รีเจ้นท์โฮม วุฒากาศ คอนโดใกล้รถไฟฟ้า 1.2 ล้านทุกยูนิต
ปรบมือทีหลังดังกว่า ยิ่งปรบมือในยุคโควิดที่กำลังซื้อกระท่อนกระแท่น แค่แปะมือเบา ๆ เสียงก็กระหึ่มไปไกล
“มิสเตอร์โฮม” กำลังพูดถึงดีเวลอปเปอร์ฉายาเจ้าพ่อคอนโดฯ BOI “กลุ่มรีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์” ประสบการณ์ทำอาคารชุดแท่งแรกในปี 2531 และเริ่มทำคอนโดฯ BOI ตั้งแต่ปี 2549
ขยายความเล็กน้อยกับคำว่า คอนโดฯ BOI หมายถึงคอนโดมิเนียมที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากรัฐบาล ซึ่งมีเงื่อนไขไซซ์ห้องต้องไม่เล็กเกินไป และจำกัดเพดานไม่ให้สูงเกินกำลังซื้อผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ด้วยเงื่อนไขดังกล่าวทำให้หาดีเวลอปเปอร์กระโดดเข้ามาทำยาก ยากมาก และยากที่สุด
ปัจจุบันกลุ่มรีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ บ่มเพาะประสบการณ์แล้ว 34 ปี พัฒนาแล้ว 41 โครงการ ยูนิตสะสมเกิน 30,000 ห้อง
วันนี้ชวนแวะชมไซต์โครงการใหม่ล่าสุดในปีเสือ “รีเจ้นท์ โฮม วุฒากาศ” ทำเลแจ่มมาก อยู่ห่างสถานีวุฒากาศ รถไฟฟ้าบีทีเอสเพียง 180 เมตร แต่ทำราคาได้สะใจเพราะขายราคาเดียวทั้งตึก ไม่ว่าเลือกห้องไหน ชั้นไหน รับสิทธิ์ห้องละ 1.2 ล้านบาทขาดตัว คำนวณแล้วตกตารางเมตรละ 4.6 หมื่นบาทเท่านั้น
รายละเอียดออกแบบเป็นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 26 ตารางเมตร ดีไซน์เป็นคอนโดฯไฮไรส์ 2 อาคาร แบ่งเป็นอาคารสูง 37 ชั้น จำนวน 1,933 ยูนิต กับอาคารสูง 38 ชั้น จำนวน 1,165 ยูนิต รวมทั้งโครงการมีจำนวน 3,098 ยูนิต ร้านค้าชั้นล่างอีก 18 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,700 ล้านบาท
ตามไปดูทำเลที่ตั้งพบว่าสะดวกสบายในการใช้ชีวิต เดินทางโดยรถไฟฟ้าเพียง 15 นาทีถึงสีลม สาทร แวดล้อมด้วยแหล่งงาน สถานศึกษาชั้นนำของประเทศ ใกล้แหล่งชิม-ชิล-ช็อปทั้งตลาดพลู เดอะมอลล์ ท่าพระ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีบางหว้า และรถไฟฟ้าสายสีทองที่สถานีกรุงธนบุรีได้สะดวก
ขับรถเข้า-ออกเมืองก็สะดวก เพราะถนนวุฒากาศเชื่อมต่อกับถนนหลัก “ราชพฤกษ์-กัลปพฤกษ์-กาญจนาภิเษก-เพชรเกษม”
ในด้านสเป็กวัสดุ อาทิ ลิฟต์โดยสารเลือกใช้ OTIS หรือยี่ห้ออื่นที่เทียบเท่า, สุขภัณฑ์ห้องน้ำของเฮเฟเล่ มาตรฐานเยอรมนี ฯลฯ
รีเจ้นท์ โฮม วุฒากาศ กำหนดเปิดพรีเซล พฤษภาคม 2565 มาก่อนได้เลือกห้องก่อน ราคาเดียวตั้งแต่ชั้นล่างจนถึงท็อปฟลอร์ 1.2 ล้านบาท ทราบแล้วเปลี่ยน
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
CCP มองไตรมาส2 โควิดคลี่คลายสัญญาณบวก ดันดีมานด์คอนกรีตฟื้น
CCP มองทิศทางไตรมาส 2/65 สัญญาณฟื้นตัวดี โควิด-19 ภายในประเทศเริ่มคลี่คลาย สะท้อนผู้ติดเชื้อรายใหม่ผู้เสียชีวิตลดลง สร้างบรรยากาศเชิงบวกให้ผู้ประกอบธุรกิจ กลับมาลงทุนโครงการภาคเอกชน คึกคัก
จากปัจจัยบวกสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ภายในประเทศเริ่มคลี่คลาย สะท้อนจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตมีปริมาณลดลง สร้างบรรยากาศเชิงบวกให้ผู้ประกอบธุรกิจ กลับมาลงทุนโครงการของภาคเอกชน นิคมอุตสาหกรรมเร่งก่อสร้าง
ประกอบกับ ปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจงานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐในหลายโครงการ อาทิ งานก่อสร้างถนนของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท โครงการพิเศษทางหลวงระหว่างเมือง ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า คาดว่า ทิศทางการดำเนินงานไตรมาส 2/65 น่าจะมีสัญญาณฟื้นตัวไปในทางที่ดี อย่างไรก็ตาม บริษัทให้ความสำคัญและระมัดระวังต่อปัจจัยเสี่ยงจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาเชื้อเพลิงและ ต้นทุนวัตถุดิบ มุ่งเน้นกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุน
โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารงานภายในองค์กร ระบบการขายและกระบวนการผลิต ช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย เพิ่มความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น ปัจจุบัน บริษัทได้ติดตั้ง Solar roof บริเวณโรงงานผลิต และอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลด้านพลังงาน เชื้อเพลิงทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงด้านพลังงาน
นอกจากนี้ บริษัทเร่งพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน แก้ปัญหาการก่อสร้าง ลดต้นทุน สำหรับงานโครงสร้างพื้นฐานและเอกชนได้อย่างหลากหลาย รองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น พร้อมเดินหน้าประมูลงานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/65 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 613.34 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 675.08 ล้านบาท หรือลดลง 9.14 % และมีกำไรสุทธิ 9.72 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 24.49 ล้านบาท หรือลดลง 60.31 %
ทั้งนี้ รายได้รวมและกำไรสุทธิ ปรับตัวลดลงเนื่องจาก ต้นทุนเชื้อเพลิงและวัตถุดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับเกิดการผันผวนด้านราคา ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องพิจารณาเลื่อนการลงทุนบางโครงการออกไป
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า600จุด/น้ำมันทรงตัว/ทองบวก
หุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่ง 618.34 จุดขานรับข่าวรับสหรัฐเตรียมปิดฉากสงครามการค้ากับจีน ด้านราคาเพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ขณะที่ทองคำบวก5.70 ดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,880.24 จุด พุ่งขึ้น 618.34 จุด หรือ +1.98%, ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,973.75 จุด เพิ่มขึ้น 72.39 จุด หรือ +1.86% และดัชนีแนสแดค ปิดที่ 11,535.27 จุด เพิ่มขึ้น 180.66 จุด หรือ +1.59% ได้ปัจจัยหนุนจากรายงานข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนส่งสัญญาณยุติการทำสงครามการค้ากับจีน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 110.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ ปิดที่ 113.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 5.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,847.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
บทสรุปทุกเหรียญรางวัลของทัพนักกีฬาไทย ในซีเกมส์ 2021
ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เวียดนาม 2021 ณ ประเทศเวียดนาม ซึ่งทัพนักกีฬาไทยทำผลงานคว้ามาได้ 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน และ 136 เหรียญทองแดง
โดยนักกีฬาที่คว้าเหรียญทองได้มากที่สุดคือ จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน นักกรีฑาดาวรุ่งลูกครึ่งไทยออสเตรเลีย ที่ทำได้ 4 เหรียญทองจาก วิ่ง 400 เมตร, วิ่ง 800 เมตร, ผลัด 4×400 เมตร และผลัดทีมผสม 4×400 เมตร
ส่วนนักกีฬาหญิงที่คว้าเหรียญทองมากที่สุดคือ อรวรรณ พาระนัง คว้ามาได้ 3 เหรียญทองจากกีฬาเทเบิลเทนนิสประเภทหญิงเดี่ยว, หญิงคู่ และทีมหญิง เท่ากับนักกีฬาตะกร้อหญิง 4 คนคือ มัสยา ดวงศรี, สมฤดี ปรือปรัก, วิภาดา จิตพรวน และเฟื่องฟ้า ประพัศรางค์ ซึ่งได้เหรียญทองจากประเภททีมชุด, ทีมเดี่ยว และตะกร้อ 4 คน
จากจำนวนทั้งหมด 331 เหรียญที่ไทยทำได้มาจากกีฬาชนิดใดบ้าง ติดตามได้ที่นี่
92 เหรียญทอง
ว่ายน้ำ : 4 เหรียญทอง
ยิงธนู : 1 เหรียญทอง
กรีฑา : 12 เหรียญทอง
แบดมินตัน : 4 เหรียญทอง
บาสเกตบอล 3×3 : 2 เหรียญทอง
บิลเลียด สปอร์ตส์ : 1 เหรียญทอง
เพาะกาย : 3 เหรียญทอง
103 เหรียญเงิน
ว่ายน้ำ : 9 เหรียญเงิน
ยิงธนู : 2 เหรียญเงิน
กรีฑา : 11 เหรียญเงิน
แบดมินตัน : 2 เหรียญเงิน
เพาะกาย : 3 เหรียญเงิน
โบว์ลิง : 1 เหรียญเงิน
มวยสากล : 2 เหรียญเงิน
เรือพาย : 6 เหรียญเงิน
จักรยาน : 2 เหรียญเงิน
ลีลาศ : 6 เหรียญเงิน
อีสปอร์ตส์ : 1 เหรียญเงิน
ฟันดาบ : 3 เหรียญเงิน
ฟินสวิมมิ่ง : 2 เหรียญเงิน
ฟุตบอล : 2 เหรียญเงิน
กอล์ฟ : 1 เหรียญเงิน
ยิมนาสติก : 2 เหรียญเงิน
แฮนด์บอล : 2 เหรียญเงิน
ยูโด : 2 เหรียญเงิน
ยูยิตสู : 1 เหรียญเงิน
คาราเต้ : 4 เหรียญเงิน
คิกบ็อกซิ่ง : 4 เหรียญเงิน
คูราช : 1 เหรียญเงิน
มวยไทย : 4 เหรียญเงิน
ปันจักสีลัต : 2 เหรียญเงิน
เรือกรรเชียง : 2 เหรียญเงิน
ยิงปืน : 2 เหรียญเงิน
เทเบิลเทนนิส : 2 เหรียญเงิน
เทควันโด : 4 เหรียญเงิน
เทนนิส : 3 เหรียญเงิน
วอลเลย์บอล : 1 เหรียญเงิน
โววินัม : 2 เหรียญเงิน
ยกน้ำหนัก : 5 เหรียญเงิน
มวยปล้ำ : 6 เหรียญเงิน
วูซู : 1 เหรียญเงิน
136 เหรียญทองแดง
ว่ายน้ำ : 10 เหรียญทองแดง
ยิงธนู : 1 เหรียญทองแดง
กรีฑา : 8 เหรียญทองแดง
บาสเกตบอล : 1 เหรียญทองแดง
บิลเลียด สปอร์ตส์ : 8 เหรียญทองแดง
เพาะกาย : 3 เหรียญทองแดง
มวยสากล : 3 เหรียญทองแดง
เรือพาย : 6 เหรียญทองแดง
หมากรุก : 2 เหรียญทองแดง
จักรยาน : 4 เหรียญทองแดง
ลีลาศ : 4 เหรียญทองแดง
อีสปอร์ตส์ : 3 เหรียญทองแดง
ฟันดาบ : 7 เหรียญทองแดง
ฟินสวิมมิ่ง : 5 เหรียญทองแดง
กอล์ฟ : 1 เหรียญทองแดง
ยิมนาสติก : 3 เหรียญทองแดง
แฮนด์บอล : 1 เหรียญทองแดง
ยูโด : 6 เหรียญทองแดง
ยูยิตสู : 3 เหรียญทองแดง
คาราเต้ : 5 เหรียญทองแดง
คิกบ็อกซิ่ง : 6 เหรียญทองแดง
คูราช : 4 เหรียญทองแดง
มวยไทย : 4 เหรียญทองแดง
ปันจักสีลัต : 4 เหรียญทองแดง
เปตอง : 2 เหรียญทองแดง
เรือกรรเชียง : 5 เหรียญทองแดง
ยิงปืน : 10 เหรียญทองแดง
เทเบิลเทนนิส : 2 เหรียญทองแดง
เทควันโด : 3 เหรียญทองแดง
เทนนิส : 2 เหรียญทองแดง
โววินัม : 3 เหรียญทองแดง
ยกน้ำหนัก : 1 เหรียญทองแดง
มวยปล้ำ : 4 เหรียญทองแดง
วูซู : 2 เหรียญทองแดง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ฝีดาษลิง คืออะไร ติดต่อจากลิงสู่คนได้อย่างไร อันตรายแค่ไหน
เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักโรค “ฝีดาษ” หรือไข้ทรพิษ ที่เคยคร่าชีวิตคคนในสมัยก่อนมาหลายร้อยหลายพันคนมาแล้ว เพราะเป็นโรคติดต่อที่น่ากลัว อาการรุนแรง และติดต่อจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งได้ง่าย แต่ในสมัยนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันนัก เพราะเรามีวัคซีนที่ฉีดป้องกันให้เราตั้งแต่เด็ก อีกทั้งการศึกษา ระบบสาธารณูปโภคที่สะอาด และทันสมัย ทำให้การติดเชื้อเกิดขึ้นได้ยากมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีโรคฝีดาษอีกชนิดหนึ่งที่หลายคนอาจไม่คุ้นหู แต่มีอยู่จริง นั่นคือ “ฝีดาษลิง”
ฝีดาษลิง คืออะไร แตกต่างจากโรคฝีดาษปกติอย่างไร
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบายว่า โรคฝีดาษลิง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส orthopoxvirus เป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคนที่พบได้น้อย โรคนี้พบมากในแอฟริกากลาง และตะวันตก โดยเชื้อไวรัสฝีดาษลิงเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคฝีดาษในคน และฝีดาษวัว พบในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะหลายชนิด เช่น หนู กระรอก กระต่าย เป็นต้น สัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงก็อาจติดเชื้อได้ รวมทั้งคนก็สามารถติดเชื้อนี้ได้เช่นกัน
ฝีดาษลิง ติดต่อในคนได้อย่างไร
สำหรับในคน สามารถติดโรคฝีดาษลิงนี้ติดต่อจากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สิ่งคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัด การแพร่เชื้อจากคนสู่คนอาจเกิดขึ้นได้แต่มีโอกาสน้อยมาก
อาการของโรคฝีดาษลิงในคน
ผู้ป่วยจะแสดงอาการของโรคหลังติดเชื้อประมาณ 12 วัน อาการป่วยของโรคฝีดาษลิงคือ
- มีไข้ หนาวสั่น
- ปวดหัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต
- ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง
- อ่อนเพลีย
- จากนั้นประมาณ 1-3 วัน จะมีผื่นขึ้นบริเวณแขนขา และอาจจะเกิดบนหน้าและลำตัวได้ด้วย
- จากผื่น จะกลายเป็นตุ่มหนอง
- ในระยะสุดท้ายตุ่มหนองจะมีสะเก็ดคลุมแล้วหลุดออกมา
วิธีรักษาโรคฝีดาษลิงในคน
ตามปกติแล้ว อาการป่วยโรคฝีดาษลิงในคนจะค่อยๆ หายได้เองหลังจากผ่านไปประมาณ 2-4 สัปดาห์ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพิ่มเติม
ในประเทศไทยขอยืนยันว่าไม่เคยมีรายงานผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงดังกล่าว แต่ก็อาจมีความเสี่ยงในประชาชนบางกลุ่ม ได้แก่ แรงงาน นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการท่องเที่ยว นักธุรกิจ ที่เดินทางไปหรือมาจากประเทศที่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง ดังนั้นใครที่เพิ่งเดินทางมาจากประเทศในแถบทวีปแอฟริกา แล้วมีอาการดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
การใช้ JUST/ YET/ ALREADY
ใครเคยสงสัยไหมคะว่า คำว่า “JUST, YET, ALREADY“ ซึ่งแปลเป็นไทยจะมีความหมายว่า “ยัง, เพิ่งจะ, แล้ว” ตามลำดับ แต่ละคำนั้นมีวิธีการใช้ยังไง เดี๋ยววันนี้รามาดูกันเลยค่า
JUST/ YET/ ALREADY
ปกติแล้วจะใช้กับ Present Perfect Tense
JUST = a short time ago (เวลาที่ลวงไปหยก ๆ เมื่อไมนานนี้ พึ่งเกิดขึ้น) ใช้ในประโยคบอกเลา อธิบายเหตุการณที่พึ่งเกิดขึ้น
โครงสร้าง: have/has + just + V3
ตัวอย่างเช่น
She has JUST arrived
(เธอเพิ่งจะมาถึง)
ALREADY = before you / I expected (เกิดขึ้นแล้ว เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เราคิด)
= ใช้อธิบายเหตุการณที่เกิดขึ้นไปแล้ว ก่อนที่เราคาดการไว้ในประโยคบอกเล่า
โครงสร้าง: have / has + already + V3
ตัวอย่างเช่น
She has ALREADY arrived.
(เธอมาถึงแล้ว)
YET = until now จนถึงปัจจุบัน
- เราใช้ในประโยคปฏิเสธ (ยังไม่ได้…)
- และใช้ประโยคคําถาม (..หรือยัง)
- yet จะอยู่ทายประโยคเสมอ
ตัวอย่างเช่น
She hasn’t arrived YET.
(เธอยังมาไม่ถึง)
Has she arrived YET?
(เธอมาถึงแล้วหรือยัง?)
ถ้าเข้าใจกันแล้ว เดี๋ยวเรามาลองทำแบบฝึกหัดกันค่า
- Don’t come in here with those muddy shoes!! I have __ cleaned this floor!!!
- “Have you called Yasmin to wish her luck for the exam today?” “No, not _ . I’ll do it now!”
- I don’t want to see “Alien 9” at the cinema again. I’ve _ seen it twice.
- I’m sorry. You have __ missed Katie. She left the office about three minutes ago!
- Haven’t you finished that composition for history class _? You started over four hours ago!!
เฉลยคำตอบ
- Just
- Yet
- Already
- Just
- Yet
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
Facebook ประเทศไทย จาก Meta จับมือ 6 พันธมิตร สร้างการตระหนักรู้เท่าทันกลโกงซื้อขายออนไลน์
Facebook ประเทศไทย จาก Meta พร้อมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โคแฟค ประเทศไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกาศความร่วมมือในเฟสสองของแคมเปญ #StayingSafeOnline เพื่อสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาการหลอกลวงผ่านช่องทางซื้อขายออนไลน์ที่มีความรุนแรงมากขึ้น และสนับสนุนให้คนไทยสามารถป้องกันตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงกลโกงของนักต้มตุ๋น
ในปัจจุบัน ผู้คนพึ่งพาช่องทางดิจิทัลเพื่อเชื่อมต่อกับชุมชน ธุรกิจ ครอบครัว และเพื่อนฝูงมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การประกาศความร่วมมือในครั้งนี้ สานต่อการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของ Meta ในแคมเปญ เพื่อช่วยให้คนไทยรู้เท่าทันและเฝ้าระวังด้านความปลอดภัย การตกเป็นเหยื่อบนโลกออนไลน์ทั้งภัยจากสแกมเมอร์และฟิชชิ่ง ฯลฯ ความริเริ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของ We Think Digital Thailand ซึ่งเป็นโครงการเสริมทักษะดิจิทัลของ Facebook ประเทศไทย จาก Meta ที่ได้เปิดตัวและทำงานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562
การเปิดตัวเฟสที่สองของแคมเปญผ่านวิดีโอสั้นที่ให้ความรู้ในหัวข้อเกี่ยวกับภัยหลอกลวงจากช่องทางการซื้อขายออนไลน์ยังสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่มากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาการหลอกลวงผ่านช่องทางซื้อขายออนไลน์ โดยจากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือสพธอ. ในปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทยมีจำนวนผู้ร้องเรียนถึงปัญหาดังกล่าวราว 50,000 ครั้ง และมีการร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ (ผ่านสายด่วน 1212 Online Complaint Center หรือ 1212 OCC) ของ สพธอ. ถึง 17,112 ครั้ง ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม พ.ศ. 2565 โดยมีคำร้องเรียนกว่า 6,613 ครั้ง ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการหลอกลวงบนโลกออนไลน์
นายมีธรรม ณ ระนอง รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า “สิ่งที่เรามักได้รับการรายงานและพบได้บ่อย คือ สั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และไม่ได้รับหรือสินค้าที่ได้รับไม่เหมือนกับรูปภาพสินค้าที่แสดงไว้ มูลค่าความเสียหายของแต่ละบุคคลจะดูเหมือนไม่มาก ประมาณ 300 ถึง 1,000 บาท แต่นักต้มตุ๋นจะใช้จุดนี้หลอกลวงผู้คนจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วก็เปิดบัญชีใหม่ไปเรื่อย ๆ หน้าที่ของเราคือการประสานงานกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ แต่เรามองว่านี่คือการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ สำหรับเรา ประเด็นสำคัญคือการมุ่งแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราได้ลงทุนในโครงการนี้เพื่อให้ความรู้กับคนไทย และปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยจากการตกเป็นเหยื่อ”
พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช. ก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แสดงความคิดเห็นว่า “ในปัจจุบัน อาชญากรรมเกิดขึ้นในรูปแบบที่ไม่สามารถระบุตัวตนของอาชญากร ทั้งยังไม่มีข้อจำกัดด้านพรมแดน ดังนั้นการร่วมมือกับพันธมิตรหลักเชิงกลยุทธ์ทั้งในระดับท้องถิ่นและต่างชาติ จึงเป็นกุญแจสำคัญในการจัดการกับปัญหาอาชญากรรมเหล่านี้ สำหรับผม การให้ความรู้และสนับสนุนให้ประชาชนสามารถดูแลตนเองให้ปลอดภัยบนโลกออนไลน์ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดในการต่อสู้กับปัญหาการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต แคมเปญนี้จึงเป็นอีกช่องทางสำคัญในการสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว”
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง โคแฟค ประเทศไทย เน้นย้ำถึงการดำเนินงานและวิสัยทัศน์ขององค์กรของเธอว่า “โคแฟคเป็นชุมชนที่รวบรวมข้อมูลเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงนั้น เราเชื่อมั่นในการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคมเปญนี้ เพื่อสนับสนุนให้ประชากรยุคดิจิทัลสามารถรับมือกับโลกที่พัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง”
นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข ผู้ช่วยเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แสดงความคิดเห็นว่า “การใช้บริการดิจิทัล โดยเฉพาะในการซื้อขายออนไลน์ เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด และด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ เหล่านักต้มตุ๋นจึงมองเห็นโอกาสในการหลอกลวงเพื่อหาเงินจากผู้คน ปัญหาดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับเราเป็นอย่างมาก และเป็นสาเหตุที่เราต้องการสนับสนุนให้คนไทยมีความตระหนักรู้มากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว และหันมาตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าและผู้ขายก่อนสั่งซื้อสินค้าออนไลน์”
มร. ไมเคิล บัค หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ Facebook ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “ที่ Meta เรามีความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้คนให้สามารถเชื่อมต่อ ค้นหาชุมชน และพัฒนาธุรกิจของพวกเขาให้เติบโตได้อย่างปลอดภัยบนแพลตฟอร์มของเรา ผ่านนโยบาย มาตรการป้องกัน และเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยตลอดช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดที่ผ่านมา คนไทย ซึ่งรวมไปถึงเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ มีความเข้มแข็งอย่างมากในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว การสร้างประสบการณ์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในการค้นหาสินค้าและแบรนด์ที่พวกเขาชื่นชอบและต้องการเชื่อมต่อด้วยบนแพลตฟอร์มของเราจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เราจึงมุ่งเดินหน้าให้ความรู้กับคนไทยผ่านแคมเปญสร้างการตระหนักรู้ #StayingSafeOnline เพื่อปกป้องพวกเขาจากการถูกหลอกลวง เราขอขอบคุณพันธมิตรทุกฝ่ายที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ และช่วยให้เราสามารถส่งต่อองค์ความรู้และดูแลความปลอดภัยให้กับคนไทยบนโลกออนไลน์ได้”
การเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการดูแลความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ในโครงการ #StayingSafeOnline และรายละเอียดหลักสูตรการเรียนรู้ต่าง ๆ ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยชั้นนำจากทีมงานด้านความปลอดภัย ความมั่นคง และนักวิจัยกว่า 35,000 คน ของ Meta โดยเป็นเนื้อหาที่ให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ที่มักพบบ่อยที่สุด และลักษณะทั่วไปของนักต้มตุ๋น เป็นต้น สำหรับเฟสสองของโครงการจะให้ความสำคัญกับหัวข้อ “ความปลอดภัยในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์” โดยการให้เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การซื้อสินค้าและบริการจากผู้ขายออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ การหยุดคิดสักครู่ก่อนซื้อ และวิธีการรายงานการหลอกลวงบน Facebook และ Instagram
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเคล็ดลับดังกล่าว และวิธีการในการเฝ้าระวังผู้ประสงค์ร้ายทางโลกออนไลน์ประเภทต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์โครงการ We Think Digital Thailand ได้ที่ https://wethinkdigital.fb.com/th/th-th/stayingsafeonline/ หรือเพจ Facebook https://www.facebook.com/wtdthailand
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
5 เรื่องลับของเห็ดหูหนูขาว
เห็ดหูหนูขาว มีลักษณะคล้ายแมงกะพรุน สีขาวใสอมเหลือง เมื่อจับดูจะมีเมือกใส เจริญเติบโตได้ดี ในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง ยังเป็นเห็ดอีกหนึ่งชนิด ที่มีข้อจำกัดในการเพาะเลี้ยงสูง มีสรรพคุณทางยา และโภชนาการทางอาหารสูง สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด เช่น นำเห็ดหูหนูขาวแห้ง มาแช่น้ำ และใส่ลงไปในยำ นำเห็ดหูหนูขาวที่ไม่อบกำมะถัน มาตุ๋นเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ เนื่องจาก ในเห็ดหูหนูนั้น มีคุณค่าทางอาหารสูง ประกอบด้วย โปรตีน น้ำตาล ไขมัน ไฟเบอร์ กรดอะมิโน วิตามิน และสารจำเป็นต่างๆ ของร่างกาย
1.เห็ดหูหนูขาวเป็นยา
เห็ดหูหนูขาวนอกจาก จะนำมาประกอบอาหารแล้ว สมัยก่อนเมื่อเกิดโรคระบาด วัณโรค มีอาการไอ้แห้ง ๆ ได้มีการนำเห็ดหูหนูขาว เข้าเสริมทานบำรุง กับยารักษาโรค ซึ่งผลการรักษานั้นดีขึ้นเป็นอย่างมาก
2.เห็ดหูหนูขาวถูกเพาะเลี้ยงในอุณหภูมิ 18 องศา
ในการเพาะเลี้ยงเห็ดหูหนูขาวนั้น ประเทศจีนได้ใช้ห้องเพาะเลี้ยงเห็ดหูหนูขาว อุณหภูมิ 18 องศา ความชื้น 80-90 % ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เย็น และในประเทศไทย ก็มีน้อยมากที่จะสามารถเพาะเลี้ยงได้ หากไม่ใช้ห้องควบคุมอุณหภูมิ
3.เห็ดหูหนูนำมาตุ๋นทานเป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ
เห็ดหูหนูมีสีขาวใส เมื่อนำมาตุ๋นจะกลายเป็นวุ้น เมื่อได้ทาน รสชาติ และเนื้อสัมผัสจะคล้าย ๆ เครื่องดื่มจากรังนก ทั้งนี้สรรพคุณพื้นบานของเห็ดหูหนูขาวเป็นยาอยู่แล้ว ทำให้มีผู้บริโภค และธุรกิจเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทำเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากเห็ดหูหนูขาวบำรุงสุขภาพ แทนวัตถุดิบรังนก ในกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ และกลุ่มโรคมะเร็งที่ต้องการยับยั้ง ไม่ต้องการให้เชื้อในร่างกายเจริญเติบโต จากอาหารที่ทานลงไป
4.ในประเทศไทยต้องนำเข้าจากประเทศจีน
เนื่องจากประเทศจีน เป็นประเทศที่มีสภาพอากาศ ที่เหมาะสมกับการเพาะเห็ดเป็นอย่างมาก และเป็นประเทศลำดับต้น ๆ ในการส่งออกเห็ดทุกชนิด จึงทำให้ประเทศไทยมีการนำเข้ามากกว่าผลิตเอง
5.คนละชนิดกับเห็ดหูหนูดำบ้านเรา
เห็ดหูหนูขาวนั้น เป็นคนละชนิดกับเห็ดหูหนูดำที่เพาะกัน ในประเทศไทย ที่เราใช้ในการประกอบอาหาร มีถิ่นกำเนิด และเป็นคนละตระกูลกัน โดยเห็ดหูหนูขาวโดยเห็ดหูหนูขาวนั้น มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน เมืองจางโจว มณฑลฮกเกี้ยน ซึ่งชาวจีนนั้นได้ใช้เป็นเห็ดสมุนไพร และการเพาะเลี้ยงก็ต่างกันมากโดยสิ้นเชิง
เมื่อท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว ท่านสงสัยไหมคะ ว่าสรุปแล้วเห็ดหูหนูขาวในประเทศไทย คืออันไหนกันแน่ เห็ดหูหนูขาวที่นำเข้าจากประเทศจีน จะเป็นเห็ดหูหนูขาวอบแห้ง จะนำมาจำหน่าย ในร้านต่าง ๆ บรรจุในถุงสีขาวอมเหลือง ในรูปแบบอบแห้ง เมื่อเราซื้อมาแล้ว วิธีการนำมาประกอบอาหาร เช่น ใส่ในยำ ใส่ในกระเพาะปลา อาหารตุ๋นยาจีน เป็นต้น วิธีใช้ เราต้องนำไปแช่ในน้ำ 1-3 น้ำเพื่อให้เห็ดหูหนูขาวนั้น มีความนิ่ม และล้างสิ่งแปลกปลอมออกอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก intrend.trueid.net
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 24/05/2565
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 29,950.00 | 30,050.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,940.00 | 29,410.40 | 30,550.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,746.00 | 26,469.36 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,552.00 | 23,528.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 873.00 | 13,234.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 679.00 | 10,293.64 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,010.00 | 30,471.60 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 24/05/2565
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 43.45 | 43.45 | 44.35 | 43.95 | 44.35 | 43.45 | 43.45 | 42.95 | 43.95 | 43.45 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 43.18 | 43.18 | 44.08 | 43.68 | 44.08 | 43.18 | 43.18 | 42.68 | 43.68 | 43.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 42.34 | 42.34 | 43.24 | 42.84 | 43.24 | – | 42.34 | 41.84 | 42.84 | 42.34 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 36.34 | 36.34 | – | – | – | – | – | – | – | 36.34 |
เบนซิน 95 | 50.86 | – | – | – | 52.21 | – | 51.36 | 50.86 | – | 50.86 |
ดีเซล B7 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล B20 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | – | 31.94 | – | 31.94 | 31.94 | – | 31.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 42.36 | 42.36 | 46.39 | 45.26 | 46.39 | – | – | – | – | 42.36 |
แก๊ส NGV | 15.59 | 15.59 | – | – | – | – | – | – | – | 15.59 |