รู้จัก ‘Tesla Powerwall’ แบตเตอรี่เก็บไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟ
กระแสติดตั้งแผงโซลาร์รูฟมาแรง ขณะ โซลาร์ ดี ผนึก “เทสลา” ปั้นนวัตกรรมแบตเตอร์รี่เก็บไฟฟ้า “Tesla Powerwall” ชูเป็นรายแรกในเอเชีย
27 เมษายน 2565 – นับเป็นนวัตกรรมน่าจับตามอง สำหรับ “Tesla Powerwall” หลังจาก บริษัท โซลาร์ ดี คอร์ปอร์เรชัน จำกัด ดึงแบรนด์ชั้นนำระดับโลก “เทสลา” เป็นพันธมิตรในฐานะตัวแทนติดตั้งอย่างเป็นทางการเพียงหนึ่งเดียวในไทย
ทั้งนี้ “Tesla Powerwall” เป็นนวัตกรรมระบบจัดเก็บและจัดการพลังงานไฟฟ้าขนาด 13.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ระบุว่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่าการสำรองพลังงาน แต่สามารถควบคุมและจัดการได้อย่างอิสระ ในดีไซน์ที่สวยงามมีเอกลักษณ์ เข้ากับทุกสภาพแวดล้อมของทุกบ้าน
โซลาร์ ดี บริษัทติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ พัฒนาโซลูชั่นใหม่ แบตเก็บไฟฟ้า
นายสัมฤทธิ์ สิทธิวรานุวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โซลาร์ ดี คอร์ปอร์เรชัน จำกัด กล่าวว่า “บริษัท โซลาร์ ดี คอร์ปอร์เรชัน ดำเนินธุรกิจบริการด้านระบบการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคาร ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบระบบการผลิตพลังงานที่สะอาดในชีวิตประจำวันของทุกคน และเป้าหมายในการนำเสนอการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Energy) ให้ภาคครัวเรือนได้มีส่วนช่วยในการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน นี่จึงเป็นที่มาให้เรามองหาและพัฒนาโซลูชันด้านพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่องตลอดเวลากว่า 9 ปีจนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เทรนด์พลังงานสะอาดได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ความนิยมในการใช้ระบบโซลาร์รูฟท็อปก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
จากการที่โซลาร์รูฟท็อปมีการปรับราคาลง แม้ว่าจะยังมีข้อจำกัดว่าในแต่ละวัน เพราะเราไม่ได้มีแสงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมง และในช่วงเวลากลางวันที่สามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้เต็มประสิทธิภาพนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่บ้าน หลายคนจึงมองหาระบบการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าเพื่อเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ แต่อาจยังต้องพบเจอกับความยุ่งยากและซับซ้อนในการใช้งาน”
“ดังนั้นเพื่อทำให้การใช้พลังงานของคนไทยทำได้ง่ายขึ้น โซลาร์ ดี จึงเลือกจับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับ “เทสลา” ในฐานะ Certified Installer เพียงรายเดียวในไทย นำเสนอโซลูชันด้านพลังงานแบบครบวงจรให้กับลูกค้าทุกระดับได้เตรียมเป็นเจ้าของ กับนวัตกรรม “Tesla Powerwall” ที่ให้คุณสามารถควบคุมทุกอย่างได้เพียงปลายนิ้ว โดย Tesla Powerwall เป็นสมาร์ตโซลูชันสำหรับการจัดเก็บและจัดการพลังงานไฟฟ้าจาก “เทสลา” แบรนด์ระดับโลกผู้ที่นำเสนอทางเลือกใหม่เพื่ออนาคตที่ดีกว่า ให้ทุกบ้านสามารถผลิตไฟฟ้าไว้ใช้งานได้เอง รองรับการผลิตไฟฟ้าใช้เองในบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว”
Tesla Powerwall คืออะไร?
“Tesla Powerwall” ใช้ระบบ AC Couple แบบ All in single unit มาพร้อมกับเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าหรืออินเวอร์เตอร์ภายในตัว ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตั้งร่วมกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าและรองรับการอัปเดตซอฟแวร์แบบไร้สายเพื่อใช้งานฟังก์ชันใหม่ ๆ ในอนาคต ดีไซน์สวยงาม เรียบง่าย ดูทันสมัย
ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องดูแลรักษา โดยมาพร้อมความจุ 13.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการเปิดเครื่องปรับอากาศขนาด 24,000 บีทียูได้นาน 10 ชั่วโมงหรือยาวต่อเนื่องไม่จำกัดหากใช้ร่วมกับระบบโซลาร์รูฟท็อป หรือเพียงพอสำหรับการชาร์จรถยนต์อีวีให้วิ่งได้ถึง 90 กิโลเมตร โดยยังสามารถเพิ่มความจุของระบบจัดเก็บพลังงานได้มากถึง 135 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ด้วยการขยายเพิ่ม Powerwall ได้สูงสุดถึง 10 ยูนิตต่อ 1 ระบบ เพื่อรองรับการใช้งานของบ้านทุกขนาด นอกจากนี้ยังมีความทนทาน กันน้ำกันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP67 ติดตั้งได้ทั้งภายในอาคารและนอกตัวอาคาร และจะวางกับพื้นหรือแขวนบนผนังก็ได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
คอนโดฯฟุบ ‘ดิ เออเบิ้ล’ สบแนวราบ ปั้นแบรนด์ ‘คิวเรเตอร์ ‘ครั้งแรก
ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัวโครงการ “Curator Ramintra 117” (คิวเรเตอร์ รามอินทรา 117) เจาะตลาดแนวราบครั้งแรก รับราคาที่ดินสายสีชมพูพุ่ง หลังเผย คอนโดฯยังชะลอตัวจากโควิด ตุนที่ดินอีกหลายทำเล รับดีมานด์ยุคใหม่
นายสมภพ วาณิชเสนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ ได้เดินทางบนเส้นทางผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 15 ปีแล้ว ผ่านการสั่งสมประสบการณ์มากมายในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งโครงการต่าง ๆ สามารถครองใจได้ทุกเพศทุกวัยที่ชื่นชอบความแตกต่าง รวมถึงผลงานร่วมทุนพัฒนาโครงการที่พัทยา โรงแรมย่านจอมเทียน และโครงการคอนโดฯ ย่านใจกลางเมืองที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ
ดิ เออเบิ้ล เจาะตลาดแนวราบครั้งแรก
โดยในปีนี้ ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ ได้มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ขึ้น ภายใต้ชื่อ “Curator Ramintra 117” ที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ในรูปแบบบูทีคทาวน์โฮมร่วมคัดสรร (Co-created Boutique Townhome) ด้วยมูลค่าโครงการ 497 ล้านบาท ตั้งอยู่ในย่านรามอินทรา (ซอยรามอินทรา 117) บนพื้นที่ 13-3-68.5 ไร่ จำนวนทั้งหมด 151 ยูนิต
ซึ่งนับเป็นบทนำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแนวราบครั้งแรกและครั้งสำคัญของบริษัทฯด้วยการต่อยอดฝีมือไปสู่การขยายพื้นที่อยู่อาศัยให้แตกต่างและลงตัวมากขึ้น แก้โจทย์ปัญหาของผู้อยู่อาศัย ผสานการออกแบบอย่างสร้างสรรค์มีสไตล์ สร้างแรงบันดาลใจในการเลือกคัดสรรเติมความสุขให้ทุกมุมของบ้าน ตอบรับไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ที่ต้องการขยายครอบครัว ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบงานดีไซน์ และไม่ได้อยากถูกตีกรอบด้วยบ้านรูปแบบเดิม ๆ อยากมีส่วนร่วมในการออกแบบ ใส่ความเป็นตัวเอง ได้เลือกพื้นที่แบบที่ชอบ ในราคาที่คุ้มค่า
” โครงการที่อยู่อาศัยทุกโครงการที่พัฒนาขึ้นโดย ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ ตลอดประสบการณ์มากกว่า 15 ปี และจากทุกความสำเร็จที่ผ่านมา ทำให้เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงสมการการใช้ชีวิตในเมือง ที่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา และต้องเผชิญหน้ากับข้อจำกัดรอบด้านเสมอ การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพของเรานั้น จึงมุ่งเน้นงานการออกแบบบ้านที่ผ่านการหล่อหลอมทุกปัจจัยองค์ประกอบ สำคัญเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทำเล บริบทโดยรอบ ควบคู่ไปกับการงานดีไซน์ที่ทรงคุณค่า “
โครงการ “Curator Ramintra 117” มูลค่า 497 ล้านบาท
สำหรับโครงการแรกที่พัฒนานั้น “คิวเรเตอร์ รามอินทรา 117″(Curator Ramintra 117) เป็นบูทีคทาวน์โฮม ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 13 ไร่เศษ ในรูปแบบของทาวน์โฮม ขนาด 17.8-43 ตารางวา ราคาเร่ิมต้นที่ 2.69-3.79 ล้านบาท จำนวน 151 ยูนิต มูลค่าโครงการ 497 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2565 นี้ ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 28 ยูนิต หรือประมาณ 80% ในส่วนของเฟสแรก จากทั้งหมด 3 เฟส
“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินในซอยรามอินทรา 117 จะอยู่ที่ประมาณ 7 ล้านบาท/ไร่ ปัจจุบันปรับสูงขึ้นมาที่ 12 ล้านบาท/ไร่ เชื่อว่าหากรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดให้บริการประมาณเดือนสิงหาคม 2565 นี้ จะทำให้ราคาที่ดินปรับสูงขึ้นไปอีกที่ 40,000 บาท/ตารางวาขึ้นไป ซึ่งจะยิ่งทำให้ผู้ประกอบการหาที่ดินในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยได้ยากขึ้นไปอีก”
นายสมภพ ยังระบุว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วง 1-3 ปีนี้ว่า จะหันมารุกทำตลาดแนวราบมากขึ้น เนื่องจากตลาดคอนโดฯยังชะลอตัว จากวิกฤติโควิด-19 ทำให้สต๊อกเก่าของผู้ประกอบการยังเหลืออีกมาก ขณะที่การทำโครงการแนวราบจะสามารถสร้างรายได้และคืนทุนได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในปีนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่ม “ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้” หันมาพัฒนาโครงการแนวราบ ภายใต้แบรนด์ “คิวเรเตอร์”(Curator)ในรูปแแบบของทาวน์โฮม โดยมองว่าตลาดทาวน์โฮมดีมานด์ยังมีอีกมาก ขณะเดียวกันยอด Reject ในตลาดระดับดังกล่าวก็ยังสูงอยู่เช่นกัน ซึ่งการจะพัฒนาโครงการทาวน์โฮม ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีแผนพัฒนาทาวน์โฮม แบรนด์ดังกล่าวในทำเลอื่นๆ โดยเฉพาะโซนตะวันออกของกทม.อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปลายปี 2656 จะพัฒนาในทำเลพระราม5 บนพื้นทั้งหมด 10 ไร่ ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.3 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนในปี 2566 จะพัฒนาโครงการในทำเลย่านสายไหม พร้อมทั้งสนใจเปิดตัวบ้านแฝด แบรนด์ใหม่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขณะที่ปี 2567 จะเปิดตัวโครงการในทำเลเทพารักษ์-ศรีนครินทร์ อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีที่ดินรองรับการพัฒนาแล้ว 3 แปลง คือ ทำเลสายไหม,เทพารักษ์ และรังสิต คลอง 7
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 34.39 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าต่อเนื่อง
เงินบาทเปิดตลาด 34.39 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง ให้กรอบ 34.30 – 34.50 บาทต่อดอลลาร์จับตาประชุม ธนาคารกลางญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 65 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.39 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าต่อจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.33 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง เนื่องจากทิศทางของดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆซึ่งตลาดยังคงปิดรับความเสี่ยง อันเนื่องจากความกังวลในหลายด้าน เช่น การประกาศล็อกดาวน์ของจีนจากการระบาดโควิด, ความกังวลต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งในยุโรปกังวลกรณีที่รัสเซียจะไม่ส่งแก๊สให้กับโปแลนด์ เป็นต้น ซึ่งทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน
อย่างไรก็ดี วันนี้ตลาดจับตาการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น โดยติดตามว่าจะมีการปรับทิศทางนโยบายการเงินอย่างไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเงินเยนอ่อนค่าไปค่อนข้างเร็ว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.30 – 34.50 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
นักวิ่งเทรลเกือบพัน เตรียมเปิดผืนป่า “อเมซอลแห่งอาเซียน” ในกิจกรรม Amazean Jungle Trail
นักวิ่งเทรลเกือบพัน เตรียมเปิดผืนป่า “อเมซอลแห่งอาเซียน” เบตง จ.ยะลา สู่สายตาชาวโลก ผ่าน วิ่งเทรล 2 วัน 1 คืน ในกิจกรรม Amazean Jungle Trail
วันนี้ (27 เมษายน 2565) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เนรมิตห้องประชุมศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อจัดงานแถลงข่าวกิจกรรม Amazean Jungle Trail ที่มีกำหนดจัดขึ้น ณ อ.เบตง จ.ยะลา ในวันที่ 6-8 พ.ค. นี้
โดยมีนายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการ จ.ยะลา และนายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวการจัดกิจกรรมวิ่งเทรลในครั้งนี้
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กิจกรรม Amazean Jungle Trail เป็นกิจกรรมที่รัฐบาลต้องการให้ประเทศไทยมีสนามวิ่งเทรลในระดับโลก อ.เบตง จ.ยะลา เป็นอีกสนามที่ต้องการยกระดับสู่ UTMB World Series เนื่องจากเป็นเมืองที่มีสีสันสวยงาม ทั้งประเพณี วัฒนธรรม และธรรมชาติที่น่าประทับใจ ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดเเคมเปญต้อนรับกิจกรรมนี้ โดยการเปิดเที่ยวบิน ทั้งเที่ยวบินปกติ และพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าร่วมแข่งขันและการท่องเที่ยว เป็นระยะเวลา 3 เดือน จึงขอเชิญชวนร่วมลงทะเบียนสมัครการแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ ทั้งการวิ่งเทรล 100 กิโลฯ วิ่งเบตงระยะทาง 50 กิโลฯ และ 25 กิโลฯ และวิ่งชมเมืองระยะทาง 5 กิโลฯ โดยขณะนี้ มีนักวิ่งเทรลสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 825 คน
ด้านเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาล ในการยกระดับเมืองตนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้เมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สู่การจัดงาน Amazean Jungle Trail ที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้ และมีกำหนดวิ่งในวันที่ 6 พ.ค.นั้น ศอ.บต. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ จะได้ชมความงดงามของ อ.เบตง จ.ยะลา และจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในทุกมิติ ความสวยงามที่อยู่ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ผ่านนักกีฬาและผู้เข้าสมัครการแข่งขันวิ่งเทรล และวิ่งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อชมบรรยากาศของเมืองเบตงทั้ง กลางวันและกลางคืน จะสามารถนำเสนอศิลปวัฒนธรรม อาหารที่เป็นอัตลักษณ์ สิ่งที่เป็น Soft Power ที่คณะกรรมการจัดงานต้องการนำเสนอสู่สายตาชาวโลก อย่างไรก็ตาม ประชาชนชายแดนใต้มีความพร้อมอย่างยิ่งในการมาเยือนของทุกคนในกิจกรรมครั้งนี้ และตลอดไป
รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ถือเป็นโจทย์สำคัญในการจัดการแข่งขันให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผ่านการรับรองของ UTMB International เพื่อก้าวเป็นสนาม World Series สนามที่ 2 ของประเทศ คาดว่า ไม่ยากเกินความสามารถของประเทศไทยแน่นอน
ทั้งนี้ สำหรับการจัดการแข่งขันวิ่งเทรล ณ อ.เบตง จ.ยะลา จะมีการปล่อยตัวนักวิ่ง ที่อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ซึ่งการวิ่งระยะสั้นจะถึงเส้นชัยบริเวณ สนามกีฬากลางเทศบาลเมืองเบตง นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรม Batong Fastival กิจกรรมแข่งขันยิงธนูโบราณ เทศกาลอาหารและของดีเมืองเบตง กิจกรรม วิ่ง เที่ยว ดื่ม กิน และเช็ดอิน @เบตง ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง ทางเว็บไซต์ www.runningconnect.com หรือ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทางเฟซบุ๊ค AmazeanTrail
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
7 สัญญาณอันตรายว่าคุณต้องลด “กาแฟ” ด่วนๆ
แม้ว่าคุณจะรักในการดื่มกาแฟมากแค่ไหน แต่หากเกิดอาการเหล่านี้หลังดื่ม ควรหยุดหรือลดการดื่มลงทันที
กาแฟ เป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของวัยหนุ่มสาว และวัยทำงาน รวมถึงวัยชราบางคน ด้วยรสชาติหอมเข้มไม่เหมือนเครื่องดื่มชนิดไหน และยังเติมเต็มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าด้วยฤทธิ์จากคาเฟอีน
แต่ฤทธิ์ของคาเฟอีนที่ว่า อาจส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดีได้ หากคุณดื่มกาแฟแล้วเกิดอาการผิดปกติขึ้น
7 สัญญาณอันตรายว่าคุณต้องลด “กาแฟ” ด่วนๆ
- ปวดศีรษะ
- นอนไม่หลับ
- วิตกกังวล
- หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย
- ปัสสาวะบ่อยกว่าเดิม หรือไม่สามารถควบคุมการปัสสาวะได้
- หัวใจเต้นรัว
- กล้ามเนื้อสั่น
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติเมื่อดื่มกาแฟ
- ร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินไป
- ร่างกายมีปฏิกิริยาเร็วต่อคาเฟอีนมากกว่าคนอื่น
- นอนไม่หลับ หรือนอนไม่เพียงพอ แล้วอัดกาแฟเพื่อให้ตัวเองตื่น ซึ่งทำให้ในคืนถัดไปนอนไม่หลับ นอนไม่เพียงพอ ต้องวนเวียนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียเกินไปจนเกิดอาการผิดปกติได้
- ยาบางชนิดอาจทำปฏิกิริยาบางอย่างกับคาเฟอีน เช่น อีเฟดรา อาจทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น หัวใจวาย หลอดเลือดอุดตัน หรือ ทีโอฟิลลีน ยารักษาโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรัง อาจเพิ่มฤทธิ์ของคาเฟอีนให้รุนแรงขึ้นจนเกิดอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ หรือใจสั่นได้
วิธีลดปริมาณกาแฟอย่างปลอดภัยและได้ผล
- จำกัดปริมาณในการดื่มของตัวเอง และพยายามไม่ดื่มมากไปกว่านั้น ปริมาณที่เหมาะสมของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ทางที่ดีไม่ควรเกิน 4 แก้วต่อวัน
- อย่าลืมเช็กปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่มหรืออาหารอื่นๆ เพราะอย่าลืมว่าคาเฟอีนไม่ได้มีอยู่ในกาแฟอย่างเดียว
- ค่อยๆ ลดอย่างช้าๆ จากที่เคยกินวันละ 4 แก้ว ค่อยๆ ลดลงเหลือวันละ 3 แก้ว ผ่านไป 3 วันลดลงอีกแก้ว ไปเรื่อยๆ จนเหลือแค่วันละแก้ว หรือ 2-3 วันต่อแก้ว หรืออยู่ในปริมาณที่ดื่มแล้วไม่เกิดอาการผิดปกติ
- เลือกดื่มกาแฟดีแคฟ หรือกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน
- เปลี่ยนไปดื่มเครื่องดื่มอื่นๆ แทนบ้าง เช่น ชา โกโก้ หรืออื่นๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
Relationship Vocabulary รวมศัพท์ใช้เรียกความสัมพันธ์
Relationship Vocabulary รวมศัพท์ใช้เรียกความสัมพันธ์
บนโลกใบนี้เราต่างเป็นอะไรบางอย่างสำหรับใครบางคน เราอาจจะเป็นลูกของพ่อแม่ เป็นแม่ของลูกตัวเอง เป็นเพื่อนกับคนนั้น เป็นแฟนกับคนนี้ เป็นเจ้านาย เป็นลูกน้อง หรืออาจจะเป็นป้าข้างบ้านสำหรับเด็กๆในหมู่บ้านก็ได้ทั้งนั้น ทุกความสัมพันธ์ต่างมีบทบาทแตกต่างกันไป รวมถึงชื่อเรียกของแต่ละความสัมพันธ์ก็มีให้เรียกเยอะแยะไปหมด
Lover
Boyfriend/girlfriend = แฟนหนุ่ม/แฟนสาว
Casual/steady date = คนที่คบ/เดทกันแบบไม่เปิดเผย
Crush = คนที่แอบชอบ
Ex-boyfriend/girlfriend = แฟนเก่า (ชาย/หญิง)
Fiancé = คู่หมั้น(ชาย)
Fiancée = คู่หมั้น(หญิง)
Husband = สามี
Lover = คนรัก
Partner = คู่ชีวิต
Wife = ภรรยา
Mistress = ชู้, เมียเก็บ
Love-interest = คนที่คบ/เดทกันแบบไม่ผูกมัด
Love = คนรัก, ที่รัก
Relationship
Casual / steady dating = ความสัมพันธ์ที่คบกันแบบไม่เปิดเผย
Divorced = หย่าร้าง
Fling = กิ๊ก
FWB (Friend with benefit) = ความสัมพันธ์ที่มีสัมพันธ์กันแต่ไม่ได้คบกัน
Married = แต่งงานแล้ว
Open relationship = ความสัมพันธ์แบบเปิด (ยินยอมให้คนรักสัมพันธ์กับคนอื่นได้)
Platonic relationship = ความสัมพันธ์ที่ไม่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง
Single = โสด
Taken = มีแฟนแล้ว
Unrequited love (One-sided love) = แอบรักข้างเดียว
Friends/Company
Acquaintance = คนรู้จัก
Colleague = เพื่อนร่วมงาน
Companion = เพื่อนร่วมงาน
Coworker = เพื่อนร่วมงาน
Friend = เพื่อน
Good/Close/Best friend = เพื่อนสนิท
Enemy
Enemy = ศัตรู
Rival = คู่แข่ง
Nemesis = ศัตรูตัวฉกาจ
Family
Brother/sister-in-law = พี่เขย-น้องเขย/พี่สะใภ้-น้องสะใภ้
Cousin = ลูกพี่ลูกน้อง
Father/mother-in-law = พ่อตา/แม่ยาย
Grandmother/father = ย่า-ยาย/ปู่-ตา
Grandchild/son/daughter = หลาน
Great grandmother/father = ย่า-ยายทวด/ปู่-ตาทวด
Half-brother/sister = พี่น้องต่างพ่อต่างแม่
Spouse = คู่สมรส
Step-child/son/daughter = ลูกเลี้ยง/ลูกบุญธรรม
Step-mother/father = แม่เลี้ยง/พ่อเลี้ยง
Step-parents = พ่อแม่เลี้ยง/บุญธรรม
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
ร่วมตั้ง “บี-เมด เอ็กซ์”แพลตฟอร์มดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
“แคริว่า” ผนึกกำลัง “บีเจซี เฮลท์แคร์” ร่วมก่อตั้ง “บี-เมด เอ็กซ์” ธุรกิจแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม มุ่งสร้างการเติบโตขยายความร่วมมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพ เติมเต็มคุณภาพชีวิตของคนไทย
บริษัท แคริว่า (CARIVA) ประเทศไทย จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจแพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยีเครือข่ายข้อมูลสุขภาพ เทคโนโลยีบล็อกเชนและปัญญาประดิษฐ์ ภายใต้การกำกับดูแลของบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส หรือเออาร์วี (ARV) ผนึกกำลังครั้งสำคัญกับ บริษัทบีเจซี เฮลท์แคร์ จำกัด (BJC Healthcare) ผู้เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์มานานกว่า 50 ปี ในเครือบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี ร่วมจัดตั้ง บริษัทใหม่ บี-เมด เอ็กซ์ (B-Med X) เปิดตัวแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
เพื่อเติมเต็มคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์,การแพทย์ทางไกล (telemedicine) และเครือข่ายข้อมูลสุขภาพ มาพัฒนานวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของคนไทยได้ดียิ่งขึ้น เชื่อมชีวิตออฟไลน์ และออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว มีประสิทธิภาพในราคาที่เหมาะสม ทั้งยังเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ประกอบการในธุรกิจสายสุขภาพ ความสวยความงาม และการแพทย์ ที่สามารถเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร เพื่อขยายช่องทางการให้บริการด้านสุขภาพเชิงป้องกัน บริการดูแลสุขภาพถึงที่บ้าน ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างไม่มีข้อจำกัด
ดร. ธนา สราญเวทย์พันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “เออาร์วี และแคริว่า มีวิสัยทัศน์ในการนำเทคโนโลยีมายกระดับการดูแลสุขภาพของคนไทยเสมอมา จึงมีแนวคิดในการสร้างแพลตฟอร์มที่นำเสนอข้อมูลสุขภาพที่ดีและทันสมัยเพื่อช่วยลดความยุ่งยากในการเข้าถึงข้อมูลและเร่งการสร้างนวัตกรรมด้านสุขภาพที่จะ“เปลี่ยนชีวิต”ของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น
เราพบว่าประเทศไทยนั้นมีความพร้อมด้านการรักษาโรคมากกว่าการป้องกันโรคทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมาก ส่งผลให้การสาธารณสุขหรือโรงพยาบาลนั้นค่อนข้างแออัดและมีคนใช้บริการจนล้น ซึ่งช่องว่างในส่วนนี้แก้ไขได้ด้วยการเชื่อมต่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพได้ง่าย และทั่วถึงยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถประเมินได้ว่าตนเองมีสถานะทางสุขภาพอย่างไร ซึ่งจะนำมาสู่การดูแลตัวเองและป้องกันตนเองได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
โดยปัจจุบันข้อมูลเหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ตามโรงพยาบาล คลินิก แล็บ และอุปกรณ์ IOT ต่างๆ ซึ่งเราไม่สามารถเข้าถึงได้ หรือแม้จะเข้าถึงได้ก็ไม่สามารถเอามารวมกันให้เกิดเป็นข้อมูลที่สำคัญในการป้องกันสุขภาพได้ แคริว่า ซึ่งมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เครือข่ายข้อมูลสุขภาพและ blockchain ประกอบกับมีความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายพันธมิตรในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ (healthcare industry) จึงอยากเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลตนเองให้กับประชาชน
ซึ่งภายใต้ความร่วมมือของเรากับ บีเจซี เฮลท์แคร์ จะนำไปสู่การสร้างธุรกิจแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพแบบองค์รวมอย่าง“บี-เมดเอ็กซ์”ซึ่งจะมาช่วยลดช่องว่างด้านสุขภาพและสาธารณสุขให้กับคนไทย และลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของไทยได้เป็นจำนวนมาก”
นางสุวรรณี ภู่นภานนท์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มธุรกิจสินค้าเวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) กล่าวว่า”บริษัท บีเจซี เฮลท์แคร์ จำกัด เราเป็นผู้นำที่เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์มามากกว่า 50 ปี ภายใต้ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญด้าน “การส่งเสริมและการป้องกันโรคในระบบปฐมภูมิ (Preventive and Promote Health)
ทั้งนี้ยังเป็นการสนับสนุนเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ และการวางแผนระยะยาวด้านสาธารณสุข โดยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ของประเทศอย่างมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน โดยร่วมมือกับบริษัท แคริว่า (CARIVA) ประเทศไทย จำกัดผู้เชี่ยวชาญและนักพัฒนาด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับเอไอและโรโบติกส์ด้านการแพทย์ จัดตั้ง “บริษัท บีเมด เอ็กซ์ จำกัด” (B-Med X) บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อเป็นช่องทางสำหรับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ความสวยความงาม และการแพทย์ ร่วมเป็นพันธมิตรในการ พัฒนาแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Healthcare Platform) เพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว เท่าเทียม และลดความแออัดการเข้าใช้บริการในโรงพยาบาล
สำหรับศูนย์บริการทางการแพทย์ ‘B-Med X’ จะดำเนินการเปิดสาขาแฟลกชิป สโตร์ แห่งแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้าบิ๊กซี โดยคาดว่าจะเปิดในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2565 และวางแผนขยายสาขาไปยังห้างสรรพสินค้าอื่นๆ เน้นในกรุงเทพและปริมณฑลเป็นหลัก”
บี-เมด เอ็กซ์ (B-Med X) มีสัดส่วนการลงทุนคือ บริษัท แคริว่า (CARIVA) ประเทศไทย จำกัด ถือหุ้น 50% และ บริษัท บีเจซี เฮลท์แคร์ จำกัด ถือหุ้น 50% ผนึกกำลังสร้างการเติบโตขยายความร่วมมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพ เพื่อเติมเต็มระบบการบริการด้านสุขภาพให้สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ความแออัดของผู้ใช้บริการโรงพยาบาล ความไม่สะดวกสบายในการรับบริการทางการแพทย์ในปัจจุบัน
บี-เมด เอ็กซ์ (B-Med X) นั้น B มาจาก Beyond ซึ่งสื่อถึงความเหนือกว่า Med ย่อมาจาก Medical หรือการแพทย์ ส่วน X หมายถึง multiplier สื่อถึงความร่วมมือเพื่อก่อให้เกิดสิ่งใหม่ๆ จึงเป็นที่มาของ บี-เมด เอ็กซ์ ซึ่งจะเข้ามาช่วยยกระดับสุขภาพและชีวิตของผู้คนให้มีคุณภาพและเหนือกว่า ผ่านการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพในทุกมิติ
โดยนอกเหนือจากการเปิดตัวศูนย์บริการทางการแพทย์ ‘B-Med X’ ภายในปีนี้จะมีการเปิดตัว Aesthetic Hub Platform ที่รวบรวมพันธมิตรชั้นนำด้านสุขภาพและความงามในรูปแบบออนไลน์ทั่วประเทศไทย มาให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้บริการได้อย่างสะดวก ครบวงจรในแพลตฟอร์มเดียว พร้อมใช้เทคโนโลยีเอไอมาช่วยนำเสนอสินค้าบริการ รวมถึงโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ดึงดูดใจ โดยคาดหวังว่าจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางของตลาดธุรกิจสุขภาพและความงามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยได้ในอนาคต”
บี-เมด เอ็กซ์ มุ่งมั่นเชื่อมการบริการด้านสุขภาพออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ด้วยคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม และรวดเร็ว พร้อมสร้างการเติบโตให้อุตสาหกรรมและกระจายความมั่นคงสู่คู่ค้าและผู้ถือหุ้น ผ่านการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจแบบองค์รวม โดยเฉพาะการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจภายนอก ที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย นำมาสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนและทั่วถึง (inclusive growth)
ทั้งนี้ บี-เมด เอ็กซ์ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเทคโนโลยีการให้บริการทางการแพทย์ โดยเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทั้งด้านสุขภาพ ความสวยความงาม สาธารณสุขและการแพทย์ ให้เข้ามาเป็นเครือข่ายพันธมิตร พร้อมร่วมมือกันนำความเชี่ยวชาญของแต่ละภาคส่วนมาประยุกต์ใช้ ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความทันสมัยเพื่อยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพกับคนไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สรรพคุณ “ทีทรีออยล์” 8 ประการ รักษาสิว-คุมความมัน
ปัจจุบันคนนิยมใช้ทีทรีออยล์กันมากขึ้น ทีทรีออยล์มีประโยชน์สารพัด และเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ
ทีทรีออยล์คือน้ำมันที่ได้จากการสกัดใบของต้นไม้พื้นเมืองประเทศออสเตรเลีย (ไม่ใช่ต้นชาที่นำใบมาชงดื่ม)
ทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil)
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Melaleuca Alternifolis Leaf Oil
มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิว รักษาการติดเชื้อ ทั้งเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา อีกทั้งช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้
ประโยชน์ของทีทรีออยล์
1.รักษาผิวหนังอักเสบ
ผิวหนังอักเสบเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งจากการสัมผัสสารเคมีที่ก่อภูมิแพ้ การติดเชื้อ หรือระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ
ส่งผลให้ผิวหนังแดง คัน และบางครั้งอาจรู้สึกเจ็บร่วมด้วย
ทีทรีออยล์มีสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบ บรรเทาอาการเจ็บและคันที่บริเวณผิวหนัง และอาจช่วยลดอาการบวมและแดงได้อีกด้วย
2. รักษาสิว
ด้วยคุณสมบัติของทีทรีออยล์ที่ช่วยลดการอักเสบ กำจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา จึงทำให้ทีทรีออยล์เป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิว
3. รักษาผื่นคัน และอาการคันที่ผิวหนัง
ทีทรีออยล์มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ ทำให้ทีทรีออยล์สามารถบรรเทาอาการคัน และระคายเคืองของผิวหนังได้ ทำให้รู้สึกสบายผิว
4. ช่วยคุมความมัน ลดการอุดตันของรูขุมขน
ทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้น
5. สมานแผล ช่วยรักษาแผลติดเชื้อ
ทีทรีออยล์ช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น
6. ระงับกลิ่นกาย
ปกติเหงื่อของเราไม่ได้มีกลิ่น แต่กลิ่นเกิดจากเหงื่อผสมกับแบคทีเรียที่ผิวของเรา จึงเกิดเป็นกลิ่นตัว ทีทรีออยล์มีฤทธิ์กำจัดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ช่วยระงับกลิ่นกายได้
7. รักษารังแค
รังแค คือ สะเก็ดสีขาวเล็กๆที่เส้นผมหรือหนังศีรษะ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงแต่อาจทำให้เกิดอาการคัน
รังแครักษาให้หายขาดค่อนข้างยาก ในปัจจุบันมีการนำทีทรีออยล์มาเป็นส่วนผสมของแชมพูสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะ เพราะเชื่อว่าสารสกัดชนิดนี้มีฤทธิ์ต้านเชื้อรา และช่วยรักษารังแคได้
8. รักษาน้ำกัดเท้า และเชื้อราที่เล็บ
น้ำกัดเท้าเกิดจากการติดเชื้อราบริเวณเท้า ซึ่งบางครั้งลามไปที่เล็บเท้า และมือ ทำให้มีอาการคัน ลอก แตก แดง
ส่วนเชื้อราที่เล็บเกิดจากการเจริญเติบโตของเชื้อราบริเวณเล็บ โดยมักพบจุดสีขาว หรือสีเหลืองบริเวณปลายเล็บ
หากเชื้อราเริ่มขยายตัว อาจทำให้เล็บหนาขึ้น เล็บเปลี่ยนสี เกิดขุยหนาใต้เล็บ หรือเล็บแยกตัวออกจากฐานเล็บ ซึ่งอาจสังเกตเห็นเป็นโพรงหรือช่องว่างใต้เล็บ
การใช้ทีทรีออยล์ในการรักษาเชื้อราที่เล็บ ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากทีทรีออยล์ 100 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารชนิดอื่นด้วย อาจทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาเชื้อราที่เล็บลดลง
‘ทีทรีออยล์’ มีอยู่ในสบู่สมุนไพรโยโล่ บาย ดร.มนตรี สูตรเปปเปอร์มินท์-ทีทรีออยล์
ขอบคุณข้อมูลจาก yolo.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 28/04/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 30,600.00 | 30,700.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,982.00 | 30,047.12 | 31,200.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,783.80 | 27,042.41 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,585.60 | 24,037.70 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 892.00 | 13,522.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 694.00 | 10,521.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,054.00 | 31,138.64 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 28/04/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 38.85 | 38.85 | 39.85 | 38.85 | 39.75 | 38.85 | 38.85 | 38.85 | 38.85 | 38.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 38.58 | 38.58 | 39.58 | 38.58 | 39.48 | 38.58 | 38.58 | 38.58 | 38.58 | 38.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 37.74 | 37.74 | 38.74 | 37.74 | 38.64 | – | 37.74 | 37.74 | 37.74 | 37.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 31.04 | 31.04 | – | – | – | – | – | – | – | 31.04 |
เบนซิน 95 | 46.26 | – | – | – | 47.61 | – | 46.76 | 46.76 | – | 46.26 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 30.94 | 29.94 | 30.54 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | 30.94 | 29.94 | 30.54 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | 30.94 | – | 30.54 | – | 29.94 | 29.94 | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 35.96 | 35.96 | 37.39 | 36.36 | 36.99 | – | – | – | – | 35.96 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |