“พรีบิลท์ ดีเวลลอปเม้นท์” ปลื้ม 6 โครงการทั่ว กทม.-ปริมณฑล
“พรีบิลท์ ดีเวลลอปเม้นท์” ปลื้มโครงการพิมนารา ศรีนครินทร์ ทำยอดขาย 60% คาดปิดการขายได้ภายในสิ้นปีนี้ ล่าสุดครึ่งปีหลัง เปิดอีก 2 โครงการ มั่นใจสิ้นปีทำยอดขายได้ตามเป้า 1,300 ล้านบาท
นายวิโรจน์ เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ จํากัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยถึงความคืบหน้าในส่วนของโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 3 โครงการ ของบริษัทว่า สำหรับ โครงการ“พิมนารา ศรีนครินทร์-บางนา” บ้านที่มีคอนเซ็ปต์ Minimal Japandi ด้วยจุดเด่นทั้งแบบบ้านและฟังก์ชั่น การใช้งานในแบบญี่ปุ่น มูลค่าโครงการกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนมกราคม 2565 ล่าสุดได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า โดยปัจจุบันมียอดขายไปแล้วกว่า 60% โดยได้ทำการเปิดเฟสใหม่ ใกล้สวน และ ยังได้รับผลตอบรับที่ดี โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ตามเป้าภายในสิ้นปีนี้
ขณะที่ โครงการพิมนารา ธรรมศาสตร์ รังสิต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 117 ยูนิต มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท และโครงการพรีวิลเลจ ธรรมศาสตร์ รังสิต ทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 250 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปี 2565 นั้น ทั้งสองโครงการได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ทั้งนี้ มาจากที่ตั้งทั้ง 2 โครงการอยู่ห่างจากทางด่วนเชียงราก เพียง 300 เมตร รวมถึงสามารถ เดินทางเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนพหลโยธิน, คลองหลวง ตัดออกถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้สถานที่สำคัญต่างๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, ตลาดไท ฯลฯ สามารถตอบโจทย์ความสะดวกสบายของผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากเสียงตอบรับของลูกค้าที่เข้ามาชมโครงการที่ต่างชื่นชอบในคอนเซ็ปต์ของทั้งสองโครงการเป็นอย่างมาก
นายวิโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่อีก 2 โครงการที่มีมูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการบ้านเดี่ยว “พรรณนา พุทธมณฑล สาย 3” และ “พิมนารา ศรีนครินทร์-บางนา” ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว “พิมนารา ศาลายา” ที่มีมูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท ที่จะทำการเปิดขายช่วง Q3 ปีนี้ ซึ่งมีจุดขายเป็นโครงการบ้านเดี่ยวมีเพียงแค่ 77 ยูนิต เท่านั้น ราคา 5.5 -7 ล้านบาท
“อีกโครงการคือ “พรรณนา ทวีวัฒนา” โครงการที่มีมูลค่า 950 ล้านบาท โดยเป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป พร้อมสระว่ายน้ำในตัว มีความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 55 ยูนิต บ้านทุกหลังอยู่ติดถนนเมนโครงการทั้งหลัง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด เนื่องจากความกว้างของถนนเมน ราคา 15 -20 ล้านบาท ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ ธนบุรี ใกล้จุดเชื่อมต่อ ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 เข้าออกได้ ทั้งถนนบรมราชชนนี ถนนเพชรเกษม และถนนกาญจนาภิเษก โดยคาดว่าโครงการพรรณนา ทวีวัฒนา จะสามารถเปิดตัวได้ภายในช่วง Q4 ปีนี้”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
อสังหาฯQ3เดือด บิ๊กเนม อัดแคมเปญลดสูงสุด2ล้าน-แถมEV
ตลาดอสังหาฯสาดแคมเปญ ไตรมาส 3 ชิงลูกค้าเดือด! จองโครงการใหม่ – ระบายสต็อกเก่า ค่ายยักษ์ AP ลดสูงสุด 2 ล้าน แสนสิริใจปํ้าแถมรถอีวี(EV)
ก้าวเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีความท้าทายจากปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน แม้ธนาคารแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะออกมายืนยันว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่องขณะศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์มองว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย ฟื้นตัวลักษณะค่อยเป็นค่อยไปส่งผลให้การเปิดตัวโครงการลดลงเพื่อไม่ให้เกิดเป็นสต็อกสะสมเติมเข้าสู่ตลาด
ปัจจุบัน พบว่ามีที่อยู่อาศัยคงค้างทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิ เนียมในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มากถึง 1.77แสนหน่วย มูลค่า 8.71แสนล้านบาท ท่ามกลางกำลังซื้อเปราะบาง จากปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า90% ประกอบกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายความเข้มงวดสถาบันการเงิน การปฏิเสธสินเชื่อ
ขณะกลุ่มกำลังซื้อสูงกลุ่มผู้ซื้อเพื่อการลงทุน ชะลอตัดสินใจเพราะไม่มีตัวช่วยจากมาตรการLTV (Loan to Value Ratio) หรือ อัตราส่วนที่ธนาคารสามารถให้สินเชื่อได้ เมื่อเทียบกับราคาบ้านที่ซื้อ และรอดูท่าทีรัฐบาลใหม่ที่คาดว่าจะบริหารบ้านเมืองได้ในไตรมาสที่4 น่าจะมีมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ออกมาถึงเวลานั้นเศรษฐกิจน่าจะกระเตื้องขึ้น ไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไรก็ตาม ช่วงสุญญากาศของไตรมาสที่ 3 บิ๊กแบรนด์เร่งทำกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดออกแคมเปญชิงกำลังซื้อในรูปแบบต่างๆ
เริ่มจาก บริษัท พฤกษา เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กลับมาเปิดตัว โครงการ พลัมคอนโด นิวเวสต์ บางใหญ่ ทำเลใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง หลังชะลอโครงการออกไป จัดโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะ 100 ห้องแรกที่จองในวันงาน รับเฟอร์นิเจอร์ จองเพียง 5,000บาท ฟรีค่าทำสัญญาผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,900 บาทกับราคาเริ่ม1.59ล้านบาท
โครงการเดอะ ทรี (The Tree) หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ บนถนนรามคำแหง คอนโดมิเนียม แต่งครบพร้อมเข้าอยู่ราคาเดียว 3.69ล้านบาทใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีส้มออกแคมเป็น “ลดเป็นล้าน” หากซื้อโครงการในช่วงนี้ เช่นเดียวกับค่ายเอพีไทยแลนด์ให้ส่วนลดสูงสุด2ล้านบาท แคมเปญ “โปรบ้านแปะ#ของมันต้องมี มีไว้ใช้ มีไว้โชว์”นอกจากนี้ยังเปิดโซนใหม่ พระราม9-กรุงเทพกรีฑา “บ้านกลางเมือง”รับส่วนลด 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0.99% นาน24เดือน หากโอนกรรมสิทธิ์ยังลุ้นรางวัลรวมกว่า 3 ล้านบาท
มาที่ค่ายแสนสิริ ส่ง XT พญาไท จองวันนี้รับรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat 500 UL หรือรับซื้อ คืนสูงสุด1ล้านบาท และ THE LINE VIBE คอนโดลาดพร้าว ใกล้เซ็นทรัลและรถไฟฟ้า BTS นอกจากเน้นส่วนขนาดใหญ่8ไร่และแถมด้วยวิวพาโนรามาสวนจตุจักร รับส่วนลดทันที 3แสนบาทและรับเพิ่มฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า
ขณะค่ายLPN ส่ง ลุมพินีเพลสเตาปูนอินเตอร์เชนจ์ MRT สถานีเตาปูน สายสีนํ้าเงิน-ม่วง ราคาหนึ่งเดียว 86,500 บาทต่อตารางเมตร ลดเหลือ1.99ล้านบาทลดลง 69,000 บาท จากราคา2.68ล้านบาท วันที่15กรกฎาคมนี้ หากใครซื้อช่วงนี้ มองว่าเหมาะเพื่อการลงทุนระยะยาว หรืออยู่อาศัยในราคาไม่สูงมาก
ส่วนฝั่งริมแม่นํ้าเจ้าพระยา ย่านฝั่ง เจริญนคร ใกล้ ห้างยักษ์ไอคอนสยาม “ณวรางค์ แอสเซท” จัดโปรลดราคา คอนโดมิเนียมจาก กว่า 5 ล้านบาทต่อหน่วยเหลือ 4.39 ล้านบาท ทำเลนี้จะมีบิ๊กเนมเข้ามาปักหมุดจำนวนมากอย่างค่ายพฤกษา เสนา แสนสิริเป็นต้น เนื่องจากเป็นทำเลศักยภาพ ริมแม่นํ้าเจ้าพระยา
ค่าย ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรจัดแคมเปญ”ภารกิจเพื่อให้คนมีคอนโด”ในงาน ORIGINMISSION POSSIBLE ยกทัพโครงการคอนโดมิเนียมในเครือออริจิ้น ทั้งพร้อมอยู่และพรีเซล บนทำเลฯลฯ
ค่าย อนันดา ทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ไตรมาส 2 ต่อเนื่องไตรมาส3 โชว์ศักยภาพผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง การจัดบิ๊กอีเว้นท์Urban Caravanไลฟ์สไตล์อีเว้นท์สุดชิคตามแบบฉบับคนรุ่นใหม่ หลังช่วงที่จัดขึ้นระหว่างวันที่27–30มิถุนายน2566ที่ผ่านมา กระแสตอบรับดี คนเมืองออกมาใช้ชีวิตจับจ่ายใช้สอยอย่างเต็มที่ ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักอีกรอบ ตอกยํ้าการเป็นแบรนด์ที่เข้าใจวิถีชีวิตคนเมืองมากที่สุด ยํ้ามั่นใจกำลังซื้อเรียลดีมานด์ฟื้นตัว และจะมีกิจกรรมต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการทั้งค่ายเล็กค่ายใหญ่มีนโยบายช่วยผู้บริโภคให้ซื้อที่อยากได้บ้านแต่มีความเสี่ยง สถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ โดยให้ผ่อนกับโครงการสูงสุด 36 เดือนแบบไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี อย่างค่ายชีวาทัย ขณะริชชี่เพลส จองภายในเดือนกรกฎาคมนี้ กู้เต็ม100% ผ่อนกับโครงการ 24 เดือนทุกโครงการ ด้านค่ายลลิล จองโครงการทำเลจตุรโชติ ลด 5 แสนบาทเป็นต้น
เรียกว่าไตรมาส 3 ดีเวลลอปเปอร์ค่ายใหญ่ค่ายเล็ก จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดกันอย่างคึกคัก ต้อนรับรัฐบาลใหม่
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 11ก.ค. “แข็งค่า” ที่ระดับ 35.06 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทอาจทยอยแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ แต่ปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ขณะที่สัญญาณการทยอยขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ เพื่อลดความเสี่ยง ก่อนรับรู้ผลโหวตเลือกนายกฯ
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 11ก.ค.2566 ที่ระดับ 35.06 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.15 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า แม้เงินบาทจะทยอยแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ แต่ทว่า เงินบาทยังมีปัจจัยเสี่ยงการเมืองในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ซึ่งอาจกดดันให้ เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้
โดยเฉพาะในช่วงที่จะใกล้ถึงวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี (วันที่ 13 กรกฎาคม นี้) ทำให้ เราประเมินว่า เงินบาทอาจยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อจนทะลุโซนแนวรับแถว 34.90-35.00 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ง่ายนัก นอกจากนี้ เรายังคงเห็นสัญญาณการทยอยขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ก่อนรับรู้ผลโหวตเลือกนายกฯ
ทั้งนี้ หากเงินบาทแข็งค่าทะลุแนวรับสำคัญดังกล่าว เราประเมินว่า มีโอกาสที่จะเห็นเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อทดสอบโซน 34.75 บาทต่อดอลลาร์ได้ เนื่องจาก ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ อย่าง ผู้นำเข้า ต่างรอจังหวะเข้าซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงที่เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น อนึ่ง โซนแนวต้านของเงินบาทอาจขยับลงมาอยู่ในโซน 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ หลังเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและการปรับเปลี่ยนมุมมองไปมาของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายเฟด ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.90-35.20 บาท/ดอลลาร์
โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น ทดสอบโซนแนวรับ 35.05-35.10 บาทต่อดอลลาร์ ตามการปรับตัวอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำสู่ระดับ 1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง หลังผู้เล่นในตลาดเริ่มมองว่า เฟดใกล้ถึงจุดยุติการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น โดยดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.24% หนุนโดยถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ต่างส่งสัญญาณว่า แม้เฟดจะมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ แต่ก็ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแล้ว ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากนัก เพื่อรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะหุ้นสถาบันการเงินขนาดใหญ่
ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.18% หนุนโดยการรีบาวด์ขึ้นต่อของบรรดาหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม (L’ Oreal +0.8%, Hermes +0.8%) ท่ามกลางความหวังว่า ทางการจีนอาจจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังการประชุม Politburo ในเดือนนี้ อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นยุโรปกลับถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้น Novo Nordisk -1.1% หลังสำนักงานยายุโรปเตรียมเข้าตรวจสอบ side effects ของการใช้ยาเบาหวานและยาลดน้ำหนักของบริษัท
ในฝั่งตลาดบอนด์ ท่าทีของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ต่างส่งสัญญาณว่า การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดนั้นอาจใกล้ถึงจุดยุติ ได้ทำให้ผู้เล่นในตลาดทยอยกลับเข้ามาซื้อบอนด์ระยะยาวเพิ่มเติม (สอดคล้องกับที่เราเคยประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดต่างรอจังหวะในการ Buy on Dip) ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวลดลงสู่ระดับ 4.00%
อย่างไรก็ดี เรามองว่า ยังคงมีความเสี่ยงที่บอนด์ยีลด์ระยะยาวอาจปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ หากผู้เล่นในตลาดเริ่มประเมินว่า แม้เฟดจะใกล้ยุติขึ้นดอกเบี้ย แต่อัตราดอกเบี้ยนโยบายก็อาจไม่ได้ปรับตัวลดลงเร็วหรือกลับเข้าสู่ระดับ 2.50% ที่เฟดประเมินไว้ ทั้งนี้ เราคงแนะนำให้ ผู้เล่นในตลาดทยอยเข้าซื้อบอนด์ในจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยปรับตัวอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดว่าเฟดใกล้ถึงจุดยุติการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ย่อตัวลงใกล้ระดับ 101.9 จุด (กรอบการเคลื่อนไหว 101.9-102.6 จุด ในช่วงคืนที่ผ่านมา) ทั้งนี้ เงินดอลลาร์อาจยังคงแกว่งตัว sideway หรืออาจไม่ได้มีการปรับตัวในทิศทางใดอย่างชัดเจน เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในวันพุธนี้
ในส่วนของราคาทองคำ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินได้กดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงในช่วงแรก ก่อนที่ราคาทองคำจะได้แรงหนุนจากการปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) รีบาวด์ขึ้นใกล้ระดับ 1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง โดยเรามองว่า การรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำดังกล่าว อาจทำให้ผู้เล่นบางส่วนทยอยขายทำกำไร ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าว ก็มีส่วนช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานอังกฤษ โดยหากการจ้างงานในอังกฤษยังอยู่ในภาวะตึงตัว ส่งผลให้อัตราการเติบโตของค่าจ้างยังทรงตัวในระดับสูง ก็อาจหนุนให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) สามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย +50bps เหมือนกับในการประชุมรอบก่อนหน้าได้
นอกจากนี้ ตลาดจะรอประเมินทิศทางเศรษฐกิจยูโรโซนผ่านรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Sentiment) ซึ่งตลาดมองว่า รายงานข้อมูลดังกล่าวอาจสะท้อนว่า ผู้เล่นในตลาด (นักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบัน) อาจยังคงมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน ท่ามกลางการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของ ECB และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่แย่กว่าคาด
และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในระยะถัดไป
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทแข็งค่าผ่านแนว 35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ มาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 34.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.35 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 35.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ขาดแรงหนุนเพิ่มเติม
เนื่องจากตลาดปรับตัวรับโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC เดือนนี้ไปมากแล้ว ประกอบกับเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านออกมาส่งสัญญาณว่า แม้เฟดยังคงต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ก็กำลังเข้าใกล้ช่วงเวลาที่จะยุติวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ แล้ว
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยทางการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะประเด็นการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.95-35.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์การเมืองในประเทศ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ไทยยามาฮ่า” พร้อมดัน “ไอเดีย-กฤตภัทร” บิด โมโตทรี เต็มฤดูกาล
“ไทยยามาฮ่า” ยืนยันพร้อมผลักดันนักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ เข้าร่วมแข่งขันในศึก โมโตทรี เวิลด์ แชมเปียนชิพ แบบเต็มฤดูกาลในปีหน้า หากผลงานเป็นที่น่าพอใจในการลงบิด ไวลด์การ์ด โมโตทรี รายการ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ปลายเดือนตุลาคมนี้
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด สร้างข่าวฮือฮาด้วยการประกาศส่ง “ไอเดีย” กฤตภัทร เข้าร่วมแข่งขันในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2023 สนาม 17 รายการ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ อย่างเป็นทางการ ด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปียนชิพ
โดย นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า “ในปีนี้ ยามาฮ่า ยังคงภาคภูมิใจกับการเป็นส่วนหนึ่งของ โมโตจีพี ในประเทศไทย เราพร้อมสร้างความตื่นตาตื่นใจ และความประทับใจให้แฟนความเร็วชาวไทยเพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีตลอดการแข่งขัน ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์”
“นอกจากนี้ เรายังภูมิใจอย่างมากที่จะส่งนักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ ลงแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดในรุ่น โมโตทรี ภายใต้สังกัด ‘ทีมไทย’ ของเราอย่าง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม นี่จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเด็กไทยสู่การแข่งขันระดับเวิลด์คลาส”
ด้าน นายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “เราเตรียมการเรื่องนี้มาสักระยะแล้วครับ อย่างที่ทราบดีว่า ยามาฮ่า มีโครงการ โร้ด ทู เดอะ เวิลด์ คลาส ซึ่งเป็นแคมเปญในการผลักดันนักบิดเยาวชนไทยให้ก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับโลก ซึ่ง “ไอเดีย” กฤตภัทร ก็อยู่ในโร้ดแม็ปนี้ และเขาเองก็สร้างผลงานประทับใจกับการแข่งขัน Yamaha R3 bLU cRU European Championship ในปีนี้”
“ตอนนี้เราได้เตรียมแผนต่างๆ สำหรับ กฤตภัทร แล้ว โดยจะเริ่มการซ้อมรถซูเปอร์สปอร์ต และรถโมโตทรี เพื่อสร้างความคุ้นเคย นอกจากนี้จะยังส่งเข้าร่วมแข่งขันในรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เพื่อให้คุ้นเคยกับความเร็วระดับสูง”
“นอกจากนี้ เรายังพร้อมจะผลักดันเขาให้ลงแข่งขันใน โมโตทรี เวิลด์ แชมเปียนชิพ แบบเต็มฤดูกาล หากเขาสามารถปรับตัวกับรถ โมโตทรี ได้ ถ้าเขาทำได้เราก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหากเขาทำผลงานได้ดีในไวลด์การ์ด และการทำงานร่วมกับทีม ซึ่งในครึ่งนี้เราวางแผนจะใช้ทีมไทยของเรา นั่นคือ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม และอาจมีบุคลากรจากต่างชาติที่ทำงานกับเราในทีม เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ มาร่วมด้วย”
ทั้งนี้ ศึก ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ จะดวลความเร็วระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“ติดเชื้อในกระแสเลือด” อันตรายถึงชีวิต เกิดขึ้นได้อย่างไร?
สาเหตุของการติดเชื้อในกระแสเลือด
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยติดเชื้อในกระแสเลือดมากกว่า 50,000 คนต่อปี โดยทั่วไปอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส การผ่าตัด ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยเด็ก ทารกแรกเกิด หรือการใส่อุปกรณ์ต่างๆเข้าสู่ร่างกาย มีโอกาสติดเชื้อในกระแสเลือดสูง
ทั้งนี้เมื่อเกิดการติดเชื้อสามารถกระจายไปทั่วร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้อุณหภูมิในร่างกายไม่สม่ำเสมอ ระบบการเดินหายใจแย่ลง และผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำอย่างรุนแรงจากการติดเชื้อในกระแสเลือดดังกล่าว มักนำไปสู่ภาวะการทำงานของอวัยวะต่างๆ ล้มเหลว หมดสติ และอาจทำให้เสียชีวิตได้
อันตรายจาก ภาวะความดันโลหิตต่ำจากการติดเชื้อในกระแสเลือด
รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาวะความดันโลหิตต่ำจากการติดเชื้อในกระแสเลือด มักมีไข้สูง หนาว มือและเท้าเย็น หายใจเร็วขึ้น รู้สึกตัวน้อยลง คลื่นไส้ อาเจียน ผิวหนังอาจเกิดจุด ปัสสาวะน้อยลง เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะไม่เพียงพอ นำไปสู่ภาวะช็อก ผู้ป่วยบางรายหากยังมีความดันโลหิตต่ำ แพทย์อาจให้ยาช่วยเพิ่มความดันโลหิต และจำเป็นต้องได้รับการรักษาเพื่อกระตุ้นให้หายใจได้ปกติ
อย่างไรก็ตามภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดจากเชื้อโรคบางชนิดสามารถป้องกันได้โดย การฉีดวัคซีนในเด็กให้ครบอย่างสม่ำเสมอ ส่วนผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่องควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ควรงดสูบบุหรี่ ห้ามใช้สารเสพติด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ และควรระวังป้องกันตนเองเมื่อต้องอยู่ใกล้ผู้ป่วยที่เป็นโรคต่างๆ ทั้งนี้หากพบอาการผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
10 สำนวนอังกฤษที่ใช้แล้วจะฟังดูหรูสุดๆ
1. Golly gosh
อยากจะลองทำท่าทำทางตกใจเหมือนผู้ดีเขาดูไหมคะ คำนี้ล่ะเหมาะเลย Golly กับคำว่า Gosh เป็นคำที่เขาคาดว่าแปลว่า “พระเจ้า” หรือ God นั่นเองค่ะ เนื่องจากคนชั้นสูงสมัยก่อนเขาไม่เอ่ยนามพระเจ้ากันตรงๆ การจะทำตัวเป็นผู้ดีจึงต้องประดิษฐ์คำขึ้นใหม่เป็นคำนี้เองค่ะ
2. Old bean
ถ้าอ่านวรรณกรรมหรือดูหนังเรื่อง The Great Gatsby อาจจะได้ยินคำว่า Old sport มาบ้างแล้วใช่ไหมคะ เป็นคำที่ผู้ดีเขาใช้เรียกเพื่อนฝูงกัน นอกจากนั้นก็ยังมี Old fellow หรือ Old fruit ด้วย คำว่า Old bean ก็เช่นกันค่ะ จะให้ทั้งความอบอุ่นแล้วก็นัยสูงส่งแบบผูุ้ดีแก่ผู้ถูกเรียกมากทีเดียว
3. Poppycock
คนอังกฤษใช้คำนี้กันบ่อยค่ะ มันหมายถึงการพูดถึงอะไรก็ตามที่ไร้สาระอย่างที่สุด ซึ่งก็เอาไปใช้เป็นคำคุณศัพท์ว่า poppycocking ได้ด้วย ลองใช้คำนี้แทนการบ่นว่าใครสักคนทำตัว nonsense ดูค่ะ
4. Jolly hockey sticks
คำนี้ใช้บรรยายเด็กสาวชนชั้นสูง (อาจจะเป็นเด็กในโรงเรียนหรือว่าคนที่ทำงานอยู่ในโรงเรียนก็ได้) ที่กระตือรื้อร้นในระดับที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลเอาเสียเลย เด็กสาวพวกนี้ตัวเล็ก อ่อนแอ อาจจะโดนใคร ๆ แกล้งก็ได้ แต่ว่ามันก็จะไม่ทำให้พวกเธอเสียขวัญมากนัก
5. Pip pip
สำหรับใครที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนนะคะ นี่คือคำที่ใช้แทนคำว่า “Goodbye” ได้ค่ะ จริง ๆ แล้วมันเป็นคำที่มีขึ้นมาเป็นร้อยปีแล้วนะคะ แต่ยังสามารถเอามาใช้ในเชิงเสียดสีผู้ดีได้อยู่
6. By Jove
Jove เป็นตัวย่อของคำว่า Jehovah (ยะโฮวาห์) หรือว่าพระเจ้า ในสมัยก่อนนั่นเองค่ะ อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่าสมัยก่อนคนมักจะหลีกเลี่ยงการพูดคำว่า God ตรง ๆ ดังนั้นก็จะประดิษฐ์ชื่อแทนขึ้นมาเยอะทีเดียว คำนี้เป็นคำที่ชนชั้นสูงเขาจะอุทานออกมาเวลาที่ตกใจหรือเจออะไรที่ช็อกมาก ๆ เข้า ในภาพยนตร์เก่า ๆ ก็ยังมีการใช้คำนี้อยู่ค่ะ
7. Spiffing
ถ้ามีใครหรือสิ่งของอะไรที่ยอดเยี่ยม เลิศหรู เลิศสะแมนแตนแล้วล่ะก็ ผู้ดีอังกฤษเขาจะเรียกว่าเป็น “Spiffing” ค่ะ เช่นหมวกนี้งามเหลือเกิน ก็พูดว่า “This is a spiffing hat.” แต่ว่าสมัยนี้ไม่ค่อยมีคนใช้คำนี้กันแล้วนะคะ ถ้าจะเอาไปใช้ก็ระวังโดนขำนะ
8. Good grief
นี่ก็เป็นคำอุทานอีกเช่นกันค่ะ เราเห็นคำอุทานในด้านดีอย่างเช่น Golly gosh หรือว่า By Jove กันมาแล้วใช่ไหมคะ แต่นี่คือคำที่จะออกไปในทางไม่ดีหน่อย คืออุทานเมื่อได้เห็นเรื่องไม่ดี หรือว่าได้รับข่าวร้ายนั่นเอง เป็นการช็อกแบบหรู ๆ ผู้ดีอังกฤษค่ะ
9. Jolly good show
นี่ก็เป็นคำฟุ่มเฟือยอีกคำค่ะ ไม่มีความหมายอะไรตรงตัวเลย แต่เป็นคำที่เอาไว้ใช้ชื่นชมอะไรที่แสดงออกมาได้ดีหรือว่ายอดเยี่ยมแบบหรู ๆ เช่น ทีมฟุตบอล เป็นต้นค่ะ ยกตัวอย่างเช่น “Jolly good show, that Striker!” (ยอดเยี่ยมมาก กองหน้าคนนั้น)
10. Capital
อาจจะเข้าใจว่าคำ ๆ นี้จะหมายถึง ตัวอักษร เมืองใหญ่ เงิน หรือธุรกิจอะไรทำนองนั้นใช่ไหมคะ แต่ไม่ใช่เลยค่ะ สำหรับผู้ดีอังกฤษแล้วคำว่า Capital นี้มีความหมายเดียวกับคำว่า Fantastic นั่นเอง เอาไว้อุทานชื่นชมอะไรที่สวยงาม ยิ่งใหญ่ อลังการค่ะ
เป็นยังไงคะแต่ละคำ กล้านำไปใช้กันไหมคะเนี่ย อันที่จริงคำเหล่านี้ถ้าใช้อย่างจริงจังอาจจะดูประดักประเดิดไปสักหน่อย เพราะต่างก็เป็นคำที่เขาไม่ใช้กันแล้ว หรือถ้าจะมีใช้อยู่ก็คงเป็นชนชั้นสูงที่อายุอานามเฉียดร้อย แต่ถ้าเอามาใช้ในเชิงขำขันดูจะเข้าท่าดีนะคะ คงสร้างเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะในสังคมอเมริกันที่เขาไม่ถือผู้ดีกันเท่าไร
ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th
ความนิยมแผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำเริ่มติดกระแสในสหรัฐฯ
โจ ซีแมน-เกรฟส์ (Joe Seaman-Graves) ผู้วางผังเมืองสำหรับเมืองเล็ก ๆ อย่างโคโฮส์ (Cohoes) ในนิวยอร์ก กำลังคิดหาวิธีจ่ายไฟฟ้าที่มีค่าใช้จ่ายน้อยลงให้กับเมืองนี้ และแม้ว่าจะไม่มีที่ดินที่จะสร้างอะไรเพิ่มเติมได้แล้ว แต่โคโฮส์ก็ยังมีอ่างเก็บน้ำในพื้นที่เกือบ 6 เฮกตาร์ หรือราว 38 ไร่
ซีแมน-เกรพส์ ลองค้นหาคำว่า “Floating Solar” หรือแผงโซลาร์ลอยน้ำในกูเกิล (Google) เพราะตัวเขาเองไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้ในการผลิตพลังงานสะอาดในเอเชียมานานแล้ว
เขาได้เรียนรู้ว่า อ่างเก็บน้ำของเมืองสามารถบรรจุแผงโซลาร์ได้มากพอที่จะจ่ายไฟให้กับอาคารในเมืองทั้งหมด ซึ่งเป็นการช่วยให้เมืองประหยัดงบประมาณได้ปีละมากกว่า 500,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว
โครงการแผงโซลาร์ลอยน้ำได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วกับการที่เป็นพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ในสหรัฐฯ และเอเชีย ทั้งนี้ การที่แผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำเป็นที่ต้องการไม่เพียงแต่สำหรับพลังงานสะอาดเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะการช่วยประหยัดน้ำด้วยการป้องกันการระเหยอีกด้วย
การศึกษาล่าสุดที่ปรากฏอยู่ในวารสาร Nature Sustainability พบว่า เมืองกว่า 6,000 แห่งใน 124 ประเทศสามารถผลิตไฟฟ้าที่ต้องการใช้ในเมืองได้ทั้งหมดโดยการใช้แผงโซลาร์ลอยน้ำ นอกจากนี้ ยังพบว่า แผงดังกล่าวสามารถช่วยให้เมืองต่าง ๆ มีปริมาณน้ำเพียงพอที่จะเติมลงในสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกถึง 40 ล้านสระในแต่ละปีด้วย
เจิงจง เซิง (Zhenzhong Zeng) ศาสตราจารย์จาก Southern University of Science and Technology ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ผู้ทำการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้ กล่าวว่า รัฐต่าง ๆ ของสหรัฐฯ เช่น ฟลอริดา เนวาดา และแคลิฟอร์เนีย สามารถผลิตพลังงานจากแผงโซลาร์ลอยน้ำได้มากกว่าที่เมืองจำเป็นต้องใช้
ทั้งนี้ แนวคิดของการใช้แผงโซลาร์ลอยน้ำนั้นทำได้ง่าย ๆ โดยการติดแผงบนโครงสร้างต่าง ๆ ที่ลอยอยู่บนน้ำ แผงดังกล่าวจะทำหน้าที่ปกคลุมผิวน้ำเพื่อช่วยลดการระเหยลงจนเกือบเป็นศูนย์ นอกจากนี้ น้ำยังช่วยให้แผงมีความเย็น ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าแผงแบบที่ติดตั้งบนบก ซึ่งจะสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อได้รับความร้อนสูงจนเกินไป
หนึ่งในฟาร์มแผงโซลาร์ลอยน้ำในสหรัฐฯ คือโครงการขนาด 4.8 เมกะวัตต์ในเมืองฮีลด์สเบิร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่สร้างขึ้นโดยบริษัท Ciel & Terre ซึ่งสร้างโครงการแบบเดียวกันนี้ไปแล้ว 270 โครงการใน 30 ประเทศ
คริส บาร์เทิล (Chris Bartle) จาก Ciel & Terre ประมาณการว่า การใช้แผงโซลาร์ลอยน้ำมีค่าใช้จ่ายมากกว่าแผงที่ติดตั้งบนบก 10%-15% ในระยะแรก แต่เทคโนโลยีนี้จะช่วยประหยัดเงินได้ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำที่ลึกกว่าอาจทำให้ต้นทุนการติดตั้งสูงขึ้น และเทคโนโลยีนี้ไม่สามารถทำงานบนน้ำที่เคลื่อนที่เร็ว ในมหาสมุทรเปิด หรือบนแนวชายฝั่งที่มีคลื่นขนาดใหญ่มากได้
นอกจากนี้ ปัญหาต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นได้หากแผงโซลาร์ปกปิดผิวน้ำมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตใต้น้ำได้ โดยนักวิจัยกำลังศึกษาว่า สนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ลอยน้ำอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศใต้น้ำหรือไม่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ในเรื่องนี้
ที่เมืองโคโฮส์ รัฐนิวยอร์ก เจ้าหน้าที่ของเมืองกำลังเตรียมการจัดตั้งโครงการในปลายปีนี้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 6.5 ล้านดอลลาร์
ซีแมน-เกรฟส์ ผู้วางผังเมืองนี้ กล่าวว่า เขาเชื่อว่า โครงการแผงโซลาร์ลอยน้ำในเมืองของเขาอาจจะเป็นตัวอย่างให้กับเมืองอื่น ๆ ในสหรัฐฯ ได้ พร้อมกล่าวว่า “เราเป็นชุมชนแห่งความยุติธรรมในด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมองเห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับเมืองต่าง ๆ ที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางที่จะทำตามแบบอย่างอย่างเมืองของเรา”
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
6 อาหารเพิ่มการขับถ่าย สำหรับคนไม่ชอบกินผัก-ผลไม้
หลายคนอาจเคยประสบปัญหาอึดอัดท้องเพราะท้องผูก ไม่ยอมถ่าย และพยายามหาวิธี หรืออาหารใดๆ ที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยรับประทานผักและผลไม้ ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับกากใยอาหารไม่มากเพียงพอ จึงอาจประสบปัญหาท้องผูกได้บ่อยๆ
พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ หมอผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท จากเพจ Pleasehealth Books แนะนำอาหารที่ช่วยระบายท้อง อีกทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบรับประทานผักผลไม้มาฝาก
6 อาหารเพิ่มการขับถ่าย สำหรับคนไม่ชอบกินผัก-ผลไม้
- ถั่วพิสตาชิโอ
ถั่วพิสตาชิโอมีทั้งโปรตีนดี ไขมันดี และเส้นใยอาหารที่ดีต่อระบบขับถ่าย โดยถั่วพิสตาชิโอ 1 ถ้วย ให้กากใยอาหารราว 13 กรัม
- ควินัว
สามารถนำควินัวมาหุงผสมกับข้าวเพื่อช่วยเพิ่มกากใยอาหารให้กับร่างกายได้ โดยควินัว 1 ถ้วย จะให้กากใยอาหารราว 5 กรัม
- บาร์เลย์
สามารถผสมบาร์เลย์ลงไปหุงพร้อมกันกับข้าวได้ เพิ่มความหนึบหนับ และยังช่วยเพิ่มกากใยอาหารให้กับร่างกายได้ 6 กรัม ต่อบาร์เลย์ 1 ถ้วยอีกด้วย
- ถั่วแระญี่ปุ่น
ของว่างประเภทถั่วชนิดนี้เป็นที่โปรดปรานของใครหลายคน สามารถกินเล่นเป็นอาหารว่างระหว่างวันได้ตามที่ต้องการ ถั่วแระญี่ปุ่น 1 ถ้วย ให้กากใยอาหาร 8 กรัมเลยทีเดียว แนะนำให้ต้มสุกพร้อมเปลือกด้วยนะ
อีกหนึ่งธัญพืชที่ขึ้นชื่อว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ด เพราะนอกจากประโยชน์จากคุณค่าทางสารอาหารแล้ว ยังสามารถเพิ่มกากใยอาหารให้กับร่างกายได้ถึง 5 กรัมต่อเมล็ดเจีย 1 ถ้วย สามารถนำไปผสมกับเครื่องดื่ม นม หรือโยเกิร์ตเพื่อเพิ่มความอร่อยได้ด้วย
- อะโวคาโด
ผลไม้ชนิดนี้คนที่ไม่ชอบผักและผลไม้หลายคนสามารถกินได้เพราะรสชาติหอมมันคล้ายเนยแบบไม่หวานไม่เค็ม สามารถนำมาบดทาบนขนมปังแทนเนยได้เลย โดยอะโวคาโด ½ ลูก ให้กากใยอาหาร 5 กรัม
สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาในการรับประทานผักและผลไม้ ยังคงแนะนำให้รับประทานผักและผลไม้ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันอยู่ นอกจากนี้เรายังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นด้วยการดื่มน้ำเยอะๆ และออกกำลังกายเป็นประจำ
หากมีความผิดปกติในเรื่องของการขับถ่ายบ่อยๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 11/07/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 31,800.00 | 31,900.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,060.00 | 31,229.60 | 32,400.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,854.00 | 28,106.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,648.00 | 24,983.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 927.00 | 14,053.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 721.00 | 10,930.36 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,135.00 | 32,366.60 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 11/07/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.05 | 36.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 | 35.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 33.74 | 33.74 | 33.74 | 33.74 | 33.74 | – | 33.74 | 33.74 | 33.74 | 33.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 34.19 | 34.19 | – | – | – | – | – | – | – | 34.19 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 42.94 | 46.74 | 46.94 | 46.84 | – | – | – | – | – | 42.94 |
เบนซิน 95 | 43.84 | – | – | – | 44.61 | – | 44.34 | 43.99 | – | 43.84 |
ดีเซล B7 | 31.94 | 31.94 | 32.24 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล | 31.94 | 31.94 | 32.24 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล B20 | 31.94 | 31.94 | 32.24 | – | 31.94 | – | 31.94 | – | – | 31.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 38.94 | 39.94 | 39.94 | 39.94 | 39.94 | – | – | – | – | 38.94 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |