สาระน่ารู้ประจำวันที่ 22 ธันวาคม 2565

ราคาประเมินที่ดินปี 66ถนนวิทยุพุ่งเท่าตัว วาละล้าน กู้ซื้อบ้านเฮเงินงอก

ทำเลถนนวิทยุ ราคาประเมินที่ดินใหม่ ปี 2566 พุ่งเท่าตัว จาก 5 แสนเป็น 1 ล้านบาทต่อตร.ว. จับตารถไฟฟ้าใหม่  กูรูยัน คนซื้อบ้าน กู้แบงก์ ได้เงินมากขึ้น  กรมธนารักษ์ย้ำ ชัด 1 ม.ค. ปี 66 เริ่มใช้

การประกาศใช้ บัญชีราคาประเมินที่ดิน รอบใหม่ ปี 2566-2569  ของกรมธนารักษ์ มีผลวันที่ 1 มกราคม 2566 ซึ่งใช้แทน ราคาที่ดินฉบับเก่าปี 2559-2562 หลังจากเลื่อนใช้มานานจากสถานการณ์โควิดโดยกระทรวงการคลังให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจปีหน้าเริ่มฟื้นตัว

การประกอบกิจการกลับมาเป็นปกติส่งผลดีต่อภาครัฐสามารถจัดเก็บรายได้จากค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ จดจำนอง รวมถึง  ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่อาจกระทบประชาชน แลนด์ลอร์ดมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น 

ทั้งนี้จากภาพรวมราคาประเมินที่ดินใหม่ปรับตัวสูงกว่ารอบเก่า ทั้งประเทศเฉลี่ย 8.93% เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) ปรับขึ้น เฉลี่ย 2.69% ในทางกลับกันมูลค่าที่ดินยิ่งสูงขึ้น จะมีผลดีต่อการกู้เงินจากสถาบันการเงิน

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA) บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การใช้ราคาประเมินใหม่ ไม่น่ามีผลกระทบมากนัก แต่ข้อดีผู้ซื้อที่อยู่อาศัย จะได้เงินมากขึ้นเมื่อขอกู้ธนาคารหากอ้างอิงจากราคาประเมินราชการ

อย่างไรก็ตาม  นาย จำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ย่านศูนย์กลางธุรกิจ มามีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง จากการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ของภาคเอกชนทำให้ราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ปรับตัวสูงตามสะท้อนจากถนนวิทยุ ช่วงเพลินจิตถึงคลองแสนแสบเป็นถนนที่ปรับราคาประเมินเพิ่มขึ้นเท่าตัว ที่ 1,000,000  บาท/ตารางวา(ตร.ว.)

เทียบจากราคาประเมินรอบก่อน 500,000 บาทต่อตารางวา ตามด้วย ถนนวิทยุช่วงถนนพระราม4ถึงถนนเพลินจิต ปรับขึ้น 33.33%  อยู่ที่ 1,000,000 บาท/ตารางวา เทียบจากราคาที่ดินรอบเก่า อยู่ที่ 750,000 บาท/ตารางวา

เช่นเดียวกับถนนพระรามที่1 ช่วงถนนราชดำริถึงถนนพญาไทราคา1,000,000 บาท/ตารางวาปรับเพิ่มขึ้นจากราคาประเมินรอบที่ผ่านมาอยู่ที่ 9 แสนบาทหรือปรับขึ้น 11.11% ขณะย่านสีลมราคาตารางวาละ1ล้านบาทไม่เปลี่ยนแปลง  

ส่วนแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ราคาประเมินที่ดินจะปรับเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับราคาประเมินรอบที่ผ่านมา สะท้อนจากเขตห้วยขวาง ขยับขึ้น 21.46%เนื่องจากมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันออก ช่วง ศูนย์วัฒนธรรม- มีนบุรีอาทิ ถนนรัชดาภิเษกจากคลองนํ้าแก้ว-ซอยรัชดาฯ 16-แยกพระรามเก้า 450,000 บาท/ตร.ว. 

ถนนอโศก-ดินแดงช่วงถนนวิภาวดี-แยกพระราม 9 อยู่ที่ 300,000 บาท/ตร.ว. ช่วงแยกพระราม 9-คลองแสนแสบ 450,000 บาท/ตร.ว.ถนนวิภาวดีฯ ช่วงห้าแยกลาดพร้าว-สโมสรทหารบก 300,000 บาท/ตร.ว.  ช่วงสโมสรทหารบก-แยกดินแดง 250,000 บาท/ตร.ว.ถนนพระราม 9 ช่วงแยกรัชดาฯ-รฟม. 300,000 บาท/ตร.ว.  

ช่วงแยกรัชดา-แยกอสมท. 300,000 บาท/ตร.ว. ช่วงแยก อสมท-รฟม. 300,000 บาท/ตร.ว. ช่วง รฟม.-คลองแสนแสบ 200,000 บาท/ตร.ว.  ถนนลาดพร้าวแยกรัชดา-ลาดพร้าว-คลองลาดพร้าวและแยกรัชดา-คลองบางซื่อ-คลองลาดพร้าว 250,000 บาท/ตร.ว.เป็นต้น

แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์กล่าวเพิ่มเติม  พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเป็นอีกทำเลที่น่าจับตาเพราะราคาประเมินใหม่ปรับตัวสูง เนื่องจากมีความเคลื่อนไหวการลงทุนค่อนข้างมากทั้งโครงสร้างพื้นฐานรัฐและภาคแอกชน ปรับขึ้นเฉลี่ยประมาณ 20-30%  โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี

สำหรับราคาประเมินที่ดินใหม่ บนถนนสายสำคัญ ในเขตกทมปี 2566-2569 ได้แก่ ถนนสีลม ช่วงถนนพระรามที่ 4-ถนนนราธิวาสราชนครินทร์  1 ล้านบาท/ตร.ว. ช่วงถนนนราธิวาสราชนครินทร์-ถนนเจริญกรุง 750,000 บาท/ตร.ว. ถนนเพลินจิต 1,000,000 บาท/ตร.ว ถนนราชดำริ ช่วงคลองแสนแสบ-ถนนเพลินจิต 900,000 บาท/ตร.ว.

ช่วงถนนเพลินจิต-ถนนพระรามที่ 4 อยู่ที่ 750,000 บาท/ตร.ว. ถนนพระรามที่ 1 ช่วงถนนราชดำริ-ถนนพญาไท 1,000,000 บาท/ตร.ว. ช่วงถนนพญาไท-ถนนบรรทัดทอง 500,000 บาท/ตร.ว. ช่วงถนนบรรทัดทอง-ถนนกรุงเกษม 400,000 บาท/ตร.ว. ถนนวิทยุ 1,000,000  บาท/ตร.ว ถนนสาทร ช่วงถนนพระรามที่ 4-ถนนเจริญราษฎร์ 800,000 บาท/ตร.ว. ช่วงถนนเจริญราษฎร์-ถนนเจริญกรุง 450,000 บาท/ตร.ว.

ถนนเยาวราช 700,000 บาท/ตร.ว. ถนนเจริญกรุง ช่วงถนนอัษฏางค์-ถนนบริพัตร 450,000 บาท/ตร.ว.  ถนนบริพัตร-ถนนสาทร 500,000 บาท/ตร.ว.  ถนนสาทร-ถนนจันทน์ 350,000 บาท/ตร.ว. ถนนจันทน์-ซอยเจริญกรุง 85 อยู่ที่ 300,000 บาท/ตร.ว. ช่วงซอยเจริญกรุง 85-ถนนพระรามที่ 3 อยู่ที่ 250,000 บาท/ตร.ว.

ช่วงถนนพระรามที่ 3-แม่นํ้าเจ้าพระยา (ถนนตก) 200,000 บาท/ตร.ว. ถนนพระรามที่ 4 ช่วงถนนมิตรพันธ์-หัวลำโพง-ถนนสาทร-ถนนรัชดาภิเษก 400,000-500,000 บาท/ตร.ว. ถนนพระรามที่ 3 ช่วงถนนเจริญกรุง-ถนนรัชดาภิเษก 250,000 บาท/ตร.ว.  ช่วงถนนรัชดาภิเษก-ถนนเชื้อเพลิง 170,000 บาท/ตร.ว.ถนนสามเสน 260,000 บาท/ตร.ว. เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ยสท.จ่อซาวด์เสียงนักลงทุน ประมูลเช่าที่ดินย่านสาทร-เขตเศรษฐกิจ 3 แปลง

ยสท.เตรียมซาวด์เสียงนักลงทุน เปิดประมูลที่ดินย่านกรุงเทพมหานคร-ขอนแก่น-หนองคาย ดึงเอกชนเช่าทำเลศักยภาพสูงระยะยาว 30 ปี จำนวน 3 แปลง เริ่ม 22 ธ.ค.นี้

รายงานข่าวจากการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า ยสท.นำอสังหาริมทรัพย์เปิดประมูลให้เช่าระยะยาว 30 ปี โดยได้คัดเลือกที่ดินจำนวน 3 แปลง ได้แก่ แปลง “โกดังแองโกล” โฉนดเลขที่ 6009 และ 23614 เนื้อที่ 5-1-58.2 ไร่ ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 80  กรุงเทพมหานคร ภายในพื้นที่มีอาคารคลังสินค้า 2 หลัง พื้นที่อาคารรวม 6,140 ตารางเมตร ที่ตั้งโครงการใกล้กับเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนต์ และย่านธุรกิจถนนสาทร สีลม

ส่วนอีก 2 แปลง อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ แปลงบ้านพัก (สหผล) ขอนแก่น โฉนดเลขที่ 332 เนื้อที่ 6-3-18.8 ไร่ ริมถนนแจ้งสนิท อำเภอบ้านไผ่ ขอนแก่น ตั้งอยู่ในย่านชุมชนตลาดบ้านไผ่ ใกล้เคียง โรงพยาบาลบ้านไผ่ สถานีตำรวจภูธรอำเภอบ้านไผ่ และแปลงลานหินคลุก หนองคาย โฉนดเลขที่ 102741 เนื้อที่ 9-2-40.7 ไร่ ตั้งอยู่ติดถนนมิตรภาพ (ทล.2) ห่างจากด่านพรมแดนไทย-ลาว เพียง 300 เมตร (ฝั่งขาออก) ทำเลย่านการขนส่ง การท่องเที่ยว การค้าชายแดน ไม่มีอาคารสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน
 

สำหรับผู้สนใจร่วมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 แปลง ยสท. ได้กำหนดการประชุมทดสอบความสนใจของนักลงทุน (Market Sounding) ในรูปแบบออนไลน์ ผ่านโปรแกรม ZOOM โดยมีกำหนดการจัดงานในวันที่ 22 ธันวาคม 2565 เวลา 08.30 – 16.30 น. 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 34.68 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบต่อ อาจไม่ได้แข็งค่าต่อเนื่องไปมาก หากเงินดอลลาร์ไม่กลับมาอ่อนค่าลงชัดเจนเหมือนช่วงที่ผ่านมา แรงขายทำกำไรการแข็งค่าของเงินเยนญี่ปุ่นส่งผลให้ เงินเยนอ่อนค่าลงเล็กน้อยสู่ระดับ 132.4 เยนต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.68 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.70 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา อาจพอได้แรงหนุนจากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ

อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า เงินดอลลาร์ก็เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง (ดัชนี DXY ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 104 จุด) ทำให้เราประเมินว่า เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบต่อ (sideways) และอาจไม่ได้แข็งค่าต่อเนื่องไปมาก หากเงินดอลลาร์ก็ไม่กลับมาอ่อนค่าลงชัดเจนเหมือนช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ เราเริ่มเห็นสัญญาณการขายทำกำไรบอนด์ระยะสั้นจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นการขายทำกำไรสถานะ Short USDTHB (มองว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น) ทำให้เราคงมุมมองเดิมว่าแนวรับเงินบาทจะยังอยู่ในโซน 34.50-34.60 บาทต่อดอลลาร์

และควรระวังความผันผวนในฝั่งอ่อนค่าที่อาจเกิดขึ้นในวันนี้ หากรายงานข้อมูลยอดการส่งออกของไทยนั้นออกมาหดตัวมากกว่าคาด จนทำให้ดุลการค้าอาจขาดดุลมากกว่าคาดได้

การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงความจำเป็นของการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้เราคงแนะนำ ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.55-34.75 บาท/ดอลลาร์

บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ต่อเนื่อง หนุนโดยรายงานผลประกอบการของบริษัทใหญ่ อย่าง Nike (+12.2%) ที่ออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด อย่าง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

โดย Conference Board ในเดือนธันวาคม ก็ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 108.3 จุด ดีกว่าที่ตลาดคาดไปมาก หลังผู้บริโภคในฝั่งสหรัฐฯ เริ่มคลายกังวลปัญหาเงินเฟ้อสูง อีกทั้งตลาดแรงงานสหรัฐฯ ก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดต่างกลับเข้ามาซื้อหุ้นสหรัฐฯ หลังจากที่มีการปรับฐานมาพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นราว +1.49%

ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ของยุโรป พุ่งขึ้นราว +1.71% หนุนโดยความหวังของผู้เล่นในตลาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ตลาดเคยกังวล หลังจากที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนี (Gfk Consumer Climate) ในเดือนธันวาคม ได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -37.8 จุด ดีกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรป จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยตามอานิสงส์ของผลประกอบการบริษัท Nike สหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด

ในส่วนตลาดบอนด์นั้น บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เริ่มเคลื่อนไหวในกรอบใกล้ระดับ 3.70% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากผลกระทบของความกังวลแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายน้อยลงของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งอาจมองได้ว่า ผู้เล่นบางส่วนอาจยังคงมีความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจหลักชะลอตัวลงหนักและรอจังหวะให้บอนด์ยีลด์ระยะยาวปรับตัวสูงขึ้นบ้าง ก่อนที่จะทยอยเข้าซื้อสะสมและเพิ่มสถานะการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยให้มากขึ้น

ส่วนในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 104.2 จุด หนุนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ แรงขายทำกำไรการแข็งค่าของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ก็ส่งผลให้ เงินเยนอ่อนค่าลงเล็กน้อยสู่ระดับ 132.4 เยนต่อดอลลาร์ (หลังจากที่ได้แข็งค่าไปใกล้ระดับ 131 เยนต่อดอลลาร์)

ทั้งนี้ การปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ท่ามกลางภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน ได้ส่งผลให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ.) ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งใกล้กับโซนแนวต้าน ทำให้เรามองว่า ผู้เล่นบางส่วนอาจใช้จังหวะที่ราคาทองคำแกว่งตัวใกล้แนวต้านในการขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำเกิดขึ้นนั้น อาจช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทได้บ้าง

สำหรับวันนี้ ในฝั่งไทย ตลาดคาดว่า ผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะทำให้ยอดการส่งออก (Exports) ในเดือนพฤศจิกายน อาจหดตัวต่อเนื่อง -5%y/y ในขณะที่ยอดการนำเข้า (Imports) อาจยังขยายตัวราว +0.6%y/y ทำให้ดุลการค้า (Trade Balance) อาจขาดดุลราว -100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


 “กิ๊ฟ-วิว” ผลงานเปรี้ยง ขึ้นมือ 5 โลกหญิงคู่ “มูนา-อันนา” ยังคงรั้งอันดับ 11

สหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ได้มีการประกาศจัดอันดับโลกนักแบดมินตันไปเมื่อวันอังคารที่ 20 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา โดยในประเภทหญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ ที่อยู่อันดับ 6 ของโลก ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ของโลก เป็นอันดับที่ดีที่สุดนับตั้งแต่จับคู่กันมา

ส่วนในประเภทอื่นๆ ที่น่าสนใจ  “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย  ยังรั้งมืออันดับ 2 โลก ส่วนประเภทหญิงเดี่ยว”เมย์” รัชนก อินทนนท์ รั้งอันดับ 7, “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ รั้งอันดับ 9 และ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ รั้งอันดับ 10 ด้านหญิงคู่ สองพี่น้อง “อันนา” นันทน์กาญจน์ และ “มูนา”  เบญญาภา เอี่ยมสอาดที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักนักกีฬาแบดมินตันหญิงคู่ของไทยคู่แรก ที่ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ศึกเวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ 2022 ยังคงรั้งอันดับ 11 ของโลกในสัปดาห์ล่าสุด

สำหรับการแข่งขันแบดมินตันในปี 2023 จะประเดิมแข่งขัน 4 รายการติดต่อกันในเดือนมกราคม ประกอบไปด้วย ปิโตรนาส มาเลเซีย โอเพ่น รายการระดับระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ระหว่างวันที่ 10-15 ม.ค.66 , โยเน็กซ์ ซันไรท์ อินเดีย โอเพ่น  รายการระดับระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ระหว่างวันที่ 17-22 ม.ค.66 , ไดฮัทสุ อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส  รายการระดับระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ระหว่างวันที่ 24-29 ม.ค.66 และปิดท้ายด้วยรายการ ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส รายการระดับระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.- 5 ก.พ.66 ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ทำไมเราถึง “หาว” หาวบ่อย อันตรายหรือไม่

“หาว” เมื่อไร คนรอบตัวมักจะทักว่าเมื่อคืนนอนดึกเหรอ ช่วงนี้นอนไม่พอเหรอ หรือหากกำลังนั่งคุยกันอยู่แล้วเราหาว อาจโดนทักว่าเบื่อเหรอ จริงๆ แล้วที่ร่างกายเราสั่งให้เราหาวเป็นเพราะอะไร แล้วหากเราหาวบ่อยเกินไปในหนึ่งวันจะผิดปกติหรือไม่ Sanook Health มีคำตอบจากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มาฝากกัน

ทำไมเราถึง “หาว”

การหาว เป็นกลไกหนึ่งของร่างกายที่ต้องการจะรับเอาออกซิเจนจากอากาศเข้าสู่กระแสเลือด พร้อมกันนั้นก็ช่วยขับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดออกไป เพื่อรักษาความสมดุลของร่างกาย การหาวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อร่างกายเรามีออกซิเจนไม่เพียงพอ หรือมีคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดมากเกินไป จนก่อให้เกิดอาการง่วง เหงา หาวนอนขึ้นมาได้นั่นเอง

“หาว” แค่ไหนถึงเรียกว่า “หาวบ่อย”

การหาวบ่อย ก็คือ อาการหาวที่เกิดขึ้นบ่อยๆ มากกว่า 1 ครั้งต่อนาที และถึงแม้ว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของการหาวอาจมาจากความง่วง หรือความอ่อนเพลีย แต่ในบางครั้งแล้วนั้นการหาวมากจนผิดปกติ อาจเป็นผลมาจากสาเหตุเหล่านี้

  • นอนหลับไม่เพียงพอ

การนอนหลับไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการง่วงนอนตอนกลางวันได้ ถึงจะดูเหมือนไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงยังก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายอย่างโรคอ้วน โรคหัวใจ หรือโรคซึมเศร้า ฯลฯ ทั้งนี้ให้ลองเช็คตัวเองดูหากเป็นเช่นนั้นควรปรับพฤติกรรมการนอนและจัดตารางการนอนใหม่

  • นอนไม่หลับ

นอนไม่หลับ เป็นอาการที่ร่างกายรู้สึกอยากจะนอน แต่ไม่สามารถหลับได้ อาจจะใช้เวลานานกว่าปกติ หลับไปแล้วแต่ตื่นเร็ว หรือตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วไม่สามารถนอนหลับต่อไปได้ ทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เต็มที่ ดังนั้นควรเข้านอนให้เป็นเวลาเพื่อให้ร่างกายชิน และควรงดเครื่องดื่มที่มีสารออกฤทธิ์กระตุ้นสมอง เช่น สารคาเฟอีนที่มีอยู่ในชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น แต่หากอยากดื่มควรเลือกดื่มก่อน 14.00 น. เพราะถ้าดื่มหลัง 14.00 น. อาจทำให้ร่างกายมีปัญหานอนไม่หลับได้ หากมีปัญหานอนไม่หลับบ่อยๆ ควรพบแพทย์

  • ผลข้างเคียงจากยา

กลุ่มคนที่รับประทานยา เช่น กลุ่มยารักษาโรคซึมเศร้า หรือกลุ่มยารักษาภาวะวิตกกังวล อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียง มีอาการง่วงซึม นอนไม่หลับได้

  • อาการข้างเคียงจากโรคที่เป็นอยู่

มีหลายโรคที่ส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการหาวบ่อยกว่าปกติ เช่น โรคปลอกประสาทอักเสบชนิด MS (multiple sclerosis) เนื้องอกในสมอง โรคหลอดเลือดสมอง โรคลมชัก ตับวาย กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เป็นต้น

วิธีแก้อาการหาวบ่อยๆ

หากคุณเป็นคนที่หาวบ่อยจนทำให้เกิดปัญหา เช่น หาวในระหว่างทำงาน เรียน หรือประชุมบ่อยๆ คนดูไม่ดี มีวิธีแก้ไข ดังนี้

  1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยทั่วไปมักอยู่ที่ 6-9 ชั่วโมง
  2. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
  3. ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย
  4. หลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลที่มากเกินไป เพราะการรับประทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากจนเกินไป เป็นตัวการที่ทำให้ร่างกายง่วงซึมได้ เพราะตับอ่อนจะส่งอินซูลินออกมาเพื่อย่อยน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ก่อให้เกิดอาการง่วงนอนตามมานั่นเอง
  5. ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ เมื่อนั่งเรียน นั่งทำงานในท่าเดิมนานๆ
  6. งดหรือลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มคาเฟอีน

หากลองปรับพฤติกรรมแล้วอาการหาวบ่อยๆ ยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และทำการรักษาอย่างตรงจุดต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ประโยคและคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ควรรู้ไว้เวลาไปร้านอาหาร

ใครเคยเป็นแบบนี้บ้าง เวลาไปร้านอาหารในต่างประเทศรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ ไม่รู้จะต้องพูดยังไง กลัวพูดผิด หรือพูดอยู่ไม่กี่คำ เช่น I want this/that.  บทความนี้สรุปประโยคและคำศัพท์ที่มีประโยชน์ในร้านอาหาร เริ่มตั้งแต่ตอนจองโต๊ะไปจนถึงตอนเก็บเงิน  เพื่อนๆ จะได้เอาไปใช้พูดได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ  ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยครับว่ามีประโยคและคำศัพท์อะไรบ้าง

การจองโต๊ะ

ร้านอาหารที่เป็นที่นิยมมักจะให้ลูกค้าจองโต๊ะก่อน เพราะทำให้ร้านบริหารจัดการได้ง่ายขึ้นและลูกค้าก็ไม่ต้องรอคิวนาน เวลาจองโต๊ะเราสามารถใช้ประโยคต่อไปนี้สื่อสารกับพนักงานต้อนรับ

  • I’d like to book/reserve a table for two tomorrow at 6 pm, please.
    (ผมอยากจะจองโต๊ะสำหรับสองที่พรุ่งนี้เวลา 6 โมงเย็นครับ)
  • Could we have a non-smoking table, please?
    (ขอเป็นโต๊ะปลอดบุหรี่จะได้ไหมครับ)
  • Could we have a table by the window, please?
    (ขอเป็นโต๊ะริมหน้าต่างจะได้ไหมคะ)
  • Do you have a high chair for young children?
    (คุณมีเก้าอี้สำหรับเด็กไหมคะ)
  • We booked a table for two in the name of Andrew.
    (เราจองโต๊ะสำหรับสองที่ไว้ในชื่อแอนดริว)

การสั่งอาหาร

พอเรามานั่งที่โต๊ะ ก็ให้ขอดูเมนูและสั่งอาหาร โดยใช้ประโยคด้านล่าง

  • Could I see the menu, please?
    (ขอฉันดูเมนูหน่อยได้ไหมคะ)
  • What would you recommend?
    (มีอาหารแนะนำไหมครับ)
  • Do you have any specials?
    (มีเมนูพิเศษไหมครับ)
  • I’d like………………., please.
    (ฉันขอสั่ง……………….ค่ะ)
  • I’d like my steak rare/medium-rare/medium/well-done.
    (ขอเป็นสเต๊กแบบ สุกน้อย/สุกน้อยถึงปานกลาง/สุกปานกลาง/สุกมาก ครับ)

อ้อ แล้วอย่าลืมบอกบริกรด้วยว่าเราทานอะไรไม่ได้บ้าง

  • I’m vegetarian.
    (ฉันกินมังสวิรัติ)
  • I don’t eat meat/pork.
    (ผมไม่ทาน เนื้อวัว/เนื้อหมู)
  • I’m allergic to shrimps/seafood/peanuts/dairy products.
    (ฉันแพ้ กุ้ง/อาหารทะเล/ถั่วลิสง/ผลิตภัณฑ์จากนม)

การแสดงความไม่พอใจ

เวลาทานอาหารในร้านอาหาร อาจมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เราไม่พอใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาหารหรือการบริการ

  • Excuse me, we’ve been waiting for over half an hour for our food.
    (โทษนะครับ เรานั่งรออาหารมานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว)
  • Excuse me, this isn’t what I ordered.
    (โทษนะคะ ฉันไม่ได้สั่งจานนี้มา)
  • Excuse me, I ordered Carbonara not Lasagna.
    (โทษนะคะ ฉันสั่งคาโบนาร่า ไม่ใช่ลาซานญ่า)
  • Excuse me, this food doesn’t taste right.
    (โทษนะครับ อาหารจานนี้รสชาติแปลกๆ)
  • Excuse me, this food is cold/too salty.
    (โทษนะครับ อาหารจานนี้ เย็นชืด/เค็มเกินไป)

การจ่ายเงิน

พอทานอาหารเสร็จแล้วก็ขึ้นรถกลับบ้านได้ อ้าว ลืม ยังไม่ได้จ่ายเงิน 😀  ในประเทศไทยเราอาจจะพูดติดปากว่า “เช็คบิล” เวลาเรียกให้บริกรมาเก็บเงิน  ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ถูกต้องตามหลักภาษาอังกฤษ บริกรต่างชาติอาจจะงงได้  ถ้าจะให้ถูกต้องเราควรพูดว่า

  • Bill/check, please.
    (เก็บเงินด้วย)
  • Could we have the bill/check, please?
    (เก็บเงินด้วยครับ)

ขอเสริมนิดนึงว่า ภาษาอังกฤษแบบ American จะใช้คำว่า check  ส่วนภาษาอังกฤษแบบ British จะใช้คำว่า bill  ดังนั้นหากเราอยู่ในสหรัฐอเมริกาก็ควรจะใช้คำว่า check  แต่หากเราอยู่ในประเทศอังกฤษ สกอตแลนด์ แคนาดา หรือออสเตรเลียให้ใช้คำว่า bill จะดีกว่า

ประโยคอื่นๆ ที่มีประโยชน์เวลาชำระเงินได้แก่

  • Can I pay in cash?
    (ผมจ่ายเป็นเงินสดได้ไหมครับ)
  • Can I pay by debit/credit card?
    (ฉันใช้บัตรเดบิต/เครดิตจ่ายเงินได้ไหมคะ)
  • Can we pay separately?
    (เราแยกกันจ่ายได้ไหมคะ)
  • It’s on me.
    (ผมเลี้ยงเอง)

สุดท้ายนี้ขอฝากคำศัพท์ที่น่าสนใจและควรรู้ไว้ เวลาไปร้านอาหารจะได้ใช้ได้อย่างมั่นใจ

  • appetizer/starter (อาหารเรียกน้ำย่อย)
  • Bon appétit! หรือ Enjoy your meal!  (ทานให้อร่อยนะครับ/นะคะ!)
  • cutlery  (ช้อน ส้อม และมีด)
  • dessert*  (ของหวาน)
  • main course  (อาหารจานหลัก)
  • napkin  (ผ้าเช็ดปาก/ผ้ากันเปื้อน)
  • side dish (อาหารจานย่อย)
  • (today’s) special  (อาหารพิเศษที่เสิร์ฟเฉพาะวัน)

*คำนี้อ่านว่า ดิ’เซิร์ท (ออกเสียงเน้นพยางค์หลัง) ระวังอย่าสับสบกับคำว่า desert ซึ่งหมายถึง ทะเลทราย ซึ่งอ่านว่า ‘เดสเซิร์ท (ออกเสียงเน้นพยางค์แรก) หรืออาจหมายถึง ทอดทิ้ง ซึ่งอ่านว่า ดิ’เซิร์ท (ออกเสียงเน้นพยางค์หลัง)

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


“เทนเซ็นต์ คลาวด์” แนะโซลูชันคลาวด์สำคัญ ตัวช่วยผู้ประกอบการพร้อมรับปี 2566

เมื่อพูดถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล หรือการทำ Digital transformation แน่นอนว่า ‘คลาวด์-เอไอ’ เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้ เทนเซ็นต์ คลาวด์ กลุ่มธุรกิจคลาวด์ ภายใต้เทนเซ็นต์ หนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำระดับโลกจึงได้นำเสนอโซลูชันคลาวด์-เอไอให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรดิจิทัล โดยในปี 2566 ธุรกิจต่างๆ จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบดิจิทัล ตลอดจนยกระดับการให้บริการผ่านเทคโนโลยีคลาวด์-เอไอเพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

จากรายงาน Worldwide Digital Transformation Spending Guide จัดทำโดยไอดีซี (IDC) บริษัทที่ปรึกษา และวิจัยข้อมูลการตลาดชั้นนำระดับโลก พบว่า ในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 และหลังจากสถานการณ์เริ่มการฟื้นตัว องค์กรต่างๆ ในเอเชีย/แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น และจีน) ได้เร่งการสร้าง Digital engagement รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์และบริการทางดิจิทัล เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า รวมถึงการปรับแต่ง Customer Journey แบบ Personalized ซึ่งจะกลายเป็นไฮไลต์สำคัญที่ผลักดันให้การทำ Digital transformation เติบโตอย่างมั่นคง

มร. ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “ปัจจุบันอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ ส่งผลให้การใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเทคโนโลยีคลาวด์-เอไอ ยังสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานได้อีกเช่นกัน และในฐานะ ‘Digital Enabler’ เทนเซ็นต์ คลาวด์ มุ่งยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และการบริการดิจิทัลในประเทศไทยให้กับผู้ประกอบการในทุกอุตสาหกรรม”

โซลูชันด้านความปลอดภัย หัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจในยุค Digital-First

ปัจจุบันกิจกรรมทางธุรกิจดิจิทัลมากมายล้วนแต่ต้องอาศัยการส่งต่อ จัดเก็บ คิดคำนวณ และถ่ายโอนข้อมูลแบบออนไลน์
องค์กรจึงต้องศึกษาข้อมูลเรื่องการดูแลรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้รอบด้าน เพื่อให้การขยายขีดความสามารถของธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งเทนเซ็นต์ คลาวด์ มีโซลูชันคลาวด์ด้านความปลอดภัย ที่พร้อมให้ผู้ประกอบการเลือกใช้ตามโจทย์ความต้องการ ตัวอย่างเช่น

  • Tencent Cloud Web Application Firewall (WAF) คือ โซลูชันป้องกันการโจมตีเว็บไซต์แบบครบวงจร ที่จะช่วยให้
    ผู้ใช้ทั้งภายใน และภายนอกเทนเซ็นต์ คลาวด์ รับมือกับปัญหาด้านความปลอดภัย อาทิ การโจมตี การบุกรุกเว็บไซต์ การแฮ็กตัวเว็บไซต์ ไวรัสโทรจัน การก่อกวนระบบ ไปจนถึงการเจาะระบบหลังบ้าน เพื่อปกป้องเว็บไซต์ และรักษา
    ความปลอดภัยให้กับการดำเนินธุรกิจบนเว็บไซต์
  • Tencent Anti-DDoS Advanced and Pro โซลูชันป้องกันการโจมตีเว็บไซต์ (ทั้งที่อยู่ใน และนอกเทนเซ็นต์ คลาวด์)
    โดย Anti-DDoS จะปกป้องเซิร์ฟเวอร์จากการโจมตีแบบ DDoS ในปริมาณมาก ซึ่งจะสามารถช่วยสร้างเสถียรภาพ
    และความพร้อมใช้งานให้กับเว็บไซต์ธุรกิจของผู้ใช้บริการได้

โซลูชันด้านเสียง และวิดีโอ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า

ปัจจุบันการสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายด้วยเสียง และวิดีโอแบบดิจิทัล กำลังได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ องค์กร
จึงควรให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ถอดแบบมาจากการติดต่อแบบพบหน้ากันได้อย่างไร้รอยต่อ โซลูชันคลาวด์ และ AI ของ Tencent Cloud ที่สามารถรองรับความต้องการด้านนี้ มีอยู่มากมาย ได้แก่

  • Tencent Real-Time Communication (TRTC) – โซลูชันสำหรับการโทร/วิดีโอกลุ่ม และการไลฟ์สตรีมมิง แบบอินเทอร์-แอคทีฟคุณภาพสูง รองรับกับทุกอุปกรณ์สื่อสาร
  • Tencent Online Video Platform – โซลูชันสำหรับการสร้างแพลตฟอร์ม OTT ครบวงจร ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจ
    ไม่ว่าจะรายใหญ่หรือรายเล็กสามารถนำมาสร้างแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงของตัวเอง โดย Tencent Online Video Platform สามารถสร้างขึ้นมาได้ ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน
  • Cloud Streaming Services (CSS) – บริการสตรีมมิงบนคลาวด์ ที่ให้ความมั่นใจทั้งในเรื่องเวลาหน่วงต่ำเป็นพิเศษ คุณภาพ และประสิทธิภาพของภาพที่สูงเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถรองรับการเรียกใช้งานพร้อมกันในปริมาณมากๆ
    มาพร้อมคุณสมบัติในระดับมืออาชีพที่มีความเสถียร และคล่องตัว เช่น การถ่ายทอดสัญญาณสด การแปลงรหัส การแพร่สัญญาณ และการรับชมย้อนหลัง

โซลูชันเพื่อการขยายธุรกิจสู่ประเทศจีนแบบครบวงจร (China Connect)

หากพูดถึงการขยายตลาดต่างประเทศในยุคนี้ จีนถือเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ที่ผู้ประกอบการไทยให้ความสนใจที่
จะเข้าไปสร้างโอกาสทางธุรกิจ แต่การทำธุรกิจในจีนอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะตลาดจีนมีความเฉพาะตัวค่อนข้างสูง ทั้งในแง่ของสภาพการแข่งขัน พฤติกรรมผู้บริโภค กฎข้อบังคับ วัฒนธรรมต่างๆ ด้วยเหตุนี้ การมีพาร์ทเนอร์ที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในตลาดจีน รวมถึงมีเทคโนโลยี และดาต้าที่พร้อมใช้งานถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้การเปิดประตู
สู่ตลาดจีนเป็นไปอย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จ

  • โซลูชัน China Connect ของเทนเซ็นต์ คลาวด์ – อีกหนึ่งบริการที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ หรือองค์กรธุรกิจสามารถ
    เปิดประตูสู่ตลาดจีนได้สำเร็จ ด้วยการใช้เทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาช่วยเสริมการดำเนินงาน
    ไม่ว่าจะเป็น การจดทะเบียนบริษัท (Registration) การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย (Security Compliance) การวางระบบธุรกิจ (Business Setup) การดำเนินงาน และการพัฒนา (Operation and Development) และโซลูชัน Go To Market (GTM Solutions) เป็นต้น โดยเทนเซ็นต์ คลาวด์ มุ่งนำเสนอโซลูชัน
    ที่ออกแบบขึ้นโดยเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายอย่างแม่นยำ จากประสบการณ์กว่า 20 ปีของเทนเซ็นต์ ผสานกับ
    ความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนอย่างลึกซึ้ง และปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับด้านความปลอดภัย
    ของข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด รวมถึงข้อกำหนดทุกข้อที่บังคับใช้ในประเทศจีน

โซลูชันเพื่อพัฒนา Web3 และ Metaverse รองรับ Mega Trend ที่กำลังมา

Web 3 คือ อีกขั้นของอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้ผู้ใช้งาน และผู้สร้างสรรค์คอนเทนท์สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างอิสระ เทนเซ็นต์ คลาวด์ พร้อมนำเสนอเครื่องมือ และโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งานง่าย และปลอดภัย ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง และปรับขนาดของ Web3 ได้ โดยโซลูชันเหล่านี้ของเทนเซ็นต์ คลาวด์พัฒนาขึ้นภายใต้ 5 แกนหลักสำหรับการสร้างแพลตฟอร์มบน Web3 ได้แก่

  • การสร้างการเติบโตทางธุรกิจ – โซลูชันที่ช่วยธุรกิจในการเข้าถึง และให้บริการลูกค้า ครอบคลุมตั้งแต่การสร้าง และเข้าถึงลูกค้ารายใหม่ ไปจนถึงการสื่อสารไปยังลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการแบบเจาะจง เพื่อผลักดันการเติบโต และรักษาฐานลูกค้าเดิม โดยเทนเซ็นต์ คลาวด์ นำเสนอหลากหลายบริการ อาทิ บริการข้อความสั้น อีเมลล์ การแจ้งเตือนบนหน้าจอ และ แพลตฟอร์มด้านลูกค้าสัมพันธ์อัจฉริยะ
  • เนื้อหา และความบันเทิง – โซลูชันภาพ และเสียงที่ครบวงจร เครื่องมืออัจฉริยะต่างๆ ที่ช่วยในการสร้างเนื้อหา
    ภาพนิ่งและวิดีโอ โดยเทนเซ็นต์ คลาวด์ นำเสนอโซลูชัน Tencent Cloud Real-time Cloud Rendering ที่สามารถ
    สร้างและสื่อสารภาพกราฟิกแบบเรียลไทม์ แบบครบวงจร และการสร้างแบบจำลองวัตถุขึ้นในโลกดิจิทัล และโซลูชัน
    การสร้างแบบจำลองผู้ใช้ (Avatar) แบบอัตโนมัติ
  • เครื่องมือพัฒนา – ให้บริการเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน
    ด้านการทำงาน และการดูแลรักษา อาทิ โซลูชัน Serverless Cloud Function (SCF) ที่ให้ธุรกิจสามารถมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปราศจากเซิร์ฟเวอร์แต่ยังคงมีประสิทธิภาพ และต้นทุนต่ำ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถพุ่งเป้าไปที่โค้ดหลักเท่านั้น
  • ความปลอดภัย – โซลูชัน และผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยที่ครบวงจร อาทิ Tencent Cloud EdgeOne ให้บริการด้านความปลอดภัยแบบครบวงจร และ โซลูชัน Electronic Know-Your-Customer (eKYC) ป้องกันมิจฉาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ บริการระบบป้องกันการหลอกระบบ AI Face Recognition
  • IaaS/PaaS – บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ระดับโลกเพื่อตอบความต้องการการขยายตัว อาทิ Cloud Virtual Machine (CVM) บริการคลาวด์ที่เสถียร ปลอดภัย ยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพสูง ครอบคลุมกว่า 26 ภูมิภาค และ
    70 พื้นที่ให้บริการ บริการ Tencent Blockchain as a Service (TBaaS) การสร้างระบบโครงข่ายในการเก็บบัญชีธุรกรรมออนไลน์ เป็นต้น

การผสานเทคโนโลยีดิจิทัล และเศรษฐกิจได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อหลายๆ องค์กร โดยมีเทคโนโลยีเป็นกลไกสำคัญของการเปลี่ยนแปลงท่ามกลางยุค “การหลอมรวมดิจิทัลเข้าสู่โลกความจริง” (Immersive Convergence) ปัจจุบันนี้กระแสการใช้เทคโนโลยีได้เติบโตและเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างโลกเสมือนและโลกความเป็นจริงแข็งแกร่งมากขึ้น อาทิ การใช้เสียง/วิดีโอ, แบบจำลองเสมือน, การโต้ตอบระยะไกล, การผสานรวม AR VR และ MR, เอไอ, บล็อกเชน และคลาวด์คอมพิวติ้ง ทางเทนเซ็นต์ คลาวด์จึงได้ให้การสนับสนุนโซลูชันต่างๆ ที่หล่อหลอมมาจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทางด้านเสียง/วิดีโอและเกมแก่องค์กรเพื่อพัฒนาธุรกิจในด้าน Metaverse ให้สมจริงดังนี้

  • การจำลองโลกเสมือนจริง (Reality Virtualization) การจำลองเสมือนจริงคือการสร้างสำเนาดิจิทัลให้สมจริง และใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด โดยใช้โซลูชัน Tencent Cloud Real-time Cloud Rendering
  • การเข้าถึงโลกเสมือน (Virtual Realization) คือ การทำให้โลกเสมือนกลายเป็นความจริงด้วยการฉายภาพดิจิทัล
    ให้มองเห็น และรับรู้ในโลกจริง โดยโซลูชันที่เกี่ยวข้อง คือ โซลูชัน Digital Human, Text Driven Digital Human Avatar based on Real-Time Capturing
  • การใช้อินเทอร์เน็ตมาผสานโลกความจริง และวัตถุ (Augmented Internet) คือ การเชื่อมต่อผู้คนเข้ากับการปฏิสัมพันธ์แบบ Real-Time และอาจให้มีการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสที่ เสมือนจริงผ่าน AR/VR โดยโซลูชันที่เกี่ยวข้อง คือ โซลูชัน Interactive Media & Communication อาทิ Game Multimedia Engine (GME) Tencent Rea-Time Communication (TRTC) Cloud Streaming Services (CSS) เป็นต้น
  • ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ (Smart Automation) คือ การใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างแบบจำลอง และเชื่อมต่อกับโลกจริง โดยโซลูชันที่เกี่ยวข้อง คือ โซลูชันด้านการประมวลผล หรือ Computing อาทิ Tencent Cloud GPU Cloud Computing (GCC) , Edge Computing Cloud Connect Network (CCN) เป็นต้น

“เทนเซ็นต์ คลาวด์ มุ่งมั่นในการสนับสนุนให้ทุกองค์กรประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในโลกยุคดิจิทัล ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันคลาวด์ที่หลากหลาย พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญ และความเข้าใจเชิงลึกในด้านการให้บริการแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานจากพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุม 70 พื้นที่ใน 26 ภูมิภาคทั่วโลก และการมีดาต้าเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยถึง 2 แห่ง ที่ช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว เสถียร และปลอดภัย รวมถึงการมีทีมงานคนไทยที่มีเชี่ยวชาญให้การสนับสนุน และคำแนะนำต่างๆ ให้ธุรกิจสามารถก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ นำไปสู่การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจในโลกดิจิทัล” มร. ชาง กล่าวสรุป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


อันตรายจาก “มะเฟือง” ที่คุณอาจไม่ทราบ

เป็นความโชคดีของคนไทยมากๆ ที่เกิดมาในผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผักผลไม้นานาชนิด แถมยังราคาไม่แพง และมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน รวมไปถึงผลไม้หน้าตาน่าทานอย่าง “มะเฟือง” ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวที่หลายคนชื่นชอบ และราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย

แต่ไม่ว่ามะเฟืองจะน่ากินมากเท่าใด ก็ยังมีข้อควรระวังที่ต้องทราบก่อนทานเช่นกัน

 

อันตรายจาก “มะเฟือง”

เนื่องจากมะเฟืองมีกรดออกซาลิกสูงพอสมควร ดังนั้นจึงอาจส่งผลต่อผู้ป่วยโรคไต หรือกำลังรับการฟอกไตอยู่ เพราะอาจทำให้อาการของโรคไตหนักขึ้นกว่าเดิม และการรับสารออกซาลิกเข้าไปในร่างกายเป็นจำนวนมาก อาจเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ หรือไตวายเฉียบพลันได้

ผู้ที่อยู่ในภาวะขาดน้ำเนื่องจากอาการท้องเสีย ท้องร่วง ทำงานหนัก หรือออกกำลังกายหนักจนสูญเสียเหงื่อในปริมาณมาก หากรับประทานมะเฟือง หรือดื่มน้ำมะเฟืองในปริมาณมาก จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคไตวายเฉียบพลันได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ใครที่กำลังทานยาลดไขมัน หรือยาลดความเครียดอยู่ ไม่ควรทานมะเฟืองเช่นกัน เพราะมะเฟืองจะเข้าไปต่อต้านการทำงานของยาเหล่านั้น

มะเฟืองเปรี้ยว VS มะเฟืองหวาน

ในมะเฟืองเปรี้ยวจะมีกรดออกซาลิกสูงกว่าในมะเฟืองหวาน ดังนั้นมะเฟืองเปรี้ยวอาจส่งกระทบต่อการทำงานของไตได้มากกว่ามะเฟืองหวานนั่นเอง

ถึงแม้ว่ามะเฟืองจะแอบซ่อนอันตรายเอาไว้อยู่บ้าง แต่หากทานมะเฟืองในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป คุณก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติอร่อยสดชื่นของมะเฟืองได้เหมือนเดิมค่ะ อะไรที่มากเกินไป ย่อมไม่ดีต่อร่างกายแน่นอน ไม่ใช่เฉพาะกับมะเฟืองเท่านั้น หากทานอย่างมีสติ รับรองว่าให้ประโยชน์มากมายแก่ร่างกายได้แน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 22/12/2565

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a29,700.0029,800.00
ทองรูปพรรณ 96.5%1,924.0029,167.8430,300.00
ทองรูปพรรณ 90%1,731.6026,251.06n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,539.2023,334.27n/a
ทองรูปพรรณ 50%866.0013,128.56n/a
ทองรูปพรรณ 40%673.0010,202.68n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%1,994.0030,229.04n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 22/12/2565



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9534.4534.4535.0534.4535.0534.4534.4534.4534.4534.45
แก๊สโซฮอล์ 9134.1834.1834.7834.1834.7834.1834.1834.1834.1834.18
แก๊สโซฮอล์ E2032.5432.5433.1432.5433.1432.5432.5432.5432.54
แก๊สโซฮอล์ E8532.6932.6932.69
เบนซิน 9541.8642.9142.3642.3141.86
ดีเซล B734.9434.9435.5434.9435.5434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล34.9434.9435.5434.9435.5434.9434.9434.9434.9434.94
ดีเซล B2034.9434.9435.5435.5434.9434.9432.5434.94
ดีเซลพรีเมี่ยม43.6643.6644.2644.2644.2634.94
แก๊ส NGV16.5916.5916.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า