สาระน่ารู้ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2566

5ทำเลฮอต’ราคา-ค่าเช่า’ที่อยู่อาศัยขยับขึ้นกรุงเทพฯรอบนอกยืนหนึ่ง

เปิดผลสำรวจดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผย 5 ทำเลฮอต ! ‘ราคา-ค่าเช่า’ที่อยู่อาศัยปรับขึ้น ส่วนใหญ่อยู่ในทำเลพื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจและพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกและอยู่ในทำเลแนวรถไฟฟ้าผ่าน ทำเลที่มีดัชนีราคาขึ้นมากที่สุด คันนายาว และทำเลที่มีดัชนีค่าเช่าสูงสุด ทุ่งครุ

นายวิทยา อภิรักษ์วิริยะ ผู้จัดการทั่วไป Think of Living และ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (ฝั่งดีเวลลอปเปอร์) กล่าวว่า ทำเลที่มีดัชนีราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบไตรมาส ส่วนใหญ่อยู่ในทำเลพื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจและพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก ซึ่งมีที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นหลัก และตั้งอยู่ใกล้เส้นทางที่รถไฟฟ้าพาดผ่าน ได้แก่ 

•    เขตคันนายาว ถือเป็นทำเลที่มีดัชนีราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้นถึง 15% QoQ แม้จะเป็นพื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจก็ตาม เป็นทำเลที่มีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นส่วนใหญ่ และอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2567 
•    ตามมาด้วย เขตบางคอแหลม มีดัชนีราคาเพิ่มขึ้น 8% QoQ อีกหนึ่งทำเลนอกเขตศูนย์กลางธุรกิจที่เป็นแหล่งงานย่านพระราม 3 ใกล้กับสาทร-สีลม ปัจจุบันยังมีโครงการพัฒนาต่อเนื่อง เช่น ศูนย์การค้าขนาดใหญ่

•    เขตสะพานสูง มีดัชนีราคาเพิ่มขึ้น 7% QoQ พื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ อีกหนึ่งทำเลบ้านแนวราบใกล้เมือง โดยเฉพาะโครงการหรูย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม และยังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย
•    เขตบางเขน มีดัชนีราคาเพิ่มขึ้น 7% QoQ พื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีที่กำลังจะเปิดให้บริการ อีกทั้งยังอยู่ใกล้สนามบินดอนเมือง เชื่อมต่อการเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น
•    เขตบึงกุ่ม มีดัชนีราคาเพิ่มขึ้น 6% QoQ พื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกที่อยู่ใกล้แหล่งงาน และเป็นทำเลที่มีที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นจำนวนมาก ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาบ้านที่มีพื้นที่มากขึ้น

ทำเลที่มีดัชนีค่าเช่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบไตรมาส ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก และพื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจเช่นกัน รวมทั้งอยู่ในทำเลแนวรถไฟฟ้าสายปัจจุบันและอนาคต ได้แก่

•    เขตทุ่งครุ เป็นทำเลที่มีดัชนีค่าเช่าเพิ่มขึ้นมากที่สุด 24% QoQ โดยเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกที่ใกล้แหล่งงานและสถานศึกษา ตั้งอยู่ใกล้พระราม 2 และไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงต่อขยาย เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) จึงมีความสะดวกในการเดินทาง
•    ตามมาด้วย เขตทวีวัฒนา ดัชนีค่าเช่าเพิ่มขึ้น 21% QoQ พื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกที่เป็นทำเลของที่อยู่อาศัยแนวราบ ถือเป็นอีกทำเลที่เดินทางได้สะดวก ทั้งอยู่ใกล้ทางด่วน รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ที่มีแผนก่อสร้างในอนาคต 
•    เขตลาดพร้าว ดัชนีค่าเช่าเพิ่มขึ้น 16% QoQ พื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจใกล้ใจกลางเมืองและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ จึงมีความเป็นย่านเชิงพาณิชย์แบบแหล่งช้อปปิ้ง นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้า 2 สายพาดผ่าน ทั้งสายสีน้ำเงิน และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง
•    เขตหนองแขม ดัชนีค่าเช่าเพิ่มขึ้น 13% QoQ พื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก แม้เป็นทำเลชานเมืองแต่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โดยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามแผนการสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหลักสอง-พุทธมณฑลสาย 4 ในอนาคต
•    เขตบางเขน ดัชนีค่าเช่าเพิ่มขึ้น 10% QoQ พื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ อีกหนึ่งทำเลใกล้เมือง ใกล้สถานศึกษาชื่อดังและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อานิสงส์จากการที่มีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และอยู่ใกล้สนามบินดอนเมือง ส่งผลให้เป็นเขตเดียวที่ติด 5 อันดับทำเลที่มีดัชนีราคาและดัชนีค่าเช่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบไตรมาส

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


เอสซี แอสเสทร่วมทุนสตอเรจ เอเชียรุกตลาด Self Storage

เอสซี แอสเสทร่วมทุนสตอเรจ เอเชียรุกตลาดธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของ หรือ Self Storage แบรนด์ i-Store ในย่าน อุดมสุข -อ่อนนุชมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

นายรชฎ นันทขว้าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซี เอ็กซ์เพดิชั่น จำกัด (SCX) กล่าวว่า การลงทุนร่วมกับ I-Store ซึ่งเป็นผู้นำบริการให้เช่าห้องเก็บของหรือพื้นที่เก็บของรวมถึงทรัพย์สินระดับพรีเมี่ยมของประเทศไทยในครั้งนี้ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ SC Thriving ของธุรกิจ Recurring Incomeโดย เอสซี แอสเสท ซึ่งจะลงทุนผ่านบริษัท ใน 3 ธุรกิจหลักได้แก่ โรงแรม, คลังสินค้า และ ออฟฟิศ ประกอบกับบริษัทฯ เล็งเห็นการเติบโตจากตลาด Self storage ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศเช่น Singapore , Japan และ USA”

เอสซี แอสเสท ในฐานะผู้นำ Living Solution Provider  ซึ่งบริษัท ในเครือ  บริษัท เอสซี เอ็กซ์เพดิชั่น จำกัด ได้จับมือ สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ร่วมทุนจัดตั้ง บริษัท ไอ สโตร์ สุขุมวิท จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ    i-Store Self Storage ธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของ สาขา อุดมสุข และ อ่อนนุช ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท

นายภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันการเติบโตของธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บของเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเทรนด์ของการตกแต่งบ้านหรือคอนโดเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ หลายๆ

คนจึงมองหาพื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งของนอกบ้านและด้วยรูปแบบการให้บริการที่สร้างความแตกต่างในการแข่งขัน ธุรกิจของ i-Store Self Storage จึงสามารถรักษาอัตราการเข้าใช้บริการมากกว่า 90% ทุกสาขา และสาขาสุขุมวิท 71 และ สาขาสาทร วัน มีอัตราการเข้าใช้บริการเพิ่มมากขึ้นตามที่บริษัทฯ เพลนไว้

ทั้งนี้ บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด (มหาชน)  ดำเนินธุรกิจบริการให้เช่าห้องเก็บทรัพย์สินหรือสิ่งของระดับพรีเมียมของประเทศไทยใช้ชื่อ i-Store Self Storage ในการประกอบกิจการ ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 4 สาขา ที่สาขาสีลม สาขาสุขุมวิท 24 สาขาสุขุมวิท 71 และสาขาสาทร วัน และมีจำนวนลูกค้ามาใช้บริการมากกว่า 800 ราย โดยการร่วมทุนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าให้กว้างมากขึ้น 

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 25ส.ค. “อ่อนค่า” ที่ระดับ 35.04 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง ไฮไลท์วันนี้ ผู้เล่นในตลาดรอลุ้นถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปและรอจับตามุมมองของประธานเฟดต่อทิศทางนโยบายการเงิน ส่วนฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานยอดการส่งออกและการนำเข้าในเดือนก.ค.

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 25ส.ค.2566 ที่ระดับ  35.04 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.00 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา อาจเริ่มชะลอลงบ้าง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ ต่างก็รอจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดในงานสัมมนาวิชาการที่ Jackson Hole ซึ่งต้องระวังว่า เงินบาทยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง

หากผู้เล่นในตลาดยิ่งเชื่อว่า เฟดมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ และเฟดจะยังไม่รีบลดดอกเบี้ยลงจนกว่าจะถึงการประชุมเดือนมิถุนายนปีหน้า อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า หากเงินบาททยอยอ่อนค่าลง การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด

 เนื่องจากปัจจัยกดดันเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา อย่าง ความไม่แน่นอนของการเมืองไทยก็ได้คลี่คลายลงแล้ว หลังการโหวตเลือกนายกฯ เสร็จสิ้นลง ทำให้เรามองว่า โซนแนวต้านของเงินบาทอาจอยู่ในช่วง 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ และมีโซน 35.50 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านสำคัญถัดไป

อย่างไรก็ดี เราเริ่มเห็นสัญญาณการทยอยกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยของบรรดานักลงทุนต่างชาติมากขึ้น แม้ว่า แรงซื้อหุ้นไทยอาจจะน้อยกว่าที่เราคาดหวังไว้มากก็ตาม ทำให้เงินบาทอาจยังพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าเพิ่มเติมได้ หากนักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยมากขึ้น

 ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือน บรรดาผู้นำเข้าอาจรอจังหวะเงินบาทแข็งค่าขึ้น ต่ำกว่าระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ ในการเข้าซื้อสกุลเงินต่างประเทศได้เช่นกัน ทำให้เราประเมินว่า หากเงินบาททยอยกลับมาแข็งค่าขึ้น ก็อาจติดโซนแนวรับแถว 34.75-34.80 บาทต่อดอลลาร์

อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้ เรามองว่า ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน ความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.95-35.15 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้ถ้อยแถลงของประธานเฟด

และมองกรอบเงินบาทในช่วง 34.85-35.20 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างทยอยรับรู้ถ้อยแถลงของประธานเฟด

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน sideway (แกว่งตัวในช่วง 34.92-35.04 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทมีการเคลื่อนไหวอ่อนค่าและแข็งค่าไปตามทิศทางของเงินดอลลาร์และราคาทองคำ โดยรวมเงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนจากรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานที่ออกมาดีกว่าคาดและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดการเงินผันผวน

บรรดาผู้เล่นในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างทยอยขายหุ้น เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ก่อนรับรู้ถ้อยแถลงของประธานเฟดในงานสัมมนาวิชาการที่ Jackson Hole วันนี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเผชิญแรงกดดันจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ยังคงกังวลต่อแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หลังรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปิดตลาด -1.35%

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 พลิกกลับมาลดลง -0.41% กดดันโดยแรงขายลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ก่อนรับรู้ถ้อยแถลงของทั้งประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และประธานเฟด ในงานสัมมนาวิชาการที่ Jackson Hole โดยผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะขายหุ้นเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth (ASML -3.5%, Infineon Tech -2.5%) ที่ปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงที่ผ่านมา ตามความหวังผลประกอบการบริษัท Nvidia ของสหรัฐฯ ที่จะออกมาแข็งแกร่ง

ในฝั่งตลาดบอนด์ มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เพิ่มโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ และโอกาสเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน ยังคงหนุนให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.24%

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดอาจรอประเมินสัญญาณการปรับนโยบายการเงินจากถ้อยแถลงของประธานเฟดในงานสัมมนาวิชาการที่ Jackson Hole ก่อนที่จะปรับสถานะการลงทุนที่ชัดเจน อย่างไรก็ดี เรายังคงแนะนำ ทยอยเข้าลงทุนบอนด์ระยะยาวในจังหวะย่อตัวหรือ

ในช่วงบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเราประเมินว่า การปรับตัวขึ้นต่อของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ นั้นอาจจำกัดอยู่ใกล้โซนจุดสูงล่าสุดแถว 4.30% ขณะที่ Risk-Reward ของการถือบอนด์ระยะยาวก็ยังมีความคุ้มค่า

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยปรับตัวแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หนุนโดยมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ยังคงเชื่อว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยต่อได้และเฟดอาจคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานขึ้น นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดหุ้นผันผวนและปิดรับความเสี่ยง ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ทยอยปรับตัวขึ้น สู่ระดับ 104 จุด (กรอบ 103.5-104.1 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ การปรับตัวขึ้นทั้งบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทะลุโซนแนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคำจะทยอยย่อตัวลงสู่ระดับ 1,944 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเรามองว่า ในช่วงที่ราคาทองคำย่อตัวลง อาจมีผู้เล่นบางส่วนทยอยเข้ามาซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรการรีบาวด์ขึ้นระยะสั้นได้ ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง

สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ถ้อยแถลงของบรรดาประธาน/ผู้ว่าธนาคารกลางหลักในงานสัมมนาวิชาการประจำปีของเฟด ที่เมือง Jackson Hole โดยจะเริ่มจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในช่วงราว 18.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นว่า ประธาน ECB จะส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกกี่ครั้ง หลังข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนล่าสุด ส่งสัญญาณชะลอตัวมากขึ้น

 ถัดมาในช่วงราว 21.05 น. ตามเวลาในประเทศไทย จะเป็นช่วงเวลาที่ผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตาใกล้ชิด ว่าประธานเฟดจะมีมุมมองต่อทิศทางนโยบายการเงินของเฟดอย่างไร โดยตลาดจะจับตาทั้งแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โอกาสที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงได้นานขึ้น (Higher for Longer) และระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสมของเฟด ว่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าอดีตหรือไม่

ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานยอดการส่งออกและการนำเข้า (Exports & Imports) ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างประเมินว่า แนวโน้มเศรษฐกิจคู่ค้าหลักที่ยังคงชะลอตัวลง อาจกดดันให้ ยอดการส่งออก แทบไม่ขยายตัวจากปีก่อนหน้า ส่วนยอดการนำเข้าก็จะยังคงหดตัวอยู่ และโดยรวม ยอดดุลการค้าอาจกลับมาขาดดุลราว -1.3 พันล้านดอลลาร์ได้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 35.04-35.06 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.20 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.98 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่ภาพรวมยังคงแกว่งตัวเป็นกรอบในระหว่างรอประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ

ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ หลังตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สะท้อนสัญญาณตึงตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดยังคงมีท่าทีหนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ ในช่วงที่ตลาดรอถ้อยแถลงของประธานเฟดดจากงานสัมมนาประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ด้วยเช่นกัน

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.95-35.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ส่วนปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกและปัจจัยทางการเมืองของไทย สัญญาณฟันด์โฟลว์ ทิศทางค่าเงินหยวน สัญญาณเกี่ยวกับนโยบายการเงินจากประธานเฟด  และตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. ของสหรัฐฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“กุลวุฒิ” ,”บาส-ปอป้อ, กิ๊ฟ-วิว” ลิ่วรอบ 8 คน, เมย์, ครีม พ่ายแบดมินตันศึก “ชิงแชมป์โลก”

การแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก 2023 “โททาลเอ็นเนอร์ยี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2023” ระหว่างวันที่ 21-27 สิงหาคม แข่งขันที่ รอยัล อารีน่า กรุงโคเปนเฮเกน นครหลวงประเทศเดนมาร์ก นับเป็นศึกขนไก่รายการใหญ่ที่สุดแห่งปี สำหรับโปรแกรมวันที่ 23 สิงหาคม เป็นการแข่งขันรอบสาม 16 คู่สุดท้าย ยังมีนักตีลูกขนไก่ไทยเข้าลุ้นชัยรวม 7 คู่ จาก 4 ประเภท

ประเภทชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ รองแชมป์ครั้งที่แล้ว มือ 3 ของโลก พบกับ ลัคย่าห์ เซน มือ 11 ของโลกจากอินเดีย 2 เกมแรกผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะต้องตัดสินกันที่เกมสาม ที่วิวจะมาฉายฟอร์มตบรวดเดียวเอาชนะ 21-13 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ 8 คนสุดท้ายได้สำเร็จ ไปพบ หวัง ซือ เหว่ย มือ 29 จากไต้หวัน

ทางด้านหญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก อินทนนท์ แชมป์โลกอายุน้อยที่สุดจากการคว้าแชมป์ในวัย 18 เมื่อปี 2013 พบ โนโซมิ โอกูฮาระ มือ 36 ของโลกจากญี่ปุ่น ผลปรากฏว่าเกมเป็นไปอย่างสูสีแต่ “เมย์-รัชนก” แผ่วช่วงท้ายพ่ายไป 0-2 เกม 19-21 และ 16-21 จบเส้นทางในรอบ 16 คน

 ในขณะที่ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ มือ 13 โลก ที่มีโปรแกรมพบ อกาเนะ ยามากูชิ มือ 2 โลกจากญี่ปุ่น ต้องถอนตัวยอมแพ้บายเนื่องจากสภาพร่างกายที่ยังไม่สมบูรณ์ ส่วน “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ แพ้ ไถ้ ซื่อหยิง มืออันดับ 4 ของโลกจากไต้หวัน 0-2 เกม 18-21 และ 17-21

 สำหรับหญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มือ 8 โลก เบียดชนะ เฟเบียน่า ดาวี่พูจี กุซุมา กับ อเมเลีย คาฮาย่า ปราติวี่ คู่มืออันดับ 16 ของโลกจากอินโดนีเซีย 2-1 เกม 21-14,17-21 และ 21-19 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ 8 คู่สุดท้ายไปพบ คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง คู่มือ 3 ของโลกจากเกาหลีใต้

 ส่วนประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย แชมป์โลกในปี 2021 ที่ประเทศสเปน ปัจจุบันเป็นมือ 4 ของโลก ชนะ รินอฟ ริวัลดี้ กับ พิธา ฮานิงต์ยาส เมนทารี มืออันดับ 16 ของโลกจากอินโดนีเซีย 2-0 เกม 21-12 และ 21-19

 ทำให้ “บาส-ปอป้อ” ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ 8 คู่สุดท้ายไปพบ แช ยูจุง กับ โซว ซอนแจ คู่มือวางอันดับ 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 5 ของโลกจากเกาหลีใต้ ที่เฉือนชนะ “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่ดาวรุ่งไทย 2-1 เกม 21-10, 15-21 และ 21-16

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“โนโรไวรัส” หวัดลงกระเพาะ ท้องเสีย-อาเจียนรุนแรงถึงเสียชีวิตได้

อาการป่วยที่พบเห็นได้บ่อยพอๆ กับการเป็นหวัด ไม่สบาย มีไข้ นั่นก็คือ อาการท้องเสีย ท้องร่วง หรือบางรายอาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย หลายคนอาจคิดแค่ว่าเป็นอาการอาหารเป็นพิษ แล้วถามไถ่กันเพียงว่า “ไปทานอะไรมา ทานอาหารทะเลที่ไม่สะอาดมาหรือเปล่า” ซึ่งก็ไม่ใช่การคาดคะเนที่ผิดสักทีเดียว แต่นอกเหนือไปจากอาหารเป็นพิษแล้ว ยังอาจมีอีกโรคหนึ่งที่หลายคนอาจไม่เคยรู้จัก นั่นคือ โรคหวัดลงกระเพาะอาหาร หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า “โนโรไวรัส”

“โนโรไวรัส” คืออะไร?

โนโรไวรัส เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อจากคนสู่คน สามารถติดต่อได้ง่ายโดยสัมผัสทางอาหาร น้ำดื่ม และติดต่อทางอากาศ การหายใจได้ เช่น การหายใจใกล้กับผู้ป่วยที่อาเจียน การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อน โดยเฉพาะอาหารที่ปรุงไม่สุก เช่น อาหารทะเล ผัก ผลไม้สดที่ล้างไม่สะอาด รวมถึงการสัมผัสผู้ป่วยโดยตรง หรือสิ่งของที่มีเชื้ออยู่

เชื้อโนโรไวรัส พบว่ามีการระบาดในช่วงฤดูหนาว และที่ทำให้เชื้อนี้แพร่กระจายได้ง่าย และรุนแรง เพราะเป็นเชื้อที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม ทนความร้อนได้มากถึง 60 องศาเซลเซียส ทนต่อน้ำยาฆ่าเชื้อ และอยู่รอดบนผิววัตถุต่างๆ ได้นานหลายวัน

ใครที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโนโรไวรัส?

เมื่อการติดต่อของเชื้อโนโรไวรัสมาจากการสัมผัสอาหาร น้ำดื่ม และอากาศ ดังนั้นเด็กเล็กที่ชอบเอามือเข้าปาก และอาจไม่ระมัดระวังในเรื่องของความสะอาดของอาหารมากพอ จึงมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโนโรไวรัสมากกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กๆ ในสถานศึกษา และโรงเรียนต่างๆ แต่ผู้ใหญ่ทั่วไปก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน หากสัมผัสอาหารด้วยมือที่หยิบจับอาหารที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อน หรือหายใจใกล้กับผู้ป่วยที่อาเจียน เป็นต้น

อาการของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโนโรไวรัส

เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จะก่อให้เกิดการอักเสบที่กระเพาะอาหาร มีระยะฟักตัวสั้น 12-48 ชั่วโมง หลังรับเชื้อ จึงมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารเป็นพิษ มีอาการคล้ายกัน คือ อาเจียนรุนแรง ปวดมวนท้อง ท้องเสีย ไข้ต่ำๆ หากมีอาการรุนแรงในเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุ อาจก่อให้เกิดการขาดน้ำได้

นอกจากนี้เชื้อไวรัสยังอาศัยอยู่บริเวณลำไส้เล็กส่วนต้น และทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเกิดความผิดปกติของการดูดซึมไขมัน และน้ำตาลของลำไส้เล็ก

หากผู้ป่วยมีอาการขาดน้ำจากการถ่ายท้อง ควรดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทนการเสียน้ำและเกลือแร่ หรืออาจให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง

อันตรายของโนโรไวรัส

อาการขาดน้ำจากท้องร่วง ถือว่าเป็นอาการที่รุนแรงกว่าที่ใครหลายคนคิด เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยโนโรไวรัสเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อโนโรไวรัสเสี่ยงมีอาการหนักถึงชีวิต ได้แก่ ผู้ป่วยที่พบว่ามีอุจจาระมีเลือดปน ผู้สูงอายุ หรือผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัวชนิดรุนแรง เช่น โรคไต ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ร่วมกับอาการท้องเสีย และอาเจียน รวมถึงผู้ป่วยที่ติดเชื้อโนโรไวรัสเป็นเวลานาน มีอาการอุจจาระร่วงนานนับเดือน อาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน

วิธีรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโนโรไวรัส

โนโรไวรัส ไม่มียารักษาโดยตรง แต่สามารถรักษาตามอาการได้ เช่น หากมีอาการอาเจียน ให้ยาแก้อาเจียน ถ้าถ่ายมาก ขาดน้ำ ให้สารละลายเกลือแร่ หรือน้ำเกลือ ดังนั้นการให้ยาปฏิชีวนะจึงไม่ได้เป็นประโยชน์ในการรักษาการติดเชื้อโนโรไวรัส

วิธีป้องกันการติดเชื้อโนโรไวรัส

ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุก ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด หลีกเลี่ยงน้ำ และอาหารที่ไม่สะอาด ควรล้างมือด้วยสบู่ ถูให้ทั่วนาน 15 วินาที ก่อนล้างมือด้วยน้ำสะอาด และผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการทำอาหารให้ผู้อื่นรับประทาน หรือใช้หลักการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” เพื่อสุขอนามัยที่ดีของตัวผู้ป่วยเอง และคนรอบข้าง และเพื่อเป็นการหยุดการแพร่เชื้อจากคนสู่คนต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


20 คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักถูกอ่านผิดบ่อยๆ

ในภาษาอังกฤษก็จะมีคำที่ออกเสียงยากๆหรือเขียนอีกอย่างอ่านอีกอย่าง ที่นอกจากจะทำให้คนที่กำลังฝึกภาษาอังกฤษงงแล้ว บางที่เจ้าของภาษายังอ่านไม่ถูกต้องเลยค่ะ วันนี้ทางผู้เขียนจึงได้รวบรวมคำศัพท์ 20 คำที่มักจะถูกออกเสียงผิดมาฝากกันค่ะ

  1. Receipt มีความหมายว่า ใบเสร็จรับเงิน ซึ่งมักจะถูกออกเสียงผิดเป็น รีเซพ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันไม่ใช่ค่ะมันออกเสียงว่า รี-ซีท
  2. Choir หรือ คณะประสานเสียง คำนี้เป็นคำหนึ่งที่ถูกออกเสียงผิดบ่อยมากๆ ซึ่งมักจะถูกออกเสียงเป็น ชอร์ แต่จริงๆแล้วมันอ่านออกเสียงว่า ไคว-เออร์ (ออกเสียง เออร์ เบาๆนะคะอย่าเน้น)
  3. Sword แปลว่า ดาบ มักถูกออกเสียงผิดเป็น สะหวอด แต่จริงๆแล้วออกเสียงแค่พยางค์เดียว คือ ซอรฺด
  4. Suite คำนี้มักจะถูกจำสับสนกับคำว่า suit (สูท) คนไทยบางคนจึงเรียกห้องชุดหรูหราในโรงแรมว่าห้องสูท แต่จริงๆแล้วต้องเรียกว่าห้องสวีทนะคะ
  5. Debt ที่แปลว่า หนี้สิน มักถูกออกเสียงผิดเป็น เด็บทฺ แต่การออกเสียงที่ถูกต้อง ต้องอ่านว่า เด็ท (ไม่ออกเสียงตัว b)
  6. Often เป็น adverb มีความหมายว่า บ่อยๆ อ่านออกเสียงว่า ออฟ-เฟน ไม่ใช่ออฟเทนนะจ้ะตัวเธอ
  7. Chaos ฮั่นแน่คิดว่าอ่านว่า ชาวสฺ ใช่มั้ยคะผิดค่ะจริงๆแล้วคำนี้อ่านว่า เค-ออส แปลว่า ความยุ่งเหยิงนะคะ
  8. Athlete มีความหมายว่า นักกีฬา มักถูกออกเสียงผิดเป็น แอ๊ท-เท-เลท แต่อ่านออกเสียงอย่างถูกต้องว่า แอ๊ธ-หลีท
  9. Colleague แปลว่า เพื่อนร่วมงาน ซึ่งอ่านออกเสียงว่า คอล-ลีก แต่มักถูกออกเสียงผิดเป็น คอ-ลิ-กู
  10. Cache มักถูกออกเสียงผิดเป็น คา-เช แต่การอ่านที่ถูกต้อง ต้องอ่านว่า แคช และแปลว่า สถานที่เก็บซ่อนสิ่งของ
  11. Allow มีความหมายว่า อนุญาต อ่านออกเสียงว่า อะ-ลาว แต่มักถูกพูดผิดๆเป็น อะ-โล
  12. Sphere หรือ รูปทรงกลม ถูกอ่านออกเสียงผิดเป็น สะ-เพีย แต่ให้ถูกต้องต้องอ่านว่า สะ-เฟีย(ออกเสียง สะ สั้นๆ)
  13. Recipe แปลว่า สูตรอาหาร ซึ่งมักถูกออกเสียงผิดเป็น รี-ซีพ หรือ รี-ไซพ แต่จริงๆแล้วคำนี้ออกเสียงว่า เร-ซิ-พี
  14. Tomb คำนี้มีความหมายว่า หลุมฝังศพและออกเสียงว่า ทูม ไม่ใช่ทอมนะคะ
  15. Jew หรือว่า ชาวยิว มักถูกออกเสียงผิดเป็น ยิวหรือจิว แต่จริงๆแล้วคำนี้อ่านออกเสียงว่า จู
  16. Psycho แปลว่า บ้า อ่านออกเสียงว่า ไซ-โค(ไม่ออกเสียงตัว p)
  17. Leopard มีความหมายว่า เสือดาว และไม่ได้อ่านออกเสียงว่า ลีโอพาร์ด แต่อ่านออกเสียงว่า เล็พ เพิรฺด
  18. Island หรือที่แปลว่า เกาะ มักถูกออกเสียงผิดเป็น อีส-แลนด์ แต่การอ่านที่ถูกต้องคือ ไอ-เลินดฺ
  19. Forte คำนี้นะคะอ่านออกเสียงได้ 2 แบบคือ ฟอร์ท และ ฟอ-เท ถูกทั้งคู่และมีความหมายว่า จุดแข็ง
  20. Anti คำนี้ก็มีคำอ่านที่ถูกต้องอยู่ 2 แบบนะคะ คือ แอน-ทิ และ แอน-ทาย ซึ่งมีความหมายว่า ต่อต้าน คนไทยเรามักจะอ่านว่า แอน-ทิเพราะฉะนั้นเมื่อได้ยินใครออกเสียงว่า แอน-ทาย ก็อย่าพึ่งว่าเค้านะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


ส่องลูกเล่นใหม่ใน iOS 17 Beta 7 มีทั้งแก้ไขปัญหาเดิมและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่

สำหรับคืบหน้าของระบบปฏิบัติการใหม่ของฝั่ง iPhone อย่าง iOS เวอร์ชั่น 17 ที่กำลังจะปล่อยให้ใช้งานในอนาคตนี้ตอนนี้มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นเช่นเดียวกัน โดยรอบนี้ใครอยากรู้ว่าจะมีอะไรใหม่บ้าง เรามาสำรวจกันดีกว่า

โปรแกรม Phone

สิ่งแรกที่จะพูดถึงกันก่อนในเวอร์ชั่น Beta โดยรอบนี้จะมีการเปลี่ยนปุ่มการวางสายให้มาอยู่ตรงกลางและมีการนำปุ่มวางสายไปไว้ตรงกลาง ต่อให้เปิดหมายเลขให้กดตำแหน่งปุ่มก็จะอยู่ตรงกลาง ซึ่งเหมือนกับเวอร์ชั่นปกติ แต่ก่อนหน้าเวอร์ชั่นนี้ปุ่มจะอยู่ทางขวามือ

ระบบสั่นเมื่อเปิด Silent Mode

ถึงแม้ใน iOS 17 Beta 6 มีปัญหาในเรื่องการเปิดสลับโหมด ให้เป็นหมดเงียบทำงานแล้วไม่มีการสั่นเตือนแต่สำหรับในรอบนี้มีการปรับปรุงให้กลับมา ทำงานพร้อมกับระบบสั่นแล้ว ทั้งนี้.นปุ่ม Action Mode ในอนาคตก็จะสามารถทำงานคล้ายกับปุ่มผลัก Mute Mode ได้เช่นเดียวกัน

Mood Tracking

การแสดงผลในด้านการเข้าโหมฝึกสมาธิในรอบนี้สามารถเปลี่ยนเป็นหลากหลายรูปแบบและสามารถปรับความเร็วได้ตามที่ต้องการ ฟีเจอร์นี้อยู่ใน Health เท่านั้น

ที่เหลือเป็นการแก้ปัญหาและเพิ่มความเสถียรก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายปีนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


6 อาหารคอลลาเจนสูง กินลดริ้วรอย พร้อมช่วยบรรเทาอาการปวดเข่า

สาวๆ คนไหนอยากหยุดเวลาผิวของตัวเองให้เนียนนุ่มสดใสเหมือนผิวเด็ก วันนี้เราจะชวนให้มารู้ถึงอาหาร 6 ชนิดที่มีคอลลาเจนสูง กินแล้วช่วยลดเลือนริ้วรอย ช่วยเพิ่มความมีสุขภาพผิวที่ดีเหมือนผิวเด็ก แถมยังช่วยลดอาการปวดเข่าได้ดีอีกด้วย มาดูกันค่ะว่าอาหาร 6 ชนิดที่มีคอลลาเจนสูงมีอะไรกันบ้าง


1.มะเขือเทศ
มะเขือเทศเป็นอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี เป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย โดยมะเขือเทศขนาดกลาง 1 ลูก มีความสามารถในการให้วิตามินซีแก่ร่างกายเพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้สูงถึง 30% เลยทีเดียว อีกทั้งมะเขือเทศยังมีสารไลโคปีนจำนวนมากที่ถือเป็นสารทรงพลัง และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี

2.ผักใบเขียว
ผักใบเขียว ไม่ว่าจะเป็นผักโขม ผักคะน้า หรือผักสลัดชนิดต่างๆ ล้วนเป็นอาหารที่อุดมด้วยคลอโรฟิลล์ โดยคลอโรฟิลล์มีคุณสมบัติช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาค้นพบว่า การบริโภคคลอโรฟิลล์ มีส่วนช่วยเพิ่มสารตั้งต้นของคอลลาเจนในผิวหนังอีกด้วย


3.กระเทียม
กระเทียมเป็นอาหารที่มีความสามารถในการช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนในร่างกายได้ดี เนื่องจากในกระเทียมอุดมด้วยสารกำมะถัน โดยกำมะถันจัดเป็นแร่ธาตุที่ช่วยสังเคราะห์และช่วยป้องกันการสลายตัวของคอลลาเจนได้นั่นเอง


4.เม็ดมะม่วงหิมพานต์
เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมด้วยสังกะสีและทองแดง โดยสารทั้งสองชนิดนี้มีส่วนช่วยเพิ่มความสามารถให้แก่ร่างกายในการสร้างคอลลาเจน และนอกจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์แล้ว ถั่วชนิดอื่นๆ ก็มีความสามารถไม่แพ้กัน ทั้งนี้อาหารจำพวกถั่วจัดเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง และมักจะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์คอลลาเจนอีกด้วย

5.ไก่
สาวๆ ต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่า อาหารเสริมคอลลาเจนหลายชนิดล้วนทำมาจากไก่ เนื่องจากไก่เป็นอาหารที่อุดมด้วยกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และในส่วนของไก่ที่แนะนำให้สาวๆ กินเพื่อให้ได้รับคอลลาเจนในปริมาณมากได้แก่ ส่วนเนื้อไก่นั่นเอง โดยเป็นส่วนที่เป็นแหล่งคอลลาเจนชั้นดีเลยทีเดียว


6.ผลไม้รสเปรี้ยว
เนื่องจากวิตามินซีคือสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตคอลลาเจน และวิตามินซีก็มักจะอุดมอยู่ในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเป็นส่วนมาก ดังนั้นจึงแนะนำให้สาวๆ หมั่นกินผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม เกรปฟรุต หรือเลมอน โดยผลไม้เหล่านี้ล้วนอุดมด้วยวิตามินซีสูง แถมยังช่วยในการสร้างคอลลาเจนในร่างกายได้ดีอีกด้วย


สำหรับการกินอาหารทั้ง 6 ชนิดนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มคอลลาเจนในร่างกาย ช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวมีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังช่วยลดอาการปวดเข่าได้ดีด้วยเช่นกัน ดังนั้นแนะนำให้สาวๆ หมั่นกินอาหารเหล่านี้บ่อยๆ จะยังช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากสารอาหารที่หลากหลายไปพร้อมกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 25/08/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a31,700.0031,800.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,053.0031,123.4832,300.00
ทองรูปพรรณ 90%1,847.7028,011.13n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,642.4024,898.78n/a
ทองรูปพรรณ 50%924.0014,007.84n/a
ทองรูปพรรณ 40%719.0010,900.04n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,127.0032,245.32n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 25/08/2566



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9539.5539.5540.5539.5539.5539.5539.5539.5539.5539.55
แก๊สโซฮอล์ 9139.2839.2840.2839.2839.2839.2839.2839.2839.2839.28
แก๊สโซฮอล์ E2037.2437.2438.2437.2437.2437.2437.2437.2437.24
แก๊สโซฮอล์ E8537.6937.6937.69
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม44.8448.5448.9448.9444.84
เบนซิน 9547.3448.5147.8447.4947.34
ดีเซล B731.9431.9432.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.9431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.7443.1447.9443.5443.5441.74
แก๊ส NGV17.5917.5917.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า