อสังหาฯ EEC ฟื้น! ปีนี้ทะลัก 2 หมื่นหน่วย
ตลาดอสังหาฯ 3 จังหวัด อีอีซี ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ตอบรับส่งออกฟื้น ดันตลาดที่อยู่อาศัยฟื้น REIC คาด โครงการเปิดใหม่ปีนี้โต 51.9% ทะลักกว่า 2 หมื่นหน่วย จับตาคอนโดฯระยอง กลุ่มบ้านหลัง 2 และทาวน์เฮ้าส์คึกทุกจังหวัด
16 มีนาคม 2565 – ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ สรุปบทวิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ (ที่อยู่อาศัย)ของพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และจังหวัดฉะเชิงเทรา พบแนวโน้มตลาดเริ่มฟื้นตัว
สิ้นปี 2564 หน่วยเหลือขายลดลง สะสม 60,480 หน่วย
พบว่า ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวนที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างเสนอขายจำนวนทั้งสิ้น 1,087 โครงการ จำนวน 71,831 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 238,253 ล้านบาท จำนวนหน่วยลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ร้อยละ -5.2 มูลค่าลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ -6.9 แบ่งเป็น
- โครงการบ้านจัดสรร 48,898 หน่วย มูลค่า 138,271 ล้านบาท
- โครงการอาคารชุด 22,933 หน่วย มูลค่า 99,981 ล้านบาท
มีโครงการที่เปิดขายใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังเพียง 7,588 หน่วย
- แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 5,124 หน่วย มูลค่า 16,051 ล้านบาท
- อาคารชุด 2,464 หน่วย มูลค่า 6,472 ล้านบาท
ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขายในพื้นที่ 3 จังหวัด EEC มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 60,480 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ -6.8 มีมูลค่าหน่วยเหลือขายรวม 203,892 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ -8.3
ยอดขายได้ใหม่เพิ่มขึ้น 4%
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวด้านการขาย พบว่ามีหน่วยที่ขายได้ใหม่ในช่วงครึ่งหลังปี 2564 จำนวน 11,351 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 มูลค่าขายได้ใหม่จำนวน 34,361 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- โครงการบ้านจัดสรรมีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ประมาณ 8,348 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 มูลค่า 23,145 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5
- โครงการอาคารชุดขายได้ใหม่จำนวน 3,003 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 มูลค่า 11,216 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -5.2
ส่งผลให้ภาพรวมมีอัตราดูดซับดีขึ้นเล็กน้อย โดยปรับขึ้นจากร้อยละ 2.4 ในช่วงปลายปี 2563 เพิ่มเป็นร้อยละ 2.6 ในช่วงปลายปี 2564
REIC วิเคราะห์อสังหาฯ บ้านจัดสรรโตสูง
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้การแพร่ระบาดของ COVID-19 การลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ EEC เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งในด้านอุปสงค์ และอุปทาน เมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปี 2564 สถานการณ์โดยรวมเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงการฟื้นตัว เมื่อผู้ประกอบการลดการเติมอุปทานใหม่เข้ามาในตลาด ส่งผลให้อัตราดูดซับเริ่มดีขึ้น โครงการเหลือขายลดจำนวนลง
โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชลบุรี หน่วยเหลือขายลดลงร้อยละ -13.2 มูลค่าหน่วยเหลือขายลดลงร้อยละ -14.2 ขณะที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นพื้นที่ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของหน่วยขายได้ใหม่มากที่สุดถึงร้อยละ 39.4 มูลค่าขายได้ใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.0 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของการขายบ้านจัดสรรเป็นหลัก
ชลบุรีคึกคักสุด
ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดชลบุรีมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยรอการขาย ณ ปี 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 43,393 หน่วย ลดลงถึงร้อยละ -12.0 คิดเป็นมูลค่า 161,747 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -13.4 เมื่อเทียบกับช่องเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ที่อยู่อาศัยใหม่เข้ามาในตลาดลดลงอย่างมากโดยมีจำนวน 3,271 หน่วย ลดลงถึงร้อยละ -48.8 มูลค่า 8,970 ล้านบาท ลดลง – 63.1 แม้จำนวนหน่วยและมูลค่าขายได้ใหม่จะยังคงติดลบถึงร้อยละ -5.1 โดยมีหน่วยขายได้ใหม่เพียง 6,531 หน่วย มูลค่าการขายได้ใหม่ลดดลงถึงร้อยละ – 7.9 คิดเป็นมูลค่า 21,410 ล้านบาท แต่ด้วยเหตุผลที่สินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดน้อยลงอย่างมาก ส่งผลให้อัตราดูดซับขยับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.5
” ในแง่ยอดขาย ครึ่งปีหลังของปี 2564 ดีขึ้นกว่าครึ่งแรก ราว 1,000 หน่วย สะท้อนภาพการฟื้นตัวของชลบุรี โดย คอนโด ยอดขายฟื้นไม่มาก เทียบค่าเฉลี่ย อยู่ที่มูลค่า 9.3 พันล้านบาท แต่ติดลบน้อยลง ทิศทางเริ่มวกกลับมา ส่วนแนวราบ อยู่ในเกณฑ์สูงกว่าค่าเฉลี่ย เนื่องจาก องค์ประกอบหลัก อย่างทาวน์เฮ้าส์ดันขึ้นมา 29% โดยเฉพาะ ในพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรม เช่น บ่อวิน พานทอง อมตะนคร ระดับราคา 1.5 – 3 ล้านบาท ส่วนระดับราคาอื่นๆ ดีขึ้นเช่นกัน “
ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย 3 จังหวัด EEC ปี 2565
สำหรับทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2565 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์คาดการณ์ว่าจะเป็นช่วงของการฟื้นตัวทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน โดยในส่วนของอุปสงค์คาดการณ์ว่าภาพรวมหน่วยขายได้ใหม่ในพื้นที่ 3 จังหวัด EEC จะปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 โดยเพิ่มจาก 20,192 หน่วย ในปี 2564 เป็น 21,675 หน่วย ในปี 2565 มูลค่าการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 โดยเพิ่มจาก 60,562 ล้านบาท ในปี 2564 เป็น 65,774 ล้านบาท ในปี 2565
ด้านอุปทานคาดการณ์ว่าจะมีโครงการเปิดตัวใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.9 โดยเพิ่มจาก 13,340 หน่วย ในปี 2564 เป็น 20,270 หน่วยในปี 2565 ขณะที่จำนวนหน่วยเหลือขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 โดยหน่วยเหลือขายจะเพิ่มขึ้นจาก 60,480 หน่วย ในปี 2564 เป็น 61,719 หน่วย ในปี 2565 มูลค่าลดลงร้อยละ -4.4 โดยลดลงจาก 203,891 ล้านบาท ในปี 2564 เป็น 195,017 ล้านบาท ในปี 2565 ขณะที่อัตราดูดซับโดยภายรวมยังคงอยู่ในอัตราร้อยละ 2.5
อย่างไรก็ดี ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าในปี 2565 ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดชลบุรีจะกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจนหลังจากตลาดเข้าสู่สภาวะซบเซาต่อเนื่องจากปี 2562 และผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในปี 2564 โดยคาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีหน่วยเปิดขายใหม่จำนวน 12,513 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 99.9 คิดเป็นมูลค่า 44,376 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 181.2 โดยคาดการณ์ว่าจะมีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 13,916 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.8 คิดเป็นมูลค่า 46,494 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.4 ส่วนหน่วยเหลือขายเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นโดยเป็นผลมาจากการเปิดตัวโครงการใหม่ คาดการณ์ว่าจะมีหน่วยเหลือขาย 40,901 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 คิดเป็นมูลค่า 142,436 ล้านบาท
ระยองตลาดทรงตัว
ส่วนจังหวัดระยอง และจังหวัดฉะเชิงเทราคาดการณ์ว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังอยู่ในสภาวะทรงตัว โดยในพื้นที่จังหวัดระยองคาดว่าจะมีโครงการเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 6,097 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.3 คิดเป็นมูลค่า 14,679 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -8.9 มีหน่วยขายได้ใหม่ 5,841 หน่วย ลดลงร้อยละ -7.0 คิดเป็นมูลค่า 13,989 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -13.3 ขณะที่มีหน่วยเหลือขาย 15,370 หน่วย ลดลงร้อยละ 12.6 มูลค่า 37,284 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18.4
” ระยองคอนโดฯ มีการขายเพิ่มขึ้นเยอะ จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 2 – 3 โครงการ ทำยอดขายประสบความสำเร็จ ทำให้ตลาดที่เคยตกต่ำ พุ่งขึ้นมา เทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในทำเล นิคมมาบตาพุด และอำเภอเมืองระยอง ระดับราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และไม่เกิน 3 ล้านบาท เช่นเดียวกับกลุ่ม 5 – 7.5 ล้านบาทก็น่าสนใจ เพราะขายได้ดี สะท้อนบ้านหลัง 2 บ้านพักตากอากาศ มีนัยยะเพิ่มขึ้นในระยอง “
ฉะเชิงเทรา บ้านจัดสรรฟื้น
ขณะที่จังหวัดฉะเชิงเทราคาดว่าจะมีโครงการเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,658 หน่วย ลดลงร้อยละ -2.5 คิดเป็นมูลค่า 4,292 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -11.6 มีหน่วยขายได้ใหม่ 1,918 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 คิดเป็นมูลค่า 5,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 ขณะที่มีหน่วยเหลือขาย 5,449 หน่วย ลดลงร้อยละ -9.6 มูลค่า 15,297 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -14.4
” ฉะเชิงเทราตลาดหลัก ยังเป็นกลุ่มบ้านแนวราบ โดยเฉพาะกลุ่มทาวน์เฮ้าส์ เข้าใหม่ 57% สะท้อนภาพการเติบโตเป็นลำดับของจังหวัดนี้ ที่ไปได้เรื่อยๆ ไม่หวือหวา และทำเลโดดเด่น กระจุกตัวอยู่ใน บางปะกง ทาวน์เฮ้าส์ 1-3 ล้านบาทเป็นหลัก รวมถึง อำเภอ แปลงยาว ตลาดนี้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากกลุ่มราคาต่ำพุ่งขึ้นมาสูง ”
อย่างไรก็ดีเป็นที่น่าสังเกตว่าการฟื้นที่ยังคงเกิดขึ้นในกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร ทั้งในส่วนของโครงการเปิดขายใหม่ และจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ ซึ่งในส่วนของโครงการอาคารชุดแม้จะเริ่มมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้นแต่ก็ยังคงต้องใช้เวลาฟื้นตัวตามสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ และกำลังซื้อที่จะกลับเข้ามาของนักลงทุนจากต่างประเทศเป็นสำคัญ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“สนามบินเบตง” ดันราคาที่ดินพุ่ง แลนด์มาร์คใหม่ บูมเศรษฐกิจชายแดนใต้
เปิดทำเลทองใหม่ “สนามบินเบตง” อัพราคาที่ดินพุ่ง 2 ล้านบาทต่อไร่ ปักหมุดศูนย์กลางชายแดนใต้ หนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยวคึกคัก
กระทรวงคมนาคมและกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ได้ฤกษ์เปิดเที่ยวบินสนามบินเบตงบนพื้นที่ 921 ไร่ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของเบตงจังหวัดยะลาด้วยการเป็นสนามบินกลางหุบเขาโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมของอาคารที่ออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากไผ่ตงอัตลักษณ์ท้องถิ่นของเบตง
ขณะเดียวกันยังเปิดทำเลทองใหม่ พัฒนาเชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัยรัศมีรอบสนามบิน เพื่อรองรับความเจริญ และการเดินทางในอนาคต อย่างไรก็ตามประเมินว่าราคาที่ดินอาจขยับสูง จากการสำรวจของ”ฐานเศรษฐกิจ”พบว่า มีการรวมแปลงที่ดินและประกาศขายกันอย่างคึกคัก ในราคาไร่ละกว่า2ล้านบาททำเลติดถนนทางไปสนามบินเบตง
สำหรับ“เบตง” เป็นอำเภอใต้สุดของประเทศไทย ติดกับชายแดนของประเทศมาเลเซีย ถือเป็นเมืองชายแดนที่มีการเคลื่อนไหวทางธุรกิจและการค้าขายสูง ประกอบกับมีการผสมผสานทางวัฒนธรรม เช่น ขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ รวมถึงภาษาที่หลากหลาย และธรรมชาติมีความสวยงามทำให้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการขนส่งและการเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบ
รัฐบาลได้มอบให้กระทรวงคมนาคมในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการยกระดับการให้บริการประชาชน ด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานและบริการคมนาคมขนส่งให้มีความคุ้มค่าและทั่วถึง ดำเนินการพัฒนาระบบการขนส่งของพื้นที่จังหวัดยะลา โดยมีแนวทางที่สำคัญ คือ การพัฒนาบริการขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานสากล รวมทั้งพัฒนาด่านศุลกากรชายแดน ศูนย์เศรษฐกิจชายแดน และการอำนวยความสะดวกผ่านแดนที่รวดเร็ว ตลอดจนผลักดันการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งทางบกและทางอากาศ เพื่อให้เกิดระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ สามารถรองรับการค้าและการลงทุนที่จะสูงขึ้นจากการเป็นประชาคมอาเซียน
ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 และนโยบายการพัฒนา 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว เนื่องจากอำเภอเบตงมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ให้กับจังหวัด รองจากอําเภอเมืองยะลา แต่การเดินทางในปัจจุบันต้องอาศัยการเดินทางทางถนนเป็นหลัก โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 410 จากตัวเมืองยะลาเป็นระยะทางประมาณ 135 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางนานถึง 3.5 ชั่วโมง เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน ถนนแคบและคดเคี้ยวลาดชันเป็นช่วง ๆ ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางจากอำเภอเบตงไปยังเมืองอื่น ๆ
ขณะที่การคมนาคมทางอากาศในจังหวัดยะลามีเพียงสนามบินเบตง ซึ่งอยู่ห่างจากเขตเทศบาลเบตงประมาณ 15 กิโลเมตรในอดีตใช้เป็นสนามบินเพื่อความมั่นคงและใช้ในราชการทหารเท่านั้นแต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการคมนาคมของอําเภอเบตงและพื้นที่ใกล้เคียงให้สะดวกรวดเร็วรวมทั้งสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในท้องถิ่นส่งเสริมการท่องเที่ยวและการลงทุนในพื้นที่ ทำให้สนามบินยานเบตงจึงเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการบินสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เป็นอย่างดี
นายปริญญา แสงสุวรรณ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า สำหรับการเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์สนามบินเบตงในครั้งนี้ถือเป็นความภูมิใจของกรม และกระทรวงคมนาคม ที่สามารถดำเนินการให้เกิดขึ้นจริงได้ โดยสนามบินนี้ถือเป็นสนามบินที่มีความพร้อมรองรับเครื่องบินที่มีขนาด 80 ที่นั่งได้ อาทิ ATR-Q 400 จำนวน 3 ลำ และสามารถจอดรถยนต์ได้ 140 คัน
ขณะเดียวกันในอนาคตจะมีการเพิ่มเที่ยวบิน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง สุวรรณภูมิ-เบตง และหาดใหญ่-เบตง จากเดิมที่มีเฉพาะเส้นทาง ดอนเมือง-เบตง โดยเส้นทาง หาดใหญ่-เบตง คาดว่าจะได้เห็นการเปิดให้บริการภายในปี 2565 นี้ ซึ่งถ้าทำได้จะส่งผลดีต่อพื้นที่เพราะห่างจากชายแดนมาเลเซียประมาณ 20 กิโลเมตร (กม.) โดยสามารถรองรับชาวมาเลเซีย โดยเฉพาะรัฐเคดะห์ และรัฐเปรัก ที่มีประชากรประมาณ 4.2 ล้านคน ซึ่งหากทำได้จริงอุตสาหกรรมการบินจะกลับมารับผู้โดยสารได้มากขึ้น รวมถึงในอนาคตก็กรมมีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการอีก 1 เส้นทาง คือ เบตง-มาเลเซีย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาครัฐเป็นผู้พิจารณาต่อไป
ส่วนสนามบินเบตงจะถึงจุดคุ้มทุนที่ไม่ต้องใช้เงินอุดหนุนจากภาครัฐได้เมื่อไหร่ นั้น ทางกรมประเมินว่าหลังจากนี้อีก 6 เดือน จะได้ความชัดเจนว่าสนามบินจะอยู่ได้หรือไม่ แต่กรมเชื่อว่าสนามบินจะไปต่อได้ เดี๋ยวกันสายการบิน ที่มาทำการบินที่เบตงก็เชื่อว่า การเปิดเส้นทางนี้จะทำให้ถึงจุดคุ้มทุนได้แน่นอนอย่างไรก็ตาม สนามบินเบตงสามารถรองรับผู้โดยสาร 800,000 คนต่อปี
“สำหรับสายการบินที่มีความสนใจขอเปิดทำการบินในเส้นทางดังกล่าว ทางกรมมีพร้อมที่จะรับพิจารณา แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ด้วย ยืนยันว่าการเปิดสนามบินใหม่แห่งที่ 29 ของ ทย. เราทำเพื่อประชาชน และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้สนามบินเบตงเป็นศูนย์กลางของโลจิสติกส์ให้ได้ ซึ่งตอนนี้สามเหลี่ยมเศรษฐกิจของชายแดนภาคใต้ ได้ถือกำเนิดแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าโลจิสติกส์ของกระทรวงคมนาคม ที่ได้ให้นโยบายไว้ ต้องมีความเชื่อมโยง ถามทางถนนและขนส่งทางบก ที่มีการรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว”
นายปริญญา กล่าวต่อว่า เบื้องต้นทราบว่าขณะนี้ สายการบินบางกอกแอร์เวย์มีความสนใจ ในการเปิดทำการบินใหม่ในเส้นทาง สุวรรณภูมิ-เบตง ปัจจุบัน ทย.ได้รับรายงานว่าสายการบินฯ อยู่ระหว่างการศึกษาจำนวนผู้โดยสารและจุดคุ้มทุน ที่ทำการบินในเส้นทางนี้
นอกจากนี้ ทย.มีแผนที่จะดำเนินโครงการก่อสร้างขยายทางวิ่ง (รันเวย์) จาก 1,800 เมตร เป็น 2,500 เมตร ทางขับ ลานจอดเครื่องบิน และส่วนประกอบอื่นๆ วงเงินรวมประมาณ 1,871 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างออกแบบและขออนุมัติโครงการ เพื่อเสนอจัดทำรายงาน การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปี 2565 นี้ หลังจากนั้นจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายใน 3 ปี หากดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จคาดว่าจะสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ หรือขนาด 737-800 และขนาดเครื่องบิน A-320
อย่างไรก็ตามสนามบินเบตงยังเชื่อมโยงการเดินทางแบบไร้รอยต่อโดยเป็นการเชื่อมโยงคมนาคมภาคใต้ซึ่งเชื่อมต่อกลับทางหลวงชนบทหมายเลข ยล.3026 ,ทางหลวงหมายเลข 4326 และทางหลวงหมายเลข 410 สามารถเดินทางเข้าสู่เมืองเบตงและอำเภอธารโตได้โดยตรงรวมทั้งสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 410 เดินทางสู่อำเภอเมืองยะลาต่อเนื่องไปจนถึงจังหวัดปัตตานีและนราธิวาสได้
นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางจากสนามบินเบตงไปยังด่านชายแดนไทยมาเลเซียโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 410 ซึ่งห่างจากชายแดนมาเลเซีย 20 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้ชาวมาเลเซียในรัฐเปรัคและรัฐเคดาห์มาเลเซียใช้บริการได้สะดวกขอใกล้กว่าการไปสนามบินปีนังที่เดินทางประมาณ 90 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นประตูการค้าชายแดนภาคใต้ รวมทั้งสร้างความร่วมมือระหว่างการพาณิชย์ในระดับประเทศและต่างประเทศ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 33.36 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มแข็งค่า
เงินบาทเปิด 33.36 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มแข็งค่า หลังดอลลาร์อ่อนค่าขานรับเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 65 นักบริหารเงินจากธนาคากรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.36 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.44 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าได้ต่อ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ หลังจากเมื่อคืนนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็นไปตามตลาดคาดรวมทั้งยังระบุว่าในการประชุม FOMC ที่เหลืออีก 6 ครั้งในปีนี้ คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งละ 0.25%
“เมื่อคืน ดอลลาร์อ่อนค่าหลังจาก FOMC มีมติขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% รวมทั้งยังระบุด้วยว่า ในการประชุมอีก 6 ครั้งที่เหลือของปีนี้ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งละ 0.25% คืนนี้ ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่วนทางด้านสหรัฐ จะมีการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์”
นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.15 – 33.35 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
กลับมาร้อนฉ่าอีกครั้ง! “บิกินี่ รัน” งานวิ่งสุดเซ็กซี่ระดับประเทศเตรียมจัดพฤษภาคมนี้
เหล่ารันเนอร์และผู้มีใจรักในการวิ่งเตรียมตัวให้ดี เมื่อล่าสุด “บิกินี่ รัน” งานวิ่งสุดตื่นตาตื่นใจ เต็มไปด้วยสีสัน ณ หาดพัทยา เตรียมกลับมาจัดอีกครั้ง หลังต้องหยุดชะงักไปเมื่อปีที่แล้วจากสถานการณ์โรคระบาด
โดยการจัดครั้งล่าสุด ต้องย้อนกลับไปเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2563 ในรายการ “เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บิกินี่ บีช เรซ 2020” ที่ได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการเปลี่ยนรูปแบบมาแข่งกันในช่วงกลางคืนริมชายหาดเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั่นเอง
สำหรับปีนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันได้แอบเผยออกมาแล้วว่า งานวิ่งสุดเซ็กซี่จะกลับมาจัดให้สะเทือนเมืองพัทยาอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ส่วนรายละเอียดและรูปแบบการแข่งขันจะถูกประกาศตามมาเร็วๆนี้
ก่อนจะถึงวันนั้น Sanook Sport เลยขออนุญาตนำภาพสวยๆ จากการแข่งขันเมื่อ 2 ปีที่แล้วมาเรียกน้ำย่อยกันหน่อย ว่างานนี้เต็มไปด้วยความสะเด่าขนาดไหน แล้วพบกันเร็วๆนี้!
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
นอนไม่หลับ “นับแกะ” ได้ผลจริงหรือไม่ จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
นอนไม่หลับทีไร ต้อง “นับแกะ” ทุกที จริงๆ แล้วในทางวิทยาศาสตร์แล้ว ความเชื่อที่ว่า นอนไม่หลับให้นับแกะ ได้ผลจริงหรือไม่
นอนไม่หลับ “นับแกะ” ได้ผลจริงหรือไม่
หลายคนคงเคยได้ยินว่า เวลานอนไม่หลับให้นับแกะดู แต่กลับไม่เคยมีข้อเฉลยว่าต้องใช้แกะกี่ตัว? ถึงจะหลับ แต่กุศโลบายนี้ ในทางวิทยาศาสตร์อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสมาธิกับการเข้านอนไว้หลายประเด็น บ้างก็ว่าสมาธิสามารถกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของสมองได้ถาวร การหลั่งสารเมลาโทนิน (Melatonin) และการมีสารซีโรโทนิน (Serotonin) อย่างสมดุล ช่วยให้ร่างกายหลับในปริมาณมากขึ้น จะเป็นตัวส่งสัญญาณให้ส่วนอื่นๆ ของร่างกายทำงานช้าลงเพื่อเข้าสู่สภาวะพักผ่อน
ในทางตรงกันข้าม บางชุดข้อมูลกลับระบุว่า การพยายามตั้งใจนอนหรือการนอนหลับในเวลาที่ร่างกายยังไม่ง่วง จะทำให้นอนหลับยาก หากทำซ้ำๆ จะส่งผลให้เกิดภาวะนอนไม่หลับหรือนอนหลับยาก ข้อมูลจาก Sleep Foundation เพิ่มเติมว่าวิธีการดังกล่าวยังไม่ใช้แก้ปัญหาโรคที่เกี่ยวกับการนอนผิดปกติต่างๆ ทั้งโรคนอนไม่หลับ (Insomnia) ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) หรือ โรคลมหลับ (Narcolepsy)
ดังนั้น อาจไม่สามารถสรุปได้ 100% ว่าวิธีนับแกะเป็นวิธีที่ดีในการแก้ปัญหานอนไม่หลับหรือไม่ อาจเหมาะกับการลองนับแกะในเวลาไม่เกิน 10-15 นาที หากหลังจากนั้นไปแล้ว วิธีนับแกะอาจไม่ได้ผลอีกต่อไป และไม่ควรทนนับต่อจนได้แกะเป็นฟาร์ม
นอนไม่หลับ ควรทำอย่างไร
หากนอนไม่หลับจริงๆ พลิกตัวไปมา นับแกะไปเป็นฝูงแล้วก็ยังไม่ง่วง ข่มตาหลับไปนานมากกว่า 20-30 นาทีแล้วยังไม่เวิร์ค ไม่จำเป็นต้องพยายามข่มตานอนหรือนับแกะต่อไป ควรลุกขึ้นมาทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายสมอง สามารถลองเลือกทำกิจกรรมที่ตัวเองน่าจะชอบดู จนกว่าจะเจอวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น
- ดื่มนมอุ่นๆ
- อ่านหนังสือ (แนะนำแนวเบาสมอง ไม่เลือกเรื่องที่ทำให้หัวใจเต้นแรง)
- ฟังเพลงเบาๆ (เลือกแนวดนตรีที่มีจังหวะช้าๆ)
- ดูวิวท้องฟ้านอกหน้าต่าง
- ฯลฯ
ไม่แนะนำให้เปิดทีวี คอมพิวเตอร์ มือถือ หรือแท็บเลตมาดู เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจออิเล็กทรอนิกส์รบกวนสายตา และทำให้ตื่นตัว นอนหลับยากกว่าเดิม
หากมีปัญหานอนไม่หลับเรื้อรัง นอนไม่หลับ หรือหลับยากกว่าปกตินานมากกว่า 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและหาวิธีรักษาที่ตรงจุดต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
Bear ที่ไม่ได้แปลว่าหมี
เข้าสวนสัตว์ เจอน้องหมี อุทานว่า Oops! This is a bear. แม่หมีมีลูกหมีเดินอยู่ข้างๆ ภาษาอังกฤษต้องมาอีกคำแล้วนะ cub (n.) /kʌb/ ลูกหมี แต่ทุกคนรู้ไหมว่าจริงๆแล้ว bear ไม่ได้แปลว่า หมี อย่างเดียวนะ
มีบางที่ให้เทคนิคการจำคำว่า BEAR ว่า น้องหมี1เกิดมา2เพื่ออดทน3 มารับรู้4เรื่องการถือของ5
จริงๆแล้วมีความหมายอื่นนอกจากตัวอย่างข้างบนอีกไหม มาดูกัน
Bear (v.) อดทน
Can’t bear somebody/something = I can’t bear having cats in the house.
แปล ฉันไม่สามารถอดทนกับการมีแมวอยู่ในบ้านได้
Can’t bear to do something = Can’t bear to eat alone?
แปล ทนทานอาหารคนเดียวไม่ได้แล้วใช่ไหมล่ะ
Bear (v.) ให้กำเนิด
= She was not able to bear children.
แปล เธอไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้
(ปล. Verb 3 ของคำนี้คือ born เพราะฉะนั้น I was born in 1985. ก็มาจากคำนี้แหละค่ะ)
Bear (v.) รับผิดชอบ
= Do parents have to bear the whole cost of tuition fees?
แปล พ่อแม่จำเป็นต้องรับผิดชอบค่าเล่าเรียนทั้งหมดไหม
Bear (v.) รับน้ำหนัก
= The ice is too thin to bear your weight.
แปล น้ำแข็งบอบบางเกินไปที่จะรับน้ำหนักของคุณได้
Bear (v.) ออกผล
= These trees take a long time to bear fruit.
แปล ต้นไม้เหล่านี้ใช้เวลายาวนานในการออกผล
Bear (v.) ถือ
= Countless waiters bore trays of drinks into the room.
แปล บริการจำนวนนับไม่ถ้วนถือถาดเครื่องดื่มเข้าไปในห้อง
Bear (v.) เลี้ยว
= When you get to the fork in the road, bear right.
แปล เมื่อคุณถึงทางแยกของถนน เลี้ยวขวา
Bear in mind (Idiom) จำไว้นะ อย่าลืมนะ
= You don’t have to do anything about it now… just bear it in mind.
แปล คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรกับมันตอนนี้ แค่จำไว้ก็พอ
Bear the scars (Idiom) ยังคงทรมานใจ เจ็บปวดทางอารมณ์จากบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
= I still bear the scars of my parents’ divorce.
คำแปล ฉันยังคงทรมานใจกับการหย่าร้างของพ่อแม่ฉัน
Bear fruit (Idiom) ให้ผลลัพธ์ที่ดี
= If a plan or decision bears fruit, it is successful.
คำแปล ถ้าแผนหรือการตัดสินใจอย่างหนึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดี มันคือความสำเร็จ
Bear witness to something (Idiom) แสดงให้เห็นว่าบางอย่างเป็นเรื่องจริง
= The numerous awards on the walls bear witness to his great success.
คำแปล รางวัลจำนวนมากบนกำเแพงแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จที่ดีของเขา
Bear the brunt of something (Idiom) แบกรับ
= He claimed that the middle class would bear the brunt of the tax increase.
คำแปล เขากล่าวว่า ชนชั้นกลางจะแบกรับภาษีที่เพิ่มขึ้น
Bear with somebody (Phrasal verb) อดทนและรอ ขณะที่ใครสักคนทำบางสิ่งบางอย่าง
= If you’ll just bear with me for a moment, I’ll find you your favorite cup of coffee.
คำแปล ถ้าคุณจะอดทนและรอฉันสักครู่ ฉันจะหาถ้วยกาแฟถ้วยโปรดของคุณให้คุณนะ
Bear up (Phrasal verb) ยังคงร่าเริงะหว่างช่วงยากลำบาก
= He’s bearing up well under the strain of losing his job.
คำแปล เขายังร่าเริง ใต้ความเครียดจากการตกงาน
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
ปลื้ม “Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่” สร้างเงินสะพัด 300 ล้าน
“ดีป้า” โชว์ผลงานโครงการ Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่ สร้างประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ สร้างเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 300 ล้านบาทพร้อมเปิดแผนปูพรมพลิกโฉมตลาดสดทั่วประเทศเพิ่ม 25 จังหวัด สานต่อการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า งาน “Transform Market Showcase 2022” ยกระดับตลาดสดสู่ยุควิถีใหม่ เป็นการประกาศความสำเร็จ (Showcase) ของโครงการ “Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่” ที่ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายย่อย หาบเร่ แผงลอย ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ รวมถึงพัฒนาไปสู่การแข่งขันรูปแบบใหม่ ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 – มีนาคม 2565 ในพื้นที่นำร่อง 6 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครสวรรค์ นครปฐม ชัยนาท สิงห์บุรี และลพบุรี
พร้อมขยายการรับรู้ไปยังปริมณฑลอีก 4 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ เพื่อให้ผู้ประกอบการในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลและนำร้านค้าเข้าแพลตฟอร์มช่องทางการจำหน่ายและจัดส่งสินค้า (Local Application) ผ่านการจับคู่ธุรกิจกับดิจิทัลสตาร์ทอัพสัญชาติไทยและผู้ให้บริการดิจิทัล (Digital Provider) จำนวน 28 ราย ผลปรากฏว่า กระแสตอบรับดีมีผู้ประกอบการเข้าร่วม โครงการ “Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่” มากกว่า 30,050 ราย มีสินค้าจำหน่ายมากกว่า 200,000 รายการ จากการลงพื้นที่ตลาดสดจำนวนกว่า 300 แห่ง ช่วยสร้างเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 300 ล้านบาท
จากสถิติโครงการ “Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่” พบว่า จังหวัดที่ผู้ประกอบการเกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสูงสุด 3 อันดับแรกคือ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ส่วนรูปแบบพื้นที่ตั้งร้านค้าที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ตลาดนัด ตลาดสด และหาบเร่/แผงลอย ร้านค้าริมทาง สำหรับเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการสูงสุด 3 อันดับแรก ประกอบด้วย ระบบชำระเงินออนไลน์ (E–payment) ระบบบริการ (Service) และระบบการสั่งอาหารหรือสินค้า (Delivery) ขณะที่การจัดอบรมหลักสูตรออนไลน์ จำนวน 5 หลักสูตร ผ่าน 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ YouTube, Facebook Group, Classwin และ Digital Skill ซึ่งเปิดระบบตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 ถึงปัจจุบัน มีผู้เข้าร่วมอบรมมากกว่า 1.2 ล้านคน
“โครงการ Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่สามารถผลักดันพ่อค้าแม่ค้าเข้าถึงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ตั้งแต่การคัดเลือกดิจิทัลสตาร์ทอัพและผู้ให้บริการดิจิทัลสัญชาติไทย ครอบคลุม 6 กลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการซื้อขายออนไลน์ การจัดอบรมหลักสูตรออนไลน์ เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำตลาดบนสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญ และการลงพื้นที่จัดกิจกรรมตลาดต้นแบบร่วมกับขบวน Troop ในพื้นที่เป้าหมาย
สำหรับการจัดงาน Transform Market Showcase 2022 ในครั้งนี้เป็นการสรุปภาพความสำเร็จของโครงการ “Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่” เพื่อแสดงศักยภาพของพ่อค้าแม่ค้าที่สามารถเข้าถึงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มช่องทางและสร้างโอกาสทางการตลาด ทำให้เกิดกลไกหมุนเวียนในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ดิจิทัลสตาร์ทอัพและผู้ให้บริการดิจิทัลที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถเข้าถึงเครือข่าย ต่อยอด และพัฒนาเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมกันพลิกโฉมตลาดสดเมืองไทย สู่ตลาดสดยุควิถีใหม่เต็มรูปแบบ อีกทั้งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสังคมไร้เงินสด (Cashless Society)”
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ดีป้า มีแผนต่อยอดการดำเนินงานโครงการ “Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่”เพื่อให้เข้าถึงผู้ประกอบการร้านค้าอีก 65,000 ราย พร้อมทั้งสร้างตลาดต้นแบบด้านดิจิทัล ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศเพิ่มเติม 25 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน น่าน อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม อยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ฉะเชิงเทรา ราชบุรี สระบุรี ชลบุรี ระยอง ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และตรัง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านการบริหารจัดการให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายย่อย หาบเร่ แผงลอย ประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการขายและจัดส่งสินค้า สร้างโอกาสทางการตลาดในยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เพื่อร่วมกัน “เปลี่ยนทุกการซื้อขายสู่ (โลก) ออนไลน์ ปรับทุกไลฟ์สไตล์สู่สังคมไร้เงินสด” ในอนาคตอันใกล้ พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
6 ประโยชน์ของ ต้นอ่อนทานตะวัน ต้นจิ๋ว ประโยชน์แจ๋ว – เหมาะกับคนลดน้ำหนัก
ในระยะหลังมานี้ ต้นอ่อนทานตะวัน ได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะเป็นอีกหนึ่งพืชผักที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร และยังนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายทั้งผัด ต้ม หรือจะทานสด ๆ ก็ยังได้ ลองไปดู 6 ประโยชน์ของ ต้นอ่อนทานตะวัน กันได้เลยจ้า..
6 ประโยชน์ของ ต้นอ่อนทานตะวัน
ต้นอ่อนทานตะวัน ลดความดันเลือด ดีต่อหัวใจ
ทั้งเมล็ดทานตะวัน และต้นอ่อนทานตะวันอุดมไปด้วยวิตามินบี และวิตามินอี ที่จะทำงานร่วมกับวิตามินซี และซีลีเนียม เพื่อลดความดันโลหิต และเพิ่มความยืดหยุ่นของเส้นเลือด ช่วยป้องกันความเสี่ยงโรคหัวใจได้เป็นอย่างดี
ต้นอ่อนทานตะวัน ช่วยในการสร้างเสปิร์ม
ต้นอ่อนทานตะวัน เป็นพืชที่อุดมไปด้วยสังกะสี ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคุณผู้ชาย ช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการของเสปิร์ม
ต้นอ่อนทานตะวัน ดีต่อหญิงตั้งครรภ์
ต้นอ่อนทานตะวันอุดมไปด้วยวิตามินบี โดยเฉพาะโฟเลต สารอาหารที่จำเป็นสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของระบบประสาทและสมองของลูกในท้อง และยังช่วยลดความเครียดในผู้ที่ตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี
ต้นอ่อนทานตะวัน ช่วยขับเสมหะ
ในการแพทย์ทางเลือก ต้นอ่อนทานตะวันถูกใช้เพื่อการกำจัดสารที่เป็นน้ำในปอด และยังใช้เป็นยาขับเสมหะ ขับเมือกต่าง ๆ ที่เกิดจากการไอ และยังช่วยป้องกันเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับระบบการหายใจอีกด้วย
ต้นอ่อนทานตะวัน แหล่งโปรตีนชั้นดีของคนกินมังฯ
โปรตีนในต้นอ่อนทานตะวัน มีอยู่สูงกว่าผักกาดเขียวถึงสองเท่า นอกจากจะเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายแล้ว โปรตีนยังช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ และเป็นสารอาหารจำเป็นที่ช่วยในการทำงานของน้ำย่อยในร่างกาย และช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดุกพรุนอีกด้วย
ต้นอ่อนทานตะวัน มีสารกาบ้า (GABA) ดีต่อสุขภาพ
ต้นอ่อนทานตะวัน เหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า เพราะสารกาบ้าในต้นอ่อนทานตะวัน จะช่วยลดอาการวิตกกังวล ลดอาการซึมเศร้า นอกจากนี้ยังช่วยลดอารมณ์แปรปรวนในช่วงประจำเดือนได้อีกด้วย และยังช่วยป้องกันได้หลายโรค เช่น มะเร็ง เบาหวาน ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก บำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ช่วยบำรุงผิวพรรณ สายตา
เห็นประโยชน์เยอะ ๆ แบบนี้ แต่ก็ควรจะกินในปริมาณที่พอเหมาะพอดี เพราะต้นอ่อนทานตะวัน เป็นพืชที่ให้พลังงานสูง โดยต้นอ่อนทานตะวัน 100 กรัมจะให้พลังงานถึง 53 กิโลแคลอรี่ เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก today.line.me
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 17/03/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 30,350.00 | 30,450.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,966.00 | 29,804.56 | 30,950.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,769.40 | 26,824.10 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,572.80 | 23,843.65 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 885.00 | 13,416.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 688.00 | 10,430.08 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,037.00 | 30,880.92 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 17/03/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 38.75 | 38.75 | 38.75 | 38.75 | 38.75 | 38.75 | 38.75 | 38.75 | 38.75 | 38.75 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 38.48 | 38.48 | 38.48 | 38.48 | 38.48 | 38.48 | 38.48 | 38.48 | 38.48 | 38.48 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 37.64 | 37.64 | 37.64 | 37.64 | 37.64 | – | 37.64 | 37.64 | 37.64 | 37.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 30.94 | 30.94 | – | – | – | – | – | – | – | 30.94 |
เบนซิน 95 | 46.16 | – | – | – | 46.61 | – | 46.66 | 46.66 | – | 46.16 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | – | 29.94 | – | 29.94 | 29.94 | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 35.96 | 35.96 | 36.39 | 36.36 | 36.39 | – | – | – | – | 35.96 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |