สาระน่ารู้ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2566

“อรรถนพ พันธุกำเหนิด”ผ่าเส้นทางอสังหาฯ สู่อาณาจักร “ซิซซา กรุ๊ป”

“อรรถนพ พันธุกำเหนิด” ผู้บุกเบิกธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ดัน อาณาจักร “ซิซซา กรุ๊ป” เจาะตลาดอสังหาฯลักชัวรี ปลุกกำลังซื้อ บูมเศรษฐกิจท่องเที่ยวแดนใต้

กว่า18ปี “ซิซซา กรุ๊ป” บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนรูปแบบ Invesment Property (IP) ที่น่าจับตา และ หนึ่ง ในบริษัทผู้พัฒนาโครงการลักชัวรีเจาะตลาดทางภาคใต้ อย่างภูเก็ต และพังงา จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางกลับมา ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ หัวเมืองใหญ่กลับมามีชีวิตชีวา อีกครั้ง

หลังประสบความสำเร็จและมีแผนขยายโครงการต่อเนื่องในพื้นที่ ภายใต้การขับเคลื่อนของ “อรรถนพ พันธุกำเหนิด” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซิซซา กรุ๊ป จำกัด ล่าสุดให้ “สัมภาษณ์” ถึงแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหา ริมทรัพย์เมืองท่องเที่ยวว่ามีแนวโน้มดีต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาด “พูลวิลล่า” ที่ชาวต่างชาติชื่นชอบ

ผู้รับเหมาสู่ผู้บุกเบิกตลาดอสังหาฯ

ย้อนวันเวลา ก่อนประสบความสำเร็จจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ “อรรถนพ” เล่าว่า ที่ผ่านมาเคยทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่อยู่อาศัยจนกระทั้งเจอสถานการณ์สึนามิ ส่งผลให้มีคนงานเสียชีวิตราว 17 คน แต่หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวยังมีลูกค้าหลายรายให้ความสนใจให้บริษัทเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างในโครงการต่างๆ ทำให้เรามีงบประมาณที่สะสมสามารถนำไปซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัยจนกลายเป็นโปรเจ็กต์จนถึงปัจจุบันได้

ทั้งนี้ในปี 2548 ได้ก่อตั้งบริษัทที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ โดยโครงการแรกที่บริษัทได้พัฒนา คือ The Club & Spa โครงการเรสซิเดนซ์พูลวิลล่าระดับหรูในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นก้าวแรกสู่เส้นทางธุรกิจ จนปี 2561 ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจมาเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และร่วมมือกับวินด์แฮม โฮเทลส์ แอนด์ เอเชีย แปซิฟิก ดำเนินโครงการวินแดม แกรนด์ ในหาน บีซ ภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวพรีเมียม ที่บริการคอนโดเทลและห้องพักระดับหรูรวม 353 ห้อง

ขณะเดียวกันในปี 2563 ได้มีการซื้อกิจการนาใต้ บีซ รีสอร์ท ในจังหวัดพังงา เพื่อเปลี่ยนให้เป็นรีสอร์ทและศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมระดับประเทศโดยกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2569

ถอดบทเรียน “วิกฤตโควิด-19” 

“อรรถนพ ” เล่าต่อว่าจากสถานการณ์การแพ่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องการวางแผนให้ดีขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยง โดยเฉพาะการสร้างหนี้ หากมีหนี้เยอะในช่วงเกิดสถานการณ์วิกฤตเหล่านี้ เชื่อว่าเจ้าหนี้ต้องการอยากได้หนี้คืน เพราะกลัวความเสี่ยงเช่นกัน ทั้งนี้การมีหนี้เยอะ ทำให้เกิดข้อเสียจากการชำระดอกเบี้ย แทนที่จะนำงบประมาณเหล่านั้นมาพัฒนาโครงการอื่นๆ

“ในกรณีที่เรามีเงินทุนมาก เมื่อเกิดวิกฤติหนี้ทำให้เราไม่ต้องกังวลมากนักในการชำระดอกเบี้ยแก่เจ้าหนี้ ปัจจุบันเรากำลังมองหาสัดส่วนทุนมากกว่าการลงทุนในรูปแบบหนี้ โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนเงินทุนอยู่ที่ 70% และสัดส่วนเงินกู้อยู่ที่ 30%”

ดันเทรนด์ธุรกิจ รับรายได้โต 10%

ประเมินว่าในระยะถัดไปบริษัทตั้งเป้าหมายเป็นผู้พัฒนาต่างจากรายอื่นๆ โดยสิ่งที่เราพัฒนาใหม่ต้องสอดคล้องรับท็อปเทรนด์ของธุรกิจตลอด เวลารวมทั้งการแสวงหาพาร์ทเนอร์มากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์และขยายรายได้เพิ่มขึ้น 10% ต่อปีอย่างต่อเนื่อง

ตลาด “พูลวิลล่า” ปลุกกำลังซื้อต่างชาติ

 สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯในจังหวัดภูเก็ตตั้งแต่ปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566 มองว่านักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมและที่อยู่อาศัย ทำให้เกิดการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มผู้ซื้อหลักยังเป็นชาวรัสเซียถึง 80% เนื่องจากหนีภัยสงครามมาหาซื้อบ้านหลังที่สองในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะตลาดพูลวิลล่า ระดับราคา 6-100 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้า

“ส่วนช่วงไตรมาส 3 ปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ตลาดภูเก็ตจะค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับช่วงไฮซีซั่น จากเดิมที่คาดหวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมามากขึ้น แต่กลับไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ซึ่งต้องรอดูช่วง ไฮซีซั่นในปลายปีนี้อีกครั้งหนึ่ง”

ขณะที่การลงทุนของผู้ประกอบการในปี 2566 พบว่า มีการพัฒนาโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะพูลวิลล่ามากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการในท้องถิ่นและจากกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นตลาดแมส ระดับราคา 7-30 ล้านบาท โดยกระจายพัฒนารอบเกาะภูเก็ต ในส่วนของดีมานด์นั้น พบว่ามีความต้องการมากขึ้น เพราะซัพพลายพูลวิลล่าในช่วงที่ผ่านมาไม่เพียงพอกับดีมานด์ ทำให้หลังวิกฤติ โควิด-19 คลี่คลาย

ปัจจุบันตลาดพูลวิลล่ามียอดขายที่ดีมาก โดยทำเลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือโซนลากูน่า แถวหาดบางเทา หาดลายัน โซนถัดมาคือ ราไวย์ และในหาน ส่วนตลาดคอนโดฯมีการพัฒนาน้อยกว่าเดิม เนื่องจากในช่วงวิกฤติโควิด-19 ดีมานด์หันมาซื้อที่อยู่อาศัยประเภทบ้านและวิลล่ามากขึ้น

ปั้น 4 โปรเจ็กต์ รุก Madicle Hub

สำหรับทิศทางการดำเนินการของ ซิซซา กรุ๊ป ในปี 2566 จะมีการเปิดตัวทั้งหมด 4โครงการ รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. นาใต้ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ต มูลค่าการลงทุน 3,300 ล้านบาท พัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพและความงาม ควบคู่ไปกับรีสอร์ตหรูระดับ 6 ดาว ปัจจุบันเปิดให้บริการในส่วนของโรงแรมแล้ว ส่วนเมดิคอลฯจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 1 ปี 2567

2. เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต ในพื้นที่ โรงแรม “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” (Wyndham Grand Nai Harn Beach Phuket) โดยเฟสแรกใช้งบลงทุนไป 70 กว่าล้านบาท ใช้พื้นที่ไปประมาณ 500 ตารางเมตร พร้อมเปิดให้บริการในส่วนของ “เพลนารีเวลเนส” (Plenary Wellness) ศูนย์สุขภาพและความงาม เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบแบบองค์รวม ประกอบด้วย โปรแกรมตรวจสุขภาพเชิงลึก,เวชศาสตร์ชะลวัย,กายภาพบำบัด และเวชศาสตร์ความงาม

ส่วนเฟส 2 จะเป็น Men’s Health และ Women Health เป็นการดูแลสุขภาพทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทั้งหมดส่วนเฟส 3 กำลังศึกษาข้อมูลว่าจะนำบริการรูปแบบไหนเข้ามาใช้บ้าง คาดว่าทั้งโปรเจกต์ (3 เฟส) จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 300 ล้านบาท

“เมดิคอล ถือเป็นโปรดักส์ใหม่ในตลาด เวลเนส รีสอร์ต ที่เป็นการให้บริการเรื่องดูแลสุขภาพในโรงแรม ส่วนอีกแบบหนึ่ง คือ การให้บริการเชิงการแพทย์ ที่มีคลินิกเฉพาะทาง โดยสิ่งที่บริษัทฯทำจะเป็นการนำ 2 รูปแบบมารวมกันเป็น “เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต” (Medical Wellness Resort) เน้นเวชศาสตร์ป้องกันให้มีสุขภาพที่ดี และแข็งแรงตลอด บริษัทถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่ดำเนินการในรูปแบบดังกล่าว และมีจุดแข็งในเรื่องบุคลากรทางการแพทย์จากประเทศไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งปัจจุบันยังถือว่ามีคู่แข่งที่น้อยมาก ส่วนผู้ประกอบการรายอื่นก็จะมีจุดขายที่แตกต่างกันไป”

3. พูลวิลล่า บริเวณหาดลายัน โดยยังไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ ขณะนี้เรียกว่า “รายัน วิลล่า” โดยเฟส 1 ตั้งอยู่พื้นที่ 16 ไร่ เป็นวิลล่า จำนวน 26 หลัง ราคา 1-2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 35-70 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวภายในเดือนตุลาคม 2566

4. ดิ เอท พูลวิลล่า เฟส 2 บริเวณอ่าวฉลอง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 11 ไร่ เป็นวิลล่า จำนวน 60 หลัง ราคาตั้งแต่ 7-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 600-700 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวภายในเดือนธันวาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เมเจอร์ฯ wait&see ปัจจัยการเมือง ก่อนตัดสินใจเปิด-ไม่เปิด 2 คอนโดใหม่ 8,000 ล้าน

เมเจอร์กางแผนเปิดตัวใหม่ 12,000 ล้านบาท ครึ่งปีหลังบุกบ้านแนวราบระดับลักเซอรี่ 3 ทำเล มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ประเดิมไตรมาส 3/66 เปิดขาย “เมย์ฟิลด์ ปิ่นเกล้า” 1,000 ล้าน ส่วนคอนโดฯวางแผนเปิดใหม่ 2 โครงการในไตรมาส 4/66 ทำเลสุขุมวิท-อนุสาวรีย์ชัยฯ รวม 8,000 ล้าน ขอ wait&see รอดูสถานการณ์การเมือง

วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่วางแผนเปิดตัวโครงการบ้านแนวราบระดับลักเซอรี่ 3 ทำเลด้วยกัน มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 10-30 ล้านบาท

โดยคิกออฟที่โครงการเมย์ฟิลด์ ปิ่นเกล้า ในซอยบรมราชชนนี 6 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท, เมย์ฟิลด์ รามอินทรา-คู้บอน เริ่มต้น 13.9 ล้าน มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท

และเมย์ฟิลด์ เลน รัชดา-ลาดพร้าว เริ่มต้น 39.9 ล้านบาท มูลค่าโครงก่าร 520 ล้านบาท

ทั้งนี้ สถานการณ์การเมืองจากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 มองว่า อสังหาริมทรัพย์เซ็กเมนต์ลักเซอรี่ แทบจะไม่มีผลกระทบ เพราะมีกำลังซื้อตลอดเวลา

กลยุทธ์การแข่งขันอยู่ที่ ดีเวลอปเปอร์นำเสนอทำเลและโปรดักต์ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด

อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจเชิงตั้งรับ บริษัทเตรียมแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมลักเซอรี่ 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท

แบ่งเป็นทำเลสุขุมวิท 39 หรือพร้อมพงษ์ มูลค่า 3,250 ล้านบาท กับทำเลใกล้อนุสาวรีย์ชัยฯ มูลค่า 5,000 ล้านบาท ตารางเวลาเดิมกำหนดเปิดตัวโครงการ (Launch) ภายในไตรมาส 4/66

“พูดถึงแผนตั้งรับอาจมีบ้างที่แผนลอนช์โครงการใหม่ เราอาจจะไม่ลอนช์ พูดถึงแผนตั้งรับน่าจะเป็นพวกนี้มากกว่า แต่ว่าโปรดักต์ลักเซอรี่ เราคิดว่ายังลอนช์ไปได้”

โดยปัจจัยคำนึงอยู่ที่ สภาพเศรษฐกิจและปัจจัยการเมือง ความพร้อมของตลาด และเซนติเมนต์ว่ากำลังซื้อลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นยังไง ลูกค้าต่างชาติกลับมาเยอะหรือยัง การเมืองถือเป็นแฟกเตอร์หนึ่งเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการเมืองไม่นิ่ง และมีการเมืองลงท้องถนน สร้างความกังวลให้กับนักธุรกิจหรือไม่

ดร.สุริยากล่าวว่า สินค้าเซ็กเมนต์ลักเซอรี่แทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจผันผวน มองว่าไม่ได้กลัว แต่ก็ไม่อยากให้เกิด

“ที่ผ่านมาเคยมีการเมืองลงถนนแต่ก็ลากกันมาได้ ถ้าไม่ตึงเกินไป ก็ไม่เสี่ยงกับเรา (นักธุรกิจ) มาก นี่คือที่เรามอง เราเชื่อว่าถ้าการเมืองขยับช้า ๆ หน่อย ประเทศก็ต้องเดินหน้าต่อไป

ซึ่งผมคิดว่าถ้า (การเมือง) มีความชัดเจนก็ดีกับเรา คำว่าชัดเจนคือได้มีรัฐบาลใหม่ที่ชัดเจน แล้วเดินหน้าต่อไปได้” ดร.สุริยากล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net


เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 14ก.ค. “ อ่อนค่า” ที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทยังได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าบ้าง ทั้งจากดอลลาร์อ่อนค่าลง โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำ และโฟลว์เงินเยน ในช่วงนี้อาจเห็นแรงขายสินทรัพย์ไทยต่อ เหตุผู้เล่นลดพอร์ตการลงทุน เพื่อรอความชัดเจนการเมืองไทย

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 14ก.ค.2566 ที่ระดับ  34.58 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.57 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน   พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทอาจยังพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าอยู่บ้าง จากทั้งการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำ และโฟลว์ธุรกรรมเกี่ยวกับค่าเงินเยนญี่ปุ่น

 แต่ทว่า การแข็งค่าอาจเป็นไปอย่างจำกัด หลังผลการโหวตเลือกนายกฯ ออกมาตามที่เราคาด และอาจนำไปสู่ความวุ่นวายทางการเมืองในระยะสั้นได้ ซึ่งเราคาดว่า หากเงินบาทจะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ก็ควรจะเห็นแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น

ดังนั้น เราจึงประเมินว่า ภายใต้สถานการณ์การเมืองไทยที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง ผู้เล่นต่างชาติอาจเลือกที่จะลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนในไทยไปก่อน เพื่อรอความชัดเจน ซึ่งอาจเห็นแรงขายสินทรัพย์ไทยต่อได้บ้างในช่วงนี้ ทำให้เงินบาทอาจหยุดการแข็งค่าไว้แถวโซนแนวรับที่เราเคยประเมิน คือ ช่วง 34.40-34.50 บาทต่อดอลลาร์

ขณะที่โซนแนวต้านจะอยู่ในช่วง 34.80-35.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเงินบาทอาจยังไม่กลับมาอ่อนค่าทะลุโซน 35 บาทต่อดอลลาร์ได้ง่ายนัก หากไม่เห็นแรงขายสินทรัพย์ไทยที่รุนแรง พร้อมกับการกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์

อนึ่ง ควรระมัดระวังการรีบาวด์แข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่อาจเกิดขึ้นในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ซึ่งเรามองว่า ยังมีความเป็นไปได้ในระยะสั้น หากตลาดกังวลรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน หรือกังวลต่อปัญหาสภาพคล่องของธนาคารในฝั่งสหรัฐฯ

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและการปรับเปลี่ยนมุมมองไปมาของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายเฟด ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.40-34.70 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideway ในช่วง 34.50-34.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าในช่วงผลการโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งแม้ว่าผลการโหวตจะเป็นไปตามที่เราคาด และอาจนำมาสู่ความวุ่นวายทางการเมืองในระยะสั้น แต่เงินบาทก็ไม่ได้อ่อนค่ารุนแรงอย่างที่เรากังวล
 

เนื่องจากเงินดอลลาร์ก็ปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ เรามองว่า อาจมีโฟลว์จากฝั่งธุรกรรม JPYTHB (ขายเงินเยนญี่ปุ่น ซื้อเงินบาท) ช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาท หลังเงินเยนแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องพอสมควรในช่วงนี้ (จากเกือบหลุด 24 บาท/100 เยน สู่ระดับกว่า 24.80 บาท/100 เยน)

บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ท่ามกลางความหวังว่า เฟดอาจใกล้จะยุติการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้บรรดาหุ้นเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ยังคงปรับตัวขึ้นได้ดี (Alphabet +4.7%, Nvidia +4.7%) ส่งผลให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq พุ่งขึ้น +1.58% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.85% ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาสถาบันการเงินขนาดใหญ่สหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อความผันผวนตลาดในระยะสั้นได้ หากงบออกมาแย่กว่าคาด หรือ ผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลปัญหาระบบธนาคารสหรัฐฯ อีกครั้ง

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ปรับตัวขึ้นต่อ +0.61% ท่ามกลางภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินโดยรวม ที่ได้รับแรงหนุนจากความหวังต่อแนวโน้มเฟดใกล้ถึงจุดยุติการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้บรรดาหุ้นเทคฯ ต่างปรับตัวขึ้นต่อ (SAP +1.9, ASML +1.4%)

ในฝั่งตลาดบอนด์ ผู้เล่นในตลาดยังคงเดินหน้าซื้อบอนด์ระยะยาวเพิ่มเติมและช่วยหนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 3.77% ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยต่อ +25bps ในการประชุมเดือนกรกฎาคมเท่านั้น นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจใช้จังหวะที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นในการทยอยซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียน

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังผู้เล่นในตลาดต่างคาดว่าเฟดอาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุดการปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลุดจากระดับ 100 จุด (กรอบการเคลื่อนไหว 99.8-100.3 จุด ในช่วงคืนที่ผ่านมา)

ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะปรับตัวลดลง แต่ทว่าภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดได้ชะลอการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) ทำให้ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวใกล้โซน 1,960-1,970 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเรามองว่าผู้เล่นบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำเพิ่มเติม และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าว ก็มีส่วนช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้

สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจจะอยู่ที่ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (UofMichigan Consumer Sentiment) ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาจปรับตัวขึ้นบ้างในเดือนมิถุนายน ตามภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่งอยู่ ทั้งนี้ ตลาดจะรอจับตารายงานคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะสั้นและคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะยาว เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจนโยบายการเงินของเฟด

และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะ กลุ่มสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ อาทิ JP Morgan, Citi, Wells Fargo และ BlackRock ซึ่งอาจส่งผลต่อความผันผวนในตลาดการเงินได้ หากงบออกมาแย่กว่าคาด หรือตลาดกลับมากังวลปัญหาการขาดทุนในส่วนการลงทุนตราสารหนี้ ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงมีความกังวลต่อปัญหาสภาพคล่องของธนาคารสหรัฐฯ โดยเฉพาะธนาคารภูมิภาคได้

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ดื่ม “กาแฟ” เท่าไรก็ไม่หายง่วง? อาจเสี่ยง “ภาวะดื้อคาเฟอีน”

คาเฟอีน (Caffeine) เป็นสารที่สามารถพบได้ตามอาหาร เครื่องดื่ม เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง เมื่อร่างกายได้รับสารคาเฟอีนแล้ว จะไปเพิ่มสารเคมีในสมอง ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว ต่อสู้กับอาการเมื่อยล้า ด้วยเหตุนี่หลายๆ คนจึงหันมาดื่มกาแฟ เพื่อเป็นตัวช่วยในการทำงานของเช้าวันใหม่ แต่สำหรับบางคนที่ดื่มกาแฟในปริมาณเท่าเดิม แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนอง หรือตอบสนองได้น้อยลง

Hello คุณหมอ มีบทความที่น่าสนใจ ที่จะช่วยอธิบาย ภาวะดื้อคาเฟอีน ว่าคาเฟอีนนั้นตอบสนองต่อร่างกายของคนเราอย่างไร และตอบสนองต่อความทนทานต่อคาเฟอีนของร่างกายลดลงจริงหรือไหม

ภาวะดื้อคาเฟอีน (Caffeine tolerance) คืออะไร?

คาเฟอีนเป็นสารที่ไม่ได้ผลิตขึ้นมาเองจากร่างกายตามธรรมชาติ แต่เป็นสารที่เราต้องบริโภคเข้าไป ร่างกายจึงจะได้รับสารนี้ ดังนั้นผู้ที่ได้รับคาเฟอีนในครั้งแรก หรือไม่ได้บริโภคคาเฟอีนติดต่อกันเป็นเวลานาน ร่างกายจะตอบสนองต่อการบริโภคคาเฟอีนได้ดีที่สุด คาเฟอีนจะทำงานได้ดีที่สุด ดังนี้

  • รู้สึกสบายตัว
  • ตื่นตัว
  • เพิ่มพลังงาน
  • มีสมาธิในการทำงาน

แต่การบริโภคคาเฟอีนในขนาดและปริมาณเท่าเดิมเป็นเวลานานจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้อคาเฟอีน เป็นภาวะที่ร่างกายจะตอบสนองต่อคาเฟอีนที่ได้รับน้อยลง จนกระทั่งรู้สึกปกติ แม้ว่าจะบริโภคคาเฟอีนในปริมาณเท่าเดิมก็ตาม เมื่อร่างกายเกิดภาวะดื้อคาเฟอีน หากไม่ได้รับปริมาณคาเฟอีนที่มากขึ้น จะทำให้ร่างกายเกิดความรู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้น

ภาวะดื้อคาเฟอีน ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร?

ภาวะดื้อคาเฟอีนเป็นภาวะที่ ร่างกายสามารถทนทานต่อผลกระทบของคาเฟอีนได้ ทำให้คาเฟอีนนั้นออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ ซึ่งส่งผลต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน ภาวะดื้อคาเฟอีนนั้นสามารถเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ จริงๆ แล้วคาเฟอีนนั้นทำหน้าที่เสมือน ยาเสพติด เมื่อร่างกายเสพติดคาเฟอีนจนรู้สึกขาดมันไม่ได้ จนเกิดภาวะดื้อคาเฟอีน จะยิ่งทำให้เรานั้นดื่มคาเฟอีนเพิ่มมากขึ้นไปอีก ซึ่งการได้รับคาเฟอีนที่มากเกินไปนั้นอาจส่งผลทำให้ตับทำงานหนัก รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า อดนอน นอกจากนี้การดื่มกาแฟในปริมาณที่มากเกินไป ยังสามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อร่างกายและจิตใจได้

ป้องกันภาวะดื้อคาเฟอีนอย่างไรให้อยู่หมัด?

ภาวะดื้อคาเฟอีนเป็นภาวะที่สามารถรีเซ็ตหรือว่าป้องกันได้ ดังนี้

  • กำจัด คาเฟอีน ออกจากระบบในร่างกาย

ผู้ที่ติดคาเฟอีนมากๆ จนเกิดภาวะดื้อคาเฟอีนนั้น จำเป็นที่จะต้องทำการดีท็อกซ์คาเฟอีน เพื่อกำจัดคาเฟอีนออกจากระบบในร่างกาย เมื่อทำการกำจัดคาเฟอีนออกจากร่างกายได้ จนกลับสู่ภาวะปกติ การบริโภคคาเฟอีนในระดับปกติก็จะกลับมาตอบสนองต่อร่างกายเช่นเดิม ซึ่งระยะเวลาในการดีท็อกซ์นั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณคาเฟอีนที่ได้รับในแต่ละวัน บางคนอาจใช้ระยะเวลาในการดีท็อกซ์ 2 สัปดาห์ แต่สำหรับบางคนที่บริโภคคาเฟอีนในปริมาณที่มากอาจจะใช้เวลาในการดีท็อกซ์ถึง 2 เดือน

  • บริโภคคาเฟอีนเป็นครั้งคราว

การบริโภคคาเฟอีนทุกวันทำให้ร่างกายติดคาเฟอีนได้ เช่นเดียวกับการเสพสารเสพติด ซึ่งการบริโภคคาเฟอีนเป็นครั้งคราวเป็นวิธีป้องกันการเกิดภาวะดื้อคาเฟอีนได้ จึงควรเลือกบริโภคคาเฟอีนเมื่อจำเป็นเท่านั้น จึงจะเป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพ

บริโภคคาเฟอีนเท่าไรจึงจะปลอดภัย?

จากการวิจัยพบว่าผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสามารถบริโภคคาเฟอีนได้ถึง 400 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้หญิงตั้งครรภ์บริโภคคาเฟอีนได้ไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน หรือสูงสุด 300 มิลลิกรัมต่อวัน

หลายๆ คนมีการบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นประจำทุกวัน เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง และน้ำอัดลม ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นตัวช่วยในการกระตุ้นร่างกายให้มีความตื่นตัว แต่หากรับประทานเป็นเวลานานอาจทำให้ร่างกายทนต่อคาเฟอีนจนไม่ตอบสนองต่อคาเฟอีน ดังนั้นจึงควรดื่มคาเฟอีนเท่าที่จำเป็นเพื่อสุขภาพ

ขอบคุณข้อมูลจาก www.sanook.com


เคลียร์ชัด! ส.กรีฑาฯ แจงเหตุไม่ส่ง “บิว ภูริพล” ลง 100 ม. และ 200 ม. ชิงแชมป์เอเชีย

สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงเรื่อง “บิว” ภูริพล บุญสอน นักกีฬากรีฑาวิ่งระยะสั้นทีมชาติไทย ไม่ลงเเข่งขัน 100 เมตร เเละ 200 เมตร ชาย การเเข่งขันกรีฑาชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 25 (25th Asian Athletics Championships 2023)

สมาคมกีฬากรีฑาฯเเละทีมผู้ฝึกสอนของสมาคมกีฬากรีฑาฯ ลงความเห็นว่าควรเซฟตัว ภูริพล เนื่องจากร่างกายไม่สมบูรณ์ 100%  เเละเพื่อเก็บตัวไว้สำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 8 ตุลาคม 2023 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน

สำหรับการเเข่งขันกรีฑาชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 25 ในการเเข่งขัน วิ่ง 100 เมตร เเละ 200 เมตร ทีมชาติไทย ส่งนักกีฬาชายลงชิงชัยดังนี้

วิ่ง 100 เมตรชาย
รอบคัดเลือก วันนี้ 13 ก.ค. 66 เวลา 16:45 น.
รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 14 ก.ค. 66 เวลา 18:50 น.

“ต้า” สรอรรถ ดาบบัง
“ไฟเตอร์” ณฐวรรธ เอี่ยมอุดม

วิ่ง 200 เมตรชาย รอบชิงชนะเลิศ
(วันที่ 16 ก.ค. เวลา 18:05 น.)
“ต้า” สรอรรถ ดาบบัง
“เฉาก๊วย” ชยุตม์ คงประสิทธิ์

ขอขอบพระคุณแฟนนักกีฬากรีฑาทีมชาติไทย ที่ติดตามและร่วมให้กำลังใจนักกีฬากรีฑาในการแข่งขัน กรีฑาชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 25วันที่ 12-16 กรกฎาคมนี้ ณ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


พูดอีกครั้งได้ไหม (Asking to repeat)

เคยมั้ย? เดินอยู่ดีๆมีนักท่องเที่ยวฝรั่งที่ไหนไม่รู้เข้ามาทักทาย ยิงภาษาอังกฤษมาเป็นชุดๆเลย ไอ้เราก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง แล้วจะตอบยังไงดี? อย่างแรกตั้งสติก่อนนะครับ ถ้าฟังไม่ทันจริงๆก็ขอให้เค้าพูดซ้ำอีกครั้งซะก็หมดเรื่อง แต่คำว่า Again please? เนี่ยมันเช๊ยเชย ลองเปลี่ยนมาใช้คำใหม่ๆพวกนี้ดู

Excuse me? อิ๊กส์-คิวส์-มี
I’m sorry? ไอม์-ซอรี๋
2 คำนี้ใช้ได้กว้างขวางมาก และคงได้ยินกันบ่อยที่สุดแล้ว ความหมายก็ประมาณว่า “อะไรนะ พูดอีกทีซิ”

What do you mean? ว็อท-ดยู-มีน
ใช้ตอนที่เราได้ยินชัดแล้ว แต่ไม่เข้าใจ ก็ให้คนพูดอธิบายให้เคลียร์นิดนึงว่าที่พูดมาหมายความว่าไง

Could you repeat that? ขุด-ดยู-รีพีท-แ(th)ท
คำนี้ใช้ให้เค้าพูดซ้ำ ซึ่งมักจะใช้กับข้อมูลที่มีรายละเอียดเยอะ ถ้าเป็นบทสนทนาทั่วไปใช้คำอื่นดีกว่านะ

Pardon? – ผาร์-เดิ้น
อันนี้ถ้าไม่ใช่ผู้ดี๊ ผู้ดีจริงๆคงไม่ค่อยมีใครใช้แล้วล่ะครับ เพราะมันเป็นทางการมากกว่าทุกคำข้างบนซะอีก แต่ยังไงก็รู้ไว้เผื่อเจอเนาะ

สำหรับใช้กับเพื่อนๆ หรือคนแปลกหน้าแต่ไม่อยากเป็นทางการมาก

What? (อะไรนะ)
What was that?
จะพูดสั้นๆ หรือยาวก็ได้ทั้งคู่ 

Speak up! (พูดดังๆหน่อยว้อย ไม่ได้ยิน!)

Come again? (มาอีกรอบซิ)
เฮ้ยยย ไม่ใช่แล้ว ในบริบทนี้มันหมายความว่า “ไหนพูดอีกทีซิ” นะครับ อย่าเข้าใจผิดนะ

โอเคครับ แค่นี้ก็คงพอเอาตัวรอดให้ฝรั่งเค้าพูดซ้ำให้เราฟังได้แล้ว แต่จากนั้นจะตอบยังไงก็ตัวใครตัวมันแล้วนะจ๊ะ ทางที่ดีฝึกการฟังให้คล่อง พยายามฟังรอบเดียวไม่ต้องขอ repeat ดีกว่านะ

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


ใครจะลาพักร้อนยกมือขึ้น! Kaspersky เผย 3 อันดับกลโกงตัวตึงช่วงวันหยุดเทศกาล

เมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดพักผ่อน ผู้คนทั่วโลกต่างค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่พักราคาย่อมเยา และเที่ยวบินราคาประหยัด นักวิจัยของแคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) จับตามองมิจฉาชีพที่ใช้ประโยชน์จากผู้ใช้ที่ไม่ทันระแวดระวังตัว ด้วยการเสนอตั๋วเครื่องบินราคาถูก ข้อเสนอการจองที่พัก และแพ็คเกจวันหยุดต่างๆ

นักวิจัยของแคสเปอร์สกี้ได้สรุปแผนการกลโกงยอดฮิตที่มิจฉาชีพใช้เพื่อล่อลวงเหยื่อ พร้อมด้วยคำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนวันหยุดพักผ่อนให้พ้นจากการถูกหลอกลวง ดังนี้

กลโกงเรื่องตั๋วเครื่องบิน

ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้ได้ค้นพบเว็บไซต์หลอกลวงมากมายที่อ้างเสนอตั๋วเครื่องบินราคาถูก หน้าเว็บฟิชชิงที่สร้างขึ้นอย่างดี มักเลียนแบบบริการของสายการบินและผู้ให้บริการตั๋วเครื่องบินที่มีชื่อเสียง บางเว็บถึงกับแสดงรายละเอียดเที่ยวบินจริงโดยส่งคำค้นหาไปยังผู้ให้บริการที่ถูกต้องตามกฎหมายและแจ้งข้อมูลให้ผู้ใช้ทราบ

อย่างไรก็ตาม มิจฉาชีพจะไม่ส่งตั๋วเครื่องบินให้ การหลอกลวงนี้มีเป้าหมายเพื่อขโมยเงินของคุณและใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อจุดประสงค์มุ่งร้าย ซึ่งอาจรวมถึงการขายรายละเอียดธนาคารและเปิดเผยข้อมูลบนเว็บมืด

กลโกงเรื่องที่พัก

ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญในการวางแผนการเดินทางคือการหาที่พัก ซึ่งมิจฉาชีพมักหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้ การหลอกลวงเรื่องที่พักมักเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงรายชื่อสำหรับที่พักตากอากาศหรืออพาร์ตเมนต์ มิจฉาชีพจะสร้างที่พักปลอมๆ ที่น่าสนใจบนแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยม พร้อมภาพประกอบที่สวยงามและเสนอราคาที่ต่ำเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อเหยื่อทำการจองและชำระเงินแล้ว ภายหลังจึงจะรู้ว่าที่พักนั้นคือไม่มีอยู่จริง

การหลอกลวงเรื่องที่พักอีกประเภทหนึ่งจะพุ่งเป้าหมายไปที่การจองโรงแรม มิจฉาชีพอาจสร้างเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบแพลตฟอร์มการจองโรงแรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเว็บไซต์เหล่านี้มักจะแจ้งให้ผู้ใช้เข้าสู่ระบบโดยใช้ข้อมูลรับรองของ Facebook หรือ Google ซึ่งช่วยให้มิจฉาชีพสามารถเข้าถึงโซเชียลมีเดียหรืออีเมลของเหยื่อโดยไม่ต้องได้รับอนุญาต ซึ่งอาจนำไปสู่การโจรกรรมข้อมูลประจำตัว ธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต และกิจกรรมที่เป็นอันตรายอื่นๆ

กลโกงการสำรวจและการแจกรางวัล

มิจฉาชีพสร้างเว็บไซต์หลอกลวงหรือส่งอีเมลอ้างว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับรางวัลมากมาย เช่น เงิน 100 ดอลลาร์สหรัฐ เพียงแค่ตอบแบบสำรวจการเดินทาง การหลอกลวงประเภทนี้มักจะหลอกล่อเหยื่อที่ต้องการเงินและความเต็มใจที่จะแบ่งปันความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม แบบสำรวจจำพวกนี้ออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และรายละเอียดทางการเงิน ภายใต้การปลอมแปลงข้อกำหนดคุณสมบัติหรือการแจกรางวัล

ซึ่งแท้จริงแล้ว ผู้ร่วมกิจกรรมจะไม่ได้รับรางวัล และข้อมูลส่วนบุคคลของตนจะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการฉ้อโกงต่างๆ เช่น การโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว การเข้าถึงบัญชีการเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ แบบสำรวจมักจะลงท้ายด้วยการขอให้แบ่งปันเว็บไซต์กับเพื่อนๆ เพื่อให้เพื่อนได้รับรางวัลด้วย ในกรณีเช่นนี้ อาชญากรไซเบอร์ใช้ตัวเหยื่อเองเป็นเครื่องมือในการส่งต่อการหลอกลวงต่อไปเรื่อยๆ

โอลก้า สวิสทูโนวา ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า “มิจฉาชีพมักจะคอยมองหานักท่องเที่ยวที่ไม่ทันระมัดระวังตัว โดยพุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวที่ตื่นเต้นในการวางแผนท่องเที่ยวพักผ่อน เริ่มจากผู้ให้บริการตั๋วเครื่องบินปลอม ที่พักปลอม ไปจนถึงกลโกงแบบสำรวจ มิจฉาชีพจะใช้กลวิธีต่างๆ เพื่อขโมยเงินและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน นักท่องเที่ยวจึงต้องระมัดระวังในอย่างมากเมื่อดำเนินการต่างๆ ทางออนไลน์ ทั้งการตรวจสอบความถูกต้องของเว็บไซต์ การใช้แพลตฟอร์มการจองที่เชื่อถือได้ ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงินโดยปราศจากการยืนยันที่เหมาะสม และระลึกเสมอว่าความสงสัยเพียงเล็กน้อยสามารถช่วยให้ตนเองมั่นใจได้ว่าจะมีวันหยุดพักผ่อนที่ปลอดภัยและไม่ตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงของมิจฉาชีพ”

ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้ขอแนะนำการป้องกันตัวเองในขณะวางแผนท่องเที่ยว ดังต่อไปนี้

  • ใช้งานเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง ใช้แพลตฟอร์มการจองการเดินทาง สายการบิน และเว็บไซต์โรงแรมที่เชื่อถือได้และเป็นที่รู้จัก ระวังเว็บไซต์ที่ไม่คุ้นเคยหรือน่าสงสัยที่เสนอราคาต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ หรือขอข้อมูลส่วนบุคคลมากเกินไป
  • ตรวจสอบความถูกต้องของเว็บไซต์ ก่อนทำธุรกรรมใดๆ หรือให้รายละเอียดส่วนบุคคล ให้ตรวจสอบ URL ของเว็บไซต์อีกครั้งเพื่อดูการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย (มี https และไอคอนแม่กุญแจ) ระวังเว็บไซต์ที่มีการสะกดคำผิดแม้เพียงเล็กน้อยหรือชื่อโดเมนที่ผิดปกติ ซึ่งอาจบ่งบอกว่าเป็นการฉ้อโกงหลอกลวง
  • อ่านรีวิวและหาข้อมูล ค้นหาที่พัก สายการบิน หรือตัวแทนท่องเที่ยวที่คุณวางแผนจะใช้บริการ อ่านบทวิจารณ์จากแหล่งข้อมูลที่มีชื่อเสียง เพื่ออ่านประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ และมองหาสัญญาณอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
  • ใช้โซลูชันการรักษาความปลอดภัย โซลูชันการรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ เช่น Kaspersky Premium ซึ่งจะปกป้องผู้ใช้จากการหลอกลวงทุกรูปแบบ รวมถึงฟิชชิงที่เกี่ยวกับการเดินทาง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


บุญถาวร ชู “ Design Village” เป็น “คอมมูนิตี้ลิฟวิ่งมอลล์” (Community Living Mall) เพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ของคนยุคใหม่

ร่วมเปิดมุมมองแนวคิดและกลยุทธ์ในการยกระดับบริการของบุญถาวรให้เป็นมากกว่าร้านขายวัสดุตกแต่ง ด้วยการสร้าง Community Living Mall ที่รวบรวมโซน activities ทุกไลฟ์สไตล์เพื่อรองรับทุกความต้องการของผู้มาเยือนได้อย่างครบวงจร

ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาคุณสิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญถาวรเซรามิค (บุญถาวร) ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมุมมองแนวคิดในการพัฒนาและยกระดับ“ Design Village” เป็น “คอมมูนิตี้ลิฟวิ่งมอลล์” (Community Living Mall) ที่จะรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่หลังผ่านเหตุการณ์การระบาดของโรคไวรัสโควิด-19  ณ ชั้น 2 โซนไลฟ์สไตล์ เฟอร์นิเจอร์ @ Design Village สาขาบางนา ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้

“ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจทั้งในระดับมหภาคและจุลภาค ความเชี่ยวชาญในธุรกิจวัสดุตกแต่งและการปรับตัวเองให้เป็นมากกว่าร้านขายวัสดุตกแต่งตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปภายใต้ Brand: Ideas Come Alive ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าบริษัทและหนุนให้ “บุญถาวร” สามารถยืนหยัดอยู่คู่สังคมไทย มานานกว่า 50 ปี แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาทำให้ทิศทางการตลาดและพฤติกรรมการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งส่งผลต่อไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค อีกทั้งลูกค้าของบุญถาวรมีความพิถีพิถันและใช้เวลาในการเลือกซื้อสินค้าที่นานขึ้นและลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้มาคนเดียวในระหว่างเลือกสินค้า โดยอาจจะนัดมาเจอกับสถาปนิก ผู้รับเหมา หรือมากับคนในครอบครัว โดยการเลือกซื้อสินค้านั้นไม่จำเป็นต้องเป็นของที่แพงที่สุด แต่เป็นของที่ดีที่สุดตามความชอบและไลฟ์สไตล์ของตัวเอง จากข้อมูลเหล่านี้จึงทำให้เกิดโครงการ Design Village และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” คุณสิทธิศักดิ์กล่าว

Design Village เป็นการรวมหลากหลายธุรกิจไว้ในพื้นที่เดียวกันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่ม Suburbanism เป็นกลุ่มคนที่เคยใช้ชีวิตในเมือง มีความทันสมัยและชื่นชอบการดีไซน์และอยากสร้างบ้านที่หลีกหนีความวุ่นวายจึงหันมาสนใจการอยู่อาศัยในชานเมืองเพิ่มมากขึ้นประกอบกับความเจริญไปยังพื้นที่ชานเมืองยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

คุณสิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ Design Village บางนา เป็นการพัฒนาต่อยอดจากบุญถาวรเดิมให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย และที่นี่ถือเป็นทำเลทองใหม่ของการขยายการเติบโตของกรุงเทพมหานคร ในรัศมีโดยรอบ 5 กิโลเมตร มีที่อยู่อาศัยมากกว่า 180 โครงการและเป็นกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ ประมาณการรายได้ต่อครัวเรือนเฉลี่ย 33,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อไปกับโซนภาคตะวันออกและกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวในอนาคตอันใกล้นี้”

Design Village บางนา ประกอบด้วยอาคารบุญถาวร ซึ่งเป็นพื้นที่ Home & Living Retail มีแบรนด์คุณภาพชั้นนำมากมาย อาทิ Tile Gallery, Kitchen Studio, Bath & Bath, Anyhome, Lighting Center และยังนำแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลก เช่น NATUZZI EDITIONS, CAMERICH, KUKA, AMERICAN ELITE และแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ อีกมากมาย

ตอกย้ำความเป็นคอมมูนิตี้ลิฟวิ่งมอลล์ด้วยอาคาร Lifestyle Retail เป็นพื้นที่ประกอบด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย อาทิ ร้านแฟชั่นชื่อดังอย่าง Uniqlo Roadside ร้านค้ากลุ่มเฮลท์แอนด์เวนเนส เช่น Pruksa Wellness, GALAXY Fitness แนวคิดใหม่กับบรรยากาศการออกกำลังกายธีมอวกาศ สาขาแรกในประเทศไทยและกลุ่มร้านอาหารชั้นนำ อาทิ Masaru Shabu & Sushi Buffet, Signature BKK บุฟเฟ่ต์ชาบู – อาหารนานาชาติ ซุปเปอร์พรีเมี่ยม, รสนิยม (Rosniyom) ร้านอาหารไทยตกแต่งในบรรยากาศย้อนยุค จาก Iberry Group, ลิ้มเหล่าโหงว ตำนานบะหมี่ลูกชิ้นปลากระโดดได้สร้างสรรค์ความอร่อยยาวนานกว่า 80 ปี, YAMAYA TEMPURA by Hakata สาขาแรกของเมืองไทย, วราภรณ์ ซาลาเปา, Wines Catalog, After You, Fresh Me และ Tora Cha และร้านค้ากลุ่ม Home & Living เช่น OPPEIN Bangkok โซลูชันแบบครบวงจรสำหรับตู้ครัว ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของและประตูภายใน OPPEIN เป็นผู้ผลิต cabinetry รายใหญ่ที่สุดในเอเชียและแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศจีน, Zedere, Glasten

และ อาคาร Gourmet Market Standalone Flagship ผู้นำธุรกิจรีเทลอาหาร ที่จะเป็น Food Destination แห่งใหม่ในย่านบางนา รวมอาณาจักรอาหารและแบรนด์ชั้นนำกลางเมืองมาเสิร์ฟบนพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตร ครั้งแรกกับการแนะนำเมนูใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Bistro จาก You Hunt We Cook เปิดทำการตั้งแต่ 6.00 น. – เที่ยงคืน เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าและสุดท้าย คือ อาคารสตาบัคส์ ไดร์ฟทรู ด้วยรูปแบบที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ไม่ต้องการลงจากรถเพื่อซื้อกาแฟให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

Design Village บางนา มีแนวความคิดในการออกแบบเป็น Prompt Access คือการจัดโซนร้านค้าและบริการให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยรอบตัวอาคาร “กระชับระยะทางจากประตูรถถึงประตูร้าน” เพิ่มความสะดวกสบายโดยไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถ การจัดวางตัวอาคารได้มีการออกแบบให้สัมพันธ์กันทั้งโครงการ ทั้งยังคำนึงถึงเรื่องแสงธรรมชาติ การระบายอากาศ การประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืนในระยะยาว อีกทั้งยังมีการบริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าอีกด้วย

Design Village บางนา เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบในวันที่ 15 กรกฎาคม 2566 ภายใต้ชื่องาน “Unfold Enjoy Party” ขยายความสุข ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อเพื่อนบ้านชาวบางนานิสต้า ได้ Unfold กับพิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่กับไฮไลท์แฟชั่นโชว์บางนานิสต้า, Enjoy กับกิจกรรม Interactive Game และกิจกรรมมากมายรับส่วนลดจากร้านค้า ซึ่งภายในงานนี้ให้น้องนักเรียน นักศึกษา ในบริเวณใกล้เคียงมาทำกิจกรรม อาทิ การแสดงดนตรี, เต้น Cover และการแสดงความสามารถต่างๆ เพื่อเป็นการตอกย้ำว่า Design Village บางนา ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและพร้อมที่จะนำสิ่งดีๆ มาให้ชาวบางนานิสต้า ปิดท้ายด้วย Party กับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ เจ เจตริน, Paradox, อะตอม ชนกันต์ และ ป๊อป ปองกูล สุดพิเศษกับกิจกรรมส่งเสริมการขาย Unfold your Passion ช้อปครบรับทันที Design Village Tumbler ยิ่งไปกว่านั้นช้อปมากได้ลุ้นมาก ลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,000,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 14/07/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a32,050.0032,150.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,076.0031,472.1632,650.00
ทองรูปพรรณ 90%1,868.4028,324.94n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,660.8025,177.73n/a
ทองรูปพรรณ 50%934.0014,159.44n/a
ทองรูปพรรณ 40%727.0011,021.32n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,151.0032,609.16n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 14/07/2566



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9536.6536.6536.6536.6536.6536.6536.6536.6536.6536.65
แก๊สโซฮอล์ 9136.3836.3836.3836.3836.3836.3836.3836.3836.3836.38
แก๊สโซฮอล์ E2034.3434.3434.3434.3434.3434.3434.3434.3434.34
แก๊สโซฮอล์ E8534.7934.7934.79
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม42.9446.7446.9446.8442.94
เบนซิน 9544.4445.2144.9444.5944.44
ดีเซล B731.9431.9432.2431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.2431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.2431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม38.9439.9439.9439.9439.9438.94
แก๊ส NGV17.5917.5917.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า