สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 25 ธันวาคม 2560

คอนโดกรุงเทพเปิดตัวสูงสุดรอบ 10ปี

 

บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด รายงานผลวิจัยตลาดคอนโดในกรุงเทพปี 2560 โดยพบว่ายูนิตเสนอขายสร้างสถิติใหม่ มากที่สุดในรอบ10 ปี

พร้อมทั้งคาดการณ์แนวโน้มปีหน้าว่ายังเติบโตต่อเนื่อง และเข้าสู่ภาวะการปรับเปลี่ยนจากหลายปัจจัย ทั้งการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ การเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดซีแอลเอ็มวี  การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และเทคโนโลยีที่มีบทบาทในการพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น

นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ตลาดแข่งขันกันดุเดือด เนื่องจากมีสินค้าเสนอขายถึง 6.27 หมื่นยูนิต จาก 128 โครงการ ส่งผลให้รวมทั้งตลาดมี  5.5 แสนหน่วย และเป็นการเปิดตัวที่สูงกว่าอัตราเฉลี่ยช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา (5.36 หมื่นหน่วยต่อปี) 15%

ทำเลที่มีอุปทานเพิ่มขึ้นมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ พระโขนง-สวนหลวง 1.44 หมื่นหน่วย หรือ 23% พญาไท-รัชดาภิเษก 1.32 หมื่นหน่วยหรือ 21% และธนบุรี-เพชรเกษม 8,900 หน่วยหรือ  14% โดยทั้งหมดคิดเป็น 58% ของคอนโดที่เปิดใหม่ทั้งหมด

ด้านยอดขายใหม่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี 5.73 หมื่นหน่วย สูงกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา (5.04 หมื่นหน่วยต่อปี) 14%  อย่างไรก็ตาม อัตราการขายรวมของทั้งตลาดยังคงที่อยู่ที่ 90% โดยยอดขายรวมสะสมเพิ่มเป็น 4.96 แสนหน่วย ทำให้ปัจจุบันมีห้องชุดเหลือขาย 5.39 หมื่นหน่วย

“ปีนี้คอนโดเปิดใหม่มียอดขายเฉลี่ย 62% ทำเลที่ขายสูงสุด 3 อันดับแรกคือ 1.พระโขนง-สวนหลวง 2.พญาไท-รัชดาภิเษก 3.ปทุมวัน-ราชเทวี”

ด้านราคาเฉลี่ยปรับขึ้น 8% เป็น 1.36 แสนบาทต่อตร.ม.จาก 1.21แสนบาทในปีที่แล้ว ทำเลที่ปรับขึ้นสูงสุด คือเขตปทุมวัน และราชเทวี 16% หรือ 2.34 แสนบาทต่อตร.ม. ตลาดกลางเมืองปรับขึ้น 12% หรือ 2.1 แสนบาทต่อตร.ม. เขตยานนาวาและคลองสานที่มียอดขายดี ราคาก็ปรับขึ้น 12% เช่นเดียวกัน

ขณะที่ ปีหน้าคาดการณ์ว่า อุปทานจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5.5 หมื่นหน่วย หรือ 10% โดยกรุงเทพชั้นในและเขตรอบกรุงเทพชั้นใน จะเป็นทำเลที่มีอุปทานใหม่เกิดขึ้นมาก ส่วนกรุงเทพชั้นนอกจะมีโครงการเปิดใหม่ไม่มากนักแต่จำนวนหน่วยต่อโครงการค่อนข้างมาก

นลินรัตน์ กล่าวว่า ปีหน้ายังจะได้เห็นแนวโน้มการพัฒนาคอนโดทุกเซ็กเมนต์ในซอยเล็ก เป็นตึก 7-8 ชั้นมากขึ้น เนื่องจากที่ดินริมถนนใหญ่หายาก และราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง

ส่วนตลาดกลุ่มต่างๆ คาดว่าตลาดซูเปอร์ลักชัวรี่ และตลาดลักชัวรี่ ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายใหม่ๆ ยังให้ความสนใจ และราคาจะปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผู้ซื้อจะขยายวงออกไปยังตลาดต่างชาติทั้งซื้อไว้ลงทุนและเป็นที่บ้านหลังที่ 2

“การเข้ามาของต่างชาติ นอกจากในฐานะผู้ซื้อแล้ว ยังเข้ามาในภาพของผู้ร่วมทุนอีกด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ซื้อเกิดความเชื่อมั่นได้มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย”

สำหรับตลาดไฮเอนด์ ผู้พัฒนาส่วนใหญ่ จะยังคงเป็นรายใหญ่ที่ซื้อที่ดินติดรถไฟฟ้ากลางเมืองได้ แต่จะมีผู้ซื้อในวงจำกัด ส่วนระดับกลาง ยังคงเป็นโครงการที่อยู่บริเวณรอบใจกลางเมือง อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ผู้ซื้อมีรายได้ที่มั่นคง ต้องการอยู่อาศัยจริง ขณะที่ตลาดซิตี้คอนโด เงื่อนไขด้านราคายังคงเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจของผู้ซื้อ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรต้องบริหารต้นทุนให้ดี

ด้านปัจจัยที่จะมีผลต่อตลาด มีทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ต้องมองถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศด้วย เช่น พัฒนาการทางเศรษฐกิจของเพื่อนบ้าน เนื่องจากภายใน 10 ปี ประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) อาจพัฒนาทันไทย และมีโอกาสที่จะเติบโต เงินลงทุนที่เคยเข้าไทย อาจกระจายออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ การที่ไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว จะส่งผลให้ที่อยู่อาศัย ต้องปรับเปลี่ยนไป  รวมถึงทิศทางลงทุนที่ผู้ประกอบการจะหันมาพัฒนา โครงการสิทธิการเช่าระยะยาว (Leasehold) บนที่ดินขนาดใหญ่ครอบครองโดยหน่วยงานรัฐบาล

“นอกจากนี้จะเห็นการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสเพื่อกระจายความเสี่ยง  ลดการแข่งขันทางธุรกิจมากขึ้น และตลาดต่างประเทศ ก็ยังคงเข้ามาเพิ่มบทบาทความสำคัญ ทั้งในแง่การลงทุนขนาดใหญ่และรายย่อยบริษัทต่างชาติจะให้ความสนใจร่วมลงทุนกับผู้พัฒนาโครงการในไทยทั้ง ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง”

http://www.bangkokbiznews.com


ประเมินที่ดินใหม่ ย่านสีลม ตารางวาละ 1 ล้านบาท

ประเมินที่ดินใหม่ ย่านสีลม ตารางวาละ 1 ล้านบาท

“อธิบดีกรมธนารักษ์” เตรียมประกาศราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ มีผล 1 ม.ค. 61 ชี้ในกทม.ราคาที่ดินย่านสีลมยังสูงสุดตารางวาละ 1 ล้านบาท

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์เตรียมประกาศราคาประเมินที่ดินปี 2561 ซึ่งเป็นการประเมินราคารอบใหม่รายแปลง 32 ล้านแปลง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2561 นี้

โดยในส่วนราคาประเมินในพื้นที่กรุงเทพฯ สูงสุดอยู่ที่ย่านสีลม ตารางวาละ 1 ล้านบาท และต่ำสุดอยู่ที่บางขุนเทียน บริเวณคลองโล่งชายทะเล ตารางวาละ 500 บาท ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัด สูงสุดอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตารางวาละ 4 แสนบาท และต่ำสุดอยู่ที่ จ.ลพบุรี อ.โคกเจริญ ตารางวาละ 20 บาท

ก่อนหน้านี้ กรมธนารักษ์ได้ทยอยประเมินราคาที่ดินรายแปลงได้ 18.6 ล้านแปลง แต่ในปี 2560 ได้ประเมินราคาส่วนที่เหลืออีก 13.4 ล้านแปลง จนครบ 32 ล้านแปลง และให้ยกเลิกการใช้ราคาประเมินเป็นแบบรายบล็อก ซึ่งการประเมินแบบรายแปลง ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการแจ้งอาจจะมีการประกาศราคาประเมินมากกว่าหรือน้อยกว่า 32 ล้านแปลงก็ได้

https://money.sanook.com


คาดเงินบาทสัปดาห์หน้าแกว่ง 32.60-32.90 บาท

“ธนาคารกสิกรไทย” คาดเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 32.60-32.90 บาท/ดอลลาร์ จับตาตัวเลขเศรษฐกิจไทย

ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าที่ 32.60-32.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจในประเทศน่าจะอยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในเดือนพ.ย.60 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. สต็อกสินค้าภาคค้าส่งและภาคค้าปลีกขั้นต้นเดือนพ.ย. และดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. นอกจากนี้ปัจจัยที่ต้องจับตาน่าจะอยู่ที่การปรับโพสิชันของนักลงทุนก่อนใกล้สิ้นปี ประเด็นต่อเนื่องจากมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ และประเด็นทางการเมืองภายในของสเปน

http://www.bangkokbiznews.com


‘ไวรัสลงกระเพาะ’ โรคที่ควรระวังรับปีใหม่

สำนักอนามัยเตือนอากาศเปลี่ยน ควรระวังสุขภาพของเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เป็นพิเศษ เพราะอาจทำให้เกิดโรคไวรัสลงกระเพาะและลำไส้

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ด้วยประเทศไทยเริ่มมีสภาพอากาศหนาวเย็นและอาจหนาวต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2561 ในส่วนพื้นที่ของกรุงเทพฯ พบว่าบางพื้นที่เริ่มมีอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลให้ประชาชนมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว

ดังนั้น จำเป็นต้องมีวิธีการป้องกัน เฝ้าระวัง ตลอดจนรับมือกับปัญหาโรคและภัยที่แฝงมาในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ 1.โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ สามารถเจ็บป่วยได้ง่ายและบ่อยครั้งมากกว่าปกติถึง 2-3 เท่า โดยในปี 2560 กทม.ได้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับกลุ่มเสี่ยง 70,000 โดส แต่หากเป็นแนะนำให้ดูแลร่างกายให้อบอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ หากมีอาการเหนื่อย หอบ อ่อนเพลียอย่างชัดเจน ให้รีบพบแพทย์ด่วน เพราะอาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคหลอดลมอักเสบหรือปอดบวม 2.โรคหลอดลมอักเสบ และปอดบวม คือ ภาวะหลอดลมและปอดอักเสบ สามารถแพร่กระจายเวลาไอ จาม หรือการสำลักน้ำลาย เศษอาหาร และน้ำย่อย โดยมีอาการสำคัญ คือ ไข้ ไอ มีเสมหะมาก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เหนื่อยหอบ ทั้งนี้ โรคปอดบวมมักจะพบในกลุ่มคนชรา และเด็กเล็ก และผู้มีโรคประจำตัว หลังจากการเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หากป่วยเป็นโรคนี้อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิต

 3.โรคอุจจาระร่วง สาเหตุส่วนใหญ่มาจากเชื้อโรต้าไวรัส และมักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เพราะเป็นวัยกำลังเรียนรู้ และชอบหยิบของต่างๆ เข้าปาก โดยเชื้อนี้จะแฝงอยู่ในสิ่งของที่เด็กหยิบจับ อาการสำคัญคือ ถ่ายเหลวเป็นน้ำ มีไข้ และอาเจียนร่วมด้วย ซึ่งปกติอาการถ่ายเหลวจะหายภายใน 3-7 วัน แต่ยังคงต้องดูแลใกล้ชิด โดยให้ดื่มเกลือแร่ และสังเกตลักษณะของอุจจาระ หากพบว่ามีมูกเลือดปนออกมาควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป และ 4.อุบัติเหตุทางการจราจร ควรระมัดระวังและขับขี่รถอย่างปลอดภัย รักษาวินัยจราจร ห้ามขับรถเร็วเกินกฏหมายกำหนด และเมาไม่ขับ

ขณะที่ นพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กทม. เปิดเผยว่า โรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ จะพบผู้ป่วยมากในช่วงหน้าหนาว และอีกโรคที่มักเกิดขึ้นมากเช่นเดียวกัน คือ โรคไวรัสลงกระเพาะ หรือที่เรียกกันว่าไข้หวัดลงกระเพาะ เนื่องจากระยะนี้มีอากาศชื้น จึงทำให้เชื้อโรคชนิดต่างๆ สามารถแพร่กระจายได้ง่ายกว่าปกติ โดยจะแฝงอยู่กับสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น อาหารที่รับประทาน ลูกบิดประตู ราวบันได โดยระยะแรกจะมีอาการคล้ายไข้หวัด คือ มีไข้ ตัวร้อน น้ำมูกไหลหรือไอร่วมด้วย แต่จะมีอาการอาเจียน ที่เป็นอาการเห็นได้ชัดว่าให้สันนิษฐานว่าเป็นไวรัสลงกระเพาะ ดังนั้นให้หมั่นดูแลรักษาความสะอาดร่างกายและล้างมืออย่างสม่ำเสมอ

“สำหรับจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 พฤศจิกายน 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 45,888 ราย โดยในเดือนพฤศจิกายนมีผู้ป่วยไข้หวัดเพียง 150 คน เท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงฝนหยุดตกและอากาศยังไม่หนาว แต่ในเดือนธันวาคม คาดว่าอาจมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่มากขึ้น” นพ.เมธิพจน์ กล่าว

http://www.bangkokbiznews.com


ปรัชญาการทำงานและการดำเนินชีวิต ดร.เทียม โชควัฒนา

   ดร.เทียม โชควัฒนา ท่านเป็นผู้วางรากฐานอันสำคัญของ “เครือสหพัฒน์” เว็บไซต์บ้านไร่นาเรา จึงนำเอาหลักคิดและปรัชญาการทำงานของท่านมาถ่ายทอด ซึ่งมีคำอธิบายเสริมพอเป็นสังเขป เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับหลักคิดการทำงานที่เป็นระบบต่อไป

         1. รู้น้อยไม่เกี่ยงงาน
         คนเราหากมีความรู้น้อยต้องไม่ท้อถอยหรือเลือกงาน เพราะการทำงานคือหนทางเพิ่มความรู้ประสบการณ์
         2. เป็นร่มเงาให้ประโยชน์สุข
         ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาและอุดมด้วยดอกผลอันเอื้อประโยชน์แก่ผู้ปลูกทำนุบำรุงและคนทั่วไปฉันใด องค์กรที่เจริญเติบโตมั่นคงย่อมควรจะเอื้อประโยชน์และเกื้อกูลแก่บุคลากรและสังคมฉันนั้น
         3. ความรู้เหมือนดาบ ยิ่งใช้ยิ่งคม
         ผู้ใดมีความรู้แล้วนำความรู้ของตนมาใช้และถ่ายทอดให้ผู้อื่น ผู้นั้นจะยิ่งเกิดความชำนาญ และเป็นการเพิ่มคุณค่าแห่งความรู้นั้นด้วย เปรียบเสมือนดาบที่ถูกมาใช้ประโยชน์ และได้รับการเอาใจใส่ดูแลให้คงไว้ ซึ่งความคมตลอดเวลา
         4. ทบทวนอดีต ศึกษาปัจจุบัน เพื่อวางอนาคต
         การทบทวนประสบการณ์จากอดีตทั้งของตนเองและผู้อื่น และการศึกษาเรื่องราวจากคนและสิ่งรอบข้างในปัจจุบัน เป็นแนวทางให้เราวางอนาคตได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น
         5. อย่าปล่อยชีวิตให้หมดไปอย่างไร้ค่า
         คนเราถ้าเข้าใจการจากไปอย่างไม่ย้อนกลับของเวลา ย่อมใช้ชีวิตในแต่ละช่วงอย่างมีค่า
         6. เร็ว ช้า หนัก เบา
         ในการทำงาน ควรหมั่นพิจารณาอยู่เสมอว่า งานไหนทำก่อน งานไหนทีหลัง งานไหนต้องจริงจัง และงานไหนที่พอควร
         7. ความสำเร็จย่อมเป็นของผู้มีความเพียร
         อยากประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน ต้องพาตัวเข้าหางาน อย่าคอยให้งานมาหาตัว เพราะงานคือทุกอย่างของชีวิต ที่เราต้องพากเพียรและพยายามทำตลอดไป
         8. ความสำเร็จของงาน อยู่ที่คุณภาพของคน
         หัวใจในการทำงานให้สำเร็จ มิใช่อยู่ที่การสร้างคนให้มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเท่านั้น แต่ต้องรวมถึงการสร้างเสริมให้ทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความรัก และความสามัคคีด้วย
         9. ชมเกินจริงเป็นโทษ ติเกินเหตุเสียน้ำใจ
         การชมเชย อย่าให้เขาเกิดความหลงระเริงจนอาจลืมตัวกับความสำเร็จ ก่อให้เกิดความประมาทที่อาจนำไปสู่ความล้มเหลวในอนาคตได้ การติต้องทำด้วยจิตใจที่หวังดีและใช้คำพูดที่สร้างสรรค์
         10. ทำดีเปรียบการเดินทวนกระแสน้ำ ทำชั่วเปรียบการลอยตามน้ำ
         การทำความดีเปรียบเหมือนปลาว่ายทวนน้ำขึ้นไปที่สูงจะพบแต่น้ำที่ใสสะอาดฉันใด คนที่พยามยามทำความดี แม้จะลำบากยากเย็น ก็ย่อมพบชีวิตที่ดี สะอาดสดใสอันเป็นมงคลแก่ตนเองฉันนั้น
         11. ความก้าวหน้าที่แท้จริง ย่อมเกิดจากฝีมือการทำงาน
         ความก้าวหน้าที่ได้มาจากความสามารถในการทำงานจะให้ผลที่จีรังยั่งยืน
         12. งานสำเร็จได้ดี เพราะทีมงานดี
         การประสานพลังใจและพลังความคิดของทีมงานที่ดี นำมาซึ่งความสำเร็จของงาน
         13. คน คือ ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในโลก
         คนเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่งของโลก แต่คนจะมีคุณค่ายิ่งหากรู้จักประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
         14. ความรู้ต้องมองสูง ความเป็นอยู่ต้องมองต่ำ
         ความรู้เปรียบเหมือนขุมทรัพย์ คนที่อยากก้าวหน้าต้องใฝ่รู้ เรียนรู้ให้มากขึ้นอยู่เสมอ แต่ความเป็นอยู่นั้นต้องเรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ
         15. เข็มเล่มหนึ่ง ไม่มีปลายแหลมสองด้าน
         ทุกคนมีทั้งจุดเด่นและจุดด้อย คนเราจึงไม่มีใครเก่งทุกอย่าง เปรียบเสมือนเข็มที่มีปลายแหลมสำหรับเย็บปะชุนได้เพียงด้านเดียว ฉะนั้นคนเราควรรู้และทบทวนจุดเด่น และจุดด้อยของตนอยู่เสมอ
         16. หนังฉายซ้ำไม่ตื่นเต้น ตลกมุขเก่าไม่มีคนฮา
         งานทุกงานควรต้องให้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้น และสอดคล้องกับวันเวลาที่เปลี่ยนไปเสมอ
         17. หมั่นเล่าสร้างความจำ หมั่นซักถามสร้างความรู้
         เมื่อได้เรียนรู้สิ่งใดแล้วหมั่นถ่ายทอดให้ผู้อื่นรับรู้ด้วย จะช่วยให้เราจำได้ดีขึ้น และเมื่อไม่รู้สิ่งใดก็อย่าอายที่จะถาม เพราะจะช่วยให้เรารู้มากขึ้น ในขณะที่คนที่โอ้อวดว่ารู้หมดแล้วแท้จริงคือคนที่ไม่รู้อะไรเลย
         18. มอง ฟัง คิด ถาม พื้นฐานของการเรียนรู้
         พื้นฐานที่ดีของการเรียนรู้ต้องอาศัยทั้งการมอง ฟัง คิด ถาม ประกอบกัน อย่างเพียงแต่มอง ฟัง หรือถามแล้วนำมาใช้โดยไม่มีการคิดไตร่ตรองหาเหตุผลเสียก่อน
         19. พลังกายในวัยหนุ่มมีเหลือเฟือ ควรใช้ให้คุ้มค่า
         เกิดเป็นคนต้องใช้ชีวิตคุ้มค่าต่อตนเอง ต่อผู้อื่น และต่อสังคม อย่าให้มีช่วงเวลาใดที่ต้องรู้สึกเสียดายที่ให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์
         20. หากอยากมีอนาคตที่มั่นคง จงอย่าเห็นแก่ตัว
         คนดีย่อมไม่เห็นแก่ตัว ชอบช่วยเหลือผู้อื่น โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน คนเช่นนี้สมควรได้รับการสนับสนุนให้ได้ดีมีอนาคต
         21. การศึกษาข้อบกพร่องของตน ทำให้เรารู้จักตัวเองและผู้อื่นดีขึ้น
         คนเรามีข้อบกพร่องในตนเองทุกคนไม่มากก็น้อย ฉะนั้นให้เรารู้จักพิจารณาข้อบกพร่องของตนเองด้วยปัญญา จะทำให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง และช่วยให้เข้าใจผู้อื่นที่เขาอาจมีข้อบกพร่องเช่นเดียวกับเรา
         22. ไม่มีใครเก่งแต่เพียงผู้เดียว
         ทุกคนภายในองค์กรเปรียบเสมือนเฟืองจักรกลแต่ละชิ้น ในเครื่องจักรใหญ่ที่ต้องทำงานประสานกัน ถ้าเฟืองชิ้นใดชำรุดหรือบกพร่อง เครื่องจักรก็ไม่สามารถทำงานได้ นั่นคือ งานใดๆ จะสำเร็จด้วยดีต้องอาศัยความสามารถและการประสานงานของทุกคนในทีมงาน มิใช่สำเร็จได้ด้วยคนเพียงคนเดียว
         23. แม้จะลำบากเพียงใดก็ย่อมฟื้นคืนเป็นดีได้
         จงคิดเสมอว่า คนเรานั้นแม้จะประสบความล้มเหลวก็ย่อมสามารถปรับปรุงให้กลับคืนดีได้ หากไม่ท้อแท้ต่อโชคชะตา และคิดเสมอว่า เมื่อล้มแล้วก็สามารถลุกขึ้นยืนได้อยู่เสมอ
         24. สร้างคนต้องใช้เวลา
         การสร้างคนเหมือนปลูกต้นไม้ใหญ่ ต้องอดทนใช้เวลานานไม่เหมือนการปลูกถั่วงอก ซึ่งวันเดียวก็เห็นผล
         25. จะให้ลูกน้องกล้าตัดสินใจ ผู้ใหญ่ต้องรับผิดชอบความเสี่ยง
         เมื่อเห็นว่าลูกน้องสามารถทำงานได้ ต้องมอบให้เขาทำ ถ้าเขาทำผิดพลาด เราก็ต้องช่วยรับผิดชอบด้วย
         26. การล่าช้ามิได้หมายความว่าเป็นผู้ล้าหลัง
         อย่ารีบร้อนเพราะกลัวว่าจะล้าหลังคู่แข่ง ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบจะได้ไม่ผิดพลาด
         27. ชนะใจมิตรและศัตรูได้ คือ ผู้ชนะที่แท้จริง
         ชนะสิ่งใดก็ไม่มีความหมายเท่าชนะใจทั้งมิตรและศัตรู
         28. เกียรติที่สูง ไม่จำเป็นต้องให้ตัวเองอวดอ้าง
         ถ้าเราทำตัวเหมาะสมกับคนที่มีเกียรติแล้วไม่อวดอ้าง คนอื่นก็จะมอบเกียรติให้เราเอง
         29. ผู้ที่เป็นผู้นำได้ ต้องผ่านความลำบากมาก่อน
         คนที่เคยลำบากมาแล้วย่อมเป็นหัวหน้างานที่สามารถให้กำลังใจกับลูกน้องได้ดี
         30. ทำงานมากก็ผิดพลาดมาก ทำน้อยก็ผิดพลาดน้อย
         คนเราทำงานก็ต้องมีการผิดพลาดบ้าง คนที่ไม่มีความผิดก็คือคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
         31. หากดีแต่พูดไม่ลงมือทำ ความคิดก็ไม่อาจเป็นจริงได้
         เมื่อไม่ลองปฏิบัติก็ไม่รู้ว่าที่คิดนั้นทำง่ายหรือยาก งานบางอย่าง อาจพูดง่ายแต่ทำยาก
         32. การทำงาน ต้องมีเป้าหมาย
         การทำงานโดยไม่มีเป้าหมายเหมือนคนที่ไม่มีจุดมุ่งหมายของชีวิต
         33. เราพูดด้วยความโมโหเพียงครั้งเดียว แต่อยู่ในใจของคนอื่นตลอดชีวิต
         การพูดโดยใช้อารมณ์ ไม่ใช้สติไตร่ตรองเสียก่อน แม้เพียงครั้งเดียว ก็อาจทำลายทั้งตนเองและมิตรภาพได้ตลอดไป
         34. ความใกล้ชิด ย่อมนำมาซึ่งความเข้าใจและผลของงานที่ดี
         การทำงานใกล้ชิดกับลูกน้อง หัวหน้านอกจากมีโอกาสศึกษาผลของงานแล้ว ยังได้ศึกษานิสัยการทำงานของลูกน้องด้วย
         35. ผิดครั้งแรกเป็นครู แต่ผิดซ้ำสองนั้นถือว่าโง่
         คนเราทำงานก็ต้องมีผิดพลาด แต่สิ่งสำคัญต้องจดจำความผิดนั้น นำมาวิเคราะห์หาสาเหตุ ถ้าผิดซ้ำซากก็เหมือนคนที่หาบทเรียนจากประสบการณ์ไม่ได้
         36. คนจะโง่หรือฉลาด ดูได้จากคำพูด
         คำพูดเปรียบเสมือนประตูของจิตใจ คนโง่จะพูดเรื่องที่ขาดหลักคิดและเหตุผล ในขณะที่คนฉลาดจะมีเหตุผลและหลักคิดที่ดี
         37. ไม่มีใครเคยตาย เพราะงานหนัก
         ในการทำงานให้ยึดหลักว่าทำเข้าไปเถิดสิ่งที่ว่ายาก เพราะยิ่งทำสิ่งที่ยากมาก หรือหนักมากก็ยิ่งรู้มาก
         38. ชีวิตการศึกษาต่างจากชีวิตการทำงาน
         ในชีวิตการศึกษา เราจะรับความรู้จากครูบาอาจารย์ คนที่จบการศึกษาใหม่ๆ มักจะยึดติดกับทฤษฎีที่ร่ำเรียนมาเปรียบเหมือนมีศีรษะและความคิดเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีด้านและมุมที่ตายตัว จึงเข้ากับผู้อื่นได้ยาก แต่ในชีวิตการทำงานเราต้องหาความรู้จากสิ่งรอบข้าง และประสบการณ์ แล้วถ่ายทอดต่อให้ผู้อื่น จึงต้องปรับตัวเข้ากับผู้อื่นให้ได้ เปรียบเหมือนพัฒนาศีรษะและความคิดของตนจากรูปทรงสี่เหลี่ยมให้เป็นทรงกลม ทรงรี และทรงแหลมในที่สุด เพราะรูปทรงแหลม สามารถสอดแทรกได้ง่าย หมายความว่าคนผู้นั้นมีความสามารถปรับตัว เข้ากับผู้อื่นได้

         39. ความรู้มีอยู่ทุกหนแห่ง อยู่ที่เราจะรับรู้หรือไม่
         เราหาความรู้ได้ทุกหนแห่งทุกเวลา อยู่ที่เราจะเก็บเกี่ยวอย่างไรและเมื่อไร บางคนมีความสามารถในการเก็บเกี่ยวซึมซับความรู้จากสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์ อาจมีความรู้มากกว่าคนที่จบจากมหาวิทยาลัยเสียอีก และบางครั้งความรู้ที่ได้จากสถานการณ์จริง และประสบการณ์นั้นสามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ดีกว่า
         40. หัวหน้าที่ดีต้องรู้จักชื่นชมลูกน้อง
         หัวหน้างานที่ค้นหาจุดเด่นของลูกน้องแล้วชมเชย จะเป็นกำลังใจให้ลูกน้องหมั่นทำความดีต่อไป แต่หัวหน้างานที่คอยแต่จะค้นหาจุดด้อย มาตำหนิ จะทำให้ลูกน้องหมดกำลังใจ กล่าวว่าได้ว่าเป็นคนที่มองไม่เห็นคุณค่าของลูกน้อง
         41. ร่างกายต้องการอาหารกายฉันใด จิตใจต้องการอาหารใจฉันนั้น
ขณะที่ร่างกายของคนเราต้องการอาหารเพื่อเป็นพลังในการมีชีวิต จิตใจของคนเราก็ต้องการความรู้และหลักคิดที่ดี เพื่อเป็นพลังในการเป็นคนดี มีจิตใจดีเช่นกัน
         42. ปลูกต้นไม้ใหญ่ใช้เวลาร้อยปี สร้างคนใช้เวลาสิบปี
         การจะสร้างสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้แข็งแกร่งมีคุณค่า ต้องใช้ความอดทนใช้เวลา โดยเฉพาะการสร้างคนหนึ่งคนให้เก่ง ยิ่งต้องใช้ความอดทน และใช้เวลามาก ทั้งตัวผู้สร้างและผู้ถูกสร้าง เพราะนั่นหมายถึงการสร้างให้คนคนนั้นเพียบพร้อมทั้งความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์
         43. ทำคุณให้ผู้อื่นต้องลืม ผู้อื่นทำคุณให้ต้องจำ
         หากเราเคยทำประโยชน์หรือช่วยเหลือใครไว้ อย่าจดจำหรือคาดหวังการตอบแทน เพราะอาจไม่ได้ดังที่หวังหรือเผลอไปทวงบุญคุณให้เขาเสียความรู้สึก แต่ถ้ามีใครช่วยเหลือเราต้องจดจำให้แม่น เพื่อหาโอกาสตอบแทนบุญคุณ
         44. คนที่ชอบโยนความผิดให้ผู้อื่น เป็นคนที่ยากจะพัฒนาให้ดีได้
         คนบางคนไม่ยอมรับความผิดของตน ชอบหาแพะรับบาป หมกหมุ่นกับการหาวิธีโยนความผิดให้ผู้อื่น แทนที่จะใช้เวลาในการพัฒนางานของตน คนประเภทนี้ยากที่จะพัฒนาได้
         45. อยากเจริญก้าวหน้า ต้องทำตัวเหมือนคนกำลังขึ้นเขา
         คนเดินขึ้นภูเขาจะต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเสมอ เปรียบเสมือนคนอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งจะมีแต่คนรัก แต่คนเดินลงจากภูเขาจะเอนตัวไปข้างหลังเปรียบเสมือนคนเย่อหยิ่งจองหอง ซึ่งไม่มีใครชอบ ดังนั้นถ้าต้องการให้มีคนรักและช่วยสนับสนุนให้เจริญก้าวหน้า ควรประพฤติตนเสมือนคนกำลังเดินขึ้นเขา
         46. ผลักน้ำออกไป น้ำไหลเข้ามา วักน้ำเข้ามา น้ำไหลออกไป
         คนที่เป็นผู้ให้ มักได้รับสิ่งตอบแทนเสมออย่างน้อยก็ต้องได้ความรักและความชื่นชมจากผู้อื่น เปรียบเสมือนผลักน้ำออกไปจากตัวน้ำก็ยิ่งจะไหลเข้ามา แต่คนที่มีแต่ความโลภอยากได้จากผู้อื่น กลับต้องเป็นผู้สูญเสียไม่ได้รับแม้แต่ความรักและความศรัทธาเปรียบเสมือนคนที่พยายามวักน้ำเข้าหาตัว น้ำก็จะยิ่งไหลออกไป
         47. เกิดเป็นคน เงยหน้าต้องไม่อายฟ้า ก้มหน้าต้องไม่อายดิน
         คนเราเกิดมาอย่ามุ่งแต่จะหาประโยชน์ใส่ตน จนกลายเป็นคนเอาเปรียบสังคมหรือเบียดเบียนธรรมชาติแวดล้อม

http://www.banrainarao.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 25/12/2560

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,650.00 19,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,273.00 19,298.68 20,250.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,145.70 17,368.81 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 573.00 8,686.68 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 446.00 6,761.36 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,319.00 19,996.04 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  25/12/2560

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.85 27.85 27.85 35.41 27.85
27.85
27.85
27.85
27.85
แก๊สโซฮอล E-20
25.34
25.34
25.34
25.34
25.34
25.34
25.34
25.34
25.34
แก๊สโซฮอล E-85 20.64 20.64 20.64 20.64
แก๊สโซฮอล 91 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.98 27.58 27.58 27.58 27.58
เบนซิน 95 34.96 35.41 35.46 34.96 34.96 34.96
ดีเซลหมุนเร็ว 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 29.79 29.79 29.79 29.79 29.79
มีผลตั้งแต่ 21 Dec 05:00 21 Dec 05:00 21 Dec 05:00 21 Dec 05:00 21 Dec 05:00 21 Dec 05:00 21 Dec 05:00 21 Dec 05:00 21 Dec 05:00 21 Dec 05:00

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า