ผ่า 8 เมกะเทรนด์ “อสังหา” ปีเสือ ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง
ผ่า 8 แนวโน้ม ความเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามอง ของ ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย ปีเสือ ปี 2565 เมื่อ เมกะเทรนด์การอยู่อาศัย , ดิจิทัลเทคโนโลยี รวมถึง รูปแบบการเงินยุคใหม่ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น เช่น Metaverse ,บ้านติดตั้งโซลาร์เซลล์ และ Cryptocurrency
ปี 2565 นับเป็นปีแห่งความหวัง และโอกาสสำหรับ ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย หลังผ่านพ้นจุดต่ำสุดของปี 2564 สู่วงรอบ วัฎจักรใหม่ โดยตลาดมีแนวโน้มขาขึ้นชัดเจน ตั้งแต่รัฐ เปิดประเทศ เพิ่มการเดินทางชาวต่างชาติ ฟื้นเศรษฐกิจในระบบ , ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนเกียร์ว่าง ปลดหลักเกณฑ์การกำกับเพดาน อัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) เป็นการชั่วคราว
อีกทั้ง กระทรวงมหาดไทย ต่ออายุมาตรการกระตุ้น ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิ (ค่าธรรมเนียมการโอน )และ นิติกรรม สำหรับที่อยู่อาศัย (ไม่เกิน3ล้านบาท) จาก2% เหลือ 0.01% และค่าจดจำนองจาก1% เหลือ 0.01% ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2 ออกไปอีก 1 ปี (หมดอายุ : 31 ธันวาคม2565)
หนุนบรรยากาศการซื้อ – ขาย หน่วยที่อยู่อาศัยให้คล่องขึ้น ท่ามกลาง อัตราดอกเบี้ยยืนต่ำ การลดลงของสต็อกค้างท่อ คาดส่งผลให้อสังหาฯ ฟื้นตัวขึ้น แม้ตลาดยังมีปัจจัยเสี่ยง จากการกลายพันธุ์ของโควิด ชนิด ‘โอมิครอน’ และการเร่งตัวขึ้นของหนี้ระดับครัวเรือน ที่ต้องคอยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม แรงผลักใหม่ จาก ‘เมกะเทรนด์การอยู่อาศัย’ และการเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ของ ‘ดิจิทัลเทคโนโลยี’ และรูปแบบการเงินยุคใหม่ ซึ่งจะเห็นภาพอย่างชัดเจนในช่วงปี 2565 ถูกมองว่า จะเป็นตัวช่วยเพิ่มช่องทางการขาย และสร้างสีสันให้ธุรกิจนี้ไม่น้อย จับตาการแปรผันของ New Normal สู่ Next Normal และ Now Normal เมื่อ กูรูภาคอสังหาฯ ต่างวิเคราะห์ปรากฎการณ์ร่วม ก่อเกิด แนวโน้มและความเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามอง ดังนี้ …
‘โฮลดิ้ง คอมพานี’ เอสเคิร์ฟใหม่ของนักพัฒนา
เมื่อธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขายถึงจุดอิ่มตัว การไขว่คว้า หนทางใหม่ๆจึงเกิดขึ้น โดย ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย วิเคราะห์ ปี 2565 จะเกิดทิศทางการทำธุรกิจใหม่ๆ ของนักพัฒนาอสังหาฯ อย่างชัดเจนขึ้น เพื่อทดแทนเทรนด์ขาลง และความเสี่ยงของ ‘ตลาดที่อยู่อาศัย’ สู่การปั้นตัวเป็น ‘โฮลดิ้ง คอมพานี ‘ สร้างรายได้หลายทาง
เช่น ธุรกิจโรงพยาบาลวิมุตของพฤกษา, ธุรกิจศูนย์การค้าและธนาคารของ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ , ธุรกิจศูนย์พัฒนาผู้นำและผู้บริหารระดับสูง ของเอพี, ธุรกิจบริหารกองหนี้ของแสนสิริ ร่วมกับ เอ็กซ์สปริง หรือ การเข้าไปลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพต่างๆ รวมถึง การต่อยอดจุดแข็งเดิม สู่ บลูโอเชี่ยนใหม่ กลุ่มธุรกิจการบริการ (Hotel&Hospitality) สร้างผลตอบแทน 5-8% ต่อปี 15-20 ปี คืนทุน เช่น อนันดา ออริจิ้น แสนสิริ และ สิงห์ เอสเตท ไม่นับรวมการชิงลางกระโดดข้ามอุตสาหกรรม
ลุ้นจีดีพี พลิกตลาดโต 15-20%
ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom) บริษัทวิจัยด้านอสังหาฯ คาดการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยไทย ปี 2565 จะกลับมาฟื้นตัวราว 15-20% ( ภายใต้สมมุติฐาน จีดีพีไทยโต 3.5-4% และสถานการณ์โควิดคลี่คลาย) การเปิดตัวโครงการใหม่ กทม.- ปริมณฑล อยู่ที่ 78,000-90,000 หน่วย มูลค่า 3.05 – 3.18 แสนล้านบาท โดยมีแรงผลักจากตลาดแนวราบ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ เร่งตัวขึ้นอีก 40-50% เมื่อเทียบกับปี 2564 จากพฤติกรรมผู้อยู่อาศัยเปลี่ยนถาวร ต้องการพื้นที่ work from home มากขึ้น ขณะยอดโอนกรรมสิทธิ์ ประเมินเพิ่มขึ้น 10-15% ไม่ต่ำกว่า 2.8 แสนหน่วย หรือมูลค่า 8.2 แสนล้านบาท และอาจพีคได้แตะสุด 8.5 แสนล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มราคา 2-5 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 10 ล้านบาทขึ้นไป
Now Normal ปลุก คอนโดฯทางเลือก
เปิดประเทศ ปลุกความเชื่อมั่นตลาดคอนโดฯฟื้น จับตารายใหญ่ ดันแผนค้างท่อปี 64 ลุยเปิดโครงการใหม่อีกครั้ง หลังซบเซานาน 3 ปี คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ประเมิน ทั้งปี ผุดไม่ต่ำ 24,000 หน่วย มูลค่านับแสนล้าน จับตา ทำเล กรุงเทพ ชั้นนอก แนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงรามคำแหง – ลำสาลี ,สายสีเหลือง ถนนลาดพร้าว – ศรีนครินทร์ ,สายสีชมพู ช่วง รามอินทรา และ ย่านบางนา คึกคัก
ผู้พัฒนาฯ เปิดศึก คอนโดฯทางเลือก คอนโดราคาต่ำล้าน หรือ ต่ำกว่า 50,000 บาท ต่อตร.ม. เจาะนักลงทุนซื้อปล่อยเช่า ชิงเรียลดีมานด์อพาร์ทเม้นท์ ทำเลชุมชน , คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ กลุ่มเป้าหมายใหม่มีกำลังซื้อ ส่วนกลางไม่ใช่อุปสรรค ขณะ ตลาดไฮเอนด์ กลางเมือง เปลี่ยนโหมดสู่ รูปแบบ แบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ (Branded Residences) พ่วงบริการจากเชนโรงแรมดัง แข่งเดือดอีกระลอก บนสมรภูมิทำเลทองกลางเมือง
เปิดจุดเดือดตลาดเวลเนส
เมื่อประเทศเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ขณะไทยขึ้นแท่นเมืองเป้าหมายของกลุ่มคนเกษียณทั่วโลก และ สุขภาพผู้คนถูกดิสรัปด้วยโรคโควิด19 กลายเป็นจังหวะเร่งตัวของโปรเจ็กต์น้อย-ใหญ่ ที่มีแนวคิด การออกแบบ รองรับเทรนด์ใหม่ของโลก ด้านการดูแลสุขภาพ และเสริมสร้างความสุขของการอยู่อาศัย ( Wellness ) เปิดศึกโครงการ เจาะจงการออกแบบ
เช่น โครงการเพื่อผู้สูงอายุ พ่วงบริการด้านสุขภาพระยะยาว (Wellbeing) ผ่านการร่วมมือกับโรงพยาบาล หรือ ศูนย์บริการสุขภาพ มีเจ้าหน้าที่เฉพาะทางดูแลภายใน ขณะจับตา เมืองท่องเที่ยวจับต่างชาติ ภูเก็ต หัวหิน เชียงใหม่ พัทยา ผุด ‘เมดิคัลฮับเซ็นเตอร์’ ชิงเค้กก้อนโตจับชาวต่างชาติ เปิดศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่ ตรวจวินิจฉัยโรค และรักษา – พักฟื้นระยะยาว หากแก้กฎหมายต่างชาติครอบครองที่ดินได้ มีร้อนฉ่า!
เมตาเวิร์ส โลกเสมือน มาจริง ไม่ได้มาเล่น
การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) จะถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง และแตกต่างไปจากวิถีเดิม จับตาสีสันใหม่ เมตาเวิร์ส (Metaverse) หรือ เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง เข้ามาเชื่อมโยงการซื้อ และ ขาย เช่น การเยี่ยมชมที่อยู่อาศัย ก่อนตัดสินใจซื้อแบบทัวร์เสมือนจริง ( Virtual Tour) สร้างประสบการณ์ร่วมสมจริง , เปิดโอกาสธุรกิจใหม่ แห่ซื้อขายที่ดิน เพื่อปักหมุดโฆษณา ปักธงโครงการอสังหาฯ ในโลกใหม่ รวมถึงการประเมินที่ดินผ่านบล็อกเชน
เจาะผู้ถือเงินดิจิทัลทั่วโลก Metaverse Thailand and Global สร้างแรงกระเพื่อม ผุด ‘นครดูไบ’ 2.2 แสนบล็อก บล็อกละ 67 ตางราวา ขาย100 เหรียญ (BUSD) ประเมิน ราคาขึ้น 10-30 เท่า หรือ 6,000-20,000 ล้านบาท ขณะ แมกโนเลีย ประกาศตัวจะเป็น อสังหาฯไทยรายแรก เข้าไปพัฒนาเมืองในโลกเสมือนจริง โปรเจค Translucia
อสังหาฯเกาะกระแสคริปโต
ผู้ถือสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) หรือ นักลงทุนเจนใหม่ กลายเป็นอีกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ของภาคอสังหาฯ โดย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ประเมิน ว่า จะได้เห็น ผู้พัฒนา จับมือ กับ ร่วมกับบริษัทแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นน้ำ ประกาศใช้สกุลเงิน คริปโตเคอร์เรนซี่ ในการ ซื้อ- ขาย โครงการที่อยู่อาศัย ระดับบน หรือ ใช้จ่ายค่าส่วนกลาง และค่าบริการอื่น ๆ มากขึ้น ขณะเดียวกัน เทรนด์ดังกล่าว อาจกลายเป็นอีกช่องทางระดุมทุน และลงทุนใหม่ในภาคอสังหาฯ เช่น กรณี แสนสิริ ดัน โปรเจ็กต์ สิริแคมปัส ออก โทเคนดิจิทัล (ICO Portal) , อนันดา เปิดตัว ZillaSpace รุกใช้บล็อกเชน ปฎิวัติ รูปแบบ การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ พื้นที่ – สำนักงาน – อสังหาฯ ปันผลประโยชน์จากค่าเช่าตามสัดส่วนการลงทุนของคนทั่วไป
คนติดบ้าน – COP26 จุดเปลี่ยนบ้านรักษ์โลก
เมื่ออุตสาหกรรมการก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงอันดับต้น ขณะไทยประกาศเจตนารมย์ ปี 2565 มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตามข้อตกลงนานาชาติ ที่ประชุม COP26 นักสร้างบ้านต้องปรับตัว สอดคล้อง คนมองหาบ้าน ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน และรักษ์โลก เพื่อใช้ชีวิต ทำงาน – อยู่อาศัย ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด คาด บ้าน/คอนโดฯ ที่มีระบบหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Rooftop) ใช้พลังงานทางเลือกทดแทนการใช้ไฟฟ้า จะได้รีบความนิยมสูงขึ้น รวมถึงบ้านที่มีระบบระบายความร้อน ,ฟังก์ชั่นดูดซับมลพิษภายในบ้าน อีกทั้ง ช่วงปีหน้า เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง จะผลักดันให้โครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ เพิ่มจุดบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลางมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ส่อง”เกาะแรต” เกาะจิ๋ว กลางทะเลใต้ วิถีชาวเล สุราษฎร์ธานี
ส่อง”เกาะแรต” เกาะจิ๋ว กลางทะเล วิถีประมงชาวเลไทย แหล่งวิถีชาวเล สุราษฎร์ธานีกรมทางหลวงชนบท(ทช.) เป็นผู้ก่อสร้างทางปูน ระยะทาง 500 เมตร เชื่อมระหว่างบ้านแหลมลื่น ตำบลดอนสัก เข้าไปยังเกาะเล็กจิ๋ว
“เกาะแรต” กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อีกแห่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี แม้เป็นเกาะขนาดเล็กแต่ สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ด้วยจุดเด่นของเกาะแห่งนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตั้งอยู่กลางทะเลอ่าวไทย มหัศจรรย์ด้วยเนื้อที่เพียง500เมตร จึงเป็นแลนด์มาร์ค ที่น่าค้นหา เพราะเป็นเกาะจิ๋วเล็กที่สุดในประเทศไทย เมื่อเดินทางมาถึงจะมีทางปูนทอดยาวยื่นออกไปกลางทะเล เชื่อมระหว่างเกาะแรตเข้าหาแผ่นดินใหญ่
หรือที่เรียกว่า สะพานเฉลิมสิริราช สะพานที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีกรมทางหลวงชนบท(ทช.) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง มีระยะทางประมาณ 500 เมตร เชื่อมระหว่างบ้านแหลมลื่น ตำบลดอนสัก เข้าไปยังเกาะเล็กจิ๋วดังกล่าว
เมื่อเดินเข้าถึงตัวหมู่บ้านเกาะแรต จะเห็นบ้านชาวเลปลูกสร้าง สถาปัตยกรรมแบบพื้นถิ่น ตั้งเรียงรายเกาะกลุ่มอยุู่บริเวณ ชายขอบของเกาะ ประมาณ 90 ครัวเรือน ผู้เฒ่าผู้แก่บนเกาะแห่งนี้เล่าว่า ชุมชนนี้เกิดขึ้นมากว่า 200ปี อาชีพหลักของชาวเกาะแรตคือการทำประมงชายฝั่ง ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน บนเกาะจึงมีศาลเจ้าไหหลำ เพื่อเป็นที่ประกอบพิธีต่าง ๆอย่างประเพณีถือศีลกินเจและแห่เทพเจ้าลุยไฟเป็นงานประจำปี
เกาะแรตตั้งอยู่ ในเขตปกครองของหมู่ที่3ตำบลดอนสักอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ห่างจากฝั่งประมาณ 500 เมตร วันนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ คือชมโลมา มีโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักและร่วมกิจกรรมกับชุมชน ซึ่งปัจจุบันเปิดบริการ 8 แห่ง
ด้วยทำเลที่มีทิวทัศน์และธรรมชาติที่สวยงาม สามารถเดินได้รอบเกาะ มองเห็นเกาะต่าง ๆ มากมาย ทั้งเกาะสมุย เกาะนกเภา เกาะพะลวย เกาะหลัก เห็นทิวทัศน์ของแหลมทวดและเจดีย์วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ (วัดพ่อหลวงจ้อย) รวมทั้งเป็นจุดชมดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ขึ้นและตกที่สวยงามมาก
จากความงดงามทางธรรมชาติ ระหว่างท้องทะเลและชุมชนชาวประมง กลมกลืนเข้าด้วยกัน ทำให้กลายเป็นจุดเช็คอินที่ได้รับความนิยม อีกทั้งยังอิ่มอร่อยกับอาหารพื้นบ้าน ซึ่งเป็นอาหารทะเลสดใหม่ในราคาย่อมเยา พร้อมมีพื้นที่เดินเล่น สะพานริมทะเลชมพระอาทิตย์ตกดิน และยังสามารถนั่งเรือทักทายปลาโลมาสีชมพูได้อีกด้วย
ตามประวัติ แต่เดิมนั้นเกาะแห่งนี้ไม่มีผู้คน แต่เมื่อหลายร้อยปีก่อนมีชาวจีนอพยพมาจากเกาะไหหลำแล้วแวะพักที่เกาะแห่งนี้ เมื่อดูว่าเป็นเกาะที่เหมาะสมต่อการตั้งรกราก จึงปักหลักตั้งหมู่บ้านเล็ก ๆ ขึ้น ปัจจุบันจึงจะเห็นว่าประชากรทั้งหมดบนเกาะร้อยละ 85 เป็นชาวไทยเชื้อสายจีนมาถึงปัจจุบันนั่นเอง
หลายคนอาจสงสัย ว่าเหตุใด จึงใต้ “ต” จึงมีคำอธิบายว่า เกาะแรต มาจากคำว่า “แรด” ที่สะกดด้วย “ด” ที่หมายถึงชื่อสัตว์ ชาวจีนได้ขนานนามเกาะแห่งนี้ว่า “ฮีเด้ง” หมายถึง ตะเกียงสวรรค์ และต่อมาชาวจีนเขียนด้วย “ต” สะกดแทน “ด” นอกจากนี้ยังมีการสันนิษฐานได้ว่าบริเวณเกาะมีต้นขี้แรดมาก จึงได้ชื่อว่า “เกาะแรต” ดังคำบอกเล่าของชาวบ้านว่ามาจากต้นขี้แรดที่มีอยู่ในชุมชน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
แนวโน้มหุ้นไทย4ม.ค.65 คาดดัชนีปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศ
แนวโน้มหุ้นไทย 4 ม.ค.65 นักวิเคราะห์คาด ดัชนีแกว่ง Sideway up ตามทิศทางของตลาดหุ้นในต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 65 นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่ง Sideway up เป็นไปตามทิศทางของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดต่างประเทศ ที่ต่างก็ปรับตัวขึ้น และราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นด้วย ขณะเดียวกันการไหลเข้าของเงินนอกก็ยังคงมีแนวโน้มไหลเข้าต่อเนื่อง
แต่อย่างไรก็ดีให้ติดตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศ และแรงขาย LTF ที่ครบกำหนด 7 ปี ซึ่งอาจจะเป็นตัวจำกัดอัพไซต์ของตลาด รวมถึงจะต้องระวังอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) อายุ 10 ปีของสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นมา 1.62% อาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรในระยะสั้น
ให้แนวต้านไว้ที่ 1,660-1,670 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,650-1,655 จุด
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ลุ้นโควตายุโรป! บาร์เซโลน่า บุกดับ เรอัล มายอร์ก้า 1-0 ขยับจี้ท็อปโฟร์แต้มเดียว
การแข่งขัน ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน คู่ระหว่าง เรอัล มายอร์ก้า เปิดบ้านพบกับ บาร์เซโลน่า ที่สนาม มายอร์ก้า เอสตาดี้ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม 2564
เปิดเกมมาเพียงแค่ 8 นาที เป็นทีมเยือนที่มาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะ 25 หลา เคราร์ด ปีเก้ วิ่งกดด้วยขวาบอลพุ่งข้ามกำแพงแต่หลุดกรอบออกไป
สองนาทีต่อมา บาร์เซโลน่า ได้โอกาสอีกครั้ง ออสการ์ มินเกซ่า ไหลบอลเข้าเขตโทษให้ เอเลียส อาโกมาช ได้ยิงแต่บอลไปตรงตัว มาโนโล่ เรน่า ปัดทิ้งออกหลังไปได้
นาทีที่ 29 ทีมเยือนต่อเกมได้สวย แฟร้งกี้ เดอ ยอง ทำชิ่งกับ ริกิ ปุช ก่อนหลุดเข้าเขตโทษไปจิ้มสวนตัว มาโนโล่ เรน่า ไปแล้วแต่บอลชนเสากระดอนออกมา
นาทีที่ 44 บาร์เซโลน่า มาได้ประตูนำ 1-0 ออสการ์ มินเกซ่า วางบอลยาวเข้าเขตโทษ ลุค เดอ ยอง วิ่งเบียดแนวรับเจ้าบ้านก่อนโขกสวนตัว มาโนโล่ เรน่า ตุงตาข่าย พร้อมหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 58 ยังเป็นทีมเยือนที่มีโอกาสจบสกอร์ เอเลียส อาโกมาช ได้เปิดบอลเข้าเขตโทษ เคราร์ด ปีเก้ เทกตัวขึ้นโหม่งแต่ โรดรีโก้ บัตตาเกลีย ตามมาบล็อกได้ทัน
นาทีที่ 84 เจ้าบ้านได้โอกาสตีเสมอจากลูกฟรีคิกบอลถูกเปิดโด่งเข้าเขตโทษ โรดรีโก้ บัตตาเกลีย วิ่งโถมเข้าโขกเต็มๆ แต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานออกหลังไป
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+2 เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูตีเสมออีกหน เยาเม่ กอสต้า ได้ล้มตัวยิงในเขตโทษแต่ มาร์ค อังเดร แทร์ ชตีเก้น โชว์ซูเปอร์เซฟ ปัดเอาไว้ได้เหลือเชื่อ
จบเกม บาร์เซโลน่า บุกเฉือนเอาชนะ เรอัล มายอร์ก้า ไปได้แบบหวุดหวิด 1-0 ขยับขึ้นที่ 5 ของตาราง โดยมีแต้มตามหลัง แอต.มาดริด อันดับ 4 เหลือเพียงแค่แต้มเดียว
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เรอัล มายอร์ก้า (4-2-3-1) : มาโนโล่ เรน่า, ปาโบล มาฟเฟโอ, ฟรังโก้ รุสโซ่, มาร์ติน บัลเยนต์, เยาเม่ กอสต้า, บาบ่า โมแฮมเหม็ด (อินญิโก้ รุยซ์ เดอ กาลาร์เรต้า น.61), โรดรีโก้ บัตตาเกลีย (อับดอน ปรัตส์ น.84), อันโตนิโอ ซานเชซ (จอร์ดี้ เอ็มโบว์ล่า น.70), ดาเนียล โรดริเดซ, อี คัง อิน (ฮาเวียร์ ลาเบรส น.71), อังเคล โรดริเดซ (เฟร์ นิโญ่ น.61)
บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ค อังเดร แทร์ ชตีเก้น, โรนัลด์ อาเราโฮ, เคราร์ด ปีเก้, เอริก การ์เซีย, ออสการ์ มินเกซ่า (เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ น.76), นิโก้ กอนซาเลซ (อัลบาโร่ ซันซ์ น.71), แฟร้งกี้ เดอ ยอง, ริกิ ปุช, เอเลียส อาโกมาช (เอสตานิส เปโรล่า น.80), ลุค เดอ ยอง, เฟร์ราน ยุตกลา
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เตือนภัย “คลอรีน” ผสมน้ำอาบ เสี่ยงผิวหนังไหม้ได้
อย. เตือนอันตรายจากการผสมสารละลายสีม่วง รวมถึงผงคลอรีนลงไปในน้ำเพื่อใช้อาบ อ้างสรรพคุณช่วยให้ผิวขาวขึ้น แต่จริงๆ แล้วเสี่ยงผิวหนังไหม้รุนแรง และอาจระคายเคืองดวงตาและระบบทางเดินหายใจได้
เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุขรักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการแชร์คลิปวีดีโอบนโลกออนไลน์ที่นำสารละลายสีม่วงใส่ลงไปในน้ำและใส่ผงคลอรีนตามทำให้น้ำสีม่วงกลายเป็นน้ำใส พร้อมข้อความบรรยายให้ผู้ดูคลิปดังกล่าวเข้าใจว่า ถ้าอาบน้ำดังกล่าวแล้วผิวจะขาวใสนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอเตือนว่า อย่าลอกเลียนแบบการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ ผงคลอรีนเป็นสารเคมีที่ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคบนพื้น ฝาผนัง วัสดุ อุปกรณ์ หรือฆ่าเชื้อในสระว่ายน้ำ จัดเป็นวัตถุอันตรายที่มีให้ผิวหนังไหม้อย่างรุนแรง ระคายเคืองดวงตาและระบบทางเดินหายใจ
ใช้คลอรีนอย่างระมัดระวัง เสี่ยงอันตราย
สารคลอรีนที่ขายในท้องตลาดมักมีความเข้มข้นสูง ดังนั้น ผู้ใช้ต้องสวมถุงมือยาง สวมหน้ากาก เพื่อป้องกันการรับสัมผัส ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ระบุบนฉลากอย่างเคร่งครัด ทั้งวิธีการเจือจาง การนำไปใช้ คำเตือน และความเป็นอันตรายซึ่งจะแสดงด้วยรูปสัญลักษณ์ เมื่อใช้เสร็จแล้วต้องล้างมือให้สะอาดหลังจากใช้งานเสร็จแล้วทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย การใช้คลอรีนผสมน้ำเพื่อแช่หรืออาบนั้นแม้ว่าจะใช้ในปริมาณที่น้อย แต่เมื่อผิวหนังสัมผัสกับคลอรีนก็อาจจะส่งผลให้ผิวหนังระคายเคืองได้ คลอรีนจึงถูกห้ามใช้เป็นส่วนผสมในสบู่หรือเครื่องสำอางอื่นๆ อีกด้วย
เภสัชกรหญิงสุภัทรา กล่าวว่า อย.ขอสนับสนุนให้คนไทยเห็นความสำคัญกับการมีผิวสุขภาพดีมากกว่าผิวขาว อย่าหลงเชื่อการโฆษณาโอ้อวดเกินจริง หรือใช้สินค้าที่มีส่วนประกอบที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายเพราะอาจเกิดผิวเสียถาวรหรือผิวหนังอักเสบได้ หากพบเห็นการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงหรือผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าจะผิดกฎหมายขอให้ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน อย. 1556
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เข้าโรงพยาบาลเมืองนอก ศัพท์ต่างๆที่ควรรู้ในภาษาอังกฤษ
anesthesiologist = หมอวางยาสลบ (วิสัญญีแพทย์)
dietician = นักโภชนาการ
doctor = หมอ
medical technician = นักเทคนิคการแพทย์
nurse = พยาบาล
ophthalmologist = จักษุแพทย์, หมอตา
patient = ผู้ป่วย
pediatrician = กุมารแพทย์, หมอเด็ก
physician = อายุรแพทย์, แพทย์
psychiatrist = จิตแพทย์
security guard = พนักงานรักษาความปลอดภัย
specialist = ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
surgeon = ศัลยแพทย์
visitor = ผู้เยี่ยม
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
‘สเปซเอ็กซ์’ ส่งยานบรรทุกสัมภาระ-ของขวัญคริสต์มาส ไปสถานีอวกาศนานาชาติ
บริษัทด้านอวกาศ สเปซเอ็กซ์ ส่งจรวดฟอลคอนบรรทุกยานแคปซูลดรากอน เดินทางออกจากศูนย์อวกาศเคนเนดีขององค์การอวกาศสหรัฐฯ (นาซ่า) ในรัฐฟลอริดา เมื่อช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น
โดยหลังจากพุ่งทะยานออกจากแท่นปล่อยจรวด ส่วนฐานของจรวดได้ตกลงไปบนแท่นกลางทะเลตามที่กำหนดไว้ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอีกครั้งหนึ่งของสเปซเอ็กซ์ในภารกิจนำส่วนฐานของจรวดกลับมาใช้ใหม่ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อน
สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ในการเดินทางครั้งนี้ ยานดรากอนของสเปซเอ็กซ์บรรทุกสัมภาระน้ำหนักเกือบ 3,000 กิโลกรัม รวมทั้งของขวัญคริสต์มาสจากครอบครัวบนโลกไปให้แก่นักบินอวกาศ 7 คนที่อยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติในขณะนี้
นอกจากนี้ยังมีอาหารพิเศษเนื่องในเทศกาลสำคัญที่บรรดานักบินอวกาศจะได้ร่วมนำไปเฉลิมฉลองกันเองด้วย เช่น ปลารมควัน ไก่งวง ถั่วฝักยาว และเค้กผลไม้
อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการโครงการสถานีอวกาศของนาซ่า โจเอล มอนทาลบาโน กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนที่จะส่งจรวดฟอลคอนสู่อวกาศว่า ตนจะไม่ขอทำหน้าที่แทนซานตาคลอสและบอกว่าของขวัญที่ส่งไปให้นักบินอวกาศเหล่านั้นมีอะไรบ้าง
จนถึงขณะนี้ สเปซเอ็กซ์ ส่งจรวดออกไปนอกโลกแล้ว 138 ครั้งตลอด 12 ปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้มีการส่งจรวดไปแล้ว 31 ครั้ง ซึ่งมากที่สุดเป็นสถิติใหม่ของสเปซเอ็กซ์ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ปอกระเจา สรรพคุณและประโยชน์ของต้นปอกระเจา
ปอกระเจา
ปอกระเจา ชื่อสามัญ Jute, Nalta Jute, Tossa Jute, White Jute, Jew’s Mallow[1]
ปอกระเจา ชื่อวิทยาศาสตร์ Corchorus capsularis L. จัดอยู่ในวงศ์ชบา (MALVACEAE)[1] และอยู่ในวงศ์ย่อย GREWIOIDEAE
สมุนไพรปอกระเจา มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ปอเส้ง เส้ง (ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ), กาเจา กระเจา ปอกระเจา ประกระเจาฝักกลม (ภาคกลาง), ปอ (ภาคตะวันออกเฉียงใต้) เป็นต้น[1],[3]
ลักษณะของปอกระเจา
- ต้นปอกระเจา จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกขนาดเล็ก อายุได้ 1 ปี มีความสูงได้ประมาณ 1 เมตร ลำต้นเป็นสีเขียวอ่อนหรือแดงเข้ม แตกกิ่งก้านสาขาเป็นพุ่ม เป็นไม้เนื้ออ่อน มีระบบรากเป็นแบบรากแก้ว ที่ประกอบไปด้วยรากแก้วและรากแขนง ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด มีเขตการกระจายพันธุ์ในอินเดีย จีน ญี่ปุ่น พม่า เวียดนาม มลายูภาคใต้ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนในประเทศไทยพบขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย กาญจนบุรี ปราจีนบุรี ชลบุรี อ่างทอง กรุงเทพฯ พังงา พรรณไม้ชนิดนี้มักขึ้นตามบริเวณที่ชื้นแฉะ ทนทานน้ำท่วมได้ดี[1],[2],[3]
- ใบปอกระเจา ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปยาวเรียว ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย แผ่นใบอ่อนบาง ที่โคนใบมีเส้นเล็ก ๆ สีแดงอยู่ 2 เส้น[1],[2]
- ดอกปอกระเจา ออกดอกเดี่ยวหรือออกเป็นกระจุกประมาณ 2-3 ดอก โดยจะออกบริเวณระหว่างซอกใบกับกิ่ง ดอกเป็นสีเหลืองมีขนาดเล็ก ออกดอกและติดผลในช่วงประมาณเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม[1],[2],[3]
- ผลปอกระเจา เป็นผลแบบแคปซูล ลักษณะของผลเป็นรูปค่อนข้างกลม เป็นพู 5 พู ผิวผลขรุขระ ไม่เรียบเกลี้ยง ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร เมื่อผลแก่เต็มที่ผลจะอ้าหรือแตกออกเป็นซีก ภายในผลมีเมล็ดขนาดเล็กสีน้ำตาลอยู่เป็นจำนวนมาก เมล็ดเป็นรูปไข่มี 4-5 เหลี่ยม ด้านหนึ่งค่อนข้างเว้า มีสีน้ำตาล[1],[2]
หมายเหตุ : ปอกระเจาที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันจะมีอยู่ 2 ชนิด คือ ประกระเจาฝักกลม (Corchorus capsularis L.) ที่มีถิ่นกำเนิดในอินโด-พม่า และปอกระเจาฝักยาว (Corchorus olitorius L.) ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา[4]
สรรพคุณของปอกระเจา
- ใบมีสรรพคุณเป็นยาบำรุง ช่วยบำรุงธาตุ และช่วยเจริญอาหาร (กระตุ้นให้อยากอาหาร) ด้วยการใช้ใบแห้งนำมาบดให้เป็นผงละเอียด แล้วนำมาชงหรือนำมาละลายในน้ำกิน (ใบ)[1],[5] บ้างใช้ยาชงจากใบปอกระเจาผสมกับลูกผักชีและเทียนเยาวพาณี เป็นยาธาตุและยาบำรุง (ใบ)[6]
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และความดันโลหิต ด้วยการใช้ใบปอกระเจามาลวกกับน้ำร้อน นำมาผัดกับกระเทียม พริกไทย รับประทานกับข้าวต้มหรือข้าวสวย หรือใช้ใบที่ตากจนแห้งแล้วประมาณ 1 กำมือ ชงกับน้ำร้อน (แช่นาน 5-10 นาที) นำมาดื่มแทนน้ำทั้งวัน (ใบ)[2]
- ใบมีรสขมเล็กน้อย ใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ร้อนใน ทำให้เลือดเย็น แก้อาการเจ็บคอ (ใบ)[7]
- ใช้เป็นยาแก้ไข้ ด้วยการใช้ใบแห้งนำมาบดให้เป็นผงละเอียด แล้วนำมาชงกับน้ำกิน (ใบ)[1] ส่วนอีกข้อมูลระบุว่า เปลือกและผลก็มีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้เช่นกัน (เปลือก, ผล)[6]
- ในประเทศมาเลเซียจะใช้ใบนำมาต้มชงกับน้ำกินเป็นยาแก้ไอ (ใบ)[3]
- ผลมีฤทธิ์เหมือนกับตัวยาในดิจิตาลิส นำมาต้มเอาน้ำกินจะมีสรรพคุณเป็นยากระตุ้นหัวใจ ส่วนรากก็มีสรรพคุณกระตุ้นหัวใจเช่นกัน (ราก, ผล)[1] (แต่ในที่นี้ไม่แนะนำให้ใช้ผลของปอกระเจาในการรักษาโรคหัวใจ เนื่องจากโรคหัวใจมีหลายประเภท ท่านจึงควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาจะดีกว่ามารักษาด้วยตนเอง)[5]
- รากและผลนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้โรคท้องเดิน (รากและผล)[1]
- เมล็ดนำมาบดผสมกับขิงและน้ำผึ้งให้ละเอียด ใช้รับประทานเป็นยาแก้ท้องร่วง (เมล็ด)[1]
- ใบนำมาบดผสมกับขมิ้น ใช้รับประทานเป็นยาช่วยรักษาโรคบิด หรืออาการท้องเสียที่เกิดจากเชื้อบิดที่ไม่รุนแรง (ใบ)[1],[3],[5] ส่วนอีกข้อมูลระบุว่า เปลือกก็มีสรรพคุณเป็นยาแก้บิดเช่นกัน (เปลือก)[6]
- ใบแห้งที่บดเป็นผงละเอียดใช้ชงกับน้ำกินเป็นยาระบาย (ใบ)[1],[5] ส่วนเมล็ดก็มีสรรพคุณเป็นยาระบายเช่นกัน (เมล็ด)[5]
- ช่วยแก้อุจจาระเป็นเลือด (ใบ)[7]
- ใช้เป็นยาขับลม ขับปัสสาวะ ด้วยการใช้ใบแห้งที่บดเป็นผงละเอียดแล้ว นำมาชงกับน้ำกิน (ใบ)[1],[5]
- ช่วยแก้โรคหนองใน (ใบ)[5]
- ในเบงกอลจะใช้ใบแห้งชงกับน้ำกินเป็นยาแก้ตับพิการ (ใบ)[6]
- ใบใช้ตำพอกรักษาแผล (ใบ)[3]
- ใบมีสรรพคุณเป็นยาระงับพิษ ใช้เป็นยาพอกแก้พิษ แก้บวม ทาแก้ผิวหน้าแดงบวม แก้พิษปลาปักเป้า (ใบ)[5],[7]
- นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผลไม้สุกใช้ลดอาการอักเสบ ใช้ในโรคหายใจไม่สะดวก (ผลสุก)[6]
ข้อควรระวัง : เมล็ดมีสารออกฤทธิ์คล้ายยาดิจิตาลิสซึ่งกระตุ้นหัวใจ จึงไม่แนะนำให้รับประทานเมล็ด เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้[1],[5] ส่วนสตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน[7]
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของปอกระเจา
- สารสำคัญที่พบ ได้แก่ agglutinin, lympho, campesterol, capsin, capsugenin, capsugenin-30-O-β-glucopyranoside, cardenolides, corchoroside A, Corchorus capsularis triterpene glucoside, corchoside B, corchoside C, corosin, corosolic acid, daucostent, erysimoside, helveticoside, hexadecanoic acid ethyl ester, linoleic acid, oleic acid, olitoriside, olitoriside, palmitic acid, polysaccharide, β-sitosterol, stigmasterol, strophanthidin, ursolic acid[2]
- สมุนไพรปอกระเจามีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ ลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต้านเชื้อรา ฆ่าแมลง[2]
- เมื่อปี พ.ศ.2530 ที่ประเทศไทย ในการประชุมสัมมนาในกรุงเทพฯ ได้มีรายงานผลการทดลอง ฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดของสมุนไพรปอกระเจา[2]
ประโยชน์ของปอกระเจา
- ใบนำมาทำให้สุกใช้รับประทาน[3] ใบปอกระเจา 100 กรัม จะประกอบไปด้วยวิตามินบี 3 1.6 มิลลิกรัม, วิตามินซี 164 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีน และวิตามินสูง[5]
- เมล็ดมีสารพิษ corchorin (strophanthidin) มีความเป็นพิษต่อสุนัข จึงมีการนำเมล็ดไปใช้เป็นยาเบื่อสุนัข[1],[3],[5]
- เส้นใยจากเปลือกต้นเมื่อลอกออกมาแล้วจะเรียกว่า “ปอ” สามารถนำไปใช้ทอกระสอบเพื่อใส่ผลิตผลทางการเกษตรได้ เช่น ข้าวสาร ข้าวโพด น้ำตาล หรือนำมาใช้ทอเป็นผ้า พรม ทำเยื่อกระดาษ ทำเชือก เป็นต้น นอกจากนี้ลำต้นและแกนปอยังสามารถนำไปผลิตเป็นเยื่อกระดาษ ตลอดจนไม้เนื้อเบาได้ดีอีกด้วย แต่ยังคงมีข้อจำกัดในเรื่องของตลาดและการแข่งขันกับพืชชนิดอื่น[3],[4]
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 04/01/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,400.00 | 28,500.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,840.00 | 27,894.40 | 29,000.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,656.00 | 25,104.96 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,472.00 | 22,315.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 828.00 | 12,552.48 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 644.00 | 9,763.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,907.00 | 28,910.12 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 04/01/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 31.15 | 31.15 | 31.85 | 31.45 | 31.85 | 31.15 | 31.65 | 31.65 | 31.45 | 31.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 30.88 | 30.88 | 31.58 | 31.18 | 31.58 | 30.88 | 31.38 | 31.38 | 31.18 | 30.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 29.64 | 29.64 | 30.34 | 29.94 | 30.34 | – | 30.14 | 30.14 | 29.94 | 29.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 23.74 | 23.74 | – | – | – | – | – | – | – | 23.74 |
เบนซิน 95 | 38.56 | – | – | – | 39.71 | – | 39.56 | 39.56 | – | 39.56 |
ดีเซล B7 | 28.44 | 28.44 | 29.54 | 29.14 | 29.54 | 28.44 | 29.04 | 28.94 | 29.14 | 28.44 |
ดีเซล | 28.44 | 28.44 | 29.54 | 29.14 | 29.54 | 28.44 | 29.04 | 28.94 | 29.14 | 28.44 |
ดีเซล B20 | 28.44 | 28.44 | 29.54 | – | 29.54 | – | 29.04 | 28.94 | – | 28.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 34.46 | 34.46 | 35.99 | 35.76 | 35.99 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |