = ถูกต้อง
EXACTLY = ถูกต้อง
คำศัพท์อื่นๆ ที่ใช้แทน NO
Nope = เป็นวิธีการพูดว่า “ไม่” อย่างสบายๆ ซึ่งตรงข้ามกับคำว่า “Yeah” ไม่ควรใช้กับผู้ใหญ่หรือคนที่ไม่สนิทด้วย
Nah = (ศัพท์แสลง) ใช้ในการสื่อสารที่บ่งบอกความไม่เห็นด้วย ไม่ควรใช้กับผู้ใหญ่หรือคนที่ไม่สนิทด้วย
Negative = คำนี้ยังเป็นคำคุณศัพท์ซึ่งเปรียบเหมือนเป็นคำตรงกันข้ามกับ ‘Affirmative’ ใช้โดยทหารหรือผ่านการสื่อสารทางวิทยุ
No way = เป็นวิธีการพูด ‘NO’ ซึ่งความหมายจะเน้นไปในเชิงลบ ไม่เห็นด้วยอย่างแรง
เช่น
A: You think she’s alone?
B: No way!
นอกจากนี้ก็ยังมีคำอื่นๆ อีก อาทิ
I’m afraid that … = ฉันเกรงว่า …
I’m afraid I can’t = เกรงว่าจะไม่ได้
I appreciate it, but… = ฉันรู้สึกซาบซึ้ง แต่ …
I’d love to but… = ฉันก็อยากจะทำ แต่ว่า…
That’s very kind of you but ….. = เป็นความกรุณา แต่ว่า …
I’m sorry. = ฉันเสียใจ
No, I’m sorry but … = ฉันเสียใจ แต่ …
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
5 เรื่องต้องรู้ หากอยากใช้งานมือถือแบบถนอม ให้ใช้งานได้ยาวนาน
ทุกวันนี้มือถือรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวก็จะมีราคาสูงจนทำให้หลายคนเลือกที่จะถนอมมือถือให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน แต่เรื่องที่ถนอมมือถืออย่างไรที่ควรต้องทำ หากอยากให้มือถือใช้งานได้ยาวนาน จะต้องทำอย่างไร มาดูกัน
พยายามอย่าทำมือถือตกบ่อยๆ
เรื่องแรกคือ ที่จะพูดถึงคือ การทำมือถือตกบ่อยแม้ว่า ทุกวันนี้จะมีเคสที่น่าป้องกันได้ดี แต่ว่าการทำเครื่องตกบ่อยอาจจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ด้วย ในส่วนนี้อาจจะไม่มีคำแนะนำมากนักเพราะการรักษา นอกจากคำว่าใส่เคสหน่อยเวลาไปข้างนอกครับจะได้เป็นรอย
ชาร์จไฟให้เป็นเวลา
มาในเรื่องของการชาร์จบางคนจะเข้าใจผิดว่าการชาร์จไฟแบบเสียบตลอดเวลาอยู่บ้านเป็นเรื่องที่ควรทำ หรือ ปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเลยก็เป็นเรื่องที่ควรทำ แต่จริงๆ แล้วผิดทั้งคู่ โดยความเป็นจริงแล้วแบตเตอรี่มือถือควรจะปล่อยให้ลดลงเหลือน้อยสุดที่ 20 – 30% หากเป็นสายถนอม ไม่ควรต่ำกว่านี้ เพราะอาจจะทำให้รอบการชาร์จไฟน้อยลง
ส่วนระบบ Fast Charging ยังคงใช้ได้แต่ถ้าอยากจะให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานควรจะชาร์จแบบธรรมดาบ้างไม่งั้นอาจจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้ง่ายเช่นเดียวกัน
อัปเดตเครื่องแล้วถ้าล้างเครื่องได้ก็ดี
การอัปเดตมือถือรอบใหญ่ที่ไม่ได้เป็นการอัปเดตฟีเจอร์หรือ ความปลอดภัย มักจะเกิดขึ้นเมื่อระบบปฏิบัติการใหม่มา ควรจะกดล้างระบบสัก 1 ครั้งเพื่อให้เราเริ่มต้นกับการตั้งค่าเครื่องใหม่ บางครั้งการเก็บค่าเดิมอาจจะทำให้เครื่องกินพลังงานและไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร
แต่ก่อนที่จะทำควรจะสำรองข้อมูลก่อนนะครับไม่งั้นข้อมูลจะหายหมด
ไม่จำเป็นอย่าโดนน้ำ
ถึงแม้ว่ามือถือบางรุ่นอาจจะกันน้ำ แต่ถ้าแนะนำจริงๆ ไม่ควรโดนน้ำ เหตุผลคือบางคนโดนแล้วอาจจะไม่ทันระวังและไปชาร์จไฟจนมือถืออาจจะช็อตได้รับความเสียหายได้เช่นเดียวกัน
เช็ดเครื่องบ้างก็ได้
สุดท้ายเรื่องที่ง่ายที่สุดที่จะถนอมมือถือคือนำเครื่องออกมาและเช็ดรอบตคัวเครื่องบ้างก็จะดีไม่น้อย นอกจากเครื่องจะได้เงางามตลอดแล้ว และถือเป็นการกำจัดเชื้อโรคได้เช่นเดียวกันครับ
แต่อย่างไรก็ตามการถนอมมือถือให้อยู่นานที่สุด แต่โดยมากแล้วจะใช้งานได้ไม่เกิน 5 ปีก็ต้องเปลี่ยนแล้วตามอายุการใช้งานและระบบปฏิบัติการที่จะมีผลกับ Application แต่บางครั้งก็มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับบางคนอยู่ ดังนั้นสายถนอม ลองทำตามนี้มือถือของคุณก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
จริงหรือไม่? “โซดา” ลดไขมันในเลือดได้?
มีการกล่าวอ้างว่า การดื่มโซดา ช่วยลดไขมันในเลือดได้
ทางทีมงานอยากทราบว่าจริงหรือไม่ อย่างไร จึงขอคำปรึกษา นายแพทย์ประมวล จารุตระกูลชัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ ชีวจิตโฮมคลินิก ได้คำตอบดังนี้ค่ะ
“น้ำโซดา เป็นการนำแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Dioxide) มาอัดลงในน้ำ ทำให้น้ำมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อเปิดฝาขวดออกแล้วจึงเกิดฟองแก๊สขึ้นมา นิยมใช้ผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ น้ำผลไม้ หรือน้ำหวาน
“ประโยชน์ของโซดา คือ ช่วยทำให้เครื่องดื่มหรืออาหารมีรสซ่า เพิ่มความอร่อยและความแปลกใหม่ แต่โซดาไม่มีคุณสมบัติในการลดไขมันในเลือด ข้อมูลการใช้โซดาในข่าวนั้น คือการนำไปผสมกับน้ำมะนาว ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด อาจมีสรรพคุณเพิ่มการหลั่งกรดของในกระเพาะอาหาร ช่วยในการย่อยอาหาร แต่ไม่ได้มีสรรพคุณในการลดไขมัน
“สุดท้ายแล้ว การเลือกกินอาหาร ควรลดอาหารมันและของทอดลง ร่วมกับกินผักมากๆ เพราะจะช่วยลดการดูดซึมไขมันได้มากกว่าการกินโซดาหรือโซดามะนาวแน่นอนครับ”
รู้อย่างนี้แล้ว หันมาออกกำลังกาย และเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ และเป็นไขมันไม่อิ่มตัว อีกทั้งเปลี่ยนมากินผักผลไม้ให้มากขึ้น น่าจะช่วยได้มากกว่านะคะ
ข้อมูลจากนิตยสารชีวจิตฉบับที่ 416
ภาพประกอบจาก istockphoto
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 31/05/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 32,050.00 | 32,150.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,076.00 | 31,472.16 | 32,650.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,868.40 | 28,324.94 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,660.80 | 25,177.73 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 934.00 | 14,159.44 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 727.00 | 11,021.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,151.00 | 32,609.16 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 31/05/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.15 | 35.15 | 35.64 | 35.15 | 35.15 | 35.15 | 35.15 | 35.15 | 35.15 | 35.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.88 | 34.88 | 35.34 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 32.84 | 32.84 | 33.24 | 32.84 | 32.84 | – | 32.84 | 32.84 | 32.84 | 32.84 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 33.29 | 33.29 | – | – | – | – | – | – | – | 33.29 |
เบนซิน 95 | 42.94 | – | – | – | 43.51 | – | 43.44 | 43.09 | – | 42.94 |
ดีเซล B7 | 31.94 | 31.94 | 32.44 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล | 31.94 | 31.94 | 32.44 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล B20 | 31.94 | 31.94 | 32.44 | – | 31.94 | – | 31.94 | – | – | 31.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 41.06 | 41.16 | 42.94 | 42.36 | 42.36 | – | – | – | – | 41.06 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |